เจี่ยนอันอันเห็นดังนั้น ก็รู้ตัวว่ารบกวนพวกเขานางหัวเราะแล้วรีบเอ่ยขึ้น “พวกเจ้าคุยกันต่อเถอะ ข้าไม่ได้ยินอะไรเลย เดี๋ยวข้าจะกลับไปนอนต่ออีกหน่อย”เจี่ยนอันอันพูดจบ ก็รีบถอยหลังกลับไปทันทีนางปิดประตู แล้วกลับไปที่เตียงพวกโจรภูเขาที่อยู่ในห้องโถง เห็นเจี่ยนอันอันกลับไปในห้องแล้วพวกเขาจึงเริ่มหารือกันอีกครั้งเจี่ยนอันอันเดินมาข้างเตียง ไม่ได้สนใจสายตาฉู่จวินสิงที่กำลังจ้องมองตัวเองอยู่นางเข้าไปคว้าข้อมือของเขา แล้วตรวจชีพจรให้ฉู่จวินสิงอีกครั้งน้ำยาแก้อักเสบและยาสงบเลือดลมเมื่อคืน เริ่มเห็นผลขึ้นมาบ้างแล้วเลือดลมในร่างของฉู่จวินสิงได้สงบลงทั้งหมดร่างกายของเขากำลังฟื้นตัวไปในทางที่ดีขึ้นทั้งสองคนภายในห้องต่างเงียบงันมีเพียงเสียงโหวกเหวกโวยวายด้านนอกที่ดังขึ้นไม่หยุดเจี่ยนอันอันได้ยินโจรภูเขาคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “หัวหน้าใหญ่ ท่านจะติดตามพวกเขาไปเมืองอินเป่ยจริงหรือ? แล้วพวกข้าจะทำอย่างไร พวกข้าไม่มีหัวหน้าใหญ่ไม่ได้หรอกนะ”เสียงของเซิ่งฟางดังลอดเข้ามา “เรื่องนี้ข้าตัดสินใจแล้ว พวกเจ้าไม่ต้องโต้แย้งให้มากความ”“แต่ว่าหัวหน้าใหญ่...” เสียงของโจรภูเขาอีกคนดังขึ้น เขาพูด
เจี่ยนอันอันรีบกระโดดลงจากเตียงแล้ววิ่งไปเปิดประตูเห็นเพียงเหวินอิงยืนอยู่หน้าประตู ขอบตาของนางแดงก่ำ บนใบหน้ายังมีคราบน้ำตาที่ไม่ทันเช็ดเหวินอิงเอ่ยขึ้น “ออกมากินข้าวเถอะ”เมื่อพูดจบ เหวินอิงก็หันหลังจากไปทันทีเจี่ยนอันอันไม่ได้เอ่ยถาม นางรีบเดินไปข้างเตียงนำแขนข้างหนึ่งของฉู่จวินสิงมาพาดไว้บนบ่าตัวเองเจี่ยนอันอันประคองฉู่จวินสิงให้ลงจากเตียงฉู่จวินสิงที่รูปร่างสูงโปร่ง ทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดลงไปบนตัวเจี่ยนอันอัน เมื่อสัมผัสถึงความอ่อนนุ่มจากร่างกายเจี่ยนอันอัน หัวใจของฉู่จวินสิงเต้นช้าลงอย่างไม่มีสาเหตุเจี่ยนอันอันไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของฉู่จวินสิง นางประคองเขาให้เดินไปที่ประตูทีละก้าวเจี่ยนอันอันเดินหน้าไปอย่างยากเย็น นางเอ่ยกับฉู่จวินสิง“เมื่อคืนข้าเติมน้ำยาแก้อักเสบให้ท่านไปแล้ว ร่างกายของท่านน่าจะดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน ตอนนี้ท่านต้องลงมาเดินบ้าง เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวโดยเร็ว”ฉู่จวินสิงตอบรับเสียงค่อย ปล่อยให้เจี่ยนอันอันประคองเขาต่อไปขณะที่เจี่ยนอันอันประคองฉู่จวินสิง รู้สึกแค่ว่าร่างกายเขาหนักมากหากไม่ใช่เพราะนางเตรียมใจไว้แต่แรก เกรงว่าตอนนี้คงถูกอี
หลังจากอาหารมื้อนี้ ทุกคนต้องเดินทางไปเมืองอินเป่ยแล้วทุกคนจึงกินกันอย่างรวดเร็วเมื่อรอให้ทุกคนกินเสร็จ หานซื่อที่เป็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ก็หันไปเอ่ยกับทุกคน “พวกเราควรออกเดินทางได้แล้ว”ทุกคนลุกขึ้นพร้อมกันแล้วออกจากห้องโถงคราวนี้เจี่ยนอันอันไม่ได้ประคองฉู่จวินสิงเพราะพวกเขายังต้องเดินทางไกล ร่างกายของฉู่จวินสิงคงรับไม่ไหวจึงมีทหารรักษาพระองค์สองนาย ใช้เปลหามฉู่จวินสิงไปตลอดการเดินทางส่วนฉู่จวินหลุนยังคงขี่หลังฉู่อันเจ๋อดังเดิมทุกคนมาถึงหน้าค่ายโจร เจี่ยนอันอันเห็นรถม้าและเสบียงที่นางซื้อเมื่อคืนจอดอยู่หน้าประตูโจรภูเขาสามร้อยกว่าคนที่รู้ว่าเซิ่งฟางจะจากค่ายไป ล้วนล้อมรอบเขาเอาไว้ ไม่ยอมให้เขาจากไปส่วนเหวินอิงหันหลังแล้วแอบหลั่งน้ำตาเซิ่งฟางเห็นดังนั้นจึงดึงเหวินอิงเข้าไปกอด แล้วเช็ดน้ำตาให้นางอย่างสงสาร“เอาล่ะ อย่าร้องไห้เลย ใช่ว่าข้าจะไปแล้วไม่กลับสักหน่อย”“อีกอย่าง เมืองอินเป่ยไม่ได้ไกลจากที่นี่มากนัก แค่ข้ามภูเขาลูกนี้ไปพวกเราก็ได้พบกันแล้ว”“รอให้ข้าไปถึงเมืองอินเป่ย แล้วจัดการทุกอย่างเสร็จสรรพ ข้าจะกลับมาหาเจ้า”เมื่อถึงเวลาที่ต้องจากกันจริง ในใจของ
เจี่ยนอันอันหันไปถามเซิ่งฟาง “หัวหน้าใหญ่ หากท่านจากไป ผู้คนในค่ายไม่แตกแยกกันหมดหรือ?”เซิ่งฟางเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “เรื่องนี้ไม่เป็นไร มีหัวหน้ารองกับผู้อาวุโสทั้งแปดอยู่ คนพวกนั้นจะเชื่อฟังเป็นอย่างดี”เจี่ยนอันอันนึกไม่ถึงว่าภายในค่ายโจรแห่งนี้ นอกจากเซิ่งฟางกับเหวินอิงที่เป็นหัวหน้าทั้งสองคนแล้ว ยังมีผู้อาวุโสอีกแปดคนด้วยดูท่าคนทั้งแปดที่พูดคุยกับพวกเขาในห้องโถง ก็คือผู้อาวุโสแปดคนนั้นเมื่อมีเซิ่งฟางนำทาง การเดินขึ้นเขาของทุกคนจึงราบรื่นขึ้นมากในไม่ช้าพวกเขาก็ขึ้นไปถึงยอดเขาหานซื่อถามเจี่ยนอันอัน “คุณหนูใหญ่เจี่ยน พวกเราจะพักกันที่นี่สักครู่หรือไม่?”เจี่ยนอันอันหันมองคนอื่นๆ ในครอบครัว ทุกคนดูเหน็ดเหนื่อยกันมากนางพยักหน้า “พักกันสักครู่เถอะ”หานซื่อจึงให้ทุกคนพักผ่อนทันทีเซิ่งฟางนึกไม่ถึงว่าหานซื่อที่เป็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ จะเชื่อฟังเจี่ยนอันอันขนาดนี้เขานึกถึงเรื่องที่หานซื่อเคยบอก เจี่ยนอันอันเป็นคนช่วยชีวิตหานซื่อเอาไว้เรื่องนี้ทำให้รู้ว่าหานซื่อเป็นคนที่สำนึกในบุญคุญของผู้อื่นหากโน้มน้าวให้หานซื่ออยู่ใต้บังคับบัญชา ภายหน้าเขาต้องจงรักภักดิ์ดีต่อเจี่ยนอ
เจี่ยนอันอันตัดสินใจวางภารกิจของห้วงมิติเอาไว้ก่อนเรื่องธัญพืชห้าชนิดกับน้ำพุวิญญาณ อย่างไรก็ไว้ค่อยว่ากันเถอะเจี่ยนอันอันลุกยืนขึ้น ตรงไปอยู่ข้างกายหานซื่อ ก่อนเอ่ยกับเขาเบาๆ “เมื่อครู่ข้าเห็นนิมิตอีกแล้ว ตอนกลางวันที่หน้าประตูเมืองอินเป่ยจะมีคนกลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้น พวกเขาล้วนเป็นคนที่ฮ่องเต้ส่งมาลอบสังหารคนทั้งสกุลของฉู่จวินสิง พวกเจ้าเฝ้าระวังไว้หน่อยเถิด” หานซื่อเพียงฟังจบ สีหน้าพลันก็พลันเคร่งขรึมขึ้นมา เขารีบนำคำเหล่านี้ บอกต่อไปยังทหารรักษาพระองค์พวกนั้นเจี่ยนอันอันตรงไปหาฉู่จวินสิงกับฉู่อันเจ๋อ นำเรื่องนิมิตที่ตนเห็นบอกแก่คนทั้งสอง ทั้งสองคนต่างเชื่อในความสามารถเห็นนิมิตของเจี่ยนอันอันอยู่นานแล้ว ใบหน้าของฉู่จวินหลุนก็ฉายแววเคร่งเครียดออกมาเช่นกัน ฉู่อันเจ๋อโกรธจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ฮ่องเต้สุนัขพรรค์นี้เหตุใดจึงกัดพวกเขาไม่ปล่อยเสียที หานซื่อเห็นทุกคนต่างสงบจิตสงบใจลงได้บ้างแล้ว จึงได้ลุกยืนขึ้น แจ้งกำหนดการลงเขาเนื่องด้วยภูเขาลูกนี้ค่อนข้างสูงชัน เส้นทางลงเขาจึงลำบากตามไปด้วยคนทั้งกลุ่มเดินกันอยู่หนึ่งชั่วยามกว่า จึงลงจากเขาได้สำเร็จ ทหารรักษาพระอ
นายทหารนามว่าเฉินหย่งเหนียนผู้นี้ ปีนั้นยังเป็นลูกสมุนของเซิ่งฟาง ได้รับความช่วยเหลือและชี้แนะจากเซิ่งฟางไปก็ไม่น้อย ทว่านึกไม่ถึงว่าหลังเกิดเหตุสังหารหมู่ จะทำให้เซิ่งฟางกลายมาเป็นนักโทษหากไม่ใช่เพราะคนของเยียนอ๋องเข้าช่วยจนเขาลี้รอดมาได้เกรงว่าเขาในตอนนี้คงกลายเป็นวิญญาณไปนานแล้ว แต่สิ่งที่เซิ่งฟางคิดไม่ถึงก็คือ ในตอนนี้เขากลับมาแล้ว ทว่าเฉินหย่งเหนียนกลับไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตาอีกต่อไปเซิ่งฟางกุมกระบี่ในมือไว้แน่น ชี้ไปยังนายทหารบนหอประตูเมืองพลางพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว “เฉินหย่งเหนียน เจ้าตั้งตารอเถอะ รอข้าเข้าไปยังเมืองอินเป่ยได้เมื่อไหร่ เจ้าศพไม่สวยแน่”เฉินหย่งเหนียนหัวเราะอย่างเย้ยหยัน ไม่ได้เห็นเซิ่งฟางในสายตาสักนิด เจี่ยนอันอันปราดมองเฉินหย่งเหนียน ในใจก็เกิดแผนการณ์ขึ้นมา เวลานี้เอง หนึ่งในมือสังหารก็ได้มาถึงด้านหลังของฉู่จวินสิงแล้ว ปลายดาบกำลังจะแทงเข้าที่ร่างของฉู่จวินสิง ฉู่จวินสิงรับรู้ได้ถึงเจตนาฆ่า จึงรีบเบี่ยงตัวหลบไปอีกทาง ดาบเล่มนั้นจึงแทงเข้าที่พื้นแทนมือสังหารเห็นว่าฉู่จวินสิงบาดเจ็บสาหัส ไม่อยู่ในสภาพจะเอาคืนได้ ก็ยิ่งกำเริบเสิบส
หานซื่อไม่ได้พูดสิ่งใด เพียงพยักหน้าให้กับฉู่จวินสิงเจี่ยนอันอันยังไม่ค่อยเข้าใจนัก ว่าเหตุใดฉู่จวินจึงสิงต้องไว้ชีวิตเขาคนนั้น?ขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังสงสัย นางก็ได้ยินเซิ่งฟางร้องเสียงหลง “เขา...เขาคือคนที่ช่วยข้าไว้เมื่อตอนนั้นไม่ใช่เรอะ!”เจี่ยนอันอันมองไปยังเซิ่งฟาง ก็พบว่าใบหน้าของเขาค่อยๆ ฉายแววประหลาดใจ แม้เจี่ยนอันอันจะไม่รู้ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรแน่ แต่นางก็พอจะรู้สึกได้รางๆ ว่าคนผู้นี้ดูท่าจะเป็นประโยชน์กับพวกเขา ไม่นานคนกลุ่มนั้นก็บาดเจ็บล้มตายกันระเนระนาด เหลือเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังดันทุรังต่อต้าน หานซื่อและทหารรักษาพระองค์คนอื่นๆ ล้วนไม่ได้โจมตีคนใบหน้ามีแผลเป็นคนนั้น แม้พวกเขาจะมีข้อสงสัยในใจอยู่บ้าง แต่ก็ยังปฏิบัติตามคำสั่งของฉู่จวินสิง ไม่นานมือสังหารที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่คนต่างก็ถูกเหล่าทหารรักษาพระองค์ฆ่าตาย ส่วนที่ถูกแทงจนบาดเจ็บ ก็นับว่าสูญเสียความสามารถในการสู้ไปแล้วพวกเขานอนกองอยู่กับพื้น แววตาโหดเหี้ยมมองมายังพวกของฉู่จวินสิง เหล่าทหารรักษาพระองค์ไม่ได้ให้พวกเขาได้มีลมหายใจอยู่ต่อ ต่างยกกระบี่ดาบเดียวจ้วงแทงคนทั้งหมดบัดนี้เหลื
เซิ่งฟางได้ยินประโยคนี้ก็โกรธจัด ยกกระบี่ในมือขึ้นหมายแทงเข้าใส่เฉินหย่งเหนียน ทหารหน้าประตูเมืองดูสถานการณ์แล้ว ต่างรีบยกเอาอาวุธในมือขึ้นคุ้มกันข้างหน้าของเฉินหย่งเหนียน “หยุดอยู่ตรงนั้น หากเจ้ากล้าเข้ามาอีกก้าว ก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!” เซิ่งฟางโกรธจนทั้งร่างสั่นเทา คนที่ตอนนั้นเขาเคยให้ความเอ็นดู บัดนี้กลับปฏิบัติต่อเขาเช่นนี้ ขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังเขม่นใส่กัน เจี่ยนอันอันก็สาวเท้าก้าวเข้ามา นางเอ่ยกับเซิ่งฟาง “ท่านเจ้าเมืองเซิ่งไม่ต้องรีบร้อนใจไป เรื่องนี้ปล่อยให้ข้าจัดการเถิด” เซิ่งฟางมองไปยังเฉินหย่งเหนียนระคนหยามหยัน ก่อนถอยห่างออกมาเฉินหย่งเหนียนเมื่อเห็นเจี่ยนอันอันเข้ามา เขาก็กล่าวอย่างดูแคลน “แล้วเจ้าเป็นใครอีก ช่างบังอาจกล้ามาช่วยพูดแทนเขา!” ใบหน้าของเจี่ยนอันอันปรากฏความเย้ยหยันในเสี้ยวรอยยิ้ม นางไม่ได้พูดสิ่งใด ทว่ากลับนำสร้อยคอทองคำเส้นหนึ่งออกมาจากมิติ ด้านบนสลักไพลินสีฟ้าเป็นจี้ห้อยเฉินหย่งเหนียนไม่เข้าใจว่าเจี่ยนอันอันคิดจะทำสิ่งใดกันแน่ เห็นแค่นางหยิบเอาสร้อยคอเส้นหนึ่งขึ้นมากวัดแกว่งไปมาเพียงเท่านั้น เฉินหย่งเหนียนรู้สึกแต่เพียงว่าเบื
แม่นางผู้นี้เป็นคนบ้านใดกัน ไยพวกเขาไม่เคยพบมาก่อนเลย?เพราะดูท่าแล้วไม่เหมือนคนในหมู่บ้านชิงสุ่ยเลยเมื่อทุกคนนั่งประจำที่ เจี่ยนอันอันจึงแนะนำเหยียนซวงให้รู้จักทุกคนจึงได้ทราบว่าเหยียนซวงมาตามหาเจี่ยนอันอันเพื่อให้รักษาคนป่วยทุกคนก็พร้อมใจกันเอ่ยชมฝีมือวิชาแพทย์ที่ล้ำเลิศของเจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันถูกทุกคนเอ่ยชมจนหน้าแดงเรื่อเล็กน้อยฉู่จวินสิงมองเห็นท่าทางเขินอายของเจี่ยนอันอัน เขาก็เม้มปากยิ้มบาง ๆ ก่อนคีบเนื้อกระต่ายชิ้นหนึ่งใส่ลงในถ้วยของเจี่ยนอันอันเขาชอบมองเจี่ยนอันอันยามที่นางเขินอาย เพราะทุกครั้งที่นางเขิน แก้มของนางจะปรากฏสีแดงระเรื่อเจี่ยนอันอันเดิมก็มีรูปโฉมงดงามอยู่แล้ว พอมีสีแดงเรื่อบนใบหน้า ยิ่งเพิ่มความอ่อนโยนละมุนละไมให้นางหลายส่วนขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังเคี้ยวเนื้อกระต่ายในปาก ในใจกลับคิดถึงพี่ชายคนโตของนางตอนนี้พี่ชายยังพักอยู่ที่บ้านของกวนซิน แม้ว่าที่นั่นจะได้รับเสบียงอาหารที่นางส่งไปให้แต่กลับไม่มีผักหรืออาหารสดที่เพียงพอตัวนางกำลังกินเนื้อกระต่ายอยู่ที่นี่ แต่พี่ชายอาจกำลังอดอยู่อีกที่หนึ่งเมื่อคิดเช่นนั้น เจี่ยนอันอันก็ลุกพรวดขึ้นทันที“ข
เหยียนซวงเดินตรงเข้าไปแล้วฟาดหัวหานซื่อจนสลบ ก่อนจะล้วงเอาหนังสือผ่านด่านออกมา จากนั้นให้เหยียนอวี่ทำการคัดลอกมาเหยียนอวี่มีความสามารถในการเลียนแบบลายมือของผู้อื่นได้อย่างยอดเยี่ยมเขาหยิบกระดาษและพู่กันพร้อมหมึกออกมาจากห่อสัมภาระ แล้วเริ่มต้นลงมือคัดลอกเมื่อเหยียนอวี่ทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เหยียนซวงก็นำหนังสือผ่านด่านฉบับจริงกลับไปใส่คืนในอกเสื้อของหานซื่อด้วยหนังสือผ่านด่านฉบับปลอมนี้ พวกเขาสองคนจึงสามารถปลอมตัวปะปนเข้าไปในเมืองอินเป่ยได้โชคดีที่ในเวลานั้นเป็นเวลากลางคืน ทหารเฝ้ายามที่กำแพงเมืองไม่ได้สังเกตว่าหนังสือผ่านด่านฉบับนั้นเป็นของปลอมพวกเขาจึงปล่อยให้ทั้งสองคนผ่านเข้าไปในเมืองทันทีเมื่อทั้งสองคนเข้าสู่เมืองอินเป่ยแล้ว ก็ไม่กล้าหยุดพักนาน จึงรีบเดินทางต่อจนมาถึงอำเภอไถหยางในเวลานั้น สองพี่น้องเหนื่อยล้าจนขาอ่อนแรง ศีรษะมึนงง ดวงตาพร่ามัวไปหมดอีกทั้งยังไม่คุ้นเคยกับเส้นทางในเมืองอินเป่ย จึงเดินผิดเดินถูกไปเคาะประตูบ้านของจงซิ่นโดยบังเอิญโชคดีที่จงซิ่นเป็นคนมีน้ำใจ เขาช่วยเหลือสองพี่น้องเป็นอย่างมาก ทั้งยังจัดหาห้องว่างให้พวกเขาได้พักอาศัยทว่าสภาพร่างกายข
เมื่อเห็นเจี่ยนอันอันไม่พูดอะไร เหยียนซวงเกรงว่าเจี่ยนอันอันจะปฏิเสธไม่รักษาน้องชายของนางนางจึงรีบร้อนกล่าวว่า “ข้าได้ยินท่านลุงจงบอกว่า ในหมู่บ้านชิงสุ่ยนี้ มีแม่นางผู้หนึ่งชื่อเจี่ยนอันอัน”“อีกทั้งเขายังเอ่ยชมว่าเจ้ามีวิชาแพทย์อันเลิศล้ำ พี่เวินฟื้นขึ้นมาได้ก็เพราะเจ้าเป็นผู้ช่วยชีวิตเขาไว้”เมื่อได้ยินดังนี้ เจี่ยนอันอันจึงเข้าใจว่า ที่แท้ลุงจงซิ่นเป็นผู้แนะนำให้พวกเขามาหานางเหยียนซวงถือกระต่ายป่าตัวหนึ่งไว้ในมือ ซึ่งนางจับมาได้ในระหว่างเดินทางมายังหมู่บ้านชิงสุ่ยนางรู้ตัวดีว่าไม่ได้มีเงินทองติดตัว และไม่มีสิ่งใดจะใช้เป็นของขวัญในการพบหน้ายิ่งไปกว่านั้น นางกับเจี่ยนอันอันก็มิได้สนิทสนมกัน การมาหาอย่างบุ่มบ่ามเช่นนี้ ทำให้นางกลัวว่าเจี่ยนอันอันจะปฏิเสธไม่รักษาน้องชายนางในยามนี้ นางยังดีที่มีกระต่ายป่าในมือที่พอ ใช้เป็นของขวัญพบหน้าได้ขณะเอ่ยวาจา เหยียนซวงยื่นกระต่ายป่าในมือตรงไปยังเจี่ยนอันอัน“ข้าไม่มีเงินติดตัว และมิรู้ว่าจะสามารถมอบสิ่งใดให้เจ้าได้”“กระต่ายป่าตัวนี้ข้าจับมาได้ระหว่างเดินทางมา หวังเพียงว่าแม่นางเจี่ยนจะไม่รังเกียจ”“อีกทั้งอยากขอร้องให้แม่นางเจี่
เหยียนซวงเดินไปในหมู่บ้านชิงสุ่ย การปรากฏกายของนางดึงดูดสายตาของชาวบ้านหลายคนหลิวซื่อซึ่งเป็นภรรยาของอวี๋ว่านทำอาหารเสร็จแล้วจะนำไปส่งให้อวี๋ว่านทว่าเพิ่งจะเดินออกจากบ้านมาก็เห็นเหยียนซวงเดินอยู่ข้างนอกคนเดียวนางเดินเข้าไปทักทายอย่างเป็นมิตร “แม่นาง เจ้าไม่ใช่คนหมู่บ้านชิงสุ่ย ไม่ทราบว่ามาทำอะไรที่นี่?”เหยียนซวงได้ยินหลิวซื่อถามก็หันไปส่งยิ้มให้อีกฝ่าย“ข้าอยากพบคนที่ชื่อเจี่ยนอันอัน ไม่ทราบว่านางอยู่ที่หมู่บ้านชิงสุ่ยใช่หรือไม่”หลิวซื่อเห็นว่าเหยียนซวงหน้าตางดงาม ยิ้มแล้วมีลักยิ้มสองข้าง มองแล้วสวยมากนอกจากนี้อีกฝ่ายก็กำลังตามหาเจี่ยนอันอัน หลิวซื่อตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “เจ้าถามถูกคนแล้วล่ะ”“ให้ข้าพาไปก็แล้วกัน บ้านของเจี่ยนอันอันอยู่ห่างจากบ้านข้าไม่ไกล”เหยียนซวงได้ยินว่าหลิวซื่อรู้จักบ้านของเจี่ยนอันอันก็ดีใจมาก“เช่นนั้นคงต้องรบกวนแล้ว”หลิวซื่อพาเหยียนซวงเดินไปทางบ้านของเจี่ยนอันอันหลิวซื่อชมเจี่ยนอันอันตลอดทาง ชมว่านางเป็นคนจิตใจดีการมาถึงของเจี่ยนอันอันทำให้ความเป็นอยู่ของคนในหมู่บ้านชิงสุ่ยดีขึ้นมากเหยียนซวงไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่รับฟังอยู่เงียบๆไม่นาน ทั
แม่นมหลี่ได้ยินอีกฝ่ายถามถึงหมู่บ้านชิงสุ่ยก็รีบชี้ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้“แม่นาง หมู่บ้านชิงสุ่ยอยู่ทางนั้น เดินไปอีกแค่ชั่วยามเดียวก็ถึงแล้ว”แม่นางหลี่อยากรีบไปจากที่นี่ ย่อมตอบไปตามความจริงเหยียนซวงมองไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ นางหรี่ตาลงเล็กน้อยและจดจำเส้นทางไว้“ข้าถามอีกเรื่อง ที่หมู่บ้านชิงสุ่ยมีคนชื่อเจี่ยนอันอันหรือไม่?”แม่นมหลี่อดชะงักงันไม่ได้เมื่อได้ยินชื่อของเจี่ยนอันอันนางนึกไม่ถึงว่าหญิงสาวนางนี้จะถามถึงเจี่ยนอันอันดูจากท่าทีแล้ว หรือว่าจะมีความแค้นกับเจี่ยนอันอัน?เหยียนซวงเห็นแม่นมหลี่ไม่ตอบก็ออกแรงบีบข้อมือของแม่นางหลี่แรงขึ้น“ตอบมา!”แม่นมหลี่ถูกบีบข้อมืออย่างแรง เจ็บจนตัวงอ“ข้าตอบ ข้าตอบแล้ว แม่นางเบามือหน่อย สังขารของข้ารับไม่ไหวหรอกนะ”แม่นมหลี่คิดว่าคำพูดของตัวเองจะทำให้อีกฝ่ายผ่อนแรงลงคิดไม่ถึงว่าเหยียนซวงจะบีบแรงกว่าเดิมแม่นมหลี่รู้ว่าหากยังไม่พูดอีก เกรงว่าข้อมือนางคงได้ถูกบีบจนหักนางรีบตอบว่า “ที่หมู่บ้านชิงสุ่ยมีคนที่ชื่อว่าเจี่ยนอันอันอยู่ ไม่ทราบว่าแม่นางมีความแค้นอะไรกับนางหรือ?”“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องยุ่ง”เหยียนซวงไม่คิดจะบอกจ
แม่นมหลี่ว่าจบก็ข่วนหน้าเตียวเฉียงไปหลายครั้งเดิมทีเตียวเฉียงก็ต้องอดกลั้นต่อความเจ็บปวดที่ท่อนล่าง ไม่ทันได้หลบมือของแม่นมหลี่ใบหน้าของเขาถูกข่วนจนเลือดออกหลายแผลทันที“มารดามันเถอะ นี่กล้าข่วนข้างั้นรึ วันนี้ข้าจะสั่งสอนให้เจ้าได้รู้จักกับจุดจบของการทำให้ข้าโมโห!”เตียวเฉียงว่าแล้วก็จะยกเท้าถีบแม่นมหลี่แม่นมหลี่ตกใจหน้าถอดสี นางรีบไปหลบที่ต้นไม้ใหญ่ด้านหลังลูกเตะของเตียวเฉียงถีบเข้าที่ต้นไม้ใหญ่กิ่งไม้ส่ายไปมาและส่งเสียงซู่ซ่าในตอนนี้เอง มีเสียงตวาดลั่นด้วยความโมโหดังมาจากบนต้นไม้ “ผู้ใดกันที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ กล้าดีอย่างไรมาเตะต้นไม้ รบกวนการนอนของข้า”เตียวเฉียงกับแม่นมหลี่รีบมองขึ้นไปบนต้นไม้เมื่อได้ยินเสียงพบว่ามีหญิงสาวในชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อนนางหนึ่งกำลังนอนอยู่บนกิ่งก้านที่ใหญ่หนานางมองลงมาด้านล่างด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ สายตาจับจ้องไปที่หน้าของเตียวเฉียงเตียวเฉียวไม่เคยพบหญิงสาวนางนี้มาก่อน รู้ว่านางไม่ใช่คนในหมู่บ้านชิงสุ่ย“เจ้าเป็นผู้ใด เป็นสาวเป็นนางแต่มานอนทำอะไรบนต้นไม้?”เมื่อเห็นว่าหญิงสาวนางนี้หน้าตาพอใช้ได้ เตียวเฉียงพลันบังเกิดความคิดชั่วร้ายขึ้น
ดูท่าว่าก่อนที่จะถูกเนรเทศ คนตระกูลเจี่ยนน่าจะให้เงินเจี่ยนอันอันไม่น้อยเลยแต่ไม่รู้ว่าเงินพวกนี้ถูกเจี่ยนอันอันเก็บไว้ที่ใดหลายวันมานี้เขามาที่หมู่บ้านชิงสุ่ย คอยแอบดูทุกความเคลื่อนไหวของเจี่ยนอันอันและตระกูลฉู่ลำพังแค่อาหารที่กินก็เป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยแล้วหากไม่ใช่เพราะแม่นมหลี่กับเตียวเฉียงทำงานไม่ได้เรื่อง เขาก็คงไม่ต้องมาเสียเงินค่าอาหารให้สองคนนั้นอีกหนิงเจิ้นแค่นเสียงเย็น แววตาเผยประกายละโมบเขาตัดสินใจที่จะให้เตียวเฉียงลักลอบเข้าไปในห้องของเจี่ยนอันอันคืนนี้ให้เตียวเฉียงขโมยทรัพย์สินของเจี่ยนอันอันมาปลอบโยนความยากลำบากของเขาในช่วงหลายวันมานี้หนิงเจิ้นเฝ้ามองอีกสักพักแล้วจากไปเขากลับไปยังที่พักก็เห็นเตียวเฉียงนอนยกเท้าไขว่ห้างอย่างสบายๆ อยู่บนเตียงส่วนแม่นมหลี่ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ใด เตียวเฉิงเห็นหนิงเจิ้นกลับมาก็รีบลดขาลงและร้องโอดโอยว่าเจ็บช่วงล่างหนิงเจิ้นแค่นเสียงเย็นก่อนจะถีบเตียวเฉียงตกเตียง“กล้าแสร้งทำเป็นป่วยต่อหน้าข้า สงสัยจะอยากตายสินะ”หลังจากที่เตียวเฉียงร่วงตกพื้นก็ทำให้แผลที่ร่างกายท่อนล่างฉีกขาดความเจ็บปวดแสนสาหัสถาโถมเข้ามา เขาเจ็บจนตัว
กวนซินยังคงมองทุกคนด้วยสีหน้ารู้สึกผิดนางไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี ได้แต่ยืนทำตัวไม่ถูกอยู่ตรงนั้นฟางอิ๋งเห็นกวนซินมีสีหน้ารู้สึกผิดก็ลุกขึ้นพูดกับอีกฝ่าย “น้องหญิงอย่าได้ตำหนิตัวเองอีกเลย”“ตอนนี้จื่อซีไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ทั้งยังทำให้พวกข้าได้รู้ด้วยว่าเขาต้านทานพิษได้”“ถือได้ว่าเป็นความโชคดีในความโชคร้าย”โชคดีที่คนตระกูลฉู่ไม่คิดจะเอาเรื่องนางและไม่คิดจะโทษฉู่ตั๋วตั่วภายในใจกวนซินรู้สึกอบอุ่นโดยพลันนางไม่รู้ว่าควรขอบคุณในความใจกว้างของคนตระกูลฉู่อย่างไรดีเนื่องจากเจี่ยนอันอันจะสร้างบ้านหลังใหม่ขึ้นในหมู่บ้านชิงสุ่ยเรื่องนี้จึงทำให้ชาวบ้านส่วนหนึ่งไม่พอใจเดิมทีแล้วภายในหมู่บ้านเงียบสงบ แต่แล้วตอนนี้กลับมีคนนอกย้ายเข้ามาอยู่อย่างไม่ขาดสายเรื่องนี้พวกเขาไม่ได้ถือสาอะไรแต่หากจะสร้างบ้านใหม่แล้วล่ะก็ พวกเขาไม่พอใจถึงอย่างไรที่นี่ก็เป็นที่ดินของพวกเขา เพียงแค่คนนอกบอกว่าจะสร้างบ้านก็จะปล่อยให้สร้างตามใจชอบได้อย่างไรหากเป็นแบบนั้น พวกเขาเองก็อยากสร้างบ้านอีกหลายหลังให้กับตัวเองไม่ต้องเอาแต่อยู่ในบ้านหลังเล็กคับแคบและอยู่มาเป็นสิบๆ ปี ข่าวนี้ลอยไปถึงหูท่านปู่เฉินซึ่
ทว่าฉู่จื่อซีกลับสามารถลุกขึ้นนั่ง เรื่องนี้อยู่เหนือความเข้าใจของทุกคนเจี่ยนอันอันรีบจับชีพจรให้ฉู่จื่อซีอีกครั้งดูจากชีพจรของเขา พิษสองชนิดที่อยู่ในตัวเขาได้สงบลงแล้วสามารถพูดได้ว่าฉู่จื่อซีใช้ความแข็งแกร่งของตัวเองเอาชนะพิษทั้งสองชนิด ฉู่ตั๋วตั๋วเห็นฉู่จื่อซีฟื้นแล้วก็หยุดร้องไห้ในที่สุดนางคว้ามือน้อยๆ ของฉู่จื่อซีพลางพูดด้วยเสียงเด็กน้อย “พี่จื่อซี ท่านปลอดภัยก็ดีแล้ว เมื่อครู่ข้าตกใจแทบแย่”ฉู่จื่อซีส่งยิ้มให้ฉู่ตั๋วตั่ว “ข้าสบายดี ยาพวกนั้นทำอะไรข้าไม่ได้หรอก”ฉู่ตั๋วตั่วยิ้มด้วยสีหน้าไร้เดียงสาทั้งสองคนยิ้มอย่างไร้เดียงสา ทว่าผู้ใหญ่ที่อยู่รอบข้างกลับเป็นกังวลฮูหยินใหญ่รีบซักถาม “อันอัน จื่อซีไม่เป็นอะไรแล้วจริงหรือ?”เจี่ยนอันอันลุกขึ้น นางมองฉู่จื่อซีอีกครั้งจากนั้นพยักหน้าเบาๆ “จื่อซีไม่เป็นอะไรแล้วเจ้าค่ะ แต่ว่า…”“แต่ว่าอะไร?” ทุกคนถามพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายเจี่ยนอันอันไม่ได้พูดต่อนางเองก็สงสัยเช่นกัน ตามหลักแล้ว หากวิธีต้มยาพิษของฉู่ตั๋วตั่วถูกต้องหลังจากที่ฉู่จื่อซีดื่มเข้าไปแล้ว พิษก็จะออกฤทธิ์ทันทีและทำให้เป็นอัมพาตทั้งร่างทว่าเมื่อดูอาการของ