ฉันยืนเงียบอยู่นานสองนาน ส่วนตุลก็เอาแต่มองฉันจนเขาหันหลังเดินไปซ่อมรถต่อ
“พี่ขอนั่งอยู่ต่อสักพักนะ” ฉันตะเบ็งเสียงบอกตุลแต่เขาไม่ได้ตอบอะไรกลับมาจึงเดินมานั่งที่โต๊ะหินอ่อนตัวเดิม
ผ่านไปครู่ใหญ่เห็นว่าตุลไม่ได้กินน้ำเลยฉันจึงถือวิสาสะเอาน้ำไปให้เขาเพราะความเป็นห่วง
“กินน้ำก่อนไหม”
“ไม่หิว” ไม่ต้องคิดอะไรมากหลังจากที่ฉันพูดจบเขาก็รีบตอบสวนกลับมา
“พี่เห็นตุลไม่ได้กินน้ำเลย…”
“ถ้าหิวเดี๋ยวเดินไปกินเอง”
ฉันถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะนั่งยอง ๆ ลงข้าง ๆ กับตุลที่กำลังซ่อมรถอยู่
“พี่ถามอะไรหน่อยได้ไหม” ฉันพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจัง
“ไม่ว่าง”
“ไม่ว่างหรือเป็นเพราะพี่ตุลถึงไม่อยากคุยด้วย”
ตุลหยุดซ่อมรถแล้วหันมามองฉัน ก่อนจะพูด “รู้ขนาดนี้แล้วจะถามทำไม”
“… แค่อยากรู้เหตุผลว่าทำไมตุลถึงไม่ชอบพี่” ฉันถามคำนี้ออกไปจากความรู้สึกข้างในจริง ๆ ก็แค่อยากรู้เหตุผลที่เป็นเหตุผลจริง ๆ เท่านั้นเอง
“ไม่ชอบคือไม่ชอบ ต้องมีเหตุผล?” เป็นคำตอบที่เลือดเย็นทำให้ฉันเจ็บจนจุกไปทั่วทั้งอก
“นั่นสินะ ไม่ชอบแล้วทำไมต้องมีเหตุผล” ฉันทวนคำพูดของตุลเบา ๆ แล้วถามต่อ “ถ้าไม่ชอบแล้วทำไมถึงชอบพูดถึงเรื่องบนเตียงกับพี่ด้วย”
“พูดเรื่องบนเตียงแปลว่าชอบ?” คิ้วหนาเลิกขึ้นตั้งคำถามกับฉัน
“มันก็ต้องมีความรู้สึกบ้างสิ”
“มีไม่มีก็ขึ้นเตียงได้ทั้งนั้น” เขาตอบอย่างไม่คิดอะไรมากราวกับเรื่องนี้มันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
“ถ้าพี่ได้ขึ้นเตียงกับตุล… จะมีตัวตนในสายตาบ้างหรือเปล่า” ฉันเคยถามเรื่องแบบนี้แล้วและก็อยากจะรู้คำตอบอีกครั้ง
“ถามเพื่อ?”
“ตอบมาสิ”
“ถ้าอยากรู้ก็ลองดูเอง”
“… พี่จะได้เป็นแค่คู่ซ้อมหรือเปล่า” ตุลไม่ตอบอะไรฉันจึงถามต่อ
“ถ้าขึ้นเตียงแล้ว… ตุลจะลืมผู้หญิงที่อยู่ในใจได้ไหม” คำถามนี้ทำให้ตุลจ้องฉันเขม็ง เขาทิ้งอุปกรณ์ซ่อมรถแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“ไม่มีวัน” เขาตอบอย่างเลือดเย็นอีกครั้งก่อนจะเดินหนีไป
ที่ถามทั้งหมดเป็นเพราะฉันลังเล อยากจะลองข้ามผ่านเรื่องนี้ดู บางครั้งถ้าเรามีอะไรกันเขาอาจจะสนใจฉันมากกว่า เพราะตอนนี้เขาไม่สนใจฉันเลย
#บ้าน
หลังจากกลับมาจากอู่ฉันก็สั่งให้คนใช้ในบ้านเอาเหล้ามากให้บนห้อง นั่งดื่มตั้งแต่กลับมาจนตอนนี้สองทุ่มกว่า ๆ
สมองของฉันมันเอาแต่คิดวกวนอยู่แต่เรื่องที่คุยกับตุล ทั้งที่รู้ว่าเขาก็แค่อยากจะได้แต่ทำไมฉันถึงอยากเสนอตัวให้ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่คิดจะทำ
ปัก! ฉันวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นเดินไปหยิบกระเป๋ากับกุญแจเดินออกมาจากห้อง เวลานี้เฮียเฟยไม่อยู่เพราะต้องไปดูแลคลับ
“คุณลิลจะไปไหนครับ” ในขณะที่กำลังเดินออกจากบ้านลูกน้องของเฮียก็รีบโผล่มาถามฉัน
“ไปธุระ… อาจจะไม่กลับมานอนที่บ้านนะคืนนี้ ถ้าไม่เห็นกลับมาก็ฝากบอกเฮียด้วย” พูดจบฉันก็รีบเดินบึ่งไปที่รถ เมื่อแอลกอฮอล์พลุกพล่านในร่างกายฉันก็มีความกล้าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
#อู่ซ่อมรถ
ฉันมาถึงอู่เกือบจะสามทุ่ม คิดว่าตุลจะนอนแล้วแต่ตอนนี้เขานั่งดื่มอยู่กับเพื่อนหนึ่งคน คนที่ใจดี ๆ จะไปเรียกแท็กซี่ให้ฉันตอนนั้น
พอตุลหันมาเห็นรถฉันจอดอยู่เขาก็ทำหน้าหงุดหงิดแบบเดิม ฉันถอนหายใจออกมาหนัก ๆ ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถแล้วเดินมาหาตุลที่กำลังนั่งดื่มกับเพื่อน
“พี่ขอคุยด้วยหน่อยตุล”
“ดึก ๆ แบบนี้มีเรื่องจะคุยจนต้องขับรถมาหาที่อู่?” ตุลถาม เพื่อนของเขาที่นั่งอยู่เงียบไม่พูดไม่จาอะไร
“… ไปคุยกันในห้องได้ไหม”
พอฉันชวนไปคุยในห้องตุลก็เงียบไปครู่หนึ่งเหมือนเขากำลังคิดอะไรอยู่สักอย่าง “พี่ขอไปรอตุลที่ห้องนะ” พอฉันจะเดินไปตุลก็พูดขึ้น “มีอะไรก็คุยตรงนี้จะไปคุยที่ห้องเพื่อ?”พอได้ยินแบบนั้นฉันก็ชะงัก คิดว่าตุลจะเข้าใจที่พูดแต่เหมือนเขาจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ดูท่าจะรำคาญมากกว่า “ดื่มด้วยกันไหมพี่” เพื่อนของตุลพูดชวน เขาคงเห็นว่าฉันเงียบไปจึงถาม “พี่ดื่มมาแล้ว” “ดื่มมาแล้วก็ดื่มอีกได้ มานั่งก่อน ๆ” เขาดูเป็นมิตรมาก ๆ อยากให้ตุลเป็นแบบนี้จัง “พี่อยากคุยกับตุลมากกว่า”“ถ้าอยากคุยก็นั่งรอก่อนแล้วกัน ตอนนี้ไม่ว่าง” ตุลตอบอย่างไร้เยื่อใย “มึงก็คุยกับพี่เขาก่อนดิวะไอ้ตุลจะให้นั่งรอทำไมกว่ามึงจะเลิกแดกคงเช้าพอดี”“รอได้ก็รอ รอไม่ได้ก็กลับ” ตุลบอกเพื่อนก่อนจะหันมามองฉันด้วยสายตาที่เย็นชาแล้วพูดต่อ “ไม่ได้บังคับ” “อื้อ พี่รอได้” ฉันเม้มปากแน่นแล้วมองหาที่นั่ง เห็นมุมหนึ่งพอนั่งได้อยู่จึงเดินมานั่ง ที่ไม่นั่งร่วมโต๊ะกับตุลเพราะกลัวเขาจะหงุดหงิดไปมากกว่านี้ ทำไมฉันต้องอยากชนะใจคนเย็นชาแบบนี้ด้วยนะ ยิ่งเห็นท่าทางเมินเฉยของเขามากเท่าไหร่มันก็ยิ่งทำให้ฉันอยากชนะใจเขามากขึ้น รู้ว่าท้าทายคนอย่างตุลมันอั
ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดเปิดวิดีโอ ก่อนจะใช้สายตามองไปรอบ ๆ ห้องเพื่อหามุมที่พอจะตั้งกล้องแล้วไม่ผิดสังเกตได้เมื่อมองเห็นว่ามุมตรงนั้นมันไม่เป็นที่จับสังเกตก็รีบเอากล้องไปตั้ง ที่ต้องทำแบบนี้ก็เพื่อกันเอาไว้เพราะหลังจากคืนนี้ไม่รู้ว่าตุลจะเป็นยังไง การมีคลิปฉันสามารถใช้ข่มขู่เขาได้ เข้าข่ายแบล็กเมลใช่ไหมล่ะ มันก็ประมาณนั้นนั้นแหละ … ครั้งแรกของฉันมันดูไม่โรแมนติกอย่างที่วาดฝันเอาไว้เลย แต่ทั้งหมดนี้ฉันเลือกให้มันเกิดขึ้นเองหลังจากตั้งกล้องเสร็จฉันก็เดินกลับมานั่งที่เดิม นั่งนิ่ง ๆ อยู่บนเตียงแบบนั้นจนกระทั่งเวลาผ่านไปชั่วโมงกว่า ทั้งที่ตุลบอกเอาไว้ว่าขอแค่ครึ่งชั่วโมงแท้ ๆ แต่นี่มันเกือบจะเช้าแล้ว ด้วยความที่มันนานเกินไปฉันจึงลุกขึ้นจากเตียงกำลังจะเปิดประตูออกไปดูว่าตุลยังดื่มกับเพื่อนอยู่หรือเปล่า หรือว่าเขาหนีไปแล้ว จู่ ๆ ประตูห้องกูถูกเปิดเข้ามาซะก่อน ตุลขมวดคิ้วเข้มมองฉันที่ยืนอยู่หน้าประตู ฉันจึงรีบพูดขึ้น “พี่จะออกไปดูว่าตุลดื่มเสร็จหรือยังน่ะ” “รีบมากขนาดนั้น?”“ป… เปล่าพี่ไม่ได้รีบ ก็… ก็ตุลพูดเองว่าขอครึ่งชั่วโมงแต่นี่มันผ่านไปชั่วโมงกว่าแล้วพี่แค่จะไปดู” ฉันเม้มปาก
ฉันพยายามคิดว่าจะทำยังไงให้ตุลเลิกสนใจเสียงโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ จึงรีบลุกขึ้นแต่พอลุกขึ้นมันก็เจ็บร้าวตรงกลางระหว่างขาจนแทบไม่มีแรง “ตุล” เสียงของฉันทำให้ตุลเปลี่ยนความสนใจหันมามอง เขามองนิ่ง ๆ ไม่ได้ถามอะไร ฉันจึงพูดต่อ “ทำ… ทำต่ออีกรอบได้ไหม?”“ไหว?” เขาเลิกคิ้วถาม ใช่! ฉันไม่ไหว แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้แล้วเขาเห็นโทรศัพท์ฉันชะตาขาดแน่ “ว… ไหวสิ พี่ไหว” “เสียงโทรศัพท์ไม่รับหน่อย?” “ช่างเถอะ เฮียคงโทรตามน่ะ” “โทรศัพท์อยู่ไหน” “…” ฉันสะอึกอ้ำอึ้งเพราะคิดคำตอบไม่ทัน ตุลเดินมาใกล้ ๆ เขาจ้องฉันด้วยสายตาที่จับผิดแล้วถามย้ำ “ถามว่าโทรศัพท์อยู่ไหน”“ย… อยู่ อยู่ไหนไม่รู้พี่จำไม่ได้” “จำไม่ได้ ?” “อื้อ”“งั้นเดี๋ยวช่วยหา” ตุลหันหลังให้ฉันเตรียมจะหาโทรศัพท์ต่อ เสียงนั้นก็สั่นไม่ยอมหยุดสักที ฉันรีบคว้ามือจับแขนตุลเอาไว้ “มาทำต่อดีกว่านะตุล อย่าสนใจเลย”“ถ้าอยากให้ทำต่อก็เอาโทรศัพท์มา” เขาหันมาบอกเสียงแข็ง“ตุลจะสนใจทำไม โทรศัพท์ของพี่นะหรือคิดว่าจะมีผู้ชายคนอื่นโทรมางั้นเหรอ”“…” พอถูกถามแบบนั้นเขาก็เงียบ “มาต่อกันดีกว่านะอย่าสนใจเลย” ตุลแกะมือฉันออกจากแขน เขาไม่สนใจเดินไปตามเสียงสั่นของโท
มันจะดีกว่านี้มาก ๆ ถ้าเขาพูดดี ๆ กับฉันแทนการตวาด ฉันตกเป็นของเขาแล้วนะอ่อนโยนบ้างไม่ได้หรือไง “แล้วตุลไม่นอนด้วยกันเหรอ” “จะกลับไปนอนบ้าน” เขาตอบกลับมาเสียงห้วน“บ้านตุลอยู่ที่ไหนเหรอ” “จะรู้ไปทำไม ? อย่าให้รู้ว่าตามสืบไม่อย่างนั้นได้เจอดีแน่” ฉันเม้มปากแน่นเพราะเขารู้ทันว่าฉันจะตามสืบ ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นฉันคิดแบบนั้น แต่พอเจอดุก็ไม่กล้าจะตามสืบแล้ว ก่อนจะออกไปตุลหยิบรูปภาพบนโต๊ะติดมือไปด้วย ถ้าให้เดาคงจะเป็นภาพของผู้หญิงคนนั้นที่เขารักมาก มันต้องมีสักวันสิที่ฉันแทนที่ผู้หญิงคนนั้นได้ ไม่ท้อหรอก!ฉันพูดกับตัวเองในใจอย่างแน่วแน่ ก่อนจะลุกขึ้นด้วยสภาพที่อิดโรยแล้วสวมใส่เสื้อผ้า เมื่อหันมาที่เตียงก็เห็นมีคราบเลือดเป็นวงใหญ่ นั่นคือเลือดของฉัน… ในเมื่อตุลไม่อยู่ฉันก็ไม่รู้จะนอนที่นี่ไปทำไม จุดประสงค์คืออยากนอนกับเขาไม่ใช่นอนคนเดียว คิดว่าถ้ายอมไปแล้วเขาคงจะนอนด้วยกันแท้ ๆ ดันกลับไปนอนบ้านใจร้ายมากเลย #บ้าน ทันทีที่ฉันเดินผ่านประตูบ้านมาก็เห็นเฮียเฟยกำลังยืนกอดอกทำหน้าไม่รับแขกอยู่ ใจเริ่มรู้สึกกลัวเพราะเฮียโทรมาหาฉันหลายสายมาก ๆ ฉันพยายามเดินให้ปกติเข้ามาในบ้านก่อนจะถาม “ยัง
ฉันหยุดนิ่งครู่หนึ่งเพื่อรอฟังว่าตุลจะพูดอะไรหรือเปล่า สักคำก็ได้ที่ถาม พูดอะไรก็ได้ที่ทำให้รู้สึกดีมากกว่านี้ แต่ไม่เลยเขาไม่ถามอะไรสักคำ “ถ้าพ่อรู้ว่ามึงทำตัวแบบนี้นะไอ้ตุล” ผู้ชายคนนั้นบอกแล้วหันมามองฉัน ก่อนที่ตุลจะพูด “ถ้ามึงไม่พูดพ่อจะรู้ได้ยังไง” ที่พูดมาก็ทำให้ฉันพอจะจับใจความได้ว่าตุลกับผู้ชายคนนั้นเป็นพี่น้องกันแน่นอน เหมือนเขาจะกลัวพ่ออยู่เหมือนกัน “พี่ขอคุยกับตุลก่อนกลับได้ไหม” ทุกอย่างมันต่างไปจากเดิม ตอนที่ยังไม่มีอะไรกันฉันสามารถกวนใจเขาได้เต็มที่ แต่พอมีอะไรกันแล้วฉันกลับรู้สึกไม่กล้า “คุยไร?” “ขอคุยแค่สองคนได้ไหม” พอฉันบอกแบบนั้นผู้ชายที่ยืนข้างตุลก็พูดขึ้น “กูกลับก่อนละกัน เดี๋ยวจะบอกพ่อให้ว่ามึงทำตัวดีมาก ๆ ตั้งใจเรียนสุด ๆ” “เออ” เมื่อเขาเดินไปแล้วฉันก็เดินมาหาตุลที่กำลังจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ พอเห็นแบบนั้นฉันรีบดึงซองบุหรี่มาก่อนเพราะไม่ค่อยชอบกลิ่นของมันสักเท่าไหร่ “เอามา” ตุลมองซองบุหรี่ในมือก่อนจะตวัดสายตาขึ้นมามองหน้าฉันเขม็ง “คุยกันก่อนเดี๋ยวพี่คืนให้” “วุ่นวายจังวะ!!” ไม่รู้ว่าเป็นแค่ฉันหรือเปล่าที่ทำให้เขาไม่สบอารมณ์ได้ขนาดนี้ หรือเขาเป็นแบบนี้กับท
ฉันหันไปมองตุล เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแต่กลับไม่ได้สนใจข้อความของฉันที่เพิ่งส่งไป หัวใจมันรู้สึกเหมือนมีอะไรมาบีบรัดแน่นจุกไปหมดแล้วตอนนี้ “เดี๋ยวฉันมานะ” เป็นอีกครั้งที่เควินจะเดินไปโต๊ะอื่น ฉันไม่ได้ค้านอะไรเขาอยากจะไปก็ให้ไป ตอนนี้สมองมันสนใจแค่ตุลที่กำลังใช้มือโอบผู้หญิงคนนั้นอยู่ สิ่งที่เขาทำกับคนอื่นได้แต่ไม่เคยทำกับฉันเลยสักอย่าง ฉันกำโทรศัพท์ในมือแน่นเมื่อไม่สามารถทนมองภาพนั้นต่อไปได้ แก้วเหล้าในมือถูกยกดื่มจนหมดแก้วอีกครั้งก่อนที่ฉันจะลุกขึ้นเดินไปยังโต๊ะของตุล พอเดินมาที่โต๊ะตุลกับเพื่อนเขาไม่ทันได้สังเกตเพราะคนค่อนข้างเยอะ ฉันดึงมือของตุลที่โอบเอวผู้หญิงอยู่ออกแล้วเป็นฝ่ายแทรกตัวมาคั่นกลางแทน “นี่! ไม่มีตาหรือไงฉันยืนอยู่นะ” ยัยผู้หญิงคนนั้นถามฉันด้วยท่าทางที่หาเรื่อง“ยืนอยู่แล้วยังไง” ฉันเองก็ถามกลับอย่างหาเรื่องเช่นกัน “ใครเหรอตุล?” เธอมองผ่านฉันมาถามตุลที่นั่งอยู่ คนที่ถูกถามไม่ได้ตอบอะไรทั้งนั้น จู่ ๆ ตุลก็ลุกขึ้นยืนแล้วพูดกับเพื่อนที่มาด้วยกัน “กูไปสูบบุหรี่ข้างนอกก่อนนะ”“เออ ๆ” ตุลมองฉันด้วยสายตาที่เลือดเย็นครู่หนึ่งก่อนจะเดินไปเลย มีใครที่เย็นชามากกว่าผู้ชา
#ภายในห้อง หลังจากที่ประตูถูกปิดร่างของฉันก็ถูกดันมาติดกับกำแพงห้อง ฝ่ามือใหญ่จับใบหน้าของฉันให้หันมาอยู่ในระดับเดียวกัน ริมฝีปากหนากดขยี้จูบหนัก ๆ ความดิบเถื่อนทำให้ริมฝีปากเจ็บจนระบมไปหมดไม่นานที่ตุลบดขยี้ความดิบเถื่อนลงบนริมฝีปากของฉันเขาก็ผละใบหน้าออก สายตาเย็นชาตรงหน้ามองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถาม“สนใจแค่เรื่องบนเตียงดีกว่าไหม” “… พี่ไม่ได้ต้องการแค่นั้น” “ถ้ามากกว่านี้คงให้ไม่ได้” ตุลปล่อยใบหน้าของฉันให้เป็นอิสระ จากนั้นเขาก็เดินไปนั่งที่เตียงแล้วพูดต่อ “ให้เลือกอีกครั้งว่าจะอยู่ต่อ หรือจะกลับไป” “…”“ถ้าเลือกอยู่ต่อก็ต้องยอมรับให้ได้ว่าไม่มีสิทธิ์ ไม่มีสถานะ” ตุลเว้นคำพูดก่อนจะถอดเสื้อออกแล้วทิ้งลงพื้น ก่อนจะพูดต่อ “ถ้าเลือกกลับไปทุกอย่างก็จบ ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น”ฉันกำมือแน่นจนมันเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อแล้วถามผู้ชายตรงหน้ากลับ “ถ้าตุลชอบใครสักคนมาก ๆ จะเลือกแบบไหนเหรอ”คนที่ถูกถามไม่ตอบอะไรสักคำ อย่างน้อยมันก็ดีที่เขาให้โอกาสได้เลือกอีกครั้ง แต่ฉันยังอยากจะลองดูก่อน อยากสู้อีกสักครั้ง ถ้าทุกอย่างที่ทำไปมันไม่มีความหมายจริง ๆ ฉันจะเป็นคนถอยออกมาเอง ฉันเดินมาหยิบเสื้อที
ฉันคิดทบทวนคำว่า ‘ไอ้ผู้ชายคนนั้น’ ที่ตุลว่าหมายถึงคือใครอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามเขา “คนที่ขอไลน์พี่น่ะเหรอ? พี่ไม่รู้จักนะแต่เห็นเขาคุยกับตุลนี่” “ขอไลน์?” ตุลขมวดคิ้วเข้ม แต่สายตาของเขามันก็ยังเย็นชามาก ๆ อยู่ “ไม่ใช่คนนั้นเหรอแล้วตุลหมายถึงใคร อ๋อ! ถ้าเป็นคนที่ไปกับพี่คนนั้นชื่อเควินเป็นเพื่อนที่เรียนต่างประเทศด้วยกันน่ะ เขามา…”“ไม่ได้อยากรู้ขนาดนั้น” ตุลพูดขัดด้วยท่าทางที่ไม่สบอารมณ์ ก็เขาถามเองนี่นาฉันก็แค่ตอบไงผิดมากเหรอ “เราเป็นเพื่อนกัน” “อืม” “ง… งั้นพี่ไปก่อนนะ” “อืม” เฮ้อ! คิดว่าจะรั้งให้อยู่ด้วยซะอีกน่าน้อยใจจัง เมื่อไหร่ผู้ชายคนนี้ถึงจะยอมเปิดใจสักทีนะ #บ้านกลับมาถึงบ้านสิ่งแรกที่ทำคือส่งข้อความไปบอกตุลว่า ‘พี่กลับมาถึงบ้านแล้วนะ ฝันดีนะครับ’ ฉันพิมพ์ไปแบบนี้จริง ๆ ถึงแม้ว่าเขาจะโหดร้ายแค่ไหนก็ตาม ฉันนอนไม่หลับพยายามข่มตานอนแล้วแต่ทำยังไงก็ไม่หลับเพราะหิวจนต้องลุกจากเตียงมาหาอะไรกินที่ครัว “เพิ่งกลับ?” “เฮีย! หนูตกใจหมดเลยค่ะ” แทบจะกรี๊ดลั่นบ้านเพราะจู่ ๆ เฮียเฟยก็โผล่มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง “หนูกลับนานแล้วแค่ลงมาหาอะไรกินเพราะนอนไม่หลับต่างหาก”“แล้วไปไหนมา?”