เฉินขุย เฉินอู่ ซ่งตั๋ว...เห็นว่าใต้กำแพงเมือง ตรงประตูเมือง ยังมีเถ้ากระดูกกองหนึ่งอยู่บนพื้น...กระทั่งมารดาเพิ่งจะตายไป ก็มีคนคิดจะกินลูกชายแล้วภาพนี้เสียดแทงพวกเขาอย่างลึกซึ้งพวกเขาออกเดินทางจากด่านเจิ้นกวน ตลอดทางที่มานี้ เห็นชาวบ้านน้อยมากหัวเมืองแรกที่ทำให้พวกเขาสะเทือนขวัญ คือการผ่านหมู่บ้านไร้คน ทั้งตำบลตายกันหมดหัวเมืองที่สองคือเมืองต้ายงที่เคยรุ่งโรจน์ในอดีตเมืองใหญ่ที่มีคนสี่แสนคน ถูกวัตถุระเบิดเผาไหม้วายวอดตอนนี้กลายเป็นซากปรักหักพัง คนสี่แสนตายสิ้นส่วนหัวเมืองที่สาม ก็คือเมืองเจียยังมีคนที่มีชีวิตอยู่ ทว่าคนเหล่านี้กลับตายเสียดีกว่าอยู่เพียงแต่กำลังรอความตายอย่างช้า ๆในพวกเขามีทั้งคนดี และมีทั้งคนไม่ดีมีชีวิตได้จนถึงตอนนี้ ผู้นำทุกคนก็คาดเดาได้แล้วว่า พวกเขามีชีวิตอยู่มาได้อย่างไรทว่ากลุ่มคนเช่นนี้ ครั้นเห็นกองทัพตระกูลจ้านก็ยังคุกเข่าโขกศีรษะให้ดังเดิมในใจของพวกเฉินขุย เฉินขู่ สับสนยิ่งนักจ้านเฉิงอิ้นถามซ่งตั๋วขึ้นว่า “เตรียมโจ๊กเอาไว้เท่าใด?”“สามสิบถังขอรับ ทั้งหมดปรุงสุกหมดแล้ว เดี๋ยวจะใช้รถบรรทุกออกมา”“เพียงแต่ท่านแม่ทัพ พวกเขาหิวกระ
หากคนไม่มีแล้ว เสบียงอาหารที่พยายามแย่งมาสุดชีวิต ควรให้ผู้ใดกัน?ครั้นตั้งโรงทานโจ๊กขึ้นมาแล้ว ซ่งอวิ๋นฮุยก็ให้พวกซุนเฮ่อที่ตักโจ๊กสวมหน้ากากอนามัยและถุงมือทั้งหมดเดิมทีให้พวกเขาสวมชุดป้องกัน แต่พวกเขารู้สึกอึดอัดเกินไป ต่างไม่ยินดีใส่สามพันกว่าคน ตักกันอยู่ทั้งบ่าย ทุกคนล้วนได้กินโจ๊กอ่อนคนละหนึ่งถ้วยบางคนหนึ่งถ้วยไม่พอ ยังอยากกินอีก ก็จะเติมให้พวกเขาผู้ที่กินดินขาว ซ่งอวิ๋นฮุยจะรักษา และแยกตัวออกมานายทหารทุกนายต่างคิดว่า เมืองเจียเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่ง แต่ไม่คิดว่าจะขนอะไรออกมาจากในเมืองได้ทองหลายคันรถ เครื่องลายคราม ภาพวาดพู่กัน และยังมีงานฝีมือแสนประณีตต่าง ๆ นานาครอบครัวพ่อค้ารายใหญ่ในเมืองเป็นคนบริจาคออกมาครอบครัวเขาสองร้อยคน ตายสิ้นเหลือเพียงสองคนเขากับหลานชายอายุห้าขวบเขากำลังอุ้มเด็กอยู่ หวังว่าจ้านเฉิงอิ้นจะแบ่งอาหารให้แก่บรรดาคนบ้านเดียวกันที่บ้านนอกการกระทำนี้ สะเทือนไปถึงครอบครัวพ่อค้าคนอื่น ๆแม้เมืองจะเล็กมีเพียงสองหมื่นคน ทว่ามั่งคั่งไม่น้อยมีพ่อค้าบริจาคทรัพย์สินออกมาอย่างต่อเนื่องได้มาทั้งหมดสิบสามคันรถ ห้าสิบกว่าหีบจ้านเฉิงอิ้น
วันนี้ทุกคนต่างง่วนอยู่กับการทำอาหารเหล่าสตรีช่วยกันทำอาหารประเภทบะหมี่ นวดแป้ง สับเครื่องเคียง ไส้...เหล่าบุรุษช่วยกันล้างเนื้อวัว ขาหมู หั่นผัก ล้างผัก...นายทหารที่เหลือทั้งหมดไปตั้งกระโจมส่วนพวกเซี่ยเวยและจ้าวเฉียน มองแฮมขาหมูชิ้นมหึมา แล้วหันมาเปรียบเทียบกับขาเล็กลีบของตัวอีกครั้งพวกเขาไม่เคยเห็นขาหมูอ้วน ๆ เช่นนี้มาก่อนก่อนหน้าจะเกิดทุพภิกขภัย ที่ทุกครัวเรือนเลี้ยงล้วนเป็นหมูป่าสีดำชิ้นหมูบางเป็นอย่างมาก ทั้งตัวมีขนสีดำเต็มไปหมดที่อวบอ้วนเลี้ยงไปถึงแปดสิบชั่ง ที่ซูบผอมห้าสิบชั่งก็เชือดแล้วส่วนขาหมูชิ้นนี้ มีหลายสิบชั่งอย่างแน่นอน“หมูนี่อวบอ้วนยิ่งนัก!”“หมูตัวนี้กลับสีขาว ที่บ้านเดิมเราล้วนเป็นสีดำ!”“นี่มันเนื้ออะไรกัน? เดี๋ยวก่อน...เป็นเนื้อกระต่าย เนื้อแพะ!”ครั้นสิ้นเสียงจ้าวเฉียน นายทหารมากมายไม่ได้เข้ามาทุกคนเห็นสิ่งของหลากหลาย ก็พลันเข้าใจในทันทีอ่าง...อ่างขุมทรัพย์!อ่างขุมทรัพย์ของท่านแม่ทัพแสดงอิทธิฤทธิ์อีกแล้ว!สามารถคายสิ่งของออกมาอย่างต่อเนื่องตามที่ท่านแม่ทัพต้องการชาวบ้านทั่วทั้งเมืองต่างมารวมตัวกันที่หน้าประตู เห็นกองทัพตระกูลจ้านมีสิ
ไม่ว่าจะให้ตั้งกระโจม แบกสัมภาระทหาร แบกอาวุธ...พวกเขาก็ยินดีทำขอเพียงท่านแม่ทัพใหญ่ยอมรับพวกเขาเอาไว้พวกเฉินขุยเฉินอู่ระงับรอยยิ้มเอาไว้ได้ยินเพียงจ้านเฉิงอิ้นกล่าวอย่างช้า ๆ ว่า “ติดตามกองทัพ อาจทำสงครามได้ทุกเมื่อ จะต้องมีคนตาย”“ไม่กลัว เดิมทีพวกเราก็จะตายกันอยู่แล้ว เป็นแม่ทัพที่ให้ของกินแก่พวกเรา ทำให้พวกเรามีชีวิตรอด”“บัดนี้ พวกเรามีชีวิตรอดได้หนึ่งวันก็นับเป็นกำไรแล้ว”“สามพันสามร้อยคนทั้งเมือง ขอให้ท่านแม่ทัพโปรดรับไว้ด้วย!”จวงเหลียงยังคิดว่าต้องใช้เวลาสามวันถึงจะทำให้คนเหล่านี้เป็นฝ่ายบากหน้ามาขออาศัยก่อนคิดไม่ถึงเลยว่า ยังไม่ทันกินข้าวเสร็จหนึ่งมื้อเลยด้วยซ้ำพวกเขาก็เป็นฝ่ายเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้านก่อนแล้วยอดเยี่ยมเช่นนี้เชียวหากไปถึงหัวเมืองไหนชาวบ้านต่างก็เข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้านกันหมดกว่าจะถึงหยงโจว ไม่ต้องพูดเลยว่าผู้คนที่ดึงเข้าร่วมทัพได้จะยิ่งใหญ่เช่นกองทัพธงเหลืองอย่างน้อยต้องมีสามแสนคนเป็นแน่หากกองทัพตระกูลจ้านคิดจะยกทัพไปปราบใต้หล้า พวกเขาต้องการกำลังทหารเป็นจำนวนมากคนของด่านเจิ้นกวนแตะต้องไม่ได้ ทำได้เพียงรับทหารภายในดินแดนต้าฉี่เท่านั
เรื่องที่เกิดขึ้นในราชสำนัก เป็นขุนนางชั้นผู้น้อยที่ไม่ค่อยมีความโดดเด่นมากนัก หลังจากได้รับการติดต่อจากกองทัพตระกูลจ้าน ก็ลอบส่งข่าวออกมา!พวกเขาถูกเสนาบดีซูกดหัวมานาน เข้ามาในราชสำนักหลายปีแล้วก็เลื่อนขั้นไม่ได้มิหนำซ้ำเสนาบดีซูยังมาเก็บเงินกับพวกเขาทุกปีอีกต่างหาก ไม่ง่ายเลยกว่าพวกเขาจะหาเงินมาได้ ทว่าดันถูกเขาเก็บไปอย่างไม่สนวิธีการพวกเขาตำแหน่งต่ำต้อย คำพูดไม่มีน้ำหนัก ทว่าในใจเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด!รู้ว่าจ้านเฉิงอิ้นไม่ถูกกับเสนาบดีซูตอนนี้ เขาจะยกทัพกลับมายังราชสำนัก เหล่าขุนนางชั้นผู้น้อยที่ไม่เป็นที่ชื่นชอบ ต่างพากันคิดหาวิธีส่งข่าวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในราชสำนักช่วงนี้ไปให้จ้านเฉิงอิ้นโดยไม่ต้องซื้อตัวพวกเขายังเผยข่าวสำคัญมากอีกข่าวหนึ่งแคว้นฉู่ ฉี หมาน เยี่ยนสี่แค้น บรรลุข้อตกลงกับฮ่องเต้น้อยเรียบร้อยแล้วมีข่าวที่เหล่าขุนนางส่งมาให้ ยืนยันว่าฮ่องเต้น้อยลงนามในข้อตกลงยุติสงครามห้าปีผ่านการต่อรองราคาแคว้นฉู่ ฉี เยี่ยน ในฐานะแคว้นมั่งคั่ง แต่ละแคว้นจะยกห้าหัวเมืองชายแดนให้แก่แคว้นต้าฉี่ชดเชยด้วยเงิน อัญมณีและหญิงงามนับไม่ถ้วนแก่ต้าฉี่เผ่าหมานส่งม้ามามากกว
เขาไม่คิดเลยว่ายังจะมีกะจิตกะใจมาสร้างเรือนไจซิงที่ไร้ประโยชน์อีกเพียงเพื่อจะมอบเป็นของขวัญแก่สนมที่รักเท่านั้นเพื่อกดหัวท่านแม่ทัพใหญ่ กลับตอบรับข้อตกลงไร้สาระนี่ของสี่แคว้นเขาเองก็ไม่คิดบ้างเลย หากจ้านเฉิงอิ้นตายทั้งต้าฉี่ก็จะไม่มีผู้ใดพอที่จะต้านทานการบุกรุกของสี่แคว้นได้อีกต้าฉี่ต้องล่มสลายเป็นแน่ฮ่องเต้น้อยผู้นี้อยากจะฆ่าจ้านเฉิงอิ้นจนขึ้นสมองเกินไปจริง ๆความคิดบ้าดีเดือดจนกลายเป็นมารไปแล้วถึงขั้นที่ว่าการตัดสินตามปกติเขาก็ไม่มีก่อนหน้านี้หลายคนยังครุ่นคิด กระซิบกระซาบกันว่าท่านแม่ทัพใหญ่จะก่อกบฏหรือไม่ตอนนี้พวกเขามั่นใจแล้วว่าจ้านเฉิงอิ้นจะต้องก่อกบฏและยังต้องจัดการสี่แคว้นนั่น ให้กลายเป็นอาณาเขตของเขาด้วยติดตามท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีความสามารถและชำนาญกลยุทธ์เช่นนี้ ในใจของพวกเขาก็เกิดความทะเยอทะยานขึ้นความกล้าก็มีมากขึ้นตามเช่นกันถ้าหาก เรื่องนี้กลายเป็นจริงได้!ถ้าหากรวมหัวเซี่ยเป็นหนึ่งได้จริง ๆ พวกเขาก็จะเป็นวีรบุรุษแห่งประวัติศาสตร์ครั้นคิดมาถึงตรงนี้ ภายในใจของเหล่าผู้นำก็เกิดความภาคภูมิใจขึ้นมาตอนนี้พวกเขาเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเป็นการเริ่มต้
คนเหล่านี้ไม่มีแม้แต่เสื้อผ้า ผู้ชายท่อนบนเปลือยเปล่าเสื้อผ้าของผู้หญิงเต็มไปด้วยรอยเย็บเด็ก ๆ ทุกคนเปลือยกายผอมซูบเห็นโครงกระดูกเย่มู่มู่เห็นกำแพงเมืองที่ผุพังทลาย ผนังกำแพงหลุดลอกเผยให้เห็นผนังดินข้างในในภาพเคลื่อนไหวด้านใต้ผนังกำแพงมีเถ้ากระดูกวางเป็นกองนับไม่ถ้วนกระดูกเหล่านี้ล้วนเป็นของผู้ประสบภัยที่ตายแล้วไม่มีใครช่วยเก็บศพพวกเขาจึงได้แต่ทิ้งไว้ตากแดดอย่างนั้นน่าสลดใจเหลือเกิน!เย่มู่มู่สัมผัสถึงความโหดร้ายของความอดอยากครั้งใหญ่ในรอบสองพันปีตามสัญชาตญาณเป็นครั้งแรกหัวเมืองแห่งนี้ยังมีคนรอดชีวิต แต่หัวเมืองอื่น ๆ คนที่มีชีวิตรอดก็คงมีไม่กี่คนทั้งหมดนี้ มองแล้วคล้ายเมือง แต่ในสายตาของเย่มู่มู่ กำแพงเมืองที่ต่ำเตี้ยเช่นนั้นยังสู้ผนังกำแพงของชาวบ้านในชนบทไม่ได้ด้วยซ้ำประตูทางผ่านของรถอันคับแคบ รถออฟโรดคันหนึ่งก็ยังขับเข้าไปไม่ได้จะติดตรงประตูตอนท้ายของภาพเคลื่อนไหว จ้านเฉิงอิ้นกล่าว “ท่านเทพ เมืองเจียสามพันกว่าคน ชายหนุ่มที่แข็งแกร่งสองพันกว่าคน ผู้หญิง เด็กและคนสูงอายุหลายร้อยคน ข้ารับเข้ามาอยู่ในกองทัพตระกูลจ้านทั้งหมด”เย่มู่มู่ทิ้งข้อความไว้บนกระดานข้อคว
แต่ก็กินหมดแล้วจ้านเฉิงอิ้นจึงถามพวกเขา “โจวเจามีทางแร่อะไรบ้าง?”พวกเขาต่างส่ายศีรษะ “เรียนแม่ทัพ เมืองเจียมีขนาดเขตแดนที่เล็ก ไม่เคยได้ยินทางแร่อะไรเลยขอรับ!”จากนั้น จ้านเฉิงอิ้นหยิบสบู่ ครีมอาบน้ำรวมถึงแชมพู แปรงสีฟัน ผ้าขนหนูและพัดลมตัวเล็กวางไว้บนโต๊ะ…ทั้งหมดวางไว้ตรงหน้าพวกเขา“พวกเจ้าดูหน่อย สิ่งของเหล่านี้สามารถนำไปขายที่แคว้นอื่นได้หรือไม่?”พ่อค้าทั้งห้าคนเกิดความประหลาดใจจึงหยิบออกมาดูมีบางคนถึงกับเปิดฝาและสูดดมกลิ่นอย่างลุ่มลึกกลิ่นหอมพลันแตะที่จมูกทันใดนั้นพลันเกิดความตื่นตะลึงเป็นล้นพ้น“แม่ทัพ นี่เป็นของดีทีเดียวเชียว เมื่อก่อนถูกพ่อค้านำออกมาจากด่านเจิ้นกวน ขายไปยังที่ต่าง ๆ แต่เนื่องจากมีจำนวนน้อยมากจึงมีการโก่งราคาสูงมาก เป็นของที่มีราคาแต่ไม่มีตลาด คนชนชั้นสูงจำนวนไม่น้อยอยากซื้อก็ยังหาซื้อไม่ได้!”“สิ่งเหล่านี้ของท่านเป็นของดีขอรับ ใช้งานดีกว่าเกลือขาวและสบู่ที่พ่อค้ามู่ฉีซิวของกองทัพธงเหลืองนั่นขายเยอะเลยขอรับ!”“เอ๊ะ นี่คืออะไร น้ำหอม เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว…”“แม่ทัพ ของดีเหล่านี้ ถ้าขายให้กับกลุ่มสตรีชนชั้นสูงในแคว้นอื่น ต้องเป็นที่นิยมทั่วท
หากว่าถูกเผ่าหมานเผาจนตาย หรือแม้กระทั่งโดนกิน มั่วฝานคงจะรับไม่ได้!นี่ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นบุตรของแม่ทัพลู่หรือไม่ แต่ว่าทุกการกระทำของเผ่าหมาน ล้วนมาถึงจุดที่แม้แต่สวรรค์หรือมนุษย์ต่างก็พากันแค้นคืองแล้วเขาทำได้เพียงจงเกลียดจงชังตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเด็กได้เท่านั้นจ้านเฉิงอิ้นให้จวงเหลียงหยุดรถจวงเหลียงหยุดรถ พลางหันไปมองจ้านเฉิงอิ้น“เกิดอันใดขึ้นขอรับ? ท่านแม่ทัพ!”หากขับรถไล่ตามให้เร็วขึ้น อาจจะยังทันแต่ถ้าหยุดอยู่กลางทาง จะต้องไม่ทันกาลเป็นแน่!จ้านเฉิงอิ้นเปิดวิทยุสื่อสาร กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เฉินขุย เฉินอู่ ประเดี๋ยวไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ให้เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง!”ในวิทยุสื่อสาร มีเสียงของทั้งสองคนดังออกมา “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”“ซ่งตั๋ว ต้องสอดประสานกับเฉินขุยให้ดี!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นลงจากรถมั่วฝานได้ตามลงมาจากรถด้วยหน้าจอของอากาศยานไร้คนขับที่อยู่ในมือของเขา กำลังแสดงภาพของแม่ทัพภายใต้การบัญชาการของหลัวซู่กำลังถือคบเพลิง และจุดกองฟืน... ฝืนนั้นแห้งเกินไป ไฟจึงลุกไหม้ในทันทีเด็กทั้งสองร้องไห้อย่างน่าเวทนามากยิ่งขึ้น!จ้านเฉิงอิ้นวาง
แม้แต่กองกำลังรักษาพระองค์ภายใต้การนำของผู้บัญชาการลั่ว ก็ล้วนถูกบรรยากาศ ณ ตรงนั้นดูดกลืนไปด้วยกองกำลังรักษาพระองค์จำนวนสองร้ายนายติดอาวุธครบมือ อยากที่จะเข้าสู่สนามรบเพื่อสังหารศัตรูแน่นอนว่า สิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุดก็คือศีรษะมนุษย์ ถึงอย่างไรศีรษะมนุษย์หนึ่งหัว ก็มีค่าเท่ากับข้าวสารสิบชั่ง แป้งสาลีห้าชั่ง ขอเพียงสังหารเผ่าหมานได้สามคน ก็จะสามารถนำธัญพืชกลับมาได้สี่สิบห้าชั่งแล้ว!ภายในสองเดือนนี้ครอบครัวก็จะไม่อดตาย เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว“ผู้บัญชาการ พวกเราก็ออกรบด้วยเถิดขอรับ! เผ่าหมานบุกรุกดินแดนต้าฉี่ สังหารราษฎรแคว้นต้าฉี่ของพวกเรา ถึงแม้พวกเราจะเป็นกองกำลังรักษาพระองค์ แต่ก็ต้องคิดเพื่อแคว้นต้าฉี่อย่างเต็มกำลัง!”“ใช่แล้วขอรับ ในครอบครัวของเหล่าสหายต่างก็ขาดแคลนเสบียงอาหาร ตอนนี้มีโอกาสรับรางวัลเป็นเสบียงอาหารแล้ว ผู้บัญชาการ ให้ทุกคนเข้าสู่สนามรบเถิดขอรับ!”“ผู้บัญชาการ ตอนนี้มีโอกาสได้รับเสบียงอาหารแล้ว พวกเราก็อยากไปลองดูเช่นกันขอรับ!"ลั่วปินรู้จักฐานะทางบ้านของเหล่าสหายทุกคนดี มีคนที่ต้องอดตายแทบจะทุกครอบครัวตอนนี้เมื่อมีโอกาสได้รับรางวัลเป็นเสบียงอาหารแล้ว จ
นายทหารทุกนายกึ่งคุกเข่าลง “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”มั่วฝานชี้ตัวเอง แล้วสลับไปชี้จ้านเฉิงอิ้น“แล้วพวกเราล่ะ?”“ช่วยเด็ก!”“จะช่วยอย่างไร?”“ให้หน่วยกล้าตายของเจ้าขับรถ ภายใต้การคุ้มกันของเฉินขุยและซ่งตั๋ว บุกโจมตีเข้าไปโดยตรงแล้วชิงตัวเด็กขึ้นรถ จากนั้นก็ขับรถออกมา...”“ขับรถบรรทุกสองสามคันไปรั้งท้ายขบวนคอยคุ้มกันด้านหลัง!”“แบบนี้จะได้ผลจริง ๆ หรือ?”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “ได้ผล เจ้าไปเลือกหน่วยกล้าตายมา เอาคนที่ขับรถเก่ง ฝีมือคล่องแคล่วปราดเปรียว”“จัดแจงคนโยนระเบิดไปในรถบรรทุกด้วย หากเผ่าหมานกล้าตาม ก็ระเบิดเลย!!”มั่วฝานพยักหน้า “ขอรับ ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”“เดี๋ยวก่อน เอาอากาศยานไร้คนขับ วิทยุสื่อสารให้พวกเขาไปด้วย หากช่วยคนออกมาได้ หน่วยกล้าตายทั้งหมดจะเป็นอิสระจากบัญชีทาส และให้ตำแหน่งยศนายกองขึ้นไป!”“ทุกคนจะได้รถบ้านเป็นรางวัลคนละหนึ่งคัน!”หน่วยกล้าตายที่อยู่เบื้องหลังมั่วฝาน ต่างดีใจกับสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายแม้ช่วยเด็กจะอันตราย ทว่าแม่ทัพเฉินและแม่ทัพซ่งตั๋วจะเป็นผู้คุ้มกันให้พวกเขาพวกเขายังจะได้รถบ้านเป็นรางวัลอีกนี่เป็นรถบ้านเชียวนะ ต่อไปไม่ได้เป็นหน
จ้านเฉิงอิ้นอ่านสารลับจบ ก็ส่งให้เฉินขุยเฉินอู่เวียนกันอ่านหลังพวกเขาอ่านจบ ก็ส่งให้มั่วฝาน จวงเหลียงและซ่งตั๋วหยางชิงเหอเองก็ได้อ่านเช่นกันหยางชิงเหอเอ่ย “ช่วย!”“แม้จะช่วยออกมาไม่ได้ ก็ได้พยายามแล้ว เมื่อแม่ทัพลู่เห็นความจริงใจของเรา เขาไม่มีทางร่วมหัวจมท้ายกับเผ่าหมานแน่นอน”เฉินอู่กล่าว “แม่ทัพลู่เกลียดเผ่าหมาน!”“ใช่แล้ว ฮ่องเต้น้อยอยากขอให้เขาไปภูเขาเหมือง ล้อมปราบกองทัพตระกูลจ้านร่วมกับกองทัพธงเหลือง แคว้นเยี่ยนและเผ่าหมาน เขาคือผู้ที่ไม่กระตือรือร้นที่สุด เพียงแค่ไปตามน้ำเท่านั้น”“ตอนที่มู่ฉีซิวถอยทัพ เขาวิ่งเร็วที่สุด ท่านแม่ทัพใหญ่เองก็ไม่อยากทำให้เขาลำบาก!”“เช่นนั้นตอนนี้จะทำเช่นไรดี? หากสู้รบกันขึ้นมา เผ่าหมานเอาตัวเองยังไม่รอด เด็กสองคนนั้นอาจถูกพวกเขาพลอยฆ่าไปด้วย!”ทันใดนั้น หน่วยกล้าตายของมั่วฝานก็หยิบโทรศัพท์สังเกตการณ์มาข้างกายเขาครั้นมั่วฝานเห็นภาพบนหน้าจอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเขาส่งหน้าจอให้จ้านเฉิงอิ้นดูจ้านเฉิงอิ้นเห็นว่าตรงหน้าหลัวซู่แห่งเผ่าหมาน มีกองฟืนกองใหญ่กองอยู่และข้าง ๆ กองฟืนเป็นเด็กที่อยู่ในชุดผ้าฝ้าย เด็กสองคนนั้น อายุแปดขวบคนหนึ่ง สิ
อีกฝั่งหนึ่ง ขณะเป็นทหารใต้บังคับบัญชาของมู่ฉีซิว พวกเขาเคยเห็นมาก่อนว่าเผ่าหมานโหดเหี้ยมอำมหิตแค่ไหนพวกเขาไม่มีผู้ใดทนดูได้เลยแม้แต่คนเดียว ต่างคิดว่าที่เผ่าหมานเผาฆ่าปล้นจี้ในดินแดนต้าฉี่ ช่างชั่วช้าต่ำตมยิ่งนัก!ในใจของทุกคนอดกลั้นความเดือดดาลเอาไว้สายหนึ่ง!ตอนนี้ ในที่สุดก็สามารถฆ่าเผ่าหมานอย่างเปิดเผยได้แล้วทุกคนมีขวัญกำลังใจล้นเปี่ยม คันไม้คันมืออยากต่อสู้ กำลังเตรียมพร้อมจะรบ หลังทุกคนมารวมตัวกันเสร็จ...รอเพียงท่านแม่ทัพใหญ่สั่งลงมาคำเดียวเท่านั้น พวกเขาก็จะพุ่งไปฆ่าเผ่าหมานทันทีแย่งศีรษะคนกันอย่างบ้าคลั่ง!ในวินาทีนี้ จู่ ๆ ก็มีคนมารายงานว่า “ท่านแม่ทัพ จดหมายด่วนของท่านแม่ทัพขอรับ!”มีทหารชั้นผู้น้อยจากศาลาพักม้าขี่ม้าเร็ว บุกเข้ามาในค่ายพักของกองทัพตระกูลจ้านทหารชั้นผู้น้อยคนนี้ไม่ใช่คนของกองทัพตระกูลจ้าน เขาสวมเสื้อเกราะ แบกอาวุธไว้บนหลัง แค่มองก็รู้ว่าเป็นทหารของต้าฉี่จ้านเฉิงอิ้นโบกมือให้ทุกคนเปิดทางทหารชั้นผู้น้อยขี่มาเร็วมาตรงหน้าจ้านเฉิงอิ้น เนื่องจากเหน็ดเหนื่อย จึงพลัดตกลงมาจากหลังม้าเถียรฉินและสวี่หมิงรีบประคองเขาขึ้นมาหวังเซิ่งตักน้ำให้ทหารช
“รายงาน...”มีม้าเร็วห้อตะบึงมา เหล่าทหารของเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยรีบเปิดทางให้ทันทีทหารเผ่าหมานลงจากม้า คุกเข่าลงตรงหน้าหลัวซู่ และล้วงจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากอก“ท่านอ๋อง ลู่หลางส่งจดหมายมาขอรับ!”“เอามา!”นายทหารส่งจดหมายให้หลัวซู่ เขาคลี่จดหมายออกเห็นเพียงด้านในเขียนว่า “จะฆ่าจะห้ำหั่น ก็แล้วแต่เจ้า แต่จะให้ข้าผู้แซ่ลู่ร่วมหัวจมท้ายกับเผ่าหมาย ไม่มีทางเป็นอันขาด!”หลัวซู่ยกจดหมายขึ้นอย่างเดือดดาล ก่อนจะฟันขาดออกจากกัน เศษกระดาษกระจัดกระจายร่วงหล่นลงไปเขาก่นด่าอย่างเดือดดาล“ลู่หลางดื้อด้าน เขาไม่สนลูกทั้งสองแล้วหรือ?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทหาร เผาเด็กสองคนนี้เสีย!”แม่ทัพคนอื่นต่างพากันคล้อยตามศึกที่ภูเขาเหมืองจ้านเฉิงอิ้นปล่อยลู่หลางไป ไม่ได้ตามฆ่าเขาทว่าลู่หลางกลับลอบติดตามเผ่าหมานกับกองทัพธงเหลืองมาตลอดทาง ประมาณหนึ่งถึงสองร้อยลี้ คอยตามอยู่ไม่ใกล้และไม่ไกล!เขารู้ว่าคนของแม่ทัพลู่อยู่ใกล้ ๆบอกว่าเขาขี้ขลาดก็ได้!ตอนแรกฮ่องเต้ต้าฉี่เชิญเขากับฮ่องเต้แคว้นเยี่ยน ไปล้อมปราบกองทัพตระกูลจ้านที่ภูเขาเหมืองด้วยกันเขานำทหารไปถึงตามที่คาดเอาไว้!บอกว่าเขาขี้ขลาดก็ได้~
พวกเขาจับชาวบ้านหลานหมื่นคนมาทำเป็นอาหาร ยังกินได้อีกระยะหนึ่งทว่า~พวกเขาไม่มีแหล่งน้ำ ทำสงครามยืดเยื้อกับกองทัพตระกูลจ้านมาเป็นเวลานาน และไม่ได้เป็นฝ่ายได้เปรียบการโต้กลับของพวกเขาในครั้งนี้ เป็นเพราะจวนตัวและกำลังจะหาทางรอดให้ได้หากไม่ตายในสนามรบ!ก็ต้องแย่งแผ่นดินต้าฉี่มาให้ได้!จ้านเฉิงอิ้นเปิดแผนที่ที่จวงเหลียงใช้อากาศยานไร้คนขับสร้างขึ้นเขากล่าวว่า “เฉินอู่ เจ้าพาคนขับรถบรรทุกไปหนึ่งร้อยคัน อ้อมด้านหลังแล้วตัดเข้าด้านข้าง บดขยี้ตายได้เท่าไรก็เท่านั้น!”“ทำให้พวกเขาหวาดกลัวและแตกตื่นก็ใช้ได้แล้ว!”“รถทุกคันเว้นระยะห่างกันหน่อย บนรถจัดแจงทหารผ่านศึกไปสามสิบ เอาหน้าไม้ราชวงศ์ฉินและธนูทดกำลังไปด้วย!”“แล้วก็ จำเอาไว้ว่าต้องระวังวัตถุระเบิดด้วย!”เผ่าหมานเองก็ฝังวัตถุระเบิดเช่นกัน เพียงแต่ที่ฝังลึกลับเป็นอย่างมากเฉินอู่กึ่งคุกเข่าคารวะ “ข้าจะสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาเอง ท่านแม่ทัพโปรดวางใจ วันนี้ข้าพาทหารผ่านศึกออกไปเท่าไร ก็จะพากลับมาเท่านั้น!”“ดี ไปเถอะ!”เฉินอู่ไปเตรียมตัวก่อนแล้ว“มั่วฝาน เตรียมอากาศยานไร้คนขับและวัตถุระเบิด...”มั่วฝานลุกขึ้นยืน สายตาของเขาเป็น
ฮ่าวอี้ขู่เขาแรง ๆ “แล้วก็ เรื่องในวันนี้มีคนรู้แค่ห้าคนเท่านั้น!”เขาทำท่าปาดคอ“หลูหมิงจะปิดปากเอาได้!”หวังเสี่ยวเฉิงรีบพยักหน้า “ผมรู้แล้วครับพี่ พวกเขาไม่ใช่แค่ปิดปากเท่านั้น ยังจะกำจัดเราทิ้งไม่เหลือซากด้วยดอกบัวเพลิงขนาดใหญ่ด้วย!”ฮ่าวอี้จ้องเขาเขม็งทีหนึ่ง “ดอกบัวเพลิงขนาดใหญ่อะไร นั่นมีแต่ในนิยายแฟนตาซีเท่านั้นแหละ”หวังเสี่ยวเฉิงเกาท้ายทอยอย่างอิหลักอิเหลื่อ “พี่ ผมจำผิดแล้ว! ที่ผู้บำเพ็ญเซียนใช้กันคือแหล่งกำเนิดเพลิงหนึ่งรอบนักษัตร แต่ก็แผดเผาจนเราไม่เหลือแม้แต่ขนเส้นเดียวได้เหมือนกัน!”“เมฆฝนสลายไปหมดแล้ว ไม่มีเสียงลมฝน หลูหมิงจะเห็นพวกเราได้ รีบลงเขาเร็วเข้า!”“ครับ!”ทั้งสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าลงจากเขาไปหลูหมิงมองไปยังทิศทางที่พวกเขาจากไปอย่างสงบทีหนึ่ง*ตงโจวหลังพูดคุยกันยาว ๆ มาทั้งคืน ทีแรกกองกำลังรักษาพระองค์และขันทีจะออกไปแล้วในจังหวะนี้เอง จู่ ๆ เผ่าหมานก็แสดงศักยภาพด้วยการบุกเข้ามา นอกรัศมีห้าสิบลี้ ค่อย ๆ เข้ามาใกล้ ๆผู้บัญชาการลั่วและหวงกงกงไม่สามารถออกไปได้เพื่อให้กองทัพตระกูลจ้านแทรกซึมเข้าไปในวัง แล้วช่วยบิดามารดา พี่ใหญ่ ครอบครัวพี่รอง แ
พวกเขาหาเจอแค่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสองคัน รีบฝ่าลมแรงมายังข้างเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดที่คนในพื้นที่กักเก็บน้ำและผลิตกระแสไฟฟ้าตามการนำทางของแผนที่ ก่อนที่ฝนห่าใหญ่จะมาถึงฮ่าวอี้กับหวังเสี่ยวเฉิงตามพวกเขาไปเริ่มมีเม็ดฝนขนาดเล็กตกลงมาจากท้องฟ้า ลมค่อนข้างแรง คนแทบจะยืนไม่อยู่หวังเสี่ยวเฉิงเห็นทั้งสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไปยังเขื่อนด้วยความรวดเร็วเขารีบเอ่ยขึ้นว่า “พี่อี้ พวกเขาสองคนบ้าไปแล้วเหรอ? อากาศย่ำแย่ขนาดนี้ ไม่คิดเลยว่ายังจะไปเขื่อนอีก!”“เดี๋ยวฝนก็จะตกหนักแล้ว สิ่งที่จะถูกทำลายเป็นอันดับแรกก็คือเขื่อน!”“ขวางพวกเขาเอาไว้ เร็วเข้า!”“ไปหารถมาเดี๋ยวนี้!”พวกเขาลุกลี้ลุกลนจนหามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเจอ ฝ่าลมและฝน ขี่ขึ้นไปบนเนินเขาอย่างยากลำบาก จนมาถึงบริเวณใกล้กับเขื่อนจากนั้นก็เห็นภาพที่น่าตกตะลึงที่สุดในชีวิตในจุดที่สูงที่สุดของเขื่อน ในตำแหน่งที่สะดุดตาที่สุด มีแจกันใบหนึ่งวางอยู่ท้องฟ้าบนแจกันมีทั้งฟ้าร้องฟ้าฝ่า ฝนห่าใหญ่เทลงมาทว่าเม็ดฝนนับไม่ถ้วนถูกดูดเข้าไปในแจกันทั้งหมดไม่ใช่เพียงฝนที่ถูกดูดเข้าไปในแจกัน กระทั่งน้ำในเขื่อน มวลคลื่นขนาดมหึมา ถูกม้วนเข้าไปในแจกันทั้งหมด