เตชินนั่งอึ้ง มองตามหลังพิมที่วิ่งขึ้นไปข้างบนด้วยความรู้สึกผิดที่ผ่านเข้ามาในอก
แต่แค่แวบเดียวเขาก็สลัดความรู้สึกที่ทำให้เขาทุกข์นั้นทิ้งไป เขาทำอะไรมีเป้าหมายเสมอ เขาจะไม่ใจอ่อน เพียงเพราะความรู้สึกส่วนตัว จนทำให้เสียงานเด็ดขาด จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนเดินออกจากโต๊ะอาหารแล้วเดินขึ้นไปชั้นบน เพื่อไปดูพิม เขายื่นมือไปเปิดประตู แล้วเดินเข้าไปหาพิมที่นั่งร้องให้อยู่บนเตียง เมื่อยืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้วเขาจึงเอ่ยออกมาอย่างคนไร้อารมณ์ความรู้สึกว่า " ในเมื่อคุณรู้หมดแล้ว ผมขอแนะนำขอให้คุณรีบทำให้ตัวเองท้องให้ไวที่สุด พอคุณคลอดลูกออกมา คุณก็จะได้รับอิสระ กลับไปใช้ชีวิตของคุณต่อไป " พิมมองเขาด้วยแววตาแข็งกร้าว เธออยากจะตบหน้าเขาแรงๆ อยากจะเอามีดแทงเข้าไปในหัวใจของเขาจนแทบจะทนไม่ไหว อยากจะผ่าอกเขาดู ว่าเขามีหัวใจหรือเปล่า หัวใจเขาทำด้วยอะไรกันแน่ ถึงได้เลือดเย็นไร้หัวใจเช่นนี้ เธอโกรธจนกำมือแน่น จนมือสั่นและขาวซีดไปหมด น้ำตาที่ไหลอาบแก้มนั้น ร้อนจนจะลวกคนได้ สักพักเธอค่อยๆคลายอารมณ์โกรธที่มีอยู่เต็มอกและคลายมือออก เพื่อให้จิตใจตัวเองผ่อนคลาย ไม่ให้ถูกความโกรธครอบงำจิตใจจนขาดสติ จนเผยความคิดทุกอย่างให้คนตรงหน้ารู้ ผ่านไปสักพัก เธอเริ่มรู้สึกว่าอารมณ์ตนเองปกติกลับมาคงที่แล้ว เธอจึงเอามือปาดน้ำตา แล้วเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงปกติ ราวกับไม่เคยโกรธหรือร้องให้มาก่อน " ได้ แต่คุณต้องให้เวลาฉันทำใจหน่อย การที่ผู้หญิงคนหนึ่งท้องลูกสักคนอย่างยากลำบาก พอคลอดออกมาก็ต้องยกให้คนอื่น มันไม่ง่ายเลย สำหรับคนที่ไม่พร้อม และมีหัวใจอย่างฉัน " ขนาดเรื่องยังไม่เกิด แค่คิดเธอก็สงสารตัวเองกับลูกแล้ว หากเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ เธอคงอกแตกตายก่อนตรอมใจตายแน่ คำพูดของเธอ ทำให้เตชินรู้สึกสงสารนิดหน่อย แต่ไม่ถึงขั้นยอมใจอ่อนให้กับเธอ แล้วเขาก็เอ่ยถามออกมาอย่างเย็นชาว่า " คุณกำลังจะหาว่าผมไร้หัวใจสินะ " พิมไม่ตอบ แต่ยักไหล่ขึ้นพร้อมกับเบะปากนิดเลิกคิ้วขึ้นหน่อย จากนั้นเตชินก็เอ่ยต่อว่า " ได้ในเมื่อคุณอยากได้เวลา ผมก็จะให้เวลาคุณทำใจหนึ่งเดือน " ได้ยินดังนั้น พิมเลยลองถามขึ้น อีกครั้งอย่างอยากรู้ " ทำไมต้องเป็นฉัน คนอื่นมีตั้งเยอะแยะ ถ้าฉันไม่เอาเงินแล้วล่ะ คุณจะปล่อยฉันไปได้มั้ย " เตชินจึงเอ่ยตอบเธอไปว่า " ไม่ได้ เพราะคุณคือคนที่ผมเลือก ให้มาเป็นแม่ของลูก และเป็นเพราะคุณ มีคุณสมบัติครบ ตามที่ผมต้องการ สามารถให้กำเนิดลูกที่เพอร์เฟคได้ ต่อให้คุณไม่รับข้อเสนอผม ไม่จดมะเบียนสมรสกับผม ผมก็จะหาวิธี ทำให้คุณจดทะเบียนและมีลูกกับผมให้ได้อยู่ดี ยีนส์ของเราเป็นยีนส์เด่นทั้งคู่ดูเข้ากันได้ดีด้วย ผมว่าคุณอย่าเสียเวลาคิดหาวิธีไร้สาระอะไรอีกเลย รีบมีลูกให้ผมดีกว่า " เตชินรู้ว่าคนอย่างเธอคงไม่ยอมจำนนง่ายๆแน่ จึงพูดดักความคิดเธอไว้ก่อน เธอมองเขาแล้วถามย้ำอีกครั้ง " ยังไงก็ต้องเป็นฉันคนเดียว " เขาจึงเอ่ยตอบเธอว่า " ใช่ " พิมค่อยลุกขึ้นยืน พร้อมกับถอนหายใจออกมาสีหน้าดูอย่างเหนื่อยล้า ท่าทางคล้ายจำใจทำตามที่เตชินต้องการ ยอมจำนนแต่โดยดี อย่างไร้ซึ่งทางเลือกใดๆ จากนั้นเธอก็เอ่ยออกมาว่า " ในเมื่อฉันต้องรับชะตานี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ได้ ฉันจะยอมท้องลูกให้คุณ แต่ คุณต้องให้เวลาฉันได้ทำใจหนึ่งเดือนจริงๆอย่างที่คุณพูด " ได้ยินดังนั้น เตชินจึงเอ่ยเพียงสั้นๆว่า " ตามนั้น " เมื่อตกลงกันได้ เธอเดินเข้ามาหาเขาแล้วเอ่ย " ตุณบอกว่าจะไปส่งฉันออกไปข้างนอกใช่มั้ย " เตชินมองหน้าเธอแล้วเอ่ยตอบว่า " ใช่ " พิมจึงเอ่ยต่อว่า " งั้นคุณรอฉันสักครู่นะ ฉันจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน " " ได้ คุณรีบไปอาบน้ำเถอะ ผมจะนอนรอบนเตียง " เอ่ยจบ เตชินก็เดินผ่านพิมไป แล้วทิ้งตัวนอนลงบนเตียง นอนแผ่หลาอย่างสบายตัว แล้วเอ่ยขึ้น " สบายหลังหน่อย เมื่อคืนนอนบนโซฟา หลับไม่สนิทเลย คืนนี้ผมกลับมานอนนี่นะ " พิมหันกลับไปมองเขาแล้วเอ่ยเพียงสั้นๆว่า " ได้ " เอ่ยจบเธอก็หมุนตัวเดินไปหยิบเสื้อผ้าในตู้ แล้วเข้าไปอาบน้ำทันที เตชินมองตามแผ่นหลังของร่างสวยหุ่นดีแลดูสูงโปร่ง แล้วยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างพอใจ คฤหาสน์ตระกูล อัศววัฒน์สกุล ณัชชาเดินออกมาจากห้องหอ ที่เป็นเหมือนห้องพักชั่วคราวของเธอ ที่ไม่มีแม้เงาหรือกลิ่นไอของเจ้าบ่าวอย่างเตชินเลย เพราะตั้งแต่แต่งงานคืนแรกจนวันหย่า เธอก็ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวในวังเดียวดายแห่งนี้ เฝ้ารอเขากลับมาแต่เขากลับไม่แม้แต่จะชายตามองเธอเลย เธอมองไปรอบๆห้องใหญ่ นัยน์ตาฉายแววความอาลัยห้องที่เคยอาศัยอยู่ ถูกประดับตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์จากแบรนด์ดังระดับโลกที่เธอชอบ แล้วเอ่ยพึมพำในใจอย่างเงียบๆ [ ของบางอย่าง ถ้ามันไม่ใช่ของเรา ไม่ว่าให้ได้มาด้วยวิธีไหน สุดท้ายก็ต้องกลับคืนสู่เจ้าของ จากนี้ไปขออวยพรให้พี่เตชินสมหวังได้อยู่กับคนที่รักและครองคู่กันไปอย่างมีความสุข ขอบคุณที่ดูแลณัชชามาตลอด ตอนนี้ณัชชาโตแล้ว ถึงเวลาต้องออกไปเรียนรู้โลกกว้างแล้ว ลาก่อนค่ะ ] จากนั้นเธอก็ปิดประตูเบาๆแล้วลากกระเป๋าเดินลงบันไดไป วันนี้เธอขนย้ายข้าวของเพื่อกลับไปอยู่บ้านตัวเองแล้ว จึงเดินไปลาคุณหญิงจารวีกับคุณผู้ชายทวีศักดิ์ ทั้งสองเดินออกมาส่งเธอขึ้นรถด้วยตัวเอง เมื่อรถขับออกไป สองสามีภรรยาก็เดินกลับเข้ามาในบ้าน คุณหญิงจารวีจึงเอ่ยว่า " ลูกสะใภ้ที่ต้องใจก็จากไปแล้ว แล้วลูกชายตัวดีของเราจะทำสำเร็จมั้ยเนี่ย ฉันล่ะกังวลใจจริงๆ " ได้ยินดังนั้นคุณผู้ชายทวีศักดิ์จึงเดินเข้ามาโอบภรรยาด้วยความรักใคร่ ยิ้มตาหยีจนปรากฏร่องรอยเหี่ยวย่นที่หางตา แล้วเอ่ยหยอกล้อภรรยาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน " ที่ผมกอดอยู่ ใช่ภรรยาผมหรือเปล่า ทำไมผิวพรรณเปล่งปลั่ง ใบหน้างดงามราวกับหญิงสาววัยแรกแย้มเลย " คุณหญิงจารวี เงยมองสามีแล้วตีไปเบาๆ เพราะสามีเปลี่ยนเรื่องที่จะสนทนากัน แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าแววตาที่มีการงอนเล็กน้อย " คุณ มันใช่เวลามาหยอกกันเล่นมั้ย สนใจเรื่องที่ฉันพูดหน่อย " คุณผู้ชายทวีศักดิ์ค่อยๆหุบยิ้มแล้วเอ่ยอย่างจริงจังน้ำเสียงสุขุมอ่อนโยน " คุณอย่าไปคิดมากเลย ลูกเราโตแล้ว เขารู้ ว่าควรทำยังไง อีกอย่างอดีตลูกสะใภ้ก็เพิ่งจะออกไป คุณทำใจรับลูกสะใภ้คนใหม่เข้ามาได้แล้วเหรอ ผมว่าเราอย่าเอาเวลาในปั้นปลายชีวิตของเรา มาคิดเรื่องพวกนี้เลย เดี๋ยวมันจะไม่ดีต่อสุขภาพจิตเอานะ ปล่อยให้เป็นหน้าหน้าของลูก ที่ยังหนุ่มยังแน่นได้ดีกว่า ให้เขาจัดการเอง " แล้วคุณหญิงจารวีก็เอ่ยขึ้นอย่างไม่ชอบใจ ในบางคำพูดของสามี " ใครบอกว่าฉันจะรับลูกสะใภ้คนใหม่ ฉันเอาแค่ลูกหล่อนเท่านั้นค่ะ " คุณผู้ชายทวีศักดิ์ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจคล้ายเอือมเล็กน้อย แล้วเลื่อนมือทั้งสองข้างมาจับไหล่ภรรยาเบาๆให้ภรรยาหันมาทางเขา แล้วสบตากับภรรยาอย่างจริงจังแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเจือความอ่อนโยน " ไม่เอาน่ะคุณหญิง ไม่คิดแบบนี้ ลูกทุกคนล้วนต้องการพ่อแม่ แม้จะมีแม่เลี้ยง ก็ใช่ว่าจะเหมือนแม่แท้ๆ เมื่อเด็กโตขึ้น ต่อให้เราไม่บอกเรื่องแม่แท้ๆหรือเรื่องราวที่เราทำไว้ วันหนึ่งเขาก็ต้องรู้ความจริง เขาอาจจะรู้สึกเจ็บปวดและเสียใจในภายหลังได้ การกระทำที่ผิดพลาดของเราอาจจะย้อนกลับมาทำร้ายเราเองในอนาคต ช่วงปั้นปลายชีวิตที่ควรจะอยู่อย่างสงบสุขอาจจะต้องมานั่งทุกข์ใจและไม่สงบสุขก็ได้ เมื่อเรื่องยังไม่เกิดเราอย่าทำอะไรที่ผิดพลาดเลย ยอมรับพวกเขา ให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกัน มีครอบครัวที่อบอุ่นอย่างสมบูรณ์เถอะ อย่าไปอคติหรือตัดสินคนที่ภายนอก อย่าไปดูถูกรากเหง้าของคน เพราะคนเรามันเลือกเกิดไม่ได้ ถ้าเลือกเกิดได้ทุกคนก็อยากจะเกิดมารวย และมีความสุขกันทั้งนั้น คุณรู้มั้ยแท้จริงแล้ว ความจนมันคือสีสันหนึ่งของชีวิตเลยนะ ทำให้คนรู้จักพยายาม มีความอดทน เข้มแข็งและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง มีภูมิคุ้มกันทางสังคมที่ดีเยี่ยม เอาตัวรอดเก่งกว่าใครๆ " เมื่อได้ฟังสามีเอ่ยอย่างอ่อนโยนและมีเหตุผล คุณหญิงจารวีก็เริ่มใจอ่อนแล้วเอ่ย " ค่ะ หากหล่อนมีหลานให้เราได้ ฉันจะไม่กีดกันหล่อนให้ได้เจอกับลูก หากลูกชายเราชอบหล่อนขึ้นมาจริงๆ ฉันจะแล้วแต่ลูก ไม่ขอออกความเห็นใดๆอีก " คุณผู้ชายทวีศักดิ์ฉีกยิ้มจนตาหยี แล้วดึงภรรยาเข้ามากอดไว้ในอ้อมอก ด้วยความรู้สึกดีใจและสบายใจที่ภรรยาเชื่อฟังคำพูดของเขาเตชินขับรถพาพิมออกมาจากบ้านระหว่างทางพิมนั่งเงียบตลอดเตชินก็ขับรถไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมายปลายทาง พิมที่นั่งข้างๆก็ยังไม่บอกเขาสักทีว่าจะไปไหน สุดท้ายเขาจึงหันมาเอ่ยถามพิมว่า" คุณคิดได้หรือยังว่าจะไปที่ไหน "พิมนั่งกอดอก ทำท่าครุ่นคิดสักพัก จึงหันไปมองเตชินแล้วเอ่ย" อืม...ยังคิดไม่ออกอ่ะ คุณขับไปเรื่อยๆก่อนได้มั้ย ถ้าคิดออกแล้วจะบอก "ได้ยินเธอพูดดังนั้นเขาจึงเอ่ย" เราขับรถออกมาได้ชั่วโมงหนึ่งแล้วนะ คุณยังคิดไม่ออกอีกเหรอ ว่าอยากไปที่ไหน "พิมหันกลับมา ทอดสายตามองตรงไปข้างหน้าแล้วเอ่ย" งั้นคุณก็ขับรถพาฉันเที่ยวชมกรุงเทพละกัน ตั้งแต่ที่ฉันมาถึงกรุงเทพ ฉันยังไม่เคยออกไปไหนเลย ฉันอยากจะนั่งรถชมวิวชมทิวทัศน์รอบเมืองหลวงอย่างเพลินๆสักหน่อย "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หันหน้ากลับไป มองตรงไปบนถนนข้างหน้าสองมือจับพวงมาลัยขับอย่างชำนาญ แล้วเอ่ย" ได้ ผมจะพาคุณขึ้นบนทางด่วน คุณจะได้เห็นทิวทัศน์ในเมืองกรุงอย่างชัดเจน "เอ่ยจบเตชินก็ขับขึ้นบนทางด่วนแล้วขับต่อไปเรื่อยๆ ขับไปตามสถานที่ต่างๆพร้อมกับแนะนำสถานที่ต่างๆให้พิมได้รู้จักแล้วอยู่ๆพิมก็ทำหน้าบิดเบี้ยวคล้ายกับมีอาการเจ็บนั่งตัวเกรงคล้า
ในเช้าวันต่อมา เตชินตื่นขึ้นมาแต่เช้า เมื่อทำกิจวัตรประจำวันเสร็จเขาก็เดินออกจากห้อง ลงไปชั้นล่างแล้วเดินเข้าไปในห้องครัวหยิบผ้ากันเปื้อนมาสวม แล้วไปเปิดดูของที่มีในตู้เย็น หยิบเนื้อปูกับกุ้งและผักขึ้นฉ่ายออกมา(คื่นไฉ่)แล้วเริ่มตั้งหม้อ หั่นผักขึ้นฉ่าย เพื่อที่จะทำข้าวต้มให้พิม จากนั้นเขาก็เอาขิงจากในตู้เย็นมาซอย หั่นเป็นชิ้นเล็กๆพอทำเสร็จ ก็ตักข้าวต้มใส่ชาม วางลงในถาด หยิบช้อนกับน้ำดื่มที่ไม่ได้แช่เย็นวางลงข้างๆชามข้าวต้มจากนั้นก็ถอดผ้ากันเปื้อนออก แล้วยกถาดเดินขึ้นบันไดกลับไปที่ห้องพอถึงหน้าห้องก็ยื่นมือไปเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องนำถาดไปวางลงบนโต๊ะในห้องทำงานแล้วเอ่ยกับพิมที่หลับอยู่ว่า" พิม ข้าวต้มอยู่บนโต๊ะ ตื่นมาอย่าลืมทานข้าวทานยาล่ะ "จากนั้นเขาก็เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินมาที่เตียงแล้วก้มลงจูบหน้าผากพิมอย่างนุ่มนวลจากนั้นก็มองไปที่ริมฝีปากอวบอิ่มแล้วจูบลงไปเบาๆอย่างทะนุถนอมแต่พิมกลับหลับสนิท ไม่รู้สึกตัว เพราะเธอไม่ยอมหลับทั้งคืนมัวแต่กังวลกลัวเตชินจะมาล่วงเกินเธอในเวลาที่เธอเผลอหลับแต่เธอดันลืมไปว่า เธอแกล้งเป็นเมนส์อยู่แท้จริงแล้วแค
เตชินกลับเข้ามาในบ้าน เห็นพิมนั่งทานข้าวอยู่จึงเดินเข้ามาเธอแล้วเอ่ย" ตื่นแล้วเหรอ ดีขึ้นบ้างมั้ย "พิมหันไปมองเขาแล้วเอ่ยตอบ" ดีขึ้นแล้วค่ะ "" อืม ดีแล้ว ผมขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ "" ค่ะ "เอ่ยจบเตชินก็หมุนตัวเดินขึ้นบันไดไป พิมหันมาสนใจข้าวตรงหน้าแล้วตักเข้าปากต่อไปพอทานข้าวเสร็จเธอก็ดื่มน้ำตามปกติ แล้วลุกจากเก้าอี้เดินมานั่งในห้องนั่งเล่นแล้วเปิดทีวีดู เตชินเดินลงบันไดมาเห็นพิมนั่งดูทีวีอยู่ จึงเข้ามาหาเธอแล้วนั่งลงข้างๆเธอ จากนั้นก็ยื่นมือไปโอบไหล่เธอ เธอพยายามกระเถิบหนีห่าง แล้วเอ่ยเสียงเย็น" คุณเตชิน กรุณาเก็บมือดีๆค่ะ "เตชินเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอย่างสุขุมน้ำเสียงแฝงไปด้วยการหยอกเย้า" แค่โอบไหล่ภรรยาก็ไม่ได้เหรอ "ได้ยินดังนั้นพิมมองตาเขียวใส่เขาอย่างไม่พอใจในคำพูดของเขา แล้วเอ่ย" คุณเตชิน ฉันเป็นภรรยาคุณหรือเปล่าคุณรู้ดี "เตชินเก็บมือกลับมาแล้วเอ่ยถามอย่างจริงจังคล้ายใส่ใจเธอมาก" วันนี้คุณอยากไปไหนมั้ย "พิมหันมาสนใจรายการทีวีต่อพร้อมกับเอ่ยอย่างเย็นชา" ไม่ค่ะ "เตชินจึงเอ่ยต่อว่า" งั้นผมไปข้างนอกนะ วันนี้อากาศเย็น คุณอยู่บ้านก็รีบเข้านอนไวๆหน่อยนะ "ได้ยินดัง
เตชินขับรถกลับมาด้วยอารมณ์ที่ยากจะอธิบายเขาไม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นอะไร ที่อยู่ๆก็รู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับป๊อบทั้งที่ก่อนหน้านี้ ก็เคยเจอกันแล้ว แต่ก็ไม่มีความรู้สึกนี้เกิดขึ้นพิมนั่งบนโซฟาตัวใหญ่ ดูซีรีส์จีนเรื่อง ฉู่เฉียวจอมใจจราชน เธอชอบจ้าวลี่อิงมากๆ เธอเอาผ้าห่ม มาห่ม นั่งดูซีรี่ส์คนเดียวอย่างเพลินๆ พอถึงฉากดราม่า เธออินจนร้องให้ไม่หยุด ดูไปร้องให้ไปหยิบทิชชูขึ้นมาซับน้ำตา แต่น้ำตาเธอกลับไม่มีทีท่าว่าหยุดไหลเลยเธอนั่งร้องให้คนเดียวในห้อง ที่มีเพียงแสงสลัวจากหลอดไฟดวงเล็กๆบนเพดานคอยเป็นเพื่อนรับฟังเสียงร้องให้สะอื้นของเธอท่ามกลางความืดที่ให้บรรยากาศคล้ายโรงหนังเตชินเดินกลับเข้ามาในบ้าน ได้ยินเสียงร้องให้ของเธอก็ตกใจรีบเดินเข้าไปหาเธอแล้วเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงอย่างร้อนใจ" พิม คุณร้องให้ทำไม เจ็บตรงไหนอีก "พิมทั้งตกใจ ทั้งเคอะเขิน ความฟินความอินถูกทำลายลงด้วยตัวและเสียงของเตชิน เธอรีบปาดน้ำตาทิ้งอย่างไว ทำตัวไม่ถูก ที่ถูกคนอื่นเห็นตอนร้องให้เพราะอินกับซีรี่ส์แต่เธอจะให้เตชินรู้ว่าเธอร้องให้เพราะซีรี่ส์ไม่ได้ เธอจึงเอ่ยด้วยสีหน้านิ่ง ตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จ" ฉัน...ฉันค
หลายวันต่อมา ด้วยความที่ไตรภพและนาวินอยากจะมาทำความรู้จักกับพิมให้มากขึ้นเพราะพวกเขาคิดว่าพิมคือผู้หญิงคนเดียวที่ทำให้เตชินทิ้งพวกเขาได้และเป็นผู้หญิงคนแรกที่เตชินดูเป็นห่วงเป็นใยเป็นพิเศษพวกเขาจึงโทรหาเตชินแล้วนัดกันขอไปปาร์ตี้บ้านเตเชินเตชินเองก็ไม่ขัดอะไร ให้เพื่อนมาปาร์ตี้ มาดื่มเหมือนอย่างเคยๆในตอนเช้าของวันปาร์ตี้เตชินเอ่ยบอกกับพิมว่า" วันนี้เย็นๆเพื่อนผมจะมา คุณแต่งตัวให้มิดชิดหน่อยนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ย" ทำไม ฉันต้องฟังคุณด้วย อีกอย่างฉันอยู่แค่ในห้อง ไม่ได้ออกไปไหนสักหน่อย จะแต่งมิดชิดไปทำไม อ้อ จริงสิ ฉันเคยแต่งตัวไม่มิดชิดด้วยเหรอ ก็ไม่เคยหนิ "เตชินใช้สายตาสำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วเอ่ย" ไม่เคยก็ดีแล้ว ผมไปทำงานก่อนนะ "เอ่ยจบเขาก็จับหัวพิมแล้วจูบหน้าผากของเธอเบาๆอย่างไวจากนั้น ก็เดินออกจากห้องไป ทำเอาพิมเหวอไปเลยและเริ่มรู้สึกสับสนกับสถานะที่เป็นอยู่เธอรู้สึกว่านับวันเธอและเขาเหมือนสามีภรรยากันจริงๆเข้าไปทุกทีแม้เธอจะไม่มีประสบการณ์ด้านความรักมาก่อน แต่เธอก็รู้สึกได้ว่าชีวิตเธอเหมือนจะเปลี่ยนไป มีอีกหนึ่งชีวิตเข้ามาวุ่นวายในชีวิตเธอจากที่นอนคนเดียวมาตลอ
ป้าใจเห็นทั้งสองจับมือกันดูสนิทสนมเกินกว่าคนเคยรู้จักทั่วไป จึงเดินเข้าไปแสดงตัวแล้วเอ่ย" คุณพิมคะ ไปส่งป้าเข้าห้องน้ำหน่อยได้มั้ยคะ "พิมจึงเอ่ยว่า" ได้ค่ะ "จากนั้นเธอก็หันไปเอ่ยกับป๊อบว่า" ฉันไปส่งป้าใจเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ "" ครับ "ป๊อบเอ่ยตอบ พิมลุกขึ้นเดินไปส่งป้าใจ แล้วเสียงแจ้งเตือนข้อความในโทรศัพท์ของป๊อบก็ดังขึ้นป๊อบเปิดดูข้อความจากผู้เป็นแม่ ( ป๊อบลูกอยู่ไหน คุณพ่อไม่สบาย รีบกลับมาด่วน )เขามองแผ่นหลังของพิมที่ไกลออกไป จากนั้นก็วิ่งไปหาเธอด้วยสีหน้าร้อนใจ แล้วเอ่ย" พิม ผมขอกลับก่อนนะ ผมมีธุระด่วนต้องไปทำน่ะ "พิมจึงเอ่ยตอบว่า" ได้ค่ะ "จากนั้นเขาก็หมุนตัวเดินกลับไปที่รถด้วยความรีบร้อน แล้วขับรถออกไปพิมรอป้าใจอยู่หน้าห้องน้ำ พอป้าใจเข้าห้องน้ำเสร็จ ทั้งสองก็เดินออกไปหาอะไรทานในศูนย์อาหารทั้งสองนั่งทานข้าวกันอย่างเพลินๆเตชินออกมาจากบริษัทก่อนเวลาเลิกงานแล้วมาหาพิมที่สวนสาธารณะแห่งนี้ เมื่อมาถึงก็เห็นพิมนั่งปั่นเป็ดเพลินๆอยู่คนเดียวกลางน้ำส่วนป้าใจก็นั่งรอเธอที่ให้ต้นไม้ใหญ่ เตชินจึงเดินเข้าไปแล้วปั่นเป็ดไปหาพิม จากนั้นก็เอ่ยว่า" ผมมารับคุณกลับบ้านแล้วครับ "พิม
พิมเข้าไปร้องให้ในห้องน้ำอย่างเงียบๆ เธอไม่คิดว่าเตชินจะพูดเรื่องที่จดทะเบียนต่อหน้าทุกคนจนทำให้ป๊อบเข้าใจผิดแสดงท่าทีเย็นชาออกมาแบบนั้นเธอไม่รู้ว่าเตชินคิดจะทำอะไรอีก ที่อยู่ๆก็ประกาศว่าเธอคือภรรยาเขาอย่างเต็มปากเต็มคำจนทำให้สีหน้าของป๊อบเปลี่ยนไปเธอคิดว่าป๊อบคงโกรธ เกลียดเธอแล้วแน่ๆ[ หรือว่าเขาจะรู้เรื่องของเรากับคุณป๊อบ ]เธอเริ่มสงสัยแล้วพึมพำในใจ จากนั้นเธอก็ล้างหน้าล้างตาแล้วเดินออกจากห้องน้ำป๊อบยืนรอคุยกับเธออยู่หน้าห้องน้ำได้สักพักแล้ว เขาได้ยินเสียงเธอร้องให้ชัดเจนพอเธอเปิดประตูห้องน้ำออกมา เขาก็จับแขนเธอไว้แล้วเอ่ยถามด้วยอาการเมานิดๆ" พิม ที่เตชินพูดมันไม่เป็นความจริงใช่มั้ย "พิมได้แต่เงียบไม่เอ่ยอะไรออกมาเพราะเธอมึนตึ๊บไปหมดแล้วแต่การเงียบของพิมเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุดป๊อบจึงเอ่ยถามต่อว่า" เพราะแบบนี้ใช่มั้ย คุณถึงให้ผมรอ พิมคุณบอกผมมาเถอะมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆคุณถึงไปจดทะเบียนสมรสกับเขา "พิมเงยหน้ามองป๊อบทั้งน้ำตา เธอจะบอกเขาได้ยังไง ว่าเธอจดทะเบียนเพราะเงินป๊อบก็พอจะเดาได้ว่าอาจจะเป็นเพราะเงินจำนวนมากถึงทำให้พิมจดทะเบียนสมรสได้ เขาจึงเอ่ยถามขึ้น" เพราะเ
หลังจากคืนปาร์ตี้ เตชินก็ไม่กลับมานอนห้องอีกเลยพิมนอนคนเดียวอย่างสบายใจเฉิ่ม หลับสนิทไปทุกคนคืน ตื่นมาก็รู้สึกสดชื่อนอารมณ์ดีทุกเช้าส่วนเตชิน พิมเองก็ไม่รู้ว่าเขาไปนอนที่ไหน และไม่ได้ถามหรือว่าสนใจเขาเลยผู้ช่วยคังทำหน้าที่กลับมาเอาเสื้อผ้า ชุดทำงานวันต่อวันป้าใจเริ่มเป็นห่วงความสัมพันธ์ของทั้งสอง ในสายตาป้าใจ ตามที่ป้าใจเข้าใจคือ ทั้งสองคือสามีภรรยากันเป็นแบบนี้หลายๆวันเข้า พอป้าใจเจอผู้ช่วยคังกลับมาเอาเสื้อผ้าให้เจ้านาย ป้าใจก็อดทนต่อไม่ไหว จึงเข้าไปถามถึงคุณชายของเขาทันที" คุณคังคะ เอ่อ...อย่าหาว่าป้าอยากสอดรู้สอดเห็นเรื่องของเจ้านายเลยนะคะ เอ่อ...คุณชายไม่กลับมาหลายวันแล้ว ป้าใจไม่ดีเลย คุณชายทะเลาะกับคุณพิมเหรอคะ "ผู้ช่วยคังเองก็ไม่รู้ แต่เขาก็เดาว่าน่าจะทะเลาะกัน แต่คราวนี้เขารู้สึกแปลกที่เจ้านายของเขาโกรธจนหนีไปอยู่โรงแรม แถมสีหน้าดูไม่เป็นมิตรกับโลกมาเป็นอาทิตย์แล้ว รอยยิ้มสักนิดก็ไม่เคยปรากฎให้เห็น[ ทั้งที่ทั้งสองไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วโกรธกันเรื่องอะไร คุณชายถึงกับไม่ยอมกลับมาอยู่บ้าน ทั้งที่อยากรู้ว่าคุณพิมเป็นยังไงก็ไม่กลับมาดูเอง ]ผู้ช่วยคังพึมพำกับตัวเองในใ
พิมที่มีอาการมึนๆ แทบจะไม่มีแรงแล้ว เธอรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีใช้เท้าถีบสองคนนั้นออกไปแล้วแบกร่างที่สายตาเริ่มพร่ามัวหัวหมุนจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เดินสะเปะสะปะออกไป มือเรียวเล็กยังไม่ทันได้สัมผัสลูกบิดประตู ชายหนุ่มก็มารวบตัวเธอแล้วอุ้มกลับมาอย่างสบายๆเพราะเธอตัวเล็ก" ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! "เสียงตะโกนแผ่วเบา ร้องเรียกให้คนช่วย แต่โชคร้ายที่ห้องพวกนี้เป็นห้องเก็บเสียงต่อให้เธอตะโกนเสียงดัง ก็ไม่มีใครได้ยิน ชายหนุ่มทิ้งเธอลงบนเตียง มองเธอด้วยสายตาหื่นกามชายหนุ่มหันไปเอ่ยกับเพื่อนว่า" เดี๋ยวมึงคอยถ่ายวีดีโอให้กูก่อน เสร็จแล้วกูจะถ่ายให้มึง "ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยว่า" ทำไมมึงไม่ตั้งกล้องเอาวะ "" ตั้งกล้องมันจะไปเห็นทุกมุมได้ไงวะ สาวน้อยคนนี้ งานดี ดูสดใหม่ สวยตั้งแต่หัวจรดเท้า ต้องถ่ายให้ได้ครบทุกมุมเว้ย งานดีเงินดีมึงจำไม่ได้หรือไง "" เออๆ ได้กูจะถ่ายให้มึงก่อน "พิมได้ยินชัด ทุกถ้อยคำหยาบคายและน่ารังเกียจ น่าขยะแขยงพวกนั้นสติเธอเริ่มเลือนลาง เธอกลัวจนน้ำตาไหลพราก[ คุณเตชิน ถ้าฉันเป็นอะไรไป ล้วนเป็นเพราะคุณ ฉันจะจดจำคุณไว้ชั่วชีวิตจะไม่มีวันลืมคุณแน่นอน ]แม้เธอจะรู้สึกโกรธแค้นเ
ข้อเท้าบวมเป่ง แข้งขาและหัวเข่าถลอก จนเลือดสีแดงสดซึมออกมา ตามรอยแผลสดเธอไม่สนใจ วิ่งตามต่อไป จนรถของเตชินลับสายตาไป สุดท้ายความเร็วในการวิ่งของคนก็แพ้ให้กับรถหรูที่แล่นไปอย่างรวดเร็วรถของเตชินหายเข้าไปท่ามกลางความืดมิดเหลือไว้เพียงความว่างเปล่าเธอยืนอยู่ท่ามกลางสถานที่อโคจร ผู้คนพลุกพล่านมากหน้าหลายตาเธอรู้สึกหวิววูบขึ้นมาในใจ เมื่อรู้ว่าถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวในที่แบบนี้ในช่วงค่ำคืนแล้วจริงๆเธอได้แต่ยืนร้องให้ ใบหน้าเปื้อนไปด้วยน้ำตาราวกับเด็ก มองไปรอบๆไม่ว่าจะทางไหนใจเธอก็สั่นกลัวไปหมดสายตาทอดมองไปตามทางที่เตชินขับรถออกไป เธอไม่รู้จะเดินไปทางไหนแล้วตอนนี้เพราะเธอจำทางกลับบ้านไม่ได้ แถมเจ้าของบ้านก็มาทอดทิ้งเธอไว้อีกทำราวกับเธอเป็นสัตว์เลี้ยง ที่เจ้าของไม่ต้องการตัดหางแล้วปล่อยไป(ตัดหางปล่อยวัด)เธอยืนร้องให้แล้วบ่นพึมพำด้วยน้ำเสียงสั่นสะอื้นด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณเห็นฉันเป็นตัวอะไร คิดจะทิ้งก็ทิ้งไปเลยแบบนี้เหรอ จิตใจคุณทำด้วยอะไร ถึงทิ้งฉันไว้ในที่อโคจรแบบนี้ได้ลงคอ ฮือ... "เธอเดินไปตามทางด้วยเท้าเปล่าเนื้อตัวถลอกสภาพคล้ายคนเมา ผู้คนที่เดินผ่านไปมามองเธอด้วยสายตา
สิ่งที่เตชินเกลียดที่สุดคือการใช้ยาพวกนี้กับเขาเขาผละเธอออกจากตัวแล้วบีบไหล่เธอแน่นพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเดือดดาล" คุณบอกผมมา คุณเอายาบ้าๆนี่มาจากไหน "ตัวพิมสั่นเทาเทาแววตาสั่นไหวด้วยความกลัวแล้วเอ่ย" ฉัน ฉันเห็นในกระเป๋าเสื้อของคุณ "เธอที่ไม่รู้เรื่องอะไรมองว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาและคิดว่าเตชินคงใช้เป็นปกติในชีวิตประจำได้ยินดังนั้นเตชินได้แต่ผลักเธออกไปแล้วเคลื่อนมือมาเท้าเอวหันไปมองทางอื่นด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความเดือดดาลแล้วเอ่ย" คุณรู้ได้ยังไงว่ามันคือยาปลุกเซ็กซ์ "" ฉันศึกษาจากในเว็บไซต์ "" คุณเลยคิดที่จะมามอมผมกับผู้หญิงคนอื่น "เธอรู้ว่าเตชินโกรธมาก เธอกลัวจนไม่รู้จะทำยังไงแล้วจึงเข้าไปกอดเขาแน่นอีกครั้ง เพราะเธอไม่กล้าเผชิญหน้ากับแววตาดุดันคู่นั้นของเขาแล้ว" ฉันขอโทษ ฉันบอกแล้วว่าฉันสำนึกผิดแล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะเกลียดมันขนาดนี้ เป็นเพราะฉันเข้าใจผิดที่คิดว่าคุณใช้ประจำ ฉันสัญญาจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกฉันขอโทษ "แม้เธอจะเอ่ยขอโทษ สำนึกผิด ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแต่คำเหล่านั้นเธอไม่ได้เอ่ยออกมาจากใจ ไม่มีความจริงใจเลยสักนิด เป็นเพียงการเอาตัวรอดเท่านั้น
เธอออกมาข้างนอกนั่งได้สักพัก คิดว่ายาคงออกฤทธิ์แล้ว เธอจึงเดินกลับเข้าไปในห้องก็เห็นเตชินผลักผู้หญิงคนนั้นลงบนพื้นอย่างแรงด้วยท่าทางรังเกียจเธอตกใจที่เตชินไม่เป็นอะไรเลย มีแต่ผู้หญิงคนนั้นที่ดูอาการหนักดูแล้วฤทธิ์ยาคงแรงน่าดูผู้หญิงคนนั้นยังลุกขึ้นมาเกาะแกะเตชินพร้อมกับเอ่ย" คุณเตชินช่วยฉันที ฉันต้องการคุณ "เตชินโมโหจนเลือดขึ้นหน้า แววตาดุร้ายราวกับปีศาจมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างขยะแขยงแล้วง้างมือขึ้นจะตบเธอพิมเข้ามาจับมือเขาไว้แล้วผลักผู้หญิงคนนั้นไปข้างหลังเธอเตชินโกรธจนเกือบจะฆ่าคนได้ มองไปยังผู้หญิงคนนั้นด้วยท่าท่างดุร้ายมีความเกรี้ยวกราดเอ่ยเสียงกร้าวและดุดันราวกับปีศาจกำลังคำราม" ผู้หญิงแพศยา เธอกล้าคิดที่จะวางยาผม! "พิมรู้สึกผิดต่อผู้หญิงคนนั้นมากและรู้สึกกลัวเตชินมากๆเช่นกันเธอไม่เคยเห็นด้านนี้ของเขามาก่อนและไม่คิดว่าเขาจะรังเกียจผู้หญิงคนนี้ขนาดนี้ เธอจึงเอ่ย" คุณเตชิน คุณใจเย็นๆก่อนสิ คุณจะว่าให้เธอแบบนั้นไม่ได้ เพราะคุณเองไม่ใช่เหรอที่ให้เธอเข้ามาเอ็นเตอร์เทนน่ะแล้วเมื่อกี้คุณก็ชอบให้เธอทำเรื่องอย่างว่าไม่ใช่เหรอ เนื้อแนบชิดกันขนาดนั้น จะใช้ยาหรือไม่ใช้ยามัน
เตชินพาพิมออกไปเดินห้างเลือกซื้อเสื้อผ้าสำหรับใส่เดท(ครั้งแรก)คืนแรกของเขากับพิมเธอเข้าไปลองเสื้อผ้าหลายชุด กว่าเตชินจะให้ผ่าน เธอทั้งเหนื่อยและเบื่อแต่สุดท้ายเธอก็ได้ชุดที่เหมาะกับเธอและเป็นชุดที่เธอชอบ แต่เตชินกลับไม่เห็นด้วยที่จะให้เธอซื้อใส่" ไม่ได้ มันสั้นไป แถมยังโชว์ไหล่ โชว์ไหปลาร้าอีก มันดูเซ็กซี่และโป๊ะเกิน เปลี่ยน "แม้จะไม่อยากให้เธอใส่ แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชุดนี้ไม่เข้ากับหุ่นพิมเหมาะกับหุ่นเธอราวกับถูกออกแบบมาเพื่อเธอโดยเฉพาะใบหน้าสวย คอเรียวยาว ไหปลาร้าเซ็กซี่ แขนเรียวสวย อกนูนนิดๆ เอวบาง สะโพกนูนหน่อยๆ เรียวขายาวสวย มีทรวดทรงที่ชัดเจน หุ่นเพอร์เฟค ดูไม่มากเกินไปแต่เขาอยากจะเก็บไว้ชื่นชมคนเดียว เขาหวงของเขาอ่ะนะ ภรรยาเขาสวย หุ่นดี สวยตั้งแต่หัวจรดเท้าแถมยังมีเสน่ห์เสริมให้ดึงดูดเพศตรงข้ามอีกเขายิ่งหวงมากขึ้นไปอีกพิมเริ่มทำหน้าหงิดหน้างอนิดๆแล้วเอ่ย " คุณเตชิน คุณใช้ตาข้างไหนดูว่ามันโป๊ มันเซ็กซี่ ตรงไหน ชุดออกจะน่ารัก สมองคุณมีปัญหาคิดแบบนั้นอยู่คนเดียว "แล้วเธอก็เอ่ยอย่างกระเง้ากระงอดดื้อรั้นพร้อมกับหันไปทางอื่น แล้วเอามือกอดอก ใบหน้าบูดบึ้ง" ไม่รู้ล่ะ
ในเช้าวันต่อมา เตชินรู้สึกตัวขึ้นมา เขาค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ มองไปยังอ้อมแขนที่ว่างเปล่าไร้เงาพิมแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆห้องก็ไม่เห็นเธอ เขาเริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจกลัวเธอจะหนีไปจึงรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปดูที่ห้องน้ำ เปิดประตูเข้าไปก็ไม่เจอพิมใจเขาเริ่มไม่ดี รีบออกจากห้องแล้วลงบันไดไปอย่างรีบร้อนเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่เธออยู่ประจำก็ไม่เจอ จากนั้นเขารีบวิ่งไปดูที่ห้องครัวพอเห็นเธอนั่งทานข้าวเช้าอยู่ เขาเข้าไปกอดเธอจากด้านหลังแล้วเอ่ยอย่างโล่งใจ" พิม คุณอยู่นี่เอง ผมตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอคุณ ผมตกใจหมดเลยรู้มั้ย ทำไมคุณไม่ปลุกผม "พิมเองก็ตกใจที่อยู่ๆเตชินก็วิ่งเข้ามากอดเธอจากด้านหลังแบบนี้ เธอจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า" ทำไมฉันต้องปลุกคุณ วันนี้เป็นวันหยุดคุณไม่ต้องไปทำงานสักหน่อย "" อย่างงั้นก็เถอะ ทีหลังถ้าคุณตื่นก่อนคุณต้องปลุกผมนะ เข้าใจมั้ย "" อืม "เมื่อสบายใจแล้ว เตชินก็เอ่ยต่อว่า" งั้นผมขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ "พิมนั่งนิ่งไม่ตอบอะไร ก้มหน้าทานอาหารเช้าของตัวเองไปเตชินไม่กวนเธออีก ปล่อยมือจากเธอแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องครัวแล้วเดินขึ้นห้องไปพิมนั่งทานข้าว และคิดอะไรคนเดียวเ
พิมนั่งอ่านหนังสือในห้องนั่งเล่นเพลินๆ เตชินกลับเข้ามาในบ้าน ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมถมึงทึงพอพิมเห็นเขาก็ตกใจแล้วเอ่ยขึ้น" วันนี้คุณไม่ไปทำงานเหรอ? "เตชินไม่ตอบแต่คว้าข้อมือพิม แล้วลาก จูงมือของเธอให้ตามเขาขึ้นไปบนห้องพิมตกใจมาก ขณะที่เตชินจูงมือเธอไปข้างหน้าเธอหันหลังกลับมามองผู้ช่วยคังกับป้าใจที่ยืนดูเธอด้วยสีหน้ากังวลเธอใช้สายตาเชิงถามเชิงอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นผู้ช่วยคังรู้และเข้าใจความหมายในสายตาเธอดีแต่เขาช่วยอะไรไม่ได้เขาได้ส่ายหน้าเบาๆประมาณว่าบอกไม่ได้เวลานี้ คุณชายเขาโกรธขนาดนั้น เขาจะกล้าไปยุ่งเรื่องของคนสองคนได้ยังไงพิมหันกลับมามองข้างหน้า เธอไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากนี้เธอพยายามยื้อตัวดึงมือกลับมาให้หลุดพ้นจากมือของเตชินแต่ก็ทำไม่สำเร็จร่างเล็กถูกเตชินฉุดกระชากให้ตามไป เธอแทบจะปลิวได้เลยได้โอกาส เธอจับราวบันไดไว้แน่นแล้วเอ่ย" คุณเตชิน คุณเป็นบ้าอะไร ปล่อยนะ ฉันเจ็บข้อมือ "เตชินไม่พูดพล่ามทำเพลง สีหน้าคุกรุ่นไปด้วยเพลิงโทสะเดินมาแกะมือเธอที่จับราวบันไดแน่นนั้นออกอย่างง่ายดายแล้วเอามือเล็กๆทั้งสองข้างของเธอมาจับรวมกันไว้ด้วยมือใหญ่ของเขาแค่มือเดียวจา
หลังจากคืนปาร์ตี้ เตชินก็ไม่กลับมานอนห้องอีกเลยพิมนอนคนเดียวอย่างสบายใจเฉิ่ม หลับสนิทไปทุกคนคืน ตื่นมาก็รู้สึกสดชื่อนอารมณ์ดีทุกเช้าส่วนเตชิน พิมเองก็ไม่รู้ว่าเขาไปนอนที่ไหน และไม่ได้ถามหรือว่าสนใจเขาเลยผู้ช่วยคังทำหน้าที่กลับมาเอาเสื้อผ้า ชุดทำงานวันต่อวันป้าใจเริ่มเป็นห่วงความสัมพันธ์ของทั้งสอง ในสายตาป้าใจ ตามที่ป้าใจเข้าใจคือ ทั้งสองคือสามีภรรยากันเป็นแบบนี้หลายๆวันเข้า พอป้าใจเจอผู้ช่วยคังกลับมาเอาเสื้อผ้าให้เจ้านาย ป้าใจก็อดทนต่อไม่ไหว จึงเข้าไปถามถึงคุณชายของเขาทันที" คุณคังคะ เอ่อ...อย่าหาว่าป้าอยากสอดรู้สอดเห็นเรื่องของเจ้านายเลยนะคะ เอ่อ...คุณชายไม่กลับมาหลายวันแล้ว ป้าใจไม่ดีเลย คุณชายทะเลาะกับคุณพิมเหรอคะ "ผู้ช่วยคังเองก็ไม่รู้ แต่เขาก็เดาว่าน่าจะทะเลาะกัน แต่คราวนี้เขารู้สึกแปลกที่เจ้านายของเขาโกรธจนหนีไปอยู่โรงแรม แถมสีหน้าดูไม่เป็นมิตรกับโลกมาเป็นอาทิตย์แล้ว รอยยิ้มสักนิดก็ไม่เคยปรากฎให้เห็น[ ทั้งที่ทั้งสองไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วโกรธกันเรื่องอะไร คุณชายถึงกับไม่ยอมกลับมาอยู่บ้าน ทั้งที่อยากรู้ว่าคุณพิมเป็นยังไงก็ไม่กลับมาดูเอง ]ผู้ช่วยคังพึมพำกับตัวเองในใ
พิมเข้าไปร้องให้ในห้องน้ำอย่างเงียบๆ เธอไม่คิดว่าเตชินจะพูดเรื่องที่จดทะเบียนต่อหน้าทุกคนจนทำให้ป๊อบเข้าใจผิดแสดงท่าทีเย็นชาออกมาแบบนั้นเธอไม่รู้ว่าเตชินคิดจะทำอะไรอีก ที่อยู่ๆก็ประกาศว่าเธอคือภรรยาเขาอย่างเต็มปากเต็มคำจนทำให้สีหน้าของป๊อบเปลี่ยนไปเธอคิดว่าป๊อบคงโกรธ เกลียดเธอแล้วแน่ๆ[ หรือว่าเขาจะรู้เรื่องของเรากับคุณป๊อบ ]เธอเริ่มสงสัยแล้วพึมพำในใจ จากนั้นเธอก็ล้างหน้าล้างตาแล้วเดินออกจากห้องน้ำป๊อบยืนรอคุยกับเธออยู่หน้าห้องน้ำได้สักพักแล้ว เขาได้ยินเสียงเธอร้องให้ชัดเจนพอเธอเปิดประตูห้องน้ำออกมา เขาก็จับแขนเธอไว้แล้วเอ่ยถามด้วยอาการเมานิดๆ" พิม ที่เตชินพูดมันไม่เป็นความจริงใช่มั้ย "พิมได้แต่เงียบไม่เอ่ยอะไรออกมาเพราะเธอมึนตึ๊บไปหมดแล้วแต่การเงียบของพิมเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุดป๊อบจึงเอ่ยถามต่อว่า" เพราะแบบนี้ใช่มั้ย คุณถึงให้ผมรอ พิมคุณบอกผมมาเถอะมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆคุณถึงไปจดทะเบียนสมรสกับเขา "พิมเงยหน้ามองป๊อบทั้งน้ำตา เธอจะบอกเขาได้ยังไง ว่าเธอจดทะเบียนเพราะเงินป๊อบก็พอจะเดาได้ว่าอาจจะเป็นเพราะเงินจำนวนมากถึงทำให้พิมจดทะเบียนสมรสได้ เขาจึงเอ่ยถามขึ้น" เพราะเ