Share

บทที่ 363

Author: มู่โร่ว
ไม่ใช่แค่บรรดาชาวบ้านเท่านั้นที่ร้องไห้ฮือ ๆ

กระทั่งบรรดาทหารที่มาร่วมส่งเองแต่ละคนก็น้ำตาตกเช่นกัน

พวกอู๋ลี่สองสามคนกุมมือของเฉินอู่เอาไว้ ไม่อยากปล่อย

หากไม่ใช่เพราะเฉินอู่ บางทีพวกเขาอาจกลายเป็นตัวรับดาบของการต่อสู้กันระหว่างกองทัพธงเหลืองและกองทัพลู่เจ๋อไปนานแล้ว

ขณะที่ทั้งสองกองทัพดึงพวกเขาไปเป็นพวก กล้าสัญญาทุกอย่าง

เลื่อนตำแหน่งเป็นขุนนาง ได้แต่งตั้งเป็นโหวได้เข้าพบเสนาบดี

ตัวพวกเขาล้วนไม่ใช่โหวและเสนาบดี จึงเอ่ยคำโกหกออกมาได้

เฉินอู่เป็นคนพาพวกเขามาที่ด่านเจิ้นกวน ให้พวกเขาได้กินข้าว ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงกลายเป็นเหยื่อสังเวยการต่อสู้กันของทั้งสองกองทัพไปนานแล้ว

วันนี้ต้องแยกย้ายกันแล้ว พวกเขาต่างพากันร้องไห้โฮ ตัดใจให้เฉินอู่ไปไม่ได้

ขณะเดียวกันพวกเขาก็เต็มไปด้วยความเคียดแค้นต่อฮ่องเต้น้อย

หากไม่เอาพ่อแม่ของเขามาขู่ สหายเฉินอู่จะถูกควบคุมหรือ?

ฮ่องเต้น้อยไร้ซึ่งความเป็นคนเกินไปแล้ว

ขณะจ้านเฉิงอิ้นพาคนไป อู๋ลี่ลอบมาหาเขาเป็นการส่วนตัว บอกว่ายอมก่อกบฏโค่นฮ่องเต้น้อยกับเขา

ทว่าจ้านเฉิงอิ้นกลับกำชับให้เขาฝึกซ้อมทหารให้ดี

ภายภาคหน้าอาจมีโอกาสต้องลงสนามรบ

ครั้นแม่ทัพใหญ่
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 364

    เขาส่งแท็บเล็ตไปให้ “มีโจรขี่ม้าออกปล้น พวกเขาล้อมพวกเราเอาไว้!”จ้านเฉิงอิ้นมองภาพที่อากาศยานไร้คนขับถ่ายได้เป็นเผ่าหมาน...แต่ไม่ใช่ทหารเบื้องล่างหลัวซู่ แม้นายทหารเผ่าหมานของหลัวซู่จะเกียจคร้าน แต่ก็ล้วนสวมใส่ชุดเกราะที่ยึดมาได้หลากหลายที่น้อยที่จะสวมเสื้อผ้าปะขาดรุ่งริ่งพร้อมถือมีดมาปล้น“โจรขี่ม้าออกปล้น?”“ใช่ ไม่ใช่เพียงแค่โจรขี่ม้าออกปล้นจากเผ่าหมาน แต่ยังมีชาวบ้านที่ใช้ชีวิตอยู่ในแคว้นฉู่ แค้วนฉีและแคว้นเยี่ยนไม่ได้อีกด้วย จำนวนคนของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ว่ากันว่ามีหนึ่งแสนกว่าคนแล้ว และยังมีคนหนุ่มอีกมากมายเข้าร่วมกองโจรขี่ม้าออกปล้นทุกวัน”“พวกเขาอยู่ในทุ่งหญ้า คิดจะชิงอำนาจปกครองของหลัวซู่อยู่หลายครั้ง ทว่าไม่สำเร็จ”“แน่นอนว่าคนกลุ่มนี้ก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไร เข้ายึดครองทุ่งหญ้า วัว แกะและม้าของคนเลี้ยงสัตว์ เหตุใดคนมากมายถึงเข้าร่วมกับพวกเขา เนื่องจากเมื่อปล้นมาได้แล้วก็จะฆ่าม้า ฆ่าวัว ฆ่าแกะกินเนื้อ ไม่ได้เลี้ยงแกะหรือวัวก็ฆ่าคน”“ทุกที่ที่ไปถึงไม่มีใบไม้ต้นหญ้างอกงามแม้แต่ต้นเดียว”“หลัวซู่ทำลายพวกเขาไม่ได้ และทำอะไรพวกเขาไม่ได้ สองสามวันก่อนพวกเขายังไม่มา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 365

    โจรขี่ม้าออกปล้นหนึ่งแสนกว่าคนไม่เคยเจอสถานการณ์แก้ยากเช่นนี้มาก่อน แม้จะเคยประมือกับกองกำลังของหลัวซู่มาหลายครั้งก็ตามและพวกเขาเองก็เคยได้เปรียบมาก่อนแต่ไม่คิดเลยว่าปล้นขบวนกลับเมืองหลวงของจ้านเฉิงอิ้น จะต้องมาเจอการบดขยี้ของรถยนต์ก่อนจากนั้นก็ถูกหน้าไม้ราชวงศ์ฉินยิงตามหลัง!มิหนำซ้ำยังลอบโจมตีพร้อมกับน้ำมันก๊าดอีกด้วย...หากถูกลูกศรยิง แม้นโจรขี่ม้าออกปล้นจะไม่ถึงขั้นถึงแก่ความตาย แต่ก็ถูกน้ำมันก๊าดแผดเผาจนเจ็บหนักอยู่ดีโจรขี่ม้าออกปล้นไม่น้อยล้มลงบนพื้นกลิ้งไปกลิ้งมาไม่หยุด พยายามดับไฟลูกใหญ่ที่แผดเผาอยู่ทว่านี่คือน้ำมันเบนซิน ไม่มีน้ำก็ดับไม่ได้ระหว่างที่โจรขี่ม้าออกปล้นไม่น้อยส่งเสียงกรีดร้องแสนเศร้ารันทดพลางกลิ้งไปมา การเผาไหม้ก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเถ้าถ่านโจรขี่ม้าออกปล้นที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่เคยเห็นคนตายอย่างน่าอนาถเช่นนี้มาก่อนพวกเขากลัวแล้ว!บางคนเกิดนึกเสียใจขึ้นมาแล้วนึกเสียใจในความวู่วามของตัวเอง เหตุใดต้องมาปล้นขบวนของจ้านเฉิงอิ้นด้วยพวกเขาไม่มีกระทั่งชุดเกราะ จะสู้จ้านเฉิงอิ้นที่มีอุปกรณ์ครบครันและทหารที่ผ่านการฝึกมาอย่างดีได้อย่างไรยิ่งไ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 366

    เมื่อคืน พวกจ้านเฉิงอิ้นเจอโจรขี่ม้าออกปล้นลอบโจมตี โชคดีที่โจรขี่ม้าออกปล้นไม่มีประสบการณ์ในการรบอะไรถูกย้อนฆ่าไปเจ็ดพันกว่าคนกองทัพตระกูลจ้านไม่ได้รับบาดเจ็บเลยสักคนเดียวเยี่ยมมาก ความอันตรายระลอกแรกผ่านไปแล้วอันที่จริงเย่มู่มู่คิดว่าโจรขี่ม้าออกปล้นเหล่านี้ตาบอดอยู่นิดหน่อย!จ้านเฉิงอิ้นคือใครกัน?เทพสงครามแห่งต้าฉี่เมื่อสองพันก่อนเลยนะ!ไม่สิ ต้องบอกว่าเป็นเทพสงครามแห่งหัวเซี่ยเขาชนะในสงครามปิดล้อมเมืองที่จำนวนคนห่างกันเป็นอย่างมาก จนเลื่องชื่อไปทั้งหัวเซี่ยโจรขี่ม้าออกปล้นกลุ่มนี้คิดไม่ตกแค่ไหน ไม่คิดเลยว่าจะลอบโจมตีเขานี่มันโยนตัวเองไปให้เขาเชือดแท้ ๆ ไม่ใช่หรือ?ในทีมของเย่มู่มู่ก็มีคนพรรค์นี้อยู่ กดทีเดียวสิบห้านัด!คริสตัลระเบิดไปเลย ช่างมัน!เย่มู่มู่เขียนจดหมายส่งให้จ้านเฉิงอิ้น “เป็นอย่างไรบ้าง? อากาศร้อนหรือไม่? พวกเจ้าตั้งค่ายที่ไหน? ปลอดภัยหรือไม่?”“ท่านเทพ ไม่ต้องเป็นกังวล ตอนนี้เราปลอดภัยดี! มีคนลาดตระเวน ตอนกลางวันเกรงว่าจะส่งจดหมายให้ท่านไม่ได้ ต้องพักผ่อนนอนหลับให้เต็มที่เพื่อเดินทาง”“ได้ เจ้าพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนเถิด ข้าไม่รบกวนเจ้าแล้ว หากต

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 367

    ภายในกระโจมของจ้านเฉิงอิ้น เฉินขุย เฉินอู่ ซ่งตั๋ว มั่วฝาน เฉินจวิ้นหลิน จวงเหลียง...ทุกคนกำลังกินไอศกรีมกันอยู่มั่วฝานมือซ้ายถือไอศกรีมรสชาติหนึ่ง มือขวาถือไอศกรีมอีกรสชาติหนึ่ง ยังไม่พอ ไม่คิดเลยว่าในอ้อมอกยังหอบไว้อีกหนึ่งกล่อง“อร่อย เย็น เนื้อเนียนละเอียด หอมหวาน นุ่ม มิหนำซ้ำยังมีรสชาติของนมเข้มข้นอีกด้วย ของกินในโลกของท่านเทพดีกว่าที่วังของแคว้นต้าฉี่เยอะ!”เฉินขุยเอ่ยผสมโรง “นั่นน่ะสิ? ครัวหลวงในวังทำไอศกรีมออกมาไม่ได้ ช่างหอมหวานเย็นชื่นใจยิ่งนัก กินไปครู่หนึ่งก็ทำให้รู้สึกเย็นไปทั่วทั้งร่าง หากของเลิศรสเช่นนี้ขายในเมืองหลวง ไม่นานได้ถูกขุนนางสูงศักดิ์ปล้นไปแน่ ๆ!”เฉินอู่กินหมดหนึ่งอันอย่างอาลัยอาวรณ์ รสชาติของไอศกรีมยังติดอยู่ที่ลิ้นเขาไม่เจือจาง“ท่านแม่ทัพ ข้าอยากเอาไปให้พวกลูก ๆ สักอัน ได้หรือไม่?”จ้านเฉิงอิ้นล้วงออกมาหนึ่งกล่อง แล้วส่งให้เฉินอู่ “เอาไปสิ”เฉินอู่รับไปทั้งดีใจออกหน้าออกตา “ขอบคุณขอรับท่านแม่ทัพ!”ครั้นเฉินขุยเห็นน้องชายเขาได้ไปหนึ่งกล่อง เขาก็มองจ้านเฉิงอิ้นตาปริบ ๆลูกบ้านเขาเยอะ ต้องชอบเช่นกันแน่ ๆแต่ก็ไม่สามารถเอ่ยปากขอเหมือนอย่างเฉินอู่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 368

    ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาได้รู้จักอานุภาพของหน้าไม้ราชวงศ์ฉินอีกครั้งแล้วในพวกเขาห้าหมื่นคน มีหนึ่งหมื่นคนที่ติดตั้งหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ทว่ายังไม่มีเวลาฝึกซ้อมก็ต้องเดินทางตามท่านแม่ทัพใหญ่กลับเมืองหลวงแล้วฉะนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าอานุภาพของหน้าไม้ราชวงศ์ฉินนั้นมันร้ายแรงเพียงใดเมื่อคืนโจรขี่ม้าออกปล้นลอบโจมตี พวกเขาห้าหมื่นคนล้วนปกป้องครอบครัวอยู่ตรงที่เดิมเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นว่ากองทัพตระกูลจ้านทำสงครามอย่างไรทุกคนต่างถูกทำให้ตกตะลึงเป็นอย่างยิ่งระลอกแรกที่โจรขี่ม้าออกปล้นเข้าโจมตี พวกเขาขี่รถยนต์ไปชนม้าก่อนโจรขี่ม้าออกปล้นที่เข้ามาโจมตีพลันสลายกองกำลัง ตกใจจนวิ่งหนีแตกกระเจิงขบวนถูกตีแตก ความน่าเกรงขามถูกบดขยี้เหลือเพียงวิ่งหนีสุดชีวิตหากอยู่ในสนามรบนี่คือสิ่งต้องห้าม ต้องมีจุดจบด้วยความพ่ายแพ้อย่างแน่นอนระลอกที่สองใช้หน้าไม้ราชวงศ์ฉิน พวกเขาถึงได้รู้ว่า ที่แท้หน้าไม้ราชวงศ์ฉินก็ยิงได้ไกลเช่นนี้อย่างไกลยิงได้หนึ่งกิโลเมตร ใกล้ที่สุดก็มีหกร้อยเมตรแม้โจรขี่ม้าออกปล้นจะวิ่งหนี ทว่าไม่สามารถหนีพ้นระยะยิงของหน้าไม้ราชวงศ์ฉินได้ในช่วงเวลาเพียงสั้น ๆ ยิ่งไปกว่านั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 369

    หลังเย่มู่มู่เลี้ยงอาหารจ้านเฉิงอิ้นเสร็จ ก็ได้รับสายของลู่ฉีหยางรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยเขาบอกว่าจะมาตอนสิบโมงเช้า ตอนนี้อีกหนึ่งชั่วโมงกว่าจะสิบโมงเช้าแล้วเย่มู่มู่หวีผมล้างหน้าแต่งตัวง่าย ๆ แต่งหน้าบาง ๆ แล้วเดินไปยังโรงจอดรถ ก่อนจะขับรถบรรทุกคันน้อยออกจากประตูไปอย่างเคยชินครั้นขับลงจากเขาไปเธอถึงพลันตระหนักขึ้นได้ว่า รถที่เธอขับมาในวันนี้คือรถบรรทุกคันน้อย!ไปรับคุณชายน้อยที่ถูกจัดอันดับอยู่ในนักธุรกิจห้าร้อยอันดับแรกรู้สึกเคอะเขินอยู่นิดหน่อย!เย่มู่มู่เองก็ขี้เกียจจะกลับไปเปลี่ยนรถสปอร์ตแล้ว จึงไปรับเขาที่สนามบินเลยหลังถึงสนามบิน เครื่องบินดีเลย์สี่สิบนาทีเย่มู่มู่ติดต่อเพื่อนร่วมเรียนในคลาสเรียนก่อนหน้านี้ คนที่ชอบพูดซุบซิบนินทาคนนั้นเธอค่อนข้างคุ้นชื่อลู่ฉีหยางเป็นอย่างดี เพราะในคลาสเรียนมีเพื่อนร่วมเรียนหญิงคนหนึ่ง เป็นแฟนคลับตัวยงของลู่ฉีหยางราวกับรับผิดชอบหน้าที่อะไรสักอย่างในองค์การนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเธอถามเพื่อนร่วมชั้นหญิงในกลุ่ม “ใครรู้จักลู่ฉีหยางบ้าง?”เพื่อนร่วมเรียนที่อยู่หอข้าง ๆ กัน คิดว่าเย่มู่มู่เองก็เป็นแฟนคลับของลู่ฉีหยางเช่นกัน จึงตอบทักทา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 370

    “เยี่ยมเลย!”พวกเขาเดินไปยังลานจอดรถด้วยกัน รถบรรทุกคันน้อยคันหนึ่งจอดอยู่ข้างบรรดารถเล็กอย่างโดดเด่นข้าง ๆ ยังเป็นซูเปอร์คาร์ที่ราคาไม่ธรรมดาอีกสองคันทีแรกลู่ฉีหยางคิดว่ารถของเย่มู่มู่ ต้องเป็นเฟอร์รารีสีแดงแน่นอนสุดท้ายเห็นเธอเดินไปข้างรถบรรทุกคันน้อย จากนั้นก็เปิดประตูแล้วฉีกยิ้มเชิญเขาขึ้นรถทันใดนั้น ลู่ฉีหยางจำต้องกลายเป็นหินไปสองวินาทีเขามองนาฬิกาข้อมือที่เย่มู่มู่สวมใส่อยู่บนข้อมืออีกครั้ง เป็นริชาร์ด มิลล์สำหรับผู้หญิงรุ่นลิมิติดอิดิชันที่มีไม่กี่เรือนบนโลก ราคามากกว่ายี่สิบห้าล้าน!ทว่ารถบรรทุกคันน้อย ไม่มีกระทั่งป้ายทะเบียน ไม่แน่ว่าจะราคาเพียงสองแสนห้าเขาฉีกยิ้มอย่างอ่อนโยนพลางเอ่ย “มู่มู่ น้องถ่อมตัวเกินไปหน่อยหรือเปล่า!”หลังเย่มู่มู่เชิญเขาขึ้นรถอย่างเคอะเขิน ก็ขับรถไปยังร้านอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในท้องที่เธอจองห้องรับรองเอาไว้ล่วงหน้าก่อนที่อาหารจะมาเสิร์ฟ ลู่ฉีหยางส่งของขวัญแสนประณีตให้เธอชิ้นหนึ่งทีแรกเย่มู่มู่ไม่อยากรับ ทว่าลู่ฉีหยางเอ่ยขึ้นว่า “รับไปเถอะ ไม่แน่ว่าสองสามวันนี้ยังต้องรบกวนน้องอีก!”หลังเย่มู่มู่รับมา ลู่ฉีหยางก็เอ่ยขึ้นอีกว่า “

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 371

    เมื่อฟ้ามืด จ้านเฉิงอิ้นให้เซี่ยเวยนำกำลังพลห้าหมื่นเฝ้าอยู่ข้าง ๆ คนในครอบครัวไม่เพียงแค่คนในครอบครัว สิ่งสำคัญคือเฝ้ารักษาเสบียงยี่สิบคันและน้ำมันยี่สิบคัน…เมื่อความมืดมาเยือน ทรายเหลืองพัดเสียงดังพรึ่บภายใต้แสงจันทร์ที่ยังส่องสว่าง จ้านเฉิงอิ้นกับเฉินขุยแบ่งกำลังพลเป็นสองฝั่ง ควบม้าใช้ทางอ้อม กำจัดทหารสะกดรอยตามหนึ่งหมื่นคนของชนเผ่าหมานได้จนเสร็จสิ้นพวกเขาแน่ใจกับตำแหน่งชนเผ่าหมาน แล้วจึงเคลื่อนพลอ้อมทางไกล จู่โจมจากค่ายประจำการของกำลังพลหนึ่งหมื่นเนื่องจากนำกำลังพลออกมาสี่หมื่น จึงโจมตีทหารเผ่าหมานได้หนึ่งหมื่นกว่าคนครั้นพบค่ายประจำการของชนเผ่าหมานและทำการซ่อนตัวใกล้ ๆ แล้วทันใดนั้น สัญญาณเตือนอันหนึ่งแตกระเบิดกลางท้องฟ้าอันมืดมิดกองทัพตระกูลจ้านเคลื่อนไหวแล้ว พวกเขาโจมตีจากสองด้าน โดยใช้หน้าไม้ราชวงศ์ฉินกำจัดคนครึ่งหนึ่งก่อนจ้านเฉิงอิ้นนำกำลังพลบุกเข้าไปเมื่ออุปกรณ์สวมใส่ของชนเผ่าหมานปะทะกับกองทัพตระกูลจ้าน มันไม่อาจให้การป้องกันได้เลยด้วยซ้ำถึงแม้ทักษะการยิงระหว่างขี่ม้าเก่งกาจก็ทำได้เพียงหลบหนี แต่ก็กลับถูกพลยิงหนูหน้าไม้ราชวงศ์ฉินที่ล้อมชั้นนอกสุดยิงตายพ

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 412

    “ลำบากท่านแล้ว เอาไปแบ่งกินกับยามที่เฝ้าเวลากลางคืนด้วยนะคะ”พี่ซุนรับถุงอาหารไปด้วยความยินดี “ได้เลย ขอบคุณมากนะครับ!”เย่มู่มู่ขับรถต่อไปจนถึงโกดัง เมื่อจอดรถเรียบร้อยแล้วมั่วฝานและหลูซีก็กระโดดลงจากรถก่อนจากนั้นเย่มู่มู่เปิดประตูรถ หยิบแจกันลงมาจากนั้น เย่มู่มู่เปิดประตูม้วนของโกดังขึ้นภายในโกดัง มีกล่องรองเท้าหลายร้อยกล่องเรียงกันอย่างเป็นระเบียบชุดสำเร็จรูปครึ่งร้านถูกบรรจุลงในกล่องกระดาษขนาดใหญ่ทั้งหมดเย่มู่มู่วางแจกันลง “แจกันนี้ดูเหมือนจะอัพเกรดได้แล้วนะ ข้าสามารถได้ยินเสียงรอบตัวจ้านเฉิงอิ้นได้!”“และยังสามารถเก็บเสบียงได้ ภายในมีพื้นที่กว้างขวาง หากจ้านเฉิงอิ้นต้องการ ก็สามารถหยิบออกมาใช้ได้ตลอดเวลา” เมื่อมั่วฝานและหลูซีได้ยินดังนั้น ก็ดีใจจนออกนอกหน้ามั่วฝานรีบถามนางทันที“ท่านเทพ ท่านหมายความว่าต่อไปนี้หากท่านแม่ทัพต้องการเสบียง ก็ไม่ต้องขับรถตามหลัง สามารถหยิบออกมาใช้ได้ทันที ใช้เสร็จแล้วก็สามารถเก็บกลับเข้าไปได้อีกหรือ?” “ใช่”เย่มู่มู่วางมือลงบนแจกัน เธอหลับตาลง สัมผัสได้ถึงพื้นที่ที่เต็มไปด้วยหมอกจาง ๆ แต่ก็กว้างขวางมาก!มั่วฝานดีใจเดินวนรอบแจกัน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 411

    “ได้ยินกันหรือเปล่า? เขาไม่มีเงินจ่ายค่าอาหารให้พวกคุณ รีบไสหัวออกไปซะ ก่อนที่จะไม่ได้ออกจากร้านนี้!”สาวงามเจ็ดแปดคนที่แต่งตัวเย้ายวนพร้อมใจกันเบะปาก ยิ้มเย้ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาและดูถูก“ดูหน้าตาก็ดูดีอยู่หรอก แต่ถ้าไม่มีเงินก็บอกมาตั้งแต่แรกสิ จะได้ไม่เสียเวลาฉัน!” “นั่นสิ อุตส่าห์มาที่ร้านแบบนี้ หวังจะเจอคนรวยหน่อย ๆ ตอนนี้แม้แต่ค่าทิปยังไม่ได้สักบาท!” “ซวยจริง ๆ ดันไปอ่อยคนจนเข้าให้!” พวกเธอพากันบิดเอวเดินจากไปอย่างไม่แยแสเย่มู่มู่กล่าวกับพนักงานร้านด้วยความรู้สึกผิด “ของพวกนี้ไม่เอาแล้วค่ะ เอาเก็บกลับไปได้เลย”จากนั้นเธอก็พามั่วฝานกับหลูซีออกมาจากร้าน และให้พวกเขาขึ้นรถบรรทุกขนาดเล็กระหว่างขับรถ เย่มู่มู่ก็เริ่มอธิบายให้สองคนจากยุคโบราณเข้าใจเกี่ยวกับกฎเกณฑ์การเอาตัวรอดในโลกยุคใหม่“สาว ๆ ที่หน้าตาสวยดูดี ไม่ควรไว้ใจ โดยเฉพาะคนที่แต่งตัวเซ็กซี่ โชว์เนื้อหนัง หรือแต่งตัวเย้ายวนเกินไป”“พวกเธอทำงานในร้านแบบนี้ ซึ่งในโลกของพวกเจ้า ก็เหมือนกับสาว ๆ ในหอนางโลมในยุคโบราณนั่นแหละ”ในยุคโบราณ หญิงสาวในหอนางโลมหลายคนถูกบีบคั้นด้วยความยากลำบากในชีวิต ต้องขายตัวเพื่อเอาชีวิ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 410

    เย่มู่มู่กับพนักงานยังคิดว่าฟังผิดเดี๋ยวก่อน~โต๊ะข้าง ๆ เป็นการรวมตัวกินข้าวของบริษัท มีตั้งหลายสิบคนและเอาโต๊ะสองสามตัวมาต่อเข้าด้วยกัน“หนุ่มน้อย สั่งมากขนาดนั้นกินหมดเหรอคะ?”พนักงานมองเด็กอายุสิบสี่สิบห้าพร้อมกล่าวด้วยความประหลาดใจ “สั่งเยอะขนาดนี้ กินทิ้งกินขว้างไม่ได้นะ”เย่มู่มู่รู้ว่าเมื่อก่อนเขามีชีวิตที่ยากลำบาก อาหารมากมายเพียงนี้กินไม่หมดแน่แต่เมื่อเขาอยากกินเลยสั่งมาให้ทั้งหมด“เอาแบบเดียวกันทุกอย่างค่ะ ถ้ากินไม่หมดค่อยห่อกลับบ้านค่ะ!”“ค่ะ รบกวนรอสักครู่!”หลังจากผ่านไปสิบกว่านาที เย่มู่มู่ตกตะลึงตาค้างที่เห็นหลูซีกินหมูหันจนหมดในเวลาเพียงสั้น ๆตอนแรกเขาใช้ตะเกียบคีบทีละแผ่นอย่างสุภาพ จากนั้นเริ่มใช้มือกินขาหมูเพียงไม่กี่นาทีเขากินหมูทั้งตัวจนหมดเกลี้ยงต่อด้วยไข่เยี่ยวม้า ปลาย่าง ห่านย่าง หัวกระต่ายตุ๋น ไก่ผัดหม่าล่า…เพียงเวลาครึ่งชั่วโมงกว่า มีจานชามใบใหญ่สิบกว่าอันวางซ้อนกันตรงหน้าเขาอาหารจานหลักทั้งโต๊ะถูกเขากินจนไม่เหลือและยังสั่งข้าวสวยเพิ่มหนึ่งถัง น้ำชาหนึ่งกา…หลังจากกินหมดแล้ว เขานั่งที่เก้าอี้อย่างสุขสบาย แหงนท้องโตและส่งเสียงเรอคำใหญ่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 409

    พี่สาวมีเงินเห็นเย่มู่มู่ช่วยเขาจ่ายค่ารองเท้าจริง ๆ เลยดึงตัวเธอไปข้าง ๆ อย่างไม่ยอมจำนนริมฝีปากสีแดงอันใหญ่ของเธอกล่าว “น้องสาว ฉันให้เธอห้าแสน เธออย่างแย่งฉันเลยนะ รูปร่างหน้าตาผิวพรรณอ่อนนุ่มของเขาแบบนี้ ฉันไม่ขาดทุนหรอก…”เย่มู่มู่กล่าวอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ไม่ได้ค่ะ!”“เธอไม่เชื่ออีกเหรอว่าฉันมีกำลัง?”พี่สาวมีเงินกัดฝันหยิบโทรศัพท์เปิดยอดเงินคงเหลือในธนาคารให้เย่มู่มู่ดูโห~ห้าร้อยกว่าล้าน!มีเงินสดหลักร้อยล้านในเมืองนี้ นับว่าเป็นกลุ่มคนชนชั้นสูงอย่างแท้จริง“น้องสาว เธออย่างแย่งฉันเลยหน่า! ฉันมีเงิน เธอสู้ไม่ไหวหรอก!”เย่มู่มู่มองหน้ามั่วฝานอีกครั้ง ริมฝีปากของเขาเป็นสีแดง ฟันขาว เกล้าผมเป็นมวยประดับกวานทองและมีปอยผมร่วงลงมาสองสามเส้นเขามีใบหน้าสวยละมุน เกิดมาในชาติตระกูลชนชั้นสูง พร้อมด้วยตำแหน่งท่านชายที่สืบทอดบรรดาศักดิ์มาจากบรรพบุรุษและมีสง่าราศีเด่นเป็นล้นพ้น!เมื่อปล่อยเขาอยู่ท่ามกลางผู้คน สามารถเป็นที่น่าจดจำได้จะว่าไปแล้ว เจ้าหนุ่มคนนี้ก็มีหน้าตาหล่อเหลาไม่เบา!ไม่แปลกใจเลยทำไมพี่สาวมีเงินถึงติดกับ“พี่คะ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ให้”“นี่คือกำลังของฉัน ฉ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 408

    “แม่ทัพเฉินขุย…เป็นยา ท่านเทพส่งยามาให้!”“ยาเยอะมาก ยาที่เราเก็บบนรถบรรทุกตอนแรกก็เหลือไม่มากแล้ว ทหารบาดเจ็บกำลังประสบสภาวะขาดแคลนยารักษา ไม่คิดเลย ฮ่า ๆ ๆ ท่านเทพส่งมาทันเวลาจริง ๆ !”“ดีเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมียูกยาเหล่านี้ ทหารที่บาดเจ็บก็จะได้รับการรักษาที่ทันท่วงที”“แม่ทัพล่ะ? ฟื้นหรือยัง?”“ยังเลยขอรับ แต่สัญญาณชีพคงที่แล้ว”เย่มู่มู่พลันนึกได้บางอย่าง เธอหยิบกระดาษกับปากกาขึ้นมาแล้วลงมือเขียน มั่วฝานกับหลูซีอยู่กับเธอ เธอจะดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี ขอให้พวกเขาไม่ต้องเป็นห่วงหลังจากเธอส่งข้ามไปก็ได้ยินเสียงร้องก้องกังวานของผู้ชาย“จวงเหลียง ดูเร็วเข้า มั่วฝานกับหลูซีอยู่กับท่านเทพทั้งสองคน เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้พวกเขาสุขสบายดีมาก!”“ท่านเทพจะดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี!”“ตอนนี้เมื่อรู้แล้วว่ารัฐทายาทกับหลูซีอยู่ที่ไหน ข้าก็วางใจแล้ว! เวลานี้รอเพียงแม่ทัพตื่นขึ้นมา”จวบจนฝั่งนั้นไม่ส่งเสียงใด ๆ มาอีก เย่มู่มู่จึงอุ้มแจกันขึ้นมาวางข้างที่นั่งคนขับ และกลับไปหามั่วฝานกับหลูซีที่ศูนย์การค้าเธอไปร้านที่หลูซีซื้อเสื้อผ้าก่อน แต่พบว่าไม่เห็นหลูซีเธอเข้าไปใกล้ร้านขายรองเท้าที่มั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 407

    สุดท้ายเย่มู่มู่เรียกแกร็บคาร์และส่งพวกเขาไปยังที่จอดรถของโรงแรมระดับห้าดาวหลูซีมองตึกสูงที่อยู่ด้านนอกหน้าต่างรถยนต์ด้วยแววตาที่เป็นประกายแวววับส่วนรัฐทายาทน้อยเป็นคนเข้ากับคนง่ายและเริ่มสนทนาพูดคุยกับคนขับรถ“ผู้อาวุโสท่านนี้ ท่านมีใบขับขี่หรือไม่?”คนขับรถเป็นวัยกลางคน เขาหันมามองมั่วฝานหนึ่งทีรูปร่างหน้าตาก็เหมือนคน แต่เหมือนสมองจะมีปัญหา“เด็กหนุ่มคนนี้ ถามอะไรประหลาดจริง ฉันไม่มีใบขับขี่จะกล้ามาขับแกร็บคาร์เหรอ?!”“อ๋อ เช่นนั้นแล้วใบขับขี่ของท่านได้มาอย่างไรหรือ?”“สอบไงล่ะ หาโรงเรียนสอนขับรถและจ่ายเงิน เริ่มสอบตั้งแต่ทฤษฎีเกี่ยวกับกฎจราจร 1…ง่ายมาก ฉันสอบสองเดือนก็ได้ใบขับขี่มาแล้ว!”ดวงตามั่วฝานพลันลุกวาว เขาหันมามองเย่มู่มู่“ท่านเทพ ข้าอยากสอบใบขับขี่”เย่มู่มู่ “…”*พวกเขาเดินทางมาถึงโรงแรมและขับรถกระบะออกจากที่จอดรถเย่มู่มู่ส่งมั่วฝานกับหลูซีไว้ที่ศูนย์การค้าจำหน่ายสินค้าฟุ่มเฟือยและเสื้อผ้ารองเท้ายอดนิยมโดยเฉพาะก่อน ซึ่งอยู่ข้าง ๆ โรงแรมระดับห้าดาวเธอให้พวกเขาหาซื้อเสื้อผ้าก่อน จากนั้นค่อยพากลับไปชำระล้างตัวและมีเสื้อผ้าสับเปลี่ยนที่คฤหาสน์ขนาดของศูน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 406

    หลูซียืนตรงหน้าเย่มู่มู่และพูดกับเธอ “ไม่กี่คนเหล่านั้นเคยผ่านการฝึกต่อสู้!”ผู้อาวุโส่มู่ยิ้มแย้มกล่าว “หนุ่มน้อย สายตาไม่เลวเลยนี่ พวกเขาเคยผ่านการฝึกจริง!”จากนั้น เขาหันมองมวยผมประดับกวานบนศีรษะและจี้หยกมังกรพันประดับทองตรงเอวของมั่วฝาน“เด็กหนุ่มคนนี้ ผมขอดูหยกแขวนของคุณหน่อยได้ไหมครับ…”อ๋อ เย่มู่มู่ยังคิดอยู่ว่าทำไมเขาถึงอยู่รอทั้งที่ท้องฟ้าเริ่มค่ำแล้วที่แท้วัตถุโบราณบนตัวรัฐทายาทน้อยเตะตาเขานั่นเองมั่วฝานเป็นคนฉลาดจึงรู้ว่าภูมิหลังของผู้อาวุโสท่านนี้ไม่ธรรมดาเพราะเขาผู้นี้ที่ทำให้พวกเขาออกจากสถานีตำรวจได้อย่างรวดเร็วเขาดึงหยกแขวนออกจากเอวแล้วโยนสะบัดให้ผู้อาวุโสมู่“ขอบคุณในความช่วยเหลือของท่านเมื่อครู่นี้ หยกแขวนชิ้นนี้ถือเป็นรางวัลแก่ท่าน!”เย่มู่มู่ถึงกับกระทืบเท้าอย่างร้อนใจวัตถุโบราณหยกแขวนอันเป็นมรดกสืบทอดกว่าสองพันปี ยกให้คนอื่นเปล่า ๆ อย่างนี้เลยเหรอเขารู้ไหมว่ามีมูลค่าเท่าไหร่?ช่างลูกที่ล้างผลาญเงินพ่อแม่ผู้อาวูโสมู่รับหยกแขวนไว้อย่างดีใจ ครั้นเดินมาถึงใต้เสาไฟข้างถนนก็มองดูอย่างละเอียด เป็นหยกแขวนประดับทองมีมังกรพันรอบ ปากคาบหยกแขวน หยกแขวนมีการ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 405

    “ใช่ เมื่อมีบัตรประชาชน จะไปที่ไหนก็สะดวก สามารถนั่งรถ นั่งเรือ นั่งเครื่องบิน สามารถเดินทางไกลท่องเที่ยวสุดขอบโลก สามารถไปดูทิวทัศน์ที่ต่างประเทศได้…”มั่วฝานตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง “ถ้าลงทะเบียนบ้านแล้ว ข้าก็จะกลายเป็นคนในโลกของท่านเทพ ฮ่า ๆ ๆ …ข้าจะทำ!”ถ้าจ้านเฉิงอิ้นรู้ว่าเขามีบัตรประชาชนกับทะเบียนบ้านที่เป็นของโลกท่านเทพ ต้องจุกอกตายแน่ครั้นนึกถึงตรงนี้ มั่วฝานก็หัวเราะอย่างหนำใจจะทำบัตรประชาชนต้องถ่ายรูป หลังจากพวกเขาถอดชุดเกราะและเผยชุดเกราะกันกระสุนระดับสูงข้างในออกมาภาพตรงหน้านี้ทำให้ตำรวจผู้มาช่วยถ่ายรูปยังมองตาค้างจึงรีบเรียกหัวหน้าเข้ามา…จวบจน เย่มู่มู่เปิดประวัติการซื้อเสื้อเกราะกันกระสุนบนพินซีซีให้ดูจึงยอมรับอย่างไม่ค่อยเต็มใจว่าสองสามคนนี้อยากเล่นการรบจำลอง จึงได้สวมเสื้อเกราะกันกระสุนเพื่อความสมจริงมากขึ้นบวกกับมีโทรศัพท์จากข้างบนว่าให้รีบส่งคนกลับไปโดยด่วนพวกเขาทำงานอย่างหน้าที่ก็ต้องเป็นหน้าที่และลงบันทึกเลขที่การสั่งซื้อของเย่มู่มู่แต่พอถึงเวลาแจ้งอายุ หลูซีกล่าวว่าปีนี้เขาอายุสิบเจ็ดปี แบบอายุลวงก็สิบเจ็ดปีหัวหน้าสถานีเรียกเย่มู่มู่เข้ามาพูดคุย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 404

    ทนไว้!คนทั้งกลุ่มถูกตำรวจนำตัวมายังสถานีตำรวจตำรวจยังไม่เชื่อเลยว่าหลูซีอายุน้อย ๆ กลับล้มบอดีการ์ดได้ยี่สิบกว่าคนครั้นกล้องวงจรปิดในห้องพักถูกโอนถ่ายออกมาเพราะปัญหาจากมุมกล้อง กล้องวงจรปิดจึงไม่สามารถจับภาพคนแต่งตัวเลียนแบบต้นฉบับชุดโบราณสองคนนี้เข้ามายังห้องพักชุดรับรองแบบทางการได้อย่างไรพวกเขาปรากฏตัวขึ้นได้อย่างไรแต่ทุกคนล้วนเห็นฝีมืออันฉับไวของหลูซี มันเร็วมากเสียจนกล้องวงจรปิดยังจับความเคลื่อนไหวของเขาไม่ทันมองเห็นเพียงเงาวับวาบทำบอดีการ์ดตัวสูงโปร่งยี่สิบกว่าคนล้มลงพื้นพวกเขาเห็นคนที่มีฝีมือเก่งกาจขนาดนี้เป็นครั้งแรกคุณหญิงลู่ยังร้องโวยวายต้องการให้จับตัวหลูซีกับเย่มู่มู่ทนายสวีจึงเข้ามาประกันตัวเธอบวกกับเธอเป็นผู้เสียหาย กลับเป็นคุณหญิงลู่กับลู่ฉีหยางที่มีความคิดกักขังหน่วงเหนี่ยวเธออย่างผิดกฎหมายก่อนตามมาด้วยบอดีการ์ดของพวกเขากระทำการลงมือแม้ว่าเด็กหนุ่มสองคนนี้ทำเพื่อปกป้องเย่มู่มู่และลงมือหนักไปบ้างแต่ก็ทำไปเพราะป้องกันตนเองคำพูดต้นฉบับของทนายสวีกล่าวไว้ว่า ใครจะไปรู้ว่าบอดีการ์ดเหล่านี้จะอ่อนแอปวกเปียกและไม่สู้คนถึงเพียงนี้ส่วนลู่ฉีหยางอาจเป็

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status