เจี่ยนหลิงเยว่ยืนอยู่ด้านนอก นางทาบหูกับประตูเพื่อแอบฟังบทสนทนาด้านในแต่เสียงพูดของทั้งสองคนเบามาก นางไม่ได้ยินอะไรแม้แต่คำเดียวในตอนนี้เอง ประตูห้องได้เปิดออกเมื่อประตูเปิดออก ร่างกายของเจี่ยนหลิงเยว่ก็เซเข้าสู่อ้อมอกของกู้มั่วหลีเพราะเสียการทรงตัวเจี่ยนหลิงเยว่รีบผละออกจากร่างเขาด้วยความตกใจ นางก้มหน้าอธิบายว่า “คุณชายกู้ ข้าเพียงอยากรู้เท่านั้นว่าท่านจะออกมาเมื่อไร ไม่ได้แอบฟังแม้แต่น้อย”กู้มั่วหลีดึงมือเจี่ยนหลิงเยว่และพานางออกจากที่นี่เจี่ยนหลิงเยว่คิดว่าตัวเองจะถูกกู้มั่วหลีดุด่า นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายไม่ได้โกรธเคืองแต่อย่างใดนางลอบยินดีในใจ ดูแล้วกู้มั่วหลีคงประทับใจในความงามของนางเป็นแน่แล้วตอนนี้เขามีแต่จะทะนุถนอมนางด้วยซ้ำ จะดุด่าลงได้อย่างไรกู้มั่วหลีไม่ได้พูด ทว่าความเย็นยะเยียบภายในแววตาเขากลับเพิ่มขึ้นหลายส่วนทั้งที่เกิดจากบิดาคนเดียวกันแท้ๆ ทว่าอุปนิสัยของทั้งสองคนกลับต่างกันราวฟ้ากับเหวเขาชอบหญิงสาวแบบเจี่ยนอันอัน ทุกครั้งที่พบกันจะต้องปากคอเราะร้ายเสมอ ไม่เคยแสดงความอ่อนแอผิดกับเจี่ยนหลิงเยว่ที่แสร้งทำตัวใสซื่อไร้เดียงสาทั้งยังคิดว่าตัวเองงดงามปา
เขาจ้องมองเจี่ยนอันอันอยู่สองสามวินาทีก่อนจะปล่อยตัวนาง“ในเมื่ออยากเห็นหน้าตาของข้ามากขนาดนั้น เช่นนั้นเจ้าก็ช่วยถอดหน้ากากให้ข้าเองเถอะ”เจี่ยนอันอันใช้มือข้างหนึ่งปิดปากกู้มั่วหลี ไม่อยากให้เขาฉวยโอกาสจุมพิตนางแต่มืออีกข้างกำลังถือขวดยาพิษไว้อยู่ หากจะถอดหน้ากากก็ต้องเก็บขวดยาพิษก่อนเจี่ยนอันอันลังเลครู่หนึ่ง ตัดสินใจเก็บขวดยาพิษกลับสู่ห้วงมิตินางถอดหน้ากากของกู้มั่วหลีอย่างรวดเร็วด้วยมือข้างเดียวดวงหน้าที่หล่อเหลาจนปวงชนทั่วหล้าต้องตกตะลึงปรากฏสู่สายตาของเจี่ยนอันอันแต่ดวงหน้านี้มีความชั่วร้ายเจืออยู่หลายส่วนกู้มั่วหลีเห็นเจี่ยนอันอันจ้องมองตัวเองด้วยท่าทีตื่นตะลึงมุมปากของเขายกโค้ง จุมพิตในฝ่ามือเจี่ยนอันอันอย่างแผ่วเบาเจี่ยนอันอันสะอิดสะเอียนจนเกือบจะอาเจียนออกมานางโยนหน้ากากลงพื้น ขวดยาพิษที่เปิดฝาแล้วปรากฏในมือ“เป็นอย่างไร เคลิบเคลิ้มหลงใหลไปกับใบหน้าของข้าแล้วใช่หรือไม่?”กู้มั่วหลีคิดว่าเจี่ยนอันอันหลงใหลในตัวเอง ภายในดวงตาเย็นยะเยียบของเขาเผยรอยยิ้มออกมาเจี่ยนอันอันมีรอยยิ้มบนใบหน้าเช่นกัน แต่รอยยิ้มนี้กลับเจือด้วยโหดเหี้ยมกระหายเลือดนางกล่าวด้วยรอ
เสียงของกู้มั่วหลีดังขึ้นอีกครั้ง “น้องสาวของเจ้าจะมีชีวิตได้อีกไม่นาน หากเจ้ารีบนักก็ตามไปอยู่เป็นเพื่อนนางเลยเถิด”ขณะที่กู้มั่วหลีพูด แววตาของเขาทอประกายชั่วร้ายเหี้ยมโหดมือของเขาบีบแรงขึ้น บีบจนเจี่ยนอันอันหายใจไม่ออกหนักกว่าเดิมเจี่ยนอันอันกำกริชในมือไว้แน่น เตรียมจะแทงเข้าที่คอของกู้มั่วหลีแต่ในจังหวะนี้เอง จู่ๆ มือที่กำลังบีบคอนางก็คลายออกกู้มั่วหลีก้าวถอยหลังสองสามก้าว มุมปากมีโลหิตสายหนึ่งไหลออกมาเจี่ยนอันอันรีบหายใจสูดอากาศคำโตเมื่อได้รับอิสรภาพครั้นเงยหน้ามองไปทางกู้มั่วหลีก็พบว่าเขาหน้าซีดไม่ต่างจากกระดาษโลหิตที่ไหลออกมาทางมุมปากมีปริมาณมากยิ่งขึ้นดูเหมือนเม็ดยาพิษน่าจะออกฤทธิ์แล้วเจ้าหมอนี่บอกว่ายาพิษใช้ไม่ได้ผลกับตัวเองมิใช่หรือ ตอนนี้คงได้ลิ้มรสความรู้สึกของการถูกพิษร้ายกัดกินแล้วใช่หรือไม่?กู้มั่วหลีกุมหน้าอกกระอักโลหิตอย่างแรงเรียวคิ้วเขาขมวดกันแน่น แววตาฉายแววประหลาดใจหลายปีมานี้ เขาคอยคิดค้นและพัฒนายาพิษอยู่ตลอดเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของยาพิษแล้ว เขาจะทดลองยาพิษทุกตัวที่คิดค้นกับร่างกายตัวเองสามารถพูดได้ว่า เขาฝึกฝนจนมีคุณสมบัติร่างกายที่สา
เจี่ยนหลิงเยว่กัดฟันด้วยความเคียดแค้น ตอนนี้นางเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งร่างจนพูดอะไรไม่ออกสายตาจ้องมองไปทางประตู ทว่ากู้มั่วหลีกลับไม่ปรากฏกายแต่อย่างใดเจี่ยนอันอันรู้ว่าเจี่ยนหลิงเยวี่ยคิดอะไร นางหัวเราะเบาๆ ว่า “กู้มั่วหลีหนีไปแล้ว อย่าหวังว่าเขาจะมาช่วยเจ้า”เจี่ยนอันอันว่าพลางโน้มตัวลงไปตบให้เจี่ยนหลิงเยว่หันหน้ามาจากนั้นโรยผงยาพิษลงบนใบหน้าของเจี่ยนหลิงเยว่ เจี่ยนหลิงเยว่หลบไม่ทัน นางรู้สึกคันบนใบหน้าทันที“กรี๊ด หน้าข้า!” เจี่ยนหลิงเยว่กรีดร้องพลางยกมือขึ้นเกาหน้าอย่างแรงรอยโลหิตหลายรอยปรากฏบนใบหน้าอย่างรวดเร็วเดิมทีเจี่ยนหลิงเยว่ก็เจ็บปวดจนแทบเจียนตายอยู่แล้ว ตอนนี้ยังมาถูกเจี่ยนอันอันโรยผงยาพิษใส่อีกตอนนี้นางแทบจะอยากตายให้พ้นๆ ไปด้วยซ้ำแต่นางจะตายไม่ได้ กว่าจะมาถึงเมืองอินเป่ยไม่ใช่ง่ายๆ แม้แต่ฉู่จวินสิงก็ยังไม่เคยพบ จะยอมตายง่ายแบบนี้ได้อย่างไรเจี่ยนหลิงเยว่ตัวสั่นเทิ้ม นางถลึงตาใส่เจี่ยนอันอัน “เจ้าโรยอะไรใส่ข้ากันแน่?”เจี่ยนอันอันยักไหล่ “ก็ไม่ได้มีอะไร ก็แค่ผงยาพิษที่ข้าคิดค้นขึ้นมาใหม่ ทดลองใช้กับหน้าเจ้าดูว่าได้ผลหรือไม่”ถ้อยคำของเจี่ยนอันอันทำให้เจี่ยน
เมื่อเจี่ยนอันอันปรากฏตัวอีกครั้ง นางก็พบว่าตัวเองไม่ได้กลับมาที่หมู่บ้านชิงสุ่ยแต่อย่างใดแต่มาอยู่ที่อำเภอไถหยางเจี่ยนอันอันไม่เข้าใจ เหตุใดฟังก์ชันเคลื่อนย้ายมวลสสารของนางถึงได้ค่อยๆ เสื่อมประสิทธิภาพเคราะห์ดีที่นางออกจากจวนเป่าจวิ้นได้อย่างรวดเร็ว ไม่ถูกกู้มั่วหลีเจอตัวในตอนนี้เอง เจี่ยนอันอันสังเกตเห็นว่าบรรดาเจ้าหน้าที่ทางการจากที่ว่าการอำเภอเหมือนกำลังตามหาอะไรกันอยู่ครั้นพวกเขาหันมาเห็นเจี่ยนอันอันก็รีบวิ่งเข้ามาหา“แม่นางเจี่ยน ท่านหายไปที่ใดมา พวกข้าตามหากันแทบแย่”บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการหอบหายใจ แต่ละคนถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพียงแค่ตามหาตัวเจี่ยนอันอันพบ พวกเขาก็จะกลับไปรายงานกับท่านนายอำเภอได้แล้วเจี่ยนอันอันรู้ว่าการหายตัวไปอย่างฉับพลันของตัวเองคงทำให้ฉู่จวินสิงออกมาตามหาอีกแล้วเป็นแน่นางกำลังจะพูดอะไรก็ได้ยินเสียงรถม้าในไม่ช้าก็เห็นเงาร่างที่มีทีท่าร้อนใจของฉู่จวินสิงบนรถม้าไม่ได้มีแค่เขาคนเดียว แต่ยังมีพวกจ้าวอู่กับจ้าวลิ่วด้วยดูแล้วการหายตัวไปของนางน่าจะเป็นที่รับรู้ของคนอื่นๆ ในหมู่บ้านชิงสุ่ยเช่นกันทุกคนต่างออกมาช่วยตามหากันหมดเมื่อฉู่จวินสิง
เจี่ยนอันอันไม่รู้ว่าบริเวณคอที่ถูกกู้มั่วหลีบีบได้กลายเป็นสีดำเมื่อความรู้สึกชาเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เจี่ยนอันอันก็รู้สึกหายใจไม่ออกเวลานี้ รถม้าได้เดินทางมาถึงเนินเขาสือหลี่เจี่ยนอันอันหายใจคำโต อยากให้ความความรู้สึกหายใจไม่ออกเช่นนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็วฉู่จวินสิงสังเกตเห็นอาการผิดปกติของเจี่ยนอันอัน เขารีบคว้าแขนทั้งสองข้างของนาง“อันอัน เจ้าเป็นอะไร?”เจี่ยนอันอันอยากพูด แต่นางกลับพบว่าตัวเองเปล่งเสียงอะไรไม่ออกนางนำยาถอนพิษออกมาจากห้วงมิติด้วยมือสั่นเทิ้ม ขณะที่กำลังจะใส่เข้าปากก็รู้สึกว่าภาพเบื้องหน้ามืดดับเจี่ยนอันอันสบถในใจ นางนั้นวูบหมดสติไปยาเม็ดที่อยู่ในมือกลิ้งออกจากรถม้าไม่มีผู้ใดมองเห็นยาถอนพิษเม็ดนั้น ทุกคนตื่นตกใจกับอาการของเจี่ยนอันอัน“อันอัน!”“แม่นางเจี่ยน!”ทุกคนบนรถม้ารู้สึกตกใจกับอาการของเจี่ยนอันอันทุกคนร้องเรียกชื่อของเจี่ยนอันอัน ทว่านางกลับไม่ตอบสนองแม้แต่น้อยฉู่จวินสิงตะโกนด้วยความร้อนใจ “เลี้ยวกลับ กลับไปที่อำเภอไถหยาง”เหยียนเซ่าซึ่งรับหน้าที่ขับรถม้าเห็นเจี่ยนอันอันหมดสติก็เลี้ยวรถม้ากลับไปทางอำเภอไถหยางทันทีหัวใจของฉู่จวินสิงกระด
ฉู่จวินสิงก้าวเท้าเร็วรี่เข้ามายืนตรงหน้าถังหมิงเซวียน เอ่ยด้วยน้ำเสียงร้อนรนว่า “คุณชายถัง เจ้ารีบดูเถิดว่าอันอันเป็นอะไรไป?”ถังหมิงเซวียนมองเจี่ยนอันอันที่อยู่ในอ้อมแขนของฉู่จวินสิง เห็นนางหลับตาสนิท ใบหน้าซีดเซียว ริมฝีปากดำคล้ำแม้แต่บริเวณลำคอของนาง ยังปรากฏรอยดำปื้นใหญ่ถังหมิงเซวียนรู้ได้ทันทีว่าเจี่ยนอันอันถูกพิษร้ายแรง“รีบอุ้มนางไปห้องของข้าเร็วเข้า”ถังหมิงเซวียนกล่าวจบก็วิ่งขึ้นบันไดไปยังชั้นสองฉู่จวินสิงรีบตามไปติด ๆ ส่วนคนอื่น ๆ ต่างรออยู่หน้าโรงเตี๊ยม“อันอันเป็นอะไรไป?”เมื่อเข้าไปในห้อง ฉู่จวินสิงจึงวางเจี่ยนอันอันลงบนเตียงใบหน้าของเขาฉายแววร้อนรน หวังให้ผู้ที่หมดสติในยามนี้เป็นตัวเขาเอง ไม่ใช่เจี่ยนอันอันถังหมิงเซวียนตรวจชีพจรของเจี่ยนอันอัน เมื่อสัมผัสได้ถึงพิษในร่างของนางที่กำลังคืบคลานเข้าสู่หัวใจเขารีบหันไปบอกฉู่จวินสิงให้ออกไป เขาต้องรักษาเจี่ยนอันอันทันทีฉู่จวินสิงไม่ยอมออกไปอย่างเด็ดขาด เจี่ยนอันอันคือภรรยาของเขา เขาต้องการเห็นเจี่ยนอันอันฟื้นขึ้นมาด้วยตาของตนเองถังหมิงเซวียนเห็นฉู่จวินสิงไม่ยอมออกไป เขาจึงได้แต่กล่าวอย่างอ่อนใจว่า “ตอนนี้แม
ระหว่างทางไปยังร้านขายยา ถังหมิงเซวียนกลับครุ่นคิดในใจว่า ผู้ใดกันแน่ที่ลงมือกับเจี่ยนอันอันด้วยพิษร้ายแรงเช่นนี้?พิษนี้มีลักษณะเฉพาะที่ซับซ้อน หากไม่สามารถหาสมุนไพรชั้นเลิศได้ เกรงว่าคงไม่อาจรักษาเจี่ยนอันอันได้โชคดีที่ก่อนออกจากบ้าน เขาพกเงินติดตัวมาบ้างหากซื้อสมุนไพรชั้นเลิศ เงินที่เขามีก็เพียงพอ แต่จะหมดเกลี้ยงในทันทีเขาทำได้เพียงช่วยเจี่ยนอันอันให้รอดชีวิตก่อน แล้วค่อยขอค่ายาจากนางในภายหลังถังหมิงเซวียนมาถึงร้านขายยาแห่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว เขากระโดดลงจากม้าแล้วรีบเดินเข้าไปในร้านไม่นานนัก เขาก็เดินออกมาด้วยความจนใจเขาเอ่ยถามถึงสมุนไพรชั้นเลิศหลายชนิดที่ต้องการกับเถ้าแก่ กลับได้รับเพียงการส่ายหน้า“ร้านของข้าขายแต่สมุนไพรทั่วไป ไม่มีสมุนไพรชั้นเลิศพวกนั้นที่ท่านกล่าวถึง” ถังหมิงเซวียนเดินเข้าร้านขายยาอีกสองสามแห่งติดต่อกัน แต่ก็ยังหาซื้อไม่ได้เขาลูบที่ใบหน้าม้าเบา ๆ แล้วกระซิบที่ข้างหูมันว่า “วันนี้คงต้องลำบากเจ้าให้วิ่งทางไกลสักหน่อยแล้ว”ถังหมิงเซวียนพูดพลางขึ้นขี่หลังม้า มุ่งหน้าไปยังตัวเมืองเขาจำได้ว่าเมื่อครั้งก่อนที่ไปยังตัวเมืองเพื่อตามหาหญิงสาวที่หนีงานแ
บุรุษผู้นั้นได้ยินว่าคนที่บ้านกินยารักษาโรคเฉพาะทางเรียบร้อยแล้วถึงค่อยเบาใจลงหลังจากที่จ่ายเงินห้าสิบตำลึงเพื่อซื้อยา เขาก็โยนเข้าปากทันทีเขารู้สึกสบายตัวและผ่อนคลายลงไม่น้อยหลังจากกินยาแม้แต่ความเจ็บปวดที่ข้อมือก็บรรเทาลงใบหน้าของเขาค่อยๆ เผยรอยยิ้มออกมา เขามองเจี่ยนอันอันอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อยไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดีเมื่อครู่นี้เขาคิดว่าเจี่ยนอันอันจะทำร้ายตัวเองนึกไม่ถึงว่าตัวเองเพียงแค่ต้องจ่ายเงินห้าสิบตำลึงก็จะซื้อยาที่มหัศจรรย์ขนาดนี้ได้แล้วคราวนี้ดีเลย ครอบครัวของเขาจะได้ไม่ต้องเดินทางไปมาให้เหน็ดเหนื่อยอีกแต่ถึงกระนั้น เขาก็ไม่คิดที่จะเหยียนซวงกับเหยียนอวี่อยู่ที่นี่ต่ออยู่ดีอย่างไรเขาก็ไม่ได้รู้จักสองคนนี้ ถ้าให้ทั้งคู่อยู่ที่นี่ต่อ หากวันหน้าเกิดอะไรขึ้น เขาก็ต้องเดินทางมาไล่คนเหมือนเดิมน้ำเสียงที่เขาใช้ต่อเหยียนซวงสุภาพขึ้นมาก“แม่นางท่านนี้ รบกวนให้ท่านกับน้องชายย้ายออกจากที่นี่โดยเร็วด้วยเถิด”เหยียนซวงหันไปมองเจี่ยนอันอัน แววตาทอประกายขอความช่วยเหลือเจี่ยนอันอันไม่อยากทำให้บุรุษผู้นี้ลำบากใจ เพราะถึงอย่างไรแล้วที่นี่ก็เป็นบ้านของเขา เขามีสิทธิ์ไล่
เจี่ยนอันอันนึกว่าที่บ้านของเหยียนซวงมีแขก แต่ฟังจากบทสนทนาแล้ว เหมือนว่าบุรุษผู้นี้จะเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ขณะที่กำลังจะเอ่ยปากถามก็ได้ยินเหยียนซวงพูดอ้ำๆ อึ้งๆ ว่า “อันอัน ข้าขอร้องอะไรหน่อยได้หรือไม่?”เจี่ยนอันอันมีความคิดในใจ แต่นางยังไม่ทันพูดก็ได้ยินเหยียนซวงพูดต่อ “ท่านนี้คือเจ้าของบ้าน เขากลับมาจากตัวเมือง”“เขาต้องการให้ข้ากับเหยียนอวี่ย้ายออกจากที่นี่โดยเร็วที่สุด ตอนนี้พวกเราสองคนไม่มีที่ไปแล้ว”“ข้าอยากขอร้องให้ช่วยหาที่อยู่ในหมู่บ้านชิงสุ่ยให้ข้ากับเหยียนอวี่ได้หรือไม่?”เจี่ยนอันอันได้ยินว่าบุรุษผู้นี้กลับมาจากตัวเมืองก็เดินเข้าไปคว้าข้อมืออีกฝ่ายทันที“ทำอะไรของเจ้า?” บุรุษผู้นี้ตกใจกับการกระทำของเจี่ยนอันอันเขาจะชักมือตัวเองกลับแต่กลับถูกเจี่ยนอันอันคว้าแน่นกว่าเดิม“ถ้าไม่อยากตายก็อย่าขยับ” เจี่ยนอันอันเพิ่มแรงบีบที่มือในขณะที่พูดเดิมทีบุรุษผู้นี้ก็ไม่มีศิลปะการต่อสู้ ครั้นถูกเจี่ยนอันอันบีบเช่นนี้ก็รู้สึกเจ็บจนกลั้นเสียงร้องโหยหวนไม่อยู่หยาดเหงื่อเม็ดเย็นผุดขึ้นบนหน้าผากเขาเจ็บจนต้องร้องขอความเมตตา “แม่นางรีบปล่อยมือเถิด ข้อมือข้าจะหักอยู่แล้ว”เจี
ตอนแรกเจี่ยนอันอันอยากใช้ฟังก์ชันเคลื่อนย้ายมวลสสารเพื่อไปหากู้มั่วหลีแต่แล้วนางกลับต้องพบว่าประสิทธิภาพของฟังก์ชันนี้เสื่อมถอยลงอีกครั้งด้วยเหตุนี้จึงได้แต่เดินตามหาภายในจวนเป่าจวิ้นอันกว้างขวางด้วยกันกับฉู่จวินสิง ภายในห้องที่นางเข้าไปก่อนหน้านี้ บัดนี้ว่างเปล่าไร้ซึ่งผู้ใดทั้งสองคนตามหาจนทั่วแต่ก็ไม่พบกู้มั่วหลีแต่อย่างใดแม้แต่เจี่ยนหลิงเยว่ก็หายไปด้วยทั้งสองคนค้นหาภายในจวนเป่าจวิ้นทั่วทุกซอกทุกมุม กระนั้นก็ยังไม่พบร่องรอยของกู้มั่วหลีอยู่ดีเจี่ยนอันอันขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความแค้นเคือง เจ้ากู้มั่วหลีบ้านี่หนีไปอีกแล้วนางเดินตามฉู่จวินสิงออกไปด้วยสีหน้าเดือดดาล ทั้งสองคนกลับไปที่รถม้าและมุ่งหน้าสู่อำเภอไถหยางครั้นมาถึงจี้เฉ่าถัง เจี่ยนอันอันก็ให้สวีจงฉือลงจากรถม้าให้เขากลับไปดูแลจี้เฉ่าถัง ส่วนที่อำเภอไถหยางนั้น เขาไม่จำเป็นต้องไปที่นั่นอีกเดิมทีสวีจงฉือคิดว่าจะได้อยู่กับเจี่ยนอันอันนานกว่านี้ นึกไม่ถึงว่าเจี่ยนอันอันจะให้เขาลงจากรถม้าไวเช่นนี้ แต่ถึงแม้ภายในใจจะไม่เต็มใจมากเพียงใด เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรทั้งนั้น“แม่นางเจี่ยน ท่านจะเข้าไปดูด้านในจี้เฉ่าถังหน่
เจี่ยนอันอันถูกเจี่ยงตงเฉิงจ้องจนรู้สึกไม่พอใจเอามากๆนางแค่นเสียงเย็นเอ่ยว่า “ใต้เท้าราชเลขาธิการพักผ่อนก่อนเถอะ โรคอื่นๆ ของท่านเอาไว้รักษาวันหลังก็แล้วกัน”นางพูดจบก็หันหลังทำท่าจะจากไป“แม่นางเจี่ยนรอสักครู่” เจี่ยงตงเฉิงรีบรั้งเจี่ยนอันอันเอาไว้เจี่ยนอันอันหันหน้ากลับมามองเจี่ยงตงเฉิงด้วยสายตาเย็นชา“ใต้เท้ายังมีเรื่องใดหรือ?”เจี่ยงตงเฉิงรู้ว่าตนเองจ้องฝ่ายตรงข้ามเมื่อครู่นี้ออกจะเป็นการเสียมารยาทเขากระแอมเบาๆ “แม่นางเจี่ยนมีเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับข้าหรือเปล่า?”เจี่ยนอันอันหมุนตัวกลับมายิ้มเย็นให้เจี่ยงตงเฉิงพลางว่า “ข้าคิดไม่ถึงว่าท่านราชเลขาธิการจะสนิทสนมกับพ่อที่ไร้ยางอายผู้นั้นของข้าปานนี้”“ถ้าข้ารู้เช่นนี้แต่แรก ข้าก็คงไม่มารักษาท่านแล้ว”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนอึ้งไปอย่างอดไม่อยู่รวมถึงฉู่จวินสิงด้วยเช่นกัน ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเจี่ยนอันอันจึงพูดถึงพ่อตัวเองเช่นนั้นเจี่ยนอันอันไม่เคยพูดเรื่องเจี่ยนกั๋วกงกับเขามาก่อน เขายังรู้ว่าเจี่ยนอันอันมาแต่งงานกับเขาแทนน้องสาวระหว่างพวกนางพ่อลูกจะต้องเกิดอะไรบางอย่างขึ้นแน่นอน ถึงได้ทำให้เ
เจี่ยนอันอันก็จ้องตาเจี่ยงตงเฉิงเช่นกัน สีหน้านางปราศจากความเปลี่ยนแปลงใดๆ ในใจกลับรู้สึกสงสัยขึ้นมาคนผู้นี้รู้จักคุณหนูใหญ่จวนกั๋วกงได้อย่างไร?หรือว่าหลังจากเจี่ยนหลิงเยว่มาที่เมืองอินเป่ยก็ได้เจอราชเลขาธิการเหมือนกัน แล้วบอกอีกฝ่ายว่านางเป็นคุณหนูใหญ่จวนกั๋วกง?ถ้าเจี่ยนหลิงเยว่กำลังสวมรอยเป็นนางจริง นางคงต้องจัดยาพิษให้เจี่ยนหลิงเยว่เป็นใบ้จริงๆ เสียแล้วทำให้นางไม่สามารถพูดได้อีกเลยชั่วชีวิตเจี่ยนอันอันถามเสียงเย็นชา “ไยท่านราชเลขาธิการจึงถามเช่นนี้?”ถึงอย่างไรเจี่ยงตงเฉิงก็อยู่มานานกว่าเจี่ยนอันอัน แม้เจี่ยนอันอันจะไม่ได้แสดงสีหน้าอันใดออกมาแต่เขาก็ฟังความผิดปกติในน้ำเสียงยามพูดจาของเจี่ยนอันอันออกถ้าเจี่ยนอันอันไม่รู้จักคุณหนูใหญ่จวนกั๋วกง นางก็สามารถบอกว่าตนเองไม่รู้จักไม่จำเป็นต้องถามเช่นนี้เลยสักนิดประกอบกับก่อนหน้านี้นางยังพูดจาดีๆ อยู่เลย ตอนนี้น้ำเสียงกลับเย็นชาขึ้นมาเสียอย่างนั้นเห็นทีนางคงต้องรู้จักคุณหนูใหญ่จวนกั๋วกงเป็นแน่เจี่ยงตงเฉิงลูบเครายิ้มๆ พลางกล่าวว่า “ขอบอกกล่าวตามตรง ในอดีตข้าเคยไปเยือนแคว้นไท่ยวนในฐานะทูตของเมืองอินเป่ย”“โชคดีได้รู้จัก
ถังหมิงเซวียนวินิจฉัยว่าราชเลขาธิการไม่ได้แค่ติดวัณโรคเท่านั้น แต่เขายังมีโรคเก่าอีกด้วยแต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้พกล่วมยามา เพียงนำเข็มเงินบางส่วนมาด้วยเท่านั้นถ้าจะรักษาราชเลขาธิการยังคงต้องพึ่งพาเจี่ยนอันอันอย่างไรเสียเจี่ยนอันอันก็เป็นเถ้าแก่ร้านจี้เฉ่าถัง นางจะต้องสามารถหาสมุนไพรมาปรุงยารักษาราชเลขาธิการได้อย่างแน่นอนยามนี้ขึ้นอยู่กับว่าเจี่ยนอันอันต้องการทำอย่างไร ถ้านางไม่อยากรักษาโรคเก่าให้ราชเลขาธิการ เขาก็ไม่สะดวกจะพูดอะไรเหมือนกันเจี่ยนอันอันเดินเข้าไปจับชีพจรให้ราชเลขาธิการเจี่ยงตงเฉิงได้ยินคำพูดของถังหมิงเซวียนเมื่อครู่นี้แล้ว หัวใจก็จมดิ่งลงเหวเขารู้ว่าสุขภาพของตนเองย่ำแย่ลงทุกที หมอในเมืองอินเป่ยล้วนเคยมาตรวจโรคให้เขาแต่ไม่เคยมีใครที่สามารถรักษาเขาให้หายดีได้เลยสักคนยามนี้เขายังติดวัณโรคมาอีก สุขภาพยิ่งเลวร้ายลงกว่าเดิมหากหมอสองคนนี้ยังไม่สามารถรักษาเขาได้ เกรงว่าเวลาชีวิตของเขาคงเหลืออีกไม่มากแล้วเจี่ยนอันอันจับชีพจรสักพักก็มุ่นคิ้วขึ้นมาดุจเดียวกันนางพบว่าในร่างกายราชเลขาธิการมีสารพิษตกค้างอยู่ด้วยและก็เป็นเพราะสารพิษเหล่านี้ที่ทำให้สุขภาพของเข
วันนี้ก็หาเงินได้อีกแล้วเย็นนี้เขาจะต้องกินอาหารดีๆ สักมื้อเพื่อตกรางวัลให้กับความเหน็ดเหนื่อยในวันนี้สักหน่อยหลังพวกเจ้าหน้าที่กินยารักษาโรคเฉพาะทางแล้วก็หามเกี้ยวขึ้นมาอีกครั้ง ออกเดินทางไปยังสำนักราชเลขาธิการต่อไปคราวนี้ฝีเท้าพวกเขารวดเร็วราวเหินบิน ร้อนใจอยากให้ใต้เท้าของพวกตนได้รับยารักษาโรคเฉพาะทางโดยเร็ว เขาจะได้หายดีไวๆ คนทั้งคณะเดินทางมาถึงบริเวณนอกสำนักราชเลขาธิการอย่างรวดเร็ว พ่อบ้านออกมารอหน้าประตูอยู่นานแล้วเมื่อเขาเห็นรถม้าที่ตามมาด้วยก็อึ้งไปอย่างอดไม่อยู่เขาเห็นรถม้าคันนี้วิ่งผ่านหน้าประตูสำนักราชเลขาธิการไปก่อนหน้านี้ถ้าเขารู้แต่แรกว่าผู้อยู่ในรถม้าคือท่านหมอที่พวกตนกำลังตามหาเขาจะต้องไม่มองรถม้าคันนี้วิ่งจากไปโดยไม่ทำอันใดอย่างแน่นอนพ่อบ้านรีบออกมาต้อนรับ เขาเลิกผ้าม่านเกี้ยวหลังแรกขึ้นก็พบว่าผู้อยู่ในนั้นคือแม่นางอายุสิบกว่าปีคนหนึ่งพ่อบ้านคิดในใจ แม่นางที่อายุน้อยปานนี้สามารถรักษาโรคให้ใต้เท้าของตนได้จริงหรือ?พ่อบ้านไม่พูดพร่ำ รีบเชิญเจี่ยนอันอันเข้าไปข้างในทันทีพวกเจี่ยนอันอันสี่คนเดินไปจนถึงห้องนอนที่ราชเลขาธิการพักอยู่ภายใต้การนำทางของพ่อบ
นางเพียงมอบยาป้องกันให้จำนวนหนึ่ง แต่กลับสามารถซื้อใจคนได้อย่างดีเยี่ยมนี่ก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้นางในวันที่สามารถกลับไปยังเมืองจิงโจวในภายภาคหน้าเจี่ยนอันอันเห็นว่าเป้าหมายบรรลุแล้วจึงกล่าวลากับจางเฉวียนจางเฉวียนมองส่งรถม้าจากไป หัวใจที่แขวนค้างในที่สุดก็สามารถปล่อยวางลงได้เสียทียังดีที่เจี่ยนอันอันไม่ได้เอายาป้องกันมาให้พวกเขาเพื่อจะออกจากเมืองไปโดยพลการไม่อย่างนั้น ไม่แน่ว่าเขาอาจถูกนำตัวไปรอรับการลงทัณฑ์ที่สำนักราชเลขาธิการเหมือนเฉินหย่งเหนียนก็เป็นได้หลังจากเฉินหย่งเหนียนถูกจับตัวไปก็ไม่เห็นเงาร่างของเขาอีกเลยเกรงว่าป่านนี้เขาคงตายไปแล้ว……รถม้าเคลื่อนผ่านสถานที่หลายแห่งในตัวเมือง ชาวบ้านในเมืองล้วนได้รับยารักษาโรคเฉพาะทางที่คนทั้งสองทำขึ้นมาหมดแล้วตอนนี้เกรงว่าคงมีเพียงคนในสำนักราชเลขาธิการที่ยังไม่ได้รับการรักษาหลังจากรถม้าวิ่งไปได้สักพัก เจ้าหน้าที่ซึ่งหามเกี้ยวสองกลุ่มก็สวนทางมาเมื่อพวกเขาเห็นรถม้าก็เร่งฝีเท้าเข้ามาหาคราวนี้ในที่สุดพวกเขาก็จำสวีจงฉือที่นั่งอยู่บนรถม้าได้ก่อนหน้านี้หลังจากพวกเขาหามเกี้ยวไปถึงจุดหมายก็พบว่าที่นั่นว่างเปล่าปราศจากผู้คน
เพียงไม่นานยาก็ถูกขายหมดสิ้น ส่วนผู้ที่รับยาไป หลังจากกินแล้วต่างก็สบายเนื้อสบายตัวขึ้นมากพวกเขาต่างเก็บยาไว้ เพื่อจะรีบนำกลับไปให้คนที่บ้านได้กินเจี่ยนอันอันได้ยินชาวบ้านเดินไปพูดคุยไป“เมืองอินเป่ยของเรามีหมอเก่งขนาดนี้มาอยู่ตั้งแต่เมื่อใด ทำไมข้าไม่เคยเห็นนางมาก่อน”“แต่ข้าได้ยินมาว่า หมอคนนี้เก่งกล้าสามารถนัก ไม่ว่าโรคใดก็รักษาได้หมด ดูเหมือนว่าจะอาศัยอยู่ในย่านคนจนที่หมู่บ้านชิงสุ่ย”“ทำไมหมอเก่งขนาดนี้กลับไปอยู่ในที่แร้นเค้นเช่นนั้น? อยากให้นางมาอยู่ในเมืองมากกว่า เผื่อวันหลังใครปวดหัวตัวร้อนหรือเป็นโรคอื่น จะได้ให้นางช่วยรักษา”เจี่ยนอันอันขึ้นรถม้าต่อ บอกให้สวีจงฉือควบไปทางประตูเมืองเพราะที่นั่นเป็นเขตป้องกันตัวเมือง หากทหารประจำการก็ได้รับเชื้อเช่นกัน แล้วไม่ได้รับการรักษา อาจมีโอกาสแพร่ให้ผู้อื่นได้มากรถม้ามาถึงด้านล่างประตูอย่างรวดเร็วทุกวันนี้จางเฉวียนเป็นทหารเฝ้าประตูเมืองแล้ว มีคนมารายงานว่ามีรถม้าคันหนึ่งวิ่งมาเขารีบขึ้นไปยังประตูเมืองแล้วมองลงด้านล่างทันทีที่เห็นเจี่ยนอันอันกับพวกลงจากรถม้า เขาก็จำนางกับฉู่จวินสิงได้หากไม่เพราะสมัยก่อนเจี่ยนอันอันช่ว