Share

บทที่ 452

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
ส่วนด้านล่างของนางนั้น ก็มีฟูกวางอยู่

เจี่ยนอันอันส่งเสียงฮึดฮัดออกมา แล้วลอบคิดกับตัวเองในใจ

เจ้าบ้ากู้มั่วหลีนี่ คงจะกลัวว่านางจะหนาวแล้วเป็นหวัดอย่างนั้นหรือ ถึงได้ใจดีหาฟูกให้นาง

เจี่ยนอันอันลุกขึ้นยืน แล้วรีบตามหาทางออก

นางเคาะกำแพงหิน ก็พบว่ากำแพงหินทุกอันล้วนแต่ถูกปิดตายเอาไว้

ที่นี่ไม่มีกลไกใดที่จะสามารถเปิดกำแพงหินออกได้

เจี่ยนอันอันพยายามท่องจุดหมายปลายทางในใจ คิดจะใช้วิธีการเคลื่อนย้ายกายออกไปจากที่นี่ แล้วกลับไปหาฉู่จวินสิง

แต่ไม่คิดเลยว่าความสามารถที่ตนเองภาคภูมิใจนี้ กลับไม่อาจใช้ที่นี่ได้

นางคิดถึงในตอนต้นที่นายอำเภอคนก่อนขังเอาไว้ในที่ว่าการอำเภอนั้น ก็มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อนเช่นกัน

ในตอนนั้นฉู่จวินสิงตกลงไปในหลุมใต้ดิน นางก็คิดจะใช้วิธีเคลื่อนย้ายกาย เพื่อไปหาฉู่จวินสิง

ในตอนนั้นเป็นเหมือนกับตอนนี้ ความสามารถนี้ของนางใช้ไม่ได้เลย

เจี่ยนอันอันเข้าใจแล้ว เคล็ดวิชาเคลื่อนไหวกายของนาง หากว่าเมื่อพบกับห้องที่เป็นหินก็จะไม่ประสบผล

ในตอนที่เจี่ยนอันอันกำลังค้นหากลไกอยู่นั้น กำแพงหินด้านหลังนั้นก็จู่ๆ ก็เกิดเสียง ‘ครืด’ ดังขึ้น

เจี่ยนอันอันหันกลับไปอย่างรวดเ
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 453

    กู้มั่วหลีวางชามและตะเกียบลง แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดปาก “เจ้าอยากออกไปมากเช่นนี้ ไม่กลัวหรือว่าคนของที่ว่าการจะมาจับเจ้าไป?”เจี่ยนอันอันเงยหน้าขึ้นมองไปที่กู้มั่วหลี คำพูดนี้ของเขาหมายความว่าอะไรกัน?เรื่องของเจ้าเมืองจงโจว จนกระทั่งถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใด หากว่ามีคนของทางการมาจับตัวนาง ก็คงจะส่งคนมาจับเสียนานแล้วคงจะไม่รอจนถึงตอนนี้ถึงได้เริ่มจับเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันมองมายังตนเองโดยไม่เลื่อนสายตาไปที่ใด กู้มั่วหลีก็ลุกขึ้นยืนเขาส่งเสียงพูดออกมา “เจ้ากินต่อไปเถอะ ข้าอิ่มแล้ว”เมื่อกู้มั่วหลีพูดจบ ก็เดินมายังกำแพงหินที่เพิ่งจะเปิดออกเมื่อครู่นี้และไม่รู้ว่าเขาทำอะไรกับกำแพงหิน ไม่นานนักกำแพงหินก็เปิดออกกู้มั่วหลีก้าวขาออกไปได้เพียงแค่ก้าวเดียว เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะจากไปเจี่ยนอันอันก็รีบส่งเสียงเรียกออกมา “เจ้ารอก่อน เดี๋ยวค่อยไป”กู้มั่วหลีดึงเท้ากลับมา แล้วหันไปมองเจี่ยนอันอัน “อะไรกัน ตัดใจให้ข้าจากไปไม่ได้อย่างนั้นหรือ” เขาพูดขึ้น มุมปากก็ยกเป็นรอยยิ้มขึ้นมาเจี่ยนอันอันกลอกตามองบน แล้วพูดอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก “ข้าเพียงแต่อยากจะถามคำถามเจ้

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 454

    เรื่องที่มีระเบิดนั้น มีเพียงแค่นางเท่านั้นที่รู้เกรงว่าทั้งชาตินี้กู้มั่วหลีก็ไม่มีทางที่จะคาดถึงว่านางจะใช้วิธีการนี้หลบหนีออกไปเมื่อคิดถึงตรงนี้เจี่ยนอันอันก็อารมณ์ดีขึ้นมากนางยังรู้สึกได้ว่าอาหารดูน่าอร่อยเป็นพิเศษอาศัยในตอนที่กู้มั่วหลียังไม่กลับมา เจี่ยนอันอันก็รีบกินอาหารให้เสร็จแล้ววิ่งไปยังกำแพงหินที่เพิ่งเปิดออกเมื่อครู่นี้นางคิดจะใช้ดินปืนระเบิดกำแพงหินนี้ออก แต่เมื่อคิดอีกทีหากว่ากู้มั่วหลียังไปได้ไม่ไกลนางใช้ดินปืนระเบิดจะต้องเกิดเสียงดังขึ้นอย่างแน่นอนเมื่อถึงเวลานั้นกู้มั่วหลีจะต้องกลับมาจับนางดูเหมือนว่านางคงจะต้องอยู่ที่นี่ไปก่อน รอเมื่อกู้มั่วหลีกลับมาแล้วนางค่อยคิดหาวิธีออกไปเจี่ยนอันอันไม่รู้ว่าด้านนอกตอนนี้นั้นเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืนนางอยู่ในห้องลับนี้อย่างเบื่อหน่ายจึงเข้าไปอาบน้ำในห้องอาบน้ำในห้วงมิติรอจนเมื่อนางออกมาแล้วกลับได้ยินเสียงของกำแพงหินดัง ‘ครืด’ ขึ้นอีกครั้งกู้มั่วหลีเดินเข้ามาเขามองไปยังเจี่ยนอันอันที่กำลังนั่งอยู่บนฟูกอย่างว่าง่ายดูไม่มีทีท่าร้อนรนจะออกไปเหมือนกับก่อนหน้านั้นกลิ่นหอมลอยอวลอยู่ในห้องลับ กู้มั่วหลีหรี่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 455

    นางพบว่ากู้มั่วหลีทำท่าทางนั้นอยู่บนกำแพงหินอยู่สามรอบ กำแพงหินถึงได้เปิดออกเจี่ยนอันอันรีบวิ่งกลับไปยืนอยู่ในตำแหน่งเดิมกู้มั่วหลีหัวเราะเยาะออกมาเบาๆ ก่อนจะหันกลับไปมองยังเจี่ยนอันอัน“รอข้ากลับมาอย่างว่าง่าย ข้าจะทำให้เจ้ามีความสุขทั้งกายทั้งใจจนตลอดชีวิตนี้ไม่อาจลืมข้าได้”เมื่อกู้มั่วหลีพูดจบ ก็เดินก้าวใหญ่ออกไปเจี่ยนอันอันเหวี่ยงหมัดไปด้านหลังกายของเขา โกรธเสียจนอยากจะวิ่งไปทุบตีเขารอจนเมื่อกู้มั่วหลีเดินออกไปไกลแล้ว เจี่ยนอันอันก็รีบวิ่งไปยังด้านหน้าของกำแพงหิน แล้วทำท่าทางมือเช่นเดียวกับเขาบนกำแพงหินไม่นานนักกำแพงหินก็เปิดออกขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังจะออกไปนั้น ทันใดนั้นก็คิดขึ้นมาว่า นางไม่ควรจะออกไปโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลยนางซื้อหุ่นไม้และผมปลอมออกมาจากร้านค้าก่อนจะถอดเสื้อผ้าของตนเอง แล้วสวมลงบนหุ่นไม้ แล้วนำหุ่นไม้ย้ายไปด้านหลังโต๊ะ ให้มันนั่งลงอยู่ตรงนั้นเมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้ว เจี่ยนอันอันก็นำอีกชุดหนึ่งออกมา แล้วรีบสวมใส่เข้าไปก่อนจะเหลือบมองไปยังหุ่นไม้อย่างพึงพอใจ นางจึงรีบพุ่งออกไปในตอนที่นางออกจากห้องลับนั้น กำแพงหินก็ปิดลงเจี่ยนอันอันหยิบตะบันไ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 456

    ฉู่จวินสิงหันกลับมาทันทีก็มองเห็นคนที่กอดเขาอยู่นั้นเป็นเจี่ยนอันอันที่เขาตามหามาตลอดทั้งคืนเขากอดคนในอ้อมแขนเอาไว้แน่นอย่างตื่นเต้นหัวใจที่เต็มไปด้วยความกังวลของเขาในที่สุดก็วางลงได้“ทั้งคืนมานี้เจ้าถูกจับไปไว้ที่ใดกัน แล้วเจ้าหนีมาได้อย่างไร?”น้ำเสียงทุ้มลึกของฉู่จวินสิงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างไม่อาจปกปิดเอาไว้ได้เจี่ยนอันอันพูดออกมาสั้นๆถึงเรื่องที่นางถูกขังเอาไว้ในห้องลับ“จวินสิงพวกเราตอนนี้รีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ หากกู้มั่วหลีพบว่าข้าลอบหนีออกมาแล้วจะต้องตามมาจับข้าแน่”ฉู่จวินสิงพยักหน้ากอดเจี่ยนอันอันแล้วลอยทยานลงมายังรถม้าเขาขับรถม้ารีบออกไปจากเมืองหลักทางด้านของกู้มั่วหลีหลังจากที่จัดการกับเหล่าสมาชิกในครอบครัวหญิงเหล่านั้นแล้ว ก็กลับมายังห้องลับที่ขังเจี่ยนอันอันเอาไว้เขามองเห็นเจี่ยนอันอันกำลังนั่งหันหลังให้กับเขาอยู่ด้านหลังโต๊ะ เมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ก็ไม่แม้แต่จะตอบสนองใดกู้มั่วหลีพูดขึ้น “ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะว่าง่ายเช่นนี้ นี่กำลังรอข้ากลับมากอดเจ้าอย่างนั้นหรือ”เมื่อเห็นว่า ‘เจี่ยนอันอัน’ ไม่แม้แต่จะตอบกลับ กู้มั่วหลีก็กอด ‘เจี่ยนอันอัน’ ด้วยรอยยิ้

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 457

    นางเหยียดแขนทั้งสองออก แล้วโอบรอบคอของฉู่จวินสิงเอาไว้ ก่อนจะจูบไปยังริมฝีปากของเขาฉู่จวินสิงรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย นี่เป็นครั้งที่สามที่เจี่ยนอันอันเป็นคนจูบเขาก่อนเขากอดเจี่ยนอันอันเข้ามาในอ้อมแขน จูบลงบนริมฝีปากของนางเบาๆผ่านไปเนิ่นนาน ฉู่จวินสิงถึงได้ยอมละจากริมฝีปากของนาง"จวินสิง ข้าพักผ่อนจนพอแล้ว เปลี่ยนให้ท่านพักบ้าง""เรียกข้าสามี!" ฉู่จวินสิงยกมือขึ้นลูบแก้มเจี่ยนอันอันเบาๆเจี่ยนอันอันยิ้มออกมาเล็กน้อย ร้องเรียกเสียงไพเราะ "สามี สามี สามี!"อันที่จริงแล้วนางไม่คุ้นเคยกับการเรียกสามีคำนี้ ทว่าฉู่จวินสิงชื่นชอบถึงเพียงนี้ เช่นนั้นนางก็เรียกมันออกมาให้มากเสียหน่อยฉู่จวินสิงยิ้มออกมา รอยยิ้มของเขาทำให้ใบหน้าที่เดิมทีก็หล่อเหลาเป็นอย่างมาก ยิ่งดูน่ามองมากยิ่งขึ้นเจี่ยนอันอันพักผ่อนจนเพียงพอแล้ว นางยังคงคิดถึงอาการป่วยของสวีจงฉือหากว่าไม่รีบรักษาอาการป่วยของเขาให้หายโดยเร็ว เกรงว่าคนอื่นๆ ในที่ว่าการอำเภอนี้ จะต้องติดเชื้อจากเขาเป็นแน่"สามี ข้าอยากจะรักษาอาการป่วยของสวีจงฉือให้หายโดยเร็ว ข้าไม่อาจทำให้ล่าช้าอีกต่อไป"ฉู่จวินสิงเองก็เข้าใจ อาการป่วยของสวีจงฉือสา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 458

    นางแกะเปลือกที่ห่ออยู่ด้านนอกออกตั้งแต่อยู่ในห้วงมิติเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าหน้าที่ทางการที่คอยเฝ้าอยู่ด้านข้าง ก็ไม่มีทางสงสัยอะไรฉู่จวินสิงหิวแล้วจริงๆ ก่อนหน้านั้นเพื่อตามหาเจี่ยนอันแล้ว เขาจึงไม่รู้สึกหิวทว่าตอนนี้เมื่อผ่อนคลายลงแล้ว ท้องก็ส่งเสียงคำรามออกมาไม่หยุดฉู่จวินสิงเองก็ไม่เกรงใจแล้ว รับขนมมากินเมื่อเห็นฉู่จวินสิงกินอย่างเอร็ดอร่อย เจี่ยนอันอันก็พึ่งพอใจกับขนมที่ตัวเองเลือกมาดูเหมือนว่าขนมเหล่านี้จะถูกปากฉู่จวินสิงมากเจ้าหน้าที่ทางการที่เฝ้าอยู่ด้านข้าง เมื่อเห็นฉู่จวินสิงกินอย่างอร่อยเขาก็อดที่จะกลืนน้ำลายที่กำลังจะไหลออกมาตรงมุมปากไม่ได้เจี่ยนอันอันสังเกตุเห็นเจ้าหน้าที่ทางการที่กลืนน้ำลาย นางก็หัวเราะออกมา แล้วหยิบขนมออกมาหลายชิ้น ก่อนจะส่งให้เจ้าหน้าที่ทางการชิ้นหนึ่ง"เจ้าเองก็คอยปกป้องคอยเฝ้าข้าอย่างรอบคอบอยู่เช่นนี้ ก็กินสักชิ้นเถอะ"เจ้าหน้าที่ทางการรีบเช็ดมือตัวเองกับเสื้อผ้า ก่อนจะรับขนมไป"ขอบคุณแม่นางเจี่ยน" เจ้าหน้าที่ทางการพูดขึ้น แล้วนำขนมส่งเข้าปากไปขนมอ่อนนุ่มเข้าปาก เต็มไปด้วยกลิ่นนมเจ้าหน้าที่ทางการยังไม่เคยกินขนมที่อร่อยเช่นนี้มาก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 459

    ในที่สุดหลังจากที่ป้อนยาจนเสร็จแล้ว เจี่ยนอันอันก็ช่วยประคองสวีจงฉือให้นอนลง นางตรวจชีพจรให้สวีจงฉือ อาการป่วยนี้เพียงแค่สองสามวันไม่อาจรักษาให้หายได้ บวกกับบาดแผลบนกายเขา ไม่อาจจะหายได้อย่างรวดเร็วเขาไอออกมาแต่ละครั้ง ล้วนแต่ส่งผลกับบาดแผลบนกาย นี้ยังทำให้เขายิ่งต้องทนต่อความเจ็บปวดมากยิ่งขึ้นเจี่ยนอันอันพูดกับสวีจงฉือ “ข้าจะเปิดเสื้อผ้าของเจ้าออก ดูว่าบาดแผลของเจ้าดีขึ้นหรือไม่” สวีจงฉือพยักหน้าเบาๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมา สายตาของเขาคอยจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเจี่ยนอันอันอยู่ตลอดเวลาในใจเขาคอยคิด หากว่าเจี่ยนอันอันยังไม่ได้แต่งงานก็คงจะดีเสียดายก็เพียงแต่ว่าเขาปรากฏตัวออกมาช้าจนเกินไป ตอนนี้ไม่ว่าจะคิดอะไรก็ล้วนแต่ไร้ประโยชน์เจี่ยนอันอันเปิดเสื้อคลุมของสวีจงฉือออก ก่อนจะแกะผ้าพันแผลที่ผันอยู่รอบกายเขาแต่ละบาดแผลบนนั้นล้วนแต่ดูน่าตื่นตกใจ ตรงบาดแผลที่ถูกดึงมีดออกมามีเลือดไหลออกมาบางส่วน มีบางที่ที่กลายเป็นหนองเสียแล้ว ดูเหมือนว่าหมอเมื่อวานนี้ที่รักษาให้สวีจงฉือ ไม่นำยาชนิดพิเศษใดออกมา เจี่ยนอันอันหยิบสำสีที่ใช้ทางการแพทย์ออกมาจากห้วงมิติ จุ่มลงไปในไอโอโดฟ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 460

    พวกเขาออกกันมานานมากแล้ว คนที่บ้านจะต้องกังวลเป็นอย่างมากหากว่ายังไม่กลับไปอีก เกรงว่าคนที่บ้านคงจะส่งคนออกมาตามหาแล้วทั้งสองคนมายังด้านนอกห้องพิจารณาคดี เมื่อเห็นว่าเซิ่งฟางกำลังตัดสินคดีอยู่และดีที่คดีนี้ค่อนข้างง่าย เป็นเพียงแค่ปัญหาเล็กน้อยระหว่างเพื่อนบ้านเท่านั้นเซิ่งฟางเมื่อเห็นว่าทั้งสองมาถึง ก็พูดว่าเลิกศาล แล้วเดินออกมา “น้องอันอัน เจ้าพักผ่อนพอแล้ว นี่จะกลับไปแล้วอย่างนั้นหรือ?”เจี่ยนอันอันยิ้มแล้วพยักหน้าออกมา “พวกเราออกมานานแล้ว คนที่บ้านจะต้องรอพวกเรากลับไป”เซิ่งฟางอยากจะให้ทั้งสองคนอยู่ต่อกินข้าวกันสักมื้อแล้วค่อยไป แต่กลับถูกทั้งสองคนปฏิเสธเซิ่งฟางเองก็ไม่อาจจะพูดอะไรออกมาได้อีก จึงส่งพวกเขาจากไปเจี่ยนอันอันกลับแย่งพูดขึ้นมา “พี่เซิ่ง ท่านนำกระดาษกับปากกามาหน่อย ข้าจะเขียนใบสั่งยาให้สวีจงฉือ”เซิ่งฟางรีบให้เจ้าหน้าที่ทางการไปนำกระดาษกับปากกามารอจนเมื่อเจี่ยนอันอันเขียนใบสั่งยาเสร็จแล้ว เขาถึงได้พูดขึ้น “ระหว่างทางที่พวกเจ้ากลับไป จะต้องระมัดระวังให้มาก”“กู้มั่วหลีนั่นไม่ใช่คนดีอะไร กลัวว่าจะลอบสังหารพวกเจ้าระหว่างทางเข้า”“จากที่ข้ามอง ข้าว่าส่งค

Pinakabagong kabanata

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 813

    พวกเขาลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไรญาติที่เป็นขุนนางของลูกพี่เป็นผู้มีอิทธิพลนัก ดูแลทุกอย่างในอำเภอไถหยางก็ว่าได้เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็น “คุยมาตั้งนาน ยังไม่เห็นบอกชื่อว่าคนผู้นั้นเป็นใคร ข้าว่าคงจะแต่งเรื่องส่งเดชมากกว่า”เฝิงซานกวงถูกเจี่ยนอันอันยุยงอีกครั้ง เดิมทีเขาก็ไม่อยากเอ่ยชื่อเจ้าเมืองออกมาแต่ครั้งนี้เห็นทีไม่พูดก็ไม่ได้เสียแล้ว“ฮึ่ม พูดแล้วพวกเจ้าจะตกใจ ท่านอารองของข้าเป็นเจ้าเมืองแห่งอำเภอไถหยาง”“หากพวกเจ้ากล้าแตะต้องกิจการในเหมืองของข้า ข้าจะให้ท่านอาส่งคนมาจับพวกเจ้าไปขังคุกเสีย!”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินว่าอารองของเฝิงซานกวงก็คือเจ้าเมืองตานนั่นเอง นางจึงเริ่มมีแผนการในใจ“อ้อ หมายถึงเจ้าเมืองตานผู้นั้นหรอกรึ? ยังนึกว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่ใดเสียอีก”“เชิญไปเรียกตัวมาได้เลย แล้วเรามายันกันซึ่งหน้า ให้รู้ไปว่าเขาจะเข้าข้างเจ้า หรือเห็นด้วยกับเรามากกว่า”เฝิงซานกวงมองดูท่าทีของเจี่ยนอันอัน คล้ายไม่กลัวกระทั่งคนเป็นเจ้าเมือง จึงให้ตกใจซ้ำอีกเขาแอบคิดในใจ หรือว่าท่านอารองจะรู้จักกับคนสองคนนี้?จึงหันไปกระซิบกระซาบต่อลูกน้องข้างกาย “รีบไปเชิญอารองข้ามาเดี๋ยวนี้”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 812

    เหล่าคนงานที่เข้าออกเหมืองแร่เห็นเหตุการณ์เข้า ต่างก็ตกใจเป็นอย่างมากเพราะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นลูกน้องของนายจ้างถูกผู้อื่นทำร้ายเช่นนี้แม้แต่ละคนจะมีความตกใจ แต่ลึกๆ กลับรู้สึกสะใจมากกว่าเพราะบริวารของเฝิงซานกวงเหล่านี้ ปกติมักจะใช้กำลังกับพวกเขาบ่อยๆทุกครั้งที่พวกเขาขุดหาแร่ออกมาไม่ได้ปริมาณตามที่ต้องการ ลูกน้องเฝิงซานกวงก็พากันมารุมซ้อมพวกเขาอย่างหนัก แต่พวกเขาก็ไม่กล้าไปบอกใครบางคนเคยคิดหนีไปจากที่นี่ แต่ครั้งใดที่มีผู้หลบหนี มักถูกจับกลับมาแล้วซ้อมหนักยิ่งกว่าเดิมอีกที่สำคัญพวกเขาแทบจำไม่ได้ว่าตนคือใคร บ้านช่องอยู่ที่ใดจึงได้แต่ใช้แรงกายแลกกับเงินน้อยนิดเพียงสองอีแปะในแต่ละวัน อดทนทำงานอยู่ที่นี่ต่อไปเมื่อชายสองคนถูกทำร้ายเข้า จึงมีลูกน้องเฝิงซานกวงตามออกมาอีกทุกคนเมื่อเห็นว่ามีคนมาก่อเรื่อง จึงกรูกันเข้าหาฉู่จวินสิงทันทีแต่มิต้องรอให้พวกเขามาเข้าใกล้ ฉู่จวินสิงใช้กำลังภายในซัดออกไปก่อนแล้วทุกคนต่างทยอยล้มลง พลางกลิ้งไปมา ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดทันใดนั้นเอง มีเสียงหนึ่งตะคอกดังขึ้น “ผู้ใดกล้าบังอาจมาก่อเรื่องในเหมืองของข้า อยากตายหรืออย่างไร?”ใบ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 811

    แต่บัดนี้นางเปิดร้านมาสิบกว่าวัน ขายได้เพียงรูปสัตว์โลหะไม่กี่ตัวเท่านั้นเฉียวซื่อบอกเล่าสิ่งที่พบเจอให้เจี่ยนอันอันฟัง ทำให้นางเกิดความเข้าใจขึ้นทันทีที่แท้เฉียวซื่อถูกเฝิงซานกวงหลอกลวงมาแต่แรกเจี่ยนอันอันเพียงคิดว่าต่อให้นางซื้อของตกแต่งเหล่านี้กลับไป ก็มิได้ใช้ประโยชน์นักจึงนำหนูโลหะตัวเล็กในมือวางกลับที่เดิมเฉียวซื่อเห็นเจี่ยนอันอันทำเช่นเดียวกับลูกค้าอื่นในร้าน เพียงเข้ามาหยิบดูเล็กน้อย จากนั้นจึงวางของตกแต่งลงไว้ที่เดิมดูแล้วคล้ายไม่สู้ถูกใจผลงานที่นางสร้างสรรค์ออกมาเท่าใดนัก พลันเกิดความรู้สึกท้อแท้ นางคงไม่เหมาะจะทำอาชีพนี้จริงๆ กระมังหากตอนนี้สามียังอยู่ก็คงดี นางจะได้ฝึกวิชาการตีเหล็กจากเขาให้ออกมาเป็นงานอื่นบ้างและเมื่อครู่เจี่ยนอันอันรู้จากปากเฉียวซื่อ ว่าเฝิงซานกวงได้เปิดกิจการเหมืองแร่แห่งหนึ่งทุกวันจะมีคนงานไปด้านหลังภูเขาที่อยู่ห่างไกล ขุดเอาแร่เหล็กและหยกออกมา เพื่อนำกลับมาถลุงเป็นเครื่องหยกและของใช้ที่ทำจากเหล็กนางเห็นเฉียวซื่อคล้ายมีอาการท้อใจ จึงกล่าวยิ้มแย้ม “พี่เฉียว ท่านพาข้าไปดูที่เหมืองของเฝิงซานกวงก่อน ข้ามีสิ่งของบางอย่างต้องการจะซื้อ”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 810

    เจี่ยนอันอันหยิบมากวาดตาดูก็มองความผิดปกติบนนั้นออกได้ในทันที“เงื่อนไขในนี้เข้มงวดเกินไปแล้ว ถ้าฝ่ายไหนยุติสัญญาจะต้องชดเชยให้อีกฝ่ายเป็นเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึง”“เจ้าหมอนี่ช่างกล้าเขียน สัญญานี้เห็นได้ชัดว่าเป็นเงื่อนไขแบบมัดมือชกกันชัดๆ”“ข้าว่าท่านไม่ร่วมงานกับเขาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้เฉียวซื่อใจหายวูบนางรู้จักตัวหนังสือแค่ไม่กี่ตัว นอกจากเขียนชื่อตัวเองเป็นแล้ว เงื่อนไขในนั้นนางอ่านไม่เข้าใจเลยสักนิดเฝินซานกวงเป็นคนอ่านให้นางฟัง นางรู้สึกว่าเงื่อนไขสมเหตุสมผลมากจึงลงนามในสัญญากับอีกฝ่ายแต่คิดไม่ถึงเลยว่า เฝิงซานกวงจะกล้าเล่นเล่ห์กับนางแบบนี้เดิมนั้นนางอยากยกเลิกสัญญากับอีกฝ่าย แต่กลับได้ยินเฝิงซานกวงพูดว่า ถ้านางกล้าเป็นฝ่ายยกเลิกสัญญาก็จะต้องชดเชยเงินให้เฝิงซานกวงเป็นเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึงตอนนั้นเฉียวซื่อตกใจยิ่งนักนางเคยไปถามเถ้าแก่ร้านข้างเคียง ฝ่ายตรงข้ามก็บอกว่าเงื่อนไขนี้เขียนไว้อย่างชัดเจน ต้องจ่ายเงินชดเชยให้อีกฝ่ายหนึ่งแสนตำลึงจริงๆเงินจำนวนมหาศาลเช่นนี้ นางจะไปหาเงินมากมายขนาดนี้มาจากที่ไหนถึงตอนนี้เฉียวซื่อจึงตระหนักว่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 809

    ตอนนี้เขาทำได้เพียงอดทนอดกลั้นต่อความเจ็บปวด ยอมรับการทุบตีจากเฉียวอี้บริเวณรอบๆ มีคนล้อมเข้ามามุงดูจำนวนมาก พวกเขาต่างชี้ไม้ชี้มือมาทางชายผู้นั้น“คนคนนี้แค่เห็นก็รู้แล้วว่าต้องไม่ใช่คนดีแน่ ดูหน้าตาทรงโจรของเขาสิ แปดส่วนคงเป็นเพราะไปหาเรื่องคนอื่นก่อน ถึงได้ถูกเด็กคนนั้นซ้อมเอาแบบนี้”“เมื่อครู่ข้าได้ยินแล้ว เขาไปลงไม้ลงมือกับแม่ของเด็กคนนั้น ข้าว่าตีเขายังน้อยไป ควรแจ้งความมากกว่า”คนมุงบริเวณรอบๆ ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานาเฉียวอี้ควงหมัดทักทายใบหน้าของชายผู้นั้นหนักกว่าเดิมในไม่ช้า เฉียวอี้ก็ตีจนรู้สึกเจ็บกำปั้น แต่เขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจนกระทั่งอัดศีรษะชายผู้นั้นจนบวมเป่งเหมือนหมู เฉียวอี้ถึงได้หยุดมือพร้อมหอบหายใจแม้ว่ากำปั้นของเฉียวอี้จะไม่ใหญ่ แต่ครั้นทุบตีคนก็ร้ายกาจยิ่งนักเห็นใบหน้าชายผู้นั้นเขียวช้ำไปหมด เฉียวอี้ก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากเจี่ยนอันอันกล่าวกับชายผู้นั้นว่า “หากวันหน้าเจ้ายังกล้ามาคุกคามแม่ลูกตระกูลเฉียวอีก ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าสบายแบบนี้แน่ ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”ชายผู้นั้นไม่กล้าพูดมาก ลุกขึ้นมากุมศีรษะแล้วเผ่นหนีไปคนมุงบริเวณรอบๆ เ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 808

    เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงสบตากัน“พวกเจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้” ฉู่จวินสิงว่าแล้วก็ก้าวยาวๆ ตรงไปทางตรอกน้อยชายผู้นั้นเห็นว่าฉู่จวินสิงตรงมาทางเขาก็หันหลังเตรียมวิ่งหนีแต่เขาวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกถีบเข้าที่เอวเสียแล้วชายผู้นั้นถูกถีบกระเด็นไปไกล คว่ำหน้าอยู่บนพื้นร้องโอดโอยออกมาอย่างทนไม่ไหวฉู่จวินสิงย่างสามขุมตรงเข้าไปหาแล้วหิ้วคอเสื้อของชายผู้นั้นขึ้นมาอย่างไม่ปรานีปราศรัย“ไปกับข้า!”ฉู่จวินสิงกล่าวพลางผลักชายผู้นั้นตรงออกไปนอกตรอกชายผู้นั้นได้ลิ้มรสความร้ายกาจของฉู่จวินสิงแล้วย่อมไม่กล้าวิ่งหนีส่งเดชเขาไม่อยากถูกถีบอีกหรอกนะ จนถึงตอนนี้เอวยังระบมอยู่เลยฉู่จวินสิงผลักชายผู้นั้นมาถึงตรงหน้าเจี่ยนอันอันกับเฉียวอี้แล้วกล่าวเสียงเข้ม “บอกมา ระหว่างเจ้ากับเด็กคนนี้เป็นเรื่องอะไรกันแน่?”ชายผู้นั้นมองเฉียวอี้ แววตาเต็มไปด้วยความขุ่นแค้น“คุณชายท่านนี้ ข้าไม่รู้จักเขาเสียหน่อย เขาวิ่งออกมาถนนใหญ่เอง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าเลยนะ”ขณะที่ชายผู้นั้นพูดก็ถลึงตาใส่เฉียวอี้อย่างดุร้ายเฉียวอี้เห็นฝ่ายตรงข้ามไม่ยอมรับ เขาเงยหน้าขึ้นมาด้วยความโมโห แล้วตวาดใส่ชายผู้นั้นว่า“ท่านโก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 807

    เจี่ยนอันอันเห็นว่าฉู่จวินสิงก่อสร้างเป็น นางก็วางใจไปได้มากนางยิ้มเอ่ยว่า “ไม่ใช่กระโจม แต่เป็นโรงเรือนสำหรับเพาะปลูกแบบหนึ่ง”นางมีความคิดคร่าวๆ ในใจแล้วจึงรีบกลับบ้านไปกับฉู่จวินสิงนางหยิบกระดาษและปากกาออกมาจากในมิติ แล้ววาดภาพร่างบนโต๊ะฉู่จวินสิงนั่งอยู่ข้างๆ ตั้งใจดูภาพร่างโรงเรือนที่เจี่ยนอันอันวาดที่นี่ไม่มีเหล็กเส้น เจี่ยนอันอันยังไม่อยากใช้เงินจำนวนมากไปซื้อจากในร้านค้านางต้องการสร้างโรงเรือนสำหรับคนในหมู่บ้านทุกคน เหล็กเส้นที่ต้องใช้จึงมีไม่น้อยหากใช้เงินไปซื้อมา นั่นไม่ใช่จำนวนเงินน้อยๆ เลยนางไม่อยากใช้เงินพวกนั้นในมิติมากเกินไป นางยังรอที่จะสนับสนุนฉู่จวินสิงขึ้นนั่งบัลลังก์ฮ่องเต้หลังจากการทำสงครามกลับเมืองจิงโจวในวันหน้าเมื่อถึงตอนนั้น เงินทองของล้ำค่าเหล่านั้นในมิติก็จะได้นำไปใช้แล้วฮ่องเต้จนกรอบคนหนึ่งที่ไม่สามารถจ่ายเบี้ยหวัดให้เหล่าขุนนางได้ ทั้งยังไม่สามารถทำให้ชาวบ้านอยู่ดีมีสุข กับฮ่องเต้ที่มั่งคั่งร่ำรวยคนหนึ่ง เงินในมือสามารถซื้อเมืองทั้งเมืองได้ชาวบ้านกับเหล่าขุนนางจะเอนเอียงไปทางคนไหนมากกว่า นั่นไม่ต้องพูดก็สามารถรู้ได้แล้วในไม่ช้า เจี่ยน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 806

    เมื่อมีชาวบ้านผ่านมาที่นี่แล้วเห็นลูกปลาในสระน้ำเข้าเขาก็ส่งเสียงด้วยความประหลาดใจทันทีว่า “แม่นางเจี่ยน เจ้าเป็นคนนำลูกปลาพวกนี้มาปล่อยไว้ในนี้หรือ?”เจี่ยนอันอันพยักหน้าพร้อมยิ้มบาง ชาวบ้านผู้นั้นเรียกคนอื่นๆ มาด้วยความดีใจทุกคนล้วนรู้สึกซาบซึ้งในความเอาใจใส่ของเจี่ยนอันอัน แบบนี้ต่อไปพวกเขาก็จะสามารถกินเนื้อปลาสดใหม่ได้แล้วชาวบ้านจำนวนมากล้วนรู้สึกยินดีเพราะเรื่องนี้ แต่มีชาวบ้านคนหนึ่งที่นิ่วหน้าคิ้วขมวดเขาอดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “สระน้ำนี่ก็ดีอยู่หรอก แต่อากาศค่อยๆ เย็นลงแล้ว กลัวจริงๆ ว่าเมื่อถึงฤดูหนาว สระน้ำนี่ก็จะจับตัวเป็นน้ำแข็ง”“พอถึงยามนั้น อย่าว่าแต่พวกเราจะไม่ได้กินเนื้อปลา เกรงว่าแม้แต่พืชผักก็คงปลูกไม่ได้เหมือนกัน”วาจาประโยคเดียวของชาวบ้านทำให้คนอื่นๆ กลัดกลุ้มตามไปด้วยหลายวันมานี้อากาศค่อยๆ เย็นลง พวกเขาล้วนแต่เพิ่งปลูกผักทั้งยังได้รับเงินสามสิบตำลึงมาแล้วหากถึงฤดูหนาวจริงๆ พวกเขาก็ไม่สามารถปลูกผักพวกนี้ได้อีกแล้วเมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาก็จะได้กลับไปมีชีวิตที่ยากลำบากเหมือนที่ผ่านมาอีกครั้งพวกเขาเกี่ยวข้าวไว้มากแล้ว แต่ผักพวกนี้ควรทำอย่างไรดีเล่า?หาก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 805

    เซียงเสวี่ยเห็นลูกเป็ดและลูกไก่ตัวน้อยที่อยู่ในกรง นางดีใจจนรีบมารับไป“ฮูหยินน้อยรอง อีกหน่อยเมื่อเลี้ยงเป็ดและไก่เหล่านี้จนโต พวกเราก็จะมีเนื้อเป็ดเนื้อไก่กินแล้ว”เจี่ยนอันอันยิ้มเล็กน้อย พลางมองไปยังเสิ่นจือเจิ้ง“พี่ใหญ่ เป็ดไก่เหล่านี้เพียงพอให้พวกท่านกินหลายวันสินะ”เสิ่นจือเจิ้งยิ้มตอบ “เด็กโง่ พี่ใหญ่กลับไม่คิดเช่นนั้น”เจี่ยนอันอันเลิกคิ้วเล็กน้อย “ความหมายของท่านคือ?”เสิ่นจือเจิ้งบอกเล่าความคิดของตนให้ฟังเขาตั้งใจว่าจะเลี้ยงเป็ดไก่เหล่านี้ให้โต พร้อมทำการเพาะพันธุ์ต่อจากนั้นก็ทยอยนำเป็ดไก่ไปขาย เชื่อว่าน่าจะได้เงินเป็นจำนวนมากเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เขาก็ไม่ต้องอยู่อย่างยากจนข้นแค้นดั่งเช่นทุกวันนี้อีกเจี่ยนอันอันเห็นว่าวิธีนี้พอใช้ได้ ปกติพี่ใหญ่มองการณ์ไกลมากกว่านางอยู่แล้ว“ถ้าเช่นนั้นก็แล้วแต่ท่าน”เจี่ยนอันอันกล่าวจบ จึงคิดจากไปนางยังคิดจะไปดูแอ่งน้ำเสียหน่อย เผื่อจะปล่อยพันธุ์ปลาลงไปในน้ำบ้างเผื่อวันหน้าปลาโตขึ้น ชาวหมู่บ้านชิงสุ่ยก็จะมีเนื้อปลากินอีกขณะที่เจี่ยนอันอันเตรียมตัวจะออกไป กลับถูกเสิ่นจือเจิ้งเรียกตัวไว้“เมื่อคืนที่บ้านเจ้าได้เกิดเรื่อ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status