เจี่ยนอันอันเอนกายข้างฉู่จวินสิงเนื่องด้วยเตียงมีขนาดแคบเกินไป ต่อให้ฉู่จวินสิงนอนตะแคง ร่างของทั้งสองก็สัมผัสกันอยู่ดีเจี่ยนอันอันตกใจจนรีบพลิกตัว แล้วหันหลังให้ฉู่จวินสิง“ท่านนอนตะแคงเช่นนี้ไม่ดีต่อบาดแผล ท่านนอนราบดังเดิมเถิด”เจี่ยนอันอันเป็นห่วงอาการบาดเจ็บของฉู่จวินสิง จึงเอ่ยปากเตือนฉู่จวินสิงไม่พูดไม่จา เขากำลังหลับตา ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอเจี่ยนอันอันหันมองแวบหนึ่ง พลันเห็นฉู่จวินสิงนอนหลับไปแล้วนางไม่กล้าพูดอีกต่อไป จึงถดตัวออกไปด้านนอกทว่าในขณะนั้นเอง กลับได้ยินเสียงฉู่จวินสิงเอ่ย “เจ้าอย่าขยับ เดี๋ยวตกลงไปจะแย่เอา”เดิมเจี่ยนอันอันนึกว่าฉู่จวินสิงนอนหลับไปแล้ว แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายกล่าว ร่างที่กำลังขยับของนางก็ชะงักไปเจี่ยนอันอันไม่กล้าขยับกายอีกผ่านไปสักครู่ นางจึงเอ่ยถาม “ท่านนอนหลับแล้วหรือ?”ฉู่จวินสิงตอบ “ยังไม่หลับ”สายตาเจี่ยนอันอันจ้องเขม็งไปที่เก้าอี้ตัวนั้น ในใจคิดว่านางไปนั่งที่เก้าอี้สักหนึ่งคืนดีกว่าแต่นางก็กลัวเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ จึงนอนด้วยใจกระวนกระวายอยู่ตรงนี้“ในเมื่อท่านยังไม่นอน พวกเราคุยกันดีหรือไม่?”เจี่ยนอ
ตอนอยู่ในคุกหลวง เจี่ยนอันอันไม่ได้คิดมากนางนึกว่าตัวเองซ่อนตัวอย่างดีแล้ว เพราะคนอื่นๆ ล้วนมองไม่เห็นนางจึงคิดว่าฉู่จวินสิงก็มองไม่เห็นนางเช่นกันกลับนึกไม่ถึงว่านางที่กำลังอำพรางตัว จะเปิดเผยตัวตนต่อหน้าฉู่จวินสิงทั้งหมด“ข้า...ขอไม่ตอบคำถามทั้งสองข้อนี้ได้หรือไม่?” เจี่ยนอันอันลองถามหยั่งเชิงนางไม่อยากให้ฉู่จวินสิงเค้นถามอีกต่อไป ไม่อย่างนั้นนางคงปิดบังต่อไปไม่ได้แล้วฉู่จวินสิงไม่ให้โอกาสเจี่ยนอันอัน เขาเอ่ยเสียงเย็น“เจ้าเป็นใครกันแน่ เหตุใดจึงสวมรอยเป็นคุณหนูใหญ่จวนกั๋วกง แล้วปะปนเข้ามาในขบวนของพวกข้า?”เจี่ยนอันอันรู้สึกว่าหากยังถูกเค้นถามต่อไป นางต้องถูกจับได้แน่นางเตรียมจะลุกจากเตียง ทว่ากลับรู้สึกถึงจุดชีพจรที่แผ่นหลังถูกคนออกแรงจี้ลงไปร่างกายนางแข็งทื่อ ไม่สามารถขยับได้แม้แต่น้อย“เมื่อครู่ท่านสกัดจุดข้าหรือ?” เจี่ยนอันอันเอ่ยถามด้วยสีหน้าลนลานนางรู้ว่าเมื่อจุดชีพจรถูกสกัด ไม่เพียงร่างกายขยับเขยื้อนไม่ได้หากผ่านไปอีกหนึ่งชั่วยาม นางจะเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งร่างหากไม่ถูกคลายจุดทันเวลา นางจะเจ็บปวดเช่นนี้ตลอดไปความรู้สึกเช่นนั้นทรมานยิ่งกว่าตายเจี่ยนอันอ
ฉู่จวินสิงนึกถึงตอนที่เขาหมดสติ เคยตื่นขึ้นมาครั้งหนึ่งตอนนั้นเขาเห็นเจี่ยนอันอันแอบลอบไปที่ทหารรักษาพระองค์ อีกทั้งยังแอบวางยาในถุงน้ำของทหารเหล่านั้นต่อมาทหารเหล่านั้นก็เริ่มท้องเสียขณะนั้นดูเหมือนทหารรักษาพระองค์จะมองไม่เห็นเจี่ยนอันอันยามนี้เมื่อลองนึกดู ขณะนั้นเจี่ยนอันอันน่าจะกำลังล่องหนอยู่เพียงแต่ฉู่จวินสิงเองก็ไม่เข้าใจ เหตุใดคนอื่นถึงไม่เห็นเจี่ยนอันอันที่กำลังล่องหน มีเพียงเขาที่มองเห็นเจี่ยนอันอันกระวนกระวายมาก กำลังรอให้ฉู่จวินสิงพูดขณะนี้นางถูกเขาสกัดจุด ทำให้แขนขาขยับไม่ได้สมองของนางโลดแล่นอย่างรวดเร็วนางควรใช้วิธีใด ถึงจะคลายจุดชีพจรได้?ในขณะที่เจี่ยนอันอันคิดเหลวไหล ในที่สุดฉู่จวินสิงได้เอ่ยขึ้น“ได้ ข้าเชื่อในสิ่งที่เจ้าพูด”เจี่ยนอันอันนึกไม่ถึงว่าฉู่จวินสิงจะเชื่อนางเร็วขนาดนี้ในขณะที่นางกำลังจะผ่อนลมหายใจ ฉู่จวินสิงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “แล้วมิติที่เจ้ากล่าวถึง คือสิ่งใด?”เจี่ยนอันอันรีบอธิบาย “มิติแห่งนี้ข้าเป็นคนคิดค้นขึ้นมาเอง ด้านในสามารถบรรจุของได้ทุกสิ่ง เพียงชั่วความคิดของข้าเกิดขึ้น จะสามารถนำสิ่งที่อยู่ในมิติออกมาได้ หากท่านไม่เชื่อ ข
ฉู่จวินสิงเอ่ยถามอีกครั้ง “ในเมื่อเจ้าไม่ใช่คนของโลกนี้ เหตุใดต้องมาทนถูกเนรเทศไปพร้อมกับข้าด้วย? เจ้าสามารถแอบหนีไปให้ไกลได้นี่”เจี่ยนอันอันถอนหายใจอย่างระอา นางเองก็อยากหนีไปให้ไกลแต่ภารกิจของห้วงมิติ กลับผูกชะตาของนางกับฉู่จวินสิงไว้ด้วยกันนางจะทำอย่างไรได้ดวงตาของเจี่ยนอันอันหมุนวน จากนั้นยื่นมือออกไปหนึ่งข้างแล้วนับนิ้วมือกลางอากาศ จากนั้นทำท่าลึกลับ “ความจริงข้าทำนายแบบนับนิ้วได้ ข้าทำนายได้ว่าท่านจะได้กลับมาผงาดอีกครั้ง ท่านไม่เพียงกลับมาอยู่ในตำแหน่งเยียนอ๋องอีกครั้ง ยังสามารถโค่นล้มราชวงศ์ปัจจุบันแล้วกลายเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ของแคว้นไท่ยวน”ฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันแสร้งทำท่าลึกลับ พลันรู้ทันทีว่านางพูดจาเหลวไหลในดวงตาของฉู่จวินสิง มีแววขบขันแวบผ่านอย่างรวดเร็วเขาอยากรู้ว่าเจี่ยนอันอันยังอยากพูดอะไรอีกฉู่จวินสิงแสร้งเอ่ยขึ้นขึงขัง “ข้าวสามารถกินไปเรื่อยได้ แต่จะพูดจาส่งเดชไม่ได้ เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อคำพูดเมื่อครู่นี้ของเจ้าหรือ?”เจี่ยนอันอันเห็นฉู่จวินสิงไม่เชื่อนาง จึงกำลังคิดว่าจะโต้แย้งเขาอย่างไรดีทันใดนั้นตรงหน้านางได้มีภาพปรากฏขึ้นกะทันหันพรุ่งนี้ช่วง
เจี่ยนอันอันดึงข้อมือของฉู่จวินสิงขึ้นเพื่อตรวจชีพจรให้เขานางพบว่าเลือดลมของฉู่จวินสิงกำลังวิ่งพล่านไปทั่วร่างหากรักษาไม่ทันการณ์ เกรงว่าเขาคงต้องหมดสติอีกครั้งเจี่ยนอันอันรีบนำยาที่ทำให้เลือดลมสงบออกมาจากมิติหนึ่งเม็ด แล้วยัดเข้าปากฉู่จวินสิงทันทีจากนั้นนางก็ซื้อน้ำแร่อีกหนึ่งขวดจากร้านค้าในมิติ แล้วพยุงฉู่จวินสิงให้ลุกขึ้น ค่อยๆ ป้อนน้ำให้เขาดื่มฉู่จวินสิงกลืนยาในปากลงคอพร้อมกับน้ำดื่มเมื่อเขาหายใจสะดวกแล้ว จึงหันมองขวดน้ำแร่ที่อยู่ในมือเจี่ยนอันอัน“นี่คือสิ่งใด?” ฉู่จวินสิงเอ่ยถามด้วยสีหน้าฉงนเจี่ยนอันอันไม่คิดจะปิดบังเขาอีกต่อไปนางจึงบอกไปตามความจริง “นี่คือน้ำแร่ในโลกที่ข้าอยู่ ดื่มแล้วมีประโยชน์ต่อร่างกาย”ฉู่จวินสิงไม่ได้พูดสิ่งใด เพียงจ้องมองขวดน้ำแร่ที่อยู่ในมือเจี่ยนอันอันหากเมื่อครู่เขายังสงสัยในคำพูดเหล่านั้นของเจี่ยนอันอันมาถึงตอนนี้ ในที่สุดเขาก็เชื่อว่าเจี่ยนอันอันไม่ใช่คนในโลกนี้เฉกเช่นเขาหลังจากกินยาที่ทำให้เลือดลมสงบเข้าไป ฉู่จวินสิงรู้สึกว่าเลือดลมภายในร่างกายค่อยๆ สงบลงแต่เมื่อนึกถึงวันพรุ่งนี้ที่จะมีคนกลุ่มหนึ่งมาลอบสังหารครอบครัวเขา ฉู่จ
บนแขนของฉู่จวินสิงมีหัวเข็มเสียบอยู่เขาเชื่อฟังโดยการไม่ขยับเขยื้อน เพียงแค่ส่งสายตาบอกให้เจี่ยนอันอันนอนลงข้างกายเขา“มานอนลงสิ แล้วพักผ่อนให้ดีสักคืน พรุ่งนี้ยังมีธุระให้จัดการอีกมาก”เมื่อเห็นฉู่จวินสิงดึงดันให้นางนอนลง อีกทั้งบนแขนของเขายังมีเข็มคาอยู่ เขาคงไม่กล้าทำอะไรนางหลังเจี่ยนอันอันตรึกตรองสักครู่ ในที่สุดก็นอนลงข้างกายฉู่จวินสิงนางจ้องเขม็งไปที่ขวดยาซึ่งอยู่เหนือหัว มองดูน้ำยาหยดลงมาทีละหยดหวังเพียงให้ยาขวดนี้ ช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บของฉู่จวินสิงลงบ้างน้ำยาในขวดส่งผลในเรื่องการนอนหลับ เพียงไม่นานฉู่จวินสิงก็นอนหลับสนิทเจี่ยนอันอันไม่กล้านอน เพราะนางยังต้องคอยเฝ้าดูขวดยาหลังจากรอให้น้ำยาหยดจนหมด นางจึงถอดหัวเข็มที่เสียบอยู่บนแขนของฉู่จวินสิงออกหลังจากตรากตรำมาทั้งวัน เจี่ยนอันอันเองก็เหนื่อยล้าอยู่บ้างเมื่อความง่วงคืบคลาน เปลือกตาของเจี่ยนอันอันหนักอึ้งอย่างที่สุดนางหลับตา ในไม่ช้าก็นอนหลับไปเช้าวันรุ่งขึ้น เจี่ยนอันอันตื่นขึ้นเพราะเสียงโวยวายด้านนอกเมื่อนางลืมตาขึ้น รู้สึกว่ามีสายตาของใครบางคน กำลังจ้องมองตนเองพอนางหันมอง จึงเห็นฉู่จวินสิงที่ไม่รู
เจี่ยนอันอันเห็นดังนั้น ก็รู้ตัวว่ารบกวนพวกเขานางหัวเราะแล้วรีบเอ่ยขึ้น “พวกเจ้าคุยกันต่อเถอะ ข้าไม่ได้ยินอะไรเลย เดี๋ยวข้าจะกลับไปนอนต่ออีกหน่อย”เจี่ยนอันอันพูดจบ ก็รีบถอยหลังกลับไปทันทีนางปิดประตู แล้วกลับไปที่เตียงพวกโจรภูเขาที่อยู่ในห้องโถง เห็นเจี่ยนอันอันกลับไปในห้องแล้วพวกเขาจึงเริ่มหารือกันอีกครั้งเจี่ยนอันอันเดินมาข้างเตียง ไม่ได้สนใจสายตาฉู่จวินสิงที่กำลังจ้องมองตัวเองอยู่นางเข้าไปคว้าข้อมือของเขา แล้วตรวจชีพจรให้ฉู่จวินสิงอีกครั้งน้ำยาแก้อักเสบและยาสงบเลือดลมเมื่อคืน เริ่มเห็นผลขึ้นมาบ้างแล้วเลือดลมในร่างของฉู่จวินสิงได้สงบลงทั้งหมดร่างกายของเขากำลังฟื้นตัวไปในทางที่ดีขึ้นทั้งสองคนภายในห้องต่างเงียบงันมีเพียงเสียงโหวกเหวกโวยวายด้านนอกที่ดังขึ้นไม่หยุดเจี่ยนอันอันได้ยินโจรภูเขาคนหนึ่งเอ่ยขึ้น “หัวหน้าใหญ่ ท่านจะติดตามพวกเขาไปเมืองอินเป่ยจริงหรือ? แล้วพวกข้าจะทำอย่างไร พวกข้าไม่มีหัวหน้าใหญ่ไม่ได้หรอกนะ”เสียงของเซิ่งฟางดังลอดเข้ามา “เรื่องนี้ข้าตัดสินใจแล้ว พวกเจ้าไม่ต้องโต้แย้งให้มากความ”“แต่ว่าหัวหน้าใหญ่...” เสียงของโจรภูเขาอีกคนดังขึ้น เขาพูด
เจี่ยนอันอันรีบกระโดดลงจากเตียงแล้ววิ่งไปเปิดประตูเห็นเพียงเหวินอิงยืนอยู่หน้าประตู ขอบตาของนางแดงก่ำ บนใบหน้ายังมีคราบน้ำตาที่ไม่ทันเช็ดเหวินอิงเอ่ยขึ้น “ออกมากินข้าวเถอะ”เมื่อพูดจบ เหวินอิงก็หันหลังจากไปทันทีเจี่ยนอันอันไม่ได้เอ่ยถาม นางรีบเดินไปข้างเตียงนำแขนข้างหนึ่งของฉู่จวินสิงมาพาดไว้บนบ่าตัวเองเจี่ยนอันอันประคองฉู่จวินสิงให้ลงจากเตียงฉู่จวินสิงที่รูปร่างสูงโปร่ง ทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดลงไปบนตัวเจี่ยนอันอัน เมื่อสัมผัสถึงความอ่อนนุ่มจากร่างกายเจี่ยนอันอัน หัวใจของฉู่จวินสิงเต้นช้าลงอย่างไม่มีสาเหตุเจี่ยนอันอันไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของฉู่จวินสิง นางประคองเขาให้เดินไปที่ประตูทีละก้าวเจี่ยนอันอันเดินหน้าไปอย่างยากเย็น นางเอ่ยกับฉู่จวินสิง“เมื่อคืนข้าเติมน้ำยาแก้อักเสบให้ท่านไปแล้ว ร่างกายของท่านน่าจะดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน ตอนนี้ท่านต้องลงมาเดินบ้าง เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวโดยเร็ว”ฉู่จวินสิงตอบรับเสียงค่อย ปล่อยให้เจี่ยนอันอันประคองเขาต่อไปขณะที่เจี่ยนอันอันประคองฉู่จวินสิง รู้สึกแค่ว่าร่างกายเขาหนักมากหากไม่ใช่เพราะนางเตรียมใจไว้แต่แรก เกรงว่าตอนนี้คงถูกอี