หลินเย่ว์ยิ้มเอ่ย "แต่ไหนแต่ไรมา ยวนเอ๋อร์อ่อนหวานที่สุด จิตใจงามที่สุด รู้ความที่สุดอยู่แล้ว"ได้ยินคำชมของหลินเย่ว์และฮูหยินเฒ่า หลินยวนก็ก้มหน้าอย่างขวยเขิน สีหน้าพึงพอใจนักทว่าใบหน้าของเฉียวเนี่ยนยังคงเย็นชาดุจดั่งธารน้ำแข็งอาจเป็นเพราะเห็นว่าเฉียวเนี่ยนไม่พอใจ ฮูหยินเฒ่าจึงเอ่ยเสียงอ่อน "เนี่ยนเนี่ยน พวกเราก็แค่ไปดู หากไม่ถูกใจใครเลย เจ้าก็กลับมา"เฉียวเนี่ยนสูดหายใจลึกถึงจะฝืนตัวเองให้ยิ้มออกมาได้ ก่อนจะเอ่ยกับฮูหยินเฒ่า "ท่านย่าอยากให้เนี่ยนเนี่ยนออกเรือนเร็วปานนั้นหรือเจ้าคะ? เนี่ยนเนี่ยนยังอยากอยู่กับท่านย่าอีกหลายปีเลย!"เมื่อได้ยินดังนั้นน้ำตาก็พลันเอ่อคลอดวงตาของฮูหยินเฒ่านางยกมือขึ้นลูบหัวของเฉียวเนี่ยน แววตาสุดแสนเอ็นดู "ข้ารู้อยู่แล้วว่าเนี่ยนเนี่ยของข้าน่ะว่าง่ายที่สุด แต่ว่าท่านย่าคงอยู่กับเนี่ยนเนี่ยนได้อีกไม่นาน..."ดังนั้นนางถึงได้อยากฝากฝังเฉียวเนี่ยนกับใครสักคนยามนางยังมีชีวิตอยู่ หากได้เห็นว่าอีกครึ่งชีวิตของเฉียวเนี่ยนสุขสบายแล้ว นางถึงจะจากไปอย่างสงบได้ยินฮูหยินเฒ่าพูดดังนั้น หัวใจของเฉียวเนี่ยนก็พลันสั่นไหวนางรู้ดีว่าฮูหยินเฒ่าคงอยู่ได้อีกไม่นาน
หลินเย่ว์เดือดดาล ใบหน้าถมึงทึงแต่ใบหน้าถมึงทึงนี้ เฉียวเนี่ยนรู้สึกคุ้นเคยยิ่งนักท่าทางแสนอ่อนโยนเมื่อครู่นั้น เป็นเพียงหน้ากากอดีตพี่ใหญ่ ช่างน่าขยะแขยงเฉียวเนี่ยนแค่นหัวเราะ "ข้ารับปากท่านย่าแล้วไม่มีทางคืนคำ แต่ท่านโหวน้อยอย่าได้คาดหวังมากนัก"ว่าจบนางก็หันหลังเดินจากไปแต่หลินยวนกลับเดินจ้ำตามมา ขวางทางเฉียวเนี่ยนเอาไว้ "ท่านพี่ ยวนเอ๋อร์อยากพูดอะไรสักอย่าง แต่ไม่รู้ว่าควรพูดดีหรือไม่"เหมือนเห็นใบหน้าเสแสร้งทำเป็นคนดีนั้น เฉียวเนี่ยนก็ตัดบทนางอย่างไม่ใยดี "ไม่ควร"หลินยวนนิ่งอึ้ง คิดไม่ถึงว่ายามนี้เฉียวเนี่ยนจะไม่ไว้หน้าถึงปานนี้แต่นางยังดึงดันจะพูดให้ได้ภาพที่เห็นคือนางกัดริมฝีปาก ราวกับน้อยเนื้อต่ำใจเสียเหลือเกิน น้ำตาคลอเบ้า "ท่านพี่ไม่อยากฟัง แต่ยวนเอ๋อร์อยากพูด ข้ารู้ว่าท่านพี่เกลียดพี่ใหญ่ เกลียดข้า แต่อาการท่านย่าเป็นอย่างไรท่านพี่ก็เห็น ความปรารถนาหนึ่งเดียวของท่านย่าคือได้เห็นท่านออกเรือน หรือท่านพี่จะทำให้ท่านย่าผิดหวังได้ลงคอหรือ?"หลินยวนพูดพลางน้ำตาไหลพราก ท่าทางนั้นแสนจริงใจ ทำเอาหลินเย่ว์ที่อยู่ข้างกันปวดใจเหลือเกินเขาสูดหายใจลึก กักเก็บความเดือดดา
ชัดว่าหลินเย่ว์ยังจำเรื่องนั้นได้ดี เมื่อได้ยินเฉียวเนี่ยนเอ่ยถึง ในใจก็พลันรู้สึกผิดขึ้นมา แต่ยังคงปากแข็งไม่ยอมรับ "เรื่องผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว สวีหวาชิงไม่ใช่เด็กเกเรเหมือนแต่ก่อนแล้ว ตอนนี้เขาทำงานที่กรมอากรกับพ่อเขา เขาเห็นกับตา นับว่าเป็นคนใช้ได้คนหนึ่ง..."“เพียะ!”ในที่สุดเฉียวเนี่ยนก็ทนไม่ไหว เดินเข้ามาแล้วตบหน้าหลินเย่ว์อย่างแรงหลินเย่ว์สองตาพลันเบิกโพลง เดือดเป็นฟืนเป็นไฟ กำหมัดส่งไปทางเฉียวเนี่ยน คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะชกเข้าใส่สองตาเจิ่งนองของเฉียวเนี่ยนวินาทีนั้นหมัดของเขาหยุดอยู่ตรงหน้าเฉียวเนี่ยน ราวกับมือที่มองไม่เห็นยั้งเอาไว้อย่างไรก็ทำไม่เลงทว่าเฉียวเนี่ยนนั้นจ้องเขาไม่วางตา ภายใต้ประกายน้ำตานั้น มีแต่ความเคียดแค้นนางยังจำได้ดี ตอนอายุแปดขวบนั้น เมื่อหลินเย่ว์รู้ว่าสวีหวาชิงแทบจะกดนางจมน้ำตาย ก็พุ่งตัวเขามาช่วยโดยไม่คิดชีวิต ขึ้นคร่อมสวีหวาชิงต่อยไม่ยั้ง ผู้ใหญ่สี่ห้าคนช่วยกันก็ยังห้ามไม่อยู่ ต่อยจนสวีหวาชิงฟันร่วงสองซี่ ดีดดิ้นร้องขอชีวิตอยู่บนพื้น แทบจะหมดสติไปด้วยซ้ำหมัดของหลินเย่ว์เองก็แตกจนถลอกปอกเปิก แต่เขากลับไม่สนใจ ขวางหน้าเพื่อปกป้องนางไว้ ข่มขู่
สายตานั้นทำให้เฉียวเนี่ยนนึกถึงเมื่อสามปีก่อน ยามที่เซียวเหิงเข้ามาขวางหน้าหลินยวนเอาไว้วันนี้เองก็เช่นกัน เขาไม่พูดอะไรแม้สักคำ เพียงแค่สายตานั้นก็ทำให้นางล้มเลิกความตั้งใจที่จะอธิบายเมื่อคิดได้ดังนั้น หัวใจของเฉียวเนี่ยนก็พลันปวดร้าว รู้สึกว่าตัวเองเมื่อสามปีก่อนช่างน่าขันนักยามนั้นนางรักเซียวเหิงมากเพียงใดกันนะ!รักถึงขั้นเพียงแค่เห็นสายตานั้น นางก็ไม่กล้าแม้แต่จะเปิดปากอธิบาย?อีกฟากหนึ่ง หลินเย่ว์เองก็ตกใจที่หลินยวนบาดเจ็บ หันมาก่นด่าเฉียวเนี่ยนแทน "เพราะเจ้าเป็นอย่างนี้อย่างไรเล่า พาลใส่อารมณ์กับคนที่ไม่เกี่ยวข้อง ยวนเอ๋อร์ทำเพื่อเจ้า เดินหาร้านในเมืองไม่รู้กี่วันกว่าจะเลือกชุดที่งามที่สุดให้เจ้าได้ แต่เจ้ากลับตอบแทนนางเช่นนี้หรือ? ข้าจะบอกให้นะ หากยวนเอ๋อร์เป็นอะไรไป ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขแน่!"หลินเย่ว์พูดจบก็รีบเดินตามเซียวเหิงไปภายในเรือนอันกว้างใหญ่ เหลือเพียงเฉียวเนี่ยนผู้เดียวสายลมพัดผ่าน ราวกับนำพาความอ้างว้างมาด้วยทั้งยังพัดน้ำตาที่อดกลั้นมานานแสนนานนั้นจนเหือดแห้งทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้เปลี่ยนไปเลย!สามปีก่อน พวกเขาพากันปกป้องหลินยวน สา
ฮูหยินหลินพูดพลางส่งสายตาให้เฉียวเนี่ยนแน่นอนว่าเฉียวเนี่ยนนั้นเข้าใจ พวกเขาคนหนึ่งเล่นไม้แข็ง คนหนึ่งเล่นไม้อ่อนสินะด้วยเหตุนั้น เฉียวเนี่ยนจึงหันไปหาฮูหยินหลินอย่างประหลาดใจ "เหตุใดข้าต้องขอโทษ?""เจ้ายังกล้าแสร้งทำเป็นไม่รู้อีกหรือ" ท่านโหวหลินคำรามลั่น "เจ้าเห็นหรือไม่ว่าเจ้าทำยวนเอ๋อร์เจ็บหนักเพียงใด?"เฉียวเนี่ยนหางคิ้วกระตุก ชำเลืองมองหลินยวนอย่างเย็นชา "นางล้มเอง ไม่เกี่ยวกับข้า""เจ้ายังกล้าแก้ตัวอีกหรือ! เซียวเหิงเห็นกับตาว่าเจ้าเป็นคนผลักยวนเอ๋อร์!" ท่านโหวหลินตวาดลั่นอย่างเดือดดาล "พ่อสอนเจ้าตั้งแต่เด็ก ทำผิดมิได้น่ากลัว ที่น่ากลัวคือไม่ยอมรับผิด! เจ้าลืมไปหมดแล้วหรือ!"เมื่อได้ยินคำพูดนั้น เฉียวเนี่ยนกลับยิ้มออกมา "คนที่ลืมก่อน ไม่ใช่ท่านโหวหรอกหรือ?"สามปีก่อน หลินยวนทำจานแก้วแตก เหตุใดเขาถึงไม่เห็นตำหนิหลินยวนว่าทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด?ท่านโหวหลินถูกยอกย้อนจนลมหายใจสะดุดจากนั้นก็ได้ยินหลินเย่ว์เอ่ยขึ้น "เจ้าอย่าลำเลิกเรื่องเมื่อสามปีกอ่นได้หรือไม่! สามปีก่อนยวนเอ๋อร์เพิ่งกลับมา นางเพิ่งเคยเข้าวังครั้งแรก ทำจากถ้วยแก้วแตก ก็ไม่แปลกหากไม่กล้ายอมรับ? แต่เจ้าเสวยส
ประโยคนั้นของเฉียวเนี่ยนทำเอาท่านโหวหลินพูดไม่ออก ราวกับได้ยินคำพูดน่าเหลือเชื่อ "เจ้า เจ้าหมายความว่าอย่างไร? เจ้าคิดจะตัดขาดกับจวนโหวอย่างนั้นหรือ?"บุญคุณที่เลี้ยงดูมาสิบห้าปี นางบอกว่าชดใช้คืนหมดแล้ว?ชดใช้คืนเมื่อใด?เขาเลี้ยงดูตั้งแต่หัวok'ยังไม่เท่ากำปั้นจนกลายเป็นคุณหนูรูปงามแห่งตระกูลสูงศักดิ์ ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจไปเท่าใด นางเอาสิ่งใดมาชดใช้คืน?ท่านโหวหลินเดือดดาลจนสั่นไปทั้งตัวทว่าเฉียวเนี่ยนกลับยังคงสีหน้าเรียบเฉยฮูหยินหลินกลัวว่าเฉียวเนี่ยนจะเอ่ยถ้อยคำเจ็บแสบ จึงรีบเอ่ยแทรกขึ้นในทันใด "ไม่ใช่เช่นนั้นเจ้าค่ะ เนี่ยนเนี่ยนไม่ได้หมายความเช่นนั้น ท่านโหวอย่าได้โมโหไปเลย เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องเข้าใจผิดจริงๆ เนี่ยนเนี่ยน ท่านพ่อเจ้าโกรธเลือดขึ้นหน้าแล้ว เจ้าหยุดพูดเสียที อย่ายั่วโมโหเขา..."ฮูหยินหลินยังไม่ทันพูดจบ เฉียวเนี่ยนก็เอ่ยสวนขึ้นมา "หากไม่ใช่เพราะท่านย่า ท่านคิดว่าข้าอยากจะเป็นลูกสาวของจวนโหวหรือ?"คืนวันนับไม่ถ้วนที่ถูกรังแกยามอยู่กรมซักล้าง นางก็ไม่อยากเป็นลูกสาวของพวกเขาอีกต่อไปน้ำเสียงของนางอ่อนหวานดั่งสายน้ำ แต่กลับเย็นยะเยือกเหมือนธารน้ำแข็งพันปีที่เพ
ท่านโหวหลินจงใจใช้ถ้อยคำรุนแรง เขาคิดว่าอย่างน้อยก็ทำให้นางได้รู้ว่าเขาเองเป็นคนที่คิดจะตัดขาดพ่อลูกคิดไปเองว่าบางทีนางอาจจะกังวลหรือหวาดกลัวขึ้นมาก็เป็นได้แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เฉียวเนี่ยนกลับค้อมกายคำนับให้เขา "หวังว่าท่านโหวจะทำได้อย่างที่พูด"ประโยคนั้นราวกับมีดแทงลึกลงกลางใจท่านโหวหลินทว่าเฉียวเนี่ยนกลับกวาดมองทุกคนด้วยสายตาเรียบเฉย ก่อนจะเอ่ยขึ้น "หากไม่มีอะไรแล้ว ข้าขอตัวก่อน" ว่าจบก็หันหลังเดินจากไปจนกระทั่งเดินออกจากประตูห้องของหลินยวนไป เฉียวเนี่ยนถึงได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญของฮูหยินหลินดังลอยออกมาหัวใจพลันรัดรึงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความเจ็บปวดแล่นริ้ว ทำเอานางขมวดคิ้วแน่น แต่สุดท้ายก็นางก็บังคับตัวเองให้ปล่อยผ่านมันไปกระนั้นแล้วนางยังเหลียวกลับไปมองอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อเห็นฮูหยินหลินซบไหล่หลินเย่ว์ร้องไห้สะอื้น ในใจก็พลันสงสัยขึ้นมานางรู้ว่าฮูหยินหลินนั้นเจ้าน้ำตามาแต่ไหนแต่ไร ทว่าในอดีตฮูหยินหลินก็เหมือนพวกท่านโหวหลิน เอาแต่ปกป้องหลินยวนวันนี้ฮูหยินหลินกลับเข้าข้างนางเกิดอะไรขึ้น?เฉียวเนี่ยนไม่เข้าใจ แต่ก็สะบัดความคิดออกจากหัว ก่อนจะหันหลังเดินจากไป
ห้าวันต่อมา ณ หอจุ้ยเซียงเฉียวเนี่ยนทำตามที่หลินเย่ว์ มาถึงเมื่อยามเซินวันนี้หอจุ้ยเซียงถูกเหมา คนงานประจำหอจำรถม้าจวนโหวได้ เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนลงจากรถก็รู้ว่าเฉียวเนี่ยนเป็นใคร จึงรีบเข้ามารับในทันใด"คุณหนูใหญ่ขอรับ ท่านโหวน้อยสั่งการไว้แล้ว ให้ข้าน้อยพาคุณหนูใหญ่ไปที่ชั้นสอง" คนงานต้อนรับด้วยไมตรี เดินนำเฉียวเนี่ยนขึ้นไปยังห้องส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดบนชั้นสองคือห้องที่หลินเย่ว์และเซียวเหิงจองเอาไว้ตลอดปีเฉียวเนี่ยนเอ่ยขอบคุณ คนงานจึงถอยออกไปนางผลักประตูแล้วเข้าไปข้างใน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าข้างในห้องจะมีคนอยู่ก่อนแล้วเซียวเหิงนั่งอยู่หัวโต๊ะ บนโต๊ะไม่มีอาหาร มีแต่เหล้าเฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าเขามาทำอะไร ขณะที่กำลังสองจิตสองใจว่าจะเข้าไปดีหรือไม่ ก็ได้ยินเสียงของเซียวเหิงเอ่ยขึ้น "คุณหนูเฉียว นั่งสิ"ยามนั้นหากเฉียวเนี่ยนไม่เข้าไป ก็คงเหมือนหลบหน้าเขาหลังจากสูดหายใจลึก เฉียวเนี่ยนถึงได้ก้าวเข้าไปในห้อง นั่งลงตรงหน้าเซียวเหิงเหยือกเหล้าสองสามเหยือกบนโต๊ะนั้นว่างเปล่า กลิ่นเหล้าคละคลุ้งไปทั่วบรรยากาศ เห็นได้ชัดว่าเซียวเหิงนั้นดื่มไปไม่น้อยแล้วเมื่อเห็นท่าทางการดื่มของเขาก็
"ยวนเอ๋อร์ พี่รู้ว่าเจ้าเป็นคนจิตใจงดงาม และเชื่อด้วยว่าครั้งนี้เจ้ามีเจตนาดีจริงๆ แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าทําเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้เจ้าเคยทําครั้งหนึ่ง และถูกเนี่ยนเนี่ยนกดลงบนพื้นสั่งสอนไปครั้งหนึ่งแล้ว ทําไมครั้งนี้ถึงยังไม่จําอีก? เจ้าก็รู้อยู่แก่ใจว่า ในจวนโหวตอนนี้ ท่านย่าเป็นคนเดียวที่เนี่ยนเนี่ยนใส่ใจ หากเจ้าแตะต้องท่านย่า นางจะต้องสู้ตายกับเจ้าแน่!"หลินยวนก้มหน้า น้ำตาไหลพรากลงอาบแก้มไม่หยุด แต่แววตากลับฉายแววอํามหิตใช่ นางจะไม่รู้ได้ยังไง?ฮูหยินเฒ่านับเป็นจุดอ่อนของเฉียวเนี่ยน ตราบใดที่ฮูหยินเฒ่านี่ยังมีชีวิตอยู่ เฉียวเนี่ยนก็จะไม่มีวันออกจากจวนโหวได้!หนังสือตัดขาดความสัมพันธ์เหรอ?เหอะ! หยุดพูดเล่นได้แล้ว!หากเฉียวเนี่ยนสามารถตัดขาดกับจวนโหวได้จริง หลังจากถูกหมิงอ๋องตีจนปางตายก็คงตัดขาดไปนานแล้ว!ไม่สิ ไม่ถูก!มันควรจะตัดขาดตั้งแต่เมื่อสามปีที่แล้ว!แต่จนถึงวันนี้ เฉียวเนี่ยนก็ยังได้ชื่อว่าเป็นคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหว!นางมีสิทธิ์อะไร?ตัวนางเองต่างหากที่เป็นบุตรสาวของภรรยาเอกของจวนโหว!ทําไมนางต้องโดนเฉียวเนี่ยนควบคุมอยู่ทุกหนทุกแห่ง ทําไมต้องโดนนางข่มขู่ด้วย?
หลังจากหลินเย่ว์เดินจากไปได้ช่วงหนึ่งก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยโทสะ ทว่าเมื่อครู่ท่านหมอกำชับไว้แล้ว ห้ามขยับตัวมาก ไม่เช่นนั้น เขาต้องซัดจิ่งเหยียนไปสักหมัด เพื่อคลายโทสะเป็นแน่ไม่ง่ายนักที่จะกลับมาถึงจวน หลินเย่ว์จึงมุ่งไปยังเรือนลั่วเหมยหนึ่ง เพื่อดูว่าอาการบาดเจ็บของยวนเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้างสอง เพื่อให้หมอประจำจวนดูบาดแผลเขาสักหน่อยหมอที่อยู่ด้านนอกห้ามเลือดพอได้ ทว่ารักษานั้น อย่างไรก็เชื่อไม่ได้แต่คาดไม่ถึงเลยว่า ทันทีที่ถึงหน้าประตูเรือนลั่วเหมย ก็ปะทะเข้ากับหมอประจำจวนที่กำลังออกมาครั้นเห็นหลินเย่ว์ หมอประจำจวนกุมมือคำนับ "คารวะท่านโหวน้อย"หลินเย่ว์รีบทอดมองเข้าไปในเรือน ก่อนถาม "อาการบาดเจ็บของยวนเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง?"หมอประจำจวนตอบตามความเป็นจริง "อาการบาดเจ็บของคุณหนูรองไม่เป็นไรมากแล้ว ดาบนั้นคุณหนูใหญ่แทงได้แม่นยำมาก ไม่ทำให้ถึงตายขอรับ ส่วนบาดแผลตกหน้าอกก็ไม่ถือว่าลึกมาก ข้าน้อยได้สั่งยาให้สาวใช้เรียบร้อยแล้วขอรับ"ได้ยินดังนี้ หลินเย่ว์ถึงได้ขมวดคิ้วหนัก นึกถึงดาบนั้นเมื่อก่อนเขาเป็นคนสอนเฉียวเนี่ยนเองเพียงแต่ตอนนั้น เขาสอนนางเพื่อให้นางจัดการกับพวกเด็กเหลื
หรือจะเกี่ยวข้องกับเนี่ยนเนี่ยน?เช่นนั้นเนี่ยนเนี่ยนคงไม่เป็นไรใช่ไหม?เดิมทีหลินเย่ว์อารมณ์หงุดหงิดอยู่แล้ว ตอนนี้เห็นจิ่งเหยียนเข้า ก็อดเดือดเป็นฟืนเป็นไฟไม่ได้แต่เมื่อนึกถึงคำเตือนของท่านหมอ เขาก็ไม่กล้าขยับตัวอะไรมาก ได้แค่กล่าวเสียงเย็น "เกี่ยวอะไรกับเจ้า?"ขณะกล่าว ก็มุ่งตรงไปทางจวนโหวจิ่งเหยียนไม่ยอมแพ้ ตามไปด้วย "เนี่ยนเนี่ยนล่ะ? ทั้งๆ ที่จวนโหวมีหมอประจำจวนอยู่แล้ว ท่านโหวน้อยกลับมาดูหมอข้างนอก หรือหมอประจำจวนกำลังรีบรักษาให้เนี่ยนเนี่ยนอยู่?"เห็นหลินเย่ว์เอาแต่ไม่ตอบ จิ่งเหยียนเลยก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่ง ขวางหลินเย่ว์ไว้ "หลินเย่ว์ เจ้าทำอะไรกับเนี่ยนเนี่ยนกันแน่!"หากไม่ใช่เพราะในมือถือยาสองห่อไว้ หลินเย่ว์ต้องซัดหมัดใส่เป็นแน่!เห็นสีหน้าร้อนรนเจือเต็มหน้าจิ่งเหยียน หลินเย่ว์ยิ่งรู้สึกกราดเกรี้ยวมากขึ้น "เรื่องในจวนโหวข้า รองแม่ทัพตัวเล็กๆ อย่างเจ้าเข้ามาสอดได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?"จิ่งเหยียนหาได้ยอมแพ้ "ข้าไม่ได้เข้าไปยุ่งจวนโหว เพียงแค่ถามถึงเนี่ยนเนี่ยนเท่านั้น!""เจ้า!" เห็นจิ่งเหยียนไม่คิดแม้แต่จะหลีกทางให้ หลินเย่ว์รู้ หากวันนี้ไม่คุยกับเขาชัดเจน เขาไม
อีกด้านหนึ่ง จิ่งเหยียนไปที่จวนเซียวตอนเขามา เซียวเหิงกำลังอ่านตำราพิชัยสงครามอยู่ในห้องหนังสือครั้งเห็นในมือจิ่งเหยียนถือเหล้ามาสองไห ตำราพิชัยสงครามในมือก็ถูกวางลงตาม นัยน์ตาลุ่มลึดทอดมองออกไป เห็นจิ่งเหยียนหยักยิ้ม "ข้าน้อยมาดื่มกับท่านแม่ทัพ"สิ้นเสียง เหล้าไหหนึ่งก็โยนที่ทางเซียวเหิงเซียวเหิงยกมือขึ้นรับ และดึมลงไปหนึ่งอึกรสแสบร้อนลงสู่ปาก ผ่านคอหอยเซียวเหิงอดเลิกคิ้วขึ้นไม่ได้ "จิ่วถานฉุนชั้นยอดของหอจุ้ยเซียง" ระหว่างสนทนา มุมปากก็ยกขึ้นยิ้ม "รองแม่ทัพจิ่งได้ลาภลอยมาหรือ?"เหล้าไหนี้ ราคาไม่ธรรมดายิ่งไปกว่านั้น จิ่งเหยียนถือมาสองขวดจิ่งเหยียนก้าวเข้ามาย้ายเก้าอี้ และนั่งลงตรงข้ามเซียวเหิง พลางยกไหเหล้าในมือตัวเองขึ้นดื่ม "ไหของข้าน้อยไม่ใช่"ของเขาเป็นแค่เหล้าขาวธรรมดาทั่วไปเท่านั้นเซียวเหิงมองไปที่จิ่งเหยียนอย่างไม่เข้าใจ และเห็นจิ่งเหยียนกล่าวด้วยสีหน้าปกติ "วันนี้ขอบคุณท่านแม่ทัพยิ่งนัก"ได้ยินเช่นนี้ เซียวเหิงกลับยิ้มเยาะ "ผู้ที่ไปกู้หน้าให้คือพี่ใหญ่ข้า แต่เจ้ากลับมาขอบคุณข้า?"ขณะว่า ก็แหงนหน้ายกเหล้าขึ้นดื่มจิ่งเหยียนแค่ดื่มไปอึกหนึ่ง ก่อนกล่าวด้วยรอ
นั่นมันต้องเจ็บขนาดไหนกัน!เนี่ยนเนี่ยนของนางต้องเจ็บขนาดไหนกัน!ฮูหยินเฒ่าแค่คิด ก็รู้สึกปวดใจแทบขาดแล้วย่าอย่างนาง ช่างไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ!นางเอาแต่อยู่ในจวนนี้ทั้งวันทั้งคืน ไยแม้แต่ข่าวเล็กน้อยก็ยังไม่ได้รับ?หากนางรู้เร็วกว่านี้ว่าหมิงอ๋องคนนั้นไม่ใช่คนดีอะไร นางคงไม่มีทางให้เนี่ยนเนี่ยนเข้าวังหรอกหากนางรู้ว่าหลินเย่ว์ไอ้สารเลวนั่นทำเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ นางคงตีเขาให้ตายแน่!หาก...หากนางจากไปเร็วกว่านี้ เนี่ยนเนี่ยนของนางคงไม่ต้องลำบาก ต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรม! อยู่ที่จวนโหวมาตลอดขนาดนี้!เป็นนางเองที่ไร้ประโยชน์!เป็นเพราะนางแก่แล้ว ทนได้ไม่ไหวแล้ว ไม่เพียงแต่ปกป้องเนี่ยนเนี่ยนของนางไม่ได้ ยังกลายเป็นภาระของนางด้วย!พวกเขายังให้นางกินน้ำล้างจานด้วย!หลานสาวแท้ๆ ที่นางรักทะนุทะนอมมาตั้งแต่เด็ก!พวกเขากล้าให้นางกินน้ำล้างจานได้อย่างไรกัน!ฮูหยินเฒ่ายิ่งคิด ความเจ็บปวดในใจก็ยิ่งรุนแรงขึ้น จนสุดท้าย ก็ส่งเสียงร้องไห้ออกมาเสียงโหยหวนและแก่ชราที่ดังเรื่อยๆ นั้น แฝงไปด้วยความเสียใจมากมายและช่วยอะไรไม่ได้นางถึงขนาดที่ไม่รู้แล้วว่า ให้เฉียวเนี่ยนออกมาจากกรมซักล้าง
เฉียวเนี่ยนวิ่งไปด้วย เช็ดคราบเลือดตรงมุมปากไปด้วย นางจะให้ท่านย่าเห็นสภาพนางกระอักเลือดไม่ได้!เมื่อมาถึงนอกห้องฮูหยินเฒ่า ก็เห็นซูมามากับหมอประจำจวนรออยู่หน้าประตูห้องก่อนแล้วครั้นเห็นเฉียวเนี่ยน หมอประจำจวนก็คำนับเฉียวเนี่ยนรีบไถ่ถาม "เป็นอย่างไรบ้าง? ท่านย่าข้าเป็นอย่างไรบ้าง?"หมอประจำจวนถึงได้ตอบ "คุณหนูใหญ่ ร่างกายของฮูหยินเฒ่าเสียหายอย่างรุนแรง แม้ข้าน้อยจะฝังเข็มรักษาชีพจรหัวใจของฮูหยินเฒ่าไว้มั่นได้ แต่ เกรงว่าคงยืนหยัดได้ไม่เกินสิบวัน"เฉียวเนี่ยนอึ้งไป พลางส่ายหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย "ไม่ ไม่จริง ซูมามาบอกว่า วันนี้สภาพท่านย่าไม่เลว แถมยังลุกจากเตียงได้อยู่เลยมิใช่หรือ... "เหตุใดแม้แต่สิบวันก็ทนไม่ไหวแล้วเล่า?ซูมามาปาดน้ำตาไร้สุ้มเสียงแต่หมอประจำจวนกลับถอนหายใจเล็กน้อย กล่าว "หากไม่เคยได้รับการกระตุ้น บางทีฮูหยินเฒ่าอาจทนได้สองสามเดือน เฮ้อ!"ได้ยินเช่นนี้ น้ำตาเฉียวเนี่ยนพลันไหลลงมาไม่หยุด แม้แต่ลมหายใจก็สับสนไปชั่วขณะอย่างไรเสียก็เป็นเรื่องของนางที่ทำร้ายฮูหยินเฒ่า!เมื่อครู่นางควรตวัดดาบจบหลินยวนไปเสีย!ซูมามารีบเข้ามาเช็ดน้ำตาให้นาง และกล่าวโน้
แต่ในเวลานี้เอง ร่างๆหนึ่งปรี่เข้ามาในห้อง ผลักเฉียวเนี่ยนออกและเพราะการกระแทกนี้ ทำให้ดาบยาวทิ้งรอยเลือดไว้เป็นทางยาวตรงหน้าอกหลินยวนหลินเย่ว์ตกใจหน้าถอดสี รีบอุ้มหลินยวนไปข้างนอกทันทีแต่คาดไม่ถึงว่า เฉียวเนี่ยนไล่ตามออกมาเหมือนกับคนบ้า ถือดาบยาวตวัดฟันลงบนหลังของหลินเย่ว์หลินเย่ว์หลบไม่ทัน หลังรับดาบเฉียวเนี่ยนไปเต็มๆ สองมือไร้เรี่ยวแรงทันที และล้มลงไปบนพื้นพร้อมกับหลินยวนท่านโหวหลินที่เร่งตามาเห็นภาพนี้ ก็ปรี่เข้ามาจับสองมือของเฉียวเนี่ยนไว้ทันที พลางตะคอกอย่างกราดเกรี้ยว “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ!”หากไม่ใช่เพราะทหารองครักษ์ที่ถูกแย่งดาบไปรีบมารายงาน เกรงว่าเมื่อพวกเขามาถึง หลินยวนคงตายภายใต้ดาบของนางไปแล้วแต่ไม่คิดเลยว่า เฉียวเนี่ยนแทบจะตะโกนเดือดดาลอย่างบ้าบิ่น “ใช่ข้าบ้าไปแล้ว! หากไม่ใช่เพราะนางส่งคนไปพูดไร้สาระต่อหน้าท่านย่า ท่านย่าก็คงจะไม่เป็นไร! วันนี้ข้าจะต้องตัดลิ้นนางให้ได้ ข้าจะดูว่าต่อไปเจ้าจะเอาอะไรออกมาทำร้ายท่านย่าอีก!”ท่านโหวหลินเหมือนเพิ่งจะรู้ว่าจู่ๆ ที่ฮูหยินเฒ่าอาการกำเริบเกิดมาจากหลินยวน จึงมองไปที่หลินยวนด้วยสีหน้าตกตะลึงทันทีเห็นเพียงอีกฝ้ายหมอบอยู่
เรือนลั่วเหมย ประตูใหญ่ปิดสนิทเฉียวเนี่ยนถีบประตูเปิด ย่างสามขุมเข้าไปในเรือนลั่วเหมยคนรับใช้ สาวใช้ภายในเรือน แต่ละคนเตรียมพร้อมรออยู่ ราวกับคาดเดาได้ว่าเฉียวเนี่ยนจะมาแต่กลับคาดไม่ถึงเลยว่า เฉียวเนี่ยนจะถือดาบเข้ามาด้วย!กระนั้น แม้พวกเขาจะเคยเห็นความดุร้ายของเฉียวเนี่ยน ทว่ากลับไม่เคยเห็นเฉียวเนี่ยนฆ่าคน จึงคิดว่าเฉียวเนี่ยนแค่มาขู่ก็เท่านั้นมีคนรับใช้ใจกล้าคนหนึ่งเข้ามาพูดโน้มน้าว “คุณหนูใหญ่โปรดระงับโทสะ อย่าทำเรื่องโง่ๆ รอท่านโหวมา…อ๊าก!”ไม่รอให้คนรับใช้คนนั้นพูดจบ เฉียวเนี่ยนก็ฟัดดาบลงไป คนรับใช้คนนั้นถูกฟันเข้าที่แขนทันที เลือดแดงสดไหลลงมาดวงตาสองข้างของเฉียวเนี่ยนแดงก่ำ ตะโกนเสียงดัง “หลินยวน ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”จากนั้น เหลือบมองกลุ่มคนรับใช้สาวใช้ที่ยังขวางอยู่ตรงหน้าตัวเอง แล้วตะคอกเสียงเย็น “ใครกล้าขวางข้า!”เหล่าสาวใช้ที่ขี้ขลาดบางส่วนรีบวิ่งหนีเตลิดกันหมด ทว่ายังพอมีใจกล้าอยู่บ้าง ขวางอยู่ข้างหน้าเฉียวเนี่ยน “คุณหนูใหญ่ใจเย็นก่อนๆ หากฆ่าคุณหนูรองจริง ท่านโหวจะปล่อยคุณหนูไปได้อย่างไร?”เฉียวเนี่ยนจ้องคนรับใช้คนนั้นเขม็ง พลางกดเสียงต่ำ “รนหาที่ตาย!”ดาบยา
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ซูมามาก็ห้ามเสียงสะอื้นไม่ได้แล้ว “ฮู ฮูหยินเฒ่ารู้เรื่องที่คุณหนูใหญ่จะตัดขาดท่านโหว จึงบีบเค้นถามบ่าว บ่าวไม่กล้าพูดมาก ฮูหยินเฒ่าจึงบีบให้นังพวกใจสกปรกเหล่านี้พูด…”“ฮูหยินเฒ่าไม่เพียงรู้เรื่องที่คุณหนูตัดขาดจวนโหว ยังรู้เรื่องก่อนหน้าที่คุณหนูเกือบถูกหมิงอ๋องตีตาย รู้ว่าท่านโหวน้อยรังแกคุณหนูอย่างไร ดังนั้นฮูหยินเฒ่าก็เลย ก็เลย…”พูดมาถึงตอนท้าย ซูมามาร่ำไห้จนพูดออกมาไม่ได้แล้วส่วนเฉียวเนี่ยน เดือดดาลจนสั่นเทาไปทั่วร่างนางมีสีหน้าเย็นชา ค่อยๆเดินไปทางสาวใช้พวกนั้นพวกสาวใช้แต่ละคนต่างหลุบตาต่ำก้มหน้า จิตใจกระวนกระวาย ไม่กล้าเหลือบมองเฉียวเนี่ยนได้ยินเพียงสุ้มเสียงสั่นเทาของเฉียวเนี่ยนดังออกมา และเจือไปด้วยโทสะ “ข้ากำชับหลายครั้งหลายหนแล้วว่าห้ามเปิดเผยเรื่องของข้าให้ท่านย่าฟัง พวกเจ้าไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน ถึงกล้าเอ่ยถึงข้าในเรือนของท่านย่า!”เหล่าสาวใช้ต่างตกใจพากันร่ำไห้โขกหัว “บ่าวผิดไปแล้ว ขอคุณหนูใหญ่ยกโทษให้ด้วย!”“บ่าวรู้ความผิดแล้ว บ่าวไม่กล้าทำอีกแล้ว!”ทว่าสายตาของเฉียวเนี่ยน กลับถูกสาวใช้หนึ่งในนั้นดึงดูดไปนางขมวดคิ้ว กล่าวเสียงเย็น “เ