Share

บทที่ 3

Author: ลั่วเหล่ย
last update Last Updated: 2024-01-29 18:17:44
หยางหว่านอวี่กลับจะคบกับมัน นี่มันเป็นการเหยียดหยามกันอย่างมาก

ในตอนนี้รถเบนซ์คันหนึ่งขับมา ร่างงามลงมาจากรถ ใบหน้าประณีตสวยงามสุด ๆ ชุดทำงานแบรนด์เนมเข้ารูปจนเห็นรูปร่างที่งดงาม ขาเรียวยาวตรงดิ่งทั้งสองข้างที่ดึงดูดสายตาเป็นพิเศษ

ออร่าที่เหนือกว่าคนทั่วไปของเธอ เหมือนกับราชินี ทำให้ผู้คนตกตะลึง

ช่วงเวลาสี่ปี ไม่เพียงไม่ได้ทิ้งร่องรอยของการเวลาใด ๆ ไว้บนใบหน้าของเธอ ในทางกลับกันยังเพิ่มความเป็นผู้ใหญ่ของผู้หญิงที่แข็งแกร่งอีกด้วย

“เสี่ยวอวี่……”

ลั่วอู๋ฉางสีหน้าเผยความดีใจอย่างอดไม่ได้ สาวเท้าเดินเข้าไปหา

หยางหว่านอวี่ถอยหลังไปหนึ่งก้าวด้วยสัญชาตญาณ และหลบสายตา “ขออภัย ธุรกิจรัดตัวมาช้าไปหน่อย เลขาจ้าว จัดการเรื่องเสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอ?”

ท่าทางเย็นชา กีดกันผู้คนออกไปไกลเป็นหลายพันไมล์

จ้าวเหม่ยอวิ๋นสีหน้าประหม่า รีบกางร่มเดินเข้าไป “ฉันกำลังดำเนินการอยู่……อ่อใช่ ประธานหยาง คุณมีนัดกับคุณชายหวังไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงมีเวลามาที่นี่?”

“ไม่กระทบหรอก จัดการเรื่องทางนี้เสร็จก็จะไปตามนัด”

สายตาของหยางหว่านอวี่ถึงได้มองไป เห็นลั่วอู๋ฉางที่เสื้อผ้าเปียกชุ่ม เธอเผยสีหน้าซับซ้อนขึ้นมาก่อน แต่ไม่นานนักก็กลับมาเย็นชา “ลั่วอู๋ฉาง เป็นอย่างไรบ้าง!”

“นายรู้ ว่าฉันเป็นคนนิสัยตรงไปตรงมา งั้นก็ไม่อ้อมค้อมนะ การเสียสละที่นายทำเพื่อฉันและตระกูลหยาง ครอบครัวของเราจะจดจำไว้ในใจ ความสัมพันธ์ของพวกเราในช่วงเวลานั้น ฉันจะถือเป็นความทรงจำที่สวยงาม”

“แต่ว่า พวกเราไม่เหมาะสมที่จะอยู่ด้วยกันอีกต่อไปแล้ว”

เหมือนกับว่าคนที่เธอยืนอยู่ตรงหน้า ไม่ใช่สามีของเธอ เหมือนเป็นคู่เจรจาธุรกิจ ไม่นึกถึงจิตใจกันเลยสักนิด

“ดังนั้น หย่ากันเถอะ!”

ไม่ใช่การเจรจา ไม่ใช่การประกาศ แต่เป็นการพูดออกคำสั่ง

“ตอนที่เป็นแฟนกัน เธอไม่คิดว่าไม่เหมาะสม ตอนแต่งงาน เธอก็ไม่ได้คิดว่าไม่เหมาะสม ครอบครัวของเธอคุกเข่าอยู่ตรงหน้าฉัน ตอนที่ขอร้องให้ฉันรับโทษแทนน้องชายเธอ เธอก็ไม่ได้รู้สึกว่าไม่เหมาะสม”

ลั่วอู๋ฉางกำหมัดแน่น เล็บทิ่มแทงเข้าฝ่ามือแต่กลับไม่มีความรู้สึก “ตอนนี้ เธอบอกกับฉันว่าไม่เหมาะสม?”

ในใจของหยางหว่านอวี่เหมือนเกิดความสับสนเล็กน้อย แต่ไม่นานนักก็ถูกเหตุผลเอาชนะ “เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ตอนนี้นายพูดเรื่องพวกนี้ ไม่มีความหมายใด ๆ แล้ว”

ลั่วอู๋ฉางจ้องมองดวงตาเย็นชาของอีกฝ่าย “เงินทอง อำนาจ ฐานะ สำคัญขนาดนั้นจริง ๆ เหรอ? ทำให้เธอบุกเข้าไปอย่างไม่กลัวตาย ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง?”

“สำหรับฉันแล้ว สำคัญมากจริง ๆ! นายในตอนนี้ ไม่มีทางเข้าใจว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่ สิ่งที่ฉันอยากได้ นายให้ไม่ได้ด้วยซ้ำ สิ่งที่นายเห็นว่าสำคัญ ฉันกลับไม่ชอบด้วยซ้ำ”

ใบหน้าของหยางหว่านอวี่ปิดบังความผิดหวังไว้ไม่มิด นี่ก็คือความแตกต่างของระดับ กำหนดไว้ว่าทั้งสองคนไม่สามารถเดินต่อไปได้ เธอจึงยืนหยัดความคิดที่จะหย่าร้าง

ลั่วอู๋ฉางหัวเราะเยาะตัวเอง “ดังนั้น เธอจึงเลือกหวังจื่อเฟิง”

หยางหว่านอวี่เดิมทีอยากพูดว่าไม่ใช่ แต่คำพูดมาถึงข้างปากก็เปลี่ยนไป “ฉันไม่ปฏิเสธ นายจะเข้าใจแบบนี้ก็ได้”

“ปล่อยมือเถอะ! ฉันรู้ว่านายเพิ่งออกมายากที่จะรับได้ นอกจากบ้าน รถกับเงิน นายยังอยากได้อะไร เสนอมาได้หมด ฉันจะพยายามตอบสนองความต้องการ”

ลั่วอู๋ฉางรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก ปลายฤดูใบไม้ร่วงที่หนาวเย็น ความเย็นเยือกที่ทิ่มแทงเข้ากระดูก กลับสู้ความเหน็บหนาวในใจไม่ได้แม้แต่น้อย

เขาหยิบปากกาขึ้น เซ็นชื่อของตัวเองลงบนสัญญาหย่าร้าง พูดอย่างมีพลังอำนาจ “สิ่งที่เธอต้องการ เอาไปเถอะ”

“ฉันไม่อยากได้อะไรทั้งนั้น ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป เธอกับฉันต่างคนต่างแยกทาง ไม่เกี่ยวข้องกันอีก”
Comments (1)
goodnovel comment avatar
ปวีณา ทาสี
เนื้อหาน่าติดตาม
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 4

    หย่าร้างสำเร็จ!แต่หยางหว่านอวี่สังเกตเห็น ตัวเองไม่ได้ดีใจขนาดนั้นเหมือนอย่างที่คิดไว้แต่เธอยังต้องรักษาท่าทางแข็งกร้าวเอาไว้ พูดว่า "มีแต่คนอ่อนแอถึงจะเห็นศักดิ์ศรี และเกียรติที่ไม่มีค่าสำคัญขนาดนั้น ตอนนี้นายปฏิเสธ จะต้องเสียใจภายหลังแน่นอน"“ของพวกนี้ฉันเก็บเอาไว้ให้นาย คิดได้เมื่อไหร่ ก็มาหาเลขาจ้าวได้ทุกเมื่อ”ลั่วอู๋ฉางผิดหวังอย่างถึงที่สุด หันหลังเดินจากไปมองดูแผ่นหลังที่ค่อย ๆ ไกลออกไป หัวใจที่เย็นชาของหยางหว่านอวี่เหมือนกับถูกทิ่มแทง พูดด้วยความสับสน “เหม่ยอวิ๋น ฉันทำแบบนี้……ถูกหรือผิดนะ?”“ถูกอยู่แล้ว เพียงแค่เตะสิ่งกีดขวางออกไป คุณถึงจะแสดงความมุ่งมาดปรารถนาออกมาได้ตามอำเภอใจ กลายเป็นผู้หญิงแกร่งที่อยู่จุดสูงสุด ส่วนลั่วอู๋ฉางก็แค่คนต่ำต้อย ไม่มีสิทธิ์แม้แต่เงยหน้ามองคุณด้วยซ้ำ เก็บเอาไว้มีแต่จะเป็นตัวถ่วงคุณ” จ้าวเหม่ยอวิ๋นพูดอย่างมั่นใจหยางหว่านอวี่ไม่พูดจา แต่กลับมีความรู้สึกเหมือนสูญเสียสิ่งสำคัญที่สุดไป เธอเหม่อลอยอยู่ที่เดิมจ้าวเหม่ยอวิ๋นเห็นแบบนี้ รีบเปลี่ยนเรื่องพูด “ฉันสืบถามถึงคุณเกาของเกาซื่อกรุ๊ปได้ เธออยู่ที่กลางเมือง คุณติดที่ไม่ได้เจอตัวจริงของเธอ

    Last Updated : 2024-01-29
  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 5

    เกาชิงเหยียนแทบจะร้องไห้ เธอพูดทั้งน้ำตา “ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่ได้รับการช่วยเหลือจากท่าน คุณพ่อทำตามคำแนะนำของท่านและเปลี่ยนแนวทางของเขา ละทิ้งพฤติกรรมชั่วเหล่านั้น เปลี่ยนไปทำธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย”"ทุกปีเขาจะนำเงินห้าพันล้านบาทออกมาทำการกุศล สร้างสถานเด็กกำพร้าและโรงเรียนประถม ช่วยเหลือกลุ่มคนที่รายรับน้อยกับผู้ที่ไม่มีกำลังทรัพย์รักษาโรค"“พ่อของฉันเปลี่ยนแปลงไปแล้วจริง ๆ ค่ะ หมอเทวดาลั่วต้องช่วยเขานะคะ เพียงแค่คุณยอมรักษา ตระกูลเกายินยอมมอบโสมพันปีให้!”หลายวันมานี้ เกาชิงเหยียนไม่ลังเลที่จะใช้จ่ายเงินหลายแสนบาท เชิญหมอที่มีชื่อเสียงรักษาอาการให้พ่อ แต่สุดท้ายต่างก็ล้มเลิกกลางคันมีวันหนึ่งที่เธอนึกขึ้นได้กะทันหัน อาการของพ่อเมื่อสามปีก่อนแย่ยิ่งกว่านี้ แต่ประหลาดตรงที่เขาออกไปรอบหนึ่งก็หายแล้ว เกาฉี่เฉียงบอกว่าตัวเองโชคดี หายป่วยเอง ทำอย่างขอไปทีเกาชิงเหยียนไม่เชื่ออยู่แล้ว เพราะว่าหลังจากที่พ่อกลับมา นิสัยก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เหมือนกับเปลี่ยนไปคนละคนจนกระทั่งเกาชิงเหยียนเปิดตู้เซฟออก ได้รู้เรื่องนี้จากบันทึกของพ่อ ถึงได้เข้าใจทันทีผู้มีฝีมือมีกฎเกณฑ์เยอะ เป็นเรื่องป

    Last Updated : 2024-01-29
  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 6

    “อะไรนะ? ห้องสวีทคืนละห้าหมื่นกว่าบาท ไอ้ระยำนี่มันกล้าได้อย่างไร ใช้เงินคนอื่นไม่เสียดายใช่ไหม ดูท่า มันหลอกเอาเงินจากพี่สาวของแกไปไม่น้อย” สวีชุ่ยหลานรู้สึกเสียดายเงิน โมโหจนระงับอารมณ์ไม่อยู่หยางจวิ้นหาวพูดอย่างเดือดดาล “ใครว่าไม่ใช่ล่ะ ผมยังไม่เคยพักที่ห้องสวีทเลย!”สองแม่ลูกลุกขึ้นยืนพร้อมกัน เดินทางไปที่โรงแรมด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียดในห้อง ลั่วอู๋ฉางเปิดกระเป๋าผ้าออก เพียงแค่บัตรเครดิตแบล็กการ์ดก็มีสิบกว่าใบขุนนางชั้นสูงผู้สูงศักดิ์มาให้เขารักษาโรค จะต้องเอาทรัพย์สินครึ่งหนึ่งออกมาเป็นค่ารักษา ลั่วอู๋ฉางเก็บไว้เพียงส่วนเดียว เก้าส่วนที่เหลือเอาออกมาทำการกุศลต่อให้เป็นแบบนี้ เขาก็ยังสั่งสมความมั่งคั่งไว้มากมายความจริงแล้ว เพียงแค่หยางหว่านอวี่พูดมาประโยคเดียว ลั่วอู๋ฉางก็ให้ชีวิตที่เหมือนกับราชินีได้ทั้ง ๆ ที่มีทางลัด เธอกลับเลือกที่จะเดินทางอ้อมจากนั้นก็มีกระเป๋าเข็มหนังกวางชุดหนึ่ง นี่เป็นของเพียงชิ้นเดียวที่อาจารย์ของเขาส่งต่อให้เขา สำหรับลั่วอู๋ฉางแล้วมันสำคัญอย่างมาก ตั้งแต่เขาสืบทอดมรดก ตาแก่ก็ซ่อนตัวขึ้นมา ไม่เผยโฉมหน้าอีกเลย“ปังปังปัง!”เสียงทุบประตูที่ร้

    Last Updated : 2024-01-29
  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 7

    ลั่วอู๋ฉางเห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีต อดกลั้นไม่ลงมือ ข่มความโมโหไว้แล้วพูดขึ้น “แม่ ต้องทำถึงขั้นนี้เลยเหรอ?”“ขากถุย! ใครแม่แก ไม่ดูตัวเองว่าฐานะอะไร แกคู่ควรเหรอ?”หยางจวิ้นหาวหยิบบัตรเครดิตแบล็กการ์ดขึ้นมา พูดอย่างดูถูก “ของบ้าบออะไร ไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ ต้องเป็นของปลอมแน่ นี่......ยังมีขยะอะไรอีก?”เขาหยิบกระเป๋าเข็มหนังกวางขึ้นมาดู คิดว่าเป็นเศษโลหะ“เอามาให้ฉัน!” ลั่วอู๋ฉางโมโหอย่างถึงที่สุดหยางจวิ้นหาวไม่เพียงไม่คืนให้ แต่กลับโยนลงบนพื้นแล้วใช้เท้าเหยียบ “ขยะเหมือนกับนักโทษอย่างนาย!”ลั่วอู๋ฉางข่มความโมโหไว้ไม่อยู่อีกต่อไป กำหมัดแน่นจนข้อนิ้วเสียงดังขึ้นมา“สารเลว!”ง้างมือตบลงไปที่ใบหน้าของหยางจวิ้นหาว“เพี๊ยะ!”หยางจวิ้นหาวล้มลงกับพื้น ใบหน้าครึ่งหนึ่งแดงก่ำขึ้นมาอย่างเร็ว“คนเนรคุณที่เลี้ยงไม่เชื่อง ฉันติดคุกแทนนาย นายไม่ซาบซึ้งในบุญคุณ แถมยังเอาแต่พูดว่านักโทษ! พ่อแม่นายไม่สอนให้นายรู้จักมารยาท ฉันสอนเอง!”“กล้าตบลูกฉัน ฉันสู้ตายแล้ว!” สวีชุ่ยหลานร้องตะโกน แยกเขี้ยวยิงฟันจะเข้ามาข่วนลั่วอู๋ฉางหันมาทันที ดวงตาอาฆาตแค้น เย็นชาเคร่งขรึม เอ่ยปากอย่างโมโห “ไสหัวไป!”ด

    Last Updated : 2024-01-29
  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 8

    "แกร่ก!"ขาทั้งสองข้างของหยางจวิ้นหาวหักออก ปรากฏเป็นมุมที่แปลกประหลาด ข้อต่อกระดูกแทงทะลุเนื้อ เลือดไหลอาบทันที“อ๊าก! ขากู......”หยางจวิ้นหาวเจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป เสียงร้องโอดครวญดังก้องอยู่ภายในห้องสวีชุ่ยหลานรีบโผเข้าไปหาลูกชาย พูดตะโกนเสียงดังลั่น “ผู้หญิงบ้า แกกล้าทำกับลูกชายฉันแบบนี้ได้อย่างไร!”พูดไปพูดมา เธอก็ล้วงโทรศัพท์ออกมาจะโทรไปเรียกตัวช่วย แต่ถูกบอดี้การ์ดปัดจนกระเด็น ตกลงบนพื้นจนแตกเป็นเสี่ยง ๆ“จำเอาไว้ ห้ามดูถูกคุณมังกรลั่ว อยากแก้แค้น มาหาฉันได้ทุกเมื่อ ฉันชื่อเกาชิงเหยียน!”เกาชิงเหยียนน้ำเสียงเย็นชา พูดทีละคำ “โยนพวกมันสองคนออกไป ห้องนี้ไม่อนุญาตให้ใครรบกวนทั้งนั้น”“ลั่วอู๋ฉางแกมันสารเลว มองดูลูกชายฉันถูกหักขา พวกแกชายหญิงสารเลวต้องตายแน่ ตระกูลของพวกเราไม่มีทางปล่อยแกไป คอยดู......”เหล่าบอดี้การ์ดมองข้ามทั้งสองที่โหวกเหวกโวยวาย หิ้วปีกแล้วพาออกไปข้างนอกในห้องกลับสู่ความเงียบสงบอย่างรวดเร็ว เกาชิงเหยียนพูดอย่างเคารพ “คุณลั่ว ฉันพาคุณพ่อไปส่งที่โรงพยาบาลแห่งที่หนึ่งตามอำเภอใจ ท่านไม่โกรธใช่ไหมคะ?”ทางด้านโรงพยาบาลไม่เพียงมีลานจอดเฮลิคอปเตอ

    Last Updated : 2024-01-29
  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 9

    “โกหก ฉันไม่เคยได้ยินว่าโรงพยาบาลถูกปิดล้อม โกหกยังไม่เป็น คิดว่าฉันเป็นเด็กสามขวบเหรอ?”ในตอนนี้เอง หยางซิ่งเหวินพาคนสองสามคนตามมาอย่างร้อนรนเขามองดูลูกชายที่นอนอยู่บนเตียงเข็น และภรรยาที่หน้าตาฟกช้ำ พูดด้วยความตกตะลึง “ทำไมถึงอาการสาหัสแบบนี้?”“เป็นเพราะไอ้ระยำลั่วอู๋ฉาง บงการให้นังโสเภณีกระทืบตบตี คุณไม่รู้ว่าพวกมันลงมือหนักขนาดไหน เจ็บจะตายแล้ว!” สวีชุ่ยหลานร่ำไห้ขึ้นมาทันทีหยางซิ่งเหวินข่มความโมโหไว้ พูดว่า “พวกคุณวางใจได้ ผมไม่มีทางปล่อยไอ้ระยำนั่นไปง่าย ๆ ตอนนี้การรักษาเป็นเรื่องสำคัญ ทำไมถึงไม่เข้าห้องผู้ป่วยล่ะ?”สวีชุ่ยหลานพูดใส่ไฟอธิบาย พูดประชด หัวหน้าเข้าเวรโมโหจนกลอกตามอง“ฉันหาผู้อำนวยการของพวกเขา ไม่เชื่อหรอกว่า ด้วยสถานะของตระกูลเรา แม้แต่ห้องผู้ป่วยชั้นสูงก็เข้าพักไม่ได้” หยางซิ่งเหวินตบหน้าอกรับประกัน โทรไปหาด้วยสีหน้ามั่นอกมั่นใจสวีชุ่ยหลานพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ได้ยินแล้วยัง? ไอ้พวกตาต่ำ อีกเดี๋ยวฉันจะฟ้องแกให้หนัก ให้แกรับผิดชอบทั้งหมด”แต่ไม่นานนัก หยางซิ่งเหวินกลับมาด้วยสีหน้าซับซ้อนสวีชุ่ยหลานมัวแต่หยิ่งผยอง ไม่ได้สังเกตสีหน้าของสามีด้วยซ้ำ ออกคำสั

    Last Updated : 2024-01-29
  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 10

    “ฉันไม่รู้จัก จะเป็นคนที่ฉันหามาได้อย่างไร”เกาชิงเหยียนถลึงตาโต รีบพูดอธิบายต่อลั่วอู๋ฉาง “คุณลั่ว คุณอย่าได้เชื่อนะคะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉัน”เรื่องหนึ่งรับผิดชอบแค่คนเดียว ไม่มีทางรบกวนคนที่สอง นั่นเป็นความผิดมหันต์ทั้ง ๆ ที่เชิญหมอเทวดามังกรลั่วแล้ว แน่นอนว่าไม่มีทางหาคนอื่นมาเข้าแทรก แบบนี้เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อมั่นลั่วอู๋ฉาง เกาชิงเหยียนจะทำเรื่องโง่ ๆ แบบนี้ได้อย่างไร“ห๊ะ? งั้นเขาเป็นใคร!”ใบหน้าของพี่ตาวงุนงงไปหมด “พวกเราเพิ่งหามพี่เฉียงเข้าห้องผู้ป่วย เขาก็ตามเข้ามาด้วย ฉันคิดว่าคุณหนูเชิญมาเสียอีก”ในตอนนี้เอง คนที่สวมชุดกาวน์ผลักประตูเข้ามาคนที่เดินนำเข้ามาก็คือหลิวตงฉี่ผู้อำนวยกาารของที่นี่ ด้านหลังตามมาด้วยกลุ่มคนแผนกผู้เชี่ยวชาญ“คุณเกา ผมแนะนำหน่อย ท่านนี้คือรุ่นพี่ของผม ศาสตราจารย์หลี่เหวินหัว ผู้ทรงอำนาจสองแขนงในด้านประสาทวิทยาและพิษวิทยาของเมืองหลวง!” หลิวตงฉี่พูดเกาชิงเหยียนดวงตาเป็นประกายทันที และพูดด้วยความตกตะลึง “ศาสตราจารย์หลี่ที่เป็นที่รู้จักในฐานะปรมาจารย์แพทย์แผนตะวันตก?”ชายชราหันมา มองเกาชิงเหยียน โบกมือพูดด้วยความถ่อมตัว “ฉันคือหลี่เหวินหัว

    Last Updated : 2024-01-29
  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 11

    “คุณเกา ฉันดูแล้วคุณก็เป็นคนที่มีการศึกษาสูง ทำไมถึงไม่แยกแยะถูกผิดแบบนี้? รับการรักษาตามอำเภอใจในช่วงวิกฤติ ถึงเวลาถูกหลอกเงินหลอกความรู้สึก เสียใจภายหลังก็ไม่ทัน”“ที่สำคัญก็คือ รักษาผู้ป่วยล่าช้า ตอนนั้นจะไม่มีที่ให้คุณร้องไห้ด้วยซ้ำ”เกาชิงเหยียนโมโห “คุณลั่วไม่ใช่ต้มตุ๋น!”หลี่เหวินหัวส่งเสียงไม่พอใจเบา ๆ และพูดอย่างดูถูก “แพทย์แผนจีนนั้นใช้ไม่ได้ เทียบกับแพทย์แผนตะวันตกไม่ได้! ยิ่งไปกว่านั้น ใช้หลอกลวงตบตาผู้ป่วยกับครอบครัว ไร้คุณธรรมที่สุด ไม่ใช่ต้มตุ๋นแล้วเป็นอะไร?”“คุณลั่ว คุณอย่าโมโหเด็ดขาดนะคะ” เกาชิงเหยียนรีบพูดปลอบลั่วอู๋ฉางหลี่เหวินหัวขมวดคิ้ว ถึงแม้พูดว่าลั่วอู๋ฉางออร่าไม่ธรรมดา แต่ว่าอายุน้อยเกินไปหน่อยไหม!ในเมื่ออาชีพหมอ ต้องใช้ประสบการณ์ทางการแพทย์ระยะยาว เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตกตะกอนและสรุปความ สามารถเข้าถึงระดับผู้เชี่ยวชาญได้ ใครบ้างที่อายุไม่เยอะ?ไอ้หนุ่มตรงหน้า ดูท่าทางก็แค่ยี่สิบกว่าปี เรียนจบจากมหาวิทยาลัยการแพทย์หรือเปล่าก็ยังไม่แน่ มากสุดก็แค่ฝืมือระดับเด็กฝึกหัดไม่ใช่ต้มตุ๋นแล้วคืออะไร?เป็นต้มตุ๋นอย่างน้อยลักษณะภายนอกก็ต้องดีหน่อย แบบนี้เนี่ย

    Last Updated : 2024-01-29

Latest chapter

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1041

    "ยังมีใครอีก?" น้ำเสียงของลั่วอู๋ฉางสงบนิ่งยิ่งนัก แต่กลับสร้างความหวาดกลัวที่ไม่อาจอธิบายได้กวานเหวินเหยารีบก้มหน้าลงทันที เกรงว่าจะสบตากับลั่วอู๋ฉางเข้า"คุณหนูหนานกง ไปกันเถอะ" ลั่วอู๋ฉางกล่าวหนานกงจือรั่วเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับรอยยิ้มกว้างดั่งดอกไม้บาน "ได้ค่ะ!"เมื่อเห็นพวกเขาเดินจากไป หลินเชี่ยนกัดริมฝีปากแน่น ดวงตาเปล่งประกายความเคียดแค้นเมื่อทั้งห้าคนเดินห่างออกจากพื้นที่ใจกลางภูเขาชางหลง สัญญาณโทรศัพท์ก็ค่อยๆ ดีขึ้นเย่ปิงเหยาวุ่นอยู่กับการติดต่อคนรู้จักทันที เพื่อสอบถามวิธีการถ่ายทอดพลังเข้าสู่แท่งคริสตัล"ได้เรื่องแล้ว!"ผ่านไปครู่หนึ่ง เย่ปิงเหยาก็ยิ้มออกมา "มีคนบอกฉันว่า มีชายคนหนึ่งชื่อหมอพิษกระหายเลือด เขารู้วิธีนี้""แต่เขาเป็นพวกอารมณ์สองขั้ว แถมมีศัตรูนับไม่ถ้วน ช่วงหลายปีมานี้เขาหายตัวไปจากยุทธภพ แทบไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน""ฉันได้ขอให้เพื่อนช่วยตามหาแล้ว คิดว่าอีกไม่นานคงจะมีข่าว"คิ้วคมของลั่วอู๋ฉางขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เขาพึมพำกับตัวเอง "หมอพิษกระหายเลือด...ทำไมชื่อฟังดูคุ้นๆ นะ""เธอก็เป็นคนในวงการแพทย์ จะเคยได้ยินชื่อนี้ก็ไม่แปลกหรอก"

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1040

    เมื่อเห็นลั่วอู๋ฉางที่หันหลังเดินจากไป พร้อมกับนึกถึงอาการป่วยของปู่ที่ทรุดหนัก หลินเชี่ยนก็กัดฟันกรอดด้วยความแค้น"เรื่องนี้รีบร้อนไม่ได้!"เฉินเหล่าพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "อย่างน้อยตอนนี้เราก็รู้แล้วว่าหญ้าน้ำแข็งใบเก้าประกายอยู่ที่ไหน รอเราออกไปจากที่นี่ก่อน แล้วค่อยหาวิธีอีกทีเถอะ""จะมีวิธีอะไรได้ คนบ้านั้นมันไม่ฟังใครเลย!" หลินเชี่ยนนึกถึงท่าทางหยิ่งยโสของลั่วอู๋ฉางแล้วก็ยิ่งโกรธเฉินเหล่าฝืนยิ้มและพูด "ถ้าไม่มีทางเลือกจริงๆ คุณหนูใหญ่ก็คงต้องลดท่าทีลงไปขอโทษเขา เขาบอกให้ไปหาเขา แสดงว่ายังมีโอกาสอยู่...""ให้ฉันไปขอโทษเขาเนี่ยนะ? ทำไมต้องทำด้วย!" หลินเชี่ยนตาโต"คิดถึงสุขภาพของท่านหัวหน้าตระกูลไว้สิครับ เมื่อเทียบกับคำขอโทษประโยคเดียว มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย!" เฉินเหล่ายังคงพยายามเกลี้ยกล่อมหลินเชี่ยนไม่โง่ เธอรู้ว่าในถิ่นทุรกันดารนี้ เธอไม่มีทางสู้ลั่วอู๋ฉางได้รอออกไปข้างนอกก่อน ใช้อิทธิพลของตระกูลหลินกดดันเขา ถึงตอนนั้นค่อยไปเจรจาใหม่ก็ยังไม่สายเมื่อเห็นลั่วอู๋ฉางกับพวกกำลังจะเดินไปไกลแล้ว ในที่สุดซืออวิ๋นหานก็ทนไม่ไหวและตะโกนขึ้น "ลั่วอู๋ฉาง หยุดเดี๋ยวนี้นะ!""นายฆ

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1039

    มันต้องเป็นข้ออ้างที่ไอ้เด็กนี่กุขึ้นมาแน่ๆ!"ลั่วอู๋ฉาง นายว่าหัวหน้าผู้พิทักษ์ของตระกูลฉันลอบโจมตีนาย มีหลักฐานหรือเปล่า?" ซืออวิ๋นหานกัดฟันแน่น พยายามควบคุมความโกรธที่กำลังจะปะทุลั่วอู๋ฉางกล่าวอย่างไม่แยแสว่า "แค่ฆ่าคนสักคนสองคนเท่านั้น ต้องการหลักฐานอะไรกัน?""นาย..." ซืออวิ๋นหานโกรธจนหน้าอกสะท้าน มือข้างหนึ่งกำด้ามดาบแน่นซูเฉี่ยนเฉี่ยนพูดเสียงดังว่า "ศิษย์พี่ฉันเป็นคนมีคุณธรรม ใจกว้าง และไม่เคยหาเรื่องใครก่อน""แต่หากใครมาหาเรื่อง ศิษย์พี่ฉันก็จะไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ!""คนที่ชื่อซือเทียนฉีนั่น คิดจะฆ่าพวกเราเพื่อแย่งชิงสมบัติ สมควรตายแล้ว!"ซืออวิ๋นหานเกือบจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ แต่เมื่อคิดถึงภาพที่ลั่วอู๋ฉางสังหารพญานาคในพริบตา ก็เหมือนถูกสาดน้ำเย็นจนทั่วหัว ทำให้เขายอมถอยอย่างรวดเร็วเขาไม่กล้าจริงๆ!ลั่วอู๋ฉางเห็นเช่นนั้น จึงกล่าวว่า "ไปกันเถอะ""เดี๋ยวก่อน!"คราวนี้คนที่พูดคือหลินเชี่ยน ท่าทีราวกับออกคำสั่งเห็นได้ชัดว่าเธอไม่สนใจคำเตือนของเฉินเหล่า"ไอ้แซ่ลั่ว ฉันถามนาย หญ้าน้ำแข็งใบเก้าประกายอยู่ในมือนายหรือเปล่า?"หลินเชี่ยนจ้องเขาเขม็งและกล่าวว่า "ตั้งแต่พญาน

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1038

    "คุณหนูหลิน ไม่ใช่ว่าพวกเราไร้ความสามารถ แต่ข้างล่างว่างเปล่า ไม่มีวี่แววของหญ้าวิเศษเลย"ยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ใหญ่จากตระกูลกวาน พูดไปตัวสั่นไปว่า "พวกเราค้นจนทั่วแล้ว แต่สุดท้ายก็หาอะไรไม่เจอเลย"ปรมาจารย์ใหญ่จากตระกูลซือที่อยู่ข้างๆ กำลังห่อตัวด้วยผ้าห่มอย่างเต็มที่ พลางเสริมว่า "ไม่มีจริง ๆ ครับ!"ในที่ไกลๆ ชายสูงวัยที่เพิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าแห้งเสร็จ แต่ผมยังเปียกอยู่ กล่าวว่า "เห็นไหมว่าพวกเราไม่ได้โกหก พูดจริงทั้งนั้น!"เพื่อหลีกเลี่ยงการฮุบไว้คนเดียว ทุกครั้งจะเลือกคนจากทั้งสองตระกูลลงไปด้วยกันเพื่อคอยตรวจสอบและถ่วงดุลซึ่งกันและกันนี่เป็นกลุ่มที่สองแล้ว แต่ก็ยังกลับมามือเปล่าหลินเชี่ยนจ้องตาเขม็งพูดว่า "มันต้องมีสิ พวกนายไม่มีความสามารถเองถึงได้หาไม่เจอ!""ไอ้คนแซ่กวาน แล้วก็ซืออวิ๋นหาน พวกนายเพิ่งสัญญาต่อหน้าฉันเองว่าต้องเก็บหญ้าวิเศษมาได้แน่ๆ!""เสียเวลาตั้งนาน ได้แค่นี้เนี่ยนะ?"ทั้งสองคนสีหน้าไม่ค่อยดีนัก"คุณหนูหลิน ใจเย็นๆ นะครับ เดี๋ยวพวกเราจะส่งคนลงไปอีก" กวานเหวินเหยาพูดอย่างหน้าด้านๆซืออวิ๋นหานรีบพยักหน้า "ใช่ครับๆ ความล้มเหลวคือแม่ของความสำเร็จ ยิ่งยากก็

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1037

    ลั่วอู๋ฉางถามต่อว่า "ดังนั้น พวกเขาเลยฆ่ากันเองใช่ไหมครับ?""ใช่แล้ว!"เย่ปิงเหยาพยักหน้า "ในช่วงค่ำคืนเดียว พวกเขาที่ต่างก็มีแผนร้ายในใจ สุดท้ายก็ปะทุออกมาเมื่อเช้าวานนี้""ทุกคนต่างพยายามยึดถ้ำแห่งนี้เป็นของตัวเอง ใช้วิธีสกปรกเช่นวางยาและโจมตีแบบลอบกัดอย่างต่อเนื่อง""ฉันรู้ตั้งแต่แรกว่าพวกเขาคิดไม่ซื่อ จึงระวังตัวไว้บ้าง แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังกลายเป็นเป้าหมายหลัก ไม่เพียงถูกทำร้ายยังถูกวางยาพิษด้วย"พูดถึงตรงนี้ เย่ปิงเหยาก็แสดงสีหน้ายินดีแล้วพูดว่า "ยังดีที่ฉันรู้วิชาแพทย์ จึงสามารถควบคุมพิษไว้ได้""และด้วยวิชาแกล้งตายที่ตาแก่นั่นสอนฉัน ทำให้ฉันหลอกพวกเขาได้อย่างสนิทใจ ไม่เช่นนั้นฉันคงตายสภาพอนาถกว่าพวกเขาแน่"เพียงแค่เย่ปิงเหยาคิดถึงใบหน้าชั่วร้ายของพวกเขา เธอก็อดโมโหไม่ได้แม้พวกเขาจะตายหมดแล้ว ก็ยังไม่สามารถหยุดความเกลียดชังของเย่ปิงเหยาได้!ในความเป็นจริง หากลั่วอู๋ฉางและพวกไม่ได้มาทันเวลา เย่ปิงเหยาคงไม่มีโอกาสฟื้นขึ้นมาเองได้อย่างช้าสุด เธอคงต้องจบชีวิตลงในเย็นวันนี้"อาจารย์หญิง ท่านมั่นใจหรือว่านี่คือแก่นของคริสตัลสวรรค์?"ลั่วอู๋ฉางยื่นมือไปหักคริสตัลชิ้นหนึ

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1036

    เย่ปิงเหยานอนหลับอยู่บนพื้น ใบหน้าซีดเซียวและนิ่งสนิทไม่ขยับข้างๆ ยังมีศพอีกเจ็ดหรือแปดร่างที่เสียชีวิตแล้ว บนพื้นเต็มไปด้วยคราบเลือดที่เกรอะกรังซูเฉี่ยนเฉี่ยนรีบวิ่งตรงไป ซูเทียนคั่วตามหลังไปพร้อมกับตะโกนว่า "เฉี่ยนเฉี่ยนระวังนะ ที่นี่อันตราย!"ลั่วอู๋ฉางขมวดคิ้วเล็กน้อย ชัดเจนว่าเขาไม่ได้คิดแบบนั้นพญานาคเคยบอกไว้ว่าภายในถ้ำคริสตัลขาวไม่มีสัตว์ร้ายเฝ้าอยู่ที่นี่อยู่ใกล้กับถิ่นอาศัยของพญานาค มันไม่อนุญาตให้สัตว์ร้ายอื่นๆ เข้ามาใกล้"ที่นอนของตน ย่อมไม่ยอมให้ใครมานอนกรนข้างๆ ได้"จากสภาพเลือดที่แห้งกรัง สามารถประเมินได้ว่าพวกเขาเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 24 ชั่วโมงนั่นคือช่วงเวลาที่เย่ปิงเหยาส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ"อาจารย์ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?"ซูเฉี่ยนเฉี่ยนประคองเย่ปิงเหยาขึ้นมาแล้วตะโกนเรียก"ร่างกายยังอุ่นอยู่ ลมหายใจแผ่วเบา แต่ยังไม่ตาย!" ซูเทียนคั่วยื่นสองนิ้วตรวจไปอังลมหายใจของเย่ปิงเหยาลั่วอู๋ฉางเดินเข้ามา ซูเฉี่ยนเฉี่ยนรีบพูดว่า "ศิษย์พี่ อาจารย์เป็นอะไรไปคะ?""ลมหายใจรวยริน ถูกพิษร้ายแรง แถมยังบาดเจ็บภายในรุนแรง"ลั่วอู๋ฉางพูดว่า "โชคดีที่พบตัวทันเวลา เดี๋ยวพี

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1035

    ซืออวิ๋นหานพูดอย่างหน้าด้านๆ ว่า "เมื่อกี้มันอันตรายมากเลยนะ ฉันเกือบคิดไปแล้วว่า เราคงต้องตายจากกันแล้ว ปวดใจมากเลย!”“โชคดีที่ฟ้าดินเมตตา เราทั้งคู่ปลอดภัยดี นี่แสดงว่าเราสองคนมีวาสนาต่อกันไม่ใช่น้อยเลยนะ!”หนานกงจือรั่วมองตามลั่วอู๋ฉางที่เดินจากไป แล้วหันมาจ้องเขม็งใส่ซืออวิ๋นหานด้วยความโกรธกวานเหวินเหยาที่อยู่ข้างๆ มองไปรอบๆ อย่างสนใจ"ศพของเจ้าพญานาคตัวนี้น่าจะมีประโยชน์อะไรบ้างนะ?"ชายคนนั้นเดินเข้าไปด้วยความโลภ เอื้อมมือไปสัมผัสเกล็ดที่แข็งอย่างมากแล้วพูดว่า "ถ้าเอาไปทำโล่ มันน่าจะกันการโจมตีของนักบู๊ระดับปรมาจารย์ได้สบายๆ เลย!""ส่วนหนังพญานาคนี่ ถ้าเอาไปทำชุดเกราะ การป้องกันจะต้องดีกว่าเกราะระดับสามแน่ๆ"ซืออวิ๋นหานรีบวิ่งเข้ามาพูดเสียงดังว่า "ไอ้คนแซ่กวาน ฉันขอเตือน นายอย่าคิดจะเก็บไว้คนเดียวนะ!""ศพของพญานาคตัวนี้ก็เหมือนสมบัติในภูเขา ไม่มีเจ้าของ ใครเจอก็มีสิทธิ์ครอบครองทั้งนั้น!”กวานเหวินเหยาถลึงตาใส่ก่อนตอบอย่างหงุดหงิดว่า "ฉันก็อยากจะเก็บไว้เองอยู่หรอก แต่มันใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะเอาไปยังไงได้?""ก็เอาไปให้ได้เยอะที่สุดสิ ไม่ทำให้นายเหนื่อยตายหรอก!"ทั้งสองคนยังค

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1034

    ท่าทีที่หนักแน่นของหลินเชี่ยน และน้ำเสียงที่เด็ดขาดอย่างชัดเจน เปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ยื่นให้เย่ชิงซานเกาะเพื่อความอยู่รอด"ขอบคุณคุณหนูหลิน!" เย่ชิงซานรู้สึกซาบซึ้งจนแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่เขาเคยคิดว่าตัวเองต้องตายแน่นอน แต่ตอนนี้เมื่อได้รับความช่วยเหลือจากคุณหนูใหญ่ตระกูลหลิน เปลวไฟแห่งความหวังก็พลันลุกโชนขึ้น"เธอ ปกป้องเขาไม่ได้หรอก!"ลั่วอู๋ฉางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา "นี่เป็นความแค้นส่วนตัวระหว่างฉันกับเย่ชิงซาน ไม่เกี่ยวกับเธอ""ขอบอกเลย วันนี้ เขาไม่มีโอกาสได้เดินออกไปจากที่นี่อย่างมีชีวิตแน่!"หลินเชี่ยนโกรธจัด ตะโกนด้วยความโมโห "ไอ้คนแซ่ลั่ว นายอย่าคิดว่าการฆ่าพญานาคได้ จะทำให้นายไม่เห็นหัวใครนะ!""ต่อหน้าตระกูลหลินที่ยิ่งใหญ่ของเรา นายยังช่างชั้นนัก!""อีกอย่าง เรื่องที่นายทำให้เสี่ยวเฉียงตายยังไม่จบ แล้วตอนนี้นายยังกล้ามาขัดใจคุณหนูใหญ่อย่างฉันอีก ฉันว่านายคงไม่อยากมีชีวิตแล้วสินะ!"หลินเชี่ยนที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจตั้งแต่เด็ก ไม่ได้มองลั่วอู๋ฉางอยู่ในสายตาเลยนายเก่งกว่าพญานาค แล้วมันจะทำไม?พญานาคมันก็เป็นแค่สัตว์ตัวหนึ่ง มันไม่รู้ด้วยซ้ำว่า "เชื้อพระวงศ์

  • ผมคือหมอเทวดา   บทที่ 1033

    หลินเชี่ยนเบิกตากว้าง "เฉินเหล่า คุณเห็นไหม คนพรรค์นี้ไม่คิดจะรับน้ำใจของคุณเลย แล้วคุณยังจะไปพูดดีกับเขาอีกทำไม?""คนที่เห็นแก่ตัวขนาดนี้ ไม่ยอมมองข้อผิดพลาดของตัวเอง คุณยังจะปกป้องเขาอีกเหรอ?"เฉินเหล่าปรี่เข้ามาปิดปากหลินเชี่ยน "คุณหนูใหญ่ พูดให้น้อยลงหน่อยเถอะครับ!"หากไม่เห็นแก่ความมีเหตุผลของตาแก่คนนี้ ต่อให้ลั่วอู๋ฉางไม่ฆ่าหลินเชี่ยน เขาก็คงตบหน้าหญิงสาวคนนี้ไปแล้วคนอื่นอาจเกรงกลัวตำแหน่งคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลหลินของเธอ แต่เขาไม่ใช่หนึ่งในนั้นแน่!ลั่วอู๋ฉางเลิกสนใจหญิงสาวนิสัยเสียคนนี้ เขากระโดดขึ้นไปยืนบนหัวพญานาค เหยียบตรงเปลือกตาด้านล่างของมันไม่นานนัก ในมือของลั่วอู๋ฉางก็มีลูกแก้วที่เปล่งแสงสีทองระเรื่อ เพิ่มขึ้นมามีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณห้าเซนติเมตร เมื่อถือในมือให้ความรู้สึกอบอุ่นนี่ก็คือแก่นปีศาจของพญานาคที่บำเพ็ญตบะมานานถึง 1,500 ปีเมื่อเทียบกับลูกแก้วของเผ่าจิ้งจอกครั้งก่อน ยังห่างไกลกันมากแต่อย่างไรก็ตาม หากใช้เป็นของขวัญให้หูเยว่ซี ก็นับว่าใช้ได้หลินเชี่ยนโวยวายใส่เฉินเหล่าอยู่พักหนึ่ง ก่อนพูดด้วยใบหน้าไม่พอใจว่า "เรือดำน้ำไม่มีแล้ว จะเอาหญ้าน้ำแข็งใ

DMCA.com Protection Status