Home / รักโบราณ / พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ / ไม่ต้องการลูกสะใภ้ 2

Share

ไม่ต้องการลูกสะใภ้ 2

Author: LiHong
last update Last Updated: 2025-03-29 09:58:02

หลังจากหลินฮวานั่งลงเรียบร้อย 

ก็มีนางกำนัลเข้ามารินน้ำชาให้ นางจึงนั่งจิบชาอย่างใจเย็น ไม่คิดกลับ ไม่มีท่าทีว่าจะลุกออกไปทางใด ด้วยมั่นใจว่าองค์รัชทายาทต้องเสด็จมาเข้าเฝ้าพระสนมในไม่ช้าแน่

ชั่วจังหวะนั้น ก็มีนางกำนัลเข้ามารายงานต่อหลี่กุ้ยเฟย

“ทูลพระสนม เรื่องราววุ่นวายในอุทยานสงบลงเพราะได้รัชทายาทช่วยจัดการ  พระองค์ลงโทษองครักษ์อู๋ แยกสามีภรรยาสำเร็จก็ใช้การเดินหมากเพื่อปรับอารมณ์ของซานซาน พร้อมสอบถามความเป็นมาของนางอยู่ในศาลาริมบึงเพคะ”

บุตรชายผู้นี้รอบคอบเสมอ หลี่กุ้ยเฟยได้ฟังก็แย้มยิ้ม โบกมือเบาๆ ให้นางกำนัลผู้นี้ล่าถอยไป ก่อนเปรยกับหลินฮวาด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุนว่า

“มีข้าราชบริพารในอาณัติมากมาย ปัญหาก็ย่อมมีมาก ดูเถิด...องค์รัชทายาทถึงกับต้องเสียเวลาดูแลจัดการด้วยตนเอง เกรงว่าคงมิได้มาเข้าเฝ้าแม่คนนี้แล้ว”

ความหมายในประโยคคือ ให้หลินฮวากลับไปเสียที อย่าเสียเวลารออีกต่อไป เพราะจ้าวเหว่ยไม่ว่าง มิได้เจอแน่นอน

หากแต่ความอดทนของหลินฮวามีมากโข นางคลี่ยิ้มหวานล้ำ ตอบด้วยเสียงนุ่มหวานน่าฟัง “เป็นบุญของบ่าวไพร่เหลือเกินนะเพคะ ที่มีองค์รัชทายาทเปี่ยมเมตตาถึงเพียงนี้”

ความหมายคือ จ้าวเหว่ยกลับมาอย่างเหน็ดเหนื่อยแท้ๆ ยังต้องเสียสละเวลาส่วนตัวคอยดูแลทุกเรื่องราว มีแม่เหมือนไม่มี ตำหนักตัวเองจัดการมิได้หรือไร?

สตรีชั้นสูงก็เช่นนี้ มักพูดคุยกันถูกคอยิ่งนัก ยี่ซินได้แต่ยืนมองอย่างนึกปลดปลงในใจ ได้ยินหลี่กุ้ยเฟยเอ่ยอีกว่า

“คุณหนูไป๋อาจมองว่ารัชทายาททรงเปี่ยมเมตตาเกินไป กระทั่งจัดลำดับความสำคัญผิด แม้แต่การเข้าเฝ้ามารดาอย่างข้ากลับมิอาจเทียบกับการไกล่เกลี่ยปัญหาของบ่าวชั้นต่ำได้กระมัง”

หลินฮวาได้ฟังพลันชะงักเล็กน้อย รีบรักษากิริยานุ่มนวลอ่อนหวานดุจเดิมแล้วเอ่ยอย่างนอบน้อม

“หามิได้เพคะ เพียงแต่หม่อมฉันรู้สึกว่า บ่าวไพร่เหล่านี้ ไม่ควรสร้างปัญหาให้เจ้านายจนเกินไป มิสู้ตัดไฟแต่ต้นลม”

หลี่กุ้ยเฟยเลิกคิ้วเอ่ยเสียงเรียบ “ความหมายของคุณหนูคือสมควรขับไล่บ่าวรับใช้เจ้าปัญหาออกไปเช่นนั้นหรือ?”

หลินฮวาทำสีหน้าลำบากใจ เผยแววตาใคร่ครวญลึกซึ้ง ประหนึ่งมิอาจตัดใจทำได้ลง แต่กลับต้องทำอย่างจำใจเป็นที่สุด ท่าทางคล้ายนางฟ้าใจดีเปี่ยมเมตตา แต่คุณธรรมจำต้องมาก่อน บ่งบอกถึงคุณลักษณะของยอดหญิงที่จักเป็นหงส์ปกครองแคว้น

“ย่อมเป็นเช่นนั้นเพคะ บริวารที่มักสร้างปัญหา มิคู่ควรแก่การเสียเวลา หาได้มีค่ามากไปกว่าพระสนมเลยเพคะ”

นางกล่าวเอาใจว่าที่แม่สามีได้อย่างไร้ที่ติ ไม่ว่าใครก็ไม่สำคัญมากไปกว่ามารดาของสามีอีกแล้ว

หลี่กุ้ยเฟยได้ฟังก็ยกยิ้มอย่างอารมณ์ดี โบกมือเบาๆ แสดงออกว่าไม่ถือสาหาความ พลางเปล่งวาจานุ่มนวลน่าฟัง

“มันช่วยมิได้จริงๆ นี่นะ ในเมื่อฝ่ายหนึ่งเป็นคนสนิทขององค์รัชทายาทที่มีลำดับเป็นถึงญาติผู้น้องซึ่งเติบโตมาด้วยกัน ส่วนอีกฝ่ายก็เป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตของข้าให้รอดพ้นความตายครั้งใหญ่ คุณหนูอยู่ในแวดวงชั้นสูง คงได้ยินข่าวเรื่องลอบทำร้ายมาบ้างกระมัง สองคนที่พวกเรากำลังกล่าวถึงคือคนสำคัญทั้งนั้น หาใช่บ่าวไพร่ชั้นต่ำที่คุณหนูเข้าใจแต่แรกไม่”

เมื่อประโยคนี้กล่าวออกมา หลินฮวาหน้าเปลี่ยนสีทันที

แท้จริงแล้ว หญิงสาวถูกปล่อยให้เอ่ยคำพูดผิดมากมาย นับแต่ประโยคแรกเลยทีเดียว คำว่าข้าราชบริพารของหลี่กุ้ยเฟย  หลินฮวากลับคิดว่าเป็นเพียงบ่าวไพร่ธรรมดาไปเสียได้

นี่มิใช่การเปิดประตูให้เดินเข้าไป แล้วปิดประตูตามหลัง จากนั้นก็ลอบตบหน้ากันเสียจนยับเยินหรือไร

หากรัชทายาททรงรู้ว่าหลินฮวาผู้นี้กล่าวถึงบุคคลสำคัญ อย่างคนสนิทของเขากับผู้ช่วยชีวิตมารดา ว่าเป็นเพียงบ่าวรับใช้ชั้นต่ำไร้ค่า ก็มิรู้ว่าในสายตาเขาจักมองว่านางงดงามอยู่หรือไม่?

หลินฮวาลอบกลืนน้ำลายลงคอ วันนี้คงไม่สะดวกพบหน้าจ้าวเหว่ยแล้ว รีบกลับไปตั้งหลักใหม่ แล้วรอพบหน้าด้วยความสง่างามไร้ที่ติยิ่งกว่าเดิมดีกว่า

เมื่อได้บทสรุปในใจ หญิงสาวจึงกล่าวออกไป

“ทูลพระสนม หม่อมฉันนึกขึ้นได้ว่าพี่สาวอยากพบหน้าเกรงว่าคงต้องรีบไปตามนัด ไม่อาจอยู่เสวนาเพื่อคลายเหงาแก่พระสนมได้แล้วเพคะ”

พี่สาวของหลินฮวา คือหนึ่งในสนมของฮ่องเต้ หรือก็คือสตรีที่แย่งชิงความรักไปจากสามีของหลี่กุ้ยเฟย

เจ้าของตำหนักแค่นยิ้มหยันในใจ พลางเอ่ยเสียงนุ่ม

“ขอบใจเจ้ามากที่นึกถึงข้าก่อนเป็นอันดับแรก รีบไปเถิด อย่าปล่อยให้พี่สาวต้องรอนาน ประเดี๋ยวจะงุ่นง่านกล่าวโทษข้า ว่ารั้งตัวน้องสาวแสนดีเอาไว้เสียนาน”

ประโยคนี้นับเป็นของแถมที่หลี่กุ้ยเฟยมอบให้หลินฮวา ตบหน้าทั้งพี่ทั้งน้องในคราเดียวกัน

ความหมายคือคนพี่นิสัยกราดเกรี้ยวไร้เหตุผล ส่วนคนน้องก็ไม่รู้จักแยกแยะ เห็นคนอื่นดีกว่าพี่สาวของตน

ยี่ซินที่อยู่มานานล้วนแปลความนัยได้จนสิ้น ส่วนนางกำนัลคนอื่นๆ ได้แต่นิ่งฟังด้วยอาการปวดหัวเหลือเกิน

ถ้อยวาจาสนทนาของสตรีชั้นสูง ทำให้ผู้น้อยต้องฟังด้วยความเหน็ดเหนื่อยยิ่งนัก หน้าย่นไปหมด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ไม่ต้องการลูกสะใภ้ 3

    คล้อยหลังหลินฮวาที่รีบล่าถอยออกไป ประหนึ่งหนีตาย ไม่ต้องการพบพานผู้ใด จ้าวเหว่ยก็เดินเข้ามาเมื่อร่างสูงสง่าในอาภรณ์สีน้ำเงินปรากฏ หลี่กุ้ยเฟยจึงถามเสียงขรึม “เหว่ยเอ๋อร์มาแล้วหรือ? ได้เจอคุณหนูไป๋หรือไม่?”นางต้องถามเพื่อความแน่ใจ ว่าสตรีผู้นั้นมิได้โปรยเสน่ห์ใส่บุตรชายของตนระหว่างทาง“ลูกเห็นชายผ้าสีชมพูลัดเลาะหายไปตรงมุมระเบียงท่าทางคล้ายเร่งรีบ ที่แท้ก็คุณหนูไป๋ เสด็จแม่คงมิได้ไล่นางไปกระมัง”จ้าวเหว่ยตอบเสียงเรียบ ใบหน้าไร้อารมณ์ พลางนั่งลงตรงโต๊ะเดียวกับมารดา รอจนนางกำนัลเข้ามารินน้ำชาก่อนยอบกายถอยไป จึงยกถ้วยชาขึ้นจิบ แล้วเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงเข้มขึ้น“หากนางมารบกวนเสด็จแม่อีก ลูกจะเข้าเฝ้าเสด็จพ่อทูลตามตรงให้เด็ดขาดว่าไม่ประสงค์เกี่ยวข้องอันใด”หลี่กุ้ยเฟยได้ฟังก็ถอนหายใจ “เหว่ยเอ๋อร์อย่าได้ใจร้อนวู่วามเกินไป อำนาจบางกลุ่มไม่อาจตัดให้ขาด บางกลุ่มยิ่งไม่อาจผสานจนเหนียวแน่นยากสลัดหลุดพ้น ยังคงทำได้แค่ปล่อยตัวตามสบายไปกับกระแสแรงลม ไหลนิ่งไปตามเส้นสายธาราริน”ถ้อยวาจาของมารดา จ้าวเหว่ยล้วนเข้าใจ เขาจึงนิ่งเงียบไม่ต่อความอีก เรื่องสตรีอื่นไม่เคยอยู่ในความคิดของเขาอยู่แล้วแค่เรื่องขอ

    Last Updated : 2025-03-30
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ภัยร้ายซ่อนเร้น 1

    มุมมืดในตรอกคับแคบแห่งหนึ่งของเมืองหมิงเวย รอบด้านเงียบสงัดวังเวงรกร้างว่างเปล่าปราศจากผู้ใดลึกเข้าไปมีร่างของชายหนุ่มรูปงามยืนเอามือไพล่หลังเงียบงัน ท่าทางของเขาทั้งสง่างามทั้งองอาจห้าวหาญ เคร่งขรึมเย็นชา กิริยาสูงส่งเหนือสามัญเขาคืออ๋องเจ็ด นาม ถังหย่งเทียน หรือ โซวอ๋องข้างกายโซวอ๋องคือสตรีโฉมสะคราญในชุดสีแดงเพลิง แท้จริงนางมีใบหน้างดงามหยาดเยิ้ม รูปร่างระหงอ้อนแอ้น ท่าทางอ่อนโยนเป็นเลิศ เพียงแต่ยามนี้กลับไม่มีความอ่อนหวานปรากฏสักนิด เพราะดวงตาของนางเป็นสีแววแดงน่ากลัว ข้างแก้มและลำคอยังมีรอยอักขระน่าเกลียด เล็บมือยาวแหลมคมกริบปานปลายมีดลักษณะคือผู้สำเร็จเคล็ดวิชากรงเล็บกระชากวิญญาณ สามารถเข่นฆ่าศัตรูได้แม้ปราศจากอาวุธใดในมือ นับเป็นจอมยุทธ์ฝีมือสูงส่งผู้หนึ่งแห่งยุทธภพ ทั้งร้ายกาจเลือดเย็น ทั้งอำมหิตโฉดชั่วไม่เกรงกลัวใคร ผู้ซึ่งชาวยุทธ์ขนานนามว่า นางมารโลหิต ผู้แทนแห่งสำนัก นารีแดง ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุค มีสมุนในอาณัติเป็นนักฆ่านับหมื่นชีวิตกระจายไปทั่วแคว้น“สมุนของข้าตายจนหมดในดาบเดียวด้วยกระบวนท่าวายุคลั่งแห่งตำนาน เกรงว่าคนผู้นั้นจักเป็นยอดฝีมือยากต่อกร”เสียงเย็นเยีย

    Last Updated : 2025-03-31
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ภัยร้ายซ่อนเร้น 2

    โซวอ๋องหรือหย่งเทียนผู้นี้คือพระอนุชาร่วมอุทรของฮ่องเต้ต้าถัง เขาทั้งผงาดค้ำฟ้า ไม่มีใครคานอำนาจกับเขาได้ เกรงว่าอีกไม่นานแม้แต่ฮ่องเต้ก็คงไม่อยู่ในสายตาทว่าเพราะเป็นพี่น้องในมารดาเดียวกัน ทั้งยังได้รับความไว้วางพระทัยมากล้น ฮ่องเต้ทรงรักและใส่ใจน้องชายคนนี้มากโซวอ๋องจึงเคารพพี่ชายตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ ไม่เคยคิดล้ำเส้นอีกฝ่ายแม้แต่น้อย ทั้งยังคอยพิทักษ์บัลลังก์ให้อีกด้วยผู้ครอบครองบัลลังก์มังกรคือฮ่องเต้องค์ปัจจุบันนับว่าเหมาะสมยิ่งแล้ว และโซวอ๋องผู้เป็นน้องชายก็ไม่เคยคิดแย่งชิงมาเป็นของตนแม้แต่ครั้งเดียวทั้งอดีตและปัจจุบันก็ยังคิดเช่นนั้น เขาไม่ต้องการเป็นจักรพรรดิต้าถังแม้แต่น้อยเพียงแต่...หากฮ่องเต้ทรงรักใคร่ฮองเฮาให้มากกว่านี้ และรอจนกว่าองค์ชายห้าเติบใหญ่มอบตำแหน่งรัชทายาทให้โซวอ๋องก็คงไม่คิดร้ายกับใครสาเหตุแห่งความเกลียดชังของบุรุษผู้ห้าวหาญสมชายชาตินักรบผู้นี้ แท้จริงเป็นเพียงเรื่องของสตรีวังหลังฮองเฮาคือสตรีเดียวในดวงใจของโซวอ๋อง แต่นางเกิดมาเพื่อเป็นหงส์เคียงมังกร ฐานะพี่สะใภ้ถูกกำหนดเอาไว้อย่างมิอาจเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ว่าพี่ชายจะรับชายารองก่อนหน้าสักกี่สิบคน แต่ฮองเฮา

    Last Updated : 2025-04-01
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ภัยร้ายซ่อนเร้น 3

    เพื่อประกาศศักดาอันยิ่งใหญ่เกรียงไกรว่าที่องค์ราชันอย่างจ้าวเหว่ย และเพื่อให้โอรสองค์อื่นๆ อยู่ในที่ในทางของตนงานเลี้ยงต้อนรับจึงเกิดขึ้นทุกครั้งหลังจากองค์รัชทายาทแห่งต้าถังชนะศึกกลับมา ทุกครายังคงเต็มไปด้วยพิธีอันทรงเกียรติและสำเริงสำราญ เปิดโอกาสให้หลายตระกูลได้พบพานสานไมตรี นับเป็นการดีต่อกระดานหมากราชสำนักหลายครั้งที่ฮ่องเต้ทรงใช้งานนี้จัดสรรขั้วอำนาจให้เป็นระบบระเบียบโดยมิต้องรอประชุมในท้องพระโรงอันเคร่งเครียดวิธีที่นิยมยังคงเป็นการมอบสมรสพระราชทาน จับสกุลนั้นเชื่อมสัมพันธ์กับสกุลนี้อย่างสนุกสนาน เลื่อนขั้นขุนนางตามผลงานบ้าง ตามความดีความชอบบ้าง แล้วแต่วาระโอกาสงานรื่นเริงถูกจัดขึ้นยามพลบค่ำ โคมไฟแสงสีละลานตาราวกับยามกลางวัน เส้นสายใยผ้าสีสันสดใสระโยงระยาง ดอกไม้งดงามบานสะพรั่ง อุทยานหน้าตำหนักส่วนกลางข้างท้องพระโรงหรูหราอลังการคล้ายสรวงสวรรค์ของบรรดาเทพเซียนลงมาเดินเล่นร่วมสังสรรค์พรมแดงทอดยาวตั้งแต่ทางเข้าจนถึงแท่นประทับ สองฝั่งมีขุนนางนั่งอยู่หลังโต๊ะทรงเตี้ยแน่นขนัด แบ่งแยกชายหญิงขุนนางเก่งกาจทั้งชราและหนุ่มแน่นนั่งลดหลั่นตามขั้น ตรงกันข้ามพรมแดงกางกั้นคือฮูหยินของพวก

    Last Updated : 2025-04-02
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ภัยร้ายซ่อนเร้น 4

    อีกด้านหนึ่งของงานเลี้ยงลู่หลิ่งกับนางกำนัลพี่เลี้ยงและซูเหยาเล่นอยู่ด้วยกันกระทั่งเด็กน้อยหลับใหล ซานซานจึงพาบุตรสาวเข้านอนแต่หัวค่ำหญิงสาวเลือกที่จะดึงสติคืนปัดเรื่องน่ารำคาญใจออกไป แล้วเตรียมตัวบรรเลงพิณตามที่ได้เสนอกับหลี่กุ้ยเฟยเมื่อถึงเวลางานเลี้ยง ซานซานก็เดินทางจากเรือนพักออกมารออยู่เบื้องหลังฉากกั้นในห้องหนึ่งพร้อมกับนางรำคนอื่นๆภายในห้องแห่งนี้มีหญิงสาวแต่งกายยั่วยวนเดินบิดเอวกรีดกรายส่ายบั้นท้ายเต็มไปหมด ชุดที่สวมใส่ทั้งบางทั้งพลิ้วไหวและแนบเนื้อ เปิดเผยลำแขนขาวผ่องลำคอระหงเนินเนื้ออวบอิ่ม ซานซานให้รู้สึกว่าตนเองเข้าผิดห้องเหลือเกิน เพราะคืนนี้นางแต่งกายได้ผิดแผก ด้วยชุดพระราชทานจากหลี่กุ้ยเฟยเนื้อผ้าที่หญิงสาวใส่แม้หรูหราสีอ่อนหวานลวดลายลงตัวและโดดเด่นสะดุดตาไม่น้อย แต่ค่อนข้างมิดชิด หาได้เปิดเปลือยเนื้อหนังไม่ ใบหน้ายังแต้มชาดแค่พอดีไม่ยั่วยวนเกินไปเพราะมีลูกแล้วจึงไม่ต้องการทำตัวเฉิดฉายเกินงาม ปล่อยให้พวกสาวสะพรั่งได้มีโอกาสเจิดจรัสบ้างจะเป็นไรซานซานประคองพิณเข้ามานั่งลงยังมุมหนึ่งของห้อง พลางทำความเข้าใจตามรายละเอียดที่ได้รับจากขันทีผู้ดูแลแท้จริงวังหลวงแห่งนี้

    Last Updated : 2025-04-03
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ภัยร้ายซ่อนเร้น 5

    ซึ่งแท้จริงแล้ว ใครสูงใครต่ำ ซานซานมิได้สนใจ เพียงแต่การถูกจัดลำดับให้ขึ้นแสดงต่างหาก ที่ทำให้หงุดหงิดเพราะนักแสดงมืออาชีพในห้องนี้ถูกสั่งให้แสดงหลังจากคุณหนูในงานแสดงจนหมดแล้วทุกคน และที่สำคัญ ลำดับของซานซานยังเป็นลำดับสุดท้ายต่อจากนางรำคนท้ายที่สุดอีกชั้นจะบ้าตาย...คุณหนูมากมายปานนั้น เวลาที่ใช้แสดงความสามารถก็นานเนิ่น ยังมีต่อกลอนหวานเลี่ยน โต้คารมไปมากว่านางจะได้ขึ้นแสดง ทุกคนคงเมาหลับหรือไม่ก็เริ่มทยอยกลับกันหมดซานซานขมวดคิ้วใคร่ครวญโดยละเอียด ในที่สุดก็ลุกขึ้นแล้วเดินมายืนกลางห้อง ยกมือขึ้นตบแรงๆ เพื่อเรียกความสนใจผลที่ได้คือนางรำหันมามองซานซานทุกคน“พี่น้องคนงามทั้งหลาย” เส้นเสียงกังวานที่เรียกขานทำเอาสาวงามขนลุกซู่ “การแสดงศาสตร์ศิลป์แต่ละครั้ง พวกท่านแยกกันแสดงตามลำดับก่อนหลังครั้งละสามสี่คนถูกต้องไหม?”เรื่องนี้ซานซานอ่านระเบียบการแสดงมาก่อนหน้า จึงรู้ได้“ถูกต้อง” นางรำคนหนึ่งตอบคำ “เจ้าสงสัยอันใดหรือ?”ซานซานมิได้ตอบคำถามนั้น แต่ถามกลับว่า “เช่นนั้น ค่าตอบแทนเล่า ได้อย่างไร?”นางรำอีกคนตอบบ้าง “ได้ไม่เท่ากันอยู่แล้ว แต่ละรอบที่ขึ้นแสดง ความโปรดปรานย่อมไม่เท่าเทียม คน

    Last Updated : 2025-04-04
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ภัยร้ายซ่อนเร้น 6

    หญิงสาวนางหนึ่งอายุราวยี่สิบปีค่อยๆ เผยโฉมออกมาจากกลุ่ม แล้วถามว่า “เจ้าคือคนของวังหลวงใช่หรือไม่? คิดใช้อำนาจข่มเหงพวกเราหรือไร?”ซานซานขมวดคิ้ววูบ “ข้ามิใช่คนของใครทั้งนั้น ไม่มีเหตุผลใดต้องข่มเหงเจ้า แค่มีวิธีดีๆ ให้ได้เงินง่ายๆ แบบทั่วถึงกัน”หญิงสาวคนเดิมจึงเดินมายืนประจันหน้ากับซานซาน นางมีผิวขาวราวหิมะ แต่งกายด้วยผ้าเนื้อบางเผยสัดส่วนชัดเจน ใบหน้ารูปไข่งดงามอ่อนหวานเย้ายวนอย่างที่สุด สะคราญโฉมพิลาศล้ำยิ่งกว่าองค์หญิงต้าถังด้วยซ้ำหญิงงามกล่าวกับซานซานด้วยน้ำเสียงแว่วหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า “ข้านามว่าหยุนผิง มือพิณ ทุกครั้งที่ขึ้นแสดงฝีมือ ข้าได้รับความโปรดปรานที่สุด เรียกเงินได้มากที่สุด แต่ก็เหน็ดเหนื่อยกับการเอาตัวรอดจากขุนนางบางคนที่คิดจะติดพันเพื่อซื้อตัวเข้าจวนที่สุดเช่นกัน หากเจ้าช่วยให้ข้าลดความเสี่ยงตรงนั้นได้ โดยที่ค่าตอบแทนไม่ลดลงจากที่เคยรับ ข้าก็ยินดีมอบหน้าที่ดูแลน้องสาวทุกคนในที่นี้ของข้าให้เจ้า”“พี่ผิง!” นางรำทุกคนอุทานอย่างตกใจหยุนผิงยกมือห้ามบรรดาน้องสาวมิให้โวยวาย แล้วกล่าวต่ออย่างใจเย็น “แต่หากเจ้าทำมิได้ ด้วยความงามของข้า รวมกับการได้รับเชิญขึ้นแสดงเพลงพิณ

    Last Updated : 2025-04-05
  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   แม่นางฮวาไค 1

    งานเลี้ยงดำเนินไปด้วยบรรยากาศชื่นมื่นมีการสนทนาระหว่างฮ่องเต้ องค์ชาย องค์หญิง ขุนนางทั้งหลายฝ่ายบุรุษต่างมีสีหน้ารื่นรมย์เพราะถือเป็นโอกาสได้สำเริงสำราญเต็มที่ มีสตรีงดงามให้ได้ยล ทั้งยังสูงส่งมากความสามารถฝ่ายสตรียิ่งเบิกบานเพราะได้เปิดหูเปิดตาร่วมประชันโฉมและแสดงฝีมือหลังจากที่ต้องอดทนบ่มเพาะตัวตนแค่ในเรือนหัวข้อที่เสวนาล้วนแต่เป็นการสรรเสริญเยินยอประจบสอพลอ ยังมีต่อด้วยการโต้ตอบไปมาระหว่างอริที่เสแสร้งเป็นพันธมิตรนอกจากนั้นเรื่องที่คุยกันก็ไม่พ้นว่าบุตรชายหรือบุตรสาวบ้านใดเป็นใคร ยิ่งใหญ่แค่ไหน อายุเท่าไหร่มีความสามารถอันใด พร้อมออกเรือนหรือไม่ท่ามกลางถ้อยวาจาและเสียงหัวเราะที่แลกเปลี่ยนกัน มีเพียงบุรุษชุดม่วงขลิบทองยังคงเก็บอาการเบื่อหน่ายต่องานเช่นนี้เอาไว้ได้อย่างแนบเนียนด้วยท่าทางสุขุมนุ่มลึกใบหน้าหล่อเหลาซ่อนความเย็นชาในดวงตาคู่ดำด้วยการหลุบลงต่ำมองเพียงปลายนิ้วที่ไล้วนบนจอกเหล้าในมือขณะยกขึ้นจรดริมฝีปากเพื่อดื่มลงคอ ในใจของจ้าวเหว่ยที่เคยราบเรียบบัดนี้คล้ายมีระลอกคลื่นบางเบาเมื่อนึกถึงเรื่องราวบางประการภาพภายในห้องขังคุกหลวงอันมืดมิดปราศจากผู้อื่น ยามที่เจี้ยนจื้อห

    Last Updated : 2025-04-08

Latest chapter

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   อาจารย์หญิง 5

    “อาจารย์ได้โปรดกลับไปกับข้าเถิด เป็นประมุขนารีแดง" ซานซานขมวดคิ้วมุ่น ครุ่นคิดเคร่งเครียดก่อนปฏิเสธตามตรง “ข้ายังไม่มีเงิน ยังไม่สามารถเลี้ยงสมุนมากมายปานนั้น กำลังอยู่ในช่วงตั้งตัว เอาไว้ร่ำรวยเมื่อใดค่อยกลับไปแล้วกัน”เรื่องเงินถือเป็นปัจจัยสำคัญของพวกนักฆ่ารับจ้าง หาใช่ลาภยศชื่อเสียงเยี่ยงคนของวังหลวงไม่ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันสำนักในยุทธภพเหล่านี้ทำงานให้ชนชั้นสูงอยู่เงียบๆ รับเงินเป็นกอบเป็นกำเพื่อดำรงชีพ ทำงานลึกลับฝังตัวซ่อนเร้นให้องค์กรใต้ดินมาช้านานเมื่อได้รับคำปฏิเสธ หยุนผิงจึงมีสีหน้าเศร้าสลด อดคิดมิได้ว่า ควรเร่งหาเงินให้มาก อาจารย์จะได้กลับสำนัก นางเอ่ยเสียงเครือ “อาจารย์...เช่นนั้นข้าจะช่วยท่านเก็บเงินอีกทางหนึ่ง”“หืม...” ซานซานมองหน้าหยุนผิง พลางถามเสียงเรียบ “คงมิใช่เร่งสังหารเป้าหมายหรอกกระมัง”“แล้วจะให้ทำเช่นใดเล่า งานสำเร็จย่อมได้เงินมากโข”ซานซานหรี่ตาใคร่ครวญลึกซึ้ง ก่อนถามเสียงขรึม“เมื่อครู่เจ้าบอกว่าถูกผู้มีอำนาจขู่บังคับให้ทำงานสังหารบุคคลสำคัญ ผู้ใดว่าจ้างให้มาสังหารใครรึ? ได้คุ้มเสียหรือไม่?”หยุนผิงมีสีหน้าลำบากใจยากเอื้อนเอ่ยซานซานนิ่งคิดใช้เวลาไตร่ตร

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   อาจารย์หญิง 4

    ซานซานปัดมืออีกฝ่ายออกจากไหล่ตนพลางเอ่ยเนิบช้า“ในเมื่อเจ้าล่วงรู้วิชาของข้า และข้าก็ล่วงรู้วิชาของเจ้า เกรงว่าสองเราคงเป็นศิษย์สำนักเดียวกันกระมัง”เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ ซานซานก็นิ่งคิดชั่วครู่ไม่ถูก! เคล็ดวิชานี้ เป็นนางที่คิดค้นไว้ตั้งแต่ชาติที่แล้ว จะเป็นศิษย์สำนักเดียวกันได้อย่างไร นางควรเป็นอาจารย์ทวดของอีกฝ่ายถึงจะถูกต้อง!คิดเสร็จหญิงสาวก็โบกมือไม่ถือสา กล่าวเสียงเรียบว่า“เอาล่ะๆ นางมารเช่นเจ้ากล้าปลอมตัวเป็นนางรำเข้ามาในงานของวังหลวง คงถูกว่าจ้างมากระมัง จะสังหารใครรึ?”ประหนึ่งคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ หยุนผิงยิ่งอึ้งตะลึงงัน ปลายนิ้วสั่นเบาๆ เล็บแหลมคมเริ่มหดกลับเข้ามาในเนื้อ ผิวกายที่มีอักขระน่ากลัวค่อยๆ เลือนหาย ท้ายที่สุดนัยน์ตาสีแดงปานโลหิตก็ดำขลับเช่นเดิม เผยความงดงามหยาดเยิ้มดุจเดิมเพราะเคล็ดวิชาในตำนานมีเพียงอาจารย์ทวดต้นตำรับเท่านั้นที่สามารถล่วงรู้ได้ว่าวิชาที่ตกทอดเป็นเพียงหนึ่งในวิชาใดหยุนผิงคุกเข่ากระแทกพื้นเรียกซานซานเสียงสั่นเครือ “ท่านอาจารย์ทวด...”ถึงแม้จะทำใจเอาไว้แล้ว แต่หางคิ้วก็อดกระตุกมิได้ “เรียกเสียแก่เลยเชียว เรียกแค่อาจารย์หญิงก็พอกระมัง”หยุนผิงยืน

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   อาจารย์หญิง 3

    ค่ำคืนยาวนาน งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไปจ้าวเหว่ยนั่งลงมองเพียงปลายนิ้วมือที่ไล้วนจอกเหล้าด้วยความเบื่อหน่ายอีกครั้ง รอเวลาอันเชื่องช้าเคลื่อนผ่านอย่างเงียบงัน ในใจคิดถึงแต่ใครบางคนอันเป็นรางวัลแห่งค่ำคืนและแล้วภายใต้ใบหน้าอันแสนจะเย็นชา รัชทายาทหนุ่มพลันได้แผนการใหม่ในการจัดการกับภรรยาในใจปรารถนาให้สิ้นสุดงานเลี้ยงโดยไวการเสวนาโต้ตอบระหว่างฮ่องเต้กับบรรดาขุนนางยังคงมีไม่ขาดสาย พร้อมเชื้อเชิญกึ่งท้าประชันฝีมือระหว่างตระกูลด้วยการนำเสนอความสามารถของบุคคลชั้นสูงคุณหนูแต่ละคนได้รับการสนับสนุนให้ออกมาแสดงฝีมือกลางลานกว้าง เปลี่ยนทุกการแสดงจากการมอบความสำราญเป็นแสดงความสามารถอันหาได้ยากยิ่งแทน มีทั้งการบรรเลงพิณ แต่งโคลงต่อกลอน และร่ายรำเมื่อการแสดงรอบนี้เป็นสตรีชั้นสูง กระทั่งการร่ายรำบิดเอวส่ายสะโพกจึงมิใช่เป็นการแสดงชั้นต่ำ อีกทั้งยังสูงส่งเทียมฟ้าทุกนางล้วนงดงามสะกดสายตา ยิ่งชาติตระกูลสูงศักดิ์ ยิ่งกลายร่างเป็นโฉมสะคราญหยาดฟ้าแต่ละนางอวดโฉมในด้านที่ดีที่สุดให้องค์รัชทายาทได้ยล พยายามดึงดูดเขาด้วยรูปโฉมและฝีมือในศาสตร์ทุกแขนงเวลาแห่งค่ำคืนค่อยๆ ดำเนินไปช้าๆ ระหว่างนั้นซานซานก็กล

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   อาจารย์หญิง 2

    บรรดาคุณหนูในงานต่างโล่งใจที่เป็นซานซาน เพราะสตรีผู้นี้ย่อมไม่อาจได้รับสิทธิ์ปีนเตียงรัชทายาท หรือต่อให้ร่วมวสันต์จริง ก็ยังต้องเป็นได้แค่สาวใช้อุ่นเตียงไร้ค่า บนแท่นประทับ โอรสสวรรค์ยังคงแย้มพระสรวลน้อยๆ พระองค์ตรัสแล้วย่อมไม่อาจคืนคำ ในเมื่อประกาศแล้วว่าจะมอบรางวัลให้บุตรชาย ก็ควรต้องเป็นไป “เช่นนั้น เจ้า...” ฮ่องเต้ชี้นิ้วไปทางซานซาน “รั้งอยู่...”เบื้องหน้าคือองค์จักรพรรดิผู้มีอำนาจล้นฟ้า ถัดมายังเป็นองค์รัชทายาทผู้สูงส่ง รอบด้านยังมีแต่ชนชั้นสูงศักดิ์ ซานซานที่เป็นสตรีผู้น้อยต้อยต่ำมีหรือจะปฏิเสธได้ หญิงสาวจึงยอบกายแนบพื้นน้อมรับเสียงเบา มิอาจเป็นอื่นสิ้นคำตรัสฮ่องเต้ จ้าวเหว่ยเพียงตอบรับเสียงเรียบ “ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”ครานี้หลี่กุ้ยเฟยคลายหัวคิ้ว ยกยิ้มงาม เพราะเป็นซานซานย่อมดีกว่านางรำแปลกหน้า คนกันเองทั้งนั้น ไว้ใจได้เหตุที่หลี่ฮุ่ยเยี่ยนไว้ใจซานซานมิใช่เพียงแค่นั้น แต่เป็นเพราะซานซานชอบเพียงเงินทอง ไม่ฝักใฝ่อำนาจ ไม่เป็นอันตรายต่อตำแหน่งรัชทายาทของจ้าวเหว่ยแน่นอนปราศจากเสียงคัดค้าน มีเพียงสายตายอมรับได้ รอบด้านมิได้ริษยาซานซานเทียบเท่าหยุนผิงที่งามเลิศล้ำ สายตาคล้าย

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   อาจารย์หญิง 1

    บนแท่นประทับมังกร ฮ่องเต้ตรัสกับขันทีด้านหลัง“พาแม่นางฮวาไคไปพำนักในห้อง รอพาตัวเข้าวังบูรพา”ขันทีค้อมกายน้อมรับคำสั่ง “พ่ะย่ะค่ะ”ถ้อยวาจาเหล่านี้ยังคงเรียกรอยยิ้มบางเบาให้ประดับบนใบหน้าหล่อเหลาของจ้าวเหว่ยเช่นเคย เขาลุกขึ้นยืนประสานมือแล้วเอ่ยกับพระบิดาทันที“ขอบพระทัยเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมพึงใจกับรางวัลในค่ำคืนนี้ เพียงแต่สตรีที่ปรบมือให้ หาใช่แม่นางผู้นั้นไม่ รางวัลก็ควรเปลี่ยนไป เป็นนางผู้นี้”ฮ่องเต้ขมวดพระขนง ปรายพระเนตรมองบุตรชาย “หืม?”โซวอ๋องชะงักนิ่ง หยุนผิงยอบกายแข็งค้างจ้าวเหว่ยเน้นอีกครั้งปรายสายตาไปทางซานซาน“เป็นนางพ่ะย่ะค่ะ”ยามนั้นทุกคนถึงได้สังเกตเห็นซานซานที่เดิมทีคล้ายวิญญาณ ประหนึ่งหมอกควันที่เห็นเพียงเลือนลางเวลาก่อนหน้านี้นับว่าเนิ่นนานทีเดียวที่หญิงสาวถูกความงามของหยุนผิงบดบังเอาไว้จนมิดชิดนางแค่อยู่ตามธรรมเนียมเพื่อรอรับรางวัล มิคาดฝันว่าจักกลายเป็นรางวัลเสียเอง...โซวอ๋องให้นึกกังขา จึงปรับสีหน้าตึงเครียดให้ราบเรียบดุจเดิมพลางเอ่ยด้วยเสียงทุ้มนุ่มเผยแววหยอกเอินว่า“การแสดงชุดใหญ่เพียงนี้ เหตุใดนางถึงได้รับความชอบเพียงผู้เดียวเล่า มีสิ่งใดพิเศษกระนั้

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   แม่นางฮวาไค 3

    การตกอยู่ในภวังค์เช่นนี้ราวกับเป็นเวลาชั่วกัปชั่วกัลป์ในความรู้สึก โดยมีซานซานทำตัวคล้ายหมอกมารไอปีศาจไร้ตัวตน นางคอยควบคุมบงการทุกคนได้อย่างเหนือชั้น ไร้ใครสังเกตและต้านทาน เครื่องมือคือหยุนผิงผู้โดดเด่นและนางรำทั้งหลายที่งดงามพร้อมครอบครองดลบันดาลเนิ่นนานผ่านไปเสียงพิณค่อยๆ แผ่วจาง แล้วหยุดลงในที่สุด ทุกคนพลันบังเกิดความรู้สึกนึกคะนึงหา มิอาจแยกจาก หากเพลงพิณรุนแรงกว่านี้เกรงว่าพวกเขาคงน้ำตาไหลพรากทว่าเมื่อได้สติกลับคืนปรากฏว่านางรำสิบกว่าคนกำลังพากันทยอยกรีดกรายจากไปคล้ายหมู่ภมรอิ่มน้ำหวานกลับถิ่น พริบตาคงเหลือเพียงมือพิณสองนางยอบกายแนบพื้นนอบน้อมตามธรรมเนียมปฏิบัติของแคว้นต้าถัง ผู้ดีดพิณย่อมอยู่ต่อเพื่อรอรับรางวัลจากผู้ชมชั่วขณะที่ทุกคนกำลังตกอยู่ในภวังค์ต้องมนต์จนเงียบงัน ยามนั้นองค์รัชทายาทพลันได้สติกลับมาคนแรกชายหนุ่มคล้ายหลุดจากท่าทีสุขุมนุ่มลึกอันเย็นชาถึงกับลุกขึ้นยืนแล้วปรบมืออย่างช้าๆ เผยสีหน้าชื่นชมอารมณ์ดี ท่าทางประหนึ่งถูกครอบงำตราตรึงจากบางสิ่งจ้าวเหว่ยผู้ไม่เคยให้ความสนใจในการแสดงครั้งใดกลับแสดงว่าชมชอบการแสดงชุดนี้จนออกนอกหน้า ทุกคนจึงได้รู้ตัวได้สติกลับคืนมา

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   แม่นางฮวาไค 2

    ยิ่งคิดเรียวคิ้วบุรุษยิ่งขมวดมุ่นจนเป็นปมยากคลายตัว ขัดแย้งกับบรรยากาศอันแช่มชื่นรอบกายเต็มทีหากปล่อยให้ซานซานเข้าใจผิดเรื่องเหย่หนิวต่อไป บางทีอาจจะเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย อย่างน้อยนางย่อมไม่ถูกเพ่งเล็ง ทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากเสด็จแม่ต่อไปให้อู๋เจี๋ยได้รับผลกรรมเป็นเหย่หนิว ถูกซานซานเกลียดชัง ถูกคนรักเข้าใจผิดมหันต์ไปเช่นนั้น รอจนกว่าซานซานหายโกรธ เขาย่อมปล่อยอู๋เจี๋ยออกมาส่วนตัวเขาก็จะกลายเป็นชายหนุ่มคนใหม่ที่เข้าหานาง เป็นรัชทายาทสูงศักดิ์ผู้เพียบพร้อม เหนือชั้นกว่าเหย่หนิวทุกอย่างส่วนหลิ่งเอ๋อร์ก็เป็นองค์หญิงตัวน้อยช่วยกุมหัวใจของเสด็จแม่อยู่อีกทางให้เวลาบ่มเพาะความรักขึ้นมาใหม่แอบคบหากันไปก่อน รอกระทั่งเขาได้ขึ้นครองราชย์ มีอำนาจสิทธิ์ขาดค่อยว่ากันภายใต้สีหน้าราบเรียบเฉยชาไร้อารมณ์ รัชทายาทหนุ่มยิ่งคิดยิ่งร้อนรุ่มดังมีไฟสุมอยู่ในทรวงอก จนเลือดเดือดพล่าน เพราะเรื่องแรกที่เขาคิดการณ์ คือต้องจัดการซานซานให้ได้ก่อนดูเถิดว่าเขาจะเกี้ยวนางได้หรือไม่?ขณะที่จ้าวเหว่ยได้ข้อสรุปที่เรียกได้ว่าชั่วร้ายเพื่อภรรยา เสียงปรบมือเปิดงานด้วยการแสดงจากหอนางรำเลื่องชื่อก็เริ่มขึ้นสตรีงดงาม

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   แม่นางฮวาไค 1

    งานเลี้ยงดำเนินไปด้วยบรรยากาศชื่นมื่นมีการสนทนาระหว่างฮ่องเต้ องค์ชาย องค์หญิง ขุนนางทั้งหลายฝ่ายบุรุษต่างมีสีหน้ารื่นรมย์เพราะถือเป็นโอกาสได้สำเริงสำราญเต็มที่ มีสตรีงดงามให้ได้ยล ทั้งยังสูงส่งมากความสามารถฝ่ายสตรียิ่งเบิกบานเพราะได้เปิดหูเปิดตาร่วมประชันโฉมและแสดงฝีมือหลังจากที่ต้องอดทนบ่มเพาะตัวตนแค่ในเรือนหัวข้อที่เสวนาล้วนแต่เป็นการสรรเสริญเยินยอประจบสอพลอ ยังมีต่อด้วยการโต้ตอบไปมาระหว่างอริที่เสแสร้งเป็นพันธมิตรนอกจากนั้นเรื่องที่คุยกันก็ไม่พ้นว่าบุตรชายหรือบุตรสาวบ้านใดเป็นใคร ยิ่งใหญ่แค่ไหน อายุเท่าไหร่มีความสามารถอันใด พร้อมออกเรือนหรือไม่ท่ามกลางถ้อยวาจาและเสียงหัวเราะที่แลกเปลี่ยนกัน มีเพียงบุรุษชุดม่วงขลิบทองยังคงเก็บอาการเบื่อหน่ายต่องานเช่นนี้เอาไว้ได้อย่างแนบเนียนด้วยท่าทางสุขุมนุ่มลึกใบหน้าหล่อเหลาซ่อนความเย็นชาในดวงตาคู่ดำด้วยการหลุบลงต่ำมองเพียงปลายนิ้วที่ไล้วนบนจอกเหล้าในมือขณะยกขึ้นจรดริมฝีปากเพื่อดื่มลงคอ ในใจของจ้าวเหว่ยที่เคยราบเรียบบัดนี้คล้ายมีระลอกคลื่นบางเบาเมื่อนึกถึงเรื่องราวบางประการภาพภายในห้องขังคุกหลวงอันมืดมิดปราศจากผู้อื่น ยามที่เจี้ยนจื้อห

  • พยัคฆ์สาวจ้าวดวงใจ   ภัยร้ายซ่อนเร้น 6

    หญิงสาวนางหนึ่งอายุราวยี่สิบปีค่อยๆ เผยโฉมออกมาจากกลุ่ม แล้วถามว่า “เจ้าคือคนของวังหลวงใช่หรือไม่? คิดใช้อำนาจข่มเหงพวกเราหรือไร?”ซานซานขมวดคิ้ววูบ “ข้ามิใช่คนของใครทั้งนั้น ไม่มีเหตุผลใดต้องข่มเหงเจ้า แค่มีวิธีดีๆ ให้ได้เงินง่ายๆ แบบทั่วถึงกัน”หญิงสาวคนเดิมจึงเดินมายืนประจันหน้ากับซานซาน นางมีผิวขาวราวหิมะ แต่งกายด้วยผ้าเนื้อบางเผยสัดส่วนชัดเจน ใบหน้ารูปไข่งดงามอ่อนหวานเย้ายวนอย่างที่สุด สะคราญโฉมพิลาศล้ำยิ่งกว่าองค์หญิงต้าถังด้วยซ้ำหญิงงามกล่าวกับซานซานด้วยน้ำเสียงแว่วหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า “ข้านามว่าหยุนผิง มือพิณ ทุกครั้งที่ขึ้นแสดงฝีมือ ข้าได้รับความโปรดปรานที่สุด เรียกเงินได้มากที่สุด แต่ก็เหน็ดเหนื่อยกับการเอาตัวรอดจากขุนนางบางคนที่คิดจะติดพันเพื่อซื้อตัวเข้าจวนที่สุดเช่นกัน หากเจ้าช่วยให้ข้าลดความเสี่ยงตรงนั้นได้ โดยที่ค่าตอบแทนไม่ลดลงจากที่เคยรับ ข้าก็ยินดีมอบหน้าที่ดูแลน้องสาวทุกคนในที่นี้ของข้าให้เจ้า”“พี่ผิง!” นางรำทุกคนอุทานอย่างตกใจหยุนผิงยกมือห้ามบรรดาน้องสาวมิให้โวยวาย แล้วกล่าวต่ออย่างใจเย็น “แต่หากเจ้าทำมิได้ ด้วยความงามของข้า รวมกับการได้รับเชิญขึ้นแสดงเพลงพิณ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status