หยางหว่านอวี่ถึงได้พยักหน้ายอมรับ หลังจากนั่งลง ก็ยังคิดว่าเหมือนฝันไปขณะที่เธอรู้สึกกระวนกระวายใจก็รู้สึกว่าโชคดีอย่างมากเช่นกัน"เยี่ยมเลย ครั้งนี้ได้ชัยชนะอย่างแน่นอน!" จ้าวเหม่ยอวิ๋นดีใจอย่างมาก แค่เพียงที่นั่ง ตระกูลเกาก็ให้ความสำคัญกับหยางหว่านอวี่ขนาดนี้ คู่ค้าดีเด่นยิ่งเป็นเรื่องที่แน่นอนแล้วหวังจื่อเฟิงนั่งลงข้างหยางหว่านอวี่อย่างไม่เกรงใจ ไม่ปกปิดความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกับเธอเลยสักนิดเลขากลับมาที่ห้องทำงาน กำลังจะรอรับความดีความชอบ กลับเห็นเกาชิงเหยียนสีหน้าเคร่งขรึม พูดขึ้น "ตรวจสอบหยางหว่านอวี่คนนี้ สำคัญคือความสัมพันธ์ของเธอกับหวังจื่อเฟิง"“ระ......รับทราบ!” เลขาตอบรับอย่างเร่งรีบและหันหลังไปโทรศัพท์หลังจากนั้นไม่นาน เลขาก็กลับมาที่ห้องด้วยสีหน้าซับซ้อน "ตรวจสอบได้แล้ว หลายปีมานี้ตระกูลหยางประจบประแจงตระกูลหวังอยู่ตลอด อยากจะยุยงหยางหว่านอวี่กับหวังจื่อเฟิงให้คบกัน ว่าทั้งสองกำลังจะเปิดเผยความสัมพันธ์ของพวกเขาต่อสาธารณะแล้ว"“เธอกล้าดียังไง!” เกาชิงเหยียนกัดฟัน ใบหน้าสวยของเต็มไปด้วยความเย็นชาในช่วงสามปีที่ผ่านมา เพื่อตอบแทนบุญคุญที่ลั่วอู๋ฉางช่วยชีวิตไว้ ตระก
ลั่วอู๋ฉางเพิ่งเห็นว่าหยางหว่านอวี่นั่งอยู่ตรงนี้ จึงขมวดคิ้ว หันหลังจะเดินจากไปเดิมทีเขาไม่ชอบปรากฏตัวในวงสังคมอยู่แล้ว หากไม่ใช่เพราะวันนี้งานที่จัดขึ้นคืองานเลี้ยงการกุศล เขาไม่มีทางยอมเข้าร่วมงานด้วยซ้ำในเมื่อตอนที่หย่ากัน พูดเอาไว้แล้วว่าต่างคนต่างแยกทาง ลั่วอู๋ฉางไม่อยากเกี่ยวข้องใด ๆ กับหยางหว่านอวี่อีกการกระทำของเขาแบบนี้ถูกหวังจื่อเฟิงเข้าใจผิดเป็นขี้ขลาด ยื่นมือออกไปห้ามทันที “ทำไม ถูกเปิดโปงต่อหน้าทุกคน นายกลัวแล้วเหรอ?”“ไม่ดูเลยว่าที่นี่คือสถานที่อะไร นายอยากจะมาก็มา อยากไปก็ไปได้ที่ไหนกัน!”เป้าหมายที่แท้จริงของหวังจื่อเฟิง เพื่อให้ตระกูลเกาเชื่อในสถานะนักต้มตุ๋นของลั่วอู๋ฉาง ไม่มีทางให้โอกาสเขาหนีไป"ลั่วอู๋ฉาง คิดไม่ถึงว่านายจะเปลี่ยนไปเป็นคนแบบนี้ ใช้กำลัง หลอกลวงแถมยังพูดโกหก การกระทำพวกนี้นายรับไม่ได้ไม่ใช่เหรอ?"คำพูดของหยางหว่านอวี่ เหมือนกับมีดเล่มเล็กที่แหลมคม ทิ่มแทงหัวใจของลั่วอู๋ฉางอย่างแรง"สุดท้ายแล้ว ตัวเองกลัวกลายเป็นแบบที่ตัวเองเกลียดที่สุด ทำให้คนผิดหวัง ฉันละอายใจที่คลุกคลีกับนาย!"ลั่วอู๋ฉางสงบเงียบตั้งนานแล้ว เมื่อเผชิญหน้าคำตำหนิที่ไม่เป็
ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าตระกูลเกาจะถูกหลอกง่าย ๆ ตรงกันข้ามใครกล้าหลอกลวงตระกูลเกา จุดจบน่าอนาถมาก!แต่เรื่องตรงหน้า จะอธิบายอย่างไร?นี่ไม่สมเหตุผลอย่างเห็นได้ชัดเลยนะ!หวังจื่อเฟิงไม่ยอมอยู่แล้ว เขารีบยกมือขึ้นชี้จมูกตัวเอง "ผม พี่ตาวนี่ผมเอง! ผมคือหวังจื่อเฟิงลูกชายของหวังฉีอิ๋ง ไม่กี่วันก่อนพวกเรายังเจอกันที่สถานบันเทิงอยู่เลย"หวังจื่อเฟิงคิดว่า พ่อของตัวเองโทรเพียงแค่สายเดียว ก็ทำให้หยางหว่านอวี่ได้นั่งข้างที่นั่งหลัก นั่นมีหน้ามีตาอย่างมาก!ในฐานะลูกชายคนเดียวของหวังฉีอิ๋ง แน่นอนว่าเขาสามารถนั่งอีกด้านหนึ่งของ เกาชิงเหยียน นี่เป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอพี่ตาวตะโกนอย่างหงุดหงิด "ฉันกำลังพูดถึงแก ไสหัวไปเดี๋ยวนี้!"เสียงดังสะเทือนแก้วหูของหวังจื่อเฟิง เลขาก็มาพึงพอดี จากนั้นพูดกับหยางหว่านอวี่ "เมื่อครู่ฉันเข้าใจผิด ที่นั่งของคุณไม่ได้อยู่ตรงนี้ เชิญคุณออกไปเดี๋ยวนี้"หยางหว่านอวี่นิ่งอึ้ง "ถ้าอย่างนั้น ฉันนั่งตรงไหน?"เลขาชี้ไปที่ที่นั่งธรรมดาที่อยู่ไกลออกไป "ตรงนั้น คุณเลือกตามสบาย"หยางหว่านอวี่รีบขอความช่วยเหลือจากหวังจื่อเฟิง หวังจื่อเฟิงยังเอาตัวเองไม่รอดเลย เ
ทั่วทั้งงานเงียบสงัด บนใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อต่อให้เกาชิงเหยียนจะหน้าตาสวยงาม แต่ทุกคนที่รู้จักเธอก็รู้ดีว่าผู้หญิงที่ดูมีเสน่ห์คนนี้ ความเป็นจริงโหดเหี้ยมอย่างมาก!อย่าลืมว่าเธอคือลูกสาวของเกาฉี่เฉียง!หลายคนหลงใหลกับรูปร่างหน้าตาของเกาชิงเหยียน คิดว่าเธอถูกรังแกได้ง่าย ผลปรากฏว่าสูญเสียครั้งใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้ เกาฉี่เฉียงไม่ค่อยปรากฏตัว เรื่องทุกอย่างในตระกูลเกา เกาชิงเหยียนใหญ่สุด การกระทำมีท่าทางคล้ายพ่อ ทำให้คนผู้คนมากมายชื่นชมพวกเขาไม่เข้าใจ ผู้หญิงแกร่งที่นิสัยเด็ดขาดแบบนี้ ทำไมถึงได้เคารพผู้ชายตรงหน้าที่ดูธรรมดาอย่างถึงที่สุดคนนี้ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อครู่หวังจื่อเฟิงก็พูดบอกว่า คนคนนี้เพิ่งออกมาจากในคุกตอนที่เกาชิงเหยียนก้มหน้าขอโทษ สายตาเหลือบมองไปทางหยางหว่านอวี่โดยไม่รู้ตัวลั่วอู๋ฉางเข้าใจทันทีว่า เกาชิงเหยียนขอโทษเขาโดยเฉพาะ เรื่องที่จัดให้หยางหว่านอวี่มานั่งที่ด้านข้าง"ไม่เป็นไร เธอทำเพื่อหวังดี ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด" ลั่วอู๋ฉางโบกมือด้วยความใจกว้าง ไม่ได้คิดที่จะไต่ถามเกาชิงเหยียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก ลุกขึ้นยืนช้า ๆ รอยยิ้มหว
หวังจื่อเฟิงวางสายอย่างจำใจและกลับไปยังที่นั่ง“เป็นอย่างไรบ้าง ประธานหวังว่าอย่างไรคะ” ผู้หญิงสองคนเต็มไปด้วยความคาดหวังบอกว่าทำไม่สำเร็จ? เขาจะไม่เสียหน้าต่อหน้านางฟ้าหรอกเหรอ หวังจื่อเฟิงพูดโกหก "เรื่องยุ่งยากนิดหน่อย แต่พ่อของผมกำลังพยายามใช้เส้นสายอยู่ พวกคุณไม่ต้องร้อนใจ รอข่าวเถอะ"พิธีกรขึ้นเวที ประกาศเริ่มงานการกุศลอย่างเป็นทางการเกาชิงเหยียนขยับเข้าไปใกล้ลั่วอู๋ฉางโดยไม่รู้ตัว ในสายตาคนภายนอก ท่าทางที่สนิทสนมมากแบบนี้ ตอนที่เด็กสาวชอบใครสักคน ถึงจะทำแบบนี้"คุณลั่ว ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าคุณหย่าร้างแล้ว ไม่อย่างนั้นไม่มีทางเปลี่ยนการจัดการกะทันหัน ให้คุณหยางมาตรงนี้"ริมฝีปากแดงที่งามเพลิศพริ้งของเกาชิงเหยียน อยู่ห่างจากหูของลั่วอู๋ฉางเพียงแค่ไม่กี่เซนติเมตร ยิ่งเหมือนกับคู่รักกำลังกระซิบกระซาบกันลั่วอู๋ฉางนั่งตัวตรงแล้วพูดว่า "มันเป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว คุณเกาไม่จำเป็นต้องตำหนิตัวเอง"หยางหว่านอวี่บังเอิญเห็นฉากนี้ ใบหน้าของเธอก็ซับซ้อนมากเธอคิดว่าเธอปล่อยวางได้แล้ว แต่เมื่อเห็นสามีเก่าของเธอสนิทสนมกับผู้หญิงคนอื่น เธอก็เกิดความหึงหวงอย่างควบคุมไม่ได้หยางหว่านอวี่ไ
ในโซนทั่วไป หยางหว่านอวี่สีหน้าวิตกกังวลเธอไม่เข้าใจว่าขั้นตอนไหนเกิดความผิดพลาด ทำให้ความพยายามล้มเหลวลงในตอนนี้เอง โทรศัพท์ของจ้าวเหม่ยอวิ๋นดังขึ้น"เพื่อนของฉันคนเมื่อครู่ จะถามเธอพอดีว่าเหตุผลเพราะอะไร" จ้าวเหม่ยอวิ๋นชี้ไปที่โทรศัพท์แล้วพูดขึ้นหยางหว่านอวี่พยักหน้า สีหน้าของเธอเริ่มกังวล"ฮัลโหล...เธอว่าอะไร แผนกกฎหมายกำลังร่างสัญญา พวกเราหยางซื่อกรุ๊ปกลายเป็นคู่ค้าดีเด่น?"หยางหว่านอวี่ได้ยินแบบนี้ ใบหน้าของเธอก็แสดงความดีใจออกมาทันที"เดี๋ยวนะ เมื่อครู่เธอยังพูดว่าพวกเราถูกตัดสิทธิ์แล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงได้เปลี่ยนไปเร็วขนาดนี้ ฉันใจไม่ค่อยดี เธออย่าล้อเล่นแบบนี้!"หวังจื่อเฟิงกลับมีท่าทางที่ไม่ได้คิดแบบนั้น พ่อบอกเองว่าไม่มีโอกาส งั้นต้องเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว ไม่มีทางเกิดการเปลี่ยนแปลงคุณไม่จำเป็นต้องเดาก็รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังล้อเล่นกับจ้าวเหม่ยอวิ๋นตระกูลเกายึดมั่นในคำพูดของพวกเขามาโดยตลอด ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงสิ่งที่พวกเขาตัดสินใจไปแล้วไม่รอจ้าวเหม่ยอวิ๋นวางสายอย่างสมบูรณ์ เธอก็อดใจรอไม่ไหวที่จะถามขึ้น "เป็นอย่างไรบ้าง?"“สำเสร็จแล้ว! เพื่อนของฉันบอกว่าแผนกกฎหมา
จ้าวเหม่ยอวิ๋นตามมาข้างหลังติด ๆ จากนั้นพูดเย้ยหยันเขาขึ้นมา "นายก็แกหาผู้หญิงบ้าบิ่นเกาะผู้หญิงกิน อีกอย่างพึ่งพาการต้มตุ๋นหลอกลวง มีอะไรให้น่าภาคภูมิใจ?""คนแบบคุณชายหวังถึงจะเรียกว่าบุคคลอัจฉริยะ แค่โทรสายเดียว ก็สามารถช่วยประธานหยางของพวกเราจัดการปัญหาใหญ่ได้แล้ว!"ลั่วอู๋ฉางขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดว่า "พูดจบแล้วยัง? พูดจบแล้วก็หลีกทาง ขวางทางเป็นการกระทำที่ไม่มีมารยาทสักเท่าไหร่"ขี้เกียจพูดเรื่องไร้สาระกับคนเหล่านี้ ยิ่งไม่อยากเห็นหน้าไร้ยางอายของพวกเขา!จ้าวเหม่ยอวิ๋นโมโหทันที "ต่อว่านายสองสามประโยคไม่พอใจเหรอ? นายก็แค่นักโทษคนหนึ่ง อยู่ต่อหน้าพวกเราแสร้งทำเป็นหยิ่งในศักดิ์ศรีอะไร? นายคู่ควรด้วยเหรอ?"“ถ้าอย่างนั้นฉันอยากจะถาม หวังจื่อเฟิงมีความพิเศษอะไรกันแน่?” ลั่วอู๋ฉางสีหน้าเย็นชาจ้าวเหม่ยอวิ๋นพูดอย่างหยิ่งผยอง "เงี่ยหูแล้วฟังให้ เมื่อครู่คุณชายหวังโทรออกแค่สายเดียวก็พลิกสถานการณ์ ทำให้พวกเราได้เป็นคู่ค้าดีเด่นของตระกูลเกา ถ้าเป็นนาย แม้แต่ฝันก็ยังทำไม่ได้!"ลั่วอู๋ฉางขมวดคิ้วอีกครั้ง "เธอแน่ใจเหรอว่านี่เป็นความดีความชอบของหวังจื่อเฟิง? อย่าบูชาผิดวัด ขอบคุณผิดพระเจ้า
ไม่มีความเชื่อใจ อธิบายให้มากมายก็เห็นได้ชัดว่าไม่มีประโยชน์"ในเมื่อเธอคิดแบบนี้ อย่าเสียดายภายหลังก็พอ!" ลั่วอู๋ฉางหน้านิ่งเหมือนน้ำ ก้าวเท้าเดินออกไปหยางหว่านอวี่โกรธมากจนควบคุมสติไม่ได้ ตะโกนไปด้านหลังของเขา "เรื่องที่ฉันเสียใจที่สุด คือฉันเลือกนายในตอนนั้น!"หวังจื่อเฟิงเสแสร้งแกล้งทำ ทำท่าทีไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง "หว่านอวี่ อย่าโมโหเลย เพื่อคนแบบนี้แล้วโมโหจนทำร้ายร่างกาย ไม่คุ้มค่าจริง ๆ"“ไอ้หมอนี่ต้องเป็นเพราะยอมรับไม่ได้ที่ถูกหย่าร้าง และก็เห็นคนที่ดีเลิศอย่างผมอยู่ด้วยกันกับคุณ ยากที่จะหลีกเลี่ยงความอิจฉาตาร้อน เป็นเรื่องปกติของคนเรา สามารถเข้าใจได้!”จ้าวเหม่ยอวิ๋นเริ่มประจบเธอในเวลาที่ไม่เหมาะสม "ประธานหยางดูสิ นี่คือความแตกต่างระหว่างคนสองคน ไม่เปรียบเทียบไม่รู้ เมื่อเปรียบเทียบก็ตกใจแทบแย่!"“คุณเป็นคนจิตใจอ่อนโยน และให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์เกินไป กลัวจะกระทบต่อการแสดงออกของเขาในคุก เลื่อนการหย่าร้างออกไปสี่ปี ตอนนี้พิสูจน์แล้วว่าคุณทุ่มเทผิดที่!”"คุณชายหวังดีกว่าลั่วอู๋ฉางร้อยเท่า คุณควรจะถือโอกาสตอนที่เขายังอยู่ในคุก ยกเลิกการแต่งงานฝ่ายเดียว จากนั้นคบกับคุณ
ชวีซานตัวไม่กล้าขัดขืน ได้แต่ทำตามคำสั่งเมื่อทุกคนมาถึงภูเขาด้านหลัง ฟ้าก็เริ่มสางแล้วเบื้องหน้าคือเหวลึกที่ขวางทางอยู่ลั่วอู๋ฉางผูกปลายเชือกด้านหนึ่งไว้กับเสา แล้วสะพายเชือกที่มัดรวมกันไว้บนหลัง ก่อนพยักหน้าให้ทุกคน"มีปัญหาอะไรไหม?"ลั่วอู๋ฉางถามอาวุโสที่มีใบหน้าฟกช้ำดำเขียวคนนั้นอาวุโสรีบตอบ "ไม่มีปัญหาครับ!"ลั่วอู๋ฉางกระโดดขึ้นด้วยเท้าข้างเดียว ตัวเขาลอยขึ้นสูงก่อนเหาะตรงไปยังอีกฟากของหน้าผาเมื่อเหาะไปได้ครึ่งทาง ร่างของลั่วอู๋ฉางก็เริ่มร่วงลงเมื่อคำนวณจากมุมนี้ เขาแทบไม่มีโอกาสไปถึงอีกฝั่งเลยทันใดนั้น นกอินทรียักษ์ตัวหนึ่งก็โฉบมาจากด้านข้างอาวุโสคนเมื่อกี้ยืนอยู่ริมหน้าผาและเป่านกหวีดเรียกอินทรีอินทรียักษ์กางปีก ลั่วอู๋ฉางเหยียบลงบนหลังมันหนึ่งที ทิศทางที่กำลังร่วงพลันเปลี่ยนเป็นลอยขึ้นเสี้ยววินาทีต่อมา เขาก็ลงถึงริมหน้าผาอีกฝั่งอย่างมั่นคงจากนั้นก็ทำแบบเดิม ผูกปลายเชือกฝั่งนี้ไว้กับเสาอีกข้าง"เจ้าสำนักชวี สั่งคนของท่านให้เริ่มได้แล้ว!" ซูเทียนคั่วออกคำสั่งอย่างไม่ไว้หน้าชวีซานตัวไม่ใช่ไม่เคยคิดจะเล่นงานตอนที่ลั่วอู๋ฉางกำลังข้ามหน้าผาเขาเคยคิดจะสั่ง
คำกล่าวอย่างมั่นใจของลั่วอู๋ฉางดังก้องไปทั่วสำนักใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้มหากเป็นเมื่อก่อน ใครกล้าพูดกับหัวหน้าสำนักพวกเขาเช่นนี้ คงไม่ต้องรอให้ชวีซานตัวเอ่ยปาก สมาชิกระดับล่างก็พร้อมจะซัดมันจนหมอบไปแล้วต่อหน้าประตูสำนักงานใหญ่ จะปล่อยให้คนมาพูดจาโอ้อวดได้อย่างไร?แต่สถานการณ์ตอนนี้คือ ลั่วอู๋ฉางไม่เพียงแต่พูด เขายังทำลายประตูใหญ่ของพวกเขาและทำร้ายคนไปอีกหลายสิบคนด้วยแน่นอนว่าจำนวนนี้ไม่ได้ตายตัวถ้าคนอื่นกล้าบุกเข้าไปอีก ลั่วอู๋ฉางจะไม่ปรานี และยินดีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้บาดเจ็บให้พันธมิตรบู๊ลิ้มอีกด้วย"แก...ปากกล้านักนะ!"ชวีซานตัวในฐานะหัวหน้าแห่งบู๊ลิ้ม ไม่อาจเสียศักดิ์ศรีด้วยการยอมแพ้ง่าย ๆทั้งๆ ที่ความจริง ในใจเขานั้นกลับตื่นตระหนกจนแทบควบคุมไม่อยู่อาวุโสทั้งแปดร่วมมือกันยังเอาชนะไม่ได้!ถึงแม้ตอนฝึกซ้อมปกติ ชวีซานตัวจะเคยชนะพวกเขามาแล้วก็เถอะแต่ใช้นิ้วโป้งเท้าคิดก็ยังรู้เลยว่า เป็นอาวุโสทั้งแปดแกล้งอ่อนข้อให้ถ้าสู้จริง ชวีซานตัวไม่มีทางได้เปรียบหรอกแต่ลั่วอู๋ฉางกลับทำได้!นี่แสดงให้เห็นว่า ความสามารถของเขาเหนือกว่าชวีซานตัวมากถ้ายอมแพ้ต่อหน้าสมาชิกบู๊ลิ้มมา
เขาไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้ โดยเฉพาะต่อหน้าสาธารณชน"อาวุโสทั้งแปดของสภาผู้อาวุโสอยู่ที่ใด?"ดวงตาของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความโกรธ พร้อมตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน"ข้าน้อยอยู่ที่นี่!"อาวุโสทั้งแปดคนตอบรับออกมาพร้อมกัน"คนผู้นี้ทำลายประตูสำนักของเรา ทำร้ายศิษย์ของเรา จงสังหารมันตรงนี้เดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง!" ชวีซานตัวกัดฟันกล่าวอาวุโสทั้งแปดคนตอบพร้อมกันอีกครั้ง "รับทราบ ท่านเจ้าสำนัก!""ฆ่า!"ทั้งแปดคนล้วนเป็นผู้มีวิชาระดับปรมาจารย์ใหญ่มีฝีมือไม่ธรรมดา!ในสำนักใหญ่ ทั้งด้านสถานะและพลังฝีมือ พวกเขาเป็นรองเพียงชวีซานตัวเท่านั้นเมื่อทั้งแปดร่วมมือกัน แม้แต่วีรบุรุษในตำนานก็ยากที่จะเอาชนะพวกเขาได้พวกเขาร่วมมือกันอย่างเข้าขา ล้อมลั่วอู๋ฉางไว้ตรงกลาง และออกกระบวนท่าสังหารทุกอย่างใส่เขาถ้าเป็นคนอื่น คงถูกพวกเขาสับเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแต่ลั่วอู๋ฉางกลับไม่สะทกสะท้านใดๆ เพียงแค่ส่งกระแสจิต"วึ้ง!"คาถาป้องกันตัวปล่อยแสงสีทองออกมา ขัดขวางการโจมตีทั้งหมดไว้"อะไรกัน?"ชวีซานตัวเบิกตากว้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อในสายตาของเขา ต่อให้ลั่วอู๋ฉางเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็น
ท่ามกลางความมืด มีร่างคนจำนวนมากพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาเห็นชัดเจนแล้วว่าประตูทางเข้าซึ่งเป็นหน้าตาของพันธมิตรบู๊ลิ้มถูกทำลาย กลายเป็นซากปรักหักพัง พวกเขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที"ใครกันที่กล้าบ้าบิ่นถึงขนาดนี้!""บังอาจมาพังประตูใหญ่ของพันธมิตรบู๊ลิ้ม รนหาที่ตายแล้ว!""จะเป็นใครก็ช่าง แต่แน่ๆ คงไม่ใช่คนดีหรอก สับมันเป็นชิ้นๆ ก่อนค่อยว่ากัน!"กลุ่มคนที่โกรธแค้นเห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าซากปรักหักพัง"ไอ้หนุ่ม แกเห็นไหมว่าใครเป็นคนทำ?"คนตาไวมองเห็นว่าเป็นเงาของชายหนุ่มจึงรีบถามออกไปทันที"ขอเตือนไว้ก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ รีบพูดสิ่งที่นายเห็นออกมาทั้งหมก ไม่งั้นนายเองก็ต้องเดือดร้อนด้วย!"ลั่วอู๋ฉางยืนอย่างสงบพลางตอบว่า "เห็น""รีบบอกมาว่าใคร!" คนกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นพร้อมกันลั่วอู๋ฉางตอบอย่างไม่รีบร้อนว่า "ก็ฉันไง!""อะไรนะ?!"คนกลุ่มนั้นเบิกตาโต ความโกรธที่ปรากฏบนใบหน้าชัดเจนยิ่งกว่าความตกใจ"ไอ้หนุ่ม นี่ไม่ใช่เวลามาอวดเก่ง คิดว่าเราจะเชื่อแกหรือไง?""รีบบอกมาว่าใครเป็นคนทำ ไม่งั้นจะถือว่าแกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วย!""ให้โอกาสสุดท้าย รีบพูด ไม่งั้นพวกเร
ซูเทียนคั่วกังวลขึ้นมาทันที ขณะที่ปกป้องซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลานสาว เขาก็ตะโกนเสียงดังขึ้นว่า "เจ้าสำนักชวี นี่คือวิธีการต้อนรับแขกของพันธมิตรบู๊ลิ้มหรือ?""หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ไม่กลัวคนในยุทธภพจะหัวเราะเยาะหรือ?"ชวีซานตัวไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย "อย่างพวกนายเนี่ยนะ? เรียกว่าแขกได้ด้วยหรือ?"เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจำนวนคนที่มากกว่าหลายเท่า อีกทั้งสายตาที่จับจ้องมาอย่างอาฆาต ทั้งสามคนไม่สามารถต่อกรได้เลยไม่นานพวกเขาก็ถูกจับตัวได้!"ชวีซานตัว การที่คุณทำเช่นนี้ ไม่กลัวว่าศิษย์ของเทพอวี้อย่างราชันมังกรลั่วเทียนจะมาหาเรื่องหรือ?" ซูเทียนคั่วพูดขณะดิ้นรนชวีซานตัวไม่สนใจแม้แต่น้อย "ถ้าเขากล้าหาญมาที่นี่ ฉันจะให้เขาลิ้มรสชาติของการต้องเป็นนักโทษเช่นกัน!""ศิษย์ที่ถูกสอนโดยตาแก่แบบนั้น คงไม่ใช่คนดีสักเท่าไรหรอก พอดีเลย จะได้ให้เขาชดใช้หนี้แทนตาแก่นั่นและพวกแกไปพร้อมกัน!""ราชันมังกรลั่วเทียนอะไรกัน แค่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ จะมีอะไรพิเศษนัก?""ตัวเขาไม่อายก็ช่างเถอะ แต่ยังกล้าไปหาคนมาคุยโวแทนตัวเอง คิดจะดังจากการสร้างกระแสเช่นนี้ คิดว่าบู๊ลิ้มเป็นที่สำหรับเล่นขายของหรือไง ฝันไปเถ
พูดของชวีซานตัวเต็มไปด้วยความหยาบคายใบหน้าสวยของเย่ปิงเหยาเริ่มบึ้งตึง แต่เพราะนี่เป็นถิ่นของอีกฝ่าย เธอจึงไม่อาจโต้ตอบได้ชวีหลิงหานคือน้องสาวของชวีซานตัว ทั้งสองคนมีอายุห่างกันมากกว่ายี่สิบปีหลังจากชวีหลิงหานเกิดได้ไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็เสียชีวิตจากอาการป่วย ก่อนสิ้นใจได้ฝากให้ชวีซานตัวช่วยเลี้ยงดูน้องสาวที่ยังเป็นแค่ทารกแรกเกิดชวีซานตัวเลี้ยงดูน้องสาวด้วยความยากลำบาก จนเธอเติบโตขึ้นมาเป็นหญิงสาวที่งดงามยิ่ง ทั้งยังมีพรสวรรค์จนได้รับความสนใจจากคนในบู๊ลิ้มมีผู้คนมาสู่ขอเธอมากมายจนทำให้ประตูบ้านตระกูลชวีแทบพังในขณะที่ชวีซานตัวกำลังเลือกคู่ครองให้น้องสาวจนตาลาย และวาดฝันว่าเธอจะได้แต่งงานกับตระกูลใหญ่โตความฝันกลับพังทลาย!ชวีหลิงหาน หญิงสาวผู้แสนงดงาม กลับถูกชายแก่อัปลักษณ์คนหนึ่งมาชิงตัวไป!ในตอนแรก ชวีซานตัวคิดว่าน้องสาวของเขายังไร้เดียงสา และถูกชายชั่วหลอกลวงเขาคิดว่าเพียงแค่พูดจาโน้มน้าวด้วยความรักและเหตุผล น้องสาวจะกลับตัวกลับใจแต่ผลกลับเป็นตรงกันข้าม!ชวีหลิงหานไม่เพียงแต่ไม่สำนึกในสิ่งที่ทำ แต่กลับรักชายแก่คนนั้นอย่างหัวปักหัวปำ และพูดคำพูดไร้สาระอย่างเช่นรักจน
พูดตามตรง ลั่วอู๋ฉางก็มีใจอ่อนนิดหน่อยทุกครั้งที่ต้องต่อสู้กับพวกกระจอก เขามักจะคิดถึงหูเยว่ซีอย่างมากเป็นถึงจักรพรรดินีแห่งชิงชิว แต่เขากลับใช้งานเหมือนลูกน้องปลายแถวประเด็นสำคัญคือ หูเยว่ซีไม่เพียงแต่ไม่โกรธ แต่ยังเต็มใจช่วยอย่างยินดีอีกด้วย"ไม่ได้"ความมีเหตุผลเอาชนะความหุนหัน ลั่วอู๋ฉางพูดพร้อมขมวดคิ้ว "เธอต้องอยู่เฝ้าบ้าน มีแต่แบบนี้ ฉันถึงจะวางใจได้"หูเยว่ซีทำหน้าหงอย: "ก็ได้!"ลั่วอู๋ฉางหัวเราะ "เธอว่านอนสอนง่ายขนาดนี้ ต้องให้รางวัลสักหน่อยแล้ว""รางวัลอะไร?" จิ้งจอกน้อยถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาทั้งสองส่องประกายวิบวับทันทีลั่วอู๋ฉางหยิบลูกแก้วพญานาคออกมาจากกระเป๋าแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้สัญญาว่าจะให้ของขวัญเธอ ตอนนี้ถึงเวลาทำตามสัญญาแล้ว"หูเยว่ซีตาเป็นประกายอีกครั้ง "ลูกแก้วพญานาค!"ถ้าเป็นเมื่อก่อน ลูกแก้วพญานาคระดับนี้เธอคงไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำแค่มองนานหน่อย ก็ถือเป็นการดูหมิ่นคำว่า "จักรพรรดินีแห่งชิงชิว" แล้ว!แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน หลังจากถูกขังอยู่ในแหวนมานานถึงพันปี เพิ่งจะได้อิสรภาพคืนมา พลังลดลงไปมากและร่างกายก็อ่อนแอสุดขีดนี่คือช่วงเวลาที่เธอต้อง
หวงผู่เจิ้งซิ่นย่อมไม่พอใจแน่!คนเป็นครูยังล้มเหลว แต่ศิษย์กลับทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกถ้าไม่ใช่บังเอิญ แล้วมันคืออะไร?ลั่วอู๋ฉางไม่ตอบอะไร จากนั้นก็หยิบคริสตัลสวรรค์ก้อนที่สองมาไม่นานก็ทำสำเร็จอีกครั้ง!หวงผู่เจิ้งซิ่นเบิกตากว้าง ประหลาดใจราวกับเห็นเทพเจ้าส่วนใบหน้าของหูเยว่ซีก็เต็มไปด้วยความชื่นชมมากขึ้นเรื่อยๆ"ลองอีกครั้งสิ!" หวงผู่เจิ้งซิ่นยังคงไม่ยอมแพ้คราวนี้ ลั่วอู๋ฉางไม่ทำตามเขาอีกต่อไป เขาเก็บแท่งคริสตัลสวรรค์ที่เหลือทันที"หมายความว่าไง?" หวงผู่เจิ้งซิ่นถามตาโตลั่วอู๋ฉางลุกขึ้นเดินออกไป ทิ้งคำพูดไว้โดยไม่หันกลับมา "ขอบคุณนะ!""เดี๋ยวสิ นายแน่ใจแล้วเหรอว่านายเข้าใจทั้งหมด?"หวงผู่เจิ้งซิ่นรีบไล่ตามไป "ถ้าไม่สำเร็จล่ะ ฉันจะได้ช่วยหาสาเหตุไง!""ไม่จำเป็นแล้ว ถ้านายท่านของฉันคิดว่าไม่มีปัญหา มันก็ไม่มีปัญหาแน่" หูเยว่ซีขวางเขาไว้ พร้อมพูดอย่างหนักแน่นในตอนนี้ สีหน้าหวงผู่เจิ้งซิ่นเต็มไปด้วยความซับซ้อนศิษย์ที่เก่งเกินไปทำให้ครูรู้สึกอับอาย"ไหนว่าราชันมังกรลั่วเทียนก็เป็นแค่คนธรรมดา เขาเป็นปีศาจชัดๆ!"หวงผู่เจิ้งซิ่นยอมแพ้อย่างหมดท่า พูดอย่างเศร้าๆ "คิดว่า
หวงผู่เจิ้งซิ่นเชิดคอขึ้น พยายามทำสีหน้าให้ดูปกติที่สุดเพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเองเนื่องจากการสาธิตเมื่อครู่นั้นจบลงด้วยความล้มเหลวแม้ว่าเขาจะรู้วิธี แต่เพราะไม่ได้ปฏิบัติมาเป็นเวลานาน ความผิดพลาดจึงถือเป็นเรื่องปกติ"หาว..."หูเยว่ซีอ้าปากหาวครั้งใหญ่ ราวกับเปลือกตาถูกกดด้วยน้ำหนักมหาศาลใช่แล้ว เธอง่วงจริงๆ!การสอนของหวงผู่เจิ้งซิ่นทำให้เธอง่วงได้สำเร็จส่วนเนื้อหาที่พูดในภายหลัง แทบไม่ได้เข้าหัวของหูเยว่ซีเลย ผ่านหูซ้ายออกหูขวา ไม่มีอะไรในหัวเลย"พวกคุณ...ทำต่อไปเลย!"หูเยว่ซียืดแขนบิดขี้เกียจ และส่งสัญญาณให้ทั้งคู่ไม่ต้องสนใจเธอสิ่งนี้ทำให้หวงผู่เจิ้งซิ่นรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวมาก!รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าฉาดใหญ่!การทำให้นักเรียนง่วงถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายอยู่แล้ว ที่สำคัญคือการสาธิตของตัวเองยังล้มเหลวอีกด้วย"ไม่เป็นไร ฉันขอลองเอง" ลั่วอู๋ฉางเสนอตัวขึ้นอย่างกล้าหาญ"คุณจำทั้งหมดได้แล้วเหรอ?"หวงผู่เจิ้งซิ่นพูดด้วยสีหน้าจริงจังทันที "อย่าเพิ่งรีบร้อนปฏิบัติเลย ลองทบทวนสิ่งที่ฉันพูดสักรอบก่อน มีจุดไหนที่ไม่เข้าใจก็ถามให้แน่ชัด แล้วค่อยลงมือ"เพราะจำนวนของแท่งค