เช้าวันต่อมา พิมกับเตชิน นั่งจดทะเบียนสมรสกันในห้องรับแขก
โดยมีนายทะเบียนสองคนและมีผู้คังอีกหนึ่งคนคอยเป็นสักขีพยานในการจดทะเบียนครั้งนี้ " ขอให้คุณเตชินกับคุณพิมถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร์ มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมืองนะครับ " นายทะเบียนอวยพรให้ทั้งสองคน พิมนั่งนิ่งเฉยไม่รู้สึกอะไรกับคำอวยพร เตชินจึงเอ่ยว่า " ขอบคุณครับ " แล้วนายทะเบียนอีกคนก็เอ่ยว่า " หน้าที่ของเราเสร็จสิ้นแล้ว พวกผมสองคนขอตัวกลับก่อนนะครับ " เตชินพยักหน้าให้เบาๆ แล้วส่งสายตา ไปให้ผู้ช่วยคัง เมื่อนายทะเบียนสองคนลุกจากโซฟา ก็เดินออกจากห้องรับแขกไป โดยมีผู้ช่วยคังเดินตามไปส่งแล้วเอ่ยกับนายทะเบียนว่า " คุณสองคนช่วยเก็บเรื่องในวันนี้ไว้เป็นความลับด้วยนะครับ " เอ่ยจบเขาก็ยื่นซองใส่เงินให้ทั้งสองแล้วเอ่ย " ค่าน้ำใจเล็กๆน้อยๆจากคุณชายครับ " นายทะเบียนสองคน หันกลับไปมองเตชินที่นั่งบนโซฟาสุดหรูในห้องรับแขกอย่างสง่า ดูองอาจราวกับราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ เตชินยิ้มอย่างมีเลศนัยพร้อมกับพยักหน้าให้พวกเขารับค่าน้ำใจ นายทะเบียนทั้งสองยิ้มแห้งแล้วค้อมหัวขอบคุณเล็กน้อยแล้วหันหน้ากลับลมา เดินออกจากบ้านขอเตชินไปขึ้นรถ โดยมีผู้ช่วยคังขับรถไปส่ง เมื่ออยู่กันตามลำพังแล้ว เตชินก็หันไปมองพิมแล้วเอ่ยอย่างเผด็จการ " ต่อไป ถ้าผมไม่อนุญาต คุณห้ามไปไหนสองต่อสองกับผู้ชายอีก เพราะตอนนี้คุณคือผู้หญิงของผมแล้ว ผมไม่อนุญาตใครก็ห้ามแตะ " ได้ยินดังนั้นพิมลุกขึ้นพรึ่บ แล้วเอ่ยอย่างไม่ยอมเมื่อรู้ว่าตัวเองถูกหลอกเข้าแล้ว " ใครเป็นผู้หญิงของคุณ เมื่อวานคุณไม่ได้พูดแบบนี้นี่ ไหนว่าถ้าจดทะเบียนแล้ว จะไม่มีผลกระทบใดๆกับการใช้ชีวิตของฉันไง " เตชินลุกขึ้นยืนมองพิมด้วยสีหน้าเคร่งขรึมแล้วเอ่ยอย่างเย็นชา " นั่นมันเรื่องของเมื่อวานแล้ว ส่วนเรื่องวันนี้คือคุณจดทะเบียนสมรสแล้ว อะไรๆก็เริ่มใหม่หมด แม้เราจะไม่เปิดเผยสถานะ แต่ผมก็ไม่อาจให้คุณไปไหนมาไหนกับผู้ชายคนไหนได้ในช่วงนี้ จนกว่าผมจะมั่นใจ " พิมหรี่ตามองเขา แล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย " ทำไม คุณมีเหตุผลอะไร แล้วจนกว่าจะมั่นใจเรื่องอะไร ถึงห้ามไม่ให้ฉันพบเพื่อนผู้ชาย แล้วเพื่อนผู้ชายที่เป็นสาวสอง ก็พบไม่ได้เหรอ " เตชินจึงเอ่ยว่า " ได้ แต่ต้องอยู่ในสายตาของผม หากคุณอยากจะไปไหนขอให้บอกผู้ช่วยคัง เขาจะทำหน้าที่รับส่งคุณ และคอยรายงานผม แต่คุณห้ามออกจากกรุงเทพ เว้นแต่ผมจะอนุญาต " พิมจึงโวยวายขึ้นมาด้วยความโมโหจนสุดจะทน พร้อมกับเอาหมอนโยนใส่เตชิน " คุณหลอกฉัน คุณมันเจ้าเล่ห์ เชื่อไม่ได้เลยสักนิด คุณจะคอยจับตามองฉันตลอดแบบนี้ไม่ได้ ฉันอยากใช้ชีวิตอย่างมีอิสระ แบบนี้เขาเรียก กักบริเวณกันชัดๆ ฉันไม่น่าหลงเชื่อคุณเลย " โวยวายเสร็จ เธอก็หมุนตัว เดินออกไปด้วยสีหน้าบูดบึ้ง เตชินมองตามร่างระหง ที่เดินออกไปด้วยสีหน้าบูดบึ้ง เขาก็แอบขำเบาๆ จากนั้นก็ปรับสีหน้ากลับมาเคร่งขรึมเป็นปกติ แล้วเอ่ยถามขึ้น ด้วยน้ำเสียงราบเรียบเจือเย็นชา " คุณจะไปไหน " พิมที่โมโหอยู่ก็เผลอตอบไปอย่างหน้าตาเฉยว่า " กลับห้อง! " พอรู้ตัวเผลอตอบก็สายไปแล้ว เธอเหลียวหลังกลับมามองเตชินอย่างไม่พอใจ แล้วหันหน้ากลับไป เดินกลับห้องตัวเอง แต่เพิ่งจะเริ่มก้าวขา เตชินก็เอ่ยมาจากทางด้านหลังว่า " ห้องคุณอยู่ข้างบน ส่วนห้องเก่าของคุณ เป็นห้องของป้าใจแม่บ้านคนใหม่ " ได้ยินดังนั้นพิมก็หยุดชะงักไป คิดทบทวนคำพูดของเตชิน แล้วบ่นพึมพำในใจ [ ห้องข้างบน ห้องไหน มีห้องเดียวไม่ใช่เหรอ ] แล้วเธอก็หันไปพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นถามเตชินว่า " คุณเตชิน ชั้นบนมีห้องใหญ่ของคุณเพียงห้องเดียว? " เตชินยืนล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้าง แล้วฉีกยิ้มมุมปากพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น เอ่ยตอบพิมว่า " ก็ใช่ไง คุณเข้าใจถูกแล้ว " ได้ยินดังนั้นเธอจึงเดินเข้าไปหาเตชินด้วยความโมโห แล้วเอามือผลักไปที่หน้าอกของเขาแล้วเอ่ย " คุณเตชิน การได้กวนประสาทฉัน มันทำให้คุณสนุกมากหรือไง ข้างบน คุณจะให้ฉันนอนที่ไหน " เตชินแม้จะถูกผลัก แต่แรงพิมกลับไม่สามารถทำให้เขาขยับเขยื้อนได้เลยแม้แต่น้อย เขามองต่ำลงมายังคนตรงหน้าแล้วเอ่ย " ห้องเดียวกับผม " ได้ยินดังนั้นพิมจึงเอ่ยอย่างหนักแน่นชัดถ้อยชัดคำว่า " ไม่มีทาง!!! " เตชินจึงเอ่ยถามขึ้น " ไม่นอนห้องเดียวกับผม แล้วคุณจะนอนที่ไหน " พิมเบะปากแล้วนั่งลงบนโซฟานุ่มๆ ที่มีความหรูหราจากแบรนด์ดัง เอาฝ่ามือลูบโซฟาที่เธอนั่งแล้วตบเบาๆ เหลือบขึ้นไปมองเตชินที่ยืนโด่อยู่ตรงหน้าเธอแล้วเอ่ย " บ้านคุณออกจะใหญ่ ฉันจะนอนบนโซฟาห้องรับแขก หรือนอนที่ไหนก็ได้ ที่ไม่ใช่ห้องคุณ ฉันไม่ลืมหรอกนะว่าคุณทำอะไรไว้กับฉัน และไม่มีวัน ที่ฉันจะนอนห้องเดียวกับคนบ้ากาม ที่เห็นผู้หญิงไม่ได้อย่างคุณหรอก ที่ฉันยอมจดทะเบียนกับคุณเพราะฉันต้องการเงินคุณ เพราะฉันรู้ว่าคนอย่างคุณ ไม่มีทางที่จะมาจริงจังกับแค่ใบทะเบียนสมรสหรอก หากมันไม่มีประโยชน์ต่อคุณ หรือคุณไม่จำเป็นต้องใช้มัน คุณคงไม่ยอมจ่ายค่าจ้างฉันมากขนาดนั้นหรอกฉันรู้ว่าคุณคิดวางแผนมาหมดแล้ว การที่คุณเลือกฉัน เพราะคุณรู้ว่าฉันสลัดทิ้ง ได้ง่าย และมั่นใจว่าฉันจะไม่ตามตอแยคุณ เมื่อคุณบรรลุเป้าหมายหรือหลังหย่า ที่ฉันพูดถูกมั้ย " เตชินมองพิมและฟังเธออย่างเงียบๆ แล้วเอ่ยด้วยท่าทางสุขุม " ถูกแต่ไม่ทั้งหมด " เขารู้สึกว่า เขาคิดไม่ผิดเลยที่เลือกเอายีนส์ DNAจากพิม เพราะนอกจากเธอจะมียีนส์เด่นแล้วยังฉลาด มองขาดอย่างทะลุปรุโปร่ง รู้จักวิเคราะห์เรื่องราวและรู้จักหาความน่าจะเป็นได้อย่างแม่นยำ แต่คนเราแม้จะฉลาดแค่ไหนก็มีจุดที่พลาดและมองข้ามในบางจุดไป พิมก็เช่นกัน ทำให้เธอลืมนึกถึงคำพูดของคุณหญิงจารวีไปเลย และลืมนำเรื่องราวมาปะติดปะต่อเข้าด้วยกัน เพราะเตชินมัวแต่กวนประสาทเธอ ได้ยินดังนั้นพิมเลยเบะปากใส่ แล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่นอย่างดื้อรั้น พร้อมกับกอดอก นั่งไขว่ห้าง อย่างไม่สนใจคนตรงหน้าอีกต่อไปเตชินมองต่ำลงบนตัวสาวเจ้าเสน่ห์ ที่มักจะขัดใจเขาอยู่เรื่อยและต่อปากต่อคำกับเขาอย่างไม่เกรงกลัว เขาจึงค้อมตัวลงช้อนเธอขึ้นมาอุ้มอย่างไม่คณามือพิมตกใจมาก เมื่ออยู่ๆก็รู้สึกตัวลอยขึ้นมา มารู้ตัวอีกที ก็อยู่ในอ้อมแขนของเตชินเรียบร้อยแล้วเธออ้าปากค้างแววตาใสเบิกกว้างด้วยความตกใจแล้วเอ่ยเสียงดัง" ปล่อย วางฉันลงเดี๋ยวนี้เลยนะ คิดว่าตัวเองตัวใหญ่แล้วจะทำอะไรก็ได้หรือไง ปล่อย! "เตชินไม่สนใจเธอ ที่ทำหน้าดุ เอ่ยเสียงกร้าวขอให้เขาปล่อย เมื่อเตชินไม่วางเธอลง เธอดิ้นพร้อมกับใช้มือเล็กๆที่ขาวราวกับหิมะทุบทีเขาจนรู้สึกเมื่อยมือ แต่เตชินก็ไม่ยอมวางเธอลงกลับอุ้มเธอแน่นขึ้นแล้วเดินขึ้นบันได กลับไปที่ห้องของตัวเอง จากนั้นก็วางเธอลงบนเตียงเบาๆพิมลุกขึ้นแล้ววิ่งไปที่ประตู แต่เตชินกลับคว้าเอวเธอไว้ กอดเธอแน่นจากทางด้านหลังแล้วเอ่ย" คุณอย่าดื้อสิ เราเป็นสามีภรรยากันแล้ว ก็ต้องนอนห้องเดียวกัน "พิมจึงเอ่ยแย้งอย่างไม่ชอบใจ" แบบเรา เขาไม่นับว่าเป็นสามีรภรรยากัน เราแค่ทำธุรกิจร่วมกันต่างหาก ปล่อย คุณอย่ามาทำแบบนี้กับฉันนะ ฉันไม่ชอบ ปล่อย! "เตชินหอมไปที่เส้นผมของเธอแล้วเอ่ย" ตอนนี้ไม่ชอบ ต่อไปก็ชิน
ริมฝีปากอวบอิ่มอมชมพู ถูกกระแทกด้วยริมฝีปากของเตชินเธอตกใจกลัวจนสั่นเทิ้มไปทั่วร่าง หัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะเตชินรู้สึกได้ถึงอาการสั่นกลัวของคนใต้ร่าง จึงถอนริมฝีปากออกเล็กน้อยแล้วเอียงหน้าประกบริมฝีปากอย่างแนบแน่นอีกครั้ง ราวกับติดใจริมฝีปากนุ่มนิ่ม จนไม่อยากออกห่างเลยแม้แต่วินาทีเดียวณัชชาพยายามผลักเขาออก ทั้งใช้มือตีและหยิกอย่างแรง แต่เตชินกลับดูเหมือน ไม่รู้สึกระคายผิวเลยแม้แต่น้อยและยิ่งเพิ่มความรุนแรง บดขยี้ ไล้เลีย ดูดริมฝีปากนุ่มของเธออย่างป่าเถื่อน ราวกับจะกลืนกินพิมนอนรับแรงจูบที่ป่าเถื่อนของเขาอย่างไม่เต็มใจเธอกลัวจนร้องให้ออกมา เตชินถึงถอนริมฝีปากอีกครั้ง แล้วมองดูคนใต้ร่างที่น้ำตาไหลอาบแก้มเขาจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนแต่เต็มไปด้วยการตอกย้ำ" ทีนี้คุณรู้หรือยังว่าเรื่องของคุณก็คือเรื่องของผม ตราบใดที่ยังไม่หย่า คุณคือผู้หญิงของผม "ดวงตาพิมเคล้าไปด้วยน้ำตาแต่นัยน์ตากลับแข็งกร้าวจ้องเตชินอย่างไม่กะพริบเธออยากจะตบหน้าเขาเต็มแรง ที่เขาปฏิบัติกับเธอเหมือนกับเป็นนางบำเรอที่ถูกซื้อด้วยเงินแล้วเธอก็กัดฟันเอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่นสายตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง" คุณเ
พิมนอนบนเตียงใหญ่ที่หนานุ่ม เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมา เพราะเสียงกริ่งแววตาฉายแววหวาดผวาชัดเจนเธอรวบรวมสติ ค่อยๆลงจากเตียงแล้วเดินไปเปิดประตู จากนั้นก็เดินลงไปชั้นล่างเพื่อไปเปิดประตูหน้าบ้านตามความเคยชิน แต่เธอลืมนึกไปว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในสถานะแม่บ้านแล้วเมื่อเธอยื่นมือไปเปิดประตูบ้าน ประตูก็ถูกเปิดจากด้านนอกซะก่อนนาวินพยุงตัวเตชินประคองกลับเข้ามาในบ้านอย่างทุลักทุเล พิมเห็นดังนั้นเธอก็ถอยหลังไปทันทีเพราะสัญชาตญาณของเธอบอกว่า ไม่ควรเข้าใกล้เตชินเธอจึงเอ่ยกับนาวินว่า" รบกวนคุณนาวินช่วยพาเขาไปนอนในห้องหน่อยนะคะ "นาวินเห็นว่าพิมดูกลัวๆ เว้นระยะห่างกับเตชิน เขาก็ไม่อยากทำให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งตกใจและลำบากใจ จึงเอ่ยตอบว่า" ได้ครับ "แต่เตชินกลับเอ่ยขึ้นพร้อมกับผลักนาวินออกไปจากตัวเขา" นาย ครับ อะไร ฉันจะกลับขึ้นไปพร้อมพิม นายกลับบ้านไปเลย ไป "นาวินเริ่มสงสัย ในคำพูดของเตชิน [ ทำไมเตชินพูดอย่างกับว่าอยู่ห้องเดียวกันกับพิมเลยวะ คงไม่ใช่หรอก เราคงคิดมากไปเอง ]นาวินสลัดความคิดออกไป เมื่อถูกไล่ให้กลับ เขาก็กลับออกไป พิมจึงเดินไปส่งเขาจากนั้นเธอก็หมุนตัวกลับเข้ามาในบ้านอย่างกล้าๆกลัว
เตชินนั่งอึ้ง มองตามหลังพิมที่วิ่งขึ้นไปข้างบนด้วยความรู้สึกผิดที่ผ่านเข้ามาในอก แต่แค่แวบเดียวเขาก็สลัดความรู้สึกที่ทำให้เขาทุกข์นั้นทิ้งไปเขาทำอะไรมีเป้าหมายเสมอ เขาจะไม่ใจอ่อน เพียงเพราะความรู้สึกส่วนตัว จนทำให้เสียงานเด็ดขาดจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนเดินออกจากโต๊ะอาหารแล้วเดินขึ้นไปชั้นบน เพื่อไปดูพิมเขายื่นมือไปเปิดประตู แล้วเดินเข้าไปหาพิมที่นั่งร้องให้อยู่บนเตียงเมื่อยืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้วเขาจึงเอ่ยออกมาอย่างคนไร้อารมณ์ความรู้สึกว่า" ในเมื่อคุณรู้หมดแล้ว ผมขอแนะนำขอให้คุณรีบทำให้ตัวเองท้องให้ไวที่สุด พอคุณคลอดลูกออกมา คุณก็จะได้รับอิสระ กลับไปใช้ชีวิตของคุณต่อไป "พิมมองเขาด้วยแววตาแข็งกร้าว เธออยากจะตบหน้าเขาแรงๆ อยากจะเอามีดแทงเข้าไปในหัวใจของเขาจนแทบจะทนไม่ไหวอยากจะผ่าอกเขาดู ว่าเขามีหัวใจหรือเปล่า หัวใจเขาทำด้วยอะไรกันแน่ ถึงได้เลือดเย็นไร้หัวใจเช่นนี้เธอโกรธจนกำมือแน่น จนมือสั่นและขาวซีดไปหมด น้ำตาที่ไหลอาบแก้มนั้น ร้อนจนจะลวกคนได้สักพักเธอค่อยๆคลายอารมณ์โกรธที่มีอยู่เต็มอกและคลายมือออกเพื่อให้จิตใจตัวเองผ่อนคลาย ไม่ให้ถูกความโกรธครอบงำจิตใจจนขาดสติ จนเผยความคิดทุ
เตชินขับรถพาพิมออกมาจากบ้านระหว่างทางพิมนั่งเงียบตลอดเตชินก็ขับรถไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมายปลายทาง พิมที่นั่งข้างๆก็ยังไม่บอกเขาสักทีว่าจะไปไหน สุดท้ายเขาจึงหันมาเอ่ยถามพิมว่า" คุณคิดได้หรือยังว่าจะไปที่ไหน "พิมนั่งกอดอก ทำท่าครุ่นคิดสักพัก จึงหันไปมองเตชินแล้วเอ่ย" อืม...ยังคิดไม่ออกอ่ะ คุณขับไปเรื่อยๆก่อนได้มั้ย ถ้าคิดออกแล้วจะบอก "ได้ยินเธอพูดดังนั้นเขาจึงเอ่ย" เราขับรถออกมาได้ชั่วโมงหนึ่งแล้วนะ คุณยังคิดไม่ออกอีกเหรอ ว่าอยากไปที่ไหน "พิมหันกลับมา ทอดสายตามองตรงไปข้างหน้าแล้วเอ่ย" งั้นคุณก็ขับรถพาฉันเที่ยวชมกรุงเทพละกัน ตั้งแต่ที่ฉันมาถึงกรุงเทพ ฉันยังไม่เคยออกไปไหนเลย ฉันอยากจะนั่งรถชมวิวชมทิวทัศน์รอบเมืองหลวงอย่างเพลินๆสักหน่อย "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หันหน้ากลับไป มองตรงไปบนถนนข้างหน้าสองมือจับพวงมาลัยขับอย่างชำนาญ แล้วเอ่ย" ได้ ผมจะพาคุณขึ้นบนทางด่วน คุณจะได้เห็นทิวทัศน์ในเมืองกรุงอย่างชัดเจน "เอ่ยจบเตชินก็ขับขึ้นบนทางด่วนแล้วขับต่อไปเรื่อยๆ ขับไปตามสถานที่ต่างๆพร้อมกับแนะนำสถานที่ต่างๆให้พิมได้รู้จักแล้วอยู่ๆพิมก็ทำหน้าบิดเบี้ยวคล้ายกับมีอาการเจ็บนั่งตัวเกรงคล้า
ในเช้าวันต่อมา เตชินตื่นขึ้นมาแต่เช้า เมื่อทำกิจวัตรประจำวันเสร็จเขาก็เดินออกจากห้อง ลงไปชั้นล่างแล้วเดินเข้าไปในห้องครัวหยิบผ้ากันเปื้อนมาสวม แล้วไปเปิดดูของที่มีในตู้เย็น หยิบเนื้อปูกับกุ้งและผักขึ้นฉ่ายออกมา(คื่นไฉ่)แล้วเริ่มตั้งหม้อ หั่นผักขึ้นฉ่าย เพื่อที่จะทำข้าวต้มให้พิม จากนั้นเขาก็เอาขิงจากในตู้เย็นมาซอย หั่นเป็นชิ้นเล็กๆพอทำเสร็จ ก็ตักข้าวต้มใส่ชาม วางลงในถาด หยิบช้อนกับน้ำดื่มที่ไม่ได้แช่เย็นวางลงข้างๆชามข้าวต้มจากนั้นก็ถอดผ้ากันเปื้อนออก แล้วยกถาดเดินขึ้นบันไดกลับไปที่ห้องพอถึงหน้าห้องก็ยื่นมือไปเปิดประตูเดินเข้าไปในห้องนำถาดไปวางลงบนโต๊ะในห้องทำงานแล้วเอ่ยกับพิมที่หลับอยู่ว่า" พิม ข้าวต้มอยู่บนโต๊ะ ตื่นมาอย่าลืมทานข้าวทานยาล่ะ "จากนั้นเขาก็เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินมาที่เตียงแล้วก้มลงจูบหน้าผากพิมอย่างนุ่มนวลจากนั้นก็มองไปที่ริมฝีปากอวบอิ่มแล้วจูบลงไปเบาๆอย่างทะนุถนอมแต่พิมกลับหลับสนิท ไม่รู้สึกตัว เพราะเธอไม่ยอมหลับทั้งคืนมัวแต่กังวลกลัวเตชินจะมาล่วงเกินเธอในเวลาที่เธอเผลอหลับแต่เธอดันลืมไปว่า เธอแกล้งเป็นเมนส์อยู่แท้จริงแล้วแค
เตชินกลับเข้ามาในบ้าน เห็นพิมนั่งทานข้าวอยู่จึงเดินเข้ามาเธอแล้วเอ่ย" ตื่นแล้วเหรอ ดีขึ้นบ้างมั้ย "พิมหันไปมองเขาแล้วเอ่ยตอบ" ดีขึ้นแล้วค่ะ "" อืม ดีแล้ว ผมขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ "" ค่ะ "เอ่ยจบเตชินก็หมุนตัวเดินขึ้นบันไดไป พิมหันมาสนใจข้าวตรงหน้าแล้วตักเข้าปากต่อไปพอทานข้าวเสร็จเธอก็ดื่มน้ำตามปกติ แล้วลุกจากเก้าอี้เดินมานั่งในห้องนั่งเล่นแล้วเปิดทีวีดู เตชินเดินลงบันไดมาเห็นพิมนั่งดูทีวีอยู่ จึงเข้ามาหาเธอแล้วนั่งลงข้างๆเธอ จากนั้นก็ยื่นมือไปโอบไหล่เธอ เธอพยายามกระเถิบหนีห่าง แล้วเอ่ยเสียงเย็น" คุณเตชิน กรุณาเก็บมือดีๆค่ะ "เตชินเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึมอย่างสุขุมน้ำเสียงแฝงไปด้วยการหยอกเย้า" แค่โอบไหล่ภรรยาก็ไม่ได้เหรอ "ได้ยินดังนั้นพิมมองตาเขียวใส่เขาอย่างไม่พอใจในคำพูดของเขา แล้วเอ่ย" คุณเตชิน ฉันเป็นภรรยาคุณหรือเปล่าคุณรู้ดี "เตชินเก็บมือกลับมาแล้วเอ่ยถามอย่างจริงจังคล้ายใส่ใจเธอมาก" วันนี้คุณอยากไปไหนมั้ย "พิมหันมาสนใจรายการทีวีต่อพร้อมกับเอ่ยอย่างเย็นชา" ไม่ค่ะ "เตชินจึงเอ่ยต่อว่า" งั้นผมไปข้างนอกนะ วันนี้อากาศเย็น คุณอยู่บ้านก็รีบเข้านอนไวๆหน่อยนะ "ได้ยินดัง
เตชินขับรถกลับมาด้วยอารมณ์ที่ยากจะอธิบายเขาไม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นอะไร ที่อยู่ๆก็รู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับป๊อบทั้งที่ก่อนหน้านี้ ก็เคยเจอกันแล้ว แต่ก็ไม่มีความรู้สึกนี้เกิดขึ้นพิมนั่งบนโซฟาตัวใหญ่ ดูซีรีส์จีนเรื่อง ฉู่เฉียวจอมใจจราชน เธอชอบจ้าวลี่อิงมากๆ เธอเอาผ้าห่ม มาห่ม นั่งดูซีรี่ส์คนเดียวอย่างเพลินๆ พอถึงฉากดราม่า เธออินจนร้องให้ไม่หยุด ดูไปร้องให้ไปหยิบทิชชูขึ้นมาซับน้ำตา แต่น้ำตาเธอกลับไม่มีทีท่าว่าหยุดไหลเลยเธอนั่งร้องให้คนเดียวในห้อง ที่มีเพียงแสงสลัวจากหลอดไฟดวงเล็กๆบนเพดานคอยเป็นเพื่อนรับฟังเสียงร้องให้สะอื้นของเธอท่ามกลางความืดที่ให้บรรยากาศคล้ายโรงหนังเตชินเดินกลับเข้ามาในบ้าน ได้ยินเสียงร้องให้ของเธอก็ตกใจรีบเดินเข้าไปหาเธอแล้วเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงอย่างร้อนใจ" พิม คุณร้องให้ทำไม เจ็บตรงไหนอีก "พิมทั้งตกใจ ทั้งเคอะเขิน ความฟินความอินถูกทำลายลงด้วยตัวและเสียงของเตชิน เธอรีบปาดน้ำตาทิ้งอย่างไว ทำตัวไม่ถูก ที่ถูกคนอื่นเห็นตอนร้องให้เพราะอินกับซีรี่ส์แต่เธอจะให้เตชินรู้ว่าเธอร้องให้เพราะซีรี่ส์ไม่ได้ เธอจึงเอ่ยด้วยสีหน้านิ่ง ตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จ" ฉัน...ฉันค
ในห้องผ่าตัดหลังจากผ่าตัดเสร็จอยู่ๆพิมก็หยุดหายใจไป เนื่องจากเธอเสียเลือดมากและแท้งบุตรในขณะที่ประสบอุบัติเหตุทำให้ร่างกายไม่สามารถทนพิษบาดแผลไหวในตอนที่เธอยังมีลมหายใจโรยริน จิตสุดท้ายของเธอคล้ายกับรับรู้ได้ว่าตัวเองสูญเสียลูกไปแล้ว คลื่นความเศร้าโศกถาถมความเสียใจเข้ามาสาดใส่ ทำให้เธอไม่มีกำลังใจที่จะอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะเธอตั้งใจจะพาลูกของเธอหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย ไม่คิดว่าจะเป็นการพาเขามาตายจากแล้วหมอก็รีบทำการช่วยชีวิตเธออีกครั้งอย่างสุดความสามารถใช้เวลาอยู่นานเธอก็ไม่กลับมาหายใจ คลื่นหัวใจเป็นเส้นตรงไม่ขยับเขยื้อนเลยสีหน้าหมอแสดงถึงความจนปัญหาด้วยความผิดหวังแล้วเอ่ยเสียงเศร้า" แจ้งญาติคนไข้เถอะ "" ค่ะ "พยาบาลเอ่ยตอบแล้วเดินออกไปจากห้องผ่าตัด" ผ่าตัดเสร็จแล้วแท้ๆ ไม่คิดว่าคนไข้จะมาเสียชีวิตในขณะที่เราเพิ่งจะมีความหวังขึ้นมา "พยาบาลสาวคนหนึ่งเอ่ยอย่างผิดหวัง เพราะในตอนแรกพวกเขาก็ทำใจไว้แล้วว่าคนไข้อาจจะไม่รอดแต่พวกเขาต่างก็ตั้งใจช่วยชีวิตพิมอย่างสุดความสามารถมากจนเธอกลับมาหายใจอีกครั้งความจริงพิมหยุดหายใจตั้งแต่ตอนเกิดเหตุแล้วหมอจึงเอ่ยอย่างสุขุมว่า" บางทีจิตสุ
" ไม่ได้นะคุณเตชิน คุณอย่าทำแบบนี้ ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะนะ "พิมขอร้องอ้อนวอนให้เขาปล่อยเธอไม่หยุด แต่เขากลับนิ่งเฉย รตีลงจากรถแล้วแอบเดินถามเตชินเข้ามาในโรงพยาบาลก่อนหน้านี้เธอไปหาเตชินที่บ้าน เห็นเตชินขับรถออกจากบ้าน เธอจึงให้คนขับรถ ขับตามเตชินเธอใส่แว่นสีดำปกปิดดวงตาและใส่แมสก์ปกปิดหน้าเอาไว้ไม่ให้เตชินรู้ว่าเป็นเธอพิมที่อยู่ในอ้อมแขนของเตชินเธอทั้งตีทั้งข่วนเขาจนเธอน้ำตาไหลพรากแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างจนปัญญาด้วยความหวาดกลัว" คุณเตชิน คุณจะฆ่าเขาไม่ได้ เขาเป็นลูกของคุณไม่ใช่ลูกของคุณป๊อบอย่างที่คุณเข้าใจ เขาเป็นลูกของคุณจริงๆ "ได้ยินดังนั้นเตชินก็หยุดชะงักไป รตีได้ยินก็ช็อกไปเช่นกัน แล้วแววตาของเธอก็กลายเป็นดุร้ายเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาเตชินมองหน้าพิมแล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง" คุณพูดว่าไงนะ "พิมมองเขาแล้วเอ่ยเสียงสั่น" เขาเป็นลูกของคุณ คุณวางฉันลงก่อนได้มั้ยแล้วฉันจะอธิบายให้ฟัง "เตชินวางเธอลง พอเธอเป็นอิสระจากมือของเขาเธอก็วิ่งหนีไปทันทีเตชินเห็นเธอวิ่งหนีไปเขารู้สึกเจ็บใจมากที่ถูกหลอกจึงวิ่งตามเธอออกไปแล้วคว้าข้อมือเธอมาจับไว้นำตัวเธอกลับมาอีกครั้งพร้อ
เมื่อป๊อบเห็นพิมกลับมา เขาก็ปลีกตัวออกจากกลุ่มนักเรียนแล้วเดินมาหาพิมพร้อมกับเอ่ยถามขึ้น" พิมเขาทำอะไรคุณหรือเปล่า "พิมส่ายหน้าแล้วเอ่ย" ไม่ค่ะ "ป๊อบพยักหน้าแล้วเอ่ย" เช่นนั้นก็ดีแล้ว ปิดเทอมนี้เราก็ว่างบ้างแล้วเดี๋ยวผมจะให้เขาเซ็นหย่าให้คุณให้ได้ ต่อไปเขาจะได้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับคุณอีก "พิมมองป๊อบด้วยสีหน้าเหนื่อยใจนึกถึงคำพูดของเตชินก่อนหน้านี้เธอไม่อยากได้แล้วใบหย่า เธอจึงเอ่ยว่า" จะหย่าหรือไม่หย่าฉันไม่สนใจแล้วค่ะ แค่ใบหย่าใบเดียวไม่มีผลอะไรกับชีวิตฉันหรอกค่ะ ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขาอีกแล้วเราอย่าไปใส่ใจกับใบหย่านั่นอีกเลยค่ะ "" ก็ได้ครับ ไว้คุณคลอดลูกแล้วค่อยมาตัดสินใจอีกที "เขาก็ไม่อยากให้พิมติดอยู่กับสถานะสมรสนี้เพราะเขาอยากจะจดทะเบียนสมรสกับเธอใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาอย่างถูกต้องเตชินเดินเข้ามาเห็นทั้งสองยืนคุยกันอยู่ เขาจึงเดินผ่านทั้งสองไป แล้วเดินไปยังกลุ่มของนักเรียนถ่ายรูปกับพวกเขา จากนั้นเขาก็เอ่ยถามเด็กนักเรียนว่า" เด็กๆพวกคุณปิดเทอมกันเมื่อไหร่ครับ "" พวกเราปิดเทอมแล้วครับ กลับไปพวกเราจะฉลองแชมป์ปิดเทอมกันครับ คุณเตชินไปฉลองกับพวกเรามั้ยครับ "" โอ้ว
เตชินลากพิมมาที่รถ จากนั้นก็เปิดประตูให้เธอขึ้นไปบนรถ พิมทำตามที่เขาต้องการโดยไม่บ่นอะไรแล้วเตชินก็เข้าไปนั่งข้างๆเธอพร้อมกับเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่รีรออีกต่อไป" เด็กในท้องเป็นลูกของใคร "พิมกระเถิบห่างออกไปอย่างระมัดระหวังพร้อมกับเอามือจับท้องของตัวเองไว้แล้วมองเตชินอย่างดุดันด้วยแววตาสู้คนเมื่อเตชินเลื่อนสายตามาจับจ้องท้องของเธอ[ เตชินถามแบบนี้หมายความว่ายังไง หรือเขาจะสงสัยว่าเด็กในท้องเป็นลูกของเขากันนะ ]เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงลองถามหยั่งเชิงดู" เขาก็เป็นลูกของคนที่คุณคิดไง แล้วคุณคิดว่าเขาเป็นลูกใครล่ะ "เธอไม่รู้หรอกว่าเตชินคิดว่าเด็กในท้องเป็นลูกของป๊อบ เธอแค่อยากรู้ความคิดของเขา จึงพูดออกไปแบบนั้นเธอคิดว่าถ้าเขาบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกเขาเธอก็จะได้ปฏิเสธอย่างไม่น่าสงสัยแต่เมื่อเตชินได้ยินเธอพูดดังนั้น เขากลับรู้สึกเหมือนถูกเธอตบหน้าแรงๆ แล้วให้คำตอบอย่างเยาะเย้ยแต่เขาก็พยายามปฏิเสธความคิดของตัวเอง พยายามคิดว่าเด็กในท้องไม่ใช่ลูกของป๊อบแต่เป็นลูกของเขา แต่การคิดแบบนี้ กับระยะเวลาที่ไม่ได้เจอพิมบวกกับภาพความสนิทสนมชิดใกล้กันของพิมกับป๊อบทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังหลอกต
" สวัสดีค่ะคุณป๊อบ คุณพิม คุณเทเท่ "ณัชชาเอ่ยทักขึ้น เทเท่ยิ้มแล้วสวัสดีกลับ" สวัสดีค่ะคุณณัชชาไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่นี่ "แล้วป๊อบก็หันมาพร้อมกับเอ่ย" คุณณัชชารู้ได้ยังไงครับว่าวันนี้เรามีแข่งที่นี่ "ป๊อบแค่ถามไปตามมารยาทของคนรู้จักกันส่วนพิมแค่หันมามองแล้วหันกลับไปสนใจเด็กของตัวเองต่อเมื่อทีมก่อนหน้าแข่งจบลง พิธีกรบนเวทีก็เอ่ยขึ้น" จบลงไปแล้วนะคะ ทีม SS ตัวแทนจากภาคใต้ ต่อไปจะเป็นทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือค่ะ ขอให้ทีม JK เตรียมตัวเลยนะคะ ในปีนี้ต้องบอกเลยว่าแต่ละทีมนั้น ทำให้คณะกรรมการของเราหนักใจมากเลยทีเดียว "" ใช่แล้วครับ ในตอนนี้ทีม JK คงจะพร้อมกันแล้วต่อไปเชิญพบกับทีม JK ตัวแทนจากภาคเหนือได้เลยครับ "พิมเรียกนักเรียนให้มายืนเป็นวงหันหน้าเข้าหากันจากนั้นเธอก็แบมือแล้วคว่ำฝ่ามือลงยื่นแขนออกไปข้างหน้า เทเท่ก็วางฝ่ามือทับซ้อนลงบนหลังมือเธอแล้วนักเรียนก็วางมือทับต่อๆกัน" ขอให้พวกเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพื่อคว้าชัยชนะที่อยู่แค่เอื้อม สู้มั้ย! "" สู้!!! "พิมเอ่ยกระตุ้นสร้างกำลังใจให้นักเรียนมีใจฮึกเหิม แล้วทุกคนก็เก็บมือเตรียมตัว จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนเวทีจากนั้นทีมขอ
พิมกับเทเท่นัดแนะกับเด็กในห้องนาฏศิลป์ แล้วแจกใบขออนุญาตเดินทางไปแข่งขัน ให้กับนักเรียนทุกคน ให้เอาไปให้ผู้ปกครองเซ็นอนุญาตยินยอม จากนั้น พิมก็เริ่มเอ่ยกับนักเรียนของตัวเองว่า" นักเรียนคะ พรุ่งนี้เราจะเดินทางไปแข่งที่กรุงเทพแล้ว วันนี้ซ้อมแค่รอบเดียวพอแล้วเก็บแรงไว้เดินทางพรุ่งนี้ จำไว้ว่าเราเป็นตัวแทนของภาคขอให้เราตั้งใจทุ่มเททำให้ดีที่สุดจะได้ไม่เสียใจภายหลัง แต่สิ่งสำคัญคือ เราอย่าลืม ว่ากว่าแต่ละทีมจะมาถึงจุดนี้ได้ทุกทีมล้วนเป็นคู่แข่งที่เก่งและน่ากลัว ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีที่สุดทุกทีมเราจะประมาทหรือเหลิงโอ้อวดว่าเราเก่งเหนือคนอื่นไม่ได้ในโลกนี้ ในประเทศนี้ยังมีคนที่เก่งกว่าเราอีกตั้งมากมาย ไม่ว่าเราจะได้แชมป์หรือไม่ก็อย่าไปท้อแท้น้อยใจหรือเสียใจเด็ดขาดขอให้เรายอมรับและแสดงความยินดีกับคนที่ได้แชมป์อย่างจริงใจครูเชื่อว่าทุกความตั้งใจทุกความสามัคคีจะนำเราไปสู่ความสำเร็จขอให้เราตั้งใจทำให้เต็มที่ ทำให้สุดกำลังความสามารถเข้าใจมั้ยคะ "" เข้าใจค่ะ/ เข้าใจครับ "นักเรียนทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียมเสียงดังชัดเจน แล้วเทเท่ก็นัดแนะเวลามาขึ้นรถที่โรงเรียนต่อ" แล้วพรุ่งนี้นะคะ
บ้านพักครูเป็นบ้านปูนเล็กๆมีเพียงสองห้องนอนหนึ่งห้องน้ำ ตอนกลางคืน ณัชชากับเทเท่ก็ปูเสื่อนอนหน้าทีวี ในห้องที่จัดเป็นห้องนั่งเล่น อยู่ติดกับบันไดที่จะขึ้นไปชั้นสองเมื่อทุกคนเข้านอนแล้วบรรยากาศกลางดึกที่เงียบสงบ เทเท่ก็ลุกขึ้นมา ยื่นมือไปลูบไล้เรียวขาของณัชชาด้วยความหื่นกระหายเขาลูบไล้ขึ้นลงได้สักพัก ณัชชาก็เริ่มรู้สึกตัวเพราะรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติเธอค่อยๆขยับแพขนตาแล้วลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงัวเงียเทเท่เห็นว่าเธอรู้สึกตัวแล้วเขาก็ขึ้นคร่อมบนตัวเธอทันทีแล้วจับมือเธอไว้ ก้มหน้าลงจูบไปตามคอพร้อมกับเอ่ยเสียงกระเส่า" คุณณัชชาผมต้องการคุณ ผมอดใจไม่ไหวแล้ว ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำเริบอีกแล้ว ผมต้องการคุณ "ทีแรกณัชชายังงงๆอยู่ว่าเทเท่คิดจะเล่นอะไร พอได้สติ เธอก็กรีดร้องขึ้นดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดชีวิต" กรี๊ด!...ช่วยด้วยๆ ไอ้บ้าออกไปจากตัวฉันนะ ออกไป กรี๊ด... "" ไม่แน่นอนครับ ตอนนี้ฮอร์โมนส์เพศชายของผมมันกำลังคุกรุ่นต้องการร่างกายผู้หญิง "เทเท่เอ่ยพร้อมกับมองหน้าณัชชาด้วยสีหน้าหื่นกระหาย" กรี๊ด...ไม่เอาๆ ปล่อย ไอ้เทเท่ ไอ้บ้า ออกไปจากตัวฉัน ออกไป "แววตาณัชชากลัวจนสั่นไหว เธอกลัวจนหน้าข
ในเช้าวันต่อมา ขณะที่พิมกำลังสอนอยู่ ก็มีเพื่อนครูคนหนึ่งเดินมาบอกว่า" ครูพิมจ๊ะ มีคนมาหาครูพิมจ้ะ ตอนนี้รออยู่ที่หน้าบ้านพักครูพิมแล้ว "" อ้อ ค่ะ "พิมเอ่ยตอบ แล้วแอบพึมพำในใจ[ ใครกันที่มาหาเรา ช่างเถอะให้รอไปก่อนเดี๋ยวค่อยไปดู ]จากนั้นเธอก็หันมาสอนนักเรียนต่อ พอหมดคาบเรียน เธอก็เดินกลับไปที่บ้านพักเห็นหญิงสาวรูปร่างดีนั่งหันหลังให้เธอบนโต๊ะหินอ่อนหน้าบ้านพัก[ ใครกัน? ]เธอเดินเข้าไปใกล้แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณมาขอพบฉัน มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ "ณัชชาหันหน้ามามองเธอแล้วยิ้มขึ้นพร้อมกับเอ่ย" เซอร์ไพรส์ค่ะ คุณพิม "เมื่อเห็นว่าเป็นณัชชาเธอก็รู้สึกแปลกใจจนแสดงออกมาทางสีหน้าและแววตา แล้วเอ่ยถามขึ้น" คุณณัชชา! คุณมาทำอะไรที่นี่ "ไม่ต้องถามก็รู้ว่าณัชชารู้ที่อยู่เธอได้ยังไง เพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเตชินส่งมาแน่ๆแต่เธอก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดว่าอย่างน้อยดีกว่าเตชินมาเอง เธอแค่อยากรู้ว่าณัชชามาด้วยจุดประสงค์อะไรก็เท่านั้นณัชชาได้ยินพิมยิงคำถามมาแบบนี้ เธอจึงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ย" ฉันมาเที่ยวน่ะ แล้วรู้มาจากพี่เตชินว่าคุณสอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เลยอยากจะแวะมาทักทาย ขอค้างคืนด้วยสั
ป๊อบพาพิมกลับมานอนพักบนบ้านพัก เขาค่อยๆประคองเธอขึ้นห้องไปอย่างช้าๆเมื่อเข้าไปในห้องเขาก็ประคองเธอไปที่เตียงแล้วพิมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงป๊อบเป็นห่วงเธอมาก เพราะเธอพักบ้านพักครูคนเดียวเขาจึงเอ่ยว่า" คืนนี้ผมจะมานอนเป็นเพื่อนคุณนะ "" ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พิมอยู่คนเดียวได้ หากคุณมาอยู่ดูแลพิม เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดี จะพากันเข้าใจผิดกันไปใหญ่ "พิมรีบปฏิเสธ เพราะเธอแคร์สายตาและแคร์ความคิดของสังคมภายนอก มากกว่าความความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในกายของตนเองอาจจะเป็นเพราะเธอถูกเลี้ยงมาแบบนี้ อยู่ในสังคมที่แคร์คนอื่น เธอจึงวางตัวดีมาเสมอและไม่ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียงเหมือนที่พ่อแม่เธอสอนไว้ว่า" ให้เป็นคนดี เป็นที่นับถือ ยำเกรง ทำอะไรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าทำตัวให้เป็นที่ครหานินทา "ป๊อบมองเธอแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับจัดผ้าห่มมาห่มให้เธออย่างดี" พิมเวลานี้คุณไม่ควรแคร์คนอื่นนะ คุณต้องห่วงสุขภาพตัวเองกับลูกในท้องก่อนการที่ผมมาดูแลคุณแล้วเป็นที่ครหา ผมว่าดีซะอีก คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณท้องลูกของผมอยู่ "พิมจ้องหน้าป๊อบที่คิดวางแผนเพื่อปกป้องเธอไม่ให้ถูกคนอื่นกล่าวหาว่าท้องไม่มีพ่อแ