Share

บทที่ 56

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
“พวกเจ้าเป็นใครกันแน่ กล้าดีอย่างไรถึงมาป่วนในค่ายของข้า?” เซิ่งฟางตะโกนถามเจี่ยนอันอันด้วยความโกรธ

เมื่อครู่มีลูกน้องมารายงานว่ารองหัวหน้าถูกพิษร้ายแรง

ไม่เพียงเท่านี้ พวกลูกน้องที่ลงเขาไป ยังพาพวกเจ้าหน้าที่ทางการกลุ่มหนึ่งกลับมาอีกด้วย

เซิ่งฟางเป็นคนที่เกลียดเจ้าหน้าที่ทางการอย่างที่สุด จึงนำพวกโจรออกมาสู้

แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ นอกจากเจ้าหน้าที่ทางการแล้ว ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่สวมเสื้อผ้าหรูหราด้วย

แม้เสื้อผ้าของพวกเขาจะเปื้อนดินโคลน แต่มันก็ไม่อาจปกปิดราศีอันสูงศักดิ์ของพวกเขาได้

เซิ่งฟางสังเกตเห็นฉู่จวินสิงที่นอนอยู่บนเปลหาม เขาหรี่ตาลง พยายามมองหน้าของอีกฝ่ายให้ชัดเจน

แต่ทันใดนั้น เจี่ยนอันอันก็ก้าวมาขวางหน้าเขา ปิดบังทัศนวิสัยของเขา

เจี่ยนอันอันกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งว่า “เจ้าคงเป็นหัวหน้าใหญ่ที่นี่สินะ”

เซิ่งฟางจ้องมองเจี่ยนอันอันอีกครั้งก่อนจะหัวเราะเยาะออกมา “ถ้าใช่แล้วจะทำไม? หากเจ้ารู้สถานการณ์ก็จงยอมจำนนเสียดีๆ ส่งยาถอนพิษมา ข้าไม่ใช่คนที่ชอบฆ่าผู้บริสุทธิ์ แต่ถ้าพวกเจ้าคิดขัดขืน อย่าหาว่ากระบี่ในมือข้าไม่ปรานี”

พูดจบ เซิ่งฟางก็ชี้กระบี่ล้ำค่าไปยังเจี่ยน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 57

    ฉู่จวินสิงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เจ้าลุกขึ้นเถิด บัดนี้ข้าไม่ใช่เยียนอ๋องอีกต่อไปแล้ว”เซิ่งฟางมองฉู่จวินสิงด้วยความประหลาดใจเขาไม่อาจเข้าใจได้ว่าเยียนอ๋องผู้ไร้พ่าย ผู้เกรียงไกรบนสมรภูมิในครานั้นเหตุใดบัดนี้กลับเต็มไปด้วยบาดแผลและเลือดท่วมกาย อีกทั้งยังต้องถูกหามบนเปลโดยเหล่าเจ้าหน้าที่ทางการ“เยียนอ๋อง เกิดเหตุใดกับท่าน? เหตุใดท่านจึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้?” เซิ่งฟางเอ่ยถามด้วยความฉงนฉู่จวินสิงถอนหายใจยาว ก่อนจะตอบว่า “พูดไปแล้วเรื่องยาวนัก เจ้าจงให้พวกเราเข้าไปพักในค่ายก่อนได้หรือไม่”เมื่อฉู่จวินสิงกล่าวเช่นนั้น เซิ่งฟางจึงได้สติกลับมาเขารีบหันไปสั่งพวกโจรให้เตรียมสุราอาหารชั้นดีแม้ในใจพวกโจรจะสงสัย แต่ก็ไม่กล้าละเลย พากันวิ่งไปจัดเตรียมทุกอย่างโดยไม่รอช้าเซิ่งฟางหันกลับมามองคนอื่นๆ ด้วยความสงสัย แล้วถามขึ้นว่า “คนเหล่านี้เป็นใครหรือ?”ฉู่จวินสิงตอบแนะนำว่า “คนที่อยู่ตรงกลางนั้นคือครอบครัวและข้ารับใช้ของข้า ส่วนคนอื่นเป็นทหารรักษาพระองค์”หานซื่อเมื่อเห็นว่าทั้งสองรู้จักกันดี จึงแนะนำตัวว่า “ข้าคือหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ นามว่าหานซื่อ”เมื่อเซิ่งฟางได้ยินว่าพ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 58

    เจี่ยนอันอันก้าวเข้าไปในห้องอย่างมั่นใจ แล้วเดินตรงไปที่เตียง ก่อนจะจับข้อมือของเหวินอิงขึ้นมาตรวจชีพจรนางหยิบเข็มเงินออกมาจากห้วงมิติของตน เตรียมจะปักเข็มลงไปเมื่อพวกโจรเห็นเช่นนั้น สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไปทันทีโจรคนหนึ่งรีบคว้าแขนของเจี่ยนอันอันไว้ด้วยความโกรธ “เจ้าจะทำอะไร คิดจะวางยาพิษรองหัวหน้าของเราอีกหรือ?”เจี่ยนอันอันตวัดสายตามองโจรผู้นั้นด้วยความเย็นชา แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “หรือเจ้ามีวิธีแก้พิษนี้?”เพียงคำเดียว โจรผู้นั้นก็เงียบกริบไม่สามารถโต้เถียงได้เซิ่งฟางที่ยืนอยู่ข้างๆ โบกมือให้โจรหยุด แล้วส่งสัญญาณว่าอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามโจรคนนั้นจึงจำใจปล่อยแขนของเจี่ยนอันอัน และถอยไปยืนเงียบๆเจี่ยนอันอันไม่สนใจโจรสองคนนั้นอีก นางปักเข็มเงินลงบนข้อมือของเหวินอิงอย่างมั่นคงนางฝังเข็มลงไปอย่างเบามือ ไม่นานนักเลือดสีดำก็เริ่มไหลออกจากข้อมือของเหวินอิงเมื่อทำความสะอาดแผลและถอนเข็มออก เจี่ยนอันอันก็หยิบยาถอนพิษออกมาและป้อนเข้าไปในปากของเหวินอิงหลังจากทำทุกอย่างเสร็จ นางหันไปบอกกับโจรทั้งสองว่า “อีกหนึ่งชั่วยาม นางจะฟื้น”พูดจบ นางก็ไม่สนใจพวกโจรอีก และเดินออกไปจากห

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 59

    เมืองอินเป่ยตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ทั้งยังประสบกับภัยแล้งเป็นเวลาหลายปี ทำให้ที่ดินในบริเวณนั้นแทบไม่สามารถปลูกพืชผลการเกษตรใดๆ ได้ชาวบ้านที่นั่นเดิมก็ดำรงชีวิตอย่างยากลำบากมากอยู่แล้วจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ราชวงศ์สั่งสังหารหมู่ผู้บริสุทธิ์ในเมืองอินเป่ย เมืองทั้งเมืองแทบจะถูกทำลายจนเกือบกลายเป็นซากปรักหักพังโชคดีที่ในสมัยเซิ่งฟางยังเป็นเจ้าเมืองอินเป่ย เขาได้นำชาวบ้านขุดหลุมใต้ดินเพื่อเก็บเสบียงอาหารเมื่อเหตุการณ์สังหารหมู่เกิดขึ้น ชาวบ้านพาครอบครัวของตนเองหลบภัยในหลุมใต้ดิน จึงรอดพ้นจากเคราะห์ร้ายครานั้นมาได้อย่างหวุดหวิดเซิ่งฟางยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ ต่อให้ในตอนนี้เขาจะได้ปลิดชีพฮ่องเต้สุนัขผู้นั้นด้วยการเฉือนเป็นพันชิ้น ก็ไม่อาจดับความแค้นในใจของเขาได้ทุกคนต่างเงียบงันไป เจี่ยนอันอันกลับเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ว่า “ท่านหัวหน้าใหญ่ ในเมื่อท่านเคยเป็นเจ้าเมืองอินเป่ย เหตุใดถึงได้กลายมาเป็นหัวหน้าโจรที่นี่?”เซิ่งฟางเห็นว่าเจี่ยนอันอันเป็นคนเอ่ยถาม เขายังไม่ตอบ แต่หันไปมองฉู่จวินสิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย“สตรีผู้นี้คือใครหรือ?”ฉู่จวินสิงยังไม่ทันได้เอ่ยตอบ เจี่ยนอัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 60

    เมื่อฉู่จวินสิงได้ยินเรื่องราวเหล่านี้ คิ้วของเขาก็กระตุกขึ้นอย่างห้ามไม่ได้เหตุการณ์สังหารหมู่ในเมืองนั้นเคยสั่นสะเทือนทั้งแคว้นไท่ยวนชาวบ้านที่ไม่รู้ความจริงต่างพากันเฉลิมฉลองความสำเร็จในครั้งนั้นด้วยความยินดีมีเพียงเหล่าราชวงศ์เท่านั้นที่รู้ว่า การสังหารหมู่ในปีนั้นช่างโหดเหี้ยมและนองเลือดเพียงใดขณะที่ทุกคนตกอยู่ในความเงียบงัน พวกโจรจากห้องครัวก็นำอาหารและสุรามาจัดวางบนโต๊ะยาวเซิ่งฟางเคยชินกับการเรียกรองหัวหน้าเหวินอิงมาร่วมรับประทานอาหาร แต่ครั้นจะเอ่ยปาก ก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่านางยังคงหมดสติอยู่เขาจึงหันมามองเจี่ยนอันอันด้วยท่าทีลำบากใจ “พระชายาเยียนอ๋อง ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากขอร้อง หวังว่าท่านจะเมตตาช่วยเหลือ”เจี่ยนอันอันรู้สึกแปลกใจไม่น้อย นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนเรียกนางว่า ‘พระชายาเยียนอ๋อง’ นางรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก แต่ก็หันไปมองเซิ่งฟางและพูดอย่างสุภาพว่า “ท่านเจ้าเมืองไม่ต้องมากพิธี หากมีเรื่องใดต้องการขอร้อง ท่านบอกข้ามาเถิด”เมื่อได้ยินเจี่ยนอันอันเรียกเขาว่า ‘เจ้าเมือง’ เซิ่งฟางก็อารมณ์ดีขึ้นอย่างมากเขาตบโต๊ะแล้วหัวเราะเสียงดัง “คำว่าเจ้าเมืองนี้ ข้าไม่ได้ยินมา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 61

    “นังเด็กนี่ ดูเหมือนพอจะยังมีความสามารถอยู่บ้าง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะเล่นกับเจ้าดูสักสองสามรอบ”เหวินอิงพูดออกมา พร้อมดึงมือออกมาอย่างแรงนางกระโดดลงมาจากเตียง เหวี่ยงมือต่อยออกไปยังเจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันถอยหลังไปสองสามก้าว หลบการโจมตีหมัดนี้เมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันหลบได้ เหวินอิงก็โจมตีมายังเจี่ยนอันอันอีกครั้งในตอนนี้มือของนางไม่มีอาวุธใด ทำได้เพียงแค่ใช้หมัดมือต่อสู้ด้วยเจี่ยนอันอันไม่ได้คิดจะต่อสู้กับเหวินอิงนางกระโดดขึ้นไปบนเตียง มองไปยังเหวินอิงด้วยสายตาดูถูก นางพูดโน้มน้าวออกมาอย่างใจดี“ข้าแนะนำเจ้าว่าทางที่ดีอย่าได้ใช้กำลังกันมั่วซั่ว หญิงสาวอย่างเรา หากว่ามาต่อยตีฆ่ากันคงจะไม่น่ามองนัก”คำพูดของเจี่ยนอันอัน ทำให้เหวินอิงยิ่งกรุ่นโกรธมากยิ่งขึ้น“หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว เจ้าลองกินหมัดข้าก่อน” เหวินอิงพูดออกมา พร้อมทั้งต่อยหมัดไปที่ขาเจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะยกขาขึ้นเหยียบลงไปบนมือของเหวินอิงเหวินอิงไม่คิดเลยว่า การกระทำของเจี่ยนอันอันดูจะรวดเร็วกว่านางเสียอีกหมัดนี้ของนางไม่เพียงแต่เหวี่ยงไปถึงอีกฝ่ายเท่านั้น แต่กลับถูกอีกฝ่ายเห

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 62

    ในที่สุดเจี่ยนอันอันก็หัวเราะออกมาจนพอใจแล้ว นางหยิบกระจกทองแดงออกมาจากห้วงมิติ ก่อนจะส่งให้กับเหวินอิงในตอนที่เหวินอิงมองไปยังกระจกทองแดงนั้น ดวงตาก็เบิกกว้างขึ้นทันทีกรอบกระจกทองแดงนี้ประดับล้อมรอบไปด้วยไพลิน เพียงแค่มองก็รู้ว่ามูลค่าไม่อาจประเมินได้บนกายสาวน้อยคนนี้ กลับหลบซ่อนสมบัติล้ำค่าเช่นนี้เอาไว้เหวินอิงหยิบกระจกทองแดงไป ก่อนจะชั่งน้ำหนักในมือ ดูเหมือนจะหนักไม่เบาเลยนางหันกายกลับไป พูดออกมาด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “พวกเจ้าทำอะไรกันแน่? เสื้อผ้าของพวกเจ้าดูมีมูลค่า หรือว่าพวกเจ้าล้วนเป็นพ่อค้ากัน?”เจี่ยนอันอันไม่ได้ตอบคำเหวินอิง แต่พูดเร่งเร้าออกมาต่อ“รีบจัดการทรงผมเข้า ท่านเจ้าเมืองยังรอพวกเรากันอยู่ในห้องโถง”เมื่อได้ยินเจี่ยนอันอันเรียกเจ้าเมืองออกมาทุกคำ เหวินอิงก็ขมวดคิ้วออกมานางรู้ว่าท่านเจ้าเมืองที่เจี่ยนอันอันเรียกนั้นก็คือเซิ่งฟางเพียงแต่เซิ่งฟางบอกความลับนี้กับนางเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นภายในฐานที่มั่นมีสามร้อยกว่าคน นอกจากนางแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดรู้ความลับนี้ทว่าสาวน้อยตรงหน้านี้ กลับเรียกเซิ่งฟางว่าเจ้าเมืองทุกคำตอนนี้พวกเขามีความพันธ์ใด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 63

    ฮูหยินใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างกายเจี่ยนอันอัน ก็รีบตบไปยังแผ่นหลังของเจี่ยนอันอัน เพื่อช่วยให้นางหายใจได้สะดวกมากยิ่งขึ้นฉู่จวินสิงกลับขมวดคิ้วออกมา ก่อนจะพูดกับเจี่ยนอันอันเสียงเบา “เหล้านี้แรงมาก อย่าได้ดื่มอีก”เมื่อกระแอมไปชั่วครู่หนึ่ง ในที่สุดเจี่ยนอันอันถึงได้หยุดลงนางเงยหน้าขึ้นไปมองยังเหวินอิง ก็พบว่านางกำลังมองมายังตนเองด้วยรอยยิ้ม“น้องสาวช่างดื่มเหล้าได้เก่งจริงๆ ข้าขอดื่มให้เจ้าอีกชามหนึ่ง!”เหวินอิงพูดออกมา ก่อนจะรินเหล้าให้ตนเองอีกชามหนึ่ง และดื่มลงไปในไม่กี่อึดใจในชามตรงหน้าของเจี่ยนอันอันเองก็ถูกโจรภูเขารินให้จนเต็มชามใหญ่เหวินอิงยิ้มแล้วพูดกับเจี่ยนอันอัน “เจ้าดูข้าดื่มเหล้าไปจนหมดแล้ว น้องสาวเองก็ควรจะดื่มเหล้าในชามนั้นให้หมดเช่นกันไม่ใช่หรือ?”เจี่ยนอันอันในเวลานี้ บนใบหน้าเล็กมีริ้วแดงๆ ออกมาสองกลุ่มใหญ่แล้วนางรู้สึกได้ว่าศีรษะเริ่มวิงเวียน ก่อนจะรีบส่ายหัวอย่างเร็ว เพื่อที่จะให้ตนเองมีสติขึ้นมาบ้างเมื่อเห็นว่าเหวินอิงจับจ้องยังตนเองอยู่ตลอดเวลา หากว่านางไม่ยอมดื่มเหล้าถ้วยนี้ เกรงว่าคงจะทำให้อีกฝ่ายขบขันเอาได้เจี่ยนอันอันหยิบชามเหล้าตรงหน้าขึ้นมา และก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 64

    เหวินอิงประคองเจี่ยนอันอัน มายังที่ห่างไกลจากค่ายที่นั่นมีเรือนมุงจากตั้งตระหง่านอยู่ ดูเหมือนว่าจะเป็นห้องน้ำเจี่ยนอันอันไม่ได้ให้เหวินอิงตามเข้ามาด้วยนางเดินเข้าไป รีบเปิดยาแก้เมาค้างแล้วดื่มเข้าคำโตหลังจากที่ดื่มยาแก้เมาค้างแล้ว ไม่นานนัก นางก็เหมือนว่าจะสร่างเมาขึ้นมานางออกมาจากในห้องน้ำ ก็พบว่าเหวินอิงยืนอยู่สถานที่ไกลออกจากห้องน้ำไปเจี่ยนอันอันเดินก้าวใหญ่ออกมาเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เดิมทีเหวินอิงที่ก้มหน้าลง ก็พบเจี่ยนอันอันเดินตรงมาทางนางนางมองเห็นท่าทีของเจี่ยนอันอันที่เดินมา ก็ไม่โซเซเหมือนกับก่อนหน้านั้นมุมปากของเหวินอิงยกโค้งงดงามขึ้น“ดูเหมือนว่าเจ้าตอนนี้คงจะสร่างเมาแล้ว ไป พวกเราสองคนกลับไปดื่มกันต่ออีกสักเล็กน้อยเถอะ”เจี่ยนอันอันเมื่อได้ยินว่ายังจะดื่มอีก นางก็รีบโบกไม้โบกมือพูดออกมา “ไม่ดื่มแล้วๆ เหล้าของพวกเจ้าแรงเกินไป ข้าไม่ไหวจริงๆ”เหวินอิงเมื่อได้ยินคำพูดนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าก็ยิ่งกว้างขึ้นเรื่อยๆเหล้าในค่ายนั้นแรงจริงๆ นั่นไม่ใช่ของที่หญิงสาวทั่วไปจะดื่มได้หากไม่ใช่ว่านางเกิดมาแล้วดื่มเหล้าพันแก้วไม่เมาแล้ว เกรงว่านางก็คงจะทนเหล้ารุนแรงเช

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 784

    วันนี้เขาไม่ได้ควบม้าให้วิ่งเร็วจนเกินไป ด้วยเกรงว่าหากไม่ระวัง อาจพลาดพลั้งตกจากหลังม้าได้อีกทั้งยามนี้ยังรู้สึกปวดศีรษะยิ่ง จนแทบอยากฟุบหลับที่หลังม้าสักครู่หนึ่งเจี่ยนอันอันเห็นถังหมิงเซวียนควบม้ามา จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาถังหมิงเซวียนให้ม้าหยุดลง ก้มหน้ามองดูเจี่ยนอันอัน“แม่นางเจี่ยน เจ้าขำเรื่องอันใด เมื่อเช้านี้ข้าได้ล้างหน้าแล้ว”ถังหมิงเซวียนกล่าว พลางลูบใบหน้าตนเอง ทั้งยังเขี่ยขี้ตาเล็กน้อยดีที่เมื่อเช้าเขาล้างหน้าล้างตาออกมาเรียบร้อย หาไม่เจี่ยนอันอันคงได้ขำขันมากกว่านี้เป็นแน่เจี่ยนอันอันกล่าวพลางหัวเราะ “ถังหมิงเซวียน เมื่อคืนเจ้าดีใจจนนอนไม่หลับใช่หรือไม่? ดูขอบตาดำ ถุงใต้ตาห้อยจนเกือบถึงคางแล้ว”เจี่ยนอันอันกล่าวจบ พร้อมหัวเราะชอบใจขึ้นมาอีกจนแม้แต่ฉู่จวินสิงซึ่งอยู่ด้านข้าง ก็พลอยเม้มปากอมยิ้มไปด้วยแต่เพราะในโรงเตี๊ยมไม่มีคันฉ่อง ถังหมิงเซวียนจึงไม่อาจเห็นสภาพหน้าตาของตนเองแต่หากเขาไปหาเหยียนซวงในสภาพนี้ คงจะถูกนางรังเกียจเป็นแน่เมื่อนึกถึงตรงนี้ ถังหมิงเซวียนก้มหน้าลงด้วยความอับอายเจี่ยนอันอันหยิบคันฉ่องบานเล็กออกมาหนึ่งบาน พร้อมยื่นให้ถังหม

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 783

    เหวยป๋อจื่อเพียงหัวเราะเบาๆ มิได้กล่าวอันใดต่อทั้งคู่ต่างบรรลุข้อตกลง จึงมิได้สนใจเจี่ยนหลิงเยว่อีก พร้อมก้าวออกจากห้องไประหว่างทางกลับหมู่บ้านชิงสุ่ย ฉู่จวินสิงได้ถามขึ้น “เจ้าใช้ของสิ่งใด จึงทำให้บ้านนั้นระเบิดจนเหลือเพียงเศษซาก?”เจี่ยนอันอันไม่คิดว่าจะมาพูดเรื่องคลังอาวุธในเวลานี้ นางจึงกล่าวโกหก “นั่นเป็นดินระเบิดที่ข้าซื้อจากเมืองจิงโจวมา”“เดิมคิดว่าจะใช้สังหารกู้มั่วหลี แต่ไม่นึกว่าเขาจะใส่เสื้อเกราะทองไว้”“ครั้งนี้เราพลั้งมือ ซ้ำปล่อยให้มันมีคนมาช่วยอีก มันน่าเจ็บใจนัก!”เมื่อเห็นเจี่ยนอันอันยิ่งพูดก็ยิ่งโกรธเคือง ฉู่จวินสิงจึงรีบกล่าวปลอบใจครั้งนี้ไม่อาจระเบิดมันให้ตายได้ คงต้องปล่อยให้รอดชีวิตก่อนวันหน้าหากได้พบเจออีกครั้ง จะไม่ยอมปล่อยให้หลบหนีไปง่าย ๆเจี่ยนอันอันก็คิดเช่นนี้ นางกล่าวเสียงเย็นชา “หึ ให้มันอยู่อีกหลายวันก็ได้”เมื่อกลับถึงหมู่บ้านชิงสุ่ย ทั้งคู่จึงเดินเข้าห้องไปพักผ่อนเจี่ยนอันอันถือโอกาสที่ฉู่จวินสิงเข้านอนแล้ว แอบเข้าไปในห้วงมิตินางจัดการให้ตนเองได้อาบน้ำอุ่นก่อน จากนั้นจึงค้นหาตำราสามชะตามรรคาลี้ลับออกมา แล้วเริ่มอ่านอยู่ในห้วงมิติจว

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 782

    เพราะนางได้เห็นโฉมหน้าแท้จริงของฉู่จวินสิงแล้ว จึงเกิดความพอใจต่อเขาเป็นอย่างมากและหากไม่เพราะกู้มั่วหลีให้นางกินยาพิษ มีหรือนางต้องทนรับความทรมานถึงเพียงนี้เหวยป๋อจื่อหัวเราะเล็กน้อย ก่อนนั่งลงข้างกายเจี่ยนหลิงเยว่“ต่อไปมาใช้ชีวิตอยู่กับข้าดีหรือไม่?”เดิมเจี่ยนหลิวเยว่ก็รู้สึกตื่นเต้นที่เหวยป๋อจื่อมานั่งใกล้ชิดอยู่แล้วเมื่อได้ฟังคำพูดจากเขาอีก นางยิ่งตื่นเต้นเสียจนวางตัวไม่ถูก“คุณชายพูดเรื่องกระไรเจ้าคะ ข้าไม่รู้ชื่อของท่านด้วยซ้ำ และยิ่งไม่เคยรู้จักท่านเลย”“จะมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยได้อย่างไร?”เจี่ยนหลิงเยว่กล่าวพลาง ทำตัวเกร็งพร้อมกระเถิบไปยังด้านข้างเหวยป๋อจือหาได้ถือสาไม่ และมิได้เขยิบตัวตามนางไปด้วย“ข้าชื่อเหวยป๋อจื่อ เคยเป็นหมอดูอยู่ที่แคว้นไท่ยวน”เจี่ยนหลิงเยว่ได้ยินว่าอีกฝ่ายเป็นหมอดูของแคว้นไท่ยวน พลันรีบหันหน้าไปมองเขา“ท่านก็คือหมอดูเหวยผู้เลื่องชื่อแห่งแคว้นไท่ยวนหรอกหรือ?”เจี่ยนหลิงเยว่เคยได้ยินบิดาของนางเอ่ยถึงว่า สมัยที่อดีตฮ่องเต้ยังมีพระชนม์อยู่ ในราชสำนักมีโหราจารย์อยู่ผู้หนึ่งแต่เป็นโหราจารย์ที่ทำตัวลึกลับ ไม่เคยเผยโฉมหน้าแท้จริงให้ผู้ใดได้เห็น

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 781

    ภายหลังรู้สึกว่าร่างกายไม่สู้เจ็บปวดดังเดิม เจี่ยนหลิงเยว่จึงค่อยเบาใจลง“คุณชายหัวเราะข้าด้วยเรื่องอันใด ข้าทำสิ่งใดผิดกระนั้นรึ?”เจี่ยนหลิงเยว่มองหน้าเหวยป๋อจื่อด้วยความฉงน รอจนอีกฝ่ายหัวเราะพอแล้ว จึงได้ยินเขากล่าวตอบ “เพียงรู้สึกว่าเจ้าเป็นหญิงที่น่าสนใจ”เมื่อได้ยินอีกฝ่ายชมว่านางน่าสนใจ ใบหน้าเจี่ยนหลิงเยว่ค่อยมีรอยยิ้มออกมาบ้างนางเห็นเหวยป๋อจื่อจ้องมองนางแทบไม่ละสายตา จู่ๆ ใบหน้าจึงได้แดงเรื่อขึ้นนางรีบก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย “เหตุใดคุณชายจึงจ้องมองข้าเช่นนี้ ข้าวางตัวไม่ถูกแล้ว”เจี่ยนหลิงเยว่แม้ไม่เห็นใบหน้าของอีกฝ่าย แต่เดาจากน้ำเสียงการพูดจาของเขา คาดว่าคงเป็นชายหนุ่มรูปงามอย่างแน่นอนนางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน สองมือบิดชายเสื้อไปมา ท่าทีมีความขวยเขินเป็นอย่างมากเหวยป๋อจื่อมองหน้าเจี่ยนหลิงเยว่ด้วยนัยน์ตาลึกซึ้ง พลางกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำชวนฟัง“เงยหน้าขึ้นมา”เจี่ยนหลิงเยว่ได้ยินดังนี้ จึงเงยหน้าขึ้นด้วยความเขินอายสายตาที่มองเหวยป๋อจื่อนั้น แฝงความกระดากเล็กน้อยเหวยป๋อจื่อสบสายตานางนิ่ง คล้ายต้องการค้นหาความรู้สึกบางอย่างเจี่ยนหลิงเยว่ถูกเขาจ้องมองเสีย

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 780

    ผ่านไปอีกครู่ใหญ่ ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงในร่างกายค่อยบรรเทาไปมากพอสมควรเจี่ยนหลิงเยว่นึกถึงยาที่กู้มั่วหลีให้นางกินไปก่อนหน้านี้มีแค่กู้มั่วหลีเท่านั้นที่มียาถอนพิษเจี่ยนหลิงเยว่คิดถึงตรงนี้ก็ยิ่งร้อนใจอยากหากู้มั่วหลีให้พบนางตามหาทางออกประตูหลังพลางร้องเรียกชื่อกู้มั่วหลีเสียงดังแต่ภายในเรือนที่ว่างเปล่า นอกจากนางแล้วก็ไม่มีใครอีกเลยลมเย็นยะเยือกพัดมาระลอกแล้วระลอกเล่า ทำให้เจี่ยนหลิงเยว่สั่นสะท้านอย่างอดไม่อยู่ฤดูร้อนที่เดิมทีร้อนจัด ลมหอบนี้กลับหนาวเย็นผิดปกติเจี่ยนหลิงเยว่เริ่มหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว ที่นี่เดิมทีก็มืดสนิทตอนนี้แม้แต่แสงจันทร์ก็ยังอ่อนแสงหาใดเปรียบหลายครั้งทีเดียวที่นางสะดุดก้อนหินใต้ฝ่าเท้าจนเกือบจะล้มหัวทิ่มเจี่ยนหลิงเยว่เดิมก็เป็นคุณหนูรองตระกูลใหญ่ ไหนเลยจะเคยได้รับการปฏิบัติเช่นนี้กู้มั่วหลีพูดเองว่าไม่ให้นางไปไหนทั้งนั้นไม่ใช่รึ เหตุใดเขาจึงเอานางมาทิ้งไว้ที่นี่แล้วหนีไปคนเดียวเล่า?ถ้าตอนนั้นกู้มั่วหลีไม่ได้ดึงนางไว้ นางคงหนีไปอยู่ข้างกายฉู่จวินสิงแล้วต่อให้เจี่ยนอันอันจะแค้นนางปานนี้ แต่ก็ไม่มีทางทำอย่างไรกับนางอย่างไรเสียพวกนางก็มีบิ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 779

    ชายสวมชุดขาวผู้นั้นคว้าตัวกู้มั่วหลีและเจี่ยนหลิงเยว่ แล้วโยนก้อนอะไรบางอย่างขึ้นไปบนท้องฟ้าได้ยินเสียงดัง ‘ตู้ม’ ควันขาวกลุ่มหนึ่งพลันพวยพุ่งขึ้นฟ้ารอจนควันขาวนั้นสลายไป คนทั้งสามตรงหน้าซากปรักก็หายไปไร้ร่องรอยฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันรีบรุดเข้าไปดูแต่ก็สายเกินไปแล้ว“บัดซบจริงๆ คนผู้นั้นเป็นใครกันแน่?”เจี่ยนอันอันเตะก้อนหินตรงปลายเท้ากระเด็นด้วยความโมโหฉู่จวินสิงแววตาเย็นชา หลังจากเขานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เอ่ยขึ้นเนิบช้าว่า “ถ้าข้าเดาไม่ผิดล่ะก็ คนผู้นั้นคงเป็นเหวยป๋อจื่อ”“อะไรนะ คนผู้นั้นก็คือเหวยป๋อจื่อที่ถ่ายทอดอาคมให้เฉียนซื่องั้นรึ? เขามาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร หรือว่าเขาเป็นพวกเดียวกับกู้มั่วหลี?”เจี่ยนอันอันโมโหจนแทบอยากสบถคำหยาบคายออกมาเลยทีเดียว เหวยป๋อจื่อที่น่าตายผู้นี้ช่วยกู้มั่วหลีกับเจี่ยนหลิงเยว่ไปได้เสียแล้วหากไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของเหวยป๋อจื่อ นางกับฉู่จวินสิงคงจัดการกู้มั่วหลีได้แล้วฉู่จวินสิงกวาดมองซากปรักหักพังด้วยสายตาเย็นชา เอ่ยว่า “พวกเราไปจากที่นี่กันก่อนดีกว่า”เจี่ยนอันอันพยักหน้าน้อยๆ แล้วหมุนตัวจากไปทันทีพวกเขาออกไ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 778

    โชคดีที่เขาสวมเสื้อเกราะทอง ระเบิดมือเมื่อครู่นี้จึงไม่อาจทำอะไรเขาได้แต่แขนข้างนี้ถูกระเบิดจนไม่อาจออกแรงได้อีกแล้วเจี่ยนอันอันเห็นเสื้อเกราะทองที่โผล่ออกมาใต้อาภรณ์ขาดหลุดลุ่ยของกู้มั่วหลีในที่สุดนางก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดกู้มั่วหลีจึงไม่ถูกระเบิดจนตายที่แท้เขาก็สวมของล้ำค่าเช่นนี้เอาไว้นั่นเองฉู่จวินสิงก้าวมาขวางอยู่หน้าเจี่ยนอันอัน ป้องกันไม่ให้กู้มั่วหลีลงมือกับนางสายตาที่กู้มั่วหลีมองฉู่จวินสิงค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียมแต่เขาไม่ได้มองฉู่จวินสิงนานนัก สายตามองผ่านอีกฝ่ายไปจ้องมองเจี่ยนอันอันโดยตรง“เจี่ยนอันอัน เดิมข้าอยากมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เจ้า แต่ตอนนี้เห็นที ของขวัญชิ้นนี้คงไม่จำเป็นต้องมอบให้อีกแล้ว”กู้มั่วหลีเพิ่งพูดจบ เขาก็รู้สึกว่ามีเลือดพุ่งขึ้นมาในลำคอเขาหันหน้าไปอีกทาง พ่นเลือดสดๆ ออกมาคำหนึ่งแม้เขาจะสวมเสื้อเกราะทองอยู่ แต่ระเบิดเมื่อครู่ก็สั่นสะเทือนจนอวัยวะภายในของเขาได้รับบาดเจ็บถ้าไม่ใช่เพราะเขากินยามานานปี เกรงว่าป่านนี้คงลงไปกองอยู่บนพื้นเสียแล้วฉู่จวินสิงอาศัยจังหวะที่กู้มั่วหลีกระอักเลือด กระชับกระบี่เฝินเทียนในมือพุ่งเข้าโจมตีกู้ม

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 777

    แต่คิดไม่ถึงเลยว่า หลังกินยาเม็ดนี้ลงไปแล้วก็พลันปวดท้องขึ้นมาอย่างรุนแรงผ่านไปไม่นาน กระทั่งอวัยวะภายในอื่นๆ ก็เริ่มปวดจนยากจะทานทนตามไปด้วย“โอ๊ย!” เจี่ยนหลิงเยว่เจ็บปวดจนลงไปเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้น อาภรณ์บนร่างเปียกชุ่มเหงื่อเย็นเจียงหว่านเอ๋อร์ที่อยู่ข้างๆ กอดเสิ่นคังถอยออกไปไม่ไกลนางถามอย่างสงสัยทั้งเนื้อตัวสั่นเทิ้ม “ท่านให้นางกินอะไร?”กู้มั่วหลีไม่มองเจียงหว่านเอ๋อร์เลยสักแวบเดียว เขากล่าวเสียงเย็นชา “ย่อมให้นางกินยาหักกระดูกเก้าตลบที่ข้าทำขึ้นเองน่ะสิ”เพิ่งสิ้นเสียงกู้มั่วหลี ร่างกายของเจี่ยนหลิงเยว่ก็เริ่มบิดงอผิดรูปเสียงกระดูกหัก ‘กร๊อบแกร๊บ’ ยังดังมาจากภายในร่างของนางเจียงหว่านเอ๋อร์รีบกอดเสิ่นคังไว้ด้วยความตกใจแล้วหลบไปอยู่ไกลๆเสิ่นคังได้ยินเสียงร้องโหยหวนของเจี่ยนหลิงเยว่ก็แหงนหน้ามองเจียงหว่านเอ๋อร์ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก“ท่านแม่ ข้ากลัว”“คังเอ๋อร์ไม่ต้องกลัว แม่อยู่นี่”เจียงหว่านเอ๋อร์กอดเสิ่นคังแน่น กลัวว่าจะถูกกู้มั่วหลีทำร้ายอีกกู้มั่วหลีไม่สนใจคนทั้งคู่ เมื่อครู่เนื่องจากโกรธจัดเกินไป พิษในร่างจึงทำให้เขาเจ็บปวดอย่างรุนแรงไปทั้งตัวอีกครั้งเขารีบ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 776

    คำพูดของเจี่ยนหลิงเยว่ไม่ได้ทำให้กู้มั่วหลีปล่อยมือเขาตีหน้าเย็นชาถามเสียงทุ้มต่ำ “สิ่งที่เจี่ยนอันอันพูดมาทั้งหมดเป็นความจริงสินะ ยาถอนพิษถูกเจ้าทำหายไประหว่างทางแล้ว?”ก่อนหน้านี้เจี่ยนหลิงเยว่ยังบอกว่าจะเขียนจดหมายถึงเจี่ยนกั๋วกง ทำให้เขาไม่ได้ให้คนนำยาถอนพิษมาส่งตอนนี้เห็นที ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นคำโกหกที่นางปั้นแต่งขึ้นมาถ้านางไม่รู้เรื่องนี้แล้วจะพูดเช่นนี้ออกมาได้อย่างไรเล่าคิดถึงตรงนี้ เรี่ยวแรงที่มือของกู้มั่วหลีก็เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมหลายส่วนเจี่ยนหลิงเยว่รู้สึกว่าหนังศีรษะแทบจะถูกกู้มั่วหลีกระชากหลุดไปแล้ว เจ็บปวดจนนางตัวสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง“คุณชายกู้ ข้าไม่ได้เอายาถอนพิษมาด้วยจริงๆ ท่านต้องเชื่อข้านะ!”เจี่ยนหลิงเยว่เจ็บปวดจนถึงที่สุด ตอนนี้แม้แต่บาดแผลบนใบหน้าของนางก็ยังถูกดึงจนเจ็บไปด้วยเสียงร้องแหลมของเจี่ยนหลิงเยว่พลันดังขึ้นภายในห้องเจี่ยนอันอันมองกู้มั่วหลีกระชากผมเจี่ยนหลิงเยว่ด้วยสายตาเย็นชา ในใจร่ำร้องสะใจรอยยิ้มเหี้ยมผุดขึ้นบนใบหน้าของนาง กล่าวยั่วยุเหมือนที่เจี่ยนหลิงเยว่เคยทำกับเจ้าของร่างเดิมว่า“เจ้าบอกว่าเจ้าไม่ได้นำยาถอนพิษมาด้วย แล้วเจ้าม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status