Share

chapter 9

last update Last Updated: 2025-01-03 14:24:22

“ที่เจ้าทำอยู่ คงมิได้คิดจะบ่ายเบี่ยงมิยอมไปรักษานายของข้าหรอกนะ”

ถามอย่างกับว่าเขาจะทำเช่นนั้นได้อย่างนั้นแหละ ก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่หรือไง...เขากับท่านแม่อยากจะหนีไปตั้งแต่ได้เห็นประตูทางเข้าที่นี่แล้ว ตอนที่ถูกบังคับให้มาด้วย ก็คิดอยู่แล้วล่ะ ผู้ที่เก้าเทียนรุ่ยต้องมาดูแลและปรุงอาหารให้ จะต้องเป็นคนสำคัญมาก หากใครจะคิดเล่าว่าคนผู้นั้นจะเป็นถึง...

พลาดแล้ว...เขาพลาดไปแล้ว หากชวนท่านแม่หนีไปตั้งแต่เจอกับบุรุษชุดขาวนั่นตั้งแต่อยู่ในป่า ตอนนี้เขาก็คงมิต้องลำบากใจระคนขลาดกลัวเช่นนี้หรอก

ขอห้องให้ท่านแม่ได้พักผ่อน...ความจริงคือพาท่านให้ห่างไกลจากความวิตกกังวลและหวาดกลัวหลังจากที่ได้รู้ว่าเขาต้องทำการดูแลปรุงอาหารให้ใครนั่นแหละ ส่วนตัวเขาเองก็ได้อาบน้ำเปลี่ยนอาภรณ์ให้สะอาดขึ้น ยามเมื่อเข้าไปหาคนผู้นั้น จะได้มิต้องกังวลว่าตนเองจะมีกลิ่นมิพึงประสงค์และเชื้อโรคติดไป

“ท่านจะเอาอันใดกับข้า...ตอนที่ข้าอาบน้ำ ท่านก็คอยให้คนไปจับตามองแทบจะทุกหนึ่งจิบชา[1] กลัวข้าจะหนี...คิดว่าข้าทำได้หรือไง ทุกที่...มีแต่คนของท่านเต็มไปหมด แค่มดก็ยังแทบจะหลุดรอดสายตาไปไม่ได้ นี่ข้าเป็นคนนะ จะหลุดรอดสายตาคนของท่านไปได้ยังไง ยามนี้ข้าขอกินข้าวให้มันอร่อย ๆ ก่อนมิได้หรืออย่างไรกัน”

ถึงจะกลัวแค่ไหน หากอาหารบนโต๊ะนี่ก็อร่อยไปเสียหมด จะให้กินทิ้งกินขว้างได้อย่างไรกัน นึกถึงคนที่เขายากจน มิมีข้าวให้กินบ้างสิ

“ท่านอย่าลืมนะว่า คนที่ท่านให้ข้าไปปรุงอาหารให้เป็นผู้ใด คนผู้นั้นเป็นเจ้านายของท่านเลยนะ แค่ตัวท่าน ข้าก็กลัวจนหัวหดอยู่แล้ว เจอนายของท่าน ข้ามิฉี่ราดหรืออย่างไรกัน”

รองแม่ทัพเลิกคิ้วขึ้นสูง “ทำไมเจ้าถึงยังเรียกตนเองว่าผู้ปรุงอาหารอยู่อีก”

“ก็ข้ามิเคยเรียนรู้วิชาแพทย์จากอาจารย์ท่านใดในใต้หล้านี้เลย ทำสิ่งใดก็แล้วแต่มาจากความรู้สึกที่อยู่ภายใน มิได้ทำตามหลักเกณฑ์ใด ๆ ที่อาจารย์ควรจะสั่งสอนศิษย์ ทุกครั้งที่ช่วยผู้อื่น ก็ล้วนแล้วแต่ให้กินยาอะไรก็ไม่รู้กับผักที่ข้าเป็นคนปลูกเอง หากใครมีอาการหนักสักหน่อย ข้าก็ลงมือปรุงอาหารเอง...แล้วอย่างนี้จะให้เรียกว่ารักษาคนได้อย่างไรกันล่ะ” เป็นหมอหรือ...เขามิยอมรับหรอก นั่นมันยิ่งใหญ่เกินตัวเขาจะรับได้

“อีกทั้ง...ท่านน่าจะเป็นผู้ที่รู้ดีมิใช่หรืออย่างไรกัน เหตุใดข้าถึงได้แทนตนเองเช่นนี้”

เขายอมรับว่าตนเองมิใช่คนฉลาดอันใดเลย หากก็มิได้โง่จนมองมิออกว่าสิ่งที่ท่านรองแม่ทัพแสดงออกมาทั้งทางใบหน้าและสายตานั้นบ่งบอกว่ามิได้เชื่อเลยว่าเก้าเทียนรุ่ยผู้นี้จะทำการรักษาผู้เป็นนายของตนเองได้ หากที่จำใจต้องมาเชิญแกมบังคับให้มาด้วยก็เพราะมิมีทางเลือกอันใดแล้วต่างหากล่ะ มันเหมือนเป็นการพยายามบอกกับผู้อื่นว่า ได้ค้นหาผู้มีความรู้ความสามารถมาทำการรักษาแล้ว หากเขาผู้นี้ก็ยังมิเก่งพอที่จะรักษาผู้เป็นนายของตนได้...มันก็เท่านั้นเอง

“หากเจ้าเป็นข้าและรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น ย่อมจะมิกล่าวออกมาเช่นนี้แน่”

“หากมิต้องการให้ข้าเข้าใจผิด เหตุใดท่านถึงมิยอมบอกกล่าวเสียทีล่ะ เกิดเรื่องอันใดกับคนผู้นั้น ป่วยไข้หรือบาดเจ็บที่ใดและเป็นเวลานานเท่าใดแล้ว”

“เห็นแล้วเจ้าก็จะรู้เองแหละ”

เก้าเทียนรุ่ยทำเสียงขลุกขลักกลั้วคอด้วยความหงุดหงิดที่อีกฝ่ายยังคงเล่นแง่มิยอมบอกเรื่องราวให้รู้

“ถ้าเช่นนั้นข้าขอถามอีกข้อ...นับตั้งแต่นายของท่านป่วย มิใช่ๆ ข้าต้องถามว่า มีหมอมาทำการรักษาไปกี่คนแล้ว อาการมิดีขึ้นบ้างเลยหรือ” ดีนะที่เขามิหลุดปากถามออกไปว่าแล้วมิหายหรือ เพราะหากหาย...จะมาเชิญแกมบังคับให้มาด้วยทำไม

หากรองแม่ทัพหน้าตายกลับมองด้วยสายตาที่ทำให้รู้ว่ากำลังรำคาญ...มาก เห็นแล้วหางตาเขานี่กระตุกยิก ๆ เลย

ทำไมกัน...เขามิมีสิทธิ์ถาม มิมีสิทธิ์รู้เลยหรืออย่างไร

“ในเมื่อเจ้ากินเสร็จแล้ว ก็รีบตามข้ามา”

เก้าเทียนรุ่ยได้แต่เดินตามไปด้วยความขุ่นเคืองใจ ถือว่ามีอำนาจอยู่ในมือ ทำอย่างไรก็ได้ใช่ไหม คอยดูนะ วันหนึ่งเขาจะต้องเอาคืนรองแม่ทัพหน้าตายนี่ให้ได้!

กลิ่นอะไรกันเนี่ย ทำไมถึงได้แปลกเช่นนี้ จะว่าหอมก็มิใช่ หากจะกล่าวว่าเหม็น ก็มิใกล้เคียง แต่ได้กลิ่นแล้วมันแปลก ๆ ชวนให้รู้สึกวิงเวียนและคลื่นไส้ ยิ่งเดินตามรองแม่ทัพไปกลิ่นก็ยิ่งชัดเจนขึ้น

อึดอัดจัง!

“เดี๋ยวก่อนท่านรองแม่ทัพ”

“อะไร”

“ข้าขอเตรียมตัวเตรียมใจก่อน คิดว่านายของท่านอาการจะต้องหนักหนามากเลยนะ...กลิ่นถึงได้มิดีเช่นนี้”

“กลิ่น” คิ้วหนาเลิกขึ้นขณะมองคนพูดด้วยอย่างแปลกใจ

“ก็กลิ่นแปลก ๆ ที่มัน...ถ้าเช่นนั้นก็ช่างเถอะ” คิดว่าหากคนที่นี่คงจะมิได้กลิ่นเช่นที่เขากล่าวถึง หรือไม่ก็คงจะชินกับกลิ่นที่เกิดขึ้น มันยิ่งตอกย้ำความคิดของเก้าเทียนรุ่ยที่ว่า...นายของท่านรองแม่ทัพอาการจะต้องหนักมาก

ชักจะมิแน่ใจแล้วสิ เขาจะรักษาได้หรือเปล่า หากว่ารักษามิได้...

“ท่านรองแม่ทัพ...หากข้ารักษานายของท่านมิหาย ข้าจะมีโทษไหม” เขานี่มันช่าง...น่าตีปากเสียจริง ถามอย่างกับจะมิรู้อย่างนั้นแหละ

รองแม่ทัพหน้าตายมิยอมตอบกลับเร่งรีบเดินนำเก้าเทียนรุ่ยไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องเขาสัมผัสได้ถึงความกดดันอันรุนแรง ราวกับเขาได้ล่วงล้ำเข้าไปยังอาณาจักรแห่งหนึ่งที่ตอนนี้กำลังจะมีการประลองหาผู้นำของฝูง สัตว์ทุกตัวล้วนแล้วแต่พร้อมที่จะถาโถมโจมตีศัตรูเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ ในความแข็งแกร่งกลับมีจิตหนึ่งที่บางเบา เงียบเหงา อ้างว้าง แวบหนึ่งทำให้นึกไปถึงลูกนกแรกออกจากไข่ที่รอแม่กลับมาป้อนอาหาร

แม้ในหัวของเขาจะบอกว่า...อย่าเข้าไปนะ อย่าเข้าไป แต่สิ่งที่ทำได้คือ ร่างเล็กบางหยุดยืนพลางสูดลมหายใจเข้าปอดเต็มแรง ก่อนจะเดินตามรองแม่ทัพเข้าไปในห้องด้วยร่างกายที่สั่นเทาและอึดอัดราวกับทรวงอกถูกกดทับ...

[1] 1 จิบชา = 5 นาที

Related chapters

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 10

    ก็มิได้มีสิ่งใดให้น่าแปลกใจ ความรู้สึกแรกเมื่อเขาเดินเข้ามาในห้องนี้ หากก็ยังมีกลิ่นที่ทำให้เขาต้องรีบใช้สัมผัสที่มีหาที่มาของมัน หากมันก็เป็นเพียงแค่สูดลมหายใจเข้าหนึ่งครั้งเท่านั้นก่อนที่ทุกอย่างจะเลือนหายไปราวกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเขาเพียงแค่คิดมากไปเองมีอีกสิ่งที่เก้าเทียนรุ่ยสัมผัสได้หลังจากที่เดินเข้ามาในห้องนี้...มันร้อนอบอ้าวและความแห้งแล้งที่มันทำให้นึกถึงความแห้งแล้งเหมือนอยู่ในทะเลทราย ก่อนที่เขาจะได้พบกับ...อึ้ง!!! และกลัวจนตัวสั่นเมื่อเห็นผู้ที่นอนอยู่บนเตียง จนเผลอก้าวถอยไปด้านหลัง ไปยืนงุนงงอยู่ครู่ใหญ่ จึงได้เอ่ยปากไถ่ถามรองแม่ทัพที่ยังคงมิยอมเอ่ยปากกล่าวอันใด หากสายตาที่มองมายังเขาพร้อมกับบ่งบอก...เป็นอย่างไรเล่า เจ้าก็เหมือนผู้อื่นที่มาทำการรักษา เพียงแค่เห็นก็ส่ายศีรษะไปแล้ว เมื่อตรวจดูก็รีบกล่าวเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัว“ขออภัย...ขออภัยด้วยท่านรองแม่ทัพ ความรู้ข้ายังน้อย มิอาจทำการรักษานายของท่านได้”เจ้าเด็กเอ้อร์เอ๋อร์ปากดี...ก็คงจะเป็นเช่นเดียวกันเก้าเทียนรุ่ยมองบุรุษบนเตียงสลับกับรองแม่ทัพอยู่ครู่ใหญ่พร้อมกับความคิดที่ว่า...รองแม่ทัพผู้นี้เป็นบ้าไปแล้วใช่หรื

    Last Updated : 2025-01-03
  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 11

    “หากเจ้าสามารถรักษาท่านแม่ทัพให้หายดีได้...จะให้ข้าเป็นม้า เป็นข้ารับใช้เจ้าไปตลอดชีวิตก็ได้ทั้งนั้น แล้วแต่เจ้าจะต้องการ”“ข้าจะทำเช่นนั้นไปทำไม ให้ท่านอยู่ใกล้ ข้าหายใจออก เอาเงินมิดีกว่าหรือไง อยากได้อะไรก็จะได้ซื้อได้ ดีกว่าที่ท่านกล่าวมาเป็นไหน ๆ ” ในเมื่อเขาอยากที่จะพาท่านแม่หนีไปให้ไกลจากคนพวกนั้น สิ่งที่จำเป็นที่สุดก็คือ...การมีเงินให้เพียงพอคือสิ่งที่ดีที่สุดในยามนี้“มิถามเรื่องนี้แล้วก็ได้ ถ้าเช่นนั้นข้าขอให้ท่านช่วยหาเตียงเล็ก ๆ มาให้ข้าสักหลัง เอามิต้องใหญ่นะ แต่ให้นอนสบาย”“จะเอามาทำไม ห้องที่ข้าจัดให้พักมิดีเพียงพอหรือไง”“ท่านนี่นะ...จะให้ข้ารักษานายของท่านโดยมิรู้อะไรเลยหรืออย่างไรกัน ข้าต้องอยู่ดูแลสังเกตอาการนายของท่านอย่างใกล้ชิดสิ จะได้จัดอาหารให้กินอย่างถูกต้อง จะได้หายเร็ว ๆ มิดีหรืออย่างไร”“ได้! ต้องการสิ่งใดก็บอกมา”“ขอพื้นที่สำหรับปลูกผัก” คิดว่าคนบนเตียงคงจะมิหายภายในสามวันเจ็ดวันเป็นแน่ เดือนหนึ่งก็คิดว่าน่าจะยังเร็วด้วยซ้ำ ในเมื่อจำเป็นต้องอยู่นาน ผักหญ้าที่เตรียมเอาไว้ก็คงจะมิเพียงพอ เขาจำเป็นต้องรีบจัดหามาเพิ่มให้เพียงพอและอย่างเร็วที่สุดด้วย“ส่วนจะปลู

    Last Updated : 2025-01-03
  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 12

    “แย่แล้ว ๆ ต้องรีบหนี” ปากกล่าวเช่นนั้นหากความกลัวทำให้เก้าเทียนรุ่ยตัวสั่น แม้สมองจะสั่งการให้หนีหากตัวกลัวแข็งทื่อราวกับก้อนหิน ยิ่งเมื่อแขนข้างหนึ่งถูกจับเอาไว้ก็ยิ่งทำให้เขาลนลานจนมิรู้ว่าจะทำอย่างไรดี“ปล่อยข้านะ...ปล่อย!” หากยิ่งพยายามมากเท่าไหร่ แรงที่ทุ่มลงมาบนแขนก็ยิ่งมากเท่านั้น หากมิรีบ...มินานแขนเขาคงจะหักเป็นแน่“ท่านแม่ขอรับ” เก้าเทียนรุ่ยพยายามข่มกลั้นความกลัวเอาไว้ก่อนจะเอ่ยเรียกอีกฝ่ายเสียงแผ่วเบาที่ดูเหมือนว่าเมื่อเขาลดอาการแข็งขืนลง เมื่อเห็นว่าท่านแม่ทัพหยุดชะงักไป มันก็ทำให้เขาใจชื้นขึ้นมา กล้าที่จะเอ่ยต่อไปว่า“ท่าน...ปล่อยข้าเถอะขอรับ” เก้าเทียนรุ่ยรีบปลดมือที่บีบแขนออกอย่างช้า ๆ โดยที่ดวงตายังคงมองสบกับท่านแม่ทัพอยู่ แม้จะมิใช่คนช่างสังเกตอะไรเลย หากก็ดูเหมือนว่าจะมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น เหมือนกับว่าภายในร่างกายของท่านแม่ทัพจะมีการต่อสู้เกิดขึ้น เขาก็มิรู้ว่าเผลอตัวจับมือแกร่งไปได้อย่างไร“จะอะไรก็ตามที่ท่านมีสติรับรู้และต้านมันอยู่ ข้าเชื่อว่าท่านสู้มันได้แน่นอน ข้าเชื่อเช่นนั้นนะขอรับ”กลิ่น...มันเหมือนจะบางเบาสลับรุนแรงขึ้นเป็นระยะ หากได้ทานผักผสมยาที่ข้าเ

    Last Updated : 2025-01-03
  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 13

    “หากมิกลัวว่าข้าบีบจมูกไปแล้วอาจทำให้ท่านสิ้นลมได้นะ...ข้าบีบจมูกท่านแล้วเอาน้ำผักผสมยาเคี่ยวกรอกปากแล้ว” มีทางไหนให้เขาป้อนน้ำผักเคี่ยวกับแม่ทัพใหญ่บ้างไหม คิดอยู่เป็นนานก็ค้นพบว่ามีอยู่หนึ่งวิธีที่ได้ผลแน่ หากเขานี่แหละ จะกล้าทำหรือเปล่า นั่นเท่ากับเขาต้องเสีย...หากสุดท้ายแล้วเมื่อเห็นว่ามิมีทางใด เก้าเทียนรุ่ยก็ได้แต่กลอกตาไปมา ขณะเป่าน้ำสีดำเข้มที่กลิ่นมิทำให้เขาอยากจะกลืนลงท้องเลยมาอมไว้แล้วป้อนให้ท่านแม่ทัพใหญ่“ข้าจะคิดค่าป้อนท่าน หนึ่งครั้งเท่ากับหนึ่งก้อนทอง” เขาเอ่ยด้วยความหงุดหงิดใจ ก็ตัวเขาในชาติภพนี้ อย่าว่าแต่ภรรยาเลย แม้กระทั่งคู่หมายก็ยังมิมี หากตอนนี้ต้องมาเสียจูบแรกและจูบที่สองให้กับท่านแม่ทัพปีศาจผู้นี้ไปแล้ว...เขาจะต้องคิดค่าเสียหายให้คุ้มค่าเก้าเทียนรุ่ยรีบจัดการป้อนผักผสมยาด้วยปากต่อปากไปอีกสองครั้ง หากครั้งที่สองทำให้เขาถึงกับตื่นตะลึงทำอันใดมิถูก ด้วยว่ามีคนมาเห็นวิธีการนี้ของเขาถึงสองคน!“เอ่อ...คือว่า...” ทั้งที่การกล่าวความจริงออกไปก็มิได้เป็นแปลกอันใด หากเพราะเขาเขินอายกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนทำตัวมิถูก จึงได้แต่หลบซ่อนใบหน้าที่มันคงจะแดงไปมองคนบนเตียง“ท่านก

    Last Updated : 2025-01-03
  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 14

    “นี่ท่าน!” เก้าเทียนรุ่ยได้แต่กัดฟันกรอด ๆ “หากมิเชื่อก็คอยดูละกัน อีกสักสองสามวัน นายของท่านจะต้องลุกขึ้นมาเอ่ยชวนท่านประมือเป็นแน่...มาก็ดีแล้ว ช่วยประคองนายของท่านลุกขึ้นนั่งหน่อยละกัน ข้าจะได้ป้อนยาให้สะดวก ๆ หน่อย” เขาจะได้ไม่ต้องป้อนแบบปากต่อปากอีก แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้เกิดความรู้สึกแปลก ๆ มิค่อยมั่นใจเอาเสียเลย หางตามันกระตุกถี่ระรัวอย่างไรพิกล“เอ้อร์เอ๋อร์”“มิเป็นไรขอรับท่านแม่” เก้าเทียนรุ่ยพยักหน้าให้กับท่านแม่ที่ยังออกอาการหวาดผวาอย่างชัดเจน คิดว่าหลังจากนี้เขาคงจะต้องไถ่ถามให้ได้รู้ความ เหตุใดท่านแม่ถึงได้เกรงกลัวต่อแม่ทัพปีศาจที่ยังมิฟื้นเช่นนี้“เจ้าว่า...เมื่อครู่ได้ประมือกับท่านแม่ทัพใหญ่”“ฮื่อ” เก้าเทียนรุ่ยพยักหน้ารับ ขณะเริ่มป้อนผักเคี่ยวสูตรพิเศษให้กับท่านแม่ทัพที่วันนี้มิรู้ว่าเกิดเหตุอันใดขึ้นกันแน่ ทำไมแม่ทัพตัวร้ายถึงไม่ยอมกินยา ทำต้องกลั่นแกล้งเขาเช่นนี้ด้วย...“ท่านเห็นแล้วใช่หรือไม่...แม่ทัพของท่านแกล้งข้า” เก้าเทียนรุ่ยกล่าวน้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้ เพราะมิว่าจะทำอย่างไรท่านแม่ทัพก็มิยอมกินผักเคี่ยวยาสูตรพิเศษก็ยังคงเหลือเท่าเดิม“ท่านแม่ทัพคงจะชอบของแปลก”ท

    Last Updated : 2025-01-03
  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 15

    “แม่รู้แล้ว”“ท่านบอกลูกน้องด้วยนะท่านรองแม่ทัพ ให้คอยดูแลช่วยเหลือแม่ข้า อย่าให้แม่ข้าต้องเหนื่อย มิเช่นนั้นข้าจะให้ท่านแม่ทัพเอาเรื่องพวกเจ้า!”“เจ้าคิดว่าทำได้ รู้หรือไม่ บ้านมีกฎบ้าน ทหารก็มีกฎของทหาร”“ก็พอรู้นิดหน่อย แต่ท่านควรจะรู้นะท่านรองแม่ทัพ...ผักพวกนั้นเป็นอาหารและวัตถุดิบที่ใช้ผสมทำยารักษานายของท่านให้หาย หากดูแลมันมิดี เติบโตไม่ทันท่วงที นายของท่านนั่นแหละที่จะมีปัญหา” เอาสิ...ศึกนี้ใครมันจะเป็นฝ่ายมีชัย“มิต้องห่วง ข้าจะเป็นคนคอยดูแลท่านแม่เจ้าให้เอง”“รับปากแล้วทำมิได้ ท่านก็เป็นลูกเต่า”“เอ้อร์เอ๋อร์”หากเก้าเทียนรุ่ยเลือกที่จะมิสนใจคำตักเตือนของท่านแม่และยังส่งยิ้มออดอ้อนไปอีก “หากมิเป็นการรบกวนท่านรองแม่ทัพจนเกินไป...ช่วยนำถังอาบน้ำพร้อมกับน้ำที่ต้มพออุ่นมาให้ข้าด้วยนะขอรับ”หากจำมิผิด มีบางตัวยาที่เผลอหยิบมาโดยมิตั้งใจเมื่อวันไปหาซื้อยากับรองแม่ทัพยังอยู่ในกระเป๋าย่าม ตอนนี้ท่านแม่ทัพเริ่มจะรู้สึกตัวแล้ว เขาควรเร่งฟื้นฟูร่างกายเพิ่มเติม“เจ้าคิดทำสิ่งใด”“ในเมื่อท่านมอบอำนาจในการรักษาท่านแม่ทัพให้ข้าแล้ว...ข้าจะทำสิ่งใดเพื่อให้นายของท่านหาย มันก็ล้วนขึ้นอยู่กับข้า

    Last Updated : 2025-01-03
  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 16

    “คนอะไรจะหนักขนาดนี้เนี่ย” เก้าเทียนรุ่ยอดบ่นมิได้ เพราะน้ำหนักที่ทิ้งลงมาทำให้เขายืดตัวแทบมิขึ้น สองขาก็สั่น หากเพียงแค่ลมหายใจมิทันจะหมด ความหนักที่เจอก็ลดน้อยลงไปและยังจะพาท่านแม่ทัพไปที่ถังน้ำได้โดยง่ายอีกด้วย“หากมิคิดว่าคนข้างนอกจะรีบเข้ามาจับกุมข้านะ ข้าจะปล่อยให้ท่านล้มคะมำหัวจุ่มลงไปในถังน้ำอุ่นผสมยาไปเลย” หากสิ่งที่เขาทำได้นะหรือ พยายามประคองร่างที่สูงเพรียวเอาไว้ ขณะเดียวกันก็พยายามยกขาของอีกฝ่ายให้เข้าไปอยู่ในถังน้ำอุ่นผสมยาที่กว่าจะเสร็จ ก็ทำเอาเก้าเทียนรุ่ยถึงกับได้เหงื่อจัดให้อีกฝ่ายแช่น้ำอุ่นผสมยาสมุนไพรพร้อมกับจัดท่าทางให้ท่านแม่ทัพจมอยู่ในน้ำยามากที่สุดได้แล้ว เก้าเทียนรุ่ยก็ยืนหายใจหอบแรงอยู่ครู่หนึ่งพร้อมกับคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปจุ่มมือลงไปในน้ำก็เห็นว่าสำหรับท่านแม่ทัพใหญ่คงจะกระตุ้นเลือดลมให้ไหลเวียนได้ดี หากสำหรับตัวเขาแล้วมันร้อนไปสักเล็กน้อย หากทำอย่างที่คิดไว้ตอนแรก ลงแช่สมุนไพรเพื่อช่วยนวดกระตุ้นร่างกายให้อีกฝ่ายคงจะ...มิไหว จะใช้มือตักน้ำมาราดรดบนไหล่ แผ่นหลังและหน้าอกบางส่วนอาจจะทำให้มือมีปัญหาได้ น่าจะต้องใช้ผ้าผืนเล็กมาช่วย คิดได้อย่างนั้นก็รีบไปค้นหาผ

    Last Updated : 2025-01-03
  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 17

    ท่าน...ท่านแม่ทัพจูบเขา!เป็นไปได้ยังไง...เก้าเทียนรุ่ยได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความงุนงง หากเมื่อตั้งสติได้ก็รีบทาบมือผลักร่างหนาแกร่งให้ออกห่าง ทว่า...ยิ่งผลักดันกลับยิ่งถูกรัดให้แนบชิดมากขึ้นจนสัมผัสได้ถึงร่างกายที่แข็งแกร่งกำยำของกายท่านแม่ทัพอื้อ...เก้าเทียนรุ่ยพยายามประท้วง หากเมื่อเจอกับสัมผัสที่หนักหน่วง รุกเร้าและเอาแต่ใจ จูบที่ดูดดื่มเหมือนกำลังขโมยลมหายใจไป เขาเลยจำใจปล่อยให้ท่านแม่ทัพทำอย่างที่ใจต้องการหรือ...ก็มิใช่เขาแล้วล่ะ!นี่แนะ!ในเมื่อมือถูกรัดเอาไว้จนทำอะไรไม่ได้ หากเท้ายังว่างอยู่นี่น่า เก้าเทียนรุ่ยก็เลยต้องรีบเตะออกไป ทว่า...นอกจากจะมิหลุดออกจากอ้อมกอดของท่านแม่ทัพแล้ว เขายังจะเจ็บเท้าและยังจะถูกรัดจนร่างแทบจะจมหายไปในอกกว้างยิ่งกว่าเดิมด้วยยิ่งต่อต้านก็ยิ่งถูกกอดรัดแนบชิดกายแกร่งและยังจะถูกจูบอย่างหนักหน่วงจนเข่าอ่อน ท่านแม่ทัพก็เลยจับเอาขาทั้งสองของเขาให้โอบรัดรอบเอวเพื่อที่ตนเองจะได้กอดและจูบกันอย่างถนัดถนี่มากขึ้น แม้อยากจะต่อต้านมิยอมให้อีกฝ่ายจูบได้ง่าย ๆ หากเขาก็ทำอะไรมิถูกและยังจะถูกอีกฝ่ายจับทางเอาไว้ได้หมด ท่านแม่ทัพขบกัดกลีบปากสลับบดคลึง ก่อนจะสอด

    Last Updated : 2025-01-03

Latest chapter

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 40

    “ท่านแม่” “เอ้อร์เอ๋อร์”เรียกได้ว่า เมื่อเห็นเขาเปิดประตูห้องเข้าไปและร้องเรียก ท่านแม่ก็รีบพาร่างบอบบางพุ่งตรงมาหาในทันที สองมือเล็กเหี่ยวนุ่มเย็นจัดเช่นเดียวกับใบหน้าที่ดูเหมือนว่าจะเต็มไปด้วยความหวาดกลัวระคนวิตกกังวลมิแพ้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความร้อนอกร้อนใจ มันทำให้เขารู้สึกมิค่อยดี หรือว่าท่านแม่...“ท่านแม่เจอ...แล้วหรือขอรับ” หากเจอกันแล้ว ยามที่เขาเจอกับบุรุษผู้นั้นมันต้องมีอะไรบางอย่างที่บอกให้รู้บ้างสิ แต่เท่าที่เห็น...จากความคิดของเขาเอง แม้จะเป็นคนที่เก็บความรู้สึกเก่งเพียงใด แต่การได้เจอกับบุตรชายที่ได้ตายไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตกใจ...สงสัยและบังคับเอาคำตอบแน่นอน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือบุรุษผู้นั้นมิได้สนใจในตัวเก้าเทียนรุ่ยที่อยู่ตรงหน้าเลยสักนิด แทบจะมิปรายตามองด้วยซ้ำไป“แม้จะเห็นเพียงแค่ไกล ๆ ถึงการอยู่ด้วยกันจะมิได้รับการเอาใจใส่ แต่อย่างไรก็สามีภรรยากัน มีหรือที่แม่จะจดจำคนผู้นั้นมิได้ แม่รีบหลบมาอยู่แต่ในห้อง อยากจะไหว้วานนายทหารให้ส่งข่าวให้เอ้อร์เอ๋อร์รู้ แต่ก็กลัวจะถูกสงสัย เลยได้แต่รอด้วยความร้อนใจเช่นนี้”“ท่านแม่ไว้วางใจได้ขอรับ นอกจากเขาจะจำข้ามิได้แล้ว เขายังไม่

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 39

    นิ้วยาวลากไล้บนท่อนแขนกำยำอย่างแผ่วเบาพลางพึมพำออกมาว่า “แผลที่แขนสมานกันดีจนแทบมิเห็นรอยบาดแผลแล้ว ยาใส่แผลของข้าช่างได้ผลดียิ่งนัก” มิน่าเชื่อว่ายาเหล่านั้นจะทำให้บาดแผลหายเร็วเช่นนี้ มันช่างแปลกประหลาดเหลือที่จะกล่าว แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นการดียิ่งเก้าเทียนรุ่ยลุกขึ้นเพื่อไปตรวจดูแขนอีกข้างของท่านแม่ทัพอย่างละเอียดที่สุดเท่าที่คนอย่างเขาจะทำได้ แต่นอกจากบาดแผลจากการสู้รบและฝึกฝนฝีมือที่มีอยู่ก่อนหน้าแล้วก็มิเห็นว่าจะมีสิ่งใดผิดปกติไปเลยแม้แต่นิดเดียว“เจ้าหนอนแดงนั่นมันหลบซ่อนอยู่ตรงไหนกันนะ มันต้องมีร่องรอยบ้างสิ ข้าต้องหาเจอสิน่า” เก้าเทียนรุ่ยบ่นพึมพำพลางกวาดสายตามองแขนท่านแม่ทัพอย่างมิให้คลาดสายตาแม้สักจุดเดียว ก่อนจะเลยไปถึงแผงอกกว้างกำยำที่ดูอย่างไรก็เห็นจะมีเพียงแค่ร่องรอยของบาดแผลทั้งเก่าและใหม่มิมีร่องรอยของสิ่งที่ค้นหาอยู่เลย“คิดว่ามันจะยอมให้หาเจอง่าย ๆ หรือไง กระทั่งตัวข้าเองที่มีมันอยู่ในร่างกายยังมิรู้เลยนะ”“จะซ่อนให้ดียังไง มันก็หนอนที่ไร้ความคิดนะขอรับ จะปกปิดซุกซ่อนอย่างความคิดของคนได้ยังไงกันล่ะ” เก้าเทียนรุ่ยเอ่ยออกไปขณะเดียวกันสำรวจร่างกายคนตรงหน้าอย่างละเอียด

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 38

    แย่เข้าไปใหญ่ ทำอย่างนี้จะมีแต่จะทำให้คนเกลียดเขาเพิ่มมากขึ้นนะสิ หากเทียนรุ่ยก็มิอาจกล่าวสิ่งใดออกไปได้ นอกจาก“ใจเย็นก่อนนะขอรับท่านพี่ ที่ข้ากล่าวออกไปเพราะอยากให้ท่านคิดไตร่ตรองให้ดี อย่าทำสิ่งใดให้ศัตรูที่ยังหลบซ่อนกายอยู่ล่วงรู้”“ข้าคงเร่งรีบมากจนเกินไปจึงทำให้ลืมเรื่องนี้ไปเสียได้ ขอบใจที่เตือนข้านะอาซวง นอกจากเรื่องนี้แล้ว ยังมีเรื่องอื่นที่ทำให้อาซวงกังวลใจอยู่อีก ใช่หรือไม่”หากจะบอกว่ามิใช่...ย่อมเป็นไปมิได้ “เพราะเรามิรู้ว่าศัตรูอยู่ไกลหรือวางคนอยู่ใกล้ตัวเพียงใด การฟื้นมาของท่าน คนเหล่านั้นอาจจะล่วงรู้และเตรียมตัวรับมือไว้แล้วก็เป็นไปได้ การเดินทางรอนแรมทั้งที่ร่างกายเพิ่งจะฟื้นได้มินาน อาจจะทำให้หนอนแดงที่ข้าคิดว่ายังคงถูกฝังอยู่ในตัวท่านตื่นขึ้นมาเล่นงานอีกนะขอรับ ข้ากลัวท่านจะรับมือมันมิไหว” หากครั้งนี้ล้มหมดสติไปอีก ดูท่าว่าการจะทำให้ฟื้นขึ้นมาคงเป็นไปได้ยาก“หากมีอาซวงอยู่ด้วย ข้าย่อมมิกลัวสิ่งใด”“เอ่อ...” สายตาคู่นั้นมันช่างทำให้เขารู้สึกว่าหน้าร้อนผ่าวและหัวใจก็เต้นไหวอย่างรุนแรงด้วย นี่เขาเป็นอันใดไป“แม้ว่าเราจะเพิ่งพบเจอกัน หากข้าเชื่อว่าอาซวงจะมิทำร้ายข้า”สง

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 37

    “ใช่แล้วลิ่วหลาง นับตั้งแต่เจ้าล้มป่วย เต่าน้อยเองก็ล้มป่วยเช่นกัน หากทั้งหมอหลวงจางและราชครูเหลิ่งกลับมิยอมบอกเรื่องนี้กับผู้ใด นี่หากว่ามิแอบได้ยินหมอหลวงจากกล่าวเรื่องเสนาบดีกรมโยธาปู้หว่านเรื่องยาที่ให้ไปหามา ข้าก็คงมิล่วงรู้ ข้าร้อนใจมากด้วยมิรู้ว่าจะบอกเรื่องนี้กับผู้ใดได้บ้าง”“ในราชสำนักน่าจะมีผู้ที่อยู่ฝั่งหมอหลวงจางและเสนาบดีกรมโยธาปู้หว่านอยู่มิน้อย”“มิต้องสนใจเรื่องใด กลับไปทำหน้าที่ของเจ้า...สุขภาพข้ายามนี้พอจะเดินทางไกลได้ไหมอาซวง”“ท่านเพิ่งจะฟื้นขึ้นมาเองนะขอรับ หากเดินทางไกล ข้ากลัวว่า...”“หากอาซวงจะร่วมเดินทางไปด้วย”เรื่องที่ได้รู้คงทำให้ท่านแม่ทัพร้อนใจมิใช่น้อย หากว่า...ยามนี้ยังเดินทางไกลมิได้จริง ๆ หากการรักษามิต่อเนื่อง อาจจะทำให้ร่างกายที่ดีขึ้นแล้วทรุดลงอย่างรวดเร็วจนอาจจะกลายเป็นเรื่องเลวร้ายได้“จะยังไงมันก็ยังมิควรนะขอรับ”“มิมีหนทางอื่นใดช่วยได้เลยหรือท่านหมอ”ซูเหย้าน่าจะพอรู้แล้วว่าท่านแม่ทัพจะเดินทางไปที่ใด“ไหนว่าเก่งนักเก่งหนาอย่างไรเล่า แค่นี้ก็แก้ไขมิได้”ท่านแม่ทัพมองโหยวเจียนด้วยสายตาเยียบเย็น แต่กล่าวกับเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า“ข้ารู้ว่าอาซว

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 36

    “ลิ่วหลาง! ในที่สุด เจ้าก็ฟื้นแล้ว”เมื่อเห็นว่าเป็นผู้ใดที่นั่งอยู่ โหยวเจียนก็เอ่ยเสียงดังราวกับจะให้ได้ยินไปทั่วจวน พร้อมกันนั้นก็รีบเดินตรงลิ่วไปหาท่านแม่ทัพราวกับลมพัด หากกำลังจะยื่นมือไปจับกายแกร่งที่ยามนี้ผอมจนแทบจะมีเพียงแค่หนังหุ้มกระดูก แต่ท่านแม่ทัพกลับเบี่ยงกายหนีและยังกล่าวด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด“หากเจ้ายังทำเสียงดังเช่นนี้อีก ก็กลับไปเสีย มิต้องมาให้เห็นหน้า”ก็พอจะคาดเดาได้ว่าท่านแม่ทัพเป็นผู้ที่มิสนใจผู้ใด ยกเว้นก็เพียงแค่ชิงชวน อ้ายฉีและน่าจะมีผู้ที่ถูกเรียกว่าเต่าน้อย แต่คิดมิถึงว่าจะกล่าวกับโหยวเจียนเช่นนี้ด้วยคนถูกไล่ตอนแรกก็มีสีหน้ามิค่อยดีสักเท่าไหร่ คงจะอับอายด้วยว่ามีผู้อื่นเช่นเขาและซูเหย้าที่เดินตามหลังมาอยู่ด้วย แต่ก็เป็นเพียงแค่สูดลมหายใจเข้าปอดเท่านั้น ใบหน้าที่แดงด้วยโทสะก็คลี่ยิ้มเช่นเดิม ทำราวกับเมื่อครู่มิได้ยินสิ่งใด“ก็ข้าดีใจที่เจ้าฟื้นแล้ว เจ้าหมอผู้นี้ทำหน้าที่ของตนได้สมกับที่รับปากไว้ มิเสียแรงที่ข้ายอมเสียงเงินถึงหนึ่งกำปั่นเพื่อให้นำมาซื้อยารักษาเจ้า”ยามได้ยิน เขาคิดว่าโหยวเจียนจะโอ้อวดว่าตนเองมั่งมีเงินทองและอาศัยการจ่ายเงินในครั้งนี้ทวงบุญ

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 35

    ‘ดีมากอาซวง...เจ้าช่างรู้ใจข้าเสียยิ่งนัก’ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ยังไว้วางใจสิ่งใดมิได้ เขาจะต้องคิดหาวิธีไล่สองคนนี้ออกไปจากห้องก่อนจะทนมิไหว ทำแผนของอาซวงพังมิเป็นท่าเอ๊ะ...ดูเหมือนอาซวงจะส่งสัญญาณบอกมาแล้ว เขาก็เลยรีบส่งเสียงที่คำราม พร้อมกับยกแขนและขาฟาดไปฟาดมาหวังว่าจะทำให้ทั้งสองคนที่บุกรุกมาสร้างความรำคาญใจให้เจ็บตัวสักหน่อย หากก็มิสำเร็จอย่างต้องการ ด้วยว่าโหยวเจียนแม้จะอ้วนพี แต่ก็ช่างเป็นคนที่เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วอย่างคาดมิถึง...เพียงแค่เขายกเท้าขึ้นจะถีบ อีกฝ่ายก็เผ่นไปถึงประตูห้องเสียแล้ว“เสียดาย”“ท่านพี่ว่าอะไรนะขอรับ”“ข้าว่าเสียดายที่ยังมิทันจะได้ถีบโหยวเจียนเลย”อาซวงหัวเราะ “ซูเหย้าผู้นั้นก็ไปเร็วเช่นกัน แต่กว่าจะไปก็ทำเอาข้าถึงกับเหนื่อยเหมือนกัน”“ขอโทษที่ทำให้อาซวงเหนื่อยนะ”มิรู้ว่าเขาจะคิดไปเองหรือเปล่า ดูเหมือนว่าสายตาของอาซวงที่มองโหยวเจียนและซูเหย้าบ่งบอกว่า...มิไว้วางใจและน่าจะแฝงไว้ด้วยความสงสัยอยู่มิน้อย หากก็ยังคงปกปิดมิยอมเอ่ยปากบอกให้เขารู้ หากนั่นยังมิเท่าสิ่งที่อาซวงบอกมา...‘ในตัวเขา...มีบางสิ่งฝังอยู่!’แม้มิอยากเชื่อ หากเมื่อก้มลงมองแขนที่ได้

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 34

    “ข้าจะรีบทำให้เสร็จโดยเร็วและจะรีบกลับมา” เก้าเทียนรุ่ยจับแขนแกร่งออกจากกายแล้วดันร่างของท่านแม่ทัพให้ล้มตัวลงนอน ถึงจะมิง่วงเพราะนอนมายาวนานแล้ว แต่อย่างไรร่างกายนี้ก็ยังอ่อนเพลียอยู่ ยังต้องพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อจะได้มีแรงสู้กับสิ่งที่ฝังอยู่ภายในร่าง“เดี๋ยวสิ”เก้าเทียนรุ่ยเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย เมื่อท่านแม่ทัพจับมือไว้มิยอมปล่อย “มีอะไรอีกหรือขอรับ”อย่างรวดเร็วจนเขามิทันจะได้ตั้งตัว กายแกร่งก็ผุดลุกขึ้นมาพร้อมกับปากหนาที่แนบลงมาบนแก้ม“รีบไปรีบกลับนะ...อาซวง”ใบหน้าเก้าเทียนรุ่ยร้อนผ่าว ขณะที่ดวงตาก็ได้แต่กะพริบตาปริบ ๆ แม้กระทั่งเดินออกมาแล้วสติก็ยังมิครบครัน ก่อนจะคิดได้ว่า เพราะเขาน่ารัก ท่านแม่ทัพที่เพิ่งจะพบหน้าถึงได้รู้สึกถูกชะตาและเอ็นดู ถึงได้บอกด้วยการกระทำว่าเป็นพี่ชายที่รักน้องชายผู้นี้เป็นอย่างมาก ที่เขาควรจะต้องเร่งหาทางรักษาอีกฝ่ายให้หายให้เร็วที่สุดเป็นการตอบแทน...ใช่! ต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอนจะกล่าวถึงฝีมือทำอาหารของอาซวง แม้รสชาติจะจัดจ้านไป…มิน้อย บางครั้งก็แทบจะกลืนมิลง หากรวม ๆ แล้วก็อร่อยอยู่นะ ยิ่งเมื่ออีกฝ่ายต้องคอยเอาอกเอาใจ ป้อนด้วยท่าทางหงุดหงิดที่ทำใ

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 33

    ช่างกล่าวได้อย่างโหดร้ายมาก นี่นะหรือที่ท่านอ้ายฉีกับชิงชวนกล่าว บุรุษผู้นี้มิอาจจะทำร้ายท่านแม่ทัพได้ จนกว่าจะได้เจอกับผู้ที่หลบซ่อนกายอยู่ ทำอย่างไรเขาก็ยังมิปักใจเชื่อแน่ว่าสองคนนี้จะมิเกี่ยวข้อง“ใจเย็นก่อนท่านโหยวเจียน กล่าวเช่นนี้ไปจะทำให้ท่านหมอขลาดกลัวจนอาจจะทำสิ่งใดผิดพลาดไปได้นะ”“ถ้ามิขู่ให้กลัว แล้วจะรักษาลิ่วหลางอย่างดีหรือไง” โหยวเจียนสะบัดมือด้วยความหงุดหงิดเก้าเทียนรุ่ยได้แต่กลอกตากับความคิดของคนผู้นี้เสียจริง “ข้าจะดูแลรักษาท่านแม่ทัพให้ดีที่สุดเท่าที่ข้าผู้น้อยจะทำได้ขอรับท่านโหยวเจียน หากตอนนี้ข้าต้องขออภัยที่จำเป็นต้องให้ท่านทั้งสองคนออกไปจากห้องนี้ก่อน”“นี่เจ้า! เจ้าเป็นใคร กล้าดียังไงมาไล่ข้า”“หากท่านทั้งสองจะอยู่ ข้าก็มิว่าอันใด แต่หากเกิดสิ่งใดขึ้น...ท่านจะกล่าวโทษข้ามิได้นะขอรับ”“หมายความว่าอย่างไรหรือหมอ”“คือ...ด้วยยาที่ข้าให้ท่านแม่ทัพกินเข้าไปทำให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น จากที่เคยนอนเป็นผักเน่าก็เคลื่อนไหวได้ แต่การเคลื่อนไหวนี่แหละขอรับที่ทำให้ข้ากลัวว่าจะเกิดอันตรายกับพวกท่าน” ดูเหมือนว่าวาจาของเขาจะทำให้ท่านแม่ทัพรู้ว่าควรจะต้องทำเช่

  • ปลูกรักฮูหยินแม่ทัพปีศาจ   chapter 32

    “ข้ากำลังจะรายงานนายท่านโหยวเจียนอยู่เลยขอรับ แต่ก่อนนั้นข้าจะต้องไถ่ถามท่านเสียก่อน” คิดจะเล่นงานเขาใช่ไหม ถ้าเช่นนั้นเขาเล่นงานท่านก่อนละกัน จะเอาให้หมดเนื้อหมดตัวเลย“อะไร”“ท่านมาเยี่ยมท่านแม่ทัพครั้งล่าสุด...นานหรือยังขอรับ”“ก็หลายวันอยู่นะท่านหมอ” เป็นซูเหย้าที่ตอบแทนโหยวเจียนที่ตอนนี้ยังโมโหจนหน้าดำหน้าแดงอยู่ เดี๋ยวจากแดงจะกลายเป็นคล้ำจนดำเพราะต้องเสียเงินให้เขาเป็นกำปั่น“ถ้าเช่นนั้นข้าอยากให้ท่านทั้งสองดูบางสิ่งที่ทำให้ข้ามั่นใจในวาจาที่เคยกล่าวมาตั้งแต่แรก...มิเกินสามวันท่านแม่ทัพจะต้องฟื้นแน่นอน” เพื่อให้ความมั่นใจกับทั้งสองคนตรงหน้าที่เขาจะเรียกเงินเข้ากระเป๋าให้มากที่สุด เก้าเทียนรุ่ยก็รีบกล่าวออกไป“ท่านทั้งสองสังเกตใบหน้าของท่านแม่ทัพสิขอรับ ระหว่างวันนี้กับก่อนหน้านั้นแตกต่างกันหรือไม่” หากมิแตกต่างก็คงจะเกินไปแล้วล่ะ กินอาหารเผ็ดร้อนเข้าไปเสียขนาดนั้น ใบหน้าและริมฝีปากย่อมยังมีสีสันอยู่แล้ว“ท่านว่าเปลี่ยนแปลงหรือไม่”“เจ้าอาจจะเอาสีมาป้ายไว้ก็ได้นี่”“ข้าหรือจะกล้าทำเช่นนั้น หากท่านโหยวเจียนยังมิเชื่อ ถ้าเช่นนั้นท่านก็ต้องดูผิวกายขอรับ...ครั้งแรกที่ข้าเห็น ก็ยังคิด

DMCA.com Protection Status