ชั่วขณะหนึ่ง แม้แต่ฉู่เฉินก็มองจนใจลอย! เรียวขางามที่เกลี้ยงเกลาดั่งหยกคู่นั้นดูขาวนวลขึ้นเล็กน้อยภายใต้แสงจันทร์ ชุดเดรสชีฟองยาวแทบจะโปร่งใสที่ปกปิดไว้เพียงครึ่งเดียวยิ่งเพิ่มความรู้สึกเลือนรางหน้าอกอวบอิ่มเต่งตึงเบื้องหน้าคู่นั้นเผยให้เห็นเพียงครึ่งเดียว ส่วนที่นูนขึ้นมาเป็นรูปทรงครึ่งวงกลมสองลูกและร่องอกที่ขาวเนียนทำให้ผู้คนอดจินตนาการโลดแล่นไม่ได้ องคาพยพทั้งห้าอันประณีตงดงาม คิ้วตาล้วนเฉิดฉันราวกับเซียน“แม่เจ้า นั่นใช่พี่นางฟ้าหรือเปล่า?”“ฉันตาฝาดไปแล้วใช่หรือเปล่า เทพธิดาลงมาที่บ้านฉันแล้วเหรอ?”แม้แต่ชาวบ้านหลายคนที่อยู่รอบข้างก็ถูกภาพตรงหน้านี้ดึงดูดสายตาโดยสิ้นเชิงอึก! ฉู่เฉินกลืนน้ำลายอึกใหญ่ติดต่อกัน ฝืนข่มกลั้นความหวั่นไหวในใจ นี่มันท่านผู้อาวุโสลัทธิศักดิ์สิทธิ์ที่เจอบนเทียนเฟิ่งวิลลาเมื่อครั้งก่อนไม่ใช่เหรอ?อาจเป็นเพราะครั้งก่อนอยู่ภายใต้สถานการณ์เร่งด่วน เขาเลยไม่ได้สนใจสาวงามเลิศล้ำผู้นี้แต่ตอนนี้ เมื่อดูให้ละเอียด ฉู่เฉินพลันรู้สึกว่าสาวงามที่อยู่รอบตัวทั้งหมดดูจืดชืดไปเลย เมื่อเปรียบเทียบกับสาวงามตรงหน้านี้ที่ทำให้เกิดความรู้สึกเหมือนไม่ใช่ปุถุช
ฉู่เฉินอดพลั้งปากออกมาไม่ได้ แม้ว่านี่เป็นยาชั้นกลางระดับดำ แต่การใช้งานกลับไม่แพร่หลายนัก ตามบันทึกที่สืบทอดกันมาของมังกรเฒ่า ยาชนิดนี้มักใช้โดยบรรดาผู้หญิงในแดนเซียนที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวเป็นเวลานานเพื่อระงับเพลิงชั่วร้ายในร่างกายแม้บอกว่าผู้หญิงที่บำเพ็ญเพียรทุกคนจะใสสะอาดบริสุทธิ์ดั่งหยก แต่สุดท้ายก็ยังเป็นมนุษย์อยู่ดี ตราบใดที่เป็นมนุษย์ก็มีเจ็ดอารมณ์หกปรารถนา โดยเฉพาะชายหญิงที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว หากข่มกลั้นความปรารถนาเป็นเวลานาน ยากจะหลีกเลี่ยงสักวันที่จะระเบิดออกมา เมื่อระเบิดออกมาหมด มีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะธาตุไฟเข้าแทรกดังนั้นถึงได้มีคนตั้งใจคิดค้นยาชนิดนี้ออกมา หรือว่า...ฉู่เฉินกวาดตามองอวี้ลู่ที่สวมชุดเรียบง่าย จากนั้นถึงค่อยสังเกตเห็นว่ามีบนลำคอเนียนของเธอมีหยาดเหงื่อเป็นประกายอยู่หลายหยด แต่โดยทั่วไปแล้วยอดฝีมือระดับทารกวิญญาณทุกคนจะไม่มีของเหลวในร่างกายไหลออกมา ยิ่งไม่มีทางหลั่งเหงื่อ นอกเสียจากว่าจิตใจจะเกิดความปรารถนา เพลิงชั่วร้ายเกิดขึ้นข้างใน ถึงได้เกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้น“เจ้ารู้ว่านี่คือยาเก้าตะวันหรือ?” อวี้ลู่มองฉู่เฉินอย่างประหลาดใจแกมยินดี
“กล้าเกี่ยวก้อยไหม?” เมื่อได้ยินคำพูดที่มาอย่างกะทันหันของฉู่เฉิน อวี้ลู่ก็อึ้งไปก่อน จากนั้นก็อดปิดหน้ายิ้มหวานขึ้นมาไม่ได้ หมอน้อยคนนี้น่ารักเกินไปแล้วจริง ยังอยากเกี่ยวก้อยกับเธออีก?ไม่ใช่เด็กแล้วนะ “ได้!”อวี้ลู่พูดพลางยื่นนิ้วก้อยเรียวบางออกมา ฉู่เฉินก็ยื่นนิ้วก้อยออกมาเช่นกัน ก่อนจะเกี่ยวก้อยกับมือเนียนบอบบางของอวี้ลู่ทันทีที่สัมผัสก็มีความเย็นลื่นสายหนึ่งส่งเข้ามามือเล็ก ๆ ข้างนั้นเย็นเล็กน้อยเหมือนหยก สัมผัสที่มือดีมากจริง ๆมิน่าล่ะในมรดกของมังกรเฒ่าถึงบรรยายว่ากายาหยกเซียนสวรรค์เป็นกระถางที่หาได้ยากยิ่งถึงขนาดยังบอกว่าถ้าได้ร่วมสังวาสกัน ไม่เพียงเพิ่มพลังขึ้นมาก ยังสามารถเพลิดเพลินกับความสุขของชีวิตมนุษย์ได้อย่างเต็มที่ซี้ด!มังกรเฒ่าไม่ได้หลอกฉันจริง ๆ ด้วยฉู่เฉินคิดได้ดังนั้นก็ปล่อยมือเล็ก ๆ ของอวี้ลู่อย่างอาลัยอาวรณ์ แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าลำบากใจนิดหน่อยว่า “การหลอมยาไม่ใช่ปัญหา แต่ว่าคุณต้องช่วยหาสมุนไพรนี้ อาศัยแค่แหล่งข่าวของผม น่าจะต้องรอจนทะเลกลายเป็นท้องนาเลย” อวี้ลู่พยักหน้าหนัก ๆ แม้แต่ในแดนเซียน สมุนไพรนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะพบเจอได้บ่อย เนื่องจากเงื่อ
มองอวี้ลู่ที่ใสสะอาดบริสุทธิ์ดั่งหยก ท่าทางดูเหมือนไร้เดียงสามาก แต่ภายในกลับซ่อนความคิดลึกซึ้งละเอียดรอบคอบไว้“ของที่มีระดับสูงเกินไปไม่เหมาะกับผมหรอกครับ ถ้าผมหาบ้านไม่เจอขึ้นมาจะทำยังไง คุณคงไม่รับผมไว้หรอก” ฉู่เฉินเอ่ยปฏิเสธอย่างอ้อมค้อมเมื่อเห็นว่าฉู่เฉินไม่ตกหลุมพราง อวี้ลู่ก็ดูผิดหวังเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ แล้วกล่าวว่า “เอาเถอะ ติดต่อข้าได้ทุกเมื่อ”พอพูดจบ ร่างที่ขาวราวกับหิมะก็ลอยขึ้นมาฉู่เฉินมองจนรู้สึกอิจฉามาก ๆบางทีหลังจากที่เขาทะลวงขั้นสร้างรากฐานได้แล้ว เขาอาจจะไปมาดั่งเซียนเหมือนกับเธอก็ได้?จนกระทั่งร่างของอวี้ลู่หายลับไปในท้องฟ้ายามราตรีแล้ว ฉู่เฉินถึงค่อยผลักประตูเดินเข้าไปในลานบ้าน“นายท่าน ท่านผู้อาวุโสคนนั้นจากไปแล้วเหรอคะ?”เมื่อเห็นฉู่เฉินเดินเข้ามา อินซู่ซู่ถึงค่อยพูดพลางเดินเข้ามาใกล้โดยที่ดวงหน้าเล็กซีดเผือด“ไปแล้ว ทำไมเหรอ?”ฉู่เฉินเลิกคิ้ว จ้องมองอินซู่ซู่พร้อมถามว่า “เธอไม่ใช่ผู้อาวุโสของลัทธิศักดิ์สิทธิ์พวกเธอเหรอ? ถึงกับกลัวเธอขนาดนี้เชียว?”อินซู่ซู่ส่ายหน้าติดต่อกัน “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เมื่อกี้ตอนที่นายท่านยังไม่กลับมา จะ...จู่
ฉู่เฉินเหยียบคันเร่ง ไม่ถึงสิบนาทีก็ไปถึงโรงแรมที่หลิวฉางเจียงเคยพักอยู่เขาขึ้นลิฟต์ไปยังถึงยังหน้าประตูห้องสวีตบนดาดฟ้า ฉู่เฉินกดรหัสตามที่ปี้เวยเคยบอกไว้ ค่อยๆ เปิดประตูเข้าไปอย่างเบามือเขาเพิ่งก้าวขาเข้าไป ภายในห้องก็มีเสียงหวานดังออกมาประดุจฟ้าร้องฉู่เฉินปิดประตู ก้าวเดินเข้าไปในห้อง ในตอนที่เปิดประตู ไฟหัวเตียงแสงสีเหลืองก็สาดส่องมาเห็นแค่เตียงใหญ่ที่กว้างประมาณสองเมตร ปี้เวยได้มานั่งบนเตียงนั้นแล้วเท้าเล็กๆ คู่หนึ่งวางอยู่บนเตียง บิดเอวเล็กๆ ของเธอขึ้นลงเมื่อมองผ่านแสงสลัว ก็จะเห็นใต้กระโปรงเธอที่โล่งโจ้งวิวที่สวยทั้งหมดมองเห็นได้โดยไม่มีอะไรมาขวางกั้นปี้เวยสายตาพร่ามัว ใบหน้าแดงระเรื่อสบตาเข้ากับฉู่เฉินที่อยู่ตรงประตู เธอรีบกระโดดลงมาจากเตียงอย่างคล่องแคล่วราวกับแมวที่ได้กลิ่นปลาทู รีบวิ่งเข้าไปหาฉู่เฉิน“ทำไมช้าแบบนี้ล่ะคะ!”ปี้เวยหอบหายใจ เธอแทบจะอดใจไม่ไหวที่จะเข้าไปปลดกระดุมของฉู่เฉินออก มือเล็กของเธอสะบัดเล็กน้อย หัวเข็มขัดก็หลุดออกไปด้วย“รีบเหรอครับ?”ฉู่เฉินใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ “ไร้สาระน่า ไม่รีบได้ด้วยเหรอคะ? รอตั้งแต่ตอนบ
เธอไม่เคยเห็นใครเดินเล่นกับนกเขาของเขาขณะนอนหลับมาก่อนเลยเมื่อเวลาผ่านไป ปี้เวยก็ได้ทำการปลดปล่อยตัวเองแล้ว เธอพิงตัวไปที่ร่างของหลิวฉางเจียง เพื่อรองรับการกระทำต่อไปของฉู่เฉินเธอยังโน้มตัวเข้าไปใกล้หูของหลิวฉางเจียงและครวญครางเสียงดังตามมาด้วยเสียงต่ำของผู้หญิงที่กลายเป็นเสียงร้องครวญครางสูง ห้องหลายสิบห้องทั้งชั้นล้วนแต่เปิดไฟสว่างผู้ที่ชื่นชอบการร้องเพลงหลายคนก็ฮัมเพลงและร้องตามไปด้วย แต่ก็ไม่นานนัก ภายในเวลาไม่กี่นาที นักร้องประสานเสียงก็กลายเป็นการแสดงเดี่ยวของปี้เวย“เวยเวย...”ในขณะที่ปี้เวยกำลังจะปลดปล่อยตัวเองนั้น ก็มีเสียงหลิวฉางเจียงดังขึ้นมาจากข้างหลัง ทำเอาปี้เวยตกใจตนตัวแข็งทื่อ เธอชนเข้ากับร่างของฉู่เฉินอย่างแรง และเด้งกลับไปข้างๆ ร่างของหลิวฉางเจียงหลังจากความโกลาหลทั้งหมดนั้น หลิวฉางเจียงถึงกับลุกขึ้นนั่งด้วยความมึนงงชั่วขณะหนึ่ง อากาศดูเหมือนจะแข็งตัวฉู่เฉินและปี้เวยยังอยู่ในท่าเดิม แววตาของพวกเขาจ้องมองไปที่หลิวฉางเจียง“ฉาง... ฉางเจียง คุณ... คุณตื่นแล้วเหรอคะ?”ใบหน้าเล็กของปี้เวยซีดเผือด เธอรีบผลักฉู่เฉินออกอย่างรีบร้อน แล้วนั่งตัวตรง จากนั้นเธอใ
ฉู่เฉินสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาตอบกลับไปอีกไม่กี่ประโยค หลังจากนั้นก็ไม่สนใจปี้เวยอีกหากยังเป็นแบบนี้ต่อไป เขาคงจะถูกเธอสูบจนแห้งใช่ไหม?อีกอย่างหนึ่งของดีๆ จะกินให้หมดในครั้งเดียวมันไม่พอหรอกนะ เขาต้องวางเส้นเอ็นเส้นใหญ่ไว้ถึงจะสามารถตกปลาตัวใหญ่ได้ในคืนนั้นไม่ได้มีบทสนทนาใดๆ อีก เช้าวันที่สองกู้รั่วเสวี่ยโทรศัพท์มาหาเขา“ฉู่เฉินวันนี้มีงานเลี้ยงสำคัญเข้ามาด่วน พี่ต้องไปกับฉันนะคะ”กู้รั่วเสวี่ยที่อยู่ปลายสายพูดด้วยเสียงที่หนักแน่นฉู่เฉินถามขึ้นมาด้วยความสงสัย “ทำไมครับ? เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”กู้รั่วเสวี่ยหัวเราะออกและพูดกับฉู่เฉินว่า “ไม่มีอะไรค่ะ”“งานคัดเลือกการแข่งขันแพทย์แผนจีนใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว ก่อนจะเริ่มงานอย่างเป็นทางการ เราก็ต้องไปพบเจอและกินข้าวกับกรรมการอะไรก่อนสิคะ”“ฉันได้นัดเหล่ากรรมการคนสำคัญไว้แล้ว พรุ่งนี้ทุกคนเจอกันที่ตึกเจียงซิน ให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกันก่อน ดังนั้นพี่ต้องเคลียร์งานเลี้ยงทั้งหมดนะคะ”นี่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ไม่ใช่แค่เรื่องการเดิมพันระหว่างฉู่เฉินกับหลิ่วหรูเยียนผู้หญิงคนนั้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการพัฒนาในอนาคตของ ซินฉู่ฟาร์มาติคอลอีกด้
“แม่กลัวว่าแม่จะช่วยพูดอะไรไม่ได้น่ะสิ นอกจากประธานฟางแล้วยังมีคนอื่นที่ช่วยพูดอีกไหม?”ฟางอวี่เจิ้งเป็นประธานของสภาแพทย์ เป็นที่รู้จักในเจียงจงในฐานะคนเจ้าชู้ ผู้หญิงที่มีเสน่ห์แทบทุกคนแทบจะหนีไม่พ้นเงื้อมมือของเขาครั้งก่อนที่ฟางอวี่เจิ้งเรียกหลิ่วชิงเหอออกไปกินข้าวตอนสี่ทุ่ม แค่ให้ใช้หัวแม่เท้าทายเธอก็เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า ฟางอวี่เจิ้งวางแผนจะให้เธอกินไส้กรอกร้อนเมื่อพิจารณาถึงอิทธิพลและสถานะของฉู่ซื่อกรุ๊ปในเจียงจง หลิ่วชิงเหอเชื่อว่าเธอคงไม่มีวันขอความช่วยเหลือจากฟางอวี่เจิ้งได้ ดังนั้นเธอจึงปฏิเสธเขาอย่างเด็ดขาดในเมื่อจะกินไส้กรอกร้อนแล้ว เธอก็ต้องกินเหมือนของฉู่เฉินกินครั้งหนึ่งอิ่มไปอีกนาน เธอจะปล่อยให้ร่างกายขาวราวกับหิมะของเธอให้ฟางอวี่เจิ้งตาแก่ที่อายุอานามสี่สิบห้าสิบมาล่วงละเมิดเธอได้อย่างไร?“นอกจากประธานฟางแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถช่วยพูดได้เลยค่ะ แบบนี้ทำอย่างไรดีคะ?”หลิ่วหรูเยียนสีหน้าวิตกกังวลขณะเดินไปมาแต่ในไม่ช้า ดวงตาของเธอก็สว่างขึ้น เมื่อตระหนักว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของการสนองความสนใจของเขา!ด้วยความสวยของเธอ ถ้าเธอแต่งตัวให้ดูภูมิฐานหน่อยๆ และขอเข้าพบ
อวี้ลู่ยังไม่ทันพูดจบ ฉู่เฉินก็แคะฟันพลางพูดบทว่า “กินมากเกินไปจะอ้วนเป็นตุ่มได้นะ”“เจ้า...ไม่รู้จักความหวังดีของคนอื่นเลย!” อวี้ลู่เหลือกตาใส่ฉู่เฉินอย่างอำมหิต แล้วดึงสองพี่น้องตระกูลต้วนเดินออกไปจากถนนของกินโดยทิ้งฉู่เฉินไว้ “นายท่าน...” ต้วนหลิงเสวี่ยถูกอวี้ลู่ลากไปข้างหน้าพลางหันหน้ามามองฉู่เฉินอย่างอาลัยอาวรณ์ ฉู่เฉินโบกมือให้ต้วนหลิงเสวี่ยพอดีเลยคืนนี้เขาควรไปหาโจวเทียนเฟิ่งเพื่อทำการเตรียมตัวสำหรับการวางจำหน่ายยาบำรุงปราณในตลาดทั่วประเทศ จนกระทั่งสามสาวเดินจากไปไกลแล้ว ฉู่เฉินถึงค่อยเข้าไปนั่งในรถ แล้วสตาร์ทเครื่องยนต์มุ่งหน้าไปยังเทียนเฟิ่งวิลล่าทันทีช่วงนี้โจวเทียนเฟิ่งยุ่งจนไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้อย่าเห็นว่าเป็นแค่ธุรกิจในมณฑลแห่งหนึ่ง แต่ด้วยจำนวนเงินที่หมุนเวียนมหาศาลในแต่ละวัน โจวเทียนเฟิ่งไม่กล้าเลินเล่อแม้เพียงชั่วขณะ เมื่อฉู่เฉินเดินเข้าไปในเทียนเฟิ่งวิลล่า โจวเทียนเฟิ่งกำลังสรุปยอดบัญชีอยู่เมื่อเห็นฉู่เฉิน ยามหลายคนตรงหน้าประตูก็รีบเข้ามาต้อนรับ “โอ้ คุณฉู่ นาน ๆ คุณจะมาเป็นแขก เร็วเข้าเถอะครับ เชิญข้างในเลย” ยามคนหนึ่งผงกศีรษะค้อมเอว พาฉู่
“เจ้าสำนักปี้!” ในขณะที่ปี้คุนเตรียมตัวจะตามฉู่เฉินไป ทันใดนั้นเองก็มีเสียงทุ้มต่ำดังมาจากข้างหลัง ปี้คุนอดสะดุ้งตกใจไม่ได้ หันหน้ามองไปทางด้านหลังทันที“หลี่ว์เจิ้งหยาง?” ปี้คุนขมวดคิ้วขึ้นมา มองหลี่ว์เจิ้งหยางด้วยความประหลาดใจ “เจ้าสำนักปี้คงไม่ได้ตั้งใจมาที่เมืองหมอตูเพื่อไอ้เด็กแซ่ฉู่หรอกใช่ไหม?”ปี้คุนทำหน้าทะมึน กัดฟันแต่ไม่ตอบเขาหลี่ว์เจิ้งหยางเป็นเพียงศิษย์ของสำนักนางใน จากในแง่ของฐานะ เขาต่างจากปี้คุนอย่างมากด้วยเหตุนี้ ปี้คุนเลยไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย “เจ้าสำนักปี้ ผมขอแนะนำคุณสักคำ อย่าลงมือเด็ดขาด ไม่งั้นผลที่ตามมาคงเลวร้ายเกินจะคาดคิด” หลี่ว์เจิ้งหยางเอ่ยด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม“อ้อ?” นัยน์ตาของปี้คุนฉายแววเย็นชา จ้องมองหลี่ว์เจิ้งหยางพลางพูดว่า “คุณคิดจะขัดขวางผมเหรอ?”หลี่ว์เจิ้งหยางรีบโบกมือกล่าวว่า “เจ้าสำนักปี้เข้าใจผิดแล้ว ผมก็มาแก้แค้นไอ้หมอนี่เหมือนกัน”หลี่ว์เจิ้งหยางพูดจบก็ถลกเสื้อขึ้นมา ก่อนจะชี้ไปที่บาดแผลบนตัวแล้วพูดว่า “ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือไอ้หมอนั่น แต่ว่าไอ้เด็กแซ่ฉู่ไม่ได้น่ากลัว คนที่น่ากลัวคือยัยผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ข้างกายมัน!” หลี
“คุณร่วมมือทุจริตกับคนแซ่หลี่ข้างล่างนั่น เรื่องนี้น่าจะไม่ผิดใช่ไหม? อีกอย่าง คุณปลอมแปลงตัวตน โกหกว่าตัวเองเป็นหมอดูแลสุขภาพท่านหลง คุณทำเรื่องพวกนี้ทั้งหมดเลยใช่ไหม?” ฟางอวี่เจิ้งเอามือสองข้างไพล่หลัง มองถังจิ้งจือด้วยรอยยิ้มหยัน “นะ...นี่เป็นแค่การแข่งขันแพทย์แผนจีน จะถือว่าเป็นการทุจริตการแข่งขันได้ยังไง? อีกอย่าง ฉะ...ฉันเป็นหมอดูแลสุขภาพของท่านหลงจริง ๆ นะ”ฟางอวี่เจิ้งได้ยินคำกล่าวก็หัวเราะหยันแล้วเอ่ยว่า “เป็นแค่การแข่งขันแพทย์แผนจีน? คุณพูดง่ายดีนี่ คุณน่าจะเข้าใจนะว่าการแข่งขันแพทย์แผนจีนเป็นการแข่งขันเลือกบุคลากรในวงการแพทย์ ระดับไม่ด้อยไปกว่าการสอบจอหงวนเลย” “คุณเปลี่ยนโจทย์การแข่งขันโดนพลการ นี่ไม่ใช่การทุจริตการแข่งขันหรือไง?” ไม่รอให้ถังจิ้งจือแก้ต่าง ฟางอวี่เจิ้งก็พูดต่อว่า “เมื่อกี้ผมยืนยันกับทางแก๊งมังกรแล้ว ท่านหลงไม่มีหมอดูแลสุขภาพอะไรทั้งนั้น ทางสำนักงานใหญ่ของแก๊งมังกรก็ไม่มีหมอแซ่ถังด้วย”“ตอนนี้คุณจะอธิบายว่ายังไง!” ถังจิ้งจือได้ยินคำพูดนี้ หัวใจก็เย็นวาบไปครึ่งหนึ่งเขาเพิ่งโดนท่านหลงปลดออกเมื่อไม่กี่วันก่อน ทางแก๊งมังกรไม่มีทางไม่มีบันทึกเอาไว้
เมื่อฮว่าจิ่วหยางเอ่ยจบ หลิ่วหรูเยียนก็อดตัวสั่นเทิ้มไม่ได้แบนทั่วประเทศ?ถ้าอย่างนั้นฉู่ซื่อกรุ๊ปก็จบเห่โดยสิ้นเชิงแล้วจริง ๆ! แต่เธอทำใจไม่ได้จริง ๆไอ้สารเลวฉู่เฉินกล้าทำให้เธออับอายขายหน้าต่อหน้าผู้คนเนี่ยนะ!“คุณหลิ่ว ความอดทนของพวกเรามีขีดจำกัดนะ” จางเสวี่ยเหยียนจับกรอบแว่นบนใบหน้า แล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “ให้เวลาคุณพิจารณาอีกหนึ่งนาที ถ้าเกิดคุณหลิ่วยืนกรานไม่ยอมขอโทษฉู่เฉิน งั้นผมก็จะให้นักเรียนทั้งหมดของผมไม่ใช้เวชภัณฑ์ทุกตัวที่มาจากฉู่ซื่อกรุ๊ปตลอดไป” เฝิงว่านชางกับหลินจื้อหงก็พากันลุกขึ้นมาสนับสนุนเช่นกันแม้ว่าเขาเป็นเพียงศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยการแพทย์ประจำมณฑล แต่หลายสิบปีมานี้ก็มีลูกศิษย์มากมายนับไม่ถ้วนขอเพียงพวกเขาพูดคำเดียว แม้แต่คลินิกเล็ก ๆ ทั่วประเทศก็จะแบนฉู่ซื่อกรุ๊ปกันหมด “คุณหลิ่ว ฉันคือเย่ชิ่นเหยียน ทนายความจากสำนักงานกฎหมายหมิงเจวี๋ย!” เย่ชิ่นเหยียนพูดพลางลุกขึ้นมาเช่นกัน ก่อนจะมองหลิ่วหรูเยียนด้วยสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า “การกระทำเมื่อครู่นี้ของคุณถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทคุณฉู่ ถ้าเกิดคุณไม่ยอมขอโทษคุณฉู่ ฉันจะทำการฟ้องร้องคุณแทนคุณฉ
นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?หรือว่าฉู่เฉินจะหลอมยาเป็นจริง ๆ?เมื่อคิดถึงการกระทำของเธอมีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะทำให้ฉู่ซื่อกรุ๊ปเดือดร้อน ถึงขนาดที่ยังโดนสังคมประณาม หลิ่วหรูเยียนก็รีบผลักเจียงถิงออกแล้วหันตัวกำลังจะคิดหนีไป แต่เสียงเย็นชาของฉู่เฉินดังมาจากข้างหลังว่า “ผู้จัดการใหญ่หลิ่ว รบกวนหยุดก่อน!”หลิ่วหรูเยียนตัวสั่นเล็กน้อย เผลอหยุดฝีเท้าตามจิตใต้สำนึก ก่อนจะหันตัวกลับมาฉับพลันแล้วพูดว่า “ฉู่เฉิน กะ...แกยังจะเอายังไงอีก?” “มะ...เมื่อกี้ฉันแค่สงสัยแก ละ...และก็เพื่อความรอบคอบทางการแพทย์ มันผิดตรงไหนเหรอ?” ฉู่เฉินหัวเราะหยันสองครั้ง มองหลิ่วหรูเยียนอย่างพินิจพิเคราะห์แล้วเอ่ยว่า “เธอว่านั่นเรียกว่าความรอบคอบเหรอ? ดูเหมือนยังมีอีกคำนะ เรียกว่าการใส่ร้ายต่อหน้าผู้คนใช่ไหม”“ถ้าเกิดฉันจำไม่ผิด เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เธอเคยพูดกับปากเองต่อหน้าแฟนคลับนับล้านว่าถ้าเกิดฉันชนะการแข่งขันในการแข่งขันแพทย์แผนจีน เธอก็จะคุกเข่าโขกหัวขอโทษ”“ไม่รู้ว่าตอนนี้นับว่าฉันชนะแล้วหรือยัง?” เมื่อสิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินก็ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองไปทางฮว่าจิ่วหยาง “คุณฉู่พูดล้อเล่นแล้ว วิชาแพทย์ของคุณ
“หรูเยียน ลูกพูดเหลวไหลอะไร! รีบนั่งลงเร็วเข้า!”ไม่ว่าอย่างไรหลิ่วชิงเหอก็คิดไม่ถึงว่าหลิ่วหรูเยียนจะสูญเสียการควบคุมอารมณ์ในเวลานี้ เลยรีบดึงแขนของหลิ่วหรูเยียนไว้“หนูไม่ได้พูดเหลวไหลเลยนะ!” หลิ่วหรูเยียนสะบัดมือของหลิ่วชิงเหอออก ก่อนจะเดินลงจากที่นั่งแขกกิตติมศักดิ์ อย่างรวดเร็ว เจียงถิงมองหลิ่วหรูเยียนที่พุ่งขึ้นมาบนเวที แล้วขมวดคิ้วเอ่ยด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรนิดหน่อยว่า “คุณผู้หญิงท่านนี้ ฉันหวังว่าคุณจะรับผิดชอบต่อคำพูดเมื่อกี้ของคุณได้นะคะ” “การใส่ร้ายคนอื่นต่อหน้าผู้คนเป็นความผิดทางกฎหมายนะคะ!” หลิ่วหรูเยียนแค่นเสียงเย็น แย่งไมโครโฟนมาแล้วเอานิ้วชี้ไปที่ฉู่เฉิน ก่อนจะพูดกับผู้ชมกว่าหมื่นคนด้านล่างเวทีว่า “ฉันพิสูจน์ได้ว่าฉู่เฉินคนนี้เป็นแค่นักต้มตุ๋นที่ไม่มีความรู้ความสามารถ!”“พวกคุณอย่าโดนรูปลักษณ์ภายนอกปลอม ๆ ของเขาหลอกลวงเด็ดขาดนะคะ!”“เขาไม่เพียงไม่มีวิชาแพทย์อะไรทั้งนั้น แม้แต่สามีภรรยาเมื่อครู่นี้จะต้องเป็นหน้าม้าที่เขาจ่ายเงินจ้างมาแน่นอน!”หลังจากที่สิ้นเสียงตะโกนของเธอ ทุกคนก็หันไปมองสามีภรรยาหนุ่มสาวที่กำลังอุ้มลูกเมื่อครู่นี้อีกครั้ง“พวกเราไม่รู้จักคุณ
“ตึกตัก! ตึกตัก!”ฮว่าจิ่วหยางรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองใกล้จะกระโดดมาถึงลำคอแล้ว ถ้าเกิดเด็กชายตัวน้อยเอ่ยปากพูดจริง ๆ เช่นนั้นยาบำรุงสวรรค์ตัวนี้ก็จะโด่งดังไปทั่วอินเทอร์เน็ตในพริบตาฉู่เฉินก็จะกลายเป็นดาวเด่นของทั้งวงการแพทย์นี่ไม่ใช่การสร้างปาฏิหาริย์แล้ว แต่เป็นการท้าทายชะตากรรมชะตากรรมของผู้พิการทางการได้ยินและการพูดย่อมแตกต่างจากคนปกติโดยสิ้นเชิง ในขณะที่ทุกคนกลั้นหายใจเพ่งสมาธิ เด็กชายตัวน้อยค่อย ๆ อ้าปากเล็ก ร้องเรียกเบา ๆว่า “บอ” “ระ...เรียกพ่อ”เมื่อชายหนุ่มได้ยินเสียงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นก็ตื่นเต้นจนน้ำตาร้อน ๆ เอ่อคลอดวงตา แม้แต่ร่างกายก็สั่นเทิ้มไม่หยุด ส่วนบรรยากาศในงานก็ตื่นเต้นถึงที่สุด เสียงที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นไม่อาจถือได้ว่าฉู่เฉินประสบความสำเร็จแล้ว อย่างมากก็เป็นเพียงการพูดอ้อแอ้ หรือว่าเสียงจากการครางเท่านั้น“เรียกสิ เรียกพ่อ!” ภายใต้การกระตุ้นครั้งแล้วครั้งเล่าของชายหนุ่ม เด็กชายตัวน้อยอ้าปากเล็ก ๆ อีกครั้งก่อนจะพูดว่า “พะ...อา พอ...พ่อ”เสียงที่ชัดเจนดังออกมาเป็นรอบที่สอง ทั่วทั้งงานและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั่วทั้งอินเทอร์เน็ตแทบจะเดือดพล่านพร้อมกั
เชี่ย!ฮว่าเทียนอวี่ที่นั่งข้างหลังฮว่าจิ่วหยางอดสบถคำหยาบไม่ได้จากนั้นก็เห็นเพียงเตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินพลันเปล่งแสงสีแดงฉานออกมา ก่อนที่กลิ่นหอมของยาที่สดชื่นผ่อนคลายจะอบอวลไปทั่วทั้งสนามกีฬาระดับสวรรค์!ถึงแม้พวกฮว่าจิ่วหยางไม่เชี่ยวชาญด้านการหลอมยา แต่ว่ายังคงแยกแยะระดับได้ชัดเจนมาก แม้ว่าตัวยาเม็ดนี้หลอมขึ้นจากสูตรยาระดับล่างเท่านั้น แต่เมื่อมันไปถึงระดับสวรรค์ขึ้นไปก็ล้ำค่าจนประเมินค่าไม่ได้เช่นเดียวกัน! อย่างไรเสียสูตรยาเป็นตัวกำหนดคุณสมบัติและทิศทางการรักษาของยา แต่ความสามารถของนักหลอมโอสถเป็นตัวกำหนดระดับของตัวยา แม้ว่าจะเป็นสูตรยาระดับดิน ถ้าเกิดออกมาเป็นยาวิเศษระดับสวรรค์ได้ นั่นก็น่ากลัวมากนี่ก็เปรียบเหมือนกับว่าหากใช้สูตรยาหกตำรับบำรุงไตหลอมเป็นยาวิเศษระดับสวรรค์ ยาหกตำรับบำรุงไตหนึ่งเม็ดนี้สามารถขายได้ถึงหลายพันล้าน และยาในมือฉู่เฉินเม็ดนี้ คุณสมบัติกับการรักษาหลักยังไม่ชัดเจน หรือพูดอีกอย่างก็คือมีความเป็นไปได้สูงว่านี่เป็นยาระดับสวรรค์ที่ประเมินค่าไม่ได้ รวย!รวยเละแล้ว!พวกฮว่าจิ่วหยางรู้สึกอิจฉาฉู่เฉินไม่หยุด ไม่แน่ว่าฉู่เฉินอาศัยยาวิเศษระดับสวร
“พวกนายรีบดูสิ นั่นมันอะไรน่ะ?”“เชี่ย นั่นเหมือน...เหมือนก้อนเมฆเลย?” “นี่แม่งไม่สมเหตุสมผลเลย ขะ...เขาจะมีก้อนเมฆอยู่ในมือได้ยังไง?” แม้แต่เจียงถิง เวลานี้ก็สังเกตเห็นแล้วเหมือนกันว่ามีก้อนเมฆขนาดเท่าฝ่ามือค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเหนือเตาหลอมโอสถของฉู่เฉินนอกจากนี้ด้านในยังมีสายฟ้าที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!ซี้ด!พวกฮว่าจิ่วหยางที่อยู่บนที่นั่งกรรมการก็มองไปทางฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อหรือว่านั่นก็คือเคราะห์โอสถในตำนาน?เล่ากันว่า มีเพียงโอสถที่ไปถึงระดับท้าทายสวรรค์ถึงจะเกิดเคราะห์โอสถขึ้นมาในขณะกำลังหลอมยาเสร็จแม้แต่หลี่จวิ้นเฟิงก็มองฉู่เฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย นั่นมันเคราะห์โอสถเชียวนะ! เพียงแต่ว่าแม้กระทั่งผู้อาวุโสของสำนักหมอก็หลอมโอสถชั้นเลิศที่สามารถผ่านเคราะห์โอสถออกมาไม่ได้เลย ฉู่เฉินเขาทำได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้!จะต้องประสาทหลอนแน่ ๆ! “เลิกหลอกลวงอยู่ตรงนั้นได้แล้ว!”หลี่จวิ้นเฟิงกลืนน้ำลายหนัก ๆ ตะคอกเสียงดังลั่นขึ้นมาฉับพลัน ก่อนจะยกเท้าข้างหนึ่งเตะไปที่เตาหลอมโอสถในมือฉู่เฉินไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ เขาต้องหยุดยั้งไม่ให้ฉู่เฉินหลอมยาได้สำเร็จ!แ