Share

บทที่ 449

Author: มู่โร่ว
ตอนเช้าตรู่ เย่มู่มู่ได้ยินเสียงจ้านเฉิงอิ้นเคาะแจกันเบาๆ

“ท่านเทพ อยู่หรือไม่?”

“อยู่สิ? เจ้าตื่นเช้าจัง?”

จ้านเฉิงอิ้นไม่พูด เพียงแค่สอดกระดาษแผ่นหนึ่งเข้าไปในแจกัน

เย่มู่มู่หยิบกระดาษที่ลอยลงมา

เห็นเนื้อหาที่เขียนอยู่บนนั้น

ดวงตาเบิกกว้าง ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยความตกตะลึง

“ไม่นะ หัวหน้ากองทัพธงเหลือง มู่ฉีซิว ที่แท้ก็เป็นคนยุคปัจจุบันเหรอ?”

“เขา เป็นคนยุคปัจจุบัน และยังเป็นหนุ่มวิศวะจากมหาวิทยาลัยชั้นนำด้วย?”

“หึ คนคนนี้ช่างหลงตัวเองนัก คิดว่าตนเองข้ามเวลามาแล้ว จะสามารถเตะหลี่ขุย ต่อยจางเฟย เหมือนกับพระเอกในนิยาย เปลี่ยนราชวงศ์ ตั้งตนเป็นอ๋องเหรอ?”

“เขาคิดง่ายเกินไปแล้ว!”

“เดี๋ยวนะ...”

เย่มู่มู่เห็นด้านหลัง มู่ฉีซิวผู้นี้ทำหน้าที่ล้างสมองให้กับเหล่าชาวบ้านที่มาพึ่งพาเขาไปพร้อมกัน อีกด้านหนึ่งกลับทำลายราชวงศ์ที่ใกล้ล่มสลาย

ต้าฉี่ล่มสลาย~

เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้!

เสนาบดีซูสมรู้ร่วมคิดกับกองทัพธงเหลือง และมอบเงินจำนวนมากให้พวกเขาก่อกบฏ

อีกด้านหนึ่งก็ยังอยู่ในต้าฉี่ ใช้กลวิธีต่างๆ ขูดรีดทรัพย์สินของประชาชน สนับสนุนศัตรู!

ตอนนี้ยังกล้าซื้อระเบิดมาซุ่มโจมตีสังหารคน

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 450

    แถมตำแหน่งที่ตั้งยังอยู่ในเขตภูเขาสามสายวางไว้ในปัจจุบันตอนนี้โรงงานไม่มีคนเฝ้า เต็มไปด้วยวัชพืชแต่เครื่องมือตีเหล็กยังสามารถใช้งานได้เธอต้องการย้ายโรงงานทั้งหมดไปที่ยุคโบราณไม่มีไฟฟ้า เราก็มีวิธีเล่นแบบไม่มีไฟฟ้าแต่อาวุธสามารถผลิตในยุคโบราณได้ดีที่สุดยุคปัจจุบัน~เว้นแต่จะซื้อจากต่างประเทศ ไม่อย่างนั้นจะถูกจับตามองไม่ช้าก็เร็วแต่เมื่อมองไปทั่วโลก นอกจากอุตสาหกรรมของจีนที่พัฒนาแล้ว จะซื้อจากที่ไหนได้อีกเย่มู่มู่จึงขนส่งโรงงานจ้านเฉิงอิ้นได้ยินเย่มู่มู่พูดเช่นนั้น ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก“ท่านเทพ จริงหรือ? ย้ายโรงงานตีเหล็กมา สามารถตีเหล็กเหมือนดาบราชวงศ์ถังได้?”“น่าจะต่างกันเล็กน้อย แต่เจ้าวางใจ ข้าจะซื้อวัตถุดิบเหล็กสำเร็จรูปด้วย”“โรงงานเป็นเพียงการใช้แร่เหล็ก แยกเหล็กบริสุทธิ์ออกมา”“การตีเป็นอาวุธ ต้องใช้ไฟฟ้า เป็นโรงงานอื่น!”“ไม่เป็นไร ข้าจะคิดหาวิธี หาโรงงานที่ไม่ต้องใช้ไฟฟ้า!”คำพูดของเย่มู่มู่ ทำให้จ้านเฉิงอิ้นก็รู้สึกตื่นเต้นจนความคิดพลุ่งพล่านโรงงานตีเหล็กบริสุทธิ์...เขาจินตนาการไม่ออกว่าใหญ่แค่ไหน หน้าตาเป็นอย่างไรเขานึกถึงอาวุธที่ท่านประทานมา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 451

    จ้านเฉิงอิ้นเองก็สัมผัสได้ ในที่ว่างเปล่ามีห้องหับเล็ก ๆ เพิ่มขึ้นมาอีกสองห้องแลคเกอร์สีขาว หน้าต่างกระจก ด้านในมีอุปกรณ์นานาชนิดอาทิ ท่อ จอบ พลั่ว และยังมีปุ๋ย เมล็ดพันธุ์พืช เมล็ดพันธุ์ผักนานาชนิด...ยังมีรถสามล้อคันเล็กอีกหนึ่งคัน และบัวรดน้ำเป็นอุปกรณ์ใช้รดน้ำต้นไม้ของท่านเทพแท้บ้านทางพวกเขาก็หน้าตาเป็นเช่นนี้นี่เอง เป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสเป็นระเบียบ ทาด้วยสีขาว ใช้กระจกแสนงดงามมาทำเป็นหน้าต่างน่าเสียดาย เขายังไม่ทันได้สังเกตห้องจนพอใจ ก็ถูกย้ายไปแล้วบัดนี้เขายิ่งมีความสนใจกับโรงงานที่ท่านเทพกล่าวมากขึ้นเข้าไปใหญ่ตุบเย่มู่มู่ส่งหนังสือเรื่องไฟฟ้า สิ่งปลูกสร้าง ฐานของสิ่งปลูกสร้าง และหนังสืออื่น ๆ มานางกล่าวว่า “แม้ที่ดินทางด้านพวกเจ้า จะถูกแดดเผาจนแข็ง แต่เมื่อย้ายโรงงานไป ระยะแรกก็ยังต้องทำฐานให้มั่นคง”“เจ้าเอาหนังสือพวกนี้ไปอ่านก่อน อ่านด้วยกันกับช่างเบื้องล่าง สร้างฐานเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้เริ่มก่อสร้างโรงงาน!”เย่มู่มู่กล่าวจบ ก็ไม่มีข้อความอีกเนื่องจาก พนักงานในตำบลส่งข้อความมาบอกว่า “คุณหนูเย่ เทศบาลตำบลเปิดประชุมและตัดสินใจว่า จะขายโรงงานหนึ่งร้อยล้าน ท

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 452

    ราวกับจะเป็นสัญชาตญาณ กลัวว่าคะแนนของตนจะไม่ดี จะทำให้คุณหนูเย่ไม่พอใจเขาขยันเป็นอย่างมาก ตั้งใจเรียนสุดชีวิตตอนนี้ นอกจากกินข้าว นอนหลับ เวลาทั้งหมดก็ใช้อยู่กับการเรียนนักเรียนพรรค์นี้ต้องบังคับตัวเองเรียน อาจจะลำบาก ไม่ใช่คนมีพรสวรรค์ระดับสูงอาจารย์ในแต่ละวิชา แต่ละคนประเมินผลให้เขาไม่เลวเลยทีเดียว เคารพอาจารย์เป็นอย่างยิ่ง และขยันมาก เพียงแต่พื้นฐานแย่เกินไปเย่มู่มู่ทำได้เพียงให้อั่งเปาซองโตไป ขอให้บรรดาอาจารย์ใส่ใจให้มาก ๆ หน่อยยังมีอีกหนึ่งปัญหาคือ พื้นฐานของเขาอ่อนเกินไป หากเข้าในโรงเรียนตระกูลไฮโซ ไม่ต้องคิดเลยคะแนนต้องต่ำเตี้ยเรี่ยดินที่สุดอยู่แล้ว กลัวว่าเขาจะปรับตัวไม่ได้ช่างเถอะ ด้วยทักษะมือเท้าของเขา คงไม่ถูกคนอื่นรังแกแน่นอนวันต่อมา เย่มู่มู่ หลูหมิง หลูซี นั่งเครื่องบินมายังตำบลเล็ก ๆ ด้วยกันผู้นำของเทศบาลตำบลมาต้อนรับพวกเขาพวกเขาคิดว่า ผู้ที่มาจะเป็นทีมทีมหนึ่ง อย่างน้อยก็เป็นคนของบริษัท ไม่คิดเลยว่าผู้ที่มาจะเป็นเด็กวัยรุ่นสามคน เด็กผู้หญิงหน้าตาสะสวยคนหนึ่ง เด็กอายุสิบกว่าปีหนึ่งคนและเด็กวัยรุ่นที่อารมณ์ค่อนข้างรุนแรงคนหนึ่งเทศบาลตำบลเองก็เพิ่งเ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 453

    หลังจากเจรจากันอยู่สองสามรอบ ราคาของโรงงานจากหนึ่งร้อยล้าน ก็เจรจาจนเหลือหกสิบห้าล้านทว่าก่อนส่งมอบ เทศบาลตำบลต้องซ่อมเครื่องจักรให้เรียบร้อยก่อน อย่างน้อยที่สุดก็อยู่ในขั้นดำเนินการได้เทศบาลตำบลต้องซื้ออะไหล่และอุปกรณ์เสริม พร้อมกับหาช่างซ่อมมาแบบนี้เมื่อคำนวณดูแล้ว พวกเขาทำเงินได้จากโรงงานไม่กี่ล้านเท่านั้นทว่า เย่มู่มู่เซ็นข้อตกลงกับพวกเขาเรื่องไก่และเป็ดที่เพาะเลี้ยงในตำบล และยังมีข้อตกลงความร่วมมือผลิตผลพลอยได้ทางการเกษตรอื่น ๆ อีกด้วยหากไม่มีปัญหาเรื่องคุณภาพ ก็จัดส่งของให้แพลตฟอร์มไลฟ์สดช่วยเหลือเกษตรกรไม่เก็บค่าจ้างไลฟ์สด กำไรที่ได้รับก็จะน้อยกว่าร้านอื่นครึ่งหนึ่งเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงในตำบลสามารถทำเงินได้มากขึ้นมองจากมุมมองระยะยาว เซ็นสัญญาฉบับนี้เท่ากับคุ้มค่าดีกว่าตั้งราคาโรงงานร้างสูง ๆหลังพวกเย่มู่มู่เซ็นข้อตกลงเสร็จ เธอปฏิเสธข้าวเที่ยงของผู้นำ และรีบกลับมาโดยด่วนทันควันคนโบราณทั้งสองยังตื่นเต้นกับการนั่งเครื่องบินเช่นเดิมตั้งแต่เข้าไปถ่ายรูปในสนามบิน หลังขึ้นไปนั่งบนเครื่องบิน ก็บันทึกวิดีโอตลอดทั้งกระบวนการเครื่องบินบินขึ้น พวกเขามองสนามบินอย่างต

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 454

    ซู่โจวคือพื้นที่ที่มีหินแร่เหล็กเป็นหนึ่งในห้าหัวเมืองที่สำคัญที่สุดของมู่ฉีซิว และเป็นหัวเมืองที่อยู่ใกล้พวกเขาที่สุดซ่งตั๋วตอบกลับ “ถึงซู่โจว ด้วยความเร็วที่ใช้ในการเดินทางของเรา ต้องใช้เวลาอีกหนึ่งเดือน”“กระชับเวลานอนให้สั้นลง ในแต่ละวันนอนเพียงสี่ชั่วยาม แล้วใช้เวลาที่เหลือมารีบเดินทาง จะถึงในสิบแปดวัน”จ้านเฉิงอิ้นครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยว่า “หัวเมืองที่ใกล้ซู่โจวที่สุด ถูกกองทัพธงเหลืองเข้ายึดไปหรือยัง?”“มีขอรับ หัวเมืองที่ชื่อว่าหมิงโจว หัวเมืองนั้นทรุดโทรมเกินไป คนก็น้อย กองทัพธงเหลืองยังไม่เห็นค่า ฉะนั้นจึงไม่ได้เข้ายึด”“แต่หมิงโจวอยู่ห่างจากซู่โจวไม่เกินสามสิบลี้!”“เราไปพักค้างแรมที่หมิงโจวก่อน”“ขอรับ!”พวกเขาก็ยังผ่านเมืองเจียเมืองเจียสภาพผุ ๆ พัง ๆ คนสองหมื่นคนตายไปครึ่ง เหลือเพียงสามพันคนที่ดิ้นรนทุรนทุรายคงเป็นเพราะหัวเมืองนี้เล็กเกินไป ผุพังเกินไปกระทั่งเสนาบดีซู มู่ฉีซิวยังไม่เห็นค่า และไม่ได้ฝังวัตถุระเบิดพื้นผิวกำแพงเมืองหลุดลอก พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมีไม่น้อยทีเดียวประตูใหญ่ของกำแพงเมืองไม่เห็นร่องรอยใด จากด้านนอกไปจนถึงในเมืองตลอดทั้งทาง สอง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 455

    เฉินขุย เฉินอู่ ซ่งตั๋ว...เห็นว่าใต้กำแพงเมือง ตรงประตูเมือง ยังมีเถ้ากระดูกกองหนึ่งอยู่บนพื้น...กระทั่งมารดาเพิ่งจะตายไป ก็มีคนคิดจะกินลูกชายแล้วภาพนี้เสียดแทงพวกเขาอย่างลึกซึ้งพวกเขาออกเดินทางจากด่านเจิ้นกวน ตลอดทางที่มานี้ เห็นชาวบ้านน้อยมากหัวเมืองแรกที่ทำให้พวกเขาสะเทือนขวัญ คือการผ่านหมู่บ้านไร้คน ทั้งตำบลตายกันหมดหัวเมืองที่สองคือเมืองต้ายงที่เคยรุ่งโรจน์ในอดีตเมืองใหญ่ที่มีคนสี่แสนคน ถูกวัตถุระเบิดเผาไหม้วายวอดตอนนี้กลายเป็นซากปรักหักพัง คนสี่แสนตายสิ้นส่วนหัวเมืองที่สาม ก็คือเมืองเจียยังมีคนที่มีชีวิตอยู่ ทว่าคนเหล่านี้กลับตายเสียดีกว่าอยู่เพียงแต่กำลังรอความตายอย่างช้า ๆในพวกเขามีทั้งคนดี และมีทั้งคนไม่ดีมีชีวิตได้จนถึงตอนนี้ ผู้นำทุกคนก็คาดเดาได้แล้วว่า พวกเขามีชีวิตอยู่มาได้อย่างไรทว่ากลุ่มคนเช่นนี้ ครั้นเห็นกองทัพตระกูลจ้านก็ยังคุกเข่าโขกศีรษะให้ดังเดิมในใจของพวกเฉินขุย เฉินขู่ สับสนยิ่งนักจ้านเฉิงอิ้นถามซ่งตั๋วขึ้นว่า “เตรียมโจ๊กเอาไว้เท่าใด?”“สามสิบถังขอรับ ทั้งหมดปรุงสุกหมดแล้ว เดี๋ยวจะใช้รถบรรทุกออกมา”“เพียงแต่ท่านแม่ทัพ พวกเขาหิวกระ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 456

    หากคนไม่มีแล้ว เสบียงอาหารที่พยายามแย่งมาสุดชีวิต ควรให้ผู้ใดกัน?ครั้นตั้งโรงทานโจ๊กขึ้นมาแล้ว ซ่งอวิ๋นฮุยก็ให้พวกซุนเฮ่อที่ตักโจ๊กสวมหน้ากากอนามัยและถุงมือทั้งหมดเดิมทีให้พวกเขาสวมชุดป้องกัน แต่พวกเขารู้สึกอึดอัดเกินไป ต่างไม่ยินดีใส่สามพันกว่าคน ตักกันอยู่ทั้งบ่าย ทุกคนล้วนได้กินโจ๊กอ่อนคนละหนึ่งถ้วยบางคนหนึ่งถ้วยไม่พอ ยังอยากกินอีก ก็จะเติมให้พวกเขาผู้ที่กินดินขาว ซ่งอวิ๋นฮุยจะรักษา และแยกตัวออกมานายทหารทุกนายต่างคิดว่า เมืองเจียเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่ง แต่ไม่คิดว่าจะขนอะไรออกมาจากในเมืองได้ทองหลายคันรถ เครื่องลายคราม ภาพวาดพู่กัน และยังมีงานฝีมือแสนประณีตต่าง ๆ นานาครอบครัวพ่อค้ารายใหญ่ในเมืองเป็นคนบริจาคออกมาครอบครัวเขาสองร้อยคน ตายสิ้นเหลือเพียงสองคนเขากับหลานชายอายุห้าขวบเขากำลังอุ้มเด็กอยู่ หวังว่าจ้านเฉิงอิ้นจะแบ่งอาหารให้แก่บรรดาคนบ้านเดียวกันที่บ้านนอกการกระทำนี้ สะเทือนไปถึงครอบครัวพ่อค้าคนอื่น ๆแม้เมืองจะเล็กมีเพียงสองหมื่นคน ทว่ามั่งคั่งไม่น้อยมีพ่อค้าบริจาคทรัพย์สินออกมาอย่างต่อเนื่องได้มาทั้งหมดสิบสามคันรถ ห้าสิบกว่าหีบจ้านเฉิงอิ้น

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 457

    วันนี้ทุกคนต่างง่วนอยู่กับการทำอาหารเหล่าสตรีช่วยกันทำอาหารประเภทบะหมี่ นวดแป้ง สับเครื่องเคียง ไส้...เหล่าบุรุษช่วยกันล้างเนื้อวัว ขาหมู หั่นผัก ล้างผัก...นายทหารที่เหลือทั้งหมดไปตั้งกระโจมส่วนพวกเซี่ยเวยและจ้าวเฉียน มองแฮมขาหมูชิ้นมหึมา แล้วหันมาเปรียบเทียบกับขาเล็กลีบของตัวอีกครั้งพวกเขาไม่เคยเห็นขาหมูอ้วน ๆ เช่นนี้มาก่อนก่อนหน้าจะเกิดทุพภิกขภัย ที่ทุกครัวเรือนเลี้ยงล้วนเป็นหมูป่าสีดำชิ้นหมูบางเป็นอย่างมาก ทั้งตัวมีขนสีดำเต็มไปหมดที่อวบอ้วนเลี้ยงไปถึงแปดสิบชั่ง ที่ซูบผอมห้าสิบชั่งก็เชือดแล้วส่วนขาหมูชิ้นนี้ มีหลายสิบชั่งอย่างแน่นอน“หมูนี่อวบอ้วนยิ่งนัก!”“หมูตัวนี้กลับสีขาว ที่บ้านเดิมเราล้วนเป็นสีดำ!”“นี่มันเนื้ออะไรกัน? เดี๋ยวก่อน...เป็นเนื้อกระต่าย เนื้อแพะ!”ครั้นสิ้นเสียงจ้าวเฉียน นายทหารมากมายไม่ได้เข้ามาทุกคนเห็นสิ่งของหลากหลาย ก็พลันเข้าใจในทันทีอ่าง...อ่างขุมทรัพย์!อ่างขุมทรัพย์ของท่านแม่ทัพแสดงอิทธิฤทธิ์อีกแล้ว!สามารถคายสิ่งของออกมาอย่างต่อเนื่องตามที่ท่านแม่ทัพต้องการชาวบ้านทั่วทั้งเมืองต่างมารวมตัวกันที่หน้าประตู เห็นกองทัพตระกูลจ้านมีสิ

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 702

    หากว่าถูกเผ่าหมานเผาจนตาย หรือแม้กระทั่งโดนกิน มั่วฝานคงจะรับไม่ได้!นี่ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นบุตรของแม่ทัพลู่หรือไม่ แต่ว่าทุกการกระทำของเผ่าหมาน ล้วนมาถึงจุดที่แม้แต่สวรรค์หรือมนุษย์ต่างก็พากันแค้นคืองแล้วเขาทำได้เพียงจงเกลียดจงชังตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเด็กได้เท่านั้นจ้านเฉิงอิ้นให้จวงเหลียงหยุดรถจวงเหลียงหยุดรถ พลางหันไปมองจ้านเฉิงอิ้น“เกิดอันใดขึ้นขอรับ? ท่านแม่ทัพ!”หากขับรถไล่ตามให้เร็วขึ้น อาจจะยังทันแต่ถ้าหยุดอยู่กลางทาง จะต้องไม่ทันกาลเป็นแน่!จ้านเฉิงอิ้นเปิดวิทยุสื่อสาร กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เฉินขุย เฉินอู่ ประเดี๋ยวไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ให้เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง!”ในวิทยุสื่อสาร มีเสียงของทั้งสองคนดังออกมา “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”“ซ่งตั๋ว ต้องสอดประสานกับเฉินขุยให้ดี!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นลงจากรถมั่วฝานได้ตามลงมาจากรถด้วยหน้าจอของอากาศยานไร้คนขับที่อยู่ในมือของเขา กำลังแสดงภาพของแม่ทัพภายใต้การบัญชาการของหลัวซู่กำลังถือคบเพลิง และจุดกองฟืน... ฝืนนั้นแห้งเกินไป ไฟจึงลุกไหม้ในทันทีเด็กทั้งสองร้องไห้อย่างน่าเวทนามากยิ่งขึ้น!จ้านเฉิงอิ้นวาง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 701

    แม้แต่กองกำลังรักษาพระองค์ภายใต้การนำของผู้บัญชาการลั่ว ก็ล้วนถูกบรรยากาศ ณ ตรงนั้นดูดกลืนไปด้วยกองกำลังรักษาพระองค์จำนวนสองร้ายนายติดอาวุธครบมือ อยากที่จะเข้าสู่สนามรบเพื่อสังหารศัตรูแน่นอนว่า สิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุดก็คือศีรษะมนุษย์ ถึงอย่างไรศีรษะมนุษย์หนึ่งหัว ก็มีค่าเท่ากับข้าวสารสิบชั่ง แป้งสาลีห้าชั่ง ขอเพียงสังหารเผ่าหมานได้สามคน ก็จะสามารถนำธัญพืชกลับมาได้สี่สิบห้าชั่งแล้ว!ภายในสองเดือนนี้ครอบครัวก็จะไม่อดตาย เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว“ผู้บัญชาการ พวกเราก็ออกรบด้วยเถิดขอรับ! เผ่าหมานบุกรุกดินแดนต้าฉี่ สังหารราษฎรแคว้นต้าฉี่ของพวกเรา ถึงแม้พวกเราจะเป็นกองกำลังรักษาพระองค์ แต่ก็ต้องคิดเพื่อแคว้นต้าฉี่อย่างเต็มกำลัง!”“ใช่แล้วขอรับ ในครอบครัวของเหล่าสหายต่างก็ขาดแคลนเสบียงอาหาร ตอนนี้มีโอกาสรับรางวัลเป็นเสบียงอาหารแล้ว ผู้บัญชาการ ให้ทุกคนเข้าสู่สนามรบเถิดขอรับ!”“ผู้บัญชาการ ตอนนี้มีโอกาสได้รับเสบียงอาหารแล้ว พวกเราก็อยากไปลองดูเช่นกันขอรับ!"ลั่วปินรู้จักฐานะทางบ้านของเหล่าสหายทุกคนดี มีคนที่ต้องอดตายแทบจะทุกครอบครัวตอนนี้เมื่อมีโอกาสได้รับรางวัลเป็นเสบียงอาหารแล้ว จ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 700

    นายทหารทุกนายกึ่งคุกเข่าลง “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”มั่วฝานชี้ตัวเอง แล้วสลับไปชี้จ้านเฉิงอิ้น“แล้วพวกเราล่ะ?”“ช่วยเด็ก!”“จะช่วยอย่างไร?”“ให้หน่วยกล้าตายของเจ้าขับรถ ภายใต้การคุ้มกันของเฉินขุยและซ่งตั๋ว บุกโจมตีเข้าไปโดยตรงแล้วชิงตัวเด็กขึ้นรถ จากนั้นก็ขับรถออกมา...”“ขับรถบรรทุกสองสามคันไปรั้งท้ายขบวนคอยคุ้มกันด้านหลัง!”“แบบนี้จะได้ผลจริง ๆ หรือ?”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “ได้ผล เจ้าไปเลือกหน่วยกล้าตายมา เอาคนที่ขับรถเก่ง ฝีมือคล่องแคล่วปราดเปรียว”“จัดแจงคนโยนระเบิดไปในรถบรรทุกด้วย หากเผ่าหมานกล้าตาม ก็ระเบิดเลย!!”มั่วฝานพยักหน้า “ขอรับ ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”“เดี๋ยวก่อน เอาอากาศยานไร้คนขับ วิทยุสื่อสารให้พวกเขาไปด้วย หากช่วยคนออกมาได้ หน่วยกล้าตายทั้งหมดจะเป็นอิสระจากบัญชีทาส และให้ตำแหน่งยศนายกองขึ้นไป!”“ทุกคนจะได้รถบ้านเป็นรางวัลคนละหนึ่งคัน!”หน่วยกล้าตายที่อยู่เบื้องหลังมั่วฝาน ต่างดีใจกับสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายแม้ช่วยเด็กจะอันตราย ทว่าแม่ทัพเฉินและแม่ทัพซ่งตั๋วจะเป็นผู้คุ้มกันให้พวกเขาพวกเขายังจะได้รถบ้านเป็นรางวัลอีกนี่เป็นรถบ้านเชียวนะ ต่อไปไม่ได้เป็นหน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 699

    จ้านเฉิงอิ้นอ่านสารลับจบ ก็ส่งให้เฉินขุยเฉินอู่เวียนกันอ่านหลังพวกเขาอ่านจบ ก็ส่งให้มั่วฝาน จวงเหลียงและซ่งตั๋วหยางชิงเหอเองก็ได้อ่านเช่นกันหยางชิงเหอเอ่ย “ช่วย!”“แม้จะช่วยออกมาไม่ได้ ก็ได้พยายามแล้ว เมื่อแม่ทัพลู่เห็นความจริงใจของเรา เขาไม่มีทางร่วมหัวจมท้ายกับเผ่าหมานแน่นอน”เฉินอู่กล่าว “แม่ทัพลู่เกลียดเผ่าหมาน!”“ใช่แล้ว ฮ่องเต้น้อยอยากขอให้เขาไปภูเขาเหมือง ล้อมปราบกองทัพตระกูลจ้านร่วมกับกองทัพธงเหลือง แคว้นเยี่ยนและเผ่าหมาน เขาคือผู้ที่ไม่กระตือรือร้นที่สุด เพียงแค่ไปตามน้ำเท่านั้น”“ตอนที่มู่ฉีซิวถอยทัพ เขาวิ่งเร็วที่สุด ท่านแม่ทัพใหญ่เองก็ไม่อยากทำให้เขาลำบาก!”“เช่นนั้นตอนนี้จะทำเช่นไรดี? หากสู้รบกันขึ้นมา เผ่าหมานเอาตัวเองยังไม่รอด เด็กสองคนนั้นอาจถูกพวกเขาพลอยฆ่าไปด้วย!”ทันใดนั้น หน่วยกล้าตายของมั่วฝานก็หยิบโทรศัพท์สังเกตการณ์มาข้างกายเขาครั้นมั่วฝานเห็นภาพบนหน้าจอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเขาส่งหน้าจอให้จ้านเฉิงอิ้นดูจ้านเฉิงอิ้นเห็นว่าตรงหน้าหลัวซู่แห่งเผ่าหมาน มีกองฟืนกองใหญ่กองอยู่และข้าง ๆ กองฟืนเป็นเด็กที่อยู่ในชุดผ้าฝ้าย เด็กสองคนนั้น อายุแปดขวบคนหนึ่ง สิ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 698

    อีกฝั่งหนึ่ง ขณะเป็นทหารใต้บังคับบัญชาของมู่ฉีซิว พวกเขาเคยเห็นมาก่อนว่าเผ่าหมานโหดเหี้ยมอำมหิตแค่ไหนพวกเขาไม่มีผู้ใดทนดูได้เลยแม้แต่คนเดียว ต่างคิดว่าที่เผ่าหมานเผาฆ่าปล้นจี้ในดินแดนต้าฉี่ ช่างชั่วช้าต่ำตมยิ่งนัก!ในใจของทุกคนอดกลั้นความเดือดดาลเอาไว้สายหนึ่ง!ตอนนี้ ในที่สุดก็สามารถฆ่าเผ่าหมานอย่างเปิดเผยได้แล้วทุกคนมีขวัญกำลังใจล้นเปี่ยม คันไม้คันมืออยากต่อสู้ กำลังเตรียมพร้อมจะรบ หลังทุกคนมารวมตัวกันเสร็จ...รอเพียงท่านแม่ทัพใหญ่สั่งลงมาคำเดียวเท่านั้น พวกเขาก็จะพุ่งไปฆ่าเผ่าหมานทันทีแย่งศีรษะคนกันอย่างบ้าคลั่ง!ในวินาทีนี้ จู่ ๆ ก็มีคนมารายงานว่า “ท่านแม่ทัพ จดหมายด่วนของท่านแม่ทัพขอรับ!”มีทหารชั้นผู้น้อยจากศาลาพักม้าขี่ม้าเร็ว บุกเข้ามาในค่ายพักของกองทัพตระกูลจ้านทหารชั้นผู้น้อยคนนี้ไม่ใช่คนของกองทัพตระกูลจ้าน เขาสวมเสื้อเกราะ แบกอาวุธไว้บนหลัง แค่มองก็รู้ว่าเป็นทหารของต้าฉี่จ้านเฉิงอิ้นโบกมือให้ทุกคนเปิดทางทหารชั้นผู้น้อยขี่มาเร็วมาตรงหน้าจ้านเฉิงอิ้น เนื่องจากเหน็ดเหนื่อย จึงพลัดตกลงมาจากหลังม้าเถียรฉินและสวี่หมิงรีบประคองเขาขึ้นมาหวังเซิ่งตักน้ำให้ทหารช

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 697

    “รายงาน...”มีม้าเร็วห้อตะบึงมา เหล่าทหารของเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยรีบเปิดทางให้ทันทีทหารเผ่าหมานลงจากม้า คุกเข่าลงตรงหน้าหลัวซู่ และล้วงจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากอก“ท่านอ๋อง ลู่หลางส่งจดหมายมาขอรับ!”“เอามา!”นายทหารส่งจดหมายให้หลัวซู่ เขาคลี่จดหมายออกเห็นเพียงด้านในเขียนว่า “จะฆ่าจะห้ำหั่น ก็แล้วแต่เจ้า แต่จะให้ข้าผู้แซ่ลู่ร่วมหัวจมท้ายกับเผ่าหมาย ไม่มีทางเป็นอันขาด!”หลัวซู่ยกจดหมายขึ้นอย่างเดือดดาล ก่อนจะฟันขาดออกจากกัน เศษกระดาษกระจัดกระจายร่วงหล่นลงไปเขาก่นด่าอย่างเดือดดาล“ลู่หลางดื้อด้าน เขาไม่สนลูกทั้งสองแล้วหรือ?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทหาร เผาเด็กสองคนนี้เสีย!”แม่ทัพคนอื่นต่างพากันคล้อยตามศึกที่ภูเขาเหมืองจ้านเฉิงอิ้นปล่อยลู่หลางไป ไม่ได้ตามฆ่าเขาทว่าลู่หลางกลับลอบติดตามเผ่าหมานกับกองทัพธงเหลืองมาตลอดทาง ประมาณหนึ่งถึงสองร้อยลี้ คอยตามอยู่ไม่ใกล้และไม่ไกล!เขารู้ว่าคนของแม่ทัพลู่อยู่ใกล้ ๆบอกว่าเขาขี้ขลาดก็ได้!ตอนแรกฮ่องเต้ต้าฉี่เชิญเขากับฮ่องเต้แคว้นเยี่ยน ไปล้อมปราบกองทัพตระกูลจ้านที่ภูเขาเหมืองด้วยกันเขานำทหารไปถึงตามที่คาดเอาไว้!บอกว่าเขาขี้ขลาดก็ได้~

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 696

    พวกเขาจับชาวบ้านหลานหมื่นคนมาทำเป็นอาหาร ยังกินได้อีกระยะหนึ่งทว่า~พวกเขาไม่มีแหล่งน้ำ ทำสงครามยืดเยื้อกับกองทัพตระกูลจ้านมาเป็นเวลานาน และไม่ได้เป็นฝ่ายได้เปรียบการโต้กลับของพวกเขาในครั้งนี้ เป็นเพราะจวนตัวและกำลังจะหาทางรอดให้ได้หากไม่ตายในสนามรบ!ก็ต้องแย่งแผ่นดินต้าฉี่มาให้ได้!จ้านเฉิงอิ้นเปิดแผนที่ที่จวงเหลียงใช้อากาศยานไร้คนขับสร้างขึ้นเขากล่าวว่า “เฉินอู่ เจ้าพาคนขับรถบรรทุกไปหนึ่งร้อยคัน อ้อมด้านหลังแล้วตัดเข้าด้านข้าง บดขยี้ตายได้เท่าไรก็เท่านั้น!”“ทำให้พวกเขาหวาดกลัวและแตกตื่นก็ใช้ได้แล้ว!”“รถทุกคันเว้นระยะห่างกันหน่อย บนรถจัดแจงทหารผ่านศึกไปสามสิบ เอาหน้าไม้ราชวงศ์ฉินและธนูทดกำลังไปด้วย!”“แล้วก็ จำเอาไว้ว่าต้องระวังวัตถุระเบิดด้วย!”เผ่าหมานเองก็ฝังวัตถุระเบิดเช่นกัน เพียงแต่ที่ฝังลึกลับเป็นอย่างมากเฉินอู่กึ่งคุกเข่าคารวะ “ข้าจะสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาเอง ท่านแม่ทัพโปรดวางใจ วันนี้ข้าพาทหารผ่านศึกออกไปเท่าไร ก็จะพากลับมาเท่านั้น!”“ดี ไปเถอะ!”เฉินอู่ไปเตรียมตัวก่อนแล้ว“มั่วฝาน เตรียมอากาศยานไร้คนขับและวัตถุระเบิด...”มั่วฝานลุกขึ้นยืน สายตาของเขาเป็น

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 695

    ฮ่าวอี้ขู่เขาแรง ๆ “แล้วก็ เรื่องในวันนี้มีคนรู้แค่ห้าคนเท่านั้น!”เขาทำท่าปาดคอ“หลูหมิงจะปิดปากเอาได้!”หวังเสี่ยวเฉิงรีบพยักหน้า “ผมรู้แล้วครับพี่ พวกเขาไม่ใช่แค่ปิดปากเท่านั้น ยังจะกำจัดเราทิ้งไม่เหลือซากด้วยดอกบัวเพลิงขนาดใหญ่ด้วย!”ฮ่าวอี้จ้องเขาเขม็งทีหนึ่ง “ดอกบัวเพลิงขนาดใหญ่อะไร นั่นมีแต่ในนิยายแฟนตาซีเท่านั้นแหละ”หวังเสี่ยวเฉิงเกาท้ายทอยอย่างอิหลักอิเหลื่อ “พี่ ผมจำผิดแล้ว! ที่ผู้บำเพ็ญเซียนใช้กันคือแหล่งกำเนิดเพลิงหนึ่งรอบนักษัตร แต่ก็แผดเผาจนเราไม่เหลือแม้แต่ขนเส้นเดียวได้เหมือนกัน!”“เมฆฝนสลายไปหมดแล้ว ไม่มีเสียงลมฝน หลูหมิงจะเห็นพวกเราได้ รีบลงเขาเร็วเข้า!”“ครับ!”ทั้งสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าลงจากเขาไปหลูหมิงมองไปยังทิศทางที่พวกเขาจากไปอย่างสงบทีหนึ่ง*ตงโจวหลังพูดคุยกันยาว ๆ มาทั้งคืน ทีแรกกองกำลังรักษาพระองค์และขันทีจะออกไปแล้วในจังหวะนี้เอง จู่ ๆ เผ่าหมานก็แสดงศักยภาพด้วยการบุกเข้ามา นอกรัศมีห้าสิบลี้ ค่อย ๆ เข้ามาใกล้ ๆผู้บัญชาการลั่วและหวงกงกงไม่สามารถออกไปได้เพื่อให้กองทัพตระกูลจ้านแทรกซึมเข้าไปในวัง แล้วช่วยบิดามารดา พี่ใหญ่ ครอบครัวพี่รอง แ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 694

    พวกเขาหาเจอแค่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสองคัน รีบฝ่าลมแรงมายังข้างเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดที่คนในพื้นที่กักเก็บน้ำและผลิตกระแสไฟฟ้าตามการนำทางของแผนที่ ก่อนที่ฝนห่าใหญ่จะมาถึงฮ่าวอี้กับหวังเสี่ยวเฉิงตามพวกเขาไปเริ่มมีเม็ดฝนขนาดเล็กตกลงมาจากท้องฟ้า ลมค่อนข้างแรง คนแทบจะยืนไม่อยู่หวังเสี่ยวเฉิงเห็นทั้งสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไปยังเขื่อนด้วยความรวดเร็วเขารีบเอ่ยขึ้นว่า “พี่อี้ พวกเขาสองคนบ้าไปแล้วเหรอ? อากาศย่ำแย่ขนาดนี้ ไม่คิดเลยว่ายังจะไปเขื่อนอีก!”“เดี๋ยวฝนก็จะตกหนักแล้ว สิ่งที่จะถูกทำลายเป็นอันดับแรกก็คือเขื่อน!”“ขวางพวกเขาเอาไว้ เร็วเข้า!”“ไปหารถมาเดี๋ยวนี้!”พวกเขาลุกลี้ลุกลนจนหามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเจอ ฝ่าลมและฝน ขี่ขึ้นไปบนเนินเขาอย่างยากลำบาก จนมาถึงบริเวณใกล้กับเขื่อนจากนั้นก็เห็นภาพที่น่าตกตะลึงที่สุดในชีวิตในจุดที่สูงที่สุดของเขื่อน ในตำแหน่งที่สะดุดตาที่สุด มีแจกันใบหนึ่งวางอยู่ท้องฟ้าบนแจกันมีทั้งฟ้าร้องฟ้าฝ่า ฝนห่าใหญ่เทลงมาทว่าเม็ดฝนนับไม่ถ้วนถูกดูดเข้าไปในแจกันทั้งหมดไม่ใช่เพียงฝนที่ถูกดูดเข้าไปในแจกัน กระทั่งน้ำในเขื่อน มวลคลื่นขนาดมหึมา ถูกม้วนเข้าไปในแจกันทั้งหมด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status