พิมยืนนิ่งจ้องไปยังน้ำหนึ่งอย่างไม่วางตา
[ โลกกลมอะไรขนาดนี้เนี่ย มาเจอเจ้ากรรมนายเวรจนได้ เซ็ง ] เตชินเห็นความผิดปกติของพิมเขาจึงเอ่ยถามขึ้นเบาๆ " พิม คุณเป็นอะไรหรือเปล่า " พิมจึงเอ่ยตอบว่า " เปล่าค่ะ ไม่ได้เป็นอะไร " เตชินจึงเอ่ยต่อว่า " งั้นก็เข้าไปข้างในเถอะ " พิมเดินเข้าไปนั่งลงบนเก้าอี้ ที่ถูกจัดไว้ข้างๆ เตชิน ส่วนเตชินก็นั่งอยู่หัวโต๊ะ พ่อของน้ำหนึ่ง นั่งข้างเตชินทางด้านซ้ายมือ ถัดมาก็คือน้ำหนึ่ง ส่วนผู้ช่วยคังนั่งทางฝั่งเดียวกันกับพิม น้ำหนึ่งนั่งมองหน้าพิมอย่างเงียบๆสลับกับย้ายสายตามามองเตชินแล้วพึมพำในใจ [ เธอไปรู้จักกับคุณเตชินได้ยังไงกัน ] [ เธอเป็นเจ้ากรรมนายเวรของฉันหรือไงกันนะ อยู่ที่ไหน ทำอะไร ก็เจอแต่เธอ ฉันชอบอะไร อยากได้อะไร ก็ถูกเธอแย่งไปจนหมด ] [ ครั้งนี้ฉันจะไม่ยอมแพ้ให้กับเธอแล้ว ฉันจะแย่งคุณเตชินมาให้ได้ ] เมื่อนั่งเรียบร้อยแล้วน้ำหนึ่งจึงเอ่ยขึ้น " คุณเตชินไม่แนะนำคนที่คุณพามาหน่อยเหรอคะ " [ ตอแหลเก่งจริงๆเลยนะน้ำหนึ่ง ] พิมแอบด่าในใจเธอนั่งหน้านิ่ง แล้วหันไปทาง เตชิน รอฟังคำพูดที่เขาจะเอ่ย เตชินจึงเอ่ยแนะนำว่า " คุณพิม เป็น... " เตชินเอ่ยถึงแค่ " เป็น " เขาก็หันไปมองพิมสายตาของเขาสบเข้ากับสายตาของเธอ ที่กำลังจ้องเขาด้วยสายตาคมกริบ จนเขารู้สึกว่าวันนี้แววตาเธอดูนิ่งและดูดุเป็นพิเศษ คล้ายกำลังจะข่มขวัญคน ดูสงบนิ่ง มีความสุขุมลุ่มลึก สง่างามน่าเกรงขาม มีความเป็นผู้นำเหนือผู้อื่น จนเขารู้สึกได้ จากนั้นเขาก็เอ่ยต่อว่า " คุณพิมเป็น ภรร... " " แฟนค่ะ " เตชินกำลังจะบอกว่าพิมเป็นภรรยาของเขา แต่ยังไม่ทันได้พูดจบคำ พิมก็เอ่ยแทรกขึ้นอย่างรวดเร็ว พิมยิ้มให้น้ำหนึ่งด้วยสายตายิ้มๆแต่แววตากลับลุ่มลึกยากจะคาดเดาพร้อมกับเอ่ย " ฉันเป็นแฟนของคุณเตชิน ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ คุณน้ำหนึ่ง " น้ำหนึ่งอึ้งไปห้าวิ เมื่อได้ยินเธอบอกว่าเธอเป็นแฟนของคุณเตชิน พอได้สติ น้ำหนึ่งจึงเอ่ยด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นมิตร " ยินดีที่รู้จักเช่นกันค่ะ คุณพิม " ดวงตาสดใสของพิมซ่อนความน่ากลัว ไว้ในนัยน์ตาดำขลับ จนน้ำหนึ่งเริ่มรู้สึกได้ เตชินนั่งสังเกตพิมอย่างเงียบๆ เขาเพิ่งจะรู้จักพิมในอีกมุมหนึ่ง ซึ่งเธอมีความน่ากลัวน่าเกรงขามมากๆ เขาถึงกับพึมพำออกมาในใจ [ ภายใต้แววตายิ้มๆนั้น กลับมีอะไรน่ากลัว ซ่อนอยู่ คุณช่างน่าสนใจจริงๆ ] จากนั้นเตชินก็เอ่ยทำลายบรรยากาศที่ดูอึมครึมที่ออกมาจากแววตาของพิมว่า " พิมท่านนี้คือคุณหาน คุณพ่อของคุณน้ำหนึ่ง " สายตาสุขุมลุ่มลึกของพิมแปรเปลี่ยนเป็นปกติแล้วหันไปมองพ่อของน้ำหนึ่งแล้วเอ่ย " สวัสดีค่ะคุณหาน " แม้เธอจะเกลียดน้ำหนึ่งแค่ไหน ไม่ชอบน้ำหนึ่งยังไง เธอก็ไม่พาลไปเกลียดถึงพ่อแม่เขา พ่อของน้ำหนึ่งยิ้มแล้วรับไหว้จากพิม จากนั้นก็เอ่ยขึ้น " คุณเตชินกับคุณพิมดูเหมาะสมกันมากเลยนะครับ " " ขอบคุณครับ " " ขอบคุณค่ะ " พิมกับเตชินเอ่ยขอบคุณ พ่อของน้ำหนึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทนำเข้าและส่งออกสินค้า มีที่ดินไว้ในครอบครองมากมาย ถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งในอำเภอที่พิมอยู่ จากนั้นเตชินก็เอ่ยว่า " เรามาทานข้าวกันเถอะครับ " เอ่ยจบเตชินก็ส่งสัญญาให้เด็กเสิร์ฟ แล้วเด็กเสิร์ฟก็เริ่มมาเสิร์ฟอาหาร เตชินก็คอยตักให้พิมพร้อมกับเอ่ย " ทานเยอะๆนะพิม ทานอันนี้ด้วย " " ขอบคุณค่ะ " พิมยิ้มแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานยั่วให้น้ำหนึ่งอิจฉาจนอกแตกตาย น้ำหนึ่งทานข้าวไปแอบมองพิมไปในใจรู้สึกอิจฉาตาร้อนแทบจะลุกเป็นไฟแล้ว มื้อเที่ยงดำเนินไปอย่างสงบราบรื่น เมื่อรู้สึกว่าทานอิ่มแล้วพิมจึงหันไปมองเตชินแล้วเอ่ย " ฉันอิ่มแล้วค่ะ ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ " เตชินพยักหน้าให้เบาๆ แล้วพิมก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ก้าวเท้าเดินออกไปจากห้องอาหารทันที น้ำหนึ่งก็เอ่ยขึ้น " เอ่อ น้ำหนึ่งก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ " เอ่ยจบเธอก็ลุกขึ้นตามพิมออกไป พิมเข้าห้องน้ำเสร็จ เธอก็เดินออกมาล้างมือ น้ำหนึ่งเดินเข้ามาล้างมือข้างๆเธอ แล้วเอ่ย " พิม เธอกับคุณเตชินรู้จักกันได้ยังไง " พิมก้มหน้าล้างมือไม่เอ่ยตอบ และไม่สนใจ ในคำถามของน้ำหนึ่ง ล้างมือเสร็จเธอก็เดินออกไป แต่น้ำหนึ่งกลับจับแขนเธอไว้แน่นแล้วเอ่ย " พิม! เธออย่ามาอวดดีทำเป็นหยิ่งจองหองหน่อยเลย เธอคงคิดว่า เธอยังเหนือกว่าฉันทุกอย่างเหรอ คิดว่าได้เป็นแฟนกับไฮโซอย่างคุณเตชินแล้ว จะยกระดับตัวเองได้เหรอ อย่าเพิ่งหลงดีใจไป ไฮโซอย่างคุณเตชินน่ะเหรอจะมาจริงจังกับผู้หญิงจนๆอย่างเธอ ที่ไม่มีฐานะทางสังคมคอยส่งเสริมเกื้อหนุนบารมีของเขาอย่างเธอน่ะ อย่างมากเธอก็เป็นแค่ของเล่นของเขา พอเขาเบื่อเขาก็เขี่ยทิ้งแค่นั้นแหละ แล้วฉันจะรอดูวันที่เธอถูกคุณเตชินเขี่ยทิ้ง " จากนั้นน้ำหนึ่งก็เอ่ยต่อว่า " ฉันจะรอดูวันนั้นวันที่หงส์อย่างเธอถูกคุณ เตชินตัดปีกกระดูก(Pinioning) จนบินไม่ได้อีกตลอดชีวิต " เตชินที่ออกมาตามพิม เพราะเป็นห่วงเธอ ก็มาได้ยินสิ่งที่น้ำหนึ่งพูดกับพิม เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมพิมถึงดูแปลกไปตอนที่เข้าไปในห้องอาหาร และเข้าใจแล้วว่าทำไมพิมถึงเป็นคนรักเงินมาก [ ที่แท้พิมกับคุณน้ำหนึ่งก็รู้จักกัน ] [ เป็นเพราะคุณถูกคนอื่นดูถูกแบบนี้สินะ ถึงได้กลายเป็นคนรักเงินมากขนาดนี้ ] เขาโกรธจนทนไม่ไหวยื่นมือจะเปิดประตูห้องน้ำผู้หญิง ก็ได้ยินเสียงพิมเอ่ยตอบโต้ขึ้นอย่างเยือกเย็น " น้ำหนึ่ง ฉันเคยเหนือกว่าเธอยังไง ฉันก็จะเหนือกว่าเธออย่างงั้นไปตลอด แล้วฉันก็ไม่คิดหวังพึ่งผู้ชายรวยๆเพื่อยกระดับตัวเองหรอกนะ คนที่คิดแบบนี้มีแต่เธอเท่านั้นแหละ รวยแต่ไร้สมอง ฐานะทางสังของเธอไม่ยกระดับความเป็นคนให้เธอเลย ส่วนคุณเตชินจะเห็นฉันเป็นของเล่นหรือเปล่านั้นมันเกี่ยวอะไรกับเธอ แล้วเธอคิดว่าฉันดูไม่ออกเหรอ ว่าคุณหนูผู้ดีอย่างเธอน่ะร่านแค่ไหน อยากจะกินคุณเตชินจนตัวสั่น จนเป็นหมาบ้า มาตามเห่าถึงในห้องน้ำ " เอ่ยจนสะใจแล้ว เธอก็เดินออกไป ปล่อยให้น้ำหนึ่งโกรธจนหน้าดำหน้าแดงในห้องน้ำคนเดียว เธอกำมือแน่นจนเล็บมือจิกเข้าไปในเนื้อเลือดซึมออกมาเธอก็ไม่รู้สึกเจ็บเลย แววตาเธอแดงก่ำมองตามหลังพิมด้วยความโกรธแค้น ส่วนเตชินเมื่อรู้ว่าพิมออกมาเขาก็เข้าไปแอบในห้องน้ำผู้ชายทันที พิมเดินออกมาได้สามก้าวก็นึกอะไรขึ้นมาได้จึงเดินกลับเข้าไปหาน้ำหนึ่งแล้วเอ่ย " ฉันขอบคุณเธอมากนะที่ยกย่องให้ฉันเป็นหงส์ คิดๆดูแล้วฉันก็เป็นหงส์ที่สง่างามมาตลอด จริงๆนั่นแหละ เน้อ เรียนก็เก่ง กิจกรรมก็ดี แถมยังได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งอีก และเป็นดาวมหาลัยที่โดดเด่นอยู่เหนือเธอ แม้กระทั่งผู้ชายที่เธอชอบก็ล้วนมาชอบฉันกันหมด แม้เธอจะรวยแค่ไหนแต่เธอก็เป็นรองฉันมาตลอดไม่ใช่เหรอ เธอน่ะมีดีแค่รวย แต่ไร้สมอง ถ้ารวยแล้วไร้สมองไร้ความสามารถแบบเธอ ฉันไม่อยากรวยอ่ะ " คำพูดโอ้อวดจองหองของพิมทำให้น้ำหนึ่งทนไม่ไหวคล้ายถูกสะกิดแผล เธอจึงเอ่ยด้วยความโมโหว่า " เธอเหนือกกว่าฉันแค่หนึ่งก้าวก็มาโอ้อวดขนาดนี้แล้ว เธอลืมไปแล้วเหรอว่าแฟนที่เธอรักมากที่สุดทิ้งเธอแล้วมาเลือกคบกับฉันเพราะเธอจน ต่อให้เธอเก่ง เธอสวย เธอเด่นแค่ไหน ถ้าเธอ ไม่มีเงิน ไม่มีฐานะทางสังคม ก็ไม่มีผู้ชายรวยๆคนไหน เขาจริงจังกับเธอหรอก เขาแค่ใช้เธอเป็นทางผ่าน อยากสนุกกับเธอชั่วคราวเท่านั้นแหละ " ที่ผ่านมาเธอแพ้พิมมาตลอดเป็นรองพิมเสมอ ต้องเฝ้ามองพิมโดดเด่นท่ามกลางผู้คน โดยไม่มีใครสนใจเธอที่เป็นรองพิมเลย เธอเกลียดพิมที่สุด ที่ทำให้คุณหนูอย่างเธอ ไม่มีใครมาสนใจอีก ตั้งแต่ที่พิมมาปรากฏตัวต่อหน้าเธอ ตั้งแต่มัธยมจนถึงมหาลัย ที่หนึ่งที่เคยเป็นของเธอก็ไปตกเป็นของพิมจนเรียนจบ คล้ายกับถูกกำหนดมาให้เป็นรองพิมในทุกเรื่องได้ฟังคำพูดของน้ำหนึ่งแล้ว ลึกๆเธอก็แอบเจ็บนะ เพราะมันเป็นเช่นนั้นจริงๆเตชินทำอย่างนั้นกับเธอ ทำราวกับเธอเป็นของเล่นใช้เธอเป็นเครื่องมือในการผลิตลูก แต่ต่อให้มันจริงแล้วยังไง แค่เธอไม่ได้ปักใจรัก ไม่ให้ถูกคุมเกมฝ่ายเดียวเธอก็ไม่แคร์หรอกว่าพวกคนรวยจะคิดกับเธอยังไง คิดได้ดังนั้นเธอก็ยิ้มเยาะขึ้นที่มุมปากแล้วเอ่ย" ดูแล้วเธอเองก็อยากจะเป็นของเล่นให้คุณเตชินจนตัวสั่นเหมือนกันนะ เสียใจด้วยที่แม้แต่ของเล่นเขายังไม่อยากได้เธอเป็นของเล่นเลยฉันว่าเธอเอาเวลาที่มาแซะ มาแขวะ มาหาเรื่องฉันเนี่ย ไปพิจารณาตัวเองดีกว่านะแล้วก็ ขอบคุณ ที่เป็นห่วงฉันเรื่องคุณเตชิน แต่เธอไม่ต้องห่วงหรอก ฉันฉลาดขนาดนี้ ไม่โง่ให้คุณเตชินตัดปีกกระดูกได้ง่ายๆหรอก เธอรอดูวันที่ฉันโบยบินอย่างสง่างามต่อไปละกัน "เอ่ยจบเธอก็หมุนตัวเดินออกไป" ฉันจะคอยดูแล้วกัน ว่าเธอจะปากเก่งแบบนี้ตลอดไปหรือเปล่า เธออย่าพลาดให้ฉันหัวเราะเยาะก็แล้วกัน "น้ำหนึ่งเอ่ยด้วยความโกรธแค้นที่ถูกพิมว่าให้จนเธอพูดไม่ออกทั้งน้ำเสียงและท่าทางของพิม ดูเย่อหยิ่ง เย็นชา น่าหมั่นไส้ จนน้ำหนึ่งเกลียดเข้ากระดูกดำพิมกลับเข้าไปนั่งที่โต๊ะอาหารด้วยสีหน้า
ในเช้าวันต่อมา พิมพาเตชินไปทำบุญไหว้พระขอพรที่วัดพระธาตุดอยคำ ทั้งสองไปซื้อดอกมะลิถวาย แล้วจุดธูปขอพรจากองค์พระพุทธรูป หลวงพ่อทันใจเมื่อขอพรเสร็จทั้งสองก็เดินออกมา กลับไปขึ้นรถ ระหว่างทางในขณะที่นั่งอยู่ในรถเตชินก็หันมาเอ่ยถามพิมว่า" เมื่อกี้คุณขอพรอะไร "พิมจึงเอ่ยตอบไปตามตรงว่า" ฉันขอพรให้ตัวเองและครอบครัวมีความสุข ขอให้ตัวเองประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมีเงินทองไหลมาเทมา แคล้วคลาดจากคนที่ไม่ชอบ แคล้วคลาดจากเจ้ากรรมนายเวรค่ะ "จากนั้นเธอก็ถามเตชินว่า" แล้วคุณล่ะ? "เตชินมองหน้าเธอแล้วยิ้มขึ้น" ผมขอให้คุณ มีลูกให้ผมเร็วๆและขอให้มีคุณอยู่ข้างๆผมแบบนี้ตลอดไป "พิมได้ยินดังนั้นเธอก็ตกใจแล้วโวยวายขึ้นมา" คุณเตชิน คุณไปขอพรแบบนั้นทำไม คุณรู้มั้ยว่าหลวงพ่อทันใจท่านศักดิ์สิทธิ์แค่ไหนหากใครขออะไรจากท่านแล้ว จะสมหวังดังใจปรารถนา ทุกประการตามที่ขอคุณไปขอแบบนั้นเท่ากับจะกักขังฉันไว้ข้างกายคุณตลอดชีวิตเลยนะ คุณต้องไปแก้ให้ฉัน ฉันไม่ได้อยากอยู่กับคนที่ไม่ได้รักฉันตลอดชีวิต และฉันก็ไม่ได้...(รักคุณ) " พิมพูดถึงแค่ ไม่ได้ แล้วก็หยุดชะงักไปเมื่อเตชินได้ยินประโยคหลัง เขาก็เอ่ยถามข
อาทิตย์ต่อมา น้ำหนึ่งมากรุงเทพแล้วโทรหาผู้ช่วยคัง ผู้ช่วยคังรับสายแล้วเอ่ย" สวัสดีครับ "เธอจึงเอ่ยขึ้น" คุณคังฉันเองน้ำหนึ่ง พอดีฉันมาเที่ยวกรุงเทพค่ะ ตอนนี้อยู่สนามบิน คุณช่วยมารับฉันหน่อยได้มั้ยคะ "ผู้ช่วยคังจึงเอ่ยตอบไปว่า" ได้ครับ "ได้ยินดังนั้นน้ำหนึ่งดีใจยิ้มหน้าระรื่นแล้วเอ่ย" ขอบคุณค่ะ "หลังจากวางสายผู้ช่วยคังก็เข้าไปในห้องของเตชินแล้วเอ่ยรายงาน" คุณชายครับ คุณน้ำหนึ่งมากรุงเทพครับตอนนี้อยู่สนามบิน เธอขอให้ผมไปรับครับ "เตชินหยุดการเคลื่อนไหวทุกอย่างในมือ สายตาจับจ้องบนตัวผู้ช่วยคังที่เข้ามารายงานเรื่องน้ำหนึ่ง คล้ายว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ จากนั้นก็เอ่ยว่า" ไปรับเธอเถอะ อย่าให้เธอรอนาน "เอ่ยจบเตชินก็วางมือจากงานทุกอย่าง แล้วลุกจากเก้าอี้เดินออกมาทำเอาผู้ช่วยคังถึงกับงง ไม่เข้าใจ จึงเอ่ยถามขึ้น" เอ่อ คุณชายกำลังจะไปไหนครับ "เตชินมองผู้ช่วยคังแล้วเอ่ย" ก็ไปรับคุณน้ำหนึ่งไง "ผู้ช่วยคังยิ่งงงเข้าไปใหญ่ เขาจึงเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งอย่างระมัดระวัง" คุณชายจะไปรับด้วยตัวเองเลยเหรอครับ แล้วคุณพิม...จะว่าอะไรมั้ยครับ "เตชินจึงเอ่ยว่า" คุณไม่ต้องห่วงหรอก แค่อย่าให้คุณ
เตชินลงจากรถแล้วเดินกลับเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าถมึงทึงเขานึกว่าพิมรอเขาในห้องนั่งเล่นจึงเดินเข้าไปดูเมื่อไร้เงาพิมเขาก็เดินออกจากห้องนั่งเล่นแล้วขึ้นไปบนห้องเขาเปิดประตูเดินเข้าไป ดันเห็นพิมกำลังหยอดอะไรบางอย่างลงในขวดน้ำเขาแอบดูเงียบๆพร้อมกับพึมพำในใจอย่างรู้แจ้งชัดเจนแล้ว[ สิ่งนี้สินะที่ทำให้เรารู้สึกมึนๆทุกๆเช้าที่ตื่นขึ้นมา ที่แท้เป็นเพราะเธอแอบวางยาเรานี่เอง ]แววตาคมกริบจับจ้องบนตัวพิมอย่างผิดหวังและเสียใจแล้วนัยน์ตาก็แปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวดุดันด้วยความโกรธและเจ็บช้ำในใจหลากหลายอารมณ์ความรู้สึกถาถมเข้ามาในใจของเขา จนเผลอกำมือแน่นอย่างไม่รู้ตัว แววตาแข็งกร้าวกลับกลายเป็นแดงก่ำ ความโกรธและความเศร้าเสียใจสุมเข้ามาเต็มอกจนคุมสติแทบไม่ได้แล้วเขาโกรธมากที่รู้ว่าเธอไม่เต็มใจมีอะไรกับเขาอย่างที่เขาเข้าใจและโกรธมากที่เธอหลีกเลี่ยงที่จะมีลูกกับเขา โกรธที่เธอไม่เคยรักเขาเลยพอได้สติเขาก็ปรับสีหน้าเป็นปกติ สักพักเขาก็เดินเข้าไปหาพิมแล้วเอ่ย" คุณทำอะไรอยู่หรอพิม "พิมสะดุ้งเล็กน้อยหันมามองเขาอย่างตื่นเต้น แล้วเอ่ยขึ้น" เปล่าค่ะ "เธอไม่รู้ว่าเตชินกลับเข้ามาในห้องตั้งแต่ตอนไหน จ
ฉากร่วมรักที่บรรเลงในบทเพลงสวาท เพิ่งจะจบลงได้ไม่นาน ท้องฟ้าก็สว่างแล้ว รุ่งอรุณเบิกฟ้า เริ่มเช้าวันใหม่ ภายในห้องนอนใหญ่เรือนร่างเปลือยเปล่านอนกอดกันกลมเกลียวใต้ผ้าห่มผืนใหญ่หนึ่งบุรุษหนึ่งหญิงงามนอนหลับไหลบนเตียงใหญ่ สภาพดูไร้เรี่ยวแรง อ่อนเพลียและเหนื่อยล้าจากกิจกรรมบนเตียงที่ต่อเนื่องตลอดทั้งคืนกว่าจะตื่นขึ้นมาเวลาก็ปาไปสี่โมงเย็นแล้ว พิมค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาช้าๆ แพขนตางามขยับเบาๆคิ้วสวยได้รูปขมวดเข้าหากันเป็นปม เมื่อเธอเริ่มขยับตัว เธอรู้สึกเจ็บและปวดระบมไปทั้งตัว จนแทบขยับตัวไม่ไหว เตชินฝากร่องรอยของความป่าเถื่อน เอาไว้ทั่วเรือนร่างของเธอมีรอยเขียวช้ำชัดเจนเป็นจุดๆตามซอกคอลงไปถึงไหปลาร้าและเนินอกเธอค่อยๆขยับตัวทีละนิดๆ แบกร่างกายที่บอบช้ำระบมไปทั่วตัว ลงจากเตียง ไปหยิบเสื้อผ้าที่เตชินโยนทิ้งกระจัดกระจายบนพื้นขึ้นมาสวมใส่เตชินค่อยๆลืมตาขึ้นมามองหาคนในอ้อมกอดเมื่อเห็นว่าอ้อมแขนว่างเปล่าเขาก็เลื่อนสายตากวาดมองไปทางอื่น เห็นเธอกำลังสวมใส่เสื้อผ้า เตรียมจะก้าวขาไปข้างหน้าเขาก็ลุกขึ้นมานั่งแล้วเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้ม" พิมคุณจะรีบตื่นไปทำไม แล้วนั่นคุณจะไปไหน กลับมาน
คนอย่างเธอแม้จะจน แต่จะขอจนอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรีเมื่อเธอยอมลดศักดิ์ศรีลง เอ่ยขอให้เขาขอเธอแต่งงาน หวังว่าเขาจะสงสารและเมตตาเธอบ้างแต่เขากลับปฏิเสธเธออย่างไม่ต้องคิดถ้อยคำที่เขาคอยพร่ามว่ารักเธอนักหนาล้วนเป็นแค่การโกหกหลอกลวง ไม่มีความจริงใจเลยสักนิด เธอรู้สึกพอแล้วเหนื่อยแล้วจริงๆกับความรู้สึกดีๆที่มีให้เขา[ ฉันจะไม่ยอมเป็นหงส์พิการที่บินไม่ได้เพราะคุณหรอกนะคุณเตชินและจะไม่ยอมให้น้ำหนึ่งสมหวังในการรอคอยนั้นเด็ดขาด ]คิดได้ดังนั้นเธอก็ลุกขึ้นมานั่ง น้ำที่เต็มอ่างล้นทลักออกมา โดยที่เธอไม่สนใจที่จะปิดน้ำเลยราวกับว่า จะชำระล้างร่างกายให้สะอาด แล้วให้สิ่งสกปรกที่ชำระล้างไหลไปตามน้ำที่ล้นออกเธอกลั้นหายใจในน้ำนาน พอลุกขึ้นยืนเหมือนกับเธอตายแล้วได้เกิดใหม่ เปลี่ยนไปเป็นอีกคนมีแววตาที่ไร้อารมณ์ สีหน้านิ่ง เย็นชาราวกับคนไร้ความรู้สึก ไม่หลงเหลือความเป็นเธอที่สดใสร่าเริงขี้อ้อนคนเดิมอีกต่อไปเธอปิดน้ำแล้วก้าวลงจากอ่าง หยิบผ้าเช็ดตัวมาคลุมเนินอกปกปิดร่างกายแล้วเดินออกจากห้องน้ำ ตรงไปยังตู้เสื้อผ้า แล้วยื่นมือไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเอาแผ่นแปะคุมกำเนิดในกระเป๋ามาแปะแล้วหยิบชุดชั้นใน
เตชินวิ่งตามพิมออกมาแล้วหยุดเธอไว้โดยการจับแขนของเธอแล้วเขาก็ไปยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เอ่ยด้วยน้ำเสียงสุขุมว่า" เรามีเรื่องต้องคุยกัน "พิมง้างมือขึ้นมาตบไปที่หน้าของเขาเต็มแรง แล้วมองเขาด้วยแววตาแข็งกร้าวดุดัน กลับมากำมือแน่นข้างลำตัว สีหน้าเธอดูนิ่งเฉย ยากจะรู้ระดับความโกรธที่มีในใจ ที่ยากจะควบคุมแล้วเตชินอึ้งไปเลยเกิดมาเขาไม่เคยโดนใครตบหน้ามาก่อน ในชีวิตนี้ของเขาคงมีแต่พิมคนเดียวแล้วผู้ช่วยคังยิ่งอึ้งกว่า จากนั้นก็แอบพึมพำในใจ[ ไม่คิดว่าสาวน้อยตัวเล็กๆอย่างคุณพิมเวลาโกรธจะรุนแรงและน่ากลัวขนาดนี้ ]จากนั้นพิมก็เอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา" ตบนี้คุณควรจะได้รับนานแล้ว ที่ผ่านมาฉันเกรงใจคุณถึงห้าส่วน ก็เพราะคิดว่าคุณเป็นนายจ้าง แต่วันนี้มันไม่ใช่แล้ว ฉันจะบอกให้นะ ในชีวิตสิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดคือคนที่พยายามจะทำให้ฉันเสียหายนี้แหละ ถึงฉันจะจน แต่ฉันก็มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ใช่ว่าคุณอยากจะทำอะไรกับฉันก็ทำได้ "เอ่ยจบเธอก็ดึงแขนกลับมาอย่างแรงแล้วเดินผ่านเตชินไปทิ้งไว้เพียงกลิ่นไอของความเย็นชา ที่แผ่ปกคลุ่มรอบตัวเธอ เตชินยังยืนนิ่งอยู่กับที่ทั้งโมโหที่ถูกตบต่อหน้าลูกน้องและสับสนว่าควรจะทำยั
ส่วนน้ำหนึ่งหากคิดที่จะเอาเรื่องของเธอไปพูด เธอเรียมรับมือกับปัญหาเหล่านั้นไว้แล้วเช่นกันเตชินได้ยินเธอยืนกรานที่จะหย่าเขาเลยเอ่ยเสียงแข็งด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า" ผมไม่หย่า และผมก็จะไม่ให้คุณไปฟ้องหย่ากับผมได้หรอกผมรู้ว่าคุณไม่ชอบสถานะนี้ แต่ผมจำเป็นต้องขอให้คุณช่วยท้องลูกของผมเพราะมีเพียงคุณเท่านั้นที่คู่ควรที่จะเป็นแม่ของลูกผม ทายาทของตระกูลอัศววัฒน์สกุล ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายจะต้องสมองดี ฉลาด มีไหวพริบและหน้าตาดีเหมือนคุณไม่ก็เหมือนผมดังนั้น ผมไม่สามารถหย่ากับคุณได้จริงๆ อีกอย่างผมรักคุณมากนะพิมผมไม่อยากสูญเสียคุณไป ผมอยากจะมีคุณอยู่ด้วย แบบนี้ตลอดไปโดยไม่ต้องแต่งงานกัน "เตชินพูดออกมายาวเหยียดกลับได้ยินเพียงพิมแค่นเสียง เหอะ! ออกมาด้วยแววตาไร้อารมณ์เขายิ่งรู้สึกหงุดหงิดที่เดาใจเธอไม่ออก ไม่รู้ว่าเธอคิดจะทำอะไรอีกบรรยากาศอึมครึมปกคลุมรอบๆจนเงียบสนิท พิมมองออกไปนอกหน้าต่างเอ่ยพึมพำในใจอย่างเบื่อหน่าย[ มีทางเดียวที่จะหลุดพ้นจากเขาคือ ฟ้องหย่าเท่านั้น เมื่อไม่มีใจ ไม่ได้รักกัน ก็ไม่ควรให้เรื่องมันยืดเยื้อ ควรจบเรื่องได้สักที ] เธอตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว พรุ่งนี้เธอจะ
ในห้องผ่าตัดหลังจากผ่าตัดเสร็จอยู่ๆพิมก็หยุดหายใจไป เนื่องจากเธอเสียเลือดมากและแท้งบุตรในขณะที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหวในตอนที่เธอยังมีลมหายใจโรยริน จิตสุดท้ายของเธอคล้ายกับรับรู้ได้ว่าตัวเองสูญเสียลูกไปแล้ว คลื่นความเศร้าโศกถาถมความเสียใจเข้ามาสาดใส่ ทำให้เธอไม่มีกำลังใจที่จะอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะเธอตั้งใจจะพาลูกของเธอหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะเป็นการพาเขามาตายจากแล้วหมอก็รีบทำการช่วยชีวิตเธออีกครั้งอย่างสุดความสามารถใช้เวลาอยู่นานเธอก็ไม่กลับมาหายใจ คลื่นหัวใจเป็นเส้นตรงไม่ขยับเขยื้อนเลยสีหน้าหมอแสดงถึงความจนปัญหาด้วยความผิดหวังแล้วเอ่ยเสียงเศร้า" แจ้งญาติคนไข้เถอะ "" ค่ะ "พยาบาลเอ่ยตอบแล้วเดินออกไปจากห้องผ่าตัด" ผ่าตัดเสร็จแล้วแท้ๆ ไม่คิดว่าคนไข้จะมาเสียชีวิตในขณะที่เราเพิ่งจะมีความหวังขึ้นมา "พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยอย่างผิดหวัง เพราะในตอนแรกพวกเขาก็ทำใจไว้แล้วว่าคนไข้อาจจะไม่รอดแต่พวกเขาต่างก็ตั้งใจช่วยชีวิตพิมอย่างสุดความสามารถมากจนเธอกลับมาหายใจอีกครั้งความจริงพิมหยุดหายใจตั้งแต่ตอนเกิดเหตุแล้วหมอจึงเอ่ยอย่างสุขุมว่า" บางทีจิตสุ
" ไม่ได้นะคุณเตชิน คุณอย่าทำแบบนี้ ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะนะ "พิมขอร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอไม่หยุด แต่เขากลับนิ่งเฉย รตีลงจากรถแล้วแอบเดินถามเตชินเข้ามาในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้เธอไปหาเตชินที่บ้าน เห็นเตชินขับรถออกจากบ้าน เธอจึงให้คนขับรถ ขับตามเตชินเธอใส่แว่นสีดำปกปิดดวงตาและใส่แมสก์ปกปิดหน้าเอาไว้ไม่ให้เตชินรู้ว่าเป็นเธอพิมที่อยู่ในอ้อมแขนของเตชินเธอทั้งตีทั้งข่วนเขาจนเธอน้ำตาไหลพรากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างจนปัญญาด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณจะฆ่าเขาไม่ได้ เขาเป็นลูกของคุณไม่ใช่ลูกของคุณป๊อบอย่างที่คุณเข้าใจ เขาเป็นลูกของคุณจริงๆ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หยุดชะงักไป รตีได้ยินก็ช็อกไปเช่นกัน แล้วแววตาของเธอก็กลายเป็นดุร้ายเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาเตชินมองหน้าพิมแล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง" คุณพูดว่าไงนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ยเสียงสั่น" เขาเป็นลูกของคุณ คุณวางฉันลงก่อนได้มั้ยแล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง "เตชินวางเธอลง พอเธอเป็นอิสระจากมือของเขาเธอก็วิ่งหนีไปทันทีเตชินเห็นเธอวิ่งหนีไปเขารู้สึกเจ็บใจมากที่ถูกหลอกจึงวิ่งตามเธอออกไปแล้วคว้าข้อมือเธอมาจับไว้นำตัวเธอกลับมาอีกครั้งพร้อ
เมื่อป๊อบเห็นพิมกลับมา เขาก็ปลีกตัวออกจากกลุ่มนักเรียนแล้วเดินมาหาพิมพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น" พิมเขาทำอะไรคุณหรือเปล่า "พิมส่ายหน้าแล้วเอ่ย" ไม่ค่ะ "ป๊อบพยักหน้าแล้วเอ่ย" เช่นนั้นก็ดีแล้ว ปิดเทอมนี้เราก็ว่างบ้างแล้วเดี๋ยวผมจะให้เขาเซ็นหย่าให้คุณให้ได้ ต่อไปเขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับคุณอีก "พิมมองป๊อบด้วยสีหน้าเหนื่อยใจนึกถึงคำพูดของเตชินก่อนหน้านี้เธอไม่อยากได้แล้วใบหย่า เธอจึงเอ่ยว่า" จะหย่าหรือไม่หย่าฉันไม่สนใจแล้วค่ะ แค่ใบหย่าใบเดียวไม่มีผลอะไรกับชีวิตฉันหรอกค่ะ ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขาอีกแล้วเราอย่าไปใส่ใจกับใบหย่านั่นอีกเลยค่ะ "" ก็ได้ครับ ไว้คุณคลอดลูกแล้วค่อยมาตัดสินใจอีกที "เขาก็ไม่อยากให้พิมติดอยู่กับสถานะสมรสนี้เพราะเขาอยากจะจดทะเบียนสมรสกับเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาอย่างถูกต้องเตชินเดินเข้ามาเห็นทั้งสองยืนคุยกันอยู่ เขาจึงเดินผ่านทั้งสองไป แล้วเดินไปยังกลุ่มของนักเรียนถ่ายรูปกับพวกเขา จากนั้นเขาก็เอ่ยถามเด็กนักเรียนว่า" เด็กๆพวกคุณปิดเทอมกันเมื่อไหร่ครับ "" พวกเราปิดเทอมแล้วครับ กลับไปพวกเราจะฉลองแชมป์ปิดเทอมกันครับ คุณเตชินไปฉลองกับพวกเรามั้ยครับ "" โอ้ว
เตชินลากพิมมาที่รถ จากนั้นก็เปิดประตูให้เธอขึ้นไปบนรถ พิมทำตามที่เขาต้องการโดยไม่บ่นอะไรแล้วเตชินก็เข้าไปนั่งข้างๆเธอพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่รีรออีกต่อไป" เด็กในท้องเป็นลูกของใคร "พิมกระเถิบห่างออกไปอย่างระมัดระหวังพร้อมกับเอามือจับท้องของตัวเองไว้แล้วมองเตชินอย่างดุดันด้วยแววตาสู้คนเมื่อเตชินเลื่อนสายตามาจับจ้องท้องของเธอ[ เตชินถามแบบนี้หมายความว่ายังไง หรือเขาจะสงสัยว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขากันนะ ]เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงลองถามหยั่งเชิงดู" เขาก็เป็นลูกของคนที่คุณคิดไง แล้วคุณคิดว่าเขาเป็นลูกใครล่ะ "เธอไม่รู้หรอกว่าเตชินคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของป๊อบ เธอแค่อยากรู้ความคิดของเขา จึงพูดออกไปแบบนั้นเธอคิดว่าถ้าเขาบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกเขาเธอก็จะได้ปฏิเสธอย่างไม่น่าสงสัยแต่เมื่อเตชินได้ยินเธอพูดดังนั้น เขากลับรู้สึกเหมือนถูกเธอตบหน้าแรงๆ แล้วให้คำตอบอย่างเยาะเย้ยแต่เขาก็พยายามปฏิเสธความคิดของตัวเอง พยายามคิดว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของป๊อบแต่เป็นลูกของเขา แต่การคิดแบบนี้ กับระยะเวลาที่ไม่ได้เจอพิมบวกกับภาพความสนิทสนมชิดใกล้กันของพิมกับป๊อบทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังหลอกต
" สวัสดีค่ะคุณป๊อบ คุณพิม คุณเทเท่ "ณัชชาเอ่ยทักขึ้น เทเท่ยิ้มแล้วสวัสดีกลับ" สวัสดีค่ะคุณณัชชาไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่ "แล้วป๊อบก็หันมาพร้อมกับเอ่ย" คุณณัชชารู้ได้ยังไงครับว่าวันนี้เรามีแข่งที่นี่ "ป๊อบแค่ถามไปตามมารยาทของคนรู้จักกันส่วนพิมแค่หันมามองแล้วหันกลับไปสนใจเด็กของตัวเองต่อเมื่อทีมก่อนหน้าแข่งจบลง พิธีกรบนเวทีก็เอ่ยขึ้น" จบลงไปแล้วนะคะ ทีม SS ตัวแทนจากภาคใต้ ต่อไปจะเป็นทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือค่ะ ขอให้ทีม JK เตรียมตัวเลยนะคะ ในปีนี้ต้องบอกเลยว่าแต่ละทีมนั้น ทำให้คณะกรรมการของเราหนักใจมากเลยทีเดียว "" ใช่แล้วครับ ในตอนนี้ทีม JK คงจะพร้อมกันแล้วต่อไปเชิญพบกับทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือได้เลยครับ "พิมเรียกนักเรียนให้มายืนเป็นวงหันหน้าเข้าหากันจากนั้นเธอก็แบมือแล้วคว่ำฝ่ามือลงยื่นแขนออกไปข้างหน้า เทเท่ก็วางฝ่ามือทับซ้อนลงบนหลังมือเธอแล้วนักเรียนก็วางมือทับต่อๆกัน" ขอให้พวกเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพื่อคว้าชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อม สู้มั้ย! "" สู้!!! "พิมเอ่ยกระตุ้นสร้างกำลังใจให้นักเรียนมีใจฮึกเหิม แล้วทุกคนก็เก็บมือเตรียมตัว จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีจากนั้นทีมขอ
พิมกับเทเท่นัดแนะกับเด็กในห้องนาฏศิลป์ แล้วแจกใบขออนุญาตเดินทางไปแข่งขัน ให้กับนักเรียนทุกคน ให้เอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตยินยอม จากนั้น พิมก็เริ่มเอ่ยกับนักเรียนของตัวเองว่า" นักเรียนคะ พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปแข่งที่กรุงเทพแล้ว วันนี้ซ้อมแค่รอบเดียวพอแล้วเก็บแรงไว้เดินทางพรุ่งนี้ จำไว้ว่าเราเป็นตัวแทนของภาคขอให้เราตั้งใจทุ่มเททำให้ดีที่สุดจะได้ไม่เสียใจภายหลัง แต่สิ่งสำคัญคือ เราอย่าลืม ว่ากว่าแต่ละทีมจะมาถึงจุดนี้ได้ทุกทีมล้วนเป็นคู่แข่งที่เก่งและน่ากลัว ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีที่สุดทุกทีมเราจะประมาทหรือเหลิงโอ้อวดว่าเราเก่งเหนือคนอื่นไม่ได้ในโลกนี้ ในประเทศนี้ยังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกตั้งมากมาย ไม่ว่าเราจะได้แชมป์หรือไม่ก็อย่าไปท้อแท้น้อยใจหรือเสียใจเด็ดขาดขอให้เรายอมรับและแสดงความยินดีกับคนที่ได้แชมป์อย่างจริงใจครูเชื่อว่าทุกความตั้งใจทุกความสามัคคีจะนำเราไปสู่ความสำเร็จขอให้เราตั้งใจทำให้เต็มที่ ทำให้สุดกำลังความสามารถเข้าใจมั้ยคะ "" เข้าใจค่ะ/ เข้าใจครับ "นักเรียนทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียมเสียงดังชัดเจน แล้วเทเท่ก็นัดแนะเวลามาขึ้นรถที่โรงเรียนต่อ" แล้วพรุ่งนี้นะคะ
บ้านพักครูเป็นบ้านปูนเล็กๆมีเพียงสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ตอนกลางคืน ณัชชากับเทเท่ก็ปูเสื่อนอนหน้าทีวี ในห้องที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับบันไดที่จะขึ้นไปชั้นสองเมื่อทุกคนเข้านอนแล้วบรรยากาศกลางดึกที่เงียบสงบ เทเท่ก็ลุกขึ้นมา ยื่นมือไปลูบไล้เรียวขาของณัชชาด้วยความหื่นกระหายเขาลูบไล้ขึ้นลงได้สักพัก ณัชชาก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติเธอค่อยๆขยับแพขนตาแล้วลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงัวเงียเทเท่เห็นว่าเธอรู้สึกตัวแล้วเขาก็ขึ้นคร่อมบนตัวเธอทันทีแล้วจับมือเธอไว้ ก้มหน้าลงจูบไปตามคอพร้อมกับเอ่ยเสียงกระเส่า" คุณณัชชาผมต้องการคุณ ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำเริบอีกแล้ว ผมต้องการคุณ "ทีแรกณัชชายังงงๆอยู่ว่าเทเท่คิดจะเล่นอะไร พอได้สติ เธอก็กรีดร้องขึ้นดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดชีวิต" กรี๊ด!...ช่วยด้วยๆ ไอ้บ้าออกไปจากตัวฉันนะ ออกไป กรี๊ด... "" ไม่แน่นอนครับ ตอนนี้ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำลังคุกรุ่นต้องการร่างกายผู้หญิง "เทเท่เอ่ยพร้อมกับมองหน้าณัชชาด้วยสีหน้าหื่นกระหาย" กรี๊ด...ไม่เอาๆ ปล่อย ไอ้เทเท่ ไอ้บ้า ออกไปจากตัวฉัน ออกไป "แววตาณัชชากลัวจนสั่นไหว เธอกลัวจนหน้าข
ในเช้าวันต่อมา ขณะที่พิมกำลังสอนอยู่ ก็มีเพื่อนครูคนหนึ่งเดินมาบอกว่า" ครูพิมจ๊ะ มีคนมาหาครูพิมจ้ะ ตอนนี้รออยู่ที่หน้าบ้านพักครูพิมแล้ว "" อ้อ ค่ะ "พิมเอ่ยตอบ แล้วแอบพึมพำในใจ[ ใครกันที่มาหาเรา ช่างเถอะให้รอไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปดู ]จากนั้นเธอก็หันมาสอนนักเรียนต่อ พอหมดคาบเรียน เธอก็เดินกลับไปที่บ้านพักเห็นหญิงสาวรูปร่างดีนั่งหันหลังให้เธอบนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านพัก[ ใครกัน? ]เธอเดินเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณมาขอพบฉัน มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ "ณัชชาหันหน้ามามองเธอแล้วยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ย" เซอร์ไพรส์ค่ะ คุณพิม "เมื่อเห็นว่าเป็นณัชชาเธอก็รู้สึกแปลกใจจนแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณณัชชา! คุณมาทำอะไรที่นี่ "ไม่ต้องถามก็รู้ว่าณัชชารู้ที่อยู่เธอได้ยังไง เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเตชินส่งมาแน่ๆแต่เธอก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดว่าอย่างน้อยดีกว่าเตชินมาเอง เธอแค่อยากรู้ว่าณัชชามาด้วยจุดประสงค์อะไรก็เท่านั้นณัชชาได้ยินพิมยิงคำถามมาแบบนี้ เธอจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย" ฉันมาเที่ยวน่ะ แล้วรู้มาจากพี่เตชินว่าคุณสอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เลยอยากจะแวะมาทักทาย ขอค้างคืนด้วยสั
ป๊อบพาพิมกลับมานอนพักบนบ้านพัก เขาค่อยๆประคองเธอขึ้นห้องไปอย่างช้าๆเมื่อเข้าไปในห้องเขาก็ประคองเธอไปที่เตียงแล้วพิมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงป๊อบเป็นห่วงเธอมาก เพราะเธอพักบ้านพักครูคนเดียวเขาจึงเอ่ยว่า" คืนนี้ผมจะมานอนเป็นเพื่อนคุณนะ "" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมอยู่คนเดียวได้ หากคุณมาอยู่ดูแลพิม เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี จะพากันเข้าใจผิดกันไปใหญ่ "พิมรีบปฏิเสธ เพราะเธอแคร์สายตาและแคร์ความคิดของสังคมภายนอก มากกว่าความความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในกายของตนเองอาจจะเป็นเพราะเธอถูกเลี้ยงมาแบบนี้ อยู่ในสังคมที่แคร์คนอื่น เธอจึงวางตัวดีมาเสมอและไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงเหมือนที่พ่อแม่เธอสอนไว้ว่า" ให้เป็นคนดี เป็นที่นับถือ ยำเกรง ทำอะไรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าทำตัวให้เป็นที่ครหานินทา "ป๊อบมองเธอแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับจัดผ้าห่มมาห่มให้เธออย่างดี" พิมเวลานี้คุณไม่ควรแคร์คนอื่นนะ คุณต้องห่วงสุขภาพตัวเองกับลูกในท้องก่อนการที่ผมมาดูแลคุณแล้วเป็นที่ครหา ผมว่าดีซะอีก คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณท้องลูกของผมอยู่ "พิมจ้องหน้าป๊อบที่คิดวางแผนเพื่อปกป้องเธอไม่ให้ถูกคนอื่นกล่าวหาว่าท้องไม่มีพ่อแ