แชร์

บทที่ 332

ผู้เขียน: มู่โร่ว
ผ่านไปประมาณหนึ่งเดือน ทั้งภายในภายนอกก็สร้างและตกแต่งเสร็จแล้ว

พี่ซุนวิ่งไปทาสี ลงสีโป๊วที่ห้องนั้นทุกวัน

เธอจ่ายเงินเดือนสูง ช่วงนี้สองสามีภรรยามีรายได้สูง ยิ่งทุ่มเททำงานหนักมากขึ้น

*

หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ หัวหน้าผู้รับเหมาก็ต่อสายเข้ามา บอกว่าเขาจัดการหารถขุดให้ได้สามสิบคัน รถดันดินยี่สิบคัน

รถบรรทุก รถหกล้อ รถบรรทุกดินที่บรรทุกดินในก่อนหน้านี้ มีให้ได้ยี่สิบห้าคัน

หากเธอต้องการ เขาปรึกษากับเถ้าแก่ที่ทำงานเกี่ยวกับดินเรียบร้อยแล้ว ปล่อยให้ได้ราคาถูก ๆ

สรุปราคาประมาณสี่สิบเก้าล้านสองแสนห้าหมื่น

เย่มู่มู่คิดแล้วสี่สิบเก้าล้านสองแสนห้าหมื่นบวกกับเงินค่าน้ำห้าแสน

ทั้งหมดต้องจ่ายห้าสิบสองล้านห้าแสน

เธอโอนเงินให้หัวหน้าผู้รับเหมาทันที

ในวินาทีที่หัวหน้าผู้รับเหมาได้รับเงิน เห็นว่าเย่มู่มู่ให้เพิ่มอีกเจ็ดแสนห้าหมื่น การค้าขายในครั้งนี้ เขาได้กำไรสุทธิสามล้านสองแสนห้าหมื่น

เถ้าแก่ที่ทำงานเกี่ยวกับดินเหล่านั้นยังให้อั่งเปาเขาและเลี้ยงข้าวเขาอีกด้วย

รายได้ของเขาไม่ต่ำกว่าสี่ล้าน

ช่วงสองสามวันระยะเวลาสั้น ๆ ก็ได้มาแล้วสี่ล้าน ทำเงินได้เยอะกว่างานที่เขาต้องทำอย่างเหน็ดเหนื่อยสาย
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 333

    หลังจากนั้นเธอก็เห็นรัฐทายาทน้อย นายทหารคนอื่นต่างสวมชุดเกราะ มีเพียงรัฐทายาทน้อยเพียงผู้เดียวที่สวมเสื้อคลุมตัวยาวปักลายดอกไม้ทำจากผ้าฝ้าย ตรงเอวรัดเข็มขัดหนังสีดำและห้อยหยกแขวนสีขาวโปร่งแสงเอาไว้อันหนึ่งเขาแต่งตัวดูมั่งคั่งและโดดเด่นเป็นพิเศษในหมู่นายทหารเขารูปร่างผอมสูง ใบหน้าหล่อเหลา เมื่อเทียบกับนายทหารหน้าตาขึงขังรอบ ๆ หน้าตาของเขาแฝงไปด้วยการเย้ยหยันถากถางสังคมและกลิ่นอายของผู้ดีเล็กน้อยบรรดาแม่ทัพที่เหลือ เธอไม่รู้จักอีกแล้วเนื่องจากนายทหารมีจำนวนคนเพิ่มมากขึ้น ในพวกหลี่หยวนจง เปี้ยนจื่อผิงและเฉินจวิ้นหลินปะปนอยู่ในนายทหารใต้บังคับบัญชาของสวีหวย...ผู้นำของกองกำลังกบฏก็อยู่ในนั้นด้วยพวกเขาต่างสวมรองเท้าผ้า นายทหารบางนายสวมรองเท้ากีฬาต่างสวมชุดเกราะสีเงิน ภายใต้ชุดเกราะสวมเครื่องแบบทหารสีสันต่างกันออกไปล้วนตัดจากผ้าที่เย่มู่มู่ส่งไปให้ทั้งสิ้นกระทั่งชาวบ้านรอบข้างที่หันกล้องไปถ่ายติด พวกชาวบ้านไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งอีกต่อไป ทุกคนต่างสวมเสื้อผ้ารัดรูปที่ทำจากผ้าฝ้ายทั้งสิ้นไม่มีที่ปะซ่อม ไม่มีที่ขาด สะอาดสะอ้านเรียบร้อยอีกทั้งบนหน้าแต่ละคนล้วนมีเนื้อ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 334

    ไม่คิดเลยว่า เมื่อปลุกเสกทำพิธีวัดที่สร้างขึ้นเพื่อท่านเทพ นางก็ส่งของที่ยิ่งใหญ่โตมโหฬารมาเลยทั้งสองคนรับภารกิจมาอย่างดีอกดีใจ รีบขยับตัวหาพื้นที่โล่งกว้างที่พอจะจอดรถได้ทันทีซ่งตั๋วยังคิดคำนวณอีกยกหนึ่งด้วยรถบรรทุกหนึ่งคันบรรจุได้ห้าสิบคน หากมีรถหนึ่งร้อยคันละก็ จะบรรทุกขนย้ายได้ห้าพันอย่างรวดเร็วกองทัพตระกูลจ้านห้าพันคน กำลังการต่อสู้เท่ากับห้าหมื่นพวกเขากลับไปสนับสนุนป้องกันได้รวดเร็วยิ่งขึ้นสำหรับพวกเขารถบรรทุกนี้ ไม่ใช่เพียงขนย้ายอุปกรณ์เท่านั้น ยังเป็นอาวุธสงครามที่แหลมคมอีกด้วยทั้งสองคนเรียกทหารใต้บังคบบัญชามา ให้รีบหาที่ว่าง และทำความสะอาดให้เสร็จก่อนคืนนี้*เย่มู่มู่ยังคิดหาวิธีหาแทงค์น้ำมันใหญ่มา ท้ายที่สุดก็ไปถามเวินลี่เธอเป็นคนที่ผู้อาวุโสสวี่แนะนำมา บางทีอาจมีลู่ทางเพียงแต่หากอธิบายขึ้นมา เธอก็ยากจะหาคำโกหกกลบเกลื่อนเธอโทรไปหาเวินลี่ ถามเธอว่ารู้จักเถ้าแก่ที่เปิดปั๊มน้ำมันบ้างไหมเธออยากซื้อแทงค์น้ำมันขนาดใหญ่ ขนาดรถบรรทุกน้ำมันประเภทนั้นเมื่อเวินลี่ได้ยินดังนั้น ก็เงียบไปหลายนาทีเธอคิดว่าเย่มู่มู่จะถามเรื่องร้านขายวัตถุโบราณที่เมืองหลวง คิดไม่

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 335

    “ท่านแม่ทัพใหญ่ ไม่ใช่แค่เยี่ยนอ๋องเท่านั้น กองทัพแคว้นฉี แล้วก็กองทัพแคว้นหย่ง กระทั่งเผ่าหมานเองก็เคลื่อนทัพแล้ว กระเหี้ยนกระหือรืออยู่นอกชายแดนขอรับ!”จ้านเฉิงอิ้น ซ่งตั๋ว เปี้ยนจื่อผิงรีบเดินเข้ามาเบื้องหลังนายทหารรายงานข่าว เฉินขุย เฉินอู่ อู๋ลี่ เฉิงจื่อเซียว...ทุกคนต่างขี่ม้าห้อตะบึงเข้ามาเนื่องจากด่านเจิ้นกวนขยายอาณาเขต เฉิงจื่อเซียวจึงนำนายทหารภายใต้อาณัติส่วนของสวีหวย ไปปกป้องทางเหนืออู๋ลี่นำกองกำลังกบฏ เปี้ยนจื่อผิงและหลี่หยวนจง...ไปปกป้องทางตะวันตกและทางใต้พวกเฉินขุย เฉินอู่สองสามคนปกป้องด้านตะวันออกการขยายพื้นที่เพาะปลูก พวกเขาไม่ได้มีกำแพงเมืองเป็นที่คุ้มกัน ตั้งหลักปักฐานริมแม่น้ำที่ห่างจากพื้นที่เพาะปลูกไม่ไกลโดยตรงมีคนลาดตระเวนตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง สร้างหอสังเกตการณ์เอาไว้ที่ไกล ๆ ทุกหนึ่งชั่วยามจะมีอากาศยานไร้คนจับจะมาตรวจสอบสถานการณ์รอบ ๆ ครั้งหนึ่งคิดไม่ถึงเลยว่า แคว้นเหล่านี้จะยังมีความกระเหี้ยนกระหือรืออยู่โดยเฉพาะแคว้นฉี คราวก่อนต้องรีบหนีหัวซุกหัวซุนยังไม่ถอดใจ ยังจะยุยงให้แคว้นเยี่ยน แคว้นหย่งมาโจมตีด่านเจิ้นกวนครั้งนี้ไม่คิดเลยว่าเผ่าหมานไม

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 336

    จ้านเฉิงอิ้นเรียกให้เขาหยุด “ส่งอากาศยานไร้คนขับ ไปตรวจสอบดูสถานการณ์ที่ประจำการของเซี่ยเวย!”“ขอรับ!”“เปี้ยนจื่อผิง หลี่หยวนจง เฉิงจื่อเซียว พวกเจ้าปกป้องฐานที่มั่นเอาไว้ พื้นที่เหล่านี้เป็นที่ที่พวกชาวบ้านปลูกมาอย่างยากลำบาก อย่ายอมให้รุกล้ำแม้แต่นิ้วเดียว”เหล่านายทหารพยักหน้า “ขอรับ แม่ทัพใหญ่!”“หากครานี้ถอนทัพกลับไป แล้วพวกเขาไม่มีอะไรกิน ก็จะมาปล้นด่านเจิ้นกวน กองทัพตระกูลจ้านต้องคิดหาวิธีรับมือกับพวกเขา บีบคอให้ตายในเปล!”“ล่าถอยเถอะ ติดอุปกรณ์ให้ครบครัน รีบกลับไปป้องกันโดยเร็ว!”“ขอรับ ข้าน้อยรับคำสั่ง!”จ้านเฉิงอิ้นขี่ขึ้นหลังม้า นำเหล่านายทหารมุ่งหน้าไปทางตะวันออกที่แล้วทางทิศตะวันออกขยายไปถึงอาณาเขตแคว้นฉี ยึดพื้นที่เพาะปลูกที่ดีที่สุดในก่อนหน้านี้ของประชาชนแคว้นฉีกระทั่งแม่น้ำที่แห้งขอดมานาน ขุดลอกทรายที่ทับถมออกมากองไว้บนพื้น ปล่อยน้ำไปกักเก็บเอาไว้...ที่ดินทางทิศตะวันออกเป็นที่ดินที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดมันฝรั่ง มันเทศ ฟักทอง ข้าวโพดที่ปลูก แนวโน้มดีขึ้นเป็นพิเศษมันเทศบางส่วนขุดออกมาได้แล้ว แต่ละหัวขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือ กินดิบ ๆ ได้รสชาติหวานหอม อีกหนึ่งเดือ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 337

    เมื่อเฉินขุยเห็นภาพนี้ ดวงตาก็เบิกโพลง ก่อนจะดึงตัวซ่งตั๋วมาน้ำเสียงของเขาดังก้องกังวาน ตะคอดจนนายทหารโดยรอบต่างหันมามอง“เจ้าดูเอาเองเถิด ข้าบอกแล้วว่าจะเชื่อใจคนเยี่ยนง่าย ๆ ไม่ได้ ข้ายอมรับชาวบ้านแคว้นฉู่ แต่ไม่มีทางเชื่อว่าทหารชาวเยี่ยนจะมาพึ่งพาพวกเราโดยไร้ซึ่งเหตุผล!”“ดูสิ ทัพใหญ่ของฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนบุกประชิดพรมแดน ทหารชาวเยี่ยนที่อยู่เบื้องหลังสวมใส่เสื้อเกราะ มือถืออาวุธ พวกเขาคิดจะทำอะไร?”“คิดจะลงมือกับชาวบ้านของด่านเจิ้นกวนหรือ?”ซ่งตั๋วเห็นภาพในอากาศยานไร้คนขับ เห็นนายทหารเบื้องล่างเซี่ยเวยกลับสวมชุดเกราะมือถืออาวุธ ออกมาจากฐานที่มั่นอย่างลับ ๆ ล่อ ๆเขาสงบนิ่งเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้วเขาเชื่อใจเซี่ยเวย จัดฐานที่มั่นที่ใกล้กับริมแม่น้ำให้พวกเขา ต้านทานแรงกดดันมีปากเสียงกับเฉินขุยผลสุดท้าย?ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะกล้าลงมือกับชาวบ้านที่มือเปล่า?ซ่งตั๋วพลิกตัวขึ้นหลังม้า แล้วห้อตะบึงไปยังค่ายทหารของเซี่ยเวยอย่างรวดเร็วจ้านเฉิงอิ้นไม่ได้ห้ามเขาหากทหารเบื้องล่างของเซี่ยเวย ใช้แผนด้านนอกด้านในตีขนาบประสานกันกับทหารที่อยู่ด้านนอก เช่นนั้นหาหมื่นคนนี้ก็ควรตายทั้งหมด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 338

    รองแม่ทัพที่คุกเข่าเป็นคนแรกชื่อว่าจ้าวเฉียน เสียงเคร้งดังขึ้นเสียงหนึ่ง อาวุธที่อยู่ในมือเขาตกลงบนพื้นเขาเอ่ยกับเซี่ยเวยด้วยความโศกเศร้าว่า “ท่านแม่ทัพ ต่อให้มอบความกล้าให้ข้าน้อยสิบกระบุง ข้าน้อยก็ไม่กล้าแตะต้องชาวบ้านที่เพาะปลูกต่อหน้ากองทัพตระกูลจ้าน?”“ข้าน้อยเพียงแค่คิด พวกเราไม่ควรทำให้แม่ทัพใหญ่ลำบาก เขารับพวกเราเอาไว้ ให้ของกินเครื่องดื่มแก่พวกเรา หากทัพใหญ่แคว้นเยี่ยนบุกประชิดพรมแดน ต้องมีคนไปกดไฟโทสะของฮ่องเต้เอาไว้!”“ข้าน้อยยอมให้ตัวตาย แบกรับเรื่องนี้เอาไว้แทนท่าน ข้าน้อยกลับไปมอบตัว แม่ทัพใหญ่ส่งตัวคนไป ฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนเองก็จับตัวคนได้แล้ว เขาไม่มีเหตุผลให้ต้องล่วงล้ำด่านเจิ้นกวนต่อ!”เซี่ยเวยมองรองแม่ทัพที่ติดตามมาหลายปี เดือดดาลจนตาทั้งสองข้างแดงก่ำเขาเอ่ยตำหนิอย่างเดือดดาลปนเสียงสะอื้น “เลอะเลือน เจ้ามันเลอะเลือน!”“เจ้าคิดว่าตัวเองพาคนไปพบฮ่องเต้แล้วเขาจะช่างมันไปทั้งอย่างนี้หรือ?”“ผิดแล้ว เขานำทัพใหญ่มาด่านเจิ้นกวน ไม่ใช่เพื่อจับตัวพวกเรากลับไป จับตัวคนเป็นแค่ข้ออ้างของเขาเท่านั้น”“เขาไม่จำเป็นต้องเคลื่อนพลมาโจมตีด่านเจิ้นกวน เขาไม่มีความกล้านี้”“แม้

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 339

    ครั้นซ่งตั๋วฟังถึงตรงนี้ ขอบตาก็แดงก่ำไปหมด“ฮ่องเต้แคว้นเยี่ยน เขาว่าอย่างไร?”“เขาบอกว่าก็แค่กินคนห้าหมื่นคนเองไม่ใช่หรือ? จะร้อนใจอะไร ตอนนี้ท้องพระคลังว่างเปล่า ทั้งแคว้นไม่มีเสบียงอาหาร ต้องเลี้ยงชีวิตกองกำลังของกว่างอิงเซิ่งสองแสนนาย เสียสละนิด ๆ หน่อย ๆ เป็นสิ่งที่ต้องทำ!”“เขายังออกพระราชโองการ ไม่ให้ข้าไปสืบหาความจริง แลพราชสำนักจะไม่ส่งเสบียงอาหารและหญ้าที่ใช้เลี้ยงม้ามาอีก ทหารเบื้องล่างข้ากินชาวบ้านในเมืองประทังหิวได้!”“พอได้รับพระราชโองการ ข้าก็รู้ว่าแคว้นเยี่ยนเน่าเฟะแล้ว เน่าเฟะตั้งแต่เบื้องบนจนถึงเบื้องล่าง!”“มีฮ่องเต้ไร้ซึ่งความดีใด ๆ เช่นนี้ มีแม่ทัพที่กินทหารเบื้องล่าง แคว้นนี้ควรค่าให้เราขายชีวิตปกป้องหรือ?”“ข้าไม่ยอมให้กินชาวบ้านทั้งเมือง พวกเขาคือชาวบ้านที่ใช้ชีวิตปกป้องเมือง จะกินได้อย่างไร?”“ข้าจึงตัดสินใจพาทหารขึ้นเหนือ มาพึ่งพากองทัพตระกูลจ้าน หากแม่ทัพรับพวกเราเอาไว้ ให้พวกเราได้มีชีวิตต่อ ก็จะดีเป็นอย่างยิ่ง”“หากไม่รับ เขาก็ไม่ฆ่าพวกเรา เพราะข้าไม่เคยได้ยินว่ากองทัพตระกูลจ้านกินเนื้อคน!”“พวกชาวบ้านในเมืองแคว้นเยี่ยน ข้าให้พวกเขาออกจากเมืองไปทั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 340

    เฉินขุยเกาศีรษะอย่างอิหลักอิเหลื่อ “ก็ตอนนี้ข้าเข้าใจเขาแล้วไม่ใช่หรือ?”“กองทัพตระกูลจ้านเราถูกเผ่าหมานปิดล้อมร่วมหนึ่งปี ทำศึกทหารตายไปมากมาย ข้าคิดว่าพวกเราก็น่าเวทนาพอแล้ว”“เมื่อเทียบจุดนี้กับเซี่ยเวย เขาถูกคนของตัวเองกินทหารไปครึ่งหนึ่ง ทว่าจนปัญญา ภายในใจยิ่งรู้สึกหดหู่ใจ”“คิด ๆ ดูแล้วเขายากลำบากยิ่งนัก ต่อไปดึงเข้ามาเป็นพวกแล้ว ก็ทำดีกับเขาหน่อยแล้วกัน!”มั่วฝานชำเลืองมองเฉินขุยทีหนึ่ง ทว่าไม่ได้พูดอะไรอีกทัพใหญ่หนึ่งแสนกว่าคนของจ้านเฉิงอิ้น รวมตัวกันอยู่เบื้องหลังเครื่องหมายเขตแดนเขาตะโกนเสียงดัง “ทหาร เปิดไฟดวงใหญ่!”รถออฟโรดสิบคันเปิดไฟดวงใหญ่ ส่องจนคนตรงหน้าลืมตาไม่ขึ้นจ้านเฉิงอิ้นยกมือขึ้น พร้อมเอ่ยกับหน่วยหน้าไม้ที่อยู่เบื้องหลังว่า “ง้างธนู เตรียมตัวยิง!”หน้าไม้ราชวงศ์ฉินนับไม่ถ้วนถูกง้างขึ้นมาทั้งหมดเยี่ยนซวี่ฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนได้ยินพลังของหน้าไม้มานานแล้ว ระยะยิงของหน้าไม้ราชวงศ์ฉินไกลเป็นอย่างมาก มากกว่าหกร้อยหมี่!หากทัพใหญ่หนึ่งแสนกว่านายเข้ามาในเขตระยะยิงของหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ไม่มีใครหนีรอดไปได้แน่!ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้พวกเขาไม่ขาดหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 520

    กระทั่งสื่อยังหันกล้องมาจ่อเขาหลังจากนั้นหลูหมิงและหลูซีที่อยู่บนรถก็ลงมาวันนี้ทั้งสองคนบรรจงแต่งตัว สวมชุดคลุมยาวเนื้อผ้าเดียวกับมั่วฝาน ทว่าคนละแบบ และผูกผมยาวไว้ตรงท้ายทอยหลูซีกระทั่งลวดมือหยิบกระบี่ยาววัสดุสไตล์โบราณเอาไว้ตลอดกระบี่ยาวอยู่ในมือเขา กลับกลมกลืนอย่างคาดไม่ถึง!เย่มู่มู่ให้เขาเลือกมาหนึ่งเล่ม จากในบรรดากระบี่ชื่อดังสิบกว่าเล่มที่เถ้าแก่โรงงานเลียนแบบของโบราณเคยส่งมา!เขาเลือกกระบี่มังกรเล่มหนึ่ง!ในวินาทีที่เย่มู่มู่ลงมาจากรถ เมื่อรองผู้อำนวยการจางได้ยินเสียงข่าว ก็ออกมาต้อนรับพวกเขาเข้าไปด้วยตนเอง“มู่ม่ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ผมคิดว่าคุณจะมาถึงสายกว่านี้ซะอีก ไม่คิดเลยว่าจะมาเร็วที่สุด!”“มา ๆ เชิญชั้นบนเลย!”“พวกผู้อาวุโสจาง ผู้อาวุโสสวี่ ผู้อาวุโสมู่เขามาหรือยังคะ?”“ยังครับ เหล่าจางยังไม่ได้ขึ้นเครื่องบิน เหล่ามู่ยังเข้าสอนนักเรียนอยู่ ผู้อาวุโสสวี่อีกคนติดต่อไม่ได้ ไม่เป็นไรครับ ติดต่อกับผู้ช่วยของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว ต้องมาอย่างแน่นอน เกรงก็แต่ว่าไม่ถึงวินาทีสุดท้ายของพิธีตัดริบบิ้น จะไม่โผล่หัวมา!”“คุณวางใจเถอะครับ ขอแค่คุณมาถึงแล้ว พวกเขาจะต้องมา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 519

    มั่วฝานจะไปยับยั้งการร่วมมือของราชสำนักกับกองทัพธงเหลือง โดยผ่านมุมมองนี้ได้ เป็นสิ่งที่เธอคิดไม่ถึงในบันทึกประวัติศาสตร์ไม่เป็นทางการ การตายของฮ่องเต้น้อย เกิดขึ้นหลังจากที่กองทัพธงเหลืองบุกเข้าไปในเมืองหลวง ฆ่าเขาขณะเกิดการนองเลือดในราชวังแน่นอนว่าในหนังสือประวัติศาสตร์บันทึกอย่างไม่เป็นทางการจดบันทึกอย่างเร่งรีบข้ามไปข้ามมา ไม่มีประโยคเพิ่มเติมมาเขียนถึงฮ่องเต้น้อยเลยคงเป็นเพราะตายในการนองเลือดที่ราชวัง!ทว่าตอนนี้มั่วฝานร้อนใจอยากจะฆ่าเขาให้ตาย เย่มู่มู่ไม่มีอะไรจะพูด“ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว ข้าของให้เจ้าประสบความสำเร็จ”“แน่นอนว่า ก่อนเจ้าจะกลับไปต้าฉี่ พรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าไปที่หนึ่งก่อน!”มั่วฝานถามขึ้นว่า “สำคัญมากหรือไม่?”ตอนนี้เขาค่อนข้างร้อนใจกับต้าฉี่เย่มู่มู่ตอบ “สำคัญมาก พรุ่งนี้เช้าเราจะไปนั่งรถไฟความเร็วสูงกัน!”“คืนนี้พวกเจ้าพักผ่อนให้สบายใจ ทางนั้นยังมีจ้านเฉิงอิ้นอยู่”“เขาเป็นถึงโหวขั้นหนึ่งที่มีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อย เติบโตมาอยู่ในค่ายทหารตั้งแต่เด็ก เคยรับมือกับแม่ทัพใหญ่ในสงครามมานับไม่ถ้วน!”“กะอีแค่การโจมตีของพันธมิตรไม่กี่ฝ่ายไม่ใช่หรือ? เ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 518

    มั่วฝานถามหลูหมิง หลูหมิงจึงบอกสถานการณ์ยากลำบากของกองทัพตระกูลจ้านเมื่อเขารู้ว่าฮ่องเต้น้อยร่วมมือกับกองทัพธงเหลืองก็พลันโพล่งเสียงหัวเราะออกมาขำไป ๆ ก็คุกเข่าร้องไห้กับพื้นเขารู้ทิศทางของประวัติศาสตร์ผู้อาวุโสยังถ่ายบันทึกประวัติศาสตร์อย่างไม่เป็นทางการ ที่บันทึกเกี่ยวกับต้าฉี่และจ้านเฉิงอิ้นมาให้เย่มู่มู่อ่านจากในหนังสือสะสมที่ไม่ได้เผยแพร่จากพิพิธภัณฑ์เย่มู่มู่พิมพ์ออกมา แล้วให้คนโบราณทั้งสามคนอ่านทิศทางสุดท้ายของประวัติศาสตร์จ้านเฉิงอิ้นตายอยู่ที่ด่านเจิ้นกวน กองทักตระกูลจ้านแหลกสลายตายทั้งกองทัพจริง ๆชาวบ้านด่านเจิ้นกวนถูกเผ่าหมาน แคว้นฉู่และฉีสังหารไปกึ่งหนึ่งในวันนั้นเลย!พวกเขาสังหารยังไม่พอ ไม่คิดเลยว่าจะย่างกินด้วยกินอยู่สามวันสามคืน และนำคนที่เหลือมาทำเป็นของแห้ง ขับไล่บุกโจมตีหัวเมืองอื่น ๆ ของต้าฉี่ตลอดทั้งทางเดิมทียังเจอการต้านทานบางส่วนอีกด้วย กองกำลังเล็ก ๆ ของสวีหวยหนึ่งแสนคนต้านทานเอาไว้ครู่หนึ่งแต่พบว่าสู้ไม่ได้ จึงรีบเผ่นออกไปทันทีเขารวมกับกองกำลังสองแสนคนของแม่ทัพลู่เดิมทีพวกเขาสามแสนคน ยังพอมีกำลังทำศึก ต้านทานทัพพันธมิตรฉู่ ฉีและเผ่า

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 517

    หลังเย่มู่มู่ส่งของไป ก็หยุดไม่ได้เนื่องจากกองทัพตระกูลจ้านขาดคนไปห้าหมื่นคนในฉับพลัน ต้องรีบรับสมัครทหารใหม่หน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ดาบม่อเตา ชุดเกราะ...ต้องสั่งมาอีกชุด!เกราะกันกระสุนต้องเติมสต็อกต่อให้ของเซี่ยเวยเอาไปหมดแล้ว กองทัพตระกูลจ้านที่เหลืออยู่ล่ะ?เธอติดต่อซื้อปลายข้าวกับเจ้าของร้านขายข้าวอีกแน่นอนว่าตอนต่อสายไปหาเขาก็เป็นเวลาดึกดื่นเที่ยงคืนแล้วแม้ทั้งสองคนจะเป็นพาร์ตเนอร์เปิดบริษัทการค้าต่างประเทศ ทว่าเขากับพี่เขยแทบจะไม่สนใจเลยกระทั่งเขายังคิดจะถอนหุ้นเสียด้วยซ้ำเนื่องจากเดือนที่แล้วเขาเปิดร้านสินค้าเกษตรและโภคภัณฑ์อีกร้านหนึ่ง ธุรกิจไม่ค่อยดีนัก กักตุนสินค้าไว้จำนวนมาก เงินทุนหมุนเวียนติดขัดเมื่อเอ่ยปากกับเย่มู่มู่ ความตั้งใจเดิมคือคิดจะยืมเงินเธอทว่าเย่มู่มู่เข้าใจปิด ถอนหุ้นให้เขาทันทีโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงโอนเงินไปยังบัญชีเขาแม้จะบอกว่าความร่วมมือไม่สำเร็จ ทว่าการซื้อขายยังอยู่ หากเย่มู่มู่แสดงออกว่าต้องการ จะยังซื้อข้าวจากร้านของเขาต่อประโยคเดียวทำเอาเจ้าของร้านขายข้าวอัดอั้นแทบแย่ทว่าเย่มู่มู่จะซื้อธัญพืชตอนดึกดื่นเที่ยงคืน ทำเอาเขาดีใจเป็นอย่า

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 516

    ด้านในล้างจนสะอาดหมดแล้วเย่มู่มู่กลิ้งถังน้ำเข้าไปในบ่อน้ำข้าง ๆ โดยตรง ใส่น้ำเข้าไปโดยอัตโนมัติครึ่งชั่วโมง ทั้งหมดก็ถูกใส่จนเต็มนาทีสุดท้ายในสี่ชั่วโมง รถบรรทุกน้ำมันยี่สิบคันขับเข้ามาอีกฝ่ายสวมหน้ากากอนามัยและแว่นดำ ไร้ซึ่งความเกรงใจ ให้เย่มู่มู่โอนทั้งหมดจ่ายเงินของรถบรรทุกน้ำมันพร้อมกันทีเดียวหลังเย่มู่มู่จ่ายเงิน สีหน้าของคนที่นำขบวนมาถึงค่อย ๆ ผ่อนคลายขึ้นมาพวกเขาขับรถเก๋งสองสามคันกลับไปเวลานี้ฟ้ามืดสนิทแล้วเย่มู่มู่มองเวลา ระยะเวลาสี่ชั่วโมงยังเหลือไม่กี่นาทีสุดท้ายเธอใส่รถบรรทุกน้ำมันทั้งหมดเข้าไปในที่ว่างเปล่าตอนนี้ที่เธอทำได้ก็ทำหมดแล้วที่ช่วยได้ก็พยายามช่วยสุดความสามารถส่วนทางกองกำลังห้าหมื่นคนของเซี่ยเวยนั้น จะปกป้องแคว้นเยี่ยนเอาไว้ได้หรือไม่เธอทำได้เพียงรอดูแล้วแต่เธอหวังว่าเซี่ยเวยจะปกป้องเอาไว้ได้หากราบรื่นก็ผลัดเปลี่ยนแผ่นดินแคว้นเยี่ยนเช่นนั้นความปรารถนาที่จะรวมทั้งใต้หล้าเป็นหนึ่งเดียว แว่นแคว้นแรกก็บรรลุผลแล้วเมื่อเย่มู่มู่คิดมาถึงตรงนี้ ความรู้สึกเหนื่อยล้าก็แผ่ซ่านขึ้นมาทั้งตัวแวบหนึ่งพร้อมกับพลันตื่นเต้นขึ้นมาเธอหวังเป็นอย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 515

    เวินลี่ตอบตกลงว่าจะหารถบรรทุกน้ำมันมาให้ ภายใต้การรับรองซ้ำแล้วซ้ำเล่าของเย่มู่มู่ส่วนจำนวนที่แน่ชัด ยังตอบตกลงไม่ได้เย่มู่มู่กระทั่งพูดกับเธออย่างกล้าหาญว่า หวังว่าจะรวมไปถึงปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งด้วยแบบนั้นจะได้ขนน้ำมันมาได้อย่างต่อเนื่องในเวลานี้เอง เวินลี่ก็ตัดสายทิ้งไปเลยรวมถึงปั๊มน้ำมันด้วยภูมิหลังไม่เท่าไร ไม่มีเส้นสายบริษัทน้ำมัน จึงไม่ได้โควตา...ยากเป็นอย่างมาก!สำเร็จเรียบร้อย เย่มู่มู่ยังหาโรงงานที่ทำขนส่งถังใส่น้ำในพื้นที่ และเหมาสต็อกทั้งหมดเงื่อนไขเพียงหนึ่งเดียวคือต้องล้างภายในถังเหล็กให้สะอาด และฆ่าเชื้อให้เรียบร้อยขนมาภายในสามชั่วโมงเธอต้องการบรรจุน้ำใส่ถังใหญ่เหล่านี้ให้เรียบร้อย แล้วใส่ในที่ว่างเปล่าภายในแจกันผ่านไปครึ่งชั่วโมง รถขนส่งหลาบขบวน ขับมาถึงใต้ตีนเขาเย่มู่มู่ตรวจสอบถังน้ำมัน ทั้งหมดถูกเติมจนเต็มแล้วน้ำมันเครื่อง น้ำยาล้างกระจกและอะไหล่ต่าง ๆ เตรียมไว้ครบหมดแล้วขบวนรถล็อตแรกยี่สิบคัน เธอจ่ายเงินค่าเช่าหนึ่งปีเลยเงินนี้แทบจะซื้อรถบรรทุกเก่า ๆ ได้สักคันแล้วหัวหน้าของขบวนรถที่มองอยู่อึ้งไปเลย เธอแก้ไขสัญญากับมือ บอกว่าหากหนึ่งปียั

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 514

    ความกดดันที่เขาเผชิญในตอนนี้ มากมายเสียยิ่งกว่าพวกเขากลับไปป้องกันแคว้นเยี่ยนเสียอีกทว่ากลับตัดสินใจให้พวกเขากลับไปปกป้องเมืองอย่างแน่วแน่ความเชื่อใจนี้ บุญคุณนี้ พวกเขาหกคนจะไม่มีวันลืมทั้งหกคนลุกขึ้นขอตัวลากับจ้านเฉิงอิ้นทันทีจ้านเฉิงอิ้นให้เวลาพวกเขาได้เตรียมตัวเพียงสองชั่วยามเท่านั้นผ่านไปสองชั่วยาม ต้องออกเดินทางกลับแคว้นเยี่ยนเมื่อเย่มู่มู่ได้ยินเรื่องนี้ ก็ถามจ้านเฉิงอิ้น...“ตอนนี้มีรถกี่คัน? อาหารกับแหล่งน้ำล่ะ?”คนห้าหมื่นคนกลับไปรักษาป้องกัน และช่วงชิงเวลากับแคว้นฉู่และฉีสองแคว้นตามแผนที่ที่จ้านเฉิงอิ้นส่งมา และคำอธิบายของหลูซีกับหลูหมิง แคว้นฉู่และฉีอยู่ใกล้กับแคว้นเยี่ยนมากกว่า...พวกเขารีบกลับไปป้องกัน...และยังต้องต้องแก้ปัญหาอาหารการกิน และน้ำท่าของราษฎรเมืองหลวงแคว้นเยี่ยนให้เรียบร้อย ราษฎรแคว้นเยี่ยนจะได้มีกำลังมาสนับสนุนพวกเขาอย่างเต็มที่อย่าว่าแต่ผลัดเปลี่ยนแผ่นดินเลย ขอเพียงพวกเขามีน้ำและอาหาร ก็ถูกสนับสนุนให้เป็นฮ่องเต้แล้วฉะนั้น ตอนนี้จ้านเฉิงอิ้นยังมีเสบียงอีกเท่าไร?จ้านเฉิงอิ้นกล่าว “รถบรรทุกยี่สิบคัน รถบรรทุกขนาดกลางสามสิบคัน รถเล็กสิบค

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 513

    เหตุใดจ้านเฉิงอิ้นจะไม่รู้ถึงความกดดันของห้าหมื่นคน ที่ต้องเผชิญหน้ากับคนห้าแสนคนแม้จะช่วงชิงภูเขาเหมืองและระเบิดโรงงานดินปืนทิ้งไปแล้ว สูญเสียไปหนึ่งแสนคนยังมีอีกสี่แสนคนแต่เขาเองก็รู้ว่า จะให้ไปเฝ้าเมืองหลวงแคว้นเยี่ยนเอาไว้ มีเพียงเซี่ยเวยที่มีเหตุผลและน่าเชื่อถือที่สุดจ้านเฉิงอิ้นสั่งให้เถียนฉินตามตัวเซี่ยเวยและทหารกลุ่มหนึ่งมาพวกเขาทุกคนกึ่งคุกเข่าพร้อมพยักหน้าจ้านเฉิงอิ้นมองพวกเขา หลังจากอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่ง ความรู้สึกของทุกคนก็ยิ่งลึกซึ้งมากขึ้นวันนี้เมื่อยืนยันว่าฮ่องเต้แคว้นเยี่ยนนำกองกำลังทหารทั้งหมดมายังต้าฉี่จะต้องมีกองกำลังแคว้นอื่นที่ฉวยโอกาสช่วงโกลาหลเข้ามาแน่พวกเขาจะต้องเฝ้าเอาไว้ให้ดีจ้านเฉิงอิ้นกล่าว “ตามรายงานที่น่าเชื่อถือได้ เยี่ยนซวี่รวบรวมกองกำลังสองแสนห้าหมื่นนายสุดท้ายของแคว้นเยี่ยนนำมาที่ต้าฉี่ เพื่อจัดการข้าและกองทัพตระกูลจ้าน...”พวกเซี่ยเวย จ้าวเฉียนต่างพากันเงยหน้าขึ้นมา พวกเขาเผยสีหน้าคาดไม่ถึงออกมาในทันใดกระทั่งเซี่ยเวยเอ่ยปากออกมาด้วยความตกตะลึง “เขาบ้าไปแล้วหรือ? รวบรวมกำลังทหารทั้งหมดมาที่ต้าฉี่ เพื่อจัดการท่านเนี่ยนะ?”“หากแ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 512

    ขับตรงไปยังเมืองหลวงของแคว้นเยี่ยนโดยตรง ชักอาวุธออกมา กวาดล้างกองทหารประจำการณ์ในเมืองหลวงของพวกเขา ฆ่าขุนนางในราชสำนัก ให้ดีที่สุดต้องเอาเลือดของราชวงศ์แคว้นเยี่ยนล้างรอบหนึ่งด้วยหากให้คนพวกเขาได้อีกสองสามหมื่นคน เขาสามารถผลัดเปลี่ยนแผ่นดินแคว้นเยี่ยนได้เลย!เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หลี่หยวนจงก็อดรนทนไม่ไหวที่จะออกเดินทางเมื่อเลือกจำนวนคนเรียบร้อยแล้ว ก็เลือกทหารผ่านศึกของกองทัพตระกูลจ้านสองในสามส่วนเมื่อจ้านเฉิงอิ้นไป ทิ้งทหารผ่านศึกเอาไว้สองสามพันนายคนพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นลูกน้องเบื้องล่างของหลี่หยวนจงและยังมีทหารเบื้องล่างของอู๋ลี่ที่ฝีมือไม่เลวส่วนหนึ่งพวกเขาไม่เคยผ่านกลิ่นคาวเลือดและความโหดร้ายของสนามรบมาก่อน ครั้งนี้ถือเสียว่าเป็นประสบการณ์ขับรถไปกลับรวดเร็วเป็นอย่างมาก!หลังทั้งสองคนหารือกันเสร็จ ตอนค่ำก็ออกเดินทางวันนี้ อู๋ลี่กับหน่วยเก่าของสวีหวยทะเลาะกัน จะแพร่งพรายออกไปทั้งค่ายทหาร และแพร่งพรายไปทั่วทั้งด่านเจิ้นกวน...หัวข้อบทสนทนาหลังกินข้าวที่ทุกคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานไม่หยุด คืออู๋ลี่เลาะกับเว่ยโจวกองกำลังทั้งสองฝั่งลงไม้ลงมือ ซัดกันจนกระโจมพังไปหมดผลลั

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status