แชร์

บทที่ 238

ผู้แต่ง: ซินต้งหรูสุ่ย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-05 18:53:58
เจี่ยนอันอันตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เดินมุ่งหน้าไปยังที่ดินของตนเอง

นางลอบคิดในใจ ไม่เสียแรงที่เป็นน้ำพุวิญญาณจริงๆ ถึงได้แสดงประสิทธิภาพได้รวดเร็วถึงเพียงนี้

รอจนเมื่อพวกเขามาถึงยังที่ดินนั้น ก็มองเห็นต้นอ่อนเล็กๆ สูงขึ้นมากแล้ว

ซ่างชิวทั้งสามคนพากันมองหน้ากัน ใบหน้าแต่ละคนก็เผยท่าทีตกตะลึงออกมา

เขาทำการเพาะปลูกมานานตั้งหลายปี ก็ไม่เคยพบธัญพืชที่เติบโตได้รวดเร็วถึงเพียงนี้

ทุกคนมองไปยังที่ดินโดยไม่หันเหสายตาไปไหน ก็พบว่าธัญพืชที่เพิ่งจะเพาะปลูกลงไปไม่นานมานี้มีต้นอ่อนเติบโตขึ้นมาอีกจำนวนหนึ่ง

ในที่สุดอวี๋ว่านก็อดที่จะถามออกมาไม่ได้ “แม่นางเจี่ยน เมล็ดพันธุ์ที่ท่านปลูกลงไปทำไมถึงได้เติบโตได้รวดเร็วเพียงนี้กัน?”

เจี่ยนอันอันคิดวิธีรับมือเอาไว้แล้ว นางลุกขึ้นยืน ยิ้มแล้วพูดกับพวกซ่างชิวทั้งสามคน

“ข้าเคยอยู่ในวัดลัทธิเต๋า แล้วถูกท่านเจ้าอาวาสชี้แนะมาก่อน”

“เขาบอกว่าข้ามีชะตาชีวิตสูงส่ง แต่ในชะตานั้นกลับมีคราวเคราะห์อยู่ จะต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากชั่วระยะหนึ่ง”

“เขาเห็นว่าข้าขอคำชี้แนะอย่างจริงใจ จึงได้มอบสูตรลับสูตรหนึ่งให้ข้ามา”

“น้ำที่ข้าใช้สูตรลับนี้ศึกษาออกมา สามารถทำให้ไม่ว่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 239

    เพราะอย่างไรครอบครัวของเจี่ยนอันอันก็เป็นคนจากต่างถิ่น เขาเกรงว่าคนจะพูดกันมากจนเกินไปหากว่าการจัดการของเขา จะไปทำให้ชาวบ้านคนอื่นๆ เกิดความไม่พอใจขึ้นมาอีกเกรงว่าวันหน้าอาจจะก่อให้เกิดปัญหาวุ่นวายที่ไม่จำเป็นขึ้นมาได้ท่านปู่เฉินพูดกับพวกของซ่างชิวทั้งสามคนว่า “พวกเจ้ารออยู่ที่นี่ก่อน ข้าจะไปเรียกชาวบ้านคนอื่นๆ มาหารือเรื่องนี้กันที่นี่”เขาพูดจบ ก็รีบไปหาคนตามเรือนของชาวบ้านไม่นานนักชาวบ้านในหมู่บ้านชิงสุ่ย ต่างก็ตามท่านปู่เฉินมายังเรือนของเขาภายในลานถูกชาวบ้านออกันจนแน่นขนัดทุกคนต่างก็ไม่รู้ว่าตกลงแล้วท่านปู่เฉินจะหารือเรื่องอะไรท่านปู่เฉินพูดออกมาเสียงดัง “ข้ามีเรื่องหนึ่งอยากจะหารือกับทุกคน”“ตอนนี้เรือนของจางต้าไม่มีคนพักอาศัยอยู่แล้ว ข้าอยากจัดการให้ครอบครัวของแม่นางเจี่ยนเข้าพักยังเรือนของจางต้า”“ไม่รู้ว่าทุกคนคิดเห็นกันเช่นไร”ในใจของท่านปู่เฉินเป็นกังวลเล็กน้อย เกรงว่าจะมีชาวบ้านคัดค้านออกมาชาวบ้านต่างก็พากันมองหน้ากัน ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่พูดออกมาซ่างชิวเมื่อเห็นเข้า ก็รีบพูดออกมาเสียงดัง “แม่นางเจี่ยนรักษาอาการป่วยตงเยว่ของข้าจนหาย ข้าเห็นด้วยกับการจัด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 240

    ทั้งหลายคนตามท่านปู่เฉินมายังเรือนของเจี่ยนอันอันพร้อมกันเจี่ยนอันอันในตอนนี้กำลังปลูกมันเทศอยู่ในลานบ้าน เมื่อเห็นว่าท่านปู่เฉินมาอีกครั้งอีกทั้งที่มาพร้อมกับเขานั้น ยังมีชาวบ้านอีกหลายคนที่ก่อนหน้านั้นถูกพิษน้ำยาคูหยาเข้าเจี่ยนอันอันพอจะเดาได้ ท่านปู่เฉินจะต้องมาช่วยร้องขอให้พวกเขาเป็นแน่นางขมวดคิ้วแน่น รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อยเจี่ยนอันอันไม่คิดจะใส่ใจพวกเขา สนใจเพียงแต่ปลูกมันเทศของตนฉู่จวินสิงที่ย่อกายอยู่ด้านข้าง คอยมองเจี่ยนอันอันปลูกมันเทศอยู่เมื่อเห็นทั้งกลุ่มคนมาถึง เขาก็หันไปเหลือบมองยังเจี่ยนอันอันได้ยินเพียงแค่นางพูดพึมพำออกมาเสียงเบา “ไม่ต้องสนใจพวกเขา”ฉู่จวินสิงที่เดิมทีก็เย็นชากับคนนอก แน่นอนว่าย่อมไม่ใส่ใจต่อท่านปู่เฉินและชาวบ้านเหล่านั้นท่านปู่เฉินเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันดูมีท่าทีไม่พอใจนัก เขาก็หันไปขยิบตาให้ชาวบ้านเหล่านั้นชาวบ้านทั้งหลายไม่นานนักก็เข้าใจขึ้นมา พวกเขาเดินก้าวใหญ่ไปยังเจี่ยนอันอันยังไม่ทันรอให้พวกเขาได้เข้าใกล้ ก็ถูกกำลังภายในอันรุนแรงกระแทกจนกระเด็นลอยไปชาวบ้านทั้งหลายตกลงบนพื้น ต่างพากันกุมหน้าอก ส่งเสียงกรีดร้องเจ็บปวดอ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 241

    เจี่ยนอันอันลุกขึ้นยืน เหลือบมองยังชาวบ้านที่ฉี่รดกางเกงอย่างดูแคลนนางมายังเบื้องหน้าของฉู่จวินสิง แล้วพูดกับท่านปู่เฉิน “ท่านปู่เฉิน หากว่าท่านมาที่นี่เพียงเพื่อช่วยขอร้องให้พวกเขาแล้ว ท่านก็ไปได้แล้ว”ท่านปู่เฉินเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันไม่ได้คิดจะช่วยรักษาให้เหล่าชาวบ้านทั้งหลาย เขาจึงรีบพูดออกมา“แม่นางเจี่ยน ที่ข้ามาที่นี่ไม่ใช่เพียงเพราะว่าเรื่องนี้เรื่องเดียว”เจี่ยนอันอันจับจ้องไปยังท่านปู่เฉินโดยไม่เลื่อนสายตาไปที่ใด รอให้เขาพูดต่อไปท่านปู่เฉินพูดออกมา “แม่นางเจี่ยน อันที่จริงแล้วที่ข้ามาที่นี้ ก็เพื่ออยากจะปรึกษาเรื่องหนึ่งกับเจ้า”“เมื่อครู่นี้ข้าปรึกษากับชาวบ้านคนอื่นๆ มาแล้ว พวกเรารู้สึกว่าครอบครัวของพวกเจ้าทั้งตระกูลอาศัยอยู่ที่นี้ ดูน่าจะอึดอัดไป”“บ้านของจางต้าตอนนี้ไม่มีคนอยู่แล้ว พวกเราต่างก็หวังว่าพวกเจ้าทั้งครอบครัว จะสามารถย้ายไปอยู่ที่นั่นได้”“ที่นั่นสถานที่ใหญ่โต ห้องหับก็มากมาย สามารถรองรับคนของพวกเจ้าทั้งครอบครัวได้อย่างแน่นอน”เจี่ยนอันอันไม่คิดเลยว่า ท่านปู่เฉินมายังเรือนของนางก็เพื่อเรื่องนี้นางเลิกคิ้วขึ้น ทันใดนั้นในใจก็มีความสุขขึ้นมาทันทีน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 242

    ซ่างชิวและอวี๋ว่านเห็นชาวบ้านสองสามคนกำลังเคลื่อนย้ายอิฐหินไปมาทั้งสองคนเองก็อยากเข้าไปช่วย แต่กลับถูกเจี่ยนอันอันส่งเสียงห้ามเอาไว้ “ในเมื่อพวกเขาอยากจะร้องขอให้ข้าช่วย แน่นอนว่าย่อมต้องช่วยออกแรงให้ข้า”ซ่างชิวและอวี๋ว่านมองสบตากัน ไม่เข้าใจคำของเจี่ยนอันอัน ว่าท้ายที่สุดแล้วหมายความว่าอย่างไรกันในเมื่อเจี่ยนอันอันไม่ให้พวกเขาไปทำงาน พวกเขาจึงทำได้เพียงแค่ตามคนกลุ่มคนและรถม้า มุ่งหน้าไปยังเรือนของจางต้านี่เป็นครั้งแรกที่ฮูหยินใหญ่มายังเรือนของจางต้า นางเห็นว่าที่นี่มีถึงสิบห้อง ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มออกมาทันทีมาตอนนี้ดีแล้ว พวกนางทั้งตระกูลสามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้แล้ว และไม่ต้องแออัดเหมือนกับเรือนก่อนหน้านั้นที่พวกเขาเคยอาศัยอยู่มาก่อนเด็กรับใช้ทำตามที่เจี่ยนอันอันสั่ง นำธัญพืชบนรถม้าทั้งหมดเก็บเข้าไปในยุ้งฉางที่นี่เองก็มีห้องใต้ดินเช่นกัน ด้านในกว้างขวางเป็นอย่างมากพืชผักและอาหารเหล่านั้น ทั้งหมดถูกนำไปเก็บในคลังใต้ดินสาวใช้และเหล่าชาวบ้าน แบกผ้าห่มและหมอนมา แล้วรอให้ฮูหยินใหญ่จัดสรรห้องพักฮูหยินใหญ่มองไปยังคนในครอบครัวของตนเอง ไม่นานนักก็จัดการออกมาอย่างรวดเร็วเจ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 243

    ไม่นานนักก็มีฝนเม็ดใหญ่ตกลงมาสมาชิกในตระกูลทั้งหมดพากันวิ่งเข้าไปหลบฝนในห้องซ่างชิวและอวี๋ว่านคิดอยากจะช่วยเหลือ ทว่าก็ยังคงถูกเจี่ยนอันอันห้ามเอาไว้เมื่อเห็นว่าฝนยิ่งตกก็ยิ่งหนัก ชาวบ้านทั้งหลายนั้น ฝ่าฝนตกหนักในที่สุดก็ปูอิฐหินจนเสร็จเจี่ยนอันอันยืนอยู่ตรงประตูห้อง มองในลานที่ปูอิฐหิน นางพยักหน้าอย่างพึงพอใจ“พวกเจ้าทั้งหลายเข้ามาเถอะ”ชางบ้านทั้งหลายเมื่อได้ยินคำของเจี่ยนอันอัน ก็รีบวิ่งมายังหน้าประตูพวกเขาก้มหน้าลง รอให้เจี่ยนอันอันคอยจัดการเจี่ยนอันอันเมื่อเห็นทุกคนฝ่าฝนไปปูพื้นในลานจนเรียบร้อยเดิมทีนางก็ไม่ได้มีความแค้นอะไรกับคนเหล่านี้มากนัก จึงได้พูดกับพวกเขาออกมา“ข้าน่ะ แยกแยะการให้รางวัลและลงโทษชัดเจน”“พวกเจ้าทำงานให้ที่ข้ามอบหมายให้สำเร็จ ข้าก็จะช่วยแก้พิษในร่างกายให้พวกเจ้า”ชาวบ้านเหล่านั้นเมื่อได้ยิน ก็รีบเงยหน้าขึ้นมองยังเจี่ยนอันอันนางหยิบขวดเล็กๆ ออกมาจากห้วงมิติด้านในนั้นเป็นยาแก้พิษนางยื่นขวดกระเบื้องเล็กๆ ให้ชาวบ้านเหล่านั้น บอกให้พวกเขากินยาสามวันวันละหนึ่งเม็ดชาวบ้านเหล่านั้นรับขวดกระเบื้องนั้นไปอย่างมีความสุข เปิดขวดแล้วเทยาเม็ดสีแดงเ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 244

    ในตอนที่เจี่ยนอันอันกำลังลังเลใจอยู่นั้น ฉู่จวินสิงก็เข้ามาข้างๆ นางเขาพูดออกมาเสียงเบา “พวกเรายังไม่อาจออกไปจากที่นี้ได้อีกสักระยะหนึ่ง พวกเราตอบรับไปดีแล้ว”เจี่ยนอันอันมองไปยังท่านปู่เฉิน ก็พบว่าเขากำลังมองมายังตนเองด้วยใบหน้าคาดหวังนางเองก็เข้าใจ พวกนางตอนนี้ต้องมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านชิงสุ่ยต่อให้นางอยากรีบจะกลับไปยังเมืองจิงโจว ก็ไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำได้ในหนึ่งหรือสองวันนอกจากนี้แล้วฉู่จวินสิงยังต้องการคน เพื่อจะมาเป็นหนึ่งในลูกน้องของเขามาตอนนี้มีโอกาสที่จะเอาชนะใจคนแล้วเมื่อคิดถึงตรงจุดนี้ ในที่สุดเจี่ยนอันอันก็ตอบตกลง“ในเมื่อหมู่บ้านชิงสุ่ยไม่มีหมอประจำหมู่บ้าน เช่นนั้นข้าก็จะเป็นหมอประจำหมู่บ้านเอง”เมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันตอบตกลงออกมา ในที่สุดใบหน้าของท่านปู่เฉินก็เผยยิ้มขึ้นเขาพูดออกมาอย่างมีความสุข “พวกเราถึงแม้ว่าจะไม่มีเงินอะไร แต่พวกเรามีแรงกำลัง”“ต่อไปแม่นางเจี่ยนอยากให้พวกเราทำอะไร พวกเราก็จะช่วยเจ้าทำ”เจี่ยนอันอันเมื่อคิดถึงเหล่าชาวบ้านในหมู่บ้าน ส่วนมากล้วนแต่เป็นคนหนุ่มสาวพวกเขามีแรงกำลังภายหน้าให้ฉู่จวินสิงสอนศิลปะการต่อสู้ให้กับชาวบ้าน ใ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 245

    เจี่ยนอันอันยิ้มให้ซ่างซิว แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมาในใจนางคิด อีกเดี๋ยวจะให้เด็กรับใช้มาเก็บเกี่ยวธัญพืชนั้น พวกเขาจะต้องถูกภาพฉากเบื้องหน้าทำให้ตกใจเข้าพวกเขาจะต้องถามนาง ว่าธัญพืชเหล่านี้ทำไมถึงได้งอกออกมาในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้นเมื่อถึงเวลานั้นนางก็จะใช้เหตุผลที่ว่าได้สูตรลับมาจากเจ้าอาวาส เพื่อขายผ้าเอาหน้ารอดไปซ่างชิวเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันที่คอยจับจ้องธัญพืชด้วยความเหลือเชื่อเขาก็คาดเดาว่า เจี่ยนอันอันจะต้องไม่รู้ว่าควรจะเก็บเกี่ยวธัญพืชนี่อย่างไรซ่างชิวพูดออกมาอย่างอาจหาญ “แม่นางเจี่ยน ข้าช่วยท่านเก็บเกี่ยวธัญพืชเอง”เจี่ยนอันอันไม่ได้ปฏิเสธ ปล่อยให้ซ่างชิวมาเก็บเกี่ยวและก็เป็นในตอนนี้ จู่ๆ ก็มีเสียงร้องน่าอนาถดังขึ้นมาจากที่ไกลดูเหมือนว่าจะมีคนได้รับอันตรายแล้วซ่างชิววางเครื่องมือในมือลง แล้วมองไปยังทางด้านที่มีเสียงร้องดังออกมาและเพราะว่าอยู่ห่างออกไป พวกเขาทั้งสามคนต่างก็มองไม่เห็นว่าเป็นใครที่ส่งเสียงร้องน่าอนาถดังออกมาเจี่ยนอันอันจูงมือฉู่จื่อซีเอาไว้ แล้วเดินไปทางด้านที่มีเสียงดังขึ้นในตอนที่ทั้งสามคนมาถึงนั้น ก็พบกับชาวบ้านที่ก่อนหน้านั้นถูกทำให้ตกใ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 246

    เจี่ยนอันอันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ฉู่จื่อซีถึงขั้นสามารถฟังภาษางูได้ทันใดนั้นในใจนางก็ยินดีขึ้นมาไม่คิดเลยว่า ฉู่จื่อซีจะมีความแข็งแกร่งพิเศษเหนือคนธรรมดาทั่วไปเช่นนี้นางมองไปยังงูตัวใหญ่ตัวนั้น สายตาฉายแววความเย็นชาแวบผ่านมา“เจ้าถึงขั้นด่าว่าข้าสารเลว วันนี้ข้าจะทำให้เจ้ารู้ถึงผลที่ตามมาของการด่าข้า”เจี่ยนอันอันพูดออกมา มุมปากก็ยกเป็นรอยยิ้มอาฆาตขึ้นมางูตัวใหญ่เมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันเป็นเพียงแค่หญิงสาวเท่านั้น จึงไม่ได้นำคำพูดของนางเก็บใส่ใจเลยสายตาเย็นชาของมันมองไปยังฉู่จื่อซี ปากก็ส่งเสียง ‘ฟ่อ’ ออกมาฉู่จื่อซีมองไปยังงูใหญ่ ใบหน้าอ่อนเยาว์นั้นไม่มีความกลัวแม้แต่น้อย“ข้าจะบอกเจ้าให้นะ ว่าข้าไม่กลัวเจ้าแม้แต่น้อย”ฉู่จื่อซีพูดออกมา ก็เดินพุ่งไปยังงูตัวใหญ่เจี่ยนอันอันเกรงว่าฉู่จื่อซีจะเกิดอันตราย จึงดึงเขาไปยังด้านหลังกายฉู่จื่อซีชี้ไปยังงูตัวใหญ่ พูดออกมาเสียงดัง “อาสะใภ้รอง งูตัวนี้เพิ่จะด่าข้าว่าเด็กสารเลว พวกเราจะต้องไม่ปล่อยมันไป!”เจี่ยนอันอันฟังคำของเด็กน้อย ในใจนั้นมีแผนการอยู่ก่อนแล้วนางยังไม่เคยกินเนื้องูมาก่อน วันนี้จะต้องลองชิมดูเสียแล้วมือขอ

บทล่าสุด

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 281

    เจี่ยนอันอันไม่อยากเสียเวลาอีกแล้วจึงก้าวยาวๆ ออกไปข้างนอกคนทั้งสี่ขึ้นไปนั่งบนรถม้าแล้วตรงไปยังจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจวจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจวไม่ได้อยู่ในอำเภอไถหยาง แต่อยู่ในเมืองหลักระหว่างทางพวกเจี่ยนอันอันรู้สึกหิว แต่ตอนนี้พวกนางไม่มีกะจิตกะใจจะไปกินข้าวในร้านอาหารเลยสักนิดเจี่ยนอันอันซื้อขนมปังกับน้ำจากร้านค้าในมิติแล้วแจกจ่ายให้พวกฉู่จวินสิงสามคนพวกเขาไม่เคยเห็นขนมปังมาก่อน ต่างมองห่อขนมปังอย่างอึ้งงัน ไม่รู้ว่าควรกินอย่างไรเจี่ยนอันอันบอกพวกเขาว่าต้องฉีกซองออกเสียก่อนจึงจะสามารถกินอาหารที่อยู่ข้างในได้คนทั้งสามฉีกซองขนมปังโดยเลียนแบบท่าทางของเจี่ยนอันอันกลิ่นหอมของขนมปังลอยเข้าจมูก ประกอบกับคนทั้งสี่กำลังหิวจึงรีบกัดกินคำโตเซิ่งฟางกินพลางถามว่า “อันอัน นี่คืออะไรหรือ เหตุใดจึงนุ่มอร่อยเช่นนี้?”เจี่ยนอันอันดื่มน้ำคำหนึ่ง กลืนขนมปังในปากลงไป“นี่คือของว่างที่ข้าทำขึ้นมาในบ้าน ข้าตั้งชื่อให้มันว่าขนมปัง”“ที่ข้ายังมีอีกเยอะ พวกท่านกินให้เต็มที่”“ขนมปังค่อนข้างติดคอ พวกท่านกินน้ำตามไปด้วย”ฉู่จวินสิงเคยเห็นน้ำแร่มาก่อน เขารู้ว่าควรเปิดของสิ่งนี้อย่างไรเขาหมุน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 280

    ในปีนั้นตอนที่เกิดการสังหารหมู่ขึ้น คนในครอบครัวของจงซิ่นเองก็ไม่รอดลูกชายลูกสะใภ้ของเขา ล้วนแต่ตายในน้ำมือของศัตรูจงซิ่นเพื่อที่จะแก้แค้นให้คนในครอบครัว ก็โวยวายที่จะไปฆ่าคนในราชวงศ์ในตอนนั้นเวินอี๋พยายามห้ามเอาไว้อย่างเต็มที่ แล้วยังบอกเขาว่าด้านนอกนั้นวุ่นวายเป็นอย่างมากถึงแม้ว่าเขาจะมีแรงพละกำลังเต็มที่ ทว่าเพียงแค่สองหมัดยากจะเอาชนะสี่มือได้เขาอยากจะแก้แค้นก็ไม่ควรจะรีบร้อนในตอนนี้รอจนเมื่อดึกสงัดผู้คนเงียบสงบลง ค่อยไปแก้แค้นก็ยังไม่สายทว่าจงซิ่นในตอนนั้นถูกความแค้นท่วมท้นทำให้ตาบอดไป เขายืนกรานจะไปแก้แค้นคนที่สังหารครอบครัวเขาจงซิ่นไม่ได้ฟังคำเกลี้ยกล่อมของเวินอี๋ หยิบมีดเล่นยาวแล้วเดินออกไปเวินอี๋กังวลในความปลอดภัยของจงซิ่น แต่ก็ไม่อยากทิ้งจงหลานเอาไว้ที่บ้านเพียงลำพัง พ่อแม่ของจงหลานเพื่อที่จะปกป้องนางแล้ว ถึงได้ตายไปภายใต้คมมีดของศัตรูหากว่านางถูกฆ่า เกรงว่าจงซิ่นคงไม่อาจใช้ชีวิตได้อย่างปกติไปตลอดเพื่อที่จะปกป้องจงหลาน เวินอี๋จึงรออยู่ที่บ้านรอจนเมื่อจงซิ่นกลับมาพร้อมกับบาดแผลทั่วร่างกาย ก็มองเห็นเวินอี๋นอนอยู่กลางลานบ้านแล้วจงหลานอายุสองขวบนั่งร้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 279

    และในตอนที่จงซิ่นกำลังสงสัยอยู่นั้น เซิ่งฟางก็เดินเข้ามาในตอนที่รู้ว่าจะไปบ้านของจงซิ่นเพื่อช่วยคน เซิ่งฟางเองก็ไม่ได้คัดค้านฉู่จวินสิงให้จงซิ่นขึ้นมานั่งบนรถม้า ไม่นานนักก็พากันเดินทางไปยังบ้านของจงซิ่นตลอดทาง จงซิ่นอดที่จะมองไปยังเจี่ยนอันอันเป็นระยะๆ ไม่ได้เขาพบว่าเจี่ยนอันอันเต็มไปด้วยความสงบนิ่ง เหมือนว่าจะมีความมั่นใจอย่างเต็มที่ที่จะช่วยเวินอี๋เอาไว้ทว่าไม่ว่าเขาจะมองอย่างไรก็รู้สึกว่าเจี่ยนอันอันอายุยังน้อย ไม่เหมือนกับคนที่มีทักษะทางการแพทย์เจี่ยนอันอันรู้ว่าจงซิ่นกำลังสงสัยในความสามารถขอองตน แต่นางไม่ใส่ใจนางแน่ใจว่าจะรักษาร่างกายเวินอี๋ได้ระหว่างทางไปยังบ้านของจงซิ่น จงซิ่นก็ได้รู้ว่าเจี่ยนอันอันเป็นภรรยาของฉู่จวินสิงรถม้าไม่นานนักก็มาถึงประตูบ้านจงซิ่น จงซิ่นลงมาจากรถม้าก่อน เคาะประตูดังขึ้นประตูถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว เด็กน้อยอายุราวเจ็ดแปดขวบคนหนึ่งโผล่หัวออกมาเมื่อนางเห็นว่าจงซิ่นกลับมาแล้ว ก็รีบเปิดประตูเรือนขึ้น“ท่านปู่ ท่านรีบไปดูเข้า ท่านลุงเวินไม่สบายอีกแล้ว”จงซิ่นได้ยินคำนี้เข้า ก็รีบเดินเข้าไปทว่าเขาเพิ่งจะเดินไปได้เพียงแค่ไม่กี่ก้าว ก็ค

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 278

    จงซิ่นจ้องมองฉู่จวินสิงขึ้นๆ ลงๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้น“ท่านคือเยียนอ๋องคนนั้นที่ถูกเนรเทศมายังเมืองอินเป่ยหรือ?”ฉู่จวินสิงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจำตนเองได้ ก็พยักหน้าออกมา “เป็นข้าเอง”จงซิ่นที่เดิมขมวดคิ้วอยู่ก็ผ่อนคลายลงทันทีเขาเคยได้ยินเวินอี๋พูดออกมา เยียนอ๋องจากแคว้นไท่ยวนทั้งกล้าหาญและเก่งการสู้รบ ทำความดีความชอบให้แคว้นไท่ยวนมาไม่น้อย ส่วนวิชาลูกเตะทลายเมฆานั้น ก็เป็นเยียนอ๋องที่สร้างขึ้นมาจงซิ่นอยากจะพบกับเยียนอ๋องมานานแล้ว กลับไม่คิดเลยว่าจะมาพบกับเขาได้ที่นี่จงซิ่นรีบกำหมัดโค้งกายทำความเคารพฉู่จวินสิง“ข้าน้อยจงซิ่น คารวะเยียนอ๋อง”ฉู่จวินสิงรีบพูดขึ้น “มาตอนนี้ข้าไม่ใช่เยียนอ๋องอะไรนั่นอีกแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องทำความเคารพอะไรเช่นนี้อีก”จงซิ่นยืดตัวขึ้น ใบหน้าค่อยๆ เผยให้เห็นรอยยิ้มยินดีขึ้นมา“ข้าอยางจะพบกับเยียนอ๋องมานานแล้ว กลับไม่คิดเลยว่า จะมาพบกับท่านที่นี่ได้”จงซิ่นตื่นเต้นมากเช่นนี้ ทำให้ฉู่จวินสิงประหลาดใจเล็กน้อย“ผู้เฒ่าจงไปเรียนลูกเตะทลายเมฆามาจากที่ใดกัน?”วิชาเตะนี้เขาเคยสอนไปเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น และคนคนนั้นก็ตายไปในสนามรบเมื

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 277

    จ้าวลิ่วกอดความทะเยอทะยานมายังเมืองหลวง แต่ก็พบว่าที่นี้หาเงินได้ไม่ง่ายเหมือนอย่างที่เขาคิดเอาไว้เดิมทีเขาก็ไม่ได้มีความสามารถอะไร ในตอนที่อยู่ที่บ้านก็ไม่เคยไปทำงานที่ทุ่งนาอะไรเลยหลังจากที่มาในเมืองแล้ว เขาถึงกับอึ้งตะลึงไปโลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสันสวยงาม แตกต่างไปจากความสงบสุขของหมู่บ้านชิงสุ่ยอย่างสิ้นเชิงจ้าวลิ่วคลุกคลีอยู่ด้านนอกมาสองปี แต่กลับคลุกคลีจนกลายเป็นคนที่ไม่มีคุณธรรมหากว่าถูกครอบครัวจางต้าเห็นเข้า ไม่รู้ว่าจะดุด่าเขาว่าอย่างไรแต่ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือ หญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าเขาจะรู้จักกับพี่ห้าของเขาได้ไม่นานจ้าวลิ่วก็โพล่งออกมา “ข้าไม่รู้จักจ้าวอู่”เขาเพิ่งจะพูดคำนี้ออกมาจบ ก็เสียใจเสียจนอยากจะกัดลิ้นของตนเองทิ้งเสียเมื่อครู่นี้เจี่ยนอันอันไม่ได้พูดถึงชื่อของจ้าวอู่ แต่ตอนนี้เหมือนว่าเขาจะสารภาพมันออกไปเองแล้วเจี่ยนอันอันกลอกตาไปมาให้จ้าวลิ่ว นางไม่ได้เปิดโปงเขา แต่พูดกับเซิ่งฟางออกมา“พี่เซิ่ง ท่านนำตัวเขากลับไปขังที่ว่าการอำเภอเสียก่อน”“รอจนเมื่อเรื่องของพวกเราจัดการกันเรียบร้อยแล้ว ข้าจะกลับมาสั่งสอนเขาให้ดีๆ”เซิ่งฟางพยักหน้า แล้วจ้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 276

    ผู้คนที่ผ่านไปมาจดจำเซิ่งฟางได้นานแล้ว แต่พวกเขาเพียงแต่ยืนอยู่ด้านข้าง ไม่มีใครช่วยพูดให้จ้าวลิ่วถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังโกรธแค้นอยู่ในใจเพราะเรื่องสังหารหมู่ในปีนั้นแต่พวกเขาก็ไม่ล่วงเกินเจ้าหน้าที่ทางการ ต่างก็พากันคอยเป็นผู้รับชมอยู่ด้านข้างจ้าวลิ่วเมื่อเห็นว่าไม่มีใครคอยช่วยพูดแทนเขา ก็โมโหเป็นอย่างมาก คิดที่จะดิ้นรนให้หลุดรอดออกมาจากมือของจงซิ่นทว่ามือของจงซิ่นที่จับเขาเอาไว้ก็ยิ่งออกแรงมากยิ่งขึ้นจ้าวลิ่วเจ็บเสียจนต้องกัดฟัน ทั่วทั้งกายอดไม่ได้ที่จะสั่นเทาขึ้นมาข้อมือของเขาแทบจะหัก ชายชราผู้นี้ทำไมถึงไม่ยอมปล่อยเขาไปเซิ่งฟางยกมือขึ้น แล้วเหวี่ยงไปยังใบหน้าอีกด้านหนึ่งของจ้าวลิ่วสองฝ่ามือนี้ ทำเสียจนใบหน้าของจ้าวลิ่วบวมจนกลายเป็นหมูมุมปากของจ้าวลิ่วมีเลือดไหลซึมออกมาผู้คนที่ผ่านไปมาคอยดูอยู่ด้านข้าง ก็ตกใจเสียจนต้องก้าวถอยหลังไปพวกเขาต่างก็ลอบยินดีที่ตนเองไม่ได้ปากมากช่วยพูดให้กับจ้าวลิ่วมิฉะนั้นแล้วฝ่ามือนี้ เกรงว่าคงจะตกลงบนใบหน้าของพวกเขาแทนจ้าวลิ่วถูกตบเสียจนวิงเวียนดวงตาพร่ามัว ในตอนนี้เขารู้สึกเสียใจขึ้นมาแล้วจริงๆเขาควรจะหยิบเอาถุงเงินนั่น ไปร้านอาห

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 275

    เมื่อเห็นว่ากีบม้ากำลังจะตกลงบนกายของขอทาน ท่ามกลางกลุ่มคนนั้นจู่ๆ ก็มีเสียงคนร้องดังขึ้น“จ้าวลิ่ว เจ้าบ้านี่ไม่ต้องการชีวิตแล้วอย่างนั้นหรือ!”คนนั้นเมื่อพูดจบ ก็รีบพุ่งเข้ามาเตะลงบนกายของจ้าวลิ่วจ้าวลิ่วที่เดิมทีผอมบางอ่อนแรง เมื่อถูกเตะเข้าก็กลิ้งไปริมถนนกีบม้าตกลงบนถนนอย่างแรง ม้าส่งเสียงร้องดังขึ้น หลังจากที่กีบม้าเหยียบลงบนพื้นอย่างแรงเพียงไม่กี่ครั้ง ถึงได้หยุดลง ในตอนที่เจี่ยนอันอันได้ยินคนผู้นั้นเรียกขอทานว่าจ้าวลิ่วนั้น ก็อดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้นางจำที่จ้าวอู่พูดได้ว่า เขามีน้องหกอยู่คนหนึ่งเข้ามาในเมืองเมื่อสองปีก่อนเขาตามหาน้องหกคนนั้นมาสองปีกว่า ก็ตามหาไม่พบส่วนน้องหกคนนั้นของเขา ชื่อว่าจ้าวลิ่วเจี่ยนอันอันมองไปยังจ้าวลิ่วด้วยความสงสัย พบเพียงใบหน้าของเขาสกปรกอย่างมากไม่มีทางที่จะมองรูปลักษณ์เดิมได้ชัดเจนจ้าวลิ่วลุกขึ้นมา แล้วรีบไปยังเบื้องหน้าของคนที่เตะเขาอย่างไม่ยินยอม“ตาเฒ่านี่ เตะข้าทำอะไรกัน?”“เจ้ารู้หรือไม่ที่เจ้าเพิ่งจะทำไปเมื่อครู่นี้ มาทำลายเรื่องดีๆ ของข้าไปอย่างสิ้นเชิง”เจี่ยนอันอันมองไปยังคนที่เตะจ้าวลิ่ว ก็พบว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นชา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 274

    “หวังว่าท่านจะรักษาคำพูด” เจี่ยนอันอันพูดจบ ก็โบกมือขึ้น “ท่านไปได้แล้ว เรื่องที่ท่านมายังที่ว่าการอำเภอ ห้ามบอกผู้อื่น”เจ้าเมืองตานรีบตอบรับออกมา เขาหันไปมองยังเซิ่งฟาง ก็พบว่าอีกฝ่ายพยักหน้าให้กับเขาหลังจากที่เจ้าเมืองตานโค้งคำนับให้กับทั้งสี่คนแล้ว ก็รีบเดินออกไปในตอนที่เขามายังที่ว่าการอำเภอนั้น ไม่ได้นั่งเกี้ยว และก็ไม่ได้สวมเครื่องแบบทางการมา เพียงแต่สวมเสื้อผ้าธรรมดาเท่านั้นเขาเองก็กลัวว่าตนเองจะสะดุดตาจนเกินไป แล้วถูกคนของผู้ว่ามณฑลจงโจวจดจำได้เข้าหลังจากที่เดินออกจากที่ว่าการอำเภอแล้วนั้น เจ้าเมืองตานก็รีบมุ่งหน้ากลับไปยังจวนของตนเองเขาก้มหน้าเดินอย่างเร่งรีบ จนชนเข้ากับคนผู้หนึ่งเจ้าเมืองตานเงยหน้าขึ้น ก็พบกับขอทานที่ทั่วทั้งเนื้อตัวสกปรกมอมแมม ถูกเขาชนจนล้มลงกับพื้นขอทานล้มลงร้อง “โอ๊ย” ออกมา ใบหน้าที่สกปรกนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเจ้าเมืองตานรีบร้อนกลับไปยังจวน จึงไม่ได้สนใจขอทานนั่น เขาส่งเสียงเย็นชา ก่อนจะรีบจากไปที่เขาไม่รู้ก็คือ ในตอนที่เขาชนเข้ากับขอทานเมื่อครู่นี้นั้น ถุงเงินตรงเอวของเขา ได้ตกไปอยู่ในมือของขอทานนั่นแล้วขอทานส่งเสียงร้องดัง “โอ๊ย”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 273

    สายตาของเจี่ยนอันอันจ้องเขม็งไปยังใบหน้าของเจ้าเมืองตาน อย่างจะคิดมองหาท่าทีโกหกจากสีหน้าของเขาในตอนที่เจ้าเมืองพูดออกมานั้น สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึม สายตาเผยให้เห็นความโกรธแค้นออกมาดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้พูดโกหก สายตาของเจี่ยนอันอันดูเย็นชา จนทำให้ในใจของเจ้าเมืองตานที่มองดูเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาเขาไม่กล้าที่จะสบสายตากับเจี่ยนอันอัน จึงทำได้เพียงมองไปยังทิศทางอื่นเจี่ยนอันอันพูดออกมาอย่างเย็นชา “ท่านเพิ่งจะพูดออกมาว่า ท่านสนิทชิดเชื้อกันท่านผู้ว่ามณฑลจงโจว”“แล้วทำไมท่านยังจะนำเรื่องนี้มาบอกพวกเราอีก”“ท่านไม่กลัวหรือว่าคำที่ท่านพูดออกมาเหล่านี้ จะลอยเข้าหูผู้ว่ามณฑลจงโจวเข้า?”แน่นอกว่าเจ้าเมืองตานย่อมหวาดกลัว เพียงแต่ว่าเขาไม่อยากสมคบคิดกับคนชั่วอีกในตอนแรกที่เขามีความสัมพันธ์อันดีกับผู้ว่ามณฑลจงโจวนั้น ทั้งหมดก็เป็นเพียงเพราะว่าพวกเขาล้วนแต่เป็นคนบ้านเกิดเดียวกัน เขาถือว่าผู้ว่ามณฑลเป็นคนสนิท ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะหารือกับอีกฝ่ายมาโดยตลอดเพียงแต่ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงนั้น ผู้ว่ามณฑลจงโจวจะเข้าร่วมสมคบคิดกับคนที่มาเพื่อทำการสังหารหมู่ในปีนั้นไม่เพียงแต่เท่านี้ เขาเพื่

DMCA.com Protection Status