ทั้งแปดคนตามหาทั่วหมู่บ้านชิงสุ่ยแต่ก็ไม่พบร่องรอยของเจี่ยนอันอันแต่อย่างใดท่าทีเคร่งเครียดของพวกเขาทำให้คนในหมู่บ้านชิงสุ่ยรู้สึกสงสัยตามไปด้วยหลินเซิงเดินเข้ามาหาอวี๋ว่านกับซ่างชิวและขวางทางพวกเขาไว้“เกิดอะไรขึ้น พวกเจ้ากำลังหาอะไรอยู่?”อวี๋ว่านบอกเล่าเรื่องที่เจี่ยนอันอันหายตัวไปให้ฟังหลินเซิงได้ฟังดังนี้ก็ร้อนใจเช่นกันเจี่ยนอันอันดีต่อครอบครัวของเขาไม่น้อยเลย นางไม่เพียงรักษาภรรยาของเขา แต่ยังช่วยขจัดพิษให้ทุกคนในครอบครัวเขาน้ำพุใสที่บ้านมีรสชาติดีกว่าน้ำบ่อเมื่อก่อนเป็นร้อยเท่าเขาไม่มีวันลืมบุญคุณนี้ไปตลอดชีวิตเมื่อตอนนี้เกิดเรื่องขึ้นกับเจี่ยนอันอัน ตัวเขาย่อมมีหน้าที่ช่วยตามหาอีกแรง“ข้าจะไปช่วยตามหาด้วย” หลินเซิงว่าจบก็เดินไปตามหาที่อื่นร่วมกับอวี๋ว่านและซ่างชิวฉู่จวินสิงรู้สึกกังวลใจมากขึ้นเรื่อยๆ เขาแค่กลับห้องไปหยิบร่มเท่านั้นเวลาเพียงชั่วประเดี๋ยวเดียว เจี่ยนอันอันก็หายไปแล้วนอกจากกู้มั่วหลีแล้ว เขานึกไม่ออกว่าจะมีผู้ใดมีความสามารถมากพอที่จะจับตัวเจี่ยนอันอันไปได้อีกฉู่จวินสิงไปที่บ้านของเสิ่นจือเจิ้งเป็นที่แรก บอกเล่าเรื่องที่เจี่ยนอันอันหายตัวไป
เมื่อก่อนนี้ ไม่ว่าเจี่ยนหลิงเยว่จะปฏิบัติต่อร่างเดิมอย่างไรก็จะได้รับการให้อภัยจากร่างเดิมเสมอร่างเดิมมองว่าพวกนางเป็นพี่น้องแท้ๆ ที่ต่างกันแค่มารดาน้องสาวคนนี้เพียงแต่ถูกฮูหยินรองตามใจจนเสียนิสัยเท่านั้น โดยเนื้อแท้แล้วไม่ได้เลวร้ายเลยด้วยเหตุนี้ เจี่ยนหลิงเยว่จึงมักจะรังแกร่างเดิมหนักขึ้นเรื่อยๆแต่แล้วท่าทีเย็นชาของเจี่ยนอันอันตอนนี้กลับทำให้เจี่ยนหลิงเยว่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยนี่ยังใช่พี่หญิงที่ถูกก่นด่าทุบตีโดยไม่ตอบโต้ผู้นั้นอยู่อีกหรือเหตุใดนางจึงดูเปลี่ยนเป็นคนละคนตั้งแต่ที่ถูกเนรเทศ?เจี่ยนหลิงเยว่ด่าเจี่ยนอันอันในใจว่าไม่รู้จักเห็นคุณค่า การได้รับอ้อมกอดจากนางถือเป็นพระคุณต่อเจี่ยนอันอันด้วยซ้ำใบหน้าของเจี่ยนหลิงเยว่ยังคงประดับด้วยรอยยิ้มบางๆ“ท่านพี่ ข้าคือหลิงเยว่อย่างไรเล่า ท่านคงไม่ได้ลืมข้าแล้วกระมัง”เจี่ยนอันอันแค่นเสียงเย็น ต่อให้กลายเป็นเถ้าถ่าน นางก็ไม่มีทางลืมเจี่ยนหลิงเยว่แต่ไม่รู้ว่าเจี่ยนหลิงเยว่มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร หรือว่านางจะแอบหนีออกจาจวนกั๋วกง?ความคิดนี้เพิ่งจะผุดขึ้นในหัวก็ถูกเจี่ยนอันอันสลัดทิ้งทันทีจอมหลงทางที่ไร้สมองแบบเจี่ยนหล
ในตอนนี้เอง มีเสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังขึ้นในไม่ช้าประตูก็เปิดออก เงาร่างของกู้มั่วหลีปรากฏสู่สายตาของเจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันรู้อยู่แล้วว่ากู้มั่วหลีเป็นคนจับนางมาตอนที่นางกำลังทำยารักษาเฉพาะทางของวัณโรคอยู่ที่สวนหลังบ้าน นางได้กลิ่นหอมประหลาดตอนนั้นเจี่ยนอันอันไม่ได้กินยาถอนพิษในทันที แต่ยอมปล่อยให้กู้มั่วหลีจับตัวนางมามีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้นางได้เข้าใกล้กู้มั่วหลีนอกจากนี้ นางจะได้ทดลองยาพิษที่คิดค้นก่อนหน้านี้กับกู้มั่วหลีด้วยเช่นกันหากนางสามารถสังหารคนวิกลจริตแบบกู้มั่วหลีได้ด้วยมือตัวเอง คลังอาวุธก็จะสามารถเลื่อนขั้นอย่างรวดเร็วกู้มั่วหลีเห็นว่าเจี่ยนอันอันฟื้นแล้วก็ยกยิ้มเดินมาที่เบื้องหน้านาง“เหตุใดจึงฟื้นเร็วแบบนี้ ไม่นอนต่ออีกสักหน่อยหรือ”น้ำเสียงของกู้มั่วหลีนุ่มนวล เสมือนกำลังเอ่ยถ้อยคำเอาใจใส่กับภรรยาของตัวเองเจี่ยนอันอันแค่นเสียงก่อนจะพูดเสียงเย็น “ลองให้ข้าลักพาตัวเจ้าบ้างดีหรือไม่ จะได้เห็นว่าเจ้านอนต่อลงหรือเปล่า”ถ้อยคำของเจี่ยนอันอันทำให้กู้ม่อหลีเงยหน้าหัวเราะลั่น เจี่ยนหลิงเยว่ที่อยู่ด้านข้างเห็นทั้งสองคนมีท่าทีสนิทสนมกันก็มุ่นคิ้วเล็
เจี่ยนหลิงเยว่ยืนอยู่ด้านนอก นางทาบหูกับประตูเพื่อแอบฟังบทสนทนาด้านในแต่เสียงพูดของทั้งสองคนเบามาก นางไม่ได้ยินอะไรแม้แต่คำเดียวในตอนนี้เอง ประตูห้องได้เปิดออกเมื่อประตูเปิดออก ร่างกายของเจี่ยนหลิงเยว่ก็เซเข้าสู่อ้อมอกของกู้มั่วหลีเพราะเสียการทรงตัวเจี่ยนหลิงเยว่รีบผละออกจากร่างเขาด้วยความตกใจ นางก้มหน้าอธิบายว่า “คุณชายกู้ ข้าเพียงอยากรู้เท่านั้นว่าท่านจะออกมาเมื่อไร ไม่ได้แอบฟังแม้แต่น้อย”กู้มั่วหลีดึงมือเจี่ยนหลิงเยว่และพานางออกจากที่นี่เจี่ยนหลิงเยว่คิดว่าตัวเองจะถูกกู้มั่วหลีดุด่า นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายไม่ได้โกรธเคืองแต่อย่างใดนางลอบยินดีในใจ ดูแล้วกู้มั่วหลีคงประทับใจในความงามของนางเป็นแน่แล้วตอนนี้เขามีแต่จะทะนุถนอมนางด้วยซ้ำ จะดุด่าลงได้อย่างไรกู้มั่วหลีไม่ได้พูด ทว่าความเย็นยะเยียบภายในแววตาเขากลับเพิ่มขึ้นหลายส่วนทั้งที่เกิดจากบิดาคนเดียวกันแท้ๆ ทว่าอุปนิสัยของทั้งสองคนกลับต่างกันราวฟ้ากับเหวเขาชอบหญิงสาวแบบเจี่ยนอันอัน ทุกครั้งที่พบกันจะต้องปากคอเราะร้ายเสมอ ไม่เคยแสดงความอ่อนแอผิดกับเจี่ยนหลิงเยว่ที่แสร้งทำตัวใสซื่อไร้เดียงสาทั้งยังคิดว่าตัวเองงดงามปา
เขาจ้องมองเจี่ยนอันอันอยู่สองสามวินาทีก่อนจะปล่อยตัวนาง“ในเมื่ออยากเห็นหน้าตาของข้ามากขนาดนั้น เช่นนั้นเจ้าก็ช่วยถอดหน้ากากให้ข้าเองเถอะ”เจี่ยนอันอันใช้มือข้างหนึ่งปิดปากกู้มั่วหลี ไม่อยากให้เขาฉวยโอกาสจุมพิตนางแต่มืออีกข้างกำลังถือขวดยาพิษไว้อยู่ หากจะถอดหน้ากากก็ต้องเก็บขวดยาพิษก่อนเจี่ยนอันอันลังเลครู่หนึ่ง ตัดสินใจเก็บขวดยาพิษกลับสู่ห้วงมิตินางถอดหน้ากากของกู้มั่วหลีอย่างรวดเร็วด้วยมือข้างเดียวดวงหน้าที่หล่อเหลาจนปวงชนทั่วหล้าต้องตกตะลึงปรากฏสู่สายตาของเจี่ยนอันอันแต่ดวงหน้านี้มีความชั่วร้ายเจืออยู่หลายส่วนกู้มั่วหลีเห็นเจี่ยนอันอันจ้องมองตัวเองด้วยท่าทีตื่นตะลึงมุมปากของเขายกโค้ง จุมพิตในฝ่ามือเจี่ยนอันอันอย่างแผ่วเบาเจี่ยนอันอันสะอิดสะเอียนจนเกือบจะอาเจียนออกมานางโยนหน้ากากลงพื้น ขวดยาพิษที่เปิดฝาแล้วปรากฏในมือ“เป็นอย่างไร เคลิบเคลิ้มหลงใหลไปกับใบหน้าของข้าแล้วใช่หรือไม่?”กู้มั่วหลีคิดว่าเจี่ยนอันอันหลงใหลในตัวเอง ภายในดวงตาเย็นยะเยียบของเขาเผยรอยยิ้มออกมาเจี่ยนอันอันมีรอยยิ้มบนใบหน้าเช่นกัน แต่รอยยิ้มนี้กลับเจือด้วยโหดเหี้ยมกระหายเลือดนางกล่าวด้วยรอ
เสียงของกู้มั่วหลีดังขึ้นอีกครั้ง “น้องสาวของเจ้าจะมีชีวิตได้อีกไม่นาน หากเจ้ารีบนักก็ตามไปอยู่เป็นเพื่อนนางเลยเถิด”ขณะที่กู้มั่วหลีพูด แววตาของเขาทอประกายชั่วร้ายเหี้ยมโหดมือของเขาบีบแรงขึ้น บีบจนเจี่ยนอันอันหายใจไม่ออกหนักกว่าเดิมเจี่ยนอันอันกำกริชในมือไว้แน่น เตรียมจะแทงเข้าที่คอของกู้มั่วหลีแต่ในจังหวะนี้เอง จู่ๆ มือที่กำลังบีบคอนางก็คลายออกกู้มั่วหลีก้าวถอยหลังสองสามก้าว มุมปากมีโลหิตสายหนึ่งไหลออกมาเจี่ยนอันอันรีบหายใจสูดอากาศคำโตเมื่อได้รับอิสรภาพครั้นเงยหน้ามองไปทางกู้มั่วหลีก็พบว่าเขาหน้าซีดไม่ต่างจากกระดาษโลหิตที่ไหลออกมาทางมุมปากมีปริมาณมากยิ่งขึ้นดูเหมือนเม็ดยาพิษน่าจะออกฤทธิ์แล้วเจ้าหมอนี่บอกว่ายาพิษใช้ไม่ได้ผลกับตัวเองมิใช่หรือ ตอนนี้คงได้ลิ้มรสความรู้สึกของการถูกพิษร้ายกัดกินแล้วใช่หรือไม่?กู้มั่วหลีกุมหน้าอกกระอักโลหิตอย่างแรงเรียวคิ้วเขาขมวดกันแน่น แววตาฉายแววประหลาดใจหลายปีมานี้ เขาคอยคิดค้นและพัฒนายาพิษอยู่ตลอดเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของยาพิษแล้ว เขาจะทดลองยาพิษทุกตัวที่คิดค้นกับร่างกายตัวเองสามารถพูดได้ว่า เขาฝึกฝนจนมีคุณสมบัติร่างกายที่สา
เจี่ยนหลิงเยว่กัดฟันด้วยความเคียดแค้น ตอนนี้นางเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งร่างจนพูดอะไรไม่ออกสายตาจ้องมองไปทางประตู ทว่ากู้มั่วหลีกลับไม่ปรากฏกายแต่อย่างใดเจี่ยนอันอันรู้ว่าเจี่ยนหลิงเยวี่ยคิดอะไร นางหัวเราะเบาๆ ว่า “กู้มั่วหลีหนีไปแล้ว อย่าหวังว่าเขาจะมาช่วยเจ้า”เจี่ยนอันอันว่าพลางโน้มตัวลงไปตบให้เจี่ยนหลิงเยว่หันหน้ามาจากนั้นโรยผงยาพิษลงบนใบหน้าของเจี่ยนหลิงเยว่ เจี่ยนหลิงเยว่หลบไม่ทัน นางรู้สึกคันบนใบหน้าทันที“กรี๊ด หน้าข้า!” เจี่ยนหลิงเยว่กรีดร้องพลางยกมือขึ้นเกาหน้าอย่างแรงรอยโลหิตหลายรอยปรากฏบนใบหน้าอย่างรวดเร็วเดิมทีเจี่ยนหลิงเยว่ก็เจ็บปวดจนแทบเจียนตายอยู่แล้ว ตอนนี้ยังมาถูกเจี่ยนอันอันโรยผงยาพิษใส่อีกตอนนี้นางแทบจะอยากตายให้พ้นๆ ไปด้วยซ้ำแต่นางจะตายไม่ได้ กว่าจะมาถึงเมืองอินเป่ยไม่ใช่ง่ายๆ แม้แต่ฉู่จวินสิงก็ยังไม่เคยพบ จะยอมตายง่ายแบบนี้ได้อย่างไรเจี่ยนหลิงเยว่ตัวสั่นเทิ้ม นางถลึงตาใส่เจี่ยนอันอัน “เจ้าโรยอะไรใส่ข้ากันแน่?”เจี่ยนอันอันยักไหล่ “ก็ไม่ได้มีอะไร ก็แค่ผงยาพิษที่ข้าคิดค้นขึ้นมาใหม่ ทดลองใช้กับหน้าเจ้าดูว่าได้ผลหรือไม่”ถ้อยคำของเจี่ยนอันอันทำให้เจี่ยน
เมื่อเจี่ยนอันอันปรากฏตัวอีกครั้ง นางก็พบว่าตัวเองไม่ได้กลับมาที่หมู่บ้านชิงสุ่ยแต่อย่างใดแต่มาอยู่ที่อำเภอไถหยางเจี่ยนอันอันไม่เข้าใจ เหตุใดฟังก์ชันเคลื่อนย้ายมวลสสารของนางถึงได้ค่อยๆ เสื่อมประสิทธิภาพเคราะห์ดีที่นางออกจากจวนเป่าจวิ้นได้อย่างรวดเร็ว ไม่ถูกกู้มั่วหลีเจอตัวในตอนนี้เอง เจี่ยนอันอันสังเกตเห็นว่าบรรดาเจ้าหน้าที่ทางการจากที่ว่าการอำเภอเหมือนกำลังตามหาอะไรกันอยู่ครั้นพวกเขาหันมาเห็นเจี่ยนอันอันก็รีบวิ่งเข้ามาหา“แม่นางเจี่ยน ท่านหายไปที่ใดมา พวกข้าตามหากันแทบแย่”บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการหอบหายใจ แต่ละคนถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพียงแค่ตามหาตัวเจี่ยนอันอันพบ พวกเขาก็จะกลับไปรายงานกับท่านนายอำเภอได้แล้วเจี่ยนอันอันรู้ว่าการหายตัวไปอย่างฉับพลันของตัวเองคงทำให้ฉู่จวินสิงออกมาตามหาอีกแล้วเป็นแน่นางกำลังจะพูดอะไรก็ได้ยินเสียงรถม้าในไม่ช้าก็เห็นเงาร่างที่มีทีท่าร้อนใจของฉู่จวินสิงบนรถม้าไม่ได้มีแค่เขาคนเดียว แต่ยังมีพวกจ้าวอู่กับจ้าวลิ่วด้วยดูแล้วการหายตัวไปของนางน่าจะเป็นที่รับรู้ของคนอื่นๆ ในหมู่บ้านชิงสุ่ยเช่นกันทุกคนต่างออกมาช่วยตามหากันหมดเมื่อฉู่จวินสิง
เจี่ยนอันอันยิ้มกล่าว “พรุ่งนี้ข้าก็สามารถไปจากที่นี่ได้แล้ว”ฉู่จวินสิงจึงตัดสินใจค้างคืนกับเจี่ยนอันอันที่นี่เขาไม่อยากกลับไปที่โรงเตี๊ยม ที่นั่นเสียงดังเกินไป บวกกับเขาคิดถึงเจี่ยนอันอันหลายวันที่ผ่านมา เขาไม่ได้นอนหลับเต็มอิ่มเลยฉู่จวินสิงอยู่ค้างคืนด้วยได้ เจี่ยนอันอันย่อมดีใจอยู่แล้วอย่างไรเสียก็คงไม่มีใครบุกเข้ามาในห้องนี้อย่างปุบปับอยู่แล้วพอถึงพรุ่งนี้เช้า ฉู่จวินสิงค่อยทำเหมือนกับว่าเพิ่งมารับเจี่ยนอันอัน คนทั้งสองก็สามารถจากไปพร้อมกันได้แล้วทั้งคู่นอนอยู่บนเตียง เนื่องจากไม่ได้เจอกันหลายวันพวกเขาจึงเริ่มอิงแอบแนบชิดกัน ฉู่จวินสิงออกแรงอย่างนุ่มนวลด้วยกลัวว่าจะกระทบกระเทือนทารกในครรภ์เจี่ยนอันอันหลังเสร็จกิจแล้ว ทั้งคู่ก็สวมกอดกันนอนหลับไปจนถึงเช้าตรู่วันถัดมา ฉู่จวินสิงก็ทำให้ตัวเองล่องหนระหว่างที่เจี่ยนอันอันกำลังทำอาหารอยู่ ฉู่จวินสิงก็มาเคาะประตูเรือนโดยทำเหมือนกับว่าแวะมาเยี่ยมกะทันหันฮวาหลานเอ๋อร์ไปเปิดประตู เห็นว่าฉู่จวินสิงมาแล้ว คราวนี้นางไม่ได้เย็นชาเหมือนครั้งก่อน แต่ยิ้มแฉ่งให้ฉู่จวินสิง“เยียนอ๋องมาหาพี่หญิงเจี่ยนสินะ พี่หญิงเจี่ยนของข้าทำ
“หลังกินข้าวมื้อนี้เสร็จ เจ้าก็ไปจากที่นี่เสียเถอะ สิ่งที่ข้าควรสอนก็สอนไปหมดแล้ว เจ้าไม่มีความจำเป็นต้องพักอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว”ซางหมิงกินข้าวเสร็จอย่างรวดเร็วแล้วลุกขึ้นก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องกินข้าวเจี่ยนอันอันรู้ว่าซางหมิงยังโกรธเรื่องเมื่อเย็นวาน นางเป็นฝ่ายผิดก่อนจึงไม่ได้โกรธเพราะคำพูดของซางหมิงเพื่อชดเชยให้กับเรื่องเมื่อเย็นวาน เจี่ยนอันอันจึงรีบกินข้าวให้เสร็จแล้วไปหาซางหมิงนางมาถึงสถานที่ที่ซางหมิงทำหน้ากากก็เห็นอีกฝ่ายกำลังนั่งทำหน้ากากอยู่ที่โต๊ะเจี่ยนอันอันหยิบยาถอนพิษที่ต้มไว้ตั้งแต่เมื่อเย็นวานออกมาจากในมิติแล้ววางลงตรงหน้าซางหมิง“ผู้วิเศษซาง นี่คือยาถอนพิษที่ข้าต้มเอง ท่านดื่มยานี้ก่อนแล้วข้าค่อยไปก็ยังไม่สาย”ซางหมิงเหลือบมองยาถอนพิษสองถ้วยนั้นแล้วมองไปทางเจี่ยนอันอัน“เจ้าแน่ใจนะว่ายาสองถ้วยนี้สามารถกำจัดพิษในร่างข้าได้?”เห็นเจี่ยนอันอันพยักหน้ายิ้มๆ เขาก็ไม่พูดมาก หยิบถ้วยยาขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ทันทีหลังดื่มยาสองถ้วยนั้นจนหมด ซางหมิงก็รู้สึกว่าพิษในร่างกำลังสลายไปอย่างรวดเร็วบริเวณที่เดิมทียังเจ็บปวดอยู่บ้างก็รู้สึกโล่งสบายหาใดเปรียบ เพราะได้ดื่มยาสอง
เรือนผมที่เคยยาวดกดำ ภายในคืนเดียวมลายหายไปสิ้นเห็นเพียงศีรษะที่โกร๋นโล่งเตียนไม่เหลือแม้แต่ผมเส้นเดียว!เจียงหวยตกใจจนหน้าซีดเผือด พลางทรุดร่างลง ‘โครม’ ที่หน้าพระแท่นมังกรฉู่ชางเหยีนมองดูสีหน้าตกตะลึงของเจียงหวย พลันยิ่งบันดาลโทสะมากขึ้น“เจ้าถูกผีหลอกเข้าหรือไร?”เจียงหวยกลัวจนตัวสั่นงันงก พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ฝ่า...ฝ่าบาท เส้นพระเกศา...”ทันใดนั้นเอง ฉู่ชางเหยียนเพิ่งตระหนักว่าศีรษะเย็นผิดปกติจึงรีบเอามือลูบศีรษะตนเองโดยพลันไม่ลูบยังพอว่า ลูบไปเจอแต่ศีรษะโล้นเลี่ยนนี่สิ!“เกิดเรื่องอันใดขึ้น ผมของข้าเล่า? บังอาจนัก ผู้ใดมาโกนผมของข้าไปหมด?”“ทหาร รีบไปจับคนที่เมื่อคืนแอบเข้ามาในตำหนักข้า ข้าจะจับมากุดหัวเสีย แล้วถลกหนังมันด้วย”เจียงหวยหัวใจหล่นไปถึงตาตุ่ม เคราะห์ดีเมื่อคืนเขาไม่ได้ถวายงานอยู่ในตำหนักหลงเหอแต่ไปเลี้ยงอาหารนกแร้งสองตัวนั้น กว่าจะป้อนจนอิ่มหนำก็ค่ำมืดเต็มทีเขาเห็นว่าดึกมากแล้ว จึงมิได้กลับเข้าตำหนักหลงเหออีก ด้วยเกรงว่าจะรบกวนการบรรทมของฮ่องเต้ปรากฏว่าเพียงคืนเดียวที่เขาไม่ได้อยู่ถวายงาน กลับเกิดเรื่องใหญ่โตเช่นนี้ขึ้นเขากลัวว่าถ้าฮ
เมื่อเจี่ยนอันอันดูถึงตรงนี้ มุมปากได้เหยียดขึ้นนานแล้วนางเห็นเจี่ยนกั๋วกงหน้าไม่อายผู้นั้น เมื่อถูกฮ่องเต้ตวาดเข้า ก็ทำตัวหงอ หดคอราวกับลูกเต่าตัวหนึ่งเป็นสิ่งที่นางรู้สึกสะใจยิ่ง!เจี่ยนกั๋วกงยังคิดเอาหน้าต่อหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้ คิดจะให้ส่งคนไปสืบสวนครอบครัวฉู่จวินสิงที่อยู่ในเมืองอินเป่ยอีกสุดท้ายลูกคิดรางแก้วของเขาก็พังทลาย ซ้ำยังถูกฮ่องเต้ชั่วด่าใส่หน้าอีก!เจี่ยนอันอันยังคิดว่าเจี่ยนกั๋วกงถูกด่าเบาไปด้วยซ้ำ ฮ่องเต้ชั่วน่าจะลงโทษฐานสร้างความวุ่นวายใจแก่เบื้องบนอีกกระทงหนึ่งเพราะอย่างไรก็ล้วนมิใช่คนดีทั้งคู่ ตายคนหนึ่งแผ่นดินจะได้สูงขึ้นบ้างแต่เสียดายฮ่องเต้ชั่วกลับมิได้ทำเช่นนั้น ข้อนี้ทำให้เจี่ยนอันอันอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าและถอนหายใจ“หากตอนนี้ข้าเป็นฮ่องเต้ชั่วนั่น คงไม่ปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่ต่อไปแน่”หลังจากเจี่ยนอันอันแอบแช่งชักหักกระดูกในใจ พลันนึกไปถึงนกแร้งสองตัวนั้นตอนที่นางกับฉู่จวินสิงสังหารอิ่นเจียงนั้น ก็เคยเห็นนกแร้งสองตัวนี้แต่ไม่คิดว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงของฉู่ชางเหยียนที่อยู่ในวังหลวงคราวก่อนที่ๆ พวกมันปรากฏตัว คงถูกฉู่ชางเหยียนส่งให้ไปสังเกตความเค
ฉู่ชางเหยียนหันมาทางเจี่ยนกั๋วกงต่อ น้ำเสียงเย็นชา “ท่านบอกว่าฉู่จวินสิงยังไม่ตาย แล้วนี่จะอธิบายอย่างไร?”เจี่ยนกั๋วกงรู้ดีว่า ฉู่ชางเหยียนได้เลี้ยงนกแร้งไว้สองตัวเมื่อครู่ขณะเห็นนก เขายังนึกว่าพวกมันคงหิวในเวลาค่ำคืน จึงออกมาหากินที่ไหนได้ แท้จริงแล้วพวกมันถูกฉู่ชางเหยียนส่งไปเมืองอินเป่ยต่างหากแม้แต่นกแร้งสองตัวนี้ยังยืนยันว่าครอบครัวฉู่จวินสิงได้เสียชีวิต แล้วเขาก็ไม่มีหลักฐานที่จะพิสูจน์ข้อสันนิษฐานของตนเองจึงหวาดกลัวจนรู้สึกขนหัวลุกชัน พร้อมรีบคุกเข่าลง“ทูลฝ่าบาท กระหม่อมเพียงสงสัยว่าฉู่จวินสิงและครอบครัวยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่มีหลักฐานยืนยัน ขอฝ่าบาททรงอภัยด้วย”ฉู่ชางเหยียนทำเสียงฮึในลำคอ พลางตะโกนไปยังด้านนอก “ใครก็ได้!”ไม่นานจึงมีองครักษ์ผู้หนึ่งเข้ามา“ไปตามอิ่นเจียงมาพบข้า ข้าจะถามเขาให้รู้”องครักษ์รับบัญชา พร้อมรีบถอยออกไปเจี่ยนกั๋วกงยังคงคุกเข่าอยู่ที่เดิม ในใจไม่สู้สบายนักถ้าอิ่นเจียงมาถึง พร้อมกล่าวยืนยันอีกครั้งว่าตนได้สังหารฉู่จวินสิงและครอบครัวไปแล้วจริงๆแล้วเขาจะทำอย่างไรให้ฮ่องเต้ทรงเชื่อในคำสันนิษฐานของเขาได้?ซ้ำยังมีความรู้สึกว่า เรื่องนี้อ
เขารู้ว่าขุนนางกลุ่มนี้มิได้เห็นตนถูกปลดเป็นสามัญชน ซ้ำยังถูกเนรเทศไปอยู่เมืองอินเป่ย จนเลือกที่จะสวามิภักดิ์ต่อฉู่ชางเหยียนแต่กลับวางแผนเงียบๆ ว่าจะล้างมลทินให้ตนได้อย่างไร เพื่อให้กลับมาเมืองจิงโจวอีกครั้ง ครองตำแหน่งเยียนอ๋องตามเดิมฉู่จวินสิงรู้สึกปลื้มใจยิ่ง เขาคิดว่าตนดูคนไม่ผิด ขุนนางเหล่านี้มีความภักดีที่จะอยู่กับเขาอย่างจริงใจเพียงแต่ฐานะเขาตอนนี้ยังไม่เหมาะจะเผยตัว จึงมิได้ปรากฏตัวให้เหล่าขุนนางได้เห็นฉู่จวินสิงด้านหนึ่งเป็นห่วงเจี่ยนอันอัน อีกด้านก็นึกถึงอนาคตว่าจะบุกเข้าเมืองจิงโจวได้อย่างไรและขุนนางเหล่านั้นต่างก็มีกำลังทหารอยู่ในมือรอจนเขากลับไปจิงโจวเมื่อใด จะเป็นเวลาที่จะได้ชิงอำนาจกลับคืนมาอีกครั้ง......เจี่ยนอันอันมองดูยาในหม้อที่ต้มเสร็จแล้ว จึงรินเอาน้ำออกมา ส่วนกากยาถูกเททิ้งไปยาสองชามนี้เพียงพอที่จะขจัดพิษในตัวซางหมิงได้หมดนางนำยาไปเก็บไว้ในห้วงมิติ รอเพียงพรุ่งนี้เช้าซางหมิงตื่นมา ก็จะให้เขาดื่มเจี่ยนอันอันกลับเข้าห้องนอน พร้อมนำแว่นตาล่องหนออกมาใส่ไม่นานจึงมองเห็นฉู่ชางเหยียนนั่งอยู่ในห้องทรงอักษรและในห้องนั้นไม่เพียงมีฉู่ชางเหยียนกับมหา
เป็นครั้งแรกที่ฮวาหลานเอ๋อร์ได้เห็นโจ๊กแปดสมบัติ นางมองดูกระป๋องนั้นด้วยความแปลกใจ ไม่รู้ว่าควรจะเปิดอย่างไรดีเจี่ยนอันอันตบหน้าผากตนเอง พลันฝากระป๋องจึงเปิดออกง่ายดาย นำช้อนที่อยู่ข้างในกางออกเรียบร้อย พร้อมส่งให้ฮวาหลานเอ๋อร์“นี่ก็คือโจ๊กแปดสมบัติ รสชาติหอมหวาน แม้จะเย็นชืดไปบ้าง แต่กินไม่ยาก”เจี่ยนอันอันกล่าวพลาง ยื่นโจ๊กให้แก่ฮวาหลานเอ๋อร์ฮวาหลานเอ๋อร์ได้กลิ่นหอมของโจ๊กมาเตะจมูก จึงรีบตักเข้าปากเร็วพลันรสชาติหอมหวานและเนียนนุ่ม อบอวลอยู่ในปากนางทันที“พี่เจี่ยน โจ๊กแปดสมบัตินี้ช่างอร่อยจริง”ฮวาหลานเอ๋อร์กล่าวพลาง รีบอ้าปากกินแล้วกินอีกไม่นานโจ๊กแปดสมบัติทั้งกระป๋องก็ถูกนางกินหมดเกลี้ยงนางมิได้ถามเจี่ยนอันอันเอาโจ๊กชนิดนี้มาจากที่ใด คิดแต่ว่าเจี่ยนอันอันคงจะทำเอง“อิ่มแล้วก็กลับไปพักผ่อนเสีย ข้าอยู่ทางนี้ยังต้องต้มยาอีกสักพัก”เจี่ยนอันอันไม่ต้องการให้ฮวาหวานเอ๋อร์มาอยู่ข้างกาย เพราะเป็นเด็กอายุยังน้อย ต้องการการพักผ่อนอย่างเต็มที่ฮวาหลานเอ๋อร์ยิ้มให้เจี่ยนอันอันอย่างมีความสุข พลางยืนขึ้นแล้วกระโดดโลดเต้นเดินจากไปเจี่ยนอันอันอยู่ในครัวต้มยาต่อไปอีก จากนั้นจึงร
แน่นอนว่าซางหมิงไม่เชื่อคำพูดของเจี่ยนอันอันเพราะสมัยก่อนกู้มั่วหลีได้วางยาพิษในร่างของเขาไม่น้อย แต่กลับไม่ต้องการให้เขาถูกพิษจนเสียชีวิตทุกครั้งที่เห็นเขาทุกข์ทรมานด้วยยาพิษ มักบอกว่าพิษนั้นยังไม่เพียงพอกู้มั่วหลีคล้ายคนเสียสติ แทนที่จะใช้ร่างกายเขาหาวิธีถอนพิษ กลับใช้เป็นที่ลองยามากขึ้นอีกซึ่งทำให้ซางหมิงถูกทรมานไม่หยุดหย่อนบัดนี้เจี่ยนอันอันกลับบอกว่าพิษในตัวเขาสามารถถอนได้ เพียงแค่ลมปากลอยๆ เขาย่อมไม่เชื่อแน่นอนแม้ว่านางจะมีความกล้าเหนือผู้อื่น ถึงขั้นติดตามฉู่จวินสิงกลับมาเมืองจิงโจวอีกครั้งแต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่า นางจะสามารถขจัดพิษในร่างกายของเขาได้อีกทั้งเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน ว่าพระชายาเยียนอ๋องรู้วิชาแพทย์ด้วย“ข้าว่าพระชายาเชิญกลับไปเสียดีกว่า ข้าต้องการพักผ่อน” ซางหมิงกล่าวพร้อมกับเอนกายลง “ก่อนออกไปอย่าลืมเป่าเทียนให้ดับด้วย”เจี่ยนอันอันเบะปากเล็กน้อย ถ้าตอนนี้เป็นผู้อื่น นางไม่สนใจนานแล้วแต่หลายวันนี้ซางหมิงสอนให้นางได้เรียนรู้หลายอย่าง จึงไม่อยากจากไปง่ายๆ เช่นนี้เจี่ยนอันอันกล่าวตอบเสียงเบา “ถ้าเช่นนั้นท่านพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ข้าจะถอนพิษในตัวให้”เจ
ซางหมิงได้ยินดังนี้กลับทำเสียงฮึในลำคอ สองมือกำเป็นหมัดแน่น“หากข้าเป็นพี่น้องกับกู้มั่วหลีจริง คนแรกที่จะเอาชีวิตก็คือมัน!”เจี่ยนอันอันขมวดคิ้วมุ่น เห็นทีซางหมิงก็น่าจะรู้จักกู้มั่วหลีเช่นกันและระหว่างเขากับกู้มั่วหลี ก็น่าจะมีเรื่องบาดหมางด้วยแต่ถ้าเขาไม่ใช่กู้มั่วหลี ก็อาจพูดง่ายขึ้นสักหน่อยซางหมิงเห็นเจี่ยนอันอันยังคงยืนเฉยอยู่ที่เดิม จึงกล่าวด้วยสีหน้าบึ้งตึง “ยังไม่รีบไปอีก จะให้ข้าเฉดหัวเจ้าหรืออย่างไร?”เจี่ยนอันอันแม้จะรู้สึกขัดแย้งในใจ แต่นางยังไม่ต้องการไปจากที่นี่เร็วนักจึงรีบร้อนกล่าวอธิบาย “ท่านผู้วิเศษซาง ที่ข้าพบว่าท่านผ่านการแปลงโฉมมา ก็ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ต้องการดูใบหน้าที่แท้จริงของท่าน”“แต่มิคาดฝันว่าท่านจะมีใบหน้าคล้ายคลึงกับศัตรูของข้ากู้มั่วหลี่ถึงเพียงนี้”“เมื่อครู่ที่ล่วงเกินไป ต้องขออภัยด้วย”เจี่ยนอันอันกล่าวพลางโค้งคำนับให้แก่ซางหมิงซางหมิงจึงเพิ่งเข้าใจว่าที่แท้เจี่ยนอันอันก็เหมือนเขา มีความแค้นกับกู้มั่วหลีเขากล่าวพร้อมกัดฟันกรอด “เจ้ากู้มั่วหลียังมีชีวิตอยู่ สวรรค์ช่างลำเอียงโดยแท้!”เมื่อเจี่ยงอันอันเห็นซางหมิงโกรธแค้นต่อกู้มั่ว