ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดเปิดวิดีโอ ก่อนจะใช้สายตามองไปรอบ ๆ ห้องเพื่อหามุมที่พอจะตั้งกล้องแล้วไม่ผิดสังเกตได้
เมื่อมองเห็นว่ามุมตรงนั้นมันไม่เป็นที่จับสังเกตก็รีบเอากล้องไปตั้ง ที่ต้องทำแบบนี้ก็เพื่อกันเอาไว้เพราะหลังจากคืนนี้ไม่รู้ว่าตุลจะเป็นยังไง การมีคลิปฉันสามารถใช้ข่มขู่เขาได้
เข้าข่ายแบล็กเมลใช่ไหมล่ะ มันก็ประมาณนั้นนั้นแหละ
… ครั้งแรกของฉันมันดูไม่โรแมนติกอย่างที่วาดฝันเอาไว้เลย แต่ทั้งหมดนี้ฉันเลือกให้มันเกิดขึ้นเอง
หลังจากตั้งกล้องเสร็จฉันก็เดินกลับมานั่งที่เดิม นั่งนิ่ง ๆ อยู่บนเตียงแบบนั้นจนกระทั่งเวลาผ่านไปชั่วโมงกว่า
ทั้งที่ตุลบอกเอาไว้ว่าขอแค่ครึ่งชั่วโมงแท้ ๆ แต่นี่มันเกือบจะเช้าแล้ว ด้วยความที่มันนานเกินไปฉันจึงลุกขึ้นจากเตียงกำลังจะเปิดประตูออกไปดูว่าตุลยังดื่มกับเพื่อนอยู่หรือเปล่า หรือว่าเขาหนีไปแล้ว จู่ ๆ ประตูห้องกูถูกเปิดเข้ามาซะก่อน
ตุลขมวดคิ้วเข้มมองฉันที่ยืนอยู่หน้าประตู ฉันจึงรีบพูดขึ้น “พี่จะออกไปดูว่าตุลดื่มเสร็จหรือยังน่ะ”
“รีบมากขนาดนั้น?”
“ป… เปล่าพี่ไม่ได้รีบ ก็… ก็ตุลพูดเองว่าขอครึ่งชั่วโมงแต่นี่มันผ่านไปชั่วโมงกว่าแล้วพี่แค่จะไปดู” ฉันเม้มปากแน่นมองใบหน้าของตุลทำเอาหัวใจเต้นแรงเพราะความหล่อของเขา แต่สายตาคู่นั้นมันแฝงไปด้วยความร้ายกาจ
ตุลเดินผ่านหน้าฉันไปก่อนที่เขาจะถอดเสื้อแล้วโยนไปใส่ตะกร้า นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นเขาเปลือยท่อนบน ร่างหนาที่มีซิกซ์แพ็กเล็ก ๆ เรียงรายอยู่มันช่างดึงดูดสายตาจริง ๆ
“ยืนทื่ออยู่ทำไม แก้ผ้าออก” เขาตวาดบอกคำสั่ง
“ก… แก้ผ้าเลยเหรอ” ฉันทวนคำพูดนั้นอย่างตกใจ คิดว่าต้องทำอะไรมากกว่านี้ก่อนไม่ใช่มาถึงแล้วจะให้แก้ผ้าเลย
เหมือนตุลจะเริ่มหงุดหงิดกับท่าทางของฉัน เขาเดินมากระชากแขนฉันแล้วจับเหวี่ยงกระแทกลงบนเตียง มันไม่ได้แรงมากหรอก
“นอนลงไป”
เมื่อถูกเสียงทุ้มเข้มสั่งฉันก็นอนราบลงมาบนเตียงตัวแข็งทื่ออย่างกับหุ่นยนต์
“จะแสดงละครให้คิดว่าไม่เคยเอากับใครมาก่อน?” สายตาของตุลมองมาที่ฉันแล้วถามอย่างหงุดหงิด
“พี่ไม่เคย…”
“ไปบอกเด็กอนุบาลมันยังไม่เชื่อ” พูดไม่ทันจะจบตุลก็รีบแทรกขึ้น ฉันจึงตอบไปแบบไม่แก้ตัวอะไรทั้งสิ้น “ถ้าอย่างนั้นก็ลองดูสิจะได้รู้ว่าพี่ผ่านผู้ชายมาแล้วกี่คน”
ตุลขบกรามแน่นก่อนที่เขาจะขึ้นมาคร่อมบนร่างของฉันเอาไว้
“ทำไมไม่ถอดเสื้อผ้า”
“พี่อยากให้ตุลถอดให้” การที่ถูกอีกคนถอดเสื้อผ้าให้มันคงทำให้ฉันใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง
“อยากให้ถอดหรือฉีก?”
“ถ… ถอดสิพี่ไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนนะ”
“ถ้างั้นก็ทำเอง ถนัดฉีกไม่ถนัดถอด” ตุลหยัดตัวลุกขึ้นยืน ส่วนฉันก็ลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าเพราะไม่อยากโดนฉีก ถ้าฉีกแล้วพรุ่งนี้คงไม่มีเสื้อผ้าใส่กลับแน่ ๆ
ในขณะที่ถอดเสื้อผ้าสายตาของตุลก็จ้องมองตลอดเวลา
“… ตุลไม่ถอดเหรอ” ความเขินอายไม่อยากถูกจ้องมองทำให้ฉันต้องถามออกไปแบบนั้น
ตุลไม่ตอบอะไรเขาใช้มือปลดกางเกงแต่สายตาก็ยังมองเรือนร่างของฉันอยู่ ฉันจึงเลี่ยงที่จะสบตา
เสื้อผ้าบนตัวของฉันถูกถอดออกแล้วทิ้งมันไว้ที่พื้นจนเรือนร่างเปลือยเปล่า ตุลก็เช่นกัน ฉันมองเพียงหางตาเมื่อเห็นว่าบนตัวเขาไม่มีเสื้อผ้าก็ไม่กล้ามอง
เป็นอีกครั้งที่ตุลผลักฉันลงบนเตียงแล้วขึ้นมาคร่อม ใบหน้าคมคายก้มลงมาซุกไซร้ซอกคอของฉันพร้อมกับฝ่ามือใหญ่ที่บีบเคล้นหน้าอกสองเต้าแรง ๆ
“บะ… เบา ๆ หน่อยให้ไหมตุลพี่เจ็บ” ถึงกับต้องออกปากบอกเพราะมันเจ็บจริง ๆ แต่คนที่ถูกท้วงไม่ได้สนใจอะไร เขายังเอาแต่บีบเคล้นหน้าอกแรง ๆ เหมือนเดิม
ใบหน้าคมคายเลื่อนลงมาเรื่อย ๆ จนถึงหน้าอกของฉัน อุ้งปากร้อน ๆ ครอบงำเอาเม็ดไตที่ชูชันตรงหน้าเข้าปากแล้วดูดเม้มแรง ๆ พร้อมทั้งให้สองมือขยำ
“อื้อ~” ฉันกัดริมฝีปากแน่นอยากให้เขาทำเบา ๆ กว่านี้แต่พูดไปแล้วก็ไม่ยอมผ่อนแรงลง
“อื้อ จะ… เจ็บ ๆ อย่ากัดแบบนั้นสิตุล” ฉันร้องออกมาเสียงหลงเมื่อถูกเขี้ยวฟันงับมาที่เนินหน้าอกแรง ๆ
คนที่ถูกท้วงหยัดตัวขึ้นขยับจัดที่ให้อยู่ตรงกลางระหว่างขาของฉัน
“ม… ไม่ปิดไฟก่อนเหรอ” ฉันถามเสียงสั่นแต่ตุลก็ไม่ได้ตอบอะไร
ร่างหนาของตุลโน้มตัวลงมาจนใบหน้าของเราใกล้กันแค่คืบ เขาใช้มือคลำหาอะไรบางอย่างที่ใต้หมอน ก่อนจะกดจูบลงมาบนริมฝีปากของฉันหนัก ๆ
ริมฝีปากล่างถูกดูดจนรู้สึกชาหนึบก่อนที่ตุลจะใช้ลิ้นสากเข้ามาควานสำรวจในโพรงปากของฉัน เขาจูบอย่างชำนาญต่างกับฉันที่ทำไม่เป็น
ตุลถอดจูบออก เขาหยัดตัวขึ้นพร้อมกับถุงยางอนามัยที่มือ เรียวขาของฉันถูกจับให้อ้าออกจากกันกว้าง ๆ ในขณะที่ตุลกำลังสวมใส่ถุงยางอนามัยอยู่
แก่นกายใหญ่ถูกจับมาจ่อที่ช่องทางคับแคบของฉันแล้วถูขึ้นลงสามสี่ครั้งก่อนจะค่อย ๆ ดันส่วนปลายหัวเข้ามา
“อ๊ะ! จะ… เจ็บ ตุลหยุดก่อนพี่เจ็บ” ฉันสะดุ้งขยับสะโพกหนีแต่ถูกฝ่ามือใหญ่รั้งไว้
ตุลก้มมองชุดเชื่อมของเราทั้งคู่แล้วพยายามจะสอดใส่แก่นกายของตัวเอง
“ตุลพี่เจ็บอย่าเพิ่งเอาเข้ามาได้ไหม อื้อ”
“ทำไมเข้ายากแบบนี้วะ” ตุลบ่นพึมพำก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองฉันที่นอนตัวเกร็งเพราะความเจ็บ เขามองนิ่ง ๆ ก่อนจะถามด้วยความไม่เชื่ออีกครั้ง “ไม่เคยจริง ๆ?”
“… พี่เจ็บ” ฉันบอกไปเสียงสั่น ความกลัวมันเริ่มปะทุขึ้นมาในใจเพราะเจ็บเอามาก ๆ
ตุลนิ่งไปครู่หนึ่งเหมือนเขากำลังสับสนอะไรอยู่ จู่ ๆ เอาก็ดึงเอาถุงยางอนามัยที่สวมใส่อยู่ออกแล้วก้มลงมาใช้ลิ้นสากตวัดเลียเม็ดไตบนเนินหน้าอกของฉัน
“พะ… พอแล้ว” เพราะความเจ็บเมื่อครู่ทำให้ฉันไม่อยากจะสานต่อจึงใช้มือผลักไสเขา “อย่านะตุลพี่เจ็บ ไม่! บอกว่าอย่า อร้าย~”
ฉันพยายามหนีบขาตัวเองเอาไว้ไม่ยอมให้ตุลเอาแก่นกายดันเข้ามาอีกแต่ก็สู้แรงไม่ไหว เมื่อถูกส่วนหัวของแก่นกายใหญ่สอดใส่เข้ามาฉันก็ร้องเสียงหลงเกร็งไปทั้งตัว
ตุลยังคงใช้ริมฝีปากดูดเลียที่เม็ดไตบนเนินหน้าอกจนเปียกชุ่ม เขาตวัดลิ้นหยอกล้อพร้อมกับค่อย ๆ ดันเอาแก่นกายของตัวเองเข้ามาในช่องทางคับแคบเรื่อย ๆ
“พี่เจ็บไม่ไหวแล้วตุล พะ… พอก่อนได้ไหม” ฉันกำผ้าปูที่นอนแน่นมันเจ็บจนสั่นไปทั้งตัว ยิ่งความเป็นชายของตุลถลำลึกเข้ามามากเท่าไหร่มันก็ยิ่งเพิ่มพูนความเจ็บปวด
ตุลหยัดตัวขึ้น เขาใช้สองมือของตัวเองมาจับประสานกับมือฉัน ใบหน้าคมคายในตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ
ปัก!
“กรี๊ด~” ฉันร้องกรี๊ดออกมาเสียงดังลั่นห้องเมื่อถูกกระแทกเอวสอบแรง ๆ จนแก่นกายดันเข้ามาในร่องแคบทั้งลำ
ความเจ็บปวดมันทวีคูณเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่าราวกับตรงนั้นฉีกขาด
“อ๊า~ อย่าเกร็งมันจะเจ็บ” ตุลบอกเสียงแหบพร่าพร้อมกับเอวสอบที่ค่อย ๆ ขยับ
“ไม่ไหวตุล พี่ไม่ไหวแล้วพอก่อน อึก~” ฉันสะอื้นเบา ๆ แต่ตุลไม่ยอมรับฟังความเจ็บปวดของฉันเลย
ปัก ปัก ปัก~ เสียงที่ได้ยินคือเสียงจากแรงกระแทกเอวสอบของตุล เขาเริ่มรุนแรงขึ้นและมันก็ทำให้ฉันเจ็บขึ้นเรื่อย ๆ
“อ๊า~ รัดแน่นฉิบ ซี๊ด”
ฉันกัดริมฝีปากตัวเองแน่นจนห้อเลือด
ปัก ปัก ปัก~ เสียงเนื้อกระทบกันดังขึ้นมาต่อเนื่อง ตุลก้มลงมาตะโบมดูดเลียหน้าอกสองเต้าพร้อมกับบีบเคล้นมันเป็นระยะ ๆ เขาไม่มีท่าทีว่าจะหยุดจนกว่าตัณหาจะสิ้นสุด
“อ๊า~” เสียงทุ้มครางออกมาอย่างพึงพอใจต่างกับฉันที่นอนน้ำตาคลออย่างทรมาน
เรียวขาข้างหนึ่งถูกจับขึ้นไปพาดบ่าจากนั้นเขาก็กระแทกเอวสอบรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
“จ… เจ็บ อึก~” ฉันพยายามจะดันตัวออกแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จเพราะถูกฝ่ามือใหญ่รั้งเอาไว้อยู่
ตุลก้มหน้าลงมามองฉันที่กำลังเจ็บปวด ก่อนจะพูด “เลือกเองจะโทษใครได้ ซี๊ด~”
ใช่ จะโทษเขาก็ไม่ได้เพราะฉันเป็นคนโหยหาความเจ็บปวดนี้เอง
เรียวขาของฉันถูกวางลง สองมือหนาจับที่สะโพกแน่นก่อนที่ตุลจะอัดกระแทกเอวสอบป่าเถื่อนยิ่งกว่าเดิม ร่างกายของฉันมันกระเพื่อมสั่นไหวรุนแรง
“อ๊า จะ… เจ็บ ตุลพี่เจ็บไม่ไหวแล้ว อึก เอาออกไปได้ไหม กรี๊ด!”
ความเจ็บปวดมันพุ่งทะยานถึงขีดสุดฉันกรีดร้องออกมาออกมาเสียงดัง เป็นจังหวะเดียวกันที่ตุลดึงเอาแก่นกายออกแล้วรีดน้ำสีขุ่นลงบนหน้าท้องของฉัน
“อ๊า~” ฉันเห็นมือที่เปื้อนเลือดของตุลก็ไม่กล้ามองอีก รู้ดีว่านั่นคือเลือดความบริสุทธิ์ของตัวเอง
ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ ตุลลุกขึ้นไปหาผ้าเช็ดมือและหยิบเอาผ้าขนหนูมาพันรอบเอว ส่วนฉันก็รีบดึงผ้าห่มมาปิดคลุมเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของตัวเอง
ครืด~ ครืด~ เสียงมือถือสั่น ตุลเดินไปหยิบดูมือถือของตัวเองปรากฎว่าไม่มีคนโทรเข้า
นั่นทำให้หัวใจดวงน้อยของฉันเต้นรัวเพราะความกลัว ในตอนนี้ตุลเริ่มมองหาว่าเสียงสั่นนี้ดังมาจากไหน ถ้าเขาเห็นโทรศัพท์ของฉันจะเกิดอะไรขึ้นไม่อยากจะจินตนาการเลย
ฉันพยายามคิดว่าจะทำยังไงให้ตุลเลิกสนใจเสียงโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ จึงรีบลุกขึ้นแต่พอลุกขึ้นมันก็เจ็บร้าวตรงกลางระหว่างขาจนแทบไม่มีแรง “ตุล” เสียงของฉันทำให้ตุลเปลี่ยนความสนใจหันมามอง เขามองนิ่ง ๆ ไม่ได้ถามอะไร ฉันจึงพูดต่อ “ทำ… ทำต่ออีกรอบได้ไหม?”“ไหว?” เขาเลิกคิ้วถาม ใช่! ฉันไม่ไหว แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้แล้วเขาเห็นโทรศัพท์ฉันชะตาขาดแน่ “ว… ไหวสิ พี่ไหว” “เสียงโทรศัพท์ไม่รับหน่อย?” “ช่างเถอะ เฮียคงโทรตามน่ะ” “โทรศัพท์อยู่ไหน” “…” ฉันสะอึกอ้ำอึ้งเพราะคิดคำตอบไม่ทัน ตุลเดินมาใกล้ ๆ เขาจ้องฉันด้วยสายตาที่จับผิดแล้วถามย้ำ “ถามว่าโทรศัพท์อยู่ไหน”“ย… อยู่ อยู่ไหนไม่รู้พี่จำไม่ได้” “จำไม่ได้ ?” “อื้อ”“งั้นเดี๋ยวช่วยหา” ตุลหันหลังให้ฉันเตรียมจะหาโทรศัพท์ต่อ เสียงนั้นก็สั่นไม่ยอมหยุดสักที ฉันรีบคว้ามือจับแขนตุลเอาไว้ “มาทำต่อดีกว่านะตุล อย่าสนใจเลย”“ถ้าอยากให้ทำต่อก็เอาโทรศัพท์มา” เขาหันมาบอกเสียงแข็ง“ตุลจะสนใจทำไม โทรศัพท์ของพี่นะหรือคิดว่าจะมีผู้ชายคนอื่นโทรมางั้นเหรอ”“…” พอถูกถามแบบนั้นเขาก็เงียบ “มาต่อกันดีกว่านะอย่าสนใจเลย” ตุลแกะมือฉันออกจากแขน เขาไม่สนใจเดินไปตามเสียงสั่นของโท
มันจะดีกว่านี้มาก ๆ ถ้าเขาพูดดี ๆ กับฉันแทนการตวาด ฉันตกเป็นของเขาแล้วนะอ่อนโยนบ้างไม่ได้หรือไง “แล้วตุลไม่นอนด้วยกันเหรอ” “จะกลับไปนอนบ้าน” เขาตอบกลับมาเสียงห้วน“บ้านตุลอยู่ที่ไหนเหรอ” “จะรู้ไปทำไม ? อย่าให้รู้ว่าตามสืบไม่อย่างนั้นได้เจอดีแน่” ฉันเม้มปากแน่นเพราะเขารู้ทันว่าฉันจะตามสืบ ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นฉันคิดแบบนั้น แต่พอเจอดุก็ไม่กล้าจะตามสืบแล้ว ก่อนจะออกไปตุลหยิบรูปภาพบนโต๊ะติดมือไปด้วย ถ้าให้เดาคงจะเป็นภาพของผู้หญิงคนนั้นที่เขารักมาก มันต้องมีสักวันสิที่ฉันแทนที่ผู้หญิงคนนั้นได้ ไม่ท้อหรอก!ฉันพูดกับตัวเองในใจอย่างแน่วแน่ ก่อนจะลุกขึ้นด้วยสภาพที่อิดโรยแล้วสวมใส่เสื้อผ้า เมื่อหันมาที่เตียงก็เห็นมีคราบเลือดเป็นวงใหญ่ นั่นคือเลือดของฉัน… ในเมื่อตุลไม่อยู่ฉันก็ไม่รู้จะนอนที่นี่ไปทำไม จุดประสงค์คืออยากนอนกับเขาไม่ใช่นอนคนเดียว คิดว่าถ้ายอมไปแล้วเขาคงจะนอนด้วยกันแท้ ๆ ดันกลับไปนอนบ้านใจร้ายมากเลย #บ้าน ทันทีที่ฉันเดินผ่านประตูบ้านมาก็เห็นเฮียเฟยกำลังยืนกอดอกทำหน้าไม่รับแขกอยู่ ใจเริ่มรู้สึกกลัวเพราะเฮียโทรมาหาฉันหลายสายมาก ๆ ฉันพยายามเดินให้ปกติเข้ามาในบ้านก่อนจะถาม “ยัง
ฉันหยุดนิ่งครู่หนึ่งเพื่อรอฟังว่าตุลจะพูดอะไรหรือเปล่า สักคำก็ได้ที่ถาม พูดอะไรก็ได้ที่ทำให้รู้สึกดีมากกว่านี้ แต่ไม่เลยเขาไม่ถามอะไรสักคำ “ถ้าพ่อรู้ว่ามึงทำตัวแบบนี้นะไอ้ตุล” ผู้ชายคนนั้นบอกแล้วหันมามองฉัน ก่อนที่ตุลจะพูด “ถ้ามึงไม่พูดพ่อจะรู้ได้ยังไง” ที่พูดมาก็ทำให้ฉันพอจะจับใจความได้ว่าตุลกับผู้ชายคนนั้นเป็นพี่น้องกันแน่นอน เหมือนเขาจะกลัวพ่ออยู่เหมือนกัน “พี่ขอคุยกับตุลก่อนกลับได้ไหม” ทุกอย่างมันต่างไปจากเดิม ตอนที่ยังไม่มีอะไรกันฉันสามารถกวนใจเขาได้เต็มที่ แต่พอมีอะไรกันแล้วฉันกลับรู้สึกไม่กล้า “คุยไร?” “ขอคุยแค่สองคนได้ไหม” พอฉันบอกแบบนั้นผู้ชายที่ยืนข้างตุลก็พูดขึ้น “กูกลับก่อนละกัน เดี๋ยวจะบอกพ่อให้ว่ามึงทำตัวดีมาก ๆ ตั้งใจเรียนสุด ๆ” “เออ” เมื่อเขาเดินไปแล้วฉันก็เดินมาหาตุลที่กำลังจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ พอเห็นแบบนั้นฉันรีบดึงซองบุหรี่มาก่อนเพราะไม่ค่อยชอบกลิ่นของมันสักเท่าไหร่ “เอามา” ตุลมองซองบุหรี่ในมือก่อนจะตวัดสายตาขึ้นมามองหน้าฉันเขม็ง “คุยกันก่อนเดี๋ยวพี่คืนให้” “วุ่นวายจังวะ!!” ไม่รู้ว่าเป็นแค่ฉันหรือเปล่าที่ทำให้เขาไม่สบอารมณ์ได้ขนาดนี้ หรือเขาเป็นแบบนี้กับท
ฉันหันไปมองตุล เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแต่กลับไม่ได้สนใจข้อความของฉันที่เพิ่งส่งไป หัวใจมันรู้สึกเหมือนมีอะไรมาบีบรัดแน่นจุกไปหมดแล้วตอนนี้ “เดี๋ยวฉันมานะ” เป็นอีกครั้งที่เควินจะเดินไปโต๊ะอื่น ฉันไม่ได้ค้านอะไรเขาอยากจะไปก็ให้ไป ตอนนี้สมองมันสนใจแค่ตุลที่กำลังใช้มือโอบผู้หญิงคนนั้นอยู่ สิ่งที่เขาทำกับคนอื่นได้แต่ไม่เคยทำกับฉันเลยสักอย่าง ฉันกำโทรศัพท์ในมือแน่นเมื่อไม่สามารถทนมองภาพนั้นต่อไปได้ แก้วเหล้าในมือถูกยกดื่มจนหมดแก้วอีกครั้งก่อนที่ฉันจะลุกขึ้นเดินไปยังโต๊ะของตุล พอเดินมาที่โต๊ะตุลกับเพื่อนเขาไม่ทันได้สังเกตเพราะคนค่อนข้างเยอะ ฉันดึงมือของตุลที่โอบเอวผู้หญิงอยู่ออกแล้วเป็นฝ่ายแทรกตัวมาคั่นกลางแทน “นี่! ไม่มีตาหรือไงฉันยืนอยู่นะ” ยัยผู้หญิงคนนั้นถามฉันด้วยท่าทางที่หาเรื่อง“ยืนอยู่แล้วยังไง” ฉันเองก็ถามกลับอย่างหาเรื่องเช่นกัน “ใครเหรอตุล?” เธอมองผ่านฉันมาถามตุลที่นั่งอยู่ คนที่ถูกถามไม่ได้ตอบอะไรทั้งนั้น จู่ ๆ ตุลก็ลุกขึ้นยืนแล้วพูดกับเพื่อนที่มาด้วยกัน “กูไปสูบบุหรี่ข้างนอกก่อนนะ”“เออ ๆ” ตุลมองฉันด้วยสายตาที่เลือดเย็นครู่หนึ่งก่อนจะเดินไปเลย มีใครที่เย็นชามากกว่าผู้ชา
#ภายในห้อง หลังจากที่ประตูถูกปิดร่างของฉันก็ถูกดันมาติดกับกำแพงห้อง ฝ่ามือใหญ่จับใบหน้าของฉันให้หันมาอยู่ในระดับเดียวกัน ริมฝีปากหนากดขยี้จูบหนัก ๆ ความดิบเถื่อนทำให้ริมฝีปากเจ็บจนระบมไปหมดไม่นานที่ตุลบดขยี้ความดิบเถื่อนลงบนริมฝีปากของฉันเขาก็ผละใบหน้าออก สายตาเย็นชาตรงหน้ามองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถาม“สนใจแค่เรื่องบนเตียงดีกว่าไหม” “… พี่ไม่ได้ต้องการแค่นั้น” “ถ้ามากกว่านี้คงให้ไม่ได้” ตุลปล่อยใบหน้าของฉันให้เป็นอิสระ จากนั้นเขาก็เดินไปนั่งที่เตียงแล้วพูดต่อ “ให้เลือกอีกครั้งว่าจะอยู่ต่อ หรือจะกลับไป” “…”“ถ้าเลือกอยู่ต่อก็ต้องยอมรับให้ได้ว่าไม่มีสิทธิ์ ไม่มีสถานะ” ตุลเว้นคำพูดก่อนจะถอดเสื้อออกแล้วทิ้งลงพื้น ก่อนจะพูดต่อ “ถ้าเลือกกลับไปทุกอย่างก็จบ ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น”ฉันกำมือแน่นจนมันเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อแล้วถามผู้ชายตรงหน้ากลับ “ถ้าตุลชอบใครสักคนมาก ๆ จะเลือกแบบไหนเหรอ”คนที่ถูกถามไม่ตอบอะไรสักคำ อย่างน้อยมันก็ดีที่เขาให้โอกาสได้เลือกอีกครั้ง แต่ฉันยังอยากจะลองดูก่อน อยากสู้อีกสักครั้ง ถ้าทุกอย่างที่ทำไปมันไม่มีความหมายจริง ๆ ฉันจะเป็นคนถอยออกมาเอง ฉันเดินมาหยิบเสื้อที
ฉันคิดทบทวนคำว่า ‘ไอ้ผู้ชายคนนั้น’ ที่ตุลว่าหมายถึงคือใครอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามเขา “คนที่ขอไลน์พี่น่ะเหรอ? พี่ไม่รู้จักนะแต่เห็นเขาคุยกับตุลนี่” “ขอไลน์?” ตุลขมวดคิ้วเข้ม แต่สายตาของเขามันก็ยังเย็นชามาก ๆ อยู่ “ไม่ใช่คนนั้นเหรอแล้วตุลหมายถึงใคร อ๋อ! ถ้าเป็นคนที่ไปกับพี่คนนั้นชื่อเควินเป็นเพื่อนที่เรียนต่างประเทศด้วยกันน่ะ เขามา…”“ไม่ได้อยากรู้ขนาดนั้น” ตุลพูดขัดด้วยท่าทางที่ไม่สบอารมณ์ ก็เขาถามเองนี่นาฉันก็แค่ตอบไงผิดมากเหรอ “เราเป็นเพื่อนกัน” “อืม” “ง… งั้นพี่ไปก่อนนะ” “อืม” เฮ้อ! คิดว่าจะรั้งให้อยู่ด้วยซะอีกน่าน้อยใจจัง เมื่อไหร่ผู้ชายคนนี้ถึงจะยอมเปิดใจสักทีนะ #บ้านกลับมาถึงบ้านสิ่งแรกที่ทำคือส่งข้อความไปบอกตุลว่า ‘พี่กลับมาถึงบ้านแล้วนะ ฝันดีนะครับ’ ฉันพิมพ์ไปแบบนี้จริง ๆ ถึงแม้ว่าเขาจะโหดร้ายแค่ไหนก็ตาม ฉันนอนไม่หลับพยายามข่มตานอนแล้วแต่ทำยังไงก็ไม่หลับเพราะหิวจนต้องลุกจากเตียงมาหาอะไรกินที่ครัว “เพิ่งกลับ?” “เฮีย! หนูตกใจหมดเลยค่ะ” แทบจะกรี๊ดลั่นบ้านเพราะจู่ ๆ เฮียเฟยก็โผล่มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง “หนูกลับนานแล้วแค่ลงมาหาอะไรกินเพราะนอนไม่หลับต่างหาก”“แล้วไปไหนมา?”
“เป็นเด็กเป็นเล็กนิสัยเสียชะมัด” เควินบ่นหลังจากที่ตุลเดินไปแล้ว จากนั้นเขาก็เป็นคนก้มลงไปเก็บของที่หล่นให้ “ทำแบบนี้ทำคนที่ไม่รู้จักได้ยังไง” เควินยังไม่เลิกบ่น เขาหยุดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองฉันแล้วพูดต่อ “หรือเธอรู้จัก?” “ป… เปล่าฉันไม่รู้จักสักหน่อย” ที่ต้องปฏิเสธก็เพราะว่าไม่อยากถูกถามอะไรต่าง ๆ เพราะถ้าเควินรู้ว่าฉันรู้จักตุลเขาคงไม่ใช่แค่พยักหน้าแล้วเงียบไปแน่ ๆ คงจะต้องยิงคำถามใส่รัว ๆ ก่อนมาที่โรงแรมฉันกับเควินแวะกินอาหารกันเรียบร้อยแล้ว เพราะไม่อยากให้เขาต้องมาทำกินเอง หลังจากส่งเพื่อนเสร็จฉันก็ขับรถกลับไปที่บ้าน ยังไม่ทันจะถึงที่บ้านเลยโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้น เป็นแพรที่โทรมาจึงรีบกดรับสาย “ว่าไงแพร เงียบหายไปเลยนะฉันเหงามากรู้ไหม”(ช่วงนี้ฉันยุ่ง ๆ น่ะ)“แล้วแกโทรมามีอะไรหรือเปล่า”(จะชวนไปดูแข่งรถด้วยกัน)“แข่งรถงั้นเหรอ” (ไปหรือเปล่าวันนี้เพื่อนแฟนของฉันแข่ง ตุลไปด้วยนะ)จริง ๆ ฉันไม่ชอบดูการแข่งรถเลยแต่พอรู้ว่าตุลไปด้วย ความอยากไปมันก็พุ่งขึ้นมาระดับร้อย“อื้อไปสิ แกมารับฉันหน่อยได้ไหม” (ที่บ้านเหรอ)“อื้อ ขี้เกียจขับรถไปเองน่ะ” (อื้อ แต่แกห้ามพูดเรื่องที่ฉันไปรับแก
ฉันมองตุลอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงให้ไปรอที่อู่ ที่นี่มันมีอะไรทำไมฉันถึงอยู่ไม่ได้ หรือเขานัดผู้หญิงมาอย่างนั้นเหรอ “แพรยังอยู่ได้เลยทำไมพี่ถึงอยู่ไม่ได้” “บอกให้กลับก็กลับจะถามมากเพื่อ?” พอฉันไม่ยอมทำตามคำสั่งตุลก็หัวเสีย “พี่ไม่ได้เอารถมาจะให้ไปยังไง” ตุลพ่นลมหายใจแรง ๆ ก่อนจะล้วงกระเป๋าหยิบกุญแจรถมายื่นให้ฉัน “ขับกลับไป” “รถตุลเหรอ?” ฉันขมวดคิ้วมองกุญแจในมือเขา นั่นมันกุญแจรถยี่ห้อหรู หากเป็นรถของตุลแปลว่าบ้านเขาต้องมีฐานะมาก ๆ แน่ ๆ “เอาไปไม่ต้องถามมาก” ฉันเอากุญแจห้องคืนตุล “พี่จะกลับพร้อมแพร เดี๋ยวให้แพรไปส่งที่อู่…”“ถ้าจะกลับพร้อมเพื่อนก็ไม่ต้องไป” ตุลเก็บกุญแจรถและกุญแจห้องใส่กระเป๋าเหมือนเดิม“โกรธพี่เหรอ” ตุลไม่ตอบอะไรเขาเดินนำหน้าไปก่อน ฉันจึงรีบเดินตามเพราะกลัวจะเจอคนแปลกหน้าเขามาถามอะไรอีก แถวนี้มันดูอันตราย ๆ ยังไงก็ไม่รู้ พอทุกคนเห็นว่าฉันเดินมาพร้อมกับตุลต่างก็มองกันเป็นตาเดียว แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไร พอมาถึงฉันก็เดินมานั่งข้าง ๆ แพร “ทำไมถึงมาพร้อมตุลได้ล่ะลิล” แพรถาม “บังเอิญน่ะ”“ตุลไม่ได้พูดอะไรที่ทำให้แกรู้สึกไม่ดีใช่ไหม” “ไม่เลย เขาช่วยฉันเอาไว้จากผู