‘ฮัลโหล โทรมาทำไม’
“คุณอยู่ไหม ว่างหรือเปล่า”
‘ไม่ ฉันต้องอยู่บ้านคืนนี้’
“โธ่ ทนไม่ไหวแล้ว มาหาหน่อย ได้โปรด...” เขาวอนขอคนปลายสาย ได้ยินเสียงหล่อนจุ๊ปากอย่างขัดใจ
‘ไม่ได้ๆ มันค่ำแล้ว และวันนี้ไม่ใช่วันเสาร์อาทิตย์ที่ฉันจะเที่ยวได้ พรุ่งนี้แล้วกัน’
ปลายสายต่อรอง จีรวัฒน์ยิ่งขัดใจ “โธ่...ไนท์ คิดถึงคุณ”
‘ชู่ว์...ฉันไม่ใจอ่อนหรอกนะ ต่อให้คุณลงแดงตายก็เถอะ อ้อ...อย่าโทรหาฉันอีก ฉันจะเป็นฝ่ายโทรหาคุณเอง แค่นี้นะ สามีฉันมา’
ตู๊ด...
จีรวัฒน์ขว้างโทรศัพท์ทิ้ง หลายปีที่คบกับเทียนหยดเขาก็มีผู้หญิงคนอื่นลับหลังหล่อนเสมอ จนกระทั่งได้มาพบราตรี หล่อนตอบโจทย์เรื่องบนเตียงให้เขาอย่างถึงอกถึงใจ ที่สำคัญ แม้ว่าหล่อนจะแต่งงานแล้วก็ยังไม่เลิกติดต่อกับเขา เมื่อมีเวลาก็มาเจอกัน สนุกกันบ่อยๆ เขาชอบแบบนี้ มีเมียชาวบ้านมาเสิร์ฟถึงเตียงแล้วจะไปหาซื้อตามอ่างตามเลาจน์ทำไม
แต่วันนี้ราตรีคงมาไม่ได้เสียแล้ว ให้ตายเถอะ แทนที่จะคิดถึงหล่อนเขากลับคิดถึงแต่ภาพก้อนเนื้ออวบหยุ่นทั้งสองของเทียนหยด ภาพที่หล่อนนั่งไม่ระวังจนทำให้เขาแอบเห็นความอวบอูมของอิสตรีที่ถูกปกปิดไว้ด้วยกางเกงชั้นในสีเพลิง โธ่เอ๋ย...เทียนหยดนะเทียนหยด อยากให้เขาคลั่งตายหรืออย่างไร
ชายผู้กำลังคลั่งรัก เดินไปยังหัวเตียงอีกฝั่ง ไขกุญแจเล็กๆ เข้ากับตู้ลิ้นชักไม้รูปทรงทันสมัยแล้วหยิบเอาบางอย่างออกมา โฉนดที่ดินย่านกลางเมืองที่มีเพียงแผ่นเดียว เขามองมันอย่างชั่งใจ จะทุ่มทุนสร้างมากไปไหมกับการทำเพื่อหล่อน ทว่าหากสิ่งที่หล่อนเอ่ยมาเป็นความจริง ในอนาคตความสุขสบายคงรอเขาอยู่ เทียนหยดเป็นคนเก่ง หล่อนน่าจะทำให้บริษัทเจริญรุ่งเรือง ถ้าเขาได้แต่งงานกับหล่อนจริงๆ ความมั่นคงต้องตามมาแน่ๆ หล่อนรักเขามากขนาดนั้น ไม่มีวันหักหลังเขากระมัง
จีรวัฒน์นั่งลงบนเตียง แรงปรารถนาที่ลามเลียทั่วร่างกำลังถูกความกังวลผ่อนปรนให้มันลดลง เขาดึงผ้านวมมาพันกายเปล่าเปลือยเมื่อถูกไอเย็นจากแอร์ภายในห้องทำให้รู้สึกหนาว สิ่งที่เขาทำมาตลอดตั้งแต่คบกับเทียนหยดเป็นแฟน ทำให้เขาไม่มั่นใจ เขาหักหลังหล่อน ทรยศด้วยการมีคนอื่น เขากลัว...กลัวว่าหล่อนจะทำอย่างเดียวกัน เขาคงทนไม่ได้ มากกว่าโฉนดที่ดินที่หล่อนอาจโกงหากเขาให้ไป นั่นคือความสดสาวของหล่อน เขาเฝ้ารอมันมานานปี และคงแทบกระอักหากหล่อนมอบมันให้คนอื่น
“ให้หรือไม่ให้ดีนะ เทียน...”
_____________
เทียนหยดกลับถึงบ้านในเวลาต่อมา เธอมาไม่ทันมื้อค่ำแต่ยังดีที่ในครัวมีกับข้าวหลงเหลือ เธอยืนกินมันในครัว ตักข้าวใส่จานและราดด้วยแกงส้มกุ้งที่ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นรสมือใคร พอกินอิ่มก็แวะมาที่บาร์เครื่องดื่มด้านใน เห็นกุญแจรถวางอยู่บนนั้นพวงหนึ่งก็รู้ทันทีว่าสมัตถ์วางเอาไว้ให้
ริมฝีปากงามคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ หยิบเอากุญแจมาถือไว้แล้วพามันเดินไปยังโรงรถ มีรถจอดอยู่สี่คัน เธอจำได้ว่าคันไหนเป็นรถเขา พอจัดการเปิดมันได้ก็มุดเข้าไปดึงเอาถุงเสื้อผ้าที่อยู่เบาะหลัง
“อุ๊ยตาย! ถุงร่วง!” อุทานอย่างนั้นทว่ามือตัวเองต่างหากที่ผลักถุงใบหนึ่งจนมันร่วงลงไปยังที่วางเท้า เธอขำการกระทำของตัวเอง ค่อยๆ ดึงถุงมารวมกับเพื่อน แต่ของในถุงที่ร่วงลงไปย่อมไหลออกนอกถุงตามแรงโน้มถ่วงของโลก เธอหยิบมันขึ้นเร็วๆ ชุดชั้นในผ้ามันลื่นแสนเซ็กซี่ ทว่าหนึ่งในนั้นมันไม่ยอมติดมือมา กางเกงชั้นในรูปสามเหลี่ยมบางๆ สีม่วงอ่อนๆ ประดับด้วยผ้าลูกไม้ลายพร้อยทั้งตัว
“แค่ลิปสติกที่เธอทำร่วงไว้ในห้องจีรวัฒน์ มันก็ทำให้ฉันแทบอกแตกตาย แล้วถ้าเป็นกางเกงชั้นในล่ะไนท์...” ถามคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้วหยิบกางเกงชั้นในสีม่วงอ่อนไปยัดไว้ใกล้ๆ สลักของเข็มขัดนิรภัยของเบาะข้างคนขับ ราตรีคงได้เจอมันเข้าไม่วันใดก็วันหนึ่ง
“แล้วเธอจะได้รู้ว่าฉันรู้สึกยังไงราตรี ขอให้อกแตกตายไปเลยเถอะ ผู้หญิงอย่างเธอ” เอ่ยจบก็ยิ้มร้ายอย่างสมใจ ก่อนจะพาข้าวของออกมาจากรถเขาแล้วเอากุญแจกลับไปไว้ที่เดิม จบสิ้นภารกิจทวงคืนของวันนี้ อย่างสมบูรณ์แบบ
___________
เช้าวันนี้ราตรีตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อแก้ตัวที่เมื่อวานตื่นสายโด่งให้สามีต้องขายหน้า เธอลงมาด้านล่าง คว้าเอากุญแจรถที่สามีบอกว่าวางไว้ที่บาร์เครื่องดื่มเพื่อขับมันออกไปจ่ายตลาด เธอทำกับข้าวไม่เป็นหรอกนะ แต่คุณย่าศรีสุรางค์สั่งแกมบังคับให้เธอไปซื้อของสดมาใส่ตู้เย็นไว้ ส่วนกับข้าว มารดาของเทียนหยดจะเป็นคนจัดการ มันโอเคสำหรับเธอเลยล่ะ เพราะน่าปวดหัวจะตายเวลาต้องคิดว่าวันนี้จะซื้ออะไรมาขึ้นโต๊ะให้คนในบ้านรับประทาน
ราตรีซื้อข้าวของจนเวลาล่วงเจ็ดโมงเช้า เหนื่อยเอาการเพราะซื้อของที่ตลาดสดไม่ได้สะดวกสบายเหมือนในห้าง แต่เธอก็ต้องมาเพราะไม่อยากรอเวลาไปเดินห้างตอนสาย บางที...ช่วงบ่ายเธออาจไปขลุกอยู่ที่คอนโดฯ ของจีรวัฒน์ เมื่อคืนนี้สมัตถ์ไม่ยอมแตะต้องเธอเลย เขาบอกว่าเหนื่อยและเพลีย มีแต่ตัวเลขกับตัวอักษรในรายงานวนเวียนอยู่ในหัวจนอยากนอนพักมากกว่า แน่ล่ะ มันขัดใจเธอ แต่สิ่งที่เธอบอกเขากลับตรงกันข้าม ก็เธอคือภรรยาผู้แสนดีนี่นา
แสงตะวันกระจ่างทั่วคุ้งฟ้าตอนที่ราตรีขับรถมาถึงบ้าน เธอเอารถเข้าไปจอดแล้วสั่งให้สาวใช้นางหนึ่งมาขนของเข้าครัว ที่นี่มีคนรับใช้สองคนและคนสวนหนึ่งคนที่นานๆ นางศรีสุรางค์จะใช้ให้ขับรถไปโน่นมานี่ หน้าที่เธอเสร็จแล้วในเช้าวันนี้ ก่อนปิดประตูรถก็ไม่ลืมสอดส่ายสายตาหาดูว่าลืมอะไรหรือเปล่า ทุกอย่างเรียบร้อยดี เบาะหนังมันวาวสะอาดสะอ้านไม่มีสิ่งใดวางอยู่แม้แต่น้อย ทว่าพอตั้งท่าจะปิดประตู หางตาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่อยู่เบาะข้างๆ มีสีม่วงอ่อนแวบๆ ที่หางตา เธอมุดเข้าไปในรถอีกครั้ง ก้มไปดูตรงที่สงสัย ก่อนจะดึงเจ้าสิ่งนั้นออกมาช้าๆ
เนื้อผ้าชิ้นเล็กบางและมันลื่นค่อยๆ หลุดออกมาจากซอกเล็กๆ ข้างสลักเข็มขัดนิรภัย หัวใจเธอเต้นแรง เลือดลมในกายสูบฉีดวิ่งพล่าน หูอื้อแต่ไม่ได้ตาลาย ร่างทุกส่วนร้อนขึ้นมาเมื่อคลี่เจ้าผ้าชิ้นเล็กๆ นั่นออกจากสุด
“กรี๊ดดด!!!”
ราตรีกรีดร้องระงม ทั้งโกรธทั้งโมโห ทั้งแค้น รีบกำเอาเจ้าผ้าชิ้นนั้นขึ้นไปบนห้องนอน สามีที่รักแต่งตัวอยู่หน้ากระจก ดูเขาสดชื่นอารมณ์ดีจนน่าหมั่นไส้
“สมัตถ์!”
ผู้เป็นสามีตื่นตระหนก หันมาหาศรีภรรยา รอยยิ้มสดใสพลันเลือนหายเมื่อเห็นหน้าบึ้งตึงของหล่อน “อะไร เป็นอะไรครับ”
หวืด!
ผ้าชิ้นเล็กๆ ถูกปาจากมือภรรยามาปะทะแผ่นอกสามี ก่อนที่มันจะร่วงผล็อยลงพื้นแทบเท้าเขา
“บอกมา! ของใคร!” ถามแล้วน้ำตาไหลพราก มันแค้นใจจนไหลออกมาเอง ยังไม่ได้ร้องฟูมฟายด้วยซ้ำ สมัตถ์กล้านอกใจเธอได้ยังไง กล้าทำได้ยังไง!
สมัตถ์มึนงง หยิบกางเกงชั้นในขึ้นมาพิจารณา ยังมีตรายี่ห้อแขวนอยู่ที่หัวกางเกง มันเรื่องอะไรกันเล่า เขาไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย
“อะไรไนท์ ผมไม่รู้เรื่อง”“ไม่รู้เรื่องได้ยังไง! ก็ไอ้นี่มันอยู่ในรถคุณ! บอกมานะสมัตถ์ คุณมีคนอื่นใช่ไหม ใช่ไหมฮะ!” ไม่ถามเปล่าๆ แต่เข้าไปเค้นเอาความจริงด้วยการทุบตีสามี ความไว้เนื้อเชื่อใจหายไปสิ้น ความรู้สึกเหมือนถูกหักหลังจู่โจมหัวใจ ไม่ได้นึกถึงยามที่ตัวเองแอบไปมีสัมพันธ์กับชายอื่นเลยเผียะ!หนึ่งตบของราตรีกระทบซีกแก้มสมัตถ์อย่างแรง ชายหนุ่มยืนนิ่ง กำเจ้าผ้าผืนเล็กในมืออย่างโกรธเคือง เพราะมันแท้ๆ ที่ทำให้เขาโดนตบฟรีๆ“ทำไม! พูดไม่ออกเลยใช่ไหม รักมันมากหรือสมัตถ์! รักมันมากก็ไปเอากับมัน อย่ามายุ่งกับฉัน!” ราตรีตะโกนใส่ น้ำตาไหลเป็นทาง ริมฝีปากสั่นระริก ความโกรธวิ่งพล่านทั่วร่างเหมือนยาพิษชั้นดีที่กำลังแทรกซึมสู่หัวใจสมัตถ์ส่ายหน้า ชาที่ซีกแก้มเกินจะกล่าว รู้สึกถึงกลิ่นคาวเลือดจางๆ ที่มุมปาก ราตรีมือหนักเหลือเกิน“ผมไม่รู้เรื่องจริงๆ ฟังผมบ้างไนท์ ผมรักคุณคนเดียว ไม่เคยมีใครจริงๆ ส่วนเจ้านี่ ผมไม่รู้ว่ามันมาอยู่ในรถได้ยังไง ผมไม่รู้จริงๆ สาบาน...” เขาเอ่ยความจริง พยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบยามภร
ศรีภรรยาผู้แสนดีของสมัตถ์เดินมาส่งเขาที่รถตามเคย ทั้งสองร่ำลากันและจบด้วยการที่ศรีภรรยาเอียงแก้มให้หอมเทียนหยดยืนมองแล้วต้องเบือนหน้าหนีเพราะสงสารสมัตถ์เกินจะกล่าว พอเขาเคลื่อนรถออกไปราตรีก็เดินกลับเข้ามา ทั้งสองเดินสวนกันที่บันไดขึ้นลงด้านหน้า“รักกันจริงนะคะ” เทียนหยดเปิดฉาก อีกฝ่ายไม่อยากคุยด้วยนักแต่คงอดไม่ได้“แน่นอน ไม่ว่าอะไรก็มาพรากสมัตถ์ไปจากฉันไม่ได้หรอก พวกสัมภเวสีเที่ยวขอส่วนบุญน่ะ ไปหาเอาข้างหน้า”“โอ้...แรง!” เทียนหยดทำตาโตอ้าปากค้าง ตะลึงในคำผรุสวาทของอีกฝ่าย“เขาเป็นของฉัน ไม่มีวันชายตาแลคนอื่น อย่า...พยายาม” ราตรีเตือนเทียนหยดยิ้มเยาะ “อย่ามั่นใจนักสิ เคยได้ยินคำว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วไหม คนเราทำอะไรไว้มันก็ได้รับผลอย่างนั้นแหละ”“เธอหมายถึงอะไร”“ฉันแค่พูดในสิ่งที่เคยได้ยินน่ะ” ตอบอย่างมีนัย“ฉันดีพอสำหรับเขา ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่หลงฉันหัวปักหัวปำหรอก”“เฮอะ! น่าขำ” เทียนหยดทำทีหัวเราะอย
[8]ไม้ตาย**************กริ๊งๆๆเสียงโทรศัพท์ภายในดังขึ้นที่โต๊ะของหญิงสาว เธอหยิบมันมาแนบหู ก่อนที่ปัญหาเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่จะพรั่งพรูเข้ามาให้ต้องขบคิด เธอเจรจากับปลายสายราวสิบนาที ก่อนจะวางลงแล้วต่อสายหาผู้ช่วยผ่านโทรศัพท์มือถือ“นิดา”‘คะ คุณเทียน’“เรามีปัญหาแล้ว” เทียนหยดว่า ได้ยินเสียงครางของคนปลายสายดังแว่วมา‘ยังไงคะ’เทียนหยดลุกจากเก้าอี้มาคุยโทรศัพท์ดีๆ สมัตถ์มองหล่อนทางหางตา แล้วรีบเบนสายตาหลับมาที่จุดเดิม เพราะดวงตาเขาดันไปปะทะเข้ากับบั้นท้ายงอนงามยามเจ้าตัวขยับเคลื่อนไหว เรือนร่างของเทียนหยดช่างมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่ดึงดูดใจคนมองเหลือเกิน“โกดังของ RPS ไม่มีพื้นที่พอให้ของของเรา”‘ตายแล้ว! แล้วจะทำยังไงดีคะ จะไปหาเช่าโกดังที่ไหน แล้วกี่วันคะถึงจะต้องย้ายของออกมา’ ปลายสายมีความกังวล เพราะของที่ว่านั้นก็มีปริมาณมากอยู่“ไม่ๆๆ ฉันไม่อยากเช่าเลย มันเพิ่มต้นทุนให้เราโดยใช่เหตุ จะดีกว่าถ้าเรามีโกดังของเราเอง”‘ที่ไหนละคะบอส’“นั่นนะสิ!” หยดเทียนหัวเสีย มีเวลาอีกสองเดือน เธอต้องหาโกดังให้ได้ “ฉันมีเวลาหาอีกไม่มาก ความจริงถ้าเราระบายของที่มีตอนนี้ออกจากโกดังได้ภายในสองเดือน ของใหม
พรางพิษEP 1แสนชัง___________กลุ่มควันสีเทาปนดำ พวยพุ่งออกจากปากปล่องเมรุภายในวัดดังแห่งหนึ่งใจกลางเมืองกรุงฯ สมัตถ์ โสภณวิชญ์ มองตามกลุ่มควันแล้วถอนหายใจพรืดใหญ่ ดวงตาแดงก่ำนั้นแทนคำบอกเล่าถึงความเศร้าที่อยู่ภายใน หกเดือนที่แล้วเขาเสียมารดาไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ แต่นั่นไม่ทำให้เขาเจ็บปวดเท่าที่ว่ามารดาวัยเลยสาวของเขานั้นแอบนัดแนะสามีคนอื่นออกมาพบเจอกัน บิดาผู้ซื่อตรงของเขารู้เรื่องนี้เข้า และติดตามจนพบเจอพวกเขา เกิดเรื่องเศร้าที่ไม่มีใครคาดคิด หลังมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงนั้น มารดาเขาขับรถออกไปพร้อมชู้รักและเกิดอุบัติเหตุขึ้น มารดาที่รักเสียชีวิตคาที่ ในขณะที่ชู้รักอาการหนักจนต้องนอนแบ็บติดเตียง ส่วนบิดาที่เคารพ ก็เข้าสู่โหมดตรอมใจนับตั้งแต่วันนั้น และครึ่งปีให้หลัง ท่านก็เสียชีวิตลง งานศพของท่านกำลังจะเสร็จสิ้นภายในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าแล้ว“มัตถ์คะ พวกนั้นมาค่ะ”เสียงศรีภรรยากระซิบใกล้ๆ หู สมัตถ์หันไปมองด้านหลัง ร่างงามระหงที่เขาแสนชิงชังกำลังเดินเข้ามาในศาลา วงหน้างามด้วยเครื่องสำอางทาบทา ดูสดใสจนคนมองอย่างเขานึกหมั่นไส้ หล่อนควรตีหน้าเศร้าสักนิดตอนที่เดินเข้ามาในงานศพอย่างนี้
EP 1/2 แสนชังสองอาทิตย์ให้หลังสมัตถ์เดินวนไปวนมาหน้าประตูห้องทำงานของบิดา สองอาทิตย์มาแล้วที่เขาเฝ้ารอการมาของเทียนหยด และวันนี้ก็มาถึง เขาไม่รู้ว่าหล่อนติดธุระอันใด แต่เห็นแล้วว่าหล่อนผิดนัดไปหลายวันเชียวล่ะตอนนี้ย่าของเขากำลังเจรจากับเจ้าหล่อนอยู่ เขาจะไม่สนหรอกหากว่าวันนี้ย่าไม่เรียกตัวทนายมาด้วย มันชวนให้เขาวิตกถึงอะไรบางอย่างที่ยังไม่รู้แน่ชัดแอ๊ด...ประตูเปิดออกพร้อมกับร่างผอมเตี้ยของทนายที่ทุกคนในโสภณวิชญ์รู้จักดี ด้วยว่าทำงานร่วมกันตั้งแต่กิจการโรงแรมของตระกูลยังรุ่งเรืองอยู่ ตามมาด้วยร่างอรชรของแม่สาวชุดดำที่เขานึกชิงชังมิคลาย“เอ้า ตามัตถ์? มาทำอะไรตรงนี้”ศรีสุรางค์ที่เดินออกมาจากห้องเป็นคนสุดท้ายเอ่ยถามหลานชายด้วยสงสัย“เอ่อ...เปล่านี่ครับ ก็เดินเล่นไปเรื่อย”ศรีสุรางค์ทำหน้าไม่ค่อยเชื่อ ก่อนจะเอ่ย“ย่าไปส่งคุณทนายก่อน แล้วจะกลับมาคุยกับเรา ไปรอในห้องนั่งเล่นล่ะ”“ครับคุณย่า”เทียนหยดเตรียมตัวจะก้าวเดินเมื่อผู้ใหญ่ทั้งสองก้าวนำหน้า แต่ข้อมือข้างหนึ่งของเธอถูกดึงไว้ด้วยมือแข็งราวคีมเหล็กของเขา“ปล่อยค่ะ”“บอกมาก่อนว่าเธอคุยอะไรกับคุณย่า”เทียนหยดยิ้มเยือกเย็น เขาจะทำหน้
EP 1/3 แสนชังไม่กี่วันหลังจากนั้น สมัตถ์ก็มานั่งอยู่ในห้องประชุมขนาดใหญ่ของบริษัท RPS Cosmetic Co.,Ltd. บริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์เพื่อความสวยความงาม เขานั่งชั่งใจเป็นหนสุดท้ายก่อนรับภาระอันหนักอึ้งมาไว้บนบ่า คุณย่าที่รักปรารถนาให้เขารับมันไว้แต่โดยดี แต่เขายังสองจิตสองใจ แม้ว่าหุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์มันจะมากกว่าหุ้นของหุ้นส่วนอีกสองคนที่เหลือ แต่ยังน้อยไปเมื่อเทียบกับหุ้นของผกากรอง ท่านประธานคนใหม่ของ RPS และดูเหมือนว่ามารดาของเทียนหยดจะทำอะไรไม่เป็นเลยนอกจากจิกหัวใช้ลูกสาวน่าแปลกใจไหมเล่าที่เทียนหยดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในหุ้นของบริษัทนี้ หล่อนทำหน้าที่เป็นเพียงใครบางคนที่มีอำนาจสิทธิ์ขาดในการสั่งการไม่ต่างจากเขา ทว่าไร้ตำแหน่งที่แน่นอน เขาเดาว่าตำแหน่งจริงๆ ของหล่อนนั้น น่าจะแต่งตั้งขึ้นมาเพื่อควบคุมเขาเสียมากกว่า“เสร็จหรือยังยัยเทียน ฉันต้องรีบไปโรงเรียนตาโอบนะ” สตรีวัยเลยสาว ที่วันนี้แต่งกายเรียบหรูดูดีทุกกระเบียดนิ้ว เอ่ยถามบุตรสาวอย่างไม่เกรงใจใคร ด้วยว่านั่งอยู่ตรงนี้มาชั่วโมงหนึ่งแล้ว ฟังถ้อยเจรจาเรื่องข้อตกลงของหุ้นส่วนใหม่จนเบื่อเหลือกำลัง“ชู่ว์...คุณแม่คะ เสียมารยาท
ภายในลิฟต์โดยสารที่มีเพียงสองแม่ลูก ลิฟต์เคลื่อนลงไปเรื่อยๆ ตามความสูงของอาคารหกชั้น“แม่คะ”“อย่ามาพูดกับฉัน ฉันโกรธอยู่” ผกากรองว่าแล้วมองหน้าตัวเองในผนังลิฟต์มันวาว มีความไม่พอใจระบายอยู่บนใบหน้าของตัวเองจนต้องเลื่อนดวงตาไปมองทางอื่น“มันเป็นความประสงค์ของคุณลุงนี่คะ”“ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้อะไรคนพวกนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นอุบัติเหตุ แกรู้ดีที่สุดยัยเทียน” ว่าแล้วจับกระเป๋าคลัตช์ใบหรูมาหนีบไว้ใต้วงแขนแรงๆ ด้วยรูปร่างที่ระหงทุกสัดส่วนทำให้ผกากรองยังดูดีเมื่อเทียบกับอายุจริง“ถ้าไม่ยกให้เขา แม่อยากยกให้ใครละคะ คุณลุงให้หุ้นพวกเขาอย่างน้อยๆ แม่ก็มั่นใจได้เลยว่าเขาไม่พาบริษัทเจ๊งแน่ๆ หนูทำคนเดียวไม่ไหวหรอกนะคะ”เทียนหยดชี้แจง เธอไม่ได้ทำงานให้ RPS เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีแบรนด์เครื่องสำอางของตัวเอง งานบริหารจัดการของเธอเธอก็ต้องดูแล“นั่นแหละที่ทำให้ฉันโกรธ ถ้าฉันรู้เรื่องงานบริหารมากกว่านี้สักนิดก็คงไม่ต้องให้หุ้นพวกเขาหรอก”เทียนหยดส่ายหน้าช้าๆ มองมารดาแล้วสะท้อนในอก“แม่คะ ถึงยังไงคุณลุงก็ยกหุ้นให้คุณสมัตถ์อยู่ดี ต่อให้แม่ทำงานเก่งแค่ไหน หุ้นตรงนั้นคุณลุงก็ไม่ให้แม่หรอกค่ะ”
ณ บ้านโสภณวิชญ์อันโอ่อ่าสมฐานะเจ้าของ เจ้าบ้านใหญ่นั่งอยู่กับหลานชายบนโซฟาผ้าไหมสีเขียวอ่อน ถัดไปเป็นหลานสะใภ้และเก้าอี้ว่างหนึ่งตัว ตรงข้ามกันนั้นเป็นร่างของสามแม่ลูกที่นั่งเรียงกันบนโซฟาตัวยาวเช่นกัน“บ้านนี้มีหลายห้อง แต่ว่า...”“แต่ว่ามีห้องว่างแค่ห้องเดียว ข้างบน”สมัตถ์เอ่ยขัดวาจาของย่า ไม่ได้เต็มใจกับการมาอยู่ที่นี่ของสามแม่ลูกสักนิด หากเป็นไปได้ก็อยากเอาน้ำยาฆ่าเชื้อมาสาดไล่เชียวล่ะ“ฉันนอนกับตาโอบได้ แต่ว่ายัยเทียน...” ผกากรองเปรยอย่างกังวล“น่าจะมีห้องว่างที่ข้างล่างนะคะ” เทียนหยดเอ่ยแทรกแล้วมองออกไปนอกประตูห้องรับแขก เธอเห็นประตูอยู่สองสามบาน น่าจะเป็นห้องละนะ“ข้างล่างเป็นห้องทำงานฉัน และห้องพักสำหรับแขก” สมัตถ์รีบบอก เทียนหยดยิ้มน้อยๆ“งั้นฉันอยู่ห้องรับแขกก็ได้”“ไม่ได้ ถ้าเธออยู่ห้องนั้น แล้วถ้าแขกมาล่ะ จะให้ปูเสื่อนอนหรือไง”ราตรีท้วงทันใด หน้าตานั้นไม่ต่างจากสามีมากนัก“แล้วจะให้ลูกฉันไปนอนที่ไหนล่ะ” ผกากรองถาม คอแข็งเป็นเอ็น ไม่ชอบใจคนบ้านนี้ไม่ว่าจะหัวหงอกหัวดำ“ความจริง...ห้องแม่บ้านเก่าก็ว่างนี่คะ กว้างขวางดีออก ข้างๆ ห้องคนใช้น่ะ” ราตรีบอกแล้วยิ้มเยาะอย่างผู้ชนะ
[8]ไม้ตาย**************กริ๊งๆๆเสียงโทรศัพท์ภายในดังขึ้นที่โต๊ะของหญิงสาว เธอหยิบมันมาแนบหู ก่อนที่ปัญหาเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่จะพรั่งพรูเข้ามาให้ต้องขบคิด เธอเจรจากับปลายสายราวสิบนาที ก่อนจะวางลงแล้วต่อสายหาผู้ช่วยผ่านโทรศัพท์มือถือ“นิดา”‘คะ คุณเทียน’“เรามีปัญหาแล้ว” เทียนหยดว่า ได้ยินเสียงครางของคนปลายสายดังแว่วมา‘ยังไงคะ’เทียนหยดลุกจากเก้าอี้มาคุยโทรศัพท์ดีๆ สมัตถ์มองหล่อนทางหางตา แล้วรีบเบนสายตาหลับมาที่จุดเดิม เพราะดวงตาเขาดันไปปะทะเข้ากับบั้นท้ายงอนงามยามเจ้าตัวขยับเคลื่อนไหว เรือนร่างของเทียนหยดช่างมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่ดึงดูดใจคนมองเหลือเกิน“โกดังของ RPS ไม่มีพื้นที่พอให้ของของเรา”‘ตายแล้ว! แล้วจะทำยังไงดีคะ จะไปหาเช่าโกดังที่ไหน แล้วกี่วันคะถึงจะต้องย้ายของออกมา’ ปลายสายมีความกังวล เพราะของที่ว่านั้นก็มีปริมาณมากอยู่“ไม่ๆๆ ฉันไม่อยากเช่าเลย มันเพิ่มต้นทุนให้เราโดยใช่เหตุ จะดีกว่าถ้าเรามีโกดังของเราเอง”‘ที่ไหนละคะบอส’“นั่นนะสิ!” หยดเทียนหัวเสีย มีเวลาอีกสองเดือน เธอต้องหาโกดังให้ได้ “ฉันมีเวลาหาอีกไม่มาก ความจริงถ้าเราระบายของที่มีตอนนี้ออกจากโกดังได้ภายในสองเดือน ของใหม
ศรีภรรยาผู้แสนดีของสมัตถ์เดินมาส่งเขาที่รถตามเคย ทั้งสองร่ำลากันและจบด้วยการที่ศรีภรรยาเอียงแก้มให้หอมเทียนหยดยืนมองแล้วต้องเบือนหน้าหนีเพราะสงสารสมัตถ์เกินจะกล่าว พอเขาเคลื่อนรถออกไปราตรีก็เดินกลับเข้ามา ทั้งสองเดินสวนกันที่บันไดขึ้นลงด้านหน้า“รักกันจริงนะคะ” เทียนหยดเปิดฉาก อีกฝ่ายไม่อยากคุยด้วยนักแต่คงอดไม่ได้“แน่นอน ไม่ว่าอะไรก็มาพรากสมัตถ์ไปจากฉันไม่ได้หรอก พวกสัมภเวสีเที่ยวขอส่วนบุญน่ะ ไปหาเอาข้างหน้า”“โอ้...แรง!” เทียนหยดทำตาโตอ้าปากค้าง ตะลึงในคำผรุสวาทของอีกฝ่าย“เขาเป็นของฉัน ไม่มีวันชายตาแลคนอื่น อย่า...พยายาม” ราตรีเตือนเทียนหยดยิ้มเยาะ “อย่ามั่นใจนักสิ เคยได้ยินคำว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วไหม คนเราทำอะไรไว้มันก็ได้รับผลอย่างนั้นแหละ”“เธอหมายถึงอะไร”“ฉันแค่พูดในสิ่งที่เคยได้ยินน่ะ” ตอบอย่างมีนัย“ฉันดีพอสำหรับเขา ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่หลงฉันหัวปักหัวปำหรอก”“เฮอะ! น่าขำ” เทียนหยดทำทีหัวเราะอย
“อะไรไนท์ ผมไม่รู้เรื่อง”“ไม่รู้เรื่องได้ยังไง! ก็ไอ้นี่มันอยู่ในรถคุณ! บอกมานะสมัตถ์ คุณมีคนอื่นใช่ไหม ใช่ไหมฮะ!” ไม่ถามเปล่าๆ แต่เข้าไปเค้นเอาความจริงด้วยการทุบตีสามี ความไว้เนื้อเชื่อใจหายไปสิ้น ความรู้สึกเหมือนถูกหักหลังจู่โจมหัวใจ ไม่ได้นึกถึงยามที่ตัวเองแอบไปมีสัมพันธ์กับชายอื่นเลยเผียะ!หนึ่งตบของราตรีกระทบซีกแก้มสมัตถ์อย่างแรง ชายหนุ่มยืนนิ่ง กำเจ้าผ้าผืนเล็กในมืออย่างโกรธเคือง เพราะมันแท้ๆ ที่ทำให้เขาโดนตบฟรีๆ“ทำไม! พูดไม่ออกเลยใช่ไหม รักมันมากหรือสมัตถ์! รักมันมากก็ไปเอากับมัน อย่ามายุ่งกับฉัน!” ราตรีตะโกนใส่ น้ำตาไหลเป็นทาง ริมฝีปากสั่นระริก ความโกรธวิ่งพล่านทั่วร่างเหมือนยาพิษชั้นดีที่กำลังแทรกซึมสู่หัวใจสมัตถ์ส่ายหน้า ชาที่ซีกแก้มเกินจะกล่าว รู้สึกถึงกลิ่นคาวเลือดจางๆ ที่มุมปาก ราตรีมือหนักเหลือเกิน“ผมไม่รู้เรื่องจริงๆ ฟังผมบ้างไนท์ ผมรักคุณคนเดียว ไม่เคยมีใครจริงๆ ส่วนเจ้านี่ ผมไม่รู้ว่ามันมาอยู่ในรถได้ยังไง ผมไม่รู้จริงๆ สาบาน...” เขาเอ่ยความจริง พยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบยามภร
‘ฮัลโหล โทรมาทำไม’“คุณอยู่ไหม ว่างหรือเปล่า”‘ไม่ ฉันต้องอยู่บ้านคืนนี้’“โธ่ ทนไม่ไหวแล้ว มาหาหน่อย ได้โปรด...” เขาวอนขอคนปลายสาย ได้ยินเสียงหล่อนจุ๊ปากอย่างขัดใจ‘ไม่ได้ๆ มันค่ำแล้ว และวันนี้ไม่ใช่วันเสาร์อาทิตย์ที่ฉันจะเที่ยวได้ พรุ่งนี้แล้วกัน’ปลายสายต่อรอง จีรวัฒน์ยิ่งขัดใจ “โธ่...ไนท์ คิดถึงคุณ”‘ชู่ว์...ฉันไม่ใจอ่อนหรอกนะ ต่อให้คุณลงแดงตายก็เถอะ อ้อ...อย่าโทรหาฉันอีก ฉันจะเป็นฝ่ายโทรหาคุณเอง แค่นี้นะ สามีฉันมา’ตู๊ด...จีรวัฒน์ขว้างโทรศัพท์ทิ้ง หลายปีที่คบกับเทียนหยดเขาก็มีผู้หญิงคนอื่นลับหลังหล่อนเสมอ จนกระทั่งได้มาพบราตรี หล่อนตอบโจทย์เรื่องบนเตียงให้เขาอย่างถึงอกถึงใจ ที่สำคัญ แม้ว่าหล่อนจะแต่งงานแล้วก็ยังไม่เลิกติดต่อกับเขา เมื่อมีเวลาก็มาเจอกัน สนุกกันบ่อยๆ เขาชอบแบบนี้ มีเมียชาวบ้านมาเสิร์ฟถึงเตียงแล้วจะไปหาซื้อตามอ่างตามเลาจน์ทำไมแต่วันนี้ราตรีคงมาไม่ได้เสียแล้ว ให้ตายเถอะ แทนที่จะคิดถึงหล่อนเขากลับคิดถึงแต่ภาพก้อนเนื้ออว
EP 7พิษอำพราง_____________เทียนหยดพลิกกายขึ้นมาคร่อมเขาบ้าง การเป็นฝ่ายคุมเกมมันปลอดภัยกว่าเป็นไหนๆ เธอทำอย่างที่เขาทำกับเธอ ซุกใบหน้าเข้าหาซอกคอแกร่ง ไซ้ปลายจมูกสูดดมแบบเงอะงะด้วยว่ายังไม่เคยทำสักครั้ง แต่เทียนหยดก็คือเทียนหยด ไม่เคยมีสิ่งใดที่อยากทำแล้วทำไม่ได้ ไม่นานเสื้อของเธอก็ถูกถอดด้วยมือเขา เหลือเพียงบราเซียร์สีเพลิงหุ้มห่อทรวงอวบ ส่วนด้านล่างนั้นยังอยู่ครบทั้งกระโปรงและกางเกงชั้นใน“จุ๊ๆๆ เทียน...โอ...เทียน...” จีรวัฒน์ถึงกับครางระงม เมื่อแผ่นอกหนาได้สัมผัสผิวเนื้อสองก้อนอันนุ่มหยุ่น แม้ถูกหุ้มห่อด้วยบราเซียร์ แต่เชื่อเถอะว่าเนินเนื้อที่ล้นทะลักนั้นบางส่วนได้วางแหมะกับอกเขาพอดิบพอดี มันให้ความรู้สึกแสนวิเศษ วิเศษจนไม่อยากให้อะไรมาขวางกั้น“จีขา...ดีไหมคะ”“ดี...เทียน...ดีที่สุด” เขาขานรับ หลับตาพริ้มยามเทียนหยดเลื่อนกายลงไปเรื่อยๆ ไต่ริมฝีปากหล่อนผ่านแผ่นอกเขาลงไปยังเนินหน้าท้อง อ้อยอิ่งอยู่แถวแอ่งสะดือ เขาอยากดึงผ้านวมที่ปิดกายท่อนล่างออก แต่ติดท
หนุ่มสาวเดินทางมาถึงที่ทำงานในเวลาต่อมา งานเอกสารมากองเต็มโต๊ะสมัตถ์เหมือนวิดีโอเก่าที่เอามาฉายซ้ำ เขานั่งทำงานงกๆ มุ่นคิ้วจนมันจะเป็นเลขแปดยามทบทวนเนื้อหาที่อยู่ในแฟ้ม ในขณะที่สตรีที่เพิ่งถูกหักอก นั่งเอนหลังสบายๆ มีถุงชาอุ่นๆ แปะไว้ที่ตาทั้งสองข้าง และเอื้อมมือไปหยิบสมาร์ตโฟนในทุกครั้งที่สัญญาณเตือนข้อความดังขึ้นมือเรียวดึงถุงชาอุ่นๆ ออกจากเปลือกตา มันช่วยลดอาการบวมได้ในระดับหนึ่ง เธอตอบกลับผู้ช่วยนิดา คนสวยคนเก่งที่ช่วยงานเธอ เจ้าหล่อนส่งข้อความมาทางห้องแชทเฟซบุ๊กให้เธอพิจารณา เธออ่านๆๆ แล้วลงความเห็นว่าให้เจ้าหล่อนจัดการไปได้เลย ในส่วนของแป้งตัวอย่างนั้น เธอเก็บใส่กระเป๋าเรียบร้อยแล้ว คิดว่าเร็วๆ นี้จะลองทาแล้วอัดคลิปรีวิวลงยูทูป แต่คงไม่ใช่วันสองวันนี้แน่ๆ อย่างน้อยต้องให้ตาเธอหายบวมเสียก่อน“นี่...เทียนหยด”“คะ?”“คิดจะช่วยฉันทำงานไหม”“ไม่”“ขอบใจ”สมัตถ์ประชดแล้วก้มหน้าลงอ่านเอกสารต่อ ก่อนจะเซ็นแกรกๆ แล้วเอามันไปวางบนกองเตี้ยๆ ก่อนจะหยิบอีกแฟ้มที่ตั้งสูงกว่าขึ้นมาพิจารณา ส่วนเทียนหยดก็เอาถุงชามาแปะตาแล้วเอนหลังพ
“นายแน่มากโอบ”“ตัวแค่นี้รู้จักพูดนะ โอบนิธิ” ศรีสุรางค์ว่า ยิ้มน้อยๆ แต่ดูมีความสุข เป็นครั้งแรกที่นางยิ้มอย่างมีความสุขหลังจากผ่านเรื่องร้ายๆ บางที..การมาของพวกเตชะทัตก็มิได้เลวร้ายเสมอไปหรอก บางครั้งมันก็มีเรื่องดีๆ ดีมากๆ เสียด้วยมื้อเช้าเสร็จสิ้นในเวลาต่อมา ผกากรองพาโอบนิธิไปโรงเรียน ศรีสุรางค์กินยาแล้วไปเอนหลังในห้อง หญิงชราเจ็บป่วยด้วยสังขารที่ใกล้ร่วงโรย แล้วแต่ว่าวันนี้จะเป็นอะไร ปวดขา ปวดหัว ตัวร้อน นางก็สลับหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆราตรีออกมาส่งสามีที่รถของเขา เหมือนเช่นทุกๆ วัน“ขับรถดีๆ นะคะ รีบกลับบ้านล่ะ”“ครับผม อย่าลืมดูคุณย่าด้วยนะไนท์ ปลุกแกกินข้าวเที่ยงถ้าแกเผลอหลับ ให้กินยาบำรุงด้วยนะห้ามลืม”“ค่า ไนท์จะทำตามทุกอย่างเลยค่า ตั้งใจทำงานนะคะ”“ครับ รักคุณจัง” บอกแล้วโน้มจมูกไปสูดดมแก้มบางเทียนหยดเดินมาเห็นต้องส่ายหัวให้ จินตนาการอันบรรเจิดของเธอแลเห็นสมัตถ์มีสองเขาผุดขึ้นเหนือหัวไปแล้ว สองเขานั้นงดงามยิ่งกว่าเขากวางเรนเดียร์เชียวล่ะ
“ตัวนี้ว่าจะลองเองค่ะ เดี๋ยวนี้แม่ค้าออนไลน์เยอะ เราต้องทำให้เขามั่นใจในสินค้า แค่ถือครีมถือแป้งยืนถ่ายรูปอย่างเดียวไม่ได้แล้วค่ะ งานนี้คงต้องอัดคลิปลงยูทูปไปเลย” เมื่อเอ่ยถึงเรื่องงานความเครียดอีกเรื่องก็เข้ามารุมเร้า“ไหวไหมเทียน ไม่ไหวก็พัก แม่มีเงิน”ลูกสาวค้อนเข้าให้เมื่อมารดาเอ่ยอย่างนั้น“หนูก็อยากมีนี่คะ ไม่อยากขอเงินแม่ไปจนตายหรอก เงินแม่น่ะ เก็บไว้แต่งลูกสะใภ้เถอะค่า” ว่าแล้วยิ้มหวาน ตาบวมฉึ่งกับหน้าโทรมๆ นั้นมิได้เข้ากับรอยยิ้มเลยผกากรองเองก็ยิ้มกับลูกด้วย สุดท้ายเลยถูกลูกกอดแรงๆ“รักแม่นะคะ”“รู้แล้วน่า” ตอบแก้เขิน ยกมือยีกระหม่อมบางเบาๆ “งั้นกลับห้องดีกว่า เผื่อตาโอบตื่นมาไม่เจอ รายนั้นยิ่งกลัวผีอยู่ด้วย”“ค่า วันนี้หลับเร็วนะคะ หนูกลับมาบ้านเงียบเชียว”“อือ...คุณศรีสุรางค์ไม่สบายน่ะ พอกินข้าวเสร็จสองสามีภรรยานั่นก็พาย่าเขาเข้านอน ตาโอบก็ง่วงเพราะตอนบ่ายสมัตถ์สอนเล่นกอล์ฟจนเหงื่อชุ่ม ชอบใจใหญ่ ดูเขาเข้ากันดีนะ อาจเพราะตาโอบไม
EP 6ยั่วฟืดๆๆเสียงสูดน้ำมูกดังๆ ก่อนที่เทียนหยดจะเอาหน้าผากออกจากหลังสมัตถ์ ชายหนุ่มเบี่ยงหน้าจะดูหลังตัวเอง ไม่เห็นมันหรอก แต่รู้เชียวละว่ามันคงเป็นด่างดวงเพราะหยดน้ำตา“ขอโทษนะ แล้วก็...ขอบคุณสำหรับแผ่นหลัง” เธอบอกเขา ปาดน้ำตาลวกๆ“เธอโอเคแล้วใช่ไหม”“ไม่...ไม่โอเค แต่ฉันหิว ขอกินก่อนแล้วค่อยไปนอนร้องไห้เป็นเผาเต่าที่ห้องก็ได้”สมัตถ์พยักหน้าหงึกๆ “งั้นฉันไปแล้วนะ ลงมานานแล้วเดี๋ยวไนท์สงสัย”“สงสัยบ้าอะไรล่ะ คุณกับฉันไม่ได้ลักลอบทำอะไรสักหน่อย”เทียนหยดหน้ายุ่ง เขาจะกลัวเมียอะไรนักหนา“อือ...นั่นแหละ ฉันรักของฉัน”“ค่า เชิญค่ะสามีตัวอย่าง” เธอประชดแล้วก้มหน้าลงจานข้าว เลยไม่ได้เห็นสมัตถ์ยิ้มกว้างยามโดนประชด พอเขาออกนอกประตูไป แม่สาวอกหักก็เงยหน้าขึ้นมา ทำไมผู้ชายดีๆ ไม่มีให้เธอบ้างนะ ที่สวรรค์ส่งมาให้ก็ช่างเลวได้ใจ ที่พอจะมองเห็นก็ดันมีเมียอยู่แล้ว ส