เหยียนซวงใช้กริชในมือออกไปสกัดกั้น แต่แส้หนังจู่ๆ ก็พันเข้ากับข้อมือของเหยียนซวงหนิงเจิ้นดึงไปอย่างแรง เหยียนซวงเสียการทรงตัว กระโจนกายไปทางด้านของหนิงเจิ้นเหยียนซวงกำหมัดแน่น แล้วโจมตีไปยังใบหน้าของหนิงเจิ้นหนิงเจิ้นเองก็ไม่ใช่พวกฝีมือธรรมดา เขาคว้าหมัดของเหยียนซวงที่จู่โจมเข้ามาไว้แน่น“นังแพศยา เจ้าตายแน่!”หนิงเจิ้นพูดขึ้น แล้วเตะเข้าไปที่ท้องของเหยียนซวงเหยียนซวงถูกเตะจนล้มลงกับพื้นในปากของเหยียนซวง ทันใดนั้นก็กระอักเอาเลือดสดๆ ออกมาความเจ็บปวดตรงท้อง ทำให้ทั่วทั้งกายของเหยียนซวงสั่นเทา ทว่านางกลับไม่ส่งเสียงร้องออกมาเลยนางคิดจะลุกขึ้นแล้วมาต่อสู้ต่อ ทว่าเมื่อนางเคลื่อนไหวขึ้นมา ช่องท้องก็เกิดความเจ็บปวดจนยากจะอดทนขึ้นมาได้หนิงเจิ้นตะคอกออกมาอย่างเย็นชา แล้วก็ไม่สนใจเหยียนซวงอีก หมุนกายมองไปทางด้านของเจี่ยนอันอัน“เอาเงินออกมา แล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า”คำของหนิงเจิ้น กลับทำให้เจี่ยนอันอันหัวเราะออกมาเบาๆ“เจ้าคางคกหาว ช่างปากกว้างคุยโวเสียจริงนะ”เจี่ยนอันอันพูดขึ้น แล้วก็กระโดดขึ้นจากรถม้า“ข้าว่าเจ้ากับเตียวเฉียงเป็นพวกเดียวกัน ที่เจ้าจะช่วยรักษาให้เขาเป็น
กู้มั่วหลีที่ยืนอยู่บนต้นไม้ตลอดเวลา เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้านล่างนั้น ล้วนแต่อยู่ในสายตาของเขาทั้งสิ้นกู้มั่วหลีเดินก้าวมาเบื้องหน้าของหนิงเจิ้น ส่ายศีรษะเบาๆ ก่อนจะส่งเสียงออกมา“ผู้บัญชาการหนิงที่เคยผ่านการสู้รบมานับร้อยครั้ง แต่กลับไปไม่สามารถเอาชนะผู้หญิงสองคนได้”“ลูกน้องของฉู่ชางเหยียน หรือว่าจะมีแต่เศษสวะอย่างเจ้าเช่นนี้หรือ?”ในตอนที่กู้มั่วหลีพูดขึ้นนั้น รอยยิ้มตรงมุมปากก็ไม่ได้ลดลงน้อยลงทว่ารอยยิ้มของเขากลับไปไม่ถึงดวงตากู้มั่วหลีมองออกว่าหนิงเจิ้นถูกพิษเขามองไปยังร่างที่จากไปของเจี่ยนอันอัน มุมปากยกเป็นยิ้มเกียจคร้านขึ้นมา“เจี่ยนอันอัน น่าสนใจขึ้นมาแล้ว”กู้มั่วหลีในตอนนี้ ยิ่งเกิดความสนใจในตัวเจี่ยนอันอันมากยิ่งขึ้นเขาดึงสายตากลับมาที่กายของหนิงเจิ้น ก่อนจะย่อกายลงมาอุ้มหนิงเจิ้น ทันใดนั้นก็หายไปจากเนินเขาสือหลี่เจี่ยนอันอันไม่ได้หันกลับไปมอง มิเช่นนั้นนางจะต้องพบถึงการมีอยู่ของกู้มั่วหลีเหยียนซวงนั่งลงบนรถม้า สายตาก็ตกลงบนกายของเจี่ยนอันอัน“ขอบคุณแม่นางเจี่ยนที่ช่วยชีวิตข้าเมื่อครู่นี้”“บุญคุณของท่าน ข้าจะไม่ลืมไปตลอดชีวิต”วันนี้หากไม่ใช่เพรา
รอจนเมื่อเหยียนซวงเปลี่ยนเสร็จแล้ว เจี่ยนอันอันจึงเก็บผ้าสีแดงแล้วใช้ผงสลายศพ โรยลงบนผ้าที่เพิ่งจะเปลี่ยนไปเมื่อครู่นี้ทันใดนั้นผ้าก็เปลี่ยนเป็นแอ่งน้ำทันทีเหยียนซวงไม่คิดเลยว่า เจี่ยนอันอันไม่เพียงไม่รังเกียจที่นางสกปรก ยังช่วยนางทำลายผ้าที่เลอะประจำเดือนของนางอย่างใส่ใจในใจของนางยิ่งรู้สึกของคุณเจี่ยนอันอันมากยิ่งขึ้นเจี่ยนอันอันเมื่อเห็นว่าเหยียนซวงยังคงยืนอึ้งตะลึงอยู่ที่นั่น นางก็ตบไปยังไหล่ของเหยียนซวง“พวกเรารีบไปอำเภอไถหยางกันเถอะ น้องชายของเจ้ายังรอให้เจ้ากลับไป”เมื่อคิดว่าน้องชายยังคงรอนางอยู่ที่บ้าน เหยียนซวงก็รีบเร่งฝีเท้าขึ้นทั้งสองคนนั่งบนรถม้า ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นเหยียนซวงเป็นคนขับรถม้านางไม่อยากให้เจี่ยนอันอันเหนื่อยล้าอีก นอกจากนี้แล้วเจี่ยนอันอันยังช่วยนางมากมายนางรับบทคนขับรถ รีบเดินทางมุ่งหน้าไปยังอำเภอไถหยางเจี่ยนอันอันเหลือบมองไปยังคราบเลือดบนรถม้า นางอาศัยโอกาสที่เหยียนซวงไม่ได้หันมามองนางรีบหยิบขวดน้ำออกมาจากห้วงมิติ แล้วล้างคราบเลือดทั้งหมดออกไปจนสะอาดเพราะว่าเหยียนซวงรีบกลับไปหาน้องชาย รถม้าก็ถูกนางขับไปอย่างรวดเร็วครึ่งชั่วยามผ่านไป
เจี่ยนอันอันยังคงงัวเงีย รู้สึกเหมือนมีใครบางคนกำลังจับมือของนางและบังคับให้นางกดนิ้วลงบนบางสิ่งบางอย่างนางตอบสนองทันทีด้วยการฟาดฝ่ามือกลับไปเต็มแรงทันใดนั้นก็มีเสียง ‘เพียะ’ ดังขึ้นตามด้วยเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดของชายวัยกลางคน“นังเด็กอกตัญญู กล้าดียังไงมาทำร้ายบิดาของเจ้า! ข้าจะส่งเจ้าไปหามารดาที่ตายไปแล้วของเจ้าเดี๋ยวนี้!”เมื่อเจี่ยนอันอันได้ยินคำพูดนั้น หัวใจของนางพลันเย็นเยียบทันทีคนบ้าอะไรกล้าด่าแม่ของนางเช่นนี้ รนหาที่ตาย!เจี่ยนอันอันลืมตาขึ้นทันที เห็นชายแปลกหน้าในชุดโบราณกำลังเงื้อมมือขึ้นหมายจะฟาดหน้านางเจี่ยนอันอันแค่นเสียงเย็นชา ก่อนจะเตะเข้าที่ท้องของชายคนนั้นเต็มแรงชายคนนั้นถูกเตะจนถอยหลังไปหลายก้าวกว่าจะหยุดลงได้ในฐานะที่เป็นกั๋วกงแห่งแคว้นไท่ยวน ถูกบุตรีแท้ ๆ ทำร้าย ซ้ำยังถูกทำร้ายต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้อีกใบหน้าของเจี่ยนกั๋วกงเขียวคล้ำด้วยความโกรธ เขาจ้องมองเจี่ยนอันอันด้วยดวงตาแดงก่ำเขาก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว หมายจะบีบคอเจี่ยนอันอันให้ตายทันใดนั้น ฮูหยินรองก็รีบพูดขึ้นว่า “นายท่าน ตอนนี้ยังฆ่านางไม่ได้นะเจ้าคะ”“หากนางตาย ใครจะไปแต่งกับเยียน
บ่าวรับใช้รับคำสั่ง รีบหยิบเชือกออกมาเพื่อจะมัดตัวเจี่ยนอันอันแต่เจี่ยนอันอันกลับคว้าเชือกไว้ได้ ก่อนจะก้าวอาด ๆ มาตรงหน้าเจี่ยนกั๋วกงนางเคลื่อนไหวรวดเร็วจนเจี่ยนกั๋วกงไม่ทันตั้งตัว และเชือกก็ถูกคล้องเข้าที่ลำคอของเขาแล้วเจี่ยนอันอันดึงเชือกจนแน่น ทำให้เจี่ยนกั๋วกงหายใจไม่ออกทันทีนางตวาดเสียงเย็นชา “ตาเฒ่าน่ารังเกียจ! หนังสือตัดขาดนั่นเจ้าเก็บรักษาไว้ให้ดี อย่าทำหายเสียเล่า”“จำคำพูดของเจ้าวันนี้ไว้ให้ดี วันหน้าเมื่อข้าโบยบินขึ้นสูง เจ้าก็อย่ามาร้องไห้ฟูมฟายขอคืนดีกับข้าแล้วกัน!”สิ้นประโยค เจี่ยนอันอันก็เตะเจี่ยนกั๋วกงจนล้มลงกับพื้นฮูหยินรองรีบวิ่งมาพยุงเจี่ยนกั๋วกง ก่อนจะหันมาถลึงตาใส่เจี่ยนอันอัน“เจี่ยนอันอัน นังลูกทรพี! เจ้ากล้าตบตีบิดาแท้ ๆ ของเจ้าได้อย่างไร”“พวกข้าดูแลเจ้าให้เติบโตมาแท้ ๆ แต่เจ้ากลับไม่รู้จักบุญคุณ แถมยังคิดฆ่าบิดาของเจ้าอีก!”“จวนกั๋วกงของเรา ไยจึงเลี้ยงดูเด็กเนรคุณเช่นเจ้าออกมาได้”ในขณะเดียวกัน เจี่ยนหลิงเยว่บุตรสาวของฮูหยินรองก็เดินเข้ามานางด่าเจี่ยนอันอันอย่างโกรธจัด “เจี่ยนอันอัน ทางที่ดีเจ้าไปตายอยู่ข้างนอกเสีย แล้วอย่ากลับมาที่นี่อีก”
ในตอนนั้นเอง เจี่ยนอันอันก็เห็นหน้าจอขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้านางบนหน้าจอนั้นมีข้อความว่า [ต้องผูกชะตากับเยียนอ๋องเท่านั้นจึงจะเปิดมิติได้ มิเช่นนั้นมิติจะระเบิดภายในสิบวินาที][ไม่ทราบว่าจะทำการผูกชะตาหรือไม่?]เจี่ยนอันอันที่เพิ่งยิ้มแย้มอย่างสดใส ยามนี้หน้าถอดสีทันทีเมื่อเห็นว่าการนับถอยหลังของมิติเริ่มขึ้น เจี่ยนอันอันไม่มีเวลาคิดมาก รีบตะโกนในใจว่า “ผูกสิ ข้าจะผูกชะตา!”การนับถอยหลังของมิติหยุดลง และมีข้อความปรากฏขึ้นอีกครั้งว่า [ผูกชะตาสำเร็จ มิติถูกเปิดแล้ว]เจี่ยนอันอันรีบดึงยาชนิดใหม่ออกมาจากมิติและโยนเข้าปากทันทีโดยไม่คิดลังเลในเมื่อหนีการแต่งงานไม่ได้ นางก็ต้องเริ่มวางแผนสำหรับวันข้างหน้าก่อนอื่นนางต้องสะสมเสบียงจำนวนมาก เพื่อให้ในวันที่ถูกเนรเทศ จะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานไปกับคนในครอบครัวของจวนเยียนอ๋องในเมื่อบิดาของร่างเดิมตั้งใจจะตัดขาดกับนาง เช่นนั้นนางก็จะขนทรัพย์สินของจวนกั๋วกงไปให้หมดก่อนเจี่ยนอันอันหลับตาแล้วกล่าวในใจว่า “ล่องหน ไปยังคลังสมบัติของจวนกั๋วกง”ทันใดนั้นร่างกายของนางก็หายไป วินาทีถัดมานางก็มาปรากฏตัวในคลังสมบัติของจวนกั๋วกงผ้าไหมแพรพรร
เพื่อที่จะไล่พ่อครัวหลวงเหล่านี้ออกไป เจี่ยนอันอันจึงหยิบผงยาถ่ายออกจากมิติแล้วโปรยใส่หน้าพวกเขาหลังจากพ่อครัวหลวงหลายคนสูดผงยาระบายเข้าไปได้ไม่นาน พวกเขาก็เริ่มบ่นปวดท้อง แล้วรีบกุมท้องวิ่งออกจากห้องเครื่องกันไปหมดเจี่ยนอันอันฮัมเพลงไปพลาง กินขนมไปพลาง พร้อมกับโยนขนมและอาหารจากห้องครัวหลวงทั้งหมดเข้าไปในมิติของนางนางเหลือบมองผักและธัญพืชที่วางเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ รวมถึงเนื้อที่ถูกหั่นไว้แล้วเจี่ยนอันอันคิดว่าต้องนำวัตถุดิบเหล่านี้ไปด้วยถึงจะดีเมื่อถูกเนรเทศ นางจะได้ใช้วัตถุดิบเหล่านี้ทำอาหารอร่อย ๆ ได้เมื่อคิดได้ดังนั้น เจี่ยนอันอันก็รีบขนวัตถุดิบทั้งหมดลงในมิติทันทีหลังจากเจี่ยนอันอันออกจากห้องเครื่องหลวง นางก็คิดว่าควรจะลองไปดูเยียนอ๋องผู้นั้นสักหน่อยวินาทีต่อมา นางก็ปรากฏตัวในคุกโดยพลันในขณะนั้น ฉู่จวินสิงซึ่งก็คือเยียนอ๋องกำลังถูกทรมานอย่างหนักร่างกายของเขาถูกทุบตีจนหนังเปิดเนื้อแตก เสื้อผ้าอาภรณ์ก็ถูกย้อมไปด้วยโลหิตจนแดงฉานแม้จะเป็นเช่นนั้น ฉู่จวินสิงก็ไม่ส่งเสียงครวญครางแม้แต่น้อยเจี่ยนอันอันอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วโป้งให้เขานางรู้สึกชื่นชมเขาจากใจจริงว่
ผู้คุมหลายคนได้กลิ่นเหม็นรุนแรงจากการผายลม แต่พวกเขาไม่กล้าอุดจมูกหรือหลบเลี่ยงทำได้เพียงกลั้นใจและเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกขันทีใหญ่ก็วิ่งตามออกมาด้วย ขณะเดินตามหลังฮ่องเต้ก็มีสีหน้ากังวลเขากลัวจริง ๆ ว่าฮ่องเต้อาจพลาดปล่อยลมออกมา แล้วเผลอทำเลอะในกางเกงเจี่ยนอันอันที่ล่องหนอยู่ มองเห็นท่าทางน่าสมเพชของฮ่องเต้สุนัขที่ดูเหมือนจะถ่ายไม่หยุด นางก็แทบจะกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ยาระบายที่นางใช้ไม่มีทางแก้ได้ พอจะทำให้ฮ่องเต้สุนัขนี้ถ่ายไม่หยุดถึงเจ็ดวันเจ็ดคืนเมื่อเห็นว่าเวลาได้ที่แล้ว เจี่ยนอันอันก็ออกจากวังหลวงแล้วกลับมาที่เกี้ยวแต่งงานในทันทีในเวลานี้ เกี้ยวแต่งงานได้หยุดอยู่หน้าจวนเยียนอ๋องแล้วไร้เงาของชายฉกรรจ์สี่คนที่หามเกี้ยวมาเจี่ยนอันอันดึงผ้าคลุมหน้าสีแดงออก ก่อนจะเปิดม่านเกี้ยวแล้วก้าวออกมาอย่างมั่นใจนางเห็นว่าหน้าจวนเยียนอ๋องได้ถูกล้อมโดยทหารรักษาพระองค์แล้วเสียงร้องไห้และเสียงด่าทอดังมาจากภายในจวนเยียนอ๋องเจี่ยนอันอันไม่สนใจทหารรักษาพระองค์เหล่านั้น นางก้าวเดินเข้าไปในจวนเยียนอ๋องอย่างไม่ลังเลทันทีที่นางเดินเข้าไปก็เห็นว่าภายในจวนเยียนอ
รอจนเมื่อเหยียนซวงเปลี่ยนเสร็จแล้ว เจี่ยนอันอันจึงเก็บผ้าสีแดงแล้วใช้ผงสลายศพ โรยลงบนผ้าที่เพิ่งจะเปลี่ยนไปเมื่อครู่นี้ทันใดนั้นผ้าก็เปลี่ยนเป็นแอ่งน้ำทันทีเหยียนซวงไม่คิดเลยว่า เจี่ยนอันอันไม่เพียงไม่รังเกียจที่นางสกปรก ยังช่วยนางทำลายผ้าที่เลอะประจำเดือนของนางอย่างใส่ใจในใจของนางยิ่งรู้สึกของคุณเจี่ยนอันอันมากยิ่งขึ้นเจี่ยนอันอันเมื่อเห็นว่าเหยียนซวงยังคงยืนอึ้งตะลึงอยู่ที่นั่น นางก็ตบไปยังไหล่ของเหยียนซวง“พวกเรารีบไปอำเภอไถหยางกันเถอะ น้องชายของเจ้ายังรอให้เจ้ากลับไป”เมื่อคิดว่าน้องชายยังคงรอนางอยู่ที่บ้าน เหยียนซวงก็รีบเร่งฝีเท้าขึ้นทั้งสองคนนั่งบนรถม้า ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นเหยียนซวงเป็นคนขับรถม้านางไม่อยากให้เจี่ยนอันอันเหนื่อยล้าอีก นอกจากนี้แล้วเจี่ยนอันอันยังช่วยนางมากมายนางรับบทคนขับรถ รีบเดินทางมุ่งหน้าไปยังอำเภอไถหยางเจี่ยนอันอันเหลือบมองไปยังคราบเลือดบนรถม้า นางอาศัยโอกาสที่เหยียนซวงไม่ได้หันมามองนางรีบหยิบขวดน้ำออกมาจากห้วงมิติ แล้วล้างคราบเลือดทั้งหมดออกไปจนสะอาดเพราะว่าเหยียนซวงรีบกลับไปหาน้องชาย รถม้าก็ถูกนางขับไปอย่างรวดเร็วครึ่งชั่วยามผ่านไป
กู้มั่วหลีที่ยืนอยู่บนต้นไม้ตลอดเวลา เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้านล่างนั้น ล้วนแต่อยู่ในสายตาของเขาทั้งสิ้นกู้มั่วหลีเดินก้าวมาเบื้องหน้าของหนิงเจิ้น ส่ายศีรษะเบาๆ ก่อนจะส่งเสียงออกมา“ผู้บัญชาการหนิงที่เคยผ่านการสู้รบมานับร้อยครั้ง แต่กลับไปไม่สามารถเอาชนะผู้หญิงสองคนได้”“ลูกน้องของฉู่ชางเหยียน หรือว่าจะมีแต่เศษสวะอย่างเจ้าเช่นนี้หรือ?”ในตอนที่กู้มั่วหลีพูดขึ้นนั้น รอยยิ้มตรงมุมปากก็ไม่ได้ลดลงน้อยลงทว่ารอยยิ้มของเขากลับไปไม่ถึงดวงตากู้มั่วหลีมองออกว่าหนิงเจิ้นถูกพิษเขามองไปยังร่างที่จากไปของเจี่ยนอันอัน มุมปากยกเป็นยิ้มเกียจคร้านขึ้นมา“เจี่ยนอันอัน น่าสนใจขึ้นมาแล้ว”กู้มั่วหลีในตอนนี้ ยิ่งเกิดความสนใจในตัวเจี่ยนอันอันมากยิ่งขึ้นเขาดึงสายตากลับมาที่กายของหนิงเจิ้น ก่อนจะย่อกายลงมาอุ้มหนิงเจิ้น ทันใดนั้นก็หายไปจากเนินเขาสือหลี่เจี่ยนอันอันไม่ได้หันกลับไปมอง มิเช่นนั้นนางจะต้องพบถึงการมีอยู่ของกู้มั่วหลีเหยียนซวงนั่งลงบนรถม้า สายตาก็ตกลงบนกายของเจี่ยนอันอัน“ขอบคุณแม่นางเจี่ยนที่ช่วยชีวิตข้าเมื่อครู่นี้”“บุญคุณของท่าน ข้าจะไม่ลืมไปตลอดชีวิต”วันนี้หากไม่ใช่เพรา
เหยียนซวงใช้กริชในมือออกไปสกัดกั้น แต่แส้หนังจู่ๆ ก็พันเข้ากับข้อมือของเหยียนซวงหนิงเจิ้นดึงไปอย่างแรง เหยียนซวงเสียการทรงตัว กระโจนกายไปทางด้านของหนิงเจิ้นเหยียนซวงกำหมัดแน่น แล้วโจมตีไปยังใบหน้าของหนิงเจิ้นหนิงเจิ้นเองก็ไม่ใช่พวกฝีมือธรรมดา เขาคว้าหมัดของเหยียนซวงที่จู่โจมเข้ามาไว้แน่น“นังแพศยา เจ้าตายแน่!”หนิงเจิ้นพูดขึ้น แล้วเตะเข้าไปที่ท้องของเหยียนซวงเหยียนซวงถูกเตะจนล้มลงกับพื้นในปากของเหยียนซวง ทันใดนั้นก็กระอักเอาเลือดสดๆ ออกมาความเจ็บปวดตรงท้อง ทำให้ทั่วทั้งกายของเหยียนซวงสั่นเทา ทว่านางกลับไม่ส่งเสียงร้องออกมาเลยนางคิดจะลุกขึ้นแล้วมาต่อสู้ต่อ ทว่าเมื่อนางเคลื่อนไหวขึ้นมา ช่องท้องก็เกิดความเจ็บปวดจนยากจะอดทนขึ้นมาได้หนิงเจิ้นตะคอกออกมาอย่างเย็นชา แล้วก็ไม่สนใจเหยียนซวงอีก หมุนกายมองไปทางด้านของเจี่ยนอันอัน“เอาเงินออกมา แล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า”คำของหนิงเจิ้น กลับทำให้เจี่ยนอันอันหัวเราะออกมาเบาๆ“เจ้าคางคกหาว ช่างปากกว้างคุยโวเสียจริงนะ”เจี่ยนอันอันพูดขึ้น แล้วก็กระโดดขึ้นจากรถม้า“ข้าว่าเจ้ากับเตียวเฉียงเป็นพวกเดียวกัน ที่เจ้าจะช่วยรักษาให้เขาเป็น
เหยียนซวงไม่รู้ว่าหนิงเจิ้นและเตียวเฉียงเป็นคนกลุ่มเดียวกันนางไม่อยากให้เจี่ยนอันอันติดร่างแหเข้าไปในข้อขัดแย้งนี้ขณะที่นางกำลังจะกระโดดลงจากรถม้าเพื่อโต้เถียงกับหนิงเจิ้นนั้นกลับถูกเจี่ยนอันอันยกมือขึ้นห้ามเอาไว้ถึงแม้ว่าเจี่ยนอันอันจะไม่รู้ว่าหนิงเจิ้นมีความสัมพันธ์กับเตียวเฉียง ทว่านางเกลียดคนที่ไม่แยกแยะถูกผิดมากที่สุดนางไม่รู้จักหนิงเจิ้น ทว่านางรู้จักเตียวเฉียงคนสารเลวอย่างเช่นเตียวเฉียงนั้น เพียงแค่เตะจนไม่อาจคงความเป็นคนต่อไปได้นั้น ก็ถือว่าให้เปรียบเขาแล้วเจี่ยนอันอันพูดออกมาอย่างเย็นชา “เจ้าใช้ตาข้างไหนกัน ที่เห็นว่านางเตะคนผู้นั้น?”หนิงเจิ้นรู้มานานแล้วว่าเจี่ยนอันอันเป็นคนปากคอเราะร้าย เขาจึงไม่อยากพูดไร้สาระกับเจี่ยนอันอันให้มากในเมื่อเจี่ยนอันอันขับรถม้าออกเดินทางมา บนกายของนางจะต้องนำเงินออกมามากพอเขาต้องการจะขโมยเงินนั้นเป็นเรื่องจริง ส่วนสองคนนี้ เขาไม่สนใจว่าจะมีอีกสองชีวิตตายเพิ่มในมือเขา“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว เอาเงินออกมา ข้าจะนำคนผู้นั้นไปรักษาในเมือง”เจี่ยนอันอันเริ่มเข้าใจขึ้นมาแล้ว ว่าคนที่พบเห็นเรื่องอยุติธรรมระหว่างทางนั้นเป็นเรื่องที่แ
“เอาล่ะ เอาล่ะ” เจี่ยนอันอันพูดขึ้น จูบลงไปบนใบหน้าของฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงชี้ไปยังริมฝีปากของตนเอง “ที่นี่ก็ต้องการ”เจี่ยนอันอันเพื่อให้ฉู่จวินสิงสบายใจ จูบลงไปบนริมฝีปากของฉู่จวินสิงราวกับว่าข้างๆ นั้นไม่มีใครอยู่การกระทำที่ใกล้ชิดกันของทั้งสองคน ทำให้เหยียนซวงรู้สึกอิจฉาขึ้นมานางก็หวังว่าตัวเองจะมีสามีเช่นนี้ในใจของเหยียนซวง ทันใดนั้นก็ปรากฏใบหน้าของเสิ่นจือเจิ้งขึ้นมานางรีบส่ายศีรษะอย่างแรง แล้วแอบคิดว่าตนเองเป็นอะไรไป ทำไมถึงได้จู่ๆ ก็คิดถึงชายหนุ่มคนนั้นขึ้นมาหลังจากที่เจี่ยนอันอันบอกลากับฉู่จวินสิงแล้ว ก็นำเหยียนซวงขึ้นรถม้าไปเจี่ยนอันอันขับรถม้า มุ่งหน้าไปทางอำเภอไถหยางระหว่างทางเจี่ยนอันอันหันไปมองยังเหยียนซวง ก็เห็นว่านางเหมือนกำลังมีเรื่องในใจให้ครุ่นคิดเจี่ยนอันอันเองก็ไม่ได้คิดมาก ก็คิดเพียงว่าเหยียนซวงกำลังกังวลในความปลอดภัยของน้องชายนางเหวี่ยงแส้ม้า อย่างคิดจะให้รถม้าไปให้เร็วยิ่งขึ้น“แม่นางเจี่ยน คนผู้นั้นคือใครกัน? ข้าเห็นว่าพวกท่านทั้งสองคนมีความสัมพันธ์กันไม่เลวเลย เขาเป็นอะไรกับท่านอย่างนั้นหรือ?”“ใคร?” เจี่ยนอันอันไม่เข้าใจ และหันกลับไปมองเ
เจี่ยนอันอันไม่ได้อยู่ต่อนาน ก็นำเหยียนซวงกลับบ้านพร้อมฉู่จวินสิงทั้งสามคนเดิมทีก็ไม่ได้กินข้าวมากเท่าไหร่ ดีที่เหล่าสาวใช้เก็บอาหารเอาไว้ให้พวกเขาพวกเขานั่งลงตรงโต๊ะ เจี่ยนอันอันกินข้าวไปพลาง แล้วนำความคิดของตนเองพูดออกมาแน่นอนว่าฉู่จวินสิงย่อมต้องเห็นด้วยเขาไม่คิดเลยว่า เจี่ยนอันอันจะช่วยคิดให้กับทุกคนเช่นนี้ความรักที่มีต่อเจี่ยนอันอันในใจก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นอีกหลายส่วนและในตอนที่ทั้งสามคนกำลังนั่งกินข้าวอยู่นั้น เสียงล้อหมุนก็ดังขึ้นไม่นานนักฉู่จวินหลุนก็ควบคุมรถเข็นมาหยุดที่หน้าโต๊ะฉู่จวินหลุนส่งเสียงพูดออกมา “จวินสิง เจ้าพูดความจริงกับข้ามา ตกลงแล้วเจ้ารังแกอันอันหรือไม่?”ฉู่จวินสิงหันไปมองทางพี่ใหญ่ ก็เห็นว่าพี่ใหญ่กำลังมองมาทางเขาด้วยสีหน้าจริงจังเจี่ยนอันอันเองก็อดที่จะหันไปมองไม่ได้ ในใจคิดว่าทำไมพี่ใหญ่ถึงได้จู่ๆ ก็ถามเช่นนี้ออกมา?“พี่ใหญ่ ท่านว่าข้าดูเหมือนคนที่จะรังแกอันอันอย่างนั้นหรือ?”ฉู่จวินสิงทั้งโกรธและขบขันอยู่เล็กน้อย ก่อนหน้านั้นท่านแม่ก็ถามคำถามนี้มาก่อนทำไมพี่ใหญ่ถึงได้ถามออกมาเช่นกัน“หึ ทางที่ดีเจ้าก็อย่าได้มี มิฉะนั้นแล้วข้าที่เป็นพี่ใ
ทั้งสามเดินมาถึงบริเวณลานก่อสร้าง ก็เห็นอวี๋ว่านกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ มือถือถ้วยอาหารที่หลิวซื่อส่งมาให้ซ่างชิวเองก็นั่งอยู่ข้าง ๆ เขา โดยมีซ่างตงเยว่นั่งอยู่ด้านข้างอีกคนสองพ่อลูกกำลังกินโจ๊กในชามอย่างเอร็ดอร่อย พร้อมกับผัดมะเขือยาวเจี่ยนอันอันไม่เห็นจ้าวอู่และจ้าวลิ่ว คาดว่าพวกเขาคงกลับไปกินข้าวที่บ้านแล้วเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันมาถึง ชาวบ้านคนอื่น ๆ ก็ยิ้มทักทายนางอวี๋ว่านรีบร้องเรียกเจี่ยนอันอัน “แม่นางเจี่ยน คุณชายฉู่ พวกท่านมากินข้าวด้วยกันสิ ภรรยาข้าทำอาหารอร่อยมากเลยนะ”ซ่างตงเยว่เงยหน้าขึ้นเห็นเจี่ยนอันอันมาถึง ก็รีบลุกขึ้นยืนทันที“ฮูหยินน้อยรองเจ้าคะ วันนี้ข้าไม่ได้ไปหาท่าน ท่านคงไม่โกรธข้าใช่ไหมเจ้าคะ”เจี่ยนอันอันยิ้มพลางกล่าวว่า “ช่วงนี้เจ้าอยู่ดูแลพ่อของเจ้าเถิด ไม่จำเป็นต้องมาทุกวันหรอก”พูดจบ นางก็หันไปมองอวี๋ว่าน“พี่อวี๋กำลังกินอะไรอยู่หรือ ดูน่ากินดีนะ”อวี๋ว่านหัวเราะพลางตอบอย่างถ่อมตัว “บ้านข้าก็ไม่มีอะไรมากหรอก ภรรยาข้าทำผัดไข่กับผัดมะเขือยาว แต่ฝีมือภรรยาข้าดีนัก ทำอะไรก็หอมอร่อยไปหมด”อวี๋ว่านพูดพลางหันไปมองซ่างชิวและซ่างตงเยว่“เมื่อครู่
แต่เมื่อถูกสายตาที่เปี่ยมด้วยความซาบซึ้งใจของหลายคนจับจ้องมา เจี่ยนอันอันก็ไม่อาจพูดสิ่งใดได้“พวกเจ้าเลิกมองข้าเสียที รีบกินเถิด” นางเอ่ยพลางหยิบตะเกียบขึ้นมานางคีบเนื้อกระต่ายชิ้นหนึ่งใส่ลงในถ้วยของเสิ่นจือเจิ้งเสิ่นจือเจิ้งยิ้มบาง ก่อนคีบเนื้อกระต่ายนั้นขึ้นกินท่าทางที่ทั้งเจี่ยนอันอันและเสิ่นจือเจิ้งปฏิบัติต่อกันโดยไม่สนใจสายตาของผู้คนรอบข้าง ยิ่งทำให้ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นถึงกับตะลึงงันส่วนเจียงหว่านเอ๋อร์ที่เห็นเหตุการณ์ ในใจกลับรู้สึกอะไรบางอย่างที่อธิบายไม่ถูกแม้นางจะเคยได้ยินเจี่ยนอันอันพูดว่า นางกับเสิ่นจือเจิ้งเป็นเพียงพี่น้องกันเท่านั้น...แต่นางยังคงรู้สึกว่า การกระทำของเจี่ยนอันอันเช่นนี้ ดูจะสนิทสนมเกินไปเสียหน่อยเจียงหว่านเอ๋อร์ไม่ได้พูดอะไร นางเพียงยกถ้วยข้าวต้มขึ้นมากิน แต่กลับรู้สึกว่าอาหารไร้รสชาติเจี่ยนอันอันเองก็เริ่มตระหนักได้ว่า การกระทำของตนอาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดนางจึงวางตะเกียบลงก่อนเอ่ยกับทุกคน “พวกเจ้าเลิกมองข้าเสียที รีบกินตอนที่ยังร้อนเถิด”“เนื้อกระต่ายพวกนี้ แม่นางเหยียนซวงเป็นคนจับมาเอง หากพวกเจ้ายังไม่กินอีก แล้วปล่อยให้เย็นลงมันจะไม
แม่นางผู้นี้เป็นคนบ้านใดกัน ไยพวกเขาไม่เคยพบมาก่อนเลย?เพราะดูท่าแล้วไม่เหมือนคนในหมู่บ้านชิงสุ่ยเลยเมื่อทุกคนนั่งประจำที่ เจี่ยนอันอันจึงแนะนำเหยียนซวงให้รู้จักทุกคนจึงได้ทราบว่าเหยียนซวงมาตามหาเจี่ยนอันอันเพื่อให้รักษาคนป่วยทุกคนก็พร้อมใจกันเอ่ยชมฝีมือวิชาแพทย์ที่ล้ำเลิศของเจี่ยนอันอันเจี่ยนอันอันถูกทุกคนเอ่ยชมจนหน้าแดงเรื่อเล็กน้อยฉู่จวินสิงมองเห็นท่าทางเขินอายของเจี่ยนอันอัน เขาก็เม้มปากยิ้มบาง ๆ ก่อนคีบเนื้อกระต่ายชิ้นหนึ่งใส่ลงในถ้วยของเจี่ยนอันอันเขาชอบมองเจี่ยนอันอันยามที่นางเขินอาย เพราะทุกครั้งที่นางเขิน แก้มของนางจะปรากฏสีแดงระเรื่อเจี่ยนอันอันเดิมก็มีรูปโฉมงดงามอยู่แล้ว พอมีสีแดงเรื่อบนใบหน้า ยิ่งเพิ่มความอ่อนโยนละมุนละไมให้นางหลายส่วนขณะที่เจี่ยนอันอันกำลังเคี้ยวเนื้อกระต่ายในปาก ในใจกลับคิดถึงพี่ชายคนโตของนางตอนนี้พี่ชายยังพักอยู่ที่บ้านของกวนซิน แม้ว่าที่นั่นจะได้รับเสบียงอาหารที่นางส่งไปให้แต่กลับไม่มีผักหรืออาหารสดที่เพียงพอตัวนางกำลังกินเนื้อกระต่ายอยู่ที่นี่ แต่พี่ชายอาจกำลังอดอยู่อีกที่หนึ่งเมื่อคิดเช่นนั้น เจี่ยนอันอันก็ลุกพรวดขึ้นทันที“ข