Share

บทที่ 76

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
เจี่ยนอันอันเอนกายข้างฉู่จวินสิง

เนื่องด้วยเตียงมีขนาดแคบเกินไป ต่อให้ฉู่จวินสิงนอนตะแคง ร่างของทั้งสองก็สัมผัสกันอยู่ดี

เจี่ยนอันอันตกใจจนรีบพลิกตัว แล้วหันหลังให้ฉู่จวินสิง

“ท่านนอนตะแคงเช่นนี้ไม่ดีต่อบาดแผล ท่านนอนราบดังเดิมเถิด”

เจี่ยนอันอันเป็นห่วงอาการบาดเจ็บของฉู่จวินสิง จึงเอ่ยปากเตือน

ฉู่จวินสิงไม่พูดไม่จา เขากำลังหลับตา ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ

เจี่ยนอันอันหันมองแวบหนึ่ง พลันเห็นฉู่จวินสิงนอนหลับไปแล้ว

นางไม่กล้าพูดอีกต่อไป จึงถดตัวออกไปด้านนอก

ทว่าในขณะนั้นเอง กลับได้ยินเสียงฉู่จวินสิงเอ่ย “เจ้าอย่าขยับ เดี๋ยวตกลงไปจะแย่เอา”

เดิมเจี่ยนอันอันนึกว่าฉู่จวินสิงนอนหลับไปแล้ว แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายกล่าว ร่างที่กำลังขยับของนางก็ชะงักไป

เจี่ยนอันอันไม่กล้าขยับกายอีก

ผ่านไปสักครู่ นางจึงเอ่ยถาม “ท่านนอนหลับแล้วหรือ?”

ฉู่จวินสิงตอบ “ยังไม่หลับ”

สายตาเจี่ยนอันอันจ้องเขม็งไปที่เก้าอี้ตัวนั้น ในใจคิดว่านางไปนั่งที่เก้าอี้สักหนึ่งคืนดีกว่า

แต่นางก็กลัวเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ จึงนอนด้วยใจกระวนกระวายอยู่ตรงนี้

“ในเมื่อท่านยังไม่นอน พวกเราคุยกันดีหรือไม่?”

เจี่ยนอ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 77

    ตอนอยู่ในคุกหลวง เจี่ยนอันอันไม่ได้คิดมากนางนึกว่าตัวเองซ่อนตัวอย่างดีแล้ว เพราะคนอื่นๆ ล้วนมองไม่เห็นนางจึงคิดว่าฉู่จวินสิงก็มองไม่เห็นนางเช่นกันกลับนึกไม่ถึงว่านางที่กำลังอำพรางตัว จะเปิดเผยตัวตนต่อหน้าฉู่จวินสิงทั้งหมด“ข้า...ขอไม่ตอบคำถามทั้งสองข้อนี้ได้หรือไม่?” เจี่ยนอันอันลองถามหยั่งเชิงนางไม่อยากให้ฉู่จวินสิงเค้นถามอีกต่อไป ไม่อย่างนั้นนางคงปิดบังต่อไปไม่ได้แล้วฉู่จวินสิงไม่ให้โอกาสเจี่ยนอันอัน เขาเอ่ยเสียงเย็น“เจ้าเป็นใครกันแน่ เหตุใดจึงสวมรอยเป็นคุณหนูใหญ่จวนกั๋วกง แล้วปะปนเข้ามาในขบวนของพวกข้า?”เจี่ยนอันอันรู้สึกว่าหากยังถูกเค้นถามต่อไป นางต้องถูกจับได้แน่นางเตรียมจะลุกจากเตียง ทว่ากลับรู้สึกถึงจุดชีพจรที่แผ่นหลังถูกคนออกแรงจี้ลงไปร่างกายนางแข็งทื่อ ไม่สามารถขยับได้แม้แต่น้อย“เมื่อครู่ท่านสกัดจุดข้าหรือ?” เจี่ยนอันอันเอ่ยถามด้วยสีหน้าลนลานนางรู้ว่าเมื่อจุดชีพจรถูกสกัด ไม่เพียงร่างกายขยับเขยื้อนไม่ได้หากผ่านไปอีกหนึ่งชั่วยาม นางจะเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งร่างหากไม่ถูกคลายจุดทันเวลา นางจะเจ็บปวดเช่นนี้ตลอดไปความรู้สึกเช่นนั้นทรมานยิ่งกว่าตายเจี่ยนอันอ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 78

    ฉู่จวินสิงนึกถึงตอนที่เขาหมดสติ เคยตื่นขึ้นมาครั้งหนึ่งตอนนั้นเขาเห็นเจี่ยนอันอันแอบลอบไปที่ทหารรักษาพระองค์ อีกทั้งยังแอบวางยาในถุงน้ำของทหารเหล่านั้นต่อมาทหารเหล่านั้นก็เริ่มท้องเสียขณะนั้นดูเหมือนทหารรักษาพระองค์จะมองไม่เห็นเจี่ยนอันอันยามนี้เมื่อลองนึกดู ขณะนั้นเจี่ยนอันอันน่าจะกำลังล่องหนอยู่เพียงแต่ฉู่จวินสิงเองก็ไม่เข้าใจ เหตุใดคนอื่นถึงไม่เห็นเจี่ยนอันอันที่กำลังล่องหน มีเพียงเขาที่มองเห็นเจี่ยนอันอันกระวนกระวายมาก กำลังรอให้ฉู่จวินสิงพูดขณะนี้นางถูกเขาสกัดจุด ทำให้แขนขาขยับไม่ได้สมองของนางโลดแล่นอย่างรวดเร็วนางควรใช้วิธีใด ถึงจะคลายจุดชีพจรได้?ในขณะที่เจี่ยนอันอันคิดเหลวไหล ในที่สุดฉู่จวินสิงได้เอ่ยขึ้น“ได้ ข้าเชื่อในสิ่งที่เจ้าพูด”เจี่ยนอันอันนึกไม่ถึงว่าฉู่จวินสิงจะเชื่อนางเร็วขนาดนี้ในขณะที่นางกำลังจะผ่อนลมหายใจ ฉู่จวินสิงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “แล้วมิติที่เจ้ากล่าวถึง คือสิ่งใด?”เจี่ยนอันอันรีบอธิบาย “มิติแห่งนี้ข้าเป็นคนคิดค้นขึ้นมาเอง ด้านในสามารถบรรจุของได้ทุกสิ่ง เพียงชั่วความคิดของข้าเกิดขึ้น จะสามารถนำสิ่งที่อยู่ในมิติออกมาได้ หากท่านไม่เชื่อ ข

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 79

    ฉู่จวินสิงเอ่ยถามอีกครั้ง “ในเมื่อเจ้าไม่ใช่คนของโลกนี้ เหตุใดต้องมาทนถูกเนรเทศไปพร้อมกับข้าด้วย? เจ้าสามารถแอบหนีไปให้ไกลได้นี่”เจี่ยนอันอันถอนหายใจอย่างระอา นางเองก็อยากหนีไปให้ไกลแต่ภารกิจของห้วงมิติ กลับผูกชะตาของนางกับฉู่จวินสิงไว้ด้วยกันนางจะทำอย่างไรได้ดวงตาของเจี่ยนอันอันหมุนวน จากนั้นยื่นมือออกไปหนึ่งข้างแล้วนับนิ้วมือกลางอากาศ จากนั้นทำท่าลึกลับ “ความจริงข้าทำนายแบบนับนิ้วได้ ข้าทำนายได้ว่าท่านจะได้กลับมาผงาดอีกครั้ง ท่านไม่เพียงกลับมาอยู่ในตำแหน่งเยียนอ๋องอีกครั้ง ยังสามารถโค่นล้มราชวงศ์ปัจจุบันแล้วกลายเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ของแคว้นไท่ยวน”ฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันแสร้งทำท่าลึกลับ พลันรู้ทันทีว่านางพูดจาเหลวไหลในดวงตาของฉู่จวินสิง มีแววขบขันแวบผ่านอย่างรวดเร็วเขาอยากรู้ว่าเจี่ยนอันอันยังอยากพูดอะไรอีกฉู่จวินสิงแสร้งเอ่ยขึ้นขึงขัง “ข้าวสามารถกินไปเรื่อยได้ แต่จะพูดจาส่งเดชไม่ได้ เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อคำพูดเมื่อครู่นี้ของเจ้าหรือ?”เจี่ยนอันอันเห็นฉู่จวินสิงไม่เชื่อนาง จึงกำลังคิดว่าจะโต้แย้งเขาอย่างไรดีทันใดนั้นตรงหน้านางได้มีภาพปรากฏขึ้นกะทันหันพรุ่งนี้ช่วง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 80

    เจี่ยนอันอันดึงข้อมือของฉู่จวินสิงขึ้นเพื่อตรวจชีพจรให้เขานางพบว่าเลือดลมของฉู่จวินสิงกำลังวิ่งพล่านไปทั่วร่างหากรักษาไม่ทันการณ์ เกรงว่าเขาคงต้องหมดสติอีกครั้งเจี่ยนอันอันรีบนำยาที่ทำให้เลือดลมสงบออกมาจากมิติหนึ่งเม็ด แล้วยัดเข้าปากฉู่จวินสิงทันทีจากนั้นนางก็ซื้อน้ำแร่อีกหนึ่งขวดจากร้านค้าในมิติ แล้วพยุงฉู่จวินสิงให้ลุกขึ้น ค่อยๆ ป้อนน้ำให้เขาดื่มฉู่จวินสิงกลืนยาในปากลงคอพร้อมกับน้ำดื่มเมื่อเขาหายใจสะดวกแล้ว จึงหันมองขวดน้ำแร่ที่อยู่ในมือเจี่ยนอันอัน“นี่คือสิ่งใด?” ฉู่จวินสิงเอ่ยถามด้วยสีหน้าฉงนเจี่ยนอันอันไม่คิดจะปิดบังเขาอีกต่อไปนางจึงบอกไปตามความจริง “นี่คือน้ำแร่ในโลกที่ข้าอยู่ ดื่มแล้วมีประโยชน์ต่อร่างกาย”ฉู่จวินสิงไม่ได้พูดสิ่งใด เพียงจ้องมองขวดน้ำแร่ที่อยู่ในมือเจี่ยนอันอันหากเมื่อครู่เขายังสงสัยในคำพูดเหล่านั้นของเจี่ยนอันอันมาถึงตอนนี้ ในที่สุดเขาก็เชื่อว่าเจี่ยนอันอันไม่ใช่คนในโลกนี้เฉกเช่นเขาหลังจากกินยาที่ทำให้เลือดลมสงบเข้าไป ฉู่จวินสิงรู้สึกว่าเลือดลมภายในร่างกายค่อยๆ สงบลงแต่เมื่อนึกถึงวันพรุ่งนี้ที่จะมีคนกลุ่มหนึ่งมาลอบสังหารครอบครัวเขา ฉู่จ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 81

    บนแขนของฉู่จวินสิงมีหัวเข็มเสียบอยู่เขาเชื่อฟังโดยการไม่ขยับเขยื้อน เพียงแค่ส่งสายตาบอกให้เจี่ยนอันอันนอนลงข้างกายเขา“มานอนลงสิ แล้วพักผ่อนให้ดีสักคืน พรุ่งนี้ยังมีธุระให้จัดการอีกมาก”เมื่อเห็นฉู่จวินสิงดึงดันให้นางนอนลง อีกทั้งบนแขนของเขายังมีเข็มคาอยู่ เขาคงไม่กล้าทำอะไรนางหลังเจี่ยนอันอันตรึกตรองสักครู่ ในที่สุดก็นอนลงข้างกายฉู่จวินสิงนางจ้องเขม็งไปที่ขวดยาซึ่งอยู่เหนือหัว มองดูน้ำยาหยดลงมาทีละหยดหวังเพียงให้ยาขวดนี้ ช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บของฉู่จวินสิงลงบ้างน้ำยาในขวดส่งผลในเรื่องการนอนหลับ เพียงไม่นานฉู่จวินสิงก็นอนหลับสนิทเจี่ยนอันอันไม่กล้านอน เพราะนางยังต้องคอยเฝ้าดูขวดยาหลังจากรอให้น้ำยาหยดจนหมด นางจึงถอดหัวเข็มที่เสียบอยู่บนแขนของฉู่จวินสิงออกหลังจากตรากตรำมาทั้งวัน เจี่ยนอันอันเองก็เหนื่อยล้าอยู่บ้างเมื่อความง่วงคืบคลาน เปลือกตาของเจี่ยนอันอันหนักอึ้งอย่างที่สุดนางหลับตา ในไม่ช้าก็นอนหลับไปเช้าวันรุ่งขึ้น เจี่ยนอันอันตื่นขึ้นเพราะเสียงโวยวายด้านนอกเมื่อนางลืมตาขึ้น รู้สึกว่ามีสายตาของใครบางคน กำลังจ้องมองตนเองพอนางหันมอง จึงเห็นฉู่จวินสิงที่ไม่รู

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 82

    เจี่ยนอันอันเห็นดังนั้น ก็รู้ตัวว่ารบกวนพวกเขานางหัวเราะแล้วรีบเอ่ยขึ้น “พวกเจ้าคุยกันต่อเถอะ ข้าไม่ได้ยินอะไรเลย เดี๋ยวข้าจะกลับไปนอนต่ออีกหน่อย”เจี่ยนอันอันพูดจบ ก็รีบถอยหลังกลับไปทันทีนางปิดประตู แล้วกลับไปที่เตียงพวกโจรภูเขาที่อยู่ในห้องโถง เห็นเจี่ยนอันอันกลับไปในห้องแล้วพวกเขาจึงเริ่มหารือกันอีกครั้งเจี่ยนอันอันเดินมาข้างเตียง ไม่ได้สนใจสายตาฉู่จวินสิงที่กำลังจ้องมองตัวเองอยู่นางเข้าไปคว้าข้อมือของเขา แล้วตรวจชีพจรให้ฉู่จวินสิงอีกครั้งน้ำยาแก้อักเสบและยาสงบเลือดลมเมื่อคืน เริ่มเห็นผลขึ้นมาบ้างแล้วเลือดลมในร่างของฉู่จวินสิงได้สงบลงทั้งหมดร่างกายของเขากำลังฟื้นตัวไปในทางที่ดีขึ้นทั้งสองคนภายในห้องต่างเงียบงันมีเพียงเสียงโหวกเหวกโวยวายด้านนอกที่ดังขึ้นไม่หยุดเจี่ยนอันอันได้ยินโจรภูเขาคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “หัวหน้าใหญ่ ท่านจะติดตามพวกเขาไปเมืองอินเป่ยจริงหรือ? แล้วพวกข้าจะทำอย่างไร พวกข้าไม่มีหัวหน้าใหญ่ไม่ได้หรอกนะ”เสียงของเซิ่งฟางดังลอดเข้ามา “เรื่องนี้ข้าตัดสินใจแล้ว พวกเจ้าไม่ต้องโต้แย้งให้มากความ”“แต่ว่าหัวหน้าใหญ่...” เสียงของโจรภูเขาอีกคนดังขึ้น เขาพูด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 83

    เจี่ยนอันอันรีบกระโดดลงจากเตียงแล้ววิ่งไปเปิดประตูเห็นเพียงเหวินอิงยืนอยู่หน้าประตู ขอบตาของนางแดงก่ำ บนใบหน้ายังมีคราบน้ำตาที่ไม่ทันเช็ดเหวินอิงเอ่ยขึ้น “ออกมากินข้าวเถอะ”เมื่อพูดจบ เหวินอิงก็หันหลังจากไปทันทีเจี่ยนอันอันไม่ได้เอ่ยถาม นางรีบเดินไปข้างเตียงนำแขนข้างหนึ่งของฉู่จวินสิงมาพาดไว้บนบ่าตัวเองเจี่ยนอันอันประคองฉู่จวินสิงให้ลงจากเตียงฉู่จวินสิงที่รูปร่างสูงโปร่ง ทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดลงไปบนตัวเจี่ยนอันอัน เมื่อสัมผัสถึงความอ่อนนุ่มจากร่างกายเจี่ยนอันอัน หัวใจของฉู่จวินสิงเต้นช้าลงอย่างไม่มีสาเหตุเจี่ยนอันอันไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของฉู่จวินสิง นางประคองเขาให้เดินไปที่ประตูทีละก้าวเจี่ยนอันอันเดินหน้าไปอย่างยากเย็น นางเอ่ยกับฉู่จวินสิง“เมื่อคืนข้าเติมน้ำยาแก้อักเสบให้ท่านไปแล้ว ร่างกายของท่านน่าจะดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน ตอนนี้ท่านต้องลงมาเดินบ้าง เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวโดยเร็ว”ฉู่จวินสิงตอบรับเสียงค่อย ปล่อยให้เจี่ยนอันอันประคองเขาต่อไปขณะที่เจี่ยนอันอันประคองฉู่จวินสิง รู้สึกแค่ว่าร่างกายเขาหนักมากหากไม่ใช่เพราะนางเตรียมใจไว้แต่แรก เกรงว่าตอนนี้คงถูกอี

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 84

    หลังจากอาหารมื้อนี้ ทุกคนต้องเดินทางไปเมืองอินเป่ยแล้วทุกคนจึงกินกันอย่างรวดเร็วเมื่อรอให้ทุกคนกินเสร็จ หานซื่อที่เป็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ก็หันไปเอ่ยกับทุกคน “พวกเราควรออกเดินทางได้แล้ว”ทุกคนลุกขึ้นพร้อมกันแล้วออกจากห้องโถงคราวนี้เจี่ยนอันอันไม่ได้ประคองฉู่จวินสิงเพราะพวกเขายังต้องเดินทางไกล ร่างกายของฉู่จวินสิงคงรับไม่ไหวจึงมีทหารรักษาพระองค์สองนาย ใช้เปลหามฉู่จวินสิงไปตลอดการเดินทางส่วนฉู่จวินหลุนยังคงขี่หลังฉู่อันเจ๋อดังเดิมทุกคนมาถึงหน้าค่ายโจร เจี่ยนอันอันเห็นรถม้าและเสบียงที่นางซื้อเมื่อคืนจอดอยู่หน้าประตูโจรภูเขาสามร้อยกว่าคนที่รู้ว่าเซิ่งฟางจะจากค่ายไป ล้วนล้อมรอบเขาเอาไว้ ไม่ยอมให้เขาจากไปส่วนเหวินอิงหันหลังแล้วแอบหลั่งน้ำตาเซิ่งฟางเห็นดังนั้นจึงดึงเหวินอิงเข้าไปกอด แล้วเช็ดน้ำตาให้นางอย่างสงสาร“เอาล่ะ อย่าร้องไห้เลย ใช่ว่าข้าจะไปแล้วไม่กลับสักหน่อย”“อีกอย่าง เมืองอินเป่ยไม่ได้ไกลจากที่นี่มากนัก แค่ข้ามภูเขาลูกนี้ไปพวกเราก็ได้พบกันแล้ว”“รอให้ข้าไปถึงเมืองอินเป่ย แล้วจัดการทุกอย่างเสร็จสรรพ ข้าจะกลับมาหาเจ้า”เมื่อถึงเวลาที่ต้องจากกันจริง ในใจของ

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 280

    ในปีนั้นตอนที่เกิดการสังหารหมู่ขึ้น คนในครอบครัวของจงซิ่นเองก็ไม่รอดลูกชายลูกสะใภ้ของเขา ล้วนแต่ตายในน้ำมือของศัตรูจงซิ่นเพื่อที่จะแก้แค้นให้คนในครอบครัว ก็โวยวายที่จะไปฆ่าคนในราชวงศ์ในตอนนั้นเวินอี๋พยายามห้ามเอาไว้อย่างเต็มที่ แล้วยังบอกเขาว่าด้านนอกนั้นวุ่นวายเป็นอย่างมากถึงแม้ว่าเขาจะมีแรงพละกำลังเต็มที่ ทว่าเพียงแค่สองหมัดยากจะเอาชนะสี่มือได้เขาอยากจะแก้แค้นก็ไม่ควรจะรีบร้อนในตอนนี้รอจนเมื่อดึกสงัดผู้คนเงียบสงบลง ค่อยไปแก้แค้นก็ยังไม่สายทว่าจงซิ่นในตอนนั้นถูกความแค้นท่วมท้นทำให้ตาบอดไป เขายืนกรานจะไปแก้แค้นคนที่สังหารครอบครัวเขาจงซิ่นไม่ได้ฟังคำเกลี้ยกล่อมของเวินอี๋ หยิบมีดเล่นยาวแล้วเดินออกไปเวินอี๋กังวลในความปลอดภัยของจงซิ่น แต่ก็ไม่อยากทิ้งจงหลานเอาไว้ที่บ้านเพียงลำพัง พ่อแม่ของจงหลานเพื่อที่จะปกป้องนางแล้ว ถึงได้ตายไปภายใต้คมมีดของศัตรูหากว่านางถูกฆ่า เกรงว่าจงซิ่นคงไม่อาจใช้ชีวิตได้อย่างปกติไปตลอดเพื่อที่จะปกป้องจงหลาน เวินอี๋จึงรออยู่ที่บ้านรอจนเมื่อจงซิ่นกลับมาพร้อมกับบาดแผลทั่วร่างกาย ก็มองเห็นเวินอี๋นอนอยู่กลางลานบ้านแล้วจงหลานอายุสองขวบนั่งร้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 279

    และในตอนที่จงซิ่นกำลังสงสัยอยู่นั้น เซิ่งฟางก็เดินเข้ามาในตอนที่รู้ว่าจะไปบ้านของจงซิ่นเพื่อช่วยคน เซิ่งฟางเองก็ไม่ได้คัดค้านฉู่จวินสิงให้จงซิ่นขึ้นมานั่งบนรถม้า ไม่นานนักก็พากันเดินทางไปยังบ้านของจงซิ่นตลอดทาง จงซิ่นอดที่จะมองไปยังเจี่ยนอันอันเป็นระยะๆ ไม่ได้เขาพบว่าเจี่ยนอันอันเต็มไปด้วยความสงบนิ่ง เหมือนว่าจะมีความมั่นใจอย่างเต็มที่ที่จะช่วยเวินอี๋เอาไว้ทว่าไม่ว่าเขาจะมองอย่างไรก็รู้สึกว่าเจี่ยนอันอันอายุยังน้อย ไม่เหมือนกับคนที่มีทักษะทางการแพทย์เจี่ยนอันอันรู้ว่าจงซิ่นกำลังสงสัยในความสามารถขอองตน แต่นางไม่ใส่ใจนางแน่ใจว่าจะรักษาร่างกายเวินอี๋ได้ระหว่างทางไปยังบ้านของจงซิ่น จงซิ่นก็ได้รู้ว่าเจี่ยนอันอันเป็นภรรยาของฉู่จวินสิงรถม้าไม่นานนักก็มาถึงประตูบ้านจงซิ่น จงซิ่นลงมาจากรถม้าก่อน เคาะประตูดังขึ้นประตูถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว เด็กน้อยอายุราวเจ็ดแปดขวบคนหนึ่งโผล่หัวออกมาเมื่อนางเห็นว่าจงซิ่นกลับมาแล้ว ก็รีบเปิดประตูเรือนขึ้น“ท่านปู่ ท่านรีบไปดูเข้า ท่านลุงเวินไม่สบายอีกแล้ว”จงซิ่นได้ยินคำนี้เข้า ก็รีบเดินเข้าไปทว่าเขาเพิ่งจะเดินไปได้เพียงแค่ไม่กี่ก้าว ก็ค

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 278

    จงซิ่นจ้องมองฉู่จวินสิงขึ้นๆ ลงๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้น“ท่านคือเยียนอ๋องคนนั้นที่ถูกเนรเทศมายังเมืองอินเป่ยหรือ?”ฉู่จวินสิงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจำตนเองได้ ก็พยักหน้าออกมา “เป็นข้าเอง”จงซิ่นที่เดิมขมวดคิ้วอยู่ก็ผ่อนคลายลงทันทีเขาเคยได้ยินเวินอี๋พูดออกมา เยียนอ๋องจากแคว้นไท่ยวนทั้งกล้าหาญและเก่งการสู้รบ ทำความดีความชอบให้แคว้นไท่ยวนมาไม่น้อย ส่วนวิชาลูกเตะทลายเมฆานั้น ก็เป็นเยียนอ๋องที่สร้างขึ้นมาจงซิ่นอยากจะพบกับเยียนอ๋องมานานแล้ว กลับไม่คิดเลยว่าจะมาพบกับเขาได้ที่นี่จงซิ่นรีบกำหมัดโค้งกายทำความเคารพฉู่จวินสิง“ข้าน้อยจงซิ่น คารวะเยียนอ๋อง”ฉู่จวินสิงรีบพูดขึ้น “มาตอนนี้ข้าไม่ใช่เยียนอ๋องอะไรนั่นอีกแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องทำความเคารพอะไรเช่นนี้อีก”จงซิ่นยืดตัวขึ้น ใบหน้าค่อยๆ เผยให้เห็นรอยยิ้มยินดีขึ้นมา“ข้าอยางจะพบกับเยียนอ๋องมานานแล้ว กลับไม่คิดเลยว่า จะมาพบกับท่านที่นี่ได้”จงซิ่นตื่นเต้นมากเช่นนี้ ทำให้ฉู่จวินสิงประหลาดใจเล็กน้อย“ผู้เฒ่าจงไปเรียนลูกเตะทลายเมฆามาจากที่ใดกัน?”วิชาเตะนี้เขาเคยสอนไปเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น และคนคนนั้นก็ตายไปในสนามรบเมื

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 277

    จ้าวลิ่วกอดความทะเยอทะยานมายังเมืองหลวง แต่ก็พบว่าที่นี้หาเงินได้ไม่ง่ายเหมือนอย่างที่เขาคิดเอาไว้เดิมทีเขาก็ไม่ได้มีความสามารถอะไร ในตอนที่อยู่ที่บ้านก็ไม่เคยไปทำงานที่ทุ่งนาอะไรเลยหลังจากที่มาในเมืองแล้ว เขาถึงกับอึ้งตะลึงไปโลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสันสวยงาม แตกต่างไปจากความสงบสุขของหมู่บ้านชิงสุ่ยอย่างสิ้นเชิงจ้าวลิ่วคลุกคลีอยู่ด้านนอกมาสองปี แต่กลับคลุกคลีจนกลายเป็นคนที่ไม่มีคุณธรรมหากว่าถูกครอบครัวจางต้าเห็นเข้า ไม่รู้ว่าจะดุด่าเขาว่าอย่างไรแต่ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือ หญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าเขาจะรู้จักกับพี่ห้าของเขาได้ไม่นานจ้าวลิ่วก็โพล่งออกมา “ข้าไม่รู้จักจ้าวอู่”เขาเพิ่งจะพูดคำนี้ออกมาจบ ก็เสียใจเสียจนอยากจะกัดลิ้นของตนเองทิ้งเสียเมื่อครู่นี้เจี่ยนอันอันไม่ได้พูดถึงชื่อของจ้าวอู่ แต่ตอนนี้เหมือนว่าเขาจะสารภาพมันออกไปเองแล้วเจี่ยนอันอันกลอกตาไปมาให้จ้าวลิ่ว นางไม่ได้เปิดโปงเขา แต่พูดกับเซิ่งฟางออกมา“พี่เซิ่ง ท่านนำตัวเขากลับไปขังที่ว่าการอำเภอเสียก่อน”“รอจนเมื่อเรื่องของพวกเราจัดการกันเรียบร้อยแล้ว ข้าจะกลับมาสั่งสอนเขาให้ดีๆ”เซิ่งฟางพยักหน้า แล้วจ้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 276

    ผู้คนที่ผ่านไปมาจดจำเซิ่งฟางได้นานแล้ว แต่พวกเขาเพียงแต่ยืนอยู่ด้านข้าง ไม่มีใครช่วยพูดให้จ้าวลิ่วถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังโกรธแค้นอยู่ในใจเพราะเรื่องสังหารหมู่ในปีนั้นแต่พวกเขาก็ไม่ล่วงเกินเจ้าหน้าที่ทางการ ต่างก็พากันคอยเป็นผู้รับชมอยู่ด้านข้างจ้าวลิ่วเมื่อเห็นว่าไม่มีใครคอยช่วยพูดแทนเขา ก็โมโหเป็นอย่างมาก คิดที่จะดิ้นรนให้หลุดรอดออกมาจากมือของจงซิ่นทว่ามือของจงซิ่นที่จับเขาเอาไว้ก็ยิ่งออกแรงมากยิ่งขึ้นจ้าวลิ่วเจ็บเสียจนต้องกัดฟัน ทั่วทั้งกายอดไม่ได้ที่จะสั่นเทาขึ้นมาข้อมือของเขาแทบจะหัก ชายชราผู้นี้ทำไมถึงไม่ยอมปล่อยเขาไปเซิ่งฟางยกมือขึ้น แล้วเหวี่ยงไปยังใบหน้าอีกด้านหนึ่งของจ้าวลิ่วสองฝ่ามือนี้ ทำเสียจนใบหน้าของจ้าวลิ่วบวมจนกลายเป็นหมูมุมปากของจ้าวลิ่วมีเลือดไหลซึมออกมาผู้คนที่ผ่านไปมาคอยดูอยู่ด้านข้าง ก็ตกใจเสียจนต้องก้าวถอยหลังไปพวกเขาต่างก็ลอบยินดีที่ตนเองไม่ได้ปากมากช่วยพูดให้กับจ้าวลิ่วมิฉะนั้นแล้วฝ่ามือนี้ เกรงว่าคงจะตกลงบนใบหน้าของพวกเขาแทนจ้าวลิ่วถูกตบเสียจนวิงเวียนดวงตาพร่ามัว ในตอนนี้เขารู้สึกเสียใจขึ้นมาแล้วจริงๆเขาควรจะหยิบเอาถุงเงินนั่น ไปร้านอาห

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 275

    เมื่อเห็นว่ากีบม้ากำลังจะตกลงบนกายของขอทาน ท่ามกลางกลุ่มคนนั้นจู่ๆ ก็มีเสียงคนร้องดังขึ้น“จ้าวลิ่ว เจ้าบ้านี่ไม่ต้องการชีวิตแล้วอย่างนั้นหรือ!”คนนั้นเมื่อพูดจบ ก็รีบพุ่งเข้ามาเตะลงบนกายของจ้าวลิ่วจ้าวลิ่วที่เดิมทีผอมบางอ่อนแรง เมื่อถูกเตะเข้าก็กลิ้งไปริมถนนกีบม้าตกลงบนถนนอย่างแรง ม้าส่งเสียงร้องดังขึ้น หลังจากที่กีบม้าเหยียบลงบนพื้นอย่างแรงเพียงไม่กี่ครั้ง ถึงได้หยุดลง ในตอนที่เจี่ยนอันอันได้ยินคนผู้นั้นเรียกขอทานว่าจ้าวลิ่วนั้น ก็อดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้นางจำที่จ้าวอู่พูดได้ว่า เขามีน้องหกอยู่คนหนึ่งเข้ามาในเมืองเมื่อสองปีก่อนเขาตามหาน้องหกคนนั้นมาสองปีกว่า ก็ตามหาไม่พบส่วนน้องหกคนนั้นของเขา ชื่อว่าจ้าวลิ่วเจี่ยนอันอันมองไปยังจ้าวลิ่วด้วยความสงสัย พบเพียงใบหน้าของเขาสกปรกอย่างมากไม่มีทางที่จะมองรูปลักษณ์เดิมได้ชัดเจนจ้าวลิ่วลุกขึ้นมา แล้วรีบไปยังเบื้องหน้าของคนที่เตะเขาอย่างไม่ยินยอม“ตาเฒ่านี่ เตะข้าทำอะไรกัน?”“เจ้ารู้หรือไม่ที่เจ้าเพิ่งจะทำไปเมื่อครู่นี้ มาทำลายเรื่องดีๆ ของข้าไปอย่างสิ้นเชิง”เจี่ยนอันอันมองไปยังคนที่เตะจ้าวลิ่ว ก็พบว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นชา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 274

    “หวังว่าท่านจะรักษาคำพูด” เจี่ยนอันอันพูดจบ ก็โบกมือขึ้น “ท่านไปได้แล้ว เรื่องที่ท่านมายังที่ว่าการอำเภอ ห้ามบอกผู้อื่น”เจ้าเมืองตานรีบตอบรับออกมา เขาหันไปมองยังเซิ่งฟาง ก็พบว่าอีกฝ่ายพยักหน้าให้กับเขาหลังจากที่เจ้าเมืองตานโค้งคำนับให้กับทั้งสี่คนแล้ว ก็รีบเดินออกไปในตอนที่เขามายังที่ว่าการอำเภอนั้น ไม่ได้นั่งเกี้ยว และก็ไม่ได้สวมเครื่องแบบทางการมา เพียงแต่สวมเสื้อผ้าธรรมดาเท่านั้นเขาเองก็กลัวว่าตนเองจะสะดุดตาจนเกินไป แล้วถูกคนของผู้ว่ามณฑลจงโจวจดจำได้เข้าหลังจากที่เดินออกจากที่ว่าการอำเภอแล้วนั้น เจ้าเมืองตานก็รีบมุ่งหน้ากลับไปยังจวนของตนเองเขาก้มหน้าเดินอย่างเร่งรีบ จนชนเข้ากับคนผู้หนึ่งเจ้าเมืองตานเงยหน้าขึ้น ก็พบกับขอทานที่ทั่วทั้งเนื้อตัวสกปรกมอมแมม ถูกเขาชนจนล้มลงกับพื้นขอทานล้มลงร้อง “โอ๊ย” ออกมา ใบหน้าที่สกปรกนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเจ้าเมืองตานรีบร้อนกลับไปยังจวน จึงไม่ได้สนใจขอทานนั่น เขาส่งเสียงเย็นชา ก่อนจะรีบจากไปที่เขาไม่รู้ก็คือ ในตอนที่เขาชนเข้ากับขอทานเมื่อครู่นี้นั้น ถุงเงินตรงเอวของเขา ได้ตกไปอยู่ในมือของขอทานนั่นแล้วขอทานส่งเสียงร้องดัง “โอ๊ย”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 273

    สายตาของเจี่ยนอันอันจ้องเขม็งไปยังใบหน้าของเจ้าเมืองตาน อย่างจะคิดมองหาท่าทีโกหกจากสีหน้าของเขาในตอนที่เจ้าเมืองพูดออกมานั้น สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึม สายตาเผยให้เห็นความโกรธแค้นออกมาดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้พูดโกหก สายตาของเจี่ยนอันอันดูเย็นชา จนทำให้ในใจของเจ้าเมืองตานที่มองดูเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาเขาไม่กล้าที่จะสบสายตากับเจี่ยนอันอัน จึงทำได้เพียงมองไปยังทิศทางอื่นเจี่ยนอันอันพูดออกมาอย่างเย็นชา “ท่านเพิ่งจะพูดออกมาว่า ท่านสนิทชิดเชื้อกันท่านผู้ว่ามณฑลจงโจว”“แล้วทำไมท่านยังจะนำเรื่องนี้มาบอกพวกเราอีก”“ท่านไม่กลัวหรือว่าคำที่ท่านพูดออกมาเหล่านี้ จะลอยเข้าหูผู้ว่ามณฑลจงโจวเข้า?”แน่นอกว่าเจ้าเมืองตานย่อมหวาดกลัว เพียงแต่ว่าเขาไม่อยากสมคบคิดกับคนชั่วอีกในตอนแรกที่เขามีความสัมพันธ์อันดีกับผู้ว่ามณฑลจงโจวนั้น ทั้งหมดก็เป็นเพียงเพราะว่าพวกเขาล้วนแต่เป็นคนบ้านเกิดเดียวกัน เขาถือว่าผู้ว่ามณฑลเป็นคนสนิท ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะหารือกับอีกฝ่ายมาโดยตลอดเพียงแต่ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงนั้น ผู้ว่ามณฑลจงโจวจะเข้าร่วมสมคบคิดกับคนที่มาเพื่อทำการสังหารหมู่ในปีนั้นไม่เพียงแต่เท่านี้ เขาเพื่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 272

    เขาไม่คิดเลยว่าอ๋องเจ็ดที่มาทำการสังหารหมู่ในปีนั้น จะสมคบคิดกันกับผู้ว่ามณฑลจงโจวส่วนอ๋องเจ็ดคนนั้น ตอนนี้ก็กลายฮ่องเต้ของแคว้นไท่ยวนแล้วในใจของเจ้าเมืองตานเต้นรัวเขาไม่รู้ว่าควรจะเคาะประตูดีหรือไม่ แล้วนำเรื่องที่เซิ่งฟางกลับมาแล้ว แถมยังกลายเป็นนายอำเภอบอกกับท่านผู้ว่าการมณฑลจงโจวไปคนในห้องโถงทั้งสองคน ไม่รู้เลยว่ายังมีคนแอบฟังอยู่ด้านนอกอีกคนผู้ว่ามณฑลจงโจวให้ทหารองค์รักษ์ออกไป ก็เพราะว่าไม่อยากให้คนนอกมาได้ยินเขาพูดคุยอยู่กับแขกนอกจากนี้แล้วแขกลึกลับคนนั้น บางทีอาจจะอาศัยสถานะที่สูงส่งกว่าตน ไม่ได้เห็นคนในที่ว่าการอยู่ในสายตาเลยหากว่ามีคนกล้าลอบฟัง เขาจะต้องตัดลิ้นของอีกฝ่ายทิ้งเป็นแน่ รวมทั้งตัดแขนขา ให้คนที่แอบฟังนั้น ทั้งชาตินี้เขียนไม่ได้พูดไม่ได้ไปตลอด!ไม่นานนัก เสียงของท่านผู้ว่ามณฑลจงโจวก็ดังขึ้นอีกครั้ง “เจ้าเมืองเซิ่งฟางในปีนั้น ช่างไม่รู้ทันสถานการณ์เลย”“หากว่าเขานำของสมบัติของเมืองอินเป่ยมอบให้แล้ว เขาเองก็คงไม่ถึงขั้นถูกจับเช่นนี้”เมื่อผู้ว่ามณฑลจงโจวพูดมาถึงตรงนี้ ก็เย้ยหยันออกมาอย่างน่าหวาดกลัว คนลึกลับผู้นั้นก็พูดเย้ยหยันขึ้นมา “ยังเป็นตาเฒ่าเช

DMCA.com Protection Status