Share

บทที่ 450

Author: มู่โร่ว
แถมตำแหน่งที่ตั้งยังอยู่ในเขตภูเขาสามสาย

วางไว้ในปัจจุบัน

ตอนนี้โรงงานไม่มีคนเฝ้า เต็มไปด้วยวัชพืช

แต่เครื่องมือตีเหล็กยังสามารถใช้งานได้

เธอต้องการย้ายโรงงานทั้งหมดไปที่ยุคโบราณ

ไม่มีไฟฟ้า เราก็มีวิธีเล่นแบบไม่มีไฟฟ้า

แต่อาวุธสามารถผลิตในยุคโบราณได้ดีที่สุด

ยุคปัจจุบัน~

เว้นแต่จะซื้อจากต่างประเทศ ไม่อย่างนั้นจะถูกจับตามองไม่ช้าก็เร็ว

แต่เมื่อมองไปทั่วโลก นอกจากอุตสาหกรรมของจีนที่พัฒนาแล้ว จะซื้อจากที่ไหนได้อีก

เย่มู่มู่จึงขนส่งโรงงาน

จ้านเฉิงอิ้นได้ยินเย่มู่มู่พูดเช่นนั้น ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก

“ท่านเทพ จริงหรือ? ย้ายโรงงานตีเหล็กมา สามารถตีเหล็กเหมือนดาบราชวงศ์ถังได้?”

“น่าจะต่างกันเล็กน้อย แต่เจ้าวางใจ ข้าจะซื้อวัตถุดิบเหล็กสำเร็จรูปด้วย”

“โรงงานเป็นเพียงการใช้แร่เหล็ก แยกเหล็กบริสุทธิ์ออกมา”

“การตีเป็นอาวุธ ต้องใช้ไฟฟ้า เป็นโรงงานอื่น!”

“ไม่เป็นไร ข้าจะคิดหาวิธี หาโรงงานที่ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า!”

คำพูดของเย่มู่มู่ ทำให้จ้านเฉิงอิ้นก็รู้สึกตื่นเต้นจนความคิดพลุ่งพล่าน

โรงงานตีเหล็กบริสุทธิ์...

เขาจินตนาการไม่ออกว่าใหญ่แค่ไหน หน้าตาเป็นอย่างไร

เขานึกถึงอาวุธที่ท่านประทานมา
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 451

    จ้านเฉิงอิ้นเองก็สัมผัสได้ ในที่ว่างเปล่ามีห้องหับเล็ก ๆ เพิ่มขึ้นมาอีกสองห้องแลคเกอร์สีขาว หน้าต่างกระจก ด้านในมีอุปกรณ์นานาชนิดอาทิ ท่อ จอบ พลั่ว และยังมีปุ๋ย เมล็ดพันธุ์พืช เมล็ดพันธุ์ผักนานาชนิด...ยังมีรถสามล้อคันเล็กอีกหนึ่งคัน และบัวรดน้ำเป็นอุปกรณ์ใช้รดน้ำต้นไม้ของท่านเทพแท้บ้านทางพวกเขาก็หน้าตาเป็นเช่นนี้นี่เอง เป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสเป็นระเบียบ ทาด้วยสีขาว ใช้กระจกแสนงดงามมาทำเป็นหน้าต่างน่าเสียดาย เขายังไม่ทันได้สังเกตห้องจนพอใจ ก็ถูกย้ายไปแล้วบัดนี้เขายิ่งมีความสนใจกับโรงงานที่ท่านเทพกล่าวมากขึ้นเข้าไปใหญ่ตุบเย่มู่มู่ส่งหนังสือเรื่องไฟฟ้า สิ่งปลูกสร้าง ฐานของสิ่งปลูกสร้าง และหนังสืออื่น ๆ มานางกล่าวว่า “แม้ที่ดินทางด้านพวกเจ้า จะถูกแดดเผาจนแข็ง แต่เมื่อย้ายโรงงานไป ระยะแรกก็ยังต้องทำฐานให้มั่นคง”“เจ้าเอาหนังสือพวกนี้ไปอ่านก่อน อ่านด้วยกันกับช่างเบื้องล่าง สร้างฐานเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้เริ่มก่อสร้างโรงงาน!”เย่มู่มู่กล่าวจบ ก็ไม่มีข้อความอีกเนื่องจาก พนักงานในตำบลส่งข้อความมาบอกว่า “คุณหนูเย่ เทศบาลตำบลเปิดประชุมและตัดสินใจว่า จะขายโรงงานหนึ่งร้อยล้าน ท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 452

    ราวกับจะเป็นสัญชาตญาณ กลัวว่าคะแนนของตนจะไม่ดี จะทำให้คุณหนูเย่ไม่พอใจเขาขยันเป็นอย่างมาก ตั้งใจเรียนสุดชีวิตตอนนี้ นอกจากกินข้าว นอนหลับ เวลาทั้งหมดก็ใช้อยู่กับการเรียนนักเรียนพรรค์นี้ต้องบังคับตัวเองเรียน อาจจะลำบาก ไม่ใช่คนมีพรสวรรค์ระดับสูงอาจารย์ในแต่ละวิชา แต่ละคนประเมินผลให้เขาไม่เลวเลยทีเดียว เคารพอาจารย์เป็นอย่างยิ่ง และขยันมาก เพียงแต่พื้นฐานแย่เกินไปเย่มู่มู่ทำได้เพียงให้อั่งเปาซองโตไป ขอให้บรรดาอาจารย์ใส่ใจให้มาก ๆ หน่อยยังมีอีกหนึ่งปัญหาคือ พื้นฐานของเขาอ่อนเกินไป หากเข้าในโรงเรียนตระกูลไฮโซ ไม่ต้องคิดเลยคะแนนต้องต่ำเตี้ยเรี่ยดินที่สุดอยู่แล้ว กลัวว่าเขาจะปรับตัวไม่ได้ช่างเถอะ ด้วยทักษะมือเท้าของเขา คงไม่ถูกคนอื่นรังแกแน่นอนวันต่อมา เย่มู่มู่ หลูหมิง หลูซี นั่งเครื่องบินมายังตำบลเล็ก ๆ ด้วยกันผู้นำของเทศบาลตำบลมาต้อนรับพวกเขาพวกเขาคิดว่า ผู้ที่มาจะเป็นทีมทีมหนึ่ง อย่างน้อยก็เป็นคนของบริษัท ไม่คิดเลยว่าผู้ที่มาจะเป็นเด็กวัยรุ่นสามคน เด็กผู้หญิงหน้าตาสะสวยคนหนึ่ง เด็กอายุสิบกว่าปีหนึ่งคนและเด็กวัยรุ่นที่อารมณ์ค่อนข้างรุนแรงคนหนึ่งเทศบาลตำบลเองก็เพิ่งเ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 453

    หลังจากเจรจากันอยู่สองสามรอบ ราคาของโรงงานจากหนึ่งร้อยล้าน ก็เจรจาจนเหลือหกสิบห้าล้านทว่าก่อนส่งมอบ เทศบาลตำบลต้องซ่อมเครื่องจักรให้เรียบร้อยก่อน อย่างน้อยที่สุดก็อยู่ในขั้นดำเนินการได้เทศบาลตำบลต้องซื้ออะไหล่และอุปกรณ์เสริม พร้อมกับหาช่างซ่อมมาแบบนี้เมื่อคำนวณดูแล้ว พวกเขาทำเงินได้จากโรงงานไม่กี่ล้านเท่านั้นทว่า เย่มู่มู่เซ็นข้อตกลงกับพวกเขาเรื่องไก่และเป็ดที่เพาะเลี้ยงในตำบล และยังมีข้อตกลงความร่วมมือผลิตผลพลอยได้ทางการเกษตรอื่น ๆ อีกด้วยหากไม่มีปัญหาเรื่องคุณภาพ ก็จัดส่งของให้แพลตฟอร์มไลฟ์สดช่วยเหลือเกษตรกรไม่เก็บค่าจ้างไลฟ์สด กำไรที่ได้รับก็จะน้อยกว่าร้านอื่นครึ่งหนึ่งเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงในตำบลสามารถทำเงินได้มากขึ้นมองจากมุมมองระยะยาว เซ็นสัญญาฉบับนี้เท่ากับคุ้มค่าดีกว่าตั้งราคาโรงงานร้างสูง ๆหลังพวกเย่มู่มู่เซ็นข้อตกลงเสร็จ เธอปฏิเสธข้าวเที่ยงของผู้นำ และรีบกลับมาโดยด่วนทันควันคนโบราณทั้งสองยังตื่นเต้นกับการนั่งเครื่องบินเช่นเดิมตั้งแต่เข้าไปถ่ายรูปในสนามบิน หลังขึ้นไปนั่งบนเครื่องบิน ก็บันทึกวิดีโอตลอดทั้งกระบวนการเครื่องบินบินขึ้น พวกเขามองสนามบินอย่างต

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 454

    ซู่โจวคือพื้นที่ที่มีหินแร่เหล็กเป็นหนึ่งในห้าหัวเมืองที่สำคัญที่สุดของมู่ฉีซิว และเป็นหัวเมืองที่อยู่ใกล้พวกเขาที่สุดซ่งตั๋วตอบกลับ “ถึงซู่โจว ด้วยความเร็วที่ใช้ในการเดินทางของเรา ต้องใช้เวลาอีกหนึ่งเดือน”“กระชับเวลานอนให้สั้นลง ในแต่ละวันนอนเพียงสี่ชั่วยาม แล้วใช้เวลาที่เหลือมารีบเดินทาง จะถึงในสิบแปดวัน”จ้านเฉิงอิ้นครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยว่า “หัวเมืองที่ใกล้ซู่โจวที่สุด ถูกกองทัพธงเหลืองเข้ายึดไปหรือยัง?”“มีขอรับ หัวเมืองที่ชื่อว่าหมิงโจว หัวเมืองนั้นทรุดโทรมเกินไป คนก็น้อย กองทัพธงเหลืองยังไม่เห็นค่า ฉะนั้นจึงไม่ได้เข้ายึด”“แต่หมิงโจวอยู่ห่างจากซู่โจวไม่เกินสามสิบลี้!”“เราไปพักค้างแรมที่หมิงโจวก่อน”“ขอรับ!”พวกเขาก็ยังผ่านเมืองเจียเมืองเจียสภาพผุ ๆ พัง ๆ คนสองหมื่นคนตายไปครึ่ง เหลือเพียงสามพันคนที่ดิ้นรนทุรนทุรายคงเป็นเพราะหัวเมืองนี้เล็กเกินไป ผุพังเกินไปกระทั่งเสนาบดีซู มู่ฉีซิวยังไม่เห็นค่า และไม่ได้ฝังวัตถุระเบิดพื้นผิวกำแพงเมืองหลุดลอก พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมีไม่น้อยทีเดียวประตูใหญ่ของกำแพงเมืองไม่เห็นร่องรอยใด จากด้านนอกไปจนถึงในเมืองตลอดทั้งทาง สอง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 455

    เฉินขุย เฉินอู่ ซ่งตั๋ว...เห็นว่าใต้กำแพงเมือง ตรงประตูเมือง ยังมีเถ้ากระดูกกองหนึ่งอยู่บนพื้น...กระทั่งมารดาเพิ่งจะตายไป ก็มีคนคิดจะกินลูกชายแล้วภาพนี้เสียดแทงพวกเขาอย่างลึกซึ้งพวกเขาออกเดินทางจากด่านเจิ้นกวน ตลอดทางที่มานี้ เห็นชาวบ้านน้อยมากหัวเมืองแรกที่ทำให้พวกเขาสะเทือนขวัญ คือการผ่านหมู่บ้านไร้คน ทั้งตำบลตายกันหมดหัวเมืองที่สองคือเมืองต้ายงที่เคยรุ่งโรจน์ในอดีตเมืองใหญ่ที่มีคนสี่แสนคน ถูกวัตถุระเบิดเผาไหม้วายวอดตอนนี้กลายเป็นซากปรักหักพัง คนสี่แสนตายสิ้นส่วนหัวเมืองที่สาม ก็คือเมืองเจียยังมีคนที่มีชีวิตอยู่ ทว่าคนเหล่านี้กลับตายเสียดีกว่าอยู่เพียงแต่กำลังรอความตายอย่างช้า ๆในพวกเขามีทั้งคนดี และมีทั้งคนไม่ดีมีชีวิตได้จนถึงตอนนี้ ผู้นำทุกคนก็คาดเดาได้แล้วว่า พวกเขามีชีวิตอยู่มาได้อย่างไรทว่ากลุ่มคนเช่นนี้ ครั้นเห็นกองทัพตระกูลจ้านก็ยังคุกเข่าโขกศีรษะให้ดังเดิมในใจของพวกเฉินขุย เฉินขู่ สับสนยิ่งนักจ้านเฉิงอิ้นถามซ่งตั๋วขึ้นว่า “เตรียมโจ๊กเอาไว้เท่าใด?”“สามสิบถังขอรับ ทั้งหมดปรุงสุกหมดแล้ว เดี๋ยวจะใช้รถบรรทุกออกมา”“เพียงแต่ท่านแม่ทัพ พวกเขาหิวกระ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 456

    หากคนไม่มีแล้ว เสบียงอาหารที่พยายามแย่งมาสุดชีวิต ควรให้ผู้ใดกัน?ครั้นตั้งโรงทานโจ๊กขึ้นมาแล้ว ซ่งอวิ๋นฮุยก็ให้พวกซุนเฮ่อที่ตักโจ๊กสวมหน้ากากอนามัยและถุงมือทั้งหมดเดิมทีให้พวกเขาสวมชุดป้องกัน แต่พวกเขารู้สึกอึดอัดเกินไป ต่างไม่ยินดีใส่สามพันกว่าคน ตักกันอยู่ทั้งบ่าย ทุกคนล้วนได้กินโจ๊กอ่อนคนละหนึ่งถ้วยบางคนหนึ่งถ้วยไม่พอ ยังอยากกินอีก ก็จะเติมให้พวกเขาผู้ที่กินดินขาว ซ่งอวิ๋นฮุยจะรักษา และแยกตัวออกมานายทหารทุกนายต่างคิดว่า เมืองเจียเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่ง แต่ไม่คิดว่าจะขนอะไรออกมาจากในเมืองได้ทองหลายคันรถ เครื่องลายคราม ภาพวาดพู่กัน และยังมีงานฝีมือแสนประณีตต่าง ๆ นานาครอบครัวพ่อค้ารายใหญ่ในเมืองเป็นคนบริจาคออกมาครอบครัวเขาสองร้อยคน ตายสิ้นเหลือเพียงสองคนเขากับหลานชายอายุห้าขวบเขากำลังอุ้มเด็กอยู่ หวังว่าจ้านเฉิงอิ้นจะแบ่งอาหารให้แก่บรรดาคนบ้านเดียวกันที่บ้านนอกการกระทำนี้ สะเทือนไปถึงครอบครัวพ่อค้าคนอื่น ๆแม้เมืองจะเล็กมีเพียงสองหมื่นคน ทว่ามั่งคั่งไม่น้อยมีพ่อค้าบริจาคทรัพย์สินออกมาอย่างต่อเนื่องได้มาทั้งหมดสิบสามคันรถ ห้าสิบกว่าหีบจ้านเฉิงอิ้น

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 457

    วันนี้ทุกคนต่างง่วนอยู่กับการทำอาหารเหล่าสตรีช่วยกันทำอาหารประเภทบะหมี่ นวดแป้ง สับเครื่องเคียง ไส้...เหล่าบุรุษช่วยกันล้างเนื้อวัว ขาหมู หั่นผัก ล้างผัก...นายทหารที่เหลือทั้งหมดไปตั้งกระโจมส่วนพวกเซี่ยเวยและจ้าวเฉียน มองแฮมขาหมูชิ้นมหึมา แล้วหันมาเปรียบเทียบกับขาเล็กลีบของตัวอีกครั้งพวกเขาไม่เคยเห็นขาหมูอ้วน ๆ เช่นนี้มาก่อนก่อนหน้าจะเกิดทุพภิกขภัย ที่ทุกครัวเรือนเลี้ยงล้วนเป็นหมูป่าสีดำชิ้นหมูบางเป็นอย่างมาก ทั้งตัวมีขนสีดำเต็มไปหมดที่อวบอ้วนเลี้ยงไปถึงแปดสิบชั่ง ที่ซูบผอมห้าสิบชั่งก็เชือดแล้วส่วนขาหมูชิ้นนี้ มีหลายสิบชั่งอย่างแน่นอน“หมูนี่อวบอ้วนยิ่งนัก!”“หมูตัวนี้กลับสีขาว ที่บ้านเดิมเราล้วนเป็นสีดำ!”“นี่มันเนื้ออะไรกัน? เดี๋ยวก่อน...เป็นเนื้อกระต่าย เนื้อแพะ!”ครั้นสิ้นเสียงจ้าวเฉียน นายทหารมากมายไม่ได้เข้ามาทุกคนเห็นสิ่งของหลากหลาย ก็พลันเข้าใจในทันทีอ่าง...อ่างขุมทรัพย์!อ่างขุมทรัพย์ของท่านแม่ทัพแสดงอิทธิฤทธิ์อีกแล้ว!สามารถคายสิ่งของออกมาอย่างต่อเนื่องตามที่ท่านแม่ทัพต้องการชาวบ้านทั่วทั้งเมืองต่างมารวมตัวกันที่หน้าประตู เห็นกองทัพตระกูลจ้านมีสิ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 458

    ไม่ว่าจะให้ตั้งกระโจม แบกสัมภาระทหาร แบกอาวุธ...พวกเขาก็ยินดีทำขอเพียงท่านแม่ทัพใหญ่ยอมรับพวกเขาเอาไว้พวกเฉินขุยเฉินอู่ระงับรอยยิ้มเอาไว้ได้ยินเพียงจ้านเฉิงอิ้นกล่าวอย่างช้า ๆ ว่า “ติดตามกองทัพ อาจทำสงครามได้ทุกเมื่อ จะต้องมีคนตาย”“ไม่กลัว เดิมทีพวกเราก็จะตายกันอยู่แล้ว เป็นแม่ทัพที่ให้ของกินแก่พวกเรา ทำให้พวกเรามีชีวิตรอด”“บัดนี้ พวกเรามีชีวิตรอดได้หนึ่งวันก็นับเป็นกำไรแล้ว”“สามพันสามร้อยคนทั้งเมือง ขอให้ท่านแม่ทัพโปรดรับไว้ด้วย!”จวงเหลียงยังคิดว่าต้องใช้เวลาสามวันถึงจะทำให้คนเหล่านี้เป็นฝ่ายบากหน้ามาขออาศัยก่อนคิดไม่ถึงเลยว่า ยังไม่ทันกินข้าวเสร็จหนึ่งมื้อเลยด้วยซ้ำพวกเขาก็เป็นฝ่ายเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้านก่อนแล้วยอดเยี่ยมเช่นนี้เชียวหากไปถึงหัวเมืองไหนชาวบ้านต่างก็เข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้านกันหมดกว่าจะถึงหยงโจว ไม่ต้องพูดเลยว่าผู้คนที่ดึงเข้าร่วมทัพได้จะยิ่งใหญ่เช่นกองทัพธงเหลืองอย่างน้อยต้องมีสามแสนคนเป็นแน่หากกองทัพตระกูลจ้านคิดจะยกทัพไปปราบใต้หล้า พวกเขาต้องการกำลังทหารเป็นจำนวนมากคนของด่านเจิ้นกวนแตะต้องไม่ได้ ทำได้เพียงรับทหารภายในดินแดนต้าฉี่เท่านั

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 468

    ม้าหนึ่งตัวลากรถสามล้อหนึ่งคันข้างหน้านั่งสองคน ข้างหลังเบียดกันแปดคน รองรับคนได้ทั้งหมดพอถูไถเมื่อถึงเวลากลางคืน จะออกเดินทางพร้อมกันจ้านเฉิงอิ้นเขียนจดหมายให้ผู้นำทัพของกองทัพลู่เจ๋อ“หลังจากหารือร่วมกันแล้ว ทุกคนตัดสินใจต้อนรับทุกท่านเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้านของข้า!”“หลังจากนี้เป็นต้นไป พวกท่านจะเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพตระกูลจ้าน ทหารของกองทัพตระกูลจ้านจะมีเสบียงอาหารและน้ำที่เพียงพอมอบให้”“เมืองอวิ๋นโจวมีโรงงานระเบิดของกองทัพธงเหลือง จางเฉาได้พาคนหมอบซุ่มอยู่ที่นั่น จำไว้ ระวังตัวด้วย…”จ้านเฉิงอิ้นกล่าวไว้คำหนึ่ง โรงงานระเบิดอยู่ที่เมืองอวิ๋นโจวเพียงแค่กองทัพลู่เจ๋อมีอารมณ์โกรธอยู่บ้าง ก็จะทำลายโรงงานระเบิดทันทีที่สำคัญจางเฉาพกระเบิดไปด้วยไม่น้อย เขาไม่ต้องออกโรง กองทัพลู่เจ๋อจะทำลายโรงงานระเบิดทั้งหมดเองขอเพียงกองทัพลู่เจ๋อไปปรากฏตัวตรงโรงงานระเบิดเมื่อทำเช่นนั้นแล้ว ความสนใจของมู่ฉีซิวก็จะตกอยู่ที่เมืองอวิ๋นโจวและคอยสังเกตุการเคลื่อนไหวของโรงงานระเบิดตลอดเวลาถึงกระทั่งเพิ่มกำลังการป้องกันเมื่อเป็นเช่นนั้น มุมของเหมืองแร่ก็จะไม่มีใครสนใจพวกเขาบุกยึดเหมืองแร

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 467

    หลังจากจ้านเฉิงอิ้นแสดงความเห็นออกไป เหล่านายทหารต่างแสดงเห็นด้วย!“เมื่อแม่ทัพใหญ่รู้สึกว่าที่แห่งนี้จำต้องยึดมา เช่นนั้นเราจะทำการเข้ายึดเหมืองแร่ก่อน!”พวกเขายืนขึ้นทุกคนและคุกเข่าข้างเดียวพร้อมกับคารวะจ้านเฉิงอิ้น“ข้าน้อยเต็มใจยอมเป็นม้ารับใช้ท่าน!”จ้านเฉิงอิ้นพยุงคนให้ยืนขึ้น “ลุกขึ้นเถิด คืนนี้ออกเดินทางก่อนส่วนหนึ่ง คนที่มีรถกับม้า ค่อยเดินทางในอีกสามวัน!”“ขอรับ แม่ทัพ!”“กลับไปเตรียมตัวเถอะ!”ขณะที่ทุกคนใกล้จะแยกย้ายจากไป มีทหารขี่ม้ามารายงานอย่างเร่งรีบ“มีรายงาน แม่ทัพใหญ่ กองทัพลู่เจ๋อส่งมอบหนังสือชี้แจง!”เหล่านายทหารถึงกับหยุดฝีเท้าและหันกลับมาจ้านเฉิงอิ้นรับจดหมายเอาไว้และเปิดม้วนหนังแกะที่อยู่ด้านในเห็นเพียงบนนั้นกล่าวว่ากองทัพลู่เจ๋อถูกฮ่องเต้หลอก ตำแหน่งสูงเงินเดือนสูง รางวัลศักดินาอะไรเหล่านั้น…พวกเขาไม่เคยเห็นแม้แต่หัวเมืองและที่ดินของตนเองว่ามีหน้าตาเป็นเช่นไรเลยด้วยซ้ำ!กองทัพที่มีเกือบสามแสนคนในตอนแรกตอนนี้เหลือไม่ถึงแปดหมื่นคน สองวันนี้มีคนหนีไปอีกไม่น้อยพวกเขายอมอดอาหารดีกว่าและไม่เต็มใจไปปิดล้อมโจมตีอีกเพราะว่ากองทัพธงเหลืองมีระเบิด แ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 466

    โรงงานทั้งหลังใหญ่มากกินพื้นที่อยู่หลายหมู่บ้านแต่ละหมู่บ้านมีหน้าที่รับผิดชอบกระบวนการที่แตกต่างกันมีรับผิดชอบผลิตสายนำระเบิดมีรับผิดชอบเผาปูน!ของสำเร็จรูปจะประกอบที่หมู่บ้านกลางซึ่งมีทหารอยู่จำนวนมากที่สุดอากาศยานไร้คนขับขนาดใหญ่สามารถบินเข้าไปได้จางเฉาตื่นเต้นมากและเขียนในจดหมาย “แม่ทัพ ให้ข้าไปวางระเบิดเถอะ ข้าสามารถระเบิดทั้งโรงงานได้คืนนี้เลย”“ท่านมีความเห็นว่าอย่างไร? ก็แค่วางระเบิดเท่านั้นเอง!”“ข้าแทบรอไม่ไหวแล้ว! ระเบิดตอนกลางคืน เพลิงไฟต้องสวยมากแน่ขอรับ!”เซี่ยเวยกล่าว “แม่ทัพใหญ่ จะให้จางเฉาวางระเบิดหรือไม่?”นายทหารหลายคนมองมาที่เขาจ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “อย่าปล่อยให้เขาจุดพลุไฟ แต่ดำเนินการกวาดล้างกองกำลังป้องกันทั้งหมด”ภายในโรงงานดินปืน กองทัพธงเหลืองมีอยู่แปดหมื่นคน!แปดหมื่นคนนี้เผชิญหน้ากับกองทัพตระกูลจ้าน จะทำให้พี่น้องตายและบาดเจ็บตั้งเท่าไหร่!พวกนายทหารพากันหัวเราะแม่ทัพใหญ่ไม่ใช่ไม่ให้วางระเบิด แต่ต้องการกวาดล้างคนให้หมด“พลเมืองที่ถูกบังคับให้ทำงานข้างในนั้นล่ะขอรับ?”“วางระเบิดโรงงานขนาดเล็กก่อนแล้วรอทหารรักษาการณ์ส่วนใหญ่ไปตรวจดู ยั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 465

    จ้านเฉิงอิ้นอ่านแผนการค้าที่เย่มู่มู่ส่งให้เธอเป็นคนมีความคิดรอบคอบและยังรู้วิธีทำการค้าถึงแม้ไม่มีทองคำเงินเครื่องประดับที่เขาส่งให้ แต่เธอก็สามารถมีชีวิตที่ดีได้เช่นเดียวกันเขายิ้มแย้มเขียนจดหมายตอบกลับ “ขอรับ คำพูดของท่านเทพเป็นใหญ่ที่สุด!”“อืม งั้นข้าจะสั่งซื้อตอนนี้เลย”เย่มู่มู่จัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุดวิทยาลัยจะเปิดเรียนในอีกหนึ่งอาทิตย์ เดิมทีเธอวางแผนไปเมืองหลวงล่วงหน้าเพื่อปรับตัวให้เข้ากับบ้านหลังใหม่และดำเนินการขั้นตอนของโรงเรียนนานาชาติที่หลูซีจะเข้าเรียนให้เรียบร้อยดูจากวันนี้ คงต้องยืดเวลาเดินทางไปเมืองหลวงออกไปอีกห้าวันเธอไหว้วานเวินลี่ดำเนินการขั้นตอนการเข้าเรียนของหลูซีให้เสร็จล่วงหน้า!เธอเร่งตัวแทนจำหน่ายเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิวให้นำของจากสำนักงานใหญ่มาส่งภายในคืนนั้นสำหรับรองเท้า เธอให้เจ้าของร้านส่งมาในคืนนั้นรองเท้ายี่ห้อนี้ ถือว่ามีชื่อเสียงเล็กน้อยในประเทศก่อนหน้านี้ ภายหลังการแข่งขันสูงขึ้น บริษัทเริ่มชักหน้าไม่ถึงหลังช่วงเวลารุ่งเรืองสูงสุด มีห้าพันกว่าสาขาทั่วประเทศต่อมาร้านค้าปิดตัวลงปีละหนึ่งพันกว่าร้านค้าหลังจาก

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 464

    ตั้งแต่หลูซีเข้าเรียนหนังสือ เขาได้เรียนวิธีใช้โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ แต่เขาก็ใช้เวลาคำนวณนานมากสุดท้ายเขาคำนวณได้ว่า เครื่องลายครามหนึ่งชิ้นขายได้หนึ่งพันล้านบาทหนึ่งพันล้านบาทสามารถซื้อเสบียงอาหารได้ห้าร้อยชั่ง!เสบียงอาหารห้าร้อยชั่งสามารถเลี้ยงคนได้สองแสนแปดหมื่นคนเป็นเวลาหนึ่งปีเพียงหมอนลายครามเล็ก ๆ เท่านี้ สามารถเลี้ยงได้สองแสนแปดหมื่นคนเป็นเวลาหนึ่งปี!พวกเขารู้สึกว่าเงินนี้ช่างหาง่ายเหลือเกินทันใดนั้น หลูซีกับหลูหมิงก็นำสิ่งของมีมูลค่าที่อยู่บนตัวออกมาทั้งหมด!สนับข้อมือตรงข้อมือของหลูซีเป็นของรางวัลจากรัฐทายาทน้อยทำมาจากหนังแพะ บนนั้นฝังทองคำและอัญมณีเอาไว้ งดงามเป็นอย่างยิ่งนี่คือของชิ้นเล็กที่มีมูลค่าสูงสุดของเขาส่วนหลูหมิงหยิบของที่ตนเองสะสมมาเป็นเวลานาน มีแก้วลายครามหนึ่งใบแหวนสำหรับยิงธนูหนึ่งวง มีรอยสึกมากแต่ยังใช้งานได้และยังหยิบมีดสั้นฝังทองคำกับอัญมณีอีกหนึ่งเล่มเป็นของรางวัลที่รัฐทายาทมอบให้เขาเช่นกันรัฐทายาทเป็นคนใจกว้าง ใครทำผลงาน เขาไม่เคยตระหนี่ในของรางวัลเลยสักครั้งหลูซีเห็นพี่ใหญ่หลูหมิงหยิบมีดสั้นออกมาเข

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 463

    เย่มู่มู่ได้รับจดหมายของจ้านเฉิงอิ้นข้างกายของเขาราวกับมีคนอยู่ด้วย จึงไม่สะดวกที่เขาสองคนจะคุยกันจ้านเฉิงอิ้นรับพ่อค้าไม่กี่คนเอาไว้ อยากให้นำของชิ้นเล็กไปขายตามแคว้นอื่น ๆย่อมแน่อยู่แล้วว่า นอกจากหาเงิน ยังต้องแส่สืบข้อมูลและระดมทุนทางทหารด้วยจะรวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ต้องมีเงินทองจำนวนมาก!วันนี้ มีเงินเพิ่มขึ้นอีกห้าสิบกว่ากล่องข้างในพื้นที่ว่างเย่มู่มู่มองอย่างไม่ตั้งใจว้าว…มีของเยอะมาก!ทองคำเงินเครื่องประดับ เครื่องลายครามประณีตหลากหลายประเภท ภาพเขียนหนังสือม้วนและยังมีหัตถกรรมอันวิจิตรบรรจงจ้านเฉิงอิ้นกล่าวว่า เงินห้าสิบกล่องนี้มอบให้เธอทั้งหมดเธอหยิบเครื่องลายครามสองสามกล่องกับของหัตถกรรมออกมาส่วนที่เหลือยังอยู่ที่เดิมเครื่องลายครามเป็นเครื่องประดับขนาดใหญ่มีหมอนเครื่องลายคราม วาดรูปเด็กกำลังอุ้มปลาคาร์ปเอาไว้มีฉากกั้นเครื่องลายครามขนาดใหญ่ วาดรูปหญิงงามนอนบนเตียงเอาไว้รูปแบบแตกต่างจากหญิงอวบอ้วนในเวลาต่อมาอย่างสิ้นเชิงหญิงงามค่อนผอม ทรวดทรงคมชัดงามอย่างยิ่ง เสื้อผ้า ปลอกคอและปิ่นปักผมก็ล้วนมีสีสันสวยงามในยุคปัจจุบัน ภาพจิตกรรมฝาผนังกับ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 462

    แต่ก็กินหมดแล้วจ้านเฉิงอิ้นจึงถามพวกเขา “โจวเจามีทางแร่อะไรบ้าง?”พวกเขาต่างส่ายศีรษะ “เรียนแม่ทัพ เมืองเจียมีขนาดเขตแดนที่เล็ก ไม่เคยได้ยินทางแร่อะไรเลยขอรับ!”จากนั้น จ้านเฉิงอิ้นหยิบสบู่ ครีมอาบน้ำรวมถึงแชมพู แปรงสีฟัน ผ้าขนหนูและพัดลมตัวเล็กวางไว้บนโต๊ะ…ทั้งหมดวางไว้ตรงหน้าพวกเขา“พวกเจ้าดูหน่อย สิ่งของเหล่านี้สามารถนำไปขายที่แคว้นอื่นได้หรือไม่?”พ่อค้าทั้งห้าคนเกิดความประหลาดใจจึงหยิบออกมาดูมีบางคนถึงกับเปิดฝาและสูดดมกลิ่นอย่างลุ่มลึกกลิ่นหอมพลันแตะที่จมูกทันใดนั้นพลันเกิดความตื่นตะลึงเป็นล้นพ้น“แม่ทัพ นี่เป็นของดีทีเดียวเชียว เมื่อก่อนถูกพ่อค้านำออกมาจากด่านเจิ้นกวน ขายไปยังที่ต่าง ๆ แต่เนื่องจากมีจำนวนน้อยมากจึงมีการโก่งราคาสูงมาก เป็นของที่มีราคาแต่ไม่มีตลาด คนชนชั้นสูงจำนวนไม่น้อยอยากซื้อก็ยังหาซื้อไม่ได้!”“สิ่งเหล่านี้ของท่านเป็นของดีขอรับ ใช้งานดีกว่าเกลือขาวและสบู่ที่พ่อค้ามู่ฉีซิวของกองทัพธงเหลืองนั่นขายเยอะเลยขอรับ!”“เอ๊ะ นี่คืออะไร น้ำหอม เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว…”“แม่ทัพ ของดีเหล่านี้ ถ้าขายให้กับกลุ่มสตรีชนชั้นสูงในแคว้นอื่น ต้องเป็นที่นิยมทั่วท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 461

    คนเหล่านี้ไม่มีแม้แต่เสื้อผ้า ผู้ชายท่อนบนเปลือยเปล่าเสื้อผ้าของผู้หญิงเต็มไปด้วยรอยเย็บเด็ก ๆ ทุกคนเปลือยกายผอมซูบเห็นโครงกระดูกเย่มู่มู่เห็นกำแพงเมืองที่ผุพังทลาย ผนังกำแพงหลุดลอกเผยให้เห็นผนังดินข้างในในภาพเคลื่อนไหวด้านใต้ผนังกำแพงมีเถ้ากระดูกวางเป็นกองนับไม่ถ้วนกระดูกเหล่านี้ล้วนเป็นของผู้ประสบภัยที่ตายแล้วไม่มีใครช่วยเก็บศพพวกเขาจึงได้แต่ทิ้งไว้ตากแดดอย่างนั้นน่าสลดใจเหลือเกิน!เย่มู่มู่สัมผัสถึงความโหดร้ายของความอดอยากครั้งใหญ่ในรอบสองพันปีตามสัญชาตญาณเป็นครั้งแรกหัวเมืองแห่งนี้ยังมีคนรอดชีวิต แต่หัวเมืองอื่น ๆ คนที่มีชีวิตรอดก็คงมีไม่กี่คนทั้งหมดนี้ มองแล้วคล้ายเมือง แต่ในสายตาของเย่มู่มู่ กำแพงเมืองที่ต่ำเตี้ยเช่นนั้นยังสู้ผนังกำแพงของชาวบ้านในชนบทไม่ได้ด้วยซ้ำประตูทางผ่านของรถอันคับแคบ รถออฟโรดคันหนึ่งก็ยังขับเข้าไปไม่ได้จะติดตรงประตูตอนท้ายของภาพเคลื่อนไหว จ้านเฉิงอิ้นกล่าว “ท่านเทพ เมืองเจียสามพันกว่าคน ชายหนุ่มที่แข็งแกร่งสองพันกว่าคน ผู้หญิง เด็กและคนสูงอายุหลายร้อยคน ข้ารับเข้ามาอยู่ในกองทัพตระกูลจ้านทั้งหมด”เย่มู่มู่ทิ้งข้อความไว้บนกระดานข้อคว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 460

    เขาไม่คิดเลยว่ายังจะมีกะจิตกะใจมาสร้างเรือนไจซิงที่ไร้ประโยชน์อีกเพียงเพื่อจะมอบเป็นของขวัญแก่สนมที่รักเท่านั้นเพื่อกดหัวท่านแม่ทัพใหญ่ กลับตอบรับข้อตกลงไร้สาระนี่ของสี่แคว้นเขาเองก็ไม่คิดบ้างเลย หากจ้านเฉิงอิ้นตายทั้งต้าฉี่ก็จะไม่มีผู้ใดพอที่จะต้านทานการบุกรุกของสี่แคว้นได้อีกต้าฉี่ต้องล่มสลายเป็นแน่ฮ่องเต้น้อยผู้นี้อยากจะฆ่าจ้านเฉิงอิ้นจนขึ้นสมองเกินไปจริง ๆความคิดบ้าดีเดือดจนกลายเป็นมารไปแล้วถึงขั้นที่ว่าการตัดสินตามปกติเขาก็ไม่มีก่อนหน้านี้หลายคนยังครุ่นคิด กระซิบกระซาบกันว่าท่านแม่ทัพใหญ่จะก่อกบฏหรือไม่ตอนนี้พวกเขามั่นใจแล้วว่าจ้านเฉิงอิ้นจะต้องก่อกบฏและยังต้องจัดการสี่แคว้นนั่น ให้กลายเป็นอาณาเขตของเขาด้วยติดตามท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีความสามารถและชำนาญกลยุทธ์เช่นนี้ ในใจของพวกเขาก็เกิดความทะเยอทะยานขึ้นความกล้าก็มีมากขึ้นตามเช่นกันถ้าหาก เรื่องนี้กลายเป็นจริงได้!ถ้าหากรวมหัวเซี่ยเป็นหนึ่งได้จริง ๆ พวกเขาก็จะเป็นวีรบุรุษแห่งประวัติศาสตร์ครั้นคิดมาถึงตรงนี้ ภายในใจของเหล่าผู้นำก็เกิดความภาคภูมิใจขึ้นมาตอนนี้พวกเขาเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเป็นการเริ่มต้

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status