ข้อเท้าบวมเป่ง แข้งขาและหัวเข่าถลอก จนเลือดสีแดงสดซึมออกมา ตามรอยแผลสด
เธอไม่สนใจ วิ่งตามต่อไป จนรถของเตชินลับสายตาไป สุดท้ายความเร็วในการวิ่งของคนก็แพ้ให้กับรถหรูที่แล่นไปอย่างรวดเร็ว รถของเตชินหายเข้าไปท่ามกลางความืดมิดเหลือไว้เพียงความว่างเปล่า เธอยืนอยู่ท่ามกลางสถานที่อโคจร ผู้คนพลุกพล่านมากหน้าหลายตา เธอรู้สึกหวิววูบขึ้นมาในใจ เมื่อรู้ว่าถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวในที่แบบนี้ในช่วงค่ำคืนแล้วจริงๆ เธอได้แต่ยืนร้องให้ ใบหน้าเปื้อนไปด้วยน้ำตาราวกับเด็ก มองไปรอบๆไม่ว่าจะทางไหนใจเธอก็สั่นกลัวไปหมด สายตาทอดมองไปตามทางที่เตชินขับรถออกไป เธอไม่รู้จะเดินไปทางไหนแล้วตอนนี้ เพราะเธอจำทางกลับบ้านไม่ได้ แถมเจ้าของบ้านก็มาทอดทิ้งเธอไว้อีก ทำราวกับเธอเป็นสัตว์เลี้ยง ที่เจ้าของไม่ต้องการตัดหางแล้วปล่อยไป(ตัดหางปล่อยวัด) เธอยืนร้องให้แล้วบ่นพึมพำด้วยน้ำเสียงสั่นสะอื้นด้วยความหวาดกลัว " คุณเตชิน คุณเห็นฉันเป็นตัวอะไร คิดจะทิ้งก็ทิ้งไปเลยแบบนี้เหรอ จิตใจคุณทำด้วยอะไร ถึงทิ้งฉันไว้ในที่อโคจรแบบนี้ได้ลงคอ ฮือ... " เธอเดินไปตามทางด้วยเท้าเปล่าเนื้อตัวถลอกสภาพคล้ายคนเมา ผู้คนที่เดินผ่านไปมามองเธอด้วยสายตาที่แปลกแตกต่างกันออกไป แล้วจู่ๆก็มีชายหนุ่มหน้าตาดีแต่งตัวดูดีสองคนเดินเข้ามาหาเธอแล้วเอ่ยอย่างสุภาพ " คุณพิมใช่มั้ยครับ " เธอรีบเช็ดน้ำตาปาดน้ำตาทิ้งแล้วหันไปมองเขาด้วยความสงสัย ชายหนุ่มยิ้มอย่างเป็นมิตรแล้วเอ่ย " พวกผมสองคนเป็นเพื่อนของเตชินครับ วันนี้เขานัดพวกเราออกมาดื่ม พอไปถึงห้องก็ไม่เจอใครแล้ว เลยออกมาดูที่ลานจอดรถ ก็เห็นคุณวิ่งตามรถเขาไป ผมเลยโทรไปถาม เขาบอกว่าเดี๋ยวจะให้ผู้ช่วยมารับคุณครับ " พิมมองชายหนุ่มทั้งสองอย่างไม่ไว้ใจ แล้วเธอก็มีลางสังหรณ์บางอย่าง ซึ่งสัญชาตญาณของเธอบอกว่าเขาเป็นคนไม่ดี แล้วชายหนุ่มอีกคนก็เอ่ยขึ้น " ผมว่าคุณพิมเข้าไปรอข้างในก่อนดีกว่าครับ คุณยืนอยู่ที่คนเดียวในที่แบบนี้มันอันตราย " ตอนนี้ เธอรู้แล้วว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย สองคนตรงหน้ากำลังหว่านล้อมเธอด้วยคำพูดดังสำนวนสุภาษิตที่ว่า มืถือสาก ปากถือศีล ปากไม่ตรงกับใจ หน้าเนื้อใจเสือ ปากปราศัยน้ำใจเชือดคอ เธอกำลังคิดหาวิธีรับมือกับสถานการณ์ตรงหน้ากับคนประเภทนี้ ด้วยท่าทีนิ่งเฉยน้ำตาที่เคยไหลอาบแก้มแห้งหายไปหมด แล้วเอ่ย " ฉันไม่รบกวนพวกคุณดีกว่าค่ะ เดี๋ยวฉันจะโทรหาผู้ช่วยเขาเอง " เอ่ยจบเธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ชายหนุ่มทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนไปเตรียมจะเข้าไปจับตัวพิม แต่ดันเห็นโทรศัพท์ในมือพิมไม่มีแบตเตอรี่แล้วสีหน้าของทั้งสองก็อมยิ้มมองกันอย่างเงียบๆ มีเพียงสีหน้าพิมที่ดูเคร่งเครียดขึ้นมา [ บ้าเอ้ย แบตเตอรี่มาหมดอะไรเวลานี้ นี่มันยิ่งกว่าในละครอีก หรือว่าชีวิตเราถึงเคราต้องรับเคราะห์กรรมแล้วจริงๆ ] เธอพึมพำในใจด้วยความร้อนใจ จากนั้นเธอก็กลับมาทำหน้านิ่งเป็นปกติแล้วเอ่ย " แบตเตอรี่โทรศัพท์ของฉันหมดพอดี ฉันขอตัวไปเรียกแท็กซี่กลับก่อนนะคะ " เธอพยายามปลีกตัวออกอย่างสุภาพ แต่สองหนุ่มก็ไม่ยอมให้เหยื่อหลุดมือง่ายๆเช่นกัน ชายหนุ่มจึงเอ่ยขึ้น " งั้นให้ผมเรียกรถให้มารับคุณดีมั้ยครับ " [ เรียกรถให้มารับแล้วฉุดฉันขึ้นรถเหรอฝันไปเถอะ ] คิดได้ดังนั้นเธอจึงเอ่ยด้วยท่าทีเกรงใจว่า " ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ " ชายหนุ่มอีกคนก็เอ่ยขึ้น " คุณพิมเป็นผู้หญิงยืนเรียกรถแท็กซี่กลางค่ำกลางคืนคนเดียวด้วยสภาพนี้ มันอันตรายเกินไปนะครับ ผมว่า เข้าไปรอข้างในดีกว่า " ชายหนุ่มที่ยืนฟังก็แสดงท่าทีเห็นด้วยกับเพื่อนแล้วเอ่ยเสริมพร้อมกับเดินเข้ามาโอบเอวพิม ใช้มีดสั้นมาจ่อที่หลังเธอแล้วเอ่ยเสียงเบาด้วยท่าทางสนิทสนม " คุณเดินเข้าไปข้างในดีๆ อย่าทำให้พวกเราเสียเวลาอีกเลย " พิมสะดุ้งตกใจเมื่อปลายแหลมของมีดสั้นจ่ออยู่ข้างหลังเธอ เธอเป็นคนกลัวความแหลมคมของมีด กลัวแผลเหวอะหวะเป็นชีวิตจิตใจ กลัวแผลเหวอะหวะจากรอยมีดที่สุด แค่จินตนาการว่าตัวเองถูกแทง ขนบนผิวเธอก็ลุกชันทันทีด้วยความหวาดเสียว เธอเดินกลับเข้าไปในผับอย่างระมัดระวังโดยมีสองหนุ่มเดินประกบข้าง ในสายตาผู้คนที่เดินเข้าออกในสายตาคนภายนอกจะมองไม่ออกถึงความผิดปกติ เพราะสองหนุ่มแสดงท่าทีสนิทสนม คล้ายกับคนเป็นเพื่อนกัน ชวนกันมาดื่มอย่างคนทั่วไป พอเปิดประตูเข้ามาในห้อง พิมรู้สึกตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นหญิงสาวที่หลงรักคลั่งใคล้เตชิน นั่งคนเครื่องดื่มคล้ายกับกำลังผสมบางอย่างลงไป หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมามองพิม แล้วยกยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างชั่วร้ายแล้วเอ่ย " ไฮ คุณพิม เราเจอกันอีกแล้วนะคะ " พิมเข้าใจเรื่องราวทุกอย่างแล้ว เธอจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงตาดุดัน " ที่แท้ เป็นคุณนี่เอง ที่เป็นคนวางแผนทั้งหมด ฉันขอถามหน่อย ว่าคุณคิดอะไรอยู่ ไม่อยากมีอนาคตแล้วหรือไง ถึงได้มาทำเรื่องชั่วช้าลักพาตัวกันแบบนี้ " ได้ยินดังนั้นเหมือนหญิงสาวได้ยินเรื่องตลกใบหน้าสวยที่ดูใสซื่อ แปรเปลี่ยนเป็นร้ายกาจ ส่งเสียงออกมาพร้อมกับเอ่ย " หึ! ลักพาตัวอย่างงั้นเหรอ คุณไปตรวจสอบในกล้องวงจรปิดสิ เป็นคุณเองที่เต็มใจเดินเข้ามากับพวกเขา " พิมโมโหมากเธอจึงเอ่ย " เสียดายที่สันดานคุณไม่ได้ดีเหมือนหน้าตา " หญิงสาวได้ยินก็โมโหแล้วเอ่ย " ฉันไม่สนใจสิ่งที่คุณพูดหรอก พรุ่งนี้ฉันก็ไม่ได้อยู่เมืองนี้แล้ว ก่อนไป ฉันไม่อยากเห็นคนที่ทำลายชีวิตฉัน ทำให้ฉันตกงาน แล้วยังแย่งผู้ชายของฉันไปอีก มีชีวิตอยู่อย่างสงบและมีความสุขบนกองเงิน กองทองกับคุณเตชินหรอก " พิมรู้สึกเอือมกับความบ้าผู้ชายคลั่งไคล้จนไม่ลืมตามองความเป็นจริงเธอจึงเอ่ย " คุณรักคุณเตชินแล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน อีกอย่างคุณเตชิน เขาไม่มีทางรักและจริงจังกับผู้หญิงอย่างคุณหรอก...รวมถึงฉันด้วย คุณกลับใจ แล้วไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีกว่านี้ หาคนที่เขารักและจริงใจกับคุณสักคนเถอะ " หญิงสาวได้ยินดังนั้นก็ยิ่งไม่พอใจจึงเอ่ย " คุณไม่ต้องมาทำเป็นเตือนสติฉัน คุณเป็นภรรยาของคุณเตชิน ฉันจะดูซิว่าถ้าคุณเป็นของผู้ชายคนอื่น ถูกผู้ชายคนอื่นย่ำยีแล้ว คุณเตชินจะยังชอบคุณอยู่มั้ย จะยังเอาคุณเป็นภรรยาอยู่หรือเปล่า " เอ่ยจบหญิงสาวก็ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาพิมจากนั้นก็เอ่ยต่อว่า " ดื่มนี่ซะ แล้วมันจะทำให้คุณเคลิบเคลิ้มและมีความสุขกับสิ่งที่ผู้ชายสองคนนี้ทำให้ " หญิงสาวยกเครื่องดื่มขึ้นมา พยายามกรอกใส่ปากพิม มันเป็นเครื่องดื่มที่ผสมยาปลุกเซ็กซ์ พิมพยายามหลบหลีกและจะแย่งแก้ว หวังจะทำแก้วให้ตก จนหญิงสาวเริ่มหมดความอดทนที่ทำไม่สำเร็จสักที จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดแววตาดุร้ายไม่หลงเหลือความใสซื่อเลย " ถ้าพวกนายสองคนอยากเอาเธอก็เข้ามาจับเธอไว้ให้แน่นสิ " สองหนุ่มเดินเข้ามา คนหนึ่งจับมือพิมไขว้หลังและจับตัวเธอไว้แน่น อีกคนจับหัวเธอไม่ให้ดิ้นหรือขยับไปไหนได้อีก ส่วนนิ้วมือของหญิงสาวก็บีบคางพิมแน่นบังคับให้เธออ้าป้า แล้วกรอกเครื่องดื่มลงไปในปากเธอ จากนั้นก็เอ่ยกับสองหนุ่มหน้าตาดีว่า " ฉันช่วยพวกคุณแล้ว ที่เหลือก็แล้วแต่พวกคุณเถอะ จะพาเธอขึ้นสวรรค์หรือลงนรก ก็แล้วแต่เลย อ้อ แล้วรีบโอนเงินเข้าบัญชีฉันตอนนี้เลย " ชายหนุ่มทำการโอนเงินให้หญิงสาว จากนั้นหญิงสาวก็เดินออกไป ก่อนจะออกจากห้องก็หันมามองพิมที่นั่งมึนเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ แล้วเอ่ยว่า " ขอให้คุณพิมมีความสุขกับพวกเขาทั้งคืนนะคะ " แล้วเธอก็เดินออกจากห้องไป ชายหนุ่มมาพยุงพิมลุกขึ้นแล้วประคองเธอไปที่เตียง *** ขอบคุณนักอ่านทุกๆคนนะคะที่คอยสนับสนุนกัน และขอบคุณทุกๆคอมเมนต์มากๆค่ะ ^_^ ***พิมที่มีอาการมึนๆ แทบจะไม่มีแรงแล้ว เธอรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีใช้เท้าถีบสองคนนั้นออกไปแล้วแบกร่างที่สายตาเริ่มพร่ามัวหัวหมุนจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เดินสะเปะสะปะออกไป มือเรียวเล็กยังไม่ทันได้สัมผัสลูกบิดประตู ชายหนุ่มก็มารวบตัวเธอแล้วอุ้มกลับมาอย่างสบายๆเพราะเธอตัวเล็ก" ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! "เสียงตะโกนแผ่วเบา ร้องเรียกให้คนช่วย แต่โชคร้ายที่ห้องพวกนี้เป็นห้องเก็บเสียงต่อให้เธอตะโกนเสียงดัง ก็ไม่มีใครได้ยิน ชายหนุ่มทิ้งเธอลงบนเตียง มองเธอด้วยสายตาหื่นกามชายหนุ่มหันไปเอ่ยกับเพื่อนว่า" เดี๋ยวมึงคอยถ่ายวีดีโอให้กูก่อน เสร็จแล้วกูจะถ่ายให้มึง "ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยว่า" ทำไมมึงไม่ตั้งกล้องเอาวะ "" ตั้งกล้องมันจะไปเห็นทุกมุมได้ไงวะ สาวน้อยคนนี้ งานดี ดูสดใหม่ สวยตั้งแต่หัวจรดเท้า ต้องถ่ายให้ได้ครบทุกมุมเว้ย งานดีเงินดีมึงจำไม่ได้หรือไง "" เออๆ ได้กูจะถ่ายให้มึงก่อน "พิมได้ยินชัด ทุกถ้อยคำหยาบคายและน่ารังเกียจ น่าขยะแขยงพวกนั้นสติเธอเริ่มเลือนลาง เธอกลัวจนน้ำตาไหลพราก[ คุณเตชิน ถ้าฉันเป็นอะไรไป ล้วนเป็นเพราะคุณ ฉันจะจดจำคุณไว้ชั่วชีวิตจะไม่มีวันลืมคุณแน่นอน ]แม้เธอจะรู้สึกโกรธแค้นเ
เตชินอุ้มพิมขึ้นมา แล้วเดินออกจากห้องไป ป๊อบจึงเดินตามเขาไป แล้วเอ่ยถาม" คุณเตชินจะพาพิมไปโรงพยาบาลใช่มั้ย "เตชินหยุด เดินแล้วเอ่ยอย่างเย็นชา โดยไม่หันมามองป๊อบ" เธอเป็นภรรยาของผม ผมรู้ว่าควรจะดูแลเธอยังไง ขอบคุณเรื่องวันนี้ เรื่องอื่นคุณไม่ต้องเข้ามายุ่ง "ด้วยความที่หวงและห่วงพิมมาก ป๊อบจึงเอ่ยอย่างหนักแน่น ไม่มีทีท่าว่าจะยอม คำพูดแฝงการขู่เล็กน้อย" ก็เพราะเธอเป็นภรรยาคุณ ผมกลัวคุณจะใช้วิธีรักษาแบบคนพวกนี้ ทางที่ดี คุณควรพาเธอไปหาหมอ จะได้รู้ว่าเธอถูกวางยาชนิดไหน ไม่อย่างงั้น ต่อให้เธอเป็นภรรยาคุณ ผมก็ไม่เกรงใจคุณแล้ว "เตชินมองพิมที่ไม่มีเรี่ยวแรงในอ้อมอก ริมฝีปากอวบอิ่มพึมพำเสียงแผ่วเบาเขาคิดว่าคำพูดของป๊อบก็มีเหตุผลพอ ที่เขาสามารถรับฟังได้เขาจึงเดินออกจากห้องไป โดยไม่เอ่ยอะไรป๊อบเดินตามไม่ห่างเพราะเป็นห่วงพิมผู้จัดการร้านตามเตชินมา แล้วเอ่ยถามความเห็นขอคำสั่งอย่างกล้าๆกลัวๆเพราะเขาเห็นเตชินโกรธจัดจนอัดคน กระทืบจนน่วม จนผู้ถูกกระทำหมดสติไป เพราะทนความเจ็บปวดไม่ไหว มีแผลเต็มหน้าเต็มตัว" เอ่อ คุณเตชินครับ แล้ว แล้วคนพวกนั้นจะให้ทำยังไงต่อครับ "เตชิ้นอุ้มพิมในอ้อมอก แล
พิมฟื้นขึ้นมา แล้วกวาดสาตามองไปรอบๆห้อง ก็รู้ทันทีว่าตัวเองอยู่โรงพยาบาลเธอนั่งนิ่งทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น นึกถึงสภาพที่ตัวเองวิ่งตามรถของเตชินด้วยความหวาดกลัวก็รู้สึกโกรธเตชินจนไม่อยากให้อภัยแล้วแล้วภาพที่ผู้ชายลูบไล้บนตัวเธอ มองเธอด้วยสายตาหื่นกาม ริมฝีปากน่าขยะแขยงสัมผัสลงบนตัวเธอ ก็ลอยเข้ามาในหัวเธอรู้สึกรังเกียจ ขยะแขยงจนถอดสายน้ำเกลือทิ้งแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปด้วยสภาพจิตใจที่ย่ำแย่อารมณ์อยากจะฆ่าคนอีกใจหนึ่งเธอรู้สึกหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ตัวเองเกือบจะถูกข่มขืนเธอเปิดน้ำแล้วถูร่องรอยพวกนั้นออกแรงๆ ตามมือ ตามแขน ซอกคอ ที่ถูกสัมผัส เธอรู้สึกเหมือนมันติดอยู่บนตัวเธอ เธอขยะแขยงจนน้ำตาไหลอาบแก้มร้องให้ด้วยความรังเกียจ เธอถูจนผิวบวมแดง เธอรู้สึกว่าถูเท่าไหร่ก็ถูไม่ออก เธอใช้มือตีตัวเองแล้วกรี๊ดขึ้นเสียงดัง" กรี๊ด!!! "ป๊อบกับเตชินเดินเข้ามาได้ยินพอดี ก็รีบวิ่งเข้ามาดูตามเสียงกรี๊ดที่ดังลั่นเห็นพิมนั่งในห้องน้ำทั้งถูทั้งตีตัวเองด้วยความรังเกียจและขยะแขยงใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาพร้อมกับพึมพำด้วยความโกรธแค้น" ฉันจะฆ่ามัน ฉันจะฆ่ามัน กรี๊ด! "จิตใจพิมที่ห
พิมเดินกะเผลกออกมาจากห้องน้ำก็ไม่เห็นป๊อบแล้ว แม้เธอไม่อยากคุยกับเตชินเลยแต่มันก็ไม่มีคนอื่นที่เธอพอจะพูดคุยหรือถามไถ่ได้ เธอเลยฝืนใจเอ่ยปากถามเตชินว่า" คุณป๊อบไปไหนแล้ว "เตชินไม่ค่อยพอใจที่เธอถามหาป๊อบแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรจึงเอ่ยตอบเธอไปอย่างไม่เต็มใจ" เขากลับไปแล้ว คงมีธุระด่วน "แล้วเขาก็เดินไปหยิบไดร์เป่าผมมาเสียบปลั๊กแล้วเอ่ยขึ้น" คุณมาเป่าผมเถอะ เดี๋ยวจะไม่สบาย "พิมเดินเข้าไปหาเขาแล้วยื่นมือไปจับไดร์เป่าผมในมือเตชิน แต่เขากลับไม่ยอมให้ เธอจึงเอ่ยด้วยสีหน้าบึ้งตึงแฝงความเย็นชาในน้ำเสียง" เอาไดร์เป่าผมมา "เตชินจึงเอ่ยว่า" คุณนั่งลงเถอะ เดี๋ยวผมจะเป่าให้ "พิมจึงเอ่ยว่า" ไม่ต้อง ผมของฉัน ฉันจะเป่าเอง "แววตาและน้ำเสียงของพิมเย็นชา ท่าทางห่างเหิน ทำให้เตชินไม่ชอบใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่เอ่ยอย่างใจเย็น" พิมผมขอโทษ ผมรู้ว่าผมผิด คุณอย่าทำหน้างอใส่กันแบบนี้อีกเลยได้มั้ย ต่อไปผมจะไม่ทำแบบนี้อีก "พิมจึงเอ่ยอย่างเย็นชาถ้อยคำเต็มไปด้วยความประชดประชัน" คุณขอโทษฉันทำไม คุณไม่ได้ทำอะไรผิด รถของคุณ คุณจะให้ใครขึ้นหรือทิ้งใครก็ได้ มันเป็นสิทธิ์ของคุณ อีกอย่างฉันเป็นแค่ลูกจ้าง
แล้วเตชินก็หมุนตัวออกไปเปิดประตู เดินออกไป พร้อมกับกดรับโทรศัพท์ทันที" ครับแม่ "เตชินเดินออกไปคุยที่ระเบียงที่ไม่ค่อยมีผู้คนเดินเพ่นพ่าน ผ่านไปผ่านมาคุณหญิงจารวีที่อยู่ปลายสายก็เอ่ยถามขึ้น" ช่วงนี้ลูกกับสาวใช้ของลูกสบายดีมั้ย "" ครับ พวกเราสบายดี "เตชินเอ่ยตอบ จากนั้นผู้เป็นแม่ก็เอ่ยถามต่อด้วยน้ำเสียงกังวลใจ" นี่ก็สองเดือนแล้ว ลูกกับหล่อนคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว แม่หมายถึง หล่อนท้องหรือยัง "เตชินจึงเอ่ยตอบผู้เป็นแม่ว่า" เธอยังไม่ท้องครับ คุณแม่ไม่ต้องห่วง คุณแม่จัดการในส่วนของคุณแม่ให้เรียบร้อยเถอะ ส่วนทางผม คุณแม่สบายใจได้ ไม่นานผมจะทำให้เธอท้องลูกของผมให้ได้ครับ "คุณหญิงจารวีได้ยินดังนั้นก็ยิ้มอย่างสบายใจรู้สึกเบาใจขึ้นมาหน่อยแล้วเอ่ยถามลูกชายต่อ" ถ้าหล่อนคลอดลูกแล้ว แล้วหลังจากนั้นล่ะ ลูกจะเอายังไงกับหล่อน "เตชินจึงเอ่ยตอบไปว่า" หลังจากนั้นเหรอ ผมยังไม่ได้คิดครับ ยังไม่ได้วางแผนอะไร คงต้องหย่า ให้เธอกลับไปใช้ชีวิตอิสระของเธอ "คุณหญิงจารวีเอ่ยถามด้วยความสงสัย" แล้วลูกไม่ได้รู้สึกอะไรกับหล่อนเลยเหรอ "เตชินถอนหายใจแล้วตอบไปว่า" ไม่ครับ คุณแม่ก็รู้ว่าผมไม่สามารถให้ความรู้
พิมเดินผ่อนคลายอารมณ์คนเดียวอย่างเงียบๆพร้อมกับพึมพำในใจ[ เกิดเป็นพิมนี่เหนื่อยเหลือเกิน นอกจากเรียนดีเรียนเก่งแล้วอย่างอื่นล้วนไม่ดีสักอย่างต้องกัดปากตีนถีบตั้งแต่เด็ก อดทนกับความยากลำบากมาตลอด จนโตมาถึงตอนนี้ได้ไม่ใช่ง่ายๆเลย ]เธอเดินพึมพำกับตัวเองในใจเดินไปตามทางฟุตบาท ข้างทางร่มรื่นไปด้วยต้นไม่ใหญ่เรียงรายไปตลอดทางแล้วเธอก็เดินไปที่เก่า นั่นก็คือเกาะลอยที่เธอชอบมาปั่นจักรยานน้ำรูปเป็ด เธอไปจ่ายตังค์แล้วเดินลงไปนั่งในเรือหยิบไม้พายขึ้นมาแล้วทอดสายตามองไปยังอีกฝั่งแล้วเอ่ยอย่างฮึดสู้อีกครั้ง" เราจะมาท้อแท้ใจกับเรื่องแค่นี้ไม่ได้เด็ดขาด เมื่อลงไปนั่งในเรือแล้ว เดินเรือเส้นทางนี้แล้ว ต่อให้มีลม มีฝนตกลงมากระหน่ำใส่ ต่อให้เรือชำรุด ต่อให้เหนื่อยหรือเจออะไรที่ยากลำบากแค่ไหนเราก็ต้องพาตัวเองไปให้รอด พายไปให้ถึงฝั่งให้ได้ "จากนั้นเธอก็ยกไม้พายขึ้นแล้วส่งเสียงดังออกมาน้ำเสียงฮึกเหิมราวกับพร้อมที่จะออกรบ" สู้...สู้ !!! "ทำเอาคนที่อยู่รอบๆ ที่อยู่แถวนั้นและคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ต่างหันมามองเธออย่างงงงันบางคนแอบขำให้กับท่าทางของเธอเวลานี้เธอไม่สนใจใครหน้าไหนแล้วไม่แม้แต่จะแคร
เตชินเกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวย คนที่จะมาเป็นคุณหญิงของเขาในอนาคต ไม่ใช่จะเลือกใครก็ได้ เขาเองก็เลือกคนที่เหมาะสมกับเขาเช่นกัน และเขาอาจจะมีตัวเลือกที่ดีกว่าพิมแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ได้แต่ถึงแม้เตชินจะเก่ง จะฉลาด รอบคอบแค่ไหน แต่บางเรื่องเขาก็มองข้ามไปโดยไม่รู้สึกเอะใจอะไรส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะเขาไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เกี่ยวกับเรื่องเล็กน้อยของพิมเลยไม่เคยนึกสงสัยว่าเธอรู้จักและสนิทสนมกับป๊อบที่มีฐานะร่ำรวยได้ยังไงพิมนอนแช่น้ำในอ่างอย่างสบายใจ ฟองสบู่ลอยเหนือน้ำอุ่นๆส่งกลิ่นหอมอ่อนๆทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายเมื่ออาบน้ำเสร็จเธอก็ลุกขึ้นมาจากอ่างแล้วเปิดฝักบัวล้างตัวอีกครั้งจากนั้นก็หยิบผ้าเช็ดตัวมาปกปิดเรือนร่างแล้วสวมใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยเดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วเดินไปนั่งเป่าผม เตชินเห็นว่าเธออาบน้ำเสร็จแล้วเขาจึงจากจากเก้าอี้ เดินออกมาจากห้องน้ำงานแล้วไปหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าไปอาบน้ำต่อพิมไปเปิดตู้เสื้อผ้า แล้วหยิบเอายานอนหลับที่เธอซ่อนไว้ในกระเป๋ามายัดใส่ลงในกระเป๋าเสื้อของชุดนอนที่เธอสวมใส่อยู่ จากนั้นก็กลับมานั่งเป่าผมที่เดิมเป่าผมเสร็จเธอก็ออกจากห้องแล้วเดินลงไปชั้นล่างเธอเดินเ
ในเช้าวันใหม่เตชินหลับไม่ยอมตื่นเพราะฤทธิ์ยานอนหลับที่เกินขาด จนพิมเริ่มกระวนกระวายใจ[ ตายละ ทำไมคุณเตชินไม่ตื่นสักที นี่มันจะสิบเอ็ดโมงแล้ว ทำยังไงดีๆ ]เธอกลัวคนอื่นจะสงสัย ตอนนี้เธอร้อนรนกระวนกระวายอยู่ไม่เป็นสุขแล้วผู้ช่วยคังที่มารอรับเตชินหน้าบ้านเขารู้สึกว่ามันผิดวิสัยเกินไป โดยปกติคุณชายของเขาจะเป็นคนตรงเวลามากจริงจังกับเรื่องเวลาเสมอจึงตัดสินใจโทรไปหา แต่ก็ไม่มีคนรับสาย เขาเลยเดินเข้าไปในบ้านแล้วเอ่ยถามกับป้าใจ" ป้าใจ คุณชายกับคุณพิมยังไม่ตื่นเหรอครับ "แม้มันจะเป็นการเสียมารยาทแต่เขาก็จำต้องถามแบบนี้เพราะเป็นห่วงเจ้านายแม้เจ้านายเขาจะเป็นคนฉลาดเป็นกรดแต่เขาก็กลัวพิมจะทำอะไรเจ้านายเขามากกว่าเพราะในความคิดเขา ผู้ชายมักจะพลาดท่าให้กับสาวงามเสมอ และเจ้านายเขาก็คล้ายจะอย่างงั้นป้าใจจึงเอ่ยตอบผู้ช่วยคังว่า" ยังค่ะ แต่แปลกนะคะ ทุกวันคุณชายกับคุณพิมจะตื่นเช้า แม้จะตื่นสายก็ไม่ได้สายขนาดนี้ "เมื่อผู้ช่วยคังรู้ว่าทั้งสองยังไม่ตื่น เขาก็ทำหน้านิ่งเฉย เอ่ยเพียงสั้นๆว่า" สงสัยจะหลับดึก "เอ่ยจบเขาก็ออกไปนั่งรอคุณชายของเขาที่ห้องรับแขก ใจหนึ่งอยากขึ้นไปเคาะประตูดู แต่อีกใจก็ก
ในห้องผ่าตัดหลังจากผ่าตัดเสร็จอยู่ๆพิมก็หยุดหายใจไป เนื่องจากเธอเสียเลือดมากและแท้งบุตรในขณะที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหวในตอนที่เธอยังมีลมหายใจโรยริน จิตสุดท้ายของเธอคล้ายกับรับรู้ได้ว่าตัวเองสูญเสียลูกไปแล้ว คลื่นความเศร้าโศกถาถมความเสียใจเข้ามาสาดใส่ ทำให้เธอไม่มีกำลังใจที่จะอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะเธอตั้งใจจะพาลูกของเธอหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะเป็นการพาเขามาตายจากแล้วหมอก็รีบทำการช่วยชีวิตเธออีกครั้งอย่างสุดความสามารถใช้เวลาอยู่นานเธอก็ไม่กลับมาหายใจ คลื่นหัวใจเป็นเส้นตรงไม่ขยับเขยื้อนเลยสีหน้าหมอแสดงถึงความจนปัญหาด้วยความผิดหวังแล้วเอ่ยเสียงเศร้า" แจ้งญาติคนไข้เถอะ "" ค่ะ "พยาบาลเอ่ยตอบแล้วเดินออกไปจากห้องผ่าตัด" ผ่าตัดเสร็จแล้วแท้ๆ ไม่คิดว่าคนไข้จะมาเสียชีวิตในขณะที่เราเพิ่งจะมีความหวังขึ้นมา "พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยอย่างผิดหวัง เพราะในตอนแรกพวกเขาก็ทำใจไว้แล้วว่าคนไข้อาจจะไม่รอดแต่พวกเขาต่างก็ตั้งใจช่วยชีวิตพิมอย่างสุดความสามารถมากจนเธอกลับมาหายใจอีกครั้งความจริงพิมหยุดหายใจตั้งแต่ตอนเกิดเหตุแล้วหมอจึงเอ่ยอย่างสุขุมว่า" บางทีจิตสุ
" ไม่ได้นะคุณเตชิน คุณอย่าทำแบบนี้ ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะนะ "พิมขอร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอไม่หยุด แต่เขากลับนิ่งเฉย รตีลงจากรถแล้วแอบเดินถามเตชินเข้ามาในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้เธอไปหาเตชินที่บ้าน เห็นเตชินขับรถออกจากบ้าน เธอจึงให้คนขับรถ ขับตามเตชินเธอใส่แว่นสีดำปกปิดดวงตาและใส่แมสก์ปกปิดหน้าเอาไว้ไม่ให้เตชินรู้ว่าเป็นเธอพิมที่อยู่ในอ้อมแขนของเตชินเธอทั้งตีทั้งข่วนเขาจนเธอน้ำตาไหลพรากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างจนปัญญาด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณจะฆ่าเขาไม่ได้ เขาเป็นลูกของคุณไม่ใช่ลูกของคุณป๊อบอย่างที่คุณเข้าใจ เขาเป็นลูกของคุณจริงๆ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หยุดชะงักไป รตีได้ยินก็ช็อกไปเช่นกัน แล้วแววตาของเธอก็กลายเป็นดุร้ายเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาเตชินมองหน้าพิมแล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง" คุณพูดว่าไงนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ยเสียงสั่น" เขาเป็นลูกของคุณ คุณวางฉันลงก่อนได้มั้ยแล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง "เตชินวางเธอลง พอเธอเป็นอิสระจากมือของเขาเธอก็วิ่งหนีไปทันทีเตชินเห็นเธอวิ่งหนีไปเขารู้สึกเจ็บใจมากที่ถูกหลอกจึงวิ่งตามเธอออกไปแล้วคว้าข้อมือเธอมาจับไว้นำตัวเธอกลับมาอีกครั้งพร้อ
เมื่อป๊อบเห็นพิมกลับมา เขาก็ปลีกตัวออกจากกลุ่มนักเรียนแล้วเดินมาหาพิมพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น" พิมเขาทำอะไรคุณหรือเปล่า "พิมส่ายหน้าแล้วเอ่ย" ไม่ค่ะ "ป๊อบพยักหน้าแล้วเอ่ย" เช่นนั้นก็ดีแล้ว ปิดเทอมนี้เราก็ว่างบ้างแล้วเดี๋ยวผมจะให้เขาเซ็นหย่าให้คุณให้ได้ ต่อไปเขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับคุณอีก "พิมมองป๊อบด้วยสีหน้าเหนื่อยใจนึกถึงคำพูดของเตชินก่อนหน้านี้เธอไม่อยากได้แล้วใบหย่า เธอจึงเอ่ยว่า" จะหย่าหรือไม่หย่าฉันไม่สนใจแล้วค่ะ แค่ใบหย่าใบเดียวไม่มีผลอะไรกับชีวิตฉันหรอกค่ะ ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขาอีกแล้วเราอย่าไปใส่ใจกับใบหย่านั่นอีกเลยค่ะ "" ก็ได้ครับ ไว้คุณคลอดลูกแล้วค่อยมาตัดสินใจอีกที "เขาก็ไม่อยากให้พิมติดอยู่กับสถานะสมรสนี้เพราะเขาอยากจะจดทะเบียนสมรสกับเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาอย่างถูกต้องเตชินเดินเข้ามาเห็นทั้งสองยืนคุยกันอยู่ เขาจึงเดินผ่านทั้งสองไป แล้วเดินไปยังกลุ่มของนักเรียนถ่ายรูปกับพวกเขา จากนั้นเขาก็เอ่ยถามเด็กนักเรียนว่า" เด็กๆพวกคุณปิดเทอมกันเมื่อไหร่ครับ "" พวกเราปิดเทอมแล้วครับ กลับไปพวกเราจะฉลองแชมป์ปิดเทอมกันครับ คุณเตชินไปฉลองกับพวกเรามั้ยครับ "" โอ้ว
เตชินลากพิมมาที่รถ จากนั้นก็เปิดประตูให้เธอขึ้นไปบนรถ พิมทำตามที่เขาต้องการโดยไม่บ่นอะไรแล้วเตชินก็เข้าไปนั่งข้างๆเธอพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่รีรออีกต่อไป" เด็กในท้องเป็นลูกของใคร "พิมกระเถิบห่างออกไปอย่างระมัดระหวังพร้อมกับเอามือจับท้องของตัวเองไว้แล้วมองเตชินอย่างดุดันด้วยแววตาสู้คนเมื่อเตชินเลื่อนสายตามาจับจ้องท้องของเธอ[ เตชินถามแบบนี้หมายความว่ายังไง หรือเขาจะสงสัยว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขากันนะ ]เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงลองถามหยั่งเชิงดู" เขาก็เป็นลูกของคนที่คุณคิดไง แล้วคุณคิดว่าเขาเป็นลูกใครล่ะ "เธอไม่รู้หรอกว่าเตชินคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของป๊อบ เธอแค่อยากรู้ความคิดของเขา จึงพูดออกไปแบบนั้นเธอคิดว่าถ้าเขาบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกเขาเธอก็จะได้ปฏิเสธอย่างไม่น่าสงสัยแต่เมื่อเตชินได้ยินเธอพูดดังนั้น เขากลับรู้สึกเหมือนถูกเธอตบหน้าแรงๆ แล้วให้คำตอบอย่างเยาะเย้ยแต่เขาก็พยายามปฏิเสธความคิดของตัวเอง พยายามคิดว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของป๊อบแต่เป็นลูกของเขา แต่การคิดแบบนี้ กับระยะเวลาที่ไม่ได้เจอพิมบวกกับภาพความสนิทสนมชิดใกล้กันของพิมกับป๊อบทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังหลอกต
" สวัสดีค่ะคุณป๊อบ คุณพิม คุณเทเท่ "ณัชชาเอ่ยทักขึ้น เทเท่ยิ้มแล้วสวัสดีกลับ" สวัสดีค่ะคุณณัชชาไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่ "แล้วป๊อบก็หันมาพร้อมกับเอ่ย" คุณณัชชารู้ได้ยังไงครับว่าวันนี้เรามีแข่งที่นี่ "ป๊อบแค่ถามไปตามมารยาทของคนรู้จักกันส่วนพิมแค่หันมามองแล้วหันกลับไปสนใจเด็กของตัวเองต่อเมื่อทีมก่อนหน้าแข่งจบลง พิธีกรบนเวทีก็เอ่ยขึ้น" จบลงไปแล้วนะคะ ทีม SS ตัวแทนจากภาคใต้ ต่อไปจะเป็นทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือค่ะ ขอให้ทีม JK เตรียมตัวเลยนะคะ ในปีนี้ต้องบอกเลยว่าแต่ละทีมนั้น ทำให้คณะกรรมการของเราหนักใจมากเลยทีเดียว "" ใช่แล้วครับ ในตอนนี้ทีม JK คงจะพร้อมกันแล้วต่อไปเชิญพบกับทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือได้เลยครับ "พิมเรียกนักเรียนให้มายืนเป็นวงหันหน้าเข้าหากันจากนั้นเธอก็แบมือแล้วคว่ำฝ่ามือลงยื่นแขนออกไปข้างหน้า เทเท่ก็วางฝ่ามือทับซ้อนลงบนหลังมือเธอแล้วนักเรียนก็วางมือทับต่อๆกัน" ขอให้พวกเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพื่อคว้าชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อม สู้มั้ย! "" สู้!!! "พิมเอ่ยกระตุ้นสร้างกำลังใจให้นักเรียนมีใจฮึกเหิม แล้วทุกคนก็เก็บมือเตรียมตัว จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีจากนั้นทีมขอ
พิมกับเทเท่นัดแนะกับเด็กในห้องนาฏศิลป์ แล้วแจกใบขออนุญาตเดินทางไปแข่งขัน ให้กับนักเรียนทุกคน ให้เอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตยินยอม จากนั้น พิมก็เริ่มเอ่ยกับนักเรียนของตัวเองว่า" นักเรียนคะ พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปแข่งที่กรุงเทพแล้ว วันนี้ซ้อมแค่รอบเดียวพอแล้วเก็บแรงไว้เดินทางพรุ่งนี้ จำไว้ว่าเราเป็นตัวแทนของภาคขอให้เราตั้งใจทุ่มเททำให้ดีที่สุดจะได้ไม่เสียใจภายหลัง แต่สิ่งสำคัญคือ เราอย่าลืม ว่ากว่าแต่ละทีมจะมาถึงจุดนี้ได้ทุกทีมล้วนเป็นคู่แข่งที่เก่งและน่ากลัว ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีที่สุดทุกทีมเราจะประมาทหรือเหลิงโอ้อวดว่าเราเก่งเหนือคนอื่นไม่ได้ในโลกนี้ ในประเทศนี้ยังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกตั้งมากมาย ไม่ว่าเราจะได้แชมป์หรือไม่ก็อย่าไปท้อแท้น้อยใจหรือเสียใจเด็ดขาดขอให้เรายอมรับและแสดงความยินดีกับคนที่ได้แชมป์อย่างจริงใจครูเชื่อว่าทุกความตั้งใจทุกความสามัคคีจะนำเราไปสู่ความสำเร็จขอให้เราตั้งใจทำให้เต็มที่ ทำให้สุดกำลังความสามารถเข้าใจมั้ยคะ "" เข้าใจค่ะ/ เข้าใจครับ "นักเรียนทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียมเสียงดังชัดเจน แล้วเทเท่ก็นัดแนะเวลามาขึ้นรถที่โรงเรียนต่อ" แล้วพรุ่งนี้นะคะ
บ้านพักครูเป็นบ้านปูนเล็กๆมีเพียงสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ตอนกลางคืน ณัชชากับเทเท่ก็ปูเสื่อนอนหน้าทีวี ในห้องที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับบันไดที่จะขึ้นไปชั้นสองเมื่อทุกคนเข้านอนแล้วบรรยากาศกลางดึกที่เงียบสงบ เทเท่ก็ลุกขึ้นมา ยื่นมือไปลูบไล้เรียวขาของณัชชาด้วยความหื่นกระหายเขาลูบไล้ขึ้นลงได้สักพัก ณัชชาก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติเธอค่อยๆขยับแพขนตาแล้วลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงัวเงียเทเท่เห็นว่าเธอรู้สึกตัวแล้วเขาก็ขึ้นคร่อมบนตัวเธอทันทีแล้วจับมือเธอไว้ ก้มหน้าลงจูบไปตามคอพร้อมกับเอ่ยเสียงกระเส่า" คุณณัชชาผมต้องการคุณ ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำเริบอีกแล้ว ผมต้องการคุณ "ทีแรกณัชชายังงงๆอยู่ว่าเทเท่คิดจะเล่นอะไร พอได้สติ เธอก็กรีดร้องขึ้นดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดชีวิต" กรี๊ด!...ช่วยด้วยๆ ไอ้บ้าออกไปจากตัวฉันนะ ออกไป กรี๊ด... "" ไม่แน่นอนครับ ตอนนี้ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำลังคุกรุ่นต้องการร่างกายผู้หญิง "เทเท่เอ่ยพร้อมกับมองหน้าณัชชาด้วยสีหน้าหื่นกระหาย" กรี๊ด...ไม่เอาๆ ปล่อย ไอ้เทเท่ ไอ้บ้า ออกไปจากตัวฉัน ออกไป "แววตาณัชชากลัวจนสั่นไหว เธอกลัวจนหน้าข
ในเช้าวันต่อมา ขณะที่พิมกำลังสอนอยู่ ก็มีเพื่อนครูคนหนึ่งเดินมาบอกว่า" ครูพิมจ๊ะ มีคนมาหาครูพิมจ้ะ ตอนนี้รออยู่ที่หน้าบ้านพักครูพิมแล้ว "" อ้อ ค่ะ "พิมเอ่ยตอบ แล้วแอบพึมพำในใจ[ ใครกันที่มาหาเรา ช่างเถอะให้รอไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปดู ]จากนั้นเธอก็หันมาสอนนักเรียนต่อ พอหมดคาบเรียน เธอก็เดินกลับไปที่บ้านพักเห็นหญิงสาวรูปร่างดีนั่งหันหลังให้เธอบนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านพัก[ ใครกัน? ]เธอเดินเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณมาขอพบฉัน มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ "ณัชชาหันหน้ามามองเธอแล้วยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ย" เซอร์ไพรส์ค่ะ คุณพิม "เมื่อเห็นว่าเป็นณัชชาเธอก็รู้สึกแปลกใจจนแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณณัชชา! คุณมาทำอะไรที่นี่ "ไม่ต้องถามก็รู้ว่าณัชชารู้ที่อยู่เธอได้ยังไง เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเตชินส่งมาแน่ๆแต่เธอก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดว่าอย่างน้อยดีกว่าเตชินมาเอง เธอแค่อยากรู้ว่าณัชชามาด้วยจุดประสงค์อะไรก็เท่านั้นณัชชาได้ยินพิมยิงคำถามมาแบบนี้ เธอจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย" ฉันมาเที่ยวน่ะ แล้วรู้มาจากพี่เตชินว่าคุณสอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เลยอยากจะแวะมาทักทาย ขอค้างคืนด้วยสั
ป๊อบพาพิมกลับมานอนพักบนบ้านพัก เขาค่อยๆประคองเธอขึ้นห้องไปอย่างช้าๆเมื่อเข้าไปในห้องเขาก็ประคองเธอไปที่เตียงแล้วพิมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงป๊อบเป็นห่วงเธอมาก เพราะเธอพักบ้านพักครูคนเดียวเขาจึงเอ่ยว่า" คืนนี้ผมจะมานอนเป็นเพื่อนคุณนะ "" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมอยู่คนเดียวได้ หากคุณมาอยู่ดูแลพิม เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี จะพากันเข้าใจผิดกันไปใหญ่ "พิมรีบปฏิเสธ เพราะเธอแคร์สายตาและแคร์ความคิดของสังคมภายนอก มากกว่าความความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในกายของตนเองอาจจะเป็นเพราะเธอถูกเลี้ยงมาแบบนี้ อยู่ในสังคมที่แคร์คนอื่น เธอจึงวางตัวดีมาเสมอและไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงเหมือนที่พ่อแม่เธอสอนไว้ว่า" ให้เป็นคนดี เป็นที่นับถือ ยำเกรง ทำอะไรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าทำตัวให้เป็นที่ครหานินทา "ป๊อบมองเธอแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับจัดผ้าห่มมาห่มให้เธออย่างดี" พิมเวลานี้คุณไม่ควรแคร์คนอื่นนะ คุณต้องห่วงสุขภาพตัวเองกับลูกในท้องก่อนการที่ผมมาดูแลคุณแล้วเป็นที่ครหา ผมว่าดีซะอีก คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณท้องลูกของผมอยู่ "พิมจ้องหน้าป๊อบที่คิดวางแผนเพื่อปกป้องเธอไม่ให้ถูกคนอื่นกล่าวหาว่าท้องไม่มีพ่อแ