แล้วโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเมื่อเห็นว่าเป็นรตีโทรมา เขาก็ไม่อยากรับสาย
เพราะเขาง้อพิมไม่สำเร็จทำให้เขาไม่มีอารมณ์ที่จะไปสนใจรตีอีก รตีรอสายอยู่นานก็ไม่มีการตอบรับจากเตชินทำให้เขารู้สึกโมโหและหงุดหงิดมาก แล้วกดโทรออกไปเรื่อยๆด้วยความโกรธ เตชินรู้สึกรำคาญจึงตัดสายไป แต่รตีก็โทรจิกไม่เลิกเขาจึงปิดเครื่องไปเลย รตีโทรอีกทีก็โทรไม่ติดแล้ว เธอจึงกรีดร้องขึ้นเสียงดังเอ่ยด้วยความโมโห " กรี๊ด....เตชิน คุณทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง เพราะนังนั่นใช่มั้ย คุณถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้ เพราะมันใช่มั้ย....กรี๊ด...." เธอกรีดร้องขึ้นอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับปาโทรศัพท์ไปโดนผนังห้องจนโทรศัพท์แตกกระจายตกลงบนพื้น แล้วเธอก็ไปหยิบมีดคัตเตอร์จากในลิ้นชักขึ้นมา แววตาเธอกลายเป็นเกรี้ยวกราดแดงก่ำราวกับปีศาจร้ายเข้าสิง เธอกำมือขึ้นมาแน่นแล้วกรีดมีดลงบนข้อมือราวกับไม่รู้สึกเจ็บเลย แล้วเอ่ยราวกับคนเสียสติ " เตชิน ในเมื่อคุณพยายามตีตัวออกห่าง ไม่รับสายฉัน ฉันจะทำให้คุณรู้สึกกลัวและรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต คุณจะได้กลับมาสนใจแค่ฉันคนเดียวและรักฉันเหมือนเดิม กลับมาเป็นเตชินคนเดิมของฉันคนเดียว ฉันจะไม่ยอมให้ใครแย่งคุณไปได้ทั้งนั้น ฉันไม่ยอม ฉันไม่ยอม ได้ยินมั้ย ฉันไม่ยอม กรี๊ด... " พี่เลี้ยงได้ยินเสียงเธอกรีดร้องก็รีบวิ่งขึ้นมาดูด้วยความเป็นห่วง แต่สิ่งที่เห็นคือ รตีกรีดข้อมือตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เขาก็เกิดกลัวขึ้นมาจนตัวสั่น แล้วพยายามเอ่ยห้าม " คุณรตีคะ คุณอย่าทำแบบนั้นเลยนะคะ พี่กลัว " เมื่อเห็นว่ารตีไม่ฟังและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเขาจึงรีบลงไปข้างล่างด้วยความหวาดกลัวจนตัวสั่นเทาทำอะไรไม่ถูก ณัชชาที่มาหารตีตามคำสั่งของเตชินกำลังเดินเข้ามาในบ้าน ก็เห็นพี่เลี้ยงที่ดูแลรตีดูสั่นเทาทำอะไรไม่ถูกเธอจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย " คุณเป็นอะไรคะ รตีอยู่ไหน " " ช่วย ช่วยด้วยค่ะ คุณ...คุณรตี...เธอ เธอกรีดข้อมือไม่หยุดเลย คุณช่วยไปห้ามทีค่ะ " พี่เลี้ยงเอ่ยอย่างตะกุกตะกักด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ได้ยินดังนั้น ณัชชาก็รีบวิ่งขึ้นไปข้างบน แล้วเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นรตีนั่งหน้าซีดเซียว เนื้อตัวเปื้อนไปด้วยเลือด เธอก็ตกใจแล้วเอ่ยกับพี่เลี้ยงว่า " โทรเรียก1669 ด่วนเลย " " ค่ะๆ " พี่เลี้ยงจึงรีบกดโทรศัพท์โทรหาสายด่วนฉุกเฉินทันที รตีที่ใบหน้าซีดเซียวสติเหลือเพียงน้อยนิดมองหน้าณัชชาด้วยแววตาโกรธแค้น ณัชชาเห็นดังนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าตกใจเมื่อครู่เป็นยิ้มเยาะขึ้นที่มุมปาก แล้วเอ่ยพร้อมกับเดินไปนั่งยองๆลงตรงหน้าของรตี " รตี เธอใช้วิธีเดิมๆอีกแล้วนะ คนอื่นอาจจะไม่รู้แต่ฉันรู้นานแล้ว " ได้ยินดังนั้นดวงตารตีก็เหมือนจะตกใจเล็กน้อย จากนั้นณัชชาก็เอ่ยต่อว่า " เธอคิดว่าใช้วิธีนี้แล้ว พี่เตชินจะกลับมาหาเธอเหรอ เขาไม่ได้รักเธอแล้ว ถ้าเขารักเธอ สนใจเธอ เขาคงไม่ส่งฉันมาแทนเขาหรอก ฉันจะบอกให้นะ ตอนนี้พี่เตชินเขากำลังตามง้อภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่ ที่เขาไม่รับสายเธอแล้วส่งฉันมาก็เพราะว่า เขาอยู่กับภรรยาของเขา ดูเหมือนการเอาตัวเข้าแลกของเธอในตอนนั้นกับการลงทุนทำให้ขาตัวเองหัก จะไม่สามารถทำให้พี่เตชินรักเธอได้อย่างจริงจังเลยนะ เพราะคนที่พี่เตชินรักสุดหัวใจคือ คุณพิม พี่สะใภ้ที่ถูกต้องตามกฎหมายของฉันคนเดียวเท่านั้น ไม่มีผู้ชายคนไหนหรอกนะที่จะอยู่กับอะไรที่ได้มาง่ายๆแบบเธอ พี่เตชินก็เหมือนกัน ตอนนี้เขาเบื่อเธอแล้ว ต่อให้เธอฆ่าตัวตาย เรียกร้องความสนใจจากเขามากแค่ไหน เขาก็ไม่กลับมาหาเธอหรอก " เอ่ยจบณัชชาก็ยกมุมปากยิ้มเยาะเย้ยขึ้นมาอย่างเหยียดหยาม รตีที่เสียเลือดไปมากก็หมดสติไป แล้วเจ้าหน้าที่พยาบาลก็วิ่งขึ้นมาปฐมพยาบาล จากนั้นพวกเขาก็พาร่างขาวซีดของรตีลงไป แล้วณัชชาก็ลุกขึ้นเดินไปถามพี่เลี้ยงว่า " พ่อแม่ของรตีล่ะ " พี่เลี้ยงเลยเล่าว่า " คุณพ่อคุณแม่ของคุณรตี ทะเลาะกันแล้วออกไปจากบ้านเลย จนถึงตอนนี้ก็ยังติดต่อไม่ได้ค่ะ " " เหรอ เป็นแบบนี้ประจำมั้ย " ณัชชาเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย สาวใช้พยักหน้าเบาๆ แล้วเอ่ยว่า " ประจำค่ะ ถ้าพูดตามตรง พวกเขาไม่ค่อยสนใจคุณรตีเลย คุณผู้ชายก็ไปอยู่กับเมียน้อย นานๆทีจะกลับมา ส่วนคุณผู้หญิงเองก็ไม่ค่อยอยู่บ้านไม่รู้ว่าไปไหนค่ะ " ณัชชาฟังอย่างเงียบๆด้วยสีหน้าครุ่นคิด [ หรือว่าที่นังรตี ชอบเรียกร้องความสนใจ จะเป็นเพราะขาดความอบอุ่นจนมีปัญหาทางจิตกันนะ คนปกติที่ไหนจะทำให้ตัวเองขาหัก กรีดข้อมือทำร้ายตัวเอง แถมยังแอบส่งคนมาทำร้ายเราอย่างลับๆ ทั้งๆที่ตัวเองอยู่ต่างประเทศแท้ๆ ทำตัวอย่างกับคนโรคจิต เธอจะอันตรายเกินไปแล้วรตี ] รตีถูกส่งไปที่โรงพยาบาล เตชินที่ตอนนี้เริ่มใจเย็นลงก็โทรมาหาณัชชา ณัชชารับสายแล้วเอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิดด้วยความไม่พอใจ " พี่เตชิน ถ้าพี่จะโทรมาเพราะเป็นห่วงรตี พี่รีบกลับมาเลย ไม่ต้องตามง้อแล้วคุณพิมอะไรนั่นน่ะ กลับมาอยู่กับรตีสุดที่รักของพี่เลย " เตชินฟังเสียงณัชชาที่พูดด้วยความหงุดหงิดอย่างประชดเขาจึงเอ่ยเสียงเย็น " เดี๋ยวนี้เธอกล้าขึ้นมากเลยนะณัชชา บอกมารตีเป็นยังไงบ้าง " " เธอยังไม่ตายค่ะ " รตีเอ่ยตอบอย่างรวดเร็วด้วยน้ำเสียงขุ่น จากนั้นเธอก็วางสายใส่เตชินอย่างโกรธเคืองด้วยสีหน้าบูดบึ้ง แล้วเดินออกจากบ้านของรตีไป ทางด้านเตชิน หลังจากณัชชาวางสาย เขาก็ทิ้งตัวนอนลงบนเตียงอย่างเหนื่อยใจ นึกถึงสมัยเรียนตอนที่คบกับรตีได้ไม่นาน รตีก็ชวนเขาไปเที่ยว แล้วเธอก็เข้ามายั่วสวาทเขาถึงห้องพักและพลีกายให้เขาด้วยความเต็มใจ คืนนั้นเป็นครั้งแรกของเขา เขาจึงตักตวงเอาความใคร่ เสพสุขจากเรือนร่างของเธอจนหนำใจ เพราะรตีบอกว่ามันเป็นครั้งแรกของเธอ แต่พอมารู้ทีหลังจากปากรุ่นพี่ที่เป็นแฟนเก่าของรตี ว่าเป็นคนได้ครั้งแรกของรตีไป ทำให้เขาโกรธและเสียใจมาก จึงตัดสินใจไปบอกเลิกกับรตี แล้ววันนั้นหลังจากเขาไปบอกเลิกเธอเสร็จเธอก็ซ้อมหลีดต่อแล้วก็ได้ตกลงมาขาหัก เขารู้สึกผิดที่เป็นสาเหตุทำให้เธอเสียสมาธิจนตกลงมาขาหักและรู้สึกเป็นห่วงเธอมาก และโกรธณัชชาคิดว่าณัชชาจงใจไม่รับเธอไว้ให้ดีหวังจะให้เธอได้รับอันตราย หลังจากนั้นเขาก็กลับมารักกับรตีเหมือนเดิมใช้ชีวิตแฮปปี้แต่ตีตัวออกห่างจากณัชชา และเขาก็กลายเป็นคนไม่แตะต้องผู้หญิงที่ไม่บริสุทธิ์อีกเลย รตีเองก็ใจกว้างยอมให้เขาไปมีอะไรกับผู้หญิงเป็นครั้งคราวทำให้เขารักเธอมากขึ้นทุกวัน อยากจะดูแลเธอไปตลอดชีวิตจนสัญญากับเธอว่าจะไม่แต่งงานกับผู้หญิงคนไหนนอกจากเธอ และจะให้เธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายเพียงคนเดียว แต่พอพิมเข้ามาทุกอย่างกลับไม่เหมือนเดิมอีกเลย พิมทำให้เขารู้ใจตัวเองว่าไม่ได้รักรตีนานแล้ว ที่เขาขอเธอแต่งงานเพราะอยากรักษาคำสัญญาสุดท้ายที่เคยให้ไว้กับเธอ และเธอเป็นคนที่ฐานะคู่ควรเหมาะสมกับเขาที่สุดเท่านั้นเองเวลา 08:00 น. เด็กนักเรียนต่างพากันมาเข้าแถวเคารพธงชาติ ทำกิจกรรมตอนเช้าหลังเข้าแถวเคารพธงชาติเสร็จ พิมก็เดินเช็ดชื่อนักเรียนในฐานะครูประจำชั้น ในห้องของตัวเองก่อนที่จะปล่อยให้นักเรียนในห้องของตัวเองไปเรียนตามวิชาเรียนต่างๆเมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรมหน้าเสาธงแล้วเธอก็ปล่อยนักเรียนเข้าห้องเรียนแล้วเธอก็เข้าสอนตามปกติ เมื่อนักเรียนเข้ามาเธอก็เริ่มสอนทันที โดยวันนี้เธอสอนในเรื่องของรำวงมาตรฐานเธอเริ่มนำเข้าสู่บทเรียนด้วยเรื่องเล่าแล้วโยงเข้าสู่เนื้อหาที่จะเรียนในวันนี้จากนั้นก็สอนนักเรียนร้องเพลงดวงจันทร์วันเพ็ญซึ่งวิชาที่เธอสอนจะเกี่ยวกับการร้อง เล่น เต้นแสดงควบคู่ไปกับทฤษฎีตัวพิมเองนั้นเต้นก็เก่ง บัลเล่ต์ก็ได้ ภาษาเธอก็เยี่ยมพูดได้ถึงสามภาษา คือ ไทย อังกฤษ และจีนเธอมีโอกาสมากมายในชีวิต แต่เธอเลือกที่จะเป็นครูเพื่อสร้างเด็กรุ่นใหม่ที่ฐานะยากจนเหมือนเธอได้พัฒนาตนเอง เธอคอยทำหน้าที่ซัพพอร์ตคอยชี้แนะแนวทางให้กับเด็กด้อยโอกาสคนอื่นๆที่มีความสามารถในด้านต่างๆให้ได้เดินตามความฝันของตัวเองด้วยความมั่นใจอย่างกล้าหาญ เพื่อไปสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นพอสอนเสร
พอพ่อแม่ของรตีรู้ข่าวว่า ลูกสาวของพวกเขาเข้าโรงพยาบาลเพราะทำร้ายร่างกายพวกเขาก็รีบมาที่โรงพยาบาลทันทีด้วยความเป็นห่วงลูกสาว แต่เมื่อทั้งสองเข้ามาในห้องผู้ป่วย พวกเขาสองสามีภรรยา ก็ไม่แม้แต่จะมองหน้ากันเลยเย็นชาใส่กันทำราวกับไม่เคยรู้จักกันมาก่อนจากนั้นพยาบาลก็มาแจ้งให้เขาทั้งสองไปพบหมอเป็นการส่วนตัวเมื่อกลับออกมาจากการพบหมอ แม่ของรตีก็เข้าไปนั่งข้างๆลูกสาวร้องให้ด้วยความเจ็บปวดใจเมื่อเห็นลูกสาวนอนไร้สติอยู่บนเตียง" โธ่ รตีทำไมลูกถึงได้ทำแบบนี้ แม่ขอโทษนะลูก "ส่วนพ่อของรตีก็นั่งอยู่บนโซฟา นั่งยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากุมขมับ ก้มหน้านิ่งอย่างเงียบๆ ด้วยความรู้สึกเครียดและรู้สึกผิด สีหน้าดูหม่นหมองไร้รังสี เขาเสียใจอย่างมากที่ไม่ได้ดูแลลูก ไม่ใส่ใจลูกให้ดีกว่านี้ก่อนหน้านี้พวกเขาเข้าไปพบหมอ หมอก็เล่าอาการของลูกสาวเขาให้ฟังว่า" จากอาการและพฤติกรรมของผู้ป่วยที่เพื่อนและพี่เลี้ยงของผู้ป่วยเล่ามาสาเหตุที่ผู้ป่วยลงมือทำร้ายร่างกายนั้นเพราะไม่ได้ดั่งใจและรู้สึกผิดหวังไม่พอใจอย่างรุนแรงอาการของผู้ป่วยเป็นอาการของโรคฮิสทีเรีย ซึ่งโรคนี้จัดเป็นโรคทางจิตเวช และผู้ป่วยยังมีโรคซึมเศร้าแ
ทันทีที่รตีเห็นเตชิน เธอก็เอ่ยขึ้นทั้งน้ำตาอย่างน่าสงสาร" พี่เตชิน "เตชินหันมามองเธออย่างเย็นชาโดยไม่เอ่ยอะไรเธอรีบเข้าไปหาเขาแล้วยื่นมือออกไปจับมือเขาพร้อมกับเอ่ย" พี่เตชิน ฉันขอโทษ ที่ฉันทำไปทั้งหมดเพราะฉันรักพี่ อย่าทิ้งฉันไปเลยนะ ต่อไปฉันจะไม่ทำแบบนั้นแล้ว นะๆ อย่าทิ้งรตีไปเลยนะคะ รตีไม่เหลือใครแล้ว "รตีเงยหน้ามองเตชิน ร้องห่มร้องให้อ้อนวอนขอไม่ให้เตชินทิ้งเธอไป แต่เตชินกลับยืนแข็งทื่อไม่แม้แต่จะมองเธอเลยจากนั้นเตชินก็เอามือของรตีที่จับมือเขาออกแล้วเอ่ยอย่างเยือกเย็นด้วยน้ำเสียงดุดันอย่างไม่สบอารมณ์กับคำพูดของรตีดวงตาดูแข็งกร้าว เต็มไปด้วยโทสะใบหน้าเคร่งขรึมเย็นชาราวกับจอมมาร" รตี คุณมีพ่อแม่ที่รักคุณอยู่ แค่ไม่มีผมคนเดียวคุณจะไม่เหลือใครแล้วได้ยังไง ผมไม่ได้รักคุณแล้ว คุณเข้าใจมั้ยและผมจะไม่รักคนอย่างคุณ ที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อตัวเองเด็ดขาดคนอย่างคุณไม่มีความซื่อสัตย์จ้องแต่จะทำลายบริษัทผม ทั้งยังไม่เห็นค่าพ่อแม่ของตัวเองเลย ต่อให้ผมยังรักคุณ ถ้าคุณเป็นแบบนี้ คุณคิดว่าผมจะยังรักคุณลงเหรอ "เตชินกำมือแน่นแล้วเอ่ยต่ออย่างเลือดเย็น" ตอนนี้ผมไม่ได้รักคุณแล้ว คุณอย่ามา
ณ โรงเรียน JK หลังจากที่ไม่มีเตชินมาวุ่นวาย พิมก็คุมซ้อมเต้นทุกวัน ว่างจากในโรงเรียน เธอก็ไปเรียนหนังสือในแต่ละวันเวลาของเธอผ่านไปอย่างรวดเร็ว แป๊บๆก็ผ่านไปอีกแล้วหนึ่งเดือนและในวันนี้เธอก็คุมเด็กซ้อมเต้นตามปกติ เหมือนทุกวันแต่เมื่อเธอไปขยับเต้นได้แค่แป๊บเดียวเธอก็รู้สึกปวดท้องอย่างมากปวดรุนแรงจนหน้าซีดเหงื่อซึมไหลออกมาจนแทบจะไม่มีแรงหายใจแล้วลมหายใจของเธอแผ่วเบาจนทุกคนตื่นตกใจ" พิม! พิม! เธอเป็นอะไรไปน่ะ พิม โรคกระเพาะกำเริบอีกแล้วเหรอ "ใบหน้าพิมซีดเซียวจนมองไม่เห็นเส้นเลือด เธอขมวดคิ้วขึ้นเป็นปมด้วยความเจ็บปวดทรมานแล้วรวบรวมแรงเอ่ยออกมาเสียงแผ่วเบาๆอย่างติดขัดไม่ชัดถ้อยชัดคำ แต่พอให้เทเท่ฟังออก" ซ้อม...ซ้อมต่อ เลย ไม่...ไม่ ต้องห่วง "เทเท่ทั้งตกใจและร้อนใจเขาเป็นห่วงพิมมากจึงบอกให้นักเรียนตาม ผอ.ป๊อบ" นักเรียนไปตาม ผอ.ป๊อบมาเร็วๆ ครูพิมจะไม่ไหวแล้ว "ได้ยินดังนั้นนักเรียนที่เป็นหัวหน้าทีมก็รีบวิ่งไปที่ห้องของ ผอ.ป๊อบ ทันทีเมื่อไปถึงนักเรียนก็เคาะประตูแล้วเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องป๊อบเห็นว่าเป็นเด็กของพิมเขาจึงเอ่ยถามขึ้น" อ้าว มาหาครูมีไรหรือเปล่า หื้ม "" ครูพิมไม
ป๊อบพาพิมกลับมานอนพักบนบ้านพัก เขาค่อยๆประคองเธอขึ้นห้องไปอย่างช้าๆเมื่อเข้าไปในห้องเขาก็ประคองเธอไปที่เตียงแล้วพิมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงป๊อบเป็นห่วงเธอมาก เพราะเธอพักบ้านพักครูคนเดียวเขาจึงเอ่ยว่า" คืนนี้ผมจะมานอนเป็นเพื่อนคุณนะ "" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมอยู่คนเดียวได้ หากคุณมาอยู่ดูแลพิม เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี จะพากันเข้าใจผิดกันไปใหญ่ "พิมรีบปฏิเสธ เพราะเธอแคร์สายตาและแคร์ความคิดของสังคมภายนอก มากกว่าความความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในกายของตนเองอาจจะเป็นเพราะเธอถูกเลี้ยงมาแบบนี้ อยู่ในสังคมที่แคร์คนอื่น เธอจึงวางตัวดีมาเสมอและไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงเหมือนที่พ่อแม่เธอสอนไว้ว่า" ให้เป็นคนดี เป็นที่นับถือ ยำเกรง ทำอะไรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าทำตัวให้เป็นที่ครหานินทา "ป๊อบมองเธอแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับจัดผ้าห่มมาห่มให้เธออย่างดี" พิมเวลานี้คุณไม่ควรแคร์คนอื่นนะ คุณต้องห่วงสุขภาพตัวเองกับลูกในท้องก่อนการที่ผมมาดูแลคุณแล้วเป็นที่ครหา ผมว่าดีซะอีก คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณท้องลูกของผมอยู่ "พิมจ้องหน้าป๊อบที่คิดวางแผนเพื่อปกป้องเธอไม่ให้ถูกคนอื่นกล่าวหาว่าท้องไม่มีพ่อแ
ในเช้าวันต่อมา ขณะที่พิมกำลังสอนอยู่ ก็มีเพื่อนครูคนหนึ่งเดินมาบอกว่า" ครูพิมจ๊ะ มีคนมาหาครูพิมจ้ะ ตอนนี้รออยู่ที่หน้าบ้านพักครูพิมแล้ว "" อ้อ ค่ะ "พิมเอ่ยตอบ แล้วแอบพึมพำในใจ[ ใครกันที่มาหาเรา ช่างเถอะให้รอไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปดู ]จากนั้นเธอก็หันมาสอนนักเรียนต่อ พอหมดคาบเรียน เธอก็เดินกลับไปที่บ้านพักเห็นหญิงสาวรูปร่างดีนั่งหันหลังให้เธอบนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านพัก[ ใครกัน? ]เธอเดินเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณมาขอพบฉัน มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ "ณัชชาหันหน้ามามองเธอแล้วยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ย" เซอร์ไพรส์ค่ะ คุณพิม "เมื่อเห็นว่าเป็นณัชชาเธอก็รู้สึกแปลกใจจนแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณณัชชา! คุณมาทำอะไรที่นี่ "ไม่ต้องถามก็รู้ว่าณัชชารู้ที่อยู่เธอได้ยังไง เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเตชินส่งมาแน่ๆแต่เธอก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดว่าอย่างน้อยดีกว่าเตชินมาเอง เธอแค่อยากรู้ว่าณัชชามาด้วยจุดประสงค์อะไรก็เท่านั้นณัชชาได้ยินพิมยิงคำถามมาแบบนี้ เธอจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย" ฉันมาเที่ยวน่ะ แล้วรู้มาจากพี่เตชินว่าคุณสอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เลยอยากจะแวะมาทักทาย ขอค้างคืนด้วยสั
บ้านพักครูเป็นบ้านปูนเล็กๆมีเพียงสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ตอนกลางคืน ณัชชากับเทเท่ก็ปูเสื่อนอนหน้าทีวี ในห้องที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับบันไดที่จะขึ้นไปชั้นสองเมื่อทุกคนเข้านอนแล้วบรรยากาศกลางดึกที่เงียบสงบ เทเท่ก็ลุกขึ้นมา ยื่นมือไปลูบไล้เรียวขาของณัชชาด้วยความหื่นกระหายเขาลูบไล้ขึ้นลงได้สักพัก ณัชชาก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติเธอค่อยๆขยับแพขนตาแล้วลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงัวเงียเทเท่เห็นว่าเธอรู้สึกตัวแล้วเขาก็ขึ้นคร่อมบนตัวเธอทันทีแล้วจับมือเธอไว้ ก้มหน้าลงจูบไปตามคอพร้อมกับเอ่ยเสียงกระเส่า" คุณณัชชาผมต้องการคุณ ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำเริบอีกแล้ว ผมต้องการคุณ "ทีแรกณัชชายังงงๆอยู่ว่าเทเท่คิดจะเล่นอะไร พอได้สติ เธอก็กรีดร้องขึ้นดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดชีวิต" กรี๊ด!...ช่วยด้วยๆ ไอ้บ้าออกไปจากตัวฉันนะ ออกไป กรี๊ด... "" ไม่แน่นอนครับ ตอนนี้ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำลังคุกรุ่นต้องการร่างกายผู้หญิง "เทเท่เอ่ยพร้อมกับมองหน้าณัชชาด้วยสีหน้าหื่นกระหาย" กรี๊ด...ไม่เอาๆ ปล่อย ไอ้เทเท่ ไอ้บ้า ออกไปจากตัวฉัน ออกไป "แววตาณัชชากลัวจนสั่นไหว เธอกลัวจนหน้าข
พิมกับเทเท่นัดแนะกับเด็กในห้องนาฏศิลป์ แล้วแจกใบขออนุญาตเดินทางไปแข่งขัน ให้กับนักเรียนทุกคน ให้เอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตยินยอม จากนั้น พิมก็เริ่มเอ่ยกับนักเรียนของตัวเองว่า" นักเรียนคะ พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปแข่งที่กรุงเทพแล้ว วันนี้ซ้อมแค่รอบเดียวพอแล้วเก็บแรงไว้เดินทางพรุ่งนี้ จำไว้ว่าเราเป็นตัวแทนของภาคขอให้เราตั้งใจทุ่มเททำให้ดีที่สุดจะได้ไม่เสียใจภายหลัง แต่สิ่งสำคัญคือ เราอย่าลืม ว่ากว่าแต่ละทีมจะมาถึงจุดนี้ได้ทุกทีมล้วนเป็นคู่แข่งที่เก่งและน่ากลัว ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีที่สุดทุกทีมเราจะประมาทหรือเหลิงโอ้อวดว่าเราเก่งเหนือคนอื่นไม่ได้ในโลกนี้ ในประเทศนี้ยังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกตั้งมากมาย ไม่ว่าเราจะได้แชมป์หรือไม่ก็อย่าไปท้อแท้น้อยใจหรือเสียใจเด็ดขาดขอให้เรายอมรับและแสดงความยินดีกับคนที่ได้แชมป์อย่างจริงใจครูเชื่อว่าทุกความตั้งใจทุกความสามัคคีจะนำเราไปสู่ความสำเร็จขอให้เราตั้งใจทำให้เต็มที่ ทำให้สุดกำลังความสามารถเข้าใจมั้ยคะ "" เข้าใจค่ะ/ เข้าใจครับ "นักเรียนทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียมเสียงดังชัดเจน แล้วเทเท่ก็นัดแนะเวลามาขึ้นรถที่โรงเรียนต่อ" แล้วพรุ่งนี้นะคะ
ในห้องผ่าตัดหลังจากผ่าตัดเสร็จอยู่ๆพิมก็หยุดหายใจไป เนื่องจากเธอเสียเลือดมากและแท้งบุตรในขณะที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหวในตอนที่เธอยังมีลมหายใจโรยริน จิตสุดท้ายของเธอคล้ายกับรับรู้ได้ว่าตัวเองสูญเสียลูกไปแล้ว คลื่นความเศร้าโศกถาถมความเสียใจเข้ามาสาดใส่ ทำให้เธอไม่มีกำลังใจที่จะอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะเธอตั้งใจจะพาลูกของเธอหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะเป็นการพาเขามาตายจากแล้วหมอก็รีบทำการช่วยชีวิตเธออีกครั้งอย่างสุดความสามารถใช้เวลาอยู่นานเธอก็ไม่กลับมาหายใจ คลื่นหัวใจเป็นเส้นตรงไม่ขยับเขยื้อนเลยสีหน้าหมอแสดงถึงความจนปัญหาด้วยความผิดหวังแล้วเอ่ยเสียงเศร้า" แจ้งญาติคนไข้เถอะ "" ค่ะ "พยาบาลเอ่ยตอบแล้วเดินออกไปจากห้องผ่าตัด" ผ่าตัดเสร็จแล้วแท้ๆ ไม่คิดว่าคนไข้จะมาเสียชีวิตในขณะที่เราเพิ่งจะมีความหวังขึ้นมา "พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยอย่างผิดหวัง เพราะในตอนแรกพวกเขาก็ทำใจไว้แล้วว่าคนไข้อาจจะไม่รอดแต่พวกเขาต่างก็ตั้งใจช่วยชีวิตพิมอย่างสุดความสามารถมากจนเธอกลับมาหายใจอีกครั้งความจริงพิมหยุดหายใจตั้งแต่ตอนเกิดเหตุแล้วหมอจึงเอ่ยอย่างสุขุมว่า" บางทีจิตสุ
" ไม่ได้นะคุณเตชิน คุณอย่าทำแบบนี้ ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะนะ "พิมขอร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอไม่หยุด แต่เขากลับนิ่งเฉย รตีลงจากรถแล้วแอบเดินถามเตชินเข้ามาในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้เธอไปหาเตชินที่บ้าน เห็นเตชินขับรถออกจากบ้าน เธอจึงให้คนขับรถ ขับตามเตชินเธอใส่แว่นสีดำปกปิดดวงตาและใส่แมสก์ปกปิดหน้าเอาไว้ไม่ให้เตชินรู้ว่าเป็นเธอพิมที่อยู่ในอ้อมแขนของเตชินเธอทั้งตีทั้งข่วนเขาจนเธอน้ำตาไหลพรากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างจนปัญญาด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณจะฆ่าเขาไม่ได้ เขาเป็นลูกของคุณไม่ใช่ลูกของคุณป๊อบอย่างที่คุณเข้าใจ เขาเป็นลูกของคุณจริงๆ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หยุดชะงักไป รตีได้ยินก็ช็อกไปเช่นกัน แล้วแววตาของเธอก็กลายเป็นดุร้ายเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาเตชินมองหน้าพิมแล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง" คุณพูดว่าไงนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ยเสียงสั่น" เขาเป็นลูกของคุณ คุณวางฉันลงก่อนได้มั้ยแล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง "เตชินวางเธอลง พอเธอเป็นอิสระจากมือของเขาเธอก็วิ่งหนีไปทันทีเตชินเห็นเธอวิ่งหนีไปเขารู้สึกเจ็บใจมากที่ถูกหลอกจึงวิ่งตามเธอออกไปแล้วคว้าข้อมือเธอมาจับไว้นำตัวเธอกลับมาอีกครั้งพร้อ
เมื่อป๊อบเห็นพิมกลับมา เขาก็ปลีกตัวออกจากกลุ่มนักเรียนแล้วเดินมาหาพิมพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น" พิมเขาทำอะไรคุณหรือเปล่า "พิมส่ายหน้าแล้วเอ่ย" ไม่ค่ะ "ป๊อบพยักหน้าแล้วเอ่ย" เช่นนั้นก็ดีแล้ว ปิดเทอมนี้เราก็ว่างบ้างแล้วเดี๋ยวผมจะให้เขาเซ็นหย่าให้คุณให้ได้ ต่อไปเขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับคุณอีก "พิมมองป๊อบด้วยสีหน้าเหนื่อยใจนึกถึงคำพูดของเตชินก่อนหน้านี้เธอไม่อยากได้แล้วใบหย่า เธอจึงเอ่ยว่า" จะหย่าหรือไม่หย่าฉันไม่สนใจแล้วค่ะ แค่ใบหย่าใบเดียวไม่มีผลอะไรกับชีวิตฉันหรอกค่ะ ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขาอีกแล้วเราอย่าไปใส่ใจกับใบหย่านั่นอีกเลยค่ะ "" ก็ได้ครับ ไว้คุณคลอดลูกแล้วค่อยมาตัดสินใจอีกที "เขาก็ไม่อยากให้พิมติดอยู่กับสถานะสมรสนี้เพราะเขาอยากจะจดทะเบียนสมรสกับเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาอย่างถูกต้องเตชินเดินเข้ามาเห็นทั้งสองยืนคุยกันอยู่ เขาจึงเดินผ่านทั้งสองไป แล้วเดินไปยังกลุ่มของนักเรียนถ่ายรูปกับพวกเขา จากนั้นเขาก็เอ่ยถามเด็กนักเรียนว่า" เด็กๆพวกคุณปิดเทอมกันเมื่อไหร่ครับ "" พวกเราปิดเทอมแล้วครับ กลับไปพวกเราจะฉลองแชมป์ปิดเทอมกันครับ คุณเตชินไปฉลองกับพวกเรามั้ยครับ "" โอ้ว
เตชินลากพิมมาที่รถ จากนั้นก็เปิดประตูให้เธอขึ้นไปบนรถ พิมทำตามที่เขาต้องการโดยไม่บ่นอะไรแล้วเตชินก็เข้าไปนั่งข้างๆเธอพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่รีรออีกต่อไป" เด็กในท้องเป็นลูกของใคร "พิมกระเถิบห่างออกไปอย่างระมัดระหวังพร้อมกับเอามือจับท้องของตัวเองไว้แล้วมองเตชินอย่างดุดันด้วยแววตาสู้คนเมื่อเตชินเลื่อนสายตามาจับจ้องท้องของเธอ[ เตชินถามแบบนี้หมายความว่ายังไง หรือเขาจะสงสัยว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขากันนะ ]เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงลองถามหยั่งเชิงดู" เขาก็เป็นลูกของคนที่คุณคิดไง แล้วคุณคิดว่าเขาเป็นลูกใครล่ะ "เธอไม่รู้หรอกว่าเตชินคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของป๊อบ เธอแค่อยากรู้ความคิดของเขา จึงพูดออกไปแบบนั้นเธอคิดว่าถ้าเขาบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกเขาเธอก็จะได้ปฏิเสธอย่างไม่น่าสงสัยแต่เมื่อเตชินได้ยินเธอพูดดังนั้น เขากลับรู้สึกเหมือนถูกเธอตบหน้าแรงๆ แล้วให้คำตอบอย่างเยาะเย้ยแต่เขาก็พยายามปฏิเสธความคิดของตัวเอง พยายามคิดว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของป๊อบแต่เป็นลูกของเขา แต่การคิดแบบนี้ กับระยะเวลาที่ไม่ได้เจอพิมบวกกับภาพความสนิทสนมชิดใกล้กันของพิมกับป๊อบทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังหลอกต
" สวัสดีค่ะคุณป๊อบ คุณพิม คุณเทเท่ "ณัชชาเอ่ยทักขึ้น เทเท่ยิ้มแล้วสวัสดีกลับ" สวัสดีค่ะคุณณัชชาไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่ "แล้วป๊อบก็หันมาพร้อมกับเอ่ย" คุณณัชชารู้ได้ยังไงครับว่าวันนี้เรามีแข่งที่นี่ "ป๊อบแค่ถามไปตามมารยาทของคนรู้จักกันส่วนพิมแค่หันมามองแล้วหันกลับไปสนใจเด็กของตัวเองต่อเมื่อทีมก่อนหน้าแข่งจบลง พิธีกรบนเวทีก็เอ่ยขึ้น" จบลงไปแล้วนะคะ ทีม SS ตัวแทนจากภาคใต้ ต่อไปจะเป็นทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือค่ะ ขอให้ทีม JK เตรียมตัวเลยนะคะ ในปีนี้ต้องบอกเลยว่าแต่ละทีมนั้น ทำให้คณะกรรมการของเราหนักใจมากเลยทีเดียว "" ใช่แล้วครับ ในตอนนี้ทีม JK คงจะพร้อมกันแล้วต่อไปเชิญพบกับทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือได้เลยครับ "พิมเรียกนักเรียนให้มายืนเป็นวงหันหน้าเข้าหากันจากนั้นเธอก็แบมือแล้วคว่ำฝ่ามือลงยื่นแขนออกไปข้างหน้า เทเท่ก็วางฝ่ามือทับซ้อนลงบนหลังมือเธอแล้วนักเรียนก็วางมือทับต่อๆกัน" ขอให้พวกเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพื่อคว้าชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อม สู้มั้ย! "" สู้!!! "พิมเอ่ยกระตุ้นสร้างกำลังใจให้นักเรียนมีใจฮึกเหิม แล้วทุกคนก็เก็บมือเตรียมตัว จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีจากนั้นทีมขอ
พิมกับเทเท่นัดแนะกับเด็กในห้องนาฏศิลป์ แล้วแจกใบขออนุญาตเดินทางไปแข่งขัน ให้กับนักเรียนทุกคน ให้เอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตยินยอม จากนั้น พิมก็เริ่มเอ่ยกับนักเรียนของตัวเองว่า" นักเรียนคะ พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปแข่งที่กรุงเทพแล้ว วันนี้ซ้อมแค่รอบเดียวพอแล้วเก็บแรงไว้เดินทางพรุ่งนี้ จำไว้ว่าเราเป็นตัวแทนของภาคขอให้เราตั้งใจทุ่มเททำให้ดีที่สุดจะได้ไม่เสียใจภายหลัง แต่สิ่งสำคัญคือ เราอย่าลืม ว่ากว่าแต่ละทีมจะมาถึงจุดนี้ได้ทุกทีมล้วนเป็นคู่แข่งที่เก่งและน่ากลัว ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีที่สุดทุกทีมเราจะประมาทหรือเหลิงโอ้อวดว่าเราเก่งเหนือคนอื่นไม่ได้ในโลกนี้ ในประเทศนี้ยังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกตั้งมากมาย ไม่ว่าเราจะได้แชมป์หรือไม่ก็อย่าไปท้อแท้น้อยใจหรือเสียใจเด็ดขาดขอให้เรายอมรับและแสดงความยินดีกับคนที่ได้แชมป์อย่างจริงใจครูเชื่อว่าทุกความตั้งใจทุกความสามัคคีจะนำเราไปสู่ความสำเร็จขอให้เราตั้งใจทำให้เต็มที่ ทำให้สุดกำลังความสามารถเข้าใจมั้ยคะ "" เข้าใจค่ะ/ เข้าใจครับ "นักเรียนทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียมเสียงดังชัดเจน แล้วเทเท่ก็นัดแนะเวลามาขึ้นรถที่โรงเรียนต่อ" แล้วพรุ่งนี้นะคะ
บ้านพักครูเป็นบ้านปูนเล็กๆมีเพียงสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ตอนกลางคืน ณัชชากับเทเท่ก็ปูเสื่อนอนหน้าทีวี ในห้องที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับบันไดที่จะขึ้นไปชั้นสองเมื่อทุกคนเข้านอนแล้วบรรยากาศกลางดึกที่เงียบสงบ เทเท่ก็ลุกขึ้นมา ยื่นมือไปลูบไล้เรียวขาของณัชชาด้วยความหื่นกระหายเขาลูบไล้ขึ้นลงได้สักพัก ณัชชาก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติเธอค่อยๆขยับแพขนตาแล้วลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงัวเงียเทเท่เห็นว่าเธอรู้สึกตัวแล้วเขาก็ขึ้นคร่อมบนตัวเธอทันทีแล้วจับมือเธอไว้ ก้มหน้าลงจูบไปตามคอพร้อมกับเอ่ยเสียงกระเส่า" คุณณัชชาผมต้องการคุณ ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำเริบอีกแล้ว ผมต้องการคุณ "ทีแรกณัชชายังงงๆอยู่ว่าเทเท่คิดจะเล่นอะไร พอได้สติ เธอก็กรีดร้องขึ้นดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดชีวิต" กรี๊ด!...ช่วยด้วยๆ ไอ้บ้าออกไปจากตัวฉันนะ ออกไป กรี๊ด... "" ไม่แน่นอนครับ ตอนนี้ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำลังคุกรุ่นต้องการร่างกายผู้หญิง "เทเท่เอ่ยพร้อมกับมองหน้าณัชชาด้วยสีหน้าหื่นกระหาย" กรี๊ด...ไม่เอาๆ ปล่อย ไอ้เทเท่ ไอ้บ้า ออกไปจากตัวฉัน ออกไป "แววตาณัชชากลัวจนสั่นไหว เธอกลัวจนหน้าข
ในเช้าวันต่อมา ขณะที่พิมกำลังสอนอยู่ ก็มีเพื่อนครูคนหนึ่งเดินมาบอกว่า" ครูพิมจ๊ะ มีคนมาหาครูพิมจ้ะ ตอนนี้รออยู่ที่หน้าบ้านพักครูพิมแล้ว "" อ้อ ค่ะ "พิมเอ่ยตอบ แล้วแอบพึมพำในใจ[ ใครกันที่มาหาเรา ช่างเถอะให้รอไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปดู ]จากนั้นเธอก็หันมาสอนนักเรียนต่อ พอหมดคาบเรียน เธอก็เดินกลับไปที่บ้านพักเห็นหญิงสาวรูปร่างดีนั่งหันหลังให้เธอบนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านพัก[ ใครกัน? ]เธอเดินเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณมาขอพบฉัน มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ "ณัชชาหันหน้ามามองเธอแล้วยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ย" เซอร์ไพรส์ค่ะ คุณพิม "เมื่อเห็นว่าเป็นณัชชาเธอก็รู้สึกแปลกใจจนแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณณัชชา! คุณมาทำอะไรที่นี่ "ไม่ต้องถามก็รู้ว่าณัชชารู้ที่อยู่เธอได้ยังไง เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเตชินส่งมาแน่ๆแต่เธอก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดว่าอย่างน้อยดีกว่าเตชินมาเอง เธอแค่อยากรู้ว่าณัชชามาด้วยจุดประสงค์อะไรก็เท่านั้นณัชชาได้ยินพิมยิงคำถามมาแบบนี้ เธอจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย" ฉันมาเที่ยวน่ะ แล้วรู้มาจากพี่เตชินว่าคุณสอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เลยอยากจะแวะมาทักทาย ขอค้างคืนด้วยสั
ป๊อบพาพิมกลับมานอนพักบนบ้านพัก เขาค่อยๆประคองเธอขึ้นห้องไปอย่างช้าๆเมื่อเข้าไปในห้องเขาก็ประคองเธอไปที่เตียงแล้วพิมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงป๊อบเป็นห่วงเธอมาก เพราะเธอพักบ้านพักครูคนเดียวเขาจึงเอ่ยว่า" คืนนี้ผมจะมานอนเป็นเพื่อนคุณนะ "" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมอยู่คนเดียวได้ หากคุณมาอยู่ดูแลพิม เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี จะพากันเข้าใจผิดกันไปใหญ่ "พิมรีบปฏิเสธ เพราะเธอแคร์สายตาและแคร์ความคิดของสังคมภายนอก มากกว่าความความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในกายของตนเองอาจจะเป็นเพราะเธอถูกเลี้ยงมาแบบนี้ อยู่ในสังคมที่แคร์คนอื่น เธอจึงวางตัวดีมาเสมอและไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงเหมือนที่พ่อแม่เธอสอนไว้ว่า" ให้เป็นคนดี เป็นที่นับถือ ยำเกรง ทำอะไรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าทำตัวให้เป็นที่ครหานินทา "ป๊อบมองเธอแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับจัดผ้าห่มมาห่มให้เธออย่างดี" พิมเวลานี้คุณไม่ควรแคร์คนอื่นนะ คุณต้องห่วงสุขภาพตัวเองกับลูกในท้องก่อนการที่ผมมาดูแลคุณแล้วเป็นที่ครหา ผมว่าดีซะอีก คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณท้องลูกของผมอยู่ "พิมจ้องหน้าป๊อบที่คิดวางแผนเพื่อปกป้องเธอไม่ให้ถูกคนอื่นกล่าวหาว่าท้องไม่มีพ่อแ