แชร์

บทที่ 232  

ผู้แต่ง: ซินต้งหรูสุ่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-05 18:53:58
ฉู่จวินสิงดึงมือของเจี่ยนอันอันกลับไปที่ห้อง

เจี่ยนอันอันนั่งลงข้างเตียงอุ่น ก้มศีรษะลงอย่างประหม่าเล็กน้อย

ฉู่จวินสิงดื่มสุราไปไม่น้อย เขานั่งลงข้างกายของเจี่ยนอันอัน แล้วโอบเอวนางไว้เบาๆ

เมื่อเจี่ยนอันอันรู้สึกว่าช่วงเอวถูกกระชับแน่นเข้า หัวใจก็พลันเต้นแรงขึ้นมาทันที

“เอ่อ เรื่องนั้น ท่านก็เหนื่อยแล้ว รีบไปนอนเถิด”

เจี่ยนอันอันผลักฉู่จวินสิงเบาๆ และยังช่วยประคองเขาไปนอนบนเตียงอุ่นอีกด้วย

ในตอนที่เจี่ยนอันอันจะจากไปนั่นเอง มือก็ถูกฉู่จวินสิงดึงไว้

จากนั้นร่างของนางก็ไหวเอน ถูกฉู่จวินสิงดึงไปอยู่บนตัวของเขา

เจี่ยนอันอันนอนทาบอยู่บนแผ่นอกของฉู่จวินสิง หัวใจทั้งดวงเต้นแรงยิ่งกว่าเดิม

นางอยากลุกขึ้นจากตัวของฉู่จวินสิง แต่กลับถูกเขากอดไว้แน่น

“ฉู่จวินสิง ท่านปล่อยข้าก่อน”

เจี่ยนอันอันพูดจบ ก็จะไปปลดมือของฉู่จวินสิงออก

แต่นางยิ่งดิ้นรน ก็ยิ่งถูกฉู่จวินสิงกอดไว้แน่นขึ้น

“อย่าขยับ ให้ข้ากอดสักครู่ก่อน”

เสียงของฉู่จวินสวินทุ้มต่ำอย่างน่าฟัง ใบหน้าดวงน้อยของเจี่ยนอันอันพลันแดงเรื่อขึ้นมาทันที

นางรู้ว่าตัวเองดิ้นรนไปก็ไร้ประโยชน์ จึงได้แต่นอนทับอยู่บนแผ่นอกของฉู่จวิ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 233  

    เมื่อตระหนักได้ว่าตัวเองยังถูกฉู่จวินสิงกอดอยู่ เจี่ยนอันอันก็รีบจับแขนของฉู่จวินสิงออก จากนั้นรีบลงจากเตียงอุ่นแล้ววิ่งออกไป หลังเปลี่ยนชุดแต่งงานออกในห้องเก็บของแล้ว เจี่ยนอันอันจึงได้ก้าวออกมา เวลานี้ฮูหยินใหญ่ตื่นขึ้นมาแล้ว เจี่ยนอันอันยังคิดจะยกน้ำชาให้นางอีกครั้ง ฮูหยินใหญ่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เหตุใดอันอันจึงไม่นอนต่ออีกสักหน่อย เมื่อคืนจวินสิงคงไม่ได้รังแกเจ้ากระมัง” เมื่อเจี่ยนอันอันคิดถึงเรื่องเมื่อคืน ก็ก้มหน้าลงด้วยความเขินอายเล็กน้อย นางไม่ได้ตอบคำถามของฮูหยินใหญ่ แต่เปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปแทน “ข้ายังไม่ได้ยกน้ำชาให้ท่านแม่เลยเจ้าค่ะ” เจี่ยนอันอันกล่าว จากนั้นก็ให้ซ่างตงเยว่ไปยกน้ำชามา ฮูหยินใหญ่นั่งอยู่ในเรือนอย่างมีความสุข ในไม่ช้า ซ่างตงเยว่ก็ยกชาถ้วยหนึ่งมามอบให้เจี่ยนอันอัน เจี่ยนอันอันคุกเข่าลงเบื้องหน้าของฮูหยินใหญ่ จากนั้นยกน้ำชาส่งให้นาง “ลูกขอคารวะน้ำชาท่านแม่เจ้าค่ะ ฮูหยินใหญ่รับน้ำชาไป ดื่มลงไปคำหนึ่งด้วยอย่างเบิกบาน จากนั้นก็ประคองเจี่ยนอันอันขึ้นมา เมื่อเจี่ยนอันอันทำตามพิธีเสร็จเรียบร้อย ก็ไปนั่งลงที่ข้างกายของฮูหยินใหญ่ “เพลานี้เสบีย

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 234  

    ฟางอิ๋งก้าวเข้ามา พร้อมกล่าวอย่างไม่อยากเชื่อว่า “จื่อซี เจ้าพูดอีกสักคำให้แม่ฟังสิ” ฉู่จื่อซีเหลือบมองเจี่ยนอันอัน เห็นนางยิ้มบางๆ แล้วพยักหน้า เขาจึงอ้าปากเปล่งเสียง ‘อา’ ออกมาคำหนึ่ง ฟางอิ๋งตื่นเต้นจนรู้สึกจมูกแสบร้อนทันที จากนั้นน้ำตาก็พรั่งพรูออกมา ฉู่จวินหลุนก็ตื่นเต้นอย่างมากเช่นกัน ในที่สุดลูกของเขาก็สามารถเปล่งเสียงออกมาได้แล้ว เขากุมมือของฟางอิ๋งไว้แน่น ขณะที่มองฉู่จื่อซีด้วยดวงตาเปล่งประกาย “พวกท่านล้อมทำสิ่งใดกันอยู่ตรงนั้น?” เสียงทุ้มต่ำเสียงหนึ่งดังขึ้นมา เมื่อเจี่ยนอันอันมองไปที่ฉู่จวินสิง ก็เห็นว่าเขาเปลี่ยนกลับไปเป็นชุดที่ใส่ในยามปกติแล้ว เขาสาวเท้าไปที่ข้างกายของเจี่ยนอันอัน จากนั้นก็จับมือของนางไว้อย่างเป็นธรรมชาติยิ่ง เจี่ยนอันอันเล่าเรื่องที่ฉู่จื่อซีสามารถเปล่งเสียงออกมาได้แล้วให้ฉู่จวินสิงฟัง ฉู่จวินสิงก็ดีใจอย่างมากเช่นกัน เขายื่นมือออกไปลูบหัวของฉู่จื่อซี นี่เป็นครั้งแรกที่เขาที่เขามีปฏิสัมพันธ์กับฉู่จื่อซีอย่างสนิทสนมเช่นนี้ ฉู่จื่อซีหวาดกลัวท่านอารองผู้นี้อย่างมากมาโดยตลอด แต่ไรมาเขาก็ไม่กล้าเข้าใกล้อารองนัก แต่คิดไม่ถึงว่า วันนี้เขา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 235  

    เจี่ยนอันอันให้เหล่าสาวใช้นำมันเทศเผาเสร็จแล้วเข้ามา ให้ทุกคนได้ลิ้มลองเช่นกัน เมื่อทุกคนได้กินมันเทศเผา ต่างก็ชมติดต่อกันว่ามันเทศอร่อย มีเพียงฉู่จวินสิงที่มองมันเทศที่อยู่เบื้องหน้า แล้วไม่เกิดความรู้สึกอยากกิน เขารู้สึกต่อต้านการกินมันเทศเล็กน้อย เพราะไม่อยากถูกมันเทศทำให้ติดคออีกครั้ง เจี่ยนอันอันมองความรู้สึกต่อต้านของฉู่จวินสิงออก นางจึงกินมันเทศที่แสนหอมกรุ่น จากนั้นจงใจทำเสียงดูดปากกินอย่างเอร็ดอร่อยที่ข้างหูของฉู่จวินสิง “เจ้ามันเทศนี้ช่างอร่อยจริงๆ ทั้งหวานทั้งหอม หากท่านไม่กิน พลาดโอกาสนี้ไปก็ไม่มีโอกาสหน้าแล้วนะ” ฉู่จวินสิงถูกเสียงดูดปากของเจี่ยนอันอัน กระตุ้นความอยากขึ้นมา เขาหยิบมันเทศที่อยู่เบื้องหน้าขึ้นมา กัดลงไปคำหนึ่ง ทันใดนั้น กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของมันเทศเผา ก็อบอวลไปทั่วปากของเขา ฉู่จวินฉิงคิดไม่ถึงว่ามันเทศนี้จะมีรสชาติที่เลิศล้ำถึงเพียงนี้ อร่อยกว่ามันเทศที่พวกเขากินในศาลเจ้าร้างเป็นร้อยเท่าเลยทีเดียว เจี่ยนอันอันยิ้มตาหยีมองฉู่จวินสิง “นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กน้อยเท่านั้น มันเทศที่ข้าปลูกรับรองว่าต้องยอดเยี่ยมที่สุดอย่างแน่นอน หากท่า

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 236

    อาหรงรู้สึกจมูกแสบร้อน ดวงตาแดงก่ำขึ้นมาครอบครัวของนางยากจน ต่อให้คิดอยากจะนำเงินมาตอบแทนเจี่ยนอันอันก็ยังไม่มีวิธีนางคิดถึงแม่ไก่ที่วางไข่ที่บ้านก็รีบเดินออกจากห้องไป ไปอุ้มแม่ไก่ออกมาจากเล้าไก่“แม่นาง ที่บ้านข้าไม่มีอะไรเลย มีเพียงแค่แม่ไก่ที่วางไข่นี่”“ขอให้ท่านช่วยรับเอาไว้ มิฉะนั้นแล้ว ในใจของข้าคงจะรู้สึกเสียใจจริงๆ”ในใจของเจี่ยนอันอันคิด ที่บ้านไม่มีไข่ไก่ให้กินจริงๆฉู่จื่อซียังคงต้องเจริญเติบโต ต้องการสารอาหารเป็นจำนวนมากถึงแม้ว่านางจะสามารถซื้อมาจากร้านค้าได้ ทว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปก็จะทำให้คนอื่นสงสัยได้ตอนนี้ดีแล้ว มีแม่ไก่ที่ออกไข่ได้ตัวนี้นางก็สามารถใช้ประโยชน์จากจุดนี้ เพื่อซื้อไข่ไก่จากร้านค้าได้มากยิ่งขึ้นรอจนเมื่อทุกคนถามถึง นางสามารถบอกได้ว่าเป็นแม่ไก่ตัวนี้ออกไข่มาเจี่ยนอันอันรับแม่ไก่มาอย่างพึงพอใจนางอุ้มแม่ไก่เอาไว้ หลังจากที่บอกลากับท่านยายหลินและอาหรง ก็กลับบ้านไปเด็กรับใช้ทั้งหลายเมื่อเห็นว่านางอุ้มไก่ตัวหนึ่งออกมา ก็รีบสร้างเล้าไก่ขึ้นมาทันทีเจี่ยนอันอันมอบแม่ไก่ให้เด็กรับใช้ แล้วไปปรุงยาให้ฉู่จื่อซีไม่นานยาก็ปรุงจนเสร็จ ในขณะที่เจ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 237

    “ข้าจะไปดูตรงที่ดิน ว่าจะสามารถปลูกธัญพืชออกมาได้หรือไม่”เจี่ยนอันอันพูดออกมา ก็เดินมุ่งหน้าออกจากประตูจวนไปมุมปากของฉู่จวินสิงยกยิ้มขึ้นมา เขาเดินตามเจี่ยนอันอันออกจากประตูจวนไปติดๆทั้งสองคนมาถึงยังที่ดิน ก็มองเห็นซ่างชิวและอวี๋ว่านกำลังทำงานอยู่ที่นั่นที่ดินของครอบครัวซ่างชิวตอนนี้สามารถปลูกพืชพันธุ์อาหารได้แล้ว เขากำลังยุ่งอยู่กับการหว่านเมล็ดพืชทั้งสองคนเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงมาถึง ก็รีบวางงานในมือลง“วันนี้อากาศร้อนจริงๆ ทั้งสองท่านทำไมถึงไม่พักผ่อนอยู่ที่บ้านกัน?”ซ่างชิวพูดออกมา ก็เดินไปยังทั้งสองคนในตอนนี้ใบหน้าของเขาและอวี๋ว่านดูเข้มและแดงขึ้น ร่างกายและเสื้อผ้าต่างก็เปียกชื้นไปด้วยเหงื่อดูเหมือนว่าจะทำงานมาทั้งเช้าแล้วเจี่ยนอันอันยิ้มออกมา “อาหารที่บ้านก็กินกันไปเกือบหมดแล้ว ข้าอยากจะมาปลูกพวกธัญพืชบ้าง”ซ่างชิวและอวี๋ว่านไม่คิดเลยว่าเจี่ยนอันอันยังจะมีธัญพืชหลงเหลืออยู่ที่พวกเขานั้นมีเพียงแค่ข้าวโพดเท่านั้นที่สามารถเพาะปลูกได้ ยังไม่เคยเพาะปลูกธัญพืชอื่นเลยที่นี้แห้งแล้งตลอดทั้งปี ดินจึงสามารถปลูกได้เพียงแค่ข้าวโพดที่สามารถทดต่อความแห้งแล

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 238

    เจี่ยนอันอันตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เดินมุ่งหน้าไปยังที่ดินของตนเองนางลอบคิดในใจ ไม่เสียแรงที่เป็นน้ำพุวิญญาณจริงๆ ถึงได้แสดงประสิทธิภาพได้รวดเร็วถึงเพียงนี้รอจนเมื่อพวกเขามาถึงยังที่ดินนั้น ก็มองเห็นต้นอ่อนเล็กๆ สูงขึ้นมากแล้วซ่างชิวทั้งสามคนพากันมองหน้ากัน ใบหน้าแต่ละคนก็เผยท่าทีตกตะลึงออกมาเขาทำการเพาะปลูกมานานตั้งหลายปี ก็ไม่เคยพบธัญพืชที่เติบโตได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ทุกคนมองไปยังที่ดินโดยไม่หันเหสายตาไปไหน ก็พบว่าธัญพืชที่เพิ่งจะเพาะปลูกลงไปไม่นานมานี้มีต้นอ่อนเติบโตขึ้นมาอีกจำนวนหนึ่งในที่สุดอวี๋ว่านก็อดที่จะถามออกมาไม่ได้ “แม่นางเจี่ยน เมล็ดพันธุ์ที่ท่านปลูกลงไปทำไมถึงได้เติบโตได้รวดเร็วเพียงนี้กัน?”เจี่ยนอันอันคิดวิธีรับมือเอาไว้แล้ว นางลุกขึ้นยืน ยิ้มแล้วพูดกับพวกซ่างชิวทั้งสามคน“ข้าเคยอยู่ในวัดลัทธิเต๋า แล้วถูกท่านเจ้าอาวาสชี้แนะมาก่อน”“เขาบอกว่าข้ามีชะตาชีวิตสูงส่ง แต่ในชะตานั้นกลับมีคราวเคราะห์อยู่ จะต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากชั่วระยะหนึ่ง”“เขาเห็นว่าข้าขอคำชี้แนะอย่างจริงใจ จึงได้มอบสูตรลับสูตรหนึ่งให้ข้ามา”“น้ำที่ข้าใช้สูตรลับนี้ศึกษาออกมา สามารถทำให้ไม่ว่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 239

    เพราะอย่างไรครอบครัวของเจี่ยนอันอันก็เป็นคนจากต่างถิ่น เขาเกรงว่าคนจะพูดกันมากจนเกินไปหากว่าการจัดการของเขา จะไปทำให้ชาวบ้านคนอื่นๆ เกิดความไม่พอใจขึ้นมาอีกเกรงว่าวันหน้าอาจจะก่อให้เกิดปัญหาวุ่นวายที่ไม่จำเป็นขึ้นมาได้ท่านปู่เฉินพูดกับพวกของซ่างชิวทั้งสามคนว่า “พวกเจ้ารออยู่ที่นี่ก่อน ข้าจะไปเรียกชาวบ้านคนอื่นๆ มาหารือเรื่องนี้กันที่นี่”เขาพูดจบ ก็รีบไปหาคนตามเรือนของชาวบ้านไม่นานนักชาวบ้านในหมู่บ้านชิงสุ่ย ต่างก็ตามท่านปู่เฉินมายังเรือนของเขาภายในลานถูกชาวบ้านออกันจนแน่นขนัดทุกคนต่างก็ไม่รู้ว่าตกลงแล้วท่านปู่เฉินจะหารือเรื่องอะไรท่านปู่เฉินพูดออกมาเสียงดัง “ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากจะหารือกับทุกคน”“ตอนนี้เรือนของจางต้าไม่มีคนพักอาศัยอยู่แล้ว ข้าอยากจัดการให้ครอบครัวของแม่นางเจี่ยนเข้าพักยังเรือนของจางต้า”“ไม่รู้ว่าทุกคนคิดเห็นกันเช่นไร”ในใจของท่านปู่เฉินเป็นกังวลเล็กน้อย เกรงว่าจะมีชาวบ้านคัดค้านออกมาชาวบ้านต่างก็พากันมองหน้ากัน ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่พูดออกมาซ่างชิวเมื่อเห็นเข้า ก็รีบพูดออกมาเสียงดัง “แม่นางเจี่ยนรักษาอาการป่วยตงเยว่ของข้าจนหาย ข้าเห็นด้วยกับการจัด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 240

    ทั้งหลายคนตามท่านปู่เฉินมายังเรือนของเจี่ยนอันอันพร้อมกันเจี่ยนอันอันในตอนนี้กำลังปลูกมันเทศอยู่ในลานบ้าน เมื่อเห็นว่าท่านปู่เฉินมาอีกครั้งอีกทั้งที่มาพร้อมกับเขานั้น ยังมีชาวบ้านอีกหลายคนที่ก่อนหน้านั้นถูกพิษน้ำยาคูหยาเข้าเจี่ยนอันอันพอจะเดาได้ ท่านปู่เฉินจะต้องมาช่วยร้องขอให้พวกเขาเป็นแน่นางขมวดคิ้วแน่น รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อยเจี่ยนอันอันไม่คิดจะใส่ใจพวกเขา สนใจเพียงแต่ปลูกมันเทศของตนฉู่จวินสิงที่ย่อกายอยู่ด้านข้าง คอยมองเจี่ยนอันอันปลูกมันเทศอยู่เมื่อเห็นทั้งกลุ่มคนมาถึง เขาก็หันไปเหลือบมองยังเจี่ยนอันอันได้ยินเพียงแค่นางพูดพึมพำออกมาเสียงเบา “ไม่ต้องสนใจพวกเขา”ฉู่จวินสิงที่เดิมทีก็เย็นชากับคนนอก แน่นอนว่าย่อมไม่ใส่ใจต่อท่านปู่เฉินและชาวบ้านเหล่านั้นท่านปู่เฉินเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันดูมีท่าทีไม่พอใจนัก เขาก็หันไปขยิบตาให้ชาวบ้านเหล่านั้นชาวบ้านทั้งหลายไม่นานนักก็เข้าใจขึ้นมา พวกเขาเดินก้าวใหญ่ไปยังเจี่ยนอันอันยังไม่ทันรอให้พวกเขาได้เข้าใกล้ ก็ถูกกำลังภายในอันรุนแรงกระแทกจนกระเด็นลอยไปชาวบ้านทั้งหลายตกลงบนพื้น ต่างพากันกุมหน้าอก ส่งเสียงกรีดร้องเจ็บปวดอ

บทล่าสุด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 293

    จงซิ่นคิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะมากันตั้งแต่เช้าแบบนี้ เขารีบให้ทั้งสี่คนเข้ามาในลานบ้านฉู่จวินสิงอยากให้เจี่ยนอันอันนอนได้สบายกว่านี้จึงถามจงซิ่นว่า “ผู้เฒ่าจง ที่บ้านท่านพอจะมีห้องว่างหรือไม่?”จงซิ่นมองเจี่ยนอันอันที่กำลังหลับสนิทปราดหนึ่งแล้วรีบตอบ “ที่ด้านหลังมีห้องว่างอยู่ แต่ห้องค่อนข้างโทรม”ฉู่จวินสิงไม่ได้มีปัญหาอะไร เขาเคยนอนในวัดร้างด้วยซ้ำ ห้องที่ทรุดโทรมจึงไม่นับว่าเป็นอะไรฉู่จวินสิงตอบอย่างไม่ยี่หระ “รบกวนผู้เฒ่าจงช่วยนำทางด้วย”จงซิ่นเห็นว่าฉู่จวินสิงไม่รังเกียจก็รีบขานรับและพาฉู่จวินสิงไปยังห้องโทรมๆ ที่อยู่ด้านหลังฉู่จวินสิงอุ้มเจี่ยนอันอันเข้าไปวางลงบนเตียง ตามด้วยห่มผ้าผืนบางให้กับนางเขาลูบแก้มนางอย่างแผ่วเบา พบว่านางยังคงหลับสนิท ใบหน้าดวงน้อยถูไปมากับฝ่ามือของเขารอยยิ้มรักใคร่เอ็นดูค่อยๆ ปรากฏบนใบหน้าของฉู่จวินสิงเขาอยู่ที่นี่เพียงไม่นานก็สืบเท้ายาวๆ เดินออกไป ไม่ได้รบกวนการพักผ่อนของเจี่ยนอันอันฉู่จวินสิงกลับมาที่ลานด้านหน้าก็พบว่าจงซิ่นกำลังก่อไฟทำอาหารเหน็ดเหนื่อยมาทั้งคืน เป็นความจริงที่พวกเขารู้สึกหิวเล็กน้อยฉู่จวินสิงคิดในใจว่ารอไว้ถึงเวลากินข

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 292

    ฝูเซียงรู้สึกเพียงว่าแขนขาของตัวเองชาไปหมด นางเผยอปากเพื่อขอร้องอ้อนวอนแต่แล้วกลับต้องค้นพบด้วยความตกใจว่าตัวเองไม่อาจเปล่งเสียงแม้เพียงคำเดียวฝูเซียงเบิกตาโพลงด้วยความตื่นกลัว ร่างกายส่ายโงนเงนไปมาอยู่สองสามครั้งก่อนจะล้มฟุบกับพื้นเจี่ยนอันอันคิดในใจว่าที่นี่เป็นย่านที่เจริญรุ่งเรืองของเมืองอินเป่ย มีคนสัญจรไปมามากมายพรุ่งนี้เช้าจะมีคนพบตัวฝูเซียงเองส่วนหลังจากนี้นางจะเป็นหรือตาย นั่นคงสุดแล้วแต่บุญแต่กรรมของตัวนางเองแล้วเจี่ยนอันอันไม่ได้สนใจความเจ็บปวดของฝูเซียงอีก นางเดินเข้าไปในที่ว่าการมณฑลจงโจวพร้อมกับสวมถุงมือพิเศษจากนั้นนำผงสลายศพกำหนึ่งจากห้วงมิติออกมาโปรยใส่ศพพวกนั้นศพทั้งหลายกลายเป็นน้ำหนองเป็นกองๆ อย่างรวดเร็วหลังจากทำทุกอย่างเสร็จสิ้น เจี่ยนอันอันก็ค่อยเดินออกจากที่ว่าการมณฑลจงโจวเซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าทำการปิดประตูหลักของที่ว่าการนอกจากสมาชิกครอบครัวของว่านจื้อหมิงแล้ว ไม่มีผู้ใดรู้ทั้งนั้นว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นที่นี่เจี่ยนอันอันไม่ได้สังหารสมาชิกครอบครัวพวกนั้น นางจงใจปล่อยให้พวกนางมีชีวิตนางอยากเห็นว่าพวกนางจะมีความเคลื่อนไหวอะไรหลังจากที่รู้ว่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 291

    เมื่อหันไปมองก็พบว่าหญิงสาวซึ่งเดิมทียืนอยู่เบื้องหน้าว่านจื้อหมิงได้มายืนอยู่ด้านหลังตัวเองตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ฝูเซียงขนหัวลุกด้วยความตกใจ นางน้ำตาไหลนองหน้าและขดตัวเป็นก้อน“พวกเจ้าจะทำอะไร อย่าฆ่าข้า!”พวกฉู่จวินสิงทั้งสามคนไม่รู้ว่าฝูเซียงเป็นผู้ใด แต่เจี่ยนอันอันรู้นางแสยะยิ้มมองฝูเซียง ในมือมีกระบี่เล่มหนึ่งปรากฏตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ นางพาดกระบี่บนคอฝูเซียงพร้อมกับยิ้มเยาะ “ว่านจื้อหมิงซึ่งเป็นคนรักของเจ้าได้ตายไปแล้ว ยังอยากแก้แค้นให้ญาติผู้พี่ของเจ้าอีกหรือไม่?”เดิมทีฝูเซียงก็กลัวมากอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งต้องส่ายหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความกลัวหนักกว่าเดิม“อย่าฆ่าข้า เจ้าอยากให้ข้าทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น”นางเพิ่งจะอายุยี่สิบ ยังไม่ทันได้เพลิดเพลินกับวัยสาว จะมาตายในเงื้อมมือของพวกเขาแบบนี้ไม่ได้ เจี่ยนอันอันกำลังรีบร้อนอยากตามหากู้มั่วหลี ส่วนฝูเซียงก็เป็นคนรักของว่านจื้อหมิงนางต้องรู้เรื่องราวเกี่ยวกับกู้มั่วหลีแน่นอน“จะไว้ชีวิตเจ้าก็ได้ แต่เจ้าต้องบอกที่อยู่ของกู้มั่วหลี”ฝูเซียงไม่ได้รู้จักกู้มั่วหลี นางลืมตามองเจี่ยนอันอันอย่างหวาดกลัว“ข้าไม่รู้จักคนผู้นี้ด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 290

    เจี่ยนอันอันขมวดคิ้วแน่น นางมองไปยังทิศทางที่ลูกธนูยิงมามองเห็นเพียงว่ามีเงาดำร่างหนึ่งกะพริบผ่านไป จากนั้นหายเข้าไปในความมืดอย่างรวดเร็ว“บ้าเอ๊ย!” เจี่ยนอันอันสบถด้วยความโมโหนางหันไปถีบว่านจื้อหมิงที่สิ้นใจไปแล้วอย่างแรงคนผู้นั้นราวกับต้องการเพียงปลิดชีพว่านจื้อหมิง ไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้แต่อย่างใดเจี่ยนอันอันอยากไล่ตามไป แต่นางไม่รู้ว่าคนผู้นั้นหายไปที่ใดแล้วไม่นาน พวกฉู่จวินสิงทั้งสามคนก็จัดการทหารที่เหลือจนหมดเมื่อพวกเขามาถึงตัวเจี่ยนอันอันก็พบกับว่านจื้อหมิงที่ตายไปแล้วนอกจากนี้บริเวณอกยังมีลูกธนูดอกหนึ่งปักอยู่“เกิดอะไรขึ้น? ข้ายังไม่ทันได้ชำระแค้นที่เขาใส่ร้ายข้ามาตลอดหลายปีเลย เหตุใดจึงตายเสียแล้ว?”เซิ่งฟางถือกระบี่เปื้อนโลหิตไว้ในมือพร้อมกับถลึงตามองว่านจื้อหมิงที่อยู่บนพื้นด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราดเจี่ยนอันอันโมโหเดือดดาลมากเช่นกัน อีกแค่ก้าวเดียวแท้ๆ นางก็จะได้รู้อยู่แล้วว่าผู้ใดส่งสาส์นลับให้ว่านจื้อหมิงทว่าตอนนี้ เบาะแสกลับขาดหายไปหมดแล้วเจี่ยนอันอันมองไปยังทิศที่คนผู้นั้นหายไปด้วยสายตาเย็นชาเงาร่างร่างนั้นทำให้เจี่ยนอันอันรู้สึกคุ้นอยู่ในท

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 289

    ว่านจื้อหมิงตกใจมากเมื่อเห็นเจี่ยนอันอันปรากฏตัวอย่างฉับพลันนางเข้ามาอยู่ในที่ว่าการมณฑลจงโจวตั้งแต่เมื่อไร เหตุใดจึงไม่เห็นนางอยู่ในการตะลุมบอนเมื่อครู่?เจี่ยนอันอันเห็นว่านจื้อหมิงไม่ตอบก็กดมีดลึกกว่าเดิมคมจากมีดสั้นจมลึกเข้าไปในผิวของว่านจื้อหมิงและกรีดคอเขาความเจ็บปวดรวดร้าวปกคลุมเข้ามา ว่านจื้อหมิงไม่กล้าชักช้า เขารีบเอ่ยตอบ “ข้าไม่เข้าใจที่เจ้าพูด สาส์นลับอะไร?”ว่านจื้อหมิงรู้ตั้งแต่ตอนที่เจี่ยนอันอันพูดคำว่าสาส์นลับแล้วว่าในหมู่คนที่เขาส่งไปมีคนทรยศอยู่เจี่ยนอันอันเห็นว่านจื้อหมิงแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องก็ยิ้มเยาะและออกแรงที่มือหนักกว่าเดิมว่านจื้อหมิงรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ลำคออีกครั้ง เขากลัวว่าจะถูกเชือดคอในคราเดียว กลัวจนมีเหงื่อตกบริเวณหน้าผากเจี่ยนอันอันชำเลืองมองพวกฉู่จวินสิงทั้งสามคนที่กำลังต่อสู้ปราดหนึ่ง พบว่าพวกเขาสังหารทหารไปแล้วเกินครึ่งนางยิ้มเยาะว่า “เจ้าคงยังไม่เข้าใจสถานการณ์ตอนนี้สินะ”“ถ้าเช่นนั้นข้าจะช่วยบอกให้ พวกคนที่เจ้าส่งไปเมื่อคืนถูกฆ่าตายหมดแล้ว”“และข้าก็คือเจี่ยนอันอันที่สาส์นลับสั่งให้เอาชีวิต”ว่านจื้อหมิงได้ยินว่าหญิงสาวนางนี้ค

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 288

    ตอนนี้พวกเขาทั้งหิวทั้งง่วง นอกจากนี้ยังวิงเวียนศีรษะเพราะตากแดดมาทั้งวันพวกทหารเอาแต่พร่ำบ่น ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นว่ามีคนมายืนอยู่ด้านหลังพวกตัวเองเมื่อครู่นี้ พวกฉู่จวินสิงทั้งสี่คนได้เปลี่ยนมาสวมชุดท่องราตรีที่เจี่ยนอันอันนำออกมาฉู่จวินสิงอุ้มเจี่ยนอันอันและใช้วิชาตัวเบากระโดดขึ้นไปบนหลังคาส่วนเซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าแยกกันไปที่หลังคาอีกสองแห่งเนื่องจากท้องฟ้ามืดมาก อีกทั้งเซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าต่างก็เก็บซ่อนกลิ่นอายของตัวเองทหารเหล่านี้จึงมองไม่เห็นทั้งสองคนเจี่ยนอันอันยังคงอยู่ในสภาวะล่องหน นางยืนอยู่ด้านหลังทหารเหล่านี้ ฟังพวกเขาบ่นถึงผู้ว่ามณฑลจงโจวมุมปากของนางยกโค้งเป็นรอยยิ้มเหี้ยมโหดหลังจากที่ฉู่จวินสิงส่งสัญญาณมือให้เซิ่งฟางกับเหยียนเซ่า ทั้งสามคนก็ชักกระบี่แทงใส่เหล่าทหารเบื้องหน้าทหารพวกนั้นได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวและรู้สึกถึงความผิดปกติในที่สุดพวกเขารีบหันตัวกลับไปก็พบว่าด้านหลังมีคนในชุดสีดำและสวมผ้าคลุมหน้าสีดำยืนอยู่เซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าลอบสังหารทหารไปหลายนายเช่นกัน ทันใดนั้นเอง เกิดความวุ่นวายขึ้นบนหลังคา “มีนักฆ่า!”ไม่รู้ว่าผู้ใดที่ตะโกนเสีย

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 287

    เจี่ยนอันอันไม่ได้ไล่ตามไป นางท่องชื่อสมุนไพรพวกนี้ในใจแล้วต้องตกใจสมุนไพรพวกนี้ล้วนแต่มีพิษร้ายแรงแต่ไม่นาน นางก็เข้าใจได้ว่าพิษร้ายในตัวเวินอี๋ต้องถอนด้วยการใช้พิษต้านพิษและสมุนไพรเหล่านี้ก็มีสรรพคุณในการช่วยถอนพิษเช่นกันเจี่ยนอันอันจำชื่อของสมุนไพรเหล่านี้ นางนึกขึ้นได้ว่านอกกำแพงมีปืนพกกระบอกนั้นหากถูกผู้อื่นหยิบไป ไม่แน่ว่าจะเกิดเรื่องใหญ่เมื่อคิดถึงตรงนี้ เจี่ยนอันอันก็รีบกระโดดขึ้นกำแพงลานบ้านนางยืนอยู่บนกำแพง เห็นว่ากู้มั่วหลีกำลังมองมาทางนางจากบนหลังคาที่อยู่ไกลออกไปมิหนำซ้ำเขายังทำท่าส่งจูบให้นางเจี่ยนอันอันรู้สึกเหมือนกินแมลงวัน สะอิดสะเอียนจนอยากอาเจียนนางถลึงตาใส่กู้มั่วหลีแล้วกระโดดลงจากกำแพงไปเก็บปืนพกเข้าสู่ห้วงมิติบัดนี้นางเข้าใจทุกอย่างในที่ว่าการมณฑลจงโจวอย่างแจ่มแจ้งฉู่จวินสิงกำลังรอนางอยู่ นางจะมัวชักช้าไม่ได้ รีบท่องตำแหน่งของฉู่จวินสิงในใจไม่นาน นางก็มาปรากฏตัวเบื้องหน้าฉู่จวินสิงฉู่จวินสิงเห็นว่าเจี่ยนอันอันกลับมาแล้วก็โล่งใจเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอกเซิ่งฟางกับเหยียนเซ่าไม่ได้สังเกตเห็นว่าเจี่ยนอันอันกลับมาแล้วพวกเขายังคงมองไปทางที

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 286

    เจี่ยนอันอันเสมือนอ่านใจกู้มั่วหลีได้ นางเอ่ยเสียงเย็นว่า “ในเหตุการณ์สังหารหมู่เมื่อตอนนั้น เจ้าวางยาใส่เวินอี๋”“หากยังไม่มอบยาถอนพิษให้อีก ข้าจะทำให้เจ้าหายไปจากโลกนี้!”เจี่ยนอันอันว่าแล้วก็สวมถุงมือแบบพิเศษนางนำผงสลายศพกำหนึ่งออกมาจากห้วงมิติและทำทีจะสาดใส่กู้มั่วหลี กู้มั่วหลีมองผงสลายศพปราดหนึ่งก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นนึกไม่ถึงว่าหญิงนางนี้จะชอบเล่นกับยาพิษเฉกเช่นเดียวกันกับเขาส่วนเรื่องเวินอี๋อะไรนั่น กู้มั่วหลีไม่ได้สนใจเขาเกิดความสนใจในตัวเจี่ยนอันอันเป็นอย่างมากในตอนที่เจี่ยนอันอันกำลังจะสาดผงสลายศพนี้เอง กู้มั่วหลีก็รีบร้องว่า“ข้าไม่มียาถอนพิษ แต่ข้าสามารถบอกวิธีถอนพิษให้กับเจ้าได้”รอยยิ้มเกียจคร้านปรากฏขึ้นที่มุมปากกู้มั่วหลีอีกครั้งเขากดจุดฝังเข็มสองจุดบนร่างตัวเองเพื่อหยุดยั้งการกระจายของพิษเจี่ยนอันอันหยุดการกระทำของตัวเอง นางถลึงตามองกู้มั่วหลี รอให้เขาบอกวิธีถอนพิษกู้มั่วหลีเอนตัวพิงกำแพงอย่างเกียจคร้านและพูดด้วยสุ้มเสียงเหลาะแหละ “ข้าผู้นี้เคยวางยาคนมาไม่รู้ตั้งเท่าไร”“เจ้าคนแซ่เวินที่เจ้าพูดถึงมีอาการอย่างไรหลังจากถูกวางยา?”“หากเจ้าไม่อธิบายให้

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 285

    “แม่นางน้อย เอะอะก็ฆ่าแกงกันแบบนี้ไม่สมกับเป็นผู้หญิงเลยนะ”ขณะที่กู้มั่วหลีพูด คนก็ก้าวมาข้างหน้าหลายก้าวเจี่ยนอันอันเห็นอย่างนั้นก็รีบถอยหลัง ดึงระยะห่างออกจากกู้มั่วหลีกู้มั่วหลียิ่งรู้สึกว่าสตรีตรงหน้าน่าสนใจมากเขาไม่ชอบสตรีที่เป็นฝ่ายเสนอตัวเข้าหาก่อนมาแต่ไหนแต่ไรสตรีแบบเจี่ยนอันอันที่เปิดฉากต่อสู้โดยไม่พูดพร่ำทำเพลงกลับตรงจริตเขามากทีเดียว“แม่นางน้อย เจ้ามีนามว่าอะไรหรือ?”“เจ้าติดตามเยียนอ๋องผู้นั้นไปตกระกำลำบาก ต้องใช้ชีวิตอย่างอกสั่นขวัญแขวนทั้งวันแบบนั้น น่าเศร้าจะตาย”“ข้าว่า มิสู้เจ้ามาติดตามข้า รับรองว่าเจ้าจะมีกินมีใช้ไม่ขาดมือ”กู้มั่วหลีหยุดฝีเท้า มองเจี่ยนอันอันด้วยแววตาหยอกเย้าเจี่ยนอันอันถ่มน้ำลายลงข้างๆ ตวาดกลับกู้มั่วหลีว่า “หยุดพูดไร้สาระ ส่งยาถอนพิษมาเดี๋ยวนี้”“ไม่อย่างนั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ”เจี่ยนอันอันพูดอยู่ คนก็พุ่งเข้าไปหากู้มั่วหลีอย่างรวดเร็วนางเคลื่อนไหวเร็วมาก เพียงพริบตาเดียวก็มาถึงเบื้องหน้ากู้มั่วหลีปืนสั้นเก็บเสียงกระบอกหนึ่งปรากฏขึ้นในมือนาง ปลายกระบอกปืนสีดำสนิทจ่ออยู่บนหน้าผากกู้มั่วหลีแค่เพียงนางลั่นไก บุรุษตรงหน้าก

DMCA.com Protection Status