จ้านเฉิงอิ้นกล่าว “อืม ไปเรียกซื่อเมิ่งมาช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นเถอะ”“ขอรับ!”กองทัพตระกูลจ้านมีคนมาก พวกเขาเก็บกระดูกในบ้านในเรือนออกมาทุกหลังฝังไว้ตรงพื้นที่โล่งหน้าประตูเมืองทั้งหมดนักพรตประกอบพิธีช่วยให้หลุดพ้น พลทหารเผากระดาษเงินและจุดธูปสามดอกหน้าหลุมศพแต่ละหลุมของพวกเขาท่านเทพเป็นผู้ส่งกระดาษเงินมาให้ มีชื่อเรียกว่าลู่ลู่ทง บนกระดาษพิมพ์ลายจักรพรรดิหยกผู้เกรียงไกร…กระดาษเงินหนาปึก น่าจะมีใช้เหลือเฟือหลังจากเผากระดาษเงินเสร็จ บรรยากาศอึมครึมข้างในเมืองจึงบรรเทาลงไปบ้างพวกเขาออกจากเมืองและพบถ้ำแห่งหนึ่ง ตั้งใจจะเข้าไปพักด้านในครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องกางกระโจมจ้านเฉิงอิ้นยืนอยู่ทางเข้าถ้ำ สวี่หมิงกางกระโจมให้เขาหนึ่งหลังเพิ่งเข้ามาข้างในกระโจม เย่มู่มู่ก็ส่งกระดาษข้อความมาให้ “พวกเจ้ายังเหลืออีกกี่วันจะถึงช่องเขาเป้าเสีย?”“หกวัน ถ้าเดินเร็ว ไม่ถึงหกวัน!”“มั่นใจหรือว่าพวกเขาจะซุ่มโจมตี?”“ขอรับ ก่อนจะถึงด่านถงกวน ช่องเขาเป้าเสียเป็นสถานที่อันตรายเพียงแห่งเดียว เพราะว่าที่แห่งนี้ สวีหวยไม่ยอมให้กำลังพลหนึ่งแสนต้องเสี่ยงอันตราย ครั้นได้รับคำขอช่วยเหลือจากกองทัพตระก
ตลอดหลายวันการเดินทัพ กองทัพตระกูลจ้านเดินทางราบรื่นตลอดทางพวกเขาใกล้ถึงช่องเขาเป้าเสียแล้วช่องเขาเป้าเสียเป็นภูเขาสูงตระหง่าน บนเขาไม่มีพืชปกคลุม จึงเผยโขดหินสีเหลืองเปลือยเปล่าออกมาธารน้ำกลางช่องเขานั้นแห้งสนิท กลายมาเป็นถนนทางหนึ่งที่ทะลุสู่โลกภายนอกเมื่อผ่านช่องเขาป้าเสีย สภาพพื้นที่ถัดมาจะราบเรียบมากขึ้นจากช่องเขาเป้าเสียห่างออกไปห้าสิบลี้ จ้านเฉิงอิ้นหาถ้ำแห่งหนึ่งให้กองทัพใช้เป็นค่ายพักก่อนถึงช่องเขาเป้าเสีย จ้านเฉิงอิ้นกับมั่วฝานและจวงเหลียงได้ขับรถสำรวจสภาพพื้นที่รอบ ๆโดยใช้อากาศยานไร้คนขับ ถ่ายภาพสภาพพื้นดินของช่องเขาเป้าเสียเอาไว้เป็นไปตามการคาดการณ์ของจ้านเฉิงอิ้นจริง ๆในช่องเขามีคนหมอบซุ่ม ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ที่สำคัญจำนวนไม่น้อยผู้หมอบซุ่มซ่อนตัวอยู่สองข้างของช่องเขา มีคนซ่อนในช่องว่างที่มีโขดหินช่วยบังหรือซ่อนในถ้ำเล็ก ๆพวกเขาไม่รู้ว่าซ่อนมานานแค่ไหนหลายวันมานี้ กองทัพตระกูลจ้านปลอดภัยไร้กังวล ไม่เจอปัญหาและอุปสรรคใดตลอดการเดินทาง ที่แท้ก็ซ่อนตัวอยู่ที่นี่ทั้งหมดช่องเขาเป้าเสียเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการซุ่มโจมตีที่ดีที่สุดพวกเขาไม่เพียงแค่ซ
ไม่กี่คนได้ยินดังกล่าว ก็ดีใจเป็นล้นพ้นของใช้ราคาแพงเช่นนี้ แม่ทัพให้พวกเขาจริงหรือ?จ้านเฉิงอิ้นกล่าวสั่งการ “ไปเถอะ!”แม่ทัพเจ็ดท่านต่างยกมือประสานกลางอก ขอบคุณจ้านเฉิงอิ้นจากใจ“ขอบคุณแม่ทัพเป็นอย่างยิ่ง พวกเราขอตัวไปพักก่อน”พวกเขาไม่กี่คนเดินเข้าในถ้ำ หาบริเวณเงียบสงบแล้วนั่งลงจ้าวเฉียนอดไม่ได้ที่จะซาบซึ้งใจ “ดูเหมือนพวกเราเลือกเจ้านายถูกคนแล้ว!”สวีจื่อหลิงกล่าว “ตัดคำว่าดูเหมือนออกซะ! ขอถามหน่อยว่าแคว้นต่าง ๆ ในหัวเซี่ย มีผู้ใดรักทหารเหมือนบุตรของตนเช่นจ้านเฉิงอิ้นบ้าง เขาเด็กกว่าเราทุกคน แต่ไม่เคยทำตัวตระหนี่ต่อนายทหารใต้ล่าง ไม่ว่าจะเป็นของกิน ของใช้ ขอเพียงแค่เขามี เหล่านายทหารก็มีกันทุกคน”“รัฐทายาทน้อยมั่วฝานท่านนั้นก็มีของดีมากมาย เช่นลำโพงประกาศเสียง แม่ทัพใหญ่ยังไม่มีเลย! แต่ข้ามั่นใจว่าแม่ทัพใหญ่เป็นคนมอบให้เขา!”“เดินตามคนเช่นนี้ วันใดรวบอำนาจขึ้นนั่งที่สูง เขาก็จะไม่ปฏิบัติไม่ดีกับคนรอบข้าง”“พวกเราเดินตามถูกคนแล้วล่ะ ตั้งแต่เข้าด่านเจิ้นกวน ยังไม่เคยปล่อยให้ท้องหิวเลยสักครั้ง ถึงแม้การกลับเมืองหลวงจะมีระยะทางไกล แต่ข้าไม่กังวลเลยสักนิด เมื่ออยู่ข้าง ๆ เขา
เป็นเวลาหลายวันติดต่อกันที่เย่มู่มู่ไม่สนใจลู่ฉีหยางอีกเธอกำลังรอระเบิดกับอากาศยานไร้คนขับมาส่ง และเย่มู่มู่ไม่ได้จัดส่งให้จ้านเฉิงอิ้นทันทีจ้านเฉิงอิ้นต้องการใช้เมื่อไหร่ เธอค่อยส่งไปให้เสบียงมากมายเพียงนี้ โดยเฉพาะวัตถุระเบิด มันเกิดการระเบิดได้ง่ายระหว่างการเดินทัพในช่วงที่อากาศร้อนสูงวันนี้ ในที่สุดจ้านเฉิงอิ้นก็มาถึงใกล้ ๆ ช่องเขาเป้าเสียเย่มู่มู่ทำความสะอาดลานจอดรถหลังบ้านถมสวนดอกไม้เป็นพื้นเรียบ เพื่อใช้เป็นที่จอดรถคันเล็กเฉพาะรถบรรทุกยี่สิบกว่าคัน จอดที่ลานหลังบ้านอย่างเป็นระเบียบรถบรรทุกที่ปรับแต่งจากรถบรรทุกดิน ก็ถูกคลุมด้วยผ้าใบกันน้ำสีเขียวเธอวางเสบียงอาหารข้าวสารต่าง ๆ ที่จะส่งให้จ้านเฉิงอิ้นไว้ข้างล่างรถบรรทุกน้ำมันแปดคันจอดไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่หลังสวน เพื่อให้อยู่ใต้ร่มเงาได้สะดวกหลังจากจอดรถเสร็จสิ้น เธอจึงทำการจัดส่งระเบิดและอากาศยานไร้คนขับไปให้จากนั้นจัดส่งสิ่งที่จ้านเฉิงอิ้นต้องการใช้ กล้องส่องทางไกลพลุสัญญาณเปลวไฟยามค่ำคืนเธอยังสั่งซื้อเสื่อกกอีกหนึ่งแสนผืนและจะมาส่งในวันมะรืนเพราะเธอได้ยินว่ากองทัพตระกูลจ้านหนึ่งแสนคน ไม่ได้มีกระโจมให้นอ
“วางใจเถิด ตราบใดที่แม่ทัพอยู่ด้วย อย่าว่าแต่1แสนคน ต่อให้เป็นห้าแสนคนเขาก็เลี้ยงไหวเช่นกัน! เบื้องบนแม่ทัพมีคนคอยคุ้มครองเชียวนะ!”จ้าวเฉียนถาม “ใครหรือ?”“ท่านเทพไงเล่า มีเทพเจ้าอยู่เหนือศีรษะเพียงสามฟุต! ท่านเทพจะไม่ปล่อยทุกคนหิวตายแน่นอน!”เดี๋ยวนะ นี่มันเพ้อเจ้อเกินไปกระมังหากเทพเจ้ามีประโยชน์จริง แผ่นดินหัวเซี่ยจะไม่เหือดแห้ง หมื่นลี้จะไม่ตายหมด ราษฎรที่เหลือจะไม่ดิ้นรนทุรนทุรายเซี่ยเวยไม่เคยเชื่อเรื่องเทพเจ้า ถ้ามีเทพเจ้าจริง น้องชายเขาจะไม่ถูกกินและเขาจะไม่จนปัญญาหากเพียงมีเทพเจ้าอยู่จริง ท่านก็ควรร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมให้พวกเขานานแล้ว!แต่ไม่ใช่กดดันพวกเขาจนหมดหนทางเซี่ยเวยเต็มใจเชื่อมากกว่าว่าแม่ทัพต่างหากที่เป็นท่านเทพของพวกเขา…เพราะว่ารถกับเสบียงหายไปหมด จึงทำให้รู้สึกไม่สบายใจไม่มากก็น้อย!จนกระทั่งจ้านเฉิงอิ้นกล่าวขึ้น “ข้าเก็บเสบียงไว้ในที่ปลอดภัย ไว้ต่อสู้เสร็จแล้วจะนำกลับมาใหม่!”“วันนี้ขอให้ทุกคนเตรียมตัวออกศึกทั้งหมด เหลือรักษาการณ์ในถ้ำสองพันคน สมาชิกครอบครัวก็จงหยิบอาวุธขึ้นมาให้หมด!”เซี่ยเวย จ้าวเฉียนและคนอื่น ๆ ได้ยินว่าสมาชิกครอบครัวต้องถืออาว
ต่อให้ข้าศึกหน้าทางเข้าอาจซุ่มวางระเบิด แต่จะไม่เข้าไปช่วยแม่ทัพก็ไม่ได้ด้วยเช่นกันจ้านเฉิงอิ้นนำเสบียงทั้งหมดฝากเก็บไว้ที่ท่านเทพตอนนี้ ในถ้ำมีเสบียงอาหารกับน้ำเหลือเพียงสามวันสำหรับหนึ่งแสนคน แม้พวกเขาใช้อย่างประหยัด ก็ยังกินได้อีกห้าวันแต่หลังจากห้าวันแล้วล่ะ?จะทำอย่างไร?เฉินขุยกล่าว “ข้าจะพาคนออกไป ต่อให้ต้องตาย ก็ต้องรับแม่ทัพออกมา!”“ถึงแม้ว่าเราจะต้องเดินต่อไปอีกสองเดือน ก็อย่าได้เดินผ่านช่องเขาเป้าเสียนี่อีก!”ครั้นกล่าวจบ เฉินขุยสั่งทหารชั้นผู้น้อยที่บังคับอากาศยานไร้คนขับ “บินขึ้นไปก่อนสิบเครื่อง พกระเบิดไปด้วย ค้นหาตำแหน่งที่แน่ชัดของแม่ทัพ…”“จากนั้นทำการระเบิดให้เป็นทางเดิน เพื่อให้แม่ทัพออกมาสะดวก!”“ขอรับ!”มีทหารชั้นผู้น้อยบังคับอากาศยานไร้คนขับสิบเครื่อง บังคับการบินและค้นหาตามทางผ่านของช่องเขาที่จ้านเฉิงอิ้นเดินเข้าไปทันทีเพียงแต่อากาศยานไร้คนขับเครื่องแรกที่เพิ่งเข้าใกล้ช่องเขาไม่นานถูกคนใช้ธนูยิงร่วงลงมาสวบ~วินาทีที่อากาศยานร่วงตก มันพลันแตกระเบิดภายในช่องเขาทันใดจากนั้น เครื่องที่สอง เครื่องที่สาม เครื่องที่สิบ…บินขึ้นไปพร้อมกันพวกเขาบังคับ
อยู่ในยุคทุพภิกขภัยเช่นนี้ บนถนนเต็มไปด้วยกระดูกคน ชีวิตคนจึงเป็นสิ่งที่ไม่มีมูลค่าที่สุดเฉินอู่ ซั่งตั๋วและมั่วฝานต่างหยิบกระดาษข้อความมาทั้งหมดและมากันอ่านทีละใบยิ่งอ่านสีหน้าก็ยิ่งดูหนักอึ้ง!มั่วฝานตาแดงก่ำและกล่าวพร้อมความรู้สึกเจ็บปวดร้าวใจ “ข้าคิดแล้วเชียวว่าต้องมีวิธีอื่นอีกแน่ จ้านเฉิงอิ้นบอกแผนการเสร็จก็ดำเนินการทันที จวงเหลียงอยากตอบโต้แต่ก็ถูกเขาห้ามเอาไว้!”จวงเหลียงกล่าว “การสนับสนุนที่พวกเราได้รับตลอดมาราบรื่นมากเกินไป เกรงว่าแม่ทัพก็คงไม่รู้เช่นกันและคิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะมีระเบิด!”“ตอนนี้จะทำอย่างไร? ทางเข้าช่องเขาฝังระเบิดเอาไว้ ก็เลยจะไม่ช่วยแม่ทัพงั้นหรือ?”เฉินขุยกล่าว “ต้องไปช่วย!”เฉินอู่กล่าว “ข้าพาคนเข้าไปเอง ถึงมีระเบิดข้าก็ยอมแล้ว!”เซี่ยเวยกับจ้าวเฉียนและคนอื่น ๆ ต่างยกมือขึ้นกลางอก “แม่ทัพเฉินขุย พวกเราไปเองขอรับ แม่ทัพมีบุญคุณกับพวกเรา เพียงแต่หากเกิดสิ่งใดกับพวกเรา หวังว่าแม่ทัพทุกท่านจะเห็นแก่การได้รู้จักซึ่งกันและกัน ช่วยดูแลคนในครอบครัวรวมถึงญาติในด่านเจิ้นกวนให้ด้วย”“พวกเราไม่กลัวตาย กว่างอิงเซิ่งถูกพวกเราประหารด้วยพันมีดหมื่นแล่แล้ว ต่อให้
เฉินขุยเป็นผู้นำในการต่อสู้ แต่วางกลยุทธ์ด้อยกว่าเล็กน้อย ในเวลาเดียวกัน จวงเหลียงแสดงความคิดเห็น “ใช้อากาศยานไร้คนขับตรวจดูสถานการณ์ก่อน”“แม่ทัพเฉินขุย เจ้าต้องเตรียมกำลังพลห้าหมื่นขึ้นไป เพื่อพร้อมสำหรับเข้าไปรับแม่ทัพทุกเมื่อ”“ตอนนี้ สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ กลัวว่าจะมีการฝังระเบิดไว้ตรงทางเข้า เมื่อพวกเราเข้าไปนั่นเท่ากับเข้าไปติดกับดักเอง!” ในเวลาเดียวกันนี้ ภายในช่องเขามีเสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง เสียงนั้นดังขึ้นกว่าทุกครั้งเสียงก้องกังวานจนพวกเขาหวาดกลัวตาลีตาลานตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่คับขันมาก ทุกคนตัดสินใจแบ่งกำลังเป็นสองฝ่ายเซี่ยเวยและจ้าวเฉียนนำกำลังพลห้าหมื่นเข้าไปตามทางที่เว่ยกวงกล่าวส่วนเฉินขุยทำตามความคิดเห็นของซ่งตั๋ว โดยเริ่มจุดระเบิดตั้งแต่ทางเข้าจนถึงบริเวณใกล้กับแม่ทัพแล้วค่อยนำคนออกมาหลังจากออกมาแล้ว ต่อให้ต้องเดินทางอ้อมหรือใช้น้ำมันเบนซินจุดไฟเผา ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ห้ามตกอยู่ในอันตรายอีกถึงแม้จะตกอยู่ในอันตราย ก็ไม่ควรเป็นแม่ทัพชีวิตของแม่ทัพมีมูลค่าทางราคามากกว่าพวกเขารวมกันเวลานี้ ทุกคนดำเนินการกันทันทีเพียงแต่ว่า ในพวกเขาไม่มีคาดคิดเลย
“จริงแท้แน่นอน ข้าน้อยไม่กล้าปิดบัง!”“เจ้าเห็นด้วยตาตัวเองหรือ?”“ขอรับ ท่านแม่ทัพใหญ่เพียงสัมผัสแจกัน จากนั้นแจกันก็พ่นกล่องอาหารออกมา และ...และยัง...”“และอะไร?”“ซ่งอวิ๋นฮุยหมอประจำกองทัพ ดูเหมือนจะไม่ได้แปลกใจ รีบหยิบกล่องอาหารขึ้นมาให้ข้าน้อยสามกล่อง และยังแบ่งอีกยี่สิบกว่ากล่องไปให้แม่ทัพคนอื่นได้ร่วมรับประทานด้วย!”“ท่านแม่ทัพ ตำนานกระถางวิเศษเป็นเรื่องจริง แจกันนี้สามารถพ่นสิ่งของที่ต้องการออกมาได้ตามใจ!”เมื่อทหารผ่านศึกพูดจบ บรรยากาศในกระโจมก็ตกอยู่ในความเงียบงันอย่างประหลาด“แบบนี้ก็หมายความว่า รถและสิ่งของทั้งหมดอาจถูกท่านแม่ทัพเก็บไว้ในกระถางวิเศษ”“ใช่ รถคันใหญ่ขนาดนั้น ในพื้นที่รกร้างแบบนี้ไม่มีทางซ่อนได้แน่!”“แล้วอาหารพวกนี้กินได้หรือเปล่า? ข้าหิวมากแล้ว”ข้าวสิบกล่องพอดีสำหรับแบ่งกันคนละกล่องพอดีเซี่ยเวยเลือกที่จะประหยัดเสบียง โดยหยิบอาหารออกมาเพียงห้ากล่อง และให้ทุกคนเอาชามสเตนเลสของตัวเองออกมาข้าวแต่ละคนได้แบ่งเพียงครึ่งกล่องกับข้าวก็แบ่งกันคนละครึ่งกล่องเช่นกันจ้าวเฉียนเป็นคนแรกที่เริ่มกิน เขาหยิบน่องไก่ชิ้นใหญ่ขึ้นมา และกัดไปหนึ่งคำ รสชาติหอมกรุ
จ้านเฉิงอิ้นรู้ดีว่า ความลับที่แจกันสามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของได้ คงปิดบังต่อไปไม่ได้อีกแล้วการหายตัวไปของมั่วฝานและหน่วยกล้าตายน้อย!แม่ทัพเซี่ยเวย จ้าวเฉียน และสวีจื่อหลิง...รวมถึงพวกแม่ทัพกองทัพเยี่ยนล้วนได้เห็นกับตาซ่งอวิ๋นฮุยรีบพาหมอกองทัพสองคนมาด้วยความเร่งรีบ และช่วยกันพาจ้านเฉิงอิ้นกลับไปยังกระโจมเพื่อทำการตรวจบาดแผลให้เขา...เขาทำงานไม่หยุดมือจนดึกดื่นเกือบถึงเที่ยงคืนเป็นทหารผ่านศึกที่ป้อนยาและช่วยพันแผลให้จ้านเฉิงอิ้น โดยมีซ่งอวิ๋นฮุยอยู่เป็นเพื่อนเฝ้ายามในคืนนั้นต่อมา ทหารผ่านศึกคนนั้นก็ค้นพบความลับของแจกันวิเศษปากแจกันปล่อยข้าวสวยร้อน ๆ ที่ส่งกลิ่นหอมอบอวลออกมาสมองของทหารผ่านศึกถึงกับหยุดทำงานชั่วขณะซ่งอวิ๋นฮุยที่โดนเสียงดังปลุกตื่นขึ้นมา เห็นกล่องอาหารหล่นลงมาเหมือนเป็นเรื่องปกติที่เขาเคยชินแล้วเขาหยิบกล่องขึ้นมา ยื่นให้ทหารผ่านศึก มีทั้งกุ้งตุ๋น หมูอบซอสน้ำแดง และข้าวสวยร้อน ๆ หนึ่งกล่องใหญ่“เอาไปกินเถอะ!”ทหารผ่านศึกอุ้มกล่องอาหารสามกล่องไว้ในอ้อมแขน ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยกินอะไรที่ดีขนาดนี้มาก่อนซ่งอวิ๋นฮุยเห็นเขายืนนิ่ง ก็ถอนหายใจเบา ๆ แล้วเก็บ
หลูซีมองห้องอย่างเหลือเชื่อ ก่อนจะถามอย่างระมัดระวัง “ท่านเทพ ห้องแบบนี้ข้าอยู่ได้จริง ๆ หรือ?”“แน่นอน ห้องนี้เป็นของเจ้า จากนี้ไปก็นอนที่นี่ได้เลย!”หลูซีถึงกับทรุดตัวลงคุกเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าเย่มู่มู่ ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาเพราะตั้งแต่เล็กจนโต เขาไม่เคยได้อยู่ในห้องที่ดีขนาดนี้มาก่อนเลยห้องนี้ใหญ่กว่าห้องในจวนของรัฐทายาทเสียอีกแถมยังมีโคมไฟ ชั้นหนังสือ โต๊ะหนังสือ...และยังมีของชิ้นใหญ่ที่ดูเหมือนแท็บเล็ต ซึ่งเขาไม่รู้ว่ามันคืออะไรเย่มู่มู่พยุงหลูซีให้ลุกขึ้น และสังเกตว่าเขากำลังจ้องมองทีวีด้วยความสนใจเธอหยิบรีโมตทีวีขึ้นมาแล้วกดเปิด...สองคนจากยุคโบราณเหมือนได้เห็นโลกที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน~ ทั้งคู่ย่อตัวลงนั่ง ยื่นหน้าเข้าไปใกล้จอทีวีด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่พวกเขาไม่กล้าแตะต้อง เพราะกลัวจะทำให้ทีวีเสียหาย! “ใหญ่กว่าแท็บเล็ตเสียอีก แถมยังคมชัดกว่ามาก นี่มันคืออะไร?” “ถ้านำสิ่งนี้ไปถวายให้ไทเฮา ไทเฮาคงจะดีใจมากแน่ ๆ!” เย่มู่มู่อธิบายว่า “นี่คือทีวี มันต้องใช้ไฟฟ้า ถ้าจะย้ายไปในยุคโบราณ แค่มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไม่พอหรอก พวกเจ้าต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นช่
เย่มู่มู่ตอบอย่างใจเย็นว่า “ใช่แล้ว!”“ข้าอยากลอง...”เย่มู่มู่พูดขัดจังหวะอย่างหมดอารมณ์ “แต่เจ้าไม่มีใบขับขี่!"เดิมทีมั่วฝานที่กำลังจะเปิดประตูรถก็ต้องชะงักไปทันทีเมื่อเห็นท่าทางหงอยเหงาของชายหนุ่ม เธอก็พูดอีกว่า “แต่ขับในบริเวณคฤหาสน์ได้ รอจนสว่างแล้ว ค่อยขับวนรอบหมู่บ้าน แต่ห้ามขึ้นถนนใหญ่”“ถ้าตำรวจจราจรจับได้ เสียค่าปรับเป็นเรื่องเล็ก แต่รถจะถูกยึด...”“รถคันนี้แพงมาก!”เมื่อมั่วฝานได้ยิน ก็พยักหน้าอย่างดีใจครั้งแล้วครั้งเล่า“ท่านเป็นใคร พรุ่งนี้ข้าสามารถขับรถในหมู่บ้านได้หรือ?”“ใช่!”“ตราบใดที่ไม่ขึ้นถนนใหญ่ก็ไม่มีปัญหา?”“ใช่ ถนนใหญ่มีตำรวจจราจรคอยกั้นรถตรวจสอบใบขับขี่!”“ดีมาก ข้าจะลองขับแค่สองสามรอบ จะไม่ขับรถของท่านพังแน่นอน”เย่มู่มู่หยิบกุญแจรถออกจากกระเป๋าแล้วโยนให้เขาเขารับกุญแจรถอย่างกระตือรือร้น แล้วเข้าไปนั่งในห้องคนขับมองดูการตกแต่งภายในที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีอย่างตื่นเต้นเขาค่อย ๆ สตาร์ทรถ และรถก็สตาร์ทติดจริง ๆฮ่า ฮ่า...เขาหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่ ถอยรถออกจากโรงรถ แล้วค่อย ๆ ขับวนรอบสวนของคฤหาสน์ หลังจากขับครบสองรอบจริง ๆ แล้ว ก็ถอยรถกลั
“ลำบากท่านแล้ว เอาไปแบ่งกินกับยามที่เฝ้าเวลากลางคืนด้วยนะคะ”พี่ซุนรับถุงอาหารไปด้วยความยินดี “ได้เลย ขอบคุณมากนะครับ!”เย่มู่มู่ขับรถต่อไปจนถึงโกดัง เมื่อจอดรถเรียบร้อยแล้วมั่วฝานและหลูซีก็กระโดดลงจากรถก่อนจากนั้นเย่มู่มู่เปิดประตูรถ หยิบแจกันลงมาจากนั้น เย่มู่มู่เปิดประตูม้วนของโกดังขึ้นภายในโกดัง มีกล่องรองเท้าหลายร้อยกล่องเรียงกันอย่างเป็นระเบียบชุดสำเร็จรูปครึ่งร้านถูกบรรจุลงในกล่องกระดาษขนาดใหญ่ทั้งหมดเย่มู่มู่วางแจกันลง “แจกันนี้ดูเหมือนจะอัพเกรดได้แล้วนะ ข้าสามารถได้ยินเสียงรอบตัวจ้านเฉิงอิ้นได้!”“และยังสามารถเก็บเสบียงได้ ภายในมีพื้นที่กว้างขวาง หากจ้านเฉิงอิ้นต้องการ ก็สามารถหยิบออกมาใช้ได้ตลอดเวลา” เมื่อมั่วฝานและหลูซีได้ยินดังนั้น ก็ดีใจจนออกนอกหน้ามั่วฝานรีบถามนางทันที“ท่านเทพ ท่านหมายความว่าต่อไปนี้หากท่านแม่ทัพต้องการเสบียง ก็ไม่ต้องขับรถตามหลัง สามารถหยิบออกมาใช้ได้ทันที ใช้เสร็จแล้วก็สามารถเก็บกลับเข้าไปได้อีกหรือ?” “ใช่”เย่มู่มู่วางมือลงบนแจกัน เธอหลับตาลง สัมผัสได้ถึงพื้นที่ที่เต็มไปด้วยหมอกจาง ๆ แต่ก็กว้างขวางมาก!มั่วฝานดีใจเดินวนรอบแจกัน
“ได้ยินกันหรือเปล่า? เขาไม่มีเงินจ่ายค่าอาหารให้พวกคุณ รีบไสหัวออกไปซะ ก่อนที่จะไม่ได้ออกจากร้านนี้!”สาวงามเจ็ดแปดคนที่แต่งตัวเย้ายวนพร้อมใจกันเบะปาก ยิ้มเย้ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาและดูถูก“ดูหน้าตาก็ดูดีอยู่หรอก แต่ถ้าไม่มีเงินก็บอกมาตั้งแต่แรกสิ จะได้ไม่เสียเวลาฉัน!” “นั่นสิ อุตส่าห์มาที่ร้านแบบนี้ หวังจะเจอคนรวยหน่อย ๆ ตอนนี้แม้แต่ค่าทิปยังไม่ได้สักบาท!” “ซวยจริง ๆ ดันไปอ่อยคนจนเข้าให้!” พวกเธอพากันบิดเอวเดินจากไปอย่างไม่แยแสเย่มู่มู่กล่าวกับพนักงานร้านด้วยความรู้สึกผิด “ของพวกนี้ไม่เอาแล้วค่ะ เอาเก็บกลับไปได้เลย”จากนั้นเธอก็พามั่วฝานกับหลูซีออกมาจากร้าน และให้พวกเขาขึ้นรถบรรทุกขนาดเล็กระหว่างขับรถ เย่มู่มู่ก็เริ่มอธิบายให้สองคนจากยุคโบราณเข้าใจเกี่ยวกับกฎเกณฑ์การเอาตัวรอดในโลกยุคใหม่“สาว ๆ ที่หน้าตาสวยดูดี ไม่ควรไว้ใจ โดยเฉพาะคนที่แต่งตัวเซ็กซี่ โชว์เนื้อหนัง หรือแต่งตัวเย้ายวนเกินไป”“พวกเธอทำงานในร้านแบบนี้ ซึ่งในโลกของพวกเจ้า ก็เหมือนกับสาว ๆ ในหอนางโลมในยุคโบราณนั่นแหละ”ในยุคโบราณ หญิงสาวในหอนางโลมหลายคนถูกบีบคั้นด้วยความยากลำบากในชีวิต ต้องขายตัวเพื่อเอาชีวิ
เย่มู่มู่กับพนักงานยังคิดว่าฟังผิดเดี๋ยวก่อน~โต๊ะข้าง ๆ เป็นการรวมตัวกินข้าวของบริษัท มีตั้งหลายสิบคนและเอาโต๊ะสองสามตัวมาต่อเข้าด้วยกัน“หนุ่มน้อย สั่งมากขนาดนั้นกินหมดเหรอคะ?”พนักงานมองเด็กอายุสิบสี่สิบห้าพร้อมกล่าวด้วยความประหลาดใจ “สั่งเยอะขนาดนี้ กินทิ้งกินขว้างไม่ได้นะ”เย่มู่มู่รู้ว่าเมื่อก่อนเขามีชีวิตที่ยากลำบาก อาหารมากมายเพียงนี้กินไม่หมดแน่แต่เมื่อเขาอยากกินเลยสั่งมาให้ทั้งหมด“เอาแบบเดียวกันทุกอย่างค่ะ ถ้ากินไม่หมดค่อยห่อกลับบ้านค่ะ!”“ค่ะ รบกวนรอสักครู่!”หลังจากผ่านไปสิบกว่านาที เย่มู่มู่ตกตะลึงตาค้างที่เห็นหลูซีกินหมูหันจนหมดในเวลาเพียงสั้น ๆตอนแรกเขาใช้ตะเกียบคีบทีละแผ่นอย่างสุภาพ จากนั้นเริ่มใช้มือกินขาหมูเพียงไม่กี่นาทีเขากินหมูทั้งตัวจนหมดเกลี้ยงต่อด้วยไข่เยี่ยวม้า ปลาย่าง ห่านย่าง หัวกระต่ายตุ๋น ไก่ผัดหม่าล่า…เพียงเวลาครึ่งชั่วโมงกว่า มีจานชามใบใหญ่สิบกว่าอันวางซ้อนกันตรงหน้าเขาอาหารจานหลักทั้งโต๊ะถูกเขากินจนไม่เหลือและยังสั่งข้าวสวยเพิ่มหนึ่งถัง น้ำชาหนึ่งกา…หลังจากกินหมดแล้ว เขานั่งที่เก้าอี้อย่างสุขสบาย แหงนท้องโตและส่งเสียงเรอคำใหญ่
พี่สาวมีเงินเห็นเย่มู่มู่ช่วยเขาจ่ายค่ารองเท้าจริง ๆ เลยดึงตัวเธอไปข้าง ๆ อย่างไม่ยอมจำนนริมฝีปากสีแดงอันใหญ่ของเธอกล่าว “น้องสาว ฉันให้เธอห้าแสน เธออย่างแย่งฉันเลยนะ รูปร่างหน้าตาผิวพรรณอ่อนนุ่มของเขาแบบนี้ ฉันไม่ขาดทุนหรอก…”เย่มู่มู่กล่าวอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ไม่ได้ค่ะ!”“เธอไม่เชื่ออีกเหรอว่าฉันมีกำลัง?”พี่สาวมีเงินกัดฝันหยิบโทรศัพท์เปิดยอดเงินคงเหลือในธนาคารให้เย่มู่มู่ดูโห~ห้าร้อยกว่าล้าน!มีเงินสดหลักร้อยล้านในเมืองนี้ นับว่าเป็นกลุ่มคนชนชั้นสูงอย่างแท้จริง“น้องสาว เธออย่างแย่งฉันเลยหน่า! ฉันมีเงิน เธอสู้ไม่ไหวหรอก!”เย่มู่มู่มองหน้ามั่วฝานอีกครั้ง ริมฝีปากของเขาเป็นสีแดง ฟันขาว เกล้าผมเป็นมวยประดับกวานทองและมีปอยผมร่วงลงมาสองสามเส้นเขามีใบหน้าสวยละมุน เกิดมาในชาติตระกูลชนชั้นสูง พร้อมด้วยตำแหน่งท่านชายที่สืบทอดบรรดาศักดิ์มาจากบรรพบุรุษและมีสง่าราศีเด่นเป็นล้นพ้น!เมื่อปล่อยเขาอยู่ท่ามกลางผู้คน สามารถเป็นที่น่าจดจำได้จะว่าไปแล้ว เจ้าหนุ่มคนนี้ก็มีหน้าตาหล่อเหลาไม่เบา!ไม่แปลกใจเลยทำไมพี่สาวมีเงินถึงติดกับ“พี่คะ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ให้”“นี่คือกำลังของฉัน ฉ
“แม่ทัพเฉินขุย…เป็นยา ท่านเทพส่งยามาให้!”“ยาเยอะมาก ยาที่เราเก็บบนรถบรรทุกตอนแรกก็เหลือไม่มากแล้ว ทหารบาดเจ็บกำลังประสบสภาวะขาดแคลนยารักษา ไม่คิดเลย ฮ่า ๆ ๆ ท่านเทพส่งมาทันเวลาจริง ๆ !”“ดีเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมียูกยาเหล่านี้ ทหารที่บาดเจ็บก็จะได้รับการรักษาที่ทันท่วงที”“แม่ทัพล่ะ? ฟื้นหรือยัง?”“ยังเลยขอรับ แต่สัญญาณชีพคงที่แล้ว”เย่มู่มู่พลันนึกได้บางอย่าง เธอหยิบกระดาษกับปากกาขึ้นมาแล้วลงมือเขียน มั่วฝานกับหลูซีอยู่กับเธอ เธอจะดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี ขอให้พวกเขาไม่ต้องเป็นห่วงหลังจากเธอส่งข้ามไปก็ได้ยินเสียงร้องก้องกังวานของผู้ชาย“จวงเหลียง ดูเร็วเข้า มั่วฝานกับหลูซีอยู่กับท่านเทพทั้งสองคน เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้พวกเขาสุขสบายดีมาก!”“ท่านเทพจะดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี!”“ตอนนี้เมื่อรู้แล้วว่ารัฐทายาทกับหลูซีอยู่ที่ไหน ข้าก็วางใจแล้ว! เวลานี้รอเพียงแม่ทัพตื่นขึ้นมา”จวบจนฝั่งนั้นไม่ส่งเสียงใด ๆ มาอีก เย่มู่มู่จึงอุ้มแจกันขึ้นมาวางข้างที่นั่งคนขับ และกลับไปหามั่วฝานกับหลูซีที่ศูนย์การค้าเธอไปร้านที่หลูซีซื้อเสื้อผ้าก่อน แต่พบว่าไม่เห็นหลูซีเธอเข้าไปใกล้ร้านขายรองเท้าที่มั