พิมนอนบนเตียงใหญ่ที่หนานุ่ม เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะเสียงกริ่ง
แววตาฉายแววหวาดผวาชัดเจน เธอรวบรวมสติ ค่อยๆลงจากเตียงแล้วเดินไปเปิดประตู จากนั้นก็เดินลงไปชั้นล่าง เพื่อไปเปิดประตูหน้าบ้านตามความเคยชิน แต่เธอลืมนึกไปว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในสถานะแม่บ้านแล้ว เมื่อเธอยื่นมือไปเปิดประตูบ้าน ประตูก็ถูกเปิดจากด้านนอกซะก่อน นาวินพยุงตัวเตชินประคองกลับเข้ามาในบ้านอย่างทุลักทุเล พิมเห็นดังนั้นเธอก็ถอยหลังไปทันที เพราะสัญชาตญาณของเธอบอกว่า ไม่ควรเข้าใกล้เตชิน เธอจึงเอ่ยกับนาวินว่า " รบกวนคุณนาวินช่วยพาเขาไปนอนในห้องหน่อยนะคะ " นาวินเห็นว่าพิมดูกลัวๆ เว้นระยะห่างกับเตชิน เขาก็ไม่อยากทำให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งตกใจและลำบากใจ จึงเอ่ยตอบว่า " ได้ครับ " แต่เตชินกลับเอ่ยขึ้นพร้อมกับผลักนาวินออกไปจากตัวเขา " นาย ครับ อะไร ฉันจะกลับขึ้นไปพร้อมพิม นายกลับบ้านไปเลย ไป " นาวินเริ่มสงสัย ในคำพูดของเตชิน [ ทำไมเตชินพูดอย่างกับว่าอยู่ห้องเดียวกันกับพิมเลยวะ คงไม่ใช่หรอก เราคงคิดมากไปเอง ] นาวินสลัดความคิดออกไป เมื่อถูกไล่ให้กลับ เขาก็กลับออกไป พิมจึงเดินไปส่งเขา จากนั้นเธอก็หมุนตัวกลับเข้ามาในบ้านอย่าง กล้าๆกลัวๆ เตชินนั่งรอพิมออกไปส่งนาวินบนโซฟา พอเห็นเธอเดินกลับเข้ามา จึงเอ่ยขึ้น " คุณช่วยประคองผมขึ้นห้องหน่อย " พิมไม่เข้าใกล้เตชินและยังปฏิเสธที่จะพาเขาขึ้นห้องแบบอ้อมๆ " คุณตัวใหญ่ขนาดนั้นแถมยังเมาตัวอ่อนปวกเปียกอีก ฉันประคองคุณไม่ไหวหรอก คืนนี้คุณนอนบนโซฟาในห้องนี้ก่อนมั้ย รอให้คุณสร่างเมาแล้ว ค่อยเดินกลับขึ้นห้อง " เตชินได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยขึ้น " คุณกลัวผมจะทำอะไรคุณหรือไง " พิมยืนนิ่ง มองต่ำอย่างเย็นชา แล้วเอ่ยออกมาตรงๆว่า " ใช่ค่ะ " เตชินเดินเข้าไปจับมือเธอแล้วเอ่ย " ผมบอกแล้วไง ว่าผมจะไม่ทำอะไรคุณอีก จนกว่าคุณจะเต็มใจ ยอมผมเอง " คำพูดและน้ำเสียงของเขาไม่เหมือนคนเมาจนทำให้พิมตกใจ เธอจึงเอ่ยถามขึ้น " นี่คุณไม่ได้เมาเหรอ " เตชินจึงอุ้มพิมขึ้นมาแล้วเดินขึ้บบันไดไปพร้อมกับเอ่ย " ต่อให้ผมเมามากแค่ไหน ผมก็อุ้มคุณได้สบาย ถ้าไม่อยากตก ห้ามดิ้นเข้าใจมั้ย " จากนั้นเขาก็เปิดประตูแล้วเดินเข้าไปในห้อง ค่อยๆวางพิมให้นั่งลงบนเตียง แล้วเอ่ยเสียงแผ่วทุ้มและอ่อนโยนที่สุด " คุณนอนเถอะ ไม่ต้องกังวลว่าผมจะขืนใจคุณ ผมจะไปอาบน้ำแล้ว ถ้าคุณไม่อยากให้ผมนอนด้วย ผมจะไปนอนโซฟาในห้องทำงานเอา " เอ่ยจบเข้าก็ไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าไป อาบน้ำทันที ได้ยินดังนั้นพิมรู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย จากนั้นเธอก็ไปหยิบผ้าห่มกับหมอนและหมอนข้าง เอาไปวางไว้ให้เขาบนโซฟา ในห้องทำงานของเขา ซึ่งห้องทำงานกับห้องนอนของเตชินนั้นเชื่อมติดกัน มีเพียงกระจกใสๆกั้นอยู่ สามารถมองเห็นกันและกันได้ถ้าไม่ปิดม่าน จากนั้นเธอก็กลับมานอนลงบนเตียงพยายามหลับตา แกล้งทำเป็นหลับ แต่หูกลับตั้งใจฟังเสียงน้ำที่ไหลจากฝักบัว ในห้องน้ำตลอด เพราะเธอไม่เชื่อคำพูดของเตชินแล้ว เตชินอาบน้ำเสร็จ ก็เดินออกมาจากห้องน้ำ นุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวปกปิดช่วงล่างไว้ แล้วยืนเช็ดผม สายตาจับจ้องบนตัวคนที่นอนอยู่บนเตียง เขารู้ว่าพิมแกล้งหลับ จากนั้นเขาก็หันไปมองยังห้องทำงาน เห็นผ้าห่มกับหมอนวางอยู่ จึงเดินไปเป่าผม และเปลี่ยนเป็นใส่ชุดนอน จากนั้นก็เดินเข้ามาหาพิมที่นอนหันหลังให้ เขาจึงเข้าไปโอบกอดเธอเบาๆแล้วก้มลงไปจูบหน้าผากเธออย่างนุ่มนวล พิมที่แกล้งหลับเกือบจะตัวแข็งทื่อแล้ว แต่เธอก็แกล้งหลับต่อไป จากนั้นเตชินก็เอ่ยขึ้น " หลับฝันดีนะ อย่ากังวลไปเลย ผมจะไม่บังคับฝืนใจคุณแล้ว " เอ่ยจบเขายื่นมือไปปิดไฟที่หัวเตียงให้พิม แล้วลุกออกจากเตียง เดินไปนอนบนโซฟาในห้องทำงาน เมื่อในห้องมืดสนิทลง พิมลุกขึ้นมานั่ง ค่อยๆพ่นลมหายใจออกมา มองไปยังห้องทำงานที่เตชินนอนอยู่แล้วพึมพำออกมาในใจ [ ใจหายใจคว่ำหมด หลับฝันดีกับผีสิ คำพูดนายมันเชื่อได้ที่ไหนล่ะ ] ในวันรุ่งขึ้น พิมตื่นแต่เช้า เธอรู้สึกไม่สดชื่น ดวงตาไม่สดใสเหมือนเคย และลืมตาแทบไม่ขึ้น เธอจึงไปล้างหน้า แปรงฟัน เพื่อให้ตัวเองรู้สึกสดชื่นขึ้นมาหน่อย จากนั้นก็เดินเธอออกจากห้อง แล้วลงไปชั้นล่าง ด้วยชุดนอนสีพีช พอเธอเห็นเตชินที่นั่งทานโจ๊กอยู่ ก็ตกใจรีบหมุนตัวหันหลังกลับขึ้นไปชั้นบน เตชินจึงเอ่ยหยุดเธอไว้ " คุณจะไปไหน มานั่งนี่ " เธอค่อยๆหันไปทางเขาแล้วเอ่ย " ฉันจะไปเปลี่ยนชุดก่อน " " ไม่ต้อง มานั่งทานข้าวกับผม เร็วๆ " คำพูดและน้ำเสียงของเตชินมีความน่าเกรงขามจนพิมไม่กล้าขัดใจ เธอเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆเขา เขาจึงหันไปเอ่ยกับป้าใจว่า " ป้าช่วยเตรียมอาหารเช้าให้คุณพิมหน่อยครับ " " ค่ะ " ป้าใจเอ่ยตอบแล้วเดินเข้าไปในครัว ยกโจ๊กออกมาตักให้พิม เตชินมองใบหน้าพิมแล้วเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนลงระคนเอาใจใส่ " เมื่อคืนคุณไม่ได้หลับหรือไง หน้าบวม ตาบวม ดวงตาดูไม่สดใสเลย นอนไม่หลับเหรอ " พิมก้มหน้าทานข้าว แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบโดยไม่หันไปมองเขา ใบหน้าเธอดูสงบนิ่ง " คุณเตชินสายตาดีมากเลยนะคะ ช่างสังเกตจริงๆ หน้าอยู่บนตัวฉันฉันยังไม่สังเกตขนาดนั้นเลย " คำพูดของเธอแม้จะราบเรียบแต่มันแฝงไปด้วยกับเหน็บแนม แต่เตชินกลับไม่รู้สึกโกรธอะไร แล้วเอ่ยว่า " หน้าของคุณ เป็นของผม ผมก็ต้องคอยสังเกตเป็นธรรมดา ถ้าคุณให้คนอื่นมาสังเกตแทนผม ผมคงยอมไม่ได้ " เตชินออกตัวแรง แสดงความเป็นเจ้าของ ที่หวงแหนของของตัวเองอย่างชัดเจน จนทำให้พิมเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง อย่างไม่ชอบใจ ในการแสดงออกของเตชิน แล้วเธอก็เอ่ยอย่างไร้อารมณ์ว่า " คุณอยากพูดอะไรก็พูดเลย ยังไงฉันก็ไม่มีวันเป็นของของคุณเด็ดขาด " ได้ยินดังนั้นเตชินก็เงียบไป แววตาคมกริบจับจ้องลงบนใบหน้างามอย่างเงียบๆแล้วพึมพำในใจ [ ทำไมคุณถึงไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นนะ ภายในหนึ่งเดือนนี้ ถ้าคุณยังดื้อรั้น ใจแข็ง ไม่ยอมเป็นของผมอีก ผมอาจจะต้องใช้วิธีสกปรกกับคุณแล้ว ] เมื่อทานข้าวอิ่มพิมจึงเอ่ยว่า " วันนี้ฉันขอออกไปข้างนอกนะ " เตชินจึงเอ่ยว่า " ได้สิ วันนี้ผมว่างพอดี คุณอยากไปไหน ผมจะไปส่ง " เธอจึงรีบปฏิเสธขึ้นทันทีว่า " ไม่เป็นไรค่ะ คุณพักผ่อนที่บ้านเถอะ ฉันอยากไปคนเดียว " เมื่อเธอบอกว่าอยากไปคนเดียว เขาจึงเอ่ยออกมา ด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดวางอำนาจอย่างเผด็จการ " คุณจำที่ผมบอกไม่ได้แล้วเหรอ ช่วงนี้ผมไม่อนุญาตให้คุณไปไหนมาไหนคนเดียว และไม่อนุญาตให้คุณเจอเพื่อนผู้ชาย คุณอยากไปไหนขอให้บอก ผมจะไปส่ง ถ้าผมไม่ว่าหรือไม่อยู่ก็จะเป็นหน้าที่ของผู้ช่วยคังในการรับส่งคุณ " พิมถอนหายใจออกมา เธอโมโหตัวเองที่โลภจนถูกขังอยู่ในกรงทองและขาดอิสระแบบนี้ เธอมองเตชินอย่างเงียบๆโดยที่ไม่เอ่ยอะไร เธอเริ่มสงสัยแล้วว่า ใบทะเบียนสมรสเขาก็ได้แล้ว แล้วทำไมยังต้องควบคุมเธอ ราวกับกลัวเธอจะหนีไป ที่น่าสงสัยที่สุดคือ ทำไมถึงห้ามไม่ให้เธอพบเฉพาะเพื่อนผู้ชาย และยังมีการระบุชัดเจนว่าช่วงนี้ เธอจึงเอ่ยถามขึ้น " คุณบอกว่าช่วงนี้ ไม่ให้ฉันไปไหนมาไหน คนเดียวไม่ให้พบเพื่อนผู้ชาย งั้นแสดงว่าถ้าผ่านช่วงนี้ไปคุณก็จะปล่อยฉันเป็นอิสระใช่มั้ย " เตชินรู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังวิเคราะห์คำพูดของเขาอยู่ เขาจึงเอ่ยตอบไปว่า " อิสระของคุณเป็นยังไง ตอนนี้คุณไม่มีอิสระตรงไหนล่ะ คุณก็ใช้ชีวิตได้ปกติ เพิ่มเติมก็แค่ การที่คุณไปไหนมีคนไปเป็นเพื่อน กับไม่ให้คุณพบเพศตรงข้ามก็เท่านั้นเอง " พิมจ้องเข้าไปในดวงตาเตชินแล้วเอ่ยถามอย่างจริงจังตรงไปตรงมา " ทำไมถึงไม่ให้ฉันเจอเพื่อนผู้ชาย คุณกลัวอะไร " พอถามคำถามนี้ออกไป เธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้ บวกกับเตชินพยายามจะมีอะไรกับเธอตลอด เมื่อเอาทั้งสามเรื่องมาเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน เธอรู้สึกตระหนกขึ้นมาในใจทันที แล้วเอ่ยถามต่อไปว่า " คุณคงไม่กลัวว่าฉันจะไปท้องกับผู้ชายคนอื่นหรอกใช่มั้ย ถึงไม่ให้ฉันพบเพื่อนผู้ช่วย " เตชินยิ้มแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแฝงความหมายเป็นนัยชัดจน " คุณฉลาดขนาดนั้น คุณคิดว่าไงล่ะ ? " ได้ยินดังนั้นก็ทำให้เธอมั่นใจและชัดเจนในคำตอบเป็นนัยของเขา เธอมองเขาด้วยแววตาสงบนิ่งแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย " คุณเจ้าเล่ห์และฉลาดแกมโกงสมกับเป็นผู้บริหารระดับสูงจริงๆ บทเรียนของฉันในครั้งนี้แพงจริงๆ ขอบคุณที่ทำให้ฉันรู้ว่า จิตใจมนุษย์นั้น ยากแท้ หยั่งถึง ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะฉันโลภและโง่เอง " เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันตัวเอง น้ำตาคลอหน่วย โมโหตัวเองที่ซื่อเกินไป จากนั้นเธอก็เดินขึ้นไปข้างบน ร้องให้ออกมาด้วยความรู้สึกเสียใจ และหลากหลายความรู้สึกจนเกินกว่าจะบรรยายออกมาหมด ที่เสียท่าขายตัวเองให้เตชินแลกเงินและยังต้องอุ้มท้องเด็กโดยไม่เต็มใจ นอกจากเสียใจแล้ว ก็มีความรู้สึกตระหนกนี้แหละที่ชัดเจน เธอไม่อยากทำเรื่องผิดพลาดที่สุดในชีวิต แล้วเธอจะทำยังไง ในเมื่อเธออยู่ในเงื้อมมือเขาแบบนี้เตชินนั่งอึ้ง มองตามหลังพิมที่วิ่งขึ้นไปข้างบนด้วยความรู้สึกผิดที่ผ่านเข้ามาในอก แต่แค่แวบเดียวเขาก็สลัดความรู้สึกที่ทำให้เขาทุกข์นั้นทิ้งไปเขาทำอะไรมีเป้าหมายเสมอ เขาจะไม่ใจอ่อน เพียงเพราะความรู้สึกส่วนตัว จนทำให้เสียงานเด็ดขาดจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนเดินออกจากโต๊ะอาหารแล้วเดินขึ้นไปชั้นบน เพื่อไปดูพิมเขายื่นมือไปเปิดประตู แล้วเดินเข้าไปหาพิมที่นั่งร้องให้อยู่บนเตียงเมื่อยืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้วเขาจึงเอ่ยออกมาอย่างคนไร้อารมณ์ความรู้สึกว่า" ในเมื่อคุณรู้หมดแล้ว ผมขอแนะนำขอให้คุณรีบทำให้ตัวเองท้องให้ไวที่สุด พอคุณคลอดลูกออกมา คุณก็จะได้รับอิสระ กลับไปใช้ชีวิตของคุณต่อไป "พิมมองเขาด้วยแววตาแข็งกร้าว เธออยากจะตบหน้าเขาแรงๆ อยากจะเอามีดแทงเข้าไปในหัวใจของเขาจนแทบจะทนไม่ไหวอยากจะผ่าอกเขาดู ว่าเขามีหัวใจหรือเปล่า หัวใจเขาทำด้วยอะไรกันแน่ ถึงได้เลือดเย็นไร้หัวใจเช่นนี้เธอโกรธจนกำมือแน่น จนมือสั่นและขาวซีดไปหมด น้ำตาที่ไหลอาบแก้มนั้น ร้อนจนจะลวกคนได้สักพักเธอค่อยๆคลายอารมณ์โกรธที่มีอยู่เต็มอกและคลายมือออกเพื่อให้จิตใจตัวเองผ่อนคลาย ไม่ให้ถูกความโกรธครอบงำจิตใจจนขาดสติ จนเผยความคิดทุ
เตชินขับรถพาพิมออกมาจากบ้านระหว่างทางพิมนั่งเงียบตลอดเตชินก็ขับรถไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมายปลายทาง พิมที่นั่งข้างๆก็ยังไม่บอกเขาสักทีว่าจะไปไหน สุดท้ายเขาจึงหันมาเอ่ยถามพิมว่า" คุณคิดได้หรือยังว่าจะไปที่ไหน "พิมนั่งกอดอก ทำท่าครุ่นคิดสักพัก จึงหันไปมองเตชินแล้วเอ่ย" อืม...ยังคิดไม่ออกอ่ะ คุณขับไปเรื่อยๆก่อนได้มั้ย ถ้าคิดออกแล้วจะบอก "ได้ยินเธอพูดดังนั้นเขาจึงเอ่ย" เราขับรถออกมาได้ชั่วโมงหนึ่งแล้วนะ คุณยังคิดไม่ออกอีกเหรอ ว่าอยากไปที่ไหน "พิมหันกลับมา ทอดสายตามองตรงไปข้างหน้าแล้วเอ่ย" งั้นคุณก็ขับรถพาฉันเที่ยวชมกรุงเทพละกัน ตั้งแต่ที่ฉันมาถึงกรุงเทพ ฉันยังไม่เคยออกไปไหนเลย ฉันอยากจะนั่งรถชมวิวชมทิวทัศน์รอบเมืองหลวงอย่างเพลินๆสักหน่อย "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หันหน้ากลับไป มองตรงไปบนถนนข้างหน้าสองมือจับพวงมาลัยขับอย่างชำนาญ แล้วเอ่ย" ได้ ผมจะพาคุณขึ้นบนทางด่วน คุณจะได้เห็นทิวทัศน์ในเมืองกรุงอย่างชัดเจน "เอ่ยจบเตชินก็ขับขึ้นบนทางด่วนแล้วขับต่อไปเรื่อยๆ ขับไปตามสถานที่ต่างๆพร้อมกับแนะนำสถานที่ต่างๆให้พิมได้รู้จักแล้วอยู่ๆพิมก็ทำหน้าบิดเบี้ยวคล้ายกับมีอาการเจ็บนั่งตัวเกรงคล้า
ในเช้าวันต่อมา เตชินตื่นขึ้นมาแต่เช้า เมื่อทำกิจวัตรประจำวันเสร็จเขาก็เดินออกจากห้อง ลงไปชั้นล่างแล้วเดินเข้าไปในห้องครัวหยิบผ้ากันเปื้อนมาสวม แล้วไปเปิดดูของที่มีในตู้เย็น หยิบเนื้อปูกับกุ้งและผักขึ้นฉ่ายออกมา(คื่นไฉ่)แล้วเริ่มตั้งหม้อ หั่นผักขึ้นฉ่าย เพื่อที่จะทำข้าวต้มให้พิม จากนั้นเขาก็เอาขิงจากในตู้เย็นมาซอย หั่นเป็นชิ้นเล็กๆพอทำเสร็จ ก็ตักข้าวต้มใส่ชาม วางลงในถาด หยิบช้อนกับน้ำดื่มที่ไม่ได้แช่เย็นวางลงข้างๆชามข้าวต้มจากนั้นก็ถอดผ้ากันเปื้อนออก แล้วยกถาดเดินขึ้นบันไดกลับไปที่ห้องพอถึงหน้าห้องก็ยื่นมือไปเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องนำถาดไปวางลงบนโต๊ะในห้องทำงานแล้วเอ่ยกับพิมที่หลับอยู่ว่า" พิม ข้าวต้มอยู่บนโต๊ะ ตื่นมาอย่าลืมทานข้าวทานยาล่ะ "จากนั้นเขาก็เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินมาที่เตียงแล้วก้มลงจูบหน้าผากพิมอย่างนุ่มนวลจากนั้นก็มองไปที่ริมฝีปากอวบอิ่มแล้วจูบลงไปเบาๆอย่างทะนุถนอมแต่พิมกลับหลับสนิท ไม่รู้สึกตัว เพราะเธอไม่ยอมหลับทั้งคืนมัวแต่กังวลกลัวเตชินจะมาล่วงเกินเธอในเวลาที่เธอเผลอหลับแต่เธอดันลืมไปว่า เธอแกล้งเป็นเมนส์อยู่แท้จริงแล้วแค
เตชินกลับเข้ามาในบ้าน เห็นพิมนั่งทานข้าวอยู่จึงเดินเข้ามาเธอแล้วเอ่ย" ตื่นแล้วเหรอ ดีขึ้นบ้างมั้ย "พิมหันไปมองเขาแล้วเอ่ยตอบ" ดีขึ้นแล้วค่ะ "" อืม ดีแล้ว ผมขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ "" ค่ะ "เอ่ยจบเตชินก็หมุนตัวเดินขึ้นบันไดไป พิมหันมาสนใจข้าวตรงหน้าแล้วตักเข้าปากต่อไปพอทานข้าวเสร็จเธอก็ดื่มน้ำตามปกติ แล้วลุกจากเก้าอี้เดินมานั่งในห้องนั่งเล่นแล้วเปิดทีวีดู เตชินเดินลงบันไดมาเห็นพิมนั่งดูทีวีอยู่ จึงเข้ามาหาเธอแล้วนั่งลงข้างๆเธอ จากนั้นก็ยื่นมือไปโอบไหล่เธอ เธอพยายามกระเถิบหนีห่าง แล้วเอ่ยเสียงเย็น" คุณเตชิน กรุณาเก็บมือดีๆค่ะ "เตชินเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอย่างสุขุมน้ำเสียงแฝงไปด้วยการหยอกเย้า" แค่โอบไหล่ภรรยาก็ไม่ได้เหรอ "ได้ยินดังนั้นพิมมองตาเขียวใส่เขาอย่างไม่พอใจในคำพูดของเขา แล้วเอ่ย" คุณเตชิน ฉันเป็นภรรยาคุณหรือเปล่าคุณรู้ดี "เตชินเก็บมือกลับมาแล้วเอ่ยถามอย่างจริงจังคล้ายใส่ใจเธอมาก" วันนี้คุณอยากไปไหนมั้ย "พิมหันมาสนใจรายการทีวีต่อพร้อมกับเอ่ยอย่างเย็นชา" ไม่ค่ะ "เตชินจึงเอ่ยต่อว่า" งั้นผมไปข้างนอกนะ วันนี้อากาศเย็น คุณอยู่บ้านก็รีบเข้านอนไวๆหน่อยนะ "ได้ยินดัง
เตชินขับรถกลับมาด้วยอารมณ์ที่ยากจะอธิบายเขาไม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นอะไร ที่อยู่ๆก็รู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับป๊อบทั้งที่ก่อนหน้านี้ ก็เคยเจอกันแล้ว แต่ก็ไม่มีความรู้สึกนี้เกิดขึ้นพิมนั่งบนโซฟาตัวใหญ่ ดูซีรีส์จีนเรื่อง ฉู่เฉียวจอมใจจราชน เธอชอบจ้าวลี่อิงมากๆ เธอเอาผ้าห่ม มาห่ม นั่งดูซีรี่ส์คนเดียวอย่างเพลินๆ พอถึงฉากดราม่า เธออินจนร้องให้ไม่หยุด ดูไปร้องให้ไปหยิบทิชชูขึ้นมาซับน้ำตา แต่น้ำตาเธอกลับไม่มีทีท่าว่าหยุดไหลเลยเธอนั่งร้องให้คนเดียวในห้อง ที่มีเพียงแสงสลัวจากหลอดไฟดวงเล็กๆบนเพดานคอยเป็นเพื่อนรับฟังเสียงร้องให้สะอื้นของเธอท่ามกลางความืดที่ให้บรรยากาศคล้ายโรงหนังเตชินเดินกลับเข้ามาในบ้าน ได้ยินเสียงร้องให้ของเธอก็ตกใจรีบเดินเข้าไปหาเธอแล้วเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงอย่างร้อนใจ" พิม คุณร้องให้ทำไม เจ็บตรงไหนอีก "พิมทั้งตกใจ ทั้งเคอะเขิน ความฟินความอินถูกทำลายลงด้วยตัวและเสียงของเตชิน เธอรีบปาดน้ำตาทิ้งอย่างไว ทำตัวไม่ถูก ที่ถูกคนอื่นเห็นตอนร้องให้เพราะอินกับซีรี่ส์แต่เธอจะให้เตชินรู้ว่าเธอร้องให้เพราะซีรี่ส์ไม่ได้ เธอจึงเอ่ยด้วยสีหน้านิ่ง ตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จ" ฉัน...ฉันค
หลายวันต่อมา ด้วยความที่ไตรภพและนาวินอยากจะมาทำความรู้จักกับพิมให้มากขึ้นเพราะพวกเขาคิดว่าพิมคือผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้เตชินทิ้งพวกเขาได้และเป็นผู้หญิงคนแรกที่เตชินดูเป็นห่วงเป็นใยเป็นพิเศษพวกเขาจึงโทรหาเตชินแล้วนัดกันขอไปปาร์ตี้บ้านเตเชินเตชินเองก็ไม่ขัดอะไร ให้เพื่อนมาปาร์ตี้ มาดื่มเหมือนอย่างเคยๆในตอนเช้าของวันปาร์ตี้เตชินเอ่ยบอกกับพิมว่า" วันนี้เย็นๆเพื่อนผมจะมา คุณแต่งตัวให้มิดชิดหน่อยนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ย" ทำไม ฉันต้องฟังคุณด้วย อีกอย่างฉันอยู่แค่ในห้อง ไม่ได้ออกไปไหนสักหน่อย จะแต่งมิดชิดไปทำไม อ้อ จริงสิ ฉันเคยแต่งตัวไม่มิดชิดด้วยเหรอ ก็ไม่เคยหนิ "เตชินใช้สายตาสำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วเอ่ย" ไม่เคยก็ดีแล้ว ผมไปทำงานก่อนนะ "เอ่ยจบเขาก็จับหัวพิมแล้วจูบหน้าผากของเธอเบาๆอย่างไวจากนั้น ก็เดินออกจากห้องไป ทำเอาพิมเหวอไปเลยและเริ่มรู้สึกสับสนกับสถานะที่เป็นอยู่เธอรู้สึกว่านับวันเธอและเขาเหมือนสามีภรรยากันจริงๆเข้าไปทุกทีแม้เธอจะไม่มีประสบการณ์ด้านความรักมาก่อน แต่เธอก็รู้สึกได้ว่าชีวิตเธอเหมือนจะเปลี่ยนไป มีอีกหนึ่งชีวิตเข้ามาวุ่นวายในชีวิตเธอจากที่นอนคนเดียวมาตลอ
ป้าใจเห็นทั้งสองจับมือกันดูสนิทสนมเกินกว่าคนเคยรู้จักทั่วไป จึงเดินเข้าไปแสดงตัวแล้วเอ่ย" คุณพิมคะ ไปส่งป้าเข้าห้องน้ำหน่อยได้มั้ยคะ "พิมจึงเอ่ยว่า" ได้ค่ะ "จากนั้นเธอก็หันไปเอ่ยกับป๊อบว่า" ฉันไปส่งป้าใจเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ "" ครับ "ป๊อบเอ่ยตอบ พิมลุกขึ้นเดินไปส่งป้าใจ แล้วเสียงแจ้งเตือนข้อความในโทรศัพท์ของป๊อบก็ดังขึ้นป๊อบเปิดดูข้อความจากผู้เป็นแม่ ( ป๊อบลูกอยู่ไหน คุณพ่อไม่สบาย รีบกลับมาด่วน )เขามองแผ่นหลังของพิมที่ไกลออกไป จากนั้นก็วิ่งไปหาเธอด้วยสีหน้าร้อนใจ แล้วเอ่ย" พิม ผมขอกลับก่อนนะ ผมมีธุระด่วนต้องไปทำน่ะ "พิมจึงเอ่ยตอบว่า" ได้ค่ะ "จากนั้นเขาก็หมุนตัวเดินกลับไปที่รถด้วยความรีบร้อน แล้วขับรถออกไปพิมรอป้าใจอยู่หน้าห้องน้ำ พอป้าใจเข้าห้องน้ำเสร็จ ทั้งสองก็เดินออกไปหาอะไรทานในศูนย์อาหารทั้งสองนั่งทานข้าวกันอย่างเพลินๆเตชินออกมาจากบริษัทก่อนเวลาเลิกงานแล้วมาหาพิมที่สวนสาธารณะแห่งนี้ เมื่อมาถึงก็เห็นพิมนั่งปั่นเป็ดเพลินๆอยู่คนเดียวกลางน้ำส่วนป้าใจก็นั่งรอเธอที่ให้ต้นไม้ใหญ่ เตชินจึงเดินเข้าไปแล้วปั่นเป็ดไปหาพิม จากนั้นก็เอ่ยว่า" ผมมารับคุณกลับบ้านแล้วครับ "พิม
พิมเข้าไปร้องให้ในห้องน้ำอย่างเงียบๆ เธอไม่คิดว่าเตชินจะพูดเรื่องที่จดทะเบียนต่อหน้าทุกคนจนทำให้ป๊อบเข้าใจผิดแสดงท่าทีเย็นชาออกมาแบบนั้นเธอไม่รู้ว่าเตชินคิดจะทำอะไรอีก ที่อยู่ๆก็ประกาศว่าเธอคือภรรยาเขาอย่างเต็มปากเต็มคำจนทำให้สีหน้าของป๊อบเปลี่ยนไปเธอคิดว่าป๊อบคงโกรธ เกลียดเธอแล้วแน่ๆ[ หรือว่าเขาจะรู้เรื่องของเรากับคุณป๊อบ ]เธอเริ่มสงสัยแล้วพึมพำในใจ จากนั้นเธอก็ล้างหน้าล้างตาแล้วเดินออกจากห้องน้ำป๊อบยืนรอคุยกับเธออยู่หน้าห้องน้ำได้สักพักแล้ว เขาได้ยินเสียงเธอร้องให้ชัดเจนพอเธอเปิดประตูห้องน้ำออกมา เขาก็จับแขนเธอไว้แล้วเอ่ยถามด้วยอาการเมานิดๆ" พิม ที่เตชินพูดมันไม่เป็นความจริงใช่มั้ย "พิมได้แต่เงียบไม่เอ่ยอะไรออกมาเพราะเธอมึนตึ๊บไปหมดแล้วแต่การเงียบของพิมเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุดป๊อบจึงเอ่ยถามต่อว่า" เพราะแบบนี้ใช่มั้ย คุณถึงให้ผมรอ พิมคุณบอกผมมาเถอะมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆคุณถึงไปจดทะเบียนสมรสกับเขา "พิมเงยหน้ามองป๊อบทั้งน้ำตา เธอจะบอกเขาได้ยังไง ว่าเธอจดทะเบียนเพราะเงินป๊อบก็พอจะเดาได้ว่าอาจจะเป็นเพราะเงินจำนวนมากถึงทำให้พิมจดทะเบียนสมรสได้ เขาจึงเอ่ยถามขึ้น" เพราะเ
พิมที่มีอาการมึนๆ แทบจะไม่มีแรงแล้ว เธอรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีใช้เท้าถีบสองคนนั้นออกไปแล้วแบกร่างที่สายตาเริ่มพร่ามัวหัวหมุนจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เดินสะเปะสะปะออกไป มือเรียวเล็กยังไม่ทันได้สัมผัสลูกบิดประตู ชายหนุ่มก็มารวบตัวเธอแล้วอุ้มกลับมาอย่างสบายๆเพราะเธอตัวเล็ก" ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! "เสียงตะโกนแผ่วเบา ร้องเรียกให้คนช่วย แต่โชคร้ายที่ห้องพวกนี้เป็นห้องเก็บเสียงต่อให้เธอตะโกนเสียงดัง ก็ไม่มีใครได้ยิน ชายหนุ่มทิ้งเธอลงบนเตียง มองเธอด้วยสายตาหื่นกามชายหนุ่มหันไปเอ่ยกับเพื่อนว่า" เดี๋ยวมึงคอยถ่ายวีดีโอให้กูก่อน เสร็จแล้วกูจะถ่ายให้มึง "ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยว่า" ทำไมมึงไม่ตั้งกล้องเอาวะ "" ตั้งกล้องมันจะไปเห็นทุกมุมได้ไงวะ สาวน้อยคนนี้ งานดี ดูสดใหม่ สวยตั้งแต่หัวจรดเท้า ต้องถ่ายให้ได้ครบทุกมุมเว้ย งานดีเงินดีมึงจำไม่ได้หรือไง "" เออๆ ได้กูจะถ่ายให้มึงก่อน "พิมได้ยินชัด ทุกถ้อยคำหยาบคายและน่ารังเกียจ น่าขยะแขยงพวกนั้นสติเธอเริ่มเลือนลาง เธอกลัวจนน้ำตาไหลพราก[ คุณเตชิน ถ้าฉันเป็นอะไรไป ล้วนเป็นเพราะคุณ ฉันจะจดจำคุณไว้ชั่วชีวิตจะไม่มีวันลืมคุณแน่นอน ]แม้เธอจะรู้สึกโกรธแค้นเ
ข้อเท้าบวมเป่ง แข้งขาและหัวเข่าถลอก จนเลือดสีแดงสดซึมออกมา ตามรอยแผลสดเธอไม่สนใจ วิ่งตามต่อไป จนรถของเตชินลับสายตาไป สุดท้ายความเร็วในการวิ่งของคนก็แพ้ให้กับรถหรูที่แล่นไปอย่างรวดเร็วรถของเตชินหายเข้าไปท่ามกลางความืดมิดเหลือไว้เพียงความว่างเปล่าเธอยืนอยู่ท่ามกลางสถานที่อโคจร ผู้คนพลุกพล่านมากหน้าหลายตาเธอรู้สึกหวิววูบขึ้นมาในใจ เมื่อรู้ว่าถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวในที่แบบนี้ในช่วงค่ำคืนแล้วจริงๆเธอได้แต่ยืนร้องให้ ใบหน้าเปื้อนไปด้วยน้ำตาราวกับเด็ก มองไปรอบๆไม่ว่าจะทางไหนใจเธอก็สั่นกลัวไปหมดสายตาทอดมองไปตามทางที่เตชินขับรถออกไป เธอไม่รู้จะเดินไปทางไหนแล้วตอนนี้เพราะเธอจำทางกลับบ้านไม่ได้ แถมเจ้าของบ้านก็มาทอดทิ้งเธอไว้อีกทำราวกับเธอเป็นสัตว์เลี้ยง ที่เจ้าของไม่ต้องการตัดหางแล้วปล่อยไป(ตัดหางปล่อยวัด)เธอยืนร้องให้แล้วบ่นพึมพำด้วยน้ำเสียงสั่นสะอื้นด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณเห็นฉันเป็นตัวอะไร คิดจะทิ้งก็ทิ้งไปเลยแบบนี้เหรอ จิตใจคุณทำด้วยอะไร ถึงทิ้งฉันไว้ในที่อโคจรแบบนี้ได้ลงคอ ฮือ... "เธอเดินไปตามทางด้วยเท้าเปล่าเนื้อตัวถลอกสภาพคล้ายคนเมา ผู้คนที่เดินผ่านไปมามองเธอด้วยสายตา
สิ่งที่เตชินเกลียดที่สุดคือการใช้ยาพวกนี้กับเขาเขาผละเธอออกจากตัวแล้วบีบไหล่เธอแน่นพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเดือดดาล" คุณบอกผมมา คุณเอายาบ้าๆนี่มาจากไหน "ตัวพิมสั่นเทาเทาแววตาสั่นไหวด้วยความกลัวแล้วเอ่ย" ฉัน ฉันเห็นในกระเป๋าเสื้อของคุณ "เธอที่ไม่รู้เรื่องอะไรมองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาและคิดว่าเตชินคงใช้เป็นปกติในชีวิตประจำได้ยินดังนั้นเตชินได้แต่ผลักเธออกไปแล้วเคลื่อนมือมาเท้าเอวหันไปมองทางอื่นด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความเดือดดาลแล้วเอ่ย" คุณรู้ได้ยังไงว่ามันคือยาปลุกเซ็กซ์ "" ฉันศึกษาจากในเว็บไซต์ "" คุณเลยคิดที่จะมามอมผมกับผู้หญิงคนอื่น "เธอรู้ว่าเตชินโกรธมาก เธอกลัวจนไม่รู้จะทำยังไงแล้วจึงเข้าไปกอดเขาแน่นอีกครั้ง เพราะเธอไม่กล้าเผชิญหน้ากับแววตาดุดันคู่นั้นของเขาแล้ว" ฉันขอโทษ ฉันบอกแล้วว่าฉันสำนึกผิดแล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะเกลียดมันขนาดนี้ เป็นเพราะฉันเข้าใจผิดที่คิดว่าคุณใช้ประจำ ฉันสัญญาจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกฉันขอโทษ "แม้เธอจะเอ่ยขอโทษ สำนึกผิด ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแต่คำเหล่านั้นเธอไม่ได้เอ่ยออกมาจากใจ ไม่มีความจริงใจเลยสักนิด เป็นเพียงการเอาตัวรอดเท่านั้น
เธอออกมาข้างนอกนั่งได้สักพัก คิดว่ายาคงออกฤทธิ์แล้ว เธอจึงเดินกลับเข้าไปในห้องก็เห็นเตชินผลักผู้หญิงคนนั้นลงบนพื้นอย่างแรงด้วยท่าทางรังเกียจเธอตกใจที่เตชินไม่เป็นอะไรเลย มีแต่ผู้หญิงคนนั้นที่ดูอาการหนักดูแล้วฤทธิ์ยาคงแรงน่าดูผู้หญิงคนนั้นยังลุกขึ้นมาเกาะแกะเตชินพร้อมกับเอ่ย" คุณเตชินช่วยฉันที ฉันต้องการคุณ "เตชินโมโหจนเลือดขึ้นหน้า แววตาดุร้ายราวกับปีศาจมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างขยะแขยงแล้วง้างมือขึ้นจะตบเธอพิมเข้ามาจับมือเขาไว้แล้วผลักผู้หญิงคนนั้นไปข้างหลังเธอเตชินโกรธจนเกือบจะฆ่าคนได้ มองไปยังผู้หญิงคนนั้นด้วยท่าท่างดุร้ายมีความเกรี้ยวกราดเอ่ยเสียงกร้าวและดุดันราวกับปีศาจกำลังคำราม" ผู้หญิงแพศยา เธอกล้าคิดที่จะวางยาผม! "พิมรู้สึกผิดต่อผู้หญิงคนนั้นมากและรู้สึกกลัวเตชินมากๆเช่นกันเธอไม่เคยเห็นด้านนี้ของเขามาก่อนและไม่คิดว่าเขาจะรังเกียจผู้หญิงคนนี้ขนาดนี้ เธอจึงเอ่ย" คุณเตชิน คุณใจเย็นๆก่อนสิ คุณจะว่าให้เธอแบบนั้นไม่ได้ เพราะคุณเองไม่ใช่เหรอที่ให้เธอเข้ามาเอ็นเตอร์เทนน่ะแล้วเมื่อกี้คุณก็ชอบให้เธอทำเรื่องอย่างว่าไม่ใช่เหรอ เนื้อแนบชิดกันขนาดนั้น จะใช้ยาหรือไม่ใช้ยามัน
เตชินพาพิมออกไปเดินห้างเลือกซื้อเสื้อผ้าสำหรับใส่เดท(ครั้งแรก)คืนแรกของเขากับพิมเธอเข้าไปลองเสื้อผ้าหลายชุด กว่าเตชินจะให้ผ่าน เธอทั้งเหนื่อยและเบื่อแต่สุดท้ายเธอก็ได้ชุดที่เหมาะกับเธอและเป็นชุดที่เธอชอบ แต่เตชินกลับไม่เห็นด้วยที่จะให้เธอซื้อใส่" ไม่ได้ มันสั้นไป แถมยังโชว์ไหล่ โชว์ไหปลาร้าอีก มันดูเซ็กซี่และโป๊ะเกิน เปลี่ยน "แม้จะไม่อยากให้เธอใส่ แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชุดนี้ไม่เข้ากับหุ่นพิมเหมาะกับหุ่นเธอราวกับถูกออกแบบมาเพื่อเธอโดยเฉพาะใบหน้าสวย คอเรียวยาว ไหปลาร้าเซ็กซี่ แขนเรียวสวย อกนูนนิดๆ เอวบาง สะโพกนูนหน่อยๆ เรียวขายาวสวย มีทรวดทรงที่ชัดเจน หุ่นเพอร์เฟค ดูไม่มากเกินไปแต่เขาอยากจะเก็บไว้ชื่นชมคนเดียว เขาหวงของเขาอ่ะนะ ภรรยาเขาสวย หุ่นดี สวยตั้งแต่หัวจรดเท้าแถมยังมีเสน่ห์เสริมให้ดึงดูดเพศตรงข้ามอีกเขายิ่งหวงมากขึ้นไปอีกพิมเริ่มทำหน้าหงิดหน้างอนิดๆแล้วเอ่ย " คุณเตชิน คุณใช้ตาข้างไหนดูว่ามันโป๊ มันเซ็กซี่ ตรงไหน ชุดออกจะน่ารัก สมองคุณมีปัญหาคิดแบบนั้นอยู่คนเดียว "แล้วเธอก็เอ่ยอย่างกระเง้ากระงอดดื้อรั้นพร้อมกับหันไปทางอื่น แล้วเอามือกอดอก ใบหน้าบูดบึ้ง" ไม่รู้ล่ะ
ในเช้าวันต่อมา เตชินรู้สึกตัวขึ้นมา เขาค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ มองไปยังอ้อมแขนที่ว่างเปล่าไร้เงาพิมแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆห้องก็ไม่เห็นเธอ เขาเริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจกลัวเธอจะหนีไปจึงรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปดูที่ห้องน้ำ เปิดประตูเข้าไปก็ไม่เจอพิมใจเขาเริ่มไม่ดี รีบออกจากห้องแล้วลงบันไดไปอย่างรีบร้อนเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่เธออยู่ประจำก็ไม่เจอ จากนั้นเขารีบวิ่งไปดูที่ห้องครัวพอเห็นเธอนั่งทานข้าวเช้าอยู่ เขาเข้าไปกอดเธอจากด้านหลังแล้วเอ่ยอย่างโล่งใจ" พิม คุณอยู่นี่เอง ผมตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอคุณ ผมตกใจหมดเลยรู้มั้ย ทำไมคุณไม่ปลุกผม "พิมเองก็ตกใจที่อยู่ๆเตชินก็วิ่งเข้ามากอดเธอจากด้านหลังแบบนี้ เธอจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า" ทำไมฉันต้องปลุกคุณ วันนี้เป็นวันหยุดคุณไม่ต้องไปทำงานสักหน่อย "" อย่างงั้นก็เถอะ ทีหลังถ้าคุณตื่นก่อนคุณต้องปลุกผมนะ เข้าใจมั้ย "" อืม "เมื่อสบายใจแล้ว เตชินก็เอ่ยต่อว่า" งั้นผมขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ "พิมนั่งนิ่งไม่ตอบอะไร ก้มหน้าทานอาหารเช้าของตัวเองไปเตชินไม่กวนเธออีก ปล่อยมือจากเธอแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องครัวแล้วเดินขึ้นห้องไปพิมนั่งทานข้าว และคิดอะไรคนเดียวเ
พิมนั่งอ่านหนังสือในห้องนั่งเล่นเพลินๆ เตชินกลับเข้ามาในบ้าน ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมถมึงทึงพอพิมเห็นเขาก็ตกใจแล้วเอ่ยขึ้น" วันนี้คุณไม่ไปทำงานเหรอ? "เตชินไม่ตอบแต่คว้าข้อมือพิม แล้วลาก จูงมือของเธอให้ตามเขาขึ้นไปบนห้องพิมตกใจมาก ขณะที่เตชินจูงมือเธอไปข้างหน้าเธอหันหลังกลับมามองผู้ช่วยคังกับป้าใจที่ยืนดูเธอด้วยสีหน้ากังวลเธอใช้สายตาเชิงถามเชิงอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นผู้ช่วยคังรู้และเข้าใจความหมายในสายตาเธอดีแต่เขาช่วยอะไรไม่ได้เขาได้ส่ายหน้าเบาๆประมาณว่าบอกไม่ได้เวลานี้ คุณชายเขาโกรธขนาดนั้น เขาจะกล้าไปยุ่งเรื่องของคนสองคนได้ยังไงพิมหันกลับมามองข้างหน้า เธอไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากนี้เธอพยายามยื้อตัวดึงมือกลับมาให้หลุดพ้นจากมือของเตชินแต่ก็ทำไม่สำเร็จร่างเล็กถูกเตชินฉุดกระชากให้ตามไป เธอแทบจะปลิวได้เลยได้โอกาส เธอจับราวบันไดไว้แน่นแล้วเอ่ย" คุณเตชิน คุณเป็นบ้าอะไร ปล่อยนะ ฉันเจ็บข้อมือ "เตชินไม่พูดพล่ามทำเพลง สีหน้าคุกรุ่นไปด้วยเพลิงโทสะเดินมาแกะมือเธอที่จับราวบันไดแน่นนั้นออกอย่างง่ายดายแล้วเอามือเล็กๆทั้งสองข้างของเธอมาจับรวมกันไว้ด้วยมือใหญ่ของเขาแค่มือเดียวจา
หลังจากคืนปาร์ตี้ เตชินก็ไม่กลับมานอนห้องอีกเลยพิมนอนคนเดียวอย่างสบายใจเฉิ่ม หลับสนิทไปทุกคนคืน ตื่นมาก็รู้สึกสดชื่อนอารมณ์ดีทุกเช้าส่วนเตชิน พิมเองก็ไม่รู้ว่าเขาไปนอนที่ไหน และไม่ได้ถามหรือว่าสนใจเขาเลยผู้ช่วยคังทำหน้าที่กลับมาเอาเสื้อผ้า ชุดทำงานวันต่อวันป้าใจเริ่มเป็นห่วงความสัมพันธ์ของทั้งสอง ในสายตาป้าใจ ตามที่ป้าใจเข้าใจคือ ทั้งสองคือสามีภรรยากันเป็นแบบนี้หลายๆวันเข้า พอป้าใจเจอผู้ช่วยคังกลับมาเอาเสื้อผ้าให้เจ้านาย ป้าใจก็อดทนต่อไม่ไหว จึงเข้าไปถามถึงคุณชายของเขาทันที" คุณคังคะ เอ่อ...อย่าหาว่าป้าอยากสอดรู้สอดเห็นเรื่องของเจ้านายเลยนะคะ เอ่อ...คุณชายไม่กลับมาหลายวันแล้ว ป้าใจไม่ดีเลย คุณชายทะเลาะกับคุณพิมเหรอคะ "ผู้ช่วยคังเองก็ไม่รู้ แต่เขาก็เดาว่าน่าจะทะเลาะกัน แต่คราวนี้เขารู้สึกแปลกที่เจ้านายของเขาโกรธจนหนีไปอยู่โรงแรม แถมสีหน้าดูไม่เป็นมิตรกับโลกมาเป็นอาทิตย์แล้ว รอยยิ้มสักนิดก็ไม่เคยปรากฎให้เห็น[ ทั้งที่ทั้งสองไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วโกรธกันเรื่องอะไร คุณชายถึงกับไม่ยอมกลับมาอยู่บ้าน ทั้งที่อยากรู้ว่าคุณพิมเป็นยังไงก็ไม่กลับมาดูเอง ]ผู้ช่วยคังพึมพำกับตัวเองในใ
พิมเข้าไปร้องให้ในห้องน้ำอย่างเงียบๆ เธอไม่คิดว่าเตชินจะพูดเรื่องที่จดทะเบียนต่อหน้าทุกคนจนทำให้ป๊อบเข้าใจผิดแสดงท่าทีเย็นชาออกมาแบบนั้นเธอไม่รู้ว่าเตชินคิดจะทำอะไรอีก ที่อยู่ๆก็ประกาศว่าเธอคือภรรยาเขาอย่างเต็มปากเต็มคำจนทำให้สีหน้าของป๊อบเปลี่ยนไปเธอคิดว่าป๊อบคงโกรธ เกลียดเธอแล้วแน่ๆ[ หรือว่าเขาจะรู้เรื่องของเรากับคุณป๊อบ ]เธอเริ่มสงสัยแล้วพึมพำในใจ จากนั้นเธอก็ล้างหน้าล้างตาแล้วเดินออกจากห้องน้ำป๊อบยืนรอคุยกับเธออยู่หน้าห้องน้ำได้สักพักแล้ว เขาได้ยินเสียงเธอร้องให้ชัดเจนพอเธอเปิดประตูห้องน้ำออกมา เขาก็จับแขนเธอไว้แล้วเอ่ยถามด้วยอาการเมานิดๆ" พิม ที่เตชินพูดมันไม่เป็นความจริงใช่มั้ย "พิมได้แต่เงียบไม่เอ่ยอะไรออกมาเพราะเธอมึนตึ๊บไปหมดแล้วแต่การเงียบของพิมเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุดป๊อบจึงเอ่ยถามต่อว่า" เพราะแบบนี้ใช่มั้ย คุณถึงให้ผมรอ พิมคุณบอกผมมาเถอะมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆคุณถึงไปจดทะเบียนสมรสกับเขา "พิมเงยหน้ามองป๊อบทั้งน้ำตา เธอจะบอกเขาได้ยังไง ว่าเธอจดทะเบียนเพราะเงินป๊อบก็พอจะเดาได้ว่าอาจจะเป็นเพราะเงินจำนวนมากถึงทำให้พิมจดทะเบียนสมรสได้ เขาจึงเอ่ยถามขึ้น" เพราะเ