แม่นางผู้นี้เป็นคนบ้านใดกัน ไยพวกเขาไม่เคยพบมาก่อนเลย?เพราะดูท่าแล้วไม่เหมือนคนในหมู่บ้านชิงสุ่ยเลยเมื่อทุกคนนั่งประจำที่ เจี่ยนอันอันจึงแนะนำเหยียนซวงให้รู้จักทุกคนจึงได้ทราบว่าเหยียนซวงมาตามหาเจี่ยนอันอันเพื่อให้รักษาคนป่วยทุกคนก็พร้อมใจกันเอ่ยชมฝีมือวิชาแพทย์ที่ล้ำเลิศของเจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันถูกทุกคนเอ่ยชมจนหน้าแดงเรื่อเล็กน้อยฉู่จวินสิงมองเห็นท่าทางเขินอายของเจี่ยนอันอัน เขาก็เม้มปากยิ้มบาง ๆ ก่อนคีบเนื้อกระต่ายชิ้นหนึ่งใส่ลงในถ้วยของเจี่ยนอันอันเขาชอบมองเจี่ยนอันอันยามที่นางเขินอาย เพราะทุกครั้งที่นางเขิน แก้มของนางจะปรากฏสีแดงระเรื่อเจี่ยนอันอันเดิมก็มีรูปโฉมงดงามอยู่แล้ว พอมีสีแดงเรื่อบนใบหน้า ยิ่งเพิ่มความอ่อนโยนละมุนละไมให้นางหลายส่วนขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังเคี้ยวเนื้อกระต่ายในปาก ในใจกลับคิดถึงพี่ชายคนโตของนางตอนนี้พี่ชายยังพักอยู่ที่บ้านของกวนซิน แม้ว่าที่นั่นจะได้รับเสบียงอาหารที่นางส่งไปให้แต่กลับไม่มีผักหรืออาหารสดที่เพียงพอตัวนางกำลังกินเนื้อกระต่ายอยู่ที่นี่ แต่พี่ชายอาจกำลังอดอยู่อีกที่หนึ่งเมื่อคิดเช่นนั้น เจี่ยนอันอันก็ลุกพรวดขึ้นทันที“ข
เจี่ยนอันอันยังคงงัวเงีย รู้สึกเหมือนมีใครบางคนกำลังจับมือของนางและบังคับให้นางกดนิ้วลงบนบางสิ่งบางอย่างนางตอบสนองทันทีด้วยการฟาดฝ่ามือกลับไปเต็มแรงทันใดนั้นก็มีเสียง ‘เพียะ’ ดังขึ้นตามด้วยเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดของชายวัยกลางคน“นังเด็กอกตัญญู กล้าดียังไงมาทำร้ายบิดาของเจ้า! ข้าจะส่งเจ้าไปหามารดาที่ตายไปแล้วของเจ้าเดี๋ยวนี้!”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินคำพูดนั้น หัวใจของนางพลันเย็นเยียบทันทีคนบ้าอะไรกล้าด่าแม่ของนางเช่นนี้ รนหาที่ตาย!เจี่ยนอันอันลืมตาขึ้นทันที เห็นชายแปลกหน้าในชุดโบราณกำลังเงื้อมมือขึ้นหมายจะฟาดหน้านางเจี่ยนอันอันแค่นเสียงเย็นชา ก่อนจะเตะเข้าที่ท้องของชายคนนั้นเต็มแรงชายคนนั้นถูกเตะจนถอยหลังไปหลายก้าวกว่าจะหยุดลงได้ในฐานะที่เป็นกั๋วกงแห่งแคว้นไท่ยวน ถูกบุตรีแท้ ๆ ทำร้าย ซ้ำยังถูกทำร้ายต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้อีกใบหน้าของเจี่ยนกั๋วกงเขียวคล้ำด้วยความโกรธ เขาจ้องมองเจี่ยนอันอันด้วยดวงตาแดงก่ำเขาก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว หมายจะบีบคอเจี่ยนอันอันให้ตายทันใดนั้น ฮูหยินรองก็รีบพูดขึ้นว่า “นายท่าน ตอนนี้ยังฆ่านางไม่ได้นะเจ้าคะ”“หากนางตาย ใครจะไปแต่งกับเยียน
บ่าวรับใช้รับคำสั่ง รีบหยิบเชือกออกมาเพื่อจะมัดตัวเจี่ยนอันอันแต่เจี่ยนอันอันกลับคว้าเชือกไว้ได้ ก่อนจะก้าวอาด ๆ มาตรงหน้าเจี่ยนกั๋วกงนางเคลื่อนไหวรวดเร็วจนเจี่ยนกั๋วกงไม่ทันตั้งตัว และเชือกก็ถูกคล้องเข้าที่ลำคอของเขาแล้วเจี่ยนอันอันดึงเชือกจนแน่น ทำให้เจี่ยนกั๋วกงหายใจไม่ออกทันทีนางตวาดเสียงเย็นชา “ตาเฒ่าน่ารังเกียจ! หนังสือตัดขาดนั่นเจ้าเก็บรักษาไว้ให้ดี อย่าทำหายเสียเล่า”“จำคำพูดของเจ้าวันนี้ไว้ให้ดี วันหน้าเมื่อข้าโบยบินขึ้นสูง เจ้าก็อย่ามาร้องไห้ฟูมฟายขอคืนดีกับข้าแล้วกัน!”สิ้นประโยค เจี่ยนอันอันก็เตะเจี่ยนกั๋วกงจนล้มลงกับพื้นฮูหยินรองรีบวิ่งมาพยุงเจี่ยนกั๋วกง ก่อนจะหันมาถลึงตาใส่เจี่ยนอันอัน“เจี่ยนอันอัน นังลูกทรพี! เจ้ากล้าตบตีบิดาแท้ ๆ ของเจ้าได้อย่างไร”“พวกข้าดูแลเจ้าให้เติบโตมาแท้ ๆ แต่เจ้ากลับไม่รู้จักบุญคุณ แถมยังคิดฆ่าบิดาของเจ้าอีก!”“จวนกั๋วกงของเรา ไยจึงเลี้ยงดูเด็กเนรคุณเช่นเจ้าออกมาได้”ในขณะเดียวกัน เจี่ยนหลิงเยว่บุตรสาวของฮูหยินรองก็เดินเข้ามานางด่าเจี่ยนอันอันอย่างโกรธจัด “เจี่ยนอันอัน ทางที่ดีเจ้าไปตายอยู่ข้างนอกเสีย แล้วอย่ากลับมาที่นี่อีก”
ในตอนนั้นเอง เจี่ยนอันอันก็เห็นหน้าจอขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้านางบนหน้าจอนั้นมีข้อความว่า [ต้องผูกชะตากับเยียนอ๋องเท่านั้นจึงจะเปิดมิติได้ มิเช่นนั้นมิติจะระเบิดภายในสิบวินาที][ไม่ทราบว่าจะทำการผูกชะตาหรือไม่?]เจี่ยนอันอันที่เพิ่งยิ้มแย้มอย่างสดใส ยามนี้หน้าถอดสีทันทีเมื่อเห็นว่าการนับถอยหลังของมิติเริ่มขึ้น เจี่ยนอันอันไม่มีเวลาคิดมาก รีบตะโกนในใจว่า “ผูกสิ ข้าจะผูกชะตา!”การนับถอยหลังของมิติหยุดลง และมีข้อความปรากฏขึ้นอีกครั้งว่า [ผูกชะตาสำเร็จ มิติถูกเปิดแล้ว]เจี่ยนอันอันรีบดึงยาชนิดใหม่ออกมาจากมิติและโยนเข้าปากทันทีโดยไม่คิดลังเลในเมื่อหนีการแต่งงานไม่ได้ นางก็ต้องเริ่มวางแผนสำหรับวันข้างหน้าก่อนอื่นนางต้องสะสมเสบียงจำนวนมาก เพื่อให้ในวันที่ถูกเนรเทศ จะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานไปกับคนในครอบครัวของจวนเยียนอ๋องในเมื่อบิดาของร่างเดิมตั้งใจจะตัดขาดกับนาง เช่นนั้นนางก็จะขนทรัพย์สินของจวนกั๋วกงไปให้หมดก่อนเจี่ยนอันอันหลับตาแล้วกล่าวในใจว่า “ล่องหน ไปยังคลังสมบัติของจวนกั๋วกง”ทันใดนั้นร่างกายของนางก็หายไป วินาทีถัดมานางก็มาปรากฏตัวในคลังสมบัติของจวนกั๋วกงผ้าไหมแพรพรร
เพื่อที่จะไล่พ่อครัวหลวงเหล่านี้ออกไป เจี่ยนอันอันจึงหยิบผงยาถ่ายออกจากมิติแล้วโปรยใส่หน้าพวกเขาหลังจากพ่อครัวหลวงหลายคนสูดผงยาระบายเข้าไปได้ไม่นาน พวกเขาก็เริ่มบ่นปวดท้อง แล้วรีบกุมท้องวิ่งออกจากห้องเครื่องกันไปหมดเจี่ยนอันอันฮัมเพลงไปพลาง กินขนมไปพลาง พร้อมกับโยนขนมและอาหารจากห้องครัวหลวงทั้งหมดเข้าไปในมิติของนางนางเหลือบมองผักและธัญพืชที่วางเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ รวมถึงเนื้อที่ถูกหั่นไว้แล้วเจี่ยนอันอันคิดว่าต้องนำวัตถุดิบเหล่านี้ไปด้วยถึงจะดีเมื่อถูกเนรเทศ นางจะได้ใช้วัตถุดิบเหล่านี้ทำอาหารอร่อย ๆ ได้เมื่อคิดได้ดังนั้น เจี่ยนอันอันก็รีบขนวัตถุดิบทั้งหมดลงในมิติทันทีหลังจากเจี่ยนอันอันออกจากห้องเครื่องหลวง นางก็คิดว่าควรจะลองไปดูเยียนอ๋องผู้นั้นสักหน่อยวินาทีต่อมา นางก็ปรากฏตัวในคุกโดยพลันในขณะนั้น ฉู่จวินสิงซึ่งก็คือเยียนอ๋องกำลังถูกทรมานอย่างหนักร่างกายของเขาถูกทุบตีจนหนังเปิดเนื้อแตก เสื้อผ้าอาภรณ์ก็ถูกย้อมไปด้วยโลหิตจนแดงฉานแม้จะเป็นเช่นนั้น ฉู่จวินสิงก็ไม่ส่งเสียงครวญครางแม้แต่น้อยเจี่ยนอันอันอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วโป้งให้เขานางรู้สึกชื่นชมเขาจากใจจริงว่
ผู้คุมหลายคนได้กลิ่นเหม็นรุนแรงจากการผายลม แต่พวกเขาไม่กล้าอุดจมูกหรือหลบเลี่ยงทำได้เพียงกลั้นใจและเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกขันทีใหญ่ก็วิ่งตามออกมาด้วย ขณะเดินตามหลังฮ่องเต้ก็มีสีหน้ากังวลเขากลัวจริง ๆ ว่าฮ่องเต้อาจพลาดปล่อยลมออกมา แล้วเผลอทำเลอะในกางเกงเจี่ยนอันอันที่ล่องหนอยู่ มองเห็นท่าทางน่าสมเพชของฮ่องเต้สุนัขที่ดูเหมือนจะถ่ายไม่หยุด นางก็แทบจะกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ยาระบายที่นางใช้ไม่มีทางแก้ได้ พอจะทำให้ฮ่องเต้สุนัขนี้ถ่ายไม่หยุดถึงเจ็ดวันเจ็ดคืนเมื่อเห็นว่าเวลาได้ที่แล้ว เจี่ยนอันอันก็ออกจากวังหลวงแล้วกลับมาที่เกี้ยวแต่งงานในทันทีในเวลานี้ เกี้ยวแต่งงานได้หยุดอยู่หน้าจวนเยียนอ๋องแล้วไร้เงาของชายฉกรรจ์สี่คนที่หามเกี้ยวมาเจี่ยนอันอันดึงผ้าคลุมหน้าสีแดงออก ก่อนจะเปิดม่านเกี้ยวแล้วก้าวออกมาอย่างมั่นใจนางเห็นว่าหน้าจวนเยียนอ๋องได้ถูกล้อมโดยทหารรักษาพระองค์แล้วเสียงร้องไห้และเสียงด่าทอดังมาจากภายในจวนเยียนอ๋องเจี่ยนอันอันไม่สนใจทหารรักษาพระองค์เหล่านั้น นางก้าวเดินเข้าไปในจวนเยียนอ๋องอย่างไม่ลังเลทันทีที่นางเดินเข้าไปก็เห็นว่าภายในจวนเยียนอ
หลังจากที่คนในตระกูลคนอื่นได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ ก็รู้สึกประหลาดใจในตัวตนคุณหนูใหญ่ของเจี่ยนอันอันเป็นอย่างมากนางไม่ใช่คุณหนูรองที่ฮ่องเต้พระราชทานสมรสให้หรอกหรือนี่แต่หลังจากได้ยินเจี่ยนอันอันยืนกรานว่าจะไม่แต่งด้วยหากไม่ใช่เยียนอ๋อง พวกเขาก็รู้สึกประทับใจในความจริงใจของเจี่ยนอันอันช่างเป็นแม่นางที่จิตใจดีงามเหลือเกิน ยอมออกเรือนแทนน้องสาวของตัวเองอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ เลือกแต่งเข้ามาในจวนเยียนอ๋องของพวกเขายอมรับโทษเนรเทศไปตกระกำลำบากกับพวกตนอาศัยเพียงความจริงใจนี้ของนาง พวกเขาก็จะปฏิบัติต่อนางเสมือนสมาชิกในครอบครัวของตัวเองแล้วขณะนั้นเอง เหล่าทหารรักษาพระองค์ที่ได้รับคำสั่งให้ไปตรวจค้นก็กลับมากันแล้วพวกเขายืนเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบ รายงานต่อหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ว่า “รายงานท่านหัวหน้า คลังสมบัติในจวนเยียนอ๋องว่างเปล่าขอรับ”“ในห้องของเยียนอ๋องก็ว่างเปล่าเช่นกัน”“ในห้องของคนอื่นๆ ในตระกูลก็ว่างเปล่าเช่นกันขอรับ”หัวหน้าทหารรักษาพระองค์นิ่งอึ้งไป คนในจวนเยียนอ๋องต่างก็อึ้งเช่นกันนี่มันเรื่องอะไรกัน พวกเขาเก็บทรัพย์สินไว้ที่เดิมโดยไม่ได้ไปแตะต้องเลยนี่ แต่กลับไม่
ฮูหยินใหญ่เห็นดังนั้นก็คิดจะปราดเข้าไปขวางตรงหน้าฉู่จวินสิงนั่นคือลูกชายคนเล็กของนาง ยามนี้ถูกฮ่องเต้ทำร้ายจนถึงขนาดนี้แล้วตอนนี้แม้แต่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ก็ยังไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาช่างเหมือนดังคำกล่าวที่ว่าเสือตกที่นั่งลำบากยังถูกสุนัขรังแกโดยแท้ตอนนี้ถึงต้องแลกด้วยชีวิต นางก็จะไม่ปล่อยให้พวกเขาทำร้ายลูกชายนางเด็ดขาดเจี่ยนอันอันเห็นฮูหยินใหญ่จะพุ่งเข้าไปก็รีบดึงตัวอีกฝ่ายไว้“ฮูหยินใหญ่เจ้าคะ อย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่นเจ้าค่ะ” เจี่ยนอันอันกระซิบข้างหูฮูหยินใหญ่ฮูหยินใหญ่หันกลับมามองเจี่ยนอันอัน ไม่เข้าใจว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงขัดขวางตนเองขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังพูดอยู่นั้นก็ตั้งท่าเตรียมจะซัดเข็มเงินอีกเล่มใส่หัวหน้าทหารรักษาพระองค์เข็มเงินในมือนางเล่มนี้เคลือบยาพิษเอาไว้ พอทิ่มแทงลงไปก็จะทำให้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ผู้นี้เป็นอัมพาตทั่วร่างทันทีถึงตอนนั้นนางก็สามารถใช้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์มาบีบบังคับทหารรักษาพระองค์เหล่านี้ได้หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ในยามนั้นเห็นว่ายังคงไม่มีใครก้าวออกมาเขาเงื้อดาบในมือขึ้นแล้วฟันลงบนร่างฉู่จวินสิงทันทีเห็นกับตาว่าคมดาบกำลังจะฟันล
แม่นางผู้นี้เป็นคนบ้านใดกัน ไยพวกเขาไม่เคยพบมาก่อนเลย?เพราะดูท่าแล้วไม่เหมือนคนในหมู่บ้านชิงสุ่ยเลยเมื่อทุกคนนั่งประจำที่ เจี่ยนอันอันจึงแนะนำเหยียนซวงให้รู้จักทุกคนจึงได้ทราบว่าเหยียนซวงมาตามหาเจี่ยนอันอันเพื่อให้รักษาคนป่วยทุกคนก็พร้อมใจกันเอ่ยชมฝีมือวิชาแพทย์ที่ล้ำเลิศของเจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันถูกทุกคนเอ่ยชมจนหน้าแดงเรื่อเล็กน้อยฉู่จวินสิงมองเห็นท่าทางเขินอายของเจี่ยนอันอัน เขาก็เม้มปากยิ้มบาง ๆ ก่อนคีบเนื้อกระต่ายชิ้นหนึ่งใส่ลงในถ้วยของเจี่ยนอันอันเขาชอบมองเจี่ยนอันอันยามที่นางเขินอาย เพราะทุกครั้งที่นางเขิน แก้มของนางจะปรากฏสีแดงระเรื่อเจี่ยนอันอันเดิมก็มีรูปโฉมงดงามอยู่แล้ว พอมีสีแดงเรื่อบนใบหน้า ยิ่งเพิ่มความอ่อนโยนละมุนละไมให้นางหลายส่วนขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังเคี้ยวเนื้อกระต่ายในปาก ในใจกลับคิดถึงพี่ชายคนโตของนางตอนนี้พี่ชายยังพักอยู่ที่บ้านของกวนซิน แม้ว่าที่นั่นจะได้รับเสบียงอาหารที่นางส่งไปให้แต่กลับไม่มีผักหรืออาหารสดที่เพียงพอตัวนางกำลังกินเนื้อกระต่ายอยู่ที่นี่ แต่พี่ชายอาจกำลังอดอยู่อีกที่หนึ่งเมื่อคิดเช่นนั้น เจี่ยนอันอันก็ลุกพรวดขึ้นทันที“ข
เหยียนซวงเดินตรงเข้าไปแล้วฟาดหัวหานซื่อจนสลบ ก่อนจะล้วงเอาหนังสือผ่านด่านออกมา จากนั้นให้เหยียนอวี่ทำการคัดลอกมาเหยียนอวี่มีความสามารถในการเลียนแบบลายมือของผู้อื่นได้อย่างยอดเยี่ยมเขาหยิบกระดาษและพู่กันพร้อมหมึกออกมาจากห่อสัมภาระ แล้วเริ่มต้นลงมือคัดลอกเมื่อเหยียนอวี่ทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เหยียนซวงก็นำหนังสือผ่านด่านฉบับจริงกลับไปใส่คืนในอกเสื้อของหานซื่อด้วยหนังสือผ่านด่านฉบับปลอมนี้ พวกเขาสองคนจึงสามารถปลอมตัวปะปนเข้าไปในเมืองอินเป่ยได้โชคดีที่ในเวลานั้นเป็นเวลากลางคืน ทหารเฝ้ายามที่กำแพงเมืองไม่ได้สังเกตว่าหนังสือผ่านด่านฉบับนั้นเป็นของปลอมพวกเขาจึงปล่อยให้ทั้งสองคนผ่านเข้าไปในเมืองทันทีเมื่อทั้งสองคนเข้าสู่เมืองอินเป่ยแล้ว ก็ไม่กล้าหยุดพักนาน จึงรีบเดินทางต่อจนมาถึงอำเภอไถหยางในเวลานั้น สองพี่น้องเหนื่อยล้าจนขาอ่อนแรง ศีรษะมึนงง ดวงตาพร่ามัวไปหมดอีกทั้งยังไม่คุ้นเคยกับเส้นทางในเมืองอินเป่ย จึงเดินผิดเดินถูกไปเคาะประตูบ้านของจงซิ่นโดยบังเอิญโชคดีที่จงซิ่นเป็นคนมีน้ำใจ เขาช่วยเหลือสองพี่น้องเป็นอย่างมาก ทั้งยังจัดหาห้องว่างให้พวกเขาได้พักอาศัยทว่าสภาพร่างกายข
เมื่อเห็นเจี่ยนอันอันไม่พูดอะไร เหยียนซวงเกรงว่าเจี่ยนอันอันจะปฏิเสธไม่รักษาน้องชายของนางนางจึงรีบร้อนกล่าวว่า “ข้าได้ยินท่านลุงจงบอกว่า ในหมู่บ้านชิงสุ่ยนี้ มีแม่นางผู้หนึ่งชื่อเจี่ยนอันอัน”“อีกทั้งเขายังเอ่ยชมว่าเจ้ามีวิชาแพทย์อันเลิศล้ำ พี่เวินฟื้นขึ้นมาได้ก็เพราะเจ้าเป็นผู้ช่วยชีวิตเขาไว้”เมื่อได้ยินดังนี้ เจี่ยนอันอันจึงเข้าใจว่า ที่แท้ลุงจงซิ่นเป็นผู้แนะนำให้พวกเขามาหานางเหยียนซวงถือกระต่ายป่าตัวหนึ่งไว้ในมือ ซึ่งนางจับมาได้ในระหว่างเดินทางมายังหมู่บ้านชิงสุ่ยนางรู้ตัวดีว่าไม่ได้มีเงินทองติดตัว และไม่มีสิ่งใดจะใช้เป็นของขวัญในการพบหน้ายิ่งไปกว่านั้น นางกับเจี่ยนอันอันก็มิได้สนิทสนมกัน การมาหาอย่างบุ่มบ่ามเช่นนี้ ทำให้นางกลัวว่าเจี่ยนอันอันจะปฏิเสธไม่รักษาน้องชายนางในยามนี้ นางยังดีที่มีกระต่ายป่าในมือที่พอ ใช้เป็นของขวัญพบหน้าได้ขณะเอ่ยวาจา เหยียนซวงยื่นกระต่ายป่าในมือตรงไปยังเจี่ยนอันอัน“ข้าไม่มีเงินติดตัว และมิรู้ว่าจะสามารถมอบสิ่งใดให้เจ้าได้”“กระต่ายป่าตัวนี้ข้าจับมาได้ระหว่างเดินทางมา หวังเพียงว่าแม่นางเจี่ยนจะไม่รังเกียจ”“อีกทั้งอยากขอร้องให้แม่นางเจี่
เหยียนซวงเดินไปในหมู่บ้านชิงสุ่ย การปรากฏกายของนางดึงดูดสายตาของชาวบ้านหลายคนหลิวซื่อซึ่งเป็นภรรยาของอวี๋ว่านทำอาหารเสร็จแล้วจะนำไปส่งให้อวี๋ว่านทว่าเพิ่งจะเดินออกจากบ้านมาก็เห็นเหยียนซวงเดินอยู่ข้างนอกคนเดียวนางเดินเข้าไปทักทายอย่างเป็นมิตร “แม่นาง เจ้าไม่ใช่คนหมู่บ้านชิงสุ่ย ไม่ทราบว่ามาทำอะไรที่นี่?”เหยียนซวงได้ยินหลิวซื่อถามก็หันไปส่งยิ้มให้อีกฝ่าย“ข้าอยากพบคนที่ชื่อเจี่ยนอันอัน ไม่ทราบว่านางอยู่ที่หมู่บ้านชิงสุ่ยใช่หรือไม่”หลิวซื่อเห็นว่าเหยียนซวงหน้าตางดงาม ยิ้มแล้วมีลักยิ้มสองข้าง มองแล้วสวยมากนอกจากนี้อีกฝ่ายก็กำลังตามหาเจี่ยนอันอัน หลิวซื่อตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “เจ้าถามถูกคนแล้วล่ะ”“ให้ข้าพาไปก็แล้วกัน บ้านของเจี่ยนอันอันอยู่ห่างจากบ้านข้าไม่ไกล”เหยียนซวงได้ยินว่าหลิวซื่อรู้จักบ้านของเจี่ยนอันอันก็ดีใจมาก“เช่นนั้นคงต้องรบกวนแล้ว”หลิวซื่อพาเหยียนซวงเดินไปทางบ้านของเจี่ยนอันอันหลิวซื่อชมเจี่ยนอันอันตลอดทาง ชมว่านางเป็นคนจิตใจดีการมาถึงของเจี่ยนอันอันทำให้ความเป็นอยู่ของคนในหมู่บ้านชิงสุ่ยดีขึ้นมากเหยียนซวงไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่รับฟังอยู่เงียบๆไม่นาน ทั
แม่นมหลี่ได้ยินอีกฝ่ายถามถึงหมู่บ้านชิงสุ่ยก็รีบชี้ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้“แม่นาง หมู่บ้านชิงสุ่ยอยู่ทางนั้น เดินไปอีกแค่ชั่วยามเดียวก็ถึงแล้ว”แม่นางหลี่อยากรีบไปจากที่นี่ ย่อมตอบไปตามความจริงเหยียนซวงมองไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ นางหรี่ตาลงเล็กน้อยและจดจำเส้นทางไว้“ข้าถามอีกเรื่อง ที่หมู่บ้านชิงสุ่ยมีคนชื่อเจี่ยนอันอันหรือไม่?”แม่นมหลี่อดชะงักงันไม่ได้เมื่อได้ยินชื่อของเจี่ยนอันอันนางนึกไม่ถึงว่าหญิงสาวนางนี้จะถามถึงเจี่ยนอันอันดูจากท่าทีแล้ว หรือว่าจะมีความแค้นกับเจี่ยนอันอัน?เหยียนซวงเห็นแม่นมหลี่ไม่ตอบก็ออกแรงบีบข้อมือของแม่นางหลี่แรงขึ้น“ตอบมา!”แม่นมหลี่ถูกบีบข้อมืออย่างแรง เจ็บจนตัวงอ“ข้าตอบ ข้าตอบแล้ว แม่นางเบามือหน่อย สังขารของข้ารับไม่ไหวหรอกนะ”แม่นมหลี่คิดว่าคำพูดของตัวเองจะทำให้อีกฝ่ายผ่อนแรงลงคิดไม่ถึงว่าเหยียนซวงจะบีบแรงกว่าเดิมแม่นมหลี่รู้ว่าหากยังไม่พูดอีก เกรงว่าข้อมือนางคงได้ถูกบีบจนหักนางรีบตอบว่า “ที่หมู่บ้านชิงสุ่ยมีคนที่ชื่อว่าเจี่ยนอันอันอยู่ ไม่ทราบว่าแม่นางมีความแค้นอะไรกับนางหรือ?”“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องยุ่ง”เหยียนซวงไม่คิดจะบอกจ
แม่นมหลี่ว่าจบก็ข่วนหน้าเตียวเฉียงไปหลายครั้งเดิมทีเตียวเฉียงก็ต้องอดกลั้นต่อความเจ็บปวดที่ท่อนล่าง ไม่ทันได้หลบมือของแม่นมหลี่ใบหน้าของเขาถูกข่วนจนเลือดออกหลายแผลทันที“มารดามันเถอะ นี่กล้าข่วนข้างั้นรึ วันนี้ข้าจะสั่งสอนให้เจ้าได้รู้จักกับจุดจบของการทำให้ข้าโมโห!”เตียวเฉียงว่าแล้วก็จะยกเท้าถีบแม่นมหลี่แม่นมหลี่ตกใจหน้าถอดสี นางรีบไปหลบที่ต้นไม้ใหญ่ด้านหลังลูกเตะของเตียวเฉียงถีบเข้าที่ต้นไม้ใหญ่กิ่งไม้ส่ายไปมาและส่งเสียงซู่ซ่าในตอนนี้เอง มีเสียงตวาดลั่นด้วยความโมโหดังมาจากบนต้นไม้ “ผู้ใดกันที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ กล้าดีอย่างไรมาเตะต้นไม้ รบกวนการนอนของข้า”เตียวเฉียงกับแม่นมหลี่รีบมองขึ้นไปบนต้นไม้เมื่อได้ยินเสียงพบว่ามีหญิงสาวในชุดกระโปรงสีฟ้าอ่อนนางหนึ่งกำลังนอนอยู่บนกิ่งก้านที่ใหญ่หนานางมองลงมาด้านล่างด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ สายตาจับจ้องไปที่หน้าของเตียวเฉียงเตียวเฉียวไม่เคยพบหญิงสาวนางนี้มาก่อน รู้ว่านางไม่ใช่คนในหมู่บ้านชิงสุ่ย“เจ้าเป็นผู้ใด เป็นสาวเป็นนางแต่มานอนทำอะไรบนต้นไม้?”เมื่อเห็นว่าหญิงสาวนางนี้หน้าตาพอใช้ได้ เตียวเฉียงพลันบังเกิดความคิดชั่วร้ายขึ้น
ดูท่าว่าก่อนที่จะถูกเนรเทศ คนตระกูลเจี่ยนน่าจะให้เงินเจี่ยนอันอันไม่น้อยเลยแต่ไม่รู้ว่าเงินพวกนี้ถูกเจี่ยนอันอันเก็บไว้ที่ใดหลายวันมานี้เขามาที่หมู่บ้านชิงสุ่ย คอยแอบดูทุกความเคลื่อนไหวของเจี่ยนอันอันและตระกูลฉู่ลำพังแค่อาหารที่กินก็เป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยแล้วหากไม่ใช่เพราะแม่นมหลี่กับเตียวเฉียงทำงานไม่ได้เรื่อง เขาก็คงไม่ต้องมาเสียเงินค่าอาหารให้สองคนนั้นอีกหนิงเจิ้นแค่นเสียงเย็น แววตาเผยประกายละโมบเขาตัดสินใจที่จะให้เตียวเฉียงลักลอบเข้าไปในห้องของเจี่ยนอันอันคืนนี้ให้เตียวเฉียงขโมยทรัพย์สินของเจี่ยนอันอันมาปลอบโยนความยากลำบากของเขาในช่วงหลายวันมานี้หนิงเจิ้นเฝ้ามองอีกสักพักแล้วจากไปเขากลับไปยังที่พักก็เห็นเตียวเฉียงนอนยกเท้าไขว่ห้างอย่างสบายๆ อยู่บนเตียงส่วนแม่นมหลี่ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ใด เตียวเฉิงเห็นหนิงเจิ้นกลับมาก็รีบลดขาลงและร้องโอดโอยว่าเจ็บช่วงล่างหนิงเจิ้นแค่นเสียงเย็นก่อนจะถีบเตียวเฉียงตกเตียง“กล้าแสร้งทำเป็นป่วยต่อหน้าข้า สงสัยจะอยากตายสินะ”หลังจากที่เตียวเฉียงร่วงตกพื้นก็ทำให้แผลที่ร่างกายท่อนล่างฉีกขาดความเจ็บปวดแสนสาหัสถาโถมเข้ามา เขาเจ็บจนตัว
กวนซินยังคงมองทุกคนด้วยสีหน้ารู้สึกผิดนางไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี ได้แต่ยืนทำตัวไม่ถูกอยู่ตรงนั้นฟางอิ๋งเห็นกวนซินมีสีหน้ารู้สึกผิดก็ลุกขึ้นพูดกับอีกฝ่าย “น้องหญิงอย่าได้ตำหนิตัวเองอีกเลย”“ตอนนี้จื่อซีไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ทั้งยังทำให้พวกข้าได้รู้ด้วยว่าเขาต้านทานพิษได้”“ถือได้ว่าเป็นความโชคดีในความโชคร้าย”โชคดีที่คนตระกูลฉู่ไม่คิดจะเอาเรื่องนางและไม่คิดจะโทษฉู่ตั๋วตั่วภายในใจกวนซินรู้สึกอบอุ่นโดยพลันนางไม่รู้ว่าควรขอบคุณในความใจกว้างของคนตระกูลฉู่อย่างไรดีเนื่องจากเจี่ยนอันอันจะสร้างบ้านหลังใหม่ขึ้นในหมู่บ้านชิงสุ่ยเรื่องนี้จึงทำให้ชาวบ้านส่วนหนึ่งไม่พอใจเดิมทีแล้วภายในหมู่บ้านเงียบสงบ แต่แล้วตอนนี้กลับมีคนนอกย้ายเข้ามาอยู่อย่างไม่ขาดสายเรื่องนี้พวกเขาไม่ได้ถือสาอะไรแต่หากจะสร้างบ้านใหม่แล้วล่ะก็ พวกเขาไม่พอใจถึงอย่างไรที่นี่ก็เป็นที่ดินของพวกเขา เพียงแค่คนนอกบอกว่าจะสร้างบ้านก็จะปล่อยให้สร้างตามใจชอบได้อย่างไรหากเป็นแบบนั้น พวกเขาเองก็อยากสร้างบ้านอีกหลายหลังให้กับตัวเองไม่ต้องเอาแต่อยู่ในบ้านหลังเล็กคับแคบและอยู่มาเป็นสิบๆ ปี ข่าวนี้ลอยไปถึงหูท่านปู่เฉินซึ่
ทว่าฉู่จื่อซีกลับสามารถลุกขึ้นนั่ง เรื่องนี้อยู่เหนือความเข้าใจของทุกคนเจี่ยนอันอันรีบจับชีพจรให้ฉู่จื่อซีอีกครั้งดูจากชีพจรของเขา พิษสองชนิดที่อยู่ในตัวเขาได้สงบลงแล้วสามารถพูดได้ว่าฉู่จื่อซีใช้ความแข็งแกร่งของตัวเองเอาชนะพิษทั้งสองชนิด ฉู่ตั๋วตั๋วเห็นฉู่จื่อซีฟื้นแล้วก็หยุดร้องไห้ในที่สุดนางคว้ามือน้อยๆ ของฉู่จื่อซีพลางพูดด้วยเสียงเด็กน้อย “พี่จื่อซี ท่านปลอดภัยก็ดีแล้ว เมื่อครู่ข้าตกใจแทบแย่”ฉู่จื่อซีส่งยิ้มให้ฉู่ตั๋วตั่ว “ข้าสบายดี ยาพวกนั้นทำอะไรข้าไม่ได้หรอก”ฉู่ตั๋วตั่วยิ้มด้วยสีหน้าไร้เดียงสาทั้งสองคนยิ้มอย่างไร้เดียงสา ทว่าผู้ใหญ่ที่อยู่รอบข้างกลับเป็นกังวลฮูหยินใหญ่รีบซักถาม “อันอัน จื่อซีไม่เป็นอะไรแล้วจริงหรือ?”เจี่ยนอันอันลุกขึ้น นางมองฉู่จื่อซีอีกครั้งจากนั้นพยักหน้าเบาๆ “จื่อซีไม่เป็นอะไรแล้วเจ้าค่ะ แต่ว่า…”“แต่ว่าอะไร?” ทุกคนถามพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายเจี่ยนอันอันไม่ได้พูดต่อนางเองก็สงสัยเช่นกัน ตามหลักแล้ว หากวิธีต้มยาพิษของฉู่ตั๋วตั่วถูกต้องหลังจากที่ฉู่จื่อซีดื่มเข้าไปแล้ว พิษก็จะออกฤทธิ์ทันทีและทำให้เป็นอัมพาตทั้งร่างทว่าเมื่อดูอาการของ