Share

บทที่ 444

Penulis: ซินต้งหรูสุ่ย
สวีจงฉือละสายตากลับไปมองที่เซิ่งฟาง เขาพูดว่า “ข้าไม่รู้จักคนผู้นั้น ไม่ได้มีความแค้นอะไรกับเขาเช่นกัน”

หัวคิ้วของเซิ่งฟางขมวดกันแน่น เรื่องนี้ซับซ้อนเล็กน้อย

ผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังไม่เคยถูกจับได้ ส่วนฆาตรกรก็ตายไปแล้ว

แม้แต่สวีจงฉือก็ยังบอกว่าไม่รู้จักคนผู้นั้น

เมื่อเห็นเจี่ยนอันอันเข้ามา เซิ่งฟางก็รีบลุกขึ้น

“น้องอันอันมาได้ทันเวลาพอดี ยาที่เจ้าให้เขากินใช้ได้ผลดีมาก”

สวีจงฉือมองไปที่เจี่ยนอันอันอีกครั้ง

ที่แท้นางก็มีนามว่าอันอัน แต่ไม่รู้ว่าใช้แซ่อะไร

เจี่ยนอันอันได้ยินสองคนนี้คุยกันถึงเรื่องคดีนี้

นางส่งยิ้มให้เซิ่งฟางพลางพูดว่า “พี่เซิ่ง ข้าคงไม่ได้รบกวนพวกท่านใช่หรือไม่เจ้าคะ”

เซิ่งฟางส่ายมือระรัว “ไม่รบกวนๆ เจ้ารีบดูอาการเขาเถิด ดูว่าเขาไม่เป็นอะไรแล้วใช่หรือไม่?”

เจี่ยนอันอันเดินเข้าไปเลิกเสื้อผ้าสวีจงฉือดูอย่างแผ่วเบา

ผ้าพันแผลที่อยู่ด้านในขาวสะอาดดี ไม่ได้มีโลหิตซึมออกมา

นางจับมือสวีจงฉือมาจับชีพจร

แม้ว่าอาการของเขาจะดีขึ้นแต่ก็ไม่ได้ดีขึ้นมากขนาดนั้น

ที่เขาฟื้นคืนสติไวขนาดนี้เป็นเพราะโชคดี

นอกจากนี้ก็เป็นเพราะยาที่กินก่อนหน้านี้ก็ได้ผลดี ทำให้ไม่ดูอ่อนแรง
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 445

    เขาเป็นห่วงเจี่ยนอันอันมาตลอดทั้งบ่าย เมื่อเห็นว่าฟ้ามืดแล้วแต่เจี่ยนอันอันยังไม่กลับมาเขาจึงไปขอยืมรถม้าจากบ้านของเสิ่นจือเจิ้งเพื่อมาตามหาในอำเภอฉู่จวินสิงไม่ได้ไปที่ใดทั้งนั้น เขามุ่งตรงมาที่ที่ว่าการอำเภอได้รับรู้จากปากเจ้าหน้าที่ทางการว่าเจี่ยนอันอันอยู่ในที่ว่าการอำเภอจริงๆ แต่แล้วเพิ่งจะเดินเข้ามาก็ต้องพบกับภาพเช่นนี้ฉู่จวินสิงโมโหเดือดดาล ไม่สนใจฟังคำอธิบายของเจี่ยนอันอันแต่อย่างใดเขาดึงมือของเจี่ยนอันอัน “ไป พวกเรากลับ”เจี่ยนอันอันถลึงตาใส่สวีจงฉืออีกรอบ เจ้าคนบ้ากามผู้นี้ทำให้ฉู่จวินสิงเข้าใจนางผิดนางหันตัวเดินตามฉู่จวินสิงออกไป แต่แล้วกลับได้ยินเสียง ‘ตุบ’ ดังมาจากด้านหลังเจี่ยนอันอันหันกลับไปมอง พบว่าสวีจงฉือล้มลงกับพื้นสวีจงฉือร้องตะโกนว่า “พวกเจ้าอย่าเพิ่งไป ข้ายังมีเรื่องที่อยากจะพูด”เซิ่งฟางเห็นดังนี้ก็รีบเรียกคนเข้ามา บอกให้เจ้าหน้าที่ทางการช่วยประคองสวีจงฉือขึ้นเตียงเจี่ยนอันอันถูกฉู่จวินสิงพาออกมาที่ลานด้านนอก นางกำลังจะอธิบาย แต่ฉู่จวินสิงกลับผลักนางเข้ากับกำแพง“พูดมา เมื่อครู่นี้พวกเจ้าสองคนกำลังทำอะไรกันแน่?”เมื่อเห็นฉู่จวินสิงถามด้วยสี

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 446

    ตลอดทางนั้น เขาไม่อาจสงบใจได้หวาดหวั่นเกรงว่าเจี่ยนอันอันจะประสบเหตุร้ายที่ข้างนอกเขาเองก็พลันรู้สึกเสียใจ เหตุใดตนถึงไม่ยืนกรานที่จะติดตามนางไปด้วยครั้นเมื่อเห็นเจี่ยนอันอันปลอดภัยไร้อันตราย เขาจึงคลายใจได้ในที่สุดเมื่อเจี่ยนอันอันเตรียมจะออกไปพร้อมฉู่จวินสิง พลันได้ยินเสียงของสวีจงฉือดังขึ้นมาจากในเรือน“แม่นางอันอัน เจ้าอย่าเพิ่งไป ข้ามีเรื่องสำคัญจะกล่าวกับเจ้า!”เจี่ยนอันอันขมวดคิ้วนิ่วหน้า พลางคิดในใจ เหตุใดบุรุษผู้นี้จึงไม่ยอมเลิกราเสียที?นางกระตุกมือฉู่จวินสิงเบา ๆ พลางกล่าวว่า “หรือเราควรเข้าไปดูกัน ว่าบุรุษผู้นั้นมีเรื่องอันใดจะพูดกับข้า”ฉู่จวินสิงจ้องมองเจี่ยนอันอันอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพยักหน้าตกลงในที่สุดเซิ่งฟางเองก็ใคร่อยากรู้ว่าสวีจงฉือจะพูดอะไรกับเจี่ยนอันอันไม่แน่ว่าอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้ก็ได้เมื่อทั้งสามเดินเข้าสู่ตัวเรือน เซิ่งฟางก็สั่งให้เจ้าหน้าที่สองนายออกไปด้านนอกสวีจงฉือเมื่อเห็นเจี่ยนอันอันเดินเข้ามา เขาก็รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อยเจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็น “เจ้ามีอะไรจะพูดก็รีบพูดออกมาเถิด ข้าไม่มีเวลาจะมานั่งเสียเวลากับเจ้า”เมื

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 447

    คนผู้นั้นหาได้หลบหนีไปไม่ แต่กลับปรากฏตัวอยู่เบื้องหลังของสวีจงฉือแทนเขากล่าวกับสวีจงฉือว่า “ดูเรื่องสนุกจนหนำใจแล้ว เช่นนั้นเจ้าก็ตายได้แล้ว”สวีจงฉือตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ รู้สึกคันในลำคออย่างรุนแรงเขาเกือบจะไอออกมา แต่ก็กลัวว่าคนในจวนผู้ว่าการมณฑลจะได้ยินเขาจึงรีบยกมือขึ้นปิดปาก กลั้นไอไว้สุดกำลังคนผู้นั้นใช้ลูกธนูจ่อที่ลำคอของสวีจงฉือ และสังเกตเห็นความผิดปกติของเขาทว่าคนผู้นั้นไม่ได้สังหารเขาในทันที แต่กลับโน้มตัวมากระซิบที่ข้างหูของเขาว่า “ข้าเห็นว่าเจ้าคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว ครั้งนี้ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า”“แต่ข้าว่าร่างกายเช่นเจ้าที่เต็มไปด้วยโรคร้าย ไร้ยาที่จะรักษาได้”“ไม่สู้เจ้าไปหาสตรีผู้นั้นในจวน จำเอาไว้ว่านางมีนามว่าเจี่ยนอันอัน”“ขอให้นางปรุงยาพิษให้เจ้า รับรองว่าเจ้าจะได้ลงนรกไปพบกับพญายมในเร็ววัน”เมื่อกล่าวจบ ชายผู้นั้นก็หายวับไปต่อหน้าต่อตาสวีจงฉือสวีจงฉือไม่กล้าอยู่ในที่นั้นอีก รีบวิ่งกลับบ้านอย่างร้อนรนแต่ในใจของเขา เอาแต่นึกถึงคำพูดของคนผู้นั้นหากร่างกายของเขาไร้หนทางรักษาจริง ๆ ไม่สู้เขาปรุงยาพิษเพื่อจบชีวิตตัวเองโดยเร็วจะได้สิ้นเรื่องสิ้นราวเส

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 448

    เซิ่งฟางเข้าใจแล้วว่า เรื่องที่สวีจงฉือถูกแทงจนบาดเจ็บนั้น อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกู้มั่วหลีและไม่แน่ว่าเขาอาจเป็นคนที่สังหารผู้ร้ายที่แทงสวีจงฉือก็ได้สวีจงฉือมองเจี่ยนอันอันที่มีสีหน้าเคียดแค้น พลางครุ่นคิดว่าตนเองพูดอะไรผิดไปหรือไม่?เจี่ยนอันอันจ้องมองสวีจงฉือด้วยสายตาเย็นชา “เรื่องนี้เจ้าห้ามเล่าให้ใครฟังเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้าอยู่ไม่สู้ตาย”ใบหน้าของสวีจงฉือเผยรอยยิ้มขมขื่นออกมา“หากข้าคิดจะพูดเรื่องนี้ออกไป ข้าคงแจ้งทางการไปตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว”ในตอนนั้นเอง ฉู่จวินสิงที่เงียบมาตลอดก็เอ่ยปากพูดขึ้น“ในเมื่อเจ้ารู้เรื่องในจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจว ไยไม่คิดแจ้งทางการ?”คำถามนี้เป็นสิ่งที่ทั้งเจี่ยนอันอันและเซิ่งฟางอยากรู้เช่นกันเกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ในจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจว แต่กลับไม่มีข่าวคราวใดเล็ดลอดออกไปแม้แต่น้อยแม้แต่บรรดาญาติ ๆ ในจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจวเองก็ไม่มีใครออกมาแจ้งความมิเช่นนั้น พวกเขาก็คงไม่อาจใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเช่นนี้ได้สวีจงฉือเหลือบมองฉู่จวินสิง ก่อนจะเก็บรอยยิ้มบนใบหน้าเขาแค่นเสียงเยาะเย้ย “ผู้ว่าการมณฑลจงโจวผู้นั้น อาศัยตำแหน่งขุนนางขอ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 449

    ฉู่จวินสิงและเซิ่งฟางไม่ได้คิดอะไรมากนัก รีบกินยาที่นางส่งให้ในทันทีเจี่ยนอันอันเองก็กินยาหนึ่งเม็ดเช่นกันเช่นนี้แล้ว แม้สวีจงฉือจะไออีก ก็ไม่อาจแพร่เชื้อมายังพวกเขาได้สวีจงฉือมองดูการกระทำของเจี่ยนอันอันด้วยความงุนงง“แม่นางเจี่ยน ข้าป่วยเป็นโรคอะไรหรือ เหตุใดพวกเจ้าต้องกินยาด้วย?”เจี่ยนอันอันตอบตรงไปตรงมา “จากอาการที่เจ้ากล่าวมา เจ้าป่วยเป็นวัณโรค ซึ่งมีการติดต่อรุนแรง”“ดังนั้นพวกเราสามคนจึงจำเป็นต้องกินยาป้องกันการติดโรค”เมื่อได้ยินว่าตนเองป่วยเป็นวัณโรค สวีจงฉือก็รู้สึกหน้ามืดทันทีเหตุใดเขาจึงต้องป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หายเช่นนี้ด้วยไม่น่าแปลกใจเลยว่าเหตุใดคนที่สวมหน้ากากเงินที่เคยสนทนากับเขา จึงต้องใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดจมูกและปากขณะพูดคุยเมื่อคิดดูในตอนนี้ ชายคนนั้นคงกลัวว่าจะติดโรคจากเขาเป็นแน่เขาซึ่งเป็นถึงเถ้าแก่ร้านขายยา กลับไม่รู้ว่าตนเองป่วยเป็นโรคติดต่อเช่นนี้แล้วบรรดาลูกค้าที่มาซื้อสมุนไพรจากร้านของเขาเล่า จะถูกเขาแพร่โรคไปหรือไม่?สวีจงฉือรู้สึกผิดที่ร้ายผู้คนไปไม่น้อยโดยไม่รู้ตัว หากข้ารู้แต่แรกว่าป่วยเป็นโรคนี้ ข้าคงปิดร้านขายยาไปนานแล้วแม้จะต้องตาย

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 450

    เจี่ยนอันอันหันกลับมาอย่างรวดเร็ว แล้วเห็นกู้มั่วหลีที่ไม่รู้ว่ามายืนอยู่ข้าง ๆ นางตั้งแต่เมื่อใดใบหน้าของนางเกือบจะสัมผัสกับใบหน้าของกู้มั่วหลีเจี่ยนอันอันรู้สึกขนลุกวาบ นางรีบถอยหลังไปหนึ่งก้าวทันที“เจ้าอีกแล้วหรือ เจ้าคนน่าชัง เจ้าเข้ามาได้อย่างไร?”ในขณะที่พูด มือของเจี่ยนอันอันก็ปรากฏมีดสั้นเคลือบพิษด้ามหนึ่งทันทีด้านนอกมีเจ้าหน้าที่ทางการคอยเฝ้าอยู่ แล้วกู้มั่วหลีเข้ามาโดยไร้สุ้มเสียงได้อย่างไรเมื่อกี้เขาเข้ามาใกล้นางถึงเพียงนี้ แต่นางกลับไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อยชายคนนี้อันตรายเกินไปแล้ว!เจี่ยนอันอันจำต้องตั้งสมาธิอย่างเต็มที่เพื่อรับมือกับกู้มั่วหลีกู้มั่วหลีหัวเราะเบา ๆ มองมีดสั้นในมือของเจี่ยนอันอันเขายิ้มออกมาอีกครั้ง แต่รอยยิ้มที่มุมปากของเขากลับส่งไปไม่ถึงแววตา“เจี่ยนอันอัน ข้าเคยบอกแล้วว่าเราจะได้พบกันอีก”กู้มั่วหลีกล่าวพร้อมกับก้าวเข้ามาใกล้หนึ่งก้าว ยกมือขึ้นราวกับจะสัมผัสใบหน้าของเจี่ยนอันอัน“กู้มั่วหลี เจ้าอยากตายหรือ!”เมื่อเห็นมือของกู้มั่วหลียื่นเข้ามาใกล้ใบหน้าของนางเจี่ยนอันอันพลันตวาดเสียงกร้าว พลางกำมีดสั้นในมือแน่น แล้วแทงตรงไปยังข้อมื

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 451

    ที่ว่าการอำเภอก็มีสถานที่กว้างใหญ่เพียงแค่นี้ ห้องครัวเองก็อยู่ไม่ไกลนักเจี่ยนอันอันไม่มีทางที่จะปรุงยานานถึงขนาดนี้ แล้วยังไม่กลับมาอีกเขารีบนำฉู่จวินสิงมุ่งหน้าไปทางด้านห้องครัวทันทีทั้งสองคนล้วนแต่กังวลอยู่ในใจ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเจี่ยนอันอันในตอนที่ทั้งสองคนมาถึงบริเวณใกล้ๆ ห้องครัวนั้น ก็มองเห็นเจ้าหน้าที่ทางการคนหนึ่งที่เฝ้าประตูอยู่ นอนอยู่บนพื้นในใจของฉู่จวินเคร่งขรึมขึ้นมา รีบวิ่งไปยังห้องครัวอย่างรวดเร็วก็เห็นว่าไฟบนเตายังคงลุกอยู่ ยาที่ปรุงอยู่ในเตายาถูกเผาจนแทบจะแห้งแล้วทว่าเจี่ยนอันอันกลับหายไปในตอนที่ฉู่จวินสิงกำลังจะออกไป เท้ากลับเตะไปโดนอะไรบางอย่างเข้าเขาย่อกายลงไปมอง เป็นกริชเล่มหนึ่งกริชเล่มนี้เขาเคยพบที่เจี่ยนอันอันมาก่อนฉู่จวินสิงหยิบกริชขึ้นมา ในใจก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายมากยิ่งขึ้นใบหน้าของเขาเคร่งขรึม รีบเดินออกไปจากห้องครัวเซิ่งฟางมาถึงด้านนอกห้องครัว แล้วตรวจดูลมหายใจจากจมูกของเจ้าหน้าที่ทางการดีที่เจ้าหน้าที่ทางการเพียงแค่ถูกตีจนสลบไป ไม่ได้เป็นอะไรมากนักเมื่อเห็นว่ามีเพียงแค่ฉู่จวินสิงคนเดียวที่เดินออกมา เซิ่งฟางก็รีบถามขึ้น “เป็นอย

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 452

    ส่วนด้านล่างของนางนั้น ก็มีฟูกวางอยู่เจี่ยนอันอันส่งเสียงฮึดฮัดออกมา แล้วลอบคิดกับตัวเองในใจเจ้าบ้ากู้มั่วหลีนี่ คงจะกลัวว่านางจะหนาวแล้วเป็นหวัดอย่างนั้นหรือ ถึงได้ใจดีหาฟูกให้นางเจี่ยนอันอันลุกขึ้นยืน แล้วรีบตามหาทางออกนางเคาะกำแพงหิน ก็พบว่ากำแพงหินทุกอันล้วนแต่ถูกปิดตายเอาไว้ที่นี่ไม่มีกลไกใดที่จะสามารถเปิดกำแพงหินออกได้เจี่ยนอันอันพยายามท่องจุดหมายปลายทางในใจ คิดจะใช้วิธีการเคลื่อนย้ายกายออกไปจากที่นี่ แล้วกลับไปหาฉู่จวินสิงแต่ไม่คิดเลยว่าความสามารถที่ตนเองภาคภูมิใจนี้ กลับไม่อาจใช้ที่นี่ได้นางคิดถึงในตอนต้นที่นายอำเภอคนก่อนขังเอาไว้ในที่ว่าการอำเภอนั้น ก็มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อนเช่นกันในตอนนั้นฉู่จวินสิงตกลงไปในหลุมใต้ดิน นางก็คิดจะใช้วิธีเคลื่อนย้ายกาย เพื่อไปหาฉู่จวินสิงในตอนนั้นเป็นเหมือนกับตอนนี้ ความสามารถนี้ของนางใช้ไม่ได้เลยเจี่ยนอันอันเข้าใจแล้ว เคล็ดวิชาเคลื่อนไหวกายของนาง หากว่าเมื่อพบกับห้องที่เป็นหินก็จะไม่ประสบผลในตอนที่เจี่ยนอันอันกำลังค้นหากลไกอยู่นั้น กำแพงหินด้านหลังนั้นก็จู่ๆ ก็เกิดเสียง ‘ครืด’ ดังขึ้นเจี่ยนอันอันหันกลับไปอย่างรวดเ

Bab terbaru

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 813

    พวกเขาลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไรญาติที่เป็นขุนนางของลูกพี่เป็นผู้มีอิทธิพลนัก ดูแลทุกอย่างในอำเภอไถหยางก็ว่าได้เจี่ยนอันอันกล่าวเสียงเย็น “คุยมาตั้งนาน ยังไม่เห็นบอกชื่อว่าคนผู้นั้นเป็นใคร ข้าว่าคงจะแต่งเรื่องส่งเดชมากกว่า”เฝิงซานกวงถูกเจี่ยนอันอันยุยงอีกครั้ง เดิมทีเขาก็ไม่อยากเอ่ยชื่อเจ้าเมืองออกมาแต่ครั้งนี้เห็นทีไม่พูดก็ไม่ได้เสียแล้ว“ฮึ่ม พูดแล้วพวกเจ้าจะตกใจ ท่านอารองของข้าเป็นเจ้าเมืองแห่งอำเภอไถหยาง”“หากพวกเจ้ากล้าแตะต้องกิจการในเหมืองของข้า ข้าจะให้ท่านอาส่งคนมาจับพวกเจ้าไปขังคุกเสีย!”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินว่าอารองของเฝิงซานกวงก็คือเจ้าเมืองตานนั่นเอง นางจึงเริ่มมีแผนการในใจ“อ้อ หมายถึงเจ้าเมืองตานผู้นั้นหรอกรึ? ยังนึกว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่ใดเสียอีก”“เชิญไปเรียกตัวมาได้เลย แล้วเรามายันกันซึ่งหน้า ให้รู้ไปว่าเขาจะเข้าข้างเจ้า หรือเห็นด้วยกับเรามากกว่า”เฝิงซานกวงมองดูท่าทีของเจี่ยนอันอัน คล้ายไม่กลัวกระทั่งคนเป็นเจ้าเมือง จึงให้ตกใจซ้ำอีกเขาแอบคิดในใจ หรือว่าท่านอารองจะรู้จักกับคนสองคนนี้?จึงหันไปกระซิบกระซาบต่อลูกน้องข้างกาย “รีบไปเชิญอารองข้ามาเดี๋ยวนี้”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 812

    เหล่าคนงานที่เข้าออกเหมืองแร่เห็นเหตุการณ์เข้า ต่างก็ตกใจเป็นอย่างมากเพราะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นลูกน้องของนายจ้างถูกผู้อื่นทำร้ายเช่นนี้แม้แต่ละคนจะมีความตกใจ แต่ลึกๆ กลับรู้สึกสะใจมากกว่าเพราะบริวารของเฝิงซานกวงเหล่านี้ ปกติมักจะใช้กำลังกับพวกเขาบ่อยๆทุกครั้งที่พวกเขาขุดหาแร่ออกมาไม่ได้ปริมาณตามที่ต้องการ ลูกน้องเฝิงซานกวงก็พากันมารุมซ้อมพวกเขาอย่างหนัก แต่พวกเขาก็ไม่กล้าไปบอกใครบางคนเคยคิดหนีไปจากที่นี่ แต่ครั้งใดที่มีผู้หลบหนี มักถูกจับกลับมาแล้วซ้อมหนักยิ่งกว่าเดิมอีกที่สำคัญพวกเขาแทบจำไม่ได้ว่าตนคือใคร บ้านช่องอยู่ที่ใดจึงได้แต่ใช้แรงกายแลกกับเงินน้อยนิดเพียงสองอีแปะในแต่ละวัน อดทนทำงานอยู่ที่นี่ต่อไปเมื่อชายสองคนถูกทำร้ายเข้า จึงมีลูกน้องเฝิงซานกวงตามออกมาอีกทุกคนเมื่อเห็นว่ามีคนมาก่อเรื่อง จึงกรูกันเข้าหาฉู่จวินสิงทันทีแต่มิต้องรอให้พวกเขามาเข้าใกล้ ฉู่จวินสิงใช้กำลังภายในซัดออกไปก่อนแล้วทุกคนต่างทยอยล้มลง พลางกลิ้งไปมา ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดทันใดนั้นเอง มีเสียงหนึ่งตะคอกดังขึ้น “ผู้ใดกล้าบังอาจมาก่อเรื่องในเหมืองของข้า อยากตายหรืออย่างไร?”ใบ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 811

    แต่บัดนี้นางเปิดร้านมาสิบกว่าวัน ขายได้เพียงรูปสัตว์โลหะไม่กี่ตัวเท่านั้นเฉียวซื่อบอกเล่าสิ่งที่พบเจอให้เจี่ยนอันอันฟัง ทำให้นางเกิดความเข้าใจขึ้นทันทีที่แท้เฉียวซื่อถูกเฝิงซานกวงหลอกลวงมาแต่แรกเจี่ยนอันอันเพียงคิดว่าต่อให้นางซื้อของตกแต่งเหล่านี้กลับไป ก็มิได้ใช้ประโยชน์นักจึงนำหนูโลหะตัวเล็กในมือวางกลับที่เดิมเฉียวซื่อเห็นเจี่ยนอันอันทำเช่นเดียวกับลูกค้าอื่นในร้าน เพียงเข้ามาหยิบดูเล็กน้อย จากนั้นจึงวางของตกแต่งลงไว้ที่เดิมดูแล้วคล้ายไม่สู้ถูกใจผลงานที่นางสร้างสรรค์ออกมาเท่าใดนัก พลันเกิดความรู้สึกท้อแท้ นางคงไม่เหมาะจะทำอาชีพนี้จริงๆ กระมังหากตอนนี้สามียังอยู่ก็คงดี นางจะได้ฝึกวิชาการตีเหล็กจากเขาให้ออกมาเป็นงานอื่นบ้างและเมื่อครู่เจี่ยนอันอันรู้จากปากเฉียวซื่อ ว่าเฝิงซานกวงได้เปิดกิจการเหมืองแร่แห่งหนึ่งทุกวันจะมีคนงานไปด้านหลังภูเขาที่อยู่ห่างไกล ขุดเอาแร่เหล็กและหยกออกมา เพื่อนำกลับมาถลุงเป็นเครื่องหยกและของใช้ที่ทำจากเหล็กนางเห็นเฉียวซื่อคล้ายมีอาการท้อใจ จึงกล่าวยิ้มแย้ม “พี่เฉียว ท่านพาข้าไปดูที่เหมืองของเฝิงซานกวงก่อน ข้ามีสิ่งของบางอย่างต้องการจะซื้อ”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 810

    เจี่ยนอันอันหยิบมากวาดตาดูก็มองความผิดปกติบนนั้นออกได้ในทันที“เงื่อนไขในนี้เข้มงวดเกินไปแล้ว ถ้าฝ่ายไหนยุติสัญญาจะต้องชดเชยให้อีกฝ่ายเป็นเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึง”“เจ้าหมอนี่ช่างกล้าเขียน สัญญานี้เห็นได้ชัดว่าเป็นเงื่อนไขแบบมัดมือชกกันชัดๆ”“ข้าว่าท่านไม่ร่วมงานกับเขาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย”คำพูดของเจี่ยนอันอันทำให้เฉียวซื่อใจหายวูบนางรู้จักตัวหนังสือแค่ไม่กี่ตัว นอกจากเขียนชื่อตัวเองเป็นแล้ว เงื่อนไขในนั้นนางอ่านไม่เข้าใจเลยสักนิดเฝินซานกวงเป็นคนอ่านให้นางฟัง นางรู้สึกว่าเงื่อนไขสมเหตุสมผลมากจึงลงนามในสัญญากับอีกฝ่ายแต่คิดไม่ถึงเลยว่า เฝิงซานกวงจะกล้าเล่นเล่ห์กับนางแบบนี้เดิมนั้นนางอยากยกเลิกสัญญากับอีกฝ่าย แต่กลับได้ยินเฝิงซานกวงพูดว่า ถ้านางกล้าเป็นฝ่ายยกเลิกสัญญาก็จะต้องชดเชยเงินให้เฝิงซานกวงเป็นเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึงตอนนั้นเฉียวซื่อตกใจยิ่งนักนางเคยไปถามเถ้าแก่ร้านข้างเคียง ฝ่ายตรงข้ามก็บอกว่าเงื่อนไขนี้เขียนไว้อย่างชัดเจน ต้องจ่ายเงินชดเชยให้อีกฝ่ายหนึ่งแสนตำลึงจริงๆเงินจำนวนมหาศาลเช่นนี้ นางจะไปหาเงินมากมายขนาดนี้มาจากที่ไหนถึงตอนนี้เฉียวซื่อจึงตระหนักว่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 809

    ตอนนี้เขาทำได้เพียงอดทนอดกลั้นต่อความเจ็บปวด ยอมรับการทุบตีจากเฉียวอี้บริเวณรอบๆ มีคนล้อมเข้ามามุงดูจำนวนมาก พวกเขาต่างชี้ไม้ชี้มือมาทางชายผู้นั้น“คนคนนี้แค่เห็นก็รู้แล้วว่าต้องไม่ใช่คนดีแน่ ดูหน้าตาทรงโจรของเขาสิ แปดส่วนคงเป็นเพราะไปหาเรื่องคนอื่นก่อน ถึงได้ถูกเด็กคนนั้นซ้อมเอาแบบนี้”“เมื่อครู่ข้าได้ยินแล้ว เขาไปลงไม้ลงมือกับแม่ของเด็กคนนั้น ข้าว่าตีเขายังน้อยไป ควรแจ้งความมากกว่า”คนมุงบริเวณรอบๆ ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานาเฉียวอี้ควงหมัดทักทายใบหน้าของชายผู้นั้นหนักกว่าเดิมในไม่ช้า เฉียวอี้ก็ตีจนรู้สึกเจ็บกำปั้น แต่เขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดจนกระทั่งอัดศีรษะชายผู้นั้นจนบวมเป่งเหมือนหมู เฉียวอี้ถึงได้หยุดมือพร้อมหอบหายใจแม้ว่ากำปั้นของเฉียวอี้จะไม่ใหญ่ แต่ครั้นทุบตีคนก็ร้ายกาจยิ่งนักเห็นใบหน้าชายผู้นั้นเขียวช้ำไปหมด เฉียวอี้ก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากเจี่ยนอันอันกล่าวกับชายผู้นั้นว่า “หากวันหน้าเจ้ายังกล้ามาคุกคามแม่ลูกตระกูลเฉียวอีก ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าสบายแบบนี้แน่ ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”ชายผู้นั้นไม่กล้าพูดมาก ลุกขึ้นมากุมศีรษะแล้วเผ่นหนีไปคนมุงบริเวณรอบๆ เ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 808

    เจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงสบตากัน“พวกเจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้” ฉู่จวินสิงว่าแล้วก็ก้าวยาวๆ ตรงไปทางตรอกน้อยชายผู้นั้นเห็นว่าฉู่จวินสิงตรงมาทางเขาก็หันหลังเตรียมวิ่งหนีแต่เขาวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกถีบเข้าที่เอวเสียแล้วชายผู้นั้นถูกถีบกระเด็นไปไกล คว่ำหน้าอยู่บนพื้นร้องโอดโอยออกมาอย่างทนไม่ไหวฉู่จวินสิงย่างสามขุมตรงเข้าไปหาแล้วหิ้วคอเสื้อของชายผู้นั้นขึ้นมาอย่างไม่ปรานีปราศรัย“ไปกับข้า!”ฉู่จวินสิงกล่าวพลางผลักชายผู้นั้นตรงออกไปนอกตรอกชายผู้นั้นได้ลิ้มรสความร้ายกาจของฉู่จวินสิงแล้วย่อมไม่กล้าวิ่งหนีส่งเดชเขาไม่อยากถูกถีบอีกหรอกนะ จนถึงตอนนี้เอวยังระบมอยู่เลยฉู่จวินสิงผลักชายผู้นั้นมาถึงตรงหน้าเจี่ยนอันอันกับเฉียวอี้แล้วกล่าวเสียงเข้ม “บอกมา ระหว่างเจ้ากับเด็กคนนี้เป็นเรื่องอะไรกันแน่?”ชายผู้นั้นมองเฉียวอี้ แววตาเต็มไปด้วยความขุ่นแค้น“คุณชายท่านนี้ ข้าไม่รู้จักเขาเสียหน่อย เขาวิ่งออกมาถนนใหญ่เอง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าเลยนะ”ขณะที่ชายผู้นั้นพูดก็ถลึงตาใส่เฉียวอี้อย่างดุร้ายเฉียวอี้เห็นฝ่ายตรงข้ามไม่ยอมรับ เขาเงยหน้าขึ้นมาด้วยความโมโห แล้วตวาดใส่ชายผู้นั้นว่า“ท่านโก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 807

    เจี่ยนอันอันเห็นว่าฉู่จวินสิงก่อสร้างเป็น นางก็วางใจไปได้มากนางยิ้มเอ่ยว่า “ไม่ใช่กระโจม แต่เป็นโรงเรือนสำหรับเพาะปลูกแบบหนึ่ง”นางมีความคิดคร่าวๆ ในใจแล้วจึงรีบกลับบ้านไปกับฉู่จวินสิงนางหยิบกระดาษและปากกาออกมาจากในมิติ แล้ววาดภาพร่างบนโต๊ะฉู่จวินสิงนั่งอยู่ข้างๆ ตั้งใจดูภาพร่างโรงเรือนที่เจี่ยนอันอันวาดที่นี่ไม่มีเหล็กเส้น เจี่ยนอันอันยังไม่อยากใช้เงินจำนวนมากไปซื้อจากในร้านค้านางต้องการสร้างโรงเรือนสำหรับคนในหมู่บ้านทุกคน เหล็กเส้นที่ต้องใช้จึงมีไม่น้อยหากใช้เงินไปซื้อมา นั่นไม่ใช่จำนวนเงินน้อยๆ เลยนางไม่อยากใช้เงินพวกนั้นในมิติมากเกินไป นางยังรอที่จะสนับสนุนฉู่จวินสิงขึ้นนั่งบัลลังก์ฮ่องเต้หลังจากการทำสงครามกลับเมืองจิงโจวในวันหน้าเมื่อถึงตอนนั้น เงินทองของล้ำค่าเหล่านั้นในมิติก็จะได้นำไปใช้แล้วฮ่องเต้จนกรอบคนหนึ่งที่ไม่สามารถจ่ายเบี้ยหวัดให้เหล่าขุนนางได้ ทั้งยังไม่สามารถทำให้ชาวบ้านอยู่ดีมีสุข กับฮ่องเต้ที่มั่งคั่งร่ำรวยคนหนึ่ง เงินในมือสามารถซื้อเมืองทั้งเมืองได้ชาวบ้านกับเหล่าขุนนางจะเอนเอียงไปทางคนไหนมากกว่า นั่นไม่ต้องพูดก็สามารถรู้ได้แล้วในไม่ช้า เจี่ยน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 806

    เมื่อมีชาวบ้านผ่านมาที่นี่แล้วเห็นลูกปลาในสระน้ำเข้าเขาก็ส่งเสียงด้วยความประหลาดใจทันทีว่า “แม่นางเจี่ยน เจ้าเป็นคนนำลูกปลาพวกนี้มาปล่อยไว้ในนี้หรือ?”เจี่ยนอันอันพยักหน้าพร้อมยิ้มบาง ชาวบ้านผู้นั้นเรียกคนอื่นๆ มาด้วยความดีใจทุกคนล้วนรู้สึกซาบซึ้งในความเอาใจใส่ของเจี่ยนอันอัน แบบนี้ต่อไปพวกเขาก็จะสามารถกินเนื้อปลาสดใหม่ได้แล้วชาวบ้านจำนวนมากล้วนรู้สึกยินดีเพราะเรื่องนี้ แต่มีชาวบ้านคนหนึ่งที่นิ่วหน้าคิ้วขมวดเขาอดพูดขึ้นไม่ได้ว่า “สระน้ำนี่ก็ดีอยู่หรอก แต่อากาศค่อยๆ เย็นลงแล้ว กลัวจริงๆ ว่าเมื่อถึงฤดูหนาว สระน้ำนี่ก็จะจับตัวเป็นน้ำแข็ง”“พอถึงยามนั้น อย่าว่าแต่พวกเราจะไม่ได้กินเนื้อปลา เกรงว่าแม้แต่พืชผักก็คงปลูกไม่ได้เหมือนกัน”วาจาประโยคเดียวของชาวบ้านทำให้คนอื่นๆ กลัดกลุ้มตามไปด้วยหลายวันมานี้อากาศค่อยๆ เย็นลง พวกเขาล้วนแต่เพิ่งปลูกผักทั้งยังได้รับเงินสามสิบตำลึงมาแล้วหากถึงฤดูหนาวจริงๆ พวกเขาก็ไม่สามารถปลูกผักพวกนี้ได้อีกแล้วเมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาก็จะได้กลับไปมีชีวิตที่ยากลำบากเหมือนที่ผ่านมาอีกครั้งพวกเขาเกี่ยวข้าวไว้มากแล้ว แต่ผักพวกนี้ควรทำอย่างไรดีเล่า?หาก

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 805

    เซียงเสวี่ยเห็นลูกเป็ดและลูกไก่ตัวน้อยที่อยู่ในกรง นางดีใจจนรีบมารับไป“ฮูหยินน้อยรอง อีกหน่อยเมื่อเลี้ยงเป็ดและไก่เหล่านี้จนโต พวกเราก็จะมีเนื้อเป็ดเนื้อไก่กินแล้ว”เจี่ยนอันอันยิ้มเล็กน้อย พลางมองไปยังเสิ่นจือเจิ้ง“พี่ใหญ่ เป็ดไก่เหล่านี้เพียงพอให้พวกท่านกินหลายวันสินะ”เสิ่นจือเจิ้งยิ้มตอบ “เด็กโง่ พี่ใหญ่กลับไม่คิดเช่นนั้น”เจี่ยนอันอันเลิกคิ้วเล็กน้อย “ความหมายของท่านคือ?”เสิ่นจือเจิ้งบอกเล่าความคิดของตนให้ฟังเขาตั้งใจว่าจะเลี้ยงเป็ดไก่เหล่านี้ให้โต พร้อมทำการเพาะพันธุ์ต่อจากนั้นก็ทยอยนำเป็ดไก่ไปขาย เชื่อว่าน่าจะได้เงินเป็นจำนวนมากเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เขาก็ไม่ต้องอยู่อย่างยากจนข้นแค้นดั่งเช่นทุกวันนี้อีกเจี่ยนอันอันเห็นว่าวิธีนี้พอใช้ได้ ปกติพี่ใหญ่มองการณ์ไกลมากกว่านางอยู่แล้ว“ถ้าเช่นนั้นก็แล้วแต่ท่าน”เจี่ยนอันอันกล่าวจบ จึงคิดจากไปนางยังคิดจะไปดูแอ่งน้ำเสียหน่อย เผื่อจะปล่อยพันธุ์ปลาลงไปในน้ำบ้างเผื่อวันหน้าปลาโตขึ้น ชาวหมู่บ้านชิงสุ่ยก็จะมีเนื้อปลากินอีกขณะที่เจี่ยนอันอันเตรียมตัวจะออกไป กลับถูกเสิ่นจือเจิ้งเรียกตัวไว้“เมื่อคืนที่บ้านเจ้าได้เกิดเรื่อ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status