ไม่กี่คนได้ยินดังกล่าว ก็ดีใจเป็นล้นพ้นของใช้ราคาแพงเช่นนี้ แม่ทัพให้พวกเขาจริงหรือ?จ้านเฉิงอิ้นกล่าวสั่งการ “ไปเถอะ!”แม่ทัพเจ็ดท่านต่างยกมือประสานกลางอก ขอบคุณจ้านเฉิงอิ้นจากใจ“ขอบคุณแม่ทัพเป็นอย่างยิ่ง พวกเราขอตัวไปพักก่อน”พวกเขาไม่กี่คนเดินเข้าในถ้ำ หาบริเวณเงียบสงบแล้วนั่งลงจ้าวเฉียนอดไม่ได้ที่จะซาบซึ้งใจ “ดูเหมือนพวกเราเลือกเจ้านายถูกคนแล้ว!”สวีจื่อหลิงกล่าว “ตัดคำว่าดูเหมือนออกซะ! ขอถามหน่อยว่าแคว้นต่าง ๆ ในหัวเซี่ย มีผู้ใดรักทหารเหมือนบุตรของตนเช่นจ้านเฉิงอิ้นบ้าง เขาเด็กกว่าเราทุกคน แต่ไม่เคยทำตัวตระหนี่ต่อนายทหารใต้ล่าง ไม่ว่าจะเป็นของกิน ของใช้ ขอเพียงแค่เขามี เหล่านายทหารก็มีกันทุกคน”“รัฐทายาทน้อยมั่วฝานท่านนั้นก็มีของดีมากมาย เช่นลำโพงประกาศเสียง แม่ทัพใหญ่ยังไม่มีเลย! แต่ข้ามั่นใจว่าแม่ทัพใหญ่เป็นคนมอบให้เขา!”“เดินตามคนเช่นนี้ วันใดรวบอำนาจขึ้นนั่งที่สูง เขาก็จะไม่ปฏิบัติไม่ดีกับคนรอบข้าง”“พวกเราเดินตามถูกคนแล้วล่ะ ตั้งแต่เข้าด่านเจิ้นกวน ยังไม่เคยปล่อยให้ท้องหิวเลยสักครั้ง ถึงแม้การกลับเมืองหลวงจะมีระยะทางไกล แต่ข้าไม่กังวลเลยสักนิด เมื่ออยู่ข้าง ๆ เขา
เป็นเวลาหลายวันติดต่อกันที่เย่มู่มู่ไม่สนใจลู่ฉีหยางอีกเธอกำลังรอระเบิดกับอากาศยานไร้คนขับมาส่ง และเย่มู่มู่ไม่ได้จัดส่งให้จ้านเฉิงอิ้นทันทีจ้านเฉิงอิ้นต้องการใช้เมื่อไหร่ เธอค่อยส่งไปให้เสบียงมากมายเพียงนี้ โดยเฉพาะวัตถุระเบิด มันเกิดการระเบิดได้ง่ายระหว่างการเดินทัพในช่วงที่อากาศร้อนสูงวันนี้ ในที่สุดจ้านเฉิงอิ้นก็มาถึงใกล้ ๆ ช่องเขาเป้าเสียเย่มู่มู่ทำความสะอาดลานจอดรถหลังบ้านถมสวนดอกไม้เป็นพื้นเรียบ เพื่อใช้เป็นที่จอดรถคันเล็กเฉพาะรถบรรทุกยี่สิบกว่าคัน จอดที่ลานหลังบ้านอย่างเป็นระเบียบรถบรรทุกที่ปรับแต่งจากรถบรรทุกดิน ก็ถูกคลุมด้วยผ้าใบกันน้ำสีเขียวเธอวางเสบียงอาหารข้าวสารต่าง ๆ ที่จะส่งให้จ้านเฉิงอิ้นไว้ข้างล่างรถบรรทุกน้ำมันแปดคันจอดไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่หลังสวน เพื่อให้อยู่ใต้ร่มเงาได้สะดวกหลังจากจอดรถเสร็จสิ้น เธอจึงทำการจัดส่งระเบิดและอากาศยานไร้คนขับไปให้จากนั้นจัดส่งสิ่งที่จ้านเฉิงอิ้นต้องการใช้ กล้องส่องทางไกลพลุสัญญาณเปลวไฟยามค่ำคืนเธอยังสั่งซื้อเสื่อกกอีกหนึ่งแสนผืนและจะมาส่งในวันมะรืนเพราะเธอได้ยินว่ากองทัพตระกูลจ้านหนึ่งแสนคน ไม่ได้มีกระโจมให้นอ
“วางใจเถิด ตราบใดที่แม่ทัพอยู่ด้วย อย่าว่าแต่1แสนคน ต่อให้เป็นห้าแสนคนเขาก็เลี้ยงไหวเช่นกัน! เบื้องบนแม่ทัพมีคนคอยคุ้มครองเชียวนะ!”จ้าวเฉียนถาม “ใครหรือ?”“ท่านเทพไงเล่า มีเทพเจ้าอยู่เหนือศีรษะเพียงสามฟุต! ท่านเทพจะไม่ปล่อยทุกคนหิวตายแน่นอน!”เดี๋ยวนะ นี่มันเพ้อเจ้อเกินไปกระมังหากเทพเจ้ามีประโยชน์จริง แผ่นดินหัวเซี่ยจะไม่เหือดแห้ง หมื่นลี้จะไม่ตายหมด ราษฎรที่เหลือจะไม่ดิ้นรนทุรนทุรายเซี่ยเวยไม่เคยเชื่อเรื่องเทพเจ้า ถ้ามีเทพเจ้าจริง น้องชายเขาจะไม่ถูกกินและเขาจะไม่จนปัญญาหากเพียงมีเทพเจ้าอยู่จริง ท่านก็ควรร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมให้พวกเขานานแล้ว!แต่ไม่ใช่กดดันพวกเขาจนหมดหนทางเซี่ยเวยเต็มใจเชื่อมากกว่าว่าแม่ทัพต่างหากที่เป็นท่านเทพของพวกเขา…เพราะว่ารถกับเสบียงหายไปหมด จึงทำให้รู้สึกไม่สบายใจไม่มากก็น้อย!จนกระทั่งจ้านเฉิงอิ้นกล่าวขึ้น “ข้าเก็บเสบียงไว้ในที่ปลอดภัย ไว้ต่อสู้เสร็จแล้วจะนำกลับมาใหม่!”“วันนี้ขอให้ทุกคนเตรียมตัวออกศึกทั้งหมด เหลือรักษาการณ์ในถ้ำสองพันคน สมาชิกครอบครัวก็จงหยิบอาวุธขึ้นมาให้หมด!”เซี่ยเวย จ้าวเฉียนและคนอื่น ๆ ได้ยินว่าสมาชิกครอบครัวต้องถืออาว
ต่อให้ข้าศึกหน้าทางเข้าอาจซุ่มวางระเบิด แต่จะไม่เข้าไปช่วยแม่ทัพก็ไม่ได้ด้วยเช่นกันจ้านเฉิงอิ้นนำเสบียงทั้งหมดฝากเก็บไว้ที่ท่านเทพตอนนี้ ในถ้ำมีเสบียงอาหารกับน้ำเหลือเพียงสามวันสำหรับหนึ่งแสนคน แม้พวกเขาใช้อย่างประหยัด ก็ยังกินได้อีกห้าวันแต่หลังจากห้าวันแล้วล่ะ?จะทำอย่างไร?เฉินขุยกล่าว “ข้าจะพาคนออกไป ต่อให้ต้องตาย ก็ต้องรับแม่ทัพออกมา!”“ถึงแม้ว่าเราจะต้องเดินต่อไปอีกสองเดือน ก็อย่าได้เดินผ่านช่องเขาเป้าเสียนี่อีก!”ครั้นกล่าวจบ เฉินขุยสั่งทหารชั้นผู้น้อยที่บังคับอากาศยานไร้คนขับ “บินขึ้นไปก่อนสิบเครื่อง พกระเบิดไปด้วย ค้นหาตำแหน่งที่แน่ชัดของแม่ทัพ…”“จากนั้นทำการระเบิดให้เป็นทางเดิน เพื่อให้แม่ทัพออกมาสะดวก!”“ขอรับ!”มีทหารชั้นผู้น้อยบังคับอากาศยานไร้คนขับสิบเครื่อง บังคับการบินและค้นหาตามทางผ่านของช่องเขาที่จ้านเฉิงอิ้นเดินเข้าไปทันทีเพียงแต่อากาศยานไร้คนขับเครื่องแรกที่เพิ่งเข้าใกล้ช่องเขาไม่นานถูกคนใช้ธนูยิงร่วงลงมาสวบ~วินาทีที่อากาศยานร่วงตก มันพลันแตกระเบิดภายในช่องเขาทันใดจากนั้น เครื่องที่สอง เครื่องที่สาม เครื่องที่สิบ…บินขึ้นไปพร้อมกันพวกเขาบังคับ
อยู่ในยุคทุพภิกขภัยเช่นนี้ บนถนนเต็มไปด้วยกระดูกคน ชีวิตคนจึงเป็นสิ่งที่ไม่มีมูลค่าที่สุดเฉินอู่ ซั่งตั๋วและมั่วฝานต่างหยิบกระดาษข้อความมาทั้งหมดและมากันอ่านทีละใบยิ่งอ่านสีหน้าก็ยิ่งดูหนักอึ้ง!มั่วฝานตาแดงก่ำและกล่าวพร้อมความรู้สึกเจ็บปวดร้าวใจ “ข้าคิดแล้วเชียวว่าต้องมีวิธีอื่นอีกแน่ จ้านเฉิงอิ้นบอกแผนการเสร็จก็ดำเนินการทันที จวงเหลียงอยากตอบโต้แต่ก็ถูกเขาห้ามเอาไว้!”จวงเหลียงกล่าว “การสนับสนุนที่พวกเราได้รับตลอดมาราบรื่นมากเกินไป เกรงว่าแม่ทัพก็คงไม่รู้เช่นกันและคิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะมีระเบิด!”“ตอนนี้จะทำอย่างไร? ทางเข้าช่องเขาฝังระเบิดเอาไว้ ก็เลยจะไม่ช่วยแม่ทัพงั้นหรือ?”เฉินขุยกล่าว “ต้องไปช่วย!”เฉินอู่กล่าว “ข้าพาคนเข้าไปเอง ถึงมีระเบิดข้าก็ยอมแล้ว!”เซี่ยเวยกับจ้าวเฉียนและคนอื่น ๆ ต่างยกมือขึ้นกลางอก “แม่ทัพเฉินขุย พวกเราไปเองขอรับ แม่ทัพมีบุญคุณกับพวกเรา เพียงแต่หากเกิดสิ่งใดกับพวกเรา หวังว่าแม่ทัพทุกท่านจะเห็นแก่การได้รู้จักซึ่งกันและกัน ช่วยดูแลคนในครอบครัวรวมถึงญาติในด่านเจิ้นกวนให้ด้วย”“พวกเราไม่กลัวตาย กว่างอิงเซิ่งถูกพวกเราประหารด้วยพันมีดหมื่นแล่แล้ว ต่อให้
เฉินขุยเป็นผู้นำในการต่อสู้ แต่วางกลยุทธ์ด้อยกว่าเล็กน้อย ในเวลาเดียวกัน จวงเหลียงแสดงความคิดเห็น “ใช้อากาศยานไร้คนขับตรวจดูสถานการณ์ก่อน”“แม่ทัพเฉินขุย เจ้าต้องเตรียมกำลังพลห้าหมื่นขึ้นไป เพื่อพร้อมสำหรับเข้าไปรับแม่ทัพทุกเมื่อ”“ตอนนี้ สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ กลัวว่าจะมีการฝังระเบิดไว้ตรงทางเข้า เมื่อพวกเราเข้าไปนั่นเท่ากับเข้าไปติดกับดักเอง!” ในเวลาเดียวกันนี้ ภายในช่องเขามีเสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง เสียงนั้นดังขึ้นกว่าทุกครั้งเสียงก้องกังวานจนพวกเขาหวาดกลัวตาลีตาลานตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่คับขันมาก ทุกคนตัดสินใจแบ่งกำลังเป็นสองฝ่ายเซี่ยเวยและจ้าวเฉียนนำกำลังพลห้าหมื่นเข้าไปตามทางที่เว่ยกวงกล่าวส่วนเฉินขุยทำตามความคิดเห็นของซ่งตั๋ว โดยเริ่มจุดระเบิดตั้งแต่ทางเข้าจนถึงบริเวณใกล้กับแม่ทัพแล้วค่อยนำคนออกมาหลังจากออกมาแล้ว ต่อให้ต้องเดินทางอ้อมหรือใช้น้ำมันเบนซินจุดไฟเผา ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ห้ามตกอยู่ในอันตรายอีกถึงแม้จะตกอยู่ในอันตราย ก็ไม่ควรเป็นแม่ทัพชีวิตของแม่ทัพมีมูลค่าทางราคามากกว่าพวกเขารวมกันเวลานี้ ทุกคนดำเนินการกันทันทีเพียงแต่ว่า ในพวกเขาไม่มีคาดคิดเลย
“พวกเจ้าฆ่าจ้านเฉิงอิ้นได้หรือไม่ ไม่เกี่ยวกับพวกเรา!”จากนั้นเขากล่าวกับสมุน “เก็บข้าวของแล้วเตรียมตัวกลับ!”กองทัพธงเหลืองหลายร้อยคนเตรียมเก็บพลั่วกับเครื่องมืออื่น ๆ และออกเดินทางทันใดนั้น คนอื่น ๆ พากันหยิบอาวุธและขวางทางเดินพวกเขาซุนเฮ่อยิ้มหยัน “ทำไม? พวกเจ้าคิดขวางพวกเรา?”ต่อจากนั้น ซุนเฮ่อเปิดเสื้อผ้าออก บนหน้าท้องมีระเบิดติดไว้หนึ่งห่อ“พวกเจ้าเห็นหมดแล้วว่าระเบิดมีอนุภาพยิ่งใหญ่เพียงใด ชนเผ่าหมาน แคว้นฉู่และแคว้นฉีห้าแสนห้าหมื่นคนทำไมถึงสู้กำลังพลห้าหมื่นของจ้านเฉิงอิ้นไม่ได้ ก็เพราะว่าเขามีระเบิดในมือไงหล่ะ!”“วันนี้ถ้าพวกเจ้ากล้าขัดขวางข้า พวกเจ้าจงมองให้ชัดเจน…”ช่างสี่ร้อยคนพากันเปิดเสื้อผ้าออก บนตัวมีระเบิดติดไว้ทุกคนพวกเขาแต่ละคนจ้องคนถืออาวุธและปิดกั้นทางเดินด้วยแววตาเหี้ยมเกรียม“คิดจะขัดขวาง ได้ อย่างมากก็แค่ตายไปพร้อมกัน พวกเจ้ามีคนอยู่ในถ้ำเท่าไหร่ ไม่มีสองหมื่นคนก็น่าจะมีสามหมื่นคน พวกเรามีแค่ไม่กี่ร้อยคน”“ถึงจะตายกันหมดและถูกฝังไว้ที่นี่ พวกเราก็รู้สึกคุ้มค่าแล้ว!”“ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ฮ่องเต้พูดกับพวกเราก่อนมาที่นี่ ถ้าเกิดสิ่งใดขึ้น ท่านจะวางแ
เย่มู่มู่เขียนจดหมายถึงจ้านเฉิงอิ้นหลายฉบับ แต่ไม่มีจดหมายตอบกลับแม้แต่ฉบับเดียวเธอเดาว่า จ้านเฉิงอิ้นเข้าไปในช่องเขาแล้วหรือไม่?หากในช่องเขามีการซุ่มโจมตี จ้านเฉิงอิ้นกำลังเสี่ยงอันตรายด้วยตัวเองนี่มันอันตรายเกินไปเย่มู่มู่ยังหวังว่าจ้านเฉิงอิ้นจะสามารถก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ทีละขั้น สามารถรวมหัวเซี่ยให้เป็นปึกแผ่น และสร้างเรือออกทะเลอีกครั้ง...ให้ทุกที่ที่แสงอาทิตย์ส่องถึง กลายเป็นแผ่นดินหัวเซี่ยนี่คือเรื่องสำคัญต่อคนรุ่นหลัง จะเป็นไปได้ไหมที่จะรวมสมาชิกวิดีโอคอลทั้งหมดไว้ด้วยกัน รวมถึงการใช้หัวชาร์จแบบเดียวกัน ไม่ต้องเรียนภาษาอังกฤษอีกต่อไปจ้านเฉิงอิ้นห้ามเกิดเรื่องเด็ดขาด!แต่เขาไม่มีจดหมายตอบกลับมาเลย!ส่งกระดาษเปล่าไปสิบกว่าแผ่น เขาก็ยังไม่มีข่าวเย่มู่มู่เดินเท้าเปล่าไปมาในห้องนั่งเล่น อาหารเช้าเย็นลงแล้ว แต่เธอก็กินไม่ลงเธอมองอาหารเช้าที่เย็นชืดอีกครั้งหยิบซาลาเปา ซุปกระดูกหมู ก๋วยเตี๋ยวหลอด เกี๊ยว... ทั้งหมดใส่ลงในแจกันไม่มีความรู้สึกฝืดเคืองเหมือนครั้งก่อนที่จ้านเฉิงอิ้นไม่อยู่การส่งไปราบรื่นมากหมายความว่า สถานการณ์ของจ้านเฉิงอิ้นอาจจะไม่เลวร้ายขนาดนั้น
“ถึงแม้จะถืออาวุธเหล็กกล้าก็ไม่มีประโยชน์!”“อาวุธเย็นไม่อาจสู้กับอาวุธร้อนได้ เจ้าคิดจะทำให้ชนเผ่าหมานม่อเป่ยกลายเป็นพวกที่ร้องรำทำเพลงหรืออย่างไร?"“รอให้ข้าสร้างปืนและปืนใหญ่ขึ้นมา ต่อไปพวกเขาจะต้องเต้นเก่งทุกคน!”เฉินขุย เฉินอู่ ซ่งตั๋ว รวมถึงจวงเหลียง...ทุกคนตาเป็นประกายเฉินอู่ถามอย่างสงสัย “จริงหรือ?”“แน่นอน แค่ทำให้พวกเขากลัว ข้าถึงต้องการท่อเหล็กหมื่นท่อ เพราะว่าแค่ไม่กี่ร้อยหรือพันท่อ ไม่สามารถข่มขู่คนเจ็ดแสนกว่าคนได้!”“ถ้ามีปืนใหญ่หมื่นกระบอก ก็เพียงพอที่จะข่มขู่มู่ฉีซิว เขาถึงจะถอยทัพ!”“บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ของเรามีคำกล่าวที่แพร่หลายว่า ความจริงอยู่ในระยะยิงของปืนใหญ่ ศักดิ์ศรีอยู่บนคมดาบ“มีอาวุธที่ทรงพลังพอ พวกเผ่าหมานจะกล้าสู้กับเราหรือไม่? พวกเขายังไม่ทันขี่ม้ามาถึงหน้าเรา ข้ายิงปืนใหญ่ทีเดียวก็ตายไปสิบกว่าคนแล้ว!”“ในอนาคตเจอเราก็ต้องวิ่งหนี!”จ้านเฉิงอิ้นครุ่นคิดถึงคำพูดของหยางชิงเหอที่ว่า ความจริงอยู่ในระยะยิงของปืนใหญ่ ศักดิ์ศรีอยู่บนคมดาบ...ตอนนี้อาวุธยุทโธปกรณ์ของเขาก็เหนือกว่าทุกแคว้นแล้ว แต่แคว้นเหล่านั้นยังไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาทำไม~
ทหารผ่านศึกเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ตลอดทั้งคืน แต่พวกเขาก็ยังคงฮึกเหิมในการต่อสู้ในวันนี้ คนส่วนใหญ่กินไปก็หลับไปคนที่ยังดื่มได้ก็ดื่มไปไม่กี่แก้วแล้วก็ฟุบหลับไปบนโต๊ะพวกชาวบ้านกลับกินกันอย่างเอร็ดอร่อยพืชที่ปลูกยังไม่ถึงเวลาเก็บเกี่ยว กองทัพตระกูลจ้านเป็นผู้ดูแลเรื่องอาหาร แต่ปกติแล้วทุกคนกินแค่ขนมปังแป้งสาลีและโจ๊กเนื้อ... บางครั้งก็ต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกับเส้นบะหมี่รวมกัน อาหารเหล่านั้นดีกว่าก่อนภัยแล้งเสียอีก!ตั้งแต่เกิดมาพวกเขาไม่เคยกินอาหารที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้มาก่อน!ทันใดนั้นพวกเขาก็มีความสุข กินและหยิบอาหารกลับบ้าน!ทหารผ่านศึกที่ยังกินอยู่บนโต๊ะก็ไม่ได้ห้าม ปล่อยพวกเขาไปทหารแคว้นเยี่ยนที่มาถึงคนสุดท้าย อาหารและเครื่องดื่มบนโต๊ะหนึ่งร้อยยี่สิบตัว เป็นของพวกเขาทหารผ่านศึกกินไม่หมดก็รีบกลับไปนอน เหลืออาหารบนโต๊ะขนาดใหญ่พวกเขาและชาวบ้านก็เหมือนกัน ไปที่โต๊ะข้าง ๆ กินและหยิบอาหารทหารแคว้นเยี่ยนบางคนเปิดถุงใสที่คลุมโต๊ะออก งานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยสีสัน กลิ่น และรสชาติก็ปรากฏแก่สายตาหมูหันย่างตัวนั้น พวกเขาหยิบหนังกรอบมากินชิ้นหนึ่งเคี้ยวจนเสียงกรอบดังออกมา...
เพียงพอที่จะทำให้ชั่วชีวิตไม่ต้องกังวลเรื่องเสื้อผ้าและอาหาร ทั้งยังสามารถนำพาให้ครอบครัวไปสู่ความมั่งคั่งได้ด้วยหากพวกเขาลังเล ก็คงเป็นแค่คนโง่เง่าเท่านั้นทุกคนคุกเข่าลง พลางกล่าวกับเฉินขุยอย่างพร้อมเพรียงกันว่า “พวกข้าน้อยยินดีเข้าร่วมกับกองทัพตระกูลจ้าน แม้เป็นตายก็ไม่กลัวขอรับ!”“ท่านแม่ทัพใหญ่ให้พวกข้าน้อยทำอันใด พวกเราก็จะทำทั้งนั้น!”“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเราคือทหารภายใต้ธงของกองทัพตระกูลจ้าน!”เฉินขุยพึงพออย่างยิ่งกับท่าทีของเหล่าเชลยศึกมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่กำลังลังเลตอนที่กลับมาพวกเขาก็ไม่ให้ความร่วมมือ คุมตัวกลับมาต่างก็ต้องผลักดันให้กลับพอถามจึงได้รู้ว่าเป็นองครักษ์คนสนิทของแม่ทัพผู้เฒ่าถึงกระนั้น เฉินขุยก็ไม่ได้ฝืนใจพวกเขา ให้ทหารแคว้นเยี่ยนคนอื่น ๆ นำตัวมาที่ด้านหน้าของโอ่งน้ำเมื่อพวกเขามองเห็นโอ่งน้ำเป็นแถวเป็นแนว ก็สงสัยในตัวเองเป็นอย่างแรกในตอนแรกค่อนข้างดื้อดึงดีทีเดียวทว่าเมื่อมองเห็นคนอื่นดื่มน้ำ ก็ไม่ใส่ใจศักดิ์ศรีและก้มศีรษะลงเพื่อดื่มน้ำด้วยคำพูดของเฉินขุยเมื่อครู่นี้ ทำให้เชลยศึกทั้งหมดของกองทัพแคว้นเยี่ยนคลายความสงสัย และสมัตรใจเ
ทหารชั้นผู้น้อยคนนี้ผอมแห้ง อีกทั้งยังอยู่ในวัยผู้ใหญ่ ทว่าเตี้ยกว่าคนอื่น ๆ หนึ่งช่วงหัวเป็นผู้ที่มีชีวิตยากลำบากคนหนึ่งเฉินขุยให้ทหารพยุงเขาขึ้นมาเมื่อเขามองไปก็เห็นเหล่าทหารจำนวนมาก ดื่มน้ำไปถอดทอนใจไปมีบางคนที่ได้กลิ่นหอมของเนื้อ ทว่าเมื่อคิดถึงจุบจบว่าอาจจะถูกฝังทั้งเป็นหรือถูกทำงานหนักจนตายพวกเขาแต่ละคนก็ไร้ชีวิตชีวาแม้ว่าจะดื่มน้ำจนพอแล้ว แต่จุดจบของเชลยศึกล้วนไม่ค่อยดีนักเมื่อสองพันกว่าปีก่อน จุดจบของเชลยศึกจะต้องตกไปเป็นทาสทาสจำนวนมากมักจะถูกสังหารเพื่อใช้เป็นเครื่องสังเวยตั้งแต่อายุยังน้อยจุดจบของพวกเขา คงจะหนีไม่พ้นการถูกสังหารเพื่อนำไปเป็นเครื่องบูชายัญ!อย่างไรก็ตาม เฉินขุยเคยอ่านหนังสือที่มาจากยุคปัจจุบันมาหลายเล่ม คนในยุคปัจจุบันนั้นเท่าเทียมกัน ทว่าที่ต้าฉี่ยังไม่สามารถกระทำได้ในช่วงเวลาอันสั้นแต่การเห็นผู้อื่นเป็นมนุษย์นั้น จะไม่สามารถปฏิบัติต่อผู้อื่นเป็นเหมือนทาสได้อีกท่านแม่ทัพใหญ่เคยพูดไว้ด้วยว่า เขาจะหาวิธียกเลิกการสังหารทาสเพื่อมาเป็นเครื่องบูชายัญดังนั้นเขาจึงหยิบลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่ แล้วพูดกับเชลยศึกด้วยเสียงอันเปี่ยมพลังว่า“ตาม
ทหารผ่านศึกหลายคนอาศัยอยู่ในห้องเดียวกัน บนหลังคาติดตั้งแผงไฟโซลาร์เซลล์ มีหน้าต่างกระจก จุดตะเกียง และพัดลมเพดาน…เมื่อเข้ามาข้างในไม่ร้อนอบอ้าวเลยแม้แต่น้อย นอกจากจะเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศแล้ว ยังมีพัดลมเพดานที่สามารถพัดได้ด้วยเตียงของพวกเขาล้วนแต่ทำมาจากโครงเหล็กเสื่อของพวกเขา สานมาจากไม้ไผ่อีกทั้งแต่ละคนต่างก็มีแก้วน้ำที่ทำมาจากเหล็กผ้าขนหนูหนึ่งผืน กะละมังเคลือบเซรามิกหนึ่งใบ แก้วน้ำพลาสติกหนึ่งใบ ที่ภายในใส่แปรงสีฟันและยาสีฟันเอาไว้เฉียนเซียงตัวหยิบยาสีฟันและแปรงสีฟันขึ้นมา แล้วถามมั่วฝานด้วยความสงสัย“สหายมั่ว สิ่งนี้คืออันใดกัน?”มั่วฝานหัวเราะพลางหยิบแท็บเล็ตขึ้นมา แล้วเล่นโฆษณายาสีฟันชิ้นหนึ่งในจอภาพนั้น สตรีงดงามนางหนึ่งกำลังบีบยาสีฟัน หลังจากนั้นก็เป็นฉากแปรงฟันเฉียนเซียงตัวตะลึงจนอ้าปากค้าง สายตาถูกสาวงามดึงดูดไปอย่างสมบูรณ์เขาเดินไปอย่างงุนงง พลางใช้มือสัมผัสไปที่หน้าจอวิดีโอหยุดลงจากนั้นเมื่อแตะเบา ๆ อีกครั้ง วิดีโอก็เล่นต่อเขาประหลาดใจถึงขีดสุด “นะ นี่มันคือสิ่งใดกันแน่ ช่างอัศจรรย์เกินไปแล้ว!”“ใส่คนลงไปข้างในได้ด้วยงั้นหรือ?”มั่วฝานเปิ
เย่มู่มู่เพิ่งจะได้รับข่าวเมื่อช่วงบ่ายว่าจ้านเฉิงอิ้นชนะศึก…เธอไม่กล้าจินตนาการเลยว่าพวกเขาจะชนะกองทัพศัตรูที่มีถึงเจ็ดแสนคน !นั้นเป็นการผนึกกำลังกันของสี่กองทัพ เผ่าหมาน แคว้นเยี่ยน กองทัพธงเหลือง และทหารต้าฉี่…จำนวนคนเมื่อนับรวมกันแล้วมีถึงเจ็ดแสนกว่าคนนึกไม่ถึงว่าจะถูกหยางชิงเหอใช้ปืนใหญ่ที่ติดอยู่บนกำแพงเมืองทำให้ตกใจจนวิ่งหนีไปทว่าปืนใหญ่พวกนั้นเป็นของปลอมนี่น่า!ใช้ยางรถยนต์เก่ากับโครงเหล็กประคองขึ้นมา ไม่สามารถยิงกระสุนปืนใหญ่ได้ทว่ามู่ฉีซิวก็ถูกทำให้หวาดกลัวจนหนีไปเสียแล้วกระสุนปืนใหญ่ทำขึ้นมาจากกระบอกไม้ไผ่อย่างง่าย ๆ แล้วนำท่อเหล็กไหลหยางมาทำเป็นกระบอกปืน ทำให้ทหารเกรงกลัวจนถอยทัพเรื่องราวตลกและไร้สาระขนาดนี้เชียวพวกเขายังถูกทหารผ่านศึกของจ้านเฉิงอิ้นและกองทัพลู่เจ๋อซุ่มโจมตีด้วยเยี่ยนซวี่ถูกยิงตายวิธีตายเรียบง่ายไปหน่อยถูกจ้านเฉิงอิ้นใช้หน้าไม้ราชวงศ์ฉินยิงตาย!พร้อมกับความสิ้นหวังของเยี่ยนซวี่ แคว้นเยี่ยนก็กลายเป็นแคว้นที่ไร้ซึ่งผู้นำ…ไม่ต้องพูดถึงแคว้นฉู่และแคว้นฉี เกรงว่าเผ่าหมานที่หนีไปคงไม่กลับไปที่ม่อเป่ย ทว่าคงรวมตัวอีกครั้งเพื่อไปเก็บกวาดแ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งทหารแคว้นเยี่ยน เมื่อวานซืนพวกเขามีแป้งทอดรากไม้กับแกลบอาหารของเมื่อวานนี้พวกเขาก็ขุดรากไม้ แทะเปลือกไม้กินเพื่อประทังความหิวก่อนที่จะมีศึกใหญ่ในวันนี้ เยี่ยนซวี่สั่งการให้สังหารม้าศึกหลายพันตัว เพื่อให้ทหารได้อิ่มท้องสักมื้อ พวกเขาถึงได้กินอาหารจานเนื้อเป็นมื้อแรกในรอบครึ่งปีเนื้อของม้าศึกทั้งเหนียวและคาวอย่างมาก ไม่มีรสชาติ พอย่างสุกแล้วกินไปสองสามคำ แทบจะกลืนไม่ลงถึงกระนั้น ก็เป็นอาหารจานเนื้อมื้อแรกที่พวกเขาได้กินในรอบครึ่งปีพวกเขารู้ว่า เมื่อกินเสร็จแล้ว มีสงครามที่ดุเดือดที่ต้องสู้รบ หากทำได้ไม่ดีอาจต้องทิ้งชีวิตไว้ในที่แห่งนี้ก็เป็นได้ หลายคนกินไปร้องไห้ไปทว่าตอนนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าอาหารของกองทัพตระกูลจ้านจะเป็นซาลาเปาไส้เนื้อทั้งยังมีหมั่นโถว หมั่วโถวเกลียว และแป้งทอดด้วย...และยังมีน้ำให้อย่างไม่จำกัดเฉินขุยเห็นหลายคนดวงตาแดงก่ำ ไม่เชื่อว่าสิ่งที่อากาศยานไร้คนขับประกาศออกมาจะเป็นความจริงเข้ายิ้มออกมาอย่างสดใสพลางกล่าวว่า “ไป ไปที่ค่ายทหารกันให้หมด พ่อครัวเตรียมอาหารไว้พร้อมแล้ว”“ชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ในวันนี้ แม่ทัพคงไม่เย็นลง ถ้าไม่ได้ให้ทุ
จ้านเฉิงอิ้นพยักหน้า ให้มั่วฝานพาพวกเขาไปที่โรงงานมั่วฝานมองไปยังเฉียนเซียงตัว ชายอ้วนผู้นี้สวมชุดเกราะเงิน เข็มขัดที่อยู่รอบเอวใกล้จะแตกออกมันมีขนาดเล็กกว่ารอบเอวของเขาทว่าเขาไม่รังเกียจผู้ที่มีชาติกำเนิดมาจากพ่อค้า ผู้ที่สามารถเป็นถึงผู้นำอันดับสองของกองกำลังกบฏได้ ย่อมไม่ใช่พวกปัญญานิ่มเขาชี้ไปที่อากาศยานไร้คนขับที่บินวนอย่างต่อเนื่องอยู่บนท้องฟ้า และถามเฉียนเซียงตัวว่า“มองเห็นเครื่องที่บินได้นั่นหรือไม่?”เฉียนเซียงตัวเงยหน้าขึ้น เขามองเห็นมันตั้งนานแล้ว!แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ถึงสามารถกระจายเสียงผ่านลำโพงขนาดใหญ่ได้ เสียงนั่นดังมาก จนยอดเขาหลายแห่งสามารถได้ยินเขาตอบตามความจริง “มองเห็นแล้ว!”“ดี ในเมื่อพวกเจ้าทั้งหมดเข้าร่วมกับกองทัพตระกูลจ้านแล้ว ถือว่าเป็นของขวัญยามพบหน้า ข้าจะมอบอากาศยานไร้คนขับขนาดกลางให้กับพวกเจ้า ลำโพงขนาดใหญ่หนึ่งตัว และลำโพงประกาศเสียงอันใหญ่แปดตัว...”เฉียนเซียงตัวไม่อยากจะเชื่อเลยว่า สิ่งที่มั่วฝานพูดจะเป็นเรื่องจริงเขาตกตะลึงไปหลายวินาที แล้วมองไปที่อากาศยานไร้คนขับที่บินวนอยู่อีกครั้งในเวลานี้ เสียงของอากาศยานไร้คนขับก็ดังขึ้นเสี
คนพวกนี้ ท้ายที่สุดแล้วก็เอาชีวิตมากฝังกลบไว้ที่นี่มู่ฉีซิวพาคนมาด้วยราว ๆ หนึ่งแสนห้าหมื่นคน ไม่เกินสองแสนเขานำพาคนจำนวนสี่หมื่นคนฝ่าวงล้อมออกไป แล้วทิ้งคนเอาไว้หนึ่งแสนคน ที่ท้ายที่สุดแล้วก็จะถูกฝังเอาไว้บนภูเขาตลอดกาลนี่เป็นครั้งแรกที่กองทัพตระกูลจ้านกับกองทัพลู่เจ๋อมาบรรจบกันผู้นำของกองทัพลู่เจ๋อ เป็นชายอ้วนพุงพลุ้ยผู้หนึ่งเป็นคนอ้วนที่อายุสามสิบกว่าปี และก่อนหน้านี้ทำการค้าเดิมทีกองทัพลู่เจ๋อเป็นพวกบรรดาพ่อค้า ที่ออกเงินก่อตั้งกองกำลังกบฏชาวนา ทหารส่วนใหญ่มาจากเขตลู่เจ๋อ!ชายอ้วนผู้นี้มีชื่อว่าเฉียนเซียงตัว...บิดาของเขาลงทุนมากที่สุด เขาจึงถูกผลักดันให้เป็นผู้นำของกองทัพลู่เจ๋อในช่วงแรก บิดาของเขาสามารถสนับสนุนเงินได้อย่างต่อเนื่องทว่าเมื่อเนิ่นนานไป ในจวนไม่มีข้าว และไม่มีเงินสนับสนุนกองกำลังกบฏอีกต่อไปแล้วเดิมทีเขาคิดจะกลับบ้านทว่าเมื่อทุกคนมองดูแล้ว ก็เห็นว่าผู้นำคนนี้ไม่มีสิ่งใดที่ไม่ดีถึงจะบอกว่าผู้มีเมตตาไม่สามารถปกครองทหารได้ ทว่าเขาเป็นคนใจดี ไม่เคยแตกคอกับผู้อื่นไม่ว่านายทหารหรือว่าทหารชั้นผู้น้อยจะทะเลาะกัน เขาล้วนทำหน้าที่เป็นผู้รักษาสันติทุ