จำคนผิดอย่างนั้นหรือ?หลินเย่ว์ปลอบหลินยวนอยู่นานสองนานก็ยังไม่ดีขึ้น แต่พอได้ยินประโยคนั้น น้ำตาก็พลันหยุดไหลนางเหลียวมามองเซียวเหิงตาละห้อย "ท่านพี่เหิงคิดว่าท่านพี่...เป็นใคร?"หัวใจของเซียวเหิงพลันหนักอึ้งเขาคิดว่าตัวเองพูดอย่างชัดเจนแล้ว หลินยวนไม่ควรถามอีกแต่สำหรับหลินยวนนั้น หลังจากได้เห็นภาพแนบชิดของเซียวเหิงและเฉียวเนี่ยน สิ่งเดียวที่น้องต้องการน้ันคือคำตอบที่ชัดเจนเพียงแต่เซียวเหิงไม่กล้าพูดมันออกมาอากาศราวกับหยุดนิ่งหลินเย่ว์เอ่ยขึ้นในทันใด "ก็ต้องคิดว่าเป็นเจ้าอยู่แล้ว! เป็นไปได้ว่าเซียวเหิงดื่มจนเมามาย คนงานดันมาบอกว่าคุณหนูจวนโหวมาแล้ว เซียวเหิงถึงได้เห็นเฉียวเนี่ยนเป็นเจ้าน่ะสิ"เมื่อพูดถึงเพียงเท่านั้น หลินเย่ว์ก็สะกิดเท้าถีบเซียวเหิงใต้โต๊ะอย่างอดไม่ได้ ทั้งยังพยายามส่งสายตาให้เซียวเหิงสุดชีวิต "ใช่ไหม เซียวเหิง?"เซียวเหิงเหลือบตามองหลินเย่ว์ ก่อนจะส่งเสียง "อืม" ตอบกลับทว่าคนเป็นแม่ทัพ เขามักจะดื่มกับเหล่าทหารเสมอ คอแข็งกว่าหลินเย่ว์นัก วันนี้เหล้าเหยือกเล็กเพียงไม่กี่เหยือก กลับทำเขาเมามายจนตาฟ่าฟาง แต่ก็คงไม่ถึงขั้นจำคนผิดหรอกกระมัง!เว้นเสียแต่เ
นั่นแปลว่าเขาไม่ได้จำคนผิดแม้แต่นิดเมื่อเห็นสองตาของหลินยวนเบิกโพลงก่อนจะร้องไห้อีกครั้ง ในใจของเฉียวเนี่ยนก็พลันรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อยนางเบ้ปาก ส่งยิ้มให้หลินยวน "ข้าอยู่ในวังมาสามปี เพิ่งออกมาได้ไม่นานฮูหยินหลินก็เร่งเร้าให้ข้าจัดงานแต่งงานเสียที ท่านโหวน้อยเองก็ 'ยินดี' นั่นก็ถูกแล้ว เพราะสิบแปด ก็ไม่ใช่อายุน้อยๆ แล้ว คุณหนูหลินเล่า? หมั้นหมายกับแม่ทัพเซียวมาตั้งนาน เหตุใดถึงยังไม่แต่งเสียที? สามปีที่ผ่านมาไม่มีฤกษ์ดีเลยหรือ? "แทงอะไรก็ไม่เท่าแทงใจดำที่พวกนางไม่ได้แต่งงานกันเสียที่เพราะฮูหยินเฒ่ายืนกรานว่าจะรอเฉียวเนี่ยนกลับมา ถามให้แน่ชัดว่าเฉียวเนี่ยนยินยอมหรือไม่แต่หลินยวนนั้นรู้ดี หากเซียวเหิงตั้งใจจะแต่งงานกับนางจริงๆ ต่อให้มีฮูหยินเฒ่าอีกสิบคนก็ห้ามไม่ได้ที่พวกเขาไม่ไ้ด้แต่งงานกันเสียที จะเป็นเพราะเหตุใดไปได้นอกเสียจากเซียวเหิงไม่อยากแต่ง!ริมฝีปากของหลินยวนสั่นเครือ น้ำตาไหลริน แต่ภาพอันแสนน่าสงสารนี้ ทั้งหลินเย่ว์และเซียวเหิงไม่ได้เห็นนางจ้องหน้าเฉียวเนี่ยน ราวกับสัตว์ป่าตัวน้อยที่พยายามต่อสู้ "ท่านพี่หมายความว่าอย่างไร? ท่านจะบอกว่าในใจของท่านพี่เหิงยังมีท่าน
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม หลินเย่ว์กับเซียวเหิงถึงได้กลับที่ห้องมาพร้อมกันเมื่อเห็นว่าในห้องมีเหลือเพียงเฉียวเนี่ยน หลินเย่ว์ก็อดตกใจไม่ได้ "ยวนเอ๋อร์เล่า?"เฉียวเนี่ยนรินชาให้ตัวเองอย่างอ้อยอิ่ง "ไปแล้ว""ไปไหน?" หลินเย่ว์ถามในทันใดแต่เฉียวเนี่ยนกลับยักไหล่ "ข้าไม่ใช่หนอนในท้องคุณหนูหลิน จะรู้ได้อย่างไรว่านางไปที่ไหน?""เจ้า!" เฉียวเนี่ยนทำหลินเย่ว์โมโหจนหัวใจเต้นระรัว แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเป้าหมายของวันนี้คือหาคู่ให้เฉียวเนี่ยน จึงจำยอมปล่อยผ่าน "ช่างเถิด แขกมากันครบแล้ว งานใกล้จะเริ่มแล้ว หากไม่มีอะไร เจ้าลองมาดูสักหน่อย"ว่าจนก็หันหลังเดินนำออกไปก่อนเฉียวเนี่ยนดื่มชาในมือของตัวเอง ก่อนจะลุกยืนขึ้นแล้วเดินตามออกไปอย่างไม่รีบร้อนแต่คิดไม่ถึงเลยว่ายามเดินผ่านเซียวเหิง เขาจะรั้งนางเอาไว้"เจ้าพูดอะไรกับนาง?"น้ำเสียงทุ้มต่ำนั้นแฝงไปด้วยความร้อนรน แตกต่างจากยามซักไซ้นางเพราะฤทธิ์เหล้ามือครู่อย่างชัดเจนเฉียวเนี่ยนตกใจอย่างอดไม่ได้เขาพอเดาออกว่านางพูดอะไรออกไปเซียวเหิงอ่านนางออกอย่างทะลุปรุโปร่ง หรือว่าเข้าใจหลินยวนเป็นอย่างดีกันแน่?แต่เฉียวเนี่ยนไม่มีกะจิตกะใจจะคิดเรื่องเห
ร้อยยิ้มที่มาจากใจจริง แถมยังแฝงไปด้วยความชื่นชม...เพราะเหตุใดกัน?เซียวเหิงไม่เข้าใจหลินเย่ว์ที่อยู่ข้างกันเห็นแล้วก็ยิ่งเดือดพล่านในเมื่อเฉียวเนี่ยนเห็นจิ่งเหยียนวิ่งวุ่นอยู่กลางโถงแล้วยังไม่รู้สึกอะไร เช่นนั้นแล้วเขาคงต้องราดน้ำมันลงบนกองไฟด้วยเหตุนั้นเขาถึงไปส่งสายตาไปยังมุมหนึ่งของโถงใหญ่ตรงนั้นมีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ คอยมองขึ้นไปบนชั้นสองเป็นระยะเมื่อเห็นหลินเย่ว์มองมาทางตนเอง เขาก็เหมือนรับสัญญาณอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นก็กวักมือเรียกจิ่งเหยียน "เอ้ย นั่นน่ะ มานี่หน่อย!"เมื่อได้ยินเสียงนั้น เฉียวเนี่ยนก็หันไปมองทางชายผู้นั้น สีหน้าก็พลันบึ้งตึงนั่นคือสวีหวาชิงคนที่ทำให้นางเกือบจมน้ำตาย!คิดไม่ถึงเลยว่าหลังจากนางตบหน้าหลินเย่ว์คราวนั้น หลินเย่ว์ยังเชิญเขามาอีก!เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้ว ถลึงตามองหลินเย่ว์หลินเย่ว์สัมผัสได้ถึงสายตาพิฆาตของเฉียวเนี่ยนที่มองมา แต่สองตาของเขาเอาแต่จับจ้องอยู่ที่ชั้นล่าง ราวกับมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้นทันใดนั้นเองจิ่งเหยียนก็เดินไปหาสวีหวาชิงคิดไม่ถึงเลยว่ายังทันได้พูดกี่ประโยค สวีหวาชิงก็ลุกพรวดขึ้นแล้วสาดอาหารใส่จิ่งเหยียนจิ่งเหยียนตั้
เฉียวเนี่ยนสีหน้าเรียบเฉยนางรั้งจิ่งเหยียนเอาไว้ แต่ตัวเองกลับกำเศษอาหารบนพื้นขึ้นมาจิ่งเหยียนตื่นตกใจ คิดว่าเฉียวเนี่ยนจะกินแทนเขา ขณะกำลังจะห้าม คิดไม่ถึงเลยว่าเฉียวเนี่ยนจะยัดอาหารในมือใส่ปากสวีหวาชิงสวีหวาชิงถอยหลังหลบในทันใด แต่เศษอาหารยังคงเปรอะไปทั่งทั้งหน้าเขาเขาเป็นถึงลูกชายเจ้ากรมอากร เคยอับอายขายขี้หน้าเช่นนี้เสียที่ไหน?สวีหวาชิงเดือดพล่าน "เจ้าเป็นใคร ถึงได้กล้าลงมือกับคุณชายเช่นข้า!""ข้าคือบรรพบุรุษเจ้ากระมัง!" เสียงของเฉียวเนี่ยนไม่ได้ดังนั้น แต่ดังพอให้ทุกคนในที่นั้นได้ยินอย่างชัดเจนไม่มีหญิงใดในเมืองหลวงที่กล้าพูดจาเช่นนี้กับสวีหวาชิง ทันใดนั้นทุกคนต่างมองมาที่เฉียวเนี่ยนแต่ก่อนสวีหวาชิงเคยเห็นเฉียวเนี่ยนจากไกล แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็รเฉียวเนี่ยนในระยะประชิด เขาจ้องมองนางอยู่นานกว่าจะนึกออก "อ๋อ ข้าก็นึกว่าใคร! ที่แท้ก็คุณหนูใหญ่จวนโหวนี่เอง!"เขายิ้มพลางส่งสายตาไปทางจิ่งเหยียนก่อนจะเอ่ย "ข้าขอพูดอะไรได้หรือไม่คุณหนูเฉียว?"เขาอยากจะบอกเฉียวเนี่ยนว่า วันนี้หลินเย่ว์ไหว้วานให้เขามาสั่งสอนจิ่งเหยียนโดยเฉพาะ ขอเฉียวเนี่ยนอย่าได้เข้ามายุ่งแต่เฉียวเนี
ทันใดนั้นก็มีคนเอ่ยสมทบ "ใช่แล้ว หากไม่เห็นแก่หน้าจวนโหว ข้าคงไม่มาหรอก""แม่ข้าบังคับให้ข้ามาให้ได้ บอกว่าไปให้คนดูเยอะสักหน่อย""อันที่จริงแบบนางน่ะ ข้าไม่สนใตหรอก ก็แค่มีชื่อจวนโหวห้อยท้ายก็เท่านั้น""ว่าตามตรงก็เป็นแค่ลูกเลี้ยง เอาเป็นว่าแม่ข้าไม่ถูกใจหรอก"ทันใดนั้นเหล่าแขกเหรื่อคนหนึ่งพูดทีอีกคนหนึ่งก็พูดที เหยียบย่ำเฉียวเนี่ยนจนแทบจมดินบนชั้นสอง สีหน้าของหลินเย่ว์และเซียวเหิงเคร่งเครียดจนหน้าสะพรึงกลัวหลินเย่ว์กำราวระเบียงตรงหน้าแน่น สองตามองเฉียวเนี่ยนลุกเป็นไฟ เขารู้ว่างานวันนี้ของเขาพังไม่เป็นท่าแล้วจิ่งเหยียนนั้นเดือดดาลยิ่งกว่า เฉียวเนี่ยนสัมผัสได้ว่าท่อนแขนที่นางรั้งเอาไว้ยามนี่แข็งกร้าวดังเหล็กกล้าเพราะเกรงว่าจิ่งเหยียนจะเลือดขึ้นหน้าทำเรื่องผลีผลามลงไป เฉียวเนี่ยนจึงรีบหันกลับมาแล้วส่งยิ้มอ่อนโยนให้เขาจิ่งเหยียนชะงักไปเขาคิดไม่ถึงเลยว่ายามนี้เฉียวเนี่ยนยังจะส่งยิ้มอ่อนโยน แสนนุ่มนวลให้เขานั่นเหมือนกับหยาดน้ำอันแสนอบอุ่น โชลมไฟที่ลุกโชนในใจเขาให้ดับมอดลงทว่านั้นกลับทำให้เขาปวดใจยิ่งกว่าเดิมทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของนาง แล้วเหตุใดนางถึงต้องแบกรับทุกสิ่
เหล่าชายเจ้าสำราญที่กินดื่มเมามายทุกวันมีหรือจะเคยเห็นรังสีอำมหิตอันโหดเหี้ยมปานนี้ทันใดนั้นทุกก็พลันหวาดผวาต่อให้คนที่นอนแน่นิ่งเลือดไหลไม่หยุดอยู่บนพื้น ก็ไม่ใครสนใจอาการเขาสักคนแม้แต่หลินเย่ว์และเซียวเหิงบนชั้นสองก็สีหน้าเคร่งเครียด ไม่เอ่ยแม้สักคำสวีหวาชิงย่อมตื่นตกใจ แต่อาจเป็นเพราะประโยคนั้นของจิ่งเหยียนเจาะจงไปที่เขา ราวกับว่าคำขู่นั้นบอกเขาเพียงแค่คนเดียว จึงรู้สึกอับอายเหลือทนสวีหวาชิงเองก็ไม่รู้ว่ากินดีหมีที่ไหนมา ถึงได้กล้าคำรามลั่น "สามหาว! เจ้ากล้าลงมือทำร้ายผู้อื่น! ทุกคนที่นี่ต่างมาจากตระกูลสูงศักดิ์ หากเจ้ากล้าแตะต้องพวกข้าสักคน ข้าจะแจ้งความเจ้า สั่งเขาสิบแปดปี!""ก็ย่อมได้!" จิ่งเหยียนสีหน้าถมึงทึง จ้องสวีหวาชิงไม่วางตา น้ำเสียงทุ้มต่ำจนน่าสะพรึงกลัว "นางเอาชีวิตชาติหมาอย่างเจ้ามาได้ ต่อให้วันนี้ข้าแซ่จิ่งต้องตายก็ไม่เสียดาย!"ได้ยินดังนั้นจิ่งเหยียนก็เดินเข้าไปหาสวีหวาชิงสวีหวาชิงถอยกรูในทันใด จนเก้าอี้ด้านหลังล้มลง ร่างทั้งร่างหงายหลังลงไปด้วยสภาพน่าอนาถนักสองตาเย็นชาดุจน้ำแข็งของจิ่งเหยียนก็หันไปกวาดตามองคนอืายเขายังไม่ทันพูดแม้สักประโยค เพียงแค
เมื่อว่าจบก็ก้าวถอยไปอีกทางเจ้าระวังตัวด้วยเพียงแค่ประโยคสั้นๆ ไม่กี่คำ แต่กลับหยั่งลึกลงไปในใจของจิ่งเหยียนต่อให้ถูกคนห้อมล้อม สถานการณ์อันตรายเพียงใด มุมปากที่ยกยิ้มของจิ่งเหยียนก็ยังหุบไม่ลงแต่สายตาของบรรดาคุณชาย รอยยิ้มนั้นเหมือนกับคำท้าทายจากนั้นก็ได้ยินเสียงคำรามของชิวอวี่ "ฆ่ามันให้ตาย!"ทุกคนรุมล้อมพุ่งเข้าใส่จิ่งเหยียนทว่าชั้นบน หลินเย่ว์และเซียวเหิงยังคงไม่ขยับไปไหนจิ่งเหยียนมือเท้าว่องไวเขาร่วมฟาดฟันศัตรูกับเซียวเหิงบนสนามรบ ฝ่ายตรงข้ามคือศัตรูนับหมื่นนับพัน บรรดาคุณชายที่คิดว่าตัวเองเก่งนักเก่งหามีหรือจะคณามือเขา?ผ่านไปไม่นาน เหล่าคุณชายก็ถูกจิ่งเหยียนซัดหมอบกับพื้นเมื่อเห็นจิ่งเหยียนไร้รอยบาดแผล เฉียวเนี่ยนก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกจิ่งเหยียนเดินเข้ามาหานาง ใบหน้าคมเข้มนั้นเหมือนจะเก้อเขินเขาเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างกับเฉียวเนี่ยน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าสวีหวาชิงกลับปรากฏตัวขึ้นหลังร่างของเฉียวเนี่ยน ในมือง้างตั่งเหนือหัวสวีหวาชิงเกลียดเฉียวเนี่ยนตอนเด็กเขาถูกหลินเย่ว์ก็เพราะเฉียวเนี่ยน หลายปีมานี้เห็นเฉียวเนี่ยนที่ไหนก็เป็นต้องหลบซ่อนตัว ทำให้เขาถูกหั
"ยวนเอ๋อร์ พี่รู้ว่าเจ้าเป็นคนจิตใจงดงาม และเชื่อด้วยว่าครั้งนี้เจ้ามีเจตนาดีจริงๆ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าทําเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้เจ้าเคยทําครั้งหนึ่ง และถูกเนี่ยนเนี่ยนกดลงบนพื้นสั่งสอนไปครั้งหนึ่งแล้ว ทําไมครั้งนี้ถึงยังไม่จําอีก? เจ้าก็รู้อยู่แก่ใจว่า ในจวนโหวตอนนี้ ท่านย่าเป็นคนเดียวที่เนี่ยนเนี่ยนใส่ใจ หากเจ้าแตะต้องท่านย่า นางจะต้องสู้ตายกับเจ้าแน่!"หลินยวนก้มหน้า น้ำตาไหลพรากลงอาบแก้มไม่หยุด แต่แววตากลับฉายแววอํามหิตใช่ นางจะไม่รู้ได้ยังไง?ฮูหยินเฒ่านับเป็นจุดอ่อนของเฉียวเนี่ยน ตราบใดที่ฮูหยินเฒ่านี่ยังมีชีวิตอยู่ เฉียวเนี่ยนก็จะไม่มีวันออกจากจวนโหวได้!หนังสือตัดขาดความสัมพันธ์เหรอ?เหอะ! หยุดพูดเล่นได้แล้ว!หากเฉียวเนี่ยนสามารถตัดขาดกับจวนโหวได้จริง หลังจากถูกหมิงอ๋องตีจนปางตายก็คงตัดขาดไปนานแล้ว!ไม่สิ ไม่ถูก!มันควรจะตัดขาดตั้งแต่เมื่อสามปีที่แล้ว!แต่จนถึงวันนี้ เฉียวเนี่ยนก็ยังได้ชื่อว่าเป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหว!นางมีสิทธิ์อะไร?ตัวนางเองต่างหากที่เป็นบุตรสาวของภรรยาเอกของจวนโหว!ทําไมนางต้องโดนเฉียวเนี่ยนควบคุมอยู่ทุกหนทุกแห่ง ทําไมต้องโดนนางข่มขู่ด้วย?
หลังจากหลินเย่ว์เดินจากไปได้ช่วงหนึ่งก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยโทสะ ทว่าเมื่อครู่ท่านหมอกำชับไว้แล้ว ห้ามขยับตัวมาก ไม่เช่นนั้น เขาต้องซัดจิ่งเหยียนไปสักหมัด เพื่อคลายโทสะเป็นแน่ไม่ง่ายนักที่จะกลับมาถึงจวน หลินเย่ว์จึงมุ่งไปยังเรือนลั่วเหมยหนึ่ง เพื่อดูว่าอาการบาดเจ็บของยวนเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้างสอง เพื่อให้หมอประจำจวนดูบาดแผลเขาสักหน่อยหมอที่อยู่ด้านนอกห้ามเลือดพอได้ ทว่ารักษานั้น อย่างไรก็เชื่อไม่ได้แต่คาดไม่ถึงเลยว่า ทันทีที่ถึงหน้าประตูเรือนลั่วเหมย ก็ปะทะเข้ากับหมอประจำจวนที่กำลังออกมาครั้นเห็นหลินเย่ว์ หมอประจำจวนกุมมือคำนับ "คารวะท่านโหวน้อย"หลินเย่ว์รีบทอดมองเข้าไปในเรือน ก่อนถาม "อาการบาดเจ็บของยวนเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?"หมอประจำจวนตอบตามความเป็นจริง "อาการบาดเจ็บของคุณหนูรองไม่เป็นไรมากแล้ว ดาบนั้นคุณหนูใหญ่แทงได้แม่นยำมาก ไม่ทำให้ถึงตายขอรับ ส่วนบาดแผลตกหน้าอกก็ไม่ถือว่าลึกมาก ข้าน้อยได้สั่งยาให้สาวใช้เรียบร้อยแล้วขอรับ"ได้ยินดังนี้ หลินเย่ว์ถึงได้ขมวดคิ้วหนัก นึกถึงดาบนั้นเมื่อก่อนเขาเป็นคนสอนเฉียวเนี่ยนเองเพียงแต่ตอนนั้น เขาสอนนางเพื่อให้นางจัดการกับพวกเด็กเหลื
หรือจะเกี่ยวข้องกับเนี่ยนเนี่ยน?เช่นนั้นเนี่ยนเนี่ยนคงไม่เป็นไรใช่ไหม?เดิมทีหลินเย่ว์อารมณ์หงุดหงิดอยู่แล้ว ตอนนี้เห็นจิ่งเหยียนเข้า ก็อดเดือดเป็นฟืนเป็นไฟไม่ได้แต่เมื่อนึกถึงคำเตือนของท่านหมอ เขาก็ไม่กล้าขยับตัวอะไรมาก ได้แค่กล่าวเสียงเย็น "เกี่ยวอะไรกับเจ้า?"ขณะกล่าว ก็มุ่งตรงไปทางจวนโหวจิ่งเหยียนไม่ยอมแพ้ ตามไปด้วย "เนี่ยนเนี่ยนล่ะ? ทั้งๆ ที่จวนโหวมีหมอประจำจวนอยู่แล้ว ท่านโหวน้อยกลับมาดูหมอข้างนอก หรือหมอประจำจวนกำลังรีบรักษาให้เนี่ยนเนี่ยนอยู่?"เห็นหลินเย่ว์เอาแต่ไม่ตอบ จิ่งเหยียนเลยก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่ง ขวางหลินเย่ว์ไว้ "หลินเย่ว์ เจ้าทำอะไรกับเนี่ยนเนี่ยนกันแน่!"หากไม่ใช่เพราะในมือถือยาสองห่อไว้ หลินเย่ว์ต้องซัดหมัดใส่เป็นแน่!เห็นสีหน้าร้อนรนเจือเต็มหน้าจิ่งเหยียน หลินเย่ว์ยิ่งรู้สึกกราดเกรี้ยวมากขึ้น "เรื่องในจวนโหวข้า รองแม่ทัพตัวเล็กๆ อย่างเจ้าเข้ามาสอดได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?"จิ่งเหยียนหาได้ยอมแพ้ "ข้าไม่ได้เข้าไปยุ่งจวนโหว เพียงแค่ถามถึงเนี่ยนเนี่ยนเท่านั้น!""เจ้า!" เห็นจิ่งเหยียนไม่คิดแม้แต่จะหลีกทางให้ หลินเย่ว์รู้ หากวันนี้ไม่คุยกับเขาชัดเจน เขาไม
อีกด้านหนึ่ง จิ่งเหยียนไปที่จวนเซียวตอนเขามา เซียวเหิงกำลังอ่านตำราพิชัยสงครามอยู่ในห้องหนังสือครั้งเห็นในมือจิ่งเหยียนถือเหล้ามาสองไห ตำราพิชัยสงครามในมือก็ถูกวางลงตาม นัยน์ตาลุ่มลึดทอดมองออกไป เห็นจิ่งเหยียนหยักยิ้ม "ข้าน้อยมาดื่มกับท่านแม่ทัพ"สิ้นเสียง เหล้าไหหนึ่งก็โยนที่ทางเซียวเหิงเซียวเหิงยกมือขึ้นรับ และดึมลงไปหนึ่งอึกรสแสบร้อนลงสู่ปาก ผ่านคอหอยเซียวเหิงอดเลิกคิ้วขึ้นไม่ได้ "จิ่วถานฉุนชั้นยอดของหอจุ้ยเซียง" ระหว่างสนทนา มุมปากก็ยกขึ้นยิ้ม "รองแม่ทัพจิ่งได้ลาภลอยมาหรือ?"เหล้าไหนี้ ราคาไม่ธรรมดายิ่งไปกว่านั้น จิ่งเหยียนถือมาสองขวดจิ่งเหยียนก้าวเข้ามาย้ายเก้าอี้ และนั่งลงตรงข้ามเซียวเหิง พลางยกไหเหล้าในมือตัวเองขึ้นดื่ม "ไหของข้าน้อยไม่ใช่"ของเขาเป็นแค่เหล้าขาวธรรมดาทั่วไปเท่านั้นเซียวเหิงมองไปที่จิ่งเหยียนอย่างไม่เข้าใจ และเห็นจิ่งเหยียนกล่าวด้วยสีหน้าปกติ "วันนี้ขอบคุณท่านแม่ทัพยิ่งนัก"ได้ยินเช่นนี้ เซียวเหิงกลับยิ้มเยาะ "ผู้ที่ไปกู้หน้าให้คือพี่ใหญ่ข้า แต่เจ้ากลับมาขอบคุณข้า?"ขณะว่า ก็แหงนหน้ายกเหล้าขึ้นดื่มจิ่งเหยียนแค่ดื่มไปอึกหนึ่ง ก่อนกล่าวด้วยรอ
นั่นมันต้องเจ็บขนาดไหนกัน!เนี่ยนเนี่ยนของนางต้องเจ็บขนาดไหนกัน!ฮูหยินเฒ่าแค่คิด ก็รู้สึกปวดใจแทบขาดแล้วย่าอย่างนาง ช่างไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ!นางเอาแต่อยู่ในจวนนี้ทั้งวันทั้งคืน ไยแม้แต่ข่าวเล็กน้อยก็ยังไม่ได้รับ?หากนางรู้เร็วกว่านี้ว่าหมิงอ๋องคนนั้นไม่ใช่คนดีอะไร นางคงไม่มีทางให้เนี่ยนเนี่ยนเข้าวังหรอกหากนางรู้ว่าหลินเย่ว์ไอ้สารเลวนั่นทำเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ นางคงตีเขาให้ตายแน่!หาก...หากนางจากไปเร็วกว่านี้ เนี่ยนเนี่ยนของนางคงไม่ต้องลำบาก ต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรม! อยู่ที่จวนโหวมาตลอดขนาดนี้!เป็นนางเองที่ไร้ประโยชน์!เป็นเพราะนางแก่แล้ว ทนได้ไม่ไหวแล้ว ไม่เพียงแต่ปกป้องเนี่ยนเนี่ยนของนางไม่ได้ ยังกลายเป็นภาระของนางด้วย!พวกเขายังให้นางกินน้ำล้างจานด้วย!หลานสาวแท้ๆ ที่นางรักทะนุทะนอมมาตั้งแต่เด็ก!พวกเขากล้าให้นางกินน้ำล้างจานได้อย่างไรกัน!ฮูหยินเฒ่ายิ่งคิด ความเจ็บปวดในใจก็ยิ่งรุนแรงขึ้น จนสุดท้าย ก็ส่งเสียงร้องไห้ออกมาเสียงโหยหวนและแก่ชราที่ดังเรื่อยๆ นั้น แฝงไปด้วยความเสียใจมากมายและช่วยอะไรไม่ได้นางถึงขนาดที่ไม่รู้แล้วว่า ให้เฉียวเนี่ยนออกมาจากกรมซักล้าง
เฉียวเนี่ยนวิ่งไปด้วย เช็ดคราบเลือดตรงมุมปากไปด้วย นางจะให้ท่านย่าเห็นสภาพนางกระอักเลือดไม่ได้!เมื่อมาถึงนอกห้องฮูหยินเฒ่า ก็เห็นซูมามากับหมอประจำจวนรออยู่หน้าประตูห้องก่อนแล้วครั้นเห็นเฉียวเนี่ยน หมอประจำจวนก็คำนับเฉียวเนี่ยนรีบไถ่ถาม "เป็นอย่างไรบ้าง? ท่านย่าข้าเป็นอย่างไรบ้าง?"หมอประจำจวนถึงได้ตอบ "คุณหนูใหญ่ ร่างกายของฮูหยินเฒ่าเสียหายอย่างรุนแรง แม้ข้าน้อยจะฝังเข็มรักษาชีพจรหัวใจของฮูหยินเฒ่าไว้มั่นได้ แต่ เกรงว่าคงยืนหยัดได้ไม่เกินสิบวัน"เฉียวเนี่ยนอึ้งไป พลางส่ายหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย "ไม่ ไม่จริง ซูมามาบอกว่า วันนี้สภาพท่านย่าไม่เลว แถมยังลุกจากเตียงได้อยู่เลยมิใช่หรือ... "เหตุใดแม้แต่สิบวันก็ทนไม่ไหวแล้วเล่า?ซูมามาปาดน้ำตาไร้สุ้มเสียงแต่หมอประจำจวนกลับถอนหายใจเล็กน้อย กล่าว "หากไม่เคยได้รับการกระตุ้น บางทีฮูหยินเฒ่าอาจทนได้สองสามเดือน เฮ้อ!"ได้ยินเช่นนี้ น้ำตาเฉียวเนี่ยนพลันไหลลงมาไม่หยุด แม้แต่ลมหายใจก็สับสนไปชั่วขณะอย่างไรเสียก็เป็นเรื่องของนางที่ทำร้ายฮูหยินเฒ่า!เมื่อครู่นางควรตวัดดาบจบหลินยวนไปเสีย!ซูมามารีบเข้ามาเช็ดน้ำตาให้นาง และกล่าวโน้
แต่ในเวลานี้เอง ร่างๆหนึ่งปรี่เข้ามาในห้อง ผลักเฉียวเนี่ยนออกและเพราะการกระแทกนี้ ทำให้ดาบยาวทิ้งรอยเลือดไว้เป็นทางยาวตรงหน้าอกหลินยวนหลินเย่ว์ตกใจหน้าถอดสี รีบอุ้มหลินยวนไปข้างนอกทันทีแต่คาดไม่ถึงว่า เฉียวเนี่ยนไล่ตามออกมาเหมือนกับคนบ้า ถือดาบยาวตวัดฟันลงบนหลังของหลินเย่ว์หลินเย่ว์หลบไม่ทัน หลังรับดาบเฉียวเนี่ยนไปเต็มๆ สองมือไร้เรี่ยวแรงทันที และล้มลงไปบนพื้นพร้อมกับหลินยวนท่านโหวหลินที่เร่งตามาเห็นภาพนี้ ก็ปรี่เข้ามาจับสองมือของเฉียวเนี่ยนไว้ทันที พลางตะคอกอย่างกราดเกรี้ยว “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ!”หากไม่ใช่เพราะทหารองครักษ์ที่ถูกแย่งดาบไปรีบมารายงาน เกรงว่าเมื่อพวกเขามาถึง หลินยวนคงตายภายใต้ดาบของนางไปแล้วแต่ไม่คิดเลยว่า เฉียวเนี่ยนแทบจะตะโกนเดือดดาลอย่างบ้าบิ่น “ใช่ข้าบ้าไปแล้ว! หากไม่ใช่เพราะนางส่งคนไปพูดไร้สาระต่อหน้าท่านย่า ท่านย่าก็คงจะไม่เป็นไร! วันนี้ข้าจะต้องตัดลิ้นนางให้ได้ ข้าจะดูว่าต่อไปเจ้าจะเอาอะไรออกมาทำร้ายท่านย่าอีก!”ท่านโหวหลินเหมือนเพิ่งจะรู้ว่าจู่ๆ ที่ฮูหยินเฒ่าอาการกำเริบเกิดมาจากหลินยวน จึงมองไปที่หลินยวนด้วยสีหน้าตกตะลึงทันทีเห็นเพียงอีกฝ้ายหมอบอยู่
เรือนลั่วเหมย ประตูใหญ่ปิดสนิทเฉียวเนี่ยนถีบประตูเปิด ย่างสามขุมเข้าไปในเรือนลั่วเหมยคนรับใช้ สาวใช้ภายในเรือน แต่ละคนเตรียมพร้อมรออยู่ ราวกับคาดเดาได้ว่าเฉียวเนี่ยนจะมาแต่กลับคาดไม่ถึงเลยว่า เฉียวเนี่ยนจะถือดาบเข้ามาด้วย!กระนั้น แม้พวกเขาจะเคยเห็นความดุร้ายของเฉียวเนี่ยน ทว่ากลับไม่เคยเห็นเฉียวเนี่ยนฆ่าคน จึงคิดว่าเฉียวเนี่ยนแค่มาขู่ก็เท่านั้นมีคนรับใช้ใจกล้าคนหนึ่งเข้ามาพูดโน้มน้าว “คุณหนูใหญ่โปรดระงับโทสะ อย่าทำเรื่องโง่ๆ รอท่านโหวมา…อ๊าก!”ไม่รอให้คนรับใช้คนนั้นพูดจบ เฉียวเนี่ยนก็ฟัดดาบลงไป คนรับใช้คนนั้นถูกฟันเข้าที่แขนทันที เลือดแดงสดไหลลงมาดวงตาสองข้างของเฉียวเนี่ยนแดงก่ำ ตะโกนเสียงดัง “หลินยวน ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”จากนั้น เหลือบมองกลุ่มคนรับใช้สาวใช้ที่ยังขวางอยู่ตรงหน้าตัวเอง แล้วตะคอกเสียงเย็น “ใครกล้าขวางข้า!”เหล่าสาวใช้ที่ขี้ขลาดบางส่วนรีบวิ่งหนีเตลิดกันหมด ทว่ายังพอมีใจกล้าอยู่บ้าง ขวางอยู่ข้างหน้าเฉียวเนี่ยน “คุณหนูใหญ่ใจเย็นก่อนๆ หากฆ่าคุณหนูรองจริง ท่านโหวจะปล่อยคุณหนูไปได้อย่างไร?”เฉียวเนี่ยนจ้องคนรับใช้คนนั้นเขม็ง พลางกดเสียงต่ำ “รนหาที่ตาย!”ดาบยา
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ซูมามาก็ห้ามเสียงสะอื้นไม่ได้แล้ว “ฮู ฮูหยินเฒ่ารู้เรื่องที่คุณหนูใหญ่จะตัดขาดท่านโหว จึงบีบเค้นถามบ่าว บ่าวไม่กล้าพูดมาก ฮูหยินเฒ่าจึงบีบให้นังพวกใจสกปรกเหล่านี้พูด…”“ฮูหยินเฒ่าไม่เพียงรู้เรื่องที่คุณหนูตัดขาดจวนโหว ยังรู้เรื่องก่อนหน้าที่คุณหนูเกือบถูกหมิงอ๋องตีตาย รู้ว่าท่านโหวน้อยรังแกคุณหนูอย่างไร ดังนั้นฮูหยินเฒ่าก็เลย ก็เลย…”พูดมาถึงตอนท้าย ซูมามาร่ำไห้จนพูดออกมาไม่ได้แล้วส่วนเฉียวเนี่ยน เดือดดาลจนสั่นเทาไปทั่วร่างนางมีสีหน้าเย็นชา ค่อยๆเดินไปทางสาวใช้พวกนั้นพวกสาวใช้แต่ละคนต่างหลุบตาต่ำก้มหน้า จิตใจกระวนกระวาย ไม่กล้าเหลือบมองเฉียวเนี่ยนได้ยินเพียงสุ้มเสียงสั่นเทาของเฉียวเนี่ยนดังออกมา และเจือไปด้วยโทสะ “ข้ากำชับหลายครั้งหลายหนแล้วว่าห้ามเปิดเผยเรื่องของข้าให้ท่านย่าฟัง พวกเจ้าไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน ถึงกล้าเอ่ยถึงข้าในเรือนของท่านย่า!”เหล่าสาวใช้ต่างตกใจพากันร่ำไห้โขกหัว “บ่าวผิดไปแล้ว ขอคุณหนูใหญ่ยกโทษให้ด้วย!”“บ่าวรู้ความผิดแล้ว บ่าวไม่กล้าทำอีกแล้ว!”ทว่าสายตาของเฉียวเนี่ยน กลับถูกสาวใช้หนึ่งในนั้นดึงดูดไปนางขมวดคิ้ว กล่าวเสียงเย็น “เ