“ตัวนี้ว่าจะลองเองค่ะ เดี๋ยวนี้แม่ค้าออนไลน์เยอะ เราต้องทำให้เขามั่นใจในสินค้า แค่ถือครีมถือแป้งยืนถ่ายรูปอย่างเดียวไม่ได้แล้วค่ะ งานนี้คงต้องอัดคลิปลงยูทูปไปเลย” เมื่อเอ่ยถึงเรื่องงานความเครียดอีกเรื่องก็เข้ามารุมเร้า
“ไหวไหมเทียน ไม่ไหวก็พัก แม่มีเงิน”
ลูกสาวค้อนเข้าให้เมื่อมารดาเอ่ยอย่างนั้น
“หนูก็อยากมีนี่คะ ไม่อยากขอเงินแม่ไปจนตายหรอก เงินแม่น่ะ เก็บไว้แต่งลูกสะใภ้เถอะค่า” ว่าแล้วยิ้มหวาน ตาบวมฉึ่งกับหน้าโทรมๆ นั้นมิได้เข้ากับรอยยิ้มเลย
ผกากรองเองก็ยิ้มกับลูกด้วย สุดท้ายเลยถูกลูกกอดแรงๆ
“รักแม่นะคะ”
“รู้แล้วน่า” ตอบแก้เขิน ยกมือยีกระหม่อมบางเบาๆ “งั้นกลับห้องดีกว่า เผื่อตาโอบตื่นมาไม่เจอ รายนั้นยิ่งกลัวผีอยู่ด้วย”
“ค่า วันนี้หลับเร็วนะคะ หนูกลับมาบ้านเงียบเชียว”
“อือ...คุณศรีสุรางค์ไม่สบายน่ะ พอกินข้าวเสร็จสองสามีภรรยานั่นก็พาย่าเขาเข้านอน ตาโอบก็ง่วงเพราะตอนบ่ายสมัตถ์สอนเล่นกอล์ฟจนเหงื่อชุ่ม ชอบใจใหญ่ ดูเขาเข้ากันดีนะ อาจเพราะตาโอบไม่ค่อยได้อยู่กับพ่อหรือพี่ที่เป็นผู้ชายเลยสนิทกับสมัตถ์ง่ายๆ ฝ่ายโน้นเอง แรกๆ ก็เหมือนจะไม่พอใจที่เรามาที่นี่ ไม่นับตาโอบเป็นน้องด้วยซ้ำ แต่ตอนบ่ายนี่เข้าขากันเชียว”
“หรือคะ” ถามอย่างตื่นเต้น มันดีสิถ้าสองคนนั้นเข้ากันได้ดี บ้านที่มีเด็กน่ะ มันทำให้บ้านเป็นบ้าน มีความโกลาหลที่ช่วยให้บ้านมีสีสัน และมันทำให้พวกผู้ใหญ่หันหน้ามาคุยกันดีๆ เหมือนสายใยบางๆ ที่เชื่อมคนในบ้านเข้าไว้ด้วยกัน
“อือ...เอาล่ะ ฉันง่วง ไปนอนดีกว่า แกนอนได้ไหมฮึ ห้องร้อนอย่างนี้”
“ได้ค่ะ นี่ก็ดึกแล้ว ไม่ร้อนเท่าไหร่ เปิดพัดลมเอา”
คนเป็นแม่ยิ้มอ่อนให้ลูกสาวคนดี “รุ่งรดิศคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้นะ แกมีคอนโดฯ ติดแอร์เย็นฉ่ำแท้ๆ แต่ต้องมานอนห้องพัดลม” เอ่ยอย่างขำๆ และเวทนาในคราวเดียว
“หนูทนได้ค่ะแม่ ทนไม่ไหวหนูก็ค่อยหอบหมอนไปนอนห้องแม่เท่านั้นเอง” บอกมารดาแล้วลุกลงจากเตียง เวลานี้ดึกมากแล้ว ถ้ามารดานอนไม่พอ ตื่นมาก็จะบ่นให้เธอฟังจนหูชาเรื่องที่ถุงใต้ตาเปลี่ยนเป็นสีดำ
ผกากรองเดินออกจากห้องบุตรสาว ก่อนไปก็ไม่ลืมสั่งความ
“นอนนะเทียน เรื่องนายจีน่ะ มันเป็นกรรม แกใช้กรรมให้เขาหมดแล้ว แกถึงรู้ความจริง ความรักกับความหลงอยู่ใกล้กันนิดเดียว ลองคิดดูดีๆ ว่าที่ผ่านมาแกรักเขา หรือว่าหลงเขากันแน่ ถ้ารู้ความรู้สึกของตัวเองอย่างชัดเจน มันอาจทำให้แกแก้ไขปัญหานี้ง่ายขึ้น รักคนอื่นได้แม่ไม่ว่า แต่ต้องรักตัวเองนะเทียน”
“ค่ะแม่ รักแม่นะคะ” บอกมารดาแล้วส่งยิ้มให้อย่างขอบคุณ ก่อนจะปิดประตูแล้วกลับมาปีนขึ้นเตียง นอนนิ่งๆ ขบคิดเรื่องต่างๆ ตั้งแต่เกิดมาไม่ว่าจะสุขจะทุกข์ คนที่อยู่ข้างเธอตลอดก็คือมารดานี่เอง แล้วเธอเล่า จะไปเสียน้ำตาให้คนอย่างจีรวัฒน์ทำไม จริงอย่างที่มารดาบอก เธอใช้กรรมให้เขาหมดแล้ว ตั้งแต่วันนี้ไป เขาต่างหากที่ต้องชดใช้ให้เธอ
แม้จะบอกตัวเองให้ทำใจ แม้จะปลอบประโลมหัวใจบางๆ ให้เข้มแข็ง แต่จนแล้วจนรอด กว่าเทียนหยดจะข่มตาให้หลับลงได้ก็เกือบตีหนึ่ง และหลับไปพร้อมๆ กับคราบน้ำตา แม้ในยามใกล้รุ่งยังละเมอเพ้อพกเอ่ยชื่อจีรวัฒน์...ผู้ชายสารเลว
______________
อรุณรุ่งวันใหม่
นางสาวเทียนหยดในมาดเปรี้ยวเข็ดฟัน เดินเข้ามาในห้องอาหารท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคน ก็จริงที่ปกติเธอมักแต่งตัวนำสมัย แต่งหน้าแต่งตาจัดจ้าน แต่วันนี้มันพิเศษยิ่งกว่านั้นด้วยว่าตั้งใจจะไปหาจีรวัฒน์ที่คอนโดฯ กระโปรงสั้นเห็นขาอ่อนกับเสื้อซีทรูแขนกุดสีนิลสนิทเลยถูกดึงออกจากไม้แขวน ด้วยตัวเสื้อเกาะอกสีเนื้อแบบบางเบาที่สวมอยู่ข้างใน มองเผินๆ เลยคล้ายกับว่าเธอมิได้สวมอะไรเลยนอกจากเสื้อแขนกุดลูกไม้ตัวนี้
แว่นตาดำถูกนำมาสวมปกปิดดวงตาอันบวมช้ำ แม้จะแต่งหน้าแต่งตาก็ยังดูโทรม เจ้าตัวรับไม่ไหวเลยต้องพรางมันไว้เสียหน่อย
“อะแฮ่ม เปรี้ยวเข็ดฟันเลยนะเทียนหยด” ศรีสุรางค์เอ่ยแซวคนรุ่นหลาน
เทียนหยดยิ้มหวานก่อนตอบ “คนอกหักก็อย่างนี้ละค่ะ ประชดชีวิต”
หญิงชราเลิกคิ้ว วางช้อนข้าวต้มลง ในขณะที่คนอื่นๆ ในบ้านตั้งหน้าตั้งตารับประทาน “สวยๆ อย่างหล่อนนี่หรือจะอกหัก หมอนั่นคงตาไม่ถึงละมั้ง” นางพูดอย่างที่ใจคิด ไม่ได้เข้าข้างใคร เทียนหยดสะสวย ดูจากนางผกากรองคนแม่เถิด
“เฮ้อ...คงอย่างนั้นมั้งคะ ขนาดมีหนูเป็นแฟนแท้ๆ ก็ยังแอบไปตีท้ายครัวชาวบ้าน อย่างนี้รับไม่ได้ค่ะ ยอมอกหักรักคุดตอนนี้ดีกว่า”
ศรีสุรางค์พยักหน้าหงึกๆ รับรู้ “ฮื่อ...คนสมัยนี้นี่เป็นเอามากนะ ไม่ได้คำนึงเลยว่าผัวใครเมียใคร น่าสมเพช สมองคิดได้เท่านั้นเองเหรอ”
“ว่าไม่ได้หรอกค่ะ คนมันจะเลวนี่คะ ไม่เลือกหรอกว่าสาวโสดหรือแต่งงานแล้ว เขาคงคิดว่าต้นงิ้วมันไม่มีหนามมั้งคะ เลยชวนกันปีน!”
เคล้ง!
ช้อนในมือราตรีร่วงกระทบชาม สมัตถ์หันมองภรรยาอย่างเป็นห่วง มีเมล็ดข้าวติดอยู่มุมปากของราตรี คงจะกระเด็นตอนที่ช้อนหล่นลงไปกระมัง
“เป็นอะไรไหมไนท์” ถามพลางช่วยปัดเมล็ดข้าวออกให้ภรรยาอย่างอ่อนโยน
“ปะ...เปล่า เปล่าค่ะ ข้าวต้มมันร้อน” แก้ต่างแล้วเหลือบมองเทียนหยด และน่าแปลกที่เจ้าตัวจ้องมองมาทางนี้ และน่าจะจ้องอยู่ก่อนแล้ว
“หรือคะ นึกว่าสะเทือนใจ” เทียนหยดแทรก
ผกากรองมุ่นคิ้วแรงๆ ไม่อยากให้เทียนหยดระรานคนอื่น ไม่ว่าคนคนนั้นจะดีหรือเลวก็ตาม
“เรื่องอะไร ฉันเปล่า” ราตรีปฏิเสธ
“ก็เรื่องต้นงิ้วไงคะ คุณน่ะ มีสามีดีๆ ก็ระวังไว้นะคะ พวกชอบฉกฉวยมันเยอะ แอบไปกินกันลับหลังทั้งที่มีผัวมีเมียเป็นตัวตนก็เยอะ ฉันเห็นมากับตาค่ะ” เอ่ยเหมือนหวังดี แต่น้ำเสียงประชดประชันแปลกๆ ราตรีรู้สึกได้และผกากรองก็รู้สึกเช่นกัน
“เทียน...” นางปรามด้วยเสียงเรียบนิ่ง
“คะแม่”
“จะกินข้าวไหม”
“กินค่า” เมื่อหันมาตอบมารดา น้ำเสียงและกิริยาก็เปลี่ยนไปทันที
“ถอดแว่นก่อน” นางว่า จะกินข้าวยังใส่แว่นตาดำ มองเห็นชามข้าวต้มหรือเปล่านั่นน่ะ
“ไม่ถอด...แม่คะ หนูตาบวม ไม่สวย” บอกมารดาคล้ายกระซิบ แต่จริงจัง
ผกากรองส่ายหน้า โอบนิธิมองพี่สาวเขม็ง
“โอบจะไม่หักอกใคร โอบจะเป็นสามีที่ดีเหมือนพี่มัตถ์” ว่าแล้วยิ้มจนตาหยี พลอยทำให้ทุกคนยิ้มไปด้วย ส่วนสมัตถ์นั่นหรือก็ปลื้มปริ่มยิ้มจนแก้มปริ
“นายแน่มากโอบ”“ตัวแค่นี้รู้จักพูดนะ โอบนิธิ” ศรีสุรางค์ว่า ยิ้มน้อยๆ แต่ดูมีความสุข เป็นครั้งแรกที่นางยิ้มอย่างมีความสุขหลังจากผ่านเรื่องร้ายๆ บางที..การมาของพวกเตชะทัตก็มิได้เลวร้ายเสมอไปหรอก บางครั้งมันก็มีเรื่องดีๆ ดีมากๆ เสียด้วยมื้อเช้าเสร็จสิ้นในเวลาต่อมา ผกากรองพาโอบนิธิไปโรงเรียน ศรีสุรางค์กินยาแล้วไปเอนหลังในห้อง หญิงชราเจ็บป่วยด้วยสังขารที่ใกล้ร่วงโรย แล้วแต่ว่าวันนี้จะเป็นอะไร ปวดขา ปวดหัว ตัวร้อน นางก็สลับหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆราตรีออกมาส่งสามีที่รถของเขา เหมือนเช่นทุกๆ วัน“ขับรถดีๆ นะคะ รีบกลับบ้านล่ะ”“ครับผม อย่าลืมดูคุณย่าด้วยนะไนท์ ปลุกแกกินข้าวเที่ยงถ้าแกเผลอหลับ ให้กินยาบำรุงด้วยนะห้ามลืม”“ค่า ไนท์จะทำตามทุกอย่างเลยค่า ตั้งใจทำงานนะคะ”“ครับ รักคุณจัง” บอกแล้วโน้มจมูกไปสูดดมแก้มบางเทียนหยดเดินมาเห็นต้องส่ายหัวให้ จินตนาการอันบรรเจิดของเธอแลเห็นสมัตถ์มีสองเขาผุดขึ้นเหนือหัวไปแล้ว สองเขานั้นงดงามยิ่งกว่าเขากวางเรนเดียร์เชียวล่ะ
หนุ่มสาวเดินทางมาถึงที่ทำงานในเวลาต่อมา งานเอกสารมากองเต็มโต๊ะสมัตถ์เหมือนวิดีโอเก่าที่เอามาฉายซ้ำ เขานั่งทำงานงกๆ มุ่นคิ้วจนมันจะเป็นเลขแปดยามทบทวนเนื้อหาที่อยู่ในแฟ้ม ในขณะที่สตรีที่เพิ่งถูกหักอก นั่งเอนหลังสบายๆ มีถุงชาอุ่นๆ แปะไว้ที่ตาทั้งสองข้าง และเอื้อมมือไปหยิบสมาร์ตโฟนในทุกครั้งที่สัญญาณเตือนข้อความดังขึ้นมือเรียวดึงถุงชาอุ่นๆ ออกจากเปลือกตา มันช่วยลดอาการบวมได้ในระดับหนึ่ง เธอตอบกลับผู้ช่วยนิดา คนสวยคนเก่งที่ช่วยงานเธอ เจ้าหล่อนส่งข้อความมาทางห้องแชทเฟซบุ๊กให้เธอพิจารณา เธออ่านๆๆ แล้วลงความเห็นว่าให้เจ้าหล่อนจัดการไปได้เลย ในส่วนของแป้งตัวอย่างนั้น เธอเก็บใส่กระเป๋าเรียบร้อยแล้ว คิดว่าเร็วๆ นี้จะลองทาแล้วอัดคลิปรีวิวลงยูทูป แต่คงไม่ใช่วันสองวันนี้แน่ๆ อย่างน้อยต้องให้ตาเธอหายบวมเสียก่อน“นี่...เทียนหยด”“คะ?”“คิดจะช่วยฉันทำงานไหม”“ไม่”“ขอบใจ”สมัตถ์ประชดแล้วก้มหน้าลงอ่านเอกสารต่อ ก่อนจะเซ็นแกรกๆ แล้วเอามันไปวางบนกองเตี้ยๆ ก่อนจะหยิบอีกแฟ้มที่ตั้งสูงกว่าขึ้นมาพิจารณา ส่วนเทียนหยดก็เอาถุงชามาแปะตาแล้วเอนหลังพ
พรางพิษEP 1แสนชัง___________กลุ่มควันสีเทาปนดำ พวยพุ่งออกจากปากปล่องเมรุภายในวัดดังแห่งหนึ่งใจกลางเมืองกรุงฯ สมัตถ์ โสภณวิชญ์ มองตามกลุ่มควันแล้วถอนหายใจพรืดใหญ่ ดวงตาแดงก่ำนั้นแทนคำบอกเล่าถึงความเศร้าที่อยู่ภายใน หกเดือนที่แล้วเขาเสียมารดาไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ แต่นั่นไม่ทำให้เขาเจ็บปวดเท่าที่ว่ามารดาวัยเลยสาวของเขานั้นแอบนัดแนะสามีคนอื่นออกมาพบเจอกัน บิดาผู้ซื่อตรงของเขารู้เรื่องนี้เข้า และติดตามจนพบเจอพวกเขา เกิดเรื่องเศร้าที่ไม่มีใครคาดคิด หลังมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงนั้น มารดาเขาขับรถออกไปพร้อมชู้รักและเกิดอุบัติเหตุขึ้น มารดาที่รักเสียชีวิตคาที่ ในขณะที่ชู้รักอาการหนักจนต้องนอนแบ็บติดเตียง ส่วนบิดาที่เคารพ ก็เข้าสู่โหมดตรอมใจนับตั้งแต่วันนั้น และครึ่งปีให้หลัง ท่านก็เสียชีวิตลง งานศพของท่านกำลังจะเสร็จสิ้นภายในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าแล้ว“มัตถ์คะ พวกนั้นมาค่ะ”เสียงศรีภรรยากระซิบใกล้ๆ หู สมัตถ์หันไปมองด้านหลัง ร่างงามระหงที่เขาแสนชิงชังกำลังเดินเข้ามาในศาลา วงหน้างามด้วยเครื่องสำอางทาบทา ดูสดใสจนคนมองอย่างเขานึกหมั่นไส้ หล่อนควรตีหน้าเศร้าสักนิดตอนที่เดินเข้ามาในงานศพอย่างนี้
EP 1/2 แสนชังสองอาทิตย์ให้หลังสมัตถ์เดินวนไปวนมาหน้าประตูห้องทำงานของบิดา สองอาทิตย์มาแล้วที่เขาเฝ้ารอการมาของเทียนหยด และวันนี้ก็มาถึง เขาไม่รู้ว่าหล่อนติดธุระอันใด แต่เห็นแล้วว่าหล่อนผิดนัดไปหลายวันเชียวล่ะตอนนี้ย่าของเขากำลังเจรจากับเจ้าหล่อนอยู่ เขาจะไม่สนหรอกหากว่าวันนี้ย่าไม่เรียกตัวทนายมาด้วย มันชวนให้เขาวิตกถึงอะไรบางอย่างที่ยังไม่รู้แน่ชัดแอ๊ด...ประตูเปิดออกพร้อมกับร่างผอมเตี้ยของทนายที่ทุกคนในโสภณวิชญ์รู้จักดี ด้วยว่าทำงานร่วมกันตั้งแต่กิจการโรงแรมของตระกูลยังรุ่งเรืองอยู่ ตามมาด้วยร่างอรชรของแม่สาวชุดดำที่เขานึกชิงชังมิคลาย“เอ้า ตามัตถ์? มาทำอะไรตรงนี้”ศรีสุรางค์ที่เดินออกมาจากห้องเป็นคนสุดท้ายเอ่ยถามหลานชายด้วยสงสัย“เอ่อ...เปล่านี่ครับ ก็เดินเล่นไปเรื่อย”ศรีสุรางค์ทำหน้าไม่ค่อยเชื่อ ก่อนจะเอ่ย“ย่าไปส่งคุณทนายก่อน แล้วจะกลับมาคุยกับเรา ไปรอในห้องนั่งเล่นล่ะ”“ครับคุณย่า”เทียนหยดเตรียมตัวจะก้าวเดินเมื่อผู้ใหญ่ทั้งสองก้าวนำหน้า แต่ข้อมือข้างหนึ่งของเธอถูกดึงไว้ด้วยมือแข็งราวคีมเหล็กของเขา“ปล่อยค่ะ”“บอกมาก่อนว่าเธอคุยอะไรกับคุณย่า”เทียนหยดยิ้มเยือกเย็น เขาจะทำหน้
EP 1/3 แสนชังไม่กี่วันหลังจากนั้น สมัตถ์ก็มานั่งอยู่ในห้องประชุมขนาดใหญ่ของบริษัท RPS Cosmetic Co.,Ltd. บริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์เพื่อความสวยความงาม เขานั่งชั่งใจเป็นหนสุดท้ายก่อนรับภาระอันหนักอึ้งมาไว้บนบ่า คุณย่าที่รักปรารถนาให้เขารับมันไว้แต่โดยดี แต่เขายังสองจิตสองใจ แม้ว่าหุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์มันจะมากกว่าหุ้นของหุ้นส่วนอีกสองคนที่เหลือ แต่ยังน้อยไปเมื่อเทียบกับหุ้นของผกากรอง ท่านประธานคนใหม่ของ RPS และดูเหมือนว่ามารดาของเทียนหยดจะทำอะไรไม่เป็นเลยนอกจากจิกหัวใช้ลูกสาวน่าแปลกใจไหมเล่าที่เทียนหยดไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในหุ้นของบริษัทนี้ หล่อนทำหน้าที่เป็นเพียงใครบางคนที่มีอำนาจสิทธิ์ขาดในการสั่งการไม่ต่างจากเขา ทว่าไร้ตำแหน่งที่แน่นอน เขาเดาว่าตำแหน่งจริงๆ ของหล่อนนั้น น่าจะแต่งตั้งขึ้นมาเพื่อควบคุมเขาเสียมากกว่า“เสร็จหรือยังยัยเทียน ฉันต้องรีบไปโรงเรียนตาโอบนะ” สตรีวัยเลยสาว ที่วันนี้แต่งกายเรียบหรูดูดีทุกกระเบียดนิ้ว เอ่ยถามบุตรสาวอย่างไม่เกรงใจใคร ด้วยว่านั่งอยู่ตรงนี้มาชั่วโมงหนึ่งแล้ว ฟังถ้อยเจรจาเรื่องข้อตกลงของหุ้นส่วนใหม่จนเบื่อเหลือกำลัง“ชู่ว์...คุณแม่คะ เสียมารยาท
ภายในลิฟต์โดยสารที่มีเพียงสองแม่ลูก ลิฟต์เคลื่อนลงไปเรื่อยๆ ตามความสูงของอาคารหกชั้น“แม่คะ”“อย่ามาพูดกับฉัน ฉันโกรธอยู่” ผกากรองว่าแล้วมองหน้าตัวเองในผนังลิฟต์มันวาว มีความไม่พอใจระบายอยู่บนใบหน้าของตัวเองจนต้องเลื่อนดวงตาไปมองทางอื่น“มันเป็นความประสงค์ของคุณลุงนี่คะ”“ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้อะไรคนพวกนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นอุบัติเหตุ แกรู้ดีที่สุดยัยเทียน” ว่าแล้วจับกระเป๋าคลัตช์ใบหรูมาหนีบไว้ใต้วงแขนแรงๆ ด้วยรูปร่างที่ระหงทุกสัดส่วนทำให้ผกากรองยังดูดีเมื่อเทียบกับอายุจริง“ถ้าไม่ยกให้เขา แม่อยากยกให้ใครละคะ คุณลุงให้หุ้นพวกเขาอย่างน้อยๆ แม่ก็มั่นใจได้เลยว่าเขาไม่พาบริษัทเจ๊งแน่ๆ หนูทำคนเดียวไม่ไหวหรอกนะคะ”เทียนหยดชี้แจง เธอไม่ได้ทำงานให้ RPS เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีแบรนด์เครื่องสำอางของตัวเอง งานบริหารจัดการของเธอเธอก็ต้องดูแล“นั่นแหละที่ทำให้ฉันโกรธ ถ้าฉันรู้เรื่องงานบริหารมากกว่านี้สักนิดก็คงไม่ต้องให้หุ้นพวกเขาหรอก”เทียนหยดส่ายหน้าช้าๆ มองมารดาแล้วสะท้อนในอก“แม่คะ ถึงยังไงคุณลุงก็ยกหุ้นให้คุณสมัตถ์อยู่ดี ต่อให้แม่ทำงานเก่งแค่ไหน หุ้นตรงนั้นคุณลุงก็ไม่ให้แม่หรอกค่ะ”
ณ บ้านโสภณวิชญ์อันโอ่อ่าสมฐานะเจ้าของ เจ้าบ้านใหญ่นั่งอยู่กับหลานชายบนโซฟาผ้าไหมสีเขียวอ่อน ถัดไปเป็นหลานสะใภ้และเก้าอี้ว่างหนึ่งตัว ตรงข้ามกันนั้นเป็นร่างของสามแม่ลูกที่นั่งเรียงกันบนโซฟาตัวยาวเช่นกัน“บ้านนี้มีหลายห้อง แต่ว่า...”“แต่ว่ามีห้องว่างแค่ห้องเดียว ข้างบน”สมัตถ์เอ่ยขัดวาจาของย่า ไม่ได้เต็มใจกับการมาอยู่ที่นี่ของสามแม่ลูกสักนิด หากเป็นไปได้ก็อยากเอาน้ำยาฆ่าเชื้อมาสาดไล่เชียวล่ะ“ฉันนอนกับตาโอบได้ แต่ว่ายัยเทียน...” ผกากรองเปรยอย่างกังวล“น่าจะมีห้องว่างที่ข้างล่างนะคะ” เทียนหยดเอ่ยแทรกแล้วมองออกไปนอกประตูห้องรับแขก เธอเห็นประตูอยู่สองสามบาน น่าจะเป็นห้องละนะ“ข้างล่างเป็นห้องทำงานฉัน และห้องพักสำหรับแขก” สมัตถ์รีบบอก เทียนหยดยิ้มน้อยๆ“งั้นฉันอยู่ห้องรับแขกก็ได้”“ไม่ได้ ถ้าเธออยู่ห้องนั้น แล้วถ้าแขกมาล่ะ จะให้ปูเสื่อนอนหรือไง”ราตรีท้วงทันใด หน้าตานั้นไม่ต่างจากสามีมากนัก“แล้วจะให้ลูกฉันไปนอนที่ไหนล่ะ” ผกากรองถาม คอแข็งเป็นเอ็น ไม่ชอบใจคนบ้านนี้ไม่ว่าจะหัวหงอกหัวดำ“ความจริง...ห้องแม่บ้านเก่าก็ว่างนี่คะ กว้างขวางดีออก ข้างๆ ห้องคนใช้น่ะ” ราตรีบอกแล้วยิ้มเยาะอย่างผู้ชนะ
ชายหนุ่มกวาดตามองทั่วร่างงาม ชุดสูทแบบสตรีที่กระโปรงยาวเหนือเข่าขึ้นมาทำให้เขาเห็นขาขาวๆ เรียวๆ ของหล่อนเต็มตา หล่อนขาวจนผิวเนื้อแทบกลายเป็นสีกระดาษเลยก็ว่าได้ คงได้ความขาวมาจากมารดาหล่อนกระมังหมับ!“เอ๊ะ! มีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้ฮะ!” ร้องเสียงหลงเมื่อข้อมือข้างหนึ่งถูกเขากำแน่น เขาขยับมาใกล้จนได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายกรุ่นอยู่แถวปลายจมูก“แล้วเธอล่ะ มีสิทธิ์อะไรมายืนต่อปากต่อคำกับฉันฉอดๆๆ ที่นี่ฉันใหญ่สุด”“แม่ฉันต่างหากใหญ่สุด” เธอเถียง“งั้นก็ไปเรียกแม่เธอมาสิ! เรียกมานั่งทำงานแทนฉันนี่!”เทียนหยดเม้มปากแน่น จนในคำท้าทาย“หึ...ถ้าทำไม่ได้ก็เลิกแวดๆ ใส่ฉันซะที ยังไงซะเธอก็เป็นผู้หญิง ไม่มีทางเก่งกว่าผู้ชายไปได้หรอก อ้อ...อย่าพยายาม อ่อยฉัน! ฉันมีเมียแล้ว!”เขาประกาศแล้วชี้ลงยังกระโปรงสั้นของหล่อน เทียนหยดถึงกับอ้าปากค้าง ใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักเขาออกห่าง“อีตาบ้า! ใครอ่อยฮะ! ฉันคงสติไม่ดีถ้าคิดอ่อยคุณ”ร้องใส่หน้าเขาแล้วเดินกลับไปนั่งหลังโต๊ะทำงาน อารมณ์ขุ่นมัวไม่น้อยเมื่อโดนดูถูกจากผู้ชายตัวใหญ่ที่ไร้มารยาทสิ้นดี ระยะเวลาเพียงไม่กี่อาทิตย์ที่ได้พบเจอกันเป็นเรื่องเป็นราว เขาถือวิสาสะจับมือ
หนุ่มสาวเดินทางมาถึงที่ทำงานในเวลาต่อมา งานเอกสารมากองเต็มโต๊ะสมัตถ์เหมือนวิดีโอเก่าที่เอามาฉายซ้ำ เขานั่งทำงานงกๆ มุ่นคิ้วจนมันจะเป็นเลขแปดยามทบทวนเนื้อหาที่อยู่ในแฟ้ม ในขณะที่สตรีที่เพิ่งถูกหักอก นั่งเอนหลังสบายๆ มีถุงชาอุ่นๆ แปะไว้ที่ตาทั้งสองข้าง และเอื้อมมือไปหยิบสมาร์ตโฟนในทุกครั้งที่สัญญาณเตือนข้อความดังขึ้นมือเรียวดึงถุงชาอุ่นๆ ออกจากเปลือกตา มันช่วยลดอาการบวมได้ในระดับหนึ่ง เธอตอบกลับผู้ช่วยนิดา คนสวยคนเก่งที่ช่วยงานเธอ เจ้าหล่อนส่งข้อความมาทางห้องแชทเฟซบุ๊กให้เธอพิจารณา เธออ่านๆๆ แล้วลงความเห็นว่าให้เจ้าหล่อนจัดการไปได้เลย ในส่วนของแป้งตัวอย่างนั้น เธอเก็บใส่กระเป๋าเรียบร้อยแล้ว คิดว่าเร็วๆ นี้จะลองทาแล้วอัดคลิปรีวิวลงยูทูป แต่คงไม่ใช่วันสองวันนี้แน่ๆ อย่างน้อยต้องให้ตาเธอหายบวมเสียก่อน“นี่...เทียนหยด”“คะ?”“คิดจะช่วยฉันทำงานไหม”“ไม่”“ขอบใจ”สมัตถ์ประชดแล้วก้มหน้าลงอ่านเอกสารต่อ ก่อนจะเซ็นแกรกๆ แล้วเอามันไปวางบนกองเตี้ยๆ ก่อนจะหยิบอีกแฟ้มที่ตั้งสูงกว่าขึ้นมาพิจารณา ส่วนเทียนหยดก็เอาถุงชามาแปะตาแล้วเอนหลังพ
“นายแน่มากโอบ”“ตัวแค่นี้รู้จักพูดนะ โอบนิธิ” ศรีสุรางค์ว่า ยิ้มน้อยๆ แต่ดูมีความสุข เป็นครั้งแรกที่นางยิ้มอย่างมีความสุขหลังจากผ่านเรื่องร้ายๆ บางที..การมาของพวกเตชะทัตก็มิได้เลวร้ายเสมอไปหรอก บางครั้งมันก็มีเรื่องดีๆ ดีมากๆ เสียด้วยมื้อเช้าเสร็จสิ้นในเวลาต่อมา ผกากรองพาโอบนิธิไปโรงเรียน ศรีสุรางค์กินยาแล้วไปเอนหลังในห้อง หญิงชราเจ็บป่วยด้วยสังขารที่ใกล้ร่วงโรย แล้วแต่ว่าวันนี้จะเป็นอะไร ปวดขา ปวดหัว ตัวร้อน นางก็สลับหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆราตรีออกมาส่งสามีที่รถของเขา เหมือนเช่นทุกๆ วัน“ขับรถดีๆ นะคะ รีบกลับบ้านล่ะ”“ครับผม อย่าลืมดูคุณย่าด้วยนะไนท์ ปลุกแกกินข้าวเที่ยงถ้าแกเผลอหลับ ให้กินยาบำรุงด้วยนะห้ามลืม”“ค่า ไนท์จะทำตามทุกอย่างเลยค่า ตั้งใจทำงานนะคะ”“ครับ รักคุณจัง” บอกแล้วโน้มจมูกไปสูดดมแก้มบางเทียนหยดเดินมาเห็นต้องส่ายหัวให้ จินตนาการอันบรรเจิดของเธอแลเห็นสมัตถ์มีสองเขาผุดขึ้นเหนือหัวไปแล้ว สองเขานั้นงดงามยิ่งกว่าเขากวางเรนเดียร์เชียวล่ะ
“ตัวนี้ว่าจะลองเองค่ะ เดี๋ยวนี้แม่ค้าออนไลน์เยอะ เราต้องทำให้เขามั่นใจในสินค้า แค่ถือครีมถือแป้งยืนถ่ายรูปอย่างเดียวไม่ได้แล้วค่ะ งานนี้คงต้องอัดคลิปลงยูทูปไปเลย” เมื่อเอ่ยถึงเรื่องงานความเครียดอีกเรื่องก็เข้ามารุมเร้า“ไหวไหมเทียน ไม่ไหวก็พัก แม่มีเงิน”ลูกสาวค้อนเข้าให้เมื่อมารดาเอ่ยอย่างนั้น“หนูก็อยากมีนี่คะ ไม่อยากขอเงินแม่ไปจนตายหรอก เงินแม่น่ะ เก็บไว้แต่งลูกสะใภ้เถอะค่า” ว่าแล้วยิ้มหวาน ตาบวมฉึ่งกับหน้าโทรมๆ นั้นมิได้เข้ากับรอยยิ้มเลยผกากรองเองก็ยิ้มกับลูกด้วย สุดท้ายเลยถูกลูกกอดแรงๆ“รักแม่นะคะ”“รู้แล้วน่า” ตอบแก้เขิน ยกมือยีกระหม่อมบางเบาๆ “งั้นกลับห้องดีกว่า เผื่อตาโอบตื่นมาไม่เจอ รายนั้นยิ่งกลัวผีอยู่ด้วย”“ค่า วันนี้หลับเร็วนะคะ หนูกลับมาบ้านเงียบเชียว”“อือ...คุณศรีสุรางค์ไม่สบายน่ะ พอกินข้าวเสร็จสองสามีภรรยานั่นก็พาย่าเขาเข้านอน ตาโอบก็ง่วงเพราะตอนบ่ายสมัตถ์สอนเล่นกอล์ฟจนเหงื่อชุ่ม ชอบใจใหญ่ ดูเขาเข้ากันดีนะ อาจเพราะตาโอบไม
EP 6ยั่วฟืดๆๆเสียงสูดน้ำมูกดังๆ ก่อนที่เทียนหยดจะเอาหน้าผากออกจากหลังสมัตถ์ ชายหนุ่มเบี่ยงหน้าจะดูหลังตัวเอง ไม่เห็นมันหรอก แต่รู้เชียวละว่ามันคงเป็นด่างดวงเพราะหยดน้ำตา“ขอโทษนะ แล้วก็...ขอบคุณสำหรับแผ่นหลัง” เธอบอกเขา ปาดน้ำตาลวกๆ“เธอโอเคแล้วใช่ไหม”“ไม่...ไม่โอเค แต่ฉันหิว ขอกินก่อนแล้วค่อยไปนอนร้องไห้เป็นเผาเต่าที่ห้องก็ได้”สมัตถ์พยักหน้าหงึกๆ “งั้นฉันไปแล้วนะ ลงมานานแล้วเดี๋ยวไนท์สงสัย”“สงสัยบ้าอะไรล่ะ คุณกับฉันไม่ได้ลักลอบทำอะไรสักหน่อย”เทียนหยดหน้ายุ่ง เขาจะกลัวเมียอะไรนักหนา“อือ...นั่นแหละ ฉันรักของฉัน”“ค่า เชิญค่ะสามีตัวอย่าง” เธอประชดแล้วก้มหน้าลงจานข้าว เลยไม่ได้เห็นสมัตถ์ยิ้มกว้างยามโดนประชด พอเขาออกนอกประตูไป แม่สาวอกหักก็เงยหน้าขึ้นมา ทำไมผู้ชายดีๆ ไม่มีให้เธอบ้างนะ ที่สวรรค์ส่งมาให้ก็ช่างเลวได้ใจ ที่พอจะมองเห็นก็ดันมีเมียอยู่แล้ว ส
“แน่นะคะ ถ้าผิดคำสาบานล่ะ”“ขอให้...ขอให้เทียนลงโทษอย่างสาสม พอใจหรือยังครับ”จีรวัฒน์เอ่ยทีเล่นทีจริง แต่เทียนหยดถือว่าสิ่งที่เขาเอ่ยออกมาคือคำสาบานที่เขาได้ลั่นวาจาออกมาแล้ว และหญิงสาวขอให้มันเป็นไปตามนั้น และเธอ...จะขอเริ่มบทลงโทษเขาตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป!“พอใจแล้วค่ะ จีน่ารักที่สุด” พูดจบก็ยิ้มกว้างแล้วโผเข้าหาร่างเขาจนอีกฝ่ายหงายหลังบนโซฟา เลยกลายเป็นว่าตอนนี้เธอทาบทับเขาไว้ และมันทำให้จีรวัฒน์พอใจ“เทียนน่ารักจังที่เป็นแบบนี้”“แบบไหนคะ” ถามพลางใช้นิ้วแหวกสาบเสื้อคลุมอาบน้ำของเขาให้แบะอ้าออก แล้วใช้มือบางลูบไล้แผงอกเปล่าเปลือยเล่นอย่างยั่วเย้า“ก็แบบนี้ไง แบบ...ยั่ว...”“เทียนเปล่ายั่ว ก็จีน่ารัก เทียนแค่แกล้งหรอกน่า”“จียอมให้เทียนแกล้งทั้งคืน” ไม่ว่าเปล่าๆ แต่ใช้มือข้างขวาลูบบั้นท้ายงามงอนไปมา ไม่ลืมขยำมันเบาๆ บั้นท้ายหล่อนช่างนุ่มหยุ่นขยำเท่าไหร่ก็มิมีเหลวอ่อน“แต่เทียนไม่ว่าง...” ลากเสียงยาวๆ แล้วก้มลงจุ
“โธ่เทียน...ก็...ที่ตรงนั้นมันไม่ใช่แค่ห้าหกล้าน ถ้าขายจริงๆ มันอาจได้มากกว่านั้นเท่าตัวเลยก็ได้” จีรวัฒน์เริ่มหัวเสีย เทียนหยดปาดน้ำตา“งั้นจีเอาเงินมาคืนเทียนสิคะ เทียนจะได้เอาไปหมุน จีพูดอย่างนี้เทียนเสียใจนะ เทียนช่วยเหลือจีมาตลอด แต่พอเทียนลำบาก จีกลับไม่อยากช่วย ถามจริงๆ เถอะ รักเทียนบ้างไหม...” เทียนหยดเม้มปากแน่น ร้องไห้ฟูมฟายออกมา หยดน้ำตาแห่งความแค้นคลั่งหลั่งออกมาพร้อมกับน้ำตาแห่งความเสียใจจีรวัฒน์นึกสงสารเลยดึงร่างน้อยมากอด กายหนุ่มสัมผัสกายสาวพาให้ความรุ่มร้อนบังเกิดอย่างไม่รู้จักเวล่ำเวลา“ขอโทษนะเทียน จีขอโทษ...ขอเวลาจีหน่อยนะคนดี” ว่าพลางลูบแผ่นหลังบางเรื่อยลงมาถึงเอวคอดเทียนหยดตาเบิกโต รู้สึกได้ถึงฝ่ามือร้อนของอีกฝ่าย ได้แต่เม้มปากแน่น ดวงตาดุดันเพ่งมองไปข้างหน้าแต่ไม่ได้โฟกัสที่จุดใด แม้ในเวลาแห่งความทุกข์ จีรวัฒน์ก็ยังอยากทำบ้าๆ กับเธอ เอาสิจีรวัฒน์ ลองมาพนันกันดู!“เอามือออกนะจี เราเครียดกันอยู่นะ” บอกเสียงเง้างอนไม่จริงจัง จะชนะคนชอบฉวยโอกาส มันต้องทำให้แนบเนียน“ก็
มือเรียวยกป้องปากงาม หัวใจเต้นถี่ระรัว ทั้งโกรธ...ทั้งรัก ทั้งแค้นใจ! ไฟล์วิดีโอยังเล่นไปพร้อมๆ กับน้ำตาของเทียนหยดที่ไหลริน ริมฝีปากสั่นระริกเม้มแล้วเม้มอีก ดวงตาหลั่งสายธารออกมาราวกับน้ำตกผืนใหญ่ในฤดูฝนพรำ ยิ่งนั่งดู ยิ่งปวดใจ เฝ้ามองภาพคนรักของตัวเองกำลังนัวเนียกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับหญิงอื่น ทั้งสองปล้ำถอดเสื้อผ้ากันจนเหลือเพียงชุดชั้นใน และวินาทีที่เสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายจะหลุดออกจากสองร่าง เธอก็กดหยุดวิดีโอ ก่อนที่หัวใจจะแตกสลายเพราะการกระทำของชายที่เธอจงรักภักดีเทียนหยดปิดพับหน้าจอกล้องถ่ายรูปเข้าหาตัว กล้องตัวนี้สมรรถภาพเยี่ยมยอด สามารถกดแชร์ภาพ แชร์วิดีโอลงแอปพลิเคชั่นเฟซบุ๊กได้ทันที เธออยากทำใจจะขาด อยากประจานความชั่วร้ายของคนทั้งสอง แต่สุดท้าย...ก็เก็บมันเข้ากระเป๋าถือใบโต หักห้ามใจเอาไว้ ข่มความโกรธความเจ็บใจ ไว้รอวันเอาคืน ตอนนี้เธอยังมีสติไม่พอ เธอกำลังโกรธมาก! และทุกอย่างจะพังพินาศถ้าเธอสติแตก!“อือ...เทียน...มาแล้วเหรอ”เสียงถามดังอืออามาจากห้องนอน เทียนหยดรีบปาดน้ำตา หยิบเครื่องสำอางมาเติมแป้งเติมลิปสติก มิให้มีรอยพิรุธ ทว่าแต่งเติมอย่างไร
“ตายจริง ขอโทษนะคะ ไนท์ปวดหัวเลยลุกไม่ขึ้น ไม่ได้ออกไปซื้อกับข้าวให้ทุกคนเลย” เอ่ยอย่างขออภัยแล้วนั่งลงข้างสามี สาวใช้รีบยกผ้ารองจานกับจานข้าวมาให้ ราตรียังตีหน้าสำนึกผิดจนสมัตถ์นึกสงสาร“ไม่เป็นไรครับ แม่น้องโอบทำกับข้าวแล้วล่ะ คุณกินสิ กำลังร้อนๆ เลย” ว่าแล้วตักแกงเลียงใส่ถ้วยเล็กๆ ให้ภรรยา แต่ราตรีที่ยังมีอาการเมาค้าง เกิดพะอืดพะอม ต้องยกแก้วน้ำขึ้นจิบ “โอย...ไหวไหมไนท์”สมัตถ์ถามอย่างห่วงใย ท่าทีเอาใจใส่ภรรยานั้นทำเอาเทียนหยดหน้าสลด แน่ล่ะ จีรวัฒน์ไม่ได้ครึ่งของสมัตถ์เลย เป็นเธอมากกว่าที่ต้องคอยเอาอกเอาใจเขา“พะอืดพะอมอย่างนี้จะมีข่าวดีหรือเปล่าคะ” ผกากรองตั้งข้อสังเกต แต่ทำให้สีหน้าของสมัตถ์เปลี่ยนไป เขาขยับนั่งตัวตรง หันไปมองภรรยา ฝ่ายนั้นก็ยื่นมือมาจับมือเขา มันทำให้เขาพอมีรอยยิ้มขึ้นมาบ้าง“ถ้าหล่อนหมายถึงเรื่องลูกละก็ เป็นไปไม่ได้หรอก หลานฉันเป็นหมันน่ะ”“คุณย่าคะ!” ราตรีเอ่ยดังๆ ด้วยไม่อยากให้นางศรีสุรางค์เอ่ยเรื่องนี้“ทำไมฮึยัยไนท์ มันเรื่องจริง ยอมรับส
“จุ๊ๆๆ อย่าร้องนะโอบ ชู่ว์...” กอดน้องชายไว้แล้วน้ำตาจะไหล ทุกอาทิตย์คุณลุงจะมาหาโอบนิธิ แต่นับตั้งแต่ท่านเสียไป โอบนิธิก็ได้เฝ้ารอแค่ความว่างเปล่า จิตใจของเด็กนั้นอ่อนไหวเกินกว่าจะทนรับเรื่องร้ายๆ เธอไม่โทษน้องชายเลยที่ร้องไห้อย่างไม่อายใคร เพราะหากเธออายุเท่าเขา เธอคงนอนร้องไห้ทุกวันทุกคืน“พี่เทียน...ฮึกๆ คิดถึงพ่อ...พ่อไม่มาแล้ว...ไม่มากอดโอบแล้ว ฮือ...”เด็กชายร้องไห้ฟูมฟาย จนอกเสื้อพี่สาวเปียกชุ่ม เทียนหยดเห็นท่าไม่ดีก็ร้องหาตัวช่วย“แม่! แม่คะ แม่!”“อะไร! อะไรของแกฮึเทียน”ผกากรองเดินหน้าตื่นออกจากห้องครัว นางตรงมาทางห้องนั่งเล่น กลิ่นน้ำพริกแกงเลียงยังติดกายนางมาประหนึ่งถือถ้วยแกงมาด้วยสตรีวัยเลยสาวขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นบุตรชายนั่งร้องไห้อยู่กับอกคนเป็นพี่ นางเข้าไปดึงร่างโอบนิธิออกมา“แม่ครับ...ฮึกๆ”“หยุด...แม่บอกให้หยุดร้อง”ผกากรองใช้เสียงเรียบต่ำ บอกให้รู้ว่านางไม่พอใจที่เห็นเขาร้องไห้โอบนิธิปาดน้ำตา หน้าตายังบิดเบ้ พวงแก้มขึ้นส