Share

บทที่ 216

Penulis: โม่เสียวชี่
ฮูหยินหลินพูดพลางส่งสายตาให้เฉียวเนี่ยน

แน่นอนว่าเฉียวเนี่ยนนั้นเข้าใจ พวกเขาคนหนึ่งเล่นไม้แข็ง คนหนึ่งเล่นไม้อ่อนสินะ

ด้วยเหตุนั้น เฉียวเนี่ยนจึงหันไปหาฮูหยินหลินอย่างประหลาดใจ "เหตุใดข้าต้องขอโทษ?"

"เจ้ายังกล้าแสร้งทำเป็นไม่รู้อีกหรือ" ท่านโหวหลินคำรามลั่น "เจ้าเห็นหรือไม่ว่าเจ้าทำยวนเอ๋อร์เจ็บหนักเพียงใด?"

เฉียวเนี่ยนหางคิ้วกระตุก ชำเลืองมองหลินยวนอย่างเย็นชา "นางล้มเอง ไม่เกี่ยวกับข้า"

"เจ้ายังกล้าแก้ตัวอีกหรือ! เซียวเหิงเห็นกับตาว่าเจ้าเป็นคนผลักยวนเอ๋อร์!" ท่านโหวหลินตวาดลั่นอย่างเดือดดาล "พ่อสอนเจ้าตั้งแต่เด็ก ทำผิดมิได้น่ากลัว ที่น่ากลัวคือไม่ยอมรับผิด! เจ้าลืมไปหมดแล้วหรือ!"

เมื่อได้ยินคำพูดนั้น เฉียวเนี่ยนกลับยิ้มออกมา "คนที่ลืมก่อน ไม่ใช่ท่านโหวหรอกหรือ?"

สามปีก่อน หลินยวนทำจานแก้วแตก เหตุใดเขาถึงไม่เห็นตำหนิหลินยวนว่าทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด?

ท่านโหวหลินถูกยอกย้อนจนลมหายใจสะดุด

จากนั้นก็ได้ยินหลินเย่ว์เอ่ยขึ้น "เจ้าอย่าลำเลิกเรื่องเมื่อสามปีกอ่นได้หรือไม่! สามปีก่อนยวนเอ๋อร์เพิ่งกลับมา นางเพิ่งเคยเข้าวังครั้งแรก ทำจากถ้วยแก้วแตก ก็ไม่แปลกหากไม่กล้ายอมรับ? แต่เจ้าเสวยส
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 217

    ประโยคนั้นของเฉียวเนี่ยนทำเอาท่านโหวหลินพูดไม่ออก ราวกับได้ยินคำพูดน่าเหลือเชื่อ "เจ้า เจ้าหมายความว่าอย่างไร? เจ้าคิดจะตัดขาดกับจวนโหวอย่างนั้นหรือ?"บุญคุณที่เลี้ยงดูมาสิบห้าปี นางบอกว่าชดใช้คืนหมดแล้ว?ชดใช้คืนเมื่อใด?เขาเลี้ยงดูตั้งแต่หัวok'ยังไม่เท่ากำปั้นจนกลายเป็นคุณหนูรูปงามแห่งตระกูลสูงศักดิ์ ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจไปเท่าใด นางเอาสิ่งใดมาชดใช้คืน?ท่านโหวหลินเดือดดาลจนสั่นไปทั้งตัวทว่าเฉียวเนี่ยนกลับยังคงสีหน้าเรียบเฉยฮูหยินหลินกลัวว่าเฉียวเนี่ยนจะเอ่ยถ้อยคำเจ็บแสบ จึงรีบเอ่ยแทรกขึ้นในทันใด "ไม่ใช่เช่นนั้นเจ้าค่ะ เนี่ยนเนี่ยนไม่ได้หมายความเช่นนั้น ท่านโหวอย่าได้โมโหไปเลย เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องเข้าใจผิดจริงๆ เนี่ยนเนี่ยน ท่านพ่อเจ้าโกรธเลือดขึ้นหน้าแล้ว เจ้าหยุดพูดเสียที อย่ายั่วโมโหเขา..."ฮูหยินหลินยังไม่ทันพูดจบ เฉียวเนี่ยนก็เอ่ยสวนขึ้นมา "หากไม่ใช่เพราะท่านย่า ท่านคิดว่าข้าอยากจะเป็นลูกสาวของจวนโหวหรือ?"คืนวันนับไม่ถ้วนที่ถูกรังแกยามอยู่กรมซักล้าง นางก็ไม่อยากเป็นลูกสาวของพวกเขาอีกต่อไปน้ำเสียงของนางอ่อนหวานดั่งสายน้ำ แต่กลับเย็นยะเยือกเหมือนธารน้ำแข็งพันปีที่เพ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 218

    ท่านโหวหลินจงใจใช้ถ้อยคำรุนแรง เขาคิดว่าอย่างน้อยก็ทำให้นางได้รู้ว่าเขาเองเป็นคนที่คิดจะตัดขาดพ่อลูกคิดไปเองว่าบางทีนางอาจจะกังวลหรือหวาดกลัวขึ้นมาก็เป็นได้แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เฉียวเนี่ยนกลับค้อมกายคำนับให้เขา "หวังว่าท่านโหวจะทำได้อย่างที่พูด"ประโยคนั้นราวกับมีดแทงลึกลงกลางใจท่านโหวหลินทว่าเฉียวเนี่ยนกลับกวาดมองทุกคนด้วยสายตาเรียบเฉย ก่อนจะเอ่ยขึ้น "หากไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวก่อน" ว่าจบก็หันหลังเดินจากไปจนกระทั่งเดินออกจากประตูห้องของหลินยวนไป เฉียวเนี่ยนถึงได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญของฮูหยินหลินดังลอยออกมาหัวใจพลันรัดรึงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความเจ็บปวดแล่นริ้ว ทำเอานางขมวดคิ้วแน่น แต่สุดท้ายก็นางก็บังคับตัวเองให้ปล่อยผ่านมันไปกระนั้นแล้วนางยังเหลียวกลับไปมองอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อเห็นฮูหยินหลินซบไหล่หลินเย่ว์ร้องไห้สะอื้น ในใจก็พลันสงสัยขึ้นมานางรู้ว่าฮูหยินหลินนั้นเจ้าน้ำตามาแต่ไหนแต่ไร ทว่าในอดีตฮูหยินหลินก็เหมือนพวกท่านโหวหลิน เอาแต่ปกป้องหลินยวนวันนี้ฮูหยินหลินกลับเข้าข้างนางเกิดอะไรขึ้น?เฉียวเนี่ยนไม่เข้าใจ แต่ก็สะบัดความคิดออกจากหัว ก่อนจะหันหลังเดินจากไป

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 219

    ห้าวันต่อมา ณ หอจุ้ยเซียงเฉียวเนี่ยนทำตามที่หลินเย่ว์ มาถึงเมื่อยามเซินวันนี้หอจุ้ยเซียงถูกเหมา คนงานประจำหอจำรถม้าจวนโหวได้ เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนลงจากรถก็รู้ว่าเฉียวเนี่ยนเป็นใคร จึงรีบเข้ามารับในทันใด"คุณหนูใหญ่ขอรับ ท่านโหวน้อยสั่งการไว้แล้ว ให้ข้าน้อยพาคุณหนูใหญ่ไปที่ชั้นสอง" คนงานต้อนรับด้วยไมตรี เดินนำเฉียวเนี่ยนขึ้นไปยังห้องส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดบนชั้นสองคือห้องที่หลินเย่ว์และเซียวเหิงจองเอาไว้ตลอดปีเฉียวเนี่ยนเอ่ยขอบคุณ คนงานจึงถอยออกไปนางผลักประตูแล้วเข้าไปข้างใน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าข้างในห้องจะมีคนอยู่ก่อนแล้วเซียวเหิงนั่งอยู่หัวโต๊ะ บนโต๊ะไม่มีอาหาร มีแต่เหล้าเฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าเขามาทำอะไร ขณะที่กำลังสองจิตสองใจว่าจะเข้าไปดีหรือไม่ ก็ได้ยินเสียงของเซียวเหิงเอ่ยขึ้น "คุณหนูเฉียว นั่งสิ"ยามนั้นหากเฉียวเนี่ยนไม่เข้าไป ก็คงเหมือนหลบหน้าเขาหลังจากสูดหายใจลึก เฉียวเนี่ยนถึงได้ก้าวเข้าไปในห้อง นั่งลงตรงหน้าเซียวเหิงเหยือกเหล้าสองสามเหยือกบนโต๊ะนั้นว่างเปล่า กลิ่นเหล้าคละคลุ้งไปทั่วบรรยากาศ เห็นได้ชัดว่าเซียวเหิงนั้นดื่มไปไม่น้อยแล้วเมื่อเห็นท่าทางการดื่มของเขาก็

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 220

    ใช่ เขาบอกงว่านางทำเกินกว่าเหตุบางทีความทรงจำในอดีตอก็โหดร้ายเกินทน เฉียวเนี่ยนติดแล้วคิดอีกก็นั่งไม่ติดทีนางไม่อยากอยู่กับเซียวเหิงเพียงลำพัง โดยเฉพาะอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยความทรงจำเช่นนี้ขณะกำลังจะหาข้ออ้างปลีกตัวออกไป คิดไม่ถึงเลยว่าเซียวเหิงจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน "คุณหนูเฉียวมีคนที่ถูกใจแล้วหรือไม่?""..."เฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดจู่ๆ เซียวเหิงถึงได้ถามเช่นนี้เมาแล้วอย่างนั้นหรือ?นางไม่ตอบ แต่เซียวเหิงกลับไม่คิดจะปล่อยนางไป ยังคงถามต่อ "ข้ามีรองแม่ทัพผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งนามว่าจิ่งเหยียน คุณหนูเฉียวไม่ถูกใจหรือ?"จนกระทั่งเขาเอ่ยถึงจิ่งเหยียน เฉียวเนี่ยนถึงได้เข้าใจเป้าหมายของเซียวเหิงคงจะมาระบายอารมณ์แทนจิ่งเหยียนสินะ?ในเมื่อก่อนหน้านี้คำที่นางฝากหนิงซวงไปบอกจิ่งเหยียนนั้นช่างแสนเย็นชาไร้หัวใจเซียวเหิงจงใจเน้นย้ำว่าจิ่งเหยียนคือผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา หากเขาจะมาระบายอารมณ์แทนจิ่งเหยียนย่อมสมเหตุสมผลทว่าเฉียวเนี่ยนนั้นไม่ใช่คนเดิมเมื่อสามปีก่อนแล้ว นางไม่มีทางแบกรับในสิ่งที่นางไม่ได้ก่อด้วยเหตุนั้นจึงเลิกคิ้วเอ่ย "เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ข้าจะทำตามใ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 221

    น้ำเสียงตื่นตระหนกที่แทรกขึ้นขัดจังหวะการกระทำของเซียวเหิงทว่าเขายังไม่ยอมคลายฝ่ามือ ไม่แม้แต่จะขยับศีรษะมีเพียงดวงตาดำขลับคู่นั้นที่ค่อยเหลือบไปมองทางประตู แววตานั้นแฝงไปด้วยความขุ่นเคือง ราวกำลังตำหนิที่หลินยวนขัดจังหวะเข้าไ้ด้เข้าเข็มของเขาเป็นครั้งแรกที่หลินยวนเห็นแววตาเช่นนั้นของเซียวเหิง น้ำตาก็พลันไหลพรากในทันทีในตอนนั้นหลินเย่ว์ก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังหลินยวน ถามอย่างสงสัย "เหตุใดถึงไม่เข้าไปเล่า?"เมื่อเงยหน้ามองก็เห็นภาพในห้องส่วนตัวนั้นภาพของทั้งสองที่ใกล้ชิดกันทำเอาหลินเย่ว์เดือดพล่านในทันใดเขาแทบจะพุ่งตัวเข้าไปในห้องทันที ส่งหมัดเข้าใส่เซียวเหิง "ไอ้สารเลว!"เซียวเหิงยอมปล่อยมือเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีของหลินเย่ว์แต่เฉียวเนี่ยนไม่ทันได้ตั้งตัวว่าเซียวเหิงจะปล่อยมือ ร่างทั้งร่างจึงล้มเอนไปด้านหลังท้ายทอยกระแทกลงกับพื้นอย่างแรง เจ็บชะมัดทว่าตอนนั้นไม่มีใครสนใจนางแม้แต่นิดหลินเย่ว์ตะลุมบอนเซียวเหิง ส่วนหลินยวนก็ยังยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตู ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน แต่ก็ไม่ก้าวเข้ามา เอาแต่ร้องไห้อยู่อย่างนั้นโชคดีที่เฉียวเนี่ยนไม่ใช่คุณหนูบอบบางปานนั้นนางตะเกีย

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 222

    เฉียวเนี่ยนพลันขมวดคิ้วน้อยๆ มองหลินเย่ว์อย่างเบื่อหน่ายเรื่องเมื่อครู่ หากมีลูกตาสักหน่อยย่อมมองออกว่านางเป็นฝ่ายถูกกระทำแต่เห็นได้ชัดว่า สองพี่น้องตระกูลหลินไม่มีตาทั้งคู่ขณะกำลังจะเอ่ยปากเถียงนั้น คิดไม่ถึงเลยว่าเซียวเหิงจะชิงพูดขึ้นก่อน "เป็นความผิดของข้าเอง ไม่เกี่ยวกับคุณหนูเฉียว"เขาถึงขั้นรับผิดเองหลินยวนร้องไห้สะอื้นหนักกว่าเดิม "ท่าน ท่านพี่เหิง..."เมื่อครู่นางเอาแต่กล่อมตัวเองว่าเฉียวเนี่ยนเป็นคนผิด เฉียวเนี่ยนเป็นคนยั่วยวนเซียวเหิง นางถึงได้โมโหเฉียวเนี่ยนปานนั้นแต่ยามนี้เซียวเหิงกลับพูดว่าทั้งหมดเป็นความผิดของเขาเองหัวใจเหมือนถูกมีดนับพันเล่มทิ่มแทง หลินยวนสะอื้นไม่หยุด "หากท่านพี่เหิงชอบท่านพี่ ก็...ก็แค่พูดออกมา เดิมการหมั้นหมายนี่ก็เป็นของท่านพี่อยู่แล้ว ข้าเป็นคนแย่งของของท่านพี่ไป ข้าจะคืนให้นางก็ได้! พวกท่านแค่พูดมาตามตรง เหตุใดถึง เหตุใดถึงต้อง... ฮือออ..."พูดถึงประโยคสุดท้ายหลินยวนก็สะอื้นจนไม่เป็นภาษาหลินเย่ว์ปวดใจเหลือทน รีบเข้าไปเช็ดน้ำตาให้หลินยวน "จะเป็นของนางไปได้อย่างไร? นางต่างหากที่แย่งของตัวตนของเจ้าไป! หากไม่ใช่เพราะแม่ของนางใจดำอำมหิต

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 223

    จำคนผิดอย่างนั้นหรือ?หลินเย่ว์ปลอบหลินยวนอยู่นานสองนานก็ยังไม่ดีขึ้น แต่พอได้ยินประโยคนั้น น้ำตาก็พลันหยุดไหลนางเหลียวมามองเซียวเหิงตาละห้อย "ท่านพี่เหิงคิดว่าท่านพี่...เป็นใคร?"หัวใจของเซียวเหิงพลันหนักอึ้งเขาคิดว่าตัวเองพูดอย่างชัดเจนแล้ว หลินยวนไม่ควรถามอีกแต่สำหรับหลินยวนนั้น หลังจากได้เห็นภาพแนบชิดของเซียวเหิงและเฉียวเนี่ยน สิ่งเดียวที่น้องต้องการน้ันคือคำตอบที่ชัดเจนเพียงแต่เซียวเหิงไม่กล้าพูดมันออกมาอากาศราวกับหยุดนิ่งหลินเย่ว์เอ่ยขึ้นในทันใด "ก็ต้องคิดว่าเป็นเจ้าอยู่แล้ว! เป็นไปได้ว่าเซียวเหิงดื่มจนเมามาย คนงานดันมาบอกว่าคุณหนูจวนโหวมาแล้ว เซียวเหิงถึงได้เห็นเฉียวเนี่ยนเป็นเจ้าน่ะสิ"เมื่อพูดถึงเพียงเท่านั้น หลินเย่ว์ก็สะกิดเท้าถีบเซียวเหิงใต้โต๊ะอย่างอดไม่ได้ ทั้งยังพยายามส่งสายตาให้เซียวเหิงสุดชีวิต "ใช่ไหม เซียวเหิง?"เซียวเหิงเหลือบตามองหลินเย่ว์ ก่อนจะส่งเสียง "อืม" ตอบกลับทว่าคนเป็นแม่ทัพ เขามักจะดื่มกับเหล่าทหารเสมอ คอแข็งกว่าหลินเย่ว์นัก วันนี้เหล้าเหยือกเล็กเพียงไม่กี่เหยือก กลับทำเขาเมามายจนตาฟ่าฟาง แต่ก็คงไม่ถึงขั้นจำคนผิดหรอกกระมัง!เว้นเสียแต่เ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 224

    นั่นแปลว่าเขาไม่ได้จำคนผิดแม้แต่นิดเมื่อเห็นสองตาของหลินยวนเบิกโพลงก่อนจะร้องไห้อีกครั้ง ในใจของเฉียวเนี่ยนก็พลันรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อยนางเบ้ปาก ส่งยิ้มให้หลินยวน "ข้าอยู่ในวังมาสามปี เพิ่งออกมาได้ไม่นานฮูหยินหลินก็เร่งเร้าให้ข้าจัดงานแต่งงานเสียที ท่านโหวน้อยเองก็ 'ยินดี' นั่นก็ถูกแล้ว เพราะสิบแปด ก็ไม่ใช่อายุน้อยๆ แล้ว คุณหนูหลินเล่า? หมั้นหมายกับแม่ทัพเซียวมาตั้งนาน เหตุใดถึงยังไม่แต่งเสียที? สามปีที่ผ่านมาไม่มีฤกษ์ดีเลยหรือ? "แทงอะไรก็ไม่เท่าแทงใจดำที่พวกนางไม่ได้แต่งงานกันเสียที่เพราะฮูหยินเฒ่ายืนกรานว่าจะรอเฉียวเนี่ยนกลับมา ถามให้แน่ชัดว่าเฉียวเนี่ยนยินยอมหรือไม่แต่หลินยวนนั้นรู้ดี หากเซียวเหิงตั้งใจจะแต่งงานกับนางจริงๆ ต่อให้มีฮูหยินเฒ่าอีกสิบคนก็ห้ามไม่ได้ที่พวกเขาไม่ไ้ด้แต่งงานกันเสียที จะเป็นเพราะเหตุใดไปได้นอกเสียจากเซียวเหิงไม่อยากแต่ง!ริมฝีปากของหลินยวนสั่นเครือ น้ำตาไหลริน แต่ภาพอันแสนน่าสงสารนี้ ทั้งหลินเย่ว์และเซียวเหิงไม่ได้เห็นนางจ้องหน้าเฉียวเนี่ยน ราวกับสัตว์ป่าตัวน้อยที่พยายามต่อสู้ "ท่านพี่หมายความว่าอย่างไร? ท่านจะบอกว่าในใจของท่านพี่เหิงยังมีท่าน

Bab terbaru

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 496

    "ว่ากันตามจริงแล้ว ข้าควรขอบคุณแม่ทัพเซียวที่ยังจดจําความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับท่านได้ ไม่เช่นนั้นตอนนี้ ข้าคงยังเป็นทาสอยู่ในกรมซักล้าง ข้าขอขอบคุณแม่ทัพเซียวสําหรับความเมตตาของท่าน! แต่ขอเพียงท่านอย่าเลือกตัวเลือกนี้หลังจากชั่งน้ำหนักครั้งแล้วครั้งเล่า บอกว่าเป็นการืำเพื่อข้าอีก"“ข้ารับไม่ไหว”คําสี่คําสุดท้ายนั้น ราวกับค้อนหนักทุบลงบนใจของเซียวเหิงอย่างแรงเซียวเหิงถอยหลังไปก้าวหนึ่ง กลับถูกม้านั่งสะดุดขา โซเซจนเกือบล้มไปข้างหลังอาจเป็นเพราะเสียงนี้ดังไปหน่อย เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์ที่อยู่นอกห้องจึงรีบวิ่งเข้ามาเซียวเหิงตวาดเสียงเข้มทันที "ใครให้พวกเจ้าเข้ามา! ออกไป!"แต่ไม่คิดว่า เฉียวเอ๋อร์และฮุ่ยเอ๋อร์จะคุกเข่าลงพร้อมกัน"ฮูหยิน ท่านให้อภัยท่านแม่ทัพเซียวเถอะ! ท่านแม่ทัพเซียวใส่ใจท่านจริงๆ! เขาได้ยินว่าท่านต้องการพบเขา ก็มาโดยไม่คํานึงถึงอาการบาดเจ็บหนัก!""ใครอนุญาตให้พวกเจ้าพูดมาก? ไสหัวไป!"เซียวเหิงตวาดเสียงเข้มอีกครั้งเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ยังอยากจะเกลี้ยกล่อมอีก พวกนางทนเห็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตตัวเองน่าเวทนาเช่นนี้ไม่ได้ แต่เมื่อสบเข้ากับดวงตาคู่นั้นของเซ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 495

    แผลเป็นเหล่านั้นราวกับกำลังเป็นพยานให้กับเซียวเหิง ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาใส่ใจนางเพียงใดน้ำตาก็เอ่อล้นขึ้นมาในดวงตาของเฉียวเนี่ยนโดยไม่รู้ตัวนางยื่นมือออกไป ลูบเบา ๆ ลงบนแผลเป็นบริเวณอกของเขา ปลายนิ้วของนางเย็นเฉียบราวกับอาวุธอยู่ ๆ นางก็เอ่ยขึ้นมาเสียงเบา "เจ็บไหม?"คิ้วของเซียวเหิงกระตุกขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัวเจ็บไหม?สองพยางค์นี้ นางเคยถามจิ่งเหยียนมาก่อนเขาเห็นกับตาว่าหลังจากนั้น นางกับจิ่งเหยียนโอบกอดกันแนบแน่นเพียงใด เพราะเหตุนี้ เวลานี้จึงมีอารมณ์บางอย่างที่ไม่อาจเอ่ยออกมาจุกอยู่กลางอก จนไม่อาจเปล่งถ้อยคำใดออกมาได้เลยแม้แต่คำเดียวแต่แล้วก็เห็นนางเงยหน้าขึ้นมามองเขากะทันหัน ท้ายที่สุดน้ำตาในดวงตาก็ไหลรินลงมาเสียงเบา ๆ อ่อนโยนนั้นเอ่ยว่า "จิ่งเหยียน… ต้องเจ็บมากแน่ ๆ เลย"เพราะนางเห็นกับตา ว่าบนร่างของจิ่งเหยียนตรงตำแหน่งนี้ มีรูขนาดใหญ่ทะลุเป็นโพรงเหล่าทหารกล่าวว่า นั่นคือบาดแผลจากดาบที่จิ่งเหยียนรับไว้แทนเซียวเหิง แทงทะลุผ่านร่างกายนางคิดว่า ตอนนั้นจิ่งเหยียนคงเจ็บมาก เจ็บมากจริง ๆเซียวเหิงไม่เคยคาดคิดเลยว่า เวลานี้ เวลาที่นางกำลังมองแผลเป็นทั่วร่างของเขา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 494

    "..."เฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าเฉียวเอ๋อร์กับฮุ่ยเอ๋อร์ไปพูดสิ่งใดกับเซียวเหิง แต่เห็นได้ชัดว่าเซียวเหิงกำลังเข้าใจผิดคิ้วเรียวงามของนางขมวดแน่น เฉียวเนี่ยนเอ่ยเสียงขรึม "ท่านต้องการอะไรกันแน่? เหตุใดต้องกักข้าทิ้งไว้ที่นี่?"รอยยิ้มบนใบหน้าของเซียวเหิงชะงักไปชั่วขณะ แต่ยังคงฝืนรักษารอยยิ้มอ่อนโยนไว้ ดวงตาสีเข้มลึกฉายแสงจากเปลวเทียน แวววาวนัก"นี่มิใช่การกักขัง ข้าเพียงแค่… อยากให้เราสองคน… มีโอกาสอีกครั้ง"โอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหนึ่งแต่ว่าดวงตาของเฉียวเนี่ยนกลับยิ่งหม่นมัว นางมองเซียวเหิง ปากยกยิ้มเย้ยหยัน "โอกาสหรือ? เมื่อสามปีก่อน แม่ทัพเซียวก็หาได้เคยให้โอกาสข้าไม่"เมื่อสามปีก่อน พวกเขาทั้งหมดต่างยืนอยู่ข้างหลินยวน กระทั่งคำแก้ตัวของนาง ก็ยังถูกสายตาอันดุดันของเขาบีบให้กลืนกลับลงไปหากสามปีก่อนเขาไม่ต้องการนางแล้ว เช่นนั้นเหตุใดสามปีให้หลังยังจะมากักนางไว้อีก!เมื่อได้ยินนางพูดถึงเรื่องในอดีตเมื่อสามปีก่อน หัวใจของเซียวเหิงก็เจ็บปวดราวกับถูกกรีดด้วยมีดเขาก้าวเข้าไปใกล้นาง แต่ก็เห็นนางถอยกรูดไปสามก้าวทันที มือที่กำปิ่นปักผมไว้แน่นก็ยกขึ้นเตรียมป้องกันตัวเขาจึงหยุด

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 493

    สามวันต่อมาเฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ใต้ชายคา ข้างซ้ายมีสาวใช้กำลังแกะเมล็ดแตงให้กับนาง ข้างขวามีสาวใช้อีกคนกำลังหั่นแตงโมให้นางสามวันแล้ว แต่นางกลับยังไม่ได้พบกับเซียวเหิงเลยกลับกัน ตอนนี้นางกลับคุ้นเคยกับสองสาวพี่น้องคู่นี้เป็นอย่างดีทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ฝั่งซ้ายชื่อเฉียวเอ๋อร์ ฝั่งขวาชื่อฮุ่ยเอ๋อร์สองนางมิใช่คนเมืองหลวง บ้านเกิดอยู่ไกลถึงชายแดนเมื่อครั้งอดีต เซียวเหิงช่วยชีวิตสองนางจากสนามรบ ญาติพี่น้องทั้งหมดล้วนเสียชีวิตเพราะสงคราม สองนางจึงติดตามเซียวเหิงกลับเมืองหลวงสำหรับสองนาง เซียวเหิงคือผู้มีพระคุณช่วยชีวิต จึงเชื่อฟังเซียวเหิงทุกถ้อยคำแน่นอนว่าย่อมเคารพนบนอบต่อเฉียวเนี่ยนด้วยตลอดสามวันที่ผ่านมา ทั้งสองดูแลนางอย่างสุดความสามารถ ว่านอนสอนง่ายเป็นพิเศษ เพียงแต่ไม่ยอมบอกนางว่าที่นี่คือที่ใดหากเซียวเหิงไม่อนุญาต พวกนางจะไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับที่แห่งนี้แม้แต่น้อยไม่ใช่เฉียวเนี่ยนไม่เคยลองใช้วิธีอื่น สามวันมานี้นางเดินสำรวจทั่วทั้งจวน ทว่ากลับไม่พบเบาะแสที่เป็นประโยชน์เลยแม้แต่น้อยไม่ว่าจะเป็นประตูหน้าหรือประตูหลัง ล้วนถูกผนึกไว้อย่างแน่นหนา

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 492

    แต่แล้วก็เห็นว่า ร่างของเซียวเหิงเอียงวูบไปด้านข้าง นอนแน่นิ่งไป เขาหมดสติไปแล้วแม่เซียวตกใจสุดขีด รีบร้องลั่น "เร็วเข้า! รีบไปตามหมอมา! เหิงเอ๋อร์ เหิงเอ๋อร์! อย่าทำให้แม่ตกใจแบบนี้นะ เหิงเอ๋อร์!"เด็กรับใช้ข้างนอกรีบเข้ามา แล้วช่วยกันหามร่างของเซียวเหิงออกไปทันทีแม่เซียวก็ร้องไห้ตามออกไปทั้งน้ำตาพ่อเซียวมองดูรอยเลือดที่ยังติดอยู่บนแส้ ในใจพลันปวดร้าว สายตาหันไปมองหนิงซวงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วก็ทำได้แค่ถอนหายใจ "ไม่ใช่ว่าข้าไม่คิดจะช่วยเรื่องนี้ เพียงแต่เมื่อครู่ เจ้าก็เห็นกับตาแล้ว... เจ้ากลับไปก่อนเถอะ!"พูดจบ พ่อเซียวก็เดินจากไปทิ้งไว้เพียงหนิงซวงที่ยังยืนร้องไห้อยู่กับที่อย่างไร้ที่พึ่งนางไม่คิดเลยว่าแม่ทัพเซียวจะปากแข็งถึงเพียงนี้ ถึงขนาดยอมถูกตีจวนตายก็ไม่ยอมเอ่ยถึงเบาะแสของคุณหนูเลยสักคำแต่ถ้าคนที่พาตัวคุณหนูไปคือแม่ทัพเซียว เช่นนั้นคุณหนูของนางก็คงยังไม่มีอันตรายถึงชีวิตใช่ไหม?หากนายท่านเองยังไม่มีวิธีจัดการแม่ทัพเซียว เช่นนั้น บางทีคุณชายใหญ่อาจจะทำอะไรได้บ้างก็เป็นได้?หนิงซวงตัดสินใจว่าจะรอให้คุณชายใหญ่ฟื้นก่อนค่อยมาถาม……เฉียวเนี่ยนลืมตาขึ้นช้า ๆ สิ่งแรก

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 491

    หนิงซวงก็เห็นรอยขีดข่วนบนลำต้นไม้เช่นกันนางรีบลุกขึ้นยืน คว้าชายแขนเสื้อของหวังเอ้อไว้แน่น "ต้นเหมยแดงต้นนี้รองแม่ทัพจิ่งเป็นคนปลูกเอาไว้ คุณหนูไม่มีทางทำร้ายมันเด็ดขาด! หวังเอ้อ ทำยังไงดี! คุณหนูต้องถูกใครจับตัวไปแน่ ๆ !"รอยขีดนี้ ต้องเป็นรอยที่คุณหนูทิ้งไว้ตอนดิ้นรนขัดขืนแน่ ๆ !หวังเอ้อเองก็ร้อนใจเช่นกัน แต่ก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว "เจ้าจงไปแจ้งข่าวให้ตระกูลเซียว ข้าจะไปหาท่านโหวน้อยที่จวนโหว!"แม้ว่าคุณหนูจะตัดขาดความสัมพันธ์กับจวนโหวแล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เขาเชื่อว่าท่านโหวน้อยต้องยื่นมือเข้าช่วยแน่ส่วนตระกูลเซียว แม้ว่าคุณหนูของนางจะหย่าขาดกับคุณชายใหญ่ไปแล้ว ทว่าเพิ่งจะกลับมาได้ไม่นาน คิดว่าตระกูลเซียวคงไม่เพิกเฉยแน่นอนไม่อย่างนั้นแล้ว ลำพังเขากับหนิงซวงแค่สองคน จะไปช่วยคุณหนูได้อย่างไรกัน?เมื่อได้ฟังเช่นนั้น หนิงซวงก็พยักหน้ารัว ๆ แล้วรีบปาดน้ำตา ก่อนจะวิ่งออกจากจวนไปอย่างเร่งรีบไม่นานนัก นางก็วิ่งไปถึงตระกูลเซียว พอเห็นพ่อเซียวกับแม่เซียว ก็ทรุดลงคุกเข่าในทันที "นายท่าน ฮูหยิน ได้โปรดช่วยคุณหนูของข้าด้วยเถิด! คุณหนูของข้าถูกคนจับตัวไปแล้ว!"เมื่อได้ยิ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 490

    เขาไม่คาดคิดเลยว่าตนเองจะได้รับความไว้วางใจจากคุณหนูใหญ่ถึงเพียงนี้จึงพยักหน้าแรง ๆ หลายครั้ง "เช่นนั้นบ่าวจะไปเตรียมการเดี๋ยวนี้ คุณหนูวางใจได้ ภายในสามวันเรื่องนี้ต้องแล้วเสร็จแน่นอน จะไม่ขาดไปแม้แต่ตำลึงเดียวขอรับ"เมื่อได้ยินดังนั้น เฉียวเนี่ยนจึงยิ้มแย้มอย่างงดงาม "ดี"หวังเอ้อจึงคำนับแล้วถอยออกไปขณะเดียวกันใจของเฉียวเนี่ยนก็พลันจมดิ่งลงสู่หุบเหวคำพูดของแม่เซียวเมื่อครู่นั้นยังคงก้องอยู่ข้างหูโดยเฉพาะประโยคนั้นที่ว่า 'ดาวกาลกิณีไร้คู่ ไร้วิธีแก้ไข' ช่างราวกับมีดเล่มหนึ่งที่คอยเฉือนนางอย่างไม่หยุดยั้งผู้คนที่นางใกล้ชิดที่สุดต่างทยอยจากนางไปทีละคนแต่แม่เซียวกลับบอกนางว่า ทุกสิ่งล้วนเป็นเพราะตัวนางเองเจ็บปวดราวกับหัวใจถูกฉีกออกเป็นริ้ว ๆเฉียวเนี่ยนกำหมัดแน่น สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังสวนดอกไม้ต้นเหมยแดงต้นนั้น บัดนี้หาได้เป็นเพียงต้นเปล่าโล้นเช่นก่อนออกเรือนไม่มันแตกหน่อใบเขียวออกมาแล้ว ที่ปลายกิ่งเต็มไปด้วยชีวิตชีวาอันเจิดจ้าจนถึงเวลานี้ ความเจ็บปวดที่แน่นอัดในอกของเฉียวเนี่ยนจึงคล้ายจะทุเลาลงบ้างนางเดินมาหยุดใต้ต้นไม้ ลูบไล้ลำต้นอย่างแผ่วเบา ภ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 489

    เฉียวเนี่ยนพูดจบก็เตรียมจะเดินออกไป แต่ไม่คาดคิดว่าแม่เซียวกลับรีบคว้ามือของนางไว้ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึก"เนี่ยนเนี่ยน แม่ก็เห็นเจ้ามาตั้งแต่เล็กจนโต... แม่ผิดเอง กำไลนี้..." แม่เซียวพูดพลางยื่นกำไลข้อมือของตัวเองมาให้เฉียวเนี่ยนแต่ยังไม่ทันได้สวมให้เฉียวเนี่ยน ก็ถูกห้ามไว้เสียก่อนเฉียวเนี่ยนจับมือของแม่เซียวไว้ แล้วยิ้มบาง ๆ "ท่านป้าไม่ต้องทำเช่นนี้หรอกเจ้าค่ะ ข้าเองก็จะไปอยู่แล้ว ตอนนี้แค่เร็วกว่าที่คิดไว้เล็กน้อยเท่านั้นเอง สำหรับกำไลนี้ ข้ารับไว้ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ"ยิ่งไปกว่านั้น บนข้อมือของนางเองก็มีกำไลหยกอยู่แล้วแม้มันจะไม่ค่อยสวย แต่สำหรับนางแล้วมันมีค่ามากยิ่งนักนางไม่อาจถอดกำไลนั้นออกมาเพื่อใส่กำไลอีกอันหนึ่งได้เฉียวเนี่ยนค่อย ๆ ดึงมือของตัวเองออก แล้วหมุนตัวกลับไป โดยไม่หยุดแม้แต่นิดเดียวหนิงซวงเห็นเฉียวเนี่ยนเดินออกมา ก็รีบเร่งฝีเท้าตามไปอย่างรวดเร็วทว่าไม่คาดคิดว่าเฉียวเนี่ยนกลับไม่พูดอะไรสักคำ เดินตรงไปข้างหน้าอย่างเงียบงันหนิงซวงจึงไม่ได้กล้าถามอะไรมาก เพียงเร่งฝีเท้าตามหลังอย่างกระชั้นชิดใครจะไปคิดว่า เดินตามไปเรื่อย ๆ สุดท้ายกลับมาหยุดอยู่ที่เร

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 488

    แม่เซียวกลับค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน แล้วทำท่าจะคุกเข่าลงต่อหน้าเฉียวเนี่ยนเฉียวเนี่ยนตกใจยิ่ง รีบเข้าไปประคองไว้ก่อนที่หัวเข่าของแม่เซียวจะแตะพื้น "ท่านแม่จะทำเช่นนี้ไปเพื่อสิ่งใดกันเจ้าคะ?!"แม่เซียวที่ลุกขึ้นยืนแล้ว น้ำตาไหลนองเต็มใบหน้า"เนี่ยนเนี่ยน เป็นตระกูลเซียวของเราที่ล่วงเกินเจ้า แต่ข้าก็จนปัญญาจริง ๆ บอกตามตรงนะ ตอนที่ข้าได้ยินข่าวลือจากข้างนอก ข้าก็นำวันเดือนปีเกิดของเจ้าไปให้มหาเถระฉือเอินที่วัดฝ่าหัวดู เดิมทีก็แค่อยากให้ท่านมหาเถระช่วยชี้แนะหาทางแก้ไข ทว่าในกระดาษพยากรณ์ที่ท่านส่งกลับมา มีเพียงว่า ดาวกาลกิณีไร้คู่ ไม่มีทางแก้ไข!"แม่เซียวทั้งร้องไห้ทั้งพูด เสียงสั่นสะอื้นฟังดูเวทนายิ่งนักส่วนเฉียวเนี่ยนนั้น ถึงกับยืนตะลึงนิ่งงันนางคือดาวกาลกิณีไร้คู่เช่นนั้นหรือ?ถึงได้ทำให้คนรอบตัวที่นางรักต้องจากไปทีละคนเช่นนี้งั้นหรือ?กลางอกปวดร้าวราวกับถูกมีดกรีดแทง ในชั่วขณะนั้น เฉียวเนี่ยนรู้สึกราวกับแม้แต่การหายใจก็เป็นเรื่องยากยิ่งแต่แม่เซียวก็ยังคงสะอื้น พลางปาดน้ำตาไปด้วย "เดิมทีข้าคิดว่า หากเหอเอ๋อร์ไม่เป็นอะไร กระดาษพยากรณ์นี้ก็คงไม่น่าเชื่อถือ แต่ตอนนี้…"เฉียวเนี่ยน

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status