แชร์

บทที่ 349

ผู้เขียน: มู่โร่ว
เซี่ยเวยกับจ้าวเฉียนและแม่ทัพท่านอื่น ใช้เวลายามค่ำเข้าไปข้างในเมืองด่านเจิ้นกวน

ภายในเมือง บนท้องถนนใหญ่ส่องแสงสว่างไสว

เหล่าชาวเมืองสวมเสื้อผ้าสะอาดเรียบร้อย กำลังพาเด็ก ๆ เดินเล่นตามถนน

พวกเขามีชีวิตชีวา ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม ดูออกเลยว่ามีชีวิตที่อุดมสมบูรณ์มาก

ร้านค้าตามถนนทั้งเส้น เปิดร้านแล้วทั้งหมดและมีของวางอย่างครบครัน

มีร้านขายปิงถังหูลู่ ขนมน้ำตาลปั้นและตั้งแผงบะหมี่…

ในแคว้นเยี่ยน ไม่มีใครเดินบนถนนในยามค่ำคืน แม้แต่คนไร้ที่อยู่อาศัยยังต้องหาที่พักตามซากวัด

เพราะถ้าพบว่าอยู่คนเดียวบนถนน อาจถูกจับไปขายให้กับร้านขายเนื้อได้

หัวเมืองที่ทรุดโทรมของพวกเขากับความปลอดภัยและเจริญรุ่งเรืองของด่านเจิ้งกวน กลายเป็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง

เซี่ยเวยกับเหล่านายทหารนิ่งสงบตลอดทาง โดยมีซ่งตั๋วนำทางมาถึงโกดังค่ายทหารอันเป็นสถานที่สำคัญ

เขากล่าว “พวกเจ้ายืนรอครู่หนึ่ง…”

เขาใช้กุญแจเปิดโกดังออก!

ฟึบ~

ปลายข้าวที่กองพะเนินหน้าประตูโกดัง ร่วงลงมากระทันหันอย่างไม่ทันตั้งตัว

กระสอบสานทรงกลมแต่ละกระสอบร่วงลงจากหน้าประตูลงสู่พื้นดิน

ทหารลาดตระเวนเห็นดังกล่าว จึงวิ่งมายกถุงกระสอบข้า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 350

    ชิ้ง~กระบี่ยาวออกจากฝัก แสงเย็นลำหนึ่งฟันไปยังแขนเซี่ยเวยแกร๊ง~เสียงแตกหักชัดเจนเสียงหนึ่งดังขึ้น กระบี่จ้าวเฉียนพลันขาดเป็นสองท่อนลำแขนเซี่ยเวยสมบูรณ์ไม่เสียหาย เพียงทิ้งรอยข่วนไว้เล็กน้อยบนชุดเกราะ แต่ไม่มีความเสียหายแต่อย่างใดทุกคนมองสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดด้วยความตะลึงตาค้างกระบี่ยาวอันเป็นของรักของจ้าวเฉียน ทำจากเหล็กชั้นดี แหลมคมหาที่เปรียบไม่ได้ปรากฏว่า กลับไม่อาจทำลายชุดเกราะของแม่ทัพเซี่ยได้นี่มัน…ชุดเกราะปกติอันเป็นอุปกรณ์สวมใส่ของกองทัพตระกูลจ้าน!ไม่นึกเลยว่าจะมีกำลังป้องกันถึงเพียงนี้?เซี่ยเวยให้จ้าวเฉียนถอดชุดเกราะลงมาวางบนท่อนไม้เขายกดาบม่อเตาขึ้นแล้วฟันชุดเกราะที่อยู่กับจ้าวเฉียนชุดเกราะรวมทั้งท่อนไม้ถูกฟันขาดเป็นสองท่อนดาบยาวในมือแม่ทัพเซี่ยเวย แหลมคมตัดเหล็กขาดง่ายประหนึ่งดินเหนียวอุปกรณ์สวมใส่ของกองทัพตระกูลจ้าน สร้างความตื่นตะลึงให้กับพวกเขาเป็นอย่างมากแต่ละคนเบิกตาใหญ่โตและไม่เชื่อสายตาดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลที่แม่ทัพเซี่ยอยู่ต่อ!อุปกรณ์สวมใส่ของกองทัพตระกูลจ้าน ล้ำสมัยกว่าแคว้นเยี่ยน ไม่เพียงแค่นั้น…แต่ยังล้ำสมัยกว่าทุกแคว้นใน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 351

    วันที่สามในยามเย็น บนลานหินอันกว้างใหญ่ ปรากฏรถขุดดินสามสิบคันรถดันดินยี่สิบคันรถดันดินเป็นสิ่งที่ทุกคนเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก มีบุ้งกี๋ขนาดใหญ่สีเหลืองรูปทรงแปลกตา ดูอลังการยิ่งนัก!ยังมีรถบรรทุกขนาดใหญ่สามสิบคันรถบรรทุกดินขนาดกลางยี่สิบห้าคัน!เมื่อเห็นรถยนต์จำนวนมหาศาลเช่นนี้ เหล่าทหารก็ดีใจกันยกใหญ่หลี่หยวนจง เปี้ยนจื่อผิง เฉินจวิ้นหลิน... แม่ทัพเหล่านี้ที่ปกติแล้วค่อนข้างสุขุม ยังวิ่งไปที่หน้ารถดันดินอย่างบ้าคลั่งพวกเขาล้อมรอบรถดันดิน เคาะตี ตรวจสอบ และถกเถียงกัน!ต่างพูดคุยกันว่าเจ้ายักษ์ใหญ่พวกนี้ใช้ทำอะไร?เฉินจวิ้นหลินถึงกับปีนขึ้นไปบนบุ้งกี๋ของรถดันดิน หัวเราะอย่างมีความสุขและแสดงออกอย่างภาคภูมิใจ“นี่ ดูนี่สิ ข้าดูน่าเกรงขามหรือไม่?”มั่วฝานแสดงสีหน้ารังเกียจ “รถดูน่าเกรงขาม แต่เจ้าไม่!”เขาหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ “มา ถ่ายรูปให้ข้าหน่อย”มั่วฝานหันหน้าไปอย่างรังเกียจหลังจากที่จ้านเฉิงอิ้นตรวจนับจำนวนแล้ว ตรงกับจำนวนที่เขียนไว้ในจดหมายของท่านเทพเขาก็ดีใจมาก และเต็มไปด้วยความมั่นใจด้วยรถเหล่านี้ สระน้ำใต้ดินที่ขุดให้กับชาวเมืองด่านเจิ้นกวน จะสามารถขุดได้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 352

    “ท่านแม่ทัพ...”ทันทีที่เข้าไปในปากถ้ำ จ้านเฉิงอิ้นก็ได้ยินเสียงของมั่วฝานจ้านเฉิงอิ้นถอยออกมาจากถ้ำ เห็นทั้งสองเร่งรีบมาเขาจึงถามขึ้น “มีเรื่องอะไร?”มั่วฝานหยิบจดหมายลับออกจากแขนเสื้อ“เกิดเรื่องใหญ่ไม่ดีแล้ว นับตั้งแต่ท่านส่งเสบียงและน้ำให้กองทัพลู่เจ๋อ มีชาวบ้านที่ประสบภัยจำนวนมากเข้าร่วมกองทัพลู่เจ๋อ ทำให้จำนวนทหารของกองทัพลู่เจ๋อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็น สองแสนแปดหมื่นนายแล้ว”“เนื่องจากจำนวนศัตรูเพิ่มขึ้น กองทัพธงเหลืองที่ถูกปิดล้อมอยู่ในเมือง จึงไม่สามารถตีฝ่าวงล้อมออกมาได้...”“หน่วยกล้าตายหวังเซิ่งที่ส่งไป ส่งจดหมายมาบอกว่า กองทัพธงเหลืองสมคบคิดกับศัตรูภายนอก ต้องการร่วมมือกันทั้งภายในและภายนอกเพื่อสังหารกองทัพลู่เจ๋อ!”จ้านเฉิงอิ้นขมวดคิ้ว “ศัตรูภายนอกอะไร?”“เผ่าหมาน แคว้นฉู่ แคว้นฉี แคว้นเยี่ยน... พวกเขาทั้งหมดล้วนมีการติดต่อกับกองทัพธงเหลือง”มั่วฝานยื่นจดหมายลับให้จ้านเฉิงอิ้นจ้านเฉิงอิ้นเปิดจดหมายลับออก เป็นจดหมายที่ส่งมาจากหวังเซิ่งที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้านายทหาร“ท่านแม่ทัพ หลายวันนี้มีเผ่าหมาน ชาวแคว้นฉู่ ชาวแคว้นฉี ชาวแคว้น

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 353

    จ้านเฉิงอิ้นถามมั่วฝาน “ราชสำนักรู้เรื่องที่กองทัพธงเหลืองสมคบคิดกับศัตรูภายนอกหรือไม่?”“เกรงว่าจะรู้ มีกองทัพลู่เจ๋อคอยจับตาดูอยู่ ความเคลื่อนไหวใด ๆ ในเมือง กองทัพลู่เจ๋อล้วนรู้”“ยิ่งไปกว่านั้น ชาวแคว้นฉู่ ชาวแคว้นฉี ชนเผ่าหมาน... มิได้ลอบพบกับมู่ฉีซิว แต่พบกันอย่างเปิดเผยโดยไม่ปิดบัง!”จ้านเฉิงอิ้นเดินออกจากปากถ้ำใต้ดิน ไปยังม้า“พวกเขาเข้าไปในเมืองได้อย่างไร?”จวงเหลียงกล่าวว่า “กองทัพธงเหลืองยึดครองเมืองทั้งหมดห้าเมือง ซูโจว ยงโจว อวิ๋นโจว เหยี่ยนโจว...”การจะให้กองทัพลู่เจ๋อล้อมเมืองทั้งห้าให้แน่นหนาราวกับถังเหล็ก~เป็นเรื่องยาก!ยิ่งไปกว่านั้น คนกลุ่มนี้ไม่ใช่ทหารที่เชี่ยวชาญในการรบ พวกเขาก็เหมือนกับอู๋ลี่ เป็นผู้คนที่ไร้หนทาง ต้องระเห็จเร่ร่อน และเพื่อความอยู่รอดจึงจำใจเข้าร่วมกับกองทัพลู่เจ๋อพวกเขามีวินัยหย่อนยาน ไร้ซึ่งจิตวิญญาณของนักรบพวกเขารู้เพียงว่าในเมืองมีเสบียง และเมืองที่ฮ่องเต้ทรงประทานรางวัลให้พวกเขา ถูกกองทัพธงเหลืองยึดครองพวกเขาต้องแย่งชิงกลับคืนมาเรื่องอื่นพวกเขาไม่สนใจ!จ้านเฉิงอิ้นกระโดดขึ้นม้า กล่าวกับมั่วฝานและจวงเหลียง “ไป กลับไปที่ห้องโถง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 354

    “ใช่ค่ะ แล้วคุณคือ...”“สวัสดีครับ ผมเป็นรุ่นพี่ของคุณ ผมชื่อลู่ฉีหยาง อาจารย์ที่ปรึกษาของคุณมอบหมายให้ผมมารับคุณกลับไปเรียนที่มหาวิทยาลัย”จากนั้น เขาก็ถามด้วยความห่วงใย “น้องนักศึกษา อาการป่วยของน้องเป็นยังไงบ้าง?”ที่แท้ก็เป็นรุ่นพี่ที่ทางมหาวิทยาลัยจัดหามา เย่มู่มู่จึงลดความระแวดระวังลงตอบกลับไปอย่างเรียบเฉย “ก็ดีค่ะ อารมณ์คงที่ขึ้นมาก หยุดยามานานแล้ว!”อีกฝ่ายยิ้มอย่างสดใส “ถ้าอย่างนั้นก็ขอแสดงความยินดีกับน้องนักศึกษาด้วยนะ อีกสามวันผมจะไปถึงเมืองที่น้องอาศัยอยู่และจะอยู่ที่นั่นสองสามวัน น้องพอจะมีเวลาว่างหรือเปล่า?”เย่มู่มู่ปฏิเสธโดยไม่ลังเล “แต่ว่าฉันยุ่งมากเลยค่ะ!”“ไม่เป็นไรครับ บ้านผมมีบริษัทสาขาอยู่ในเมืองของน้องนักศึกษา คุณพ่อให้ผมมาดู และพาน้องนักศึกษากลับไปเรียนที่มหาวิทยาลัย อาจารย์ที่ปรึกษาได้ยินว่าผมจะมา เลยขอให้มาด้วยกัน ขออภัยที่รบกวนน้องนักศึกษาด้วยนะ!”ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง เธอกังวลมากเกินไป“อีกสองวันหากฉันมีเวลาว่าง ฉันจะพาคุณไปเที่ยวชมรอบๆ”ลู่ฉีหยางดีใจมาก “จริงเหรอครับ? น้องเย่ตกลงจะพาผมไปเที่ยวชมรอบ ๆ แล้ว อย่ากลับคำนะครับ!”“ไม่หรอกค่ะ!”เวลาแ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 355

    “แน่นอน...” เย่มู่มู่ตอบอย่างเรียบเฉยคาดไม่ถึง รองผู้อำนวยการจางหัวเราะเสียงดังอย่างโอ้อวด“เอาเถอะ คุณหนูเย่ คุณอย่ามาล้อเล่นกับผมเลย จ้านเฉิงอิ้นเป็นคนโบราณเมื่อสองพันกว่าปีก่อน ตายในด่านเจิ้นกวน ถูกสังหารในการล้อมโจมตีของกองทัพฉี”“ร่างของเขาเน่าเปื่อยไปนานแล้ว คุณเคยเห็น? เกรงว่าคงจะอยู่ในความฝันมากกว่า!”เย่มู่มู่พูดเสียงเบา “คุณไม่เชื่อ? ช่างเถอะ ยังไงฉันก็ช่วยเขาไว้แล้ว!”จ้านเฉิงอิ้นยังส่งรูปถ่ายมาให้เธอ“รองผู้อำนวยการจาง ภาพวาดนี้ไม่สามารถแขวนขึ้นไปได้ ฉันจะส่งภาพวาดของจริงไปให้คุณ จำไว้ อย่าแขวนมั่วๆ...”โดยไม่รอให้รองผู้อำนวยการพูดอะไร เธอก็วางสาย!เย่มู่มู่เขียนจดหมายถึงจ้านเฉิงอิ้นทันทีขอให้เขารีบส่งภาพวาดมาโดยเร็ว!เธอกลัวว่าจ้านเฉิงอิ้นจะไม่ใส่ใจ จึงพิมพ์ภาพวาดเลียนแบบโบราณที่รองผู้อำนวยการจางส่งมารอจนหมึกแห้ง แล้วส่งไปพร้อมกับกระดาษเปล่าให้จ้านเฉิงอิ้นจ้านเฉิงอิ้นกำลังประชุมกับเหล่าแม่ทัพการประชุมครั้งนี้มีแม่ทัพทั้งหมดเข้าร่วมแม่ทัพเก้านายภายใต้กองทัพตระกูลจ้าน และอีกเก้านายลูกน้องสวีหวยอู๋ลี่และคนอื่น ๆ อีกหกคน และเซี่ยเวยอีกหกคนรวมทั้งหมดสามส

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 356

    เซี่ยเวยและคนอื่น ๆ ต่างก็ดีใจจนน้ำตาไหลท่านแม่ทัพช่างมีเมตตา อย่าว่าแต่ให้พวกเขาไปกำจัดกองทัพธงเหลืองหากวันหนึ่ง ท่านแม่ทัพสั่งให้พวกเขาไปกำจัดหกแคว้นพวกเขาจะไม่พูดอะไรสักคำ พุ่งทะยานอยู่แถวหน้า ฝ่าฟันเข้าสู่สมรภูมิรบจ้านเฉิงอิ้นสั่งให้หลี่หยวนจง เปี้ยนจื่อผิง อู๋ซานหลาง หลินต้าจวิน... สี่แม่ทัพเก่าแก่ประจำอยู่ที่ด่านเจิ้นกวนเฉิงจื่อเซียวและอู๋ลี่ และคนอื่น ๆ หากมีเรื่องใด ให้ปรึกษากับทั้งสี่พวกเขามีประสบการณ์การรบมากมาย มีความสามารถในการเป็นผู้นำพวกเขารักษาการณ์ที่ด่านเจิ้นกวน แม้ว่าเผ่าหมาน แคว้นฉู่ แคว้นฉีจะลอบโจมตีอีกครั้ง ก็เป็นเรื่องยากแม่ทัพเก่าแก่ที่เหลือ จะตามจ้านเฉิงอิ้นกลับเมืองหลวงหลี่หยวนจงอายุสี่สิบกว่าปี เป็นแม่ทัพเก่าแก่ ติดตามบิดาประจำอยู่ที่ชายแดนมาหลายปี เป็นคนที่บิดาค่อย ๆ สนับสนุนและผลักดันขึ้นมาเองตลอดทางเขามีประสบการณ์ในการรบอย่างโชกโชน ร่วมกับหลินต้าจวินนำกองกำลังกบฏชาวนา ปกป้องทิศตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ไว้ได้อู๋ซานหลางและเปี้ยนจื่อผิงกับเฉิงจื่อเซียว และคนอื่น ๆ รักษาการณ์ประตูเมืองทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือหลังจากแบ่งจำนวนคนเสร็จแล้ว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 357

    เย่มู่มู่ได้รับภาพเหมือนของจ้านเฉิงอิ้นเป็นสิ่งแรกแม่ทัพหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาค่อนข้างผอม สวมชุดเกราะสีเงิน มือถือดาบม่อเตา ยืนตระหง่านอยู่บนกำแพงเมืองเขามัดผมหางม้าสูง ที่กลางหน้าผากมีไรผมแหลมเป็นเอกลักษณ์งดงาม ดวงตาลึกล้ำที่แม้ไม่แสดงความโกรธ แต่ก็เปี่ยมไปด้วยอำนาจน่าเกรงขามแม้จะเป็นเพียงการร่างภาพอย่างหยาบ ๆ แต่ก็สามารถลายเส้นให้เห็นถึงใบหน้าที่ได้รูปและเรียวบางของเขาได้อย่างชัดเจนเขาเป็นแม่ทัพหนุ่มที่สง่างามและหล่อเหลาแตกต่างจากภาพวาดที่รองผู้อำนวยการจางส่งมาโดยสิ้นเชิงเย่มู่มู่ถ่ายภาพเหมือน แล้วส่งไปให้รองผู้อำนวยการจางประโยคแรกที่เขาพูดคือ “เป็นไปไม่ได้! จ้านเฉิงอิ้นไม่มีทางหล่อขนาดนี้!”“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้? เขาเป็นแม่ทัพหนุ่มที่มีชื่อเสียงโด่งดังในประวัติศาสตร์ หากไม่ใช่เพราะปีแห่งความอดอยาก การล่มสลายของแคว้นต้าฉี่เร็วเกินไป ชื่อเสียงของเขาจะเทียบได้กับก้วนจวินโหว ฮั่วชวี่ปิ้ง”“ฮั่วชวี่ปิ้งต้องเป็นคนหล่อเหลาอย่างแน่นอน เพราะทั้งครอบครัวล้วนเป็นคนหน้าตาดี จ้านเฉิงอิ้นจะเทียบได้อย่างไร?”“เอาเถอะ ภาพวาดนี้ของฉันคือภาพเหมือนของจ้านเฉิงอิ้นของจริง คุณนำไปแขวน

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 404

    ทนไว้!คนทั้งกลุ่มถูกตำรวจนำตัวมายังสถานีตำรวจตำรวจยังไม่เชื่อเลยว่าหลูซีอายุน้อย ๆ กลับล้มบอดีการ์ดได้ยี่สิบกว่าคนครั้นกล้องวงจรปิดในห้องพักถูกโอนถ่ายออกมาเพราะปัญหาจากมุมกล้อง กล้องวงจรปิดจึงไม่สามารถจับภาพคนแต่งตัวเลียนแบบต้นฉบับชุดโบราณสองคนนี้เข้ามายังห้องพักชุดรับรองแบบทางการได้อย่างไรพวกเขาปรากฏตัวขึ้นได้อย่างไรแต่ทุกคนล้วนเห็นฝีมืออันฉับไวของหลูซี มันเร็วมากเสียจนกล้องวงจรปิดยังจับความเคลื่อนไหวของเขาไม่ทันมองเห็นเพียงเงาวับวาบทำบอดีการ์ดตัวสูงโปร่งยี่สิบกว่าคนล้มลงพื้นพวกเขาเห็นคนที่มีฝีมือเก่งกาจขนาดนี้เป็นครั้งแรกคุณหญิงลู่ยังร้องโวยวายต้องการให้จับตัวหลูซีกับเย่มู่มู่ทนายสวีจึงเข้ามาประกันตัวเธอบวกกับเธอเป็นผู้เสียหาย กลับเป็นคุณหญิงลู่กับลู่ฉีหยางที่มีความคิดกักขังหน่วงเหนี่ยวเธออย่างผิดกฎหมายก่อนตามมาด้วยบอดีการ์ดของพวกเขากระทำการลงมือแม้ว่าเด็กหนุ่มสองคนนี้ทำเพื่อปกป้องเย่มู่มู่และลงมือหนักไปบ้างแต่ก็ทำไปเพราะป้องกันตนเองคำพูดต้นฉบับของทนายสวีกล่าวไว้ว่า ใครจะไปรู้ว่าบอดีการ์ดเหล่านี้จะอ่อนแอปวกเปียกและไม่สู้คนถึงเพียงนี้ส่วนลู่ฉีหยางอาจเป็

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 403

    คุณหญิงลู่เห็นบอดี้การ์ดเฝ้าประตูล้มลงไปส่วนคนที่ผู้อาวุโสมู่พาเข้ามา มีสองสามคนเป็นตำรวจชุมชนของระแวกนี้เธอจึงร้องไห้อย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม ชี้ตัวเย่มู่มู่ มั่วฝานและหลูซีพร้อมกล่าวโทษ…“พวกเขาเป็นคนทุบตีลูกชายฉันจนมีสภาพเป็นแบบนี้ คุณตำรวจ ช่วยจับพวกเขาด้วยค่ะ!”“ถ้าลูกชายฉันเป็นอะไรขึ้นมา ฉันต้องการให้พวกเขาชดใช้ด้วยชีวิต!”“และยิ่งไปกว่านั้น ฉันจะไปพบท่านผู้ว่าฯเมืองกับเลขาธิการผู้ว่าฯเมือง ฉันจะยกเลิกโครงการหนึ่งหมื่นห้าพันล้านที่ลู่ซื่อกรุ๊ปลงทุนให้กับเมืองนี้!”“ถ้าพวกคุณไม่ให้คำอธิบายกับฉัน เรื่องนี้จะไม่มีวันจบ!”ผู้จัดการโรงแรมและสถานีตำรวจ คล้ายว่าได้รับโทรศัพท์จากเบื้องบน จึงรีบเร่งปลอบใจคุณหญิงลู่ที่ใบหน้ายังมีเลือดไหล“คุณหญิงอย่าเพิ่งโมโห เราเป็นสังคมที่มีอารยธรรม ใครฝ่าฝืนกฎหมายย่อมไม่ปล่อยผ่านเป็นอันขาด”“คุณหญิงลู่ เราไปทำแผลที่โรงพยาบาลกันก่อน ถ้าเกิดเป็นรอยแผลเป็นก็คงแย่”พอพูดถึงบาดแผลบนใบหน้า คุณหญิงลู่พลันกรีดร้องอย่างกระวนกระวายเธอชี้หน้าหลูซี “เขาคนนี้ เด็กอันธพาลคนนี้เป็นคนทำร้ายฉัน ทุบตีลูกชายฉันจนหมดสติ พวกคุณรีบจับเขาไว้สิ”หลูซีกอดกระบี่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 402

    ไม่กี่คนเหล่านั้นถึงกระทั่งหายใจไม่ทันและก้าวถอยหลังทุกคนเขายืนกลางกลุ่มบอดีการ์ดและกวาดสายตาดำสนิททอดมองแต่ละคนคนที่ยังไม่หมดสติ เขาจะกระทืบกระดูกซี่โครงให้หักจนผู้นั้นไม่สามารถลุกคลานได้ส่วนผู้ที่เพิ่งได้สติ ครั้นเห็นเขาเตะกระดูกซี่โครงคนอื่นก็เอียงคอแกล้งหมดสติหลับไปคน ๆ นี้โหดเหี้ยมเกินไปทั้งที่เป็นแค่ชายหนุ่มไม่โตเต็มวัย ไม่คิดเลยว่าจะลงมือโหดร้ายขนาดนี้มั่วฝานเห็นเย่มู่มู่เป็นห่วงสภาพการต่อสู้ จึงยิ้มแย้มกล่าว “ท่านเทพวางใจได้ หลูซีเติบโตในสนามรบตั้งแต่เด็ก เป็นตัวเลือกจากหนึ่งหมื่นคน ต่อกรกับพวกขี้เมาหยำเปเหล่านี้แม้ใช้มือเดียวก็เอาชนะได้!”เย่มู่มู่มองอย่างตกตะลึงอ้าปากค้าง เป็นเวลาพักใหญ่กว่าเธอจะรู้สึกตัวอีกครั้งเธอยกนิ้วโป้งให้มั่วฝาน “ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริง ๆ !”นี่แหล่ะคือหน่วยกล้าตายที่ตระกูลมั่วชุบเลี้ยง!หน่วยกล้าตายในสมัยโบราณ ฆ่าคนโดยไม่ให้ใครมองเห็นได้จริง ๆทักษะสังหารฉับไวเฉียดขาดเยี่ยงนี้ ทุกวันนี้สูญหายไปนานแล้วและหลูซีที่ผ่านการต่อสู้กับผู้คนมานับร้อย ถูกคัดมาจากแต่ละระดับ ถ้าไม่แข็งแกร่งมากพอ ไม่โหดเหี้ยมมากพอ...เขาตายนานแล้ว!ไม่มีชีว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 401

    “เจ้า พวกเจ้ามาได้อย่างไร? จ้านเฉิงอิ้นล่ะ? ข้าได้ยินว่าเขาบาดเจ็บหนักจนหมดสติ”“จ้านเฉิงอิ้นบาดเจ็บสาหัสหรือไม่?”มั่วฝานกับหลูซียืนขึ้นมั่วฝานยิ้มจนมุมปากแทบเบี้ยวเขาทอดถอนใจอีกครั้ง ท่านเทพหน้าตาสวยจริงเชียวเมื่อเทียบกับองค์หญิงในพระราชวัง ท่านเทพมีหน้าตาสวยกว่าทุกคนเขาตอบกลับด้วยความสุภาพเป็นอย่างยิ่ง“ท่านเทพวางใจได้ หมอประจำกองทัพห้ามเลือด พันแผลและป้อนยาทันเวลา…เพียงพักผ่อนราวเดือนกว่าอาการก็จะดีขึ้น!”“เช่นนั้นแล้วพวกเจ้ามาได้อย่างไร?”มั่วฝานตอบกลับ “พวกข้าไม่รู้เช่นกัน แม่ทัพใหญ่ดึงข้าไว้ จากนั้นก็ปรากฏอยู่ที่นี่เลย”ขณะที่เย่มู่มู่ยังอยากถามไถ่ศึกสงครามช่องเขาเป้าเสีย…ลู่ฉีหยางเห็นเขาสองคนเพิกเฉิยตนอย่างสิ้นเชิงและยังพูดคุยกันอย่างถูกคอ จึงกล่าวขึ้นอย่างโมโหจัด “พอสักที หุบปากให้หมด!”ลู่ฉีหยางตะโกนใส่บอดี้การ์ดหน้าประตู “มีใครอยู่บ้าง มาจับคนแต่งกายเลียนแบบต้นฉบับสองคนนี้ออกไปจัดการหนัก ๆ หน่อย!”“ผมไม่สนใจหรอกว่าพวกคุณมาจากที่ไหน เมื่อมาทำลายเรื่องของผม จะไม่ให้บทเรียนพวกคุณสักหน่อยก็คง…”ลู่ฉีหยางยังกล่าวไม่จบ บอดี้การ์ดที่นำหน้าเพิ่งเข้ามาใกล้แต่ยังไม่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 400

    ไม่ หากให้พูดอย่างชัดเจนเลยก็คือ แจกันส่งคนได้แล้วจ้านเฉิงอิ้นดีใจเป็นอย่างยิ่งหลังหายใจเพียงแพล็บเดียวเท่านั้น เขาก็กลับมาไม่วางใจอีกครั้ง ไม่แน่ใจว่ามั่วฝานถูกส่งไปยังโลกของท่านเทพจริง ๆ หรือเปล่าเขาฟังเสียงที่แว่วมาจากแจกันอย่างตั้งใจเป็นอย่างที่คิด เขาได้ยินเสียงโหวกเหวกแหลมจี๊ดคุยโวโอ้อวดของมั่วฝาน“ข้า ข้าถูกส่งมาที่ใด? เทพยดาปีศาจทุกองค์ฟังนะ ข้าเป็นหลานชายของขุนนางชั้นสูงที่สืบทอดตระกูลมั่วแห่งแคว้นต้าฉี่...”ทันใดนั้น มั่วฝานก็เปลี่ยนคำพูด ราวกับพบบุคคลที่น่าอัศจรรย์อะไรเข้า“เอ๊ะ ท่าน ท่านหน้าตาละม้ายคล้ายรูปปั้นเสมือนในวัดเลยนี่!”ทันใดนั้นมั่วฝานก็ตะโกนเรียกด้วยความดีใจปนความตกตะลึง“ท่าน...ท่านเทพ ท่านคือท่านเทพจริง ๆ ด้วย...”ครั้นได้ยินถึงตรงนี้ จ้านเฉิงอิ้นก็วางใจอย่างสมบูรณ์มั่วฝานกับหน่วยกล้าตายของเขา ไม่ได้ถูกส่งตัวไปผิดโลก ทว่าถูกส่งไปข้างกายท่านเทพแม้มั่วฝานจะมีหลายครั้งที่เชื่อถือไม่ได้ ทว่าก็ปกป้องท่านเทพได้แน่มิหนำซ้ำหน่วยกล้าตายข้างกายเขา เป็นยอดฝีมือที่ผ่านการเลือกหลายชั้น และเป็นยอดฝีมือไร้เทียมทานเพีบงแต่ จ้านเฉิงอิ้นโทษที่ตัวเองได้รับบ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 399

    หลังจ้านเฉิงอิ้นหมดสติไปอีกครั้ง มั่วฝาน จวงเหลียงและบรรดาทหารผ่านศึกที่ป่วยวุ่นวายอลหม่านไปหมดในวินาทีสำคัญ กลับหาตัวซ่งอวิ๋นฮุยไม่เจอทุกคนย้ายตัวจ้านเฉิงอิ้นออกมาจากถนนลูกรัง แล้วนำเขาไปวางไว้บนพื้นเรียบในบรรดาผู้บัญชาการของทัพแคว้นเยี่ยนของเซี่ยเวย มีทหารผ่านศึกนายหนึ่งชำนาญศาสตร์การแพทย์ เป็นหมอประจำกองทัพที่ติดตามทัพเขาพกเข็มสำหรับการฝังเข็มและครอบแก้ว ผ้าพันแปล และสมุนไพรบางส่วนติดตัวมาด้วย...เขาจับชีพจรจ้านเฉิงอิ้นก่อน จากนั้นก็เป็นอันต้องขมวดคิ้วตามมามั่วฝานกับจวงเหลียงจ้องเขาตาไม่กะพริบ พร้อมเอ่ยถามอย่างกระวนกระวายใจ “เป็นอย่างไรบ้าง?”ทหารผ่านศึกตอบ “ยังทันขอรับ ปกติร่างกายของท่านแม่ทัพก็ดีอยู่แล้ว ยังช่วยชีวิตได้!”ทั้งสองคนถอนหายใจเบา ๆ เฮือกหนึ่ง!หมอประจำกองทัพจุดตะบันไฟ เผาเข็มรอบหนึ่ง จากนั้นก็ทิ่มเข้าไปในจุดฝังเข็มบนร่างจ้านเฉิงอิ้น เพื่อห้ามไม่ให้เลือดออกตรงมุมปากของจ้านเฉิงอิ้นไม่มีเลือดออกมาอีกตรงบาดแผลใช้เหล้ามาฆ่าเชื้อ ก่อนจะพันด้วยผ้าพันแผลสุดท้ายก็ยัดยาลูกกลอนเม็ดเล็ก ๆ สีดำเม็ดหนึ่งเข้าไปในปากของจ้านเฉิงอิ้น...หลังทำทุกอย่างเสร็จ ก็จับชีพ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 398

    เขาไม่อยากเสียโอกาสนี้ไปแต่งงานกับเย่มู่มู่เป็นวิธีแก้สถานการณ์เพียงวิธีเดียวก่อนมาที่นี่ เขาเคยคิดว่าเย่มู่มู่เป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ หรือไม่ก็เป็นผู้หญิงที่หน้าตาธรรมดาไม่ได้สะดุดตาอะไรหรืออาจเป็นผู้หญิงที่ชอบเขาตั้งแต่แรกเห็น และคลั่งไคล้เขาตั้งแต่เด็กเขาเคยเห็นผู้หญิงพรรค์นี้มามากมายหากเป็นแบบนี้จริง ๆ ก็จัดการง่ายแล้วเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่า เย่มู่มู่จะสวยและมีความคิดเป็นของตัวเองขนาดนี้สิ่งที่ทำให้เขายากจะรับได้ก็คือ เย่มู่มู่ไม่ชอบเขาใช่แล้ว เขาจะบอกว่าชอบเย่มู่มู่ตั้งแต่แรกพบไม่ได้ทว่าครั้งแรกที่เห็นก็ตกตะลึงในตัวเธอ และมีความรู้สึกดี ๆ เลยเขาไม่สามารถรับได้ว่าเย่มู่มู่กลับไม่ชอบเขาหากไม่ชอบเขา แล้วลู่ซื่อกรุ๊ปจะแก้สถานการณ์อย่างไรเขาขยันขนาดนี้มาตั้งแต่เด็ก แข่งขันกับพี่ใหญ่มาสารพัดอย่าง ยังไม่ทันถึงนาทีสุดท้าย หรือว่าจะต้องยอมแพ้แล้วงั้นเหรอ?ไม่ เขาจะไม่ยอมแพ้เป็นอันขาดเย่มู่มู่ไม่มีทางไม่ชอบเขา!เห็นใบหน้าของลู่ฉีหยางคล้ำดำหมองไปหมด แล้วเข้ามาใกล้เธอ ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆเย่มู่มู่กอดแจกันขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว หลับอยู่ในซอกห้องรับแขก“นี่ นี่พวกคุณกำล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 397

    “ขอโทษด้วยจริง ๆ ฉันรับเอาไว้ไม่ได้...”เย่มู่มู่ปฏิเสธลู่ฉีหยางอย่างมีเหตุผลเต็มประดาครั้นลู่ฉีหยางได้ยินประโยคนี้ นิสัยเดิมก็เผยออกมาเขาสะบัดดอกไม้ไปบนพื้นอย่างแรงในทันใด กลีบดอกไม้ร่วงอยู่เต็มพรมและพื้นท่าทีสดใสงดงามในทีแรก สีหน้าพลันเปลี่ยนไปเป็นขึงขังอย่างไร้ที่เปรียบ “เธอปฏิเสธฉันเหรอ?”เขากล่าวถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยียบน่าขนลุกเย่มู่มู่หลบไปข้าง ๆ เธอกลัวลู่ฉีหยางเล็กน้อยคนคนนี้เปลี่ยนสีหน้าเร็วกว่าเปิดหน้าหนังสือเสียอีกหลังจากนั้น ลู่ฉีหยางก็แสยะยิ้ม“เย่มู่มู่ ฉันให้เกียรติเธอ ถึงได้ให้เธอเป็นแฟนของฉัน เธอคิดว่า ตอนนี้เธอยังมีทางเลือกอีกเหรอ?” หลังจากนั้นลู่ฉีหยางก็ดีดนิ้วทีหนึ่งบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่นอกห้อง เข้ามาภายในห้องทั้งหมด พวกเขายืนตั้งแถวอยู่ตรงหน้าประตู ขวางทางออกทางเดียวของเย่มู่มู่เอาไว้ครั้นเย่มู่มู่เห็นภาพฉากนี้ ก็แอบคิดในใจจบเห่แล้วเดิมทีลู่ฉีหยางกับแม่เขาไม่ใช่คนสุภาพอะไรแม้จะบอกว่าเป็นบุคคลในสังคมชั้นสูง ปีนขึ้นมาได้ถึงตำแหน่งในตอนนี้ วิธีการต้องสกปรกโสมมกว่านักธุรกิจธรรมดาไม่เช่นนั้น พวกเขาคงไม่มีทางหยุดรถของเธอบนถนนใหญ่ และพาตัวเ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 396

    “เครื่องประดับชุดนี้ ฉันประมูลมาจากงานประมูลสี่ร้อยล้าน”“ฉีหยางเจ้าลูกตัวแสบนั่น บอกว่าในงานเลี้ยงครบรอบสาขาย่อยคราวก่อน ไปทำให้เธอโกรธเข้า ถึงขั้นที่เธอออกไปโดยไม่ลา และทิ้งเขาไว้ที่งานเลี้ยง”“เรื่องนี้เขาเป็นคนผิด ควรขอโทษเธอ เครื่องประดับชุดนี้ ถ้าเธอรับเอาไว้ น้าก็จะทำเป็นว่าเธอให้อภัยเขาแล้ว”พูดพลางคุณหญิงลู่ก็ดันกล่องไปให้เย่มู่มู่เย่มู่มู่มองอย่างไม่แยแสทีหนึ่ง จากนั้นก็รีบชักสายตากลับไปแม้เครื่องประดับชุดนี้จะราคาแพงมาก แต่ใช่ว่าในตู้เซฟของแม่เธอจะไม่มีและเครื่องประดับที่จ้านเฉิงอิ้นส่งให้เธอ ทั้งราคาแพงและหายากกว่าชุดสร้อยพลอยชุดนี้กว่าเยอะเธอไม่ได้รับเอาไว้ และดันกล่องกลับไปอีกครั้ง“คุณน้าเกรงใจเกินไปแล้วค่ะ เรื่องนี้ฉันเองก็มีส่วนผิด วันนั้นฉันไม่ควรไปร่วมงานเลย!”“และฉันเองก็คิดไม่ถึงว่า เขาจะวางแผนใหญ่โตขนาดนี้รอหนู”คำพูดที่เย่มู่มู่กล่าวออกมานี้ คุณหญิงไม่อยากที่จะได้ยินเลยสักนิดสำหรับเธอนั้น ลู่ฉีหยางลูกชายของเธอผลการเรียนยอดเยี่ยมมาตั้งแต่เด็ก ไม่ทำให้เธอเป็นกังวล ในแวดวงบรรดาเศรษฐินีเขาคือลูกบ้านอื่นมาตั้งแต่เด็กหน้าตาเขาหล่อเหลา ผลการเรียนดีเย

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status