ทหารม้าทั้งห้าหมื่นนายของเซี่ยเวยกินอิ่มดื่มพอแล้ว เลือกสถานที่ตั้งค่ายพักไม่ไกลจากแม่น้ำชลประทานตะกอนในแม่น้ำจมลง น้ำใสสะอาดแล้ว พวกม้าเห็นดังนั้นก็ส่งเสียงร้อง รีบวิ่งลงไปแช่น้ำในแม่น้ำเหล่าทหารเห็นเข้าก็ตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที“แม่น้ำ เป็นแม่น้ำ!”“มีน้ำ เป็นน้ำที่ลึกมาก...”เหล่าทหารไม่อาจอดกลั้นได้อีกต่อไป กระโดดลงไปในแม่น้ำเพื่ออาบน้ำซ่งตั๋วรีบห้ามปราม“เดี๋ยวก่อน น้ำนี่ใช้สำหรับการชลประทาน ต้องต้มให้เดือดก่อนจึงจะใช้อาบน้ำได้”แม่ทัพเซี่ยเวยพอใจกับสถานที่ตั้งค่ายที่ซ่งตั๋วจัดให้มาก ห่างจากแม่น้ำใหญ่ไม่ถึงสามสิบเมตร น้ำในแม่น้ำใสสะอาด น้ำเหล่านี้เพียงพอที่จะรับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่กระหายน้ำตายในอนาคตซ่งตั๋วกลับบอกว่าน้ำในแม่น้ำใช้สำหรับการชลประทาน หากจะใช้อาบน้ำ ทางที่ดีควรต้มให้เดือดก่อนใช้น้ำดีขนาดนี้ทำการชลประทาน ไม่ใช่ว่าเป็นการสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์หรอกหรือ?แม่ทัพเซี่ยเวยยิ้มพลางกล่าวว่า “ปล่อยให้พวกเขาลงไปเถอะ ไม่ได้อาบน้ำมาครึ่งปีแล้ว ถึงเวลาต้องชำระล้างร่างกายให้สะอาดเสียหน่อย!”ซ่งตั๋วไม่ห้ามปรามอีกต่อไป ปล่อยให้พวกเขาทำตามใจเหล่าทหารกระโดดลงน้ำ
เขาดีใจจนเนื้อเต้น “คุณหนูเย่ ตอนนี้ผมจะรีบติดต่อให้คุณ วางใจได้ พรุ่งนี้ผมจะให้คำตอบคุณแน่นอน!”เย่มู่มู่ตอบกลับจ้านเฉิงอิ้น “ฉันสั่งซื้อรถบรรทุกขนาดใหญ่ไปแล้วยี่สิบคัน รถขุดดินสามสิบคัน ถ้าในเมืองนี้มีสินค้าในสต็อก พรุ่งนี้ก็ส่งมาได้เลย!”“ตอนเย็น คุณบรรทุกเสบียงและน้ำใส่รถบรรทุกขนาดใหญ่สองคัน นำไปส่งให้เหอหง การสะสมถ่านหินเป็นสิ่งสำคัญที่สุด!”นี่เกี่ยวข้องกับว่าเหล่าทหารจะสามารถผ่านพ้นภัยพิบัติหิมะในอีกสองปีข้างหน้าไปได้หรือไม่จ้านเฉิงอิ้นตอบกลับนางว่า “ท่านเทพ ขอบคุณท่าน พรุ่งนี้เที่ยงจะมีการทำพิธีเปิดศาลเทพและบวงสรวง ชาวบ้านด่านเจิ้นกวนจะเริ่มจุดธูปบูชาตั้งแต่วันพรุ่งนี้ เมื่อถึงเวลา ข้าจะถ่ายวิดีโอให้ท่านดู!”เดี๋ยวนะ~เขาถึงกับสร้างศาลเทพจริง ๆ หรือ?เธอเป็นคนเป็น ๆ จะให้คนโบราณมากราบไหว้บูชา มันจะเหมาะสมเหรอ“หรือว่าพวกเราล้มเลิกดีไหม?”“ไม่ นี่เป็นสิ่งที่ท่านเทพสมควรได้รับ หากไม่มีท่าน ชาวบ้านด่านเจิ้นกวนคงล้มตาย กองทัพตระกูลจ้านคงพินาศ แคว้นต้าฉี่คงไม่หลงเหลืออยู่แล้ว”“บัดนี้ เวลากระชั้นชิด ด่านเจิ้นกวนจึงสร้างได้เพียงสามศาลเทพเท่านั้น”“หากวันใดสามารถรวมแผ่นดิน
วันรุ่งขึ้น ณ ด่านเจิ้นกวนชาวบ้านทั้งเมืองต่างต่อแถวไปที่ศาลเทพริมแม่น้ำแม่ทัพใหญ่นำเหล่านายทหารทุกคนมาสักการะบูชาที่ศาลเทพพิธีกรรมในครั้งนี้ซื่อเมิ่งเป็นผู้นำพิธีจ้านเฉิงอิ้นสวมชุดเกราะสีเงิน ผูกผมสูง เผยหน้าผากรูปหัวใจแสนประณีตเรียบเนียนออกมา บุคลิกของเขาดูเย็นชา ใบหน้าหล่อเหลา หน้าตาขาวผ่องดุจหิมะ สีปากจางเป็นอย่างมาก ตรงกระจับปากมีตุ่มริมฝีปาก สายตามองไปยังรูปปั้นเสมือนจริงของท่านเทพชุบทองที่ถูกคลุมเอาไว้ด้วยผ้าไหมสีแดงหลังสร้างรูปปั้นเสมือนจริงของท่านเทพเสร็จ เขากลัวว่าจะไปล่วงเกินท่านเทพเข้า จึงไม่เคยมาดูมาก่อนทว่าลอบข่มขู่ช่างเป็นการส่วนตัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากทำพัง ช่างอย่าได้คิดจะได้กินข้าวอีกในทางตรงกันข้าม หากทำดีจะมีรางวัลใหญ่!ช่างทุกคนต่างตั้งอกตั้งใจจนแทบกลั้นหายใจ ดูว่าแม่ทัพใหญ่พอใจหรือไม่! ในขณะนี้ จ้านเฉิงอิ้นนำเหล่านายทหารเดินไปตรงหน้ารูปปั้นเสมือนจริงของท่านเทพ ด้วยท่าทางน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง พร้อมเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง หมอบลง ก้มลงกราบ...“ข้าขอบคุณท่านเทพที่ประทานน้ำและอาหารให้แก่ด่านเจิ้นกวน ช่วยชีวิตชาวบ้านและทหารของด่านเจิ้นกวนหนึ่งแสนค
ผ่านไปประมาณหนึ่งเดือน ทั้งภายในภายนอกก็สร้างและตกแต่งเสร็จแล้วพี่ซุนวิ่งไปทาสี ลงสีโป๊วที่ห้องนั้นทุกวันเธอจ่ายเงินเดือนสูง ช่วงนี้สองสามีภรรยามีรายได้สูง ยิ่งทุ่มเททำงานหนักมากขึ้น*หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ หัวหน้าผู้รับเหมาก็ต่อสายเข้ามา บอกว่าเขาจัดการหารถขุดให้ได้สามสิบคัน รถดันดินยี่สิบคันรถบรรทุก รถหกล้อ รถบรรทุกดินที่บรรทุกดินในก่อนหน้านี้ มีให้ได้ยี่สิบห้าคันหากเธอต้องการ เขาปรึกษากับเถ้าแก่ที่ทำงานเกี่ยวกับดินเรียบร้อยแล้ว ปล่อยให้ได้ราคาถูก ๆสรุปราคาประมาณสี่สิบเก้าล้านสองแสนห้าหมื่นเย่มู่มู่คิดแล้วสี่สิบเก้าล้านสองแสนห้าหมื่นบวกกับเงินค่าน้ำห้าแสนทั้งหมดต้องจ่ายห้าสิบสองล้านห้าแสนเธอโอนเงินให้หัวหน้าผู้รับเหมาทันทีในวินาทีที่หัวหน้าผู้รับเหมาได้รับเงิน เห็นว่าเย่มู่มู่ให้เพิ่มอีกเจ็ดแสนห้าหมื่น การค้าขายในครั้งนี้ เขาได้กำไรสุทธิสามล้านสองแสนห้าหมื่นเถ้าแก่ที่ทำงานเกี่ยวกับดินเหล่านั้นยังให้อั่งเปาเขาและเลี้ยงข้าวเขาอีกด้วยรายได้ของเขาไม่ต่ำกว่าสี่ล้านช่วงสองสามวันระยะเวลาสั้น ๆ ก็ได้มาแล้วสี่ล้าน ทำเงินได้เยอะกว่างานที่เขาต้องทำอย่างเหน็ดเหนื่อยสาย
หลังจากพ่อแม่ตายไป เย่มู่มู่ก็ใช้ชีวิตอย่างเลอะ ๆ เลือน ๆ มาตลอดจึงไม่ได้สังเกตเห็นแต่แรกว่าในบ้านมีสิ่งของเพิ่มขึ้นมาโดยไร้สาเหตุยกตัวอย่างเช่นบางครั้งก็เป็นกระดาษเหลืองโบราณที่เขียนรายงานเกี่ยวกับการรบ ภัยแล้งและทุพภิกขภัยด้วยอักษรตัวเต็มบางคราก็เป็นเศษชามกระเบื้องเก่า ๆ ที่แตกไปครึ่งหนึ่งมีหนหนึ่งที่จู่ ๆ ในบ้านก็มีเศษดาบเปื้อนเลือดปรากฏขึ้นมาเธอถึงได้ค้นพบด้วยความตกอกตกใจ นึกว่าในบ้านมีผีแล้วเสียอีก!วันนี้ตอนกลางวันแสก ๆ ในบ้านอยู่ดี ๆ ก็มีเสื้อชั้นในยุคโบราณเปื้อนเลือดโผล่มา เสื้อชั้นในตัวนั้นมีสีออกเหลืองเปื้อนคราบเหงื่อไคลมือเธอไปสัมผัสโดนเข้าพอดี~อ้าก~เสื้อยังอุ่นอยู่เลย!เลือดก็อุ่นเหมือนกัน!เย่มู่มู่กรีดร้องเสียงหลงด้วยความตกใจนานทีเดียว จนกระทั่งในบ้านไม่มีสิ่งของโผล่มาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยอีก เธอถึงสงบสติเย็นลงได้เย่มู่มู่หยิบเสื้อชั้นในขึ้นมาอย่างระมัดระวัง แน่ใจว่าเป็นเสื้อชั้นในแบบโบราณ เป็นของผู้ชาย เจ้าของเสื้อชั้นในตัวนี้สูงเกินหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร ช่วงไหล่กว้างจุดที่เสื้อชั้นในปรากฏขึ้นคือ พาดอยู่บนปากแจกันดอกไม้ใบเขื่องตรงมุมห้องรับแขก
จ้านเฉิงอิ้นหันขวับไปทางนั้น แจกันเขรอะฝุ่นตรงมุมผนังมีน้ำพุ่งออกมาไม่หยุดน้ำพุ่งรุนแรงมาก สาดถูกอาภรณ์ของเขากับหมอซ่งจนเปียกชุ่มเขาผุดลุกขึ้นยืน มือสองข้างกำแน่นจนสั่นน้อย ๆ“นี่ คือน้ำงั้นรึ?”ทุกคนไม่ได้เห็นน้ำมาครึ่งค่อนปีแล้ว หมอซ่งใช้สองมือกอบน้ำมาดื่มหวานเย็นชุ่มชื้น เป็นน้ำจริง ๆ ด้วย!เขาร้องเสียงดังด้วยความพลุ่งพล่านใจ “ท่านแม่ทัพ เป็นน้ำจริง ๆ ด้วย!”เหล่าทหารในด่านเจิ้นกวนเฝ้ารอน้ำทุกวัน รอมาครึ่งค่อนปีแล้วขุดหาแหล่งน้ำใต้ดิน ขุดไปสิบกว่าบ่อ ขุดลงไปลึกเกินสามสิบจั้ง[1]แล้วก็เจอแต่ทรายเหลืองแห้ง ๆ ไม่เจอน้ำแต่อย่างใดหมอซ่งนำชามแตกเป็นรูมารองน้ำให้แม่ทัพ ประคองด้วยสองมือที่สั่นระริก“ท่านแม่ทัพ ท่านลองชิมดูสิ”จ้านเฉิงอิ้นใช้มือข้างเดียวรับมาจิบคำหนึ่ง หวานเย็นชื่นใจ เป็นน้ำสะอาดเขาดื่มรวดเดียวจนหมด!“สวรรค์ประทานน้ำอมฤต สวรรค์ไม่ได้ต้องการให้กองทัพตระกูลจ้านของข้าพินาศ!”สิ้นคำ นายทหารหลายนายก็ถลาเข้ามาด้วยความยินดี ใช้สองมือรองน้ำดื่มอึก ๆ ๆหมอซ่งรองน้ำให้แม่ทัพอีกชาม ส่งมาให้เขาดื่มนายทหารหลายนายนั้นดื่มน้ำไปพลางเอ่ยด้วยความยินดี “ท่านแม่ทัพ เทพยดาบ
จ้านเฉิงอิ้นยัดกล่องข้าวใส่อกพวกเขา “เดี๋ยวท่านเทพก็ประทานอาหารให้ข้าอีกนั่นแหละ พวกเจ้ารับไว้เถอะ”นายทหารทั้งสิบคนมองหน้ากัน อยากบ่ายเบี่ยง แต่แล้วก็นึกถึงคนในครอบครัวที่หิวโหยจนเหลือเพียงลมหายใจรวยรินรู้สึกว่าในอกหนักอึ้งนับพันชั่ง!อู๋ซานหลางที่ในครอบครัวมีลูกชายอายุยังน้อยใกล้จะหิวตายรับมาคนแรกเขาคุกเข่าลงข้างหนึ่ง เอ่ยทั้งน้ำตาคลอหน่วย “ขอบคุณท่านแม่ทัพ ข้าสามารถเอากลับไปส่งที่บ้านก่อนได้หรือไม่ ภรรยากับลูกข้าหิวจนใกล้จะไม่ไหวแล้ว”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “รีบเอาไปส่งเถอะ!”อู๋ซานหลางกอดกล่องข้าววิ่งกลับบ้านไปก่อนนายทหารอีกเก้านายซ่อนกล่องข้าวไว้ในอก นำอาหารกลับไปส่งที่บ้านจ้านเฉิงอิ้นกำชับให้พวกเขากลับมาเร็วหน่อย จะได้มากินโจ๊กด้วยกันอย่าดูแคลนข้าวกับอาหารหนึ่งกล่องเชียว ถ้านำไปต้มเป็นโจ๊ก คนทั้งครอบครัวรับประทานอย่างประหยัดก็สามารถเก็บไว้กินได้สองวัน ช่วยให้ไม่อดตายในช่วงหลายวันนี้หากผสมใบไม้เปลือกไม้ลงไปยังสามารถเก็บไว้ได้นานกว่านั้นช่วงเวลาหนึ่งก้านธูปผ่านไป นายทหารทั้งสิบก็กลับมา แต่ละคนมีสีหน้าเคร่งเครียด ขอบตาแดงเรื่อหลังนั่งลง อาหลี่ก็ยกหม้อโจ๊กเข้ามาข้
หลังเย่มู่มู่โยนอาหารหมดอายุลงไปจนหมดก็ขึ้นไปชั้นบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเธอสว่างขึ้นไม่หยุด เป็นคุณอาคุณลุงในครอบครัวเธอโทรมาพ่อแม่ล่วงลับ เธอกลายเป็นเด็กกำพร้า คุณอาคุณลุงร่วมมือกับคุณย่ามาหาถึงบ้าน หมายจะฮุบทรัพย์สินของเธอโชคดีที่คุณพ่อคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าจึงทิ้งพินัยกรรมเอาไว้ในโถงตั้งโลงศพของคุณพ่อคุณแม่ คุณอาคุณลุงรวมถึงคุณย่ากดดันให้เธอมอบทรัพย์สินของคุณพ่อออกไปยังอ้างเสียสวยหรูว่าจะช่วยดูแลให้เธอบอกว่าเธอเป็นผู้หญิง ต้องแต่งงานไม่ช้าก็เร็ว จะบริหารบริษัทใหญ่มูลค่าหลายหมื่นล้านได้อย่างไรห้องชุดสิบกว่าห้อง ร้านค้าหลายร้านกับตึกปล่อยเช่าอีกสองตึกบอกให้เธอส่งมอบทั้งหมดนั้นออกไปให้พี่น้องของคุณพ่อแบ่งสรรปันส่วนกันคุณพ่อไม่ใช่ผู้ถือหุ้นเพียงหนึ่งเดียวของบริษัท แต่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด ถือหุ้นสามสิบกว่าเปอร์เซ็นต์เย่มู่มู่ขอให้ผู้ถือหุ้นรายอื่นช่วยออกหน้า ช่วยเธอปกป้องทรัพย์สมบัติเอาไว้เธอไม่เข้าร่วมการบริหาร รับแค่เงินปันผลเท่านั้นเธอสละสิทธิ์ในการบริหาร ผู้ถือหุ้นรายอื่นย่อมยินดีอยู่แล้วบอดี้การ์ดปรากฏตัวขึ้นในโถงตั้งโลงศพจึงควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้
ผ่านไปประมาณหนึ่งเดือน ทั้งภายในภายนอกก็สร้างและตกแต่งเสร็จแล้วพี่ซุนวิ่งไปทาสี ลงสีโป๊วที่ห้องนั้นทุกวันเธอจ่ายเงินเดือนสูง ช่วงนี้สองสามีภรรยามีรายได้สูง ยิ่งทุ่มเททำงานหนักมากขึ้น*หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ หัวหน้าผู้รับเหมาก็ต่อสายเข้ามา บอกว่าเขาจัดการหารถขุดให้ได้สามสิบคัน รถดันดินยี่สิบคันรถบรรทุก รถหกล้อ รถบรรทุกดินที่บรรทุกดินในก่อนหน้านี้ มีให้ได้ยี่สิบห้าคันหากเธอต้องการ เขาปรึกษากับเถ้าแก่ที่ทำงานเกี่ยวกับดินเรียบร้อยแล้ว ปล่อยให้ได้ราคาถูก ๆสรุปราคาประมาณสี่สิบเก้าล้านสองแสนห้าหมื่นเย่มู่มู่คิดแล้วสี่สิบเก้าล้านสองแสนห้าหมื่นบวกกับเงินค่าน้ำห้าแสนทั้งหมดต้องจ่ายห้าสิบสองล้านห้าแสนเธอโอนเงินให้หัวหน้าผู้รับเหมาทันทีในวินาทีที่หัวหน้าผู้รับเหมาได้รับเงิน เห็นว่าเย่มู่มู่ให้เพิ่มอีกเจ็ดแสนห้าหมื่น การค้าขายในครั้งนี้ เขาได้กำไรสุทธิสามล้านสองแสนห้าหมื่นเถ้าแก่ที่ทำงานเกี่ยวกับดินเหล่านั้นยังให้อั่งเปาเขาและเลี้ยงข้าวเขาอีกด้วยรายได้ของเขาไม่ต่ำกว่าสี่ล้านช่วงสองสามวันระยะเวลาสั้น ๆ ก็ได้มาแล้วสี่ล้าน ทำเงินได้เยอะกว่างานที่เขาต้องทำอย่างเหน็ดเหนื่อยสาย
วันรุ่งขึ้น ณ ด่านเจิ้นกวนชาวบ้านทั้งเมืองต่างต่อแถวไปที่ศาลเทพริมแม่น้ำแม่ทัพใหญ่นำเหล่านายทหารทุกคนมาสักการะบูชาที่ศาลเทพพิธีกรรมในครั้งนี้ซื่อเมิ่งเป็นผู้นำพิธีจ้านเฉิงอิ้นสวมชุดเกราะสีเงิน ผูกผมสูง เผยหน้าผากรูปหัวใจแสนประณีตเรียบเนียนออกมา บุคลิกของเขาดูเย็นชา ใบหน้าหล่อเหลา หน้าตาขาวผ่องดุจหิมะ สีปากจางเป็นอย่างมาก ตรงกระจับปากมีตุ่มริมฝีปาก สายตามองไปยังรูปปั้นเสมือนจริงของท่านเทพชุบทองที่ถูกคลุมเอาไว้ด้วยผ้าไหมสีแดงหลังสร้างรูปปั้นเสมือนจริงของท่านเทพเสร็จ เขากลัวว่าจะไปล่วงเกินท่านเทพเข้า จึงไม่เคยมาดูมาก่อนทว่าลอบข่มขู่ช่างเป็นการส่วนตัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากทำพัง ช่างอย่าได้คิดจะได้กินข้าวอีกในทางตรงกันข้าม หากทำดีจะมีรางวัลใหญ่!ช่างทุกคนต่างตั้งอกตั้งใจจนแทบกลั้นหายใจ ดูว่าแม่ทัพใหญ่พอใจหรือไม่! ในขณะนี้ จ้านเฉิงอิ้นนำเหล่านายทหารเดินไปตรงหน้ารูปปั้นเสมือนจริงของท่านเทพ ด้วยท่าทางน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง พร้อมเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง หมอบลง ก้มลงกราบ...“ข้าขอบคุณท่านเทพที่ประทานน้ำและอาหารให้แก่ด่านเจิ้นกวน ช่วยชีวิตชาวบ้านและทหารของด่านเจิ้นกวนหนึ่งแสนค
เขาดีใจจนเนื้อเต้น “คุณหนูเย่ ตอนนี้ผมจะรีบติดต่อให้คุณ วางใจได้ พรุ่งนี้ผมจะให้คำตอบคุณแน่นอน!”เย่มู่มู่ตอบกลับจ้านเฉิงอิ้น “ฉันสั่งซื้อรถบรรทุกขนาดใหญ่ไปแล้วยี่สิบคัน รถขุดดินสามสิบคัน ถ้าในเมืองนี้มีสินค้าในสต็อก พรุ่งนี้ก็ส่งมาได้เลย!”“ตอนเย็น คุณบรรทุกเสบียงและน้ำใส่รถบรรทุกขนาดใหญ่สองคัน นำไปส่งให้เหอหง การสะสมถ่านหินเป็นสิ่งสำคัญที่สุด!”นี่เกี่ยวข้องกับว่าเหล่าทหารจะสามารถผ่านพ้นภัยพิบัติหิมะในอีกสองปีข้างหน้าไปได้หรือไม่จ้านเฉิงอิ้นตอบกลับนางว่า “ท่านเทพ ขอบคุณท่าน พรุ่งนี้เที่ยงจะมีการทำพิธีเปิดศาลเทพและบวงสรวง ชาวบ้านด่านเจิ้นกวนจะเริ่มจุดธูปบูชาตั้งแต่วันพรุ่งนี้ เมื่อถึงเวลา ข้าจะถ่ายวิดีโอให้ท่านดู!”เดี๋ยวนะ~เขาถึงกับสร้างศาลเทพจริง ๆ หรือ?เธอเป็นคนเป็น ๆ จะให้คนโบราณมากราบไหว้บูชา มันจะเหมาะสมเหรอ“หรือว่าพวกเราล้มเลิกดีไหม?”“ไม่ นี่เป็นสิ่งที่ท่านเทพสมควรได้รับ หากไม่มีท่าน ชาวบ้านด่านเจิ้นกวนคงล้มตาย กองทัพตระกูลจ้านคงพินาศ แคว้นต้าฉี่คงไม่หลงเหลืออยู่แล้ว”“บัดนี้ เวลากระชั้นชิด ด่านเจิ้นกวนจึงสร้างได้เพียงสามศาลเทพเท่านั้น”“หากวันใดสามารถรวมแผ่นดิน
ทหารม้าทั้งห้าหมื่นนายของเซี่ยเวยกินอิ่มดื่มพอแล้ว เลือกสถานที่ตั้งค่ายพักไม่ไกลจากแม่น้ำชลประทานตะกอนในแม่น้ำจมลง น้ำใสสะอาดแล้ว พวกม้าเห็นดังนั้นก็ส่งเสียงร้อง รีบวิ่งลงไปแช่น้ำในแม่น้ำเหล่าทหารเห็นเข้าก็ตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที“แม่น้ำ เป็นแม่น้ำ!”“มีน้ำ เป็นน้ำที่ลึกมาก...”เหล่าทหารไม่อาจอดกลั้นได้อีกต่อไป กระโดดลงไปในแม่น้ำเพื่ออาบน้ำซ่งตั๋วรีบห้ามปราม“เดี๋ยวก่อน น้ำนี่ใช้สำหรับการชลประทาน ต้องต้มให้เดือดก่อนจึงจะใช้อาบน้ำได้”แม่ทัพเซี่ยเวยพอใจกับสถานที่ตั้งค่ายที่ซ่งตั๋วจัดให้มาก ห่างจากแม่น้ำใหญ่ไม่ถึงสามสิบเมตร น้ำในแม่น้ำใสสะอาด น้ำเหล่านี้เพียงพอที่จะรับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่กระหายน้ำตายในอนาคตซ่งตั๋วกลับบอกว่าน้ำในแม่น้ำใช้สำหรับการชลประทาน หากจะใช้อาบน้ำ ทางที่ดีควรต้มให้เดือดก่อนใช้น้ำดีขนาดนี้ทำการชลประทาน ไม่ใช่ว่าเป็นการสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์หรอกหรือ?แม่ทัพเซี่ยเวยยิ้มพลางกล่าวว่า “ปล่อยให้พวกเขาลงไปเถอะ ไม่ได้อาบน้ำมาครึ่งปีแล้ว ถึงเวลาต้องชำระล้างร่างกายให้สะอาดเสียหน่อย!”ซ่งตั๋วไม่ห้ามปรามอีกต่อไป ปล่อยให้พวกเขาทำตามใจเหล่าทหารกระโดดลงน้ำ
พวกเขาไม่สนใจรางวัลอื่น ๆ เลยสิ่งที่เห็นเพียงอย่างเดียวคือรางวัลอันดับหนึ่งก็คือปลายข้าว“เพียงแค่ไถพรวนที่ดินหนึ่งหมู่ ก็จะได้รางวัลเป็นปลายข้าวหนึ่งชั่ง?”“ใช่! รางวัลสามารถสะสมเพิ่มได้ ไถพรวนห้าสิบหมู่ ก็จะได้รับปลายข้าวห้าสิบชั่ง!”ทหารองครักษ์ของซ่งตั๋วนำปลายข้าวออกมาในถุงสีขาวบรรจุปลายข้าวสีขาวสะอาด ไม่มีเศษหินหรือสิ่งเจือปนโจ๊กที่พวกเขากิน ล้วนปรุงจากข้าวสารเหล่านี้“หากพวกเราไถพรวนที่ดินได้มากพอ หลังจากสามเดือนไปแล้ว สามารถนำปลายข้าวทั้งหมดไปด้วยได้หรือไม่?”“ได้สิ หากต้องการนำไปให้ครอบครัวและญาติพี่น้อง ข้าแนะนำให้นำครอบครัวมาอยู่ที่ด่านเจิ้นกวนด้วยกันเลย ที่ด่านเจิ้นกวนมีโจ๊กให้กิน!”เมื่อเหล่าทหารได้ยินเช่นนั้น ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที จ้องมองไปที่ซ่งตั๋วเขม็ง“จริงหรือ ครอบครัวก็สามารถพามาที่ด่านเจิ้นกวนได้ และที่ด่านเจิ้นกวนก็จะให้น้ำให้ข้าวด้วย?”“ใช่แล้ว ที่ด่านเจิ้นกวนมีชาวแคว้นฉู่ห้าหมื่นคน ทหารแคว้นฉู่แปดพัน ครอบครัวอีกสี่หมื่นกว่า พวกเขาตั้งหมู่บ้านอยู่ริมแม่น้ำที่ด่านเจิ้นกวน ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข!”“อ้อ ใช่ ข้าลืมบอกพวกเจ้าไป การเข้าร่วมกองทัพตระกู
เซี่ยเวยเดิมทีคิดว่าจะได้พบกับจ้านเฉิงอิ้น แต่คาดไม่ถึงว่าจะเป็นเพียงรองแม่ทัพซ่งตั๋วใต้บังคับบัญชาของเขาที่มาเจรจาแทนในตอนแรก เขาไม่ยอมรับเรื่องการทำไร่ทำนาแม่ทัพผู้สูงศักดิ์นำทหารมาประจำชายแดนเพื่อทำไร่นาหรือ?นี่ไม่ใช่การดูถูกเขาหรอกหรือ?เขาต้องการเป็นทหารองครักษ์ของจ้านเฉิงอิ้นมีข่าวลือว่าทหารใต้บังคับบัญชาของเขามีเกราะที่ฟันแทงไม่เข้าเครื่องอุปโภคบริโภคดีที่สุดและมีมาตรฐานสูงสุดในบรรดาค่ายทหารของหกแคว้นเขานำทหารมาสวามิภักดิ์ แต่กลับไม่แม้แต่จะได้พบหน้า แถมยังได้รับการปฏิบัติด้อยกว่าทหารชั้นสองเสียอีก!นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการเซี่ยเวยค่อนข้างหยิ่งยโส รู้สึกว่าจ้านเฉิงอิ้นดูถูกเขาหากจ้านเฉิงอิ้นไม่ออกมาพบหน้า เขาคิดจะนำกองทัพกลับไป...ในเวลานั้นเอง เว่ยกวงก็นำกลุ่มคนขับรถสามล้อเข้ามารถแต่ละคันมีถังขนาดใหญ่สามถัง ในถังบรรจุโจ๊กที่ปรุงสุกแล้ว ส่งกลิ่นหอมของเนื้อและไข่บนข้าวต้มโรยหน้าด้วยใบผักสีเขียวไกลออกไป แม้ว่ารถสามล้อยังมาไม่ถึงพวกเขา พวกเขาก็ได้กลิ่นหอมนั้นแล้วเหล่าทหารทุกคนต่างตาเป็นประกาย กลืนน้ำลายอย่างต่อเนื่องเมื่อเว่ยกวงสั่งให้คนยกถังข้าวต้มลง
ชาวบ้านทั้งหลายต่างพากันโกรธเกรี้ยว เรียกร้องให้ทหารประหารพวกเขาเสียทว่าเฉินขุยเห็นว่าความผิดนี้ยังไม่ถึงขั้นต้องโทษตาย จึงสั่งให้ควบคุมตัวพวกเขาเข้าไปในเมือง เพื่อใช้แรงงานสร้างบ้านแทนการสร้างบ้านเหนื่อยยากกว่าการทำไร่มากนักต้องแบกอิฐและวัสดุก่อสร้างท่ามกลางอากาศร้อนระอุในฤดูร้อนการทำไร่ในช่วงกลางวันหรือบ่ายไม่จำเป็นต้องทำงาน จนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน หรือในยามค่ำคืนค่อยแขวนไฟพลังงานแสงอาทิตย์แล้วลงมือทำงานจ้านเฉิงอิ้นดูเสร็จแล้ว จึงส่งแท็บเลตคืนให้ทหารจากนั้นทหารคนที่สองก็ส่งจดหมายลับขึ้นมาให้มันคือจดหมายจากฮ่องเต้แคว้นเยี่ยน“ถึงแม่ทัพใหญ่จ้านเฉิงอิ้นหนิงกวนโหว เมื่อไม่นานมานี้ มีทหารกลุ่มหนึ่งก่อกบฏและมุ่งหน้าไปยังด่านเจิ้นกวน หวังว่าท่านแม่ทัพจะนำกองทัพออกไปช่วยแคว้นเยี่ยนปราบปรามกองกบฏเหล่านี้!”เนื้อความระบุจำนวนอย่างชัดเจน กองกบฏมีกำลังพลถึงห้าหมื่นคนผู้ที่นำการกบฏในครั้งนี้ คือแม่ทัพคนหนึ่งของแคว้นเยี่ยนที่มีชื่อเสียงไม่น้อยเขามีนามว่าเซี่ยเวยเหตุใดจึงก่อกบฏ?ก็เพราะแคว้นเยี่ยนขาดแคลนเสบียง หลายเดือนมาแล้วที่ไม่มีการแจกจ่ายเสบียงให้กับแม่ทัพเซี่ยที่ปกป้อง
เย่มู่มู่ตัดสินใจแล้วว่า ก่อนที่จ้านเฉิงอิ้นจะออกจากด่านเจิ้นกวน เธอจะตรวจสอบและแก้ไขช่องโหว่ พร้อมทั้งเตรียมเสบียงและวัสดุที่จำเป็นสำหรับด่านเจิ้นกวนให้ครบถ้วนส่วนการทำธุรกิจกับพ่อค้าเหล่านั้นแค่ของเล็ก ๆ น้อย ๆ เองไม่ใช่หรือ?จัดการเลย!เธอสั่งสินค้าจากซัพพลายเออร์จำนวนมาก เช่น พัดลมพลังงานแสงอาทิตย์แบบแขวนเล็ก ๆ แผงไฟโซลาร์เซลล์ ชามและกะละมังเคลือบเซรามิก อุปกรณ์สำหรับกินอาหารสเตนเลส ยาสีฟัน สบู่ แปรงสีฟัน ถุงมือกันลื่น ถุงเท้า...ถุงเท้าผ้าฝ้ายที่เย่มู่มู่จัดส่งให้ได้รับความนิยมมากในด่านเจิ้นกวนเย่มู่มู่ซื้อตุนถุงเท้าผ้าฝ้ายจำนวนสองแสนคู่จากตลาดขายส่งในราคาคู่ละหนึ่งเหรียญเท่านั้นไม่เพียงแต่ชาวบ้านจะแย่งกันซื้อจนเกลี้ยง แม้แต่พ่อค้าที่ร่ำรวยยังต้องต่อแถวยาวข้ามคืนเพื่อแย่งชิงเธอยังให้คนขับรถหวงจัดเตรียมน้ำมันดีเซลไว้ถึงยี่สิบถัง แต่หากจ้านเฉิงอิ้นจากไป น้ำมันเหล่านี้ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะเครื่องไถพรวนดิน รถแทรกเตอร์ และรถขุด ยังคงทำงานหนักทั้งกลางวันและกลางคืนเย่มู่มู่จึงสั่งให้คนขับหวงเรียกคนขับรถหลายคนมาช่วยกันขนส่งน้ำมัน โดยให้ค่าจ้างเที่ยวละหนึ่งหมื่นห้าบาทเย่
จนกระทั่งกองสมบัติสูงขึ้นมาถึงครึ่งตัวคน กลืนแจกันจนมิด มันถึงได้หยุดลงเงินพวกนี้!เป็นเงินทั้งนั้นเลย!ช่วงนี้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก!เธอไม่อาจคำนวณได้เลยว่า ทรัพย์สินที่กองเต็มห้องฉายภาพยนตร์นี้มีมูลค่ามากแค่ไหนบริเวณที่เธอยืนอยู่ ขาทั้งสองข้างของเธอถูกกองสมบัติถมจนแทบถึงหัวเข่า!เธอก้มลงคว้าทองคำขึ้นมาสองมือ พลางหัวเราะออกมานี่สินะ วิธีปลอบใจคนของแม่ทัพน้อย?เขาขนคลังสมบัติทั้งโกดังมามอบให้เธอหมดเลยเหรอ?นี่มันจะมีมูลค่ามากมายขนาดไหนกันนะ!ถ้าไม่นับของโบราณ แค่ทองคำแท่งที่หลอมจากก้อนทองคำเหล่านี้ก็ต้องนับเป็นพันล้านเป็นอย่างน้อย!ถึงแม้บ้านเธอจะร่ำรวยอยู่แล้ว พ่อแม่ไม่เคยทำให้เธอขาดแคลนสิ่งใดมาตั้งแต่เด็กแต่พอมาเห็นกองทองคำมหาศาลเช่นนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น หัวใจเต้นแรงไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม หากได้เห็นทองคำกองโตขนาดนี้ ก็คงยากจะสงบนิ่งได้!ฮ่า ฮ่า ฮ่า...เธอรวยอีกแล้ว!รวยจริง ๆ!ทั้งชีวิตนี้เธอคงใช้เงินเหล่านี้ไม่หมดแน่นอน!เธอค่อย ๆ เดินอย่างระมัดระวังไปยังจุดใจกลางของกองสมบัติ กลัวว่าจะเผลอเหยียบปิ่นปักหงส์หรือสร้อยไข่มุกจากนั้นจึงดึงแจกันออกมาจ