พิมนอนบนเตียงใหญ่ที่หนานุ่ม เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะเสียงกริ่ง
แววตาฉายแววหวาดผวาชัดเจน เธอรวบรวมสติ ค่อยๆลงจากเตียงแล้วเดินไปเปิดประตู จากนั้นก็เดินลงไปชั้นล่าง เพื่อไปเปิดประตูหน้าบ้านตามความเคยชิน แต่เธอลืมนึกไปว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในสถานะแม่บ้านแล้ว เมื่อเธอยื่นมือไปเปิดประตูบ้าน ประตูก็ถูกเปิดจากด้านนอกซะก่อน นาวินพยุงตัวเตชินประคองกลับเข้ามาในบ้านอย่างทุลักทุเล พิมเห็นดังนั้นเธอก็ถอยหลังไปทันที เพราะสัญชาตญาณของเธอบอกว่า ไม่ควรเข้าใกล้เตชิน เธอจึงเอ่ยกับนาวินว่า " รบกวนคุณนาวินช่วยพาเขาไปนอนในห้องหน่อยนะคะ " นาวินเห็นว่าพิมดูกลัวๆ เว้นระยะห่างกับเตชิน เขาก็ไม่อยากทำให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งตกใจและลำบากใจ จึงเอ่ยตอบว่า " ได้ครับ " แต่เตชินกลับเอ่ยขึ้นพร้อมกับผลักนาวินออกไปจากตัวเขา " นาย ครับ อะไร ฉันจะกลับขึ้นไปพร้อมพิม นายกลับบ้านไปเลย ไป " นาวินเริ่มสงสัย ในคำพูดของเตชิน [ ทำไมเตชินพูดอย่างกับว่าอยู่ห้องเดียวกันกับพิมเลยวะ คงไม่ใช่หรอก เราคงคิดมากไปเอง ] นาวินสลัดความคิดออกไป เมื่อถูกไล่ให้กลับ เขาก็กลับออกไป พิมจึงเดินไปส่งเขา จากนั้นเธอก็หมุนตัวกลับเข้ามาในบ้านอย่าง กล้าๆกลัวๆ เตชินนั่งรอพิมออกไปส่งนาวินบนโซฟา พอเห็นเธอเดินกลับเข้ามา จึงเอ่ยขึ้น " คุณช่วยประคองผมขึ้นห้องหน่อย " พิมไม่เข้าใกล้เตชินและยังปฏิเสธที่จะพาเขาขึ้นห้องแบบอ้อมๆ " คุณตัวใหญ่ขนาดนั้นแถมยังเมาตัวอ่อนปวกเปียกอีก ฉันประคองคุณไม่ไหวหรอก คืนนี้คุณนอนบนโซฟาในห้องนี้ก่อนมั้ย รอให้คุณสร่างเมาแล้ว ค่อยเดินกลับขึ้นห้อง " เตชินได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยขึ้น " คุณกลัวผมจะทำอะไรคุณหรือไง " พิมยืนนิ่ง มองต่ำอย่างเย็นชา แล้วเอ่ยออกมาตรงๆว่า " ใช่ค่ะ " เตชินเดินเข้าไปจับมือเธอแล้วเอ่ย " ผมบอกแล้วไง ว่าผมจะไม่ทำอะไรคุณอีก จนกว่าคุณจะเต็มใจ ยอมผมเอง " คำพูดและน้ำเสียงของเขาไม่เหมือนคนเมาจนทำให้พิมตกใจ เธอจึงเอ่ยถามขึ้น " นี่คุณไม่ได้เมาเหรอ " เตชินจึงอุ้มพิมขึ้นมาแล้วเดินขึ้บบันไดไปพร้อมกับเอ่ย " ต่อให้ผมเมามากแค่ไหน ผมก็อุ้มคุณได้สบาย ถ้าไม่อยากตก ห้ามดิ้นเข้าใจมั้ย " จากนั้นเขาก็เปิดประตูแล้วเดินเข้าไปในห้อง ค่อยๆวางพิมให้นั่งลงบนเตียง แล้วเอ่ยเสียงแผ่วทุ้มและอ่อนโยนที่สุด " คุณนอนเถอะ ไม่ต้องกังวลว่าผมจะขืนใจคุณ ผมจะไปอาบน้ำแล้ว ถ้าคุณไม่อยากให้ผมนอนด้วย ผมจะไปนอนโซฟาในห้องทำงานเอา " เอ่ยจบเข้าก็ไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าไป อาบน้ำทันที ได้ยินดังนั้นพิมรู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย จากนั้นเธอก็ไปหยิบผ้าห่มกับหมอนและหมอนข้าง เอาไปวางไว้ให้เขาบนโซฟา ในห้องทำงานของเขา ซึ่งห้องทำงานกับห้องนอนของเตชินนั้นเชื่อมติดกัน มีเพียงกระจกใสๆกั้นอยู่ สามารถมองเห็นกันและกันได้ถ้าไม่ปิดม่าน จากนั้นเธอก็กลับมานอนลงบนเตียงพยายามหลับตา แกล้งทำเป็นหลับ แต่หูกลับตั้งใจฟังเสียงน้ำที่ไหลจากฝักบัว ในห้องน้ำตลอด เพราะเธอไม่เชื่อคำพูดของเตชินแล้ว เตชินอาบน้ำเสร็จ ก็เดินออกมาจากห้องน้ำ นุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวปกปิดช่วงล่างไว้ แล้วยืนเช็ดผม สายตาจับจ้องบนตัวคนที่นอนอยู่บนเตียง เขารู้ว่าพิมแกล้งหลับ จากนั้นเขาก็หันไปมองยังห้องทำงาน เห็นผ้าห่มกับหมอนวางอยู่ จึงเดินไปเป่าผม และเปลี่ยนเป็นใส่ชุดนอน จากนั้นก็เดินเข้ามาหาพิมที่นอนหันหลังให้ เขาจึงเข้าไปโอบกอดเธอเบาๆแล้วก้มลงไปจูบหน้าผากเธออย่างนุ่มนวล พิมที่แกล้งหลับเกือบจะตัวแข็งทื่อแล้ว แต่เธอก็แกล้งหลับต่อไป จากนั้นเตชินก็เอ่ยขึ้น " หลับฝันดีนะ อย่ากังวลไปเลย ผมจะไม่บังคับฝืนใจคุณแล้ว " เอ่ยจบเขายื่นมือไปปิดไฟที่หัวเตียงให้พิม แล้วลุกออกจากเตียง เดินไปนอนบนโซฟาในห้องทำงาน เมื่อในห้องมืดสนิทลง พิมลุกขึ้นมานั่ง ค่อยๆพ่นลมหายใจออกมา มองไปยังห้องทำงานที่เตชินนอนอยู่แล้วพึมพำออกมาในใจ [ ใจหายใจคว่ำหมด หลับฝันดีกับผีสิ คำพูดนายมันเชื่อได้ที่ไหนล่ะ ] ในวันรุ่งขึ้น พิมตื่นแต่เช้า เธอรู้สึกไม่สดชื่น ดวงตาไม่สดใสเหมือนเคย และลืมตาแทบไม่ขึ้น เธอจึงไปล้างหน้า แปรงฟัน เพื่อให้ตัวเองรู้สึกสดชื่นขึ้นมาหน่อย จากนั้นก็เดินเธอออกจากห้อง แล้วลงไปชั้นล่าง ด้วยชุดนอนสีพีช พอเธอเห็นเตชินที่นั่งทานโจ๊กอยู่ ก็ตกใจรีบหมุนตัวหันหลังกลับขึ้นไปชั้นบน เตชินจึงเอ่ยหยุดเธอไว้ " คุณจะไปไหน มานั่งนี่ " เธอค่อยๆหันไปทางเขาแล้วเอ่ย " ฉันจะไปเปลี่ยนชุดก่อน " " ไม่ต้อง มานั่งทานข้าวกับผม เร็วๆ " คำพูดและน้ำเสียงของเตชินมีความน่าเกรงขามจนพิมไม่กล้าขัดใจ เธอเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆเขา เขาจึงหันไปเอ่ยกับป้าใจว่า " ป้าช่วยเตรียมอาหารเช้าให้คุณพิมหน่อยครับ " " ค่ะ " ป้าใจเอ่ยตอบแล้วเดินเข้าไปในครัว ยกโจ๊กออกมาตักให้พิม เตชินมองใบหน้าพิมแล้วเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนลงระคนเอาใจใส่ " เมื่อคืนคุณไม่ได้หลับหรือไง หน้าบวม ตาบวม ดวงตาดูไม่สดใสเลย นอนไม่หลับเหรอ " พิมก้มหน้าทานข้าว แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบโดยไม่หันไปมองเขา ใบหน้าเธอดูสงบนิ่ง " คุณเตชินสายตาดีมากเลยนะคะ ช่างสังเกตจริงๆ หน้าอยู่บนตัวฉันฉันยังไม่สังเกตขนาดนั้นเลย " คำพูดของเธอแม้จะราบเรียบแต่มันแฝงไปด้วยกับเหน็บแนม แต่เตชินกลับไม่รู้สึกโกรธอะไร แล้วเอ่ยว่า " หน้าของคุณ เป็นของผม ผมก็ต้องคอยสังเกตเป็นธรรมดา ถ้าคุณให้คนอื่นมาสังเกตแทนผม ผมคงยอมไม่ได้ " เตชินออกตัวแรง แสดงความเป็นเจ้าของ ที่หวงแหนของของตัวเองอย่างชัดเจน จนทำให้พิมเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง อย่างไม่ชอบใจ ในการแสดงออกของเตชิน แล้วเธอก็เอ่ยอย่างไร้อารมณ์ว่า " คุณอยากพูดอะไรก็พูดเลย ยังไงฉันก็ไม่มีวันเป็นของของคุณเด็ดขาด " ได้ยินดังนั้นเตชินก็เงียบไป แววตาคมกริบจับจ้องลงบนใบหน้างามอย่างเงียบๆแล้วพึมพำในใจ [ ทำไมคุณถึงไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นนะ ภายในหนึ่งเดือนนี้ ถ้าคุณยังดื้อรั้น ใจแข็ง ไม่ยอมเป็นของผมอีก ผมอาจจะต้องใช้วิธีสกปรกกับคุณแล้ว ] เมื่อทานข้าวอิ่มพิมจึงเอ่ยว่า " วันนี้ฉันขอออกไปข้างนอกนะ " เตชินจึงเอ่ยว่า " ได้สิ วันนี้ผมว่างพอดี คุณอยากไปไหน ผมจะไปส่ง " เธอจึงรีบปฏิเสธขึ้นทันทีว่า " ไม่เป็นไรค่ะ คุณพักผ่อนที่บ้านเถอะ ฉันอยากไปคนเดียว " เมื่อเธอบอกว่าอยากไปคนเดียว เขาจึงเอ่ยออกมา ด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดวางอำนาจอย่างเผด็จการ " คุณจำที่ผมบอกไม่ได้แล้วเหรอ ช่วงนี้ผมไม่อนุญาตให้คุณไปไหนมาไหนคนเดียว และไม่อนุญาตให้คุณเจอเพื่อนผู้ชาย คุณอยากไปไหนขอให้บอก ผมจะไปส่ง ถ้าผมไม่ว่าหรือไม่อยู่ก็จะเป็นหน้าที่ของผู้ช่วยคังในการรับส่งคุณ " พิมถอนหายใจออกมา เธอโมโหตัวเองที่โลภจนถูกขังอยู่ในกรงทองและขาดอิสระแบบนี้ เธอมองเตชินอย่างเงียบๆโดยที่ไม่เอ่ยอะไร เธอเริ่มสงสัยแล้วว่า ใบทะเบียนสมรสเขาก็ได้แล้ว แล้วทำไมยังต้องควบคุมเธอ ราวกับกลัวเธอจะหนีไป ที่น่าสงสัยที่สุดคือ ทำไมถึงห้ามไม่ให้เธอพบเฉพาะเพื่อนผู้ชาย และยังมีการระบุชัดเจนว่าช่วงนี้ เธอจึงเอ่ยถามขึ้น " คุณบอกว่าช่วงนี้ ไม่ให้ฉันไปไหนมาไหน คนเดียวไม่ให้พบเพื่อนผู้ชาย งั้นแสดงว่าถ้าผ่านช่วงนี้ไปคุณก็จะปล่อยฉันเป็นอิสระใช่มั้ย " เตชินรู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังวิเคราะห์คำพูดของเขาอยู่ เขาจึงเอ่ยตอบไปว่า " อิสระของคุณเป็นยังไง ตอนนี้คุณไม่มีอิสระตรงไหนล่ะ คุณก็ใช้ชีวิตได้ปกติ เพิ่มเติมก็แค่ การที่คุณไปไหนมีคนไปเป็นเพื่อน กับไม่ให้คุณพบเพศตรงข้ามก็เท่านั้นเอง " พิมจ้องเข้าไปในดวงตาเตชินแล้วเอ่ยถามอย่างจริงจังตรงไปตรงมา " ทำไมถึงไม่ให้ฉันเจอเพื่อนผู้ชาย คุณกลัวอะไร " พอถามคำถามนี้ออกไป เธอก็นึกอะไรขึ้นมาได้ บวกกับเตชินพยายามจะมีอะไรกับเธอตลอด เมื่อเอาทั้งสามเรื่องมาเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน เธอรู้สึกตระหนกขึ้นมาในใจทันที แล้วเอ่ยถามต่อไปว่า " คุณคงไม่กลัวว่าฉันจะไปท้องกับผู้ชายคนอื่นหรอกใช่มั้ย ถึงไม่ให้ฉันพบเพื่อนผู้ช่วย " เตชินยิ้มแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแฝงความหมายเป็นนัยชัดจน " คุณฉลาดขนาดนั้น คุณคิดว่าไงล่ะ ? " ได้ยินดังนั้นก็ทำให้เธอมั่นใจและชัดเจนในคำตอบเป็นนัยของเขา เธอมองเขาด้วยแววตาสงบนิ่งแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย " คุณเจ้าเล่ห์และฉลาดแกมโกงสมกับเป็นผู้บริหารระดับสูงจริงๆ บทเรียนของฉันในครั้งนี้แพงจริงๆ ขอบคุณที่ทำให้ฉันรู้ว่า จิตใจมนุษย์นั้น ยากแท้ หยั่งถึง ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะฉันโลภและโง่เอง " เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันตัวเอง น้ำตาคลอหน่วย โมโหตัวเองที่ซื่อเกินไป จากนั้นเธอก็เดินขึ้นไปข้างบน ร้องให้ออกมาด้วยความรู้สึกเสียใจ และหลากหลายความรู้สึกจนเกินกว่าจะบรรยายออกมาหมด ที่เสียท่าขายตัวเองให้เตชินแลกเงินและยังต้องอุ้มท้องเด็กโดยไม่เต็มใจ นอกจากเสียใจแล้ว ก็มีความรู้สึกตระหนกนี้แหละที่ชัดเจน เธอไม่อยากทำเรื่องผิดพลาดที่สุดในชีวิต แล้วเธอจะทำยังไง ในเมื่อเธออยู่ในเงื้อมมือเขาแบบนี้เตชินนั่งอึ้ง มองตามหลังพิมที่วิ่งขึ้นไปข้างบนด้วยความรู้สึกผิดที่ผ่านเข้ามาในอก แต่แค่แวบเดียวเขาก็สลัดความรู้สึกที่ทำให้เขาทุกข์นั้นทิ้งไปเขาทำอะไรมีเป้าหมายเสมอ เขาจะไม่ใจอ่อน เพียงเพราะความรู้สึกส่วนตัว จนทำให้เสียงานเด็ดขาดจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนเดินออกจากโต๊ะอาหารแล้วเดินขึ้นไปชั้นบน เพื่อไปดูพิมเขายื่นมือไปเปิดประตู แล้วเดินเข้าไปหาพิมที่นั่งร้องให้อยู่บนเตียงเมื่อยืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้วเขาจึงเอ่ยออกมาอย่างคนไร้อารมณ์ความรู้สึกว่า" ในเมื่อคุณรู้หมดแล้ว ผมขอแนะนำขอให้คุณรีบทำให้ตัวเองท้องให้ไวที่สุด พอคุณคลอดลูกออกมา คุณก็จะได้รับอิสระ กลับไปใช้ชีวิตของคุณต่อไป "พิมมองเขาด้วยแววตาแข็งกร้าว เธออยากจะตบหน้าเขาแรงๆ อยากจะเอามีดแทงเข้าไปในหัวใจของเขาจนแทบจะทนไม่ไหวอยากจะผ่าอกเขาดู ว่าเขามีหัวใจหรือเปล่า หัวใจเขาทำด้วยอะไรกันแน่ ถึงได้เลือดเย็นไร้หัวใจเช่นนี้เธอโกรธจนกำมือแน่น จนมือสั่นและขาวซีดไปหมด น้ำตาที่ไหลอาบแก้มนั้น ร้อนจนจะลวกคนได้สักพักเธอค่อยๆคลายอารมณ์โกรธที่มีอยู่เต็มอกและคลายมือออกเพื่อให้จิตใจตัวเองผ่อนคลาย ไม่ให้ถูกความโกรธครอบงำจิตใจจนขาดสติ จนเผยความคิดทุ
เตชินขับรถพาพิมออกมาจากบ้านระหว่างทางพิมนั่งเงียบตลอดเตชินก็ขับรถไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมายปลายทาง พิมที่นั่งข้างๆก็ยังไม่บอกเขาสักทีว่าจะไปไหน สุดท้ายเขาจึงหันมาเอ่ยถามพิมว่า" คุณคิดได้หรือยังว่าจะไปที่ไหน "พิมนั่งกอดอก ทำท่าครุ่นคิดสักพัก จึงหันไปมองเตชินแล้วเอ่ย" อืม...ยังคิดไม่ออกอ่ะ คุณขับไปเรื่อยๆก่อนได้มั้ย ถ้าคิดออกแล้วจะบอก "ได้ยินเธอพูดดังนั้นเขาจึงเอ่ย" เราขับรถออกมาได้ชั่วโมงหนึ่งแล้วนะ คุณยังคิดไม่ออกอีกเหรอ ว่าอยากไปที่ไหน "พิมหันกลับมา ทอดสายตามองตรงไปข้างหน้าแล้วเอ่ย" งั้นคุณก็ขับรถพาฉันเที่ยวชมกรุงเทพละกัน ตั้งแต่ที่ฉันมาถึงกรุงเทพ ฉันยังไม่เคยออกไปไหนเลย ฉันอยากจะนั่งรถชมวิวชมทิวทัศน์รอบเมืองหลวงอย่างเพลินๆสักหน่อย "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หันหน้ากลับไป มองตรงไปบนถนนข้างหน้าสองมือจับพวงมาลัยขับอย่างชำนาญ แล้วเอ่ย" ได้ ผมจะพาคุณขึ้นบนทางด่วน คุณจะได้เห็นทิวทัศน์ในเมืองกรุงอย่างชัดเจน "เอ่ยจบเตชินก็ขับขึ้นบนทางด่วนแล้วขับต่อไปเรื่อยๆ ขับไปตามสถานที่ต่างๆพร้อมกับแนะนำสถานที่ต่างๆให้พิมได้รู้จักแล้วอยู่ๆพิมก็ทำหน้าบิดเบี้ยวคล้ายกับมีอาการเจ็บนั่งตัวเกรงคล้า
ในเช้าวันต่อมา เตชินตื่นขึ้นมาแต่เช้า เมื่อทำกิจวัตรประจำวันเสร็จเขาก็เดินออกจากห้อง ลงไปชั้นล่างแล้วเดินเข้าไปในห้องครัวหยิบผ้ากันเปื้อนมาสวม แล้วไปเปิดดูของที่มีในตู้เย็น หยิบเนื้อปูกับกุ้งและผักขึ้นฉ่ายออกมา(คื่นไฉ่)แล้วเริ่มตั้งหม้อ หั่นผักขึ้นฉ่าย เพื่อที่จะทำข้าวต้มให้พิม จากนั้นเขาก็เอาขิงจากในตู้เย็นมาซอย หั่นเป็นชิ้นเล็กๆพอทำเสร็จ ก็ตักข้าวต้มใส่ชาม วางลงในถาด หยิบช้อนกับน้ำดื่มที่ไม่ได้แช่เย็นวางลงข้างๆชามข้าวต้มจากนั้นก็ถอดผ้ากันเปื้อนออก แล้วยกถาดเดินขึ้นบันไดกลับไปที่ห้องพอถึงหน้าห้องก็ยื่นมือไปเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องนำถาดไปวางลงบนโต๊ะในห้องทำงานแล้วเอ่ยกับพิมที่หลับอยู่ว่า" พิม ข้าวต้มอยู่บนโต๊ะ ตื่นมาอย่าลืมทานข้าวทานยาล่ะ "จากนั้นเขาก็เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินมาที่เตียงแล้วก้มลงจูบหน้าผากพิมอย่างนุ่มนวลจากนั้นก็มองไปที่ริมฝีปากอวบอิ่มแล้วจูบลงไปเบาๆอย่างทะนุถนอมแต่พิมกลับหลับสนิท ไม่รู้สึกตัว เพราะเธอไม่ยอมหลับทั้งคืนมัวแต่กังวลกลัวเตชินจะมาล่วงเกินเธอในเวลาที่เธอเผลอหลับแต่เธอดันลืมไปว่า เธอแกล้งเป็นเมนส์อยู่แท้จริงแล้วแค
เตชินกลับเข้ามาในบ้าน เห็นพิมนั่งทานข้าวอยู่จึงเดินเข้ามาเธอแล้วเอ่ย" ตื่นแล้วเหรอ ดีขึ้นบ้างมั้ย "พิมหันไปมองเขาแล้วเอ่ยตอบ" ดีขึ้นแล้วค่ะ "" อืม ดีแล้ว ผมขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ "" ค่ะ "เอ่ยจบเตชินก็หมุนตัวเดินขึ้นบันไดไป พิมหันมาสนใจข้าวตรงหน้าแล้วตักเข้าปากต่อไปพอทานข้าวเสร็จเธอก็ดื่มน้ำตามปกติ แล้วลุกจากเก้าอี้เดินมานั่งในห้องนั่งเล่นแล้วเปิดทีวีดู เตชินเดินลงบันไดมาเห็นพิมนั่งดูทีวีอยู่ จึงเข้ามาหาเธอแล้วนั่งลงข้างๆเธอ จากนั้นก็ยื่นมือไปโอบไหล่เธอ เธอพยายามกระเถิบหนีห่าง แล้วเอ่ยเสียงเย็น" คุณเตชิน กรุณาเก็บมือดีๆค่ะ "เตชินเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอย่างสุขุมน้ำเสียงแฝงไปด้วยการหยอกเย้า" แค่โอบไหล่ภรรยาก็ไม่ได้เหรอ "ได้ยินดังนั้นพิมมองตาเขียวใส่เขาอย่างไม่พอใจในคำพูดของเขา แล้วเอ่ย" คุณเตชิน ฉันเป็นภรรยาคุณหรือเปล่าคุณรู้ดี "เตชินเก็บมือกลับมาแล้วเอ่ยถามอย่างจริงจังคล้ายใส่ใจเธอมาก" วันนี้คุณอยากไปไหนมั้ย "พิมหันมาสนใจรายการทีวีต่อพร้อมกับเอ่ยอย่างเย็นชา" ไม่ค่ะ "เตชินจึงเอ่ยต่อว่า" งั้นผมไปข้างนอกนะ วันนี้อากาศเย็น คุณอยู่บ้านก็รีบเข้านอนไวๆหน่อยนะ "ได้ยินดัง
เตชินขับรถกลับมาด้วยอารมณ์ที่ยากจะอธิบายเขาไม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นอะไร ที่อยู่ๆก็รู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับป๊อบทั้งที่ก่อนหน้านี้ ก็เคยเจอกันแล้ว แต่ก็ไม่มีความรู้สึกนี้เกิดขึ้นพิมนั่งบนโซฟาตัวใหญ่ ดูซีรีส์จีนเรื่อง ฉู่เฉียวจอมใจจราชน เธอชอบจ้าวลี่อิงมากๆ เธอเอาผ้าห่ม มาห่ม นั่งดูซีรี่ส์คนเดียวอย่างเพลินๆ พอถึงฉากดราม่า เธออินจนร้องให้ไม่หยุด ดูไปร้องให้ไปหยิบทิชชูขึ้นมาซับน้ำตา แต่น้ำตาเธอกลับไม่มีทีท่าว่าหยุดไหลเลยเธอนั่งร้องให้คนเดียวในห้อง ที่มีเพียงแสงสลัวจากหลอดไฟดวงเล็กๆบนเพดานคอยเป็นเพื่อนรับฟังเสียงร้องให้สะอื้นของเธอท่ามกลางความืดที่ให้บรรยากาศคล้ายโรงหนังเตชินเดินกลับเข้ามาในบ้าน ได้ยินเสียงร้องให้ของเธอก็ตกใจรีบเดินเข้าไปหาเธอแล้วเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงอย่างร้อนใจ" พิม คุณร้องให้ทำไม เจ็บตรงไหนอีก "พิมทั้งตกใจ ทั้งเคอะเขิน ความฟินความอินถูกทำลายลงด้วยตัวและเสียงของเตชิน เธอรีบปาดน้ำตาทิ้งอย่างไว ทำตัวไม่ถูก ที่ถูกคนอื่นเห็นตอนร้องให้เพราะอินกับซีรี่ส์แต่เธอจะให้เตชินรู้ว่าเธอร้องให้เพราะซีรี่ส์ไม่ได้ เธอจึงเอ่ยด้วยสีหน้านิ่ง ตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จ" ฉัน...ฉันค
หลายวันต่อมา ด้วยความที่ไตรภพและนาวินอยากจะมาทำความรู้จักกับพิมให้มากขึ้นเพราะพวกเขาคิดว่าพิมคือผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้เตชินทิ้งพวกเขาได้และเป็นผู้หญิงคนแรกที่เตชินดูเป็นห่วงเป็นใยเป็นพิเศษพวกเขาจึงโทรหาเตชินแล้วนัดกันขอไปปาร์ตี้บ้านเตเชินเตชินเองก็ไม่ขัดอะไร ให้เพื่อนมาปาร์ตี้ มาดื่มเหมือนอย่างเคยๆในตอนเช้าของวันปาร์ตี้เตชินเอ่ยบอกกับพิมว่า" วันนี้เย็นๆเพื่อนผมจะมา คุณแต่งตัวให้มิดชิดหน่อยนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ย" ทำไม ฉันต้องฟังคุณด้วย อีกอย่างฉันอยู่แค่ในห้อง ไม่ได้ออกไปไหนสักหน่อย จะแต่งมิดชิดไปทำไม อ้อ จริงสิ ฉันเคยแต่งตัวไม่มิดชิดด้วยเหรอ ก็ไม่เคยหนิ "เตชินใช้สายตาสำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วเอ่ย" ไม่เคยก็ดีแล้ว ผมไปทำงานก่อนนะ "เอ่ยจบเขาก็จับหัวพิมแล้วจูบหน้าผากของเธอเบาๆอย่างไวจากนั้น ก็เดินออกจากห้องไป ทำเอาพิมเหวอไปเลยและเริ่มรู้สึกสับสนกับสถานะที่เป็นอยู่เธอรู้สึกว่านับวันเธอและเขาเหมือนสามีภรรยากันจริงๆเข้าไปทุกทีแม้เธอจะไม่มีประสบการณ์ด้านความรักมาก่อน แต่เธอก็รู้สึกได้ว่าชีวิตเธอเหมือนจะเปลี่ยนไป มีอีกหนึ่งชีวิตเข้ามาวุ่นวายในชีวิตเธอจากที่นอนคนเดียวมาตลอ
ป้าใจเห็นทั้งสองจับมือกันดูสนิทสนมเกินกว่าคนเคยรู้จักทั่วไป จึงเดินเข้าไปแสดงตัวแล้วเอ่ย" คุณพิมคะ ไปส่งป้าเข้าห้องน้ำหน่อยได้มั้ยคะ "พิมจึงเอ่ยว่า" ได้ค่ะ "จากนั้นเธอก็หันไปเอ่ยกับป๊อบว่า" ฉันไปส่งป้าใจเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ "" ครับ "ป๊อบเอ่ยตอบ พิมลุกขึ้นเดินไปส่งป้าใจ แล้วเสียงแจ้งเตือนข้อความในโทรศัพท์ของป๊อบก็ดังขึ้นป๊อบเปิดดูข้อความจากผู้เป็นแม่ ( ป๊อบลูกอยู่ไหน คุณพ่อไม่สบาย รีบกลับมาด่วน )เขามองแผ่นหลังของพิมที่ไกลออกไป จากนั้นก็วิ่งไปหาเธอด้วยสีหน้าร้อนใจ แล้วเอ่ย" พิม ผมขอกลับก่อนนะ ผมมีธุระด่วนต้องไปทำน่ะ "พิมจึงเอ่ยตอบว่า" ได้ค่ะ "จากนั้นเขาก็หมุนตัวเดินกลับไปที่รถด้วยความรีบร้อน แล้วขับรถออกไปพิมรอป้าใจอยู่หน้าห้องน้ำ พอป้าใจเข้าห้องน้ำเสร็จ ทั้งสองก็เดินออกไปหาอะไรทานในศูนย์อาหารทั้งสองนั่งทานข้าวกันอย่างเพลินๆเตชินออกมาจากบริษัทก่อนเวลาเลิกงานแล้วมาหาพิมที่สวนสาธารณะแห่งนี้ เมื่อมาถึงก็เห็นพิมนั่งปั่นเป็ดเพลินๆอยู่คนเดียวกลางน้ำส่วนป้าใจก็นั่งรอเธอที่ให้ต้นไม้ใหญ่ เตชินจึงเดินเข้าไปแล้วปั่นเป็ดไปหาพิม จากนั้นก็เอ่ยว่า" ผมมารับคุณกลับบ้านแล้วครับ "พิม
พิมเข้าไปร้องให้ในห้องน้ำอย่างเงียบๆ เธอไม่คิดว่าเตชินจะพูดเรื่องที่จดทะเบียนต่อหน้าทุกคนจนทำให้ป๊อบเข้าใจผิดแสดงท่าทีเย็นชาออกมาแบบนั้นเธอไม่รู้ว่าเตชินคิดจะทำอะไรอีก ที่อยู่ๆก็ประกาศว่าเธอคือภรรยาเขาอย่างเต็มปากเต็มคำจนทำให้สีหน้าของป๊อบเปลี่ยนไปเธอคิดว่าป๊อบคงโกรธ เกลียดเธอแล้วแน่ๆ[ หรือว่าเขาจะรู้เรื่องของเรากับคุณป๊อบ ]เธอเริ่มสงสัยแล้วพึมพำในใจ จากนั้นเธอก็ล้างหน้าล้างตาแล้วเดินออกจากห้องน้ำป๊อบยืนรอคุยกับเธออยู่หน้าห้องน้ำได้สักพักแล้ว เขาได้ยินเสียงเธอร้องให้ชัดเจนพอเธอเปิดประตูห้องน้ำออกมา เขาก็จับแขนเธอไว้แล้วเอ่ยถามด้วยอาการเมานิดๆ" พิม ที่เตชินพูดมันไม่เป็นความจริงใช่มั้ย "พิมได้แต่เงียบไม่เอ่ยอะไรออกมาเพราะเธอมึนตึ๊บไปหมดแล้วแต่การเงียบของพิมเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุดป๊อบจึงเอ่ยถามต่อว่า" เพราะแบบนี้ใช่มั้ย คุณถึงให้ผมรอ พิมคุณบอกผมมาเถอะมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆคุณถึงไปจดทะเบียนสมรสกับเขา "พิมเงยหน้ามองป๊อบทั้งน้ำตา เธอจะบอกเขาได้ยังไง ว่าเธอจดทะเบียนเพราะเงินป๊อบก็พอจะเดาได้ว่าอาจจะเป็นเพราะเงินจำนวนมากถึงทำให้พิมจดทะเบียนสมรสได้ เขาจึงเอ่ยถามขึ้น" เพราะเ
ในห้องผ่าตัดหลังจากผ่าตัดเสร็จอยู่ๆพิมก็หยุดหายใจไป เนื่องจากเธอเสียเลือดมากและแท้งบุตรในขณะที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหวในตอนที่เธอยังมีลมหายใจโรยริน จิตสุดท้ายของเธอคล้ายกับรับรู้ได้ว่าตัวเองสูญเสียลูกไปแล้ว คลื่นความเศร้าโศกถาถมความเสียใจเข้ามาสาดใส่ ทำให้เธอไม่มีกำลังใจที่จะอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะเธอตั้งใจจะพาลูกของเธอหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะเป็นการพาเขามาตายจากแล้วหมอก็รีบทำการช่วยชีวิตเธออีกครั้งอย่างสุดความสามารถใช้เวลาอยู่นานเธอก็ไม่กลับมาหายใจ คลื่นหัวใจเป็นเส้นตรงไม่ขยับเขยื้อนเลยสีหน้าหมอแสดงถึงความจนปัญหาด้วยความผิดหวังแล้วเอ่ยเสียงเศร้า" แจ้งญาติคนไข้เถอะ "" ค่ะ "พยาบาลเอ่ยตอบแล้วเดินออกไปจากห้องผ่าตัด" ผ่าตัดเสร็จแล้วแท้ๆ ไม่คิดว่าคนไข้จะมาเสียชีวิตในขณะที่เราเพิ่งจะมีความหวังขึ้นมา "พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยอย่างผิดหวัง เพราะในตอนแรกพวกเขาก็ทำใจไว้แล้วว่าคนไข้อาจจะไม่รอดแต่พวกเขาต่างก็ตั้งใจช่วยชีวิตพิมอย่างสุดความสามารถมากจนเธอกลับมาหายใจอีกครั้งความจริงพิมหยุดหายใจตั้งแต่ตอนเกิดเหตุแล้วหมอจึงเอ่ยอย่างสุขุมว่า" บางทีจิตสุ
" ไม่ได้นะคุณเตชิน คุณอย่าทำแบบนี้ ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะนะ "พิมขอร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอไม่หยุด แต่เขากลับนิ่งเฉย รตีลงจากรถแล้วแอบเดินถามเตชินเข้ามาในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้เธอไปหาเตชินที่บ้าน เห็นเตชินขับรถออกจากบ้าน เธอจึงให้คนขับรถ ขับตามเตชินเธอใส่แว่นสีดำปกปิดดวงตาและใส่แมสก์ปกปิดหน้าเอาไว้ไม่ให้เตชินรู้ว่าเป็นเธอพิมที่อยู่ในอ้อมแขนของเตชินเธอทั้งตีทั้งข่วนเขาจนเธอน้ำตาไหลพรากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างจนปัญญาด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณจะฆ่าเขาไม่ได้ เขาเป็นลูกของคุณไม่ใช่ลูกของคุณป๊อบอย่างที่คุณเข้าใจ เขาเป็นลูกของคุณจริงๆ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หยุดชะงักไป รตีได้ยินก็ช็อกไปเช่นกัน แล้วแววตาของเธอก็กลายเป็นดุร้ายเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาเตชินมองหน้าพิมแล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง" คุณพูดว่าไงนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ยเสียงสั่น" เขาเป็นลูกของคุณ คุณวางฉันลงก่อนได้มั้ยแล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง "เตชินวางเธอลง พอเธอเป็นอิสระจากมือของเขาเธอก็วิ่งหนีไปทันทีเตชินเห็นเธอวิ่งหนีไปเขารู้สึกเจ็บใจมากที่ถูกหลอกจึงวิ่งตามเธอออกไปแล้วคว้าข้อมือเธอมาจับไว้นำตัวเธอกลับมาอีกครั้งพร้อ
เมื่อป๊อบเห็นพิมกลับมา เขาก็ปลีกตัวออกจากกลุ่มนักเรียนแล้วเดินมาหาพิมพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น" พิมเขาทำอะไรคุณหรือเปล่า "พิมส่ายหน้าแล้วเอ่ย" ไม่ค่ะ "ป๊อบพยักหน้าแล้วเอ่ย" เช่นนั้นก็ดีแล้ว ปิดเทอมนี้เราก็ว่างบ้างแล้วเดี๋ยวผมจะให้เขาเซ็นหย่าให้คุณให้ได้ ต่อไปเขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับคุณอีก "พิมมองป๊อบด้วยสีหน้าเหนื่อยใจนึกถึงคำพูดของเตชินก่อนหน้านี้เธอไม่อยากได้แล้วใบหย่า เธอจึงเอ่ยว่า" จะหย่าหรือไม่หย่าฉันไม่สนใจแล้วค่ะ แค่ใบหย่าใบเดียวไม่มีผลอะไรกับชีวิตฉันหรอกค่ะ ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขาอีกแล้วเราอย่าไปใส่ใจกับใบหย่านั่นอีกเลยค่ะ "" ก็ได้ครับ ไว้คุณคลอดลูกแล้วค่อยมาตัดสินใจอีกที "เขาก็ไม่อยากให้พิมติดอยู่กับสถานะสมรสนี้เพราะเขาอยากจะจดทะเบียนสมรสกับเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาอย่างถูกต้องเตชินเดินเข้ามาเห็นทั้งสองยืนคุยกันอยู่ เขาจึงเดินผ่านทั้งสองไป แล้วเดินไปยังกลุ่มของนักเรียนถ่ายรูปกับพวกเขา จากนั้นเขาก็เอ่ยถามเด็กนักเรียนว่า" เด็กๆพวกคุณปิดเทอมกันเมื่อไหร่ครับ "" พวกเราปิดเทอมแล้วครับ กลับไปพวกเราจะฉลองแชมป์ปิดเทอมกันครับ คุณเตชินไปฉลองกับพวกเรามั้ยครับ "" โอ้ว
เตชินลากพิมมาที่รถ จากนั้นก็เปิดประตูให้เธอขึ้นไปบนรถ พิมทำตามที่เขาต้องการโดยไม่บ่นอะไรแล้วเตชินก็เข้าไปนั่งข้างๆเธอพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่รีรออีกต่อไป" เด็กในท้องเป็นลูกของใคร "พิมกระเถิบห่างออกไปอย่างระมัดระหวังพร้อมกับเอามือจับท้องของตัวเองไว้แล้วมองเตชินอย่างดุดันด้วยแววตาสู้คนเมื่อเตชินเลื่อนสายตามาจับจ้องท้องของเธอ[ เตชินถามแบบนี้หมายความว่ายังไง หรือเขาจะสงสัยว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขากันนะ ]เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงลองถามหยั่งเชิงดู" เขาก็เป็นลูกของคนที่คุณคิดไง แล้วคุณคิดว่าเขาเป็นลูกใครล่ะ "เธอไม่รู้หรอกว่าเตชินคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของป๊อบ เธอแค่อยากรู้ความคิดของเขา จึงพูดออกไปแบบนั้นเธอคิดว่าถ้าเขาบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกเขาเธอก็จะได้ปฏิเสธอย่างไม่น่าสงสัยแต่เมื่อเตชินได้ยินเธอพูดดังนั้น เขากลับรู้สึกเหมือนถูกเธอตบหน้าแรงๆ แล้วให้คำตอบอย่างเยาะเย้ยแต่เขาก็พยายามปฏิเสธความคิดของตัวเอง พยายามคิดว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของป๊อบแต่เป็นลูกของเขา แต่การคิดแบบนี้ กับระยะเวลาที่ไม่ได้เจอพิมบวกกับภาพความสนิทสนมชิดใกล้กันของพิมกับป๊อบทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังหลอกต
" สวัสดีค่ะคุณป๊อบ คุณพิม คุณเทเท่ "ณัชชาเอ่ยทักขึ้น เทเท่ยิ้มแล้วสวัสดีกลับ" สวัสดีค่ะคุณณัชชาไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่ "แล้วป๊อบก็หันมาพร้อมกับเอ่ย" คุณณัชชารู้ได้ยังไงครับว่าวันนี้เรามีแข่งที่นี่ "ป๊อบแค่ถามไปตามมารยาทของคนรู้จักกันส่วนพิมแค่หันมามองแล้วหันกลับไปสนใจเด็กของตัวเองต่อเมื่อทีมก่อนหน้าแข่งจบลง พิธีกรบนเวทีก็เอ่ยขึ้น" จบลงไปแล้วนะคะ ทีม SS ตัวแทนจากภาคใต้ ต่อไปจะเป็นทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือค่ะ ขอให้ทีม JK เตรียมตัวเลยนะคะ ในปีนี้ต้องบอกเลยว่าแต่ละทีมนั้น ทำให้คณะกรรมการของเราหนักใจมากเลยทีเดียว "" ใช่แล้วครับ ในตอนนี้ทีม JK คงจะพร้อมกันแล้วต่อไปเชิญพบกับทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือได้เลยครับ "พิมเรียกนักเรียนให้มายืนเป็นวงหันหน้าเข้าหากันจากนั้นเธอก็แบมือแล้วคว่ำฝ่ามือลงยื่นแขนออกไปข้างหน้า เทเท่ก็วางฝ่ามือทับซ้อนลงบนหลังมือเธอแล้วนักเรียนก็วางมือทับต่อๆกัน" ขอให้พวกเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพื่อคว้าชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อม สู้มั้ย! "" สู้!!! "พิมเอ่ยกระตุ้นสร้างกำลังใจให้นักเรียนมีใจฮึกเหิม แล้วทุกคนก็เก็บมือเตรียมตัว จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีจากนั้นทีมขอ
พิมกับเทเท่นัดแนะกับเด็กในห้องนาฏศิลป์ แล้วแจกใบขออนุญาตเดินทางไปแข่งขัน ให้กับนักเรียนทุกคน ให้เอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตยินยอม จากนั้น พิมก็เริ่มเอ่ยกับนักเรียนของตัวเองว่า" นักเรียนคะ พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปแข่งที่กรุงเทพแล้ว วันนี้ซ้อมแค่รอบเดียวพอแล้วเก็บแรงไว้เดินทางพรุ่งนี้ จำไว้ว่าเราเป็นตัวแทนของภาคขอให้เราตั้งใจทุ่มเททำให้ดีที่สุดจะได้ไม่เสียใจภายหลัง แต่สิ่งสำคัญคือ เราอย่าลืม ว่ากว่าแต่ละทีมจะมาถึงจุดนี้ได้ทุกทีมล้วนเป็นคู่แข่งที่เก่งและน่ากลัว ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีที่สุดทุกทีมเราจะประมาทหรือเหลิงโอ้อวดว่าเราเก่งเหนือคนอื่นไม่ได้ในโลกนี้ ในประเทศนี้ยังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกตั้งมากมาย ไม่ว่าเราจะได้แชมป์หรือไม่ก็อย่าไปท้อแท้น้อยใจหรือเสียใจเด็ดขาดขอให้เรายอมรับและแสดงความยินดีกับคนที่ได้แชมป์อย่างจริงใจครูเชื่อว่าทุกความตั้งใจทุกความสามัคคีจะนำเราไปสู่ความสำเร็จขอให้เราตั้งใจทำให้เต็มที่ ทำให้สุดกำลังความสามารถเข้าใจมั้ยคะ "" เข้าใจค่ะ/ เข้าใจครับ "นักเรียนทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียมเสียงดังชัดเจน แล้วเทเท่ก็นัดแนะเวลามาขึ้นรถที่โรงเรียนต่อ" แล้วพรุ่งนี้นะคะ
บ้านพักครูเป็นบ้านปูนเล็กๆมีเพียงสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ตอนกลางคืน ณัชชากับเทเท่ก็ปูเสื่อนอนหน้าทีวี ในห้องที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับบันไดที่จะขึ้นไปชั้นสองเมื่อทุกคนเข้านอนแล้วบรรยากาศกลางดึกที่เงียบสงบ เทเท่ก็ลุกขึ้นมา ยื่นมือไปลูบไล้เรียวขาของณัชชาด้วยความหื่นกระหายเขาลูบไล้ขึ้นลงได้สักพัก ณัชชาก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติเธอค่อยๆขยับแพขนตาแล้วลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงัวเงียเทเท่เห็นว่าเธอรู้สึกตัวแล้วเขาก็ขึ้นคร่อมบนตัวเธอทันทีแล้วจับมือเธอไว้ ก้มหน้าลงจูบไปตามคอพร้อมกับเอ่ยเสียงกระเส่า" คุณณัชชาผมต้องการคุณ ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำเริบอีกแล้ว ผมต้องการคุณ "ทีแรกณัชชายังงงๆอยู่ว่าเทเท่คิดจะเล่นอะไร พอได้สติ เธอก็กรีดร้องขึ้นดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดชีวิต" กรี๊ด!...ช่วยด้วยๆ ไอ้บ้าออกไปจากตัวฉันนะ ออกไป กรี๊ด... "" ไม่แน่นอนครับ ตอนนี้ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำลังคุกรุ่นต้องการร่างกายผู้หญิง "เทเท่เอ่ยพร้อมกับมองหน้าณัชชาด้วยสีหน้าหื่นกระหาย" กรี๊ด...ไม่เอาๆ ปล่อย ไอ้เทเท่ ไอ้บ้า ออกไปจากตัวฉัน ออกไป "แววตาณัชชากลัวจนสั่นไหว เธอกลัวจนหน้าข
ในเช้าวันต่อมา ขณะที่พิมกำลังสอนอยู่ ก็มีเพื่อนครูคนหนึ่งเดินมาบอกว่า" ครูพิมจ๊ะ มีคนมาหาครูพิมจ้ะ ตอนนี้รออยู่ที่หน้าบ้านพักครูพิมแล้ว "" อ้อ ค่ะ "พิมเอ่ยตอบ แล้วแอบพึมพำในใจ[ ใครกันที่มาหาเรา ช่างเถอะให้รอไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปดู ]จากนั้นเธอก็หันมาสอนนักเรียนต่อ พอหมดคาบเรียน เธอก็เดินกลับไปที่บ้านพักเห็นหญิงสาวรูปร่างดีนั่งหันหลังให้เธอบนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านพัก[ ใครกัน? ]เธอเดินเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณมาขอพบฉัน มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ "ณัชชาหันหน้ามามองเธอแล้วยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ย" เซอร์ไพรส์ค่ะ คุณพิม "เมื่อเห็นว่าเป็นณัชชาเธอก็รู้สึกแปลกใจจนแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณณัชชา! คุณมาทำอะไรที่นี่ "ไม่ต้องถามก็รู้ว่าณัชชารู้ที่อยู่เธอได้ยังไง เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเตชินส่งมาแน่ๆแต่เธอก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดว่าอย่างน้อยดีกว่าเตชินมาเอง เธอแค่อยากรู้ว่าณัชชามาด้วยจุดประสงค์อะไรก็เท่านั้นณัชชาได้ยินพิมยิงคำถามมาแบบนี้ เธอจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย" ฉันมาเที่ยวน่ะ แล้วรู้มาจากพี่เตชินว่าคุณสอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เลยอยากจะแวะมาทักทาย ขอค้างคืนด้วยสั
ป๊อบพาพิมกลับมานอนพักบนบ้านพัก เขาค่อยๆประคองเธอขึ้นห้องไปอย่างช้าๆเมื่อเข้าไปในห้องเขาก็ประคองเธอไปที่เตียงแล้วพิมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงป๊อบเป็นห่วงเธอมาก เพราะเธอพักบ้านพักครูคนเดียวเขาจึงเอ่ยว่า" คืนนี้ผมจะมานอนเป็นเพื่อนคุณนะ "" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมอยู่คนเดียวได้ หากคุณมาอยู่ดูแลพิม เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี จะพากันเข้าใจผิดกันไปใหญ่ "พิมรีบปฏิเสธ เพราะเธอแคร์สายตาและแคร์ความคิดของสังคมภายนอก มากกว่าความความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในกายของตนเองอาจจะเป็นเพราะเธอถูกเลี้ยงมาแบบนี้ อยู่ในสังคมที่แคร์คนอื่น เธอจึงวางตัวดีมาเสมอและไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงเหมือนที่พ่อแม่เธอสอนไว้ว่า" ให้เป็นคนดี เป็นที่นับถือ ยำเกรง ทำอะไรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าทำตัวให้เป็นที่ครหานินทา "ป๊อบมองเธอแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับจัดผ้าห่มมาห่มให้เธออย่างดี" พิมเวลานี้คุณไม่ควรแคร์คนอื่นนะ คุณต้องห่วงสุขภาพตัวเองกับลูกในท้องก่อนการที่ผมมาดูแลคุณแล้วเป็นที่ครหา ผมว่าดีซะอีก คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณท้องลูกของผมอยู่ "พิมจ้องหน้าป๊อบที่คิดวางแผนเพื่อปกป้องเธอไม่ให้ถูกคนอื่นกล่าวหาว่าท้องไม่มีพ่อแ