แชร์

บทที่ 356

ผู้เขียน: มู่โร่ว
เซี่ยเวยและคนอื่น ๆ ต่างก็ดีใจจนน้ำตาไหล

ท่านแม่ทัพช่างมีเมตตา อย่าว่าแต่ให้พวกเขาไปกำจัดกองทัพธงเหลือง

หากวันหนึ่ง ท่านแม่ทัพสั่งให้พวกเขาไปกำจัดหกแคว้น

พวกเขาจะไม่พูดอะไรสักคำ พุ่งทะยานอยู่แถวหน้า ฝ่าฟันเข้าสู่สมรภูมิรบ

จ้านเฉิงอิ้นสั่งให้หลี่หยวนจง เปี้ยนจื่อผิง อู๋ซานหลาง หลินต้าจวิน... สี่แม่ทัพเก่าแก่ประจำอยู่ที่ด่านเจิ้นกวน

เฉิงจื่อเซียวและอู๋ลี่ และคนอื่น ๆ หากมีเรื่องใด ให้ปรึกษากับทั้งสี่

พวกเขามีประสบการณ์การรบมากมาย มีความสามารถในการเป็นผู้นำ

พวกเขารักษาการณ์ที่ด่านเจิ้นกวน แม้ว่าเผ่าหมาน แคว้นฉู่ แคว้นฉีจะลอบโจมตีอีกครั้ง ก็เป็นเรื่องยาก

แม่ทัพเก่าแก่ที่เหลือ จะตามจ้านเฉิงอิ้นกลับเมืองหลวง

หลี่หยวนจงอายุสี่สิบกว่าปี เป็นแม่ทัพเก่าแก่ ติดตามบิดาประจำอยู่ที่ชายแดนมาหลายปี เป็นคนที่บิดาค่อย ๆ สนับสนุนและผลักดันขึ้นมาเองตลอดทาง

เขามีประสบการณ์ในการรบอย่างโชกโชน ร่วมกับหลินต้าจวินนำกองกำลังกบฏชาวนา ปกป้องทิศตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ไว้ได้

อู๋ซานหลางและเปี้ยนจื่อผิงกับเฉิงจื่อเซียว และคนอื่น ๆ รักษาการณ์ประตูเมืองทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

หลังจากแบ่งจำนวนคนเสร็จแล้ว
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 357

    เย่มู่มู่ได้รับภาพเหมือนของจ้านเฉิงอิ้นเป็นสิ่งแรกแม่ทัพหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาค่อนข้างผอม สวมชุดเกราะสีเงิน มือถือดาบม่อเตา ยืนตระหง่านอยู่บนกำแพงเมืองเขามัดผมหางม้าสูง ที่กลางหน้าผากมีไรผมแหลมเป็นเอกลักษณ์งดงาม ดวงตาลึกล้ำที่แม้ไม่แสดงความโกรธ แต่ก็เปี่ยมไปด้วยอำนาจน่าเกรงขามแม้จะเป็นเพียงการร่างภาพอย่างหยาบ ๆ แต่ก็สามารถลายเส้นให้เห็นถึงใบหน้าที่ได้รูปและเรียวบางของเขาได้อย่างชัดเจนเขาเป็นแม่ทัพหนุ่มที่สง่างามและหล่อเหลาแตกต่างจากภาพวาดที่รองผู้อำนวยการจางส่งมาโดยสิ้นเชิงเย่มู่มู่ถ่ายภาพเหมือน แล้วส่งไปให้รองผู้อำนวยการจางประโยคแรกที่เขาพูดคือ “เป็นไปไม่ได้! จ้านเฉิงอิ้นไม่มีทางหล่อขนาดนี้!”“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้? เขาเป็นแม่ทัพหนุ่มที่มีชื่อเสียงโด่งดังในประวัติศาสตร์ หากไม่ใช่เพราะปีแห่งความอดอยาก การล่มสลายของแคว้นต้าฉี่เร็วเกินไป ชื่อเสียงของเขาจะเทียบได้กับก้วนจวินโหว ฮั่วชวี่ปิ้ง”“ฮั่วชวี่ปิ้งต้องเป็นคนหล่อเหลาอย่างแน่นอน เพราะทั้งครอบครัวล้วนเป็นคนหน้าตาดี จ้านเฉิงอิ้นจะเทียบได้อย่างไร?”“เอาเถอะ ภาพวาดนี้ของฉันคือภาพเหมือนของจ้านเฉิงอิ้นของจริง คุณนำไปแขวน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 358

    เธอไม่รู้ว่าน้ำเหล่านี้ จะสามารถเติมเต็มถ้ำใต้ดินได้หรือไม่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ระดับน้ำของทะเลสาบพันเกาะอยู่ในระดับปลอดภัยแล้วระดับน้ำยังคงสูงกว่าช่วงก่อนน้ำเอ่อล้น และยิ่งไปกว่านั้น ช่วงดึกคืนนี้ยังมีพายุฝนกระหน่ำอีกหนึ่งรอบเธอจึงเร่งสูบน้ำ เติมน้ำลงในแจกันอย่างรวดเร็วจนกระทั่งเหงื่อออกที่หน้าผาก แผ่นหลังเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อหรือน้ำฝน จึงหยุดเธอรู้สึกว่ายังไปไม่ถึงขีดจำกัด ยังสามารถเติมน้ำต่อไปได้เตรียมพักสักครู่แล้วค่อยส่งน้ำต่อ*จ้านเฉิงอิ้นนำแม่ทัพของกองทัพตระกูลจ้าน มองดูน้ำไหลบ่ารุนแรงดุจคลื่นยักษ์หลั่งไหลลงมาอย่างไม่ขาดสายไม่นานนัก น้ำก็ล้นออกมาจากปากถ้ำโชคดีที่ตอนที่พวกเขาก่อสร้าง ได้เชื่อมต่อแม่น้ำทุกสายเข้าด้วยกันน้ำที่ล้นออกมาจากปากถ้ำ จะไหลลงสู่แม่น้ำแม่น้ำทุกสายเชื่อมต่อกันแม้แต่ในเขตที่อยู่อาศัยของชาวเมือง ก็มีการขุดบ่อน้ำใต้ดินขนาดใหญ่ ปากบ่อมีขนาดเท่าปากบ่อน้ำ ด้านล่างลึกและกว้าง สามารถเก็บน้ำได้มากปากถ้ำยังคงระบายน้ำต่อไป...จนกระทั่งมีคนขี่ม้ามาอย่างเร่งรีบ ใบหน้าเต็มไปด้วยความดีใจ และตะโกนเสียงดัง“ท่านแม่ทัพ แม่น้ำ แม่น้ำทุกสายเต็มแล้ว”

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 359

    ฝูงวัวมองดูลูกวัวตัวน้อยหายตัวไป พวกมันร้องมอ ๆ ด้วยความตื่นตระหนก พยายามค้นหาลูกวัวแต่กลับพบว่า เจ้าตัวเล็กหายไปอย่างไร้ร่องรอยทันใดนั้น ฝูงวัวก็เริ่มตื่นตระหนกเย่มู่มู่จ้องมองวัวตัวใหญ่ ใช้พลังจิตส่งผ่านไปวัวตัวใหญ่หายไปจากนั้นก็สองตัว สามตัว...ห้าตัว สิบตัว...วัวสามสิบเก้าตัว หายไปทั้งหมดบนพื้นเหลือเพียงมูลวัวสองสามก้อน เป็นหลักฐานว่าพวกมันเคยอยู่ที่นี่เย่มู่มู่รีบนำพลั่วมาตักมูลวัว ใส่ลงในแปลงดอกไม้ แล้วใช้น้ำฉีดล้างรอยในไม่ช้า ลูกหมูตัวเล็ก ๆ และแม่หมูยี่สิบกว่าตัวก็ถูกส่งมาที่ส่งมาช้าไปหลายวัน ก็เพราะเย่มู่มู่ขอให้ตอนลูกหมูตัวผู้เหลือแม่หมูไว้สองตัว พ่อหมูหนึ่งตัว ส่วนลูกหมูตัวผู้ที่เหลือตอนทั้งหมดหมูฝูงนี้ถูกส่งมาเร็วกว่า ใช้วิธีขนส่งในคราวเดียวเธอตักมูลวัวและล้างพื้นต่อ...ทำทุกอย่างเสร็จสิ้น เลิกงานได้!*จ้านเฉิงอิ้นกำลังอยู่ในห้องโถงหารือ มองดูกระบะทรายจำลองภูมิศาสตร์เขาจากไปคราวนี้ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้กลับมาที่ด่านเจิ้นกวนอีกเผ่าหมาน แคว้นฉู่ แคว้นฉี ยังคงมุ่งหมายจะทำลายด่านเจิ้นกวนตอนนี้ยังมีแคว้นเยี่ยนเพิ่มเข้ามาอีกเมื่อเขาจากไป ด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 360

    “ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”จ้านเฉิงอิ้นรีบออกจากห้องโถงหารือ แล้วเดินลงจากหอคอยรีบมุ่งหน้าไปยังทิศทางของกระโจมแต่กลับพบว่า ประตูกระโจมถูกทหารและชาวบ้านล้อมรอบจนแน่นขนัดต่างก็มองดูวัวและหมูที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน และพูดคุยกันอย่างออกรส!“หน้ากระโจมของท่านแม่ทัพ มีสินค้าปรากฏขึ้น!”“ใช่ ประหลาดใจมาก มีวัวสามสิบเก้าตัว นี่คือวัว วัวที่มีชีวิต!” “ใช่แล้ว ตอนนี้พืชพรรณเหี่ยวเฉา แม้แต่วัวของเผ่าหมานก็อดตายไปนับล้าน วัวที่มีชีวิตล้วนถูกพวกเขาสังหารกินเนื้อ แม้แต่เผ่าหมานก็ไม่มีวัวมากนัก แต่หน้ากระโจมของท่านแม่ทัพ กลับมีจำนวนมากขนาดนี้”“ยังมีหมู ลูกหมูยี่สิบกว่าตัว และแม่หมูหนึ่งตัว”“หากแม่หมูสามารถให้กำเนิดลูกหมูอย่างต่อเนื่อง เช่นนั้นต่อไปพวกเราก็จะได้กินเนื้อหมูแล้วใช่หรือไม่?”“ใช่แล้ว พวกเราสามารถปลูกผัก มีเถามันเทศและฟักทองให้กินอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้สามารถนำไปเลี้ยงหมูและวัวได้ เมื่อพวกเราเลี้ยงจนโต ก็จะได้กินเนื้อสดๆ”ในฝูงชน ไม่รู้ว่าใครตะโกน “ท่านแม่ทัพมาแล้ว!”ฝูงชนก็รีบหลีกทางออกเป็นทางเดินจ้านเฉิงอิ้นเห็นวัวสามสิบเก้าตัวต้องการจะหนีไป ดูเหมือนจะไม่คุ้นชินกับสภา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 361

    จ้านเฉิงอิ้นกลับไปที่จวน แล้วอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงกลางวันแสก ๆ ท้องฟ้าแจ่มใส จู่ ๆ ก็กลับมาอาบน้ำที่จวนพ่อบ้านอาหลี่รู้สึกฉงนเล็กน้อยทว่าเว่ยกวงพร้อมซุนหย่าปาและเสี่ยวลิ่วจื่อ ทั้งสามคนขี่รถสามล้อยกหีบเงินเข้ามาช่วงนี้ที่ด่านเจิ้นกวนเว่ยกวงเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จจนเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่งก่อนหน้านี้สวมใส่เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง มักเดินเท้าเปล่า ตั้งแต่เด็กไม่เคยใส่รองเท้ามาก่อนทว่าตอนนี้ที่เท้าสวมใส่รองเท้าผ้าใบคาร์บอนเออร์เกะ พร้อมสวมถุงเท้า เสื้อผ้าที่ห่อหุ้มร่างกายก็เป็นชุดยาวหลากสีที่เป็นที่นิยมที่สุดตรงเอวห้อยหยกสลักรูปวงแหวนที่คุณภาพไม่เลวอันหนึ่งบวกกับผู้ติดตามน้อยทั้งสองคน เสี่ยวลิวจื่อและซุนหย่าปาเองก็อยู่ในชุดผ้าแพรอย่างดีเช่นกันพวกเขามักจะเข้าออกจวนแม่ทัพเป็นประจำพ่อค้าผู้มั่งคั่งที่สายตาหลักแหลม ต่างเดาความข้องเกี่ยวระหว่างเว่ยกวงกับจวนแม่ทัพออกทั้งนั้นฉะนั้น เว่ยกวยทำการค้าจนทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ!เขาได้ยินมาว่าแม่ทัพพากองกำลังหนึ่งแสนนายออกจากด่านเจิ้นกวนเสี่ยวลิ่วจื่อและซุนหย่าปาคิดว่า เมื่อด่านเจิ้นกวนมีน้ำมีอาหาร พวกเขาก็ทำเงิ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 362

    นางไม่เพียงช่วยเขา ช่วยด่านเจิ้นกวน กระทั่งช่วยประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั้งต้าฉี่คุณงามความดีของนางจะเลื่องลือไปชั่วกาลนาน เลื่องชื่อไปเป็นหมื่นปี!เพียงแต่ เขาเสียดายเป็นอย่างยิ่ง ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถพบกับท่านเทพได้สักครั้งครั้นเขาเดินออกมาจากลาน ก็เห็นหีบเงินสองสามหีบวางอยู่บนพื้นเขานำเงินส่งเข้าไปในแจกันจากนั้นก็เข้าไปในโกดังภายในโกดังมีหีบเงินกองอยู่สิบกว่าหีบ เขาส่งเข้าไปในแจกันทั้งหมดราวกับระบายความเดือดดาล*เย่มู่มู่หอบแจกันขึ้นมาจากห้องใต้ดินชั้นสองของโบราณที่อยู่ในห้องใต้ดินมีเยอะเกินไป เธอทำความสะอาดทีละชิ้น ๆ ลำบากเป็นอย่างมากฉะนั้นเธอจึงพัฒนาโดยการใช้แจกันช่วยสะสางใช่แล้ว ส่งกระแสจิตให้แจกันแยกประเภทเครื่องประดับทองคำและเครื่องหยกเธอสั่งตู้เซฟมาเพิ่มเติมอีกสิบกว่าตู้ เป็นตู้เซฟที่มีล้อด้านล่าง เมื่อใส่จนเต็มหนึ่งตู้ ก็จะลากมาวางไว้หน้าปากบันไดส่วนของโบราณที่สูงครึ่งเมตร เก็บเอาไว้อย่างดีในตู้เซฟทั้งหมดหลังจากนั้นก็กองตู้เซฟแต่ละตู้เอาไว้ในห้องโฮมเธียเตอร์เธอใช้เวลาสองชั่วโมงกว่าถึงจะย้ายเสร็จ กว่าจะจัดการชั้นบนเสร็จไม่ง่ายเลยสุดท้าย...เธอเห็นลังใ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 363

    ไม่ใช่แค่บรรดาชาวบ้านเท่านั้นที่ร้องไห้ฮือ ๆกระทั่งบรรดาทหารที่มาร่วมส่งเองแต่ละคนก็น้ำตาตกเช่นกันพวกอู๋ลี่สองสามคนกุมมือของเฉินอู่เอาไว้ ไม่อยากปล่อยหากไม่ใช่เพราะเฉินอู่ บางทีพวกเขาอาจกลายเป็นตัวรับดาบของการต่อสู้กันระหว่างกองทัพธงเหลืองและกองทัพลู่เจ๋อไปนานแล้วขณะที่ทั้งสองกองทัพดึงพวกเขาไปเป็นพวก กล้าสัญญาทุกอย่างเลื่อนตำแหน่งเป็นขุนนาง ได้แต่งตั้งเป็นโหวได้เข้าพบเสนาบดีตัวพวกเขาล้วนไม่ใช่โหวและเสนาบดี จึงเอ่ยคำโกหกออกมาได้เฉินอู่เป็นคนพาพวกเขามาที่ด่านเจิ้นกวน ให้พวกเขาได้กินข้าว ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงกลายเป็นเหยื่อสังเวยการต่อสู้กันของทั้งสองกองทัพไปนานแล้ววันนี้ต้องแยกย้ายกันแล้ว พวกเขาต่างพากันร้องไห้โฮ ตัดใจให้เฉินอู่ไปไม่ได้ขณะเดียวกันพวกเขาก็เต็มไปด้วยความเคียดแค้นต่อฮ่องเต้น้อยหากไม่เอาพ่อแม่ของเขามาขู่ สหายเฉินอู่จะถูกควบคุมหรือ?ฮ่องเต้น้อยไร้ซึ่งความเป็นคนเกินไปแล้วขณะจ้านเฉิงอิ้นพาคนไป อู๋ลี่ลอบมาหาเขาเป็นการส่วนตัว บอกว่ายอมก่อกบฏโค่นฮ่องเต้น้อยกับเขาทว่าจ้านเฉิงอิ้นกลับกำชับให้เขาฝึกซ้อมทหารให้ดีภายภาคหน้าอาจมีโอกาสต้องลงสนามรบครั้นแม่ทัพใหญ่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 364

    เขาส่งแท็บเล็ตไปให้ “มีโจรขี่ม้าออกปล้น พวกเขาล้อมพวกเราเอาไว้!”จ้านเฉิงอิ้นมองภาพที่อากาศยานไร้คนขับถ่ายได้เป็นเผ่าหมาน...แต่ไม่ใช่ทหารเบื้องล่างหลัวซู่ แม้นายทหารเผ่าหมานของหลัวซู่จะเกียจคร้าน แต่ก็ล้วนสวมใส่ชุดเกราะที่ยึดมาได้หลากหลายที่น้อยที่จะสวมเสื้อผ้าปะขาดรุ่งริ่งพร้อมถือมีดมาปล้น“โจรขี่ม้าออกปล้น?”“ใช่ ไม่ใช่เพียงแค่โจรขี่ม้าออกปล้นจากเผ่าหมาน แต่ยังมีชาวบ้านที่ใช้ชีวิตอยู่ในแคว้นฉู่ แค้วนฉีและแคว้นเยี่ยนไม่ได้อีกด้วย จำนวนคนของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ว่ากันว่ามีหนึ่งแสนกว่าคนแล้ว และยังมีคนหนุ่มอีกมากมายเข้าร่วมกองโจรขี่ม้าออกปล้นทุกวัน”“พวกเขาอยู่ในทุ่งหญ้า คิดจะชิงอำนาจปกครองของหลัวซู่อยู่หลายครั้ง ทว่าไม่สำเร็จ”“แน่นอนว่าคนกลุ่มนี้ก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไร เข้ายึดครองทุ่งหญ้า วัว แกะและม้าของคนเลี้ยงสัตว์ เหตุใดคนมากมายถึงเข้าร่วมกับพวกเขา เนื่องจากเมื่อปล้นมาได้แล้วก็จะฆ่าม้า ฆ่าวัว ฆ่าแกะกินเนื้อ ไม่ได้เลี้ยงแกะหรือวัวก็ฆ่าคน”“ทุกที่ที่ไปถึงไม่มีใบไม้ต้นหญ้างอกงามแม้แต่ต้นเดียว”“หลัวซู่ทำลายพวกเขาไม่ได้ และทำอะไรพวกเขาไม่ได้ สองสามวันก่อนพวกเขายังไม่มา

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 408

    “แม่ทัพเฉินขุย…เป็นยา ท่านเทพส่งยามาให้!”“ยาเยอะมาก ยาที่เราเก็บบนรถบรรทุกตอนแรกก็เหลือไม่มากแล้ว ทหารบาดเจ็บกำลังประสบสภาวะขาดแคลนยารักษา ไม่คิดเลย ฮ่า ๆ ๆ ท่านเทพส่งมาทันเวลาจริง ๆ !”“ดีเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมียูกยาเหล่านี้ ทหารที่บาดเจ็บก็จะได้รับการรักษาที่ทันท่วงที”“แม่ทัพล่ะ? ฟื้นหรือยัง?”“ยังเลยขอรับ แต่สัญญาณชีพคงที่แล้ว”เย่มู่มู่พลันนึกได้บางอย่าง เธอหยิบกระดาษกับปากกาขึ้นมาแล้วลงมือเขียน มั่วฝานกับหลูซีอยู่กับเธอ เธอจะดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี ขอให้พวกเขาไม่ต้องเป็นห่วงหลังจากเธอส่งข้ามไปก็ได้ยินเสียงร้องก้องกังวานของผู้ชาย“จวงเหลียง ดูเร็วเข้า มั่วฝานกับหลูซีอยู่กับท่านเทพทั้งสองคน เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้พวกเขาสุขสบายดีมาก!”“ท่านเทพจะดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี!”“ตอนนี้เมื่อรู้แล้วว่ารัฐทายาทกับหลูซีอยู่ที่ไหน ข้าก็วางใจแล้ว! เวลานี้รอเพียงแม่ทัพตื่นขึ้นมา”จวบจนฝั่งนั้นไม่ส่งเสียงใด ๆ มาอีก เย่มู่มู่จึงอุ้มแจกันขึ้นมาวางข้างที่นั่งคนขับ และกลับไปหามั่วฝานกับหลูซีที่ศูนย์การค้าเธอไปร้านที่หลูซีซื้อเสื้อผ้าก่อน แต่พบว่าไม่เห็นหลูซีเธอเข้าไปใกล้ร้านขายรองเท้าที่มั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 407

    สุดท้ายเย่มู่มู่เรียกแกร็บคาร์และส่งพวกเขาไปยังที่จอดรถของโรงแรมระดับห้าดาวหลูซีมองตึกสูงที่อยู่ด้านนอกหน้าต่างรถยนต์ด้วยแววตาที่เป็นประกายแวววับส่วนรัฐทายาทน้อยเป็นคนเข้ากับคนง่ายและเริ่มสนทนาพูดคุยกับคนขับรถ“ผู้อาวุโสท่านนี้ ท่านมีใบขับขี่หรือไม่?”คนขับรถเป็นวัยกลางคน เขาหันมามองมั่วฝานหนึ่งทีรูปร่างหน้าตาก็เหมือนคน แต่เหมือนสมองจะมีปัญหา“เด็กหนุ่มคนนี้ ถามอะไรประหลาดจริง ฉันไม่มีใบขับขี่จะกล้ามาขับแกร็บคาร์เหรอ?!”“อ๋อ เช่นนั้นแล้วใบขับขี่ของท่านได้มาอย่างไรหรือ?”“สอบไงล่ะ หาโรงเรียนสอนขับรถและจ่ายเงิน เริ่มสอบตั้งแต่ทฤษฎีเกี่ยวกับกฎจราจร 1…ง่ายมาก ฉันสอบสองเดือนก็ได้ใบขับขี่มาแล้ว!”ดวงตามั่วฝานพลันลุกวาว เขาหันมามองเย่มู่มู่“ท่านเทพ ข้าอยากสอบใบขับขี่”เย่มู่มู่ “…”*พวกเขาเดินทางมาถึงโรงแรมและขับรถกระบะออกจากที่จอดรถเย่มู่มู่ส่งมั่วฝานกับหลูซีไว้ที่ศูนย์การค้าจำหน่ายสินค้าฟุ่มเฟือยและเสื้อผ้ารองเท้ายอดนิยมโดยเฉพาะก่อน ซึ่งอยู่ข้าง ๆ โรงแรมระดับห้าดาวเธอให้พวกเขาหาซื้อเสื้อผ้าก่อน จากนั้นค่อยพากลับไปชำระล้างตัวและมีเสื้อผ้าสับเปลี่ยนที่คฤหาสน์ขนาดของศูน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 406

    หลูซียืนตรงหน้าเย่มู่มู่และพูดกับเธอ “ไม่กี่คนเหล่านั้นเคยผ่านการฝึกต่อสู้!”ผู้อาวุโส่มู่ยิ้มแย้มกล่าว “หนุ่มน้อย สายตาไม่เลวเลยนี่ พวกเขาเคยผ่านการฝึกจริง!”จากนั้น เขาหันมองมวยผมประดับกวานบนศีรษะและจี้หยกมังกรพันประดับทองตรงเอวของมั่วฝาน“เด็กหนุ่มคนนี้ ผมขอดูหยกแขวนของคุณหน่อยได้ไหมครับ…”อ๋อ เย่มู่มู่ยังคิดอยู่ว่าทำไมเขาถึงอยู่รอทั้งที่ท้องฟ้าเริ่มค่ำแล้วที่แท้วัตถุโบราณบนตัวรัฐทายาทน้อยเตะตาเขานั่นเองมั่วฝานเป็นคนฉลาดจึงรู้ว่าภูมิหลังของผู้อาวุโสท่านนี้ไม่ธรรมดาเพราะเขาผู้นี้ที่ทำให้พวกเขาออกจากสถานีตำรวจได้อย่างรวดเร็วเขาดึงหยกแขวนออกจากเอวแล้วโยนสะบัดให้ผู้อาวุโสมู่“ขอบคุณในความช่วยเหลือของท่านเมื่อครู่นี้ หยกแขวนชิ้นนี้ถือเป็นรางวัลแก่ท่าน!”เย่มู่มู่ถึงกับกระทืบเท้าอย่างร้อนใจวัตถุโบราณหยกแขวนอันเป็นมรดกสืบทอดกว่าสองพันปี ยกให้คนอื่นเปล่า ๆ อย่างนี้เลยเหรอเขารู้ไหมว่ามีมูลค่าเท่าไหร่?ช่างลูกที่ล้างผลาญเงินพ่อแม่ผู้อาวูโสมู่รับหยกแขวนไว้อย่างดีใจ ครั้นเดินมาถึงใต้เสาไฟข้างถนนก็มองดูอย่างละเอียด เป็นหยกแขวนประดับทองมีมังกรพันรอบ ปากคาบหยกแขวน หยกแขวนมีการ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 405

    “ใช่ เมื่อมีบัตรประชาชน จะไปที่ไหนก็สะดวก สามารถนั่งรถ นั่งเรือ นั่งเครื่องบิน สามารถเดินทางไกลท่องเที่ยวสุดขอบโลก สามารถไปดูทิวทัศน์ที่ต่างประเทศได้…”มั่วฝานตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง “ถ้าลงทะเบียนบ้านแล้ว ข้าก็จะกลายเป็นคนในโลกของท่านเทพ ฮ่า ๆ ๆ …ข้าจะทำ!”ถ้าจ้านเฉิงอิ้นรู้ว่าเขามีบัตรประชาชนกับทะเบียนบ้านที่เป็นของโลกท่านเทพ ต้องจุกอกตายแน่ครั้นนึกถึงตรงนี้ มั่วฝานก็หัวเราะอย่างหนำใจจะทำบัตรประชาชนต้องถ่ายรูป หลังจากพวกเขาถอดชุดเกราะและเผยชุดเกราะกันกระสุนระดับสูงข้างในออกมาภาพตรงหน้านี้ทำให้ตำรวจผู้มาช่วยถ่ายรูปยังมองตาค้างจึงรีบเรียกหัวหน้าเข้ามา…จวบจน เย่มู่มู่เปิดประวัติการซื้อเสื้อเกราะกันกระสุนบนพินซีซีให้ดูจึงยอมรับอย่างไม่ค่อยเต็มใจว่าสองสามคนนี้อยากเล่นการรบจำลอง จึงได้สวมเสื้อเกราะกันกระสุนเพื่อความสมจริงมากขึ้นบวกกับมีโทรศัพท์จากข้างบนว่าให้รีบส่งคนกลับไปโดยด่วนพวกเขาทำงานอย่างหน้าที่ก็ต้องเป็นหน้าที่และลงบันทึกเลขที่การสั่งซื้อของเย่มู่มู่แต่พอถึงเวลาแจ้งอายุ หลูซีกล่าวว่าปีนี้เขาอายุสิบเจ็ดปี แบบอายุลวงก็สิบเจ็ดปีหัวหน้าสถานีเรียกเย่มู่มู่เข้ามาพูดคุย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 404

    ทนไว้!คนทั้งกลุ่มถูกตำรวจนำตัวมายังสถานีตำรวจตำรวจยังไม่เชื่อเลยว่าหลูซีอายุน้อย ๆ กลับล้มบอดีการ์ดได้ยี่สิบกว่าคนครั้นกล้องวงจรปิดในห้องพักถูกโอนถ่ายออกมาเพราะปัญหาจากมุมกล้อง กล้องวงจรปิดจึงไม่สามารถจับภาพคนแต่งตัวเลียนแบบต้นฉบับชุดโบราณสองคนนี้เข้ามายังห้องพักชุดรับรองแบบทางการได้อย่างไรพวกเขาปรากฏตัวขึ้นได้อย่างไรแต่ทุกคนล้วนเห็นฝีมืออันฉับไวของหลูซี มันเร็วมากเสียจนกล้องวงจรปิดยังจับความเคลื่อนไหวของเขาไม่ทันมองเห็นเพียงเงาวับวาบทำบอดีการ์ดตัวสูงโปร่งยี่สิบกว่าคนล้มลงพื้นพวกเขาเห็นคนที่มีฝีมือเก่งกาจขนาดนี้เป็นครั้งแรกคุณหญิงลู่ยังร้องโวยวายต้องการให้จับตัวหลูซีกับเย่มู่มู่ทนายสวีจึงเข้ามาประกันตัวเธอบวกกับเธอเป็นผู้เสียหาย กลับเป็นคุณหญิงลู่กับลู่ฉีหยางที่มีความคิดกักขังหน่วงเหนี่ยวเธออย่างผิดกฎหมายก่อนตามมาด้วยบอดีการ์ดของพวกเขากระทำการลงมือแม้ว่าเด็กหนุ่มสองคนนี้ทำเพื่อปกป้องเย่มู่มู่และลงมือหนักไปบ้างแต่ก็ทำไปเพราะป้องกันตนเองคำพูดต้นฉบับของทนายสวีกล่าวไว้ว่า ใครจะไปรู้ว่าบอดีการ์ดเหล่านี้จะอ่อนแอปวกเปียกและไม่สู้คนถึงเพียงนี้ส่วนลู่ฉีหยางอาจเป็

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 403

    คุณหญิงลู่เห็นบอดี้การ์ดเฝ้าประตูล้มลงไปส่วนคนที่ผู้อาวุโสมู่พาเข้ามา มีสองสามคนเป็นตำรวจชุมชนของระแวกนี้เธอจึงร้องไห้อย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม ชี้ตัวเย่มู่มู่ มั่วฝานและหลูซีพร้อมกล่าวโทษ…“พวกเขาเป็นคนทุบตีลูกชายฉันจนมีสภาพเป็นแบบนี้ คุณตำรวจ ช่วยจับพวกเขาด้วยค่ะ!”“ถ้าลูกชายฉันเป็นอะไรขึ้นมา ฉันต้องการให้พวกเขาชดใช้ด้วยชีวิต!”“และยิ่งไปกว่านั้น ฉันจะไปพบท่านผู้ว่าฯเมืองกับเลขาธิการผู้ว่าฯเมือง ฉันจะยกเลิกโครงการหนึ่งหมื่นห้าพันล้านที่ลู่ซื่อกรุ๊ปลงทุนให้กับเมืองนี้!”“ถ้าพวกคุณไม่ให้คำอธิบายกับฉัน เรื่องนี้จะไม่มีวันจบ!”ผู้จัดการโรงแรมและสถานีตำรวจ คล้ายว่าได้รับโทรศัพท์จากเบื้องบน จึงรีบเร่งปลอบใจคุณหญิงลู่ที่ใบหน้ายังมีเลือดไหล“คุณหญิงอย่าเพิ่งโมโห เราเป็นสังคมที่มีอารยธรรม ใครฝ่าฝืนกฎหมายย่อมไม่ปล่อยผ่านเป็นอันขาด”“คุณหญิงลู่ เราไปทำแผลที่โรงพยาบาลกันก่อน ถ้าเกิดเป็นรอยแผลเป็นก็คงแย่”พอพูดถึงบาดแผลบนใบหน้า คุณหญิงลู่พลันกรีดร้องอย่างกระวนกระวายเธอชี้หน้าหลูซี “เขาคนนี้ เด็กอันธพาลคนนี้เป็นคนทำร้ายฉัน ทุบตีลูกชายฉันจนหมดสติ พวกคุณรีบจับเขาไว้สิ”หลูซีกอดกระบี่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 402

    ไม่กี่คนเหล่านั้นถึงกระทั่งหายใจไม่ทันและก้าวถอยหลังทุกคนเขายืนกลางกลุ่มบอดีการ์ดและกวาดสายตาดำสนิททอดมองแต่ละคนคนที่ยังไม่หมดสติ เขาจะกระทืบกระดูกซี่โครงให้หักจนผู้นั้นไม่สามารถลุกคลานได้ส่วนผู้ที่เพิ่งได้สติ ครั้นเห็นเขาเตะกระดูกซี่โครงคนอื่นก็เอียงคอแกล้งหมดสติหลับไปคน ๆ นี้โหดเหี้ยมเกินไปทั้งที่เป็นแค่ชายหนุ่มไม่โตเต็มวัย ไม่คิดเลยว่าจะลงมือโหดร้ายขนาดนี้มั่วฝานเห็นเย่มู่มู่เป็นห่วงสภาพการต่อสู้ จึงยิ้มแย้มกล่าว “ท่านเทพวางใจได้ หลูซีเติบโตในสนามรบตั้งแต่เด็ก เป็นตัวเลือกจากหนึ่งหมื่นคน ต่อกรกับพวกขี้เมาหยำเปเหล่านี้แม้ใช้มือเดียวก็เอาชนะได้!”เย่มู่มู่มองอย่างตกตะลึงอ้าปากค้าง เป็นเวลาพักใหญ่กว่าเธอจะรู้สึกตัวอีกครั้งเธอยกนิ้วโป้งให้มั่วฝาน “ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริง ๆ !”นี่แหล่ะคือหน่วยกล้าตายที่ตระกูลมั่วชุบเลี้ยง!หน่วยกล้าตายในสมัยโบราณ ฆ่าคนโดยไม่ให้ใครมองเห็นได้จริง ๆทักษะสังหารฉับไวเฉียดขาดเยี่ยงนี้ ทุกวันนี้สูญหายไปนานแล้วและหลูซีที่ผ่านการต่อสู้กับผู้คนมานับร้อย ถูกคัดมาจากแต่ละระดับ ถ้าไม่แข็งแกร่งมากพอ ไม่โหดเหี้ยมมากพอ...เขาตายนานแล้ว!ไม่มีชีว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 401

    “เจ้า พวกเจ้ามาได้อย่างไร? จ้านเฉิงอิ้นล่ะ? ข้าได้ยินว่าเขาบาดเจ็บหนักจนหมดสติ”“จ้านเฉิงอิ้นบาดเจ็บสาหัสหรือไม่?”มั่วฝานกับหลูซียืนขึ้นมั่วฝานยิ้มจนมุมปากแทบเบี้ยวเขาทอดถอนใจอีกครั้ง ท่านเทพหน้าตาสวยจริงเชียวเมื่อเทียบกับองค์หญิงในพระราชวัง ท่านเทพมีหน้าตาสวยกว่าทุกคนเขาตอบกลับด้วยความสุภาพเป็นอย่างยิ่ง“ท่านเทพวางใจได้ หมอประจำกองทัพห้ามเลือด พันแผลและป้อนยาทันเวลา…เพียงพักผ่อนราวเดือนกว่าอาการก็จะดีขึ้น!”“เช่นนั้นแล้วพวกเจ้ามาได้อย่างไร?”มั่วฝานตอบกลับ “พวกข้าไม่รู้เช่นกัน แม่ทัพใหญ่ดึงข้าไว้ จากนั้นก็ปรากฏอยู่ที่นี่เลย”ขณะที่เย่มู่มู่ยังอยากถามไถ่ศึกสงครามช่องเขาเป้าเสีย…ลู่ฉีหยางเห็นเขาสองคนเพิกเฉิยตนอย่างสิ้นเชิงและยังพูดคุยกันอย่างถูกคอ จึงกล่าวขึ้นอย่างโมโหจัด “พอสักที หุบปากให้หมด!”ลู่ฉีหยางตะโกนใส่บอดี้การ์ดหน้าประตู “มีใครอยู่บ้าง มาจับคนแต่งกายเลียนแบบต้นฉบับสองคนนี้ออกไปจัดการหนัก ๆ หน่อย!”“ผมไม่สนใจหรอกว่าพวกคุณมาจากที่ไหน เมื่อมาทำลายเรื่องของผม จะไม่ให้บทเรียนพวกคุณสักหน่อยก็คง…”ลู่ฉีหยางยังกล่าวไม่จบ บอดี้การ์ดที่นำหน้าเพิ่งเข้ามาใกล้แต่ยังไม่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 400

    ไม่ หากให้พูดอย่างชัดเจนเลยก็คือ แจกันส่งคนได้แล้วจ้านเฉิงอิ้นดีใจเป็นอย่างยิ่งหลังหายใจเพียงแพล็บเดียวเท่านั้น เขาก็กลับมาไม่วางใจอีกครั้ง ไม่แน่ใจว่ามั่วฝานถูกส่งไปยังโลกของท่านเทพจริง ๆ หรือเปล่าเขาฟังเสียงที่แว่วมาจากแจกันอย่างตั้งใจเป็นอย่างที่คิด เขาได้ยินเสียงโหวกเหวกแหลมจี๊ดคุยโวโอ้อวดของมั่วฝาน“ข้า ข้าถูกส่งมาที่ใด? เทพยดาปีศาจทุกองค์ฟังนะ ข้าเป็นหลานชายของขุนนางชั้นสูงที่สืบทอดตระกูลมั่วแห่งแคว้นต้าฉี่...”ทันใดนั้น มั่วฝานก็เปลี่ยนคำพูด ราวกับพบบุคคลที่น่าอัศจรรย์อะไรเข้า“เอ๊ะ ท่าน ท่านหน้าตาละม้ายคล้ายรูปปั้นเสมือนในวัดเลยนี่!”ทันใดนั้นมั่วฝานก็ตะโกนเรียกด้วยความดีใจปนความตกตะลึง“ท่าน...ท่านเทพ ท่านคือท่านเทพจริง ๆ ด้วย...”ครั้นได้ยินถึงตรงนี้ จ้านเฉิงอิ้นก็วางใจอย่างสมบูรณ์มั่วฝานกับหน่วยกล้าตายของเขา ไม่ได้ถูกส่งตัวไปผิดโลก ทว่าถูกส่งไปข้างกายท่านเทพแม้มั่วฝานจะมีหลายครั้งที่เชื่อถือไม่ได้ ทว่าก็ปกป้องท่านเทพได้แน่มิหนำซ้ำหน่วยกล้าตายข้างกายเขา เป็นยอดฝีมือที่ผ่านการเลือกหลายชั้น และเป็นยอดฝีมือไร้เทียมทานเพีบงแต่ จ้านเฉิงอิ้นโทษที่ตัวเองได้รับบ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status