Share

บทที่ 85

Penulis: ซินต้งหรูสุ่ย
เจี่ยนอันอันหันไปถามเซิ่งฟาง “หัวหน้าใหญ่ หากท่านจากไป ผู้คนในค่ายไม่แตกแยกกันหมดหรือ?”

เซิ่งฟางเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “เรื่องนี้ไม่เป็นไร มีหัวหน้ารองกับผู้อาวุโสทั้งแปดอยู่ คนพวกนั้นจะเชื่อฟังเป็นอย่างดี”

เจี่ยนอันอันนึกไม่ถึงว่าภายในค่ายโจรแห่งนี้ นอกจากเซิ่งฟางกับเหวินอิงที่เป็นหัวหน้าทั้งสองคนแล้ว ยังมีผู้อาวุโสอีกแปดคนด้วย

ดูท่าคนทั้งแปดที่พูดคุยกับพวกเขาในห้องโถง ก็คือผู้อาวุโสแปดคนนั้น

เมื่อมีเซิ่งฟางนำทาง การเดินขึ้นเขาของทุกคนจึงราบรื่นขึ้นมาก

ในไม่ช้าพวกเขาก็ขึ้นไปถึงยอดเขา

หานซื่อถามเจี่ยนอันอัน “คุณหนูใหญ่เจี่ยน พวกเราจะพักกันที่นี่สักครู่หรือไม่?”

เจี่ยนอันอันหันมองคนอื่นๆ ในครอบครัว ทุกคนดูเหน็ดเหนื่อยกันมาก

นางพยักหน้า “พักกันสักครู่เถอะ”

หานซื่อจึงให้ทุกคนพักผ่อนทันที

เซิ่งฟางนึกไม่ถึงว่าหานซื่อที่เป็นหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ จะเชื่อฟังเจี่ยนอันอันขนาดนี้

เขานึกถึงเรื่องที่หานซื่อเคยบอก เจี่ยนอันอันเป็นคนช่วยชีวิตหานซื่อเอาไว้

เรื่องนี้ทำให้รู้ว่าหานซื่อเป็นคนที่สำนึกในบุญคุญของผู้อื่น

หากโน้มน้าวให้หานซื่ออยู่ใต้บังคับบัญชา ภายหน้าเขาต้องจงรักภักดิ์ดีต่อเจี่ยนอ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 86

    เจี่ยนอันอันตัดสินใจวางภารกิจของห้วงมิติเอาไว้ก่อนเรื่องธัญพืชห้าชนิดกับน้ำพุวิญญาณ อย่างไรก็ไว้ค่อยว่ากันเถอะเจี่ยนอันอันลุกยืนขึ้น ตรงไปอยู่ข้างกายหานซื่อ ก่อนเอ่ยกับเขาเบาๆ “เมื่อครู่ข้าเห็นนิมิตอีกแล้ว ตอนกลางวันที่หน้าประตูเมืองอินเป่ยจะมีคนกลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้น พวกเขาล้วนเป็นคนที่ฮ่องเต้ส่งมาลอบสังหารคนทั้งสกุลของฉู่จวินสิง พวกเจ้าเฝ้าระวังไว้หน่อยเถิด” หานซื่อเพียงฟังจบ สีหน้าพลันก็พลันเคร่งขรึมขึ้นมา เขารีบนำคำเหล่านี้ บอกต่อไปยังทหารรักษาพระองค์พวกนั้นเจี่ยนอันอันตรงไปหาฉู่จวินสิงกับฉู่อันเจ๋อ นำเรื่องนิมิตที่ตนเห็นบอกแก่คนทั้งสอง ทั้งสองคนต่างเชื่อในความสามารถเห็นนิมิตของเจี่ยนอันอันอยู่นานแล้ว ใบหน้าของฉู่จวินหลุนก็ฉายแววเคร่งเครียดออกมาเช่นกัน ฉู่อันเจ๋อโกรธจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ฮ่องเต้สุนัขพรรค์นี้เหตุใดจึงกัดพวกเขาไม่ปล่อยเสียที หานซื่อเห็นทุกคนต่างสงบจิตสงบใจลงได้บ้างแล้ว จึงได้ลุกยืนขึ้น แจ้งกำหนดการลงเขาเนื่องด้วยภูเขาลูกนี้ค่อนข้างสูงชัน เส้นทางลงเขาจึงลำบากตามไปด้วยคนทั้งกลุ่มเดินกันอยู่หนึ่งชั่วยามกว่า จึงลงจากเขาได้สำเร็จ ทหารรักษาพระอ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 87

    นายทหารนามว่าเฉินหย่งเหนียนผู้นี้ ปีนั้นยังเป็นลูกสมุนของเซิ่งฟาง ได้รับความช่วยเหลือและชี้แนะจากเซิ่งฟางไปก็ไม่น้อย ทว่านึกไม่ถึงว่าหลังเกิดเหตุสังหารหมู่ จะทำให้เซิ่งฟางกลายมาเป็นนักโทษหากไม่ใช่เพราะคนของเยียนอ๋องเข้าช่วยจนเขาลี้รอดมาได้เกรงว่าเขาในตอนนี้คงกลายเป็นวิญญาณไปนานแล้ว แต่สิ่งที่เซิ่งฟางคิดไม่ถึงก็คือ ในตอนนี้เขากลับมาแล้ว ทว่าเฉินหย่งเหนียนกลับไม่ได้เห็นเขาอยู่ในสายตาอีกต่อไปเซิ่งฟางกุมกระบี่ในมือไว้แน่น ชี้ไปยังนายทหารบนหอประตูเมืองพลางพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว “เฉินหย่งเหนียน เจ้าตั้งตารอเถอะ รอข้าเข้าไปยังเมืองอินเป่ยได้เมื่อไหร่ เจ้าศพไม่สวยแน่”เฉินหย่งเหนียนหัวเราะอย่างเย้ยหยัน ไม่ได้เห็นเซิ่งฟางในสายตาสักนิด เจี่ยนอันอันปราดมองเฉินหย่งเหนียน ในใจก็เกิดแผนการณ์ขึ้นมา เวลานี้เอง หนึ่งในมือสังหารก็ได้มาถึงด้านหลังของฉู่จวินสิงแล้ว ปลายดาบกำลังจะแทงเข้าที่ร่างของฉู่จวินสิง ฉู่จวินสิงรับรู้ได้ถึงเจตนาฆ่า จึงรีบเบี่ยงตัวหลบไปอีกทาง ดาบเล่มนั้นจึงแทงเข้าที่พื้นแทนมือสังหารเห็นว่าฉู่จวินสิงบาดเจ็บสาหัส ไม่อยู่ในสภาพจะเอาคืนได้ ก็ยิ่งกำเริบเสิบส

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 88

    หานซื่อไม่ได้พูดสิ่งใด เพียงพยักหน้าให้กับฉู่จวินสิงเจี่ยนอันอันยังไม่ค่อยเข้าใจนัก ว่าเหตุใดฉู่จวินจึงสิงต้องไว้ชีวิตเขาคนนั้น?ขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังสงสัย นางก็ได้ยินเซิ่งฟางร้องเสียงหลง “เขา...เขาคือคนที่ช่วยข้าไว้เมื่อตอนนั้นไม่ใช่เรอะ!”เจี่ยนอันอันมองไปยังเซิ่งฟาง ก็พบว่าใบหน้าของเขาค่อยๆ ฉายแววประหลาดใจ แม้เจี่ยนอันอันจะไม่รู้ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรแน่ แต่นางก็พอจะรู้สึกได้รางๆ ว่าคนผู้นี้ดูท่าจะเป็นประโยชน์กับพวกเขา ไม่นานคนกลุ่มนั้นก็บาดเจ็บล้มตายกันระเนระนาด เหลือเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ยังดันทุรังต่อต้าน หานซื่อและทหารรักษาพระองค์คนอื่นๆ ล้วนไม่ได้โจมตีคนใบหน้ามีแผลเป็นคนนั้น แม้พวกเขาจะมีข้อสงสัยในใจอยู่บ้าง แต่ก็ยังปฏิบัติตามคำสั่งของฉู่จวินสิง ไม่นานมือสังหารที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่คนต่างก็ถูกเหล่าทหารรักษาพระองค์ฆ่าตาย ส่วนที่ถูกแทงจนบาดเจ็บ ก็นับว่าสูญเสียความสามารถในการสู้ไปแล้วพวกเขานอนกองอยู่กับพื้น แววตาโหดเหี้ยมมองมายังพวกของฉู่จวินสิง เหล่าทหารรักษาพระองค์ไม่ได้ให้พวกเขาได้มีลมหายใจอยู่ต่อ ต่างยกกระบี่ดาบเดียวจ้วงแทงคนทั้งหมดบัดนี้เหลื

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 89

    เซิ่งฟางได้ยินประโยคนี้ก็โกรธจัด ยกกระบี่ในมือขึ้นหมายแทงเข้าใส่เฉินหย่งเหนียน ทหารหน้าประตูเมืองดูสถานการณ์แล้ว ต่างรีบยกเอาอาวุธในมือขึ้นคุ้มกันข้างหน้าของเฉินหย่งเหนียน “หยุดอยู่ตรงนั้น หากเจ้ากล้าเข้ามาอีกก้าว ก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!” เซิ่งฟางโกรธจนทั้งร่างสั่นเทา คนที่ตอนนั้นเขาเคยให้ความเอ็นดู บัดนี้กลับปฏิบัติต่อเขาเช่นนี้ ขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังเขม่นใส่กัน เจี่ยนอันอันก็สาวเท้าก้าวเข้ามา นางเอ่ยกับเซิ่งฟาง “ท่านเจ้าเมืองเซิ่งไม่ต้องรีบร้อนใจไป เรื่องนี้ปล่อยให้ข้าจัดการเถิด” เซิ่งฟางมองไปยังเฉินหย่งเหนียนระคนหยามหยัน ก่อนถอยห่างออกมาเฉินหย่งเหนียนเมื่อเห็นเจี่ยนอันอันเข้ามา เขาก็กล่าวอย่างดูแคลน “แล้วเจ้าเป็นใครอีก ช่างบังอาจกล้ามาช่วยพูดแทนเขา!” ใบหน้าของเจี่ยนอันอันปรากฏความเย้ยหยันในเสี้ยวรอยยิ้ม นางไม่ได้พูดสิ่งใด ทว่ากลับนำสร้อยคอทองคำเส้นหนึ่งออกมาจากมิติ ด้านบนสลักไพลินสีฟ้าเป็นจี้ห้อยเฉินหย่งเหนียนไม่เข้าใจว่าเจี่ยนอันอันคิดจะทำสิ่งใดกันแน่ เห็นแค่นางหยิบเอาสร้อยคอเส้นหนึ่งขึ้นมากวัดแกว่งไปมาเพียงเท่านั้น เฉินหย่งเหนียนรู้สึกแต่เพียงว่าเบื

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 90

    “ยารักษาบาดแผลหลายขวดนี้ พวกเจ้าเก็บไว้ใช้ระหว่างทางเถิด” เจี่ยนอันอันหยิบเอายารักษาบาดแผลจำนวนหนึ่งออกมาจากมิติหานซื่อรับยารักษาบาดแผลมา ประสานมือคารวะเจี่ยนอันอัน “ขอบคุณคุณหนูใหญ่เจี่ยนยิ่งนัก”ทหารรักษาพระองค์หลายนายที่ได้รับบาดเจ็บ ต่างก็พากันประสานมือคารวะ แสดงคำขอบคุณอย่างล้นหลามรอจนทหารรักษาพระองค์เหล่านั้นจากไปแล้ว เจี่ยนอันอันจึงเดินมาถึงหน้ารถม้า ในเมื่อหานซื่อไม่ต้องการนำเสบียงอาหารพวกนี้ไปด้วย นางก็ยินดีนำรถม้ากลับเข้าเมืองอินเป่ยเหล่าครอบครัวของฉู่จวินสิงที่ยืนออกันอยู่ในเมือง เมื่อเห็นเจี่ยนอันอันเดินเข้ามา ก็มีบ่าวรับใช้เข้ารับช่วงต่อภาระกุมบังเหียนรถม้าฮูหยินใหญ่ตรงเข้ามาหา เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเป็นกังวล “อันอัน นายทหารพวกนั้นจะทำอย่างไรดีเล่า? หากพวกเขารู้ว่าพวกเราให้ท่านเจ้าเมืองเซิ่งเข้ามาด้วย จะต้องคอยตามรังควานพวกเราเป็นแน่ เจ้าว่าเรื่องนี้ควรทำอย่างไรดี?” เจี่ยนอันอันตบเบาๆ บนแขนของฮูหยินใหญ่ หัวเราะน้อยๆ พลางตอบ “ฮูหยินใหญ่วางใจเถิดเจ้าค่ะ ข้ามีวิธีของข้า” เจี่ยนอันอันจัดแจงให้ทุกคนรออยู่ในเมืองไปก่อน ส่วนนางกลับมาหาพลทหารพวกนั้นอีกครั้ง ก่อนเอ่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 91

    ชายชราผู้นั้นเอื้อมมือมาดึงแขนเสื้อของเฉินหย่งเหนียนเมื่อเห็นว่าเขาไม่พูดไม่จา“หย่งเหนียน เจ้าเป็นอะไรไป พูดอะไรบ้างสิ!”ครั้นเห็นว่าเฉินหย่งเหนียนยังคงปิดปากเงียบดังเดิม ชายชราก็เริ่มร้อนใจขึ้นมาเฉินหย่งเหนียนเป็นคนที่เขาเห็นมาตั้งแต่เด็ก ในฐานะคนหมู่บ้านชิงสุ่ย เขาสุภาพกับชาวบ้านที่นี่มากแต่หลังจากกลายเป็นทหารของเมืองอินเป่ย เขาก็ไม่ค่อยกลับมาที่หมู่บ้านชิงสุ่ยอีกวันนี้กลับมาก็ไม่พูดไม่จาสักคำ ซ้ำยังพาคนมาเยอะขนาดนี้นี่เป็นครั้งแรกที่ชายชราเห็นเฉินหย่งเหนียนเป็นแบบนี้เจี่ยนอันอันเห็นชายชราเริ่มร้อนใจก็ช่วยสะกิดเฉินหย่งเหนียน“บอกไปสิ บอกไปว่าพวกข้าเป็นผู้ใด”หลังจากถูกเจี่ยนอันอันสะกิด เฉินหย่งเหนียนราวกับได้รับคำสั่งอย่างไรอย่างนั้น เขาเอ่ยว่า“ท่านปู่เฉิน คนพวกนี้คือเยียนอ๋องและครอบครัวของเขา พวกเขาถูกเนรเทศมายังเมืองอินเป่ยตามคำสั่งของฮ่องเต้ ข้าจำได้ว่าหมู่บ้านชิงสุ่ยของเรามีเรือนที่ไม่มีผู้อาศัยอยู่ ด้วยเหตุนี้จึงพาพวกเขามา”ครั้นได้ยินว่าคนเหล่านี้ถูกเนรเทศมาที่นี่ตามคำสั่งของฮ่องเต้ชายชราก็ใช้ดวงตาขาวขุ่นของตัวเองจ้องมองไปที่ครอบครัวของฉู่จวินสิงเวลานี้ชาว

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 92

    หลังจากที่ท่านปู่เฉินใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ตัดสินใจว่าจะจัดหาที่พักให้พวกเขาก่อนค่อยว่ากัน“ถ้าเช่นนั้น พวกเจ้าก็ตามข้ามาเถิด”ท่านปู่เฉินพูดแล้วก็พาครอบครัวของฉู่จวินสิงเดินไปทางบ้านที่ไม่มีคนอยู่หลังนั้นทว่าคำพูดของท่านปู่เฉินกลับได้รับการคัดค้านอย่างรุนแรงจากชาวบ้านคนอื่นๆหญิงสาวผิวซีดตัวผอมนางนั้นวิ่งมาบังหน้าท่านปู่เฉินและขวางทางทุกคนไว้“ท่านปู่เฉิน ท่านจะให้พวกเขาอยู่ที่หมู่บ้านชิงสุ่ยของเราไม่ได้”บุรุษที่จำเซิ่งฟางได้ผู้นั้นก็ร้องคัดค้านเช่นกัน“ใช่แล้วท่านปู่เฉิน พวกเขาเป็นผู้ใดมาจากไหนก็ไม่รู้ จะให้อยู่ที่นี่ไม่ได้”ชาวบ้านคนอื่นร้องเสียงดัง ต้องการขับไล่ครอบครัวของฉู่จวินสิงออกจากหมู่บ้านท่านปู่เฉินลำบากใจเช่นกันด้านหนึ่งก็เป็นผู้ถูกเนรเทศโดยราชโองการของฮ่องเต้ อีกด้านก็เป็นชาวบ้านในหมู่บ้านในฐานะหัวหน้าหมู่บ้าน เขาไม่อยากล่วงเกินฝ่ายใดทั้งนั้นในตอนนี้เอง เฉินหย่งเหนียนที่นิ่งทื่อมาโดยตลอดก็พูดขึ้นว่า“ท่านปู่รีบพาพวกเขาไปที่บ้านหลังนั้นเถิด นี่เป็นราชโองการจากฮ่องเต้ พวกเราไม่อาจขัดขืน”คำพูดของเฉินหย่งเหนียนทำให้ชาวบ้านพวกนั้นเงียบเสียงทันที

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 93

    เขามองเจี่ยนอันอันแล้วมองคนอื่นๆครั้นเห็นว่าไม่มีผู้ใดคัดค้านจึงยอมเก็บเงินก้อนนี้เข้าสู่อกเสื้อ“ดีๆ ๆ นับจากวันนี้พวกเจ้าก็จงพักอยู่ที่นี่ หากวันหน้ามีปัญหาอะไร ก็มาหาข้าที่บ้านที่อยู่ทางสุดขอบตะวันตกของหมู่บ้านชิงสุ่ยได้ ที่นั่นคือบ้านของข้าเอง”เจี่ยนอันอันส่งยิ้มเห็นฟันให้อีกฝ่าย “เกรงว่าหลังจากนี้คงมีเรื่องต้องรบกวนท่านปู่เฉินเยอะมาก หวังว่าท่านจะไม่รังเกียจ”ท่านปู่เฉินเห็นเจี่ยนอันอันเข้าอกเข้าใจผู้อื่นเช่นนี้มีรอยยิ้มซื่อๆ เผยออกมา“ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว เช่นนั้นข้ากลับก่อนล่ะ”หลังจากที่ท่านเฉินปู่กลับไป เจี่ยนอันอันจึงมองไปยังเฉินหย่งเหนียนที่ยืนอยู่ด้านข้างนางดีดนิ้วใส่เฉินหย่งเหนียนพลางพูดว่า “จำไว้ เจ้าเป็นคนพาพวกข้ามาที่นี่ด้วยความเต็มใจ หากมีผู้ใดถาม เจ้าก็ห้ามโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น”เฉินหย่งเหนียนพยักหน้าอย่างเหม่อลอยเจี่ยนอันอันปัดมือว่า “เจ้ากลับไปเถอะ ที่นี่ไม่มีธุระของเจ้าแล้ว”เฉินหย่งเหนียนทำความเคารพให้กับเจี่ยนอันอันแล้วสาวเท้ายาวๆ จากไปหลังจากที่เฉินหย่งเหนียนจากไป ฮูหยินใหญ่จึงค่อยมองห้องหับเหล่านี้นางมีสีหน้าเป็นกังวลสถานที่แห่งนี้ไม่อาจเทีย

Bab terbaru

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 817

    แต่หากเป็นความผิดของอีกฝ่ายหนึ่ง เขาในฐานะอารอง ก็จะไม่ละเว้นผู้ทำร้ายเฝิงซานกวงเช่นกันแต่ไม่คาดคิดว่า เพียงลงจากรถม้า ก็ได้เห็นเยียนอ๋องและพระชายาอยู่ที่นี่ด้วยเจ้าเมืองตานนึกหวั่นใจขึ้น คงไม่ใช่เพราะเฝิงซานกวงไปทำความผิดอันใดเข้าอีกหรอกนะเจี่ยนอันอันใบหน้าแฝงรอยยิ้ม พร้อมนำสัญญาเผด็จการที่เฝิงซานกวงและเฉียวซื่อทำไว้ฉบับแรกให้เจ้าเมืองตานได้ดูเจ้าเมืองตานดูแล้วจึงเกิดความสงสัย “ในสัญญาได้ลงชื่อทั้งสองฝ่ายไว้ แสดงว่าอีกฝ่ายก็ยินยอมพร้อมใจ แล้วจะผิดอย่างไร?”แม้ว่าเงื่อนไขที่ระบุไว้จะมีแต่ความเอารัดเอาเปรียบ แต่ก็มิได้บ่งบอกถึงสิ่งใดไฉนจึงต้องบาดหมางจนให้เขามาด้วยตนเอง?และเจ้าเมืองตานก็เห็นลูกน้องของเฝิงซานกวง ต่างถูกทำร้ายจนสะบักสะบอมเขามองหน้าเจี่ยนอันอันด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจว่าเหตุใดนางกับฉู่จวินสิงจึงต้องทำร้ายลูกน้องเฝิงซานกวงเช่นนี้เจี่ยนอันอันดึงตัวแม่ลูกตระกูลเฉียวมาเข้าใกล้ พลางกล่าวต่อเจ้าเมืองตาน “เจ้าเมืองตาน คนนี้ก็คือผู้ทำสัญญากับเฝิงซานกวง”“นางไม่รู้หนังสือ ข้อความในสัญญาล้วนเป็นเฝิงซานกวงอ่านให้ฟังทั้งสิ้น”“แต่เท่าที่ข้ารู้ เฝิงซานกวงมิได้อ่านเนื้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 816

    เจี่ยนอันอันแม้ถูกด่าว่าก็หาโกรธเคืองไม่ กลับกลายเป็นฉู่จวินสิงที่เดินขึ้นหน้า พลางต่อยเข้าที่ปากเฝิงซานกวงหนึ่งหมัด“เจ้ากล้าด่าเหนียงจื่อของข้า เห็นทีอยากถูกเลาะฟันออกจากปากเสียแล้ว”หมัดนี้ของฉู่จวินสิงหนักหน่วงยิ่ง ถึงขั้นทำให้ฟันหน้าของเฝิงซานกวงร่วงสองซี่ในบัดดลแต่เพราะเฝิงซานกวงถูกผ้าพันแผลปิดหน้าไว้หมด ฟันหน้าจึงค้างอยู่ในปาก จะบ้วนทิ้งก็ไม่ได้ กลืนลงคอก็ไม่กล้าอีกฟันหน้าถูกค่อยจนร่วง ริมฝีปากก็ยังแตกซ้ำความเจ็บปวดในปากนั้น แทบทำให้เฝิงซานกวงอยากด่าไปถึงบุพการีแต่ภายหลังได้ลิ้มลองหมัดของฉู่จวินสิง เขากลับไม่กล้าใช้คำพูดดุเดือดออกมาอีกแม้แต่คำเดียวทันใดนั้นเอง มีเสียงรถม้าแว่วมาแต่ไกลทุกคนหันมองไปตามเสียงนั้น จึงเห็นรถม้าของทางการวิ่งตรงมาคันหนึ่งและผู้ที่ไปส่งข่าวยังจวนเจ้าเมืองตาน ก็วิ่งตามหลังรถม้ามาเจี่ยนอันอันผุดรอยยิ้มที่มุมปาก ดูท่าเจ้าเมืองตานมาได้รวดเร็วดีแท้รถม้ามาหยุดที่เบื้องหน้าทุกคนเร็วพลัน โดยมีเจ้าเมืองตานเปิดผ้าม่านแล้วก้าวเดินลงมาทันทีที่เห็นเฝิงซานกวงใบหน้าห่อด้วยผ้าพันแผลหนาเตอะ ซ้ำมุมปากยังมีคราบโลหิตซึมออกมา“เจ้าไปก่อกรรมทำเข็ญเรื่อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 815

    เจี่ยนอันอันยิ้มเล็กน้อย “พี่เฉียว อย่ามัวยืนเฉย รีบลงชื่อก่อนเถิด”“ประเดี๋ยวเมื่อเจ้าเมืองตานมาถึง ยังต้องให้เขาดูด้วย”เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเบามาก จงใจมิให้เฝิงซานกวงกับลูกน้องเขาได้ยินแต่แม่ลูกตระกูลเฉียวและฉู่จวินสิงกลับได้ยินชัดเจนฉู่จวินสิงมุมปากเชิดขึ้น คิดในใจว่าการจะสั่งสอนคนเช่นเฝิงซานกวง ต้องใช้วิธีนี้จึงจะสาสมเฝิงซานกวงได้ยินไม่ชัดว่าเจี่ยนอันอันพูดเรื่องใด แต่มั่นใจว่าคงมิใช่เรื่องดีแน่นอนเฉียวซื่อรับเอากระดาษและพู่กันไป พลางเขียนชื่อตนเองบนกระดาษด้วยลายมือโย้เย้นางกำลังคิดอยู่ว่าต้องกัดนิ้วตนให้ขาดดีหรือไม่ พลันเห็นเจี่ยนอันอันไม่รู้ไปหยิบแป้นประทับตราจากที่ใดออกมาหนึ่งอันเจี่ยนอันอันกล่าวยิ้มๆ “พี่เฉียว การประทับตราของเราไม่ต้องเสียโลหิต”เฉียวซื่อยิ้มตามเช่นกัน พลางกดนิ้วมือลงบนแป้นนั้น แล้วประทับลายนิ้วลงไปบนสัญญาอีกทีเมื่อต่างลงนามในสัญญาฉบับใหม่เรียบร้อย ฉบับเก่าก็นับว่าเป็นโมฆะไปแต่เจี่ยนอันอันกลับไม่คิดฉีกสัญญาฉบับเก่าทิ้งไป นางจะรอให้เจ้าเมืองตานมาถึง และให้เขาดูเงื่อนไขเอาเปรียบที่อยู่ในนั้นนางใช้วิธีเดียวกันนี้ เขียนสัญญาใหม่ขึ้นมาอีกฉบับ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 814

    ยามนี้เขารู้สึกเสียใจยิ่ง เมื่อครู่ไม่ควรกล่าวถึงท่านอารองออกมาเร็วถึงเพียงนั้นแต่บัดนี้ลูกน้องไปเชิญท่านอามาแล้ว ถึงตอนนั้นเขาจะทำอย่างไรดี?เมื่อนึกถึงตรงนี้ เฝิงซานกวงรีบกล่าวต่อลูกน้องอีกคน “เจ้าไปบอกให้อู่เฉียงกลับมา”ลูกน้องผู้นั้นรับคำสั่งกำลังจะรีบวิ่งไปแต่เดินได้ไม่ถึงสองก้าว พลันถูกฉู่จวินสิงขวางหน้าไว้ก่อน“ผู้ใดกล้าขยับเขยื้อน ข้าจะให้ผู้นั้นเลือดนองอาบพื้นดินในบัดดล”ลูกน้องผู้นั้นได้แต่หวาดกลัวจนชะงักงัน พร้อมหันไปมองเฝิงซานกวง“ลูกพี่...”เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร ไปก็ไม่ได้อยู่ต่อก็มีความผิดเฝิงซานกวงโกรธจนกำหมัดแน่น เสียงขบฟันดังกรอดจนได้ยินชัด“พวกเจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?”เขาเริ่มรู้แล้วว่า วันนี้ตนน่าจะเจอจิ้งจอกเขี้ยวลากดินเข้าให้แล้วดูท่าหากไม่ต้อนรับขับสู้พวกเขาให้ดี เกรงว่าอีกประเดี๋ยวจะมีจุดจบที่ไม่สู้งามนักเจี่ยนอันอันเห็นว่าเฝิงซานกวงน่าจะอับจนปัญญา จึงเอาสัญญาที่เฉียวซื่อมอบให้นางออกมา“เฝิงซานกวง นี่คือสัญญาที่เจ้าทำไว้กับเฉียวซื่อ ในนี้มีเงื่อนไขข้อหนึ่ง ข้าอาจต้องแก้ไขเล็กน้อย”เฝิงซานกวงกัดฟันกรอดอีกครั้ง บันดาลโทสะเสียจนใบหน้าที่อยู

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 813

    พวกเขาลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไรญาติที่เป็นขุนนางของลูกพี่เป็นผู้มีอิทธิพลนัก ดูแลทุกอย่างในอำเภอไถหยางก็ว่าได้เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็น “คุยมาตั้งนาน ยังไม่เห็นบอกชื่อว่าคนผู้นั้นเป็นใคร ข้าว่าคงจะแต่งเรื่องส่งเดชมากกว่า”เฝิงซานกวงถูกเจี่ยนอันอันยุยงอีกครั้ง เดิมทีเขาก็ไม่อยากเอ่ยชื่อเจ้าเมืองออกมาแต่ครั้งนี้เห็นทีไม่พูดก็ไม่ได้เสียแล้ว“ฮึ่ม พูดแล้วพวกเจ้าจะตกใจ ท่านอารองของข้าเป็นเจ้าเมืองแห่งอำเภอไถหยาง”“หากพวกเจ้ากล้าแตะต้องกิจการในเหมืองของข้า ข้าจะให้ท่านอาส่งคนมาจับพวกเจ้าไปขังคุกเสีย!”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินว่าอารองของเฝิงซานกวงก็คือเจ้าเมืองตานนั่นเอง นางจึงเริ่มมีแผนการในใจ“อ้อ หมายถึงเจ้าเมืองตานผู้นั้นหรอกรึ? ยังนึกว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่ใดเสียอีก”“เชิญไปเรียกตัวมาได้เลย แล้วเรามายันกันซึ่งหน้า ให้รู้ไปว่าเขาจะเข้าข้างเจ้า หรือเห็นด้วยกับเรามากกว่า”เฝิงซานกวงมองดูท่าทีของเจี่ยนอันอัน คล้ายไม่กลัวกระทั่งคนเป็นเจ้าเมือง จึงให้ตกใจซ้ำอีกเขาแอบคิดในใจ หรือว่าท่านอารองจะรู้จักกับคนสองคนนี้?จึงหันไปกระซิบกระซาบต่อลูกน้องข้างกาย “รีบไปเชิญอารองข้ามาเดี๋ยวนี้”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 812

    เหล่าคนงานที่เข้าออกเหมืองแร่เห็นเหตุการณ์เข้า ต่างก็ตกใจเป็นอย่างมากเพราะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นลูกน้องของนายจ้างถูกผู้อื่นทำร้ายเช่นนี้แม้แต่ละคนจะมีความตกใจ แต่ลึกๆ กลับรู้สึกสะใจมากกว่าเพราะบริวารของเฝิงซานกวงเหล่านี้ ปกติมักจะใช้กำลังกับพวกเขาบ่อยๆทุกครั้งที่พวกเขาขุดหาแร่ออกมาไม่ได้ปริมาณตามที่ต้องการ ลูกน้องเฝิงซานกวงก็พากันมารุมซ้อมพวกเขาอย่างหนัก แต่พวกเขาก็ไม่กล้าไปบอกใครบางคนเคยคิดหนีไปจากที่นี่ แต่ครั้งใดที่มีผู้หลบหนี มักถูกจับกลับมาแล้วซ้อมหนักยิ่งกว่าเดิมอีกที่สำคัญพวกเขาแทบจำไม่ได้ว่าตนคือใคร บ้านช่องอยู่ที่ใดจึงได้แต่ใช้แรงกายแลกกับเงินน้อยนิดเพียงสองอีแปะในแต่ละวัน อดทนทำงานอยู่ที่นี่ต่อไปเมื่อชายสองคนถูกทำร้ายเข้า จึงมีลูกน้องเฝิงซานกวงตามออกมาอีกทุกคนเมื่อเห็นว่ามีคนมาก่อเรื่อง จึงกรูกันเข้าหาฉู่จวินสิงทันทีแต่มิต้องรอให้พวกเขามาเข้าใกล้ ฉู่จวินสิงใช้กำลังภายในซัดออกไปก่อนแล้วทุกคนต่างทยอยล้มลง พลางกลิ้งไปมา ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดทันใดนั้นเอง มีเสียงหนึ่งตะคอกดังขึ้น “ผู้ใดกล้าบังอาจมาก่อเรื่องในเหมืองของข้า อยากตายหรืออย่างไร?”ใบ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 811

    แต่บัดนี้นางเปิดร้านมาสิบกว่าวัน ขายได้เพียงรูปสัตว์โลหะไม่กี่ตัวเท่านั้นเฉียวซื่อบอกเล่าสิ่งที่พบเจอให้เจี่ยนอันอันฟัง ทำให้นางเกิดความเข้าใจขึ้นทันทีที่แท้เฉียวซื่อถูกเฝิงซานกวงหลอกลวงมาแต่แรกเจี่ยนอันอันเพียงคิดว่าต่อให้นางซื้อของตกแต่งเหล่านี้กลับไป ก็มิได้ใช้ประโยชน์นักจึงนำหนูโลหะตัวเล็กในมือวางกลับที่เดิมเฉียวซื่อเห็นเจี่ยนอันอันทำเช่นเดียวกับลูกค้าอื่นในร้าน เพียงเข้ามาหยิบดูเล็กน้อย จากนั้นจึงวางของตกแต่งลงไว้ที่เดิมดูแล้วคล้ายไม่สู้ถูกใจผลงานที่นางสร้างสรรค์ออกมาเท่าใดนัก พลันเกิดความรู้สึกท้อแท้ นางคงไม่เหมาะจะทำอาชีพนี้จริงๆ กระมังหากตอนนี้สามียังอยู่ก็คงดี นางจะได้ฝึกวิชาการตีเหล็กจากเขาให้ออกมาเป็นงานอื่นบ้างและเมื่อครู่เจี่ยนอันอันรู้จากปากเฉียวซื่อ ว่าเฝิงซานกวงได้เปิดกิจการเหมืองแร่แห่งหนึ่งทุกวันจะมีคนงานไปด้านหลังภูเขาที่อยู่ห่างไกล ขุดเอาแร่เหล็กและหยกออกมา เพื่อนำกลับมาถลุงเป็นเครื่องหยกและของใช้ที่ทำจากเหล็กนางเห็นเฉียวซื่อคล้ายมีอาการท้อใจ จึงกล่าวยิ้มแย้ม “พี่เฉียว ท่านพาข้าไปดูที่เหมืองของเฝิงซานกวงก่อน ข้ามีสิ่งของบางอย่างต้องการจะซื้อ”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 810

    เจี่ยนอันอันหยิบมากวาดตาดูก็มองความผิดปกติบนนั้นออกได้ในทันที“เงื่อนไขในนี้เข้มงวดเกินไปแล้ว ถ้าฝ่ายไหนยุติสัญญาจะต้องชดเชยให้อีกฝ่ายเป็นเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึง”“เจ้าหมอนี่ช่างกล้าเขียน สัญญานี้เห็นได้ชัดว่าเป็นเงื่อนไขแบบมัดมือชกกันชัดๆ”“ข้าว่าท่านไม่ร่วมงานกับเขาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้เฉียวซื่อใจหายวูบนางรู้จักตัวหนังสือแค่ไม่กี่ตัว นอกจากเขียนชื่อตัวเองเป็นแล้ว เงื่อนไขในนั้นนางอ่านไม่เข้าใจเลยสักนิดเฝินซานกวงเป็นคนอ่านให้นางฟัง นางรู้สึกว่าเงื่อนไขสมเหตุสมผลมากจึงลงนามในสัญญากับอีกฝ่ายแต่คิดไม่ถึงเลยว่า เฝิงซานกวงจะกล้าเล่นเล่ห์กับนางแบบนี้เดิมนั้นนางอยากยกเลิกสัญญากับอีกฝ่าย แต่กลับได้ยินเฝิงซานกวงพูดว่า ถ้านางกล้าเป็นฝ่ายยกเลิกสัญญาก็จะต้องชดเชยเงินให้เฝิงซานกวงเป็นเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึงตอนนั้นเฉียวซื่อตกใจยิ่งนักนางเคยไปถามเถ้าแก่ร้านข้างเคียง ฝ่ายตรงข้ามก็บอกว่าเงื่อนไขนี้เขียนไว้อย่างชัดเจน ต้องจ่ายเงินชดเชยให้อีกฝ่ายหนึ่งแสนตำลึงจริงๆเงินจำนวนมหาศาลเช่นนี้ นางจะไปหาเงินมากมายขนาดนี้มาจากที่ไหนถึงตอนนี้เฉียวซื่อจึงตระหนักว่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 809

    ตอนนี้เขาทำได้เพียงอดทนอดกลั้นต่อความเจ็บปวด ยอมรับการทุบตีจากเฉียวอี้บริเวณรอบๆ มีคนล้อมเข้ามามุงดูจำนวนมาก พวกเขาต่างชี้ไม้ชี้มือมาทางชายผู้นั้น“คนคนนี้แค่เห็นก็รู้แล้วว่าต้องไม่ใช่คนดีแน่ ดูหน้าตาทรงโจรของเขาสิ แปดส่วนคงเป็นเพราะไปหาเรื่องคนอื่นก่อน ถึงได้ถูกเด็กคนนั้นซ้อมเอาแบบนี้”“เมื่อครู่ข้าได้ยินแล้ว เขาไปลงไม้ลงมือกับแม่ของเด็กคนนั้น ข้าว่าตีเขายังน้อยไป ควรแจ้งความมากกว่า”คนมุงบริเวณรอบๆ ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานาเฉียวอี้ควงหมัดทักทายใบหน้าของชายผู้นั้นหนักกว่าเดิมในไม่ช้า เฉียวอี้ก็ตีจนรู้สึกเจ็บกำปั้น แต่เขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจนกระทั่งอัดศีรษะชายผู้นั้นจนบวมเป่งเหมือนหมู เฉียวอี้ถึงได้หยุดมือพร้อมหอบหายใจแม้ว่ากำปั้นของเฉียวอี้จะไม่ใหญ่ แต่ครั้นทุบตีคนก็ร้ายกาจยิ่งนักเห็นใบหน้าชายผู้นั้นเขียวช้ำไปหมด เฉียวอี้ก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากเจี่ยนอันอันกล่าวกับชายผู้นั้นว่า “หากวันหน้าเจ้ายังกล้ามาคุกคามแม่ลูกตระกูลเฉียวอีก ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าสบายแบบนี้แน่ ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”ชายผู้นั้นไม่กล้าพูดมาก ลุกขึ้นมากุมศีรษะแล้วเผ่นหนีไปคนมุงบริเวณรอบๆ เ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status