เมื่อไปถึงโรงแรม เตชินเดินเข้าไปเช็คอิน พนักงานโรงแรมก็ออกมาช่วยขนกระเป๋าสัมภาระไปที่ห้อง
เตชินเดินจูงมือพิมไปที่ห้องไม่ยอมปล่อย ราวกับกลัวเธอจะหายไป พิมได้แต่เดินตามเขาไปเงียบๆ พอเดินไปถึงห้องเตชินก็แตะคีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไปในห้อง แล้วเอ่ย " คุณไปอาบน้ำก่อนแล้วนอนพักเอาแรงเลย เย็นๆผมจะพาคุณไปดูที่ " พิมมองเขาด้วยสีหน้าบูดบึ้งแล้วเอ่ย " คุณชิน ฉันไม่ใช่เด็กนะที่คุณจะมาบังคับให้อาบน้ำแล้วฉันก็ต้องอาบน่ะ " เตชินหันมามองเธอแล้วเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉยเย็นชา " พิมหรือคุณจะให้ผมอาบให้ อย่างงั้นเราก็มาอาบพร้อมกันเลย " พูดจบเขาก็จับพิมอุ้มขึ้นมาทันที พิมรีบเอ่ยเบรคเขาไว้ทันที สีหน้าแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน " ฉันอาบเอง คุณวางฉันลงเลย " แล้วเตชินก็วางเธอลงเบาๆ เธอเดินไปเปิดตู้แล้วหยิบเอาผ้าเช็ดตัวเดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างถมึงทึง เตชินนั่งลงบนเตียงแล้วโทรไปหาผู้ช่วยคัง เมื่อผู้ช่วยคังรับสายเขาก็เอ่ยขึ้น " พรุ่งนี้คุณไปรับน้ำหนึ่งกับพ่อของเขาให้ไปที่สำนักงานที่ดินแต่เช้าเลยนะ " " ครับ " เมื่อสั่งงานเสร็จ เตชินก็วางสายไป นั่งรอพิมอาบน้ำอย่างเงียบๆ สักพักพิมก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เธอสวมใส่เสื้อผ้าอย่างเรียบร้อย เตชินหันไปมองเธอแล้วเอ่ย " เดินทางมาเหนื่อยๆ คุณนอนพักก่อนเถอะ " " รู้จักแต่สั่งๆๆๆ " พิมเดินพึมพำขึ้นไปนอนพักบนเตียงอย่างจำใจ ส่วนเตชินก็เดินเข้าไปอาบน้ำต่อจากเธอ สี่โมงเย็น เตชินก็ปลุกเธอ " พิม เย็นแล้ว ตื่นเถอะผมจะพาคุณไปดูที่แล้ว " พิมตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย เตชินจูบไปที่ปากเธอเบาๆ ดวงตาเธอเบิกว้างขึ้นมาทันที เตชินยิ้มแล้วเอ่ย " เอาอีกทีมั้ย " พิมทำตาเขียวใส่เตชินแล้วเอ่ย " คนชอบฉวยโอกาส นิสัยไม่ดี " จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นมาลงจากเตียงแล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พากันออกจากห้อง เตชินขับรถ พาเธอออกไปดูที่ดิน ที่อยู่ไกลออกไปจากในเมือง ซึ่งเป็นเขตชานเมืองที่อากาศดีมากบรรยากาศเย็นสบาย พอมาถึงที่ดินที่จะซื้อเขาก็หันมาเอ่ยกับพิมว่า " ถึงแล้ว ลงไปดูสิ " พิมลงจากรถแล้วทอดมองออกไปไกลให้ดวงตาได้ชื่นชมธรรมชาติ เธอรู้สึกว่าที่ดินผืนนี้กว้างมาก ทำเลดี รอบๆมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ยิ่งเย็นๆแบบนี้อากาศก็ยิ่งดีมากๆเป็นพิเศษ เธอหลับตาลงสัมผัสกลิ่นไอที่คุ้นเคย สูดดมอากาศบริสุทธิ์เข้าไปเต็มปอด ทอดสายตามองออกไปยัง กลางทุ่งนา ชื่นชมความเขียวขจีของต้นข้าว ท่ามกลางสายลมที่พัดมาเอื่อยๆ ต้นข้าวเรียงรายพลิ้วไหวไปตามสายลม เป็นที่ดินที่ดีน่าซื้อมาก สามารถมองเห็นวิวบนยอดเขาดอยสุเทพด้วย เตชินปล่อยให้เธอยืนสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปเงียบๆคนเดียวสักพัก จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปหาเธอ แล้วโน้มตัวไปข้างหน้าข้างๆแก้มเธอ แล้วเอ่ย " ชอบมั้ย " พิมหันไปทางเขา จมูกโด่งๆและริมฝีปากเนียนนุ่มของเธอสัมผัสไปโดนแก้มของเขาเต็มๆ เขาอมยิ้มอย่างชอบใจแล้วถามอีกครั้ง " ชอบมั้ย? " พิมผลักเขาออกแล้วเอ่ยอย่างตรงไปตรงมาสีหน้าบ่งบอกอารมณ์ไม่ดี " ชอบ แต่ไม่มีปัญญาซื้อ " จากนั้นเธอเธอก็ถามเขาว่า " อย่าบอกนะว่าที่ตรงนี้คือที่ ที่คุณจะซื้อ " เตชินเอ่ยตอบอย่างสบายอารมณ์ " ถูกต้อง " ได้ยินดังนั้นสีหน้าพิมเจื่อนไปเลย แล้วเตชินก็เอ่ยถามต่อว่า " เป็นไง บรรยากาศกลางทุ่งนา เนื้อที่ร้อยกว่าไร่ อากาศดี วิวสวย พื้นที่เงียบสงบ ไม่ไกลจากในตัวเมืองมาก คุณว่าดีมั้ยถ้ามาทำบ้านพักตากอากาศที่นี่ " พิมบึนปากพร้อมกับส่ายหัวเล็กน้อยเอ่ยขึ้นอย่างไม่เห็นด้วย " อื้อ...ฉันว่าคุณไปหาซื้อที่ ที่อื่นเถอะ ถ้าจะปลูกบ้านตรงนี้ ฮวงจุ้ยไม่ค่อยดีอ่ะ " จากนั้นเธอก็ทำเป็นครุ่นคิดแล้วเอ่ย " อืม...ถ้าคุณจะทำเป็นหมู่บ้านจัดสรร แล้วใครเขาจะสนใจ กลางทุ่งนาแบบนี้ใครจะกล้าอยู่ ใช่มั้ย? " เตชินหันมามองเธอด้วยแววตาสงสัยแล้วเอ่ย " ผมไม่สนใจฮวงจุ้ยหรอก แค่คุณชอบก็พอแล้ว และไม่คิดจะทำอย่างอื่นด้วย " ได้ยินดังนั้น พิมถึงกับยิ้มเจื่อนแล้วเอ่ยว่า " ตอนนี้ไม่ชอบแล้ว เมื่อกี้ลืมดูฮวงจุ้ยน่ะ " เธอกลายเป็นซินแสแบบไม่รู้ตัว ทำเอาคนฟังนึกขำในใจ เอ่ยจบเธอก็หมุนตัวเดินกลับไปที่รถ เตชินจับแขนเธอไว้แล้วเอ่ยถาม " ทำไมคุณพูดกลับกลอกแบบนี้ เมื่อกี้ยังบอกเลยว่าชอบ " พิมจึงหันมามองหน้าเขาแล้วเอ่ย " ค่ะ เมื่อกี้ชอบ แต่พอรู้ว่าคุณจะซื้อก็ไม่ชอบแล้วฮวงจุ้ยไม่ดี ไม่เหมาะกับโหงวเฮ้งของคุณ จบนะ " เอ่ยจบเธอก็หมุนตัวเดินกลับไปที่รถ เตชินรั้งตัวเธอไว้แล้วเอ่ยถามอย่างอยากรู้เหตุผล " พิม ผมขอเหตุผลที่ฟังแล้วเชื่อถือได้หน่อย " เธอมองเตชินแล้วอยากตะโกนดังๆว่า [ เพราะมันอยู่ใกล้บ้านของฉันไงเล่า ] แต่เธอพูดออกมาไม่ได้ไง เธอจึงเอ่ยเพียงว่า " อยู่นอกเมืองไปหน่อย " เอ่ยจบเธอก็สลัดมือเตชินออกแล้วหมุนตัวเดินกลับไปที่รถ เตชินยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก แล้วเอ่ย " เหรอ! ผมว่าเป็นเพราะที่มันอยู่ใกล้บ้านคุณ มากกว่ามั้ง " พิมชะงักไปห้าวิ สีหน้าจืดลงทันที หลุดคำหยาบออกมาพึมพำในใจเบาๆ [ เชี่ย! เขารู้ได้ไงว้า ว่าบ้านเราอยู่ใกล้ๆแถวนี้ ] หัวใจเธอเต้นตึกตัก แทบไม่เป็นจังหวะแล้ว เธอจึงรีบกลับเข้าไปในรถอย่างเนียนๆเงียบๆ ทำเหมือนไม่ได้ยินและไม่สนใจที่เขาพูด เตชินยิ้มแล้วเดินกลับมาที่รถแล้วเข้ามานั่งในรถ จากนั้นก็หันมามองเธอแล้วเอ่ย " คุณไม่ต้องห่วงหรอกพิม แม้ผมจะซื้อที่ดินผืนนี้ หรือมาทำบ้านพักตากอากาศที่นี่ ผมสัญญา จะไม่ให้ใครรู้ ว่าคุณเคยเป็นผู้หญิงของผม และเคยเป็นแม่ของลูกผม " ได้ยินแบบนี้อีกแล้ว แค่พูดถึงสิ่งที่จะเกิดกับเธอในอนาคต เธอก็รู้สึกเจ็บปวด จุกในอกจนพูดไม่ออกแล้ว เธอถอนหายใจเบาๆพร้อมกับหลับตาลง แล้วเอ่ยอย่างเหนื่อยใจกับเรื่องนี้ " คุณเตชิน คุณจะทรมานฉันโดยการมีลูกให้คุณ แล้วทำให้ลูกที่เกิดมาจากฉัน เห็นฉันเป็นคนอื่นงั้นเหรอ จิตใจของคุณทำด้วยอะไร " ได้ยินเธอพูดแบบนี้เขาก็ไม่อยากจะพูดเรื่องนี้ต่อ จึงสตาร์ทรถแล้วขับออกไป พิมนั่งเงียบมองออกไปนอกหน้าต่างตลอดทาง บรรยากาศอึมครึม เงียบสงบจนได้ยินเสียงหายใจ เช้าวันต่อมา เตชินไปที่สำนักงานที่ดินแต่เช้า ส่วนผู้ช่วยคังก็ขับรถไปรับน้ำหนึ่งกับพ่อของเขา พวกเขาเข้าไปด้านใด ส่วนพิมนั่งเล่นโทรศัพท์รออยู่ในรถคนเดียวอย่างเงียบๆ ผ่านไปสองชั่วโมง เตชินและน้ำหนึ่งก็เริ่มเซ็นสัญญาการซื้อขายและโอนที่ดินต่อหน้ากรมที่ดินเรียบร้อย จากนั้นพวกเขาก็ออกมา เตชินเดินกลับมาหาพิมที่รถแล้วเอ่ยถาม " คุณหิวหรือยัง? " พิมไม่ตอบแต่ส่ายหัว เตชินจึงเอ่ยต่อว่า " เดี๋ยวเราจะไปทานข้าวร่วมกับเจ้าของที่ดินเก่านะ ผมจะเลี้ยงขอบคุณเขาสักหน่อยที่ยอมขายที่ตรงนั้นให้ " ได้ยินแบบนี้พิมก็อารมณ์เสียขึ้นมาทันที เธอรู้สึกเหมือนถูกเยาะเย้ยยังไงไม่รู้ เตชินเห็นดังนั้นก็สตาร์ทรถแล้วขับออกไป ด้วยสีหน้าเรียบเฉย พิมจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเย็นชา " อืม เอาที่คุณสบายใจเลย " เธอหมดคำจะพูดไม่มีอารมณ์ไปทะเลาะหรือคุยเรื่องนี้แล้ว เงินของเขาจะซื้ออะไร ซื้อที่ดินที่ไหน มันก็สิทธิ์ของเขา พอไปถึงร้านอาหารที่น้ำหนึ่งแนะนำ พิมกับเตชินก็ลงจากรถ แล้วเดินเข้าไปในห้องอาหารพร้อมกัน เมื่อเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องอาหาร ทั้งพิมและน้ำหนึ่ง ต่างตะลึงอึ้งไปพร้อมๆกัน ดวงตาจับจ้องกันและกันอย่างไม่กะพริบ *** ขอบคุณนักอ่านทุกคนมากๆนะคะที่ชื่นชอบผลงานของนักเขียน คอมเมนต์คุยกันได้นะคะ ขอบคุณในทุกๆคอมเมนต์ค่ะ ^_^พิมยืนนิ่งจ้องไปยังน้ำหนึ่งอย่างไม่วางตา [ โลกกลมอะไรขนาดนี้เนี่ย มาเจอเจ้ากรรมนายเวรจนได้ เซ็ง ]เตชินเห็นความผิดปกติของพิมเขาจึงเอ่ยถามขึ้นเบาๆ" พิม คุณเป็นอะไรหรือเปล่า "พิมจึงเอ่ยตอบว่า" เปล่าค่ะ ไม่ได้เป็นอะไร "เตชินจึงเอ่ยต่อว่า" งั้นก็เข้าไปข้างในเถอะ "พิมเดินเข้าไปนั่งลงบนเก้าอี้ ที่ถูกจัดไว้ข้างๆเตชิน ส่วนเตชินก็นั่งอยู่หัวโต๊ะพ่อของน้ำหนึ่ง นั่งข้างเตชินทางด้านซ้ายมือ ถัดมาก็คือน้ำหนึ่งส่วนผู้ช่วยคังนั่งทางฝั่งเดียวกันกับพิม น้ำหนึ่งนั่งมองหน้าพิมอย่างเงียบๆสลับกับย้ายสายตามามองเตชินแล้วพึมพำในใจ[ เธอไปรู้จักกับคุณเตชินได้ยังไงกัน ][ เธอเป็นเจ้ากรรมนายเวรของฉันหรือไงกันนะอยู่ที่ไหน ทำอะไร ก็เจอแต่เธอ ฉันชอบอะไร อยากได้อะไร ก็ถูกเธอแย่งไปจนหมด ][ ครั้งนี้ฉันจะไม่ยอมแพ้ให้กับเธอแล้ว ฉันจะแย่งคุณเตชินมาให้ได้ ]เมื่อนั่งเรียบร้อยแล้วน้ำหนึ่งจึงเอ่ยขึ้น" คุณเตชินไม่แนะนำคนที่คุณพามาหน่อยเหรอคะ "[ ตอแหลเก่งจริงๆเลยนะน้ำหนึ่ง ]พิมแอบด่าในใจเธอนั่งหน้านิ่ง แล้วหันไปทางเตชิน รอฟังคำพูดที่เขาจะเอ่ย เตชินจึงเอ่ยแนะนำว่า" คุณพิม เป็น... "เตชินเอ่ยถึงแค่ " เป็น
ได้ฟังคำพูดของน้ำหนึ่งแล้ว ลึกๆเธอก็แอบเจ็บนะ เพราะมันเป็นเช่นนั้นจริงๆเตชินทำอย่างนั้นกับเธอ ทำราวกับเธอเป็นของเล่นใช้เธอเป็นเครื่องมือในการผลิตลูก แต่ต่อให้มันจริงแล้วยังไง แค่เธอไม่ได้ปักใจรัก ไม่ให้ถูกคุมเกมฝ่ายเดียวเธอก็ไม่แคร์หรอกว่าพวกคนรวยจะคิดกับเธอยังไง คิดได้ดังนั้นเธอก็ยิ้มเยาะขึ้นที่มุมปากแล้วเอ่ย" ดูแล้วเธอเองก็อยากจะเป็นของเล่นให้คุณเตชินจนตัวสั่นเหมือนกันนะ เสียใจด้วยที่แม้แต่ของเล่นเขายังไม่อยากได้เธอเป็นของเล่นเลยฉันว่าเธอเอาเวลาที่มาแซะ มาแขวะ มาหาเรื่องฉันเนี่ย ไปพิจารณาตัวเองดีกว่านะแล้วก็ ขอบคุณ ที่เป็นห่วงฉันเรื่องคุณเตชิน แต่เธอไม่ต้องห่วงหรอก ฉันฉลาดขนาดนี้ ไม่โง่ให้คุณเตชินตัดปีกกระดูกได้ง่ายๆหรอก เธอรอดูวันที่ฉันโบยบินอย่างสง่างามต่อไปละกัน "เอ่ยจบเธอก็หมุนตัวเดินออกไป" ฉันจะคอยดูแล้วกัน ว่าเธอจะปากเก่งแบบนี้ตลอดไปหรือเปล่า เธออย่าพลาดให้ฉันหัวเราะเยาะก็แล้วกัน "น้ำหนึ่งเอ่ยด้วยความโกรธแค้นที่ถูกพิมว่าให้จนเธอพูดไม่ออกทั้งน้ำเสียงและท่าทางของพิม ดูเย่อหยิ่ง เย็นชา น่าหมั่นไส้ จนน้ำหนึ่งเกลียดเข้ากระดูกดำพิมกลับเข้าไปนั่งที่โต๊ะอาหารด้วยสีหน้า
ในเช้าวันต่อมา พิมพาเตชินไปทำบุญไหว้พระขอพรที่วัดพระธาตุดอยคำ ทั้งสองไปซื้อดอกมะลิถวาย แล้วจุดธูปขอพรจากองค์พระพุทธรูป หลวงพ่อทันใจเมื่อขอพรเสร็จทั้งสองก็เดินออกมา กลับไปขึ้นรถ ระหว่างทางในขณะที่นั่งอยู่ในรถเตชินก็หันมาเอ่ยถามพิมว่า" เมื่อกี้คุณขอพรอะไร "พิมจึงเอ่ยตอบไปตามตรงว่า" ฉันขอพรให้ตัวเองและครอบครัวมีความสุข ขอให้ตัวเองประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมีเงินทองไหลมาเทมา แคล้วคลาดจากคนที่ไม่ชอบ แคล้วคลาดจากเจ้ากรรมนายเวรค่ะ "จากนั้นเธอก็ถามเตชินว่า" แล้วคุณล่ะ? "เตชินมองหน้าเธอแล้วยิ้มขึ้น" ผมขอให้คุณ มีลูกให้ผมเร็วๆและขอให้มีคุณอยู่ข้างๆผมแบบนี้ตลอดไป "พิมได้ยินดังนั้นเธอก็ตกใจแล้วโวยวายขึ้นมา" คุณเตชิน คุณไปขอพรแบบนั้นทำไม คุณรู้มั้ยว่าหลวงพ่อทันใจท่านศักดิ์สิทธิ์แค่ไหนหากใครขออะไรจากท่านแล้ว จะสมหวังดังใจปรารถนา ทุกประการตามที่ขอคุณไปขอแบบนั้นเท่ากับจะกักขังฉันไว้ข้างกายคุณตลอดชีวิตเลยนะ คุณต้องไปแก้ให้ฉัน ฉันไม่ได้อยากอยู่กับคนที่ไม่ได้รักฉันตลอดชีวิต และฉันก็ไม่ได้...(รักคุณ) " พิมพูดถึงแค่ ไม่ได้ แล้วก็หยุดชะงักไปเมื่อเตชินได้ยินประโยคหลัง เขาก็เอ่ยถามข
อาทิตย์ต่อมา น้ำหนึ่งมากรุงเทพแล้วโทรหาผู้ช่วยคัง ผู้ช่วยคังรับสายแล้วเอ่ย" สวัสดีครับ "เธอจึงเอ่ยขึ้น" คุณคังฉันเองน้ำหนึ่ง พอดีฉันมาเที่ยวกรุงเทพค่ะ ตอนนี้อยู่สนามบิน คุณช่วยมารับฉันหน่อยได้มั้ยคะ "ผู้ช่วยคังจึงเอ่ยตอบไปว่า" ได้ครับ "ได้ยินดังนั้นน้ำหนึ่งดีใจยิ้มหน้าระรื่นแล้วเอ่ย" ขอบคุณค่ะ "หลังจากวางสายผู้ช่วยคังก็เข้าไปในห้องของเตชินแล้วเอ่ยรายงาน" คุณชายครับ คุณน้ำหนึ่งมากรุงเทพครับตอนนี้อยู่สนามบิน เธอขอให้ผมไปรับครับ "เตชินหยุดการเคลื่อนไหวทุกอย่างในมือ สายตาจับจ้องบนตัวผู้ช่วยคังที่เข้ามารายงานเรื่องน้ำหนึ่ง คล้ายว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ จากนั้นก็เอ่ยว่า" ไปรับเธอเถอะ อย่าให้เธอรอนาน "เอ่ยจบเตชินก็วางมือจากงานทุกอย่าง แล้วลุกจากเก้าอี้เดินออกมาทำเอาผู้ช่วยคังถึงกับงง ไม่เข้าใจ จึงเอ่ยถามขึ้น" เอ่อ คุณชายกำลังจะไปไหนครับ "เตชินมองผู้ช่วยคังแล้วเอ่ย" ก็ไปรับคุณน้ำหนึ่งไง "ผู้ช่วยคังยิ่งงงเข้าไปใหญ่ เขาจึงเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งอย่างระมัดระวัง" คุณชายจะไปรับด้วยตัวเองเลยเหรอครับ แล้วคุณพิม...จะว่าอะไรมั้ยครับ "เตชินจึงเอ่ยว่า" คุณไม่ต้องห่วงหรอก แค่อย่าให้คุณ
เตชินลงจากรถแล้วเดินกลับเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าถมึงทึงเขานึกว่าพิมรอเขาในห้องนั่งเล่นจึงเดินเข้าไปดูเมื่อไร้เงาพิมเขาก็เดินออกจากห้องนั่งเล่นแล้วขึ้นไปบนห้องเขาเปิดประตูเดินเข้าไป ดันเห็นพิมกำลังหยอดอะไรบางอย่างลงในขวดน้ำเขาแอบดูเงียบๆพร้อมกับพึมพำในใจอย่างรู้แจ้งชัดเจนแล้ว[ สิ่งนี้สินะที่ทำให้เรารู้สึกมึนๆทุกๆเช้าที่ตื่นขึ้นมา ที่แท้เป็นเพราะเธอแอบวางยาเรานี่เอง ]แววตาคมกริบจับจ้องบนตัวพิมอย่างผิดหวังและเสียใจแล้วนัยน์ตาก็แปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวดุดันด้วยความโกรธและเจ็บช้ำในใจหลากหลายอารมณ์ความรู้สึกถาถมเข้ามาในใจของเขา จนเผลอกำมือแน่นอย่างไม่รู้ตัว แววตาแข็งกร้าวกลับกลายเป็นแดงก่ำ ความโกรธและความเศร้าเสียใจสุมเข้ามาเต็มอกจนคุมสติแทบไม่ได้แล้วเขาโกรธมากที่รู้ว่าเธอไม่เต็มใจมีอะไรกับเขาอย่างที่เขาเข้าใจและโกรธมากที่เธอหลีกเลี่ยงที่จะมีลูกกับเขา โกรธที่เธอไม่เคยรักเขาเลยพอได้สติเขาก็ปรับสีหน้าเป็นปกติ สักพักเขาก็เดินเข้าไปหาพิมแล้วเอ่ย" คุณทำอะไรอยู่หรอพิม "พิมสะดุ้งเล็กน้อยหันมามองเขาอย่างตื่นเต้น แล้วเอ่ยขึ้น" เปล่าค่ะ "เธอไม่รู้ว่าเตชินกลับเข้ามาในห้องตั้งแต่ตอนไหน จ
ฉากร่วมรักที่บรรเลงในบทเพลงสวาท เพิ่งจะจบลงได้ไม่นาน ท้องฟ้าก็สว่างแล้ว รุ่งอรุณเบิกฟ้า เริ่มเช้าวันใหม่ ภายในห้องนอนใหญ่เรือนร่างเปลือยเปล่านอนกอดกันกลมเกลียวใต้ผ้าห่มผืนใหญ่หนึ่งบุรุษหนึ่งหญิงงามนอนหลับไหลบนเตียงใหญ่ สภาพดูไร้เรี่ยวแรง อ่อนเพลียและเหนื่อยล้าจากกิจกรรมบนเตียงที่ต่อเนื่องตลอดทั้งคืนกว่าจะตื่นขึ้นมาเวลาก็ปาไปสี่โมงเย็นแล้ว พิมค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาช้าๆ แพขนตางามขยับเบาๆคิ้วสวยได้รูปขมวดเข้าหากันเป็นปม เมื่อเธอเริ่มขยับตัว เธอรู้สึกเจ็บและปวดระบมไปทั้งตัว จนแทบขยับตัวไม่ไหว เตชินฝากร่องรอยของความป่าเถื่อน เอาไว้ทั่วเรือนร่างของเธอมีรอยเขียวช้ำชัดเจนเป็นจุดๆตามซอกคอลงไปถึงไหปลาร้าและเนินอกเธอค่อยๆขยับตัวทีละนิดๆ แบกร่างกายที่บอบช้ำระบมไปทั่วตัว ลงจากเตียง ไปหยิบเสื้อผ้าที่เตชินโยนทิ้งกระจัดกระจายบนพื้นขึ้นมาสวมใส่เตชินค่อยๆลืมตาขึ้นมามองหาคนในอ้อมกอดเมื่อเห็นว่าอ้อมแขนว่างเปล่าเขาก็เลื่อนสายตากวาดมองไปทางอื่น เห็นเธอกำลังสวมใส่เสื้อผ้า เตรียมจะก้าวขาไปข้างหน้าเขาก็ลุกขึ้นมานั่งแล้วเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้ม" พิมคุณจะรีบตื่นไปทำไม แล้วนั่นคุณจะไปไหน กลับมาน
คนอย่างเธอแม้จะจน แต่จะขอจนอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรีเมื่อเธอยอมลดศักดิ์ศรีลง เอ่ยขอให้เขาขอเธอแต่งงาน หวังว่าเขาจะสงสารและเมตตาเธอบ้างแต่เขากลับปฏิเสธเธออย่างไม่ต้องคิดถ้อยคำที่เขาคอยพร่ามว่ารักเธอนักหนาล้วนเป็นแค่การโกหกหลอกลวง ไม่มีความจริงใจเลยสักนิด เธอรู้สึกพอแล้วเหนื่อยแล้วจริงๆกับความรู้สึกดีๆที่มีให้เขา[ ฉันจะไม่ยอมเป็นหงส์พิการที่บินไม่ได้เพราะคุณหรอกนะคุณเตชินและจะไม่ยอมให้น้ำหนึ่งสมหวังในการรอคอยนั้นเด็ดขาด ]คิดได้ดังนั้นเธอก็ลุกขึ้นมานั่ง น้ำที่เต็มอ่างล้นทลักออกมา โดยที่เธอไม่สนใจที่จะปิดน้ำเลยราวกับว่า จะชำระล้างร่างกายให้สะอาด แล้วให้สิ่งสกปรกที่ชำระล้างไหลไปตามน้ำที่ล้นออกเธอกลั้นหายใจในน้ำนาน พอลุกขึ้นยืนเหมือนกับเธอตายแล้วได้เกิดใหม่ เปลี่ยนไปเป็นอีกคนมีแววตาที่ไร้อารมณ์ สีหน้านิ่ง เย็นชาราวกับคนไร้ความรู้สึก ไม่หลงเหลือความเป็นเธอที่สดใสร่าเริงขี้อ้อนคนเดิมอีกต่อไปเธอปิดน้ำแล้วก้าวลงจากอ่าง หยิบผ้าเช็ดตัวมาคลุมเนินอกปกปิดร่างกายแล้วเดินออกจากห้องน้ำ ตรงไปยังตู้เสื้อผ้า แล้วยื่นมือไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเอาแผ่นแปะคุมกำเนิดในกระเป๋ามาแปะแล้วหยิบชุดชั้นใน
เตชินวิ่งตามพิมออกมาแล้วหยุดเธอไว้โดยการจับแขนของเธอแล้วเขาก็ไปยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เอ่ยด้วยน้ำเสียงสุขุมว่า" เรามีเรื่องต้องคุยกัน "พิมง้างมือขึ้นมาตบไปที่หน้าของเขาเต็มแรง แล้วมองเขาด้วยแววตาแข็งกร้าวดุดัน กลับมากำมือแน่นข้างลำตัว สีหน้าเธอดูนิ่งเฉย ยากจะรู้ระดับความโกรธที่มีในใจ ที่ยากจะควบคุมแล้วเตชินอึ้งไปเลยเกิดมาเขาไม่เคยโดนใครตบหน้ามาก่อน ในชีวิตนี้ของเขาคงมีแต่พิมคนเดียวแล้วผู้ช่วยคังยิ่งอึ้งกว่า จากนั้นก็แอบพึมพำในใจ[ ไม่คิดว่าสาวน้อยตัวเล็กๆอย่างคุณพิมเวลาโกรธจะรุนแรงและน่ากลัวขนาดนี้ ]จากนั้นพิมก็เอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา" ตบนี้คุณควรจะได้รับนานแล้ว ที่ผ่านมาฉันเกรงใจคุณถึงห้าส่วน ก็เพราะคิดว่าคุณเป็นนายจ้าง แต่วันนี้มันไม่ใช่แล้ว ฉันจะบอกให้นะ ในชีวิตสิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดคือคนที่พยายามจะทำให้ฉันเสียหายนี้แหละ ถึงฉันจะจน แต่ฉันก็มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ใช่ว่าคุณอยากจะทำอะไรกับฉันก็ทำได้ "เอ่ยจบเธอก็ดึงแขนกลับมาอย่างแรงแล้วเดินผ่านเตชินไปทิ้งไว้เพียงกลิ่นไอของความเย็นชา ที่แผ่ปกคลุ่มรอบตัวเธอ เตชินยังยืนนิ่งอยู่กับที่ทั้งโมโหที่ถูกตบต่อหน้าลูกน้องและสับสนว่าควรจะทำยั
ในห้องผ่าตัดหลังจากผ่าตัดเสร็จอยู่ๆพิมก็หยุดหายใจไป เนื่องจากเธอเสียเลือดมากและแท้งบุตรในขณะที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหวในตอนที่เธอยังมีลมหายใจโรยริน จิตสุดท้ายของเธอคล้ายกับรับรู้ได้ว่าตัวเองสูญเสียลูกไปแล้ว คลื่นความเศร้าโศกถาถมความเสียใจเข้ามาสาดใส่ ทำให้เธอไม่มีกำลังใจที่จะอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะเธอตั้งใจจะพาลูกของเธอหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะเป็นการพาเขามาตายจากแล้วหมอก็รีบทำการช่วยชีวิตเธออีกครั้งอย่างสุดความสามารถใช้เวลาอยู่นานเธอก็ไม่กลับมาหายใจ คลื่นหัวใจเป็นเส้นตรงไม่ขยับเขยื้อนเลยสีหน้าหมอแสดงถึงความจนปัญหาด้วยความผิดหวังแล้วเอ่ยเสียงเศร้า" แจ้งญาติคนไข้เถอะ "" ค่ะ "พยาบาลเอ่ยตอบแล้วเดินออกไปจากห้องผ่าตัด" ผ่าตัดเสร็จแล้วแท้ๆ ไม่คิดว่าคนไข้จะมาเสียชีวิตในขณะที่เราเพิ่งจะมีความหวังขึ้นมา "พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยอย่างผิดหวัง เพราะในตอนแรกพวกเขาก็ทำใจไว้แล้วว่าคนไข้อาจจะไม่รอดแต่พวกเขาต่างก็ตั้งใจช่วยชีวิตพิมอย่างสุดความสามารถมากจนเธอกลับมาหายใจอีกครั้งความจริงพิมหยุดหายใจตั้งแต่ตอนเกิดเหตุแล้วหมอจึงเอ่ยอย่างสุขุมว่า" บางทีจิตสุ
" ไม่ได้นะคุณเตชิน คุณอย่าทำแบบนี้ ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะนะ "พิมขอร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอไม่หยุด แต่เขากลับนิ่งเฉย รตีลงจากรถแล้วแอบเดินถามเตชินเข้ามาในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้เธอไปหาเตชินที่บ้าน เห็นเตชินขับรถออกจากบ้าน เธอจึงให้คนขับรถ ขับตามเตชินเธอใส่แว่นสีดำปกปิดดวงตาและใส่แมสก์ปกปิดหน้าเอาไว้ไม่ให้เตชินรู้ว่าเป็นเธอพิมที่อยู่ในอ้อมแขนของเตชินเธอทั้งตีทั้งข่วนเขาจนเธอน้ำตาไหลพรากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างจนปัญญาด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณจะฆ่าเขาไม่ได้ เขาเป็นลูกของคุณไม่ใช่ลูกของคุณป๊อบอย่างที่คุณเข้าใจ เขาเป็นลูกของคุณจริงๆ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หยุดชะงักไป รตีได้ยินก็ช็อกไปเช่นกัน แล้วแววตาของเธอก็กลายเป็นดุร้ายเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาเตชินมองหน้าพิมแล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง" คุณพูดว่าไงนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ยเสียงสั่น" เขาเป็นลูกของคุณ คุณวางฉันลงก่อนได้มั้ยแล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง "เตชินวางเธอลง พอเธอเป็นอิสระจากมือของเขาเธอก็วิ่งหนีไปทันทีเตชินเห็นเธอวิ่งหนีไปเขารู้สึกเจ็บใจมากที่ถูกหลอกจึงวิ่งตามเธอออกไปแล้วคว้าข้อมือเธอมาจับไว้นำตัวเธอกลับมาอีกครั้งพร้อ
เมื่อป๊อบเห็นพิมกลับมา เขาก็ปลีกตัวออกจากกลุ่มนักเรียนแล้วเดินมาหาพิมพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น" พิมเขาทำอะไรคุณหรือเปล่า "พิมส่ายหน้าแล้วเอ่ย" ไม่ค่ะ "ป๊อบพยักหน้าแล้วเอ่ย" เช่นนั้นก็ดีแล้ว ปิดเทอมนี้เราก็ว่างบ้างแล้วเดี๋ยวผมจะให้เขาเซ็นหย่าให้คุณให้ได้ ต่อไปเขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับคุณอีก "พิมมองป๊อบด้วยสีหน้าเหนื่อยใจนึกถึงคำพูดของเตชินก่อนหน้านี้เธอไม่อยากได้แล้วใบหย่า เธอจึงเอ่ยว่า" จะหย่าหรือไม่หย่าฉันไม่สนใจแล้วค่ะ แค่ใบหย่าใบเดียวไม่มีผลอะไรกับชีวิตฉันหรอกค่ะ ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขาอีกแล้วเราอย่าไปใส่ใจกับใบหย่านั่นอีกเลยค่ะ "" ก็ได้ครับ ไว้คุณคลอดลูกแล้วค่อยมาตัดสินใจอีกที "เขาก็ไม่อยากให้พิมติดอยู่กับสถานะสมรสนี้เพราะเขาอยากจะจดทะเบียนสมรสกับเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาอย่างถูกต้องเตชินเดินเข้ามาเห็นทั้งสองยืนคุยกันอยู่ เขาจึงเดินผ่านทั้งสองไป แล้วเดินไปยังกลุ่มของนักเรียนถ่ายรูปกับพวกเขา จากนั้นเขาก็เอ่ยถามเด็กนักเรียนว่า" เด็กๆพวกคุณปิดเทอมกันเมื่อไหร่ครับ "" พวกเราปิดเทอมแล้วครับ กลับไปพวกเราจะฉลองแชมป์ปิดเทอมกันครับ คุณเตชินไปฉลองกับพวกเรามั้ยครับ "" โอ้ว
เตชินลากพิมมาที่รถ จากนั้นก็เปิดประตูให้เธอขึ้นไปบนรถ พิมทำตามที่เขาต้องการโดยไม่บ่นอะไรแล้วเตชินก็เข้าไปนั่งข้างๆเธอพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่รีรออีกต่อไป" เด็กในท้องเป็นลูกของใคร "พิมกระเถิบห่างออกไปอย่างระมัดระหวังพร้อมกับเอามือจับท้องของตัวเองไว้แล้วมองเตชินอย่างดุดันด้วยแววตาสู้คนเมื่อเตชินเลื่อนสายตามาจับจ้องท้องของเธอ[ เตชินถามแบบนี้หมายความว่ายังไง หรือเขาจะสงสัยว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขากันนะ ]เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงลองถามหยั่งเชิงดู" เขาก็เป็นลูกของคนที่คุณคิดไง แล้วคุณคิดว่าเขาเป็นลูกใครล่ะ "เธอไม่รู้หรอกว่าเตชินคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของป๊อบ เธอแค่อยากรู้ความคิดของเขา จึงพูดออกไปแบบนั้นเธอคิดว่าถ้าเขาบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกเขาเธอก็จะได้ปฏิเสธอย่างไม่น่าสงสัยแต่เมื่อเตชินได้ยินเธอพูดดังนั้น เขากลับรู้สึกเหมือนถูกเธอตบหน้าแรงๆ แล้วให้คำตอบอย่างเยาะเย้ยแต่เขาก็พยายามปฏิเสธความคิดของตัวเอง พยายามคิดว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของป๊อบแต่เป็นลูกของเขา แต่การคิดแบบนี้ กับระยะเวลาที่ไม่ได้เจอพิมบวกกับภาพความสนิทสนมชิดใกล้กันของพิมกับป๊อบทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังหลอกต
" สวัสดีค่ะคุณป๊อบ คุณพิม คุณเทเท่ "ณัชชาเอ่ยทักขึ้น เทเท่ยิ้มแล้วสวัสดีกลับ" สวัสดีค่ะคุณณัชชาไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่ "แล้วป๊อบก็หันมาพร้อมกับเอ่ย" คุณณัชชารู้ได้ยังไงครับว่าวันนี้เรามีแข่งที่นี่ "ป๊อบแค่ถามไปตามมารยาทของคนรู้จักกันส่วนพิมแค่หันมามองแล้วหันกลับไปสนใจเด็กของตัวเองต่อเมื่อทีมก่อนหน้าแข่งจบลง พิธีกรบนเวทีก็เอ่ยขึ้น" จบลงไปแล้วนะคะ ทีม SS ตัวแทนจากภาคใต้ ต่อไปจะเป็นทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือค่ะ ขอให้ทีม JK เตรียมตัวเลยนะคะ ในปีนี้ต้องบอกเลยว่าแต่ละทีมนั้น ทำให้คณะกรรมการของเราหนักใจมากเลยทีเดียว "" ใช่แล้วครับ ในตอนนี้ทีม JK คงจะพร้อมกันแล้วต่อไปเชิญพบกับทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือได้เลยครับ "พิมเรียกนักเรียนให้มายืนเป็นวงหันหน้าเข้าหากันจากนั้นเธอก็แบมือแล้วคว่ำฝ่ามือลงยื่นแขนออกไปข้างหน้า เทเท่ก็วางฝ่ามือทับซ้อนลงบนหลังมือเธอแล้วนักเรียนก็วางมือทับต่อๆกัน" ขอให้พวกเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพื่อคว้าชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อม สู้มั้ย! "" สู้!!! "พิมเอ่ยกระตุ้นสร้างกำลังใจให้นักเรียนมีใจฮึกเหิม แล้วทุกคนก็เก็บมือเตรียมตัว จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีจากนั้นทีมขอ
พิมกับเทเท่นัดแนะกับเด็กในห้องนาฏศิลป์ แล้วแจกใบขออนุญาตเดินทางไปแข่งขัน ให้กับนักเรียนทุกคน ให้เอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตยินยอม จากนั้น พิมก็เริ่มเอ่ยกับนักเรียนของตัวเองว่า" นักเรียนคะ พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปแข่งที่กรุงเทพแล้ว วันนี้ซ้อมแค่รอบเดียวพอแล้วเก็บแรงไว้เดินทางพรุ่งนี้ จำไว้ว่าเราเป็นตัวแทนของภาคขอให้เราตั้งใจทุ่มเททำให้ดีที่สุดจะได้ไม่เสียใจภายหลัง แต่สิ่งสำคัญคือ เราอย่าลืม ว่ากว่าแต่ละทีมจะมาถึงจุดนี้ได้ทุกทีมล้วนเป็นคู่แข่งที่เก่งและน่ากลัว ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีที่สุดทุกทีมเราจะประมาทหรือเหลิงโอ้อวดว่าเราเก่งเหนือคนอื่นไม่ได้ในโลกนี้ ในประเทศนี้ยังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกตั้งมากมาย ไม่ว่าเราจะได้แชมป์หรือไม่ก็อย่าไปท้อแท้น้อยใจหรือเสียใจเด็ดขาดขอให้เรายอมรับและแสดงความยินดีกับคนที่ได้แชมป์อย่างจริงใจครูเชื่อว่าทุกความตั้งใจทุกความสามัคคีจะนำเราไปสู่ความสำเร็จขอให้เราตั้งใจทำให้เต็มที่ ทำให้สุดกำลังความสามารถเข้าใจมั้ยคะ "" เข้าใจค่ะ/ เข้าใจครับ "นักเรียนทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียมเสียงดังชัดเจน แล้วเทเท่ก็นัดแนะเวลามาขึ้นรถที่โรงเรียนต่อ" แล้วพรุ่งนี้นะคะ
บ้านพักครูเป็นบ้านปูนเล็กๆมีเพียงสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ตอนกลางคืน ณัชชากับเทเท่ก็ปูเสื่อนอนหน้าทีวี ในห้องที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับบันไดที่จะขึ้นไปชั้นสองเมื่อทุกคนเข้านอนแล้วบรรยากาศกลางดึกที่เงียบสงบ เทเท่ก็ลุกขึ้นมา ยื่นมือไปลูบไล้เรียวขาของณัชชาด้วยความหื่นกระหายเขาลูบไล้ขึ้นลงได้สักพัก ณัชชาก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติเธอค่อยๆขยับแพขนตาแล้วลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงัวเงียเทเท่เห็นว่าเธอรู้สึกตัวแล้วเขาก็ขึ้นคร่อมบนตัวเธอทันทีแล้วจับมือเธอไว้ ก้มหน้าลงจูบไปตามคอพร้อมกับเอ่ยเสียงกระเส่า" คุณณัชชาผมต้องการคุณ ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำเริบอีกแล้ว ผมต้องการคุณ "ทีแรกณัชชายังงงๆอยู่ว่าเทเท่คิดจะเล่นอะไร พอได้สติ เธอก็กรีดร้องขึ้นดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดชีวิต" กรี๊ด!...ช่วยด้วยๆ ไอ้บ้าออกไปจากตัวฉันนะ ออกไป กรี๊ด... "" ไม่แน่นอนครับ ตอนนี้ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำลังคุกรุ่นต้องการร่างกายผู้หญิง "เทเท่เอ่ยพร้อมกับมองหน้าณัชชาด้วยสีหน้าหื่นกระหาย" กรี๊ด...ไม่เอาๆ ปล่อย ไอ้เทเท่ ไอ้บ้า ออกไปจากตัวฉัน ออกไป "แววตาณัชชากลัวจนสั่นไหว เธอกลัวจนหน้าข
ในเช้าวันต่อมา ขณะที่พิมกำลังสอนอยู่ ก็มีเพื่อนครูคนหนึ่งเดินมาบอกว่า" ครูพิมจ๊ะ มีคนมาหาครูพิมจ้ะ ตอนนี้รออยู่ที่หน้าบ้านพักครูพิมแล้ว "" อ้อ ค่ะ "พิมเอ่ยตอบ แล้วแอบพึมพำในใจ[ ใครกันที่มาหาเรา ช่างเถอะให้รอไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปดู ]จากนั้นเธอก็หันมาสอนนักเรียนต่อ พอหมดคาบเรียน เธอก็เดินกลับไปที่บ้านพักเห็นหญิงสาวรูปร่างดีนั่งหันหลังให้เธอบนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านพัก[ ใครกัน? ]เธอเดินเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณมาขอพบฉัน มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ "ณัชชาหันหน้ามามองเธอแล้วยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ย" เซอร์ไพรส์ค่ะ คุณพิม "เมื่อเห็นว่าเป็นณัชชาเธอก็รู้สึกแปลกใจจนแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณณัชชา! คุณมาทำอะไรที่นี่ "ไม่ต้องถามก็รู้ว่าณัชชารู้ที่อยู่เธอได้ยังไง เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเตชินส่งมาแน่ๆแต่เธอก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดว่าอย่างน้อยดีกว่าเตชินมาเอง เธอแค่อยากรู้ว่าณัชชามาด้วยจุดประสงค์อะไรก็เท่านั้นณัชชาได้ยินพิมยิงคำถามมาแบบนี้ เธอจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย" ฉันมาเที่ยวน่ะ แล้วรู้มาจากพี่เตชินว่าคุณสอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เลยอยากจะแวะมาทักทาย ขอค้างคืนด้วยสั
ป๊อบพาพิมกลับมานอนพักบนบ้านพัก เขาค่อยๆประคองเธอขึ้นห้องไปอย่างช้าๆเมื่อเข้าไปในห้องเขาก็ประคองเธอไปที่เตียงแล้วพิมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงป๊อบเป็นห่วงเธอมาก เพราะเธอพักบ้านพักครูคนเดียวเขาจึงเอ่ยว่า" คืนนี้ผมจะมานอนเป็นเพื่อนคุณนะ "" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมอยู่คนเดียวได้ หากคุณมาอยู่ดูแลพิม เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี จะพากันเข้าใจผิดกันไปใหญ่ "พิมรีบปฏิเสธ เพราะเธอแคร์สายตาและแคร์ความคิดของสังคมภายนอก มากกว่าความความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในกายของตนเองอาจจะเป็นเพราะเธอถูกเลี้ยงมาแบบนี้ อยู่ในสังคมที่แคร์คนอื่น เธอจึงวางตัวดีมาเสมอและไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงเหมือนที่พ่อแม่เธอสอนไว้ว่า" ให้เป็นคนดี เป็นที่นับถือ ยำเกรง ทำอะไรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าทำตัวให้เป็นที่ครหานินทา "ป๊อบมองเธอแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับจัดผ้าห่มมาห่มให้เธออย่างดี" พิมเวลานี้คุณไม่ควรแคร์คนอื่นนะ คุณต้องห่วงสุขภาพตัวเองกับลูกในท้องก่อนการที่ผมมาดูแลคุณแล้วเป็นที่ครหา ผมว่าดีซะอีก คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณท้องลูกของผมอยู่ "พิมจ้องหน้าป๊อบที่คิดวางแผนเพื่อปกป้องเธอไม่ให้ถูกคนอื่นกล่าวหาว่าท้องไม่มีพ่อแ