อาทิตย์ต่อมา น้ำหนึ่งมากรุงเทพแล้วโทรหาผู้ช่วยคัง ผู้ช่วยคังรับสายแล้วเอ่ย
" สวัสดีครับ " เธอจึงเอ่ยขึ้น " คุณคังฉันเองน้ำหนึ่ง พอดีฉันมาเที่ยวกรุงเทพค่ะ ตอนนี้อยู่สนามบิน คุณช่วยมารับฉันหน่อยได้มั้ยคะ " ผู้ช่วยคังจึงเอ่ยตอบไปว่า " ได้ครับ " ได้ยินดังนั้นน้ำหนึ่งดีใจยิ้มหน้าระรื่นแล้วเอ่ย " ขอบคุณค่ะ " หลังจากวางสายผู้ช่วยคังก็เข้าไปในห้องของ เตชินแล้วเอ่ยรายงาน " คุณชายครับ คุณน้ำหนึ่งมากรุงเทพครับ ตอนนี้อยู่สนามบิน เธอขอให้ผมไปรับครับ " เตชินหยุดการเคลื่อนไหวทุกอย่างในมือ สายตาจับจ้องบนตัวผู้ช่วยคังที่เข้ามารายงานเรื่องน้ำหนึ่ง คล้ายว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ จากนั้นก็เอ่ยว่า " ไปรับเธอเถอะ อย่าให้เธอรอนาน " เอ่ยจบเตชินก็วางมือจากงานทุกอย่าง แล้วลุกจากเก้าอี้เดินออกมา ทำเอาผู้ช่วยคังถึงกับงง ไม่เข้าใจ จึงเอ่ยถามขึ้น " เอ่อ คุณชายกำลังจะไปไหนครับ " เตชินมองผู้ช่วยคังแล้วเอ่ย " ก็ไปรับคุณน้ำหนึ่งไง " ผู้ช่วยคังยิ่งงงเข้าไปใหญ่ เขาจึงเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งอย่างระมัดระวัง " คุณชายจะไปรับด้วยตัวเองเลยเหรอครับ แล้วคุณพิม...จะว่าอะไรมั้ยครับ " เตชินจึงเอ่ยว่า " คุณไม่ต้องห่วงหรอก แค่อย่าให้คุณพิมรู้ว่าคุณน้ำหนึ่งมา ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว " เอ่ยจบเตชินก็เดินออกไป ผู้ช่วยคังได้แต่ตามออกไป น้ำหนึ่งนั่งรอที่สนามบินพอเห็นเตชินเดินมาเธอก็รีบไปหาเขาทันทีแล้วเอ่ย " ไม่คิดว่าคุณเตชินจะมาด้วย " เตชินยิ้มแล้วเอ่ย " คุณน้ำหนึ่งมาทั้งที ผมก็ต้องมารับด้วยตัวเองสิครับ " คำพูดของเตชินทำเอาน้ำหนึ่งและดีใจเป็นอย่างมาก เพราะมันชัดเจนมากว่าเตชินให้ความสำคัญกับเธอ จากนั้นเตชินก็เอ่ยถามต่อว่า " คุณน้ำหนึ่งได้จองโรงแรมไว้หรือยังครับ " ได้โอกาสน้ำหนึ่งรีบเอ่ยทันทีว่า " ยังค่ะ น้ำหนึ่งกะจะมารบกวนคุณเตชินสักอาทิตย์หนึ่งค่ะ คุณเตชินพอจะมีห้องว่างให้น้ำหนึ่งมั้ยคะ " น้ำหนึ่งอ่อยเตชินทั้งคำพูดและแววตา ผู้ช่วยคังที่อยู่ห่างออกไปรู้สึกขนลุกถึงกับพึมพำออกมาเบาๆ " ถ้าคุณพิมรู้จะว่ายังไงน้อ " เตชินยิ้มแล้วเอ่ยว่า " สำหรับคุณน้ำหนึ่งแล้ว มีแน่นอนครับ " " แต่น้ำหนึ่งอยู่คนเดียวในห้องก็กลัวเหงาค่ะ ถ้าคุณเตชินว่าง มาอยู่เป็นเพื่อนน้ำหนึ่งได้มั้ยคะ " เตชินมองน้ำหนึ่งด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ เธอมาอ่อยขนาดนี้ ถ้าเขาปฏิเสธก็เสียน้ำใจแย่ แล้วเขาก็เอ่ยตอบว่า " ได้ครับ " น้ำหนึ่งยิ้มอ่อยแววตาราวกับจะเขมือบเตชิน ราวเขาเป็นเหยื่อของเธอ [ พิมสำหรับคุณเตชินแล้วฉันจะไม่แย่งธรรมดา แต่ฉันจะเอาตัวเข้าแลก อยากจะรู้นัก ว่าถ้าคุณเตชินมาหลงฉัน เธอจะเป็นยังไง ] แม้เธอจะชอบเตชินแต่เธอก็อยากจะเห็นพิมอกแตกตาย จากนั้นเตชินกับน้ำหนึ่งก็เดินมาที่รถ พอเอากระเป๋าใส่ท้ายรถเสร็จ เตชินก็เปิดประตูให้น้ำหนึ่ง แล้วเขาก็เดินอ้อมไปเปิดประตูอีกฝั่ง แล้วเข้ามานั่งในรถ เมื่อรถขับออกไปเตชินจึงเอ่ยกับผู้ช่วยคังว่า " ไปโรงแรม T-CHIN " ผู้ช่วยคังจึงเอ่ยตอบว่า " ครับ " แล้วรถก็แล่นออกไปมุ่งหน้าไปยังโรงแรมที่เตชินเป็นเจ้าของอยู่ เมื่อไปถึงโรงแรม เตชินก็พาน้ำหนึ่งไปพัก ห้องที่ดีที่สุด โดยมีผู้ช่วยคังไปติดต่อจัดการทำเรื่องให้น้ำหนึ่งโดยที่น้ำหนึ่งไม่ต้องทำอะไรเลย เมื่อเข้าไปในห้อง น้ำหนึ่งก็ยื่นแขนเรียวยาวไปโอบรอบคอเตชินอ่อยแบบถึงเนื้อถึงตัวทีเดียว แล้วเอ่ย " น้ำหนึ่ง จะรอคุณเตชินมาหานะคะ " ผู้ช่วยคังเปิดประตูเข้ามาเห็นฉากนี้อย่างไม่ตั้งใจ เขาจึงเอ่ยด้วยสีหน้านิ่งๆ " ขอโทษครับ " จากนั้นเขาก็เปิดประตูออกไป เตชินเอามือของน้ำหนึ่งออกแล้วเอ่ย " คุณน้ำหนึ่งใจเย็นๆสิครับ เรายังมีเวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันตั้งหลายวัน ไม่ต้องรีบครับ " น้ำหนึ่งจึงเอ่ยว่า " ระหว่างที่อยู่ที่นี่ คุณเตชินมาหาน้ำหนึ่งทุกคืนได้มั้ยคะ น้ำหนึ่งเหงาค่ะ " เตชินพยักหน้าแล้วเอ่ยว่า " ได้ ครับผมจะมาหาคุณทุกคืนเลย " ได้ยินดังนั้นน้ำหนึ่งดีใจมากที่อ่อยเตชินสำเร็จ เธอเขย่งเท้าขึ้นจะจูบเตชิน แต่เตชินกลับจับไหล่เธอไว้แล้วเอ่ย " ใจเย็นๆสิครับ ไว้ถึงเวลาผมจะให้คุณเต็มที่เลย " น้ำหนึ่งยอมถอยห่างออกมาด้วยสีหน้าผิดหวังเล็กน้อยแล้วเอ่ยว่า " ได้ค่ะ " พิมนั่งในห้องนั่งเล่น มองดูนาฬิกาในมือถือ ครั้งแล้วครั้งเล่า เวลาก็ล่วงเลย เวลาเลิกงานของเตชิน มาสองชั่วโมงแล้ว เธอก็ยังไม่เห็นเตชินกลับมาสักที เธอจึงตัดสินใจโทรหาผู้ช่วยคัง ผู้ช่วยคังรับสายเธอแล้วเอ่ย " ครับคุณพิม " พิมจึงเอ่ยถามขึ้นว่า " คุณเตชินยังทำงานอยู่เหรอคะ " ผู้ช่วยคังกระอักกระอ่วนใจที่จะตอบเพราะไม่รู้ว่าควรจะบอกคุณพิมว่ายังไง พิมเห็นผู้ช่วยคังนิ่งไปเธอรู้สึกว่ามันผิดปกติ เธอเริ่มรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีบางอย่าง จึงเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง " มีอะไรหรือเปล่าคะคุณคัง สรุปคุณเตชินยังทำงานอยู่หรือเปล่า หรือว่าเขากำลังอยู่กับผู้หญิงของเขา คุณเลยไม่กล้าบอกฉันใช่หรือเปล่าคะ " ผู้ช่วยคังจึงตอบว่า " ครับ " ได้ยินดังนั้นพิมเองก็ถึงกับไปไม่เป็น เธอนิ่งเงียบไปเลย ผู้ช่วยคังกลัวเธอจะเสียใจ เลยเอ่ยถามเธอเบาๆ " คุณพิม คุณยังโอเคอยู่มั้ยครับ " พอได้ยินผู้ช่วยคังเรียกเธอจึงเอ่ยว่า " ก็ต้องโอเคอยู่แล้ว งั้นฉันไม่รบกวนคุณแล้วนะคะ ถ้าคุณเตชินเสร็จธุระกับผู้หญิงของเขาแล้ว ก่อนจะกลับมา คุณช่วยส่งข้อความมาบอกหน่อยนะคะ " " ครับ " ผู้ช่วยคังเอ่ยตอบพิมจากนั้นก็วางสายไปด้วย สีหน้าซึมๆ ในอกเต็มไปด้วยความรู้สึกเห็นใจพิม เขารู้สึกว่าการที่จะเป็นคุณหญิงของคุณชายเขามันไม่ง่ายเลย เตชินออกมาจากห้องเห็นผู้ช่วยคังสีหน้าดูไม่ดีเลยเขาจึงเอ่ยถามขึ้น " คุณคัง คุณเป็นอะไร " ผู้ช่วยคังจึงเอ่ยรายงานว่า " เมื่อกี้คุณพิมโทรมาครับ " " แล้วเธอว่าไงบ้าง " เตชินเอ่ยถามผู้ช่วยคังด้วยความอยากรู้ ผู้ช่วยคังจึงบอกกับเขาว่า " ไม่ได้ว่าอะไรครับ คุณพิมแค่บอกว่า ถ้าคุณชายเสร็จธุระกับผู้หญิงของคุณชายแล้ว ก่อนกลับให้ผมส่งข้อความไปบอกครับ " ได้ยินดังนั้นเตชินก็รู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมาทันที แล้วเดินออกไปพร้อมกับเอ่ยว่า " ไม่ต้องบอกคุณพิมว่าผมจะกลับแล้วเข้าใจมั้ย " " ครับ " ผู้ช่วยคังเอ่ยตอบแล้วพึมพำในใจอย่างรู้สึกผิดต่อพิม [ ขอโทษครับคุณพิม ผมไม่อาจขัดคำสั่งคุณชายได้จริงๆ ] เตชินโมโหมากที่พิมพูดแบบนั้น เขาดีใจที่รู้ว่าเธอโทรมา นึกว่าเธอจะหึง จะโวยวาย แต่เธอกลับบอกว่า เมื่อเสร็จธุระกับผู้หญิงคนอื่นแล้วก่อนจะกลับให้โทรบอก [ คุณไร้หัวใจเกินไปแล้วนะพิม คุณเป็นภรรยาแบบไหนกัน ถึงไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย ] เตชินเดินออกจากโรงแรมไปด้วยท่าทางน่ากลัวหน้าเคร่งขรึมบึ้งตึง พิมลุกจากโซฟาแล้วเดินเข้าไปในครัว หยิบน้ำในตู้เย็นขึ้นมาเปิดฝาดื่ม จากนั้นก็หยิบยานอนหลับขึ้นมาดูแล้วพึมพำเบาๆ " ใช้มาเป็นเดือนแล้ว หวังว่าจะไม่มีผลข้างเคียงอะไรนะ " เอ่ยจบเธอก็ใส่เข้าไปในกระเป๋าเสื้อดังเดิม แล้วถือน้ำดื่มกับแก้วขึ้นไปบนห้องเตชินลงจากรถแล้วเดินกลับเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าถมึงทึงเขานึกว่าพิมรอเขาในห้องนั่งเล่นจึงเดินเข้าไปดูเมื่อไร้เงาพิมเขาก็เดินออกจากห้องนั่งเล่นแล้วขึ้นไปบนห้องเขาเปิดประตูเดินเข้าไป ดันเห็นพิมกำลังหยอดอะไรบางอย่างลงในขวดน้ำเขาแอบดูเงียบๆพร้อมกับพึมพำในใจอย่างรู้แจ้งชัดเจนแล้ว[ สิ่งนี้สินะที่ทำให้เรารู้สึกมึนๆทุกๆเช้าที่ตื่นขึ้นมา ที่แท้เป็นเพราะเธอแอบวางยาเรานี่เอง ]แววตาคมกริบจับจ้องบนตัวพิมอย่างผิดหวังและเสียใจแล้วนัยน์ตาก็แปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวดุดันด้วยความโกรธและเจ็บช้ำในใจหลากหลายอารมณ์ความรู้สึกถาถมเข้ามาในใจของเขา จนเผลอกำมือแน่นอย่างไม่รู้ตัว แววตาแข็งกร้าวกลับกลายเป็นแดงก่ำ ความโกรธและความเศร้าเสียใจสุมเข้ามาเต็มอกจนคุมสติแทบไม่ได้แล้วเขาโกรธมากที่รู้ว่าเธอไม่เต็มใจมีอะไรกับเขาอย่างที่เขาเข้าใจและโกรธมากที่เธอหลีกเลี่ยงที่จะมีลูกกับเขา โกรธที่เธอไม่เคยรักเขาเลยพอได้สติเขาก็ปรับสีหน้าเป็นปกติ สักพักเขาก็เดินเข้าไปหาพิมแล้วเอ่ย" คุณทำอะไรอยู่หรอพิม "พิมสะดุ้งเล็กน้อยหันมามองเขาอย่างตื่นเต้น แล้วเอ่ยขึ้น" เปล่าค่ะ "เธอไม่รู้ว่าเตชินกลับเข้ามาในห้องตั้งแต่ตอนไหน จ
ฉากร่วมรักที่บรรเลงในบทเพลงสวาท เพิ่งจะจบลงได้ไม่นาน ท้องฟ้าก็สว่างแล้ว รุ่งอรุณเบิกฟ้า เริ่มเช้าวันใหม่ ภายในห้องนอนใหญ่เรือนร่างเปลือยเปล่านอนกอดกันกลมเกลียวใต้ผ้าห่มผืนใหญ่หนึ่งบุรุษหนึ่งหญิงงามนอนหลับไหลบนเตียงใหญ่ สภาพดูไร้เรี่ยวแรง อ่อนเพลียและเหนื่อยล้าจากกิจกรรมบนเตียงที่ต่อเนื่องตลอดทั้งคืนกว่าจะตื่นขึ้นมาเวลาก็ปาไปสี่โมงเย็นแล้ว พิมค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาช้าๆ แพขนตางามขยับเบาๆคิ้วสวยได้รูปขมวดเข้าหากันเป็นปม เมื่อเธอเริ่มขยับตัว เธอรู้สึกเจ็บและปวดระบมไปทั้งตัว จนแทบขยับตัวไม่ไหว เตชินฝากร่องรอยของความป่าเถื่อน เอาไว้ทั่วเรือนร่างของเธอมีรอยเขียวช้ำชัดเจนเป็นจุดๆตามซอกคอลงไปถึงไหปลาร้าและเนินอกเธอค่อยๆขยับตัวทีละนิดๆ แบกร่างกายที่บอบช้ำระบมไปทั่วตัว ลงจากเตียง ไปหยิบเสื้อผ้าที่เตชินโยนทิ้งกระจัดกระจายบนพื้นขึ้นมาสวมใส่เตชินค่อยๆลืมตาขึ้นมามองหาคนในอ้อมกอดเมื่อเห็นว่าอ้อมแขนว่างเปล่าเขาก็เลื่อนสายตากวาดมองไปทางอื่น เห็นเธอกำลังสวมใส่เสื้อผ้า เตรียมจะก้าวขาไปข้างหน้าเขาก็ลุกขึ้นมานั่งแล้วเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้ม" พิมคุณจะรีบตื่นไปทำไม แล้วนั่นคุณจะไปไหน กลับมาน
คนอย่างเธอแม้จะจน แต่จะขอจนอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรีเมื่อเธอยอมลดศักดิ์ศรีลง เอ่ยขอให้เขาขอเธอแต่งงาน หวังว่าเขาจะสงสารและเมตตาเธอบ้างแต่เขากลับปฏิเสธเธออย่างไม่ต้องคิดถ้อยคำที่เขาคอยพร่ามว่ารักเธอนักหนาล้วนเป็นแค่การโกหกหลอกลวง ไม่มีความจริงใจเลยสักนิด เธอรู้สึกพอแล้วเหนื่อยแล้วจริงๆกับความรู้สึกดีๆที่มีให้เขา[ ฉันจะไม่ยอมเป็นหงส์พิการที่บินไม่ได้เพราะคุณหรอกนะคุณเตชินและจะไม่ยอมให้น้ำหนึ่งสมหวังในการรอคอยนั้นเด็ดขาด ]คิดได้ดังนั้นเธอก็ลุกขึ้นมานั่ง น้ำที่เต็มอ่างล้นทลักออกมา โดยที่เธอไม่สนใจที่จะปิดน้ำเลยราวกับว่า จะชำระล้างร่างกายให้สะอาด แล้วให้สิ่งสกปรกที่ชำระล้างไหลไปตามน้ำที่ล้นออกเธอกลั้นหายใจในน้ำนาน พอลุกขึ้นยืนเหมือนกับเธอตายแล้วได้เกิดใหม่ เปลี่ยนไปเป็นอีกคนมีแววตาที่ไร้อารมณ์ สีหน้านิ่ง เย็นชาราวกับคนไร้ความรู้สึก ไม่หลงเหลือความเป็นเธอที่สดใสร่าเริงขี้อ้อนคนเดิมอีกต่อไปเธอปิดน้ำแล้วก้าวลงจากอ่าง หยิบผ้าเช็ดตัวมาคลุมเนินอกปกปิดร่างกายแล้วเดินออกจากห้องน้ำ ตรงไปยังตู้เสื้อผ้า แล้วยื่นมือไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเอาแผ่นแปะคุมกำเนิดในกระเป๋ามาแปะแล้วหยิบชุดชั้นใน
เตชินวิ่งตามพิมออกมาแล้วหยุดเธอไว้โดยการจับแขนของเธอแล้วเขาก็ไปยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เอ่ยด้วยน้ำเสียงสุขุมว่า" เรามีเรื่องต้องคุยกัน "พิมง้างมือขึ้นมาตบไปที่หน้าของเขาเต็มแรง แล้วมองเขาด้วยแววตาแข็งกร้าวดุดัน กลับมากำมือแน่นข้างลำตัว สีหน้าเธอดูนิ่งเฉย ยากจะรู้ระดับความโกรธที่มีในใจ ที่ยากจะควบคุมแล้วเตชินอึ้งไปเลยเกิดมาเขาไม่เคยโดนใครตบหน้ามาก่อน ในชีวิตนี้ของเขาคงมีแต่พิมคนเดียวแล้วผู้ช่วยคังยิ่งอึ้งกว่า จากนั้นก็แอบพึมพำในใจ[ ไม่คิดว่าสาวน้อยตัวเล็กๆอย่างคุณพิมเวลาโกรธจะรุนแรงและน่ากลัวขนาดนี้ ]จากนั้นพิมก็เอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา" ตบนี้คุณควรจะได้รับนานแล้ว ที่ผ่านมาฉันเกรงใจคุณถึงห้าส่วน ก็เพราะคิดว่าคุณเป็นนายจ้าง แต่วันนี้มันไม่ใช่แล้ว ฉันจะบอกให้นะ ในชีวิตสิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดคือคนที่พยายามจะทำให้ฉันเสียหายนี้แหละ ถึงฉันจะจน แต่ฉันก็มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ใช่ว่าคุณอยากจะทำอะไรกับฉันก็ทำได้ "เอ่ยจบเธอก็ดึงแขนกลับมาอย่างแรงแล้วเดินผ่านเตชินไปทิ้งไว้เพียงกลิ่นไอของความเย็นชา ที่แผ่ปกคลุ่มรอบตัวเธอ เตชินยังยืนนิ่งอยู่กับที่ทั้งโมโหที่ถูกตบต่อหน้าลูกน้องและสับสนว่าควรจะทำยั
ส่วนน้ำหนึ่งหากคิดที่จะเอาเรื่องของเธอไปพูด เธอเรียมรับมือกับปัญหาเหล่านั้นไว้แล้วเช่นกันเตชินได้ยินเธอยืนกรานที่จะหย่าเขาเลยเอ่ยเสียงแข็งด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า" ผมไม่หย่า และผมก็จะไม่ให้คุณไปฟ้องหย่ากับผมได้หรอกผมรู้ว่าคุณไม่ชอบสถานะนี้ แต่ผมจำเป็นต้องขอให้คุณช่วยท้องลูกของผมเพราะมีเพียงคุณเท่านั้นที่คู่ควรที่จะเป็นแม่ของลูกผม ทายาทของตระกูลอัศววัฒน์สกุล ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายจะต้องสมองดี ฉลาด มีไหวพริบและหน้าตาดีเหมือนคุณไม่ก็เหมือนผมดังนั้น ผมไม่สามารถหย่ากับคุณได้จริงๆ อีกอย่างผมรักคุณมากนะพิมผมไม่อยากสูญเสียคุณไป ผมอยากจะมีคุณอยู่ด้วย แบบนี้ตลอดไปโดยไม่ต้องแต่งงานกัน "เตชินพูดออกมายาวเหยียดกลับได้ยินเพียงพิมแค่นเสียง เหอะ! ออกมาด้วยแววตาไร้อารมณ์เขายิ่งรู้สึกหงุดหงิดที่เดาใจเธอไม่ออก ไม่รู้ว่าเธอคิดจะทำอะไรอีกบรรยากาศอึมครึมปกคลุมรอบๆจนเงียบสนิท พิมมองออกไปนอกหน้าต่างเอ่ยพึมพำในใจอย่างเบื่อหน่าย[ มีทางเดียวที่จะหลุดพ้นจากเขาคือ ฟ้องหย่าเท่านั้น เมื่อไม่มีใจ ไม่ได้รักกัน ก็ไม่ควรให้เรื่องมันยืดเยื้อ ควรจบเรื่องได้สักที ] เธอตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว พรุ่งนี้เธอจะ
ในเช้าวันต่อมา พิมออกมาเดินยืดเส้นยืดสาย หน้าระเบียงบ้าน อ้าแขนออกพร้อมกับเชิดคาง หงายหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วหลับตาลงอย่างสงบ ค่อยๆหายใจสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปเต็มปอด กลิ่นหอมของดอกกาสะลองตลบอบอวลไปทั่วบริเวณบ้านของเธอ ทำให้เธอรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลายสบายอารมณ์จากนั้นเธอก็เดินลงบันไดไป สวมใส่รองเท้าแล้วเดินไปใต้ต้นกาสะลองเก็บดอกกาสะลองที่ตกพื้นขึ้นมาดมแล้วเผยรอยยิ้มอ่อนหวานที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน สดใสบริสุทธิ์ ที่ไม่ถูกแต่งเติมใดๆเธอเก็บผมทัดใบหูแล้วเอาดอกกาสะลองขึ้นมาทัดหู แต่ดูเหมือนดอกนี้ยังไม่สดพอที่จะทำให้เธอพอใจ เธอแหงนหน้ามองขึ้นไปบนต้นไม้ จากนั้นก็ปีนขึ้นไปอย่างไม่รีรอพ่อคำนั่งหั่นเนื้อหมูช่วยแม่มะลิทำกับข้าวอยู่บนบ้านในห้องครัวเห็นลูกสาวปีนขึ้นไปบนต้นไม้เขาก็เผยรอยยิ้มจนปัญญาพร้อมกับส่ายหน้าพึมพำเบาๆ" ลูกคนนี้ไม่เคยเปลี่ยนเลยจริงๆ "แม่มะลิที่กำลังตำน้ำพริกอยู่เห็นสามียิ้มก็เอ่ยถามขึ้นด้วยความอยากรู้" พ่อนั่งยิ้มอะไร? "พ่อคำจึงเอ่ยตอบไปว่า" ก็ลูกสาวเราโตขนาดนี้แล้วยังไม่เลิกปีนต้นไม้เล่นอีกกลับมาถึงก็ปีนขึ้นต้นปีบหน้าบ้านอีกแล้ว ตกลงมากี่ครั้งก็ไม่รู้จักหลาบจำ "แม
พอได้สติ แม่มะลิก็เอ่ยขึ้น" พิมลูกไปช่วยแม่ตักแกงในครัวหน่อย "" ค่ะ "พิมเอ่ยตอบ เธอรู้ดีว่าแม่เธอไม่ได้เจตนาจะให้เธอมาช่วยตักแกงอย่างที่พูดหรอกจากนั้นแม่มะลิกับพิมก็ลุกจากเก้าอี้เดินเข้าไปในครัว พ่อคำยิ้มแล้วเอ่ยอย่างเป็นมิตร แม้ในใจจะไม่ค่อยพอใจเตชินที่ฉวยโอกาสหอมลูกสาวเขาต่อหน้าอย่างไม่เกรงใจก็ตามแต่เขาไม่ใช่คนไม่มีมารยาทที่จะไม่ไว้หน้าแขกที่มาบ้านครั้งแรกยิ่งแขกมีความสัมพันธ์คลุมเครือกับลูกสาวเขาเขายิ่งให้เกียรติ" มาหนุ่มๆเรากินข้าวต่อ ไม่ต้องเกรงใจนะ "" ครับ " ผู้ช่วยคังยิ้มแล้วเอ่ยตอบจากนั้นก็ทานข้าวต่อเตชินแอบเป็นห่วงพิม เขาไม่รู้ว่าพิมจะถูกผู้เป็นแม่ตำหนิอะไรหรือเปล่าเขาได้แต่ชะเง้อมองเข้าไปในครัวเมื่อเข้ามาอยู่ในห้องครัวแล้ว แม่มะลิก็เอ่ยกระซิบถามลูกสาวเสียงเข้มด้วยความสงสัย" เขาเป็นอะไรกับลูก ลูกพูดความจริงมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ตั้งแต่ลูกตกต้นไม้แล้ว เขาโผล่มารับลูก ก็ว่าแปลกๆแล้ว นี่ยังมาฉวยโอกาสทำแบบั้นกับลูกอีก แม่กับพ่อรับไม่ได้ เขาไม่ได้เป็นแค่เพื่อนของลูกใช่มั้ย "พิมไม่รู้จะบอกแม่ยังไง เธอก้มหน้ายืนนิ่งเงียบอยู่อย่างนั้นทำให้ผู้เป็นแม่ร้อนใจเอ่ยถามต่อ" ลูก
[ ขอโทษที่ผมรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับคุณไม่ได้ ]เตชินพึมพำในใจ พิมที่เดินออกไป ในใจเธอไม่เลิกคิดที่จะหย่ากับเขาเลยเพราะเธอไม่อยากเป็นฮองเฮาแม้จะสูงส่งแต่ก็ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายในขณะที่ฮ่องเต้กำลังมีความสุขอยู่กับสนมแต่ฮองเฮากลับอยู่อย่างเจ็บปวดทุกข์ทรมานใจทำอะไรไม่ได้เลย ไม่ได้แม้แต่จะมองชายอื่น เมื่อคิดได้ดังนั้น เธอก็พึมพำในใจว่า[ แต่งได้ ก็หย่าได้ แต่จะมีลูกไม่ได้ เพราะฉันไม่ใช่ฮองเฮาที่ต้องใช้ลูกในการรักษาอำนาจ ]เธอรู้สึกว่ายังมีบางอย่างที่เตชินยังไม่พูดออกมา มีบางอย่างที่เตชินเก็บไว้ในใจตอนแรกที่เธอขอให้เขาขอเธอแต่งงาน เขาปฏิเสธเธอแบบไม่ต้องคิดเลย จุดนี้เธอสงสัย ว่าเขาจะเอาเด็กไปทำอะไรที่เขาอยากได้ลูกที่เกิดจากพันธุกรรมที่ถ่ายทอดจากเธอ ด้วยเหตุผลของเขา เธอก็พอเข้าใจได้ แต่ที่เธอไม่เข้าใจ ทำไมเขาไม่รอมีลูกกับคนที่เขาอยากแต่งงานด้วยในอนาคต[ แล้วมาทำให้ชีวิตฉันวุ่นวายทำไม ในเมื่อไม่ได้รักฉันเลย เห็นแก่ตัว ]เธอบ่นพึมพำในใจอย่างอารมณ์เสีย เธอรู้สึกว่าตั้งแต่เตชินเข้ามาวุ่นวายในชีวิตเธอก็เหมือนคนเป็นโรคไบโพลาร์อารมณ์แปรปรวนเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเดี๋ยวอยากร้องให้จนอยากจ
ในห้องผ่าตัดหลังจากผ่าตัดเสร็จอยู่ๆพิมก็หยุดหายใจไป เนื่องจากเธอเสียเลือดมากและแท้งบุตรในขณะที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหวในตอนที่เธอยังมีลมหายใจโรยริน จิตสุดท้ายของเธอคล้ายกับรับรู้ได้ว่าตัวเองสูญเสียลูกไปแล้ว คลื่นความเศร้าโศกถาถมความเสียใจเข้ามาสาดใส่ ทำให้เธอไม่มีกำลังใจที่จะอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะเธอตั้งใจจะพาลูกของเธอหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะเป็นการพาเขามาตายจากแล้วหมอก็รีบทำการช่วยชีวิตเธออีกครั้งอย่างสุดความสามารถใช้เวลาอยู่นานเธอก็ไม่กลับมาหายใจ คลื่นหัวใจเป็นเส้นตรงไม่ขยับเขยื้อนเลยสีหน้าหมอแสดงถึงความจนปัญหาด้วยความผิดหวังแล้วเอ่ยเสียงเศร้า" แจ้งญาติคนไข้เถอะ "" ค่ะ "พยาบาลเอ่ยตอบแล้วเดินออกไปจากห้องผ่าตัด" ผ่าตัดเสร็จแล้วแท้ๆ ไม่คิดว่าคนไข้จะมาเสียชีวิตในขณะที่เราเพิ่งจะมีความหวังขึ้นมา "พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยอย่างผิดหวัง เพราะในตอนแรกพวกเขาก็ทำใจไว้แล้วว่าคนไข้อาจจะไม่รอดแต่พวกเขาต่างก็ตั้งใจช่วยชีวิตพิมอย่างสุดความสามารถมากจนเธอกลับมาหายใจอีกครั้งความจริงพิมหยุดหายใจตั้งแต่ตอนเกิดเหตุแล้วหมอจึงเอ่ยอย่างสุขุมว่า" บางทีจิตสุ
" ไม่ได้นะคุณเตชิน คุณอย่าทำแบบนี้ ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะนะ "พิมขอร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอไม่หยุด แต่เขากลับนิ่งเฉย รตีลงจากรถแล้วแอบเดินถามเตชินเข้ามาในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้เธอไปหาเตชินที่บ้าน เห็นเตชินขับรถออกจากบ้าน เธอจึงให้คนขับรถ ขับตามเตชินเธอใส่แว่นสีดำปกปิดดวงตาและใส่แมสก์ปกปิดหน้าเอาไว้ไม่ให้เตชินรู้ว่าเป็นเธอพิมที่อยู่ในอ้อมแขนของเตชินเธอทั้งตีทั้งข่วนเขาจนเธอน้ำตาไหลพรากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างจนปัญญาด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณจะฆ่าเขาไม่ได้ เขาเป็นลูกของคุณไม่ใช่ลูกของคุณป๊อบอย่างที่คุณเข้าใจ เขาเป็นลูกของคุณจริงๆ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หยุดชะงักไป รตีได้ยินก็ช็อกไปเช่นกัน แล้วแววตาของเธอก็กลายเป็นดุร้ายเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาเตชินมองหน้าพิมแล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง" คุณพูดว่าไงนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ยเสียงสั่น" เขาเป็นลูกของคุณ คุณวางฉันลงก่อนได้มั้ยแล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง "เตชินวางเธอลง พอเธอเป็นอิสระจากมือของเขาเธอก็วิ่งหนีไปทันทีเตชินเห็นเธอวิ่งหนีไปเขารู้สึกเจ็บใจมากที่ถูกหลอกจึงวิ่งตามเธอออกไปแล้วคว้าข้อมือเธอมาจับไว้นำตัวเธอกลับมาอีกครั้งพร้อ
เมื่อป๊อบเห็นพิมกลับมา เขาก็ปลีกตัวออกจากกลุ่มนักเรียนแล้วเดินมาหาพิมพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น" พิมเขาทำอะไรคุณหรือเปล่า "พิมส่ายหน้าแล้วเอ่ย" ไม่ค่ะ "ป๊อบพยักหน้าแล้วเอ่ย" เช่นนั้นก็ดีแล้ว ปิดเทอมนี้เราก็ว่างบ้างแล้วเดี๋ยวผมจะให้เขาเซ็นหย่าให้คุณให้ได้ ต่อไปเขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับคุณอีก "พิมมองป๊อบด้วยสีหน้าเหนื่อยใจนึกถึงคำพูดของเตชินก่อนหน้านี้เธอไม่อยากได้แล้วใบหย่า เธอจึงเอ่ยว่า" จะหย่าหรือไม่หย่าฉันไม่สนใจแล้วค่ะ แค่ใบหย่าใบเดียวไม่มีผลอะไรกับชีวิตฉันหรอกค่ะ ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขาอีกแล้วเราอย่าไปใส่ใจกับใบหย่านั่นอีกเลยค่ะ "" ก็ได้ครับ ไว้คุณคลอดลูกแล้วค่อยมาตัดสินใจอีกที "เขาก็ไม่อยากให้พิมติดอยู่กับสถานะสมรสนี้เพราะเขาอยากจะจดทะเบียนสมรสกับเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาอย่างถูกต้องเตชินเดินเข้ามาเห็นทั้งสองยืนคุยกันอยู่ เขาจึงเดินผ่านทั้งสองไป แล้วเดินไปยังกลุ่มของนักเรียนถ่ายรูปกับพวกเขา จากนั้นเขาก็เอ่ยถามเด็กนักเรียนว่า" เด็กๆพวกคุณปิดเทอมกันเมื่อไหร่ครับ "" พวกเราปิดเทอมแล้วครับ กลับไปพวกเราจะฉลองแชมป์ปิดเทอมกันครับ คุณเตชินไปฉลองกับพวกเรามั้ยครับ "" โอ้ว
เตชินลากพิมมาที่รถ จากนั้นก็เปิดประตูให้เธอขึ้นไปบนรถ พิมทำตามที่เขาต้องการโดยไม่บ่นอะไรแล้วเตชินก็เข้าไปนั่งข้างๆเธอพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่รีรออีกต่อไป" เด็กในท้องเป็นลูกของใคร "พิมกระเถิบห่างออกไปอย่างระมัดระหวังพร้อมกับเอามือจับท้องของตัวเองไว้แล้วมองเตชินอย่างดุดันด้วยแววตาสู้คนเมื่อเตชินเลื่อนสายตามาจับจ้องท้องของเธอ[ เตชินถามแบบนี้หมายความว่ายังไง หรือเขาจะสงสัยว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขากันนะ ]เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงลองถามหยั่งเชิงดู" เขาก็เป็นลูกของคนที่คุณคิดไง แล้วคุณคิดว่าเขาเป็นลูกใครล่ะ "เธอไม่รู้หรอกว่าเตชินคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของป๊อบ เธอแค่อยากรู้ความคิดของเขา จึงพูดออกไปแบบนั้นเธอคิดว่าถ้าเขาบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกเขาเธอก็จะได้ปฏิเสธอย่างไม่น่าสงสัยแต่เมื่อเตชินได้ยินเธอพูดดังนั้น เขากลับรู้สึกเหมือนถูกเธอตบหน้าแรงๆ แล้วให้คำตอบอย่างเยาะเย้ยแต่เขาก็พยายามปฏิเสธความคิดของตัวเอง พยายามคิดว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของป๊อบแต่เป็นลูกของเขา แต่การคิดแบบนี้ กับระยะเวลาที่ไม่ได้เจอพิมบวกกับภาพความสนิทสนมชิดใกล้กันของพิมกับป๊อบทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังหลอกต
" สวัสดีค่ะคุณป๊อบ คุณพิม คุณเทเท่ "ณัชชาเอ่ยทักขึ้น เทเท่ยิ้มแล้วสวัสดีกลับ" สวัสดีค่ะคุณณัชชาไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่ "แล้วป๊อบก็หันมาพร้อมกับเอ่ย" คุณณัชชารู้ได้ยังไงครับว่าวันนี้เรามีแข่งที่นี่ "ป๊อบแค่ถามไปตามมารยาทของคนรู้จักกันส่วนพิมแค่หันมามองแล้วหันกลับไปสนใจเด็กของตัวเองต่อเมื่อทีมก่อนหน้าแข่งจบลง พิธีกรบนเวทีก็เอ่ยขึ้น" จบลงไปแล้วนะคะ ทีม SS ตัวแทนจากภาคใต้ ต่อไปจะเป็นทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือค่ะ ขอให้ทีม JK เตรียมตัวเลยนะคะ ในปีนี้ต้องบอกเลยว่าแต่ละทีมนั้น ทำให้คณะกรรมการของเราหนักใจมากเลยทีเดียว "" ใช่แล้วครับ ในตอนนี้ทีม JK คงจะพร้อมกันแล้วต่อไปเชิญพบกับทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือได้เลยครับ "พิมเรียกนักเรียนให้มายืนเป็นวงหันหน้าเข้าหากันจากนั้นเธอก็แบมือแล้วคว่ำฝ่ามือลงยื่นแขนออกไปข้างหน้า เทเท่ก็วางฝ่ามือทับซ้อนลงบนหลังมือเธอแล้วนักเรียนก็วางมือทับต่อๆกัน" ขอให้พวกเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพื่อคว้าชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อม สู้มั้ย! "" สู้!!! "พิมเอ่ยกระตุ้นสร้างกำลังใจให้นักเรียนมีใจฮึกเหิม แล้วทุกคนก็เก็บมือเตรียมตัว จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีจากนั้นทีมขอ
พิมกับเทเท่นัดแนะกับเด็กในห้องนาฏศิลป์ แล้วแจกใบขออนุญาตเดินทางไปแข่งขัน ให้กับนักเรียนทุกคน ให้เอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตยินยอม จากนั้น พิมก็เริ่มเอ่ยกับนักเรียนของตัวเองว่า" นักเรียนคะ พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปแข่งที่กรุงเทพแล้ว วันนี้ซ้อมแค่รอบเดียวพอแล้วเก็บแรงไว้เดินทางพรุ่งนี้ จำไว้ว่าเราเป็นตัวแทนของภาคขอให้เราตั้งใจทุ่มเททำให้ดีที่สุดจะได้ไม่เสียใจภายหลัง แต่สิ่งสำคัญคือ เราอย่าลืม ว่ากว่าแต่ละทีมจะมาถึงจุดนี้ได้ทุกทีมล้วนเป็นคู่แข่งที่เก่งและน่ากลัว ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีที่สุดทุกทีมเราจะประมาทหรือเหลิงโอ้อวดว่าเราเก่งเหนือคนอื่นไม่ได้ในโลกนี้ ในประเทศนี้ยังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกตั้งมากมาย ไม่ว่าเราจะได้แชมป์หรือไม่ก็อย่าไปท้อแท้น้อยใจหรือเสียใจเด็ดขาดขอให้เรายอมรับและแสดงความยินดีกับคนที่ได้แชมป์อย่างจริงใจครูเชื่อว่าทุกความตั้งใจทุกความสามัคคีจะนำเราไปสู่ความสำเร็จขอให้เราตั้งใจทำให้เต็มที่ ทำให้สุดกำลังความสามารถเข้าใจมั้ยคะ "" เข้าใจค่ะ/ เข้าใจครับ "นักเรียนทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียมเสียงดังชัดเจน แล้วเทเท่ก็นัดแนะเวลามาขึ้นรถที่โรงเรียนต่อ" แล้วพรุ่งนี้นะคะ
บ้านพักครูเป็นบ้านปูนเล็กๆมีเพียงสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ตอนกลางคืน ณัชชากับเทเท่ก็ปูเสื่อนอนหน้าทีวี ในห้องที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับบันไดที่จะขึ้นไปชั้นสองเมื่อทุกคนเข้านอนแล้วบรรยากาศกลางดึกที่เงียบสงบ เทเท่ก็ลุกขึ้นมา ยื่นมือไปลูบไล้เรียวขาของณัชชาด้วยความหื่นกระหายเขาลูบไล้ขึ้นลงได้สักพัก ณัชชาก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติเธอค่อยๆขยับแพขนตาแล้วลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงัวเงียเทเท่เห็นว่าเธอรู้สึกตัวแล้วเขาก็ขึ้นคร่อมบนตัวเธอทันทีแล้วจับมือเธอไว้ ก้มหน้าลงจูบไปตามคอพร้อมกับเอ่ยเสียงกระเส่า" คุณณัชชาผมต้องการคุณ ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำเริบอีกแล้ว ผมต้องการคุณ "ทีแรกณัชชายังงงๆอยู่ว่าเทเท่คิดจะเล่นอะไร พอได้สติ เธอก็กรีดร้องขึ้นดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดชีวิต" กรี๊ด!...ช่วยด้วยๆ ไอ้บ้าออกไปจากตัวฉันนะ ออกไป กรี๊ด... "" ไม่แน่นอนครับ ตอนนี้ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำลังคุกรุ่นต้องการร่างกายผู้หญิง "เทเท่เอ่ยพร้อมกับมองหน้าณัชชาด้วยสีหน้าหื่นกระหาย" กรี๊ด...ไม่เอาๆ ปล่อย ไอ้เทเท่ ไอ้บ้า ออกไปจากตัวฉัน ออกไป "แววตาณัชชากลัวจนสั่นไหว เธอกลัวจนหน้าข
ในเช้าวันต่อมา ขณะที่พิมกำลังสอนอยู่ ก็มีเพื่อนครูคนหนึ่งเดินมาบอกว่า" ครูพิมจ๊ะ มีคนมาหาครูพิมจ้ะ ตอนนี้รออยู่ที่หน้าบ้านพักครูพิมแล้ว "" อ้อ ค่ะ "พิมเอ่ยตอบ แล้วแอบพึมพำในใจ[ ใครกันที่มาหาเรา ช่างเถอะให้รอไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปดู ]จากนั้นเธอก็หันมาสอนนักเรียนต่อ พอหมดคาบเรียน เธอก็เดินกลับไปที่บ้านพักเห็นหญิงสาวรูปร่างดีนั่งหันหลังให้เธอบนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านพัก[ ใครกัน? ]เธอเดินเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณมาขอพบฉัน มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ "ณัชชาหันหน้ามามองเธอแล้วยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ย" เซอร์ไพรส์ค่ะ คุณพิม "เมื่อเห็นว่าเป็นณัชชาเธอก็รู้สึกแปลกใจจนแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณณัชชา! คุณมาทำอะไรที่นี่ "ไม่ต้องถามก็รู้ว่าณัชชารู้ที่อยู่เธอได้ยังไง เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเตชินส่งมาแน่ๆแต่เธอก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดว่าอย่างน้อยดีกว่าเตชินมาเอง เธอแค่อยากรู้ว่าณัชชามาด้วยจุดประสงค์อะไรก็เท่านั้นณัชชาได้ยินพิมยิงคำถามมาแบบนี้ เธอจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย" ฉันมาเที่ยวน่ะ แล้วรู้มาจากพี่เตชินว่าคุณสอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เลยอยากจะแวะมาทักทาย ขอค้างคืนด้วยสั
ป๊อบพาพิมกลับมานอนพักบนบ้านพัก เขาค่อยๆประคองเธอขึ้นห้องไปอย่างช้าๆเมื่อเข้าไปในห้องเขาก็ประคองเธอไปที่เตียงแล้วพิมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงป๊อบเป็นห่วงเธอมาก เพราะเธอพักบ้านพักครูคนเดียวเขาจึงเอ่ยว่า" คืนนี้ผมจะมานอนเป็นเพื่อนคุณนะ "" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมอยู่คนเดียวได้ หากคุณมาอยู่ดูแลพิม เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี จะพากันเข้าใจผิดกันไปใหญ่ "พิมรีบปฏิเสธ เพราะเธอแคร์สายตาและแคร์ความคิดของสังคมภายนอก มากกว่าความความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในกายของตนเองอาจจะเป็นเพราะเธอถูกเลี้ยงมาแบบนี้ อยู่ในสังคมที่แคร์คนอื่น เธอจึงวางตัวดีมาเสมอและไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงเหมือนที่พ่อแม่เธอสอนไว้ว่า" ให้เป็นคนดี เป็นที่นับถือ ยำเกรง ทำอะไรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าทำตัวให้เป็นที่ครหานินทา "ป๊อบมองเธอแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับจัดผ้าห่มมาห่มให้เธออย่างดี" พิมเวลานี้คุณไม่ควรแคร์คนอื่นนะ คุณต้องห่วงสุขภาพตัวเองกับลูกในท้องก่อนการที่ผมมาดูแลคุณแล้วเป็นที่ครหา ผมว่าดีซะอีก คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณท้องลูกของผมอยู่ "พิมจ้องหน้าป๊อบที่คิดวางแผนเพื่อปกป้องเธอไม่ให้ถูกคนอื่นกล่าวหาว่าท้องไม่มีพ่อแ