แชร์

บทที่ 445

ผู้เขียน: ซินต้งหรูสุ่ย
เขาเป็นห่วงเจี่ยนอันอันมาตลอดทั้งบ่าย เมื่อเห็นว่าฟ้ามืดแล้วแต่เจี่ยนอันอันยังไม่กลับมา

เขาจึงไปขอยืมรถม้าจากบ้านของเสิ่นจือเจิ้งเพื่อมาตามหาในอำเภอ

ฉู่จวินสิงไม่ได้ไปที่ใดทั้งนั้น เขามุ่งตรงมาที่ที่ว่าการอำเภอ

ได้รับรู้จากปากเจ้าหน้าที่ทางการว่าเจี่ยนอันอันอยู่ในที่ว่าการอำเภอจริงๆ

แต่แล้วเพิ่งจะเดินเข้ามาก็ต้องพบกับภาพเช่นนี้

ฉู่จวินสิงโมโหเดือดดาล ไม่สนใจฟังคำอธิบายของเจี่ยนอันอันแต่อย่างใด

เขาดึงมือของเจี่ยนอันอัน “ไป พวกเรากลับ”

เจี่ยนอันอันถลึงตาใส่สวีจงฉืออีกรอบ เจ้าคนบ้ากามผู้นี้ทำให้ฉู่จวินสิงเข้าใจนางผิด

นางหันตัวเดินตามฉู่จวินสิงออกไป แต่แล้วกลับได้ยินเสียง ‘ตุบ’ ดังมาจากด้านหลัง

เจี่ยนอันอันหันกลับไปมอง พบว่าสวีจงฉือล้มลงกับพื้น

สวีจงฉือร้องตะโกนว่า “พวกเจ้าอย่าเพิ่งไป ข้ายังมีเรื่องที่อยากจะพูด”

เซิ่งฟางเห็นดังนี้ก็รีบเรียกคนเข้ามา บอกให้เจ้าหน้าที่ทางการช่วยประคองสวีจงฉือขึ้นเตียง

เจี่ยนอันอันถูกฉู่จวินสิงพาออกมาที่ลานด้านนอก นางกำลังจะอธิบาย แต่ฉู่จวินสิงกลับผลักนางเข้ากับกำแพง

“พูดมา เมื่อครู่นี้พวกเจ้าสองคนกำลังทำอะไรกันแน่?”

เมื่อเห็นฉู่จวินสิงถามด้วยสี
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 446

    ตลอดทางนั้น เขาไม่อาจสงบใจได้หวาดหวั่นเกรงว่าเจี่ยนอันอันจะประสบเหตุร้ายที่ข้างนอกเขาเองก็พลันรู้สึกเสียใจ เหตุใดตนถึงไม่ยืนกรานที่จะติดตามนางไปด้วยครั้นเมื่อเห็นเจี่ยนอันอันปลอดภัยไร้อันตราย เขาจึงคลายใจได้ในที่สุดเมื่อเจี่ยนอันอันเตรียมจะออกไปพร้อมฉู่จวินสิง พลันได้ยินเสียงของสวีจงฉือดังขึ้นมาจากในเรือน“แม่นางอันอัน เจ้าอย่าเพิ่งไป ข้ามีเรื่องสำคัญจะกล่าวกับเจ้า!”เจี่ยนอันอันขมวดคิ้วนิ่วหน้า พลางคิดในใจ เหตุใดบุรุษผู้นี้จึงไม่ยอมเลิกราเสียที?นางกระตุกมือฉู่จวินสิงเบา ๆ พลางกล่าวว่า “หรือเราควรเข้าไปดูกัน ว่าบุรุษผู้นั้นมีเรื่องอันใดจะพูดกับข้า”ฉู่จวินสิงจ้องมองเจี่ยนอันอันอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพยักหน้าตกลงในที่สุดเซิ่งฟางเองก็ใคร่อยากรู้ว่าสวีจงฉือจะพูดอะไรกับเจี่ยนอันอันไม่แน่ว่าอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้ก็ได้เมื่อทั้งสามเดินเข้าสู่ตัวเรือน เซิ่งฟางก็สั่งให้เจ้าหน้าที่สองนายออกไปด้านนอกสวีจงฉือเมื่อเห็นเจี่ยนอันอันเดินเข้ามา เขาก็รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อยเจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็น “เจ้ามีอะไรจะพูดก็รีบพูดออกมาเถิด ข้าไม่มีเวลาจะมานั่งเสียเวลากับเจ้า”เมื

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 447

    คนผู้นั้นหาได้หลบหนีไปไม่ แต่กลับปรากฏตัวอยู่เบื้องหลังของสวีจงฉือแทนเขากล่าวกับสวีจงฉือว่า “ดูเรื่องสนุกจนหนำใจแล้ว เช่นนั้นเจ้าก็ตายได้แล้ว”สวีจงฉือตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ รู้สึกคันในลำคออย่างรุนแรงเขาเกือบจะไอออกมา แต่ก็กลัวว่าคนในจวนผู้ว่าการมณฑลจะได้ยินเขาจึงรีบยกมือขึ้นปิดปาก กลั้นไอไว้สุดกำลังคนผู้นั้นใช้ลูกธนูจ่อที่ลำคอของสวีจงฉือ และสังเกตเห็นความผิดปกติของเขาทว่าคนผู้นั้นไม่ได้สังหารเขาในทันที แต่กลับโน้มตัวมากระซิบที่ข้างหูของเขาว่า “ข้าเห็นว่าเจ้าคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว ครั้งนี้ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”“แต่ข้าว่าร่างกายเช่นเจ้าที่เต็มไปด้วยโรคร้าย ไร้ยาที่จะรักษาได้”“ไม่สู้เจ้าไปหาสตรีผู้นั้นในจวน จำเอาไว้ว่านางมีนามว่าเจี่ยนอันอัน”“ขอให้นางปรุงยาพิษให้เจ้า รับรองว่าเจ้าจะได้ลงนรกไปพบกับพญายมในเร็ววัน”เมื่อกล่าวจบ ชายผู้นั้นก็หายวับไปต่อหน้าต่อตาสวีจงฉือสวีจงฉือไม่กล้าอยู่ในที่นั้นอีก รีบวิ่งกลับบ้านอย่างร้อนรนแต่ในใจของเขา เอาแต่นึกถึงคำพูดของคนผู้นั้นหากร่างกายของเขาไร้หนทางรักษาจริง ๆ ไม่สู้เขาปรุงยาพิษเพื่อจบชีวิตตัวเองโดยเร็วจะได้สิ้นเรื่องสิ้นราวเส

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 448

    เซิ่งฟางเข้าใจแล้วว่า เรื่องที่สวีจงฉือถูกแทงจนบาดเจ็บนั้น อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกู้มั่วหลีและไม่แน่ว่าเขาอาจเป็นคนที่สังหารผู้ร้ายที่แทงสวีจงฉือก็ได้สวีจงฉือมองเจี่ยนอันอันที่มีสีหน้าเคียดแค้น พลางครุ่นคิดว่าตนเองพูดอะไรผิดไปหรือไม่?เจี่ยนอันอันจ้องมองสวีจงฉือด้วยสายตาเย็นชา “เรื่องนี้เจ้าห้ามเล่าให้ใครฟังเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้าอยู่ไม่สู้ตาย”ใบหน้าของสวีจงฉือเผยรอยยิ้มขมขื่นออกมา“หากข้าคิดจะพูดเรื่องนี้ออกไป ข้าคงแจ้งทางการไปตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว”ในตอนนั้นเอง ฉู่จวินสิงที่เงียบมาตลอดก็เอ่ยปากพูดขึ้น“ในเมื่อเจ้ารู้เรื่องในจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจว ไยไม่คิดแจ้งทางการ?”คำถามนี้เป็นสิ่งที่ทั้งเจี่ยนอันอันและเซิ่งฟางอยากรู้เช่นกันเกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ในจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจว แต่กลับไม่มีข่าวคราวใดเล็ดลอดออกไปแม้แต่น้อยแม้แต่บรรดาญาติ ๆ ในจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจวเองก็ไม่มีใครออกมาแจ้งความมิเช่นนั้น พวกเขาก็คงไม่อาจใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเช่นนี้ได้สวีจงฉือเหลือบมองฉู่จวินสิง ก่อนจะเก็บรอยยิ้มบนใบหน้าเขาแค่นเสียงเยาะเย้ย “ผู้ว่าการมณฑลจงโจวผู้นั้น อาศัยตำแหน่งขุนนางขอ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 449

    ฉู่จวินสิงและเซิ่งฟางไม่ได้คิดอะไรมากนัก รีบกินยาที่นางส่งให้ในทันทีเจี่ยนอันอันเองก็กินยาหนึ่งเม็ดเช่นกันเช่นนี้แล้ว แม้สวีจงฉือจะไออีก ก็ไม่อาจแพร่เชื้อมายังพวกเขาได้สวีจงฉือมองดูการกระทำของเจี่ยนอันอันด้วยความงุนงง“แม่นางเจี่ยน ข้าป่วยเป็นโรคอะไรหรือ เหตุใดพวกเจ้าต้องกินยาด้วย?”เจี่ยนอันอันตอบตรงไปตรงมา “จากอาการที่เจ้ากล่าวมา เจ้าป่วยเป็นวัณโรค ซึ่งมีการติดต่อรุนแรง”“ดังนั้นพวกเราสามคนจึงจำเป็นต้องกินยาป้องกันการติดโรค”เมื่อได้ยินว่าตนเองป่วยเป็นวัณโรค สวีจงฉือก็รู้สึกหน้ามืดทันทีเหตุใดเขาจึงต้องป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หายเช่นนี้ด้วยไม่น่าแปลกใจเลยว่าเหตุใดคนที่สวมหน้ากากเงินที่เคยสนทนากับเขา จึงต้องใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดจมูกและปากขณะพูดคุยเมื่อคิดดูในตอนนี้ ชายคนนั้นคงกลัวว่าจะติดโรคจากเขาเป็นแน่เขาซึ่งเป็นถึงเถ้าแก่ร้านขายยา กลับไม่รู้ว่าตนเองป่วยเป็นโรคติดต่อเช่นนี้แล้วบรรดาลูกค้าที่มาซื้อสมุนไพรจากร้านของเขาเล่า จะถูกเขาแพร่โรคไปหรือไม่?สวีจงฉือรู้สึกผิดที่ร้ายผู้คนไปไม่น้อยโดยไม่รู้ตัว หากข้ารู้แต่แรกว่าป่วยเป็นโรคนี้ ข้าคงปิดร้านขายยาไปนานแล้วแม้จะต้องตาย

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 450

    เจี่ยนอันอันหันกลับมาอย่างรวดเร็ว แล้วเห็นกู้มั่วหลีที่ไม่รู้ว่ามายืนอยู่ข้าง ๆ นางตั้งแต่เมื่อใดใบหน้าของนางเกือบจะสัมผัสกับใบหน้าของกู้มั่วหลีเจี่ยนอันอันรู้สึกขนลุกวาบ นางรีบถอยหลังไปหนึ่งก้าวทันที“เจ้าอีกแล้วหรือ เจ้าคนน่าชัง เจ้าเข้ามาได้อย่างไร?”ในขณะที่พูด มือของเจี่ยนอันอันก็ปรากฏมีดสั้นเคลือบพิษด้ามหนึ่งทันทีด้านนอกมีเจ้าหน้าที่ทางการคอยเฝ้าอยู่ แล้วกู้มั่วหลีเข้ามาโดยไร้สุ้มเสียงได้อย่างไรเมื่อกี้เขาเข้ามาใกล้นางถึงเพียงนี้ แต่นางกลับไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อยชายคนนี้อันตรายเกินไปแล้ว!เจี่ยนอันอันจำต้องตั้งสมาธิอย่างเต็มที่เพื่อรับมือกับกู้มั่วหลีกู้มั่วหลีหัวเราะเบา ๆ มองมีดสั้นในมือของเจี่ยนอันอันเขายิ้มออกมาอีกครั้ง แต่รอยยิ้มที่มุมปากของเขากลับส่งไปไม่ถึงแววตา“เจี่ยนอันอัน ข้าเคยบอกแล้วว่าเราจะได้พบกันอีก”กู้มั่วหลีกล่าวพร้อมกับก้าวเข้ามาใกล้หนึ่งก้าว ยกมือขึ้นราวกับจะสัมผัสใบหน้าของเจี่ยนอันอัน“กู้มั่วหลี เจ้าอยากตายหรือ!”เมื่อเห็นมือของกู้มั่วหลียื่นเข้ามาใกล้ใบหน้าของนางเจี่ยนอันอันพลันตวาดเสียงกร้าว พลางกำมีดสั้นในมือแน่น แล้วแทงตรงไปยังข้อมื

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 451

    ที่ว่าการอำเภอก็มีสถานที่กว้างใหญ่เพียงแค่นี้ ห้องครัวเองก็อยู่ไม่ไกลนักเจี่ยนอันอันไม่มีทางที่จะปรุงยานานถึงขนาดนี้ แล้วยังไม่กลับมาอีกเขารีบนำฉู่จวินสิงมุ่งหน้าไปทางด้านห้องครัวทันทีทั้งสองคนล้วนแต่กังวลอยู่ในใจ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเจี่ยนอันอันในตอนที่ทั้งสองคนมาถึงบริเวณใกล้ๆ ห้องครัวนั้น ก็มองเห็นเจ้าหน้าที่ทางการคนหนึ่งที่เฝ้าประตูอยู่ นอนอยู่บนพื้นในใจของฉู่จวินเคร่งขรึมขึ้นมา รีบวิ่งไปยังห้องครัวอย่างรวดเร็วก็เห็นว่าไฟบนเตายังคงลุกอยู่ ยาที่ปรุงอยู่ในเตายาถูกเผาจนแทบจะแห้งแล้วทว่าเจี่ยนอันอันกลับหายไปในตอนที่ฉู่จวินสิงกำลังจะออกไป เท้ากลับเตะไปโดนอะไรบางอย่างเข้าเขาย่อกายลงไปมอง เป็นกริชเล่มหนึ่งกริชเล่มนี้เขาเคยพบที่เจี่ยนอันอันมาก่อนฉู่จวินสิงหยิบกริชขึ้นมา ในใจก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายมากยิ่งขึ้นใบหน้าของเขาเคร่งขรึม รีบเดินออกไปจากห้องครัวเซิ่งฟางมาถึงด้านนอกห้องครัว แล้วตรวจดูลมหายใจจากจมูกของเจ้าหน้าที่ทางการดีที่เจ้าหน้าที่ทางการเพียงแค่ถูกตีจนสลบไป ไม่ได้เป็นอะไรมากนักเมื่อเห็นว่ามีเพียงแค่ฉู่จวินสิงคนเดียวที่เดินออกมา เซิ่งฟางก็รีบถามขึ้น “เป็นอย

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 452

    ส่วนด้านล่างของนางนั้น ก็มีฟูกวางอยู่เจี่ยนอันอันส่งเสียงฮึดฮัดออกมา แล้วลอบคิดกับตัวเองในใจเจ้าบ้ากู้มั่วหลีนี่ คงจะกลัวว่านางจะหนาวแล้วเป็นหวัดอย่างนั้นหรือ ถึงได้ใจดีหาฟูกให้นางเจี่ยนอันอันลุกขึ้นยืน แล้วรีบตามหาทางออกนางเคาะกำแพงหิน ก็พบว่ากำแพงหินทุกอันล้วนแต่ถูกปิดตายเอาไว้ที่นี่ไม่มีกลไกใดที่จะสามารถเปิดกำแพงหินออกได้เจี่ยนอันอันพยายามท่องจุดหมายปลายทางในใจ คิดจะใช้วิธีการเคลื่อนย้ายกายออกไปจากที่นี่ แล้วกลับไปหาฉู่จวินสิงแต่ไม่คิดเลยว่าความสามารถที่ตนเองภาคภูมิใจนี้ กลับไม่อาจใช้ที่นี่ได้นางคิดถึงในตอนต้นที่นายอำเภอคนก่อนขังเอาไว้ในที่ว่าการอำเภอนั้น ก็มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อนเช่นกันในตอนนั้นฉู่จวินสิงตกลงไปในหลุมใต้ดิน นางก็คิดจะใช้วิธีเคลื่อนย้ายกาย เพื่อไปหาฉู่จวินสิงในตอนนั้นเป็นเหมือนกับตอนนี้ ความสามารถนี้ของนางใช้ไม่ได้เลยเจี่ยนอันอันเข้าใจแล้ว เคล็ดวิชาเคลื่อนไหวกายของนาง หากว่าเมื่อพบกับห้องที่เป็นหินก็จะไม่ประสบผลในตอนที่เจี่ยนอันอันกำลังค้นหากลไกอยู่นั้น กำแพงหินด้านหลังนั้นก็จู่ๆ ก็เกิดเสียง ‘ครืด’ ดังขึ้นเจี่ยนอันอันหันกลับไปอย่างรวดเ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 453

    กู้มั่วหลีวางชามและตะเกียบลง แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดปาก “เจ้าอยากออกไปมากเช่นนี้ ไม่กลัวหรือว่าคนของที่ว่าการจะมาจับเจ้าไป?”เจี่ยนอันอันเงยหน้าขึ้นมองไปที่กู้มั่วหลี คำพูดนี้ของเขาหมายความว่าอะไรกัน?เรื่องของเจ้าเมืองจงโจว จนกระทั่งถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใด หากว่ามีคนของทางการมาจับตัวนาง ก็คงจะส่งคนมาจับเสียนานแล้วคงจะไม่รอจนถึงตอนนี้ถึงได้เริ่มจับเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันมองมายังตนเองโดยไม่เลื่อนสายตาไปที่ใด กู้มั่วหลีก็ลุกขึ้นยืนเขาส่งเสียงพูดออกมา “เจ้ากินต่อไปเถอะ ข้าอิ่มแล้ว”เมื่อกู้มั่วหลีพูดจบ ก็เดินมายังกำแพงหินที่เพิ่งจะเปิดออกเมื่อครู่นี้และไม่รู้ว่าเขาทำอะไรกับกำแพงหิน ไม่นานนักกำแพงหินก็เปิดออกกู้มั่วหลีก้าวขาออกไปได้เพียงแค่ก้าวเดียว เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะจากไปเจี่ยนอันอันก็รีบส่งเสียงเรียกออกมา “เจ้ารอก่อน เดี๋ยวค่อยไป”กู้มั่วหลีดึงเท้ากลับมา แล้วหันไปมองเจี่ยนอันอัน “อะไรกัน ตัดใจให้ข้าจากไปไม่ได้อย่างนั้นหรือ” เขาพูดขึ้น มุมปากก็ยกเป็นรอยยิ้มขึ้นมาเจี่ยนอันอันกลอกตามองบน แล้วพูดอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก “ข้าเพียงแต่อยากจะถามคำถามเจ้

บทล่าสุด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 670

    พวกเขาไม่ยอมลงมาเสียที คงกลัวจะถูกคนของทางการพบเห็นว่ามาพักอยู่ที่นี่ไม่นานก็มีเสี่ยวเอ้อยกอาหารออกมา แล้วเดินขึ้นชั้นบนไปเขาเคาะประตู ครู่หนึ่งจึงมีมือข้างหนึ่งยื่นออกมา พร้อมรับเอาถาดอาหารเข้าไปคนในห้องยังได้พูดจาบางอย่างกับเสี่ยวเอ้อ เห็นเพียงเสี่ยวเอ้อพยักหน้าหงึกหงัก หลังจากรับเงินมาแล้วจึงเดินลงชั้นล่างไปเมื่อมั่นใจว่าพวกเขายังอยู่ในห้อง เพียงไม่ได้ปรากฏตัวเท่านั้นฉู่จวินสิงจึงค่อยๆ กินข้าวช้าลงด้วยรอจนกระทั่งทั้งคู่กินข้าวเสร็จ ผู้คนในโถงกินข้าวก็ได้ออกไปกว่าครึ่งแล้วเจี่ยนอันอันซับคราบน้ำมันที่มุมปาก พลางกล่าวด้วยความพึงพอใจ “อาหารโรงเตี๊ยมนี้ช่างถูกปากข้านัก”ฉู่จวินสิงยิ้มๆ มิได้พูดจาทั้งคู่เดินขึ้นชั้นบนไป แต่มิได้กลับเข้าห้องของตน กลับเดินมาหยุดที่หน้าห้องหม่าลู่และเฉินเช่อแทนฉู่จวินสิงยกมือขึ้นเคาะประตู ไม่นานในห้องก็มีเสียงคล้ายหวาดระแวงของเฉินเช่อ“ใคร?”ฉู่จวินสิงกล่าวเสียงต่ำ “เฉินเช่อ เปิดประตู เป็นข้าเองฉู่จวินสิง”ขาดคำมิทันไร จึงได้ยินในห้องมีเสียงฝีเท้าคนเดินและไม่นานประตูก็ถูกแง้มออกเป็นซอกเล็กเมื่อเฉินเช่อเห็นผู้ที่มายืนอยู่ด้านนอก มิใช

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 669

    ฉู่จวินสิงกล่าวจบ จึงปล่อยมือเจี่ยนอันอันแล้วลุกขึ้นเดินออกไปเจี่ยนอันอันเอนกายนอนลงบนเตียงเช่นเดิม มือกุมที่หน้าท้องแบนราบลูกคนนี้มาเร็วเกินไป จนนางไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจแต่มาหวนคิดอีกที เมื่อเด็กเลือกที่จะมาอยู่กับพวกเขา นางจึงมีหน้าที่ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรอให้ลูกลืมตาดูโลกเมื่อใด นางจะเลี้ยงดูให้ใช้ชีวิตสุขสบายเหมือนตนเองเจี่ยนอันอันนำยาบำรุงจากห้วงมิติออกมาแล้วกินเข้าไป พลันอาการหน้ามืดวิงเวียนค่อยบรรเทาลงบ้างนางลงจากเตียง เดินมาถึงนอกประตู จึงเห็นฉู่จวินสิงยืนอยู่ด้านนอกผู้เดียว คล้ายรับลมเย็นอยู่เจี่ยนอันอันเดินมาข้างกาย พลางเรียกเบาๆ “ท่านพี่”ฉู่จวินสิงกำลังใช้ความคิดบางอย่างอยู่ แม้กระทั่งเจี่ยนอันอันเดินออกมา เขาก็ยังไม่รู้ตัวเมื่อถูกนางเรียกเข้า จึงได้ตั้งสติกลับมาโชคดีที่บริเวณนี้ไม่มีคนนอกอยู่ด้วย มิเช่นนั้นหากให้ใครได้ยินเข้า ชายหนุ่มผู้หนึ่งเรียกหนุ่มอีกคนว่าท่านพี่ คงได้ตกใจจนตาถลนออกนอกเบ้าเป็นแน่แท้ ฉู่จวินสิงมองไปยังชั้นล่าง ยังไม่เห็นวี่แววลูกน้องสองคนจะมาถึงเขาจึงดึงตัวเจี่ยนอันอันกลับเข้าห้องไป“เหตุใดเจ้าจึงไม่นอนพักอี

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 668

    เขาตื่นเต้นจนนั่งลงที่เตียง พร้อมจับมือเจี่ยนอันอันไว้ วางที่ริมฝีปากแล้วจุมพิตเบาๆ“ขอบคุณสวรรค์ ในที่สุดเราสองคนก็จะมีทายาทแล้ว”“แสดงว่าสิ่งที่ข้าทำไปก่อนหน้านี้ นับว่าไม่เสียเปล่า”เจี่ยนอันอันมองดูสีหน้าตื่นเต้นยินดีของฉู่จวินสิง นางกลับไม่ยินดียินร้ายและไม่นานก็รู้สึกถึงความผิดปกติ“เมื่อครู่นี้ท่านหมายความว่ากระไร อะไรคือสิ่งที่ทำไม่เสียเปล่า?”หรือว่าก่อนหน้านี้ฉู่จวินสิงนำยาคุมกำเนิดของนาง ไปสับเปลี่ยนเป็นยาตัวอื่น?แต่ความคิดนี้ผุดขึ้น พลันถูกเจี่ยนอันอันลบทิ้งไปเขามิใช่คนในยุคปัจจุบันเสียหน่อย จะรู้ได้อย่างไรว่ายังมียาชนิดอื่นทดแทนยาคุมกำเนิดได้แล้วฉับพลันเจี่ยนอันอันก็นึกขึนได้ว่า ครั้งแรกที่นางมีอะไรกับฉู่จวินสิง ตอนนั้นนางไม่ได้กินยาคำนวณเวลาดูแล้ว ห่างจากตอนนั้นถึงตอนนี้ ก็ประมาณหนึ่งเดือนจริงๆเจี่ยนอันอันพลันนิ่งอึ้ง นางนึกเสียใจที่วันนั้นเหตุใดจึงไม่กินยาก่อน?แต่ตอนนี้ไม่ว่าพูดอย่างไรก็สายเกินแก้ นางไม่ต้องการมีลูกเร็วขนาดนี้ แต่ก็ไม่ทันการณ์เสียแล้วฉู่จวินสิงมองหน้าเจี่ยนอันอัน ประเดี๋ยวก็คิ้วขมวด ประเดี๋ยวก็ให้หมดอาลัยตายอยากเขารู้สึกห่อเหี่ยวลง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 667

    ยามนี้เจี่ยนอันอันรู้สึกคล้ายวิงเวียนศีรษะ เห็นทีต้องกลับไปพักเอาแรงเสียหน่อยแล้วระหว่างทางกลับโรงเตี๊ยม เจี่ยนอันอันถามฉู่จวินสิง “ท่านรู้สึกเวียนศีรษะบ้างหรือไม่?”ฉู่จวินสิงส่ายหน้า เป็นเชิงว่าตนมิได้รู้สึกผิดปกติแต่อย่างใดแต่เขากลับรู้สึกว่า มือของเจี่ยนอันอันค่อนข้างเย็น“เจ้าเป็นอะไร ร่างกายไม่สบายใช่หรือไม่?”เจี่ยนอันอันพยักหน้าเบาๆ นางกำลังรู้สึกว่าเวลาเดินคล้ายตัวลอยอย่างไรชอบกลสองเท้าเหมือนดั่งย่ำอยู่บนปุยนุ่น มีความทรมานนักฉู่จวินสิงเห็นท่าไม่สู้ดี จึงก้มตัวลงต่อหน้านาง“ขึ้นมา ข้าจะแบกเจ้ากลับไป”เจี่ยนอันอันมิได้โต้แย้ง เพราะนางรู้สึกไม่ใคร่สบายจริงๆ จึงไม่คิดขัดขืน พลางแนบลงแผ่นหลังฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงแบกนางแล้วเดินต่อ ระหว่างทางยังถอยถามไถ่อาการเป็นระยะเจี่ยงอันอันเพียงคิดว่าอาจเพราะเมื่อครู่ฆ่าคนมากเกินไป และสูดกลิ่นคาวเลือดมากไปด้วยบวกกับยาเม็ดนั้น นางใช้เวลาอันสั้นในการปรุงออกมาสรรพคุณของยาคงไม่ดีเท่ายาที่ผลิตได้ในยุคปัจจุบันนางซบอยู่แผ่นหลังฉู่จวินสิง พร้อมนำความคิดตนพูดให้เขาฟังฉู่จวินสิงเริ่มใช้วิชาตัวเบา ทำให้การเดินเท้ารวดเร็วกว่าเมื่อคร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 666

    หลังจากทั้งคู่กินข้าวเสร็จ กลับไม่ได้พักผ่อนอยู่ในโรงเตี๊ยมหลังจากออกไปข้างนอก ก็มาอยู่ในมุมๆ หนึ่งซึ่งปลอดคนในใจรีบท่องชื่อว่านผิงพร้อมกัน และไม่นานก็หายตัวไปจากซอกมุมนั้นเมื่อพวกเขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง จึงเห็นว่านผิงกับพวกกำลังเที่ยวจับคนอยู่ทุกครั้งที่จับชายคนหนึ่งได้ ก็จะหยิบภาพเขียนออกมาเปรียบเทียบดูใบหน้าทำเอาผู้คนบนท้องถนนต่างตกใจเป็นการใหญ่ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันยังอยู่ในสภาพอำพรางกายอยู่ ว่านผิงกับพวกจึงไม่รู้ว่ามีคนมาคอยติดตามและพวกเขาก็ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้น กลับเดินตามพวกว่านผิงไปเรื่อยๆโดยตั้งใจว่าจะหาโอกาสเหมาะ ค่อยลงมือเสียทีเดียวเพราะถ้าอยู่ท้องถนนแล้วลงมือฆ่าคน อาจทำให้ชาวบ้านตื่นตระหนกเป็นอย่างมากพวกเขาจับคนมาหลายคน แต่ล้วนไม่ใช่คนในภาพเขียนทำเอาว่านผิงโกรธจนกำหมัดแน่น มองหน้าลูกน้องพร้อมกล่าวเสียงดุ “พวกมันยังอยู่ในเมืองหลี่จง รีบไปค้นหาให้ทั่ว อย่าได้ปล่อยผ่านแม้แต่คนเดียว!”“ขอรับ ท่านหัวหน้า”ลูกน้องรับคำโดยพร้อมเพรียง และตามหาต่อไปเมื่อพวกเขามาถึงที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง พลันเห็นข้างหน้ามีบ้านเล็กหลังหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ดูจากประตูที่เก่าโทร

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 665

    ว่านผิงส่งสายตาให้เหล่าลูกน้อง ทุกคนรีบวิ่งขึ้นชั้นบนไปต่างถือเอาภาพเหมือนออกมา พร้อมเปรียบเทียบบนใบหน้าแขกทีละคน เมื่อเห็นว่าล้วนไม่ใช่คนที่ตนต้องการจะหา อีกทั้งมองดูในห้อง จนแน่ใจว่าไม่มีใครหลบซ่อนอยู่ จึงลงไปยังชั้นล่าง“หัวหน้า ชั้นบนไม่มีคนที่เราจะหา”ว่านผิงเหลียวมองคนที่นั่งกินอาหารอยู่ในโรงเตี๊ยม มองดูแต่ละคนแล้วสำรวจขึ้นลง สุดท้ายไปจับจ้องอยู่ที่ฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันเขาเห็นคนทั้งคู่ต่างก้มหน้ากินข้าว แทบไม่เงยหน้าขึ้นมองผู้ใดเสียด้วยซ้ำจึงผละจากเถ้าแก่ เดินจ้ำอ้าวไปทางฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอัน“เงยหน้าขึ้นมา” ว่านผิงกล่าวเสียงตะคอก กระบี่ในมือชี้ที่ลำคอฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงแทบไม่นำพาต่อกระบี่ที่พาดคอ พลางวางตะเกียบลง หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดมุมปาก “ว่าอย่างไร เจ้าคิดลงมือกับข้าด้วยรึ?”ฉู่จวินสิงเลียนแบบน้ำเสียงของอิ่นเจียง พลางเหลือบตาขึ้นมองว่านผิงทันทีที่ว่านผิงเห็นหน้าฉู่จวินสิงชัดเจน จึงตกใจจนตัวสั่น พลางรีบเก็บกระบี่ขึ้น“ข้าน้อยไม่รู้ว่าใต้เท้ามาอยู่นี่ เมื่อครู่ล่วงเกินไป ขอท่านโปรดอภัยด้วย”ว่านผิงยืนอยู่ด้านข้างฉู่จวินสิง ในใจรู้สึกขนลุกขนชัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 664

    ฉู่จวินสิงเห็นเจี่ยนอันอันในที่สุดก็ลืมตาขึ้น จึงได้กล่าวกับนาง “เมื่อครู่ข้าเรียกเจ้าอยู่หลายที เจ้าก็ไม่ขานตอบ ข้ายังนึกว่าเกิดอะไรขึ้นเสียอีก”เจี่ยนอันอันเพิ่งจะนึกได้ เมื่อครู่นางกำลังเพ่งมองภาพในมิติอยู่ ข้างโสตได้ยินเสียงคนเรียกชื่อนางจริงๆเพียงแต่ความสนใจของนาง ล้วนไปอยู่ในภาพนั้นหมดสิ้น จึงไม่ได้ใส่ใจการเรียกหาของฉู่จวินสิงนางจึงยอมให้ฉู่จวินสิงมานั่งด้านข้าง พร้อมนำภาพที่เห็น บอกเล่าให้เขาฟัง“จากที่เจ้าเล่ามา ชายสองคนที่เห็นนั้น อาจเป็นลูกน้องข้าก็ได้”เจี่ยนอันอันก็นึกถึงข้อนี้เช่นกัน หากชายสองคนนั้นไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาจริง เบื้องหน้านางคงไม่ปรากฏภาพเช่นนั้นออกมา“เมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็รออยู่ในโรงเตี๊ยมนี้แหละ เพราะที่ๆ สองคนนั้นจะมาพักก็คือโรงเตี๊ยมแห่งนี้”ฉู่จวินสิงได้ยินดังนี้ พลันเกิดความคิดในใจขอเพียงชายสองคนนั้นปรากฏตัวขึ้น เขาก็จะได้สมทบกับพวกเขาทันทีเพียงแต่ไม่รู้ว่าพวกเขาทั้งห้าคนหลบหนีพร้อมกัน เหตุใดจึงได้พลัดหลงกันเช่นนี้?หรือว่าลูกน้องอีกสามคนได้ถูกคนของฉู่ชางเหยียนจับกลับไปเสียแล้ว?เจี่ยนอันอันเห็นฉู่จวินสิงขมวดคิ้วมุ่น นางจึงเอ่ยปาก “อย่าเพ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 663

    ฉู่จวินสิงกล่าวเสียงก้อง “เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะให้เวลาท่านสามวันในการสืบเรื่องนี้”“ถ้าไม่ได้ตัวผู้ก่อเหตุมา ข้าจะทำตามรับสั่งของฝ่าบาท สั่งประหารพวกท่านทั้งครอบครัว”คำพูดของฉู่จวินสิง ทำให้เจ้าเมืองข่งสะดุ้งอย่างแรงจนแม้แต่สะใภ้รองที่คุกเข่าอยู่ด้านข้าง ก็พลอยหวาดกลัวจนตัวสั่นไปด้วยนางแอบเหลียวมองเจ้าเมืองข่ง เห็นอีกฝ่ายก้มหน้าก้มตา ไม่รู้ว่าจะตามหาคนผู้นั้นได้พบหรือไม่หลังจากฉู่จวินสิงและเจี่ยนอันอันจากไปแล้ว เจ้าเมืองข่งค่อยทรุดตัวลงกับพื้นเขาหายใจหอบแรง หวังจะช่วยระงับความหวาดหวั่นในใจบ้างสะใภ้รองได้ยินว่าโทษถึงขั้นประหารชีวิต ทำให้นางร้อนใจจนเดือดพล่านยิ่งกว่ามดที่อยู่บนฝาหม้อร้อน น้ำตาก็ยิ่งไหลรินไม่หยุด“ท่านพ่อ ข้ายังไม่อยากตาย โรคของซีเอ๋อร์ยังไม่ทันรักษาให้หายขาด เขาจะถูกประหารเช่นนี้ไม่ได้ ท่านต้องรีบจับกุมผู้แอบอ้างชื่อผู้นั้นให้ได้นะเจ้าคะ!”เจ้าเมืองข่งมีแผนการในใจอยู่แล้ว จึงถลึงตาใส่สะใภ้รอง พลางกล่าว “เลิกร้องไห้เสียที รีบไปดูซีเอ๋อร์ก่อนว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”สะใภ้รองรีบซับน้ำตาที่นองหน้าอยู่ พลางลุกขึ้นแล้วเดินไปข้างเตียงมองดูซีเอ๋อร์ขณะนั้นมีสาวใ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 662

    เสียงของเจี่ยนอันอันดังขึ้นจากด้านหลัง “บอกให้พวกเขาถอยออกไป หาไม่ข้าจะให้พวกท่านตายทั้งบ้าน!”เจ้าเมืองข่งรู้ดีว่าสองคนนี้วรยุทธ์ไม่เบา จึงไม่กล้าทำการบุ่มบ่าม ได้แต่รีบโบกมือให้เหล่าทหารจนแม้แต่สะใภ้รองที่อยู่บนเตียง ก็ตกใจกับคำพูดเจี่ยนอันอันเสียจนต้องรีบหยุดร้องไห้โดยพลันรอให้ทหารออกไปหมดแล้ว เจ้าเมืองข่งจึงได้ถามเสียงสั่น “พวกเจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่?”“ที่เรามานี่ ย่อมได้รับพระบัญชาจากฮ่องเต้ ให้สืบเรื่องราวการสอบจอหงวนเมื่อสามปีก่อน”เจ้าเมืองข่งได้ยินคำพูดของฉู่จวินสิง พลันขมวดคิ้วมุ่น สองตาจ้องเขม็งไปที่เขาเพียงไม่นานเจ้าเมืองข่งก็สังเกตจากบุคลิกและการแต่งกายของฉู่จวินสิง ดูออกว่าอีกฝ่ายเป็นชาวจิงโจวจริงๆแต่จะบอกว่ารับพระบัญชามาจากฮ่องเต้ ก็ออกจะฟังไม่ขึ้นไปเสียหน่อย“พวกเจ้ามีสิ่งใดมายืนยันว่ารับพระบัญชามาสืบสวนข้าจริง?”ซ้ำยังเป็นเรื่องเมื่อสามปีที่แล้วฮ่องเต้ทรงมีราชกิจมากมาย จู่ๆ จะทรงนึกได้อย่างไรว่าต้องสืบสวนเรื่องการสอบจอหงวนเมื่อสามปีก่อนไม่แน่ว่าสองคนนี้ อาจเป็นผู้ใดส่งมาแก้แค้นเขาก็ได้เพราะเขาเคยรับผลประโยชน์จากผู้อื่นมาไม่น้อย อีกทั้งให้ผู้ที่สอบตก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status