Share

บทที่ 205

Author: ซินต้งหรูสุ่ย
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
เมื่อมาถึงห้องพิจารณาคดี เซิ่งฟางก็ไปนั่งอยู่ที่เก้าอี้นายอำเภอ

เขาตบไม้เรียกสติและพูดเสียงดัง “ทุกคนในห้องโถง เหตุใดพบข้าแล้วจึงไม่คุกเข่า?”

สิ้นเสียงของเซิ่งฟาง เหล่าเจ้าหน้าที่ทางการในห้องโถงก็เคาะไม้พลองน้ำไฟ[1]

พวกเขาตะโกนว่า “เวย...อู่!”

พวกบ่าวรับใช้หวาดกลัวจนหน้าซีดและรีบคุกเข่า

พ่อของจางต้าไม่กล้าหยาบคาย รีบคุกเข่าลงเช่นกัน

ส่วนเจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิงยืนนิ่งอยู่กับที่

บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการไม่กล้าส่งเสียงต่อ พวกเขายืนขนาบทั้งสองด้าน สายตามองตรงไปข้างหน้า

เซิ่งฟางย่อมไม่ให้พวกเขาคุกเข่าอยู่แล้ว เขาตบไม้เรียกสติอีกครั้งและพูดเสียงดังกับพ่อของจางต้า

“คนในห้องโถง เจ้าทำความผิดอะไร?”

เจี่ยนอันอันยังไม่ทันตอบ พ่อของจางต้าก็ชิงพูดก่อนว่า “เหตุใดสองคนนี้ไม่คุกเข่า ข้าไม่ยอม!”

แม้เซิ่งฟางจะไม่รู้ว่าชายชราผู้นี้เป็นผู้ใด

แต่ในเมื่อตกอยู่ในกำมือของเจี่ยนอันอันกับฉู่จวินสิง เช่นนั้นก็ต้องกระทำความผิดอะไรแน่นอน

เซิ่งฟางตวาดลั่น “บังอาจ! ที่นี่ใช่ที่ที่เจ้าจะทำตัวหยาบคายได้หรือ”

“หากยังกล้าก่อความไม่สงบในห้องพิจารณาคดีอีก ข้าจะสั่งโบยเจ้าห้าสิบไม้!”

พ่อของจางต้าได้ยินว่าจะถ
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 206

    พ่อของจางต้าโมโหเสียจนเลือดลมพลุ่งพล่าน เขาส่งเสียง “อั่ก!” ดังขึ้น ก่อนจะกระอักเลือดออกมาหลังจากที่พ่อของจางต้ากระอักเลือดออกมาแล้ว ก็ล้มลงนอนบนพื้น จับหน้าอกแล้วส่งเสียงร้องครวญครางดังมาไม่หยุดเซิ่งฟางถามออกมา “ที่พวกเจ้าพูดออกมาทั้งหมดนั้น มีหลักฐานหรือไม่?”เด็กรับใช้ที่ทำงานมานานกว่าหนึ่งปี รีบหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกจากกระเป๋าเสื้อของเขาออกทันทีเขายกกระดาษแผ่นนั้นเอาไว้ด้วยมือทั้งสอง แล้วพูดกับเซิ่งฟาง“ท่านนายอำเภอ นี่คือเรื่องเลวร้ายที่พวกเราทำมาทั้งหมด ข้าล้วนแต่เขียนเอาไว้ในกระดาษหมดแล้ว”“ข้ากลัวก็เพียงแต่ว่าวันหน้าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ข้าจะได้มีหลักฐานมาพิสูจน์ว่าตัวเองถูกเจ้านายบีบบังคับ”เซิ่งฟางเหลือบมองเจ้าหน้าที่ทางการที่ยืนอยู่ด้านข้าง เจ้าหน้าที่ทางการรีบเดินเข้ามา แล้วมอบกระดาษนั้นให้กับเซิ่งฟางเซิ่งฟางเปิดออกมา บนนั้นเขียนเอาไว้ถึงเรื่องเลวร้ายต่างๆ ที่ครอบครัวของจางต้าส่งพวกเขาไปทำมาหลายปีเซิ่งฟางตบกระดาษแผ่นนั้นบนโต๊ะ แล้วพูดออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว“ใครก็ได้ ลากชายชรานี่ไปตัดหัวเสีย ส่วนเด็กรับใช้พวกนี้เอาไปขังคุกรับโทษเสีย”พ่อของจางต้าเมื่อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 207

    ฉู่จวินสิง “อ้อ” ดังขึ้นออกมาในตอนท้าย“หากพี่เซิ่งสะดวกพูดออกมาให้ฟังดู”เซิ่งฟางพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองวันมานี้เมื่อวานนี้เมื่อเขามาถึงยังที่ว่าการอำเภอ ก็แสดงหนังสืออนุมัติจากท่านเจ้าเมืองออกมาเจ้าหน้าที่ทางการต่างก็ไม่เชื่อว่าหนังสืออนุมัตินี่เป็นของจริง พวกเขาต่างก็ทยอยนำอาวุธออกมา แล้วฟาดลงมายังทางด้านเซิ่งฟางแล้วเซิ่งฟางจะทำลายพวกเขาได้อย่างไรกันหลังจากการต่อสู้กันอยู่หลายครั้ง เจ้าหน้าที่ทางการเหล่านั้นที่เดิมก็ได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว ทั้งหมดก็ถูกเซิ่งฟางทุบตีจนล้มลงไปเซิ่งฟางเตือนพวกเขาออกมาว่า หากยังไม่ยอมเชื่อฟังอีก พวกเขาทั้งหมดจะต้องถูกฆ่าไปแน่แน่นอนว่าเหล่าเจ้าหน้าที่ทางการย่อมมีใจไม่ยินยอม มีเจ้าหน้าที่ทางการคนหนึ่งสบถด่าเซิ่งฟางออกมาว่าเป็นคนชั้นต่ำขายเมืองเพื่อแลกความรุ่งโรจน์ของตนเมื่อเซิ่งฟางกรุ่นโกรธขึ้นมา ก็ตัดหัวเจ้าหน้าที่ทางการคนนั้นเสียเจ้าหน้าที่ทางการคนอื่นๆ เมื่อเห็นเข้า ต่างก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียววิธีการเชือดไก่ให้ลิงดูของเซิ่งฟาง ทำให้ในใจของเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ เกิดความหวาดกลัวขึ้นมาไม่ว่าจะอย่างไรพวกเขาเองก็เป็นเพียงแ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 208

    เมื่อเอาชนะใจของเจ้าหน้าที่ทางการเหล่านี้ได้แล้ว เรื่องต่างๆ ที่เซิ่งฟางจะทำก็กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมา ช่วงบ่ายของเมื่อวาน มีชาวบ้านวิ่งมาตีกลองร้องทุกข์เซิ่งฟางในฐานะที่เป็นนายอำเภอคนใหม่ แน่นอนว่าย่อมต้องตัดสินคดีความอย่างยุติธรรม ชาวบ้านเหล่านั้นเองก็ไม่คิดว่า นายอำเภอในตอนนี้จะเปลี่ยนเป็นเซิ่งฟางเขายังคิดว่าเซิ่งฟางจะเป็นเหมือนกันกับนายอำเภอคนเก่า ที่จะคิดค่าตัดสินคดีจากพวกเขาแต่กลับไม่คิดเลยว่า เซิ่งฟางจะไม่คิดเงินพวกเขาแม้แต่อีแปะเดียว ก็ตัดสินคดีให้พวกเขาจนเสร็จทัศนคติที่ชาวบ้านเหล่านั้นมีต่อเซิ่งฟาง ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อได้ฟังเรื่องราวของเซิ่งฟางแล้ว เจี่ยนอันอันและฉู่จวินสิงเองต่างก็รู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้มองคนผิดไปเจี่ยนอันอันพูดกับเซิ่งฟางออกมา “พี่เซิ่งทำได้ดีมาก”“คิดว่าภายหน้าชาวบ้านเหล่านี้ จะต้องค่อยๆ เปลี่ยนความเป็นศัตรูที่มีต่อท่าน”เซิ่งฟางส่ายศีรษะออกมา ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ“ความโกรธแค้นที่ชาวบ้านมีต่อข้านั้นได้ฝังรากลึกแล้ว คิดอยากจะเปลี่ยนความคิดของพวกเขา เกรงว่าคงจะยากยิ่ง”เจี่ยนอันอันพูดแนะนำออกมา “เรื่องในปีนั้นเดิมก็ไม่

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 209

    เจี่ยนอันอันช่วยทายาให้กับฉู่จวินสิง แล้วพันผ้าพันแผลให้นางเงยหน้าขึ้นมา ก็พบว่าฉู่จวินสิงมองมายังนางโดยไม่หันเหสายตาไปที่ใด ในสายตายังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม“ท่านอย่ามองข้าเช่นนี้ มันรู้สึกแปลกๆ”เจี่ยนอันอันพูดออกมา แล้วหันหน้าไปอีกด้านหนึ่งฉู่จวินสิงจับใบหน้าของเจี่ยนอันอัน แล้วบีบบังคับให้นางมองสบสายตาของเขา“รอจนเมื่อมือของข้าหายดีแล้ว เจ้าก็สามารถกราบไว้ฟ้าดินแต่งงานกับข้าได้แล้ว”เจี่ยนอันอันเมื่อเห็นว่าฉู่จวินสิงพูดถึงเรื่องแต่งงานขึ้นมาอีกครั้งแล้ว ทันใดนั้นใบหน้าเล็กๆ ของนางก็แดงก่ำขึ้น“ข้ายังไม่ทันได้เตรียมพร้อมแต่งงานกับท่านเลย”เจี่ยนอันอันพูดออกมา แล้วก้มหน้าลงทว่าใบหน้าของนาง ยังคงถูกมือของฉู่จวินสิงจับเอาไว้นางจึงทำได้เพียงแค่เลื่อนสายตาไปที่อื่นในใจของฉู่จวินสิงรู้สึกผิดหวังขึ้นมาเล็กน้อย เขาไม่เพียงแต่พูดถึงเรื่องแต่งงานกับเจี่ยนอันอันครั้งเดียวเท่านั้นเจี่ยนอันอันมักจะใช้เหตุผลต่างๆ มาเอาชนะเขาฉู่จวินสิงพูดออกมาอย่างร้อนรนเล็กน้อย “ก่อนหน้านั้นไม่ใช่ว่าเจ้าตอบตกลงข้าแล้วหรือ ว่าจะแต่งงานกับข้า”“ทำไมตอนนี้ถึงได้พูดว่ายังไม่ทันได้เตรียมพร้อมกัน?”เจี

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 210

    เช้าวันถัดมาในตอนที่ตื่นขึ้น เจี่ยนอันอันก็มีรอยคล้ำใต้ตาขนาดใหญ่นางเดินออกมาจากห้อง ก็มองเห็นฉู่จวินสิงที่กำลังยืนอยู่ด้านนอก“ทำไมท่านถึงได้ตื่นขึ้นเช้าขนาดนี้?” เจี่ยนอันอันพูดขึ้น ก่อนจะหาวออกมาฟอดใหญ่นางไม่ได้นอนมาตลอดทั้งคืน จนถึงตอนนี้ยังคงง่วงนอนมากฉู่จวินสิงเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันเดินออกมา เขาก็ถามออกมาเสียงอ่อนโยน “เมื่อคืนนี้นอนหลับดีหรือไม่?”“ไม่ดีเลยแม้แต่น้อย” เจี่ยนอันอันมุ่ยปากออกมา แล้วเริ่มหาวออกมาอีกครั้งดวงตาของฉู่จวินสิงมาพร้อมกับรอยยิ้ม ในใจคิดว่าเมื่อคืนนี้ไม่มีเขาอยู่ เจี่ยนอันอันเกรงว่าก็คงจะนอนไม่หลับและก็เป็นในเวลานี้ที่เซิ่งฟางเดินเข้ามาเขามองเห็นทั้งสองคนยืนอยู่ตรงประตู ก็พูดออกมาด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข “ทั้งสองท่านตื่นขึ้นมาแล้ว ดีเลยไปกินมื้อเช้ากันเถิด”ในตอนที่กินอาหารกันเสร็จ เจี่ยนอันอันก็ถามเซิ่งฟางออกมาว่า เด็กรับใช้ทั้งสิบกว่าคนเหล่านั้นเป็นอย่างไรบ้าง?เซิ่งฟางคีบอาหารเข้าปากไป เคี้ยวไปพลางพร้อมกับพูดออกมา “ข้าลงโทษโบยพวกเขาไปแปดสิบไม้”“พวกเขาแต่ละคนอดทนกันได้ยังไม่ถึงสามสิบไม้ ต่างก็พากันสิ้นลมหายใจไป”หลังจากที่ทั้งสามคนกิ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 211

    ภาพฉากที่พวกเขาจับมือกัน ถูกทุกคนเห็นกันหมดฮูหยินใหญ่มีความสุขมากเสียยิ่งกว่าใคร ลูกชายคนเล็กของนางไม่เพียงแต่รู้แจ้งแล้ว ยังรู้จักเริ่มเข้าหาก่อนดูเหมือนว่าวันดีของพวกเขาทั้งสองคนคงจะใกล้เข้ามาแล้วในตอนที่ทั้งสองคนนั่งลงแล้ว ฉู่อันเจ๋อก็พูดออกมาอย่างติดตลกว่า “พี่รอง ท่านกับพี่สะใภ้รองสนิทชิดเชื้อกันถึงเพียงนี้”“อีกไม่นานไม่ใช่ว่าข้าก็ใกล้จะได้ดื่มเหล้ามงคลของพวกท่านแล้วใช่หรือไม่?”เจี่ยนอันอันถูกคำพูดของฉู่อันเจ๋อทำให้เขินเสียจนต้องก้มหน้าลงอย่าได้มองว่าเวลานางกระทำเรื่องราวต่างๆ นั้นเฉียบขาด ทว่าเมื่อเป็นเรื่องระหว่างชายหญิงแล้ว นางกลับดูเขินอายเสียยิ่งกว่าใครฉู่จวินสิงไม่ได้สนใจฉู่อันเจ๋อ เขาคีบชิ้นเนื้อขึ้นมา แล้ววางลงไปในชามของเจี่ยนอันอัน“กินเนื้อ อย่าสนใจเขา”เจี่ยนอันอันหยิบชามและตะเกียบขึ้นมา รีบกินข้าวเข้าไปรอจนเมื่อนางกินข้าวเสร็จแล้ว ก็คิดจะออกไปนางเหลือบมองไปยังฉู่จื่อซี ก็เห็นว่าเขากำลังนั่งกินข้าวในชามอย่างเงียบๆสองวันมานี้วุ่นวายอยู่กับเรื่องของชาวบ้าน นางลืมเรื่องที่จะแก้พิษให้ฉู่จื่อซีไปเสียแล้วเมื่อคิดถึงตรงนี้ เจี่ยนอันอันก็รีบว่าไปห้องครัว

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 212

    เจี่ยนอันอันนั่งลง ไม่รู้ว่าฟางอิ๋งท้ายที่สุดแล้วอยากจะพูดอะไรกับนางฟางอิ๋งพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม “อันอันคิดดีแล้วหรือที่จะแต่งงานกับจวินสิง?”ในที่สุดเจี่ยนอันอันก็เข้าใจแล้ว ที่แท้ทุกคนกำลังพูดคุยกันเรื่องที่พวกนางกำลังจะแต่งงานกันอยู่ในลานเรือนนางพยักหน้าอย่างเขินอาย “คิดดีแล้วเจ้าค่ะ”ฟางอิ๋งดึงมือของเจี่ยนอันอันมา อย่างรู้สึกตื่นเต้น“อันอันเป็นคนจิตใจดีมาก ไม่เพียงแต่ไม่รังเกียจที่ครอบครัวเราตอนนี้เปลี่ยนมาตกต่ำยากจน แล้วยังช่วยกำจัดพิษในร่างกายของข้าอีก”“ข้าที่เป็นพี่สะใภ้ใหญ่ เดิมทีควรจะมอบเครื่องประดับอะไรให้เจ้าเพื่อเป็นสินสอดของเจ้า”“ทว่าเมื่อออกมาจากจวนเยียนอ๋อง พวกเราไม่ได้นำอะไรติดตัวออกมาด้วย ข้าช่างรู้สึกละอายใจจริงๆ”ฟางอิ๋งพูดก็รู้สึกละอายใจ น้ำตาก็ไหลคลอขึ้นมาเจี่ยนอันอันเมื่อเห็น ก็รีบพูดปลอบโยนออกมา “พี่สะใภ้ใหญ่อย่าพูดคำพูดเห็นเป็นคนนอกเช่นนี้”“เรื่องสินสอดข้ามีวิธีการ ท่านเพียงแต่รอดื่มเหล้ามงคลก็พอ”ในตอนที่ทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่นั้น ฉู่จวินหลุนก็บังคับรถเข็นเข้ามาเขามายังเบื้องหน้าของทั้งสองคน สายตาจ้องมองไปยังเจี่ยนอันอันอย่างลึกซึ้งเจี่ยนอัน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 213

    “จวินสิงเคยพูดว่าเขาเคยมอบถุงเฉียนคุนที่สามารถใส่ทุกอย่างได้ให้กับเจ้า”“บนโลกนี้มีของล้ำค่าเช่นนี้อยู่จริงอย่างนั้นหรือ?”“และต่อให้มี เกรงว่าก็คงไม่มีทางที่จะมอบถุงเฉียนคุนนี้ให้กับเจ้าก่อนหรอกกระมัง”เจี่ยนอันอันตกตะลึงไปอย่างสิ้นเชิงนางไม่คิดเลยว่า ฉู่จวินหลุนจะไม่เชื่อในเรื่องของถุงเฉียนคุนมาโดยตลอดนางคิดว่าเรื่องนี้สามารถหลอกทุกคนได้แล้วเพราะอย่างไรแล้วในตอนนั้นฉู่จวินหลุนเองก็ไม่เคยตั้งคำถามมาก่อนเมื่อเห็นว่าเจี่ยนอันอันตกตะลึงไปฉู่จวินหลุนก็พูดออกมาต่อว่า “จากที่ข้าเข้าใจจวินสิงแล้ว เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิงมาก่อน”“แม้แต่งานแต่งงานนี้ก็เป็นฮ่องแต้ที่ประทานงานอภิเษกนี้ให้ ในตอนนั้นหลังจากที่ฉู่จวินสิงรู้เรื่องนี้แล้วเขาก็คัดค้านอย่างรุนแรง”“แล้วเขาจะไปพบกับเจ้าก่อนแต่งงานได้อย่างไรกัน?”เจี่ยนอันอันถูกคำพูดนี้ทำจนพูดไม่ออกในใจนางลอบคิดว่า ไม่มีเรื่องอะไรที่จะปิดบังฉู่จวินหลุนได้จริงๆและก็เป็นในตอนนี้ที่ฉู่จวินสิงเดินเข้ามาเขาลอบฟังคำพูดของฉู่จวินหลุนอยู่ด้านนอกประตูแล้วในใจรู้ว่าเจี่ยนอันอันตอนนี้จะต้องลำบากเป็นอย่างมากฉู่จวินสิงดึงมือของเจี่ยนอันอันมา ส

Latest chapter

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 281

    เจี่ยนอันอันไม่อยากเสียเวลาอีกแล้วจึงก้าวยาวๆ ออกไปข้างนอกคนทั้งสี่ขึ้นไปนั่งบนรถม้าแล้วตรงไปยังจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจวจวนผู้ว่าการมณฑลจงโจวไม่ได้อยู่ในอำเภอไถหยาง แต่อยู่ในเมืองหลักระหว่างทางพวกเจี่ยนอันอันรู้สึกหิว แต่ตอนนี้พวกนางไม่มีกะจิตกะใจจะไปกินข้าวในร้านอาหารเลยสักนิดเจี่ยนอันอันซื้อขนมปังกับน้ำจากร้านค้าในมิติแล้วแจกจ่ายให้พวกฉู่จวินสิงสามคนพวกเขาไม่เคยเห็นขนมปังมาก่อน ต่างมองห่อขนมปังอย่างอึ้งงัน ไม่รู้ว่าควรกินอย่างไรเจี่ยนอันอันบอกพวกเขาว่าต้องฉีกซองออกเสียก่อนจึงจะสามารถกินอาหารที่อยู่ข้างในได้คนทั้งสามฉีกซองขนมปังโดยเลียนแบบท่าทางของเจี่ยนอันอันกลิ่นหอมของขนมปังลอยเข้าจมูก ประกอบกับคนทั้งสี่กำลังหิวจึงรีบกัดกินคำโตเซิ่งฟางกินพลางถามว่า “อันอัน นี่คืออะไรหรือ เหตุใดจึงนุ่มอร่อยเช่นนี้?”เจี่ยนอันอันดื่มน้ำคำหนึ่ง กลืนขนมปังในปากลงไป“นี่คือของว่างที่ข้าทำขึ้นมาในบ้าน ข้าตั้งชื่อให้มันว่าขนมปัง”“ที่ข้ายังมีอีกเยอะ พวกท่านกินให้เต็มที่”“ขนมปังค่อนข้างติดคอ พวกท่านกินน้ำตามไปด้วย”ฉู่จวินสิงเคยเห็นน้ำแร่มาก่อน เขารู้ว่าควรเปิดของสิ่งนี้อย่างไรเขาหมุน

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 280

    ในปีนั้นตอนที่เกิดการสังหารหมู่ขึ้น คนในครอบครัวของจงซิ่นเองก็ไม่รอดลูกชายลูกสะใภ้ของเขา ล้วนแต่ตายในน้ำมือของศัตรูจงซิ่นเพื่อที่จะแก้แค้นให้คนในครอบครัว ก็โวยวายที่จะไปฆ่าคนในราชวงศ์ในตอนนั้นเวินอี๋พยายามห้ามเอาไว้อย่างเต็มที่ แล้วยังบอกเขาว่าด้านนอกนั้นวุ่นวายเป็นอย่างมากถึงแม้ว่าเขาจะมีแรงพละกำลังเต็มที่ ทว่าเพียงแค่สองหมัดยากจะเอาชนะสี่มือได้เขาอยากจะแก้แค้นก็ไม่ควรจะรีบร้อนในตอนนี้รอจนเมื่อดึกสงัดผู้คนเงียบสงบลง ค่อยไปแก้แค้นก็ยังไม่สายทว่าจงซิ่นในตอนนั้นถูกความแค้นท่วมท้นทำให้ตาบอดไป เขายืนกรานจะไปแก้แค้นคนที่สังหารครอบครัวเขาจงซิ่นไม่ได้ฟังคำเกลี้ยกล่อมของเวินอี๋ หยิบมีดเล่นยาวแล้วเดินออกไปเวินอี๋กังวลในความปลอดภัยของจงซิ่น แต่ก็ไม่อยากทิ้งจงหลานเอาไว้ที่บ้านเพียงลำพัง พ่อแม่ของจงหลานเพื่อที่จะปกป้องนางแล้ว ถึงได้ตายไปภายใต้คมมีดของศัตรูหากว่านางถูกฆ่า เกรงว่าจงซิ่นคงไม่อาจใช้ชีวิตได้อย่างปกติไปตลอดเพื่อที่จะปกป้องจงหลาน เวินอี๋จึงรออยู่ที่บ้านรอจนเมื่อจงซิ่นกลับมาพร้อมกับบาดแผลทั่วร่างกาย ก็มองเห็นเวินอี๋นอนอยู่กลางลานบ้านแล้วจงหลานอายุสองขวบนั่งร้อ

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 279

    และในตอนที่จงซิ่นกำลังสงสัยอยู่นั้น เซิ่งฟางก็เดินเข้ามาในตอนที่รู้ว่าจะไปบ้านของจงซิ่นเพื่อช่วยคน เซิ่งฟางเองก็ไม่ได้คัดค้านฉู่จวินสิงให้จงซิ่นขึ้นมานั่งบนรถม้า ไม่นานนักก็พากันเดินทางไปยังบ้านของจงซิ่นตลอดทาง จงซิ่นอดที่จะมองไปยังเจี่ยนอันอันเป็นระยะๆ ไม่ได้เขาพบว่าเจี่ยนอันอันเต็มไปด้วยความสงบนิ่ง เหมือนว่าจะมีความมั่นใจอย่างเต็มที่ที่จะช่วยเวินอี๋เอาไว้ทว่าไม่ว่าเขาจะมองอย่างไรก็รู้สึกว่าเจี่ยนอันอันอายุยังน้อย ไม่เหมือนกับคนที่มีทักษะทางการแพทย์เจี่ยนอันอันรู้ว่าจงซิ่นกำลังสงสัยในความสามารถขอองตน แต่นางไม่ใส่ใจนางแน่ใจว่าจะรักษาร่างกายเวินอี๋ได้ระหว่างทางไปยังบ้านของจงซิ่น จงซิ่นก็ได้รู้ว่าเจี่ยนอันอันเป็นภรรยาของฉู่จวินสิงรถม้าไม่นานนักก็มาถึงประตูบ้านจงซิ่น จงซิ่นลงมาจากรถม้าก่อน เคาะประตูดังขึ้นประตูถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว เด็กน้อยอายุราวเจ็ดแปดขวบคนหนึ่งโผล่หัวออกมาเมื่อนางเห็นว่าจงซิ่นกลับมาแล้ว ก็รีบเปิดประตูเรือนขึ้น“ท่านปู่ ท่านรีบไปดูเข้า ท่านลุงเวินไม่สบายอีกแล้ว”จงซิ่นได้ยินคำนี้เข้า ก็รีบเดินเข้าไปทว่าเขาเพิ่งจะเดินไปได้เพียงแค่ไม่กี่ก้าว ก็ค

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 278

    จงซิ่นจ้องมองฉู่จวินสิงขึ้นๆ ลงๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้น“ท่านคือเยียนอ๋องคนนั้นที่ถูกเนรเทศมายังเมืองอินเป่ยหรือ?”ฉู่จวินสิงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจำตนเองได้ ก็พยักหน้าออกมา “เป็นข้าเอง”จงซิ่นที่เดิมขมวดคิ้วอยู่ก็ผ่อนคลายลงทันทีเขาเคยได้ยินเวินอี๋พูดออกมา เยียนอ๋องจากแคว้นไท่ยวนทั้งกล้าหาญและเก่งการสู้รบ ทำความดีความชอบให้แคว้นไท่ยวนมาไม่น้อย ส่วนวิชาลูกเตะทลายเมฆานั้น ก็เป็นเยียนอ๋องที่สร้างขึ้นมาจงซิ่นอยากจะพบกับเยียนอ๋องมานานแล้ว กลับไม่คิดเลยว่าจะมาพบกับเขาได้ที่นี่จงซิ่นรีบกำหมัดโค้งกายทำความเคารพฉู่จวินสิง“ข้าน้อยจงซิ่น คารวะเยียนอ๋อง”ฉู่จวินสิงรีบพูดขึ้น “มาตอนนี้ข้าไม่ใช่เยียนอ๋องอะไรนั่นอีกแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องทำความเคารพอะไรเช่นนี้อีก”จงซิ่นยืดตัวขึ้น ใบหน้าค่อยๆ เผยให้เห็นรอยยิ้มยินดีขึ้นมา“ข้าอยางจะพบกับเยียนอ๋องมานานแล้ว กลับไม่คิดเลยว่า จะมาพบกับท่านที่นี่ได้”จงซิ่นตื่นเต้นมากเช่นนี้ ทำให้ฉู่จวินสิงประหลาดใจเล็กน้อย“ผู้เฒ่าจงไปเรียนลูกเตะทลายเมฆามาจากที่ใดกัน?”วิชาเตะนี้เขาเคยสอนไปเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น และคนคนนั้นก็ตายไปในสนามรบเมื

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 277

    จ้าวลิ่วกอดความทะเยอทะยานมายังเมืองหลวง แต่ก็พบว่าที่นี้หาเงินได้ไม่ง่ายเหมือนอย่างที่เขาคิดเอาไว้เดิมทีเขาก็ไม่ได้มีความสามารถอะไร ในตอนที่อยู่ที่บ้านก็ไม่เคยไปทำงานที่ทุ่งนาอะไรเลยหลังจากที่มาในเมืองแล้ว เขาถึงกับอึ้งตะลึงไปโลกภายนอกที่เต็มไปด้วยสีสันสวยงาม แตกต่างไปจากความสงบสุขของหมู่บ้านชิงสุ่ยอย่างสิ้นเชิงจ้าวลิ่วคลุกคลีอยู่ด้านนอกมาสองปี แต่กลับคลุกคลีจนกลายเป็นคนที่ไม่มีคุณธรรมหากว่าถูกครอบครัวจางต้าเห็นเข้า ไม่รู้ว่าจะดุด่าเขาว่าอย่างไรแต่ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือ หญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าเขาจะรู้จักกับพี่ห้าของเขาได้ไม่นานจ้าวลิ่วก็โพล่งออกมา “ข้าไม่รู้จักจ้าวอู่”เขาเพิ่งจะพูดคำนี้ออกมาจบ ก็เสียใจเสียจนอยากจะกัดลิ้นของตนเองทิ้งเสียเมื่อครู่นี้เจี่ยนอันอันไม่ได้พูดถึงชื่อของจ้าวอู่ แต่ตอนนี้เหมือนว่าเขาจะสารภาพมันออกไปเองแล้วเจี่ยนอันอันกลอกตาไปมาให้จ้าวลิ่ว นางไม่ได้เปิดโปงเขา แต่พูดกับเซิ่งฟางออกมา“พี่เซิ่ง ท่านนำตัวเขากลับไปขังที่ว่าการอำเภอเสียก่อน”“รอจนเมื่อเรื่องของพวกเราจัดการกันเรียบร้อยแล้ว ข้าจะกลับมาสั่งสอนเขาให้ดีๆ”เซิ่งฟางพยักหน้า แล้วจ้อง

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 276

    ผู้คนที่ผ่านไปมาจดจำเซิ่งฟางได้นานแล้ว แต่พวกเขาเพียงแต่ยืนอยู่ด้านข้าง ไม่มีใครช่วยพูดให้จ้าวลิ่วถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังโกรธแค้นอยู่ในใจเพราะเรื่องสังหารหมู่ในปีนั้นแต่พวกเขาก็ไม่ล่วงเกินเจ้าหน้าที่ทางการ ต่างก็พากันคอยเป็นผู้รับชมอยู่ด้านข้างจ้าวลิ่วเมื่อเห็นว่าไม่มีใครคอยช่วยพูดแทนเขา ก็โมโหเป็นอย่างมาก คิดที่จะดิ้นรนให้หลุดรอดออกมาจากมือของจงซิ่นทว่ามือของจงซิ่นที่จับเขาเอาไว้ก็ยิ่งออกแรงมากยิ่งขึ้นจ้าวลิ่วเจ็บเสียจนต้องกัดฟัน ทั่วทั้งกายอดไม่ได้ที่จะสั่นเทาขึ้นมาข้อมือของเขาแทบจะหัก ชายชราผู้นี้ทำไมถึงไม่ยอมปล่อยเขาไปเซิ่งฟางยกมือขึ้น แล้วเหวี่ยงไปยังใบหน้าอีกด้านหนึ่งของจ้าวลิ่วสองฝ่ามือนี้ ทำเสียจนใบหน้าของจ้าวลิ่วบวมจนกลายเป็นหมูมุมปากของจ้าวลิ่วมีเลือดไหลซึมออกมาผู้คนที่ผ่านไปมาคอยดูอยู่ด้านข้าง ก็ตกใจเสียจนต้องก้าวถอยหลังไปพวกเขาต่างก็ลอบยินดีที่ตนเองไม่ได้ปากมากช่วยพูดให้กับจ้าวลิ่วมิฉะนั้นแล้วฝ่ามือนี้ เกรงว่าคงจะตกลงบนใบหน้าของพวกเขาแทนจ้าวลิ่วถูกตบเสียจนวิงเวียนดวงตาพร่ามัว ในตอนนี้เขารู้สึกเสียใจขึ้นมาแล้วจริงๆเขาควรจะหยิบเอาถุงเงินนั่น ไปร้านอาห

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 275

    เมื่อเห็นว่ากีบม้ากำลังจะตกลงบนกายของขอทาน ท่ามกลางกลุ่มคนนั้นจู่ๆ ก็มีเสียงคนร้องดังขึ้น“จ้าวลิ่ว เจ้าบ้านี่ไม่ต้องการชีวิตแล้วอย่างนั้นหรือ!”คนนั้นเมื่อพูดจบ ก็รีบพุ่งเข้ามาเตะลงบนกายของจ้าวลิ่วจ้าวลิ่วที่เดิมทีผอมบางอ่อนแรง เมื่อถูกเตะเข้าก็กลิ้งไปริมถนนกีบม้าตกลงบนถนนอย่างแรง ม้าส่งเสียงร้องดังขึ้น หลังจากที่กีบม้าเหยียบลงบนพื้นอย่างแรงเพียงไม่กี่ครั้ง ถึงได้หยุดลง ในตอนที่เจี่ยนอันอันได้ยินคนผู้นั้นเรียกขอทานว่าจ้าวลิ่วนั้น ก็อดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้นางจำที่จ้าวอู่พูดได้ว่า เขามีน้องหกอยู่คนหนึ่งเข้ามาในเมืองเมื่อสองปีก่อนเขาตามหาน้องหกคนนั้นมาสองปีกว่า ก็ตามหาไม่พบส่วนน้องหกคนนั้นของเขา ชื่อว่าจ้าวลิ่วเจี่ยนอันอันมองไปยังจ้าวลิ่วด้วยความสงสัย พบเพียงใบหน้าของเขาสกปรกอย่างมากไม่มีทางที่จะมองรูปลักษณ์เดิมได้ชัดเจนจ้าวลิ่วลุกขึ้นมา แล้วรีบไปยังเบื้องหน้าของคนที่เตะเขาอย่างไม่ยินยอม“ตาเฒ่านี่ เตะข้าทำอะไรกัน?”“เจ้ารู้หรือไม่ที่เจ้าเพิ่งจะทำไปเมื่อครู่นี้ มาทำลายเรื่องดีๆ ของข้าไปอย่างสิ้นเชิง”เจี่ยนอันอันมองไปยังคนที่เตะจ้าวลิ่ว ก็พบว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นชา

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 274

    “หวังว่าท่านจะรักษาคำพูด” เจี่ยนอันอันพูดจบ ก็โบกมือขึ้น “ท่านไปได้แล้ว เรื่องที่ท่านมายังที่ว่าการอำเภอ ห้ามบอกผู้อื่น”เจ้าเมืองตานรีบตอบรับออกมา เขาหันไปมองยังเซิ่งฟาง ก็พบว่าอีกฝ่ายพยักหน้าให้กับเขาหลังจากที่เจ้าเมืองตานโค้งคำนับให้กับทั้งสี่คนแล้ว ก็รีบเดินออกไปในตอนที่เขามายังที่ว่าการอำเภอนั้น ไม่ได้นั่งเกี้ยว และก็ไม่ได้สวมเครื่องแบบทางการมา เพียงแต่สวมเสื้อผ้าธรรมดาเท่านั้นเขาเองก็กลัวว่าตนเองจะสะดุดตาจนเกินไป แล้วถูกคนของผู้ว่ามณฑลจงโจวจดจำได้เข้าหลังจากที่เดินออกจากที่ว่าการอำเภอแล้วนั้น เจ้าเมืองตานก็รีบมุ่งหน้ากลับไปยังจวนของตนเองเขาก้มหน้าเดินอย่างเร่งรีบ จนชนเข้ากับคนผู้หนึ่งเจ้าเมืองตานเงยหน้าขึ้น ก็พบกับขอทานที่ทั่วทั้งเนื้อตัวสกปรกมอมแมม ถูกเขาชนจนล้มลงกับพื้นขอทานล้มลงร้อง “โอ๊ย” ออกมา ใบหน้าที่สกปรกนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเจ้าเมืองตานรีบร้อนกลับไปยังจวน จึงไม่ได้สนใจขอทานนั่น เขาส่งเสียงเย็นชา ก่อนจะรีบจากไปที่เขาไม่รู้ก็คือ ในตอนที่เขาชนเข้ากับขอทานเมื่อครู่นี้นั้น ถุงเงินตรงเอวของเขา ได้ตกไปอยู่ในมือของขอทานนั่นแล้วขอทานส่งเสียงร้องดัง “โอ๊ย”

  • ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ   บทที่ 273

    สายตาของเจี่ยนอันอันจ้องเขม็งไปยังใบหน้าของเจ้าเมืองตาน อย่างจะคิดมองหาท่าทีโกหกจากสีหน้าของเขาในตอนที่เจ้าเมืองพูดออกมานั้น สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึม สายตาเผยให้เห็นความโกรธแค้นออกมาดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้พูดโกหก สายตาของเจี่ยนอันอันดูเย็นชา จนทำให้ในใจของเจ้าเมืองตานที่มองดูเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาเขาไม่กล้าที่จะสบสายตากับเจี่ยนอันอัน จึงทำได้เพียงมองไปยังทิศทางอื่นเจี่ยนอันอันพูดออกมาอย่างเย็นชา “ท่านเพิ่งจะพูดออกมาว่า ท่านสนิทชิดเชื้อกันท่านผู้ว่ามณฑลจงโจว”“แล้วทำไมท่านยังจะนำเรื่องนี้มาบอกพวกเราอีก”“ท่านไม่กลัวหรือว่าคำที่ท่านพูดออกมาเหล่านี้ จะลอยเข้าหูผู้ว่ามณฑลจงโจวเข้า?”แน่นอกว่าเจ้าเมืองตานย่อมหวาดกลัว เพียงแต่ว่าเขาไม่อยากสมคบคิดกับคนชั่วอีกในตอนแรกที่เขามีความสัมพันธ์อันดีกับผู้ว่ามณฑลจงโจวนั้น ทั้งหมดก็เป็นเพียงเพราะว่าพวกเขาล้วนแต่เป็นคนบ้านเกิดเดียวกัน เขาถือว่าผู้ว่ามณฑลเป็นคนสนิท ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะหารือกับอีกฝ่ายมาโดยตลอดเพียงแต่ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงนั้น ผู้ว่ามณฑลจงโจวจะเข้าร่วมสมคบคิดกับคนที่มาเพื่อทำการสังหารหมู่ในปีนั้นไม่เพียงแต่เท่านี้ เขาเพื่

DMCA.com Protection Status