จ้านเฉิงอิ้นเรียกให้เขาหยุด “ส่งอากาศยานไร้คนขับ ไปตรวจสอบดูสถานการณ์ที่ประจำการของเซี่ยเวย!”“ขอรับ!”“เปี้ยนจื่อผิง หลี่หยวนจง เฉิงจื่อเซียว พวกเจ้าปกป้องฐานที่มั่นเอาไว้ พื้นที่เหล่านี้เป็นที่ที่พวกชาวบ้านปลูกมาอย่างยากลำบาก อย่ายอมให้รุกล้ำแม้แต่นิ้วเดียว”เหล่านายทหารพยักหน้า “ขอรับ แม่ทัพใหญ่!”“หากครานี้ถอนทัพกลับไป แล้วพวกเขาไม่มีอะไรกิน ก็จะมาปล้นด่านเจิ้นกวน กองทัพตระกูลจ้านต้องคิดหาวิธีรับมือกับพวกเขา บีบคอให้ตายในเปล!”“ล่าถอยเถอะ ติดอุปกรณ์ให้ครบครัน รีบกลับไปป้องกันโดยเร็ว!”“ขอรับ ข้าน้อยรับคำสั่ง!”จ้านเฉิงอิ้นขี่ขึ้นหลังม้า นำเหล่านายทหารมุ่งหน้าไปทางตะวันออกที่แล้วทางทิศตะวันออกขยายไปถึงอาณาเขตแคว้นฉี ยึดพื้นที่เพาะปลูกที่ดีที่สุดในก่อนหน้านี้ของประชาชนแคว้นฉีกระทั่งแม่น้ำที่แห้งขอดมานาน ขุดลอกทรายที่ทับถมออกมากองไว้บนพื้น ปล่อยน้ำไปกักเก็บเอาไว้...ที่ดินทางทิศตะวันออกเป็นที่ดินที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดมันฝรั่ง มันเทศ ฟักทอง ข้าวโพดที่ปลูก แนวโน้มดีขึ้นเป็นพิเศษมันเทศบางส่วนขุดออกมาได้แล้ว แต่ละหัวขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือ กินดิบ ๆ ได้รสชาติหวานหอม อีกหนึ่งเดือ
เมื่อเฉินขุยเห็นภาพนี้ ดวงตาก็เบิกโพลง ก่อนจะดึงตัวซ่งตั๋วมาน้ำเสียงของเขาดังก้องกังวาน ตะคอดจนนายทหารโดยรอบต่างหันมามอง“เจ้าดูเอาเองเถิด ข้าบอกแล้วว่าจะเชื่อใจคนเยี่ยนง่าย ๆ ไม่ได้ ข้ายอมรับชาวบ้านแคว้นฉู่ แต่ไม่มีทางเชื่อว่าทหารชาวเยี่ยนจะมาพึ่งพาพวกเราโดยไร้ซึ่งเหตุผล!”“ดูสิ ทัพใหญ่ของฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนบุกประชิดพรมแดน ทหารชาวเยี่ยนที่อยู่เบื้องหลังสวมใส่เสื้อเกราะ มือถืออาวุธ พวกเขาคิดจะทำอะไร?”“คิดจะลงมือกับชาวบ้านของด่านเจิ้นกวนหรือ?”ซ่งตั๋วเห็นภาพในอากาศยานไร้คนขับ เห็นนายทหารเบื้องล่างเซี่ยเวยกลับสวมชุดเกราะมือถืออาวุธ ออกมาจากฐานที่มั่นอย่างลับ ๆ ล่อ ๆเขาสงบนิ่งเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้วเขาเชื่อใจเซี่ยเวย จัดฐานที่มั่นที่ใกล้กับริมแม่น้ำให้พวกเขา ต้านทานแรงกดดันมีปากเสียงกับเฉินขุยผลสุดท้าย?ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะกล้าลงมือกับชาวบ้านที่มือเปล่า?ซ่งตั๋วพลิกตัวขึ้นหลังม้า แล้วห้อตะบึงไปยังค่ายทหารของเซี่ยเวยอย่างรวดเร็วจ้านเฉิงอิ้นไม่ได้ห้ามเขาหากทหารเบื้องล่างของเซี่ยเวย ใช้แผนด้านนอกด้านในตีขนาบประสานกันกับทหารที่อยู่ด้านนอก เช่นนั้นหาหมื่นคนนี้ก็ควรตายทั้งหมด
รองแม่ทัพที่คุกเข่าเป็นคนแรกชื่อว่าจ้าวเฉียน เสียงเคร้งดังขึ้นเสียงหนึ่ง อาวุธที่อยู่ในมือเขาตกลงบนพื้นเขาเอ่ยกับเซี่ยเวยด้วยความโศกเศร้าว่า “ท่านแม่ทัพ ต่อให้มอบความกล้าให้ข้าน้อยสิบกระบุง ข้าน้อยก็ไม่กล้าแตะต้องชาวบ้านที่เพาะปลูกต่อหน้ากองทัพตระกูลจ้าน?”“ข้าน้อยเพียงแค่คิด พวกเราไม่ควรทำให้แม่ทัพใหญ่ลำบาก เขารับพวกเราเอาไว้ ให้ของกินเครื่องดื่มแก่พวกเรา หากทัพใหญ่แคว้นเยี่ยนบุกประชิดพรมแดน ต้องมีคนไปกดไฟโทสะของฮ่องเต้เอาไว้!”“ข้าน้อยยอมให้ตัวตาย แบกรับเรื่องนี้เอาไว้แทนท่าน ข้าน้อยกลับไปมอบตัว แม่ทัพใหญ่ส่งตัวคนไป ฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนเองก็จับตัวคนได้แล้ว เขาไม่มีเหตุผลให้ต้องล่วงล้ำด่านเจิ้นกวนต่อ!”เซี่ยเวยมองรองแม่ทัพที่ติดตามมาหลายปี เดือดดาลจนตาทั้งสองข้างแดงก่ำเขาเอ่ยตำหนิอย่างเดือดดาลปนเสียงสะอื้น “เลอะเลือน เจ้ามันเลอะเลือน!”“เจ้าคิดว่าตัวเองพาคนไปพบฮ่องเต้แล้วเขาจะช่างมันไปทั้งอย่างนี้หรือ?”“ผิดแล้ว เขานำทัพใหญ่มาด่านเจิ้นกวน ไม่ใช่เพื่อจับตัวพวกเรากลับไป จับตัวคนเป็นแค่ข้ออ้างของเขาเท่านั้น”“เขาไม่จำเป็นต้องเคลื่อนพลมาโจมตีด่านเจิ้นกวน เขาไม่มีความกล้านี้”“แม้
ครั้นซ่งตั๋วฟังถึงตรงนี้ ขอบตาก็แดงก่ำไปหมด“ฮ่องเต้แคว้นเยี่ยน เขาว่าอย่างไร?”“เขาบอกว่าก็แค่กินคนห้าหมื่นคนเองไม่ใช่หรือ? จะร้อนใจอะไร ตอนนี้ท้องพระคลังว่างเปล่า ทั้งแคว้นไม่มีเสบียงอาหาร ต้องเลี้ยงชีวิตกองกำลังของกว่างอิงเซิ่งสองแสนนาย เสียสละนิด ๆ หน่อย ๆ เป็นสิ่งที่ต้องทำ!”“เขายังออกพระราชโองการ ไม่ให้ข้าไปสืบหาความจริง แลพราชสำนักจะไม่ส่งเสบียงอาหารและหญ้าที่ใช้เลี้ยงม้ามาอีก ทหารเบื้องล่างข้ากินชาวบ้านในเมืองประทังหิวได้!”“พอได้รับพระราชโองการ ข้าก็รู้ว่าแคว้นเยี่ยนเน่าเฟะแล้ว เน่าเฟะตั้งแต่เบื้องบนจนถึงเบื้องล่าง!”“มีฮ่องเต้ไร้ซึ่งความดีใด ๆ เช่นนี้ มีแม่ทัพที่กินทหารเบื้องล่าง แคว้นนี้ควรค่าให้เราขายชีวิตปกป้องหรือ?”“ข้าไม่ยอมให้กินชาวบ้านทั้งเมือง พวกเขาคือชาวบ้านที่ใช้ชีวิตปกป้องเมือง จะกินได้อย่างไร?”“ข้าจึงตัดสินใจพาทหารขึ้นเหนือ มาพึ่งพากองทัพตระกูลจ้าน หากแม่ทัพรับพวกเราเอาไว้ ให้พวกเราได้มีชีวิตต่อ ก็จะดีเป็นอย่างยิ่ง”“หากไม่รับ เขาก็ไม่ฆ่าพวกเรา เพราะข้าไม่เคยได้ยินว่ากองทัพตระกูลจ้านกินเนื้อคน!”“พวกชาวบ้านในเมืองแคว้นเยี่ยน ข้าให้พวกเขาออกจากเมืองไปทั
เฉินขุยเกาศีรษะอย่างอิหลักอิเหลื่อ “ก็ตอนนี้ข้าเข้าใจเขาแล้วไม่ใช่หรือ?”“กองทัพตระกูลจ้านเราถูกเผ่าหมานปิดล้อมร่วมหนึ่งปี ทำศึกทหารตายไปมากมาย ข้าคิดว่าพวกเราก็น่าเวทนาพอแล้ว”“เมื่อเทียบจุดนี้กับเซี่ยเวย เขาถูกคนของตัวเองกินทหารไปครึ่งหนึ่ง ทว่าจนปัญญา ภายในใจยิ่งรู้สึกหดหู่ใจ”“คิด ๆ ดูแล้วเขายากลำบากยิ่งนัก ต่อไปดึงเข้ามาเป็นพวกแล้ว ก็ทำดีกับเขาหน่อยแล้วกัน!”มั่วฝานชำเลืองมองเฉินขุยทีหนึ่ง ทว่าไม่ได้พูดอะไรอีกทัพใหญ่หนึ่งแสนกว่าคนของจ้านเฉิงอิ้น รวมตัวกันอยู่เบื้องหลังเครื่องหมายเขตแดนเขาตะโกนเสียงดัง “ทหาร เปิดไฟดวงใหญ่!”รถออฟโรดสิบคันเปิดไฟดวงใหญ่ ส่องจนคนตรงหน้าลืมตาไม่ขึ้นจ้านเฉิงอิ้นยกมือขึ้น พร้อมเอ่ยกับหน่วยหน้าไม้ที่อยู่เบื้องหลังว่า “ง้างธนู เตรียมตัวยิง!”หน้าไม้ราชวงศ์ฉินนับไม่ถ้วนถูกง้างขึ้นมาทั้งหมดเยี่ยนซวี่ฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนได้ยินพลังของหน้าไม้มานานแล้ว ระยะยิงของหน้าไม้ราชวงศ์ฉินไกลเป็นอย่างมาก มากกว่าหกร้อยหมี่!หากทัพใหญ่หนึ่งแสนกว่านายเข้ามาในเขตระยะยิงของหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ไม่มีใครหนีรอดไปได้แน่!ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้พวกเขาไม่ขาดหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน
กว่างอิงเซิ่งเชื่อว่า เงินทองอยู่ตรงหน้า จ้านเฉิงอิ้นไม่คุ้มที่จะเป็นปฏิปักษ์ต่อแคว้นเยี่ยนเพื่อเซี่ยเวยไม่คาดคิดเลยว่า จ้านเฉิงอิ้นจะประกาศคำสั่ง “ยิงธนู!”สวบ…เสียงลูกธนูทะลุกลางอากาศดังขึ้นในค่ำคืนอันมืดมิดทหารแคว้นเยี่ยนที่ยกกล่องข้ามสัญลักษณ์เขตแดนมีสามสิบคน ล้วนถูกหน้าไม้ราชวงศ์ฉินยิงและล้มตรงหน้ากองทัพหลายแสนคนของแคว้นเยี่ยน!การเสียชีวิตของพวกเขาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกือบจะเพียงเอื้อมมือเยี่ยนซวี่คิดไม่ถึง จ้านเฉิงอิ้นจะกล้ายิงสังหารทหารแคว้นเยี่ยนต่อหน้าเขา!เขาพลันยืนขึ้นบนเกี้ยว ความโกรธโหมทะลักจ้านเฉิงอิ้นไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ เป็นแค่นายทหารพิทักษ์เมืองคนหนึ่ง กลับกล้ามองข้ามเขาถึงเพียงนี้เขาประกาศคำสั่งใต้ความโกรธ “มีใครอยู่ตรงนั้น บุกทะลวงเมืองให้ข้าซะ…”กว่างอิงเซิ่งรีบเร่งกล่าวห้าม “ฝ่าบาท ไม่ควรบุกเมืองบุ่มบ่ามนะพ่ะย่ะค่ะ พระองค์ลืมจุดประสงค์ของการมาด่านเจิ้นกวนแล้วหรือ?”ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น สามพันธมิตรพร้อมกองกำลังห้าแสนห้าหมื่นคนในตอนนั้น ยังไม่สามารถเอาชนะด่านเจิ้นกวนได้ พวกเขามีเพียงหนึ่งแสนกว่าคนจะเอาชนะได้อย่างไร?เยี่ยนซวี่สีหน้ามืดหม่
กว่างอิงเซิ่งชะงักอึ้งกับคำพูดเฉินขุยและไม่รู้จะตอบโต้อย่างไรพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกองทัพตระกูลจ้านจริง ๆแต่กวนโทสะพวกเขา พวกเขาจะล้อมเมืองอย่างบ้าระห่ำ ไม่มีทางยอมปล่อยไปง่าย ๆ แน่ไม่ใช่แค่ให้พวกเขามอบตัวเซี่ยเวย เพื่อแลกเสบียงอาหารกับน้ำจำนวนหนึ่งหรอกหรือ?ทำไมถึงไม่ให้ความร่วมมือ?ในเวลาเดียวกันนี้ เซี่ยเวย จ้าวเฉียน ซ่งตั๋วทั้งสามคนควบม้าวิ่งมาอย่างเอิกเกริกเหล่าทหารเห็นเซี่ยเวยครั้งแรกและมองเขาหัวจรดเท้าพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายแม่ทัพผู้ถูกกดดันจนหนีมาด่านเจิ้นกวนผู้นี้ อายุราวยี่สิบห้าปี ผิวพรรณสีเข้ม รูปร่างค่อนผอม ดวงตาสองข้างแวววาวแหลมคม!เขาสวมชุดเกราะสีดำของแคว้นเยี่ยน หากมองใกล้ ๆ ชุดเกราะเป็นสนิมอย่างหนักเสื้อผ้าใต้ชุดเกราะขาดหลุดลุ่ยเหลือทนด้านหลังรองเท้าคู่นั้นสึกหรอจนแบนราบและฝ่าเท้าก็เผยออกมาเช่นนั้นนี่คือเสื้อผ้าของผู้นำทัพแคว้นหนึ่งไม่แปลกใจเลยที่ซ่งตั๋วจะเห็นอกเห็นใจเขา สภาพเช่นนี้ คล้ายกับกองทัพตระกูลจ้านเมื่อหลายเดือนก่อนมากในตอนนั้น พวกเขาสวมเสื้อผ้าขาดหลุดลุ่ยเช่นเดียวกัน รองเท้าของแม่ทัพหลายคนก็ผุพังเหลือทนเช่นกันเซี่ยเวยลงจากหลังม้า เด
ขณะที่เฉินขุยใช้ลำโพงประกาศเสียงกล่าว เฉินอู่กับจวงเหลียงรีบดึงเซี่ยเวยมาตรงมุม ทำการถอดชุดเกราะซอมซ่อและกระชากเสื้อที่ขาดหลุดลุ่ยของเขาออกจากนั้นใส่เครื่องแบบทหารตัวใหม่ให้เขา ทับด้วยเสื้อเกราะกันกระสุนแบบเต็มตัวและสวมชุดเกราะเป็นชั้นชุดท้ายหลังจากช่วยเขาสวมเครื่องแบบทหารเสร็จ เซี่ยเวยรู้สึกถึงน้ำหนักหลายกิโลกรัมที่มาจากร่างกายเขาน้ำหนักมากถึงเพียงนี้ จะเอาชนะกว่างอิงเซิ่งอย่างไร?โดยเฉพาะหมวกกันน็อกบนศีรษะ เฉินขุยสาธิตให้เขาหลายครั้งว่าวางหน้ากากอย่างไรหน้ากากประหลาดอย่างยิ่ง เป็นสีดำ หลังจากวางลงกลับเห็นทุกอย่างรอบ ๆ อย่างชัดเจน!ในมือเขายังถูกยัดดาบม่อเตาราชวงศ์ถังหนักสิบห้ากิโลกรัมไว้อีกเล่มดาบม่อเตายาวสองเมตรกว่า ด้ามจับกับใบมีดแบ่งเป็นครึ่งเท่ากัน ทำจากเหล็กชั้นดี ใบมีดแหลมคมเปล่งแสงเย็นเยือกในยามมืดมิดเฉินขุยกล่าวกับเขา “เจ้าลองอาวุธดูก่อน…”เห็นเขาจับอาวุธและแสดงอาการลังเลอยู่บ้างเฉินขุยจึงกล่าวปลอบใจ “วางใจเถอะ เอาชนะแน่นอน!”เซี่ยเวยรู้สึกหนักไปทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ยังอยู่ในช่วงทำความคุ้นเคย!เขาตวัดดาบตามความสะดวกมือ ดาบม่อเตาพลางส่งเสียงชิ้งกลางอากาศ แต
หากว่าถูกเผ่าหมานเผาจนตาย หรือแม้กระทั่งโดนกิน มั่วฝานคงจะรับไม่ได้!นี่ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นบุตรของแม่ทัพลู่หรือไม่ แต่ว่าทุกการกระทำของเผ่าหมาน ล้วนมาถึงจุดที่แม้แต่สวรรค์หรือมนุษย์ต่างก็พากันแค้นคืองแล้วเขาทำได้เพียงจงเกลียดจงชังตัวเองที่ไม่สามารถช่วยเด็กได้เท่านั้นจ้านเฉิงอิ้นให้จวงเหลียงหยุดรถจวงเหลียงหยุดรถ พลางหันไปมองจ้านเฉิงอิ้น“เกิดอันใดขึ้นขอรับ? ท่านแม่ทัพ!”หากขับรถไล่ตามให้เร็วขึ้น อาจจะยังทันแต่ถ้าหยุดอยู่กลางทาง จะต้องไม่ทันกาลเป็นแน่!จ้านเฉิงอิ้นเปิดวิทยุสื่อสาร กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เฉินขุย เฉินอู่ ประเดี๋ยวไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น ให้เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง!”ในวิทยุสื่อสาร มีเสียงของทั้งสองคนดังออกมา “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”“ซ่งตั๋ว ต้องสอดประสานกับเฉินขุยให้ดี!”“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นลงจากรถมั่วฝานได้ตามลงมาจากรถด้วยหน้าจอของอากาศยานไร้คนขับที่อยู่ในมือของเขา กำลังแสดงภาพของแม่ทัพภายใต้การบัญชาการของหลัวซู่กำลังถือคบเพลิง และจุดกองฟืน... ฝืนนั้นแห้งเกินไป ไฟจึงลุกไหม้ในทันทีเด็กทั้งสองร้องไห้อย่างน่าเวทนามากยิ่งขึ้น!จ้านเฉิงอิ้นวาง
แม้แต่กองกำลังรักษาพระองค์ภายใต้การนำของผู้บัญชาการลั่ว ก็ล้วนถูกบรรยากาศ ณ ตรงนั้นดูดกลืนไปด้วยกองกำลังรักษาพระองค์จำนวนสองร้ายนายติดอาวุธครบมือ อยากที่จะเข้าสู่สนามรบเพื่อสังหารศัตรูแน่นอนว่า สิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุดก็คือศีรษะมนุษย์ ถึงอย่างไรศีรษะมนุษย์หนึ่งหัว ก็มีค่าเท่ากับข้าวสารสิบชั่ง แป้งสาลีห้าชั่ง ขอเพียงสังหารเผ่าหมานได้สามคน ก็จะสามารถนำธัญพืชกลับมาได้สี่สิบห้าชั่งแล้ว!ภายในสองเดือนนี้ครอบครัวก็จะไม่อดตาย เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว“ผู้บัญชาการ พวกเราก็ออกรบด้วยเถิดขอรับ! เผ่าหมานบุกรุกดินแดนต้าฉี่ สังหารราษฎรแคว้นต้าฉี่ของพวกเรา ถึงแม้พวกเราจะเป็นกองกำลังรักษาพระองค์ แต่ก็ต้องคิดเพื่อแคว้นต้าฉี่อย่างเต็มกำลัง!”“ใช่แล้วขอรับ ในครอบครัวของเหล่าสหายต่างก็ขาดแคลนเสบียงอาหาร ตอนนี้มีโอกาสรับรางวัลเป็นเสบียงอาหารแล้ว ผู้บัญชาการ ให้ทุกคนเข้าสู่สนามรบเถิดขอรับ!”“ผู้บัญชาการ ตอนนี้มีโอกาสได้รับเสบียงอาหารแล้ว พวกเราก็อยากไปลองดูเช่นกันขอรับ!"ลั่วปินรู้จักฐานะทางบ้านของเหล่าสหายทุกคนดี มีคนที่ต้องอดตายแทบจะทุกครอบครัวตอนนี้เมื่อมีโอกาสได้รับรางวัลเป็นเสบียงอาหารแล้ว จ
นายทหารทุกนายกึ่งคุกเข่าลง “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”มั่วฝานชี้ตัวเอง แล้วสลับไปชี้จ้านเฉิงอิ้น“แล้วพวกเราล่ะ?”“ช่วยเด็ก!”“จะช่วยอย่างไร?”“ให้หน่วยกล้าตายของเจ้าขับรถ ภายใต้การคุ้มกันของเฉินขุยและซ่งตั๋ว บุกโจมตีเข้าไปโดยตรงแล้วชิงตัวเด็กขึ้นรถ จากนั้นก็ขับรถออกมา...”“ขับรถบรรทุกสองสามคันไปรั้งท้ายขบวนคอยคุ้มกันด้านหลัง!”“แบบนี้จะได้ผลจริง ๆ หรือ?”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “ได้ผล เจ้าไปเลือกหน่วยกล้าตายมา เอาคนที่ขับรถเก่ง ฝีมือคล่องแคล่วปราดเปรียว”“จัดแจงคนโยนระเบิดไปในรถบรรทุกด้วย หากเผ่าหมานกล้าตาม ก็ระเบิดเลย!!”มั่วฝานพยักหน้า “ขอรับ ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”“เดี๋ยวก่อน เอาอากาศยานไร้คนขับ วิทยุสื่อสารให้พวกเขาไปด้วย หากช่วยคนออกมาได้ หน่วยกล้าตายทั้งหมดจะเป็นอิสระจากบัญชีทาส และให้ตำแหน่งยศนายกองขึ้นไป!”“ทุกคนจะได้รถบ้านเป็นรางวัลคนละหนึ่งคัน!”หน่วยกล้าตายที่อยู่เบื้องหลังมั่วฝาน ต่างดีใจกับสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายแม้ช่วยเด็กจะอันตราย ทว่าแม่ทัพเฉินและแม่ทัพซ่งตั๋วจะเป็นผู้คุ้มกันให้พวกเขาพวกเขายังจะได้รถบ้านเป็นรางวัลอีกนี่เป็นรถบ้านเชียวนะ ต่อไปไม่ได้เป็นหน
จ้านเฉิงอิ้นอ่านสารลับจบ ก็ส่งให้เฉินขุยเฉินอู่เวียนกันอ่านหลังพวกเขาอ่านจบ ก็ส่งให้มั่วฝาน จวงเหลียงและซ่งตั๋วหยางชิงเหอเองก็ได้อ่านเช่นกันหยางชิงเหอเอ่ย “ช่วย!”“แม้จะช่วยออกมาไม่ได้ ก็ได้พยายามแล้ว เมื่อแม่ทัพลู่เห็นความจริงใจของเรา เขาไม่มีทางร่วมหัวจมท้ายกับเผ่าหมานแน่นอน”เฉินอู่กล่าว “แม่ทัพลู่เกลียดเผ่าหมาน!”“ใช่แล้ว ฮ่องเต้น้อยอยากขอให้เขาไปภูเขาเหมือง ล้อมปราบกองทัพตระกูลจ้านร่วมกับกองทัพธงเหลือง แคว้นเยี่ยนและเผ่าหมาน เขาคือผู้ที่ไม่กระตือรือร้นที่สุด เพียงแค่ไปตามน้ำเท่านั้น”“ตอนที่มู่ฉีซิวถอยทัพ เขาวิ่งเร็วที่สุด ท่านแม่ทัพใหญ่เองก็ไม่อยากทำให้เขาลำบาก!”“เช่นนั้นตอนนี้จะทำเช่นไรดี? หากสู้รบกันขึ้นมา เผ่าหมานเอาตัวเองยังไม่รอด เด็กสองคนนั้นอาจถูกพวกเขาพลอยฆ่าไปด้วย!”ทันใดนั้น หน่วยกล้าตายของมั่วฝานก็หยิบโทรศัพท์สังเกตการณ์มาข้างกายเขาครั้นมั่วฝานเห็นภาพบนหน้าจอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเขาส่งหน้าจอให้จ้านเฉิงอิ้นดูจ้านเฉิงอิ้นเห็นว่าตรงหน้าหลัวซู่แห่งเผ่าหมาน มีกองฟืนกองใหญ่กองอยู่และข้าง ๆ กองฟืนเป็นเด็กที่อยู่ในชุดผ้าฝ้าย เด็กสองคนนั้น อายุแปดขวบคนหนึ่ง สิ
อีกฝั่งหนึ่ง ขณะเป็นทหารใต้บังคับบัญชาของมู่ฉีซิว พวกเขาเคยเห็นมาก่อนว่าเผ่าหมานโหดเหี้ยมอำมหิตแค่ไหนพวกเขาไม่มีผู้ใดทนดูได้เลยแม้แต่คนเดียว ต่างคิดว่าที่เผ่าหมานเผาฆ่าปล้นจี้ในดินแดนต้าฉี่ ช่างชั่วช้าต่ำตมยิ่งนัก!ในใจของทุกคนอดกลั้นความเดือดดาลเอาไว้สายหนึ่ง!ตอนนี้ ในที่สุดก็สามารถฆ่าเผ่าหมานอย่างเปิดเผยได้แล้วทุกคนมีขวัญกำลังใจล้นเปี่ยม คันไม้คันมืออยากต่อสู้ กำลังเตรียมพร้อมจะรบ หลังทุกคนมารวมตัวกันเสร็จ...รอเพียงท่านแม่ทัพใหญ่สั่งลงมาคำเดียวเท่านั้น พวกเขาก็จะพุ่งไปฆ่าเผ่าหมานทันทีแย่งศีรษะคนกันอย่างบ้าคลั่ง!ในวินาทีนี้ จู่ ๆ ก็มีคนมารายงานว่า “ท่านแม่ทัพ จดหมายด่วนของท่านแม่ทัพขอรับ!”มีทหารชั้นผู้น้อยจากศาลาพักม้าขี่ม้าเร็ว บุกเข้ามาในค่ายพักของกองทัพตระกูลจ้านทหารชั้นผู้น้อยคนนี้ไม่ใช่คนของกองทัพตระกูลจ้าน เขาสวมเสื้อเกราะ แบกอาวุธไว้บนหลัง แค่มองก็รู้ว่าเป็นทหารของต้าฉี่จ้านเฉิงอิ้นโบกมือให้ทุกคนเปิดทางทหารชั้นผู้น้อยขี่มาเร็วมาตรงหน้าจ้านเฉิงอิ้น เนื่องจากเหน็ดเหนื่อย จึงพลัดตกลงมาจากหลังม้าเถียรฉินและสวี่หมิงรีบประคองเขาขึ้นมาหวังเซิ่งตักน้ำให้ทหารช
“รายงาน...”มีม้าเร็วห้อตะบึงมา เหล่าทหารของเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยรีบเปิดทางให้ทันทีทหารเผ่าหมานลงจากม้า คุกเข่าลงตรงหน้าหลัวซู่ และล้วงจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากอก“ท่านอ๋อง ลู่หลางส่งจดหมายมาขอรับ!”“เอามา!”นายทหารส่งจดหมายให้หลัวซู่ เขาคลี่จดหมายออกเห็นเพียงด้านในเขียนว่า “จะฆ่าจะห้ำหั่น ก็แล้วแต่เจ้า แต่จะให้ข้าผู้แซ่ลู่ร่วมหัวจมท้ายกับเผ่าหมาย ไม่มีทางเป็นอันขาด!”หลัวซู่ยกจดหมายขึ้นอย่างเดือดดาล ก่อนจะฟันขาดออกจากกัน เศษกระดาษกระจัดกระจายร่วงหล่นลงไปเขาก่นด่าอย่างเดือดดาล“ลู่หลางดื้อด้าน เขาไม่สนลูกทั้งสองแล้วหรือ?”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทหาร เผาเด็กสองคนนี้เสีย!”แม่ทัพคนอื่นต่างพากันคล้อยตามศึกที่ภูเขาเหมืองจ้านเฉิงอิ้นปล่อยลู่หลางไป ไม่ได้ตามฆ่าเขาทว่าลู่หลางกลับลอบติดตามเผ่าหมานกับกองทัพธงเหลืองมาตลอดทาง ประมาณหนึ่งถึงสองร้อยลี้ คอยตามอยู่ไม่ใกล้และไม่ไกล!เขารู้ว่าคนของแม่ทัพลู่อยู่ใกล้ ๆบอกว่าเขาขี้ขลาดก็ได้!ตอนแรกฮ่องเต้ต้าฉี่เชิญเขากับฮ่องเต้แคว้นเยี่ยน ไปล้อมปราบกองทัพตระกูลจ้านที่ภูเขาเหมืองด้วยกันเขานำทหารไปถึงตามที่คาดเอาไว้!บอกว่าเขาขี้ขลาดก็ได้~
พวกเขาจับชาวบ้านหลานหมื่นคนมาทำเป็นอาหาร ยังกินได้อีกระยะหนึ่งทว่า~พวกเขาไม่มีแหล่งน้ำ ทำสงครามยืดเยื้อกับกองทัพตระกูลจ้านมาเป็นเวลานาน และไม่ได้เป็นฝ่ายได้เปรียบการโต้กลับของพวกเขาในครั้งนี้ เป็นเพราะจวนตัวและกำลังจะหาทางรอดให้ได้หากไม่ตายในสนามรบ!ก็ต้องแย่งแผ่นดินต้าฉี่มาให้ได้!จ้านเฉิงอิ้นเปิดแผนที่ที่จวงเหลียงใช้อากาศยานไร้คนขับสร้างขึ้นเขากล่าวว่า “เฉินอู่ เจ้าพาคนขับรถบรรทุกไปหนึ่งร้อยคัน อ้อมด้านหลังแล้วตัดเข้าด้านข้าง บดขยี้ตายได้เท่าไรก็เท่านั้น!”“ทำให้พวกเขาหวาดกลัวและแตกตื่นก็ใช้ได้แล้ว!”“รถทุกคันเว้นระยะห่างกันหน่อย บนรถจัดแจงทหารผ่านศึกไปสามสิบ เอาหน้าไม้ราชวงศ์ฉินและธนูทดกำลังไปด้วย!”“แล้วก็ จำเอาไว้ว่าต้องระวังวัตถุระเบิดด้วย!”เผ่าหมานเองก็ฝังวัตถุระเบิดเช่นกัน เพียงแต่ที่ฝังลึกลับเป็นอย่างมากเฉินอู่กึ่งคุกเข่าคารวะ “ข้าจะสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาเอง ท่านแม่ทัพโปรดวางใจ วันนี้ข้าพาทหารผ่านศึกออกไปเท่าไร ก็จะพากลับมาเท่านั้น!”“ดี ไปเถอะ!”เฉินอู่ไปเตรียมตัวก่อนแล้ว“มั่วฝาน เตรียมอากาศยานไร้คนขับและวัตถุระเบิด...”มั่วฝานลุกขึ้นยืน สายตาของเขาเป็น
ฮ่าวอี้ขู่เขาแรง ๆ “แล้วก็ เรื่องในวันนี้มีคนรู้แค่ห้าคนเท่านั้น!”เขาทำท่าปาดคอ“หลูหมิงจะปิดปากเอาได้!”หวังเสี่ยวเฉิงรีบพยักหน้า “ผมรู้แล้วครับพี่ พวกเขาไม่ใช่แค่ปิดปากเท่านั้น ยังจะกำจัดเราทิ้งไม่เหลือซากด้วยดอกบัวเพลิงขนาดใหญ่ด้วย!”ฮ่าวอี้จ้องเขาเขม็งทีหนึ่ง “ดอกบัวเพลิงขนาดใหญ่อะไร นั่นมีแต่ในนิยายแฟนตาซีเท่านั้นแหละ”หวังเสี่ยวเฉิงเกาท้ายทอยอย่างอิหลักอิเหลื่อ “พี่ ผมจำผิดแล้ว! ที่ผู้บำเพ็ญเซียนใช้กันคือแหล่งกำเนิดเพลิงหนึ่งรอบนักษัตร แต่ก็แผดเผาจนเราไม่เหลือแม้แต่ขนเส้นเดียวได้เหมือนกัน!”“เมฆฝนสลายไปหมดแล้ว ไม่มีเสียงลมฝน หลูหมิงจะเห็นพวกเราได้ รีบลงเขาเร็วเข้า!”“ครับ!”ทั้งสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าลงจากเขาไปหลูหมิงมองไปยังทิศทางที่พวกเขาจากไปอย่างสงบทีหนึ่ง*ตงโจวหลังพูดคุยกันยาว ๆ มาทั้งคืน ทีแรกกองกำลังรักษาพระองค์และขันทีจะออกไปแล้วในจังหวะนี้เอง จู่ ๆ เผ่าหมานก็แสดงศักยภาพด้วยการบุกเข้ามา นอกรัศมีห้าสิบลี้ ค่อย ๆ เข้ามาใกล้ ๆผู้บัญชาการลั่วและหวงกงกงไม่สามารถออกไปได้เพื่อให้กองทัพตระกูลจ้านแทรกซึมเข้าไปในวัง แล้วช่วยบิดามารดา พี่ใหญ่ ครอบครัวพี่รอง แ
พวกเขาหาเจอแค่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสองคัน รีบฝ่าลมแรงมายังข้างเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดที่คนในพื้นที่กักเก็บน้ำและผลิตกระแสไฟฟ้าตามการนำทางของแผนที่ ก่อนที่ฝนห่าใหญ่จะมาถึงฮ่าวอี้กับหวังเสี่ยวเฉิงตามพวกเขาไปเริ่มมีเม็ดฝนขนาดเล็กตกลงมาจากท้องฟ้า ลมค่อนข้างแรง คนแทบจะยืนไม่อยู่หวังเสี่ยวเฉิงเห็นทั้งสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไปยังเขื่อนด้วยความรวดเร็วเขารีบเอ่ยขึ้นว่า “พี่อี้ พวกเขาสองคนบ้าไปแล้วเหรอ? อากาศย่ำแย่ขนาดนี้ ไม่คิดเลยว่ายังจะไปเขื่อนอีก!”“เดี๋ยวฝนก็จะตกหนักแล้ว สิ่งที่จะถูกทำลายเป็นอันดับแรกก็คือเขื่อน!”“ขวางพวกเขาเอาไว้ เร็วเข้า!”“ไปหารถมาเดี๋ยวนี้!”พวกเขาลุกลี้ลุกลนจนหามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเจอ ฝ่าลมและฝน ขี่ขึ้นไปบนเนินเขาอย่างยากลำบาก จนมาถึงบริเวณใกล้กับเขื่อนจากนั้นก็เห็นภาพที่น่าตกตะลึงที่สุดในชีวิตในจุดที่สูงที่สุดของเขื่อน ในตำแหน่งที่สะดุดตาที่สุด มีแจกันใบหนึ่งวางอยู่ท้องฟ้าบนแจกันมีทั้งฟ้าร้องฟ้าฝ่า ฝนห่าใหญ่เทลงมาทว่าเม็ดฝนนับไม่ถ้วนถูกดูดเข้าไปในแจกันทั้งหมดไม่ใช่เพียงฝนที่ถูกดูดเข้าไปในแจกัน กระทั่งน้ำในเขื่อน มวลคลื่นขนาดมหึมา ถูกม้วนเข้าไปในแจกันทั้งหมด