ตอนเย็นพิมออกไปยืนรอเตชินที่หน้าบ้าน
ผู้ช่วยคังมาจอดรถรอข้างๆพิม ทั้งสองยืนคุยกันอย่างสนิทสนม พอผู้ช่วยคังเห็นเตชินเดินออกมาจากในบ้าน เขาก็รีบหันไปเปิดประตูรถรอ พิมยืนรอเตชินขึ้นไปนั่ง ส่วนเธอก็จะไปนั่งข้างคนขับ แต่เตชินกลับจับแขนเธอ แล้วยัดเธอเข้าไปนั่งที่เบาะหลังโดยที่ไม่บอกไม่กล่าวอะไร แล้วเขาก็ตามเข้าไปนั่งข้างๆเธอ พิมขมวดคิ้วด้วยความไม่ชอบใจแต่ก็ไม่พูดอะไร ผู้ช่วยคังที่มองดูการกระทำของเจ้านายก็ถึงกับยืนอึ้งไป จากนั้นก็เดินอ้อมไปเปิดประตู ฝั่งคนขับแล้วขับรถออกไป ระหว่างทางเตชินจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า " ต่อไปคุณไม่ต้องทำงานบ้านแล้ว ผมจะจ้างแม่บ้านมาทำแทนคุณ สัญญาฉบับนั้นก็จะถูกยกเลิกไป " ได้ยินดังนั้น สีหน้าพิมดูดีขึ้นมาทันที แล้วเผยรอยยิ้มสดใสน่ารัก หันมามองคนข้างๆพร้อมกับเอ่ยด้วยความตื่นเต้นดีใจ " คุณพูดจริงเหรอ คุณไม่ได้ล้อฉันเล่นใช่มั้ย " เตชินตะลึงในความสดใสน่ารักของพิมไปครู่หนึ่ง พอได้สติ เขาก็หันหน้ากลับมา มองตรงไปข้างหน้าแล้วเอ่ย " ผมพูดคำไหนคำนั้น เมื่อพูดออกไปแล้ว ก็รักษาสัจจะเสมอ " พิมดีใจมาก จากนั้นเธอก็หยิบเอกสารสัญญาฉบับนั้นออกมา แล้วยื่นไปให้เตชินด้วยความดีใจพร้อมกับหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายวีดีโอแล้วเอ่ย " อ่ะ คุณบอกว่าจะยกเลิกสัญญาฉบับนี้ งั้นคุณก็ฉีกมันทิ้งเองตอนนี้เลยค่ะ " เตชินมองไปที่สัญญาในมือเธอ แล้วเอ่ย " คุณพกติดตัวตลอดเลย " พิมยิ้มแล้วเอ่ย " แน่นอนว่าต้องพกติดตัวตลอด คุณรีบๆฉีกทิ้งสิ " เตชินหยิบสัญญามาจากมือของเธอ แล้วฉีกทิ้งทันที พิมยิ้มแล้วเอ่ยด้วยความดีใจว่า " ขอบคุณค่ะ คุณชายเตชิน " เธอดีใจจนลืมประโยคแรกไป พอฉีกสัญญาเสร็จเธอถึงนึกขึ้นมาได้ จึงเอ่ยถามขึ้น " แล้วที่คุณไม่ให้ฉันทำงานบ้านแล้ว คุณจะจ้างคนใหม่ คุณกำลังจะไล่ฉันออกใช่มั้ย " เตชินเอ่ยตอบด้วยสีหน้านิ่งเฉย " ใช่ ผมจะไล่คุณออก " พิมใจรู้สึกหาย ที่อยู่ๆก็ถูกไล่ออกโดยไม่ทันตั้งตัว แต่เธอก็ยอมรับการตัดสินใจของเตชิน แล้วเอ่ยเสียงแผ่วลง " ค่ะ ฉันเคารพในการตัดสินใจของนายจ้างอย่างคุณ " ความจริงเธอก็แอบน้อยใจนะ ที่อุตส่าห์ตั้งใจทำงานให้ ไม่คิดว่าพอเขาไม่ถูกใจก็จะเลิกจ้างแบบนี้ จากนั้นเธอก็เงียบไปตลอดทาง พอถึงร้านอาหารที่จองไว้ เตชินจึงเปิดประตูลงจากรถ แล้วยืนจับขอบประตูให้เธอ เธอลงจากรถโดยที่สีหน้าไม่ร่าเริงเหมือนเดิมสักเท่าไหร่ ดูซึมๆไป เพราะเธอไม่มีประสบการณ์ในการมีความรู้สึกถูกทิ้งแบบนี้ เธอรู้สึกเจ็บปวดแต่พูดอะไรไม่ได้ ผู้ช่วยคังมองดูเจ้านายแล้วพึมพำในใจว่า [ คุณชายคิดจะทำอะไร ] เตชินพาพิมเข้าไปในร้านอาหาร ในห้องพิเศษซึ่งเป็นห้องประจำของเขา พิมคิดว่าเป็นการเลี้ยงส่งเธอ เธอจึงไม่เอ่ยถามอะไร เพราะเธอรู้สึกเสียใจอยู่ เมื่อเข้าไปถึง เตชินขยับเก้าอี้ให้พิมนั่งแล้วเอ่ย " เชิญครับ " พิมเดินไปนั่ง ตามที่เตชินจัดไว้ให้ โดยไม่สังเกตเตชินที่เทคแคร์เธอเป็นพิเศษ แล้วเตชินก็เริ่มสั่งอาหารกับพนักงานที่มารับ ออเดอร์ เมื่อพนักงานออกจากห้องไปไม่นาน อาหารก็เริ่มทยอยเข้ามาเสิร์ฟ จัดวางเรียงบนโต๊ะ เตชินจึงเอ่ยขึ้น " ร้านนี้เป็นร้านประจำของผมเลยนะ ผมไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมาที่ห้องนี้เลย คุณเป็นคนแรกและคนเดียวที่ได้เข้ามาในห้องนี้เลย " พิมไม่รู้สึกรู้สาอะไรแล้วตอนนี้ จึงเอ่ยเพียง " ค่ะ " อย่างเหม่อลอยจมอยู่กับความเศร้า เตชินเริ่มตักอาหารให้เธอแล้วเอ่ยต่อว่า " คุณทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน ผมรู้ว่าคุณหิวมาก ทานเยอะๆ อยากทานอะไรเพิ่มสั่งได้เลย " พิมก็ยังเอ่ยเพียง " ขอบคุณค่ะ " พิมนั่งมองดูอาหารตรงหน้า เธอคิดว่า ไหนๆก็เลี้ยงส่งเธอแล้ว ก่อนจะออกไปจากบ้านเขา ก็กินให้คุ้ม ให้สมกับที่เคยทุ่มเททำงานอย่างหนักมาตลอดโดยที่ไม่บ่นสักคำ เมื่อคิดได้ดังนั้น เธอจึงถอนหายใจออกมาแรงๆ แล้วเอ่ย " ค่ะ ฉันจะทานให้เยอะๆ ให้คุ้มกับความตั้งใจของคุณ ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง " พูดจบเธอก็จับอุปกรณ์ในการทานอาหาร แล้วเริ่มก้มหน้าก้มตาทาน โดยที่ไม่สนใจใคร อาหารก็รสชาติอร่อย แต่ละอย่างก็ได้แค่นิดเดียว เธอจึงจัดการกินจนเรียบ ไม่พอยังสั่งมาเพิ่มอีกหลายอย่าง เปิดดูเมนูแล้วสั่งเอาๆ ราวกับประชดชีวิตด้วยการกิน เตชินมองเธออย่างเงียบๆ ปล่อยให้เธอสั่งตามใจชอบ โดยที่ไม่ห้ามอะไรเธอเลย เอาที่เธอสบายใจ แค่นี้เขาก็พอใจแล้ว พอรู้สึกพอใจแล้วพิมก็หยุดสั่ง ฝืนนั่งทานของที่ตัวเองสั่งจนหมด เมื่อทานจนเกลี้ยง เธอจึงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา น้ำคำไม่หลงเหลือความเกรงใจต่อเตชินเลย " ฉันอิ่มแล้ว ตอนนี้ง่วง ฉันกลับละ " ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะเมาเหล้า แต่เธอเมาเศร้าที่รู้สึกถูกทิ้งและตกงาน เอ่ยจบเธอก็ลุกขึ้นเดินออกไป เตชินเองก็ลุกตามเธอออกไปแล้วเอ่ย " พิม เราเพิ่งจะทานข้าวเสร็จ ไปเดินตากลมเล่น ให้อาหารมันได้ย่อยหน่อยมั้ย " พิมไม่คิดอะไรมาก เพราะพรุ่งนี้เธอก็ต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านแล้ว จึงเอ่ยตอบไปว่า " ได้สิ ที่ไหนล่ะ " " สะพานพระราม8 มั้ย เดินกินลม ชมวิว บนสะพาน " พิมจึงเอ่ยว่า " ไปสิ " จากนั้นพวกเขาก็เดินไปที่รถ แล้วผู้ช่วยคังก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังสะพานพระราม 8 ไปถึงพิมและเตชินก็ลงจากรถ เดินขึ้นไปบนสะพาน ทั้งสอง เดินย่อยอาหารไปเรื่อยๆอย่างเงียบๆ ผ่านไปสักพัก เตชินก็เอ่ยขึ้น " พิมจดทะเบียนสมรสกับผมนะ " พิมที่เดินนำหน้าเตชินก็ชะงักไป ยืนนิ่งไปด้วยความงุนงง ไม่เข้าใจสิ่งที่เตชินพูด เธอจึงหันไปหาเขาแล้วเอ่ยถามออกไปว่า " คุณหมายความว่าไง มาล้อเล่นอะไรกับเรื่องแบบนี้ " เตชินจึงเอ่ยอธิบายข้อเสนอ ด้วยสีหน้านิ่งขรึม น้ำเสียงหนักแน่น จริงจัง แววตาจับจ้อง มองพิมอย่างไม่กะพริบ " ผมไม่ได้ล้อเล่น ถ้าคุณยอมจดทะเบียนสมรสกับผม คุณจะได้เงินสามล้านบาทเข้าบัญชีทันที และยังได้เงินเดือน เดือนละสองหมื่นห้าพันบาท การจดทะเบียนสมรส จะไม่มีผลหรือส่งผล กระทบใด ต่อการดำเนินชีวิตของคุณ ทุกอย่างจะถูกปิดเป็นความลับ เพียงแต่คุณอาจจะต้องออกงานคู่กับผมเป็นครั้งคราว คุณไม่ต้องเหนื่อยทำงานบ้าน เวลาว่างสามารถเดินช็อปปิ้งได้ตามสบายเลย " ได้ยินดังนั้นตัวเลขและเครื่องหมาย บวก ลบ คูณ หาร ก็ลอยเข้ามาในหัวสมองพิม เธอคำนวณ เงินที่ได้ในแต่ละเดือน รวมแต่ละปีอย่างรวดเร็ว เธอครุ่นคิดใช้เวลาในการตัดสินใจสักพัก แล้วเอ่ยถาม " อืม แล้วเงินช็อปปิ้งล่ะ ฉันต้องควักเองมั้ย " เตชินจึงเอ่ยขึ้น " คุณคิดว่าไงล่ะ " เธอจึงเอ่ยออกมาว่า " ความจริงการจดทะเบียนสมรส ก็เท่ากับ ผ่านการแต่งงานมาแล้วหนึ่งครั้ง ถ้าหย่า สถานะของฉันก็จะกลายเป็น แม่หม้ายโดยสมบูรณ คือฉันจะได้ชื่อว่า เป็นแม่หม้ายตั้งแต่ยังไม่ทันได้มีแฟน ไม่ทันได้มีความรัก และยังไม่ได้แต่งงาน มันไม่แฟร์กับฉันเท่าไหร่ คุณไปหาจ้างคนอื่นเถอะ แค่ใบทะเบียนสมรสใบเดียว คุณจะไปจ้างใครก็ได้ ที่เขายินดีจะจดทะเบียนสมรสกับคุณและไม่คิดเยอะเหมือนฉัน " ได้ฟังที่พิมพูดเตชินรู้สึกไม่ชอบใจจึงเอ่ย " คุณคิดว่าผมไม่เลือกเหรอ ที่ผมต้องการจดทะเบียนสมรสกับคุณ ก็เพราะ.... " แล้วเตชินก็ไม่พูดต่อ พิมจึงถามด้วยความอยากรู้ว่า " เพราะอะไร? " เมื่อรู้ว่าตัวเองเกือบจะหลุดปากพูดเป้าหมายถัดไป เขาจึงตอบแบบขอไปทีว่า " ก็เพราะผมไม่ไว้ใจคนอื่น " ได้ยินดังนั้นพิมเลยเอ่ยขึ้นว่า " งั้นสามล้านห้าแสน ค่าช็อปปิ้งต่างหาก คุณตกลงมั้ย " เตชินเอ่ยออกมาอย่างไม่มีปัญหาว่า " ตกลง พรุ่งนี้ผมจะให้เจ้าหน้าที่นายทะเบียนมาทำเรื่องให้อย่างลับๆ เสร็จและจะโอนเงินสามล้านห้าแสนให้คุณทันที " พิมจึงตอบว่า " อืม " แล้วเธอก็หันหลังให้เตชินยิ้มออกมาอย่างพอใจ เตชินยิ้มจ้องมองแผ่นหลังของพิม ภายใต้รอยยิ้มซ่อนความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ พิมไม่สนใจเขาแล้วเธอก็เดินกินลม ชมวิวต่ออย่างสบายใจ เตชินแอบพึมพำเบาๆตามหลังเธอว่า " ก็เพราะว่าคุณคือแม่ของลูกผมไง "เช้าวันต่อมา พิมกับเตชิน นั่งจดทะเบียนสมรสกันในห้องรับแขกโดยมีนายทะเบียนสองคนและมีผู้คังอีกหนึ่งคนคอยเป็นสักขีพยานในการจดทะเบียนครั้งนี้" ขอให้คุณเตชินกับคุณพิมถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร์ มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมืองนะครับ "นายทะเบียนอวยพรให้ทั้งสองคน พิมนั่งนิ่งเฉยไม่รู้สึกอะไรกับคำอวยพร เตชินจึงเอ่ยว่า" ขอบคุณครับ "แล้วนายทะเบียนอีกคนก็เอ่ยว่า" หน้าที่ของเราเสร็จสิ้นแล้ว พวกผมสองคนขอตัวกลับก่อนนะครับ "เตชินพยักหน้าให้เบาๆ แล้วส่งสายตาไปให้ผู้ช่วยคังเมื่อนายทะเบียนสองคนลุกจากโซฟา ก็เดินออกจากห้องรับแขกไป โดยมีผู้ช่วยคังเดินตามไปส่งแล้วเอ่ยกับนายทะเบียนว่า" คุณสองคนช่วยเก็บเรื่องในวันนี้ไว้เป็นความลับด้วยนะครับ "เอ่ยจบเขาก็ยื่นซองใส่เงินให้ทั้งสองแล้วเอ่ย" ค่าน้ำใจเล็กๆน้อยๆจากคุณชายครับ "นายทะเบียนสองคน หันกลับไปมองเตชินที่นั่งบนโซฟาสุดหรูในห้องรับแขกอย่างสง่าดูองอาจราวกับราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์เตชินยิ้มอย่างมีเลศนัยพร้อมกับพยักหน้าให้พวกเขารับค่าน้ำใจนายทะเบียนทั้งสองยิ้มแห้งแล้วค้อมหัวขอบคุณเล็กน้อยแล้วหันหน้ากลับลมาเดินออกจากบ้านขอเตชินไปขึ้นรถ โด
เตชินมองต่ำลงบนตัวสาวเจ้าเสน่ห์ ที่มักจะขัดใจเขาอยู่เรื่อยและต่อปากต่อคำกับเขาอย่างไม่เกรงกลัว เขาจึงค้อมตัวลงช้อนเธอขึ้นมาอุ้มอย่างไม่คณามือพิมตกใจมาก เมื่ออยู่ๆก็รู้สึกตัวลอยขึ้นมา มารู้ตัวอีกที ก็อยู่ในอ้อมแขนของเตชินเรียบร้อยแล้วเธออ้าปากค้างแววตาใสเบิกกว้างด้วยความตกใจแล้วเอ่ยเสียงดัง" ปล่อย วางฉันลงเดี๋ยวนี้เลยนะ คิดว่าตัวเองตัวใหญ่แล้วจะทำอะไรก็ได้หรือไง ปล่อย! "เตชินไม่สนใจเธอ ที่ทำหน้าดุ เอ่ยเสียงกร้าวขอให้เขาปล่อย เมื่อเตชินไม่วางเธอลง เธอดิ้นพร้อมกับใช้มือเล็กๆที่ขาวราวกับหิมะทุบทีเขาจนรู้สึกเมื่อยมือ แต่เตชินก็ไม่ยอมวางเธอลงกลับอุ้มเธอแน่นขึ้นแล้วเดินขึ้นบันได กลับไปที่ห้องของตัวเอง จากนั้นก็วางเธอลงบนเตียงเบาๆพิมลุกขึ้นแล้ววิ่งไปที่ประตู แต่เตชินกลับคว้าเอวเธอไว้ กอดเธอแน่นจากทางด้านหลังแล้วเอ่ย" คุณอย่าดื้อสิ เราเป็นสามีภรรยากันแล้ว ก็ต้องนอนห้องเดียวกัน "พิมจึงเอ่ยแย้งอย่างไม่ชอบใจ" แบบเรา เขาไม่นับว่าเป็นสามีรภรรยากัน เราแค่ทำธุรกิจร่วมกันต่างหาก ปล่อย คุณอย่ามาทำแบบนี้กับฉันนะ ฉันไม่ชอบ ปล่อย! "เตชินหอมไปที่เส้นผมของเธอแล้วเอ่ย" ตอนนี้ไม่ชอบ ต่อไปก็ชิน
ริมฝีปากอวบอิ่มอมชมพู ถูกกระแทกด้วยริมฝีปากของเตชินเธอตกใจกลัวจนสั่นเทิ้มไปทั่วร่าง หัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะเตชินรู้สึกได้ถึงอาการสั่นกลัวของคนใต้ร่าง จึงถอนริมฝีปากออกเล็กน้อยแล้วเอียงหน้าประกบริมฝีปากอย่างแนบแน่นอีกครั้ง ราวกับติดใจริมฝีปากนุ่มนิ่ม จนไม่อยากออกห่างเลยแม้แต่วินาทีเดียวณัชชาพยายามผลักเขาออก ทั้งใช้มือตีและหยิกอย่างแรง แต่เตชินกลับดูเหมือน ไม่รู้สึกระคายผิวเลยแม้แต่น้อยและยิ่งเพิ่มความรุนแรง บดขยี้ ไล้เลีย ดูดริมฝีปากนุ่มของเธออย่างป่าเถื่อน ราวกับจะกลืนกินพิมนอนรับแรงจูบที่ป่าเถื่อนของเขาอย่างไม่เต็มใจเธอกลัวจนร้องให้ออกมา เตชินถึงถอนริมฝีปากอีกครั้ง แล้วมองดูคนใต้ร่างที่น้ำตาไหลอาบแก้มเขาจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนแต่เต็มไปด้วยการตอกย้ำ" ทีนี้คุณรู้หรือยังว่าเรื่องของคุณก็คือเรื่องของผม ตราบใดที่ยังไม่หย่า คุณคือผู้หญิงของผม "ดวงตาพิมเคล้าไปด้วยน้ำตาแต่นัยน์ตากลับแข็งกร้าวจ้องเตชินอย่างไม่กะพริบเธออยากจะตบหน้าเขาเต็มแรง ที่เขาปฏิบัติกับเธอเหมือนกับเป็นนางบำเรอที่ถูกซื้อด้วยเงินแล้วเธอก็กัดฟันเอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่นสายตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง" คุณเ
พิมนอนบนเตียงใหญ่ที่หนานุ่ม เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะเสียงกริ่งแววตาฉายแววหวาดผวาชัดเจนเธอรวบรวมสติ ค่อยๆลงจากเตียงแล้วเดินไปเปิดประตู จากนั้นก็เดินลงไปชั้นล่างเพื่อไปเปิดประตูหน้าบ้านตามความเคยชิน แต่เธอลืมนึกไปว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในสถานะแม่บ้านแล้วเมื่อเธอยื่นมือไปเปิดประตูบ้าน ประตูก็ถูกเปิดจากด้านนอกซะก่อนนาวินพยุงตัวเตชินประคองกลับเข้ามาในบ้านอย่างทุลักทุเล พิมเห็นดังนั้นเธอก็ถอยหลังไปทันทีเพราะสัญชาตญาณของเธอบอกว่า ไม่ควรเข้าใกล้เตชินเธอจึงเอ่ยกับนาวินว่า" รบกวนคุณนาวินช่วยพาเขาไปนอนในห้องหน่อยนะคะ "นาวินเห็นว่าพิมดูกลัวๆ เว้นระยะห่างกับเตชิน เขาก็ไม่อยากทำให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งตกใจและลำบากใจ จึงเอ่ยตอบว่า" ได้ครับ "แต่เตชินกลับเอ่ยขึ้นพร้อมกับผลักนาวินออกไปจากตัวเขา" นาย ครับ อะไร ฉันจะกลับขึ้นไปพร้อมพิม นายกลับบ้านไปเลย ไป "นาวินเริ่มสงสัย ในคำพูดของเตชิน [ ทำไมเตชินพูดอย่างกับว่าอยู่ห้องเดียวกันกับพิมเลยวะ คงไม่ใช่หรอก เราคงคิดมากไปเอง ]นาวินสลัดความคิดออกไป เมื่อถูกไล่ให้กลับ เขาก็กลับออกไป พิมจึงเดินไปส่งเขาจากนั้นเธอก็หมุนตัวกลับเข้ามาในบ้านอย่างกล้าๆกลัว
เตชินนั่งอึ้ง มองตามหลังพิมที่วิ่งขึ้นไปข้างบนด้วยความรู้สึกผิดที่ผ่านเข้ามาในอก แต่แค่แวบเดียวเขาก็สลัดความรู้สึกที่ทำให้เขาทุกข์นั้นทิ้งไปเขาทำอะไรมีเป้าหมายเสมอ เขาจะไม่ใจอ่อน เพียงเพราะความรู้สึกส่วนตัว จนทำให้เสียงานเด็ดขาดจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนเดินออกจากโต๊ะอาหารแล้วเดินขึ้นไปชั้นบน เพื่อไปดูพิมเขายื่นมือไปเปิดประตู แล้วเดินเข้าไปหาพิมที่นั่งร้องให้อยู่บนเตียงเมื่อยืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้วเขาจึงเอ่ยออกมาอย่างคนไร้อารมณ์ความรู้สึกว่า" ในเมื่อคุณรู้หมดแล้ว ผมขอแนะนำขอให้คุณรีบทำให้ตัวเองท้องให้ไวที่สุด พอคุณคลอดลูกออกมา คุณก็จะได้รับอิสระ กลับไปใช้ชีวิตของคุณต่อไป "พิมมองเขาด้วยแววตาแข็งกร้าว เธออยากจะตบหน้าเขาแรงๆ อยากจะเอามีดแทงเข้าไปในหัวใจของเขาจนแทบจะทนไม่ไหวอยากจะผ่าอกเขาดู ว่าเขามีหัวใจหรือเปล่า หัวใจเขาทำด้วยอะไรกันแน่ ถึงได้เลือดเย็นไร้หัวใจเช่นนี้เธอโกรธจนกำมือแน่น จนมือสั่นและขาวซีดไปหมด น้ำตาที่ไหลอาบแก้มนั้น ร้อนจนจะลวกคนได้สักพักเธอค่อยๆคลายอารมณ์โกรธที่มีอยู่เต็มอกและคลายมือออกเพื่อให้จิตใจตัวเองผ่อนคลาย ไม่ให้ถูกความโกรธครอบงำจิตใจจนขาดสติ จนเผยความคิดทุ
เตชินขับรถพาพิมออกมาจากบ้านระหว่างทางพิมนั่งเงียบตลอดเตชินก็ขับรถไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมายปลายทาง พิมที่นั่งข้างๆก็ยังไม่บอกเขาสักทีว่าจะไปไหน สุดท้ายเขาจึงหันมาเอ่ยถามพิมว่า" คุณคิดได้หรือยังว่าจะไปที่ไหน "พิมนั่งกอดอก ทำท่าครุ่นคิดสักพัก จึงหันไปมองเตชินแล้วเอ่ย" อืม...ยังคิดไม่ออกอ่ะ คุณขับไปเรื่อยๆก่อนได้มั้ย ถ้าคิดออกแล้วจะบอก "ได้ยินเธอพูดดังนั้นเขาจึงเอ่ย" เราขับรถออกมาได้ชั่วโมงหนึ่งแล้วนะ คุณยังคิดไม่ออกอีกเหรอ ว่าอยากไปที่ไหน "พิมหันกลับมา ทอดสายตามองตรงไปข้างหน้าแล้วเอ่ย" งั้นคุณก็ขับรถพาฉันเที่ยวชมกรุงเทพละกัน ตั้งแต่ที่ฉันมาถึงกรุงเทพ ฉันยังไม่เคยออกไปไหนเลย ฉันอยากจะนั่งรถชมวิวชมทิวทัศน์รอบเมืองหลวงอย่างเพลินๆสักหน่อย "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หันหน้ากลับไป มองตรงไปบนถนนข้างหน้าสองมือจับพวงมาลัยขับอย่างชำนาญ แล้วเอ่ย" ได้ ผมจะพาคุณขึ้นบนทางด่วน คุณจะได้เห็นทิวทัศน์ในเมืองกรุงอย่างชัดเจน "เอ่ยจบเตชินก็ขับขึ้นบนทางด่วนแล้วขับต่อไปเรื่อยๆ ขับไปตามสถานที่ต่างๆพร้อมกับแนะนำสถานที่ต่างๆให้พิมได้รู้จักแล้วอยู่ๆพิมก็ทำหน้าบิดเบี้ยวคล้ายกับมีอาการเจ็บนั่งตัวเกรงคล้า
ในเช้าวันต่อมา เตชินตื่นขึ้นมาแต่เช้า เมื่อทำกิจวัตรประจำวันเสร็จเขาก็เดินออกจากห้อง ลงไปชั้นล่างแล้วเดินเข้าไปในห้องครัวหยิบผ้ากันเปื้อนมาสวม แล้วไปเปิดดูของที่มีในตู้เย็น หยิบเนื้อปูกับกุ้งและผักขึ้นฉ่ายออกมา(คื่นไฉ่)แล้วเริ่มตั้งหม้อ หั่นผักขึ้นฉ่าย เพื่อที่จะทำข้าวต้มให้พิม จากนั้นเขาก็เอาขิงจากในตู้เย็นมาซอย หั่นเป็นชิ้นเล็กๆพอทำเสร็จ ก็ตักข้าวต้มใส่ชาม วางลงในถาด หยิบช้อนกับน้ำดื่มที่ไม่ได้แช่เย็นวางลงข้างๆชามข้าวต้มจากนั้นก็ถอดผ้ากันเปื้อนออก แล้วยกถาดเดินขึ้นบันไดกลับไปที่ห้องพอถึงหน้าห้องก็ยื่นมือไปเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องนำถาดไปวางลงบนโต๊ะในห้องทำงานแล้วเอ่ยกับพิมที่หลับอยู่ว่า" พิม ข้าวต้มอยู่บนโต๊ะ ตื่นมาอย่าลืมทานข้าวทานยาล่ะ "จากนั้นเขาก็เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินมาที่เตียงแล้วก้มลงจูบหน้าผากพิมอย่างนุ่มนวลจากนั้นก็มองไปที่ริมฝีปากอวบอิ่มแล้วจูบลงไปเบาๆอย่างทะนุถนอมแต่พิมกลับหลับสนิท ไม่รู้สึกตัว เพราะเธอไม่ยอมหลับทั้งคืนมัวแต่กังวลกลัวเตชินจะมาล่วงเกินเธอในเวลาที่เธอเผลอหลับแต่เธอดันลืมไปว่า เธอแกล้งเป็นเมนส์อยู่แท้จริงแล้วแค
เตชินกลับเข้ามาในบ้าน เห็นพิมนั่งทานข้าวอยู่จึงเดินเข้ามาเธอแล้วเอ่ย" ตื่นแล้วเหรอ ดีขึ้นบ้างมั้ย "พิมหันไปมองเขาแล้วเอ่ยตอบ" ดีขึ้นแล้วค่ะ "" อืม ดีแล้ว ผมขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ "" ค่ะ "เอ่ยจบเตชินก็หมุนตัวเดินขึ้นบันไดไป พิมหันมาสนใจข้าวตรงหน้าแล้วตักเข้าปากต่อไปพอทานข้าวเสร็จเธอก็ดื่มน้ำตามปกติ แล้วลุกจากเก้าอี้เดินมานั่งในห้องนั่งเล่นแล้วเปิดทีวีดู เตชินเดินลงบันไดมาเห็นพิมนั่งดูทีวีอยู่ จึงเข้ามาหาเธอแล้วนั่งลงข้างๆเธอ จากนั้นก็ยื่นมือไปโอบไหล่เธอ เธอพยายามกระเถิบหนีห่าง แล้วเอ่ยเสียงเย็น" คุณเตชิน กรุณาเก็บมือดีๆค่ะ "เตชินเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอย่างสุขุมน้ำเสียงแฝงไปด้วยการหยอกเย้า" แค่โอบไหล่ภรรยาก็ไม่ได้เหรอ "ได้ยินดังนั้นพิมมองตาเขียวใส่เขาอย่างไม่พอใจในคำพูดของเขา แล้วเอ่ย" คุณเตชิน ฉันเป็นภรรยาคุณหรือเปล่าคุณรู้ดี "เตชินเก็บมือกลับมาแล้วเอ่ยถามอย่างจริงจังคล้ายใส่ใจเธอมาก" วันนี้คุณอยากไปไหนมั้ย "พิมหันมาสนใจรายการทีวีต่อพร้อมกับเอ่ยอย่างเย็นชา" ไม่ค่ะ "เตชินจึงเอ่ยต่อว่า" งั้นผมไปข้างนอกนะ วันนี้อากาศเย็น คุณอยู่บ้านก็รีบเข้านอนไวๆหน่อยนะ "ได้ยินดัง
พิมที่มีอาการมึนๆ แทบจะไม่มีแรงแล้ว เธอรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีใช้เท้าถีบสองคนนั้นออกไปแล้วแบกร่างที่สายตาเริ่มพร่ามัวหัวหมุนจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เดินสะเปะสะปะออกไป มือเรียวเล็กยังไม่ทันได้สัมผัสลูกบิดประตู ชายหนุ่มก็มารวบตัวเธอแล้วอุ้มกลับมาอย่างสบายๆเพราะเธอตัวเล็ก" ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! "เสียงตะโกนแผ่วเบา ร้องเรียกให้คนช่วย แต่โชคร้ายที่ห้องพวกนี้เป็นห้องเก็บเสียงต่อให้เธอตะโกนเสียงดัง ก็ไม่มีใครได้ยิน ชายหนุ่มทิ้งเธอลงบนเตียง มองเธอด้วยสายตาหื่นกามชายหนุ่มหันไปเอ่ยกับเพื่อนว่า" เดี๋ยวมึงคอยถ่ายวีดีโอให้กูก่อน เสร็จแล้วกูจะถ่ายให้มึง "ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยว่า" ทำไมมึงไม่ตั้งกล้องเอาวะ "" ตั้งกล้องมันจะไปเห็นทุกมุมได้ไงวะ สาวน้อยคนนี้ งานดี ดูสดใหม่ สวยตั้งแต่หัวจรดเท้า ต้องถ่ายให้ได้ครบทุกมุมเว้ย งานดีเงินดีมึงจำไม่ได้หรือไง "" เออๆ ได้กูจะถ่ายให้มึงก่อน "พิมได้ยินชัด ทุกถ้อยคำหยาบคายและน่ารังเกียจ น่าขยะแขยงพวกนั้นสติเธอเริ่มเลือนลาง เธอกลัวจนน้ำตาไหลพราก[ คุณเตชิน ถ้าฉันเป็นอะไรไป ล้วนเป็นเพราะคุณ ฉันจะจดจำคุณไว้ชั่วชีวิตจะไม่มีวันลืมคุณแน่นอน ]แม้เธอจะรู้สึกโกรธแค้นเ
ข้อเท้าบวมเป่ง แข้งขาและหัวเข่าถลอก จนเลือดสีแดงสดซึมออกมา ตามรอยแผลสดเธอไม่สนใจ วิ่งตามต่อไป จนรถของเตชินลับสายตาไป สุดท้ายความเร็วในการวิ่งของคนก็แพ้ให้กับรถหรูที่แล่นไปอย่างรวดเร็วรถของเตชินหายเข้าไปท่ามกลางความืดมิดเหลือไว้เพียงความว่างเปล่าเธอยืนอยู่ท่ามกลางสถานที่อโคจร ผู้คนพลุกพล่านมากหน้าหลายตาเธอรู้สึกหวิววูบขึ้นมาในใจ เมื่อรู้ว่าถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวในที่แบบนี้ในช่วงค่ำคืนแล้วจริงๆเธอได้แต่ยืนร้องให้ ใบหน้าเปื้อนไปด้วยน้ำตาราวกับเด็ก มองไปรอบๆไม่ว่าจะทางไหนใจเธอก็สั่นกลัวไปหมดสายตาทอดมองไปตามทางที่เตชินขับรถออกไป เธอไม่รู้จะเดินไปทางไหนแล้วตอนนี้เพราะเธอจำทางกลับบ้านไม่ได้ แถมเจ้าของบ้านก็มาทอดทิ้งเธอไว้อีกทำราวกับเธอเป็นสัตว์เลี้ยง ที่เจ้าของไม่ต้องการตัดหางแล้วปล่อยไป(ตัดหางปล่อยวัด)เธอยืนร้องให้แล้วบ่นพึมพำด้วยน้ำเสียงสั่นสะอื้นด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณเห็นฉันเป็นตัวอะไร คิดจะทิ้งก็ทิ้งไปเลยแบบนี้เหรอ จิตใจคุณทำด้วยอะไร ถึงทิ้งฉันไว้ในที่อโคจรแบบนี้ได้ลงคอ ฮือ... "เธอเดินไปตามทางด้วยเท้าเปล่าเนื้อตัวถลอกสภาพคล้ายคนเมา ผู้คนที่เดินผ่านไปมามองเธอด้วยสายตา
สิ่งที่เตชินเกลียดที่สุดคือการใช้ยาพวกนี้กับเขาเขาผละเธอออกจากตัวแล้วบีบไหล่เธอแน่นพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเดือดดาล" คุณบอกผมมา คุณเอายาบ้าๆนี่มาจากไหน "ตัวพิมสั่นเทาเทาแววตาสั่นไหวด้วยความกลัวแล้วเอ่ย" ฉัน ฉันเห็นในกระเป๋าเสื้อของคุณ "เธอที่ไม่รู้เรื่องอะไรมองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาและคิดว่าเตชินคงใช้เป็นปกติในชีวิตประจำได้ยินดังนั้นเตชินได้แต่ผลักเธออกไปแล้วเคลื่อนมือมาเท้าเอวหันไปมองทางอื่นด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความเดือดดาลแล้วเอ่ย" คุณรู้ได้ยังไงว่ามันคือยาปลุกเซ็กซ์ "" ฉันศึกษาจากในเว็บไซต์ "" คุณเลยคิดที่จะมามอมผมกับผู้หญิงคนอื่น "เธอรู้ว่าเตชินโกรธมาก เธอกลัวจนไม่รู้จะทำยังไงแล้วจึงเข้าไปกอดเขาแน่นอีกครั้ง เพราะเธอไม่กล้าเผชิญหน้ากับแววตาดุดันคู่นั้นของเขาแล้ว" ฉันขอโทษ ฉันบอกแล้วว่าฉันสำนึกผิดแล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะเกลียดมันขนาดนี้ เป็นเพราะฉันเข้าใจผิดที่คิดว่าคุณใช้ประจำ ฉันสัญญาจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกฉันขอโทษ "แม้เธอจะเอ่ยขอโทษ สำนึกผิด ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแต่คำเหล่านั้นเธอไม่ได้เอ่ยออกมาจากใจ ไม่มีความจริงใจเลยสักนิด เป็นเพียงการเอาตัวรอดเท่านั้น
เธอออกมาข้างนอกนั่งได้สักพัก คิดว่ายาคงออกฤทธิ์แล้ว เธอจึงเดินกลับเข้าไปในห้องก็เห็นเตชินผลักผู้หญิงคนนั้นลงบนพื้นอย่างแรงด้วยท่าทางรังเกียจเธอตกใจที่เตชินไม่เป็นอะไรเลย มีแต่ผู้หญิงคนนั้นที่ดูอาการหนักดูแล้วฤทธิ์ยาคงแรงน่าดูผู้หญิงคนนั้นยังลุกขึ้นมาเกาะแกะเตชินพร้อมกับเอ่ย" คุณเตชินช่วยฉันที ฉันต้องการคุณ "เตชินโมโหจนเลือดขึ้นหน้า แววตาดุร้ายราวกับปีศาจมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างขยะแขยงแล้วง้างมือขึ้นจะตบเธอพิมเข้ามาจับมือเขาไว้แล้วผลักผู้หญิงคนนั้นไปข้างหลังเธอเตชินโกรธจนเกือบจะฆ่าคนได้ มองไปยังผู้หญิงคนนั้นด้วยท่าท่างดุร้ายมีความเกรี้ยวกราดเอ่ยเสียงกร้าวและดุดันราวกับปีศาจกำลังคำราม" ผู้หญิงแพศยา เธอกล้าคิดที่จะวางยาผม! "พิมรู้สึกผิดต่อผู้หญิงคนนั้นมากและรู้สึกกลัวเตชินมากๆเช่นกันเธอไม่เคยเห็นด้านนี้ของเขามาก่อนและไม่คิดว่าเขาจะรังเกียจผู้หญิงคนนี้ขนาดนี้ เธอจึงเอ่ย" คุณเตชิน คุณใจเย็นๆก่อนสิ คุณจะว่าให้เธอแบบนั้นไม่ได้ เพราะคุณเองไม่ใช่เหรอที่ให้เธอเข้ามาเอ็นเตอร์เทนน่ะแล้วเมื่อกี้คุณก็ชอบให้เธอทำเรื่องอย่างว่าไม่ใช่เหรอ เนื้อแนบชิดกันขนาดนั้น จะใช้ยาหรือไม่ใช้ยามัน
เตชินพาพิมออกไปเดินห้างเลือกซื้อเสื้อผ้าสำหรับใส่เดท(ครั้งแรก)คืนแรกของเขากับพิมเธอเข้าไปลองเสื้อผ้าหลายชุด กว่าเตชินจะให้ผ่าน เธอทั้งเหนื่อยและเบื่อแต่สุดท้ายเธอก็ได้ชุดที่เหมาะกับเธอและเป็นชุดที่เธอชอบ แต่เตชินกลับไม่เห็นด้วยที่จะให้เธอซื้อใส่" ไม่ได้ มันสั้นไป แถมยังโชว์ไหล่ โชว์ไหปลาร้าอีก มันดูเซ็กซี่และโป๊ะเกิน เปลี่ยน "แม้จะไม่อยากให้เธอใส่ แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชุดนี้ไม่เข้ากับหุ่นพิมเหมาะกับหุ่นเธอราวกับถูกออกแบบมาเพื่อเธอโดยเฉพาะใบหน้าสวย คอเรียวยาว ไหปลาร้าเซ็กซี่ แขนเรียวสวย อกนูนนิดๆ เอวบาง สะโพกนูนหน่อยๆ เรียวขายาวสวย มีทรวดทรงที่ชัดเจน หุ่นเพอร์เฟค ดูไม่มากเกินไปแต่เขาอยากจะเก็บไว้ชื่นชมคนเดียว เขาหวงของเขาอ่ะนะ ภรรยาเขาสวย หุ่นดี สวยตั้งแต่หัวจรดเท้าแถมยังมีเสน่ห์เสริมให้ดึงดูดเพศตรงข้ามอีกเขายิ่งหวงมากขึ้นไปอีกพิมเริ่มทำหน้าหงิดหน้างอนิดๆแล้วเอ่ย " คุณเตชิน คุณใช้ตาข้างไหนดูว่ามันโป๊ มันเซ็กซี่ ตรงไหน ชุดออกจะน่ารัก สมองคุณมีปัญหาคิดแบบนั้นอยู่คนเดียว "แล้วเธอก็เอ่ยอย่างกระเง้ากระงอดดื้อรั้นพร้อมกับหันไปทางอื่น แล้วเอามือกอดอก ใบหน้าบูดบึ้ง" ไม่รู้ล่ะ
ในเช้าวันต่อมา เตชินรู้สึกตัวขึ้นมา เขาค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ มองไปยังอ้อมแขนที่ว่างเปล่าไร้เงาพิมแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆห้องก็ไม่เห็นเธอ เขาเริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจกลัวเธอจะหนีไปจึงรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปดูที่ห้องน้ำ เปิดประตูเข้าไปก็ไม่เจอพิมใจเขาเริ่มไม่ดี รีบออกจากห้องแล้วลงบันไดไปอย่างรีบร้อนเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่เธออยู่ประจำก็ไม่เจอ จากนั้นเขารีบวิ่งไปดูที่ห้องครัวพอเห็นเธอนั่งทานข้าวเช้าอยู่ เขาเข้าไปกอดเธอจากด้านหลังแล้วเอ่ยอย่างโล่งใจ" พิม คุณอยู่นี่เอง ผมตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอคุณ ผมตกใจหมดเลยรู้มั้ย ทำไมคุณไม่ปลุกผม "พิมเองก็ตกใจที่อยู่ๆเตชินก็วิ่งเข้ามากอดเธอจากด้านหลังแบบนี้ เธอจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า" ทำไมฉันต้องปลุกคุณ วันนี้เป็นวันหยุดคุณไม่ต้องไปทำงานสักหน่อย "" อย่างงั้นก็เถอะ ทีหลังถ้าคุณตื่นก่อนคุณต้องปลุกผมนะ เข้าใจมั้ย "" อืม "เมื่อสบายใจแล้ว เตชินก็เอ่ยต่อว่า" งั้นผมขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ "พิมนั่งนิ่งไม่ตอบอะไร ก้มหน้าทานอาหารเช้าของตัวเองไปเตชินไม่กวนเธออีก ปล่อยมือจากเธอแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องครัวแล้วเดินขึ้นห้องไปพิมนั่งทานข้าว และคิดอะไรคนเดียวเ
พิมนั่งอ่านหนังสือในห้องนั่งเล่นเพลินๆ เตชินกลับเข้ามาในบ้าน ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมถมึงทึงพอพิมเห็นเขาก็ตกใจแล้วเอ่ยขึ้น" วันนี้คุณไม่ไปทำงานเหรอ? "เตชินไม่ตอบแต่คว้าข้อมือพิม แล้วลาก จูงมือของเธอให้ตามเขาขึ้นไปบนห้องพิมตกใจมาก ขณะที่เตชินจูงมือเธอไปข้างหน้าเธอหันหลังกลับมามองผู้ช่วยคังกับป้าใจที่ยืนดูเธอด้วยสีหน้ากังวลเธอใช้สายตาเชิงถามเชิงอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นผู้ช่วยคังรู้และเข้าใจความหมายในสายตาเธอดีแต่เขาช่วยอะไรไม่ได้เขาได้ส่ายหน้าเบาๆประมาณว่าบอกไม่ได้เวลานี้ คุณชายเขาโกรธขนาดนั้น เขาจะกล้าไปยุ่งเรื่องของคนสองคนได้ยังไงพิมหันกลับมามองข้างหน้า เธอไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากนี้เธอพยายามยื้อตัวดึงมือกลับมาให้หลุดพ้นจากมือของเตชินแต่ก็ทำไม่สำเร็จร่างเล็กถูกเตชินฉุดกระชากให้ตามไป เธอแทบจะปลิวได้เลยได้โอกาส เธอจับราวบันไดไว้แน่นแล้วเอ่ย" คุณเตชิน คุณเป็นบ้าอะไร ปล่อยนะ ฉันเจ็บข้อมือ "เตชินไม่พูดพล่ามทำเพลง สีหน้าคุกรุ่นไปด้วยเพลิงโทสะเดินมาแกะมือเธอที่จับราวบันไดแน่นนั้นออกอย่างง่ายดายแล้วเอามือเล็กๆทั้งสองข้างของเธอมาจับรวมกันไว้ด้วยมือใหญ่ของเขาแค่มือเดียวจา
หลังจากคืนปาร์ตี้ เตชินก็ไม่กลับมานอนห้องอีกเลยพิมนอนคนเดียวอย่างสบายใจเฉิ่ม หลับสนิทไปทุกคนคืน ตื่นมาก็รู้สึกสดชื่อนอารมณ์ดีทุกเช้าส่วนเตชิน พิมเองก็ไม่รู้ว่าเขาไปนอนที่ไหน และไม่ได้ถามหรือว่าสนใจเขาเลยผู้ช่วยคังทำหน้าที่กลับมาเอาเสื้อผ้า ชุดทำงานวันต่อวันป้าใจเริ่มเป็นห่วงความสัมพันธ์ของทั้งสอง ในสายตาป้าใจ ตามที่ป้าใจเข้าใจคือ ทั้งสองคือสามีภรรยากันเป็นแบบนี้หลายๆวันเข้า พอป้าใจเจอผู้ช่วยคังกลับมาเอาเสื้อผ้าให้เจ้านาย ป้าใจก็อดทนต่อไม่ไหว จึงเข้าไปถามถึงคุณชายของเขาทันที" คุณคังคะ เอ่อ...อย่าหาว่าป้าอยากสอดรู้สอดเห็นเรื่องของเจ้านายเลยนะคะ เอ่อ...คุณชายไม่กลับมาหลายวันแล้ว ป้าใจไม่ดีเลย คุณชายทะเลาะกับคุณพิมเหรอคะ "ผู้ช่วยคังเองก็ไม่รู้ แต่เขาก็เดาว่าน่าจะทะเลาะกัน แต่คราวนี้เขารู้สึกแปลกที่เจ้านายของเขาโกรธจนหนีไปอยู่โรงแรม แถมสีหน้าดูไม่เป็นมิตรกับโลกมาเป็นอาทิตย์แล้ว รอยยิ้มสักนิดก็ไม่เคยปรากฎให้เห็น[ ทั้งที่ทั้งสองไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วโกรธกันเรื่องอะไร คุณชายถึงกับไม่ยอมกลับมาอยู่บ้าน ทั้งที่อยากรู้ว่าคุณพิมเป็นยังไงก็ไม่กลับมาดูเอง ]ผู้ช่วยคังพึมพำกับตัวเองในใ
พิมเข้าไปร้องให้ในห้องน้ำอย่างเงียบๆ เธอไม่คิดว่าเตชินจะพูดเรื่องที่จดทะเบียนต่อหน้าทุกคนจนทำให้ป๊อบเข้าใจผิดแสดงท่าทีเย็นชาออกมาแบบนั้นเธอไม่รู้ว่าเตชินคิดจะทำอะไรอีก ที่อยู่ๆก็ประกาศว่าเธอคือภรรยาเขาอย่างเต็มปากเต็มคำจนทำให้สีหน้าของป๊อบเปลี่ยนไปเธอคิดว่าป๊อบคงโกรธ เกลียดเธอแล้วแน่ๆ[ หรือว่าเขาจะรู้เรื่องของเรากับคุณป๊อบ ]เธอเริ่มสงสัยแล้วพึมพำในใจ จากนั้นเธอก็ล้างหน้าล้างตาแล้วเดินออกจากห้องน้ำป๊อบยืนรอคุยกับเธออยู่หน้าห้องน้ำได้สักพักแล้ว เขาได้ยินเสียงเธอร้องให้ชัดเจนพอเธอเปิดประตูห้องน้ำออกมา เขาก็จับแขนเธอไว้แล้วเอ่ยถามด้วยอาการเมานิดๆ" พิม ที่เตชินพูดมันไม่เป็นความจริงใช่มั้ย "พิมได้แต่เงียบไม่เอ่ยอะไรออกมาเพราะเธอมึนตึ๊บไปหมดแล้วแต่การเงียบของพิมเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุดป๊อบจึงเอ่ยถามต่อว่า" เพราะแบบนี้ใช่มั้ย คุณถึงให้ผมรอ พิมคุณบอกผมมาเถอะมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆคุณถึงไปจดทะเบียนสมรสกับเขา "พิมเงยหน้ามองป๊อบทั้งน้ำตา เธอจะบอกเขาได้ยังไง ว่าเธอจดทะเบียนเพราะเงินป๊อบก็พอจะเดาได้ว่าอาจจะเป็นเพราะเงินจำนวนมากถึงทำให้พิมจดทะเบียนสมรสได้ เขาจึงเอ่ยถามขึ้น" เพราะเ