จากนั้นจึงส่งข้อความให้ผู้จัดการร้านขายรถ ให้เขานำรถยี่สิบคันที่เธอเพิ่งซื้อไป ส่งไปยังร้านแต่งรถเธอทำการชำระค่ามัดจำแต่งรถเมื่อทำทุกอย่างเสร็จสิ้น เธอรู้สึกเหมือนลืมอะไรบางอย่างเธอเปิดช็อปปีบนมือถือ สั่งซื้อตาข่ายกันแดดแบบเจาะรู โครงเหล็กจำนวนมาก…มากพอที่จะให้ความร่มเงากับทุ่งนานับหมื่นหมู่เธอนึกได้อีกว่าเหอหงจะไปหาเหมืองถ่านหิน ต้องจากด่านเจิ้นกวนเป็นเวลานาน เสบียงอาหารที่พกไปด้วยไม่สามารถเก็บไว้ได้นานเธอจึงซื้อเสบียงทหาร ขนมปังแข็ง หมูแฮม เนื้อกระป๋องและผลไม้กระป๋องจำนวนมากจากในเมืองรวมถึงถังน้ำขนาดใหญ่ที่บรรจุแบบปิดผนึกเธอนัดหมายกับร้านค้าเรียบร้อย ให้นำของมาส่งในวันพรุ่งนี้ครั้นทำทุกอย่างเสร็จ เธอจึงชำระล้างตัวแล้วเข้าสู่สภาวะหลับลึกวันถัดมา เธอเพิ่งตื่นนอน ก็ได้ยินเสียงร่วงหล่นดังขึ้นจากลานหลังบ้านส่วนแจกันของเธอ ไม่รู้ว่าไปตั้งอยู่ตำแหน่งใกล้ระเบียงตั้งแต่เมื่อไหร่ผีหลอกแล้ว!แจกันของเธอบรรลุเป็นเซียน จนขยับได้ด้วยตนเอง!เธอลุกจากเตียงทันควัน กอดแจกันไว้แล้วเปิดประบานเลื่อนออกลานหลังบ้าน…สถานที่ที่คุณแม่เคยเอาไว้ปลูกผักเมื่อก่อน รกไปด้วยวัชพืชและมีไ
“ข้าซื้อรถกระบะสิบคัน รถออฟโรดสิบคัน หลังจากแต่งรถเสร็จจะส่งไปให้…เจ้ารีบฝึกคนขับโดยเร็ว!”“ใช่ ข้ายังมีรถกระบะใช้เองอีกหนึ่งคัน ข้าจะส่งให้ทันที เจ้าหาคนมาฝึกขับรถจนกว่าจะขับคล่องแล้วจึงหยุดได้”“ช่วงบ่าย ข้าจะออกไปข้างนอกครู่หนึ่งเพื่อไปซื้อรถขุดสองสามคัน สิ่งนี้เป็นของดี สามารถขุดคลองขุดคู เป็นของมีประโยชน์อย่างยิ่ง!”เธอหย่อนกระดาษลงไปจ้านเฉิงอิ้นมีใจตรงกันมาก เขาส่งแท็บเล็ตมือสองมาทันที!เย่มู่มู่อัพโหลดวิดีโอคู่มือการเรียนและการซ่อมบำรุงรถขุดวิดีโอคู่มือการเรียน การซ่อมบำรุงรถกระบะบรรทุกหนักและรถออฟโรด…การเอาชีวิตรอดในป่า วิธีกางเต็นท์ วิธีใช้พลั่วสามพับ...และวิดีโออื่น ๆเธออัพโหลดวิดีโอกว่าหนึ่งร้อยคลิป จากนั้นจึงส่งแท็บเล็ตมือสองกลับไปอีกครั้งหลังจากทำทุกอย่างเสร็จ เย่มู่มู่ชำระล้างตัวแล้วจึงลงไปกินข้าวข้างล่างขณะรับประทานอาหาร เธอจัดการประวัติย่อของผู้จัดการร้านค้า นักบัญชีและพนักงานร้านที่ผู้อาวุโสสองสามคนเมื่อวานแนะนำมาให้ผู้จัดการร้านค้าแซ่เวิน ชื่อลี่อายุสามสิบกว่า สถานภาพโสด จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศ เคยดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขายในสาข
จวบจนวันนี้เพิ่งผ่านไปเพียงหนึ่งเดือน แต่เถากลับงอกงามแข็งแรงพิเศษใบเขียวเถาขาว เติบโตอย่างน่าพอใจมีคนเด็ดหนึ่งเส้นออกมาลองกัดกินเป็นรสชาติผักสดใหม่ปนรสใบเขียวเล็กน้อยเมื่อเถานี้กินได้ ใบก็กินได้เช่นกันพวกชาวเมืองตัดเถาออกมา เก็บดอกตูมไว้สองใบแล้วปลูกลงไปพร้อมรดน้ำให้…สองวันผ่านไปเถามันเทศมีชีวิตอีกครา เมื่อเถามันเทศเติบโตแข็งแรงแล้ว สามารถเก็บมาประกอบอาหารผัดกินได้ครั้นชาวเมืองเห็นมันเทศเด็ดกิ่งใบ เก็บเกี่ยวได้ ก็ยิ่งมีความกระตือรือร้นต่อการทำงานในที่นาเมื่อก่อนพ่อค้าผู้มั่งคั่งด่านเจิ้นกวน นิ้วมือทั้งห้าไม่เคยต้องงานในครัวเรือน ตอนนี้ลงไปทำงานในทุ่งนาแล้วทุกคนพวกเขาเปี่ยมไปด้วยความหวังกับอนาคตทุกวันนี้ไม่อยู่ในภาวะสงคราม จึงไม่มีรางวัลมอบให้เหล่านายทหาร แต่ละเดือนไปรับเสบียงทหารจำนวนสิบห้าชั่งได้เพียงเท่านั้นถึงกระนั้น มีบางครอบครัวที่ไม่มีคนเข้าร่วมกองทัพ วันนี้ก็ได้รับพื้นที่เพาะปลูกจัดสรรและปลูกมันเทศสำเร็จแล้วทุกคนต่อให้ไม่ต้องอาศัยแม่ทัพและโรงโจ๊กอีก แต่พวกเขาก็สามารถพึ่งพาตนเองและเลี้ยงดูตัวเองได้แล้วเช่นกัน!*จ้านเฉิงอิ้นเดินออกจากจวนแม่ทัพบนท้องถน
จ้านเฉิงอิ้นปัดลูกธนูได้หนึ่งดอก แต่ดอกที่สองกลับทิ่มทะลุหัวใจจ้านเฉิงอิ้นแกร็ง~ภาพเหตุการณ์นี้ ทำหน่วยกล้าตายลอบสังหารทั้งหมดอ้าปากต้าค้างเพราะลูกธนูร่วงจากแผ่นหลังจ้านเฉิงอิ้นปลายธนูไม่อาจแทงทะลุชุดเกราะเพียงเท่านั้น แต่ภายใต้ชุดเกราะยังมีชุดเกราะชั้นในให้การป้องกันสูงอีก…แม้ว่าธนูสองดอกยิงโดนเขา แต่ก็ไม่อาจทำร้ายเขาได้หน่วยกล้าตายเหล่านั้นจับจ้องจ้านเฉิงอิ้นราวกับมองสัตว์ประหลาดถึงกระทั่งมีช่วงเวลาหนึ่ง พวกเขาอยากถอนตัวกลางคัน หนีออกมาบางทีอาจยังรอดชีวิตแต่น่าเสียดาย มันสายไปแล้ว!เพราะกองทัพตระกูลจ้านได้ออกปฏิบัติการปิดล้อมแล้วทั่วทั้งบริเวณ!สวีหมิงควบม้าวิ่งมาหาและโยนของลักษณะกลมสีดำให้จ้านเฉิงอิ้น“แม่ทัพ หมวกกันน็อก!”หมวกกันกระสุนสีดำใบหนึ่งถูกจ้านเฉิงอิ้นรับไว้ด้วยหนึ่งมือเขารีบเร่งสวมหมวกดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังร่ายรำอย่างดุเดือดมากกว่าเดิม มุ่งหน้าฟันนักฆ่าแปดคนส่วนกำลังคนและม้าของกองทัพตระกูลจ้าน ปิดล้อมตรอกซอยอย่างมิดชิดไม่ให้น้ำไหลผ่านแม้แต่หยดเดียว ย่อวงล้อมแคบลงเรื่อย ๆชาวเมืองหนีอพยพแล้วตั้งแต่แรก นักฆ่าเหล่านี้เห็นทีว่าแนวโน้มสถานการณ์เปลี่ยนไ
เขากลัวจ้านเฉิงอิ้นปลุกพลังลุกฮือฮ่องเต้น้อยมีพระราชโองการ ให้จ้านเฉิงอิ้นปราบปรามกองทัพธงเหลืองถ้าเขาทำสำเร็จ ทั้งราชสำนัก ทั้งแคว้นต้าฉี่ ตำแหน่งของจ้านเฉิงอิ้นต่างกรรมต่างวาระ จะนำมาเปรียบเทียบไม่ได้อีก!ไม่ต้องพูดถึงเสนาบดีซู แม้กระทั่งฮ่องเต้น้อยก็ไม่สามารถกดขี่เขาแล้วเช่นเดียวกันเมื่อจ้านเฉิงอิ้นมีอำนาจและอิทธิพล ผู้เกิดความกลัวมากสุดย่อมเป็นเสนาบดีซูเขากลัวจ้านเฉิงอิ้นมาคิดบัญชี แก้แค้นที่เขาใส่ร้ายบิดาจนเสียชีวิต!ฉะนั้น ก่อนที่จ้านเฉิงอิ้นจะออกรบไปปราบกองทัพเหลือง เขาแทบรอไม่ไหวที่จะกำจัดเขาโดยเร็ว!สวีหวย น่าจะเป็นไปไม่ได้!ตอนนี้เขายังเอาตัวเองไม่รอด มีรายงานว่าเขาส่งคนและม้าไปตามหาหยูกยาและหมอเทวดาในดินแดนภาคกลางร่างกายของเขาบาดเจ็บสาหัสมาก อยากมีชีวิตรอดเพียงเท่านั้นเขาจะมีความคิดไปหาเรื่องจ้านเฉิงอิ้นอย่างไรอีกจ้านเฉิงอิ้นกวาดสายตาไปบนหลังคา นักยิงธนูสองคนหายไปนานแล้ว“ยังมีนักฆ่าสองคนหนีไปได้ จำไว้ ต้องจับเป็น!”เฉินขุยรับคำสั่ง “ขอรับ แม่ทัพ!”ศพบนพื้นถูกลากออกไปแล้วเดิมทีเฉินขุยเตรียมพาทหารในกองทัพตระกูลจ้านไปขุดท่อนไม้เนื่องจากแม่ทัพถูกลอบสังห
คำพูดไม่มีเค้าของจ้านเฉิงอิ้น ทำมั่วฝานชะงักอยู่กับที่ ครู่หนึ่งผ่านไปดวงตาเขาพลางแดงก่ำเขากล่าวอ้ำอึ้ง “ไทเฮาผู้อาวุโสเอ็นดูข้าเป็นที่สุด ข้าไม่อาจทนมองพะองค์ตายจากไป!”“จะให้กองทัพธงเหลืองบุกเข้าเมืองหลวงไม่ได้ ท่านพ่อท่านแม่ของข้าและคนทั้งตระกูลมั่ว…อยู่ที่เมืองหลวงทุกคน”“จ้านเฉิงอิ้น พลเมืองในเมืองหลวงช่างบริสุทธิ์เหลือเกิน ท่านทนมองกองทัพธงเหลืองบุกฝ่าไปถึงเมืองหลวงได้จริงหรือ?”จ้านเฉิงอิ้นถามอีกครั้ง “เจ้าเชื่อท่านเทพหรือไม่?”ใช่ นี่คือสิ่งที่ท่านเทพกล่าวไว้!บางทีถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น เขาจะตำหนิผู้นั้นพูดจาพล่อย ๆ จะรู้สึกโมโหและลากตัวผู้นั้นออกไปฆ่าทิ้งแต่ผู้ที่ทำนายเป็นท่านเทพเป็นท่านเทพที่เคยช่วยชีวิตนับไม่ถ้วนรอดมาได้!จ้านเฉิงอิ้นเดินเข้ามาตบไหล่ปลอบใจเขา“ท่านเทพเคยกล่าวไว้ ในบันทึกประวัติศาสตร์ ตัวข้าคนเดียวยืนอยู่บนภูเขาซากศพและทะเลเลือด ปลายกระบี่ชี้ไปยังนายทหารหนึ่งแสนคนของแคว้นฉี่ สุดท้ายสิ้นชีพใต้ดาบของพวกเขา”“ประวัติศาสตร์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร ไม่มีความสำคัญด้วยซ้ำ! เจ้าดูสิ วันนี้แม่ทัพข้ายังมีชีวิตอยู่และสบายทีเดียว”“พวกเราได้พบท่านเทพ มีชีวิตรอ
“ขอรับ แม่ทัพ!”จากนั้นเถียนฉินยื่นบัตรเชิญหลายฉบับให้เขา“แม่ทัพ ท่านมีอ่างขุมทรัพย์กับตัว ในที่สุดก็ไม่อาจปกปิดต่อไปได้อีก”“นี่คือบัตรเชิญจากสมาคมการค้าขนาดใหญ่จากแคว้นอื่น พวกเขาอยากแลกเปลี่ยนการค้ากับท่าน!”จ้านเฉิงอิ้นวางหนังสือในมือลงพ่อค้ามีชนชั้นทางสังคมต่ำสุดในแคว้นต้าฉี่ แคว้นอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกันแต่พ่อค้ากลับเป็นกลุ่มคนที่ร่ำรวยที่สุดถึงแม้ท่านเทพส่งเสบียงมาให้ไม่ขาดสาย แต่ก็ยังต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลในการสั่งซื้อฉะนั้น ถ้าในมือพ่อค้าเหล่านี้ มีสิ่งที่ท่านเทพต้องการหรือสิ่งของที่น่าสนใจเขาจะนำมาถวายให้ท่านเทพ“เอาบัตรเชิญให้ข้าดูหน่อย…”เถียนฉินยื่นบัตรเชิญนับสิบใบด้วยสองมือจำนวนมากเพียงนี้ นับว่าเกินความคาดหมายของจ้านเฉิงอิ้นมากบัตรเชิญสองสามใบด้านหน้าสุด ล้วนเป็นของสมาคมการค้าขนาดใหญ่ไม่กี่กลุ่มที่อยู่ในอาณาเขตหัวเซี่ยมีกลุ่มต้องการน้ำ มีกลุ่มต้องการเสบียงอาหาร…พวกเขายินยอมที่จะส่งทองคำนับหมื่น เพื่อต้องการแลกเปลี่ยนเสบียงอาหารและน้ำกับจ้านเฉิงอิ้นแน่นอนว่า พวกเขาอยากเข้ามาทำการค้าในด่านเจิ้นกวนมากกว่าจะเข้าด่านเจิ้นกวนต้องมีใบผ่านด่านและอนุญาตเ
จ้านเฉิงอิ้นเบิกตาอย่างดุดัน สีหน้าตึงเครียด“กองทัพธงเหลืองมีความเป็นมาอย่างไร?”มั่วฝานหยิบม้วนเอกสารลับออกมาจากอกเสื้อ แล้วส่งให้จ้านเฉิงอิ้นด้วยสองมือจ้านเฉิงอิ้นดึงกระดาษสีขาวในกระบอกไม้ไผ่ออกมา เขาเปิดเอกสารลับนั้นอย่างระมัดระวังข้อความเขียนโดยหน่วยกล้าตาย พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงบุคคลสำคัญในระดับสูงได้ สมาชิกทั้งหมดในตอนนี้ กินโจ๊กที่ทำจากข้าวฟ่างข้าวฟ่างสะอาดมาก ไม่มีกรวดปะปน ไม่มีการผสมเปลือกข้าวและรำข้าวข้าวฟ่าง หรืออีกชื่อคือข้าวเม็ดเล็ก เป็นสิ่งที่ท่านเทพประทานมาให้จำนวนมาก ชาวบ้านในด่านเจิ้นกวนกลับชอบกินข้าวขาวและแป้งสาลีมากกว่า ข้าวขาวนำมาทำเป็นโจ๊ก ส่วนแป้งสาลีนำมาทำเป็นแป้งเหลวหรือก้อนแป้งข้าวเม็ดเล็กกลับไม่มีใครเต็มใจจะแลก ดังนั้นจึงถูกกองไว้ในคลังเสบียงปัจจุบันนี้ ความอดอยากเกิดขึ้นมาหนึ่งปีแล้ว ธัญพืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้ แม้จะมีข้าวเก็บ ก็ไม่อาจเพียงพอเลี้ยงคนจำนวนมากขนาดนี้ได้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังกองทัพธงเหลือง เกรงว่าคงมาจากโลกเดียวกับเทพเจ้าใต้กระดาษสีขาวนั้น มีภาพวาดของอาวุธที่กองทัพธงเหลืองใช้งานส่วนใหญ่เป็นดาบและกระบี่ รวมถึงอาวุธทหารรูป
“แม้ว่าเขาจะไม่ขยายอิทธิพลในแคว้นต้าฉี่ แต่หากไปยังแคว้นอื่น ก็ยังคงเป็นศัตรูที่รับมือได้ยากอยู่ดี!”ถูกแล้ว มั่วฝานพูดไม่ผิดหากมู่ฉีซิวยังมีชีวิตอยู่ ต่อให้ต้องตายถึงสามร้อยครั้งก็ยังฟื้นคืนมาได้ด้วยนิสัยของเขา ไม่ว่าไปอยู่ที่ใดก็ต้องตั้งหลักได้อย่างแน่นอนหากปล่อยให้เขามีโอกาสเติบใหญ่ เกรงว่าจะกลับมาแก้แค้นได้อีก!เฉียนเซียงตัวตะโกนบอกเหล่าทหาร “ไป ไป ไป ไปกินข้าวก่อน กินเสร็จแล้วพวกเราจะออกเดินทางทันที ไปฆ่ามู่ฉีซิวให้ได้ จะได้ล้างแค้นให้กับสี่เดือนที่ต้องหนีหัวซุกหัวซุนเพราะเขา!”เหล่าทหารต่างขานรับพร้อมเพรียง ก่อนจะพากันนั่งล้อมวงที่โต๊ะอาหารเมื่อเห็นกับข้าวมากมายจัดเรียงเต็มโต๊ะทุกคนต่างอุทานออกมาด้วยความตกตะลึง“โห ข้าเกิดมาในตระกูลมั่งคั่ง ไม่เคยขาดแคลนเงินทอง แต่ไม่เคยเห็นโต๊ะอาหารที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้มาก่อน!”“กระต่ายตัวใหญ่ทั้งตัวถูกย่างแบบนี้เลยหรือ?”“ห่านนี่ก็ด้วย พวกเราปกติเอาไปต้มซุปกันแท้ ๆ!”“กลิ่นเครื่องเทศนี่มันอะไรกัน หอมเหลือเกิน! หากสามารถนำเครื่องเทศพวกนี้ไปขายยังดินแดนต่าง ๆ คงทำเงินได้มหาศาลแน่!”หยางชิงเหอมองคนกลุ่มนี้ “พวกเขาสู้กับมู่ฉีซิวมา
“คืนนี้ ข้ากับทหารผ่านศึกตระกูลจ้านจะลงมือ ออกเดินทางทั้งวันทั้งคืนเพื่อสกัดพวกเขา”“ส่วนภารกิจตามหามู่ฉีซิว...”เฉียนเซียงตัวคิดตามทันที ก่อนหันไปรับรองกับจ้านเฉิงอิ้น “วางใจเถิด แม่ทัพใหญ่ ข้าจัดการเรื่องนี้ให้ได้แน่นอน”จากนั้นเขาบ่นพึมพำ “มู่ฉีซิวผู้นี้ช่างต่ำช้าไร้ยางอายเสียจริง ตัวเองเป็นคนเชื่อมโยงเรื่องทั้งหมด ดึงให้ฮ่องเต้ต้าฉี่ส่งทัพมาปราบท่าน แล้วผลลัพธ์ล่ะ!”“เขายังแอบเก็บกำลังทหารส่วนหนึ่งไว้ เพื่อบุกโจมตีเมืองหลวงต้าฉี่ เอาฮ่องเต้น้อยมาเล่นเป็นตัวตลกเสียด้วย!”“เชอะ! ฮ่องเต้ผู้นี้ไร้ความสามารถ ส่วนมู่ฉีซิวนั้นไร้ยางอายเกินจะกล่าว ข้าพ่ายแพ้ให้เขามากว่าสิบศึก ก็สมควรแล้ว!”“แต่ตราบใดที่ข้าชนะในศึกสุดท้าย ข้าย่อมเป็นผู้ชนะตัวจริง!”ความมองโลกในแง่ดีของเฉียนเซียงตัวทำให้จ้านเฉิงอิ้นประทับใจลึกซึ้งแม้ชายผู้นี้อาจไม่มีความเป็นผู้นำมากนัก แต่เรื่องทัศนคติในการใช้ชีวิตกลับไม่มีที่ติจ้านเฉิงอิ้นเอ่ยถาม “เจ้าต้องการอะไรอีกหรือไม่? ขอมาได้เลย!”ดวงตาคู่เล็กของเฉียนเซียงตัวที่ปกติหรี่เป็นเส้นเล็ก ตอนนี้กลับเบิกกว้างขึ้นมาในทันที“ท่านพูดเองนะ ข้าจะไม่เกรงใจแล้ว!”“ไม่ม
ที่แท้ขั้นตอนในโรงงานเป็นแบบนี้นี่เอง สะดวกและรวดเร็วกว่าช่างตีดาบตีเหล็กมากนักพวกเขายังได้เห็นรถเครนยกของที่ยกแร่เหล็กลงมาจากยอดเขาเป็นตะกร้า ๆ เข้าไปในโกดังของโรงงานยังมีรอกเชือกสลิงที่ขนแร่ลงมาจากเหมืองคนกลุ่มนี้สงสัยว่าขุดแร่กันอย่างไร ทำไมถึงขนลงมาเป็นตะกร้า ๆ ได้รวดเร็วขนาดนี้เมื่อไปถึงยอดเขา ทุกคนก็เบิกตากว้าง มองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตกใจน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้วมันเกินจริงมาก!แม่ทัพคนหนึ่งที่อยู่ข้าง ๆ เฉียนเซียงตัวอ้าปากค้าง “โห... นี่มันรถอะไร แขนยาวขนาดนี้!”“ดูนั่นสิ รถแขนยาวคันนั้นมีหัวสว่านติดอยู่ สามารถเจาะเข้าไปในแร่เหล็ก ตีแร่ให้แตก แล้วขุดออกมาได้!”เดิมทีพวกเขาคิดว่า คนงานเหมืองต้องลำบากมากแต่พอมาเห็นกับตาก็พบว่า มันลำบากจริง ๆ!พวกเขาต้องบรรจุแร่ใส่รอกแล้วปล่อยลงไปส่วนการขุดแร่ การบรรจุใส่ตะกร้า หรือแม้แต่การขึ้นรถเครนยกของ พวกเขาก็ไม่ต้องลงมือทำเองสิ่งที่พวกเขาทำมีเพียงแค่หยิบตะกร้าเปล่าออกจากรอก แล้ววางตะกร้าที่บรรจุแร่เต็มลงไป ปล่อยลงไป...พวกเขาเดินกลับลงมาจากเขาเป็นขบวนใหญ่ตลอดทางไม่มีใครพูดอะไร“เพราะกองทัพตระกูลจ้านทำให้พวกเขาตกต
จ้านเฉิงอิ้นกล่าวต่อว่า “ยังมีรถอีกสองร้อยคัน ข้าและทหารผ่านศึกห้าหมื่นคนจะนั่งรถบรรทุกขนาดใหญ่สองร้อยคัน พร้อมกับม้าศึกที่เหลืออยู่ในฐาน ไปสกัดคนที่มู่ฉีซิวส่งไปแทรกซึมเข้าเมืองหลวง คนเหล่านั้นมีประมาณสองแสนสามหมื่นคน แม้จะปลอมตัวมา แต่จำนวนมากขนาดนั้น น่าจะหาได้ไม่ยาก!”“ต้องหยุดพวกเขาให้ได้ หวังเซิ่ง หลีชิง เสียวอู่ และคนอื่น ๆ ที่เคยแทรกซึมเข้าไปในกองทัพธงเหลือง ให้ไปด้วยกัน!”เมื่อหยางชิงเหอได้ยินดังนั้น นางก็วางตะเกียบลงและกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ข้าไปด้วย!”เฉินอู่ต้องการจะปฏิเสธหวังเซิ่งและเสียวอู่ที่โต๊ะข้าง ๆ ลุกขึ้นยืนทันทีหวังเซิ่งไม่เห็นด้วย “ไม่ได้ มันอันตรายเกินไป!”เสียวอู่ก็กล่าวว่า “พี่ชิงเหอ ข้าไม่ได้มีอคติกับเจ้า แต่เจ้าเป็นสตรี ไม่มีวรยุทธ์ติดตัว พวกเราต้องเสียสมาธิมาคอยปกป้องเจ้า”“พวกเขามีสองแสนกว่าคน แต่เรามีแค่ห้าหมื่นคน เกรงว่าจะดูแลไม่ทั่วถึง”หยางชิงเหอกล่าวว่า “ข้าไม่ต้องการให้พวกเจ้ามาปกป้องข้า ถ้าหาก...”“ข้าสามารถโน้มน้าวให้พวกเขาเข้าร่วมกองทัพตระกูลจ้านได้ ท่านแม่ทัพจะไว้ชีวิตพวกเขาได้หรือไม่”“แม้ว่าจะต้องซ่อนตัวอยู่ในภูเขานี้ตลอดชีวิต ท
“ถึงแม้จะถืออาวุธเหล็กกล้าก็ไม่มีประโยชน์!”“อาวุธเย็นไม่อาจสู้กับอาวุธร้อนได้ เจ้าคิดจะทำให้ชนเผ่าหมานม่อเป่ยกลายเป็นพวกที่ร้องรำทำเพลงหรืออย่างไร?"“รอให้ข้าสร้างปืนและปืนใหญ่ขึ้นมา ต่อไปพวกเขาจะต้องเต้นเก่งทุกคน!”เฉินขุย เฉินอู่ ซ่งตั๋ว รวมถึงจวงเหลียง...ทุกคนตาเป็นประกายเฉินอู่ถามอย่างสงสัย “จริงหรือ?”“แน่นอน แค่ทำให้พวกเขากลัว ข้าถึงต้องการท่อเหล็กหมื่นท่อ เพราะว่าแค่ไม่กี่ร้อยหรือพันท่อ ไม่สามารถข่มขู่คนเจ็ดแสนกว่าคนได้!”“ถ้ามีปืนใหญ่หมื่นกระบอก ก็เพียงพอที่จะข่มขู่มู่ฉีซิว เขาถึงจะถอยทัพ!”“บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ของเรามีคำกล่าวที่แพร่หลายว่า ความจริงอยู่ในระยะยิงของปืนใหญ่ ศักดิ์ศรีอยู่บนคมดาบ“มีอาวุธที่ทรงพลังพอ พวกเผ่าหมานจะกล้าสู้กับเราหรือไม่? พวกเขายังไม่ทันขี่ม้ามาถึงหน้าเรา ข้ายิงปืนใหญ่ทีเดียวก็ตายไปสิบกว่าคนแล้ว!”“ในอนาคตเจอเราก็ต้องวิ่งหนี!”จ้านเฉิงอิ้นครุ่นคิดถึงคำพูดของหยางชิงเหอที่ว่า ความจริงอยู่ในระยะยิงของปืนใหญ่ ศักดิ์ศรีอยู่บนคมดาบ...ตอนนี้อาวุธยุทโธปกรณ์ของเขาก็เหนือกว่าทุกแคว้นแล้ว แต่แคว้นเหล่านั้นยังไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาทำไม~
ทหารผ่านศึกเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ตลอดทั้งคืน แต่พวกเขาก็ยังคงฮึกเหิมในการต่อสู้ในวันนี้ คนส่วนใหญ่กินไปก็หลับไปคนที่ยังดื่มได้ก็ดื่มไปไม่กี่แก้วแล้วก็ฟุบหลับไปบนโต๊ะพวกชาวบ้านกลับกินกันอย่างเอร็ดอร่อยพืชที่ปลูกยังไม่ถึงเวลาเก็บเกี่ยว กองทัพตระกูลจ้านเป็นผู้ดูแลเรื่องอาหาร แต่ปกติแล้วทุกคนกินแค่ขนมปังแป้งสาลีและโจ๊กเนื้อ... บางครั้งก็ต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกับเส้นบะหมี่รวมกัน อาหารเหล่านั้นดีกว่าก่อนภัยแล้งเสียอีก!ตั้งแต่เกิดมาพวกเขาไม่เคยกินอาหารที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้มาก่อน!ทันใดนั้นพวกเขาก็มีความสุข กินและหยิบอาหารกลับบ้าน!ทหารผ่านศึกที่ยังกินอยู่บนโต๊ะก็ไม่ได้ห้าม ปล่อยพวกเขาไปทหารแคว้นเยี่ยนที่มาถึงคนสุดท้าย อาหารและเครื่องดื่มบนโต๊ะหนึ่งร้อยยี่สิบตัว เป็นของพวกเขาทหารผ่านศึกกินไม่หมดก็รีบกลับไปนอน เหลืออาหารบนโต๊ะขนาดใหญ่พวกเขาและชาวบ้านก็เหมือนกัน ไปที่โต๊ะข้าง ๆ กินและหยิบอาหารทหารแคว้นเยี่ยนบางคนเปิดถุงใสที่คลุมโต๊ะออก งานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยสีสัน กลิ่น และรสชาติก็ปรากฏแก่สายตาหมูหันย่างตัวนั้น พวกเขาหยิบหนังกรอบมากินชิ้นหนึ่งเคี้ยวจนเสียงกรอบดังออกมา...
เพียงพอที่จะทำให้ชั่วชีวิตไม่ต้องกังวลเรื่องเสื้อผ้าและอาหาร ทั้งยังสามารถนำพาให้ครอบครัวไปสู่ความมั่งคั่งได้ด้วยหากพวกเขาลังเล ก็คงเป็นแค่คนโง่เง่าเท่านั้นทุกคนคุกเข่าลง พลางกล่าวกับเฉินขุยอย่างพร้อมเพรียงกันว่า “พวกข้าน้อยยินดีเข้าร่วมกับกองทัพตระกูลจ้าน แม้เป็นตายก็ไม่กลัวขอรับ!”“ท่านแม่ทัพใหญ่ให้พวกข้าน้อยทำอันใด พวกเราก็จะทำทั้งนั้น!”“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเราคือทหารภายใต้ธงของกองทัพตระกูลจ้าน!”เฉินขุยพึงพออย่างยิ่งกับท่าทีของเหล่าเชลยศึกมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่กำลังลังเลตอนที่กลับมาพวกเขาก็ไม่ให้ความร่วมมือ คุมตัวกลับมาต่างก็ต้องผลักดันให้กลับพอถามจึงได้รู้ว่าเป็นองครักษ์คนสนิทของแม่ทัพผู้เฒ่าถึงกระนั้น เฉินขุยก็ไม่ได้ฝืนใจพวกเขา ให้ทหารแคว้นเยี่ยนคนอื่น ๆ นำตัวมาที่ด้านหน้าของโอ่งน้ำเมื่อพวกเขามองเห็นโอ่งน้ำเป็นแถวเป็นแนว ก็สงสัยในตัวเองเป็นอย่างแรกในตอนแรกค่อนข้างดื้อดึงดีทีเดียวทว่าเมื่อมองเห็นคนอื่นดื่มน้ำ ก็ไม่ใส่ใจศักดิ์ศรีและก้มศีรษะลงเพื่อดื่มน้ำด้วยคำพูดของเฉินขุยเมื่อครู่นี้ ทำให้เชลยศึกทั้งหมดของกองทัพแคว้นเยี่ยนคลายความสงสัย และสมัตรใจเ
ทหารชั้นผู้น้อยคนนี้ผอมแห้ง อีกทั้งยังอยู่ในวัยผู้ใหญ่ ทว่าเตี้ยกว่าคนอื่น ๆ หนึ่งช่วงหัวเป็นผู้ที่มีชีวิตยากลำบากคนหนึ่งเฉินขุยให้ทหารพยุงเขาขึ้นมาเมื่อเขามองไปก็เห็นเหล่าทหารจำนวนมาก ดื่มน้ำไปถอดทอนใจไปมีบางคนที่ได้กลิ่นหอมของเนื้อ ทว่าเมื่อคิดถึงจุบจบว่าอาจจะถูกฝังทั้งเป็นหรือถูกทำงานหนักจนตายพวกเขาแต่ละคนก็ไร้ชีวิตชีวาแม้ว่าจะดื่มน้ำจนพอแล้ว แต่จุดจบของเชลยศึกล้วนไม่ค่อยดีนักเมื่อสองพันกว่าปีก่อน จุดจบของเชลยศึกจะต้องตกไปเป็นทาสทาสจำนวนมากมักจะถูกสังหารเพื่อใช้เป็นเครื่องสังเวยตั้งแต่อายุยังน้อยจุดจบของพวกเขา คงจะหนีไม่พ้นการถูกสังหารเพื่อนำไปเป็นเครื่องบูชายัญ!อย่างไรก็ตาม เฉินขุยเคยอ่านหนังสือที่มาจากยุคปัจจุบันมาหลายเล่ม คนในยุคปัจจุบันนั้นเท่าเทียมกัน ทว่าที่ต้าฉี่ยังไม่สามารถกระทำได้ในช่วงเวลาอันสั้นแต่การเห็นผู้อื่นเป็นมนุษย์นั้น จะไม่สามารถปฏิบัติต่อผู้อื่นเป็นเหมือนทาสได้อีกท่านแม่ทัพใหญ่เคยพูดไว้ด้วยว่า เขาจะหาวิธียกเลิกการสังหารทาสเพื่อมาเป็นเครื่องบูชายัญดังนั้นเขาจึงหยิบลำโพงประกาศเสียงขนาดใหญ่ แล้วพูดกับเชลยศึกด้วยเสียงอันเปี่ยมพลังว่า“ตาม
ทหารผ่านศึกหลายคนอาศัยอยู่ในห้องเดียวกัน บนหลังคาติดตั้งแผงไฟโซลาร์เซลล์ มีหน้าต่างกระจก จุดตะเกียง และพัดลมเพดาน…เมื่อเข้ามาข้างในไม่ร้อนอบอ้าวเลยแม้แต่น้อย นอกจากจะเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศแล้ว ยังมีพัดลมเพดานที่สามารถพัดได้ด้วยเตียงของพวกเขาล้วนแต่ทำมาจากโครงเหล็กเสื่อของพวกเขา สานมาจากไม้ไผ่อีกทั้งแต่ละคนต่างก็มีแก้วน้ำที่ทำมาจากเหล็กผ้าขนหนูหนึ่งผืน กะละมังเคลือบเซรามิกหนึ่งใบ แก้วน้ำพลาสติกหนึ่งใบ ที่ภายในใส่แปรงสีฟันและยาสีฟันเอาไว้เฉียนเซียงตัวหยิบยาสีฟันและแปรงสีฟันขึ้นมา แล้วถามมั่วฝานด้วยความสงสัย“สหายมั่ว สิ่งนี้คืออันใดกัน?”มั่วฝานหัวเราะพลางหยิบแท็บเล็ตขึ้นมา แล้วเล่นโฆษณายาสีฟันชิ้นหนึ่งในจอภาพนั้น สตรีงดงามนางหนึ่งกำลังบีบยาสีฟัน หลังจากนั้นก็เป็นฉากแปรงฟันเฉียนเซียงตัวตะลึงจนอ้าปากค้าง สายตาถูกสาวงามดึงดูดไปอย่างสมบูรณ์เขาเดินไปอย่างงุนงง พลางใช้มือสัมผัสไปที่หน้าจอวิดีโอหยุดลงจากนั้นเมื่อแตะเบา ๆ อีกครั้ง วิดีโอก็เล่นต่อเขาประหลาดใจถึงขีดสุด “นะ นี่มันคือสิ่งใดกันแน่ ช่างอัศจรรย์เกินไปแล้ว!”“ใส่คนลงไปข้างในได้ด้วยงั้นหรือ?”มั่วฝานเปิ