ขณะที่เฉินขุยใช้ลำโพงประกาศเสียงกล่าว เฉินอู่กับจวงเหลียงรีบดึงเซี่ยเวยมาตรงมุม ทำการถอดชุดเกราะซอมซ่อและกระชากเสื้อที่ขาดหลุดลุ่ยของเขาออกจากนั้นใส่เครื่องแบบทหารตัวใหม่ให้เขา ทับด้วยเสื้อเกราะกันกระสุนแบบเต็มตัวและสวมชุดเกราะเป็นชั้นชุดท้ายหลังจากช่วยเขาสวมเครื่องแบบทหารเสร็จ เซี่ยเวยรู้สึกถึงน้ำหนักหลายกิโลกรัมที่มาจากร่างกายเขาน้ำหนักมากถึงเพียงนี้ จะเอาชนะกว่างอิงเซิ่งอย่างไร?โดยเฉพาะหมวกกันน็อกบนศีรษะ เฉินขุยสาธิตให้เขาหลายครั้งว่าวางหน้ากากอย่างไรหน้ากากประหลาดอย่างยิ่ง เป็นสีดำ หลังจากวางลงกลับเห็นทุกอย่างรอบ ๆ อย่างชัดเจน!ในมือเขายังถูกยัดดาบม่อเตาราชวงศ์ถังหนักสิบห้ากิโลกรัมไว้อีกเล่มดาบม่อเตายาวสองเมตรกว่า ด้ามจับกับใบมีดแบ่งเป็นครึ่งเท่ากัน ทำจากเหล็กชั้นดี ใบมีดแหลมคมเปล่งแสงเย็นเยือกในยามมืดมิดเฉินขุยกล่าวกับเขา “เจ้าลองอาวุธดูก่อน…”เห็นเขาจับอาวุธและแสดงอาการลังเลอยู่บ้างเฉินขุยจึงกล่าวปลอบใจ “วางใจเถอะ เอาชนะแน่นอน!”เซี่ยเวยรู้สึกหนักไปทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ยังอยู่ในช่วงทำความคุ้นเคย!เขาตวัดดาบตามความสะดวกมือ ดาบม่อเตาพลางส่งเสียงชิ้งกลางอากาศ แต
“มารับความตายเถอะ! คนทรยศ…”กว่างอิงเซิ่งชักดาบใหญ่ออกมาฟันลงทิศทางเซี่ยเวย!แกร๊ง~อาวุธสองเล่มปะทะกลางอากาศ แตกระเบิดเป็นประกายไฟกว่างอิงเซิ่งได้รับแรงกดดันมหาศาล เขาควบม้าถอยหลังไปหลายก้าว ดาบใหญ่ของเขามีรอยแหว่งเขามองอาวุธในมือที่แตกเป็นร่องขนาดใหญ่อันหนึ่ง สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง!“นี่เป็นไปได้อย่างไร!”“ทำไมเจ้าถึงแข็งแกร่งเช่นนี้!”หลังจากเขาชะงักไม่กี่วินาที จากนั้นเขาหัวเราะลั่นโดยไม่มองเซี่ยเวยอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย!“เจ้านึกว่าชนะแล้ว สามารถกลับไปอย่างปลอดภัยและสงบสุข? ข้าจะบอกให้ ไม่มีทาง!”“เมื่อเจ้าลงจากหอประตูเมือง อยู่ห่างจากจ้านเฉิงอิ้น ตอนจบของเจ้า…มีเพียงความตาย!”“ฮ่องเต้ ข้าและขุนนางแคว้นเยี่ยนล้วนคาดหวังให้เจ้าตาย! มีแต่ปากคนตายเท่านั้นที่ปิดสนิทและความลับบางอย่าง ดีที่สุดก็ควรฝังในใต้ดินตลอดกาล!”เหตุผลที่เซี่ยเวยต้องหนีออกจากแคว้นเยี่ยน เขาจะไม่ให้โลกภายนอกรู้เป็นอันขาดไม่เช่นนั้นไม่เพียงแค่เขา แต่ทั้งแคว้นต้าเยี่ยน จะเสียชื่อ เกียรติภูมิและฉาวโฉ่ไปทั่วทุกสารทิศ!กว่างอิงเซิ่งยกมือขึ้นขณะที่หัวเราะอย่างจองหอง พร้อมกล่าวเสียงดัง“ยิงธนู!”
หลังจากพ่อแม่ตายไป เย่มู่มู่ก็ใช้ชีวิตอย่างเลอะ ๆ เลือน ๆ มาตลอดจึงไม่ได้สังเกตเห็นแต่แรกว่าในบ้านมีสิ่งของเพิ่มขึ้นมาโดยไร้สาเหตุยกตัวอย่างเช่นบางครั้งก็เป็นกระดาษเหลืองโบราณที่เขียนรายงานเกี่ยวกับการรบ ภัยแล้งและทุพภิกขภัยด้วยอักษรตัวเต็มบางคราก็เป็นเศษชามกระเบื้องเก่า ๆ ที่แตกไปครึ่งหนึ่งมีหนหนึ่งที่จู่ ๆ ในบ้านก็มีเศษดาบเปื้อนเลือดปรากฏขึ้นมาเธอถึงได้ค้นพบด้วยความตกอกตกใจ นึกว่าในบ้านมีผีแล้วเสียอีก!วันนี้ตอนกลางวันแสก ๆ ในบ้านอยู่ดี ๆ ก็มีเสื้อชั้นในยุคโบราณเปื้อนเลือดโผล่มา เสื้อชั้นในตัวนั้นมีสีออกเหลืองเปื้อนคราบเหงื่อไคลมือเธอไปสัมผัสโดนเข้าพอดี~อ้าก~เสื้อยังอุ่นอยู่เลย!เลือดก็อุ่นเหมือนกัน!เย่มู่มู่กรีดร้องเสียงหลงด้วยความตกใจนานทีเดียว จนกระทั่งในบ้านไม่มีสิ่งของโผล่มาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยอีก เธอถึงสงบสติเย็นลงได้เย่มู่มู่หยิบเสื้อชั้นในขึ้นมาอย่างระมัดระวัง แน่ใจว่าเป็นเสื้อชั้นในแบบโบราณ เป็นของผู้ชาย เจ้าของเสื้อชั้นในตัวนี้สูงเกินหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร ช่วงไหล่กว้างจุดที่เสื้อชั้นในปรากฏขึ้นคือ พาดอยู่บนปากแจกันดอกไม้ใบเขื่องตรงมุมห้องรับแขก
จ้านเฉิงอิ้นหันขวับไปทางนั้น แจกันเขรอะฝุ่นตรงมุมผนังมีน้ำพุ่งออกมาไม่หยุดน้ำพุ่งรุนแรงมาก สาดถูกอาภรณ์ของเขากับหมอซ่งจนเปียกชุ่มเขาผุดลุกขึ้นยืน มือสองข้างกำแน่นจนสั่นน้อย ๆ“นี่ คือน้ำงั้นรึ?”ทุกคนไม่ได้เห็นน้ำมาครึ่งค่อนปีแล้ว หมอซ่งใช้สองมือกอบน้ำมาดื่มหวานเย็นชุ่มชื้น เป็นน้ำจริง ๆ ด้วย!เขาร้องเสียงดังด้วยความพลุ่งพล่านใจ “ท่านแม่ทัพ เป็นน้ำจริง ๆ ด้วย!”เหล่าทหารในด่านเจิ้นกวนเฝ้ารอน้ำทุกวัน รอมาครึ่งค่อนปีแล้วขุดหาแหล่งน้ำใต้ดิน ขุดไปสิบกว่าบ่อ ขุดลงไปลึกเกินสามสิบจั้ง[1]แล้วก็เจอแต่ทรายเหลืองแห้ง ๆ ไม่เจอน้ำแต่อย่างใดหมอซ่งนำชามแตกเป็นรูมารองน้ำให้แม่ทัพ ประคองด้วยสองมือที่สั่นระริก“ท่านแม่ทัพ ท่านลองชิมดูสิ”จ้านเฉิงอิ้นใช้มือข้างเดียวรับมาจิบคำหนึ่ง หวานเย็นชื่นใจ เป็นน้ำสะอาดเขาดื่มรวดเดียวจนหมด!“สวรรค์ประทานน้ำอมฤต สวรรค์ไม่ได้ต้องการให้กองทัพตระกูลจ้านของข้าพินาศ!”สิ้นคำ นายทหารหลายนายก็ถลาเข้ามาด้วยความยินดี ใช้สองมือรองน้ำดื่มอึก ๆ ๆหมอซ่งรองน้ำให้แม่ทัพอีกชาม ส่งมาให้เขาดื่มนายทหารหลายนายนั้นดื่มน้ำไปพลางเอ่ยด้วยความยินดี “ท่านแม่ทัพ เทพยดาบ
จ้านเฉิงอิ้นยัดกล่องข้าวใส่อกพวกเขา “เดี๋ยวท่านเทพก็ประทานอาหารให้ข้าอีกนั่นแหละ พวกเจ้ารับไว้เถอะ”นายทหารทั้งสิบคนมองหน้ากัน อยากบ่ายเบี่ยง แต่แล้วก็นึกถึงคนในครอบครัวที่หิวโหยจนเหลือเพียงลมหายใจรวยรินรู้สึกว่าในอกหนักอึ้งนับพันชั่ง!อู๋ซานหลางที่ในครอบครัวมีลูกชายอายุยังน้อยใกล้จะหิวตายรับมาคนแรกเขาคุกเข่าลงข้างหนึ่ง เอ่ยทั้งน้ำตาคลอหน่วย “ขอบคุณท่านแม่ทัพ ข้าสามารถเอากลับไปส่งที่บ้านก่อนได้หรือไม่ ภรรยากับลูกข้าหิวจนใกล้จะไม่ไหวแล้ว”จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า “รีบเอาไปส่งเถอะ!”อู๋ซานหลางกอดกล่องข้าววิ่งกลับบ้านไปก่อนนายทหารอีกเก้านายซ่อนกล่องข้าวไว้ในอก นำอาหารกลับไปส่งที่บ้านจ้านเฉิงอิ้นกำชับให้พวกเขากลับมาเร็วหน่อย จะได้มากินโจ๊กด้วยกันอย่าดูแคลนข้าวกับอาหารหนึ่งกล่องเชียว ถ้านำไปต้มเป็นโจ๊ก คนทั้งครอบครัวรับประทานอย่างประหยัดก็สามารถเก็บไว้กินได้สองวัน ช่วยให้ไม่อดตายในช่วงหลายวันนี้หากผสมใบไม้เปลือกไม้ลงไปยังสามารถเก็บไว้ได้นานกว่านั้นช่วงเวลาหนึ่งก้านธูปผ่านไป นายทหารทั้งสิบก็กลับมา แต่ละคนมีสีหน้าเคร่งเครียด ขอบตาแดงเรื่อหลังนั่งลง อาหลี่ก็ยกหม้อโจ๊กเข้ามาข้
หลังเย่มู่มู่โยนอาหารหมดอายุลงไปจนหมดก็ขึ้นไปชั้นบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเธอสว่างขึ้นไม่หยุด เป็นคุณอาคุณลุงในครอบครัวเธอโทรมาพ่อแม่ล่วงลับ เธอกลายเป็นเด็กกำพร้า คุณอาคุณลุงร่วมมือกับคุณย่ามาหาถึงบ้าน หมายจะฮุบทรัพย์สินของเธอโชคดีที่คุณพ่อคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าจึงทิ้งพินัยกรรมเอาไว้ในโถงตั้งโลงศพของคุณพ่อคุณแม่ คุณอาคุณลุงรวมถึงคุณย่ากดดันให้เธอมอบทรัพย์สินของคุณพ่อออกไปยังอ้างเสียสวยหรูว่าจะช่วยดูแลให้เธอบอกว่าเธอเป็นผู้หญิง ต้องแต่งงานไม่ช้าก็เร็ว จะบริหารบริษัทใหญ่มูลค่าหลายหมื่นล้านได้อย่างไรห้องชุดสิบกว่าห้อง ร้านค้าหลายร้านกับตึกปล่อยเช่าอีกสองตึกบอกให้เธอส่งมอบทั้งหมดนั้นออกไปให้พี่น้องของคุณพ่อแบ่งสรรปันส่วนกันคุณพ่อไม่ใช่ผู้ถือหุ้นเพียงหนึ่งเดียวของบริษัท แต่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด ถือหุ้นสามสิบกว่าเปอร์เซ็นต์เย่มู่มู่ขอให้ผู้ถือหุ้นรายอื่นช่วยออกหน้า ช่วยเธอปกป้องทรัพย์สมบัติเอาไว้เธอไม่เข้าร่วมการบริหาร รับแค่เงินปันผลเท่านั้นเธอสละสิทธิ์ในการบริหาร ผู้ถือหุ้นรายอื่นย่อมยินดีอยู่แล้วบอดี้การ์ดปรากฏตัวขึ้นในโถงตั้งโลงศพจึงควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้
เย่มู่มู่ตื่นขึ้นมาก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เธอนอนอยู่บนโซฟาในห้องนอนของพ่อแม่ บนหมอนยังคงเปียกชื้นเธอคิดถึงพวกเขามากเกินไปจนร้องไห้ระหว่างหลับฝันอีกแล้วตีสองครึ่ง ตอนลงมาชั้นล่างไฟในห้องรับแขกยังคงสว่างอยู่แต่มีกระดาษเหลืองโบราณเพิ่มมาหลายแผ่นอ้าก!เจ้าแจกันนี่เอาขยะมาทิ้งในบ้านอีกแล้ว!เธอเดินเข้าไปในห้องรับแขกชั้นล่างด้วยความเดือดดาล คว้ากระดาษเหลืองเขรอะฝุ่นแผ่นนั้นลงมาตัวอักษรเป็นแบบตัวเต็ม เขียนตามแนวตั้งลักษณะรอยหมึกขาด ๆ หาย ๆ เหมือนใช้ขี้เถ้าเขียนรอบก่อนมีแค่ไม่กี่ตัวอักษร รอบนี้กลับเขียนมายาวพรืด รอยพู่กันคมกริบ ตัวอักษรหวัดฉวัดเฉวียนมีทั้งหมดสี่หน้ากระดาษ เธอไม่รู้ว่าเขียนอะไรบ้างใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเอาเข้าโปรแกรมแปลภาษาค่อยทราบว่าคือคำอธิษฐานขอพรแคว้นต้าฉี่ รัชศกชูหยวนปีที่สาม กองทัพตระกูลจ้านพิทักษ์ด่านสำคัญบริเวณชายแดน ถูกกองทัพสามแสนของเผ่าหมานปิดล้อมกลายเป็นเมืองที่ปิดตายทหารหาญสองแสนคนพลีชีพในสมรภูมิเหลือเพียงสองหมื่นคนด่านเจิ้นกวนเกิดภัยแล้งรุนแรง แม่น้ำเหือดแห้งพืชพรรณเฉาตายราษฎรเพาะปลูกไร้ผลเก็บเกี่ยว กินเปลือกไม้ใบหญ้าจนหมดเกลี้ยงในเมื
เมื่อเห็นกองทองคำที่เหลืองอร่ามกองนี้ แม้ว่าเธอจะไม่ได้หลงใหลในเงินตรา แต่ก็ยากที่จะปล่อยออกจากมือใครจะสามารถปฏิเสธเครื่องประดับอัญมณีได้ล่ะ?เธอวิ่งไปสัมผัสกับก้อนทองคำอย่างมีความสุข แล้วลองสวมสร้อยข้อมือทองคำมีสร้อยคอหลายเส้นห้อยอยู่รอบคอของเธอ เส้นผมของเธอก็ประดับประดาเต็มไปด้วยปิ่นปักผมทองและปิ่นระย้ารวยแล้ว!ตามราคาทองคำในปัจจุบัน ทองคำกองนี้มีมูลค่าหลายสิบล้านยิ่งเป็นของโบราณ เมื่อเอาไปขาย ก็ยิ่งประเมินค่าไม่ได้อ๊า หนิงกวนโหวช่างเป็นคนดีจริง ๆ!ตอนนี้เธอชอบการช่วยเหลือคนเสียแล้วสิ!ชอบทำบุญสุด ๆ!ชอบเลี้ยงคนโบราณหนึ่งแสนคน!ไม่หวังอะไรอย่างอื่น การได้มองดูทองคำเหลืองอร่ามระยิบระยับแสนน่ารัก ก็ทำให้เธอมีความสุขเป็นอย่างยิ่งแล้ว!*เย่มู่มู่ยกลังไม้ใบใหญ่สามใบลงมาจากชั้นบน แล้วนำทองคำออกมาจัดระเบียบแค่ทองก้อน เหรียญทอง ทองหยวนเป่า ก็ใส่เต็มสองลังใหญ่แล้วจากนั้นก็นำลังใบใหญ่อีกใบมาใส่เครื่องประดับมุกและทอง แยกใส่ถุงซิปล็อค แล้ววางไว้เป็นระเบียบแต่ใส่ไม่หมดมันไม่สามารถใส่ให้หมดได้อยู่แล้ว!ของที่เหลือล้วนเป็นของที่ทำด้วยทองคำ รวมถึงชุดจอกสุรากาสุรา กาสุราแ
“มารับความตายเถอะ! คนทรยศ…”กว่างอิงเซิ่งชักดาบใหญ่ออกมาฟันลงทิศทางเซี่ยเวย!แกร๊ง~อาวุธสองเล่มปะทะกลางอากาศ แตกระเบิดเป็นประกายไฟกว่างอิงเซิ่งได้รับแรงกดดันมหาศาล เขาควบม้าถอยหลังไปหลายก้าว ดาบใหญ่ของเขามีรอยแหว่งเขามองอาวุธในมือที่แตกเป็นร่องขนาดใหญ่อันหนึ่ง สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง!“นี่เป็นไปได้อย่างไร!”“ทำไมเจ้าถึงแข็งแกร่งเช่นนี้!”หลังจากเขาชะงักไม่กี่วินาที จากนั้นเขาหัวเราะลั่นโดยไม่มองเซี่ยเวยอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย!“เจ้านึกว่าชนะแล้ว สามารถกลับไปอย่างปลอดภัยและสงบสุข? ข้าจะบอกให้ ไม่มีทาง!”“เมื่อเจ้าลงจากหอประตูเมือง อยู่ห่างจากจ้านเฉิงอิ้น ตอนจบของเจ้า…มีเพียงความตาย!”“ฮ่องเต้ ข้าและขุนนางแคว้นเยี่ยนล้วนคาดหวังให้เจ้าตาย! มีแต่ปากคนตายเท่านั้นที่ปิดสนิทและความลับบางอย่าง ดีที่สุดก็ควรฝังในใต้ดินตลอดกาล!”เหตุผลที่เซี่ยเวยต้องหนีออกจากแคว้นเยี่ยน เขาจะไม่ให้โลกภายนอกรู้เป็นอันขาดไม่เช่นนั้นไม่เพียงแค่เขา แต่ทั้งแคว้นต้าเยี่ยน จะเสียชื่อ เกียรติภูมิและฉาวโฉ่ไปทั่วทุกสารทิศ!กว่างอิงเซิ่งยกมือขึ้นขณะที่หัวเราะอย่างจองหอง พร้อมกล่าวเสียงดัง“ยิงธนู!”
ขณะที่เฉินขุยใช้ลำโพงประกาศเสียงกล่าว เฉินอู่กับจวงเหลียงรีบดึงเซี่ยเวยมาตรงมุม ทำการถอดชุดเกราะซอมซ่อและกระชากเสื้อที่ขาดหลุดลุ่ยของเขาออกจากนั้นใส่เครื่องแบบทหารตัวใหม่ให้เขา ทับด้วยเสื้อเกราะกันกระสุนแบบเต็มตัวและสวมชุดเกราะเป็นชั้นชุดท้ายหลังจากช่วยเขาสวมเครื่องแบบทหารเสร็จ เซี่ยเวยรู้สึกถึงน้ำหนักหลายกิโลกรัมที่มาจากร่างกายเขาน้ำหนักมากถึงเพียงนี้ จะเอาชนะกว่างอิงเซิ่งอย่างไร?โดยเฉพาะหมวกกันน็อกบนศีรษะ เฉินขุยสาธิตให้เขาหลายครั้งว่าวางหน้ากากอย่างไรหน้ากากประหลาดอย่างยิ่ง เป็นสีดำ หลังจากวางลงกลับเห็นทุกอย่างรอบ ๆ อย่างชัดเจน!ในมือเขายังถูกยัดดาบม่อเตาราชวงศ์ถังหนักสิบห้ากิโลกรัมไว้อีกเล่มดาบม่อเตายาวสองเมตรกว่า ด้ามจับกับใบมีดแบ่งเป็นครึ่งเท่ากัน ทำจากเหล็กชั้นดี ใบมีดแหลมคมเปล่งแสงเย็นเยือกในยามมืดมิดเฉินขุยกล่าวกับเขา “เจ้าลองอาวุธดูก่อน…”เห็นเขาจับอาวุธและแสดงอาการลังเลอยู่บ้างเฉินขุยจึงกล่าวปลอบใจ “วางใจเถอะ เอาชนะแน่นอน!”เซี่ยเวยรู้สึกหนักไปทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ยังอยู่ในช่วงทำความคุ้นเคย!เขาตวัดดาบตามความสะดวกมือ ดาบม่อเตาพลางส่งเสียงชิ้งกลางอากาศ แต
กว่างอิงเซิ่งชะงักอึ้งกับคำพูดเฉินขุยและไม่รู้จะตอบโต้อย่างไรพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกองทัพตระกูลจ้านจริง ๆแต่กวนโทสะพวกเขา พวกเขาจะล้อมเมืองอย่างบ้าระห่ำ ไม่มีทางยอมปล่อยไปง่าย ๆ แน่ไม่ใช่แค่ให้พวกเขามอบตัวเซี่ยเวย เพื่อแลกเสบียงอาหารกับน้ำจำนวนหนึ่งหรอกหรือ?ทำไมถึงไม่ให้ความร่วมมือ?ในเวลาเดียวกันนี้ เซี่ยเวย จ้าวเฉียน ซ่งตั๋วทั้งสามคนควบม้าวิ่งมาอย่างเอิกเกริกเหล่าทหารเห็นเซี่ยเวยครั้งแรกและมองเขาหัวจรดเท้าพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายแม่ทัพผู้ถูกกดดันจนหนีมาด่านเจิ้นกวนผู้นี้ อายุราวยี่สิบห้าปี ผิวพรรณสีเข้ม รูปร่างค่อนผอม ดวงตาสองข้างแวววาวแหลมคม!เขาสวมชุดเกราะสีดำของแคว้นเยี่ยน หากมองใกล้ ๆ ชุดเกราะเป็นสนิมอย่างหนักเสื้อผ้าใต้ชุดเกราะขาดหลุดลุ่ยเหลือทนด้านหลังรองเท้าคู่นั้นสึกหรอจนแบนราบและฝ่าเท้าก็เผยออกมาเช่นนั้นนี่คือเสื้อผ้าของผู้นำทัพแคว้นหนึ่งไม่แปลกใจเลยที่ซ่งตั๋วจะเห็นอกเห็นใจเขา สภาพเช่นนี้ คล้ายกับกองทัพตระกูลจ้านเมื่อหลายเดือนก่อนมากในตอนนั้น พวกเขาสวมเสื้อผ้าขาดหลุดลุ่ยเช่นเดียวกัน รองเท้าของแม่ทัพหลายคนก็ผุพังเหลือทนเช่นกันเซี่ยเวยลงจากหลังม้า เด
กว่างอิงเซิ่งเชื่อว่า เงินทองอยู่ตรงหน้า จ้านเฉิงอิ้นไม่คุ้มที่จะเป็นปฏิปักษ์ต่อแคว้นเยี่ยนเพื่อเซี่ยเวยไม่คาดคิดเลยว่า จ้านเฉิงอิ้นจะประกาศคำสั่ง “ยิงธนู!”สวบ…เสียงลูกธนูทะลุกลางอากาศดังขึ้นในค่ำคืนอันมืดมิดทหารแคว้นเยี่ยนที่ยกกล่องข้ามสัญลักษณ์เขตแดนมีสามสิบคน ล้วนถูกหน้าไม้ราชวงศ์ฉินยิงและล้มตรงหน้ากองทัพหลายแสนคนของแคว้นเยี่ยน!การเสียชีวิตของพวกเขาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกือบจะเพียงเอื้อมมือเยี่ยนซวี่คิดไม่ถึง จ้านเฉิงอิ้นจะกล้ายิงสังหารทหารแคว้นเยี่ยนต่อหน้าเขา!เขาพลันยืนขึ้นบนเกี้ยว ความโกรธโหมทะลักจ้านเฉิงอิ้นไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ เป็นแค่นายทหารพิทักษ์เมืองคนหนึ่ง กลับกล้ามองข้ามเขาถึงเพียงนี้เขาประกาศคำสั่งใต้ความโกรธ “มีใครอยู่ตรงนั้น บุกทะลวงเมืองให้ข้าซะ…”กว่างอิงเซิ่งรีบเร่งกล่าวห้าม “ฝ่าบาท ไม่ควรบุกเมืองบุ่มบ่ามนะพ่ะย่ะค่ะ พระองค์ลืมจุดประสงค์ของการมาด่านเจิ้นกวนแล้วหรือ?”ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น สามพันธมิตรพร้อมกองกำลังห้าแสนห้าหมื่นคนในตอนนั้น ยังไม่สามารถเอาชนะด่านเจิ้นกวนได้ พวกเขามีเพียงหนึ่งแสนกว่าคนจะเอาชนะได้อย่างไร?เยี่ยนซวี่สีหน้ามืดหม่
เฉินขุยเกาศีรษะอย่างอิหลักอิเหลื่อ “ก็ตอนนี้ข้าเข้าใจเขาแล้วไม่ใช่หรือ?”“กองทัพตระกูลจ้านเราถูกเผ่าหมานปิดล้อมร่วมหนึ่งปี ทำศึกทหารตายไปมากมาย ข้าคิดว่าพวกเราก็น่าเวทนาพอแล้ว”“เมื่อเทียบจุดนี้กับเซี่ยเวย เขาถูกคนของตัวเองกินทหารไปครึ่งหนึ่ง ทว่าจนปัญญา ภายในใจยิ่งรู้สึกหดหู่ใจ”“คิด ๆ ดูแล้วเขายากลำบากยิ่งนัก ต่อไปดึงเข้ามาเป็นพวกแล้ว ก็ทำดีกับเขาหน่อยแล้วกัน!”มั่วฝานชำเลืองมองเฉินขุยทีหนึ่ง ทว่าไม่ได้พูดอะไรอีกทัพใหญ่หนึ่งแสนกว่าคนของจ้านเฉิงอิ้น รวมตัวกันอยู่เบื้องหลังเครื่องหมายเขตแดนเขาตะโกนเสียงดัง “ทหาร เปิดไฟดวงใหญ่!”รถออฟโรดสิบคันเปิดไฟดวงใหญ่ ส่องจนคนตรงหน้าลืมตาไม่ขึ้นจ้านเฉิงอิ้นยกมือขึ้น พร้อมเอ่ยกับหน่วยหน้าไม้ที่อยู่เบื้องหลังว่า “ง้างธนู เตรียมตัวยิง!”หน้าไม้ราชวงศ์ฉินนับไม่ถ้วนถูกง้างขึ้นมาทั้งหมดเยี่ยนซวี่ฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนได้ยินพลังของหน้าไม้มานานแล้ว ระยะยิงของหน้าไม้ราชวงศ์ฉินไกลเป็นอย่างมาก มากกว่าหกร้อยหมี่!หากทัพใหญ่หนึ่งแสนกว่านายเข้ามาในเขตระยะยิงของหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ไม่มีใครหนีรอดไปได้แน่!ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้พวกเขาไม่ขาดหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน
ครั้นซ่งตั๋วฟังถึงตรงนี้ ขอบตาก็แดงก่ำไปหมด“ฮ่องเต้แคว้นเยี่ยน เขาว่าอย่างไร?”“เขาบอกว่าก็แค่กินคนห้าหมื่นคนเองไม่ใช่หรือ? จะร้อนใจอะไร ตอนนี้ท้องพระคลังว่างเปล่า ทั้งแคว้นไม่มีเสบียงอาหาร ต้องเลี้ยงชีวิตกองกำลังของกว่างอิงเซิ่งสองแสนนาย เสียสละนิด ๆ หน่อย ๆ เป็นสิ่งที่ต้องทำ!”“เขายังออกพระราชโองการ ไม่ให้ข้าไปสืบหาความจริง แลพราชสำนักจะไม่ส่งเสบียงอาหารและหญ้าที่ใช้เลี้ยงม้ามาอีก ทหารเบื้องล่างข้ากินชาวบ้านในเมืองประทังหิวได้!”“พอได้รับพระราชโองการ ข้าก็รู้ว่าแคว้นเยี่ยนเน่าเฟะแล้ว เน่าเฟะตั้งแต่เบื้องบนจนถึงเบื้องล่าง!”“มีฮ่องเต้ไร้ซึ่งความดีใด ๆ เช่นนี้ มีแม่ทัพที่กินทหารเบื้องล่าง แคว้นนี้ควรค่าให้เราขายชีวิตปกป้องหรือ?”“ข้าไม่ยอมให้กินชาวบ้านทั้งเมือง พวกเขาคือชาวบ้านที่ใช้ชีวิตปกป้องเมือง จะกินได้อย่างไร?”“ข้าจึงตัดสินใจพาทหารขึ้นเหนือ มาพึ่งพากองทัพตระกูลจ้าน หากแม่ทัพรับพวกเราเอาไว้ ให้พวกเราได้มีชีวิตต่อ ก็จะดีเป็นอย่างยิ่ง”“หากไม่รับ เขาก็ไม่ฆ่าพวกเรา เพราะข้าไม่เคยได้ยินว่ากองทัพตระกูลจ้านกินเนื้อคน!”“พวกชาวบ้านในเมืองแคว้นเยี่ยน ข้าให้พวกเขาออกจากเมืองไปทั
รองแม่ทัพที่คุกเข่าเป็นคนแรกชื่อว่าจ้าวเฉียน เสียงเคร้งดังขึ้นเสียงหนึ่ง อาวุธที่อยู่ในมือเขาตกลงบนพื้นเขาเอ่ยกับเซี่ยเวยด้วยความโศกเศร้าว่า “ท่านแม่ทัพ ต่อให้มอบความกล้าให้ข้าน้อยสิบกระบุง ข้าน้อยก็ไม่กล้าแตะต้องชาวบ้านที่เพาะปลูกต่อหน้ากองทัพตระกูลจ้าน?”“ข้าน้อยเพียงแค่คิด พวกเราไม่ควรทำให้แม่ทัพใหญ่ลำบาก เขารับพวกเราเอาไว้ ให้ของกินเครื่องดื่มแก่พวกเรา หากทัพใหญ่แคว้นเยี่ยนบุกประชิดพรมแดน ต้องมีคนไปกดไฟโทสะของฮ่องเต้เอาไว้!”“ข้าน้อยยอมให้ตัวตาย แบกรับเรื่องนี้เอาไว้แทนท่าน ข้าน้อยกลับไปมอบตัว แม่ทัพใหญ่ส่งตัวคนไป ฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนเองก็จับตัวคนได้แล้ว เขาไม่มีเหตุผลให้ต้องล่วงล้ำด่านเจิ้นกวนต่อ!”เซี่ยเวยมองรองแม่ทัพที่ติดตามมาหลายปี เดือดดาลจนตาทั้งสองข้างแดงก่ำเขาเอ่ยตำหนิอย่างเดือดดาลปนเสียงสะอื้น “เลอะเลือน เจ้ามันเลอะเลือน!”“เจ้าคิดว่าตัวเองพาคนไปพบฮ่องเต้แล้วเขาจะช่างมันไปทั้งอย่างนี้หรือ?”“ผิดแล้ว เขานำทัพใหญ่มาด่านเจิ้นกวน ไม่ใช่เพื่อจับตัวพวกเรากลับไป จับตัวคนเป็นแค่ข้ออ้างของเขาเท่านั้น”“เขาไม่จำเป็นต้องเคลื่อนพลมาโจมตีด่านเจิ้นกวน เขาไม่มีความกล้านี้”“แม้
เมื่อเฉินขุยเห็นภาพนี้ ดวงตาก็เบิกโพลง ก่อนจะดึงตัวซ่งตั๋วมาน้ำเสียงของเขาดังก้องกังวาน ตะคอดจนนายทหารโดยรอบต่างหันมามอง“เจ้าดูเอาเองเถิด ข้าบอกแล้วว่าจะเชื่อใจคนเยี่ยนง่าย ๆ ไม่ได้ ข้ายอมรับชาวบ้านแคว้นฉู่ แต่ไม่มีทางเชื่อว่าทหารชาวเยี่ยนจะมาพึ่งพาพวกเราโดยไร้ซึ่งเหตุผล!”“ดูสิ ทัพใหญ่ของฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนบุกประชิดพรมแดน ทหารชาวเยี่ยนที่อยู่เบื้องหลังสวมใส่เสื้อเกราะ มือถืออาวุธ พวกเขาคิดจะทำอะไร?”“คิดจะลงมือกับชาวบ้านของด่านเจิ้นกวนหรือ?”ซ่งตั๋วเห็นภาพในอากาศยานไร้คนขับ เห็นนายทหารเบื้องล่างเซี่ยเวยกลับสวมชุดเกราะมือถืออาวุธ ออกมาจากฐานที่มั่นอย่างลับ ๆ ล่อ ๆเขาสงบนิ่งเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้วเขาเชื่อใจเซี่ยเวย จัดฐานที่มั่นที่ใกล้กับริมแม่น้ำให้พวกเขา ต้านทานแรงกดดันมีปากเสียงกับเฉินขุยผลสุดท้าย?ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะกล้าลงมือกับชาวบ้านที่มือเปล่า?ซ่งตั๋วพลิกตัวขึ้นหลังม้า แล้วห้อตะบึงไปยังค่ายทหารของเซี่ยเวยอย่างรวดเร็วจ้านเฉิงอิ้นไม่ได้ห้ามเขาหากทหารเบื้องล่างของเซี่ยเวย ใช้แผนด้านนอกด้านในตีขนาบประสานกันกับทหารที่อยู่ด้านนอก เช่นนั้นหาหมื่นคนนี้ก็ควรตายทั้งหมด
จ้านเฉิงอิ้นเรียกให้เขาหยุด “ส่งอากาศยานไร้คนขับ ไปตรวจสอบดูสถานการณ์ที่ประจำการของเซี่ยเวย!”“ขอรับ!”“เปี้ยนจื่อผิง หลี่หยวนจง เฉิงจื่อเซียว พวกเจ้าปกป้องฐานที่มั่นเอาไว้ พื้นที่เหล่านี้เป็นที่ที่พวกชาวบ้านปลูกมาอย่างยากลำบาก อย่ายอมให้รุกล้ำแม้แต่นิ้วเดียว”เหล่านายทหารพยักหน้า “ขอรับ แม่ทัพใหญ่!”“หากครานี้ถอนทัพกลับไป แล้วพวกเขาไม่มีอะไรกิน ก็จะมาปล้นด่านเจิ้นกวน กองทัพตระกูลจ้านต้องคิดหาวิธีรับมือกับพวกเขา บีบคอให้ตายในเปล!”“ล่าถอยเถอะ ติดอุปกรณ์ให้ครบครัน รีบกลับไปป้องกันโดยเร็ว!”“ขอรับ ข้าน้อยรับคำสั่ง!”จ้านเฉิงอิ้นขี่ขึ้นหลังม้า นำเหล่านายทหารมุ่งหน้าไปทางตะวันออกที่แล้วทางทิศตะวันออกขยายไปถึงอาณาเขตแคว้นฉี ยึดพื้นที่เพาะปลูกที่ดีที่สุดในก่อนหน้านี้ของประชาชนแคว้นฉีกระทั่งแม่น้ำที่แห้งขอดมานาน ขุดลอกทรายที่ทับถมออกมากองไว้บนพื้น ปล่อยน้ำไปกักเก็บเอาไว้...ที่ดินทางทิศตะวันออกเป็นที่ดินที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดมันฝรั่ง มันเทศ ฟักทอง ข้าวโพดที่ปลูก แนวโน้มดีขึ้นเป็นพิเศษมันเทศบางส่วนขุดออกมาได้แล้ว แต่ละหัวขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือ กินดิบ ๆ ได้รสชาติหวานหอม อีกหนึ่งเดือ