Share

เด็กมันร้าย - 2 ขอโทษ

เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกว่าตุลน่ากลัว เขาพูดคำนั้นออกมาด้วยท่าทางที่สุดแสนจะเย็นชา 

“พ…พี่” ฉันกำชายกระโปรงแน่น มันยากที่จะตัดสินใจกระทันหันถึงแม้ว่าจะชอบเขามากขนาดไหนก็ตาม

ตุลไม่ได้รอฟังคำตอบเขาหันหลังให้ฉันแล้วเดินไปที่รถ เปิดประตูค้นหาของบางอย่าง 

“หาอะไร หะ ให้พี่ช่วยหาไหม” 

พอถามตุลก็นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะหันมามองฉันแล้วพูด “หาถุงยาง” 

“อ…เอาไปทำไม” หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวไม่เป็นจังหวะเมื่อได้ยินว่าเขากำลังหาอะไร 

“เอาไปเป่าเล่นมั้ง ถามไม่คิด” 

“…….” ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย ไม่ได้เป็นอะไรกันแต่ฉันกลับหวงเขามากๆ 

“เรื่องที่ตุลบอกพี่ขอคิดดูก่อนได้ไหม” 

“ไม่ได้บังคับ” เขาหันหน้ากลับไปค้นหาของต่อ 

“พี่อยากให้ตุลเปิดใจมากกว่าคิดเรื่องแบบนั้นนะ” 

“หยุดพูด รำคาญ!” เขาตวาดบอกทั้งที่ยังไม่หันหน้ามา 

“ตุลจะเอาหาถุงยางอนามัยไปใช้กับใครหรอ” 

“ยุ่ง!!” เขาพูดอย่างหงุดหงิด 

ฉันได้แต่นิ่งยืนมองแผ่นหลังกว้างอยู่ครู่ใหญ่ มองจนตุลหาของสิ่งนั้นเจอ เขาปิดประตูรถแล้วเดินมาหาฉันก่อนจะชูกล่องถุงยางอนามัยขึ้นตรงหน้า 

“อยากใช้ไหม ?” 

“ม…ไม่” 

“ชอบสด อ่า! มันคงไม่แปลกอายุขนาดนี้แล้วประสบการณ์คงจะโชกโชน” 

“……” เขาตัดสินใจฉันด้วยคำพูดที่แสนจะหยาบคายอีกแล้วนะ 

หมับ! ฉันดึงเอากล่องถุงยางอนามัยในมือตุลมา

“พี่ขอเก็บไว้ใช้กับตุลได้ไหม ?” ความจริงคือฉันกลัว กลัวว่าเขาจะไปทำอะไรกับใคร 

“จะเอาไปให้เพื่อนไม่ได้คิดจะใช้เอง เอาคืนมา!” เขาบอกอย่างหงุดหงิด 

“เพื่อนหรอ ?”

“รู้ไหมว่าเป็นผู้หญิงที่น่ารำคาญขนาดไหน เลิกวุ่นวายสักทีได้ไหมวะ!!” ครั้งนี้เขาแสดงท่าทางที่ดุดันออกมา ก่อนจะเดินชนไหล่ฉัน 

เขาชนไหล่ฉันจริงๆ แถมยังชนแรงเอามากๆ จนฉันเกือบจะล้มแหนะ ถุงยางอนามัยก็ไม่ยอมเอาไปด้วย โกรธฉันงั้นหรอ… 

วันต่อมา 

ฉันตื่นสายหน่อยวันนี้เพราะเมื่อคืนดื่มหนักจนเฮียต้องเป็นคนขับรถมาให้ เมื่อคืนฉันอยู่ดูตุลจนเขาออกจากคลับ ค่อยสบายใจหน่อยที่เขาไม่ได้ควงผู้หญิงที่ไหนออกไปด้วย ไม่อย่างนั้นฉันคงช้ำหนักแน่ๆ 

วันนี้คือวันใหม่ เรื่องแย่ๆ เมื่อคืนฉันจะลืมไปให้หมด ไม่อยากเก็บมาคิดให้ทุกข์ใจ วันนี้ฉันจะไปที่อู่เพราะรู้ว่าตุลไม่มีเรียน 

“จะไปอู่อีกแล้ว ?” เฮียนั่งจิบกาแฟอยู่ถามฉันที่เพิ่งเดินผ่าน อุตส่าห์ย่องเบาแล้วแท้ๆ 

“รถอยู่อู่น่ะเฮีย หนูจะไปดู”

“ส่งลูกน้องไปดูก็ได้ทำไมต้องไปเอง กลับมาไทยแทนที่จะเข้าบริษัทแต่นี่อะไรเข้าแต่อู่ซ่อมรถ” 

“เอาน่าเฮีย ช่วงนี้หนูยังไม่อยากเข้าบริษัท”

“ที่อู่มันมีอะไรดีน้องสาวคนนี้ของเฮียถึงชอบไปนัก” เฮียเฟยมองฉันอย่างจับผิด 

“ไม่มีอะไรหรอกเฮีย หนูไปก่อนนะ” ฉันรีบวิ่งออกมาจากบ้านเพราะกลัวจะถูกจี้ถามไปมากกว่านี้ 

ฉันให้คนขับรถที่บ้านมาส่งที่อู่ของตุล เพราะไม่อยากขับรถมาเองจะได้ใช้เป็นข้ออ้างให้เขาขับรถมาส่ง มันต้องมีสักครั้งสิที่เขาเห็นใจยอมมาส่งฉันที่บ้านน่ะ 

#อู่ซ่อมรถ 

เป็นเหมือนเดิมทุกครั้งที่พอตุลเห็นหน้าฉันแล้วเขาก็มักจะแสดงท่าทางเบื่อโลก 

“มาทำไม” 

“มาดูรถไง ^_^”

“บอกว่าเสร็จอาทิตย์หน้า”

“อื้อพี่รู้แล้ว แค่อยากมาดูทุกวันไม่ได้หรอ ^_^” ฉันพยายามไม่คิดถึงเรื่องเมื่อคืนเพราะอยากทำให้ตัวเองมีความสุขทุกวัน มีความสุขกับการได้ชอบใครสักคน 

ตุลที่นั่งซ่อมรถอยู่พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ รู้ดีกว่าเขารำคาญแต่ฉันก็ยังยิ้มหวานให้ เวลาหงุดหงิดเขาโคตรจะแบดบอยเป็นบ้าเลย 

ฉันเดินมานั่งโต๊ะหินอ่อนที่ประจำแล้วมองดูตุลซ่อมรถแบบนั้น มีความสุขดีจัง ถ้าได้เป็นแฟนกันคงจะดีมากๆ 

“ใกล้จะเที่ยงแล้วตุลอยากกินอะไรไหมพี่จะสั่งมาให้” 

“ไม่หิว” เขาปฏิเสธความหวังดีของฉัน ชิ! คอยดูเถอะจะสั่งของกินมายั่วดูสิว่าม่หิวจริงๆ หรือเปล่า

อะไรที่เป็นฉันเขามักจะปฏิเสธตลอดนั่นแหละ ยอมอ่อนให้บ้างก็ไม่ได้ 

“ห้องน้ำไปทางไหนหรอตุล” ฉันตะโกนถามแต่คนที่ถูกถามไม่ยอมตอบ 

“ตุล….” 

“เดินตรงไปในอู่ เลี้ยวซ้าย” เขาตอบกลับแบบไม่เต็มใจจะพูด 

ฉันลุกขึ้นยืนแล้วรีบเดินไปตามที่ตุลบอกเพราะปวดฉี่ไม่ไหวแล้ว เดินมาตามทางที่ว่าก็เจอกับห้องน้ำจึบรีบเข้าไปทำธุระ  

หลังจากทำธุระเสร็จกำลังจะเดินกลับแต่สายตาของฉันดันบังเอิญเห็นห้องๆ หนึ่งที่ประตูเปิดแง้มไว้ คิดว่าคงจะเป็นห้องนอนของตุลจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปดู เพราะอยากเห็นว่าเขาอยู่ยังไง นอนยังไง 

มันคงจะเป็นธรรมดาของห้องนอนผู้ชายที่ค่อนข้างรกเอามากๆ เสื้อผ้าถอดกระจัดกระจาย มีทั้งกระป๋องเบียร์วางอยู่ เห็นแล้วอยากจะเก็บห้องให้จริงๆ เลย 

ก่อนจะเดินออกจากห้องฉันเหลือบมองเห็นกรอบรูปที่ตั้งอยู่ จึงเดินไปหยิบมันขึ้นมาดูด้วยความสงสัย แต่แล้วเมื่อมองใกล้ๆ มันก็ทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะ พร้อมกับความรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ 

ในกรอบรูปคือภาพถ่ายของตุลกับผู้หญิงคนหนึ่ง ฉันจำคำพูดของแพรได้ที่บอกว่าตุลเคยมีผู้หญิงที่รักมาก แต่ฉันก็ไม่คิดว่าเขาจะรักถึงขนาดเอารูปคู่กับเธอมาใส่กรอบตั้งไว้แบบนี้ 

“ทำอะไร!!” 

ฉันสะดุ้งโหย่ง เพราะความตกใจเสียงที่ตวาดถามทำให้กรอบรูปในมือหล่นลงพื้น แน่นอนว่ามันแตกกระจายแถมเศษของกระจกภาพยังปักมาที่เท้าฉันอีกด้วย 

แต่มันไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลย คงเป็นเพราะสีหน้าและแววตาที่ดุดันของตุลในตอนนี้มันทำให้ฉันลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ 

ตุลเดินมาเก็บกรอบรูปที่ฉันทำตก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ฉันถูกเขาจ้องเขม็งแต่จู่ๆ เขาก็เงียบไป 

“ต…ตุลพี่ขอโทษ คือพี่….”

“ออกไป” 

“…ตุล”

“บอกให้ออกไปไงวะ!!!” 

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status